เรียนรู้คีตศิลป์ไทย ห น่น่ ว ย ก า ร เ รี ย น รู้ ที่ น่ ว ย ก า ร เ รี ย น รู้ ที่ เ รื่ อ ง 국 노래 부르는 법 배우기 เ อ ก ส า ร ป ร ะ ก อ บ ก า ร เ รี ย น รู้ ใ บ ค ว า ม รู้ สื่ อ ก า ร ส อ น ร ะ ดั บ มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ที่ ๒ เ ค ร ดิ ต ค รู ม น ต รี จ ริ ง เ ส ถี ย ร หั ว ห น้ า ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู้ วิ ช า ชี พ คี ต ศิ ล ป์ ไ ท ย วิ ท ย า ลั ย น า ฏ ศิ ล ป สุ โ ข ทั ย เ อ ก ส า ร ป ร ะ ก อ บ ก า ร เ รี ย น รู้ ใ บ ค ว า ม รู้ สื่ อ ก า ร ส อ น ร ะ ดั บ มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ที่ ๒ เ ค ร ดิ ต ค รู ม น ต รี จ ริ ง เ ส ถี ย ร หั ว ห น้ า ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู้ วิ ช า ชี พ คี ต ศิ ล ป์ ไ ท ย วิ ท ย า ลั ย น า ฏ ศิ ล ป สุ โ ข ทั ย
นักเรียนสามารถคิด,วิเคราะห์ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่าง การขับร้องเพลงไทยกับวัฒนธรรม ประเพณีและสังคม ประวัติบุคคลสำ คัญทางคีตศิลป์ไทย (ครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์) และมารยาทการขับร้องเพลงไทย ในรูปแบบกิจกรรมแผนที่ ความคิด (My Mapping) สามารถสร้างผลงาน และ สามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีได้ ข้อที่ ๔ ใฝ่เรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพียร พยามยามในการเรียนและเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนรู้และเข้าใจสามารถอธิบาย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างการขับร้องเพลงไทยกับ วัฒนธรรม ประเพณีและสังคม ประวัติบุคคล สำ คัญทางคีตศิลป์ไทย (ครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์) และมารยาทการขับร้องเพลงไทยได้ ๓.ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attribute and Attitude) จุจุจุ ด จุ ดประสงค์ค์ ค์ ก ค์ การเรีรี รียรีนรู้รู้รู้รู้ายหน่น่ น่ ว น่ วย ๑. ด้านความรู้ (KNOWLEDGE) ๒. ด้านทักษะกระบวนการ (SKILL) 습 목
๑. ความสามารถ ในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด - ทักษะการวิเคราะห์ ๓ ห์ . ความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยี สมรรถนะรายหน่น่ น่ ว น่ วย 능력
๑. ความสัมพันธ์ ระหว่างการขับร้อง เพลงไทยกับวัฒนธรรม ประเพณีและสังคม ๒. ประวัติบุคคลสำ คัญทางคีตศิลป์ไทย (ครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์) ๓. มารยาท การขับร้องเพลงไทย คำคำคำคำอธิธิ ธิ บธิ บายรายหน่น่ น่ ว น่ วย 설명
