The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการดำเนินธรุกิจในเดนมาร์ก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TOUCHAI RAMKUMJUN, 2024-05-02 21:10:52

คู่มือการดำเนินธรุกิจในเดนมาร์ก

คู่มือการดำเนินธรุกิจในเดนมาร์ก

การดำ เนิน นิ ธุรกิจ DENMARK คู่มื คู่ อ มื 1.นางสาวสุพิชชา เพ็งพยม รหัสนักศึกษา 1640202691 เลขที่ 13 2.นายกัชภูมิ แสนอ่อน รหัสนักศึกษา 1640203491 เลขที่ 15 3.นางสาววรัญญา อรรคมะเสาร์ รหัสนักศึกษา 1640209845 เลขที่ 29 4.นายธัชชัย รำ คำ จันทร์ รหัสนักศึกษา 1640211163 เลขที่ 34 จัดทำ โดย


รายงานฉบับนีเป็นส่วนหนึ่งของวิชา IB324 ชั้นปีที่ 3 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ จัดทำ ได้ฝึกการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการจะดำ เนินธุรกิจในประเทศ เดนมาร์ก จึงจะนำ สิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาเพื่อมาทำ เป็นหนังสือ E-Book เพื่อเป็นคู่มือให้กับผู้ที่ ต้องการรู้ รวมไปถึงเป็นประโยชน์ต่อการเรียน ณ ตอนนี้ และอนาคต ผู้จัดทำ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำ เอกสารฉบับนี้ จะมีข้อมูลที่ครบถ้วนเป็น ประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจจะศึกษาในเรื่องเดียวกัน เป็นอย่างดี คณะผู้จัดทำ คำ นำ


01 04 Executive summary การสื่อสื่สารในประเทศ เดนมาร์กร์ สารบัญ 02 บทนํานํสู่ปสู่ ระเทศ เดนมาร์กร์ ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ภูมิทัศน์เศรษฐกิจ (ECONOMIC LANDSCAPE) 03 วัฒวันธรรมของประเทศ เดนมาร์กร์ มิติทางวัฒนธรรม(HOFSTEDE) มิติทางวัฒนธรรม (HALLS) รูปแบบการสื่อสารทางธุรกิจแบบ direct 06 ข้อ ข้ ควรระวังวัทางวัฒวันธรรม (Cultural faux pas) 05 มารยาททางธุรกิจ การทักทายและการแนะนำ สิ่งที่ควรทำ เมื่ออยู่ในประเทศเดนมาร์ก ข้อควรพึงระวัง การแต่งกาย การใช้วัจนภาษา วิธีการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับคู่ค้า มุมมองต่อเวลา มุมมองการให้ของขวัญ


01 Executive summary เดนมาร์ก จัดเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็ก เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้า ทางด้านอุตสาหกรรม มีเทคโนโลยีสูง จากการจัดอันดับประเทศที่น่าลงทุนมากที่ใน โลกของปี 2556 ของ World Bank และอยู่ในอันดับที่5ของโลก ถึง2ปีซ้อน มี ประชากรประมาณ 5.5 ล้านคน รายได้ประชาชาติ อยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 60,390 เหรียญ เดนมาร์กถือได้ว่ามีข้อได้เปรียบทางด้ารธุรกิจหลายอย่าง เช่น ด้านโครงสร้าง พื้นฐานทั้งด้านระบบสาธารณูปโภค การคมนาคมขนส่ง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบการเงินธนาคาร ตลาดทุน ที่สำ คัญรัฐไม่มีข้อกีดกันการลงทุนต่างประเทศ บริษัท ต่างชาติได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันกับบริษัทเดนมาร์ก โดยวัฒนธรรมของเดนมาร์ก มีนักเขียนท่านหนึ่งชื่อ Mr.Aksel Sandemose ได้บันทึกกฎทางวัฒนธรรมไว้ว่า The Law of jante ภายใต้แนวคิดที่ว่า “Don’t think you’re anyone spcial or that you’re better than us” ซึ่งมีความหมายว่า “อย่าได้คิดว่าคุณพิเศษกว่าฉัน” แสดงให้เห็นถึงความ เคราพรพซึ่งกันและกัน โดยมีหลักการอยู่ 10 ข้อ Mr.Aksel Sandemose


02 1.Don’t think you’re anything special. 2.Don’t think you’re as good as us. 3.Don’t think you’re smarter than us. 4.Don’t convince yourself that you’re better than us. 5.Don’t think you know more than us. 6.Don’t think you are more important than us. 7.Don’t think you are good at anything 8.Don’t laugh at us. 9.Don’t think anyone cares about you. 10.Don’t think you can teach us anything. 1.อย่าคิดว่าคุณเป็นคนพิเศษ 2.อย่าคิดว่าคุณเก่งเท่าเรา 3.อย่าคิดว่าคุณฉลาดกว่าเรา 4.อย่าโน้มน้าวตัวเองว่าคุณเก่งกว่าเรา 5.อย่าคิดว่าคุณรู้มากไปกว่าเรา 6.อย่าคิดว่าคุณสำ คัญกว่าเรา 7.อย่าคิดว่าคุณเก่งอะไรสักอย่าง 8.อย่าหัวเราะเยาะพวกเรา 9.อย่าคิดว่าจะมีใครสนใจคุณ 10.อย่าคิดว่าจะสอนอะไรเราได้ ซึ่งซึ่แปลเป็น ป็ ภาษาไทย ได้ความหมายว่า ว่


