The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธุลีหนึ่ง..ในดวงจันทร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Saruda Anampong, 2020-10-23 04:50:04

ธุลีหนึ่ง..ในดวงจันทร์

ธุลีหนึ่ง..ในดวงจันทร์

๔๘ ธุลหี นงึ่ ..ในดวงจันทร์

ธรรมดา จึงท่าให้หลงใหลในความรักนั้นอย่างหัวปักหัวปา เมื่อมีอัน
จักตอ้ งพลัดพรากจึงไดท้ ุกขน์ กั ยง่ิ รักมากเท่าไรก็ยง่ิ เป็นทกุ ข์มากเพียง
นั้น

แม้จะได้แต่งงานกับมาริสาก็เถอะ ใช่ว่าจะสามารถรักกันได้
ราบร่ืนตลอดไป อันมีตัวอย่างให้เห็นท่ัวแผ่นดิน มีสามี-ภรรยา คู่
ใดบ้างท่ีมีความสุขราบรื่นตลอดไป มีคู่ใดบ้างที่ไม่ทะเลาะกันถกเถียง
กัน อาจมี.. แต่น้ันก็เป็นสิ่งท่ีหาได้ยากเย็นนัก และก็มิใช่ว่ารักนั้นจะ
อยู่ดว้ ยตลอด เพยี งแตอ่ าศยั เหตุผลชว่ ยประคับประคองชีวิตคใู่ หด้ ่าเนิน
ไปได้ตลอดรอดฝ่ังเท่านั้น ซึ่งสามี-ภรรยาเหล่านั้น ส่วนใหญ่ล้วนเคย
มีรักให้กันอย่างดูดดื่มและย่ิงใหญ่แทบทั้งสิ้น แต่แล้วรักน้ันก็มีสภาพที่
ต้องแปรไป ดับไป ด้วยเพราะมีความอุบัติขึ้นในเบ้ืองต้น จึงหาความ
ถาวรมิได้ ต่างกันเพียงว่าจะดับไปเร็วหรือชา้ เทา่ นนั้

แล้วขา้ พเจา้ เป็นใคร จะหาญกลา่ วได้หรอื ว่าคู่ของข้าพเจา้ จะมแี ต่

ธลุ หี น่ึง..ในดวงจนั ทร์ ๔๙

ความสขุ อยา่ งเดียวชั่วนิจนิรนั ดร์

เมือ่ ไดโ้ อกาส ข้าพเจ้าจึงได้เอ่ยถามพระภกิ ษรุ ูปนั้นด้วยดวงจิตอัน

เลอื่ มใสวา่

“แล้วเราจะสามารถรู้จักสภาวธรรมตามท่ีเป็นจริงได้ด้วยอาการ

อยา่ งไรหรอื ขอรบั ”

ท่านไดเ้ มตตาตอบขอ้ ขอ้ งใจของขา้ พเจา้ วา่

“ดูก่อน.. ท่านผู้แสวงหาสัจจะ ท่านต้องส่ารวมจิตของท่านให้

ม่ันคงอยู่ในอารมณ์เดียว มิให้จิตใจข้องแวะในนิวรณ์ คือเครื่องก้ันทั้ง

ห้าประการ อันไดแ้ ก่ ความงว่ งงนุ ท้อใจหน่ึง ความลังเลสงสัยในการ

กระท่านั้นหน่ึง ความไม่พอใจในอารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความไม่พอใจ

หนึ่ง ความฟุ้งซ่านแห่งจิตคิดเพลินไปในเรื่องต่างๆ หน่ึง และความ

พอใจยึดติดในอารมณ์อนั เป็นทีต่ ง้ั แห่งความพอใจอีกหนง่ึ

เมื่อนิวรณ์ไปปราศจากดวงจติ แล้ว จติ จะรวมเป็นอารมณเ์ ดยี ว

๕๐ ธุลีหน่งึ ..ในดวงจนั ทร์

จากน้นั ทา่ นพงึ ยกเอาส่งิ ใดสิ่งหนึ่งทท่ี ่านมี ไม่ว่าจะเป็นส่วนของรูปกาย
ก็ดี ความรู้สกึ เป็นทกุ ข์เปน็ สขุ กด็ ี ดวงจิตที่เศร้าหมองหรือผ่องใสหรือ
สภาวธรรมที่เกิดข้ึนย้อมจิตของท่านให้เป็นต่างๆ นั้น เอาขึ้นมา
พิจารณาให้ถ่องแท้โดยความเป็นจริง ไม่เข้าข้างตัวเอง ท่านจะเห็นถึง
ความไมม่ แี กน่ สารในสิ่งเหล่าน้ัน เป็นการเห็นด้วยปัญญาอันแจ่มชัดว่า
สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความเกิดข้ึนในเบื้องต้นเพราะมีเหตุปัจจัยให้เกิดขึ้น
ต้องแปรเปลี่ยนไปเพราะทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องดับไป
ตามเหตุตามปัจจัยท่ีปรุงให้เกิดน้ัน ซ่ึงเหตุปัจจัยดังกล่าวก็เริ่มต้นที่
ความไมร่ จู้ กั สภาวธรรมตามทีเ่ ปน็ จรงิ น่นั เอง