สารสนเทศท้ท้ท้อท้งถิ่ถิ่ ถิ่ นถิ่ นอีอีอีสอีาน ณ อุอุอุ บ อุ บลราชธานีนีนี.นี (2022). “แห่ห่ห่กัห่กักัณกั ฑ์ฑ์ ฑ์ ห ฑ์ หลอน” ภาพเขีขีขียขีนสีสีสีอสีะคริริริลิริลิลิกลิ โดย กลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ อนุนุนุ รั นุ รัรักรัษ์ษ์ ษ์ ภ ษ์ ภาพเขีขีขียขีนไทย บ้บ้บ้าบ้นปลาขาว ต.ยาง อ.น้ำน้ำน้ำน้ำยืยืยืนยืจัจัจังจัหวัวัวัดวั อุอุอุ บ อุ บลราชธานีนีนี,นี สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่ มื่ อมื่ อ ๒0 ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/?p=6024 คีตศิลป์ไทย หรือ การขับร้องเพลงไทยเป็นศิลปะ ที่เลียนเสียงจากธรรมชาติ เกิดขึ้นเมื่อคนไทยรู้จักการเปล่งเสียง เลียนแบบเสียงธรรมชาติ เพื่อขับกล่อม พัฒนามาเป็นการขับร้องทำ นองเอื้อนที่มีท่วงทำ นอง ลำ นำ คำ ร้อง ลีลาและ จังหวะที่เป็นแบบแผน มีลักษณะของการขับร้องที่แตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม ประเพณี ของชุมชนแต่ละท้องถิ่น และไม่เหมือนกับการขับร้องของชาติอื่น ๆ การขับร้องเพลงไทยเป็นสิ่งที่คนไทยสร้างสรรค์ขึ้นด้วยอารมณ์สุนทรียะผสมผสาน กับ จินตนาการ เพื่อสนองความต้องการด้านจิตใจ เป็นสิ่งที่ให้ความบันเทิงใจแก่คนในสังคม ไทย ให้มีความสุขสดชื่นหรรษา และเป็นเครื่องสะท้อนวัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิต ของสังคมไทย ปัจจุบันการขับร้องเพลงไทยก็จะมีระเบียบแบบแผนต่าง ๆ ตามหลักวิชา ดุริยางคศาสตร์หรือคีตศิลป์ไทย ๑. ความสัมพันธ์ระหว่างการขับร้อง เพลงไทยกับวัฒนธรรม ประเพณี และสังคม
ไทยกู๊กู๊กู๊ดกู๊วิวิวิวิดอทคอม. (๒๐๐๐). งูงูงูกิงูกิกินกิ หาง, สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่ มื่ อมื่ อ ๒๐ ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. https://culture55021531.wordpress.com/2015/03/01/22/ สมพร. (๒๐๒๒). วรรณกรรมท้ท้ท้อท้งถิ่ถิ่ ถิ่ นถิ่ น, สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่ มื่ อมื่ อ ๒๐ ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/?p=6024 คนตรัรัรังรั NEW. (๒๐๑๘). ชัชัชักชัพระในน้ำน้ำน้ำน้ำ วัวัวัดวัพุพุพุทพุธเสมา, สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่ มื่ อมื่ อ ๒๐ ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. http://www.prtvkontrang.com/2018/10/blog-post_26.html ในด้านวัฒนธรรมที่แสดงออกทาง ด้านความคิด อารมณ์ และความต้องการของมนุษย์ที่มีความแตกต่างกันนั้น มีเรื่องราวของการขับร้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำ ให้เกิดวัฒนธรรมประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมากับวิถีชีวิตของคนไทยตั้งแต่เกิดจนตาย เริ่มตั้งแต่ การร่อนกระดังเด็กแรกเกิด การกล่อมลูก บทเพลงเด็กเล่น และบทเพลงดังกล่าวแสดงถึงความรัก ความอบอุ่นของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็ก ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก เนื้อร้องเพลงเหล่านั้น นอกจากมีทำ นองสูงๆ ต่ำ ๆ สนุกสนาน ให้เด็กเกิดการเลียนแบบ หัดพูด หัดเรียงประโยคถ้อยคำ แล้ว ยังให้ ความรู้ทางประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยเฉพาะบทเพลงเด็กเล่นนั้นแฝงด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ในการละเล่นของเด็กไทย