03 ข้อ ข้ ควรระวังวั -การไม่แสดงความเคารพในเรื่องของการต่อแถว เข้าคิว การแซงคิว ถือเป็นการ กระทำ ที่เสียมารยาทมาก -ไม่ควรเข้าพบคู่ค้าทางธุรกิจหากไม่มีการแจ้งการนัดพบมาก่อน -ควรเปิดการชำ ระเงินแบบ L/C -การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องที่สำ คัญมาก -ไม่ควรที่จะคาดหวังกระชับความสัมพันธ์ส่วนบุคคล หากคุณเป็นคู่ค้ากัน เพราะชาว เดนมาร์กต้องการแยกความสัมพันธ์เรื่องธุรกิจจากความสัมพันธ์ส่วนบุคคล -ควรที่จะทำ งานหนัก และให้ผลเชิงบวกกับทีม -เคารพความเท่าเทียมกันกับคู่ค้า -ไม่ควรเพิ่มเสียงของคุณให้สูงขึ้นหรือดังขึ้น ควรเคารพฝ่ายตรงข้ามในการประชุมอยู่ เสมอ


04 ธุรกิจที่ประสบความเสร็จ ร็ใน เดนมาร์กร์ Denmark เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่มั่นคงและเจริญรุ่งเรือง ประเทศนี้เป็นที่ตั้ง ของบริษัทที่ประสบความสำ เร็จหลายแห่ง ซึ่งประกอบด้วย: Lego:บริษัทของเล่นที่โด่งดังระดับโลก Lego ก่อตั้งขึ้นในปี 1932 และกลาย เป็นหนึ่งในแบรนด์ของเล่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก บริษัทมีสำ นักงาน ใหญ่ใน Billund Denmark และมีพนักงานมากกว่า 15,000 คนทั่วโลก Maersk:บริษัทขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ชั้นนำ Maersk ก่อตั้งขึ้นในปี 1904 และเป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งสินค้าทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทมี สำ นักงานใหญ่ใน Copenhagen Denmark และมีพนักงานมากกว่า 70,000 คนทั่วโลก Danfoss:บริษัทเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย Danfoss ก่อตั้งขึ้นในปี 1933 และเป็นผู้นำ ในอุตสาหกรรมความร้อน น้ำ และการควบคุมพลังงาน บริษัทมีสำ นักงานใหญ่ใน Nordsborg Denmark และมีพนักงานมากกว่า 24,000 คนทั่วโลก ธุรกิจเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของบริษัทที่ประสบความสำ เร็จมากมายใน เดนมาร์ก เศรษฐกิจของประเทศแข็งแกร่งและหลากหลาย ด้วยสภาพแวดล้อมทาง ธุรกิจที่เอื้ออำ นวย เดนมาร์ก จึงเป็นสถานที่ที่น่าดึงดูดใจสำ หรับบริษัทที่จะเติบโตและ ประสบความสำ เร็จ การเข้าใจวัฒนธรรมทางธุรกิจเดนมาร์กเป็นสิ่งสำ คัญสำ หรับผู้ บริหารที่ต้องการประสบความสำ เร็จใน เดนมาร์ก เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น สื่อสาร อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความไว้วางใจ เคารพความเท่าเทียมกัน และรักษาสมดุล ระหว่างชีวิตการทำ งาน กลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง บรรลุ เป้าหมายทางธุรกิจ และประสบความสำ เร็จใน เดนมาร์ก