เม่ือท่านเห็นด้วยปัญญาอันแจ่มชัดถึงความไม่มีแก่นสารสาระใน
สิง่ เหลา่ นนั้ แลว้ จติ ของท่านจะโปร่งเบาสามารถปล่อยวางความยึดมั่น
ถือมั่นในรัก ในชัง ในสิ่งใดๆ ท้ังปวงได้ เมื่อมีก็เพียงสักว่ามี ไม่
ถือเอาว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ของเรา ของเขา หรือ

ธลุ หี นงึ่ ..ในดวงจนั ทร์ ๕๑

ของใครๆ จากนั้นท่านจะไม่ต้องทุกข์อีกต่อไป เพราะมาดับเสียได้ท่ี
เหตุ คือรู้จักสภาวธรรมตามที่เปน็ จริงนัน้ แล..”

ข้าพเจ้าเข้าไปกราบแทบเท้าท่านด้วยปีตินัก ทั้งขอถึงท่านเป็น
อาจารย์ของข้าพเจ้า ค่าสอนของท่านน้ันข้าพเจ้าสามารถจดจ่าได้ทุก
ถ้อยกระทงความ แม้ยงั ไม่เข้าใจนกั แต่ข้าพเจ้าตง้ั ใจจะนา่ ไปปฏิบัติอย่าง
แน่นอน เพราะเพียงได้ฟังข้าพเจ้ายังเยือกเย็นขึ้นถึงปานนี้ มาตรแม้น
วา่ ขา้ พเจา้ เขา้ ใจจนถ่องแทไ้ ด้ จติ ใจจะเยอื กเยน็ เป็นสุขสกั ปานใด.

ขา้ พเจ้ากลับไปถึงบ้านในเวลาเย็นของอีกวันหนึ่ง ด้วยอารมณ์ที่
สงบลงมาก กระน้ัน หลายคนก็ยังกร่ิงเกรงว่าข้าพเจ้าจะกระท่าอะไร
ทีม่ ชิ อบลงไป จงึ ไดบ้ อกพวกญาติและมิตรเหลา่ นั้นให้วางใจ

..แสงสรุ ิยาลาลบั โลกไปแลว้ ...

๕๒ ธุลีหนง่ึ ..ในดวงจนั ทร์

บรรดามนุษย์ท้ังหลายท่ีประกอบกิจในเวลากลางวันก็พากัน
วางมือจากกิจนั้นเพื่อพักผ่อนเอาแรงและรอคอยวันใหม่อันจักมาถึงให้
ประกอบกจิ กนั ตอ่ ไป เป็นวัฏจักรท่ไี มม่ ีวันจบสิ้น..

เมอ่ื ความมืดเริ่มโรยตัวเข้ามา ข้าพเจ้ารีบไปหามาริสาทันที ซึ่ง
บิดาของเธอได้ ออกมารับหนาและแกตวั ไปต่างๆ นานา แต่หาไดใ ห้
ขา้ พเจา้ พบกบั มาริสาไม่ เปน็ เหตุให้ขา้ พเจ้าร้สู ึกหงดุ หงิดไมน่ อ้ ย

วันต่อมา ข้าพเจ้าได้ทราบเร่ืองราวทุกอย่างจากเพ่ือนหญิงคน
หนึ่งที่สนิทกับมาริสาว่า มาริสาสองจิตสองใจมานานในความรู้สึกท่ีมี
ต่อนนท์ แต่ด้วยระลึกถึงสัญญาท่ีมีกับข้าพเจ้าจึงท่าให้เธอพยายาม
ประคบั ประคองใจไว้เสมอ

เมือ่ นนท์มาสู่ขออย่างจริงจังและถูกบิดาหว่านล้อมทุกวัน เธอก็
ใจอ่อน ซ่ึงเร่ืองราวส่วนใหญ่ก็ตรงกับที่มาริสาเขียนจดหมายไปบอก
ข้าพเจ้า และแม้ปัจจุบันเธอก็ยังลังเลสองจิตสองใจไร้ซึ่งความสุข

ธลุ หี น่ึง..ในดวงจนั ทร์ ๕๓

เพื่อนหญิงถามข้าพเจ้าว่าอยากเจอมาริสาไหม ซึ่งเธอมีทางท่ีจะ
ชว่ ยเหลอื ได้

ข้าพเจ้าตอบตกลงในทันที แม้ในใจจะสงบลงบ้างแล้วแต่ก็ยัง
วา้ วุ่นไม่น้อยเลย.. อยากดใู จเธอนัก..