และการละเล่นของเด็กยังช่วยให้เด็กรู้จักการแพ้ รู้จักการชนะ รู้จักการ ให้อภัย และเกิดความสนิทสนมกลมเกลียวสามัคคีกันได้อีกด้วย เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ มีการร้องรำ ทำ เพลง หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการทำ งาน หรือการร้องรำ ทำ เพลงในช่วงเทศกาล โอกาสสำ คัญ ต่างๆ ทั้งงานมงคล เช่น งานบวช งานแต่งงานหรืองานอวมงคล เช่น งานศพ เป็นต้น จึงได้มี อาชีพเกี่ยวกับการขับร้องเกิดเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย ๑.๑ ด้านวัฒนธรรม และประเพณี
๑.๒ ด้านสังคม สังคมไทยมีเอกลักษณ์ทางด้านการขับร้อง แตกต่างกันไปตาม ลักษณะองค์ประกอบทางสังคม พัฒนาการทางการขับร้องเพลงไทยต่างๆ จะสัมพันธ์กับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ โดยสังคมไทยแต่ละท้องถิ่นนำ ไปใช้ในสังคมด้วยบทบาทที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งการขับร้องนั้นมีความ สัมพันธ์เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตคนไทยมายาวนาน สามารถอนุรักษ์ส่งเสริม ถ่ายทอด และเผยแพร่ศิลปะด้านการขับร้องเพลงไทยสืบต่อกันมา การขับร้องเพลงไทยนั้น เป็นสิ่งที่คนไทยสร้างสรรค์ขึ้นด้วยอารมณ์สุนทรี ยะผสมผสาน กับจินตนาการ เพื่อสนองความต้องการด้านจิตใจ เป็นสิ่งที่ ให้ความบันเทิงใจแก่คนในสังคมไทย ให้ความสุขสดชื่นหรรษา และสิ่งสำ คัญ การขับร้องเพลงไทยเป็นการ แสดงออกของสังคมที่รับใช้ปัจเจกบุคคลและ ผู้คนในสังคมไทย บทบาทของการขับร้อง เพลงไทยจึงมีความสัมพันธ์กับ ศาสนา ความเชื่อ เศรษฐกิจ ระเบียบแบบแผนและการศึกษา อบรมในสังคม อีกด้วย การก่อเกิดภาษาแห่งขับร้องเพลงไทยนี้จึงเป็นภาษาอันยิ่งใหญ่ที่ได้ ปรากฏเป็นเครื่องสะท้อนวิถีชีวิตของสังคมไทยได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังสัมพันธ์กับด้านศาสนา พบว่า มีการขับร้องทำ นองต่างๆ ปรากฏอยู่ในคำ สวด ประกอบพิธีกรรม ทางศาสนาหลายพิธีกรรม คนเข้ามาสู่ศาสนานั้นเอง ทั้งนี้เพื่อคลายความ เบื่อหน่ายและเพื่อเป็นสิ่งโน้มน้าวใจชักนำ คน ในสังคมเข้ามาสู่ศาสนานั้นเอง ภาพวิวิวิวิ.com. (๒๐๑๘). ภาพจิจิจิตจิ รกรรมไทย, สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่ มื่ อมื่ อ ๒๐ ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. https://culture55021531.wordpress.com/2015/03/01/22/
คีตศิลป์ไทย หรือการขับร้องเพลงไทย มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำ คัญอย่างมากต่อวัฒนธรรม ประเพณี และสังคมไทย โดยมีการสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมจากบรรพบุรุษไปสู่ รุ่นหลังๆ ตามภูมิภาคและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น เพื่อสร้างความ บันเทิงใจแก่คนในสังคมไทยและชาติอื่นทั่วโลก นอกจากนี้ การขับร้อง เพลงไทยยังมีความสัมพันธ์กับศาสนา ความเชื่อ เศรษฐกิจ ระเบียบ แบบแผน และการศึกษา สร้างสรรค์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทยให้ยังคงอยู่ อย่างยั่งยืน ดังนั้นการขับร้องเพลงไทยจึงเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย อย่างแท้จริง สรุป
