The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ไทย-ม.1ภาคเรียน2-

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaimath2514, 2021-11-10 01:37:26

ประวัติศาสตร์ไทย 2 ม.1

แผนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ไทย-ม.1ภาคเรียน2-

การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินนทิ รรศการ เรือ่ ง พฒั นาการของอาณาจกั รสโุ ขทัย

รายการประเมนิ ดมี าก (4) คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรบั ปรุง (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การวิเคราะห์ วเิ คราะห์พฒั นาการ วิเคราะห์พฒั นาการ วเิ คราะห์พฒั นาการ วิเคราะหพ์ ัฒนาการ

พฒั นาการของ ของอาณาจกั รสุโขทัย ของอาณาจักรสโุ ขทัย ของอาณาจักรสโุ ขทัย ของอาณาจักรสุโขทยั

อาณาจักรสโุ ขทยั ไดถ้ กู ตอ้ ง ละเอยี ด ไดถ้ กู ต้อง ละเอยี ด ไดถ้ กู ตอ้ ง ละเอยี ด ไดถ้ ูกตอ้ ง ละเอยี ด

ชัดเจน 4-5 ด้าน ชดั เจน 3 ด้าน ชัดเจน 2 ด้าน ชดั เจน 1 ดา้ น

2. การวิเคราะห์ วเิ คราะหป์ จั จัยที่มี วิเคราะห์ปัจจยั ท่ีมี วิเคราะห์ปัจจยั ท่ีมี วเิ คราะห์ปัจจัยทมี่ ี

ปจั จัยทม่ี อี ิทธพิ ล อทิ ธิพลต่อพฒั นาการ อิทธพิ ลต่อพฒั นาการ อิทธพิ ลต่อพัฒนาการ อิทธิพลต่อพัฒนาการ

ตอ่ พัฒนาการใน ในสมยั สุโขทัยได้ ในสมัยสุโขทยั ได้ ในสมัยสุโขทัยได้ ในสมยั สโุ ขทัยได้

สมยั สุโขทัย ถกู ต้อง ละเอยี ด ถกู ตอ้ ง ชดั เจนเปน็ ถกู ต้อง ชัดเจนเป็น ถกู ต้อง เพียงสว่ นน้อย

ชดั เจน สว่ นใหญ่ บางสว่ น และไม่ชัดเจน

3. การยกตวั อยา่ ง ยกตัวอย่างและอธบิ าย ยกตวั อยา่ งและอธบิ าย ยกตวั อย่างและอธบิ าย ยกตัวอยา่ งและอธบิ าย

และอธบิ าย วฒั นธรรมและภูมิ วัฒนธรรมและภูมิ วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาวัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญา

วัฒนธรรมและ ปัญญาสมัยสโุ ขทัยได้ ปัญญาสมัยสุโขทยั ได้ สมยั สโุ ขทัยไดถ้ กู ตอ้ ง สมัยสโุ ขทยั ไดถ้ ูกตอ้ ง

ภูมิปัญญาสมัย ถกู ตอ้ ง ละเอียด ถกู ต้อง ชัดเจนเป็นส่วน ชดั เจนเป็นบางสว่ น เป็นบางสว่ น

สุโขทยั ครบถ้วน ใหญ่ แตไ่ มช่ ดั เจน

4. การวิเคราะห์ วิเคราะหว์ ฒั นธรรม วเิ คราะห์วฒั นธรรม วเิ คราะหว์ ฒั นธรรม วิเคราะห์วัฒนธรรม
และภูมปิ ญั ญาสมัย และภมู ปิ ญั ญาสมยั และภมู ิปญั ญาสมัย
อทิ ธิพลของ และภูมิปญั ญาสมยั สุโขทยั ที่สง่ ผลตอ่ สโุ ขทยั ทสี่ ง่ ผลต่อ สโุ ขทัยท่ีส่งผลต่อ
สงั คมไทยในปจั จบุ นั สังคมไทยในปจั จุบนั สงั คมไทยในปจั จบุ ัน
วัฒนธรรมและ สโุ ขทยั ที่สง่ ผลตอ่ ได้ถกู ต้อง ละเอียด ไดถ้ กู ต้อง ละเอยี ด ไดถ้ กู ต้องเพยี งสว่ น
ชัดเจน เปน็ สว่ น ชัดเจน เปน็ น้อย และไม่ชดั เจน
ภูมิปัญญาสมยั สังคมไทยในปจั จบุ นั ใหญ่ บางส่วน

สโุ ขทยั ท่สี ่งผลตอ่ ไดถ้ ูกต้อง ละเอียด

สงั คมไทยใน ชัดเจน ทกุ

ปัจจบุ ัน ประเดน็

ช่วงคะแนน 14 - 16 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 8 - 10 ต่ำกวำ่ 8
ระดบั คณุ ภาพ ดมี ำก พอใช้ ปรบั ปรงุ
11 - 13
ดี

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว

1. หลกั ฐำนใดทช่ี ว่ ยยนื ยนั วำ่ สโุ ขทยั มคี วำมเจรญิ มำกอ่ น 6. ตลำดนดั จตจุ กั รในปัจจุบนั หำกเทยี บกบั สมยั สโุ ขทยั
หน้ำทจ่ี ะไดส้ ถำปนำเป็นรำชธำนี
ก. ศำสนสถำนศลิ ปะขอม จะหมำยถงึ สงิ่ ใด
ข. เรอ่ื งรำวจำกเอกสำรจนี
ค. ขอ้ ควำมทป่ี รำกฏในศลิ ำจำรกึ ก. ตระพงั ข. สรดี ภงส์
ง. พระรำชพงศำวดำรกรงุ สุโขทยั
ค. เตำทุเรยี ง ง. ตลำดปสำน
2. กำรสถำปนำกรุงสโุ ขทยั เกดิ จำกวธิ ใี ด
ก. กลุ่มคนไทยอพยพลงมำตงั้ ถน่ิ ฐำนบำ้ นเมอื ง 7. แนวทำงกำรสรำ้ งควำมสงบสุขของสงั คมสุโขทยั
ข. ขอมรบชนะชุมชนทอ่ี ยมู่ ำก่อนแลว้ ตงั้ กรงุ สุโขทยั ขน้ึ
ค. กลุ่มคนไทยรวมตวั ตงั้ ตนเป็นอสิ ระ ไมย่ อมอยใู่ ต้ จำกหลกั ฐำนทป่ี รำกฏนยิ มใชว้ ธิ กี ำรใด
อำนำจขอม
ง. อำณำจกั รขอมไดใ้ หอ้ สิ รภำพโดยมอบผคู้ นและ ก. อบรมคนใหม้ ศี ลี ธรรม
ทรพั ยส์ นิ มำสรำ้ งบำ้ นเมอื ง
ข. ออกกฎหมำยทเ่ี ขม้ งวด
3. กำรปกครองแบบพ่อปกครองลูก ส่งผลดตี อ่ อำณำจกั ร
สโุ ขทยั อยำ่ งไร ค. ใหร้ ำงวลั แก่ผทู้ ำควำมดี
ก. ชำวตำ่ งชำตเิ ขำ้ มำตดิ ตอ่ คำ้ ขำยมำกขน้ึ
ข. กำรละเมดิ กฎหมำยลดน้อยลง ง. ลงโทษผฝู้ ่ำฝืน
ค. กษตั รยิ ก์ บั รำษฎรใกลช้ ดิ กนั
ง. ทำใหข้ นุ นำงมอี ำนำจมำก 8. สโุ ขทยั ไดร้ บั อทิ ธพิ ลกำรนบั ถอื พระพุทธศำสนำนกิ ำย

4. รปู แบบกำรปกครองสมยั สุโขทยั มลี กั ษณะอยำ่ งไร เถรวำทลทั ธลิ งั กำวงศม์ ำจำกแหง่ ใด
ก. แบง่ พน้ื ทเ่ี ป็นมณฑล
ข. ส่งขำ้ หลวงไปปกครอง ก. ศรลี งั กำ ข. ทวำรวดี
ค. รวมอำนำจไวท้ ร่ี ำชธำนี
ง. กระจำยอำนำจสทู่ อ้ งถนิ่ ค. หรภิ ญุ ชยั ง. นครศรธี รรมรำช

5. ลกั ษณะกำรคำ้ ขำยของอำณำจกั รสุโขทยั ตรงกบั ขอ้ ใด 9. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งสโุ ขทยั กบั ลงั กำ
ก. รำษฎรคำ้ ขำยสนิ คำ้ ไดบ้ ำงชนิด
ข. รำษฎรคำ้ ขำยไดอ้ ยำ่ งเสรี ก. ลงั กำส่งเครอ่ื งรำชบรรณำกำร
ค. รฐั คำ้ ขำยแขง่ กบั รำษฎร
ง. รฐั เป็นผผู้ กู ขำดกำรคำ้ ข. ลงั กำถ่ำยทอดพระพทุ ธศำสนำใหส้ โุ ขทยั

ค. สโุ ขทยั ถ่ำยทอดพระพทุ ธศำสนำใหล้ งั กำ

ง. สุโขทยั แผข่ ยำยอำนำจเขำ้ ครอบครองลงั กำ

10. กำรมสี มั พนั ธไมตรอี นั ดกี บั ลำ้ นนำสง่ ผลต่อสโุ ขทยั อยำ่ งไร

ก. ไดก้ ำลงั ชว่ ยยำมเกดิ สงครำม

ข. เป็นแหล่งวตั ถุดบิ ไวผ้ ลติ สนิ คำ้

ค. ปลอดภยั จำกกำรถูกตที ำงเหนือ

ง. สำมำรถเผยแพรว่ ฒั นธรรมไดอ้ ย่ำงเสรี

11. พระมหำกษตั รยิ ข์ องสโุ ขทยั พระองคใ์ ดทท่ี รงนำ

พระพุทธศำสนำมำเป็นเครอ่ื งมอื ในกำรสรำ้ งสมั พนั ธไมตรี

กบั อำณำจกั รต่ำงๆ

ก. พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทรำทติ ย์

ข. พ่อขนุ รำมคำแหงมหำรำช

ค. พระมหำธรรมรำชำท่ี 1 (ลไิ ทย)

ง. พระมหำธรรมรำชำท่ี 4 (บรมปำล)

12. ขอ้ ใดเป็นภมู ปิ ัญญำสมยั สุโขทยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ชลประทำน 14. ภมู ปิ ัญญำของชำวสุโขทยั ในขอ้ มลู ใดทเ่ี กย่ี วกบั กำรผลติ
ก. สรดี ภงส์ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้
ข. เตำทเุ รยี ง ก. ตระพงั
ค. ลำยสอื ไทย ข. เครอ่ื งสงั คโลก
ง. เครอ่ื งสงั คโลก ค. พระพทุ ธรปู
ง. อำวุธทท่ี ำดว้ ยสำรดิ
13. มรดกทำงวฒั นธรรมทส่ี ำคญั ทค่ี นปัจจบุ นั ไดร้ บั จำกสมยั
พ่อขนุ รำมคำแหงมหำรำช คอื สงิ่ ใด 15. ปัจจยั สำคญั ทท่ี ำใหส้ ุโขทยั เสอ่ื มและตกเป็นสว่ นหน่ึงของ
ก. ลำยสอื ไทย อยธุ ยำมหี ลำยประกำร ยกเวน้ ขอ้ ใด
ข. เมอื งฉอด
ค. พระพุทธรปู สมยั สโุ ขทยั ก. ควำมอ่อนแอทำงทหำร
ง. กำรปกครองแบบปิตลุ ำธปิ ไตย ข. เกบ็ ภำษอี ำกรไดน้ ้อย
ค. กำรคำ้ ซบเซำเพรำะอยไู่ กลทะเล
ง. กำรแยง่ ชงิ อำนำจในหมรู่ ำชวงศพ์ ระรว่ ง

แบบทดสอบหลงั เรียน

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว

1. ตลำดนัดจตุจกั รในปัจจุบนั หำกเทียบกับสมยั สุโขทยั 7. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งสโุ ขทยั กบั ลงั กำ
ก. สโุ ขทยั แผข่ ยำยอำนำจเขำ้ ครอบครองลงั กำ
จะหมำยถึงสิ่งใด ข. ลงั กำถำ่ ยทอดพระพทุ ธศำสนำใหส้ โุ ขทยั
ค. สุโขทยั ถำ่ ยทอดพระพทุ ธศำสนำใหล้ งั กำ
ก. ตลำดปสำน ข. เตำทุเรียง ง. ลงั กำส่งเครอ่ื งรำชบรรณำกำร

ค. สรดี ภงส์ ง. ตระพงั 8. มรดกทำงวฒั นธรรมทส่ี ำคญั ทค่ี นปัจจบุ นั ไดร้ บั จำกสมยั
พ่อขนุ รำมคำแหงมหำรำช คอื สง่ิ ใด
2. รูปแบบกำรปกครองสมยั สุโขทยั มีลกั ษณะอย่ำงไร ก. กำรปกครองแบบปิตุลำธปิ ไตย
ข. พระพุทธรปู สมยั สโุ ขทยั
ก. ส่งข้ำหลวงไปปกครอง ค. ลำยสอื ไทย
ง. เมอื งฉอด
ข. รวมอำนำจไว้ท่ีรำชธำนี
9. พระมหำกษตั รยิ ข์ องสุโขทยั พระองคใ์ ดทท่ี รงนำ
ค. กระจำยอำนำจสู่ท้องถิ่น พระพทุ ธศำสนำมำเป็นเครอ่ื งมอื ในกำรสรำ้ งสมั พนั ธไมตรี
กบั อำณำจกั รต่ำงๆ
ง. แบ่งพ้นื ท่ีเป็นมณฑล ก. พระมหำธรรมรำชำท่ี 4 (บรมปำล)
ข. พระมหำธรรมรำชำท่ี 1 (ลไิ ทย)
3. ลกั ษณะกำรค้ำขำยของอำณำจกั รสุโขทยั ตรงกบั ข้อใด ค. พ่อขนุ รำมคำแหงมหำรำช
ง. พ่อขนุ ศรอี นิ ทรำทติ ย์
ก. รฐั เป็นผู้ผูกขำดกำรค้ำ
10. สโุ ขทยั ไดร้ บั อทิ ธพิ ลกำรนับถอื พระพุทธศำสนำนกิ ำย
ข. รฐั ค้ำขำยแข่งกับรำษฎร เถรวำทลทั ธลิ งั กำวงศม์ ำจำกแหง่ ใด
ก. นครศรธี รรมรำช
ค. รำษฎรค้ำขำยได้อย่ำงเสรี ข. ทวำรวดี
ค. หรภิ ญุ ชยั
ง. รำษฎรค้ำขำยสนิ ค้ำได้บำงชนิด ง. ศรลี งั กำ