สามวันตอ่ มา...
คืนนั้น.. แรม ๖ ค่า เดือน ๕ อันเป็นคิมหันตฤดู ขณะท่ี
กาลเวลายังอย่ใู นเบ้ืองปลายแห่งปฐมยาม
ดวงดาวดารดาษไปท่ัวนภา แข่งขันกันเปล่งแสงอวดสายตา
ชาวโลก ดูระยบิ ระยบั งดงามนกั
แสงแห่งนิศารัตน์ยังมิปรากฏ แต่ก็คงอีกไม่นานหรอกที่ดวงแก้ว
แห่งราตรีจะถือก่าเนิดขึ้นจากฟากฟ้าทางบูรพทิศ ถึงวันนี้โคมแห่ง
รัตตกิ าลนนั้ คงแหว่งเวา้ ไปเกือบคร่ึงแลว้
ณ รมิ ฝ่ังทข่ี า้ พเจ้าเคยร่วมลอยกระทงอธิษฐานสัญญารักกับหญิง

๕๔ ธลุ หี นงึ่ ..ในดวงจนั ทร์

ท่ีก่าลังจะมาหา และก่าลังจะจากข้าพเจ้าไปสู่อ้อมอกของชายอ่ืนน้ัน
ข้าพเจา้ ยังยนื อยู่ผเู้ ดียว

วารีในค่าคืนน้ีไม่เต็มฝ่ังเหมือนค่าคืนก่อนโน้น สายลมพัดแผ่ว
เพียงบางเบาพอใหผ้ นื น่้าข้างหนา้ ไมน่ งิ่ จนวังเวง ด้วยการผลักดันให้เกิด
พล้ิวคลื่นน้อยๆ วิ่งไล่กันไปตามทิศทางท่ีสายลมขับ พาให้แสงแห่ง
ดาราที่ปรากฏในน่้าพลันเต้นระยบิ ระยับตามไปด้วย

ท่านผู้มีบทจรยามราตรี...
แม้บรรยากาศเช่นนั้นจักชวนให้สดชื่นรื่นรมย์ แต่.. จิตใจของ
ข้าพเจ้าหาได้สดชื่นตามไม่ กลับกระวนกระวายในจิต กล่าวมิได้เลย
ว่าอารมณน์ ั้นเป็นฉันใด

“พ…ี่ !”
เสยี งเรยี กท่ีรสู้ กึ ได้ถงึ ความดใี จดงั ขึ้นเบื้องหลัง เม่อื หนั ไปกเ็ หน็

ธุลีหนง่ึ ..ในดวงจนั ทร์ ๕๕

เงารา่ งคนก่าลังเดินอยา่ งเร่งรบี จนเกอื บวิง่ เข้ามาหา
“มารสิ า...”
เสยี งของขา้ พเจ้าเกือบดงั ไมพ่ ้นริมฝีปาก ร่างกายตรึงแน่นอยู่กับ

ท่ี คล้ายด่งั ไร้ซึ่งลมปราณหลอ่ เลย้ี งชวี ิต
เธอตรงเข้ามาสวมกอดพร้อมทั้งสะอึกสะอื้นร่าร่าพันเร่ืองราว

ตา่ งๆมากมาย ข้าพเจา้ หอู ือ้ แทบจะไมไ่ ดย้ นิ เสยี งที่เธอพดู ..
กระทัง่ เธอกล่าววา่
“พ่รี งั เกยี จฉันนักหรอื ..”
จึงนึกได้ว่าข้าพเจ้ายังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น จึงค่อยยกแขนท้ังสอง

ข้ึนโอบกอดรา่ งน้ันดุจลังเลว่าจะเป็นภาพลวงตา จากน้ันก็กอดจนแนบ
แน่น.. เนิน่ นาน นิ่ง มมิ ีสุ้มเสียงใดเปลง่ ออกมาจากปากข้าพเจ้า