๒. ประวัติบุคคลสำ คัญ ทางคีตศิลป์ไทย (ครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์) ครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์ เป็นนักร้อง และเป็นครูสอนขับร้อง คนสำ คัญของ กรมศิลปากร เกิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๒ ที่บ้านเลขที่ ๑๐๐ ถนนลำ พู หน้าวัดสังเวชวิศยาราม กรุงเทพมหานคร เดิม ชื่อ แช่ม ดุริยประณีต เป็นธิดาคนที่ ๓ ของครูศุข และนางแถม ดุริยประณีต ครูแช่มช้อย แต่งงานกับครูเหนี่ยว ดุริยพันธุ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๙ มีบุตรธิดาด้วยกัน ๕ คน ทุกคนมีความสามารถในการ บรรเลงดนตรีและขับร้องเรียงตามลำ ดับ คือ สุรางค์ (เกิด พ.ศ. ๒๔๘๐ เป็นนักร้อง) ชนะ (เกิด พ.ศ. ๒๔๘๑ เครื่องหนังและ ฆ้อง) ดวงเนตร (เกิด พ.ศ. ๒๔๘๒ ซอสามสายและขับร้อง) นฤพนธ์ (เกิด พ.ศ. ๒๔๘๓ ฆ้อง ระนาด เครื่องหนังและขับ ร้อง) พจนา (เกิด พ.ศ. ๒๔๘๙ เครื่องหนัง ฆ้อง) ที่มา : นามานุกรมศิลปินเพลงไทย ในรอบ ๒๐๐ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพูนพิศ อมาตยกุล, หัวหน้าโครงการ ; ผู้ร่วมโครงการ, พิชิต ชัยเสรี … [และคนอื่น ๆ]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๒๖. ชีวิตในวัยเด็ก เริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมกับครูแนบ ณ โรงเรียนแนบวิทยา บางลำ พู ครูแช่มช้อยไม่ชอบต่อเพลงกับมารดาเลย มารดาจึงนำ ไปฝากกับพระยาเสนาะ ดุริยางค์ (แช่ม สุนทรวาทิน) ให้หัดขับร้องที่วังสวนกุหลาบ อันเป็นวังของสมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรม หลวงนครราชสีมา กับอาจารย์เจริญใจ สุนทรวาทิน มาตั้งแต่นั้น ที่วังสวนกุหลาบนี้ ได้เริ่มต่อเพลงจระเข้ หางยาว กับพระยาเสนาะ ฯ ต่อมาได้กลับไปเรียนหนังสือที่ โรงเรียนสตรีโชติเวช จนจบชั้นมัธยมปีที่ ๓ เรียน ขับร้องกับพระยาเสนาะ ฯ และต่อจากอาจารย์เจริญใจ มาตลอด จนอายุได้ ๑๔ ปี จึงเข้ารับราชการ เป็น พนักงานมโหรี ขับร้อง ในกรมมหรสพหลวง เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ เมื่อกรมมหรสพถูกยุบลงใน พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้ย้ายมาสังกัดกรมศิลปากร ได้รับการบรรจุเป็นศิลปินจัตวา แผนกดุริยางค์ไทย กองดุริยางค์ ศิลป์ ในช่วงนี้เองได้ต่อเพลงขับร้องเพิ่มขึ้นอีกเป็นอันมาก มีครูหลายท่าน อาทิ พระเพลงไพเราะ (โสม สุ วาทิต) หลวงเสียงเสนาะกรรณ (พัน มุกตวาภัย) หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) อาจารย์มนตรี ตราโมท และครูเหนี่ยว ดุริยพันธุ์ ได้เพลงมากทั้งเพลงตับ เพลงเถา เพลงประกอบการแสดงโขนละครได้เป็น ศิลปินตรีเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๖ เป็นศิลปินโท พ.ศ. ๒๕๐๕ และเป็นศิลปินเอก พ.ศ. ๒๕๑๘ จนครบเกษียณอายุ ราชการ เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๒