05 เดนมาร์กถือเป็นชาติเก่าแก่ของยุโรปที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 โดยขึ้น ชื่อในด้านการเดินเรือ และเป็นมหาอำ นาจในทะเลบอลติก ในอดีต เดนมาร์ก สวีเดน และ นอร์เวย์ ถูกปกครองร่วมกันภายใต้ผู้ปกครองอธิปไตยแห่งสหภาพคาลมาร์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1397 ก่อนจะสิ้นสุดลงจากการแยกตัวของสวีเดนใน ค.ศ. 1523 แต่เดนมาร์กและ นอร์เวย์ยังถูกปกครองภายใต้กษัตริย์องค์เดียวกันจนถึง ค.ศ. 1814 โดยในยุคนั้น เดนมาร์ก และ นอร์เวย์ มีการทำ สงครามหลายครั้งกับจักรวรรดิสวีเดน และจบลงด้วยการ ล่มสลายของสวีเดน หลังสงครามนโปเลียน ดินแดนนอร์เวย์ได้ถูกยกให้สวีเดน ในขณะที่เดนมาร์กยังคงรักษาหมู่เกาะแฟโรกรีนแลนด์ และไอซ์แลนด์ไว้ได้ ในศตวรรษที่ 19 มีขบวนการชาตินิยมเข้ามาตั้งรกรากในดินแดนนี้ จำ นวนมาก ต่อมา หลังจากสงครามชเลสวิกครั้งที่สองใน ค.ศ. 1864 เดนมาร์กสูญเสียดัชชี ชเลสวิชให้กับปรัสเซีย เดนมาร์กยังคงวางตัวเป็นกลางในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และ ใน ค.ศ. 1920 กว่าครึ่งของบริเวณทางเหนือของชเลสวิกได้กลายเป็นเดนมาร์กอีกครั้ง ต่อ มา ในเดือนเมษายน 1940 การรุกรานของเยอรมนีได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เดนมาร์ก ก่อนที่ขบวนการต่อต้านจะทำ การตอบโต้ใน ค.ศ. 1943 จนกระทั่งเยอรมนียอมจำ นนใน ค.ศ. 1945 เดนมาร์กเป็นผู้ส่งออกผลผลิตทางการเกษตรเชิงอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งหลัง ของศตวรรษที่ 19 และมีชื่อเสียงในด้านตลาดแรงงานขนาดใหญ่ และการปฏิรูปประเทศ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการนำ เทคโนโลยีเข้ามาใช้ และเป็นจุดเริ่มต้นของรัฐสวัสดิการที่ มีระบบเศรษฐกิจแบบผสมผสานที่พัฒนาอย่างสูงมาจนถึงปัจจุบัน Denmark


06 ศาสนา ศาสนาที่ชาวเดนมาร์ก ร้อยละ 97 นับถือศาสนาคริสต์ นิกาย Evangelical Lutheran การใช้ภาษา เดนมาร์กเป็นภาษาประจำ ชาติโดยพฤตินัยของเดนมาร์ก แฟโรและกรีนแลนด์ เป็นภาษาราชการของหมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์ตามลำ ดับ ภาษาเยอรมันเป็น ภาษาชนกลุ่มน้อยที่ได้รับการยอมรับในพื้นที่ของอดีตเทศมณฑลเซาท์จัตแลนด์ (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคทางใต้ของเดนมาร์ก) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ เยอรมันก่อนสนธิสัญญาแวร์ซาย เดนมาร์กและแฟโรอยู่ในกลุ่มภาษากลุ่มนอร์ดิก เหนือ (นอร์ดิก) ของภาษาอินโด-ยูโรเปียน ร่วมกับไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ภาษาเดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดนเข้าใจร่วมกันได้ในหลายบริบท อย่างไรก็ตาม ภาษาเดนมาร์กมีความใกล้ชิดกับภาษาเยอรมันมากกว่า เดนมาร์กและกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์จะใช้ภาษาของตนเองเป็นภาษาราชการ และสามารถใช้ภาษาอังกฤกในการสื่อสารได้ดี ดังนั้น การใช้ภาษาอังกฤษในการ ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจจึงไม่ค่อยพบปัญหามากนัก


07 ระบบเศษฐกิจ เดนมาร์กเป็นประเทศเสรีนิยม มีระบบรัฐสวัสดิการที่เข้มแข็ง และเป้าหมายที่สำ คัญ คือ การทำ ให้เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีอัตราการจ้างงานที่สูง การพัฒนาปัจจัยพื้นฐานทาง เศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพและความมั่นคง การส่งเสริมระบบรัฐสวัสดิการเพื่อความมั่นคง ของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รวมทั้งการจัดสรรเงินสนับสนุนจากรัฐบาลให้ กับประชาชนอย่างมีเหตุผล โดยเดนมาร์กและเยอรมนีมีระดับการจ้างแรงงานที่อยู่ในวัย ทำ งานในภาคอุตสาหกรรมที่สูงที่สุดร้อยละ 14.6 เมื่อเปรียบเทียบกับสมาชิกสหภาพยุโร ปอื่นๆ โดยเฉลี่ยร้อยละ 12.2 และสหรัฐฯ ร้อยละ 11.8 ภาคเศรษฐกิจของเดนมาร์กประกอบด้วย 3 ภาคที่สำ คัญ ได้แก่ ก) ภาคเกษตรกรรมและการประมง ซึ่งได้พัฒนามาเป็นภาคเกษตรกรรมแบบใช้เทคโนโลยี่ สมัยใหม่ (ใช้แรงงานเพียงร้อยละ 4 ของประชากรทั้งหมด) ผลผลิตที่สำ คัญ ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี มันสำ ปะหลัง น้ำ ตาล สุกร ผลิตภัณฑ์จากนม และ ปลา ข) ภาคบริการ ซึ่งเป็นของภาครัฐ ร้อยละ 31 และภาคธุรกิจ ร้อยละ 41 ค) ภาคอุตสาหกรรมและก่อสร้าง (คิดเป็นร้อยละ 24 ของประชากรทั้งหมด) อุตสาหกรรม ที่สำ คัญของเดนมาร์ก โดยแบ่งแยกออกมา ดังนี้