4. ข้อใดเป็นภูมปิ ัญญำสมยั สุโขทยั ท่ีเก่ียวข้องกับ 11. ปัจจยั สำคญั ทท่ี ำใหส้ โุ ขทยั เส่อื มและตกเป็นส่วนหน่ึงของ
อยธุ ยำมหี ลำยประกำร ยกเวน้ ขอ้ ใด
ชลประทำน
ก. เกบ็ ภำษอี ำกรไดน้ ้อย
ก. เคร่อื งสงั คโลก ข. ลำยสอื ไทย ข. ควำมออ่ นแอทำงทหำร
ค. กำรคำ้ ซบเซำเพรำะอยไู่ กลทะเล
ค. เตำทุเรยี ง ง. สรดี ภงส์ ง. กำรแยง่ ชงิ อำนำจในหมรู่ ำชวงศพ์ ระรว่ ง

5. กำรมีสมั พนั ธไมตรีอนั ดีกบั ล้ำนนำส่งผลต่อสุโขทยั

อย่ำงไร

ก. สำมำรถเผยแพร่วฒั นธรรมได้อย่ำงเสรี

ข. ปลอดภยั จำกกำรถูกตีทำงเหนือ

ค. เป็นแหล่งวตั ถุดิบไว้ผลิตสินค้ำ

ง. ได้กำลงั ช่วยยำมเกิดสงครำม

6. แนวทำงกำรสร้ำงควำมสงบสุขของสงั คมสุโขทยั จำก

หลกั ฐำนท่ปี รำกฏนิยมใช้วิธีกำรใด

ก. ลงโทษผู้ฝ่ ำฝืนอย่ำงรุนแรง

ข. อบรมคนให้มศี ลี ธรรม

ค. ออกกฎหมำยท่ีเข้มงวด

ง. ให้รำงวลั แก่ผู้ทำควำมดี

12. ภมู ปิ ัญญำของชำวสโุ ขทยั ในขอ้ มลู ใดทเ่ี กย่ี วกบั กำรผลติ 14. กำรปกครองแบบพ่อปกครองลกู ส่งผลดตี ่อสโุ ขทยั อยำ่ งไร
ก. ทำใหข้ นุ นำงมอี ำนำจมำก
เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ ข. กำรละเมดิ กฎหมำยน้อยลง
ค. กษตั รยิ ก์ บั รำษฎรใกลช้ ดิ กนั
ก. อำวุธทท่ี ำดว้ ยสำรดิ ข. พระพทุ ธรปู ง. ชำวต่ำงชำตเิ ขำ้ มำตดิ ตอ่ คำ้ ขำยมำกขน้ึ

ค. เครอ่ื งสงั คโลก ง. ตระพงั 15. หลกั ฐำนใดทช่ี ว่ ยยนื ยนั วำ่ สโุ ขทยั มคี วำมเจรญิ มำกอ่ นท่ี
จะไดส้ ถำปนำเป็นรำชธำนี
13. กำรสถำปนำกรุงสโุ ขทยั เกดิ จำกวธิ ใี ด ก. พระรำชพงศำวดำรกรงุ สุโขทยั
ข. ขอ้ ควำมทป่ี รำกฏในศลิ ำจำรกึ
ก. อำณำจกั รขอมไดใ้ หอ้ สิ รภำพโดยมอบผคู้ นและ ค. เรอ่ื งรำวจำกเอกสำรจนี
ง. ศำสนสถำนศลิ ปะขอม
ทรพั ยส์ นิ มำสรำ้ งบำ้ นเมอื ง

ข. กลุ่มคนไทยรวมตวั ตงั้ ตนเป็นอสิ ระ ไมย่ อมอยู่ใต้

อำนำจขอม

ค. ขอมรบชนะชมุ ชนทอ่ี ยมู่ ำกอ่ นแลว้ ตงั้ กรุงสุโขทยั ขน้ึ

ง. กลุ่มคนไทยอพยพลงมำตงั้ ถนิ่ ฐำนบำ้ นเมอื ง

เฉลยก่อนเรียน

1. ก 2. ค 3. ค 4. ง 5. ข 6. ง 7. ก 8. ง 9. ข 10. ค
11. ค 12. ก 13. ก 14. ข 15. ข
เฉลยหลงั เรียน

1. ก 2. ค 3. ค 4. ง 5. ข 6. ข 7. ข 8. ค 9. ข 10. ก
11. ก 12. ค 13. ข 14. ค 15. ง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8

สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวชิ า ส 21104

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 เรอ่ื งที่ 1 ทีต่ ัง้ และสภาพทางภมู ศิ าสตร์ เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง

ครผู สู้ อน นายเอกศกั ด์ิ นกช่วย

*****************************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงของ

เหตุการณอ์ ย่างตอ่ เนอ่ื ง ตระหนกั ถงึ ความสำคัญ และสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบที่เกิดขนึ้

2.สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ทตี่ ง้ั และสภาพทางภูมิศาสตร์มีผลต่อพฒั นาการในด้านตา่ งๆ ของภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้

3.ตวั ช้วี ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ตัวชี้วัด

ส 4.2 ม.1/1 อธิบายพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย

ตะวนั ออกเฉียงใต้

จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) บอกทตี่ ้ังและสภาพทางภมู ิศาสตร์ในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตไ้ ด้

2) วิเคราะห์ทตี่ ้ังและสภาพทางภูมศิ าสตร์ท่ีมผี ลต่อพฒั นาการของภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใตไ้ ด้

4.สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง

- ที่ต้ังและสภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีผลต่อพัฒนาการ

ทางดา้ นต่าง ๆ

สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน

(พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา)

5.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

ความสามารถในการสือ่ สาร

ความสามารถในการคดิ

1) ทักษะการสำรวจคน้ หา 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์

3) ทักษะการตคี วาม 4) ทักษะการสรปุ ลงความเหน็

ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

6.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน

7.กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ

1. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• นกั เรียนรจู้ ักประเทศใดบ้างในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
(ไทย พม่า ลาว เวยี ดนาม กัมพูชา มาเลเซยี สิงคโปร์ บรูไน ฟิลปิ ปินส์ อินโดนีเซีย และติมอร์-เลสเต)
2. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ตามความสมัครใจ แล้วให้แต่ละกลุ่มเลือกหัวหน้ากลุ่ม รองหัวหน้า
กลมุ่ และเลขานกุ ารกลมุ่ โดยครูเนน้ ย้ำใหส้ มาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ ร่วมมอื และช่วยเหลอื กนั ในการทำกิจกรรม
3. ครูแจกแผนที่แสดงประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้นักเรียนกลุ่มละ 1 ชุด แล้วให้แต่ละกลุ่ม
ร่วมกันพิจารณาว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยประเทศใดบ้าง อยู่ตรงส่วนใดของแผนท่ี
และอยู่ติดกบั ประเทศใดบา้ ง
4. ครูสุ่มนักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี นโดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกันตรวจสอบความ
ถูกตอ้ ง

5. สมาชิกแต่ละกลมุ่ ร่วมกันวางแผนและกำหนดขอบเขตในการศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง ท่ีตั้งและสภาพทางภูมิศาสตร์
ท่ีมีผลต่อพัฒนาการ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากหนังสือเรียน บทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart
L.O. LMS Lite หนังสือค้นคว้าเพ่ิมเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ โดยให้ครอบคลุมประเด็นท่ี
กำหนดให้ ดงั น้ี
1) ทต่ี งั้ และสภาพทางภูมิศาสตร์
2) ท่ีตัง้ และสภาพทางภูมิศาสตรท์ ี่มผี ลตอ่ พัฒนาการของภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ด้านการเมือง
- ดา้ นเศรษฐกิจ
- ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม

ข้ันสอน
6. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้ตามแผนที่ไดว้ างไวจ้ ากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart
L.O. LMS Lite หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทึกความรู้ที่ได้จาก
การศกึ ษาลงในแบบบันทกึ การอ่าน

7. สมาชิกแตล่ ะคนในกลมุ่ ผลัดกนั อธบิ ายความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาให้สมาชิกคนอืน่ ๆ ในกลุ่มฟัง ผลดั กันซกั ถาม
ข้อสงสัยและอธิบายจนทกุ คนมีความเข้าใจชดั เจนตรงกัน

8. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเป็นพ้ืนฐานในการทำใบงานที่ 5.1 เร่ือง ท่ีต้ังและสภาพ
ทางภูมิศาสตร์ เมอื่ ทำเสร็จแลว้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและเติมเต็มคำตอบใหส้ มบูรณ์

ขั้นสรปุ
9. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 5.1 หน้าช้ันเรียน โดยครูเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง
และใหข้ ้อเสนอแนะ
10. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันปรับปรุงและพัฒนาผลงานในใบงานท่ี 5.1 ให้ถูกต้องสมบูรณ์ตามคำแนะนำท่ีไดร้ ับ
จากครู
11. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ท่ีตัง้ และสภาพทางภมู ิศาสตร์ท่ีมีผลตอ่ พัฒนาการในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉยี งใต้ ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
1) ทต่ี ้งั และสภาพทางภมู ิศาสตร์
2) ท่ีตั้งและสภาพทางภูมิศาสตรท์ ่ีมีผลต่อพฒั นาการของภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
- ดา้ นการเมอื ง
- ดา้ นเศรษฐกิจ
- ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม
12. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• สภาพทางภูมิศาสตร์ ในบริเวณใดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่น่าจะมีการตั้งถ่ินฐานของ
ผ้คู นเปน็ จำนวนมาก อธิบายเหตผุ ล
(บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ เช่น ท่ีราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในไทย ที่ราบลุ่มแม่น้ำอิระวดีในพม่า เป็นต้น
เพราะมีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการอุปโภคบริโภค การเพาะปลูก การเล้ียงสัตว์ รวมท้ัง
บริเวณที่ราบชายฝัง่ ทะเล ซงึ่ เหมาะแก่การเป็นจุดแวะพกั แลกเปลย่ี นสินค้าและการคมนาคมระหวา่ งกนั )

• ทต่ี ัง้ และสภาพทางภมู ิศาสตร์มีผลตอ่ พฒั นาการของภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใตใ้ นดา้ นใดชัดเจน
ทส่ี ุด อธิบายเหตุผล
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

8.การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรู้ (ประเมินตามสภาพจรงิ )
ที่ 5 ที่ 5

ตรวจใบงานที่ 5.1 ใบงานท่ี 5.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน
เกณฑ์

ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น
เกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่าน
รายบคุ คล เกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่าน
เกณฑ์

สังเกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ันในการ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่าน
ทำงาน เกณฑ์

9.ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้

ส่อื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน ประวัติศาสตร์ ม.1
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ิศาสตร์ ม.1 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบิล จำกดั
3) หนงั สือคน้ คว้าเพิม่ เติม

- ฮอลล.์ ด.ี จ.ี อ.ี 2549. ประวตั ศิ าสตรเ์ อเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ : สุวรรณภูมิ – อษุ าคเนย์ ภาคพสิ ดาร
เลม่ 1-2. แปลโดย วรุณยุพา สนิทวงศ์ ณ อยธุ ยา และคณะ. กรุงเทพมหานคร : มูลนธิ ิโครงการตำรา
สังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์

4) แผนท่ภี ูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
5) ใบงานท่ี 5.1 เรื่อง ทีต่ ้ังและสภาพทางภูมิศาสตร์
แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ

- http://th.wikipedia.org/wiki/เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 9

สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาประวัติศาสตร์ รหสั วชิ า ส 21104

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื งท่ี 2 พฒั นาการในสมัยโบราณของภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

ครูผสู้ อน นายเอกศกั ดิ์ นกชว่ ย

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปัจจุบันในดา้ นความสมั พนั ธ์และการเปลีย่ นแปลงของ

เหตกุ ารณอ์ ย่างตอ่ เน่อื ง ตระหนกั ถงึ ความสำคัญ และสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบท่เี กิดข้ึน

2.สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

ภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใตเ้ ปน็ ที่ต้ังของอาณาจกั รโบราณทม่ี ีความเจริญรุ่งเรอื ง และไดร้ บั อิทธิพลของ

อารยธรรมอนิ เดยี และอารยธรรมจนี จนนำไปสพู่ ฒั นาการทางการเมือง เศรษฐกจิ สังคม และวัฒนธรรม

3.ตัวช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ตวั ชีว้ ดั

ส 4.2 ม.1/1 อธิบายพัฒการทางสงั คม เศรษฐกิจ และการเมอื งของประเทศตา่ ง ๆ ในภมู ภิ าคเอเชีย

ตะวนั ออกเฉียงใต้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

- อธบิ ายพฒั นาการในสมยั โบราณของภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ได้

4.สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง

- พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย

ตะวันออกเฉียงใต้

สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่

(พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา)

5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

ความสามารถในการส่อื สาร

ความสามารถในการคดิ

1) ทกั ษะการสำรวจค้นหา 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์

3) ทักษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ 4) ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็

ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

6.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
1. มวี ินัย

7.กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ

1. ครูให้นักเรียนดูภาพกลองมโหระทึกสำริด และเครื่องมือสำริด แล้วครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับ
สง่ิ ของเหล่านนั้ ว่านา่ จะเก่ียวขอ้ งกับเร่อื งใด โดยครคู อยกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนทกุ คนมีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น

2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• รัฐโบราณในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ จดั อยใู่ นสมัยประวตั ศิ าสตรช์ ่วงใด
(ยคุ สำริด)

ขัน้ สอน
3. นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง พัฒนาการในสมัยโบราณของ
ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS
Lite และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทกึ ความรทู้ ่ีได้จากการศึกษาลงในแบบบันทกึ การอา่ น
4. สมาชิกแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ท่ีได้จากการศึกษา ให้เพ่ือนในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัยและ
ผลดั กนั อธบิ ายจนทกุ คนมคี วามเข้าใจชดั เจนตรงกนั
5. สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานท่ี 5.2 เร่ือง พัฒนาการในสมัยโบราณ เมื่อทำเสร็จแล้วช่วยกัน
ตรวจสอบความ ถูกตอ้ งและเตมิ เตม็ คำตอบใหส้ มบูรณ์
6. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด

• ส่ิงใดทอี่ าณาจักรโบราณไมไ่ ด้รับมาจากอินเดยี ทงั้ ทีอ่ ยใู่ ต้อทิ ธพิ ลอนิ เดีย
(ระบบวรรณะ)

• รฐั โบราณในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตม้ คี วามเจรญิ ทางวัฒนธรรมในลักษณะใด
(มคี วามเจริญเปน็ ของตนเอง และไดร้ บั อทิ ธิพลทางวฒั นธรรมจากอนิ เดียและจนี )

• นักเรียนคิดวา่ อะไรเป็นปัจจยั สำคัญที่ทำให้รัฐโบราณมพี ฒั นาการและอยู่รอดไม่ล่มสลาย
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)

ขัน้ สรุป

7. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั พฒั นาการในสมยั โบราณของภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
8. ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจากการทำใบงานท่ี 5.2
9. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปความรเู้ รื่อง พฒั นาการในสมยั โบราณของภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้

10. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด

• อทิ ธพิ ลของอารยธรรมอินเดียทีม่ ีผลต่ออาณาจักรโบราณต่าง ๆ ในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ได้แก่
อะไรบ้าง
(อิทธิพลจของอารยธรรมอินเดียมีหลายด้าน ทั้งด้านการเมืองการปกครอง เช่น แนวคิดเร่ืองเทวราชา
ด้านวรรณกรรม เช่น เร่ืองรามเกียรติ์ ด้านภาษา เช่น ภาษาบาลีและสันสกฤต ด้านศาสนา เช่น การนับ
ถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พระพทุ ธศาสนา เปน็ ต้น)

8.การวัดและประเมนิ ผล

วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 5.2 ใบงานท่ี 5.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่าน
เกณฑ์

สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ น
เกณฑ์

สังเกตความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ น
ทำงาน เกณฑ์

9.ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้

ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียน ประวัติศาสตร์ ม.1
2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite. ประวตั ศิ าสตร์ ม.1 บรษิ ัท เพลย์เอเบลิ จำกัด
3) บัตรภาพ
4) ใบงานที่ 5.2 เร่อื ง พัฒนาการในสมัยโบราณ
แหล่งการเรียนรู้
• แหล่งข้อมลู สารสนเทศ

- http://www.aksorn.com/LC/Hist/M1/11

บตั รภาพ 

ภาพก ง ระ ก ารด
ภาพเคร ง ารด

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 10

สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา ส 21104

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอื่ งท่ี 3 พฒั นาการในสมยั ใหม่ ของภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง

ครผู สู้ อน นายเอกศักด์ิ นกช่วย

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดตี จนถึงปจั จบุ นั ในด้านความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลงของ

เหตกุ ารณ์อยา่ งตอ่ เน่ือง ตระหนักถงึ ความสำคัญ และสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบทีเ่ กดิ ขนึ้

2.สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

สมัยใหม่ในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ เร่มิ ตน้ เม่ือชาติตะวนั ตกเข้ามามีอิทธพิ ล ทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงใน
ด้านต่าง ๆ ภายใตก้ ารนำของชาตติ ะวันตก

3.ตวั ช้ีวัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ตัวชวี้ ดั

ส 4.2 ม.1/1 อธบิ ายพฒั การทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศตา่ ง ๆ ในภมู ิภาคเอเชีย

ตะวนั ออกเฉยี งใต้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

- อธบิ ายพัฒนาการในสมัยใหมข่ องภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ได้

4.สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

- พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งของประเทศต่างๆ ในภูมภิ าคเอเชีย

ตะวันออกเฉียงใต้

สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

5.สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น

ความสามารถในการสื่อสาร

ความสามารถในการคิด

1) ทักษะการสำรวจคน้ หา 2) ทักษะการวเิ คราะห์

3) ทักษะการสังเคราะห์ 4) ทักษะการสรปุ ลงความเห็น

ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

6.คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

7.กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนำ

1. ครูแจกภาพธงชาติของชาติตะวันตกให้นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) กลุ่มละ 1 ภาพ

(อาจมีบางกลุ่มได้ภาพซ้ำกัน) แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายว่า ภาพธงชาติของชาติตะวันตกท่ีกลุ่มของ

ตนเองได้รับนั้น มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ และมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์สมัยใหม่ในภูมิภาคเอเชีย

ตะวันออกเฉยี งใตอ้ ยา่ งไรบา้ ง

2. ครูสุ่มตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการอภิปรายหน้าชั้นเรียน โดยครูและเพ่ือนกลุ่มอื่นร่วมกัน

แสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เติม

3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• ชาติตะวันตกชาตใิ ดบ้างท่ีเข้ามาขยายอิทธิพลในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้

(สเปน โปรตุเกส ฮอลันดา อังกฤษ ฝรง่ั เศส และสหรัฐอเมรกิ า)

ขั้นสอน

4. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ จับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละค่รู ่วมกันศกึ ษาความรูเ้ รื่อง พัฒนาการในสมยั ใหม่ของประเทศใน

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ใน

ประเดน็ ตอ่ ไปน้ี

- ผลดีและผลเสยี ของการทช่ี าติตะวนั ตกเข้ามายึดครอง ประเทศตา่ งๆ ในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้

- พัฒนาการทางด้านการเมืองการปกครอง

- พฒั นาการทางดา้ นเศรษฐกิจ

- พฒั นาการทางดา้ นสังคมและวฒั นธรรม

5. นกั เรียนแตล่ ะค่นู ำความรู้ท่ีได้มาวิเคราะห์ประเดน็ สำคญั พรอ้ มกับบันทกึ ความร้ทู ไี่ ดจ้ ากการศึกษาลงในแบบ

บนั ทึกการอ่าน

6. นักเรียนแต่ละคู่ช่วยกันทำใบงานที่ 5.3 เร่ือง พัฒนาการในสมัยใหม่ เมื่อทำเสร็จแล้วช่วยกันตรวจสอบ

ความถกู ต้องและเตมิ เตม็ คำตอบใหส้ มบูรณ์

7. นกั เรยี นแตล่ ะคผู่ ลดั กนั นำความรทู้ ่ีได้จากการศึกษาและการทำใบงานที่ 5.3 มาเล่าใหเ้ พอ่ื นอกี คูห่ นง่ึ ฟงั ผลัด

กนั ซกั ถามข้อสงสัยและอธิบายจนทุกคนมคี วามเข้าใจชัดเจนตรงกัน จากนนั้ หลอมรวมเปน็ คำตอบของกลุม่

8. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 5.3 หน้าช้ันเรียน โดยครูและเพ่ือนกลุ่มอื่นร่วมกัน

ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ งและให้ข้อเสนอแนะ

9. นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมตามตวั ชีว้ ัด : กิจกรรมท่ี 5.2 จากแบบวดั ฯ เป็นการบ้าน เม่ือทำเสร็จแล้วนำส่ง

ครูตามกำหนดเวลาท่ตี กลงกัน

10. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2
1) ชาติตะวนั ตกเขา้ มาภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ โดยมีวัตถปุ ระสงค์หลักอยา่ งไร
(ในช่วงแรกมีวัตถุประสงค์ เพื่อการค้าเคร่ืองเทศและการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ แต่ในช่วงหลังเพื่อเข้ายึด
ครองดนิ แดนต่างๆ เป็นอาณานิคม)
2) ประเทศใดบ้างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ท่ีตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก และตกเป็นของชน
ชาติใด
(พม่า มลายู (มาเลเซีย) สิงคโปร์ บรูไน ตกเป็นของอังกฤษ เวียดนาม กัมพูชา ลาว ตกเป็นของฝรั่งเศส
อินโดนีเซียตกเป็นของฮอลันดา ฟิลิปปินส์ตกเป็นของสหรัฐอเมริกา และติมอร์ตะวันออกตกเป็นของ
โปรตเุ กส)

ขนั้ สรปุ
11. สมาชิกแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั สรปุ ความรเู้ รื่อง พฒั นาการในสมัยใหมข่ องภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
12. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปเป็นพื้นฐานในการศึกษาพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของ
ภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตต้ อ่ ไป
13. ครูวัดและประเมนิ ผลนกั เรยี นจากการทำใบงานที่ 5.3
14. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ข้อ 1-3
1) การเข้ามาของชาติตะวันตกส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยใหม่
อยา่ งไรบา้ ง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน)
2) พฒั นาการในสมัยใหมข่ องภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้มีการเปลย่ี นแปลงไปอย่างไรบ้าง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)
3) เพราะเหตใุ ด ไทยจึงไม่ตกเปน็ อาณานคิ มของชาตติ ะวนั ตก
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผ้สู อน)

8.การวดั และประเมนิ ผล

วธีการ เคร ง เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 5.3 ใบงานท่ี 5.3 ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

9.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี น ประวัตศิ าสตร์ ม.1
2) แบบวดั และบันทึกผลการเรยี นรู้ ประวัตศิ าสตร์ ม.1
3) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวัตศิ าสตร์ ม.1 บรษิ ัท เพลยเ์ อเบลิ จำกดั
4) บตั รภาพ
5) ใบงานที่ 5.3 เรอื่ ง พัฒนาการในสมัยใหม่
แหล่งการเรียนรู้
-

บตั รภาพ 

ภาพธงชาติองั กฤษ ภาพธงชาติฝร่ังเศส

ภาพธงชาติฮอลันดา ภาพธงชาติสหรฐั อเมริกา

ภาพธงชาต ปรตเุ ก

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 11

สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาประวตั ิศาสตร์ รหัสวชิ า ส 21104

ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอ่ื งที่ 4 พฒั นาการในสมยั ปจั จุบนั ของภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง

ครผู สู้ อน นายเอกศักดิ์ นกช่วย

*****************************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ในด้านความสัมพนั ธ์และการเปลย่ี นแปลงของ

เหตุการณอ์ ยา่ งต่อเน่ือง ตระหนกั ถึงความสำคญั และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดข้นึ

2.สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

ประเทศในภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใตใ้ นปัจจบุ ัน พฒั นาตนเองจนเกดิ เปน็ ความเจริญรงุ่ เรืองในดา้ นตา่ ง ๆ

3.ตวั ช้ีวัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ตวั ชวี้ ัด
ส 4.2 ม.1/1 อธิบายพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย

ตะวันออกเฉียงใต้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- อธบิ ายพฒั นาการในสมยั ปัจจุบันของภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใตไ้ ด้

4.สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย

ตะวนั ออกเฉียงใต้
สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ
(พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา)

5.สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 2) ทกั ษะการวิเคราะห์
4) ทักษะการสรปุ ลงความเห็น
ความสามารถในการสือ่ สาร
ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการสำรวจค้นหา
3) ทักษะการสังเคราะห์
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

6.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

7.กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนำ

1. ครูให้นักเรียนดูวิดีทัศน์เก่ียวกับสงครามเวียดนามหรือวิดีทัศน์เกี่ยวกับความขัดแย้งที่เกิดข้ึนในภูมิภาคเอเชีย

ตะวนั ออกเฉยี งใต้

2. นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสงครามหรือความ

ขัดแย้งดงั กล่าวว่าส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตอ้ ย่างไร โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุก

คนมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็

3. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการอภิปรายหน้าช้ันเรียน แล้วให้เพื่อนกลุ่มอ่ืนได้นำเสนอ

เพม่ิ เตมิ ในส่วนทีแ่ ตกต่างกันออกไป

4. นกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคิด

• ความขดั แยง้ ทเี่ กิดขนึ้ ในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ มสี าเหตมุ าจากอะไรบา้ ง
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผสู้ อน)

ขัน้ สอน
5. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง พัฒนาการในสมัยปัจจุบัน จากหนังสือเรียน หรือบทเรียน
คอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite โดยแบง่ ประเดน็ ที่ใช้ในการศึกษากนั ตามความเหมาะสม
6. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำความรู้ที่ได้มาวิเคราะห์ประเด็นสำคัญ พร้อมกับบันทึกความรู้ที่ได้จากการศึกษา
ลงในแบบบนั ทกึ การอา่ น
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 5.4 เร่ือง พัฒนาการในสมัยปัจจุบัน เม่ือทำเสร็จแล้วช่วยกัน
ตรวจสอบความ ถกู ต้องและเตมิ เตม็ คำตอบใหส้ มบูรณ์
8. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 5.4 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอ่ืนร่วมกัน
ตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง และใหข้ ้อเสนอแนะ
9. นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมฝึกทักษะ: กิจกรรมที่ 1-2 จากแบบวัดฯ เป็นการบ้าน เสร็จแล้วนำส่งครู
ตามกำหนดเวลาทตี่ กลงกัน
10. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งท่ี 2 ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ร่วมกันต่อต้าน
คอมมวิ นสิ ตโ์ ดยวธิ ใี ด
(รวมกลุ่มกันจัดตั้งสมาคมอาสา ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นสมาคมแห่งชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ
อาเซยี นข้นึ เม่ือ พ.ศ. 2510 เพ่ือร่วมกันทางดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรม)