ที่มา : นามานุกรมศิลปินเพลงไทย ในรอบ ๒๐๐ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพูนพิศ อมาตยกุล, หัวหน้าโครงการ ; ผู้ร่วมโครงการ, พิชิต ชัยเสรี … [และคนอื่น ๆ]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๒๖. ในระหว่างรับราชการอยู่กรมศิลปากร ได้เดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรม ไทย ณ ประเทศญี่ปุ่น ๒ ครั้ง รวมทั้งได้เคยออกไปแสดงยังเมืองเสียมราฐ พระ ตระบอง สมัยดินแดนนี้ยังเป็นของประเทศไทย ได้ถ่ายทอดวิชาการขับร้องให้แก่ นักร้องในกรมศิลปากรหลายคน อาทิ แจ้ง คล้ายสีทอง สมชาย ทับพร ลอย รัตนทัศนีย์ สีนวล เขียววิจิตร พัฒนี พร้อมสมบัติ กัญญา โรหิตาจล สุพัชรินทร์ วิจิตรรัตนะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีศิษย์ที่มิได้สังกัดกรมศิลปากรอีก เช่น นาย แพทย์สุพจน์ อ่างแก้ว นายแพทย์พูนพิศ อมาตยกุล นายศิริ วิชเวช และลูก หลานในตระกูลดุริยประณีต และตระกูลรุ่งเรือง ผลงานบันทึกแผ่นเสียงของกรมศิลปากรมีหลายเพลง เช่น เขมรไทรโยค แอ่วเคล้าซอ บุหลันลอยเลื่อน ๒ ชั้น นเรศวร์ชนช้าง ทองย่อน และแขกพราหมณ์ จากเรื่องเงาะป่า ฯลฯ และยังบันทึก เสียงเพลงเกร็ดต่าง ๆ ไว้อีกมาก คือ เพลงโอ้ลาวเถา ทยอยนอก ๓ ชั้น สาริกาชม เดือน ๓ ชั้น แขกสาหร่าย ครูแช่มช้อยเป็นผู้มีน้ำ เสียงไพเราะมาก ลีลานุ่มนวล เรียบร้อย ชวนฟัง ได้ทำ แผ่น เสียงชุดละครดึกดำ บรรพ์ร่วมกับคณะดุริยประณีต คือ เรื่องอิเหนา ตอนตัดดอกไม้ ฉายกริช และตอนบวงสรวง เรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา ฯลฯ ไว้กับห้าง แผ่นเสียงกมลสุโกศล ครูแช่มช้อยเลิกสอนขับร้อง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๓ เนื่องด้วยสุขภาพไม่สู้แข็งแรง และป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ท้ายสุดมีอาการโรคหัวใจ จนถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๖
สรุป ครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์ เป็นนักร้องและครูสอนขับร้องคนสำ คัญของกรมศิลปากร เกิดเมื่อ วันอังคารที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๒ ที่บ้านเลขที่ ๑๐๐ ถนนลำ พู หน้าวัดสังเวชวิศยาราม กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อ แช่ม ดุริยประณีต โดยเริ่มต้นอยู่ในวัยเด็กๆ โดยเรียนหนังสือชั้นประถมกับ ครูแนบ แต่ชอบขับร้องมากกว่าการเรียนหนังสือ ต่อมามารดาได้ฝากเรียนขับร้องกับพระยาเสนาะ ดุริยางค์ ที่วังสวนกุหลาบ ซึ่งเป็นวังของสมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา จน กระทั่งเข้ารับราชการเป็นพนักงานมโหรี ขับร้อง ในกรมมหรสพหลวง และเป็นศิลปินโทและเอกของ กรมศิลปากร ระหว่างรับราชการอยู่ได้เดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ณ ประเทศญี่ปุ่น ได้บันทึก