08 1. อุตสาหกรรมสินค้าอาหาร (Food industry) นับเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ สำ คัญและใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก คือ โดยมีสินค้าที่ส่งออกสำ คัญ ได้แก่ เนื้อ สุกร ไก่ วัว ผลิตภัณฑ์ประเภทนม เนย (Dairy products) เบียร์ สินค้าประมง 2. อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่อำ นวยความสะดวกในการ ผลิตสินค้าเกษตร รวมทั้งการขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย ได้แก่ ตู้แช่แข็ง/แช่เย็นใน รถบรรทุก/เรือ 3. อุตสาหกรรมเคมี (Chemical industry) เพื่อป้องกันแมลง และโรคพืช 4. อุตสาหกรรมสิ่งทอ ได้แก่ ขนมิ้งค์ (Mink) เสื้อผ้า 5. อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ 6. อุตสาหกรรมเภสัชกรรม (Pharmaceutical industry) ได้แก่ อินซูลิน (insulin) โดยเดนมาร์กเป็นประเทศผู้นำ ประเทศหนึ่งในโลกที่ผลิตอินซูลินส่ง ออกไปจำ หน่ายในตลาดโลก


09 7. อุตสาหกรรมการก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ (เดนมาร์ก มีความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่อง ของการออกแบบและคุณภาพ) กังหันลมที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า (เดนมาร์กเป็นประเทศ ผู้นำ ประเทศหนึ่งที่ส่งออกกังหันลมดังกล่าว) 8. อุตสาหกรรม Software อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Industry) เครื่องมือ สื่อสารโทรคมนาคม 9. อุตสาหกรรมการต่อเรือ (Shipbuilding) ธุรกิจ/อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของเดนมาร์กจะมีขนาดกลาง (Medium-sized industry) โดยธุรกิจ/อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำ คัญของเดนมาร์ก และธุรกิจที่มีการลงทุนในต่าง ประเทศ เช่น กลุ่มบริษัท A.P. Moller ซึ่งมีบริษัทเดินเรือ Maersk Line รวมอยู่ด้วย บริษัท Danfoss (Refrigeration technology) บริษัท Grundfos (ผลิต Pumps) บริษัท Novo Nordisk (Pharmaceuticals) บริษัท Ventas (กังกันลม) เบียร์ Carlsberg และ Tuborg และรองเท้า Ecco เป็นต้น นอกจากนี้ เดนมาร์กยังได้สำ รวจ พบน้ำ มันและก๊าซธรรมชาติในทะเลเหนือซึ่งมีปริมาณมากพอที่นำ ไปใช้ภายในประเทศ รวมทั้งสามารถส่งออกไปยังตลาดโลกได้นับตั้งแต่ปี 2534 (ค.ศ.1991) เป็นต้นมา


10 ตัวอย่างรูปอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเภสัชกรรม อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมการก่อสร้าง


11 สิ่งแวดล้อม มลพิษทางบกและทางน้ำ เป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่สำ คัญที่สุดของเดนมาร์ก แม้ว่าขยะในครัวเรือนและของเสียจากอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของประเทศจะถูกกรอง และนำ กลับมาใช้ใหม่มากขึ้นในบางครั้ง ในอดีตประเทศนี้มีจุดยืนที่ก้าวหน้าในการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในปี 1971 เดนมาร์กได้ก่อตั้งกระทรวงสิ่งแวดล้อมและเป็น ประเทศแรกในโลกที่บังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมในปี 1973 รัฐบาลเดนมาร์กได้ลง นามในพิธีสารเกียวโต เพื่อบรรเทาความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมและภาวะโลก ร้อน


เดนมาร์กเป็นประเทศที่ใช้พลังงานหมุนเวียนได้ดีที่สุด เพราะเดนมาร์กเป็นภูมิประเทศราบเรียบและอยู่ใกล้ทะเล จึงมีแหล่งพลังงานลมมาก เป็นพิเศษ เดนมาร์กจึงใช้พลังงานลมสูงถึง 46.8% และอีกกว่า 11.2% มาจากพลังงาน ชีวมวล หรือมาจากเศษขยะเหลือใช้ต่างๆ ทำ ให้รวมกันเดนมาร์กสามารถใช้พลังงาน หมุนเวียนจากธรรมชาติได้ถึง 67% รัฐบาลของเดนมาร์กยังมีแผนการที่น่าสนใจคือ ต้องการเพิ่มกำ ลังการผลิตพลังงาน ลมให้ได้ 3 เท่า ภายในปี 2030 นี้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำ ให้สถิติการใช้พลังงานหมุนเวียน เพิ่มขึ้นและยังช่วยมลภาวะและเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย 12