ในใจของข้าพเจ้าว้าวุ่นนัก รัก.. อาลัย.. เสียดาย ปรารถนาจะ
ยอื้ ยุดมาเปน็ เจ้าของ.. ขา้ พเจา้ จะทา่ อยา่ งไรดี คงอกี ไมน่ านหนอ ร่างท่ี

๕๖ ธุลหี น่ึง..ในดวงจนั ทร์

อยูใ่ นอ้อมอกนจี้ ักไปเปน็ ของผอู้ ื่น.
เธอกลา่ วทัง้ เสียงสะอืน้
“พ่ีจ๋า.. หนทางด่าเนินในชีวิตของเราสองแปรเปล่ียนไปแล้ว คง

มิอาจเรียกหวนคืนกลบั มาได้ ขอใหฉ้ นั ไดก้ อดพ่ีใหส้ มรกั เถิด..”
แปรเปล่ียนไป.. มาริสากล่าวค่าน้ี.. ท่าไม ท่าไมช่างเหมือนกัน

กับค่าของพระอาจารย์นัก
แปรเปล่ียนไป.. เปลี่ยนไปไหนล่ะ ถ้ามิใช่เปล่ียนไปสู่ความดับ

ความหมดสิ้น เพราะรักน้ีเกิดขึ้นจากความท่ีไม่รู้จักสภาวธรรมท่ีเป็น
จริง คอื ความไม่เท่ียง เปน็ ทุกข์ และเปน็ สภาพทวี่ ่างเปล่า ไม่มีอะไร
ให้เป็นแก่นสารสาระแห่งความเป็นตนได้เลย จึงเป็นเหตุให้ต่างก็ยินดี
พอใจในรูป ในเสียงของกันและกัน อันน่ามาซ่ึงความปรารถนาอยาก
เป็นเจ้าของด้วยอ่านาจของกามราคะ และความเห็นผิดจากสภาวะที่
เป็นจรงิ

ธุลีหนึง่ ..ในดวงจนั ทร์ ๕๗

แต่แล้วรักน้ีก็เป็นเช่นทุกสรรพสิ่งในโลก คือเมื่อมีการเกิดขึ้นก็
ต้องมีความแปรไปในท่ามกลาง และย่อมดับไปในที่สุด หากเข้าไป
ยึดถอื วา่ เปน็ ของเรา มใี ครเล่าทจ่ี ะไมต่ อ้ งเปน็ ทกุ ข์เพราะรกั น้ัน

เมื่อพิจารณาอยู่อย่างน้ี อารมณ์ของข้าพเจ้าพลันนิ่งอย่าง
ประหลาด น่ิงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความรักด้วยอ่านาจของราคะ
ความอาลัยท่ีมีก่อนหน้านี้กลับหายไปส้ิน มีแต่ความสงบเย็นในใจ
ปรากฏขึ้นมาแทนท่ี กลายเป็นรักอันบริสุทธ์ิ.. เมตตา.. สงสาร.. เอื้อ
อาทร.. อยากใหเ้ ธอไดร้ ับแต่ความสุขเท่านัน้

แต่กระนนั้ ดวงจติ กม็ ไิ ด้ดนิ้ รนขวนขวายในเมตตากรณุ าท่ีเกิดข้ึน
กลับพลันวางเฉยในอารมณ์เมตตานั้นเอง มิใช่ตายด้าน แต่เป็น
อารมณ์ที่อ่อนโยนสุดประมาณ มิใช่หลงใหล แต่เป็นความเข้าใจ
อันแจ่มชัด มีสติจดจ่ออยู่กับอารมณ์ของตนเอง เห็นความเกิดข้ึน
ตง้ั อยู่ ดับไปของดวงจิตอย่ใู นขณะนั้นๆ..

๕๘ ธลุ หี นึ่ง..ในดวงจนั ทร์

นานนกั ...
“พ…่ี !”
“หือม.์ .”
“พรี่ ังเกยี จฉนั มัย๊ ..”
“มาริสาเอย.. พี่รกั เธอทส่ี ุด”
“พี่ไมโ่ กรธฉนั หรือ..”
“พี่จักโกรธเธอไปไย.. พเ่ี ขา้ ใจทุกอยา่ ง”
มาริสาสะอ้ืนขึ้นอีกด้วยรู้สึกผิดและซ้ึงใจท่ีข้าพเจ้าบอกว่าเข้าใจ
ทุกอย่าง ซึ่งเธอคิดว่าข้าพเจ้าเข้าใจเหตุผลของเธอ แต่ความจริงหา
เป็นเช่นเธอเข้าใจไม่..
ที่กล่าวว่าเข้าใจทุกอย่างนั้น ข้าพเจ้าเข้าใจในเหตุในผล ในค่า
สอนของพระอาจารย์ที่ข้าพเจ้ารับมาจากโคนมะม่วงชายป่าน้ันต่างหาก
แล้วไฉนความโกรธความเกลียดจะมารงั ควาญขา้ พเจ้าได้