เสียงเพลงเกร็ดต่างๆ ไว้กับห้างแผ่นเสียงกมลสุโกศล และยังเคยออกไปแสดงยังเมืองเสียมราฐ พระตระบอง โดยมีผลงานบันทึกแผ่นเสียงหลายเพลงที่มีชื่อเสียง เช่น เขมรไทรโยค แอ่วเคล้าซอ บุหลันลอยเลื่อน ๒ ชั้น นเรศวร์ชนช้าง ทองย่อน และแขกพราหมณ์ จากเรื่องเงาะป่า ฯลฯ ครูแช่ม ช้อยเลิกสอนขับร้องตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๓ เนื่องจากสุขภาพไม่สู้แข็งแรง และต่อมาเสียชีวิตด้วยโรค หัวใจ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ บ้บ้บ้าบ้นบางลำลำลำลำพูพูพูพูครูรูรูสุรูสุสุดสุจิจิจิตจิต์ต์ต์.ต์ (๒๐๑๙). ครูรูรูแรูช่ช่ช่มช่ช้ช้ช้อช้ย ดุดุดุริดุริริยริพัพัพันพั ธุ์ธุ์ธุ์ธุ์ (๒๔๖๒-๒๕๒๖), สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่ มื่ อมื่ อ ๒๐ ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. https://www.facebook.com/BanBangLamphu
มารยาทในการขับร้องเพลงไทย เป็นสิ่งสำ คัญ อย่างยิ่งที่ควรปฏิบัติในการขับร้อง ผู้ร้องควรคำ นึงการวาง อิริยาบท ในเวลาร้องเพลงบนเวที รู้จักใช้ปฏิภาณ มีไหว พริบ และสำ รวมกิริยาต้องอยู่ในลักษณะสงบ มีสติกับ บทร้อง และต้องตรงต่อเวลาโดยเคร่งครัดในการขับร้อง ๓. มารยาท การขับร้องเพลงไทย จิจิจินจิตนา สืสืสืบสื สงังังัดงั. (๒๐๒๐). สื่สื่ สื่ อสื่ อการสอนเรืรืรือรืงทฤษฎีฎีฎีกฎีารขัขัขับขั ร้ร้ร้อร้ง เพลงไทย, สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่ มื่ อมื่ อ ๒๐ ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. https://anyflip.com/iuvon/jmob/basic
๑. ท่านั่ง มี ๒ ลักษณะดังนี้ ๑.๑ การนั่งพับเพียบ โดยปกติแล้วจะนั่งบนพื้น เตียงหรือตั่ง ผู้ขับร้องที่ดีจะ ต้องนั่งลำ ตัวตั้งตรง ทำ มุมกับท่อนล่างประมาณ ๙0 องศา สำ รวมกิริยา ท่าทาง และการเคลื่อนไหว มือ เท้า และลำ ตัว หรือการเปลี่ยนอิริยาบถอื่น ๆ เก็บปลายเท้า ผู้ชายจะกางน่อง ออกเล็กน้อย วางมือบนหน้าขาหรือประสานมือวางบนตัก ผู้หญิง จะเก็บน่อง ประสานมือวางบนตัก บุคลิกภาพ ๑.๒ การนั่งบนเก้าอี้ การสำ รวมอิริยาบถปฏิบัติเช่นเดียวกันกับการนั่ง พับเพียบ แตกต่างตรงที่การนั่งบนเก้าอี้จะเป็นลักษณะของ การนั่งห้อยขา โดยผู้ขับร้องที่ดีนั้นต้องนั่งพอดีกับพื้นที่ เก้าอี้ ไม่เอนพิงหลัง ไม่นั่งก้มหน้า ไม่วางมือบนพนักเก้าอี้ ไขว่ห้าง หรือขัดสมาธิ ผู้ชายให้เปิดปลายเท้าเล็กน้อย และผู้หญิงให้เก็บปลายเท้า ๒. การยืน การสำ รวมอิริยาบถปฏิบัติเช่นเดียวกัน กับการนั่ง แตกต่างตรงที่การยืนจะเป็นลักษณะ ของการยืนตรง ตั้งฉากกับพื้น ๙๐ องศา มือ วางแนบลำ ตัว แยกปลายเท้าเล็กน้อย มนตรีรีรีรีจริริริงริเสถีถีถียถีร. (๒๐๒๓). Montree Chingsathian, สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่มื่อมื่ ๒๐ ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. https://www.facebook.com/montree22041992