ขนั้ สรปุ
11. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง พัฒนาการในสมัยปัจจุบันของประเทศในภูมิภาคเอเชีย
ตะวนั ออกเฉยี งใต้
12. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้ท่ีได้จากการศึกษาไปเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของ
ภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตต้ อ่ ไป
13. ครวู ัดและประเมินผลนักเรียนจากการทำใบงานท่ี 5.4
14. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

• นโยบายเปลีย่ นสนามรบเป็นสนามการคา้ ในสมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีความสำคญั อยา่ งไร
(เปน็ การทตู แนวใหม่ เพื่อทำให้ประเทศทม่ี ีอดุ มการณ์และการปกครองแตกต่างกันสามารถหันมาร่วมมือ
กนั ทางด้านเศรษฐกจิ ซึ่งทำให้ทุกประเทศในอินโดจีนหันมาเจรจากบั ไทยดา้ นการค้าและการลงทุน)

• พฒั นาการของเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ภายหลังสิ้นสุดสงครามเยน็ เป็นอยา่ งไร
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อย่ใู นดุลยพินิจของครผู ้สู อน)

8.การวัดและประเมนิ ผล

วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 5.4 ใบงานท่ี 5.4 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

9.สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้

สื่อการเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น ประวัตศิ าสตร์ ม.1
2) แบบวัดและบันทกึ ผลการเรยี นรู้ ประวตั ิศาสตร์ ม.1
3) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ิศาสตร์ ม.1 บรษิ ัท เพลย์เอเบลิ จำกดั
4) วิดีทัศนเ์ ก่ียวกับสงครามเวียดนาม หรอื ความขัดแยง้ ทีเ่ กิดขึน้ ในภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
5) ใบงานที่ 5.4 เรื่อง พัฒนาการในสมัยปจั จบุ ัน
แหล่งการเรยี นรู้
-

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 12

สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ รหสั วิชา ส 21104

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรือ่ งท่ี 5 ความรว่ มมือของประเทศในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง

ครูผสู้ อน นายเอกศกั ดิ์ นกช่วย

*****************************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถึงปจั จุบนั ในดา้ นความสมั พันธ์และการเปลยี่ นแปลงของ

เหตุการณอ์ ยา่ งตอ่ เน่ือง ตระหนักถงึ ความสำคัญ และสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบทเี่ กดิ ขึน้

2.สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ความร่วมมือของประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศและความ

เจริญรุง่ เรอื งในดา้ นตา่ ง ๆ ในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้

3.ตัวชี้วัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ตัวช้ีวดั
ส 4.2 ม.1/1 อธิบายพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย

ตะวนั ออกเฉียงใต้
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายความร่วมมือผ่านการรวมกล่มุ เป็นอาเซยี นในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ได้
2) วิเคราะหผ์ ลท่ีเกิดจากความร่วมมือผา่ นการรวมกลุ่มเป็นอาเซียนในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใตไ้ ด้

4.สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- ความร่วมมือผ่านการรวมกลุ่มเป็นอาเซียนของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถือว่าเป็น

พฒั นาการของภูมภิ าค
สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
(พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา)

5.สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 2) ทกั ษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ

ความสามารถในการสอื่ สาร
ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการวเิ คราะห์
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

6.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

7.กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นนำ

1. ครูให้นักเรียนฟังเพลง The ASEAN Way แล้วให้นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกัน

แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับองคก์ รความร่วมมือตา่ ง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ่ีนักเรียนรู้จัก หรือ

เคยได้ยินมา

2. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการอภิปรายหน้าชั้นเรียนว่า องค์การดังกล่าวช่ืออะไร และมี

บทบาทหน้าท่ีอย่างไร โดยครแู ละเพ่ือนกลุ่มอืน่ รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและแสดงความคดิ เห็นเพิม่ เติม

3. สมาชิกแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ความร่วมมือระหว่างประเทศใน

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite

ห้องสมุด และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ตามหวั ขอ้ ที่กำหนดให้ ดังน้ี

- ความรว่ มมอื ดา้ นการเมืองและความม่ันคง

- ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ

- ความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรม

- ความรว่ มมอื ด้านวิทยาศาสตร์และส่ิงแวดลอ้ ม

- ความรว่ มมอื ด้านการจดั การภัยพบิ ตั ิ

แล้วบนั ทึกความร้ทู ่ไี ด้จากการศกึ ษาลงในแบบบันทกึ การอ่าน

4. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• สญั ลักษณแ์ ละสีตา่ งๆ ท่ีปรากฏบนธงอาเซยี น หมายถึงอะไรบ้าง

(สีน้ำเงิน หมายถึง สันตภิ าพ เสถียรภาพ สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและการมีพลวตั สีขาว หมายถึง

ความบริสุทธิ์ สเี หลือง หมายถึง ความเจริญรงุ่ เรอื ง ตรงกลางธงเปน็ รูปรวงข้าวสเี หลอื ง 10 รวง หมายถงึ

ประเทศสมาชิกท้ัง 10 ประเทศ ที่อยู่ร่วมกันอย่างมิตรภาพ เพราะมีน้ำหนึ่งใจเดยี วกัน ดังที่มีวงกลมรอบ

รวงขา้ วทงั้ หมด)

ขนั้ สอน

5. นกั เรยี นแตล่ ะครู่ ่วมกนั สรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั เร่ืองทศ่ี กึ ษาในประเดน็ ตอ่ ไปนี้

- ประวัตคิ วามเป็นมา

- การทำงาน

- ผลการดำเนนิ งาน

6. นกั เรียนแต่ละคู่ชว่ ยกันทำใบงานที่ 5.5 เรอ่ื ง ความร่วมมอื ของประเทศในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้

เสร็จแลว้ ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้องและเติมเต็มคำตอบให้สมบูรณ์

7. นกั เรียนแตล่ ะคนทำกจิ กรรมตามตัวชว้ี ดั : กิจกรรมท่ี 5.3-5.4 จากแบบวดั ฯ เปน็ การบ้าน เสร็จแล้วนำส่งครู
ตามกำหนดเวลาท่ีตกลงกัน

8. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• อาเซยี นได้ส่งเสรมิ ความร่วมมือดา้ นการเมอื งและความมน่ั คงอยา่ งไรบา้ ง
(มีการจัดทำและผลักดันให้ทุกประเทศในภูมิภาคให้ความสำคัญและยึดม่ันในสนธสิ ัญญาไมตรีและความ
ร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือพิจารณาตามตำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจ
ของครูผูส้ อน)

9. สมาชิกแต่ละคู่ในกลุ่มผลัดกันนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาและการทำใบงานที่ 5.5 มาเล่าให้เพ่ือนอีกคู่หนึ่ง
ภายในกลมุ่ ฟัง ผลัดกนั ซกั ถามขอ้ สงสัยและอธบิ ายจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชัดเจน

10. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• อาเซียนได้สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ด้านเศรษฐกจิ อย่างไรบ้าง
(มีการจัดต้ังเขตการค้าเสรอี าเซียน เพ่ือส่งเสรมิ การคา้ ระหวา่ งกัน)

ข้ันสรุป
11. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสรปุ ความรู้เรอ่ื ง ความร่วมมือของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้
12. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• อาเซยี นได้สง่ เสริมความร่วมมือดา้ นวทิ ยาศาสตร์และสง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งไรบ้าง
(ด้านวิทยาศาสตร์มีการจัดตั้งเครือข่ายและโครงการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้า นสิ่งแวดล้อมมี
การวางแผนจัดการภัยพิบัติที่เกิดขึ้นบ่อยคร้ังในภูมิภาค เช่น ไฟป่า การตัดต้นไม้ ทำลายป่า นอกจากนี้
ยังมีการจัดตง้ั ศูนย์หรือเครือข่ายเพ่ือส่งเสริมเทคโนโลยีท่ีไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีสะอาด
เป็นต้น)

13. สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับความร่วมมือของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จากหนังสือพิมพ์ นติ ยสาร วารสาร และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ นำมาวเิ คราะห์แลว้ สรปุ ผล

14. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดยครูและเพ่ือนกลุ่มอื่นร่วมกันแสดงความคิดเห็น
ใหข้ ้อเสนอแนะ

15. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• นักเรยี นรู้จักองคก์ รความร่วมมือในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตอ้ งคก์ รใดบา้ ง นอกเหนอื จากอาเซียน
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพินจิ ของครผู ูส้ อน)

16. ครใู หน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั แนวโนม้ ความร่วมมอื ขององคก์ รความรว่ มมือในเอเชยี
ตะวนั ออกเฉยี งใตใ้ นอนาคต

17. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• ประเทศไทยไดร้ ับผลอยา่ งไรบ้างในการเขา้ ร่วมเปน็ สมาชิกอาเซยี น
(พจิ ารณาคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของครูผสู้ อน)

ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันจดั ทำหนงั สอื เลม่ เลก็ เร่อื ง พัฒนาการของภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
โดยให้ครอบคลุมประเดน็ ตามท่ีกำหนด ดังนี้
1) การอธบิ ายที่ตั้งและสภาพทางภูมิศาสตรข์ องประเทศท่มี ีผลต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ของภมู ิภาคเอเชีย
ตะวนั ออก-เฉียงใต้
2) การอธบิ ายพัฒนาการของประเทศทีม่ ผี ลตอ่ พฒั นาการของภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
3) การอธบิ ายความรว่ มมอื ผ่านการรวมกล่มุ เปน็ อาเซยี นในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
4) การวิเคราะห์ผลทีเ่ กิดจากความร่วมมือผ่านการรวมกลุม่ เปน็ อาเซยี นในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้

8.การวดั และประเมนิ ผล

วธีการ เคร ง เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 5.5 ใบงานท่ี 5.5 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั ในการทำงาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจหนงั สอื เล่มเล็ก เรอ่ื ง พัฒนาการของภูมิภาค แบบประเมินหนังสอื เลม่ เลก็ เรอ่ื ง พฒั นาการ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ของภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้

9.ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

สอื่ การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี น ประวตั ศิ าสตร์ ม.1
2) แบบวัดและบันทกึ ผลการเรยี นรู้ ประวัตศิ าสตร์ ม.1
3) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ิศาสตร์ ม.1 บรษิ ทั เพลย์เอเบิล จำกัด
4) เพลง The ASEAN Way
5) ใบงานที่ 5.5 เรือ่ ง ความรว่ มมือของประเทศในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://www.mfa.go.th/asean/
- http://www.aseanthailand.org



การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินหนังสือเลม่ เลก็ เรือ่ ง พัฒนาการของภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้

รายการประเมิน ดมี าก (4) คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ปรบั ปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การ ธบาย ีตงั้ อธบิ ำยทต่ี งั้ และสภำพ อธบิ ำยทต่ี งั้ และสภำพ อธบิ ำยทต่ี งั้ และสภำพ อธบิ ำยทต่ี งั้ และสภำพ

แ ะ ภาพ าง ทำงภูมศิ ำสตรข์ อง ทำงภมู ศิ ำสตรข์ อง ทำงภมู ศิ ำสตรข์ อง ทำงภูมศิ ำสตรข์ อง

ภู ศา ตรข์ ง ประเทศทม่ี ผี ลต่อ ประเทศทม่ี ผี ลต่อ ประเทศทม่ี ผี ลต่อ ประเทศทม่ี ผี ลต่อ

ประเ ศ ี ีผ ต่ พฒั นำกำรของภมู ภิ ำค พฒั นำกำรของภมู ภิ ำค พฒั นำกำรของภมู ภิ ำค พฒั นำกำรของภมู ภิ ำค
พฒั นาการข ง เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
ภู ภาคเ เชีย ไดถ้ ูกตอ้ ง ละเอยี ด ไดถ้ ูกตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ไดถ้ กู ตอ้ งเป็นบำงสว่ น ไมถ่ ูกตอ้ ง
ตะวนั กเฉียงใต้ ชดั เจน

2. การ ธบาย อธบิ ำยพฒั นำกำรของ อธบิ ำยพฒั นำกำรของ อธบิ ำยพฒั นำกำรของ อธบิ ำยพฒั นำกำรของ

พฒั นาการข ง ประเทศทม่ี ผี ลต่อ ประเทศทม่ี ผี ลต่อ ประเทศทม่ี ผี ลต่อ ประเทศทม่ี ผี ลต่อ

ประเ ศ ี ีผ ต่ พฒั นำกำรของภมู ภิ ำค พฒั นำกำรของภมู ภิ ำค พฒั นำกำรของภมู ภิ ำค พฒั นำกำรของภมู ภิ ำค

พฒั นาการข ง เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
ภู ภาคเ เชีย ไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน ทงั้ ไดถ้ กู ตอ้ งชดั เจน 3 ดำ้ น ไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน 2 ดำ้ น ไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน 1 ดำ้ น
ตะวนั กเฉียงใต้ 4 ดำ้ น

3. การ ธบายควา อธบิ ำยควำมรว่ มมอื อธบิ ำยควำมรว่ มมอื อธบิ ำยควำมรว่ มมอื อธบิ ำยควำมรว่ มมอื

ร่ว ผา่ น ผำ่ นทำงกำรรวมกลมุ่ ผำ่ นทำงกำรรวมกลุม่ ผำ่ นทำงกำรรวมกลมุ่ ผำ่ นทำงกำรรวมกลุ่ม

างการรว ก ุ่ เป็นอำเซยี นในภมู ภิ ำค เป็นอำเซยี นในภมู ภิ ำค เป็นอำเซยี นในภมู ภิ ำค เป็นอำเซยี นในภมู ภิ ำค