ธุลหี นง่ึ ..ในดวงจนั ทร์ ๕๙

..เดือนเสี้ยวปรากฏแล้ว ทอแสงอันเย็นตาเพียงน้อยนั้น สาด
กระทบดวงหน้าของมาริสา เผยให้เห็นความงามอันซ่อนอยู่ใต้คราบ
น้่าตาท่ีหยุดไหลแล้ว.. ย่ิงรู้สึกเวทนานัก เมื่อไหร่หนอ.. สัตว์โลกจะ
หยุดร้องไห้กันเสียที

เราเร่ิมสนทนากันอีกคร้ัง แต่มิได้พร่าร่าพันฝากความรักกันดั่ง
วันเพ็ญเดือน ๑๒ เป็นแต่ฝากความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน ข้าพเจ้ารู้สึก
เป็นสุขนัก สุขเสียย่ิงกว่ามีรักดังก่อนเก่า เราล่าลาอารมณ์รักภายใต้
แสงเดอื นเสีย้ วนนั้

..........

๖๐ ธุลหี นงึ่ ..ในดวงจนั ทร์

บัดน้ี.. ครอบครัวของมาริสาก็เนินไปเหมือนกับครอบครัวท่ัวๆ
ไป อันมีทุกข์แวะเวียนมาในชีวิตเป็นปกติ ลูกๆ ของเธอศึกษาส่าเร็จ
แล้วกม็ ี และบา้ งกก็ า่ ลงั มีรกั อนั จกั กอ่ ใหเ้ กดิ ทกุ ข์กนั อีกตอ่ ไป..

ขา้ แต่ท่านผู้มรี ัศมีอันเยอื กเย็น...
เห็นไหม.. ข้าพเจ้ายังมิชราเสียทีเดียว ยังพอมีสัญญาจดจ่าเรื่อง
เหล่าน้ีได้ ยังสามารถทบทวนให้ท่านฟังได้ ความทุกข์ใดที่ข้าพเจ้าเคย
มีและฝากฝังไว้กับท่าน ข้าพเจ้ายังจ่าได้มิลืมเลือน เพราะทุกข์
เหล่านนั้ น่ันเองที่ทา่ ให้ขา้ พเจ้ารจู้ ักชีวติ ..
นี่ก็ดึกมากแล้ว.. ข้าพเจ้าต้องพักผ่อนเบญจขันธ์บ้างแล้วละ
มิฉะน้นั มันคงแตกท่าลายกอ่ นกาลอันควรเปน็ แน่ และขอขอบคณุ ทา่ น

ธุลีหนง่ึ ..ในดวงจนั ทร์ ๖๑

อกี ครัง้ ท่ใี ห้ความเปน็ มหามติ รแก่ข้าพเจ้าเสมอมา.. ราตรสี วสั ด์ิ.
“ผ่านมา.. ฮืม.ม..ผ่านไป.. ฦๅหัวใจไม่เคยหยุดพัก เสาะหา

เร่ือยมาความรัก รัก เริ่มประจักษ์รักเป็นฉันใด จะมี ฮืม..สักหน
บ้างไหมคนที่ยอมมอบใจ ด้วยรักเข้าใจความหมาย หมาย เหนือ
ความใครด่ บั ไฟเสนห่ า ฯลฯ.”

อสี าเอย..
ข้าพเจ้าจักไม่พยายามเสาะหาหรือเก่ียวข้องใดๆ เลย กับความ
รักเช่นน้นั ..
เพราะรกั .. เป็นทกุ ข์.

...................

๖๒ ธุลหี น่ึง..ในดวงจนั ทร์

๏ อนั ทกุ ขชนหลากลว น เทยี บนภา
ตา่ งฝากฝังจนั ทรา บอกชา้่
เปรียบนอ ยธุลีนา รว มกอ จนั ทรแ ฮ
เปน เดนดวงสงา ลาํ้ สอ งแลวราตรี ฯ๛

ทา่ นผู้ไดน้ ามว่า ‘นิรทกุ ข์’ เพราะท่านไรแ้ ล้วซึง่ อาลัย.

๒๒.๔๐ น.
๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๒
วนั พุธข้ึน ๑๓ ค่า เดอื น ๑๐ ปีเถาะ

ธลุ หี นึ่ง..ในดวงจนั ทร์ ๖๓


Click to View FlipBook Version