นอกจากนี้ ผู้ขับร้องเพลงไทยที่ดีต้องยึดหลักการ ปฏิบัติของมารยาทไทยทุกอิริยาบททั้งในและนอกสถานที่ เช่น การเดิน การก้ม การลุก การคลาน การกราบ-ไหว้ การส่ง-รับของ ความมีน้ำ ใจ การให้เกียรติและการตรง ต่อเวลา ทั้งนี้ เพื่ออนุรักษ์และสืบทอดซึ่งเอกลักษณ์ของ วัฒนธรรมที่ดีงามของผู้ขับร้องเพลงไทยไว้ตลอดไป สรุป โดยบุคลิกภาพทั้ง ๒ ลักษณะนี้ มีหลักปฏิบัติเพิ่มเติมเหมือนกัน คือ กรณีถือไมค์โครโฟน ให้จับตรงกลางไมค์ โครโฟนเพื่อให้เกิดเสียงที่ออกมามีคุณภาพมากที่สุด โดยถือให้ห่างระหว่างปาก และจมูกเล็กน้อย ตั้งฉากประมาณ ๓๐ องศา ไม่ตะคอกเสียงหรือหายใจ เสียงดัง วางสีหน้าปกติ หรือยิ้มในหน้า ขณะขับร้องให้หันหน้าไปทางผู้ชม หรือสบตาผู้ชมเสมอ หากต้องถือบทขับร้อง ควรถือบทตั้งฉากกับลำ ตัว ประมาณ ๔๕ องศา ต่ำ กว่าระดับสายตาเล็กน้อย ไม่ก้มหรือเงยมากจนเกินไป มีสติและไม่คุยเสียงดังการเคาะจังหวะ ควรเคาะด้วยปลายนิ้วมือเล็กน้อย และไม่ ใช้เท้าเคาะจังหวะ และไม่เล่นเครื่องมือสื่อสารหรือสมาร์ทโฟนทุกชนิดขณะขับ ร้องเพลงไทย ผู้ขับร้องเพลงไทยที่ดี จะต้องพึงมีสติสัมปชัญญะ รู้จัก ควบคุมตนเอง ปฏิบัติตามมารยาทการขับร้องเพลงไทย รวมไปมารยาทไทย ทั้งบุคลิกภาพ การนั่ง การยืน และทุก อิริยาบถอื่นๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ขับร้องที่ดี และมี คุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ พบเห็น อนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยสืบไป จิจิจินจิตนา สืสืสืบสื สงังังัดงั. (๒๐๒๐). สื่สื่ สื่ อสื่ อการสอนเรืรืรือรืงทฤษฎีฎีฎีกฎีารขัขัขับขั ร้ร้ร้อร้ง เพลงไทย, สืสืสืบสื ค้ค้ค้นค้เมื่มื่ มื่ อมื่ อ ๒๐ ธัธัธันธั วาคม ๒๕๖๖. จาก. https://anyflip.com/iuvon/jmob/basic
บรรณานุกรม พูนพิศ อมาตย (๒๕๒๖). นามานุกรมศิลปินเพลงไทย ในรอบ ๒๐๐ ปี แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ โดยพูนพิศ อมาตยกุล. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, เจตชรินทร์ จิรสันติธรรม (๒๕๕๓).ทฤษฎีการขับร้องเพลงไทย. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์ จินตนา สืบสงัด. (๒๐๒๐). สื่อการสอนเรืองทฤษฎีการขับร้องเพลงไทย, สืบค้นเมื่อ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖. จาก. https://anyflip.com/iuvon/jmob/basic มนตรี จริงเสถียร. (๒๕๖๓). สื่อการสอนเรืองทฤษฎีการขับร้องเพลงไทย, สืบค้นเมื่อ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖. จาก. https://www.schoolweb.in.th/ketasinthai/
ใบกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง เรียนรู้คีตศิลป์ไทย
ครูมนตรี จริงเสถียร (การ์ตูน) ผู้ออกแบบและสร้างสรรค์ เอกส แ า ล รป ะใ ร บ ะกอบการเรียนรูั กิจกรรม Montree Chingsathian 0856419788 085-6419788 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาชีพคีตศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม https://sites.google.com/view/krumontree-sukhothai/ mr_montree1992