เป็น าเซียนใน เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
ภู ภาคเ เชีย ไดถ้ ูกตอ้ ง ละเอยี ด ไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจนเป็น ไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจนเป็น ไดถ้ ูกตอ้ งเพยี งสว่ น
ตะวนั กเฉียงใต้ ชดั เจน ส่วนใหญ่ บำงส่วน น้อย และไมช่ ดั เจน

4. การวเคราะ ผ์ ี วเิ ครำะหผ์ ลทเ่ี กดิ จำก วเิ ครำะหผ์ ลทเ่ี กดิ จำก วเิ ครำะหผ์ ลทเ่ี กดิ จำก วเิ ครำะหผ์ ลทเ่ี กดิ จำก

เกดจากควา ควำมรว่ มมอื ผำ่ นกำร ควำมรว่ มมอื ผำ่ นกำร ควำมรว่ มมอื ผำ่ นกำร ควำมรว่ มมอื ผำ่ นกำร

รว่ ผา่ นการ รวมกลมุ่ เป็นอำเซยี นใน รวมกลุ่มเป็นอำเซยี นใน รวมกลุ่มเป็นอำเซยี นใน รวมกลุ่มเป็นอำเซยี นใน
รว ก ุ่ เป็น ภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออก ภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออก ภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออก ภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออก
าเซียนในภู ภาค เฉยี งใตไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง เฉียงใตไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง เฉยี งใตไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง เฉยี งใตไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง
เ เชียตะวนั ก ชดั เจน 4 ประเดน็ ขน้ึ ไป ชดั เจน 3 ประเดน็ ชดั เจน 2 ประเดน็ ชดั เจน 1 ประเดน็

เฉียงใต้

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ตำ่ กว่า 8

ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

คำชแี้ จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ทต่ี งั้ ทำงภมู ศิ ำสตรข์ องภูมภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ 6. ลกั ษณะเดน่ ของภูมภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใตค้ อื ขอ้ ใด
มกั มชี มุ ชนใหญ่ๆ อยใู่ นบรเิ วณใด
ก. บรเิ วณภเู ขำสงู ก. เป็นภมู ภิ ำคทไ่ี มร่ บั วฒั นธรรมภำยนอก
ข. ทร่ี ำบชำยฝัง่ ทะเล
ค. ทร่ี ำบระหวำ่ งภูเขำ ข. เป็นศูนยก์ ลำงกำรคำ้ ทส่ี ำคญั ทส่ี ุดของโลก
ง. บรเิ วณทอ่ี ยใู่ นเขตอำกำศอบอุ่น
ค. เป็นภมู ภิ ำคของควำมขดั แยง้ ทำงกำรเมอื งระหว่ำง
2. สภำพภมู อิ ำกำศของภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
มลี กั ษณะตำมขอ้ ใด ประเทศ
ก. อำกำศรอ้ นตลอดปี มฝี นตกชุก
ข. มสี ภำพภมู อิ ำกำศไมแ่ น่นอน ง. เป็นภมู ภิ ำคทส่ี ำมำรถผสมผสำนวฒั นธรรมหลกั กบั
ค. ฝนตกน้อย มฤี ดหู นำวยำวนำน
ง. ฤดรู อ้ นรอ้ นจดั ฤดหู นำวหนำวจดั ภำยนอก

3. ขอ้ ใดกลำ่ วไ ่ถูกตอ้ งเกย่ี วกบั สภำพทำงสงั คมและ 7. พน้ื ฐำนทำงเศรษฐกจิ ของภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
วฒั นธรรมของภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
ก. เป็นสงั คมทม่ี กี ำรแขง่ ขนั กนั อยำ่ งสงู ในดำ้ นตำ่ งๆ ขน้ึ อยกู่ บั ดำ้ นใด
ข. มคี วำมหลำกหลำยทำงดำ้ นภำษำ เชอ้ื ชำติ ศำสนำ
ค. เน้นวฒั นธรรมกำรบรโิ ภคขำ้ วเป็นอำหำรหลกั ก. เกษตรกรรม ข. อตุ สำหกรรม
ง. วถิ ชี วี ติ ของคนในสงั คมสว่ นใหญ่รบั อทิ ธพิ ลจำก
อนิ เดยี และจนี ค. พำณชิ ยกรรม ง. กำรทอ่ งเทย่ี ว

4. เหตุผลทำงดำ้ นภมู ศิ ำสตรใ์ นขอ้ ใด ทท่ี ำใหเ้ วยี ดนำม 8. เพรำะเหตใุ ด วถิ ชี วี ติ ของคนลำวจงึ เปลย่ี นแปลงชำ้ กวำ่
รบั อทิ ธพิ ลทำงดำ้ นตำ่ งๆ จำกจนี เป็นหลกั
ก. เคยถกู จนี เขำ้ ปกครองนบั พนั ปี ประเทศอ่นื ๆ ในภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
ข. มที ต่ี งั้ ตดิ กบั จนี ทงั้ ทำงบกและทำงทะเล
ค. อยใู่ นละตจิ ดู และลองจจิ ดู ทใ่ี กลเ้ คยี งกบั จนี ก. ลำวปิดประเทศ ไมย่ งุ่ เกย่ี วกบั ชำตใิ ดๆ
ง. อยใู่ นเขตอำกำศอบอนุ่ เชน่ เดยี วกบั จนี ทำใหม้ ี
วฒั นธรรมตำ่ งๆ คลำ้ ยกนั ข. คนลำวมคี วำมเชอ่ื ในผนู้ ำและมคี วำมเป็นชำตนิ ยิ มสงู

5. อทิ ธพิ ลของอำรยธรรมอนิ เดยี ทส่ี ่งผลต่อพฒั นำกำร ค. ประชำชนยดึ มนั่ ในขนบธรรมเนียมประเพณีอยำ่ ง
ของอำณำจกั รโบรำณในภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
มำกทส่ี ดุ คอื ขอ้ ใด เครง่ ครดั
ก. กำรปกครองและเศรษฐกจิ
ข. กำรปกครองและกำรเมอื ง ง. ลำวไมม่ ที ำงออกทะเล ทำใหต้ ดิ ต่อคำ้ ขำยกบั ประเทศ
ค. กำรปกครองและศำสนำ
ง. ภำษำและวฒั นธรรม อน่ื ๆ ไดล้ ำบำก

9. สำเหตุสำคญั ในขอ้ ใด ทท่ี ำใหส้ งิ คโปรม์ พี ฒั นำกำรทำง

เศรษฐกจิ ไดร้ วดเรว็ ทส่ี ุดในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้

ก. เคยถูกองั กฤษเขำ้ มำปกครอง

ข. มที รพั ยำกรธรรมชำตอิ ดุ มสมบูรณ์

ค. มรี ะบบกำรจดั กำรศกึ ษำทด่ี แี ละประชำกรมคี ุณภำพสงู

ง. มปี ระชำกรหลำกหลำยเชอ้ื ชำตอิ ำศยั อยรู่ ่วมกนั ทำให้

มกี ำรแลกเปลย่ี นวฒั นธรรมระหวำ่ งกนั อยำ่ งรวดเรว็

10. วตั ถปุ ระสงคส์ ำคญั ของอำเซยี นสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด

ก. รวมดนิ แดนทกุ ประเทศในภมู ภิ ำคเป็นรฐั เดยี ว

ข. มรี ฐั บำลกลำงเดยี วบรหิ ำรประเทศทเ่ี ป็นสมำชกิ

ค. ผนึกกำลงั ประเทศตำ่ งๆ ในภมู ภิ ำคใหเ้ ป็นปึกแผน่

ง. ใชร้ ะบอบกำรปกครองแบบเดยี วกนั ทกุ ประเทศ

แบบทดสอบหลังเรยี น

คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. วตั ถุประสงคส์ ำคญั ของอำเซยี นสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด 6. อทิ ธพิ ลของอำรยธรรมอนิ เดยี ทส่ี ่งผลตอ่ พฒั นำกำร

ก. ผนกึ กำลงั ประเทศต่ำงๆ ในภมู ภิ ำคใหเ้ ป็นปึกแผน่ ของอำณำจกั รโบรำณในภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้

ข. ใชร้ ะบอบกำรปกครองแบบเดยี วกนั ทกุ ประเทศ มำกทส่ี ดุ คอื ขอ้ ใด

ค. มรี ฐั บำลกลำงเดยี วบรหิ ำรประเทศทเ่ี ป็นสมำชกิ ก. ภำษำและวฒั นธรรม

ง. รวมดนิ แดนทกุ ประเทศในภมู ภิ ำคเป็นรฐั เดยี ว ข. กำรปกครองและศำสนำ

2. ลกั ษณะเด่นของภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใตค้ อื ขอ้ ใด ค. กำรปกครองและกำรเมอื ง

ก. เป็นภมู ภิ ำคของควำมขดั แยง้ ทำงกำรเมอื งระหวำ่ ง ง. กำรปกครองและเศรษฐกจิ

ประเทศ 7. เหตุผลทำงดำ้ นภมู ศิ ำสตรใ์ นขอ้ ใด ทท่ี ำใหเ้ วยี ดนำม

ข. เป็นภมู ภิ ำคทส่ี ำมำรถผสมผสำนวฒั นธรรมหลกั กบั รบั อทิ ธพิ ลทำงดำ้ นต่ำงๆ จำกจนี เป็นหลกั

ภำยนอก ก. อยใู่ นเขตอำกำศอบอุน่ เชน่ เดยี วกบั จนี ทำใหม้ ี

ค. เป็นศูนยก์ ลำงกำรคำ้ ทส่ี ำคญั ทส่ี ุดของโลก วฒั นธรรมต่ำงๆ คลำ้ ยกนั

ง. เป็นภมู ภิ ำคทไ่ี มร่ บั วฒั นธรรมภำยนอก ข. อยใู่ นละตจิ ดู และลองจจิ ดู ทใ่ี กลเ้ คยี งกบั จนี

3. สำเหตุสำคญั ในขอ้ ใด ทท่ี ำใหส้ งิ คโปรม์ พี ฒั นำกำรทำง ค. มที ต่ี งั้ ตดิ กบั จนี ทงั้ ทำงบกและทำงทะเล

เศรษฐกจิ ไดร้ วดเรว็ ทส่ี ุดในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ง. เคยถูกจนี เขำ้ ปกครองนบั พนั ปี
ก. มปี ระชำกรหลำกหลำยเชอ้ื ชำตอิ ำศยั อยรู่ ่วมกนั ทำให้ 8. ขอ้ ใดกล่ำวไ ถ่ ูกตอ้ งเกย่ี วกบั สภำพทำงสงั คมและ

มกี ำรแลกเปลย่ี นวฒั นธรรมระหวำ่ งกนั อย่ำงรวดเรว็ วฒั นธรรมของภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้

ข. มรี ะบบกำรจดั กำรศกึ ษำทด่ี แี ละประชำกรมคี ณุ ภำพสงู ก. วถิ ชี วี ติ ของคนในสงั คมส่วนใหญ่รบั อทิ ธพิ ลจำก

ค. มที รพั ยำกรธรรมชำตอิ ดุ มสมบูรณ์ อนิ เดยี และจนี

ง. เคยถกู องั กฤษเขำ้ มำปกครอง ข. เน้นวฒั นธรรมกำรบรโิ ภคขำ้ วเป็นอำหำรหลกั

4. ทต่ี งั้ ทำงภมู ศิ ำสตรข์ องภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ค. มคี วำมหลำกหลำยทำงดำ้ นภำษำ เชอ้ื ชำติ ศำสนำ

มกั มชี ุมชนใหญ่ๆ อยใู่ นบรเิ วณใด ง. เป็นสงั คมทม่ี กี ำรแขง่ ขนั กนั อยำ่ งสงู ในดำ้ นต่ำงๆ

ก. บรเิ วณทอ่ี ยใู่ นเขตอำกำศอบอุ่น 9. พน้ื ฐำนทำงเศรษฐกจิ ของภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้

ข. ทร่ี ำบระหวำ่ งภูเขำ ขน้ึ อยกู่ บั ดำ้ นใด

ค. ทร่ี ำบชำยฝัง่ ทะเล ก. พำณชิ ยกรรม ข. กำรทอ่ งเทย่ี ว

ง. บรเิ วณภเู ขำสงู ค. อตุ สำหกรรม ง. เกษตรกรรม

5. เพรำะเหตุใด วถิ ชี วี ติ ของคนลำวจงึ เปลย่ี นแปลงชำ้ กวำ่ 10. สภำพภูมอิ ำกำศของภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้

ประเทศอน่ื ๆ ในภมู ภิ ำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ มลี กั ษณะตำมขอ้ ใด

ก. ลำวไมม่ ที ำงออกทะเล ทำใหต้ ดิ ตอ่ คำ้ ขำยกบั ประเทศ ก. ฤดรู อ้ นรอ้ นจดั ฤดหู นำวหนำวจดั

อ่นื ๆ ไดล้ ำบำก ข. ฝนตกน้อย มฤี ดหู นำวยำวนำน

ข. ประชำชนยดึ มนั่ ในขนบธรรมเนยี มประเพณอี ยำ่ ง ค. มสี ภำพภมู อิ ำกำศไมแ่ น่นอน
ง. อำกำศรอ้ นตลอดปี มฝี นตกชุก
เครง่ ครดั

ค. คนลำวมคี วำมเชอ่ื ในผนู้ ำและมคี วำมเป็นชำตนิ ิยมสงู
ง. ลำวปิดประเทศ ไมย่ งุ่ เกย่ี วกบั ชำตใิ ดๆ

เฉลยก่อนเรียน

1. ข 2. ก 3. ก 4. ข 5. ค 6. ง 7. ก 8. ง 9. ค 10. ค
เฉลยหลงั เรยี น

1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ก 6. ข 7. ค 8. ง 9. ง 10. ก