13 มิติทางวัฒนธรรม(Hofstede) Power Distance ต่ำ ซึ่งหมายความว่า ผู้คนมีระดับความห่างระหว่างชนชั้นต่ำ มี ความเสมอภาคของกันและกัน เชื่อใจกันเสมอ นิยมสื่อสารไม่เป็นทางการ Individualism สูง ซึ่งความหมายว่า ผู้คนมีความเป็นปัจเจก ให้ความสำ คัญกับความ เป็นส่วนตัวสูง ความเป็นตัวของตัวเองสูง พึ่งพาตัวเองเสมอ และมีการตัดสินใจที่ รวดเร็ว ไม่ต้องรอคนอื่นมาร่วมตัดสินใจด้วย Masculinity ต่ำ ซึ่งหมายความว่า สังคมชาวเดนมาร์กค่อนข้างที่จะเน้นและรักษา ความสัมพันธ์มากกว่างาน เน้นคุณภาพของชีวิตมากกว่ามุ่งแสวงหาความประสบ ความสำ เร็จ มีความเสมอภาคกัน ถึงแม้ผู้หญิงสามารถอยู่ตำ แหน่งที่สูงกว่าผู้ชายก็ ไม่ใช่เรื่องที่แปลก วัฒวันธรรมของประเทศ เดนมาร์ก ร์


14 Uncertainty Avoidance ต่ำ ซึ่งหมายความว่า ผู้คนยอมรับถึงความเสี่ยงได้ดี ทำ ให้ ผู้คนชาวเดนมาร์กค่อนข้างที่จะมีความยืดหยุ่น สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดีถ้า หากมีปัญหา Long term Orientation สูง ซึ่งหมายความว่า ผู้คนชาวเดนมาร์กเน้นความสัมพันธ์ ระยะยาว ความสัมพัธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการค่อยๆสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันขึ้นมา ทำ ให้ ถ้าหากมีการเจรจากับบุคคลที่มีความสัมพันธ์แล้วจะค่อนข้างราบรื่นที่เดียว Indulgence สูง ซึ่งหมายความว่า ผู้คนชาวเดนมาร์กจะหาความสุขหรือตอบสนอง ความต้องการได้อย่างเปิดเผยและเปิดกว้างมาก เป็นสังคมที่ค่อนข้างอิสระ มิติทางวัฒนธรรม(Hofstede) Low-context culture (วัฒนธรรมการสื่อสารทางตรง) : มีความชัดเจน สื่อสารแบบ ตรงไปตรงมา เน้นการทำ งานมากกว่าการสร้างความสัมพันธ์ มีค่านิยมความเป็นปัจเจก นิยม Space (ระยะห่าง) : ผู้คนชาวเดนมาร์กจะค่อนข้างเป็นมิตรและเป็นกันเอง แต่สิ่งสำ คัญ คือชาวเดนมาร์กให้ความสำ คัญกับพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขามาก นอกเหนือจากการจับ มือระหว่างการแนะนำ ตัวแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสชาวเดนมาร์กที่คุณกำ ลังพูดคุย ด้วย เว้นระยะห่างระหว่างกันระหว่างสนทนา "พื้นที่ส่วนตัว" ของชาวเดนมาร์กมีแนว โน้มที่จะใหญ่กว่าในหลายวัฒนธรรมเล็กน้อย โดยทั่วไปจะพบว่าชาวเดนมาร์กสงวนไว้ ด้วยภาษากาย ควรระมัดระวัง ความใกล้ชิดมากเกินไปจะทำ ให้ชาวเดนมาร์กรู้สึกไม่ สบายใจอย่างมาก


15 Time (เวลา) : ผู้คนชาวเดนมาร์ก จะมองเวลาเป็นเส้นตรง เวลาคือเงิน ให้ความสำ คัญ กับเวลา ต้องทำ ผ่านการนัดหมาย มีการวางแผนอย่างรอบคอบ หากมีอะไรมากระทบ เวลาของพวกเขาอาจจะส่งผลกระทบต่อเวลางานอื่นๆอีกด้วย พวกเขาให้ความสำ คัญ กับความเป็นระเบียบและความเหมาะสม ไม่ชอบการถูกรบกวน


16 รูปแบบการสื่อสารทางธุรกิจแบบ direct การสื่อสารทางธุรกิจของเดนมาร์กเป็นแบบ Direct หรือการตลาดแบบทางตรง ชาวเดนมาร์กเป็นผู้บริโภคแบบอนุรักษ์นิยม และเนื่องจากประเทศมีขนาดเล็ก จึงคุ้นเคยกับ การเข้าถึงร้านค้าปลีกได้ง่ายและรวดเร็ว โดยทั่วไปการขายแบบ door-to-door ถือเป็นการ ละเมิดความเป็นส่วนตัว และมีข้อยกเว้นบางประการที่กฎหมายห้าม การตลาดทางตรงรูปแบ บอื่นๆ แพร่หลายมากกว่า อนุญาตให้ทำ การตลาดทางโทรศัพท์ได้ แต่อัตราความสำ เร็จกับผู้ บริโภคชาวเดนมาร์กที่อนุรักษ์นิยมนั้นน่าผิดหวัง การตลาดและการขายทางตรงทาง อินเทอร์เน็ตกำ ลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อยของยอดค้าปลีกทั้งหมด การใช้วัจนภาษา(verbal) กับ อวัจนภาษา(non - verbal) ในวัฒนธรรม Non-Verbal Communication การจับมือ (กับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก) เป็นรูปแบบการทักทายที่เป็นที่ยอมรับ และชาว เดนมาร์กจะจับมือทั้งในการทักทายเมื่อมาถึงและออกจากการประชุม การจับมือควรมั่นคง และสั้น และควรสบตาขณะจับมือ ต่างจากในสหรัฐอเมริกา ผู้ชายจะไม่ยืนเมื่อผู้หญิงเข้าหรือ ออกจากห้อง มีการแลกเปลี่ยนนามบัตร วิธีการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับคู่ค้า นักธุรกิจชาวเดนมาร์กเป็นคนตรงไปตรงมามาก พวกเขาพูดในสิ่งที่พวกเขาคิด ในแง่ธุรกิจ มัน เป็นคุณภาพการทำ งานที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะจะรู้ว่ากำ ลังทำ อะไรอยู่ และจะได้รับคำ ตอบที่ ตรงไปตรงมา ในด้านความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ชาวเดนมาร์กเป็นคนจริงจัง รวดเร็ว การทำ ข้อตกลงกับชาว เดนมาร์กเป็นเรื่องง่าย และที่สำ คัญชาวเดนมาร์กแยกชีวิตธุรกิจและชีวิตส่วนตัวออกจากกัน ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับคู่ค้าชาวเดนมาร์ก ไม่จำ เป็นจะต้องมีความสัมพันธ์ ลึกซึ้งที่ไม่เกี่ยวกับงาน ขอเพียงแค่ทำ งานอย่างซื่อตรง ตรงไปตรงมา ละเอียดและรวดเร็ว การสื่อ สื่ สารในประเทศ เดนมาร์ก ร์