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 13

สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา ส 21104

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 เรอ่ื งท่ี 1 แหล่งอารยธรรมในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

ครผู สู้ อน นายเอกศกั ด์ิ นกช่วย

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 ระบคุ วามสำคัญของแหลง่ อารยธรรมในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้

2.สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

แหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดจากชุมชนโบราณที่เคยตั้งถิ่นฐานได้สร้างสรรค์ ความ

เจรญิ มาเป็นเวลานานจนกลายเป็นอารยธรรมทีม่ ีความสำคญั ต่อพัฒนาการของภมู ิภาค

3.ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ตัวช้วี ดั

ส 4.2 ม.1/2 ระบคุ วามสำคญั ของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

- อธบิ ายความหมายและความสำคัญของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้

4.สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

- ท่ีตั้งและความสำคัญของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น แหล่งมรดกโลกใน

ประเทศต่าง ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ (เชื่อมโยงกับ มฐ. ส 4.3)

สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ

- ความหมายของอารยธรรม

5.สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน

ความสามารถในการสอื่ สาร

ความสามารถในการคดิ

1) ทักษะการสำรวจคน้ หา 2) ทกั ษะการวิเคราะห์

3) ทกั ษะการสังเคราะห์ 4) ทักษะการสรปุ ลงความเหน็

ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

6.คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

7.กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนำ

1. ครูให้นักเรียนดูวิดีทศั น์ หรือภาพเกยี่ วกับแหลง่ อารยธรรมในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ แล้วให้นกั เรียน
ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นตอ่ ไปนี้

- อารยธรรม หมายถงึ อะไร และมคี วามสำคัญอยา่ งไร
- แหล่งอารยธรรมสำคัญในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตไ้ ด้แกท่ ใี่ ดบา้ ง

โดยครคู อยกระต้นุ ใหน้ กั เรยี นทกุ คนมีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็

ขั้นสอน
2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง
ค่อนข้างออ่ น และออ่ น
3. สมาชิกแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ความหมายและความสำคัญของ
แหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O.
LMS Lite และห้องสมุด แล้วบันทึกความรู้ที่ได้จากการศึกษาลงในแบบบันทึกการอ่าน จากน้ันร่วมกันสรุป
สาระสำคญั
4. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด
 อารยธรรม คอื อะไร
(อารยธรรม หมายถึง ความเจริญของมนุษยชาติโดยมีพัฒนาการทางด้านต่าง ๆ ทั้งทางด้านการผลิต
อาหาร การหลอมโลหะเป็นเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ในชีวิตประจำวัน การอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนเมือง มีการจัด
ระเบียบการปกครอง รวมท้ังมีตัวหนังสือใช้)
5. สมาชิกแต่ละคู่นำความรู้ท่ีได้จากการศึกษามาเล่าให้เพ่ือนอีกคู่หน่ึงภายในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัย
และอธบิ ายจนทุกคนมีความเขา้ ใจชัดเจนตรงกัน
6. ครูอธิบายความหมายและความสำคัญของอารยธรรมให้นักเรียนฟังเพิ่มเติม เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความ
เข้าใจชัดเจนมากย่ิงข้ึน
7. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• การเรยี นรเู้ กยี่ วกับอารยธรรม มีความสำคัญอย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)

ขั้นสรุป
8. นกั เรยี นแตล่ ะคชู่ ว่ ยกนั ทำใบงานท่ี 6.1 เร่ือง แหลง่ อารยธรรมในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
9. สมาชกิ แตล่ ะคผู่ ลดั กันเลา่ ผลงานในใบงานท่ี 6.1 ใหเ้ พ่ือนอีกคู่หน่งึ ฟงั ผลดั กันซกั ถามข้อสงสัย และหลอม
รวมเป็นคำตอบของกลุม่
10. ครูตรวจสอบผลนกั เรยี นจากการทำใบงานท่ี 6.1

11. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• แหล่งอารยธรรมทส่ี ำคัญในประเทศไทย ได้แก่ แหลง่ ใดบา้ ง และมคี วามสำคัญอยา่ งไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)

8.การวัดและประเมนิ ผล

วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 (ประเมินตามสภาพจรงิ )

ตรวจใบงานที่ 6.1 ใบงานที่ 6.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน แบบบันทึกการอา่ น ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มนั่ ในการทำงาน แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

9.สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้

ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น ประวตั ิศาสตร์ ม.1
2) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวัติศาสตร์ ม.1 บรษิ ทั เพลย์เอเบิล จำกัด
3) วดิ ีทัศนเ์ ก่ยี วกับแหล่งอารยธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้
4) บตั รภาพ
5) ใบงานที่ 6.1 เรือ่ ง แหลง่ อารยธรรมในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
แหล่งการเรียนรู้
- หอ้ งสมดุ

บตั รภาพ 

ภาพแ ่งวฒั นธรร บา้ นเชียง จงั วดั ดุ รธานี
ภาพแ ่งวฒั นธรร ยะรงั จงั วดั ปัตตานี

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 14

สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 21104

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เร่อื งท่ี 2 แหลง่ มรดกโลกในภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (1) เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง

ครูผสู้ อน นายเอกศกั ดิ์ นกช่วย

*****************************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 ระบุความสำคัญของแหลง่ อารยธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้

2.สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

มรดกโลกเป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาตใิ นโลกทม่ี คี ุณคา่ สูงยงิ่ ต่อมนุษย์

3.ตัวช้ีวัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้

ตัวชี้วดั

ส 4.2 ม.1/2 ระบุความสำคญั ของแหล่งอารยธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1) อธบิ ายความหมายและความสำคญั ของแหล่งอารยธรรมในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้

2) บอกคุณคา่ ของแหลง่ มรดกโลกได้
4.สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

- ท่ีต้ังและความสำคัญของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น แหล่งมรดกโลกใน

ประเทศต่าง ๆ ของเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (เชอ่ื มโยงกบั มฐ. ส 4.3)

สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ

- ความหมายและคุณค่าของแหลง่ มรดกโลก
5.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

ความสามารถในการสอ่ื สาร

ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา
2) ทักษะการวิเคราะห์
3) ทักษะการสรปุ ลงความเห็น
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

6.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มัน่ ในการทำงาน

7.กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นำ

1. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• นักเรียนคิดว่า มรดกโลกหมายถึงอะไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพินิจของครผู ู้สอน)

2. ครูใหน้ ักเรยี นดวู ดิ ที ัศน์เก่ียวกบั แหลง่ มรดกโลกต่าง ๆ แล้ว ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในประเด็น
ต่อไปน้ี

- จากวดิ ีทัศน์ท่ไี ดช้ ม นักเรียนรู้จักแหล่งมรดกโลกใดบา้ ง
- แหล่งมรดกโลกดงั กล่าวตัง้ อย่ทู ี่ใด และมีความสำคัญอย่างไร

โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรยี นทุกคนมีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เหน็
3. ครอู ธิบายเชือ่ มโยงใหน้ ักเรยี นเห็นคณุ คา่ ของแหลง่ มรดกโลก

ข้นั สอน

4. นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) จับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง
ความหมายและคุณค่าของแหล่งมรดกโลก จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS
Lite จากใบความรู้ เรื่อง มรดกโลก และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทึกความรู้ท่ีได้จากการศึกษาลงใน
แบบบนั ทึกการอา่ น

5. สมาชิกแต่ละคู่ในกลุ่มผลัดกันอภิปรายความรู้ท่ีได้จากการ ศึกษาให้เพื่อนคู่อืน่ ๆ ในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถาม
ขอ้ สงสัยและอธบิ ายจนทุกคนมคี วามเข้าใจชดั เจนตรงกนั

6. ครอู ธิบายความรู้เก่ยี วกับความหมายและคุณค่าของแหล่งมรดกโลก ให้นักเรียนฟังเพ่ิมเติม เพอื่ ให้นักเรียนมี
ความร้คู วามเขา้ ใจชดั เจนมากยง่ิ ข้นึ

7. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับมรดกความทรงจำแห่งโลกในประเทศไทย ว่ามีอะไรบา้ ง และมีคุณค่า
อยา่ งไร โดยครูคอยกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนทกุ คนมีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น

8. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้จากใบความรู้ เรื่อง มรดกความทรงจำแห่งโลกในประเทศไทย แล้วนำความรู้มา
เลา่ สู่กนั ฟัง (นอกเวลาเรียน)

9. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ช่วยกนั ทำใบงานท่ี 6.2 เรื่อง มรดกโลก และเติมเต็มคำตอบใหส้ มบรู ณ์
10. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 6.2 หน้าช้ันเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอ่ืนช่วยกัน

ตรวจสอบความถกู ต้องและใหข้ ้อเสนอแนะ
11. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

 องค์การยเู นสโกมสี ่วนชว่ ยอนุรกั ษ์มรดกโลกอย่างไรบ้าง
(ให้เงินแก่รัฐบาลของแหล่งมรดกโลกนั้น ในการอนุรักษ์ซ่อมแซมแหล่งมรดกโลกอย่างถูกวิธี หรือ
พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู ู้สอน)

ขน้ั สรปุ
12. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สรุปความร้เู รื่อง ความหมายและคณุ คา่ ของมรดกโลก ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้
- ความหมาย
- การขึ้นทะเบียน
- คณุ ค่าของมรดกโลก
- มรดกความทรงจำแหง่ โลก
13. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้ท่ีได้จากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาความรู้เกี่ยวกับแหล่งมรดกโลก
ในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ต่อไป
14. ครูวัดและประเมนิ ผลนักเรียนจากการทำใบงานท่ี 6.2
15. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
• นักเรียนคิดวา่ มรดกความทรงจำแหง่ โลกแตกต่างจากมรดกโลกอยา่ งไรบา้ ง
(มรดกโลกเป็นแหล่งธรรมชาตหิ รือแหล่งวัฒนธรรมที่มนุษยส์ ร้างข้ึน เชน่ อนุสาวรีย์ กลุ่มอาคาร ฯลฯ มี
คุณค่า เป็นเอก เป็นสากล สมควรท่ีทั่วโลกจะช่วยกันปกป้องรักษาไวใ้ ห้อนุชนรุ่นหลังได้รู้จักช่ืนชมสืบไป
สว่ นมรดกความทรงจำแห่งโลกเปน็ เอกสารที่บันทึกเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร)
• เอกสารลายลักษณ์อักษรในแต่ละประเทศ จะไดร้ ับการยกยอ่ งเป็นมรดกความทรงจำไดใ้ นกรณีใดได้
บ้าง
(ตอ้ งเปน็ ของแท้ มเี พียงชนิ้ เดียว และมคี วามสำคญั ระดับโลก)
• แหลง่ มรดกโลกมีคุณค่าอยา่ งไรบ้าง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผ้สู อน)

8.การวัดและประเมนิ ผล

วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์

ตรวจใบงานที่ 6.2 ใบงานท่ี 6.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบบนั ทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

9.ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้

สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี น ประวตั ศิ าสตร์ ม.1
2) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ศิ าสตร์ ม.1 บรษิ ัท เพลย์เอเบิล จำกัด
3) ใบความรู้ เรื่อง มรดกโลก
4) ใบความรู้ เร่ือง มรดกความทรงจำแหง่ โลกในประเทศไทย
5) วิดีทศั นเ์ ก่ียวกบั แหล่งมรดกโลกต่าง ๆ
6) ใบงานที่ 6.2 เร่อื ง มรดกโลก
แหล่งการเรียนรู้

• แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
- http://www.aksorn.com/LC/Hist/M1/13
- http://www.aksorn.com/LC/Hist/M1/14

ใบความรู้

เร ง รดก ก

มรดกโลก (World Heritage Site) คอื สถำนทอ่ี นั ไดแ้ ก่ ป่ำไม้ ภเู ขำ ทะเลสำบ ทะเลทรำย อนุสำวรยี ์ สงิ่ กอ่ สรำ้ งต่ำงๆ
รวมไปถงึ เมอื ง ซง่ึ คดั เลอื กโดยองคก์ ำรยเู นสโกตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2515 เพอ่ื เป็นกำรบ่งบอกถงึ คุณคำ่ ของสงิ่ ทม่ี นุษยชำตหิ รอื
ธรรมชำตไิ ดส้ รำ้ งขน้ึ มำ และควรจะปกป้องสงิ่ เหล่ำนนั้ ไดอ้ ยำ่ งไร เพ่อื ใหไ้ ดต้ กทอดไปถงึ อนำคต

ตำมอนุสญั ญำว่ำดว้ ยกำรคุม้ ครองมรดกทำงวฒั นธรรมและธรรมชำตขิ องโลก (The World Heritage Convention)
ไดแ้ บ่งพน้ื ทม่ี รดกโลกออกเป็น มรดกทำงวฒั นธรรม (Cultural Heritage) มรดกโลกทำงธรรมชำติ (Natural Heritage) และ
มรดกโลกผสมผสำน (Mixed Heritage)

ตอ่ มำแผนงำนขององคก์ ำรศกึ ษำวทิ ยำศำสตร์ และวฒั นธรรมแหง่ สหประชำชำติ หรอื ยเู นสโกกำหนดมรดกควำม
ทรงจำแหง่ โลก (Memory of the World) ขน้ึ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื กำรอนุรกั ษ์ และกำรเผยแพร่
มรดกภมู ปิ ัญญำของโลกทบ่ี นั ทกึ ไวเ้ ป็นลำยลกั ษณ์อกั ษร ไมว่ ำ่ จะเป็นกำรบนั ทกึ ไวใ้ นรปู แบบใดหรอื ของประเทศใดกต็ ำม
ถอื วำ่ เป็นแหล่งรวมควำมคดิ ควำมรู้ ประสบกำรณ์ ทส่ี ำมำรถสะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ควำมหลำกหลำยทงั้ ในดำ้ นของวฒั นธรรม
จำกสงั คมในอดตี ใหแ้ ก่สงั คมปัจจบุ นั และเพอ่ื ทจ่ี ะสบื สำนส่งต่อใหแ้ กส่ งั คมในอนำคต

ในพ.ศ. 2553 มมี รดกโลกทข่ี น้ึ ทะเบยี นแลว้ ทงั้ สน้ิ 911 แห่ง แบง่ ออกเป็นมรดกโลกทำงวฒั นธรรม 704 แหง่ มรดกโลก
ทำงธรรมชำติ 180 แหง่ และมรดกโลกแบบผสม 27 แหง่ ตงั้ อยใู่ น 151 ประเทศ มกี ำรแบ่งออกเป็น 5 พน้ื ท่ี ไดแ้ ก่ แอฟรกิ ำ
อำหรบั เอเชยี แปซฟิ ิก ยโุ รป-อเมรกิ ำเหนอื และอเมรกิ ำใต-้ แครบิ เบยี น โดยอติ ำลเี ป็นประเทศทจ่ี ำนวนมรดกโลกมำกทส่ี ดุ
คอื 44 แหง่ ซง่ึ นำไปสคู่ วำมรว่ มมอื ระดบั นำนำชำตใิ นกำรสง่ เสรมิ และสนับสนุนใหแ้ หล่งมรดกโลกไดร้ บั กำรคุม้ ครองและ
สงวนรกั ษำอยำ่ งจรงิ จงั มรดกโลกแต่ละแหง่ เป็นทรพั ยส์ นิ ของประเทศทเ่ี ป็นเจำ้ ของดนิ แดนทม่ี รดกโลกตงั้ อยู่ แต่ไดถ้ กู
พจิ ำรณำใหเ้ ป็นผลประโยชน์ของประชำคมระหว่ำงประเทศในกำรอนุรกั ษม์ รดกโลกแหง่ นนั้

คณะกรรมกำรมรดกโลกจะมกี ำรประชมุ รว่ มกนั หลำยครงั้ ในแต่ละปี เพอ่ื อภปิ รำยถงึ แผนกำรจดั กำรเกย่ี วกบั แหล่ง
มรดกโลกทย่ี งั คงอยู่ และรบั รำยชอ่ื สถำนทท่ี ป่ี ระเทศตำ่ งๆ เสนอใหไ้ ดร้ บั กำรพจิ ำรณำใหข้ น้ึ ทะเบยี นเป็นมรดกโลก และจะมี
กำรประชมุ ครงั้ หน่ึงทเ่ี รยี กวำ่ กำรประชมุ คณะกรรมกำรมรดกโลกสมยั สำมญั ซง่ึ จดั ขน้ึ เป็นประจำทุกปี เพ่อื ตดั สนิ วำ่ สถำนท่ี
ทไ่ี ดร้ บั กำรเสนอชอ่ื แหง่ ใดทจ่ี ะไดร้ บั กำรขน้ึ ทะเบยี นอยำ่ งเป็นทำงกำร

กำรประชมุ สมยั สำมญั ประจำปีจะผลดั เปลย่ี นหมุนเวยี นกนั จดั ในเมอื งสำคญั ตำ่ งๆ จำกทวั่ โลก ซง่ึ นอกจำกครงั้ ทจ่ี ดั ขน้ึ
ทก่ี รุงปำรสี อนั เป็นทต่ี งั้ ของสำนกั งำนใหญข่ ององคก์ ำรยเู นสโกแลว้ จะมเี พยี งประเทศทเ่ี ป็นสมำชกิ ของคณะกรรมกำร
มรดกโลกเท่ำนนั้ ทจ่ี ะไดร้ บั สทิ ธใิ นกำรจดั กำรประชมุ ครงั้ ต่อไป โดยจะตอ้ งไดร้ บั ควำมเหน็ ชอบจำกคณะกรรมกำร และรบั รอง
ไดว้ ำ่ สมำชกิ ภำพของประเทศนัน้ ๆ จะไมห่ มดวำระลงเสยี ก่อนทจ่ี ะไดจ้ ดั กำรประชมุ

เร ง รดกควา รงจาแ ่ง กในประเ ศไ ย

1. ศ าจารกพ่ ขนุ รา คาแ ง าราช ร ศ าจารก กั ี 1

ศลิ ำจำรกึ พอ่ ขนุ รำมคำแหงมหำรำช หรอื ศลิ ำจำรกึ สุโขทยั หลกั ท่ี 1 เป็นหลกั ศลิ ำ

สงู 114.5 เซนตเิ มตร กวำ้ ง-ยำว 135.5 เซนตเิ มตร จำรกึ อกั ษรไทยสมยั สโุ ขทยั ทงั้ สด่ี ำ้ น

ดำ้ นท่ี 1 และดำ้ นท่ี 2 มี 35 บรรทดั ดำ้ นท่ี 3 และดำ้ นท่ี 4 มี 27 บรรทดั

เมอ่ื ครงั้ พระบำทสมเดจ็ พระจอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั (รชั กำลท่ี 4) ยงั ทรงดำรงพระ

อสิ รยิ ยศเป็นเจำ้ ฟ้ำมงกฎุ ฯ ขณะทรงผนวชและเสดจ็ จำรกิ ธุดงค์ ทรงพบศลิ ำจำรกึ

ดงั กล่ำวทบ่ี รเิ วณเมอื งเกำ่ สุโขทยั จงึ โปรดเกลำ้ ฯ ให้ นำมำยงั พระนครปัจจบุ นั เกบ็ รกั ษำ

ไวท้ พ่ี พิ ธิ ภณั ฑสถำนแหง่ ชำตพิ ระนคร

ตวั อกั ษรในศลิ ำจำรกึ เป็นตวั อกั ษรทม่ี ลี กั ษณะเป็นเอกลกั ษณ์ แตกต่ำงจำกอกั ษรอ่นื ในสมยั เดยี วกนั เชอ่ื กนั วำ่

พอ่ ขนุ รำมคำแหงมหำรำชทรงประดษิ ฐข์ น้ึ เน้ือหำในศลิ ำจำรกึ กล่ำวถงึ พระรำชประวตั ขิ องพระองค์ สภำพบำ้ นเมอื งของ

สโุ ขทยั ทงั้ ดำ้ นภมู ศิ ำสตร์ กำรปกครอง สงั คม ประเพณี วฒั นธรรมควำมเชอ่ื ของผคู้ นถอื วำ่ เป็นหลกั ฐำนทำงประวตั ศิ ำสตร์

สำคญั ทบ่ี นั ทกึ และประกำศขอ้ มลู ขำ่ วสำรสำธำรณะ และนโยบำยของรฐั โบรำณใหส้ ำธำรณชนรบั ทรำบ และมผี ลต่อประวตั ขิ อง

โลกนอกพรมแดนวฒั นธรรมของไทย ทำใหเ้ ขำ้ ใจควำมสำคญั ของกำรปกครอง กำรคำ้ ขำย กำรตดิ ต่อแลกเปลย่ี น กบั

ชำตติ ่ำงๆ ในชว่ งเวลำของยคุ สุโขทยั มคี วำมสมบรู ณ์ในตวั เอง นบั เป็นเอกสำรสำธำรณะทห่ี ำไดย้ ำกยง่ิ
องคก์ ำรศกึ ษำวทิ ยำศำสตรแ์ ละวฒั นธรรมแห่งสหประชำชำติ (ยเู นสโก) จดทะเบยี นศลิ ำจำรกึ สโุ ขทยั หลกั ท่ี 1 หรอื

ศลิ ำจำรกึ พอ่ ขนุ รำมคำแหงมหำรำช เป็นมรดกควำมทรงจำแหง่ โลกเมอ่ื 16 ตุลำคม พ.ศ. 2546 ตรงกบั วำระครบรอบ 720 ปี

ของศลิ ำจำรกึ สุโขทยั หลกั ท่ี 1 หรอื ศลิ ำจำรกึ พอ่ ขนุ รำมคำแหงมหำรำช

2. ศ าจารกวดั พระเชตพุ นว งั ค ารา ราชวร าว าร (วดั พธ์)

ศลิ ำจำรกึ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลำรำมรำชวรมหำวหิ ำร (วดั โพธ)ิ์ เป็นจำรกึ ท่ี
พระบำทสมเดจ็ พระนงั่ เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั (รชั กำลท่ี 3) โปรดเกลำ้ ฯ ใหร้ วบรวมควำมรดู้ ำ้ นตำ่ งๆ
จำรกึ ลงบนแผน่ หนิ อ่อนจำนวน 1,360 แผน่ ประดบั ไวต้ ำมบรเิ วณผนงั เสำระเบยี งรอบพระอโุ บสถ
พระวหิ ำร พระวหิ ำรคด และศำลำรำยรอบพระมณฑปภำยในวดั เพอ่ื ใหป้ ระชำชนทวั่ ไปไดม้ ี
โอกำสศกึ ษำหำควำมรไู้ ดอ้ ยำ่ งเท่ำเทยี มกนั จงึ ถอื ไดว้ ำ่ วดั โพธเิ์ ป็นมหำวทิ ยำลยั แหง่ แรกของไทย

จำรกึ วดั โพธดิ์ งั กล่ำว มที งั้ หมด 8 หมวด คอื หมวดพระพุทธศำสนำ หมวดวรรณคดี
หมวดทำเนียบ หมวดประเพณี หมวดประวตั วิ ดั หมวดสภุ ำษติ หมวดอนำมยั และหมวดตำรำยำ

องคก์ ำรศกึ ษำวทิ ยำศำสตรแ์ ละวฒั นธรรมแหง่ สหประชำชำติ (ยเู นสโก) จดทะเบยี นจำรกึ วดั โพธเิ์ป็นมรดกควำม
ทรงจำแหง่ โลกภมู ภิ ำคเอเชยี แปซฟิ ิก ตงั้ แตว่ นั ท่ี 21 กุมภำพนั ธ์ พ.ศ. 2551 และตอ่ มำเมอ่ื วนั ท่ี 16 มถิ นุ ำยน พ.ศ. 2554
ทำงยเู นสโกยงั ไดร้ บั รองจำรกึ ดงั กล่ำวน้จี ำนวน 1,440 ชน้ิ เป็นมรดกควำมทรงจำแหง่ โลกในทะเบยี นนำนำชำตอิ กี ดว้ ย

3. เ ก าร าคญั ข งพระบา เดจ็ พระจุ จ เก ้าเจา้ ยู่ วั (รชั กา ี 5)
เกียวกบั การปฏรปู การบร ารการปกคร งแผน่ ดน

นอกจำกพระบำทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลำ้ เจำ้ อย่หู วั (รชั กำลท่ี 5) จะไดร้ บั กำร

ประกำศเป็นบุคคลสำคญั แหง่ โลกทย่ี เู นสโกรว่ มเฉลมิ ฉลองเมอ่ื ปี 2544 แลว้ เอกสำรใน

รชั กำลท่ี 5 ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ นโยบำยกำรดำเนินกจิ กรรมต่ำงๆ ทส่ี ่งเสรมิ ใหก้ รุงสยำม

ดำเนินนโยบำยตำ่ งประเทศทท่ี ำใหป้ ระเทศสำมำรถอยใู่ นควำมสงบไดอ้ ยำ่ งดี ยงั ไดร้ บั กำร ยก

ยอ่ งเป็นมรดกควำมทรงจำแหง่ โลกดว้ ย เมอ่ื วนั ท่ี 27 กรกฎำคม พ.ศ. 2552 ประกอบดว้ ย

1. ระบบกำรจดั กำรศกึ ษำ

2. ระบบกำรสำธำรณสขุ

3. ปรบั ปรุงสำธำรณูปโภค ระบบกำรไปรษณียโ์ ทรเลข

4. ระบบคมนำคม

5. ระบบกำรบรหิ ำรรำชกำร เปลย่ี นจำกเวยี ง วงั คลงั นำ เป็น 12 กระทรวง

6. ปฏริ ปู ระบบเศรษฐกจิ ทงั้ หมด จดั เกบ็ ภำษเี ป็นระบบมำกขน้ึ และจดั กระทรวงกำรคลงั เป็นครงั้ แรก

7. จดั ระบบประปำ ไฟฟ้ำ ใหท้ วั่ ถงึ

8. พระอจั ฉรยิ ภำพของพระองคด์ ำ้ นวรรณกรรม อำทิ พระรำชนพิ นธเ์ งำะป่ำ ไกลบำ้ น

โดยเป็นเอกสำรตน้ ฉบบั ทงั้ หมด 800,000 หน้ำ เกบ็ รกั ษำไวท้ ห่ี อจดหมำยเหตุแหง่ ชำติ และหอ้ งสมดุ แหง่ ชำติ ซง่ึ

เป็นเอกสำรทบ่ี ่งบอกถงึ ควำมเปลย่ี นแปลงครงั้ ใหญ่ในประเทศไทย ทำใหป้ ระเทศไทยสำมำรถเป็นส่อื สมั พนั ธก์ บั ประเทศท่ี

เจรญิ แลว้ ไดท้ งั้ โลก ซง่ึ เมอ่ื ไดร้ บั กำรขน้ึ ทะเบยี นจำกมรดกแลว้ จะตอ้ งมนี โยบำยทช่ี ดั เจนในกำรดแู ลรกั ษำควำมปลอดภยั ให้

เขม้ งวดมำกขน้ึ รวมทงั้ จะเผยแพรใ่ หค้ นไทยและชำวโลกไดร้ บั รมู้ ำกขน้ึ

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 15

สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาประวัติศาสตร์ รหสั วชิ า ส 21104

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เร่อื งที่ 3 แหล่งมรดกโลกในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ (2) เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง

ครผู สู้ อน นายเอกศักด์ิ นกช่วย

*****************************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 ระบคุ วามสำคญั ของแหล่งอารยธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้