19 การทักทายและการแนะนํา -ชาวเดนมาร์กจะใช้การจับมือ ในตอนที่ทักทายและจากลา -จะแนะนำ ตัวเองเป็นชื่อแรกเสมอ การทักทาย และ ระเบียบปฏิบัติในการแลก นามบัตร -(ห้องประชุม) จับมือและทักทายทุกคน การจับมิอควรจะต้องมั่นคงและรวดเร็ว สบตา กับผู้ที่ทักทายและทักทายผู้หญิงก่อนเสมอ -นามบัตรต้องมีให้แลกเปลี่ยนเสมอ และนามบัตรจะต้องมีที่อยู่จริงของบริษัท ไม่ใช่ที่ อยู่กล่องไปรษณีย์ ความเป็นทางการ (Formality) -การทำ งานจะเป็นแบบ informal ทุกคนรวมถึงหัวหน้าจะได้รับอารมณ์ว่าอยู่ในทีม เดียวกัน -เจอกันครั้งแรกอาจะมีทางการบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนมากผู้คนจะมีแนวโน้มที่จะแสดง ด้านที่ไม่เป็นทางการของตัวเองออกมาอย่างรวดเร็ว มารยาททางธุรกิจ


การแต่งกาย การแต่งกายสําหรับธุรกิจและกิจกรรมทางสังคมในวาระต่างๆ -ชาวเดนส์จะมี dress code ที่ไม่ค่อยบังคับแต่ก็ยังมีการให้เกียรติกับวาระต่างๆ และ เนื่องจากชาวเดนส์จะนิยมใส่แบบไม่ทางการกัน จึงไม่แปลกที่จะเห็นการแต่งตัวแบบ casual แต่ก็มีการยังมี Businessmen หลายคนที่นิยมชอบใส่ suit and tie -แต่ถ้า contacts (ผู้ร่วมประชุมหรือกิจต่างๆ) ที่คนๆนั้นรู้จัก ก็อาจจะมีการแต่ง casual ให้เห็นบ้าง -ถ้าทำ งานใน Denmark การแต่งตัวที่เหมาะกับทุกวาระคือจะต้องมีลุคที่สมาร์ท, สะอาดและ professional -เช่นในออฟฟิศผู้ชายอาจจะแต่ง suit and tie ผู้หญิงอาจจะแต่ง business suits, dresses แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวอาจจะสามารถเลเยอร์ด้วย sweater หรือ jacket 20


21 มุมมองที่มีต่อเรื่องของเวลา ความตรงต่อเวลาและการนัดหมาย -ชาวเดนส์จะให้สำ คัญกับเรื่องความตรงเวลาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวาระไหนๆ ก็ตาม ถ้าติดกิจจริงๆหรือไปเลทเกิน 5 นาที ให้โทรบอกทันที มารยาทในการให้ของขวัญ - Do and Don’t (แยกเป็นบุคคลและวาระตา่ งๆ ตัวอยา่ ง เช่น ของขวญั ให้ เจ้า นาย ของขวญั วันเกดิ การให้ของขวัญเมอื่ ถกู เชิญไปบ้าน) การให้ของชาวเดนส์เป็นสิ่งที่ไม่บังคับแต่ก็สามารถให้ได้ และของขวัญจะถูกเปิดเลย เมื่อได้รับ ของขวัญเมื่อถูกเชิญไปบ้าน Do -ให้ของขวัญขนาดเล็กเสมอ เช่น ช่อดอกไม้, ช็อกโกแลต หรือ ไวน์คุณภาพดี Don’t -อย่าให้ของขวัญเป็นของแหลมคม


ของขวัญในที่ทำ งาน -การให้ของขวัญในที่ทำ งานจะเป็นเรื่องแปลกและจะไม่มีการให้ของขวัญในที่ทำ งาน เช่น ถ้าเราให้ของขวัญในที่ทำ งานกับหัวหน้า หัวหน้าก็อาจจะรู้สึกกระอักกระอ่วนกับ ตัวเราได้เพราะ ชาวเดนส์ไม่ชอบความรู้สึกว่าจะต้องทำ อะไรตอบแทนให้กับคนที่ให้ ของขวัญ ของขวัญวันเกิด Do -เน้นคุณภาพมากกว่าจำ นวนเสมอ -ห่อกล่องของขวัญให้ดีเสมอ -ควรให้ birthday card ที่มีข้อความที่หวังดีและลึกซึ้งต่อผู้รับ Don’t -อย่าให้ของขวัญที่เป็นของทั่วไปและไม่มีเอกลักษณ์ -อย่าให้ของขวัญที่แพงมากเกินไป ถึงแม้ของขวัญที่มีคุณภาพจะเป็นที่ชื่นชอบ แต่ถ้า ให้ของขวัญที่แพงมากเกินไปจะเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลือง 22


23 การเจรจาทางธรุกิจ รูปแบบและวิธีการเจรจาอย่างมีประสิทธิภาพ รูปแบบ Cooperative เพราะว่าชาวเดนส์จะใช้วิธีการที่มีปัญหาร่วมกันมาเป็นช่วยกันแก้ปัญหา ทั้งสองฝั่งจะมีความ เท่าเทียมกันและจะต้องมีหน้าที่ทำ ตามที่ตกลงไว้ของแต่ละฝั่ง ซึ่งวิธีการที่จะเจรจาอย่างมีประสิทธิภาพดังนี้ -Sharing of Information การแชร์ข้อมูลจะเป็นทางในการสร้างความเชื่อใจต่อกัน ซึ่งถ้าทั้ง สองฝั่งพร้อมแชร์ข้อมูลที่มีให้ต่อกันจะทำ ให้การวางแผนง่ายขึ้น แต่เราต้องคิดเผื่อเสมอว่าอีก ฝั่งจะพร้อมแชร์ข้อมูลทั้งหมดที่มีไหม ซึ่งถ้าฝั่งได้ฝั่งหนึงได้มีการปิดบังข้อมูลเอาไว้ การเจรจา ข้อตกลงก็จะยากขึ้น -Bargaining ชาวเดนส์จะไม่ชอบวิธีการต่อรองที่ต่อราคาหรือมูลค่าไปมา เช่นเทคนิคการต่อ รองที่เข้าหาแบบรุนแรง ชาวเดนส์จะชอบวิธีต่อรองที่ตรงไปตรงมาและเป็นไปตามจริง -Decision making เวลาตัดสินใจข้อตกลงควรหาหลักการที่ตรงกับปัญหาสถานการณ์นั้น ดู ตรรกะและข้อเท็จจริงของข้อตกลง และส่วนใหญ่ผู้จัดการจะถามที่ความคิดเห็นของลูกทีม และหาข้อตกลงที่ดีที่สุดสำ หรับองค์กร


เคล็ดลับในการเจรจาต่อรอง (ของประเทศที่เลือก/เจาะจง) -เมื่อเราให้ Final offer หรือ best offer กับคู่เจรจา ให้อธิบายอย่างละเอีย, ชัดเจนและไม่ ควรพุ่งกดดันคู่เจรจา -ไม่ควรใช้วิธีการกดดันอีกฝ่ายมากเกินไปเพราะว่าคู่เจรจาจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอนและจะ ทำ ให้จุดยืนเจรจาของฝ่ายเราแย่ลง -เปิดการเจรจาด้วยลายลักษณ์อักษรที่มีข้อตกลงและเงื่อนไข อาจจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ และช่วยทำ ให้มีการตกลงกันเร็วขึ้น 24


25 Denmark เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น ก่อนการเดินทางจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดและสร้างประสบการณ์ที่ดี สิ่งที่ต้องจำ ไว้ สำ หรับการที่จะใช้ชีวิตใน Denmark คือ ตรงต่อเวลา: คนเดนมาร์กให้ความสำ คัญกับเวลา ควรไปถึงนัดหมายตรงเวลาเสมอ การแต่งกาย: การแต่งกายสุภาพเรียบร้อย หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่โป๊หรือดูไม่สุภาพ การทักทาย: คนเดนมาร์กมักทักทายกันด้วยการจับมือ การกอด สบตา มักจะทำ กับ คนสนิทหรือคนในครอบครัว และถ้าไม่สนิทก็จะจับมือ พร้อมพูดว่า "hej" (สวัสดี) การสนทนา: คนเดนมาร์กชอบการสนทนาที่ตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการพูดนินทา หรือพูดจาโอ้อวด อารมณ์ขัน: คนเดนมาร์กชอบอารมณ์ขันแบบแห้งๆ หลีกเลี่ยงมุขตลกที่หยาบคาย หรือล่วงละเมิด พื้นที่ส่วนตัว: คนเดนมาร์กให้ความสำ คัญกับพื้นที่ส่วนตัว หลีกเลี่ยงการถามคำ ถาม ส่วนตัวหรือแตะต้องร่างกายโดยไม่ได้รับอนุญาต การดื่มแอลกอฮอล์: แม้ว่าคนเดนมาร์กจะดื่มแอลกอฮอล์บ้าง แต่การดื่มอย่างเมามาย ในที่สาธารณะถือว่าไม่เหมาะสม ข้อ ข้ ควรระวังวัทางวัฒวันธรรมใน Denmark (Cultural faux pas)