2.สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตม้ ีอยูห่ ลายแหง่ ซึง่ แตล่ ะแหง่ ต่างมี
ความสำคัญและมีคุณค่ายิ่งสมควรแกก่ ารอนรุ กั ษไ์ ว้เปน็ มรดกใหค้ งอยูค่ ู่โลกสืบไป

3.ตวั ชว้ี ดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ตวั ชี้วัด
ส 4.2 ม.1/2 ระบุความสำคญั ของแหลง่ อารยธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) ระบทุ ต่ี ้งั ของแหล่งมรดกโลกทางวฒั นธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ได้
2) อธิบายความสำคญั ของแหลง่ มรดกโลกทางวัฒนธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใตไ้ ด้

4.สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- ทต่ี ั้งและความสำคญั ของแหลง่ อารยธรรมในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ เชน่ แหล่งมรดกโลกใน

ประเทศตา่ งๆ ของเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (เชือ่ มโยงกบั มฐ. ส 4.3)
สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา)

5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 2) ทกั ษะการวิเคราะห์
4) ทักษะการสรปุ ลงความเห็น
ความสามารถในการส่อื สาร
ความสามารถในการคดิ

1) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา
3) ทักษะการสงั เคราะห์
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

6.คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งม่ันในการทำงาน

7.กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำ

1. ครูแจกภาพแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่ม
เดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) กลุ่มละ 2-3 ภาพ แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันพิจารณาและอภิปรายว่า
ภาพท่ีกลุ่มของตนได้รับเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่มีชื่อว่าอะไร ต้ังอยู่ที่ใด และมีความสำคัญ
อย่างไร

2. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการอภิปรายหน้าช้ันเรียน โดยครูและเพ่ือนกลุ่มอื่นร่วมกัน
ตรวจสอบความถกู ต้องและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเตมิ

3. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญของแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของภูมิภาค
เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้

4. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกบั ขนั้ ตอนของวิธกี ารทางประวัตศิ าสตรท์ เ่ี คยไดเ้ รยี นไป
5. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันเลือกศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่ง มรดกโลกทางวัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชีย

ตะวันออกเฉยี งใต้ กลมุ่ ละ 1 แห่ง โดยใช้ขน้ั ตอนของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์

ขั้นสอน
6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนในการทำงาน และแบ่งหน้าท่ีให้กับสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มตามความ
เหมาะสม
7. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นข้อมูลตามประเด็นท่ีกำหนดจากหนังสือเรียน หรือบทเรียนคอมพิวเตอร์
Smart L.O. LMS Lite ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทึกผลลงในใบงานท่ี 6.3 เร่ือง แหล่ง
มรดกโลกทางวฒั นธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
8. นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมตามตวั ชี้วดั : กิจกรรมท่ี 6.1 – 6.5 จากแบบวดั ฯ เป็นการบ้าน เสร็จแล้วนำส่ง
ครูตามกำหนดเวลาท่ตี กลงกัน
9. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
• การรวบรวมหลักฐานในการศึกษาประวัติศาสตร์ ของแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมในภูมิภาค
เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตจ้ ะตอ้ งคำนงึ ถึงอะไรบ้าง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)

ข้ันสรุป
10. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำผลการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ มาเปรียบเทียบ วเิ คราะห์ และประเมินผล
จากขอ้ มลู ทไี่ ดร้ วบรวมมา ผลัดกนั ซกั ถามขอ้ สงสัยและอภปิ รายจนได้ข้อสรุปร่วมกัน

11. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด

• แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ีมีความเก่ียวข้องกับศาสนา
ไดแ้ กส่ ถานทใ่ี ดบ้าง และเก่ียวข้องกับศาสนาใด
(- บุโรพุทโธ ประเทศอนิ โดนเี ซยี เก่ียวขอ้ งกับพระพุทธศาสนา
- ปรมั บานัน ประเทศอินโดนีเซยี เกยี่ วขอ้ งกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
- นครวัด ประเทศกัมพูชา เกย่ี วขอ้ งกบั ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู
หรือพจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

12. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำผลสรุปจากการเปรียบเทียบ วิเคราะห์ และประเมินผลจากข้อมูลที่ได้รวบรวมมา
ตีความ สังเคราะห์ว่าข้อมูลท่ีได้จากหลักฐานใดมีความสำคัญ มีความน่าเชื่อถือ ถูกต้องตามเหตุการณ์
มากกวา่ กันแล้วบันทกึ ขอ้ มลู ลงในใบงานที่ 6.3

13. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2

• ประเทศใดบา้ งในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ทมี่ ีและไม่มแี หลง่ มรดกโลกทางวัฒนธรรม
(ประเทศทมี่ ี ไดแ้ ก่ ประเทศไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซยี อินโดนีเซยี และฟลิ ปิ ปินส์
ประเทศท่ไี ม่มี ได้แก่ ประเทศพม่า สิงคโปร์ บรูไน และติมอร์-เลสเต)

• ถา้ นักเรียนต้องการไปชมแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่มีการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรม
ทง้ั ของทอ้ งถนิ่ และของตา่ งชาติไว้ด้วยกนั อยา่ งลงตวั นักเรียนควรไปท่ใี ด
(เมืองโบราณฮอยอัน ประเทศเวียดนาม หรือพิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลย
พนิ จิ ของครูผู้สอน)

14. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 6.3 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกัน
แสดงความคดิ เหน็ และให้ข้อเสนอแนะ

15. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับประโยชน์ท่ีได้รับจากการสืบค้นข้อมูลและแนวทางในการนำความรู้
ไปปรับใชใ้ หเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ไปในอนาคต

16. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับแหล่งมรดกโลกทางวฒั นธรรมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง
ใต้ ในประเด็นตอ่ ไปน้ี
- ที่ต้งั
- คุณค่าและความสำคญั

17. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2

• ถ้านกั เรยี นมเี พ่ือนชาวต่างชาตเิ ดนิ ทางมาท่องเทย่ี วในประเทศไทย นกั เรยี นจะแนะนำให้เพื่อนไป
ทอ่ งเท่ียวแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมใด อธิบายเหตผุ ล
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

• แหล่งมรดกโลกทางวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ มีความสำคัญอยา่ งไรบา้ ง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)

8.การวัดและประเมินผล

วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 6.3 ใบงานท่ี 6.3 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

9.สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

สอ่ื การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น ประวัติศาสตร์ ม.1
2) แบบวัดและบนั ทึกผลการเรยี นรู้ ประวตั ิศาสตร์ ม.1
3) บทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวัตศิ าสตร์ ม.1 บรษิ ัท เพลยเ์ อเบลิ จำกดั
4) บัตรภาพ
5) ใบงานที่ 6.3 เร่ือง แหลง่ มรดกโลกทางวัฒนธรรมในภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ

- http://www.oknation.net/blog/voranai/2010/12/23/entry-1
- http://th.wikipedia.org/wiki/รายช่อื แหล่งมรดกโลกในทวปี เอเชีย

บตั รภาพ



ภาพนครประวตั ศา ตร์ ยธุ ยา ประเ ศไ ย ภาพบุ รพุ ธ ประเ ศ น ดนีเซีย

ภาพเ ง ย นั ประเ ศเวียดนา ภาพนครวดั ประเ ศกั พชู า

ภาพ บราณ านวดั ภู ประเ ศ าว ภาพ บ ์ ยั บา รก ประเ ศ ปปน ์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 16

สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ รหสั วชิ า ส 21104

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 เรอ่ื งท่ี 4 อทิ ธพิ ลของอารยธรรมโบราณในดินแดนไทย เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง

ครูผสู้ อน นายเอกศกั ด์ิ นกชว่ ย

*****************************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 ระบุความสำคญั ของแหลง่ อารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้

2.สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

อารยธรรมโบราณในดินแดนไทยได้สั่งสมถา่ ยทอดสบื เนอ่ื งกันมาจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน และมีอิทธิพลต่อ
พัฒนาการของไทยในปจั จุบนั

3.ตัวชีว้ ดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้

ตัวช้ีวัด
ส 4.2 ม.1/2 ระบคุ วามสำคญั ของแหลง่ อารยธรรมในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของอารยธรรมโบราณในดนิ แดนไทยทมี่ ีผลต่อพัฒนาการของสงั คมไทย

ในปัจจุบันได้
4.สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- อทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณในดนิ แดนไทยที่มีผลต่อการพฒั นาการของสังคมไทยในปัจจุบัน
สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ
(พจิ ารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา)
5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ความสามารถในการสือ่ สาร
ความสามารถในการคิด

1) ทักษะการสำรวจคน้ หา
2) ทักษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการสรุปลงความเหน็
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

6.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน
1. มวี นิ ัย

7.กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำ

1. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

• วฒั นธรรมไทยทไ่ี ด้รับอทิ ธพิ ลมาจากอารยธรรมโบราณในดินแดนไทย ได้แก่อะไรบา้ ง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน)

2. ครูนำภาพเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมไทย มาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นใน
ประเดน็ ต่อไปนี้
- ภาพดังกลา่ ว คือภาพอะไร และมีความสำคญั อยา่ งไร
- ภาพดังกล่าว แสดงให้เห็นอทิ ธพิ ลของอารยธรรมโบราณ ทม่ี ตี ่อสังคมไทยอยา่ งไรบา้ ง
โดยครคู อยกระตุ้นให้นักเรยี นทุกคนมีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น

3. ครูอธิบายเช่ือมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า พัฒนาการของไทย ความสัมพันธ์ต่อเน่ืองกับอารยธรรมโบราณต่าง ๆ
ในดินแดนไทยในอดีตท่ีได้ส่ังสมสร้างความเจริญต่อเนื่องกันมา และคนรุ่นหลังได้พัฒนารูปแบบความ
เจริญรุ่งเรืองใหเ้ หมาะสมกับยุคปัจจุบัน

ขั้นสอน

4. นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง อทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณใน
ดนิ แดนไทยทมี่ ีผลตอ่ พัฒนาการของไทยในปัจจบุ ัน จากหนังสือเรยี น หรอื บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O.
LMS Lite และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทึกความรู้ที่ได้จากการศึกษาลงในแบบบันทึกการอ่าน
จากนั้นร่วมกนั สรปุ สาระสำคญั

5. ครูอธิบายความรู้เก่ียวกับอิทธิพลของอารยธรรมโบราณในดินแดนไทยท่ีมีผลต่อพัฒนาการของไทยในปจั จุบัน
ใหน้ กั เรียนฟังเพมิ่ เติม เพ่ือให้นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจชัดเจนมากย่งิ ข้นึ

6. สมาชิกแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ช่วยกันทำใบงานที่ 6.4 เร่ือง อิทธิพลของอารยธรรมโบราณ
ในดนิ แดนไทย เสรจ็ แลว้ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง และเตมิ เตม็ คำตอบใหส้ มบูรณ์

7. สมาชิกแต่ละคู่ในกลุ่มเดิมผลัดกันนำความรู้ที่ได้จากการทำใบงานที่ 6.4 มาเล่าให้เพื่อนอีกคู่หน่ีงในกลุ่มฟัง
ผลดั กันซักถามขอ้ สงสัยและหลอมรวมเปน็ คำตอบของกลุ่ม

8. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 6.4 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ งและใหข้ ้อเสนอแนะ

9. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2
• นักเรียนเหน็ ดว้ ยหรอื ไม่กบั คำกล่าวทว่ี า่ “พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานสำคญั ของสงั คมไทย” อธิบาย
เหตผุ ล
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพินิจของครผู ู้สอน)

• วัฒนธรรมไทยในปจั จุบนั มีการเปลย่ี นแปลงไปจากอดตี อยา่ งไรบา้ ง อธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ประกอบ
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู ูส้ อน)

ข้ันสรปุ
10. นักเรยี นรว่ มกันสรุปความรู้เรอ่ื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณในดินแดนไทยที่มีผลต่อพัฒนาการของไทยใน
ปัจจบุ ัน
11. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกต์ ใชใ้ นการศึกษาอิทธพิ ลของอารยธรรมโบราณท่ี
มีผลต่อพฒั นาการของภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตใ้ นปจั จุบัน แลว้ นำมาเลา่ สกู่ นั ฟงั (นอกเวลาเรียน)
12. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ข้อ1-2
• วฒั นธรรมไทยมคี วามสำคญั อย่างไรบา้ ง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)
• นักเรียนจะมสี ่วนรว่ มในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทยไดอ้ ยา่ งไรบ้าง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

•ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันจัดป้ายนิเทศ เร่ือง แหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามทีก่ ำหนด ดงั น้ี
1) การอธิบายความหมายและความสำคญั ของอารยธรรม
2) การอธบิ ายความหมายและคุณค่าของแหล่งมรดกโลก
3) การระบุทีต่ ้ังและความสำคัญของแหล่งมรดกโลกในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
4) การวเิ คราะห์อิทธพิ ลของอารยธรรมโบราณในดินแดนไทยทม่ี ีผลต่อพฒั นาการของสงั คมไทยในปจั จบุ ัน

8.การวัดและประเมินผล

วธีการ เคร ง เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 6.4 ใบงานที่ 6.4 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบบันทึกการอา่ น ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6

ตรวจปา้ ยนเิ ทศ เรื่อง แหล่งอารยธรรมในภูมิภาค แบบประเมนิ ปา้ ยนเิ ทศ เรอื่ ง แหลง่ อารย-

เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้

9.ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้

สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสอื เรยี น ประวัตศิ าสตร์ ม.1
2) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ศิ าสตร์ ม.1 บริษทั เพลยเ์ อเบิล จำกดั
3) บตั รภาพ
4) ใบงานท่ี 6.4 เร่อื ง อิทธพิ ลของอารยธรรมโบราณในดินแดนไทย
แหลง่ การเรยี นรู้

• แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ
- http://www.aksorn.com/LC/Hist/M1/15


Click to View FlipBook Version