26 การให้ของขวัญ: ชาวเดนมาร์กไม่คาดหวังของขวัญ การให้ของขวัญ มักทำ ในโอกาส พิเศษ เช่น วันเกิด หรือ คริสต์มาส การให้ทิปและการจ่ายเงิน: ชาวเดนมาร์กมักแชร์ค่าอาหาร เมื่อทานอาหารกับเพื่อน หรือครอบครัว การเสนอที่จะจ่ายเงิน สำ หรับทุกคน นั้น จะได้รับการชื่นชม รวมไปถึง การให้ทิปไม่จำ เป็นต้องให้ทิปในร้านอาหาร แต่สามารถปัดเศษค่าอาหารได้ การพูดภาษาอังกฤษ: ชาวเดนมาร์กส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่ มักชอบให้พูด ภาษาเดนมาร์ก เมื่อคุยกันการพยายามพูดภาษาเดนมาร์ก แม้จะพูดไม่เก่ง ก็จะได้รับการ ชื่นชม


27 ข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยที่ชาวต่างชาติมักทำ ใน Denmark พูดเสียงดัง: คนเดนมาร์กชอบความเงียบสงบ หลีกเลี่ยงการพูดเสียงดังในที่สาธารณะ การแสดงความรักในที่สาธารณะ: การแสดงความรักในที่สาธารณะ เช่น การจูบหรือกอด ถือว่าไม่เหมาะสม การพูดภาษาอังกฤษมากเกินไป: ชาวเดนมาร์กส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่มักชอบ ให้พูดภาษาเดนมาร์ก เมื่อคุยกันการพยายามพูดภาษาเดนมาร์ก แม้จะพูดไม่เก่ง ก็จะได้รับ การชื่นชม การพูดถึงเรื่องส่วนตัว: ชาวเดนมาร์กมักไม่ชอบพูดคุยเรื่องส่วนตัว เช่น ความสัมพันธ์ หรือปัญหาส่วนตัว การวิพากษ์วิจารณ์วัฒนธรรม: ชาวเดนมาร์กภูมิใจในวัฒนธรรมของตน การวิพากษ์วิจารณ์ วัฒนธรรม ของพวกเขานั้น อาจถูกมองว่าไม่สุภาพ การแสดงออกทางอารมณ์: ชาวเดนมาร์กมักพูดตรงไปตรงมา แต่มักไม่แสดงอารมณ์ มาก การแสดงความคิดเห็นที่รุนแรงหรือ การโต้แย้ง อาจถูกมองว่าหยาบคาย การตรงเวลา: ชาวเดนมาร์กให้ความสำ คัญกับเวลา การมาสาย หรือไม่แจ้งล่วงหน้า เมื่อมาสายอาจถูกมองว่าไม่เคารพ


28 การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป: ชาวเดนมาร์กชอบดื่มแอลกอฮอล์ แต่มักดื่มอย่างพอ ประมาณ การดื่มจนมึนเมา อาจถูกมองว่าไม่เหมาะสม การไม่เคารพกฎระเบียบ: ชาวเดนมาร์กรักษาและเคารพกฎระเบียบอย่างมาก แต่คน อื่นที่ไปเที่ยวหรือในชีวิตที่นั่น บางครั้งมักจะทำ อะไรไม่สนใจกฎระเบียบบ้านเมืองเขา เท่าไหร่ และไม่รักษาความสะอาด


29 แหล่งอ้างอิง https://www.ditp.go.th/contents_attach/86869/86869.pdf https://th.wikipedia.org/wiki/ประวัติศาสตร์เดนมาร์ก https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc2215e39c306000a257cate=5d5bcb4e15e39c 3060006870 https://www.ryt9.com/s/expd/1189867 https://globalcompact-th.com/news/detail/932 https://www.hofstede-insights.com/country-comparison-tool?countries=denmark https://crossculture2go.com/negotiations-in-denmark/ https://www.kxmgroup.dk/business-etiquette-in-denmark/ https://web.sut.ac.th/cia/2017/CulturalEtiquette/DenmarkCulturalEtiquette.pdf http://www.leadershipcrossroads.com/mat/cou/Denmark.pdf https://www.danishnet.com/business-denmark/business-etiquette-denmark/ https://www.trade.gov/country-commercial-guides/denmark-business-travel https://en.wikipedia.org/wiki/Culture_of_Denmark https://www.quora.com/What-are-some-cultural-faux-pas-in-Denmark https://www.thecopenhagenbook.dk/cph-focus/the-season-of-expat-homesickness/


Click to View FlipBook Version