วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ BEST PRACTICE ชื่อผลงาน : พัฒนาการอ่าน-เขียน โดยใช้ CIPPA Model ร่วมกับเกม กลุ่มสาระ : กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ผู้นำเสนอผลงาน : นางสาวฮัยมาณี เจ๊ะฮะ ครูโรงเรียนวัดโคกมะเฟือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 e-mail : [email protected] 1. ความสำคัญของนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 ได้กล่าวไว้ว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมี ความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุดกระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ ผู้เรียนสามามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเป็นศักยภาพ แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันการแก้ไขปัญหาการศึกษาของ ครูยังไม่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพ และกระบวนการจัดการเรียนการสอนยังไม่มีวิธีการที่ หลากหลายที่จะสามารถพัฒนาผู้เรียนได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร จึงทำให้เด็กในวัยแรกเริ่มในการจัดการเรียน การสอนและการพัฒนาด้านการอ่านการเขียนของชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญเพราะถ้านักเรียนมี ความบกพร่องด้านการอ่านและการเขียนแล้วจะทำให้กระบวนการเรียนรู้และเข้าใจในบทเรียนทุกๆวิชานั้นมีปัญหาและ ทำให้นักเรียนเบื่อหน่าย ไม่กระตือรือร้นที่จะเรียน ด้วยเหตุนี้นโยบายการศึกษาจึงเป็นนโยบายสำคัญของ กระทรวงศึกษาธิการที่ได้ยกระดับการอ่านการเขียนนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 คือ ปีการศึกษา 2558 จนถึง ปัจจุบัน เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ดังนั้นการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยให้นักเรียนอ่านออกและเขียนได้ จึงเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงของการศึกษาของชาติ โดยเพราะชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งเป็นวัยที่มีปัญหาด้านการอ่าน มากกว่าระดับชั้นอื่น เพราะอยู่ในช่วงวัยที่เริ่มพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน ทักษะสองด้านนี้จะส่งเสริมให้เกิด ทักษะการคิดวิเคราะห์ แยกแยะประยุกต์ใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต หากผู้ใดมีความบกพร่องหรือขาด ความสามารถในการอ่านและเขียน ก็จะส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการสื่อสารและการเรียนรู้ในระดับชั้นต่อไป การจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและเขียนสะกดคำสามารถทำ ได้หลายวิธี ซึ่งจากการศึกษาโมเดลซิปปา พบว่าสอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่เรียนโดยอาศัยความร่วมมือจากกลุ่มช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการต่าง ๆ โดยมีขั้นตอนการ ดำเนินการ 7 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การทบทวนความรู้เดิม ขั้นที่ 2 การแสวงหาความรู้ใหม่ขั้นที่ 3 การศึกษาทำความ เข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม ขั้นที่ 4การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม ขั้นที่ 5 การสรุปและจัดระเบียบความรู้ ขั้นที่ 6 การปฏิบัติและ/หรือการแสดงผลงาน และขั้นที่ 7 การประยุกต์ใช้ ความรู้นอกจากนี้ วิธีการที่สามารถนำมาแก้ปัญหาการอ่านและเขียนสะกดคำที่ทำให้นักเรียนได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลินไปพร้อมกับการเรียนเนื้อหา เป็นลักษณะการเรียนปนเล่น คือ เทคนิคเกม จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนได้ลงมือ กระทำด้วยการเล่นหรือการแข่งขัน ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจและตั้งใจเรียนมากขึ้น
2. จุดประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2. เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3. เพื่อปลูกฝังเจตคติที่ดีในด้านการอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3. เป้าหมายการดำเนินงาน เป้าหมายเชิงปริมาณ 1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 15 คน สามารถพัฒนาด้านการอ่านเพิ่มขึ้น ร้อยละ 80 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 15 คน สามารถพัฒนาด้านการเขียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 80 3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1จำนวน 15 คน ที่มีเจตคติที่ดีในการอ่านและการเขียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 1. ร้อยละ 80 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 คน มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่านที่สูงขึ้น 2. ร้อยละ 80 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 คน มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเขียนที่สูงขึ้น 3. ร้อยละ 80 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 คน มีเจตคติที่ดีในด้านการอ่านและการเขียนที่สูงขึ้น4 4. กระบวนการปฏิบัติ/ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ดำเนินพัฒนาการอ่านการเขียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ CIPPA Model ร่วมกับเกม ดังต่อไปนี้ ขั้นตอนการวิเคราะห์ - ศึกษาเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง2560) - ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ CIPPA Model และเกี่ยวกับเกม ขั้นตอนการออกแบบ - วางแผนการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ CIPPA Model ร่วมกับเกม ในการพัฒนาทักษะการอ่านและ การเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปาร่วมกับเกมเป็น กระบวนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบของโมเดลซิปปามาผสมผสานกับเกม มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การทบทวนความรู้เดิม คือ การดึงความรู้ของนักเรียนในเรื่องที่จะเรียนเพื่อช่วยให้นักเรียนมีความ พร้อมในการเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมของตน ด้วยการพูดคุยสนทนาเกี่ยวกับสระที่ได้เรียนไปแล้ว ขั้นที่ 2 การแสวงหาความรู้ใหม่คือ การแสวงหาข้อมูล ความรู้ใหม่จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ครูจัดเตรียมให้ ด้วยการอ่านและเขียนสระ สะกดคำจากบัตรภาพ และใบความรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่ม
ขั้นที่ 3 การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม คือ การศึกษา และทำความเข้าใจกับข้อมูล/ความรู้ที่หามาได้ แล้วสร้างความหมายของข้อมูล/ประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยใช้ กระบวนการคิดและกระบวนการกลุ่ม ด้วยการจัดกิจกรรมตามที่กำหนดในใบงานให้นักเรียนได้อ่านและเขียน สะกดคำ ขั้นที่ 4 การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่มร่วมกับเกม คือ การที่นักเรียนอาศัยกลุ่มเป็นเครื่องมือใน การตรวจสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสะกดคำของตน รวมทั้งขยายความรู้ความเข้าใจของตนแก่ผู้อื่น และได้รับประโยชน์จากความรู้ความเข้าใจของผู้อื่นไปพร้อม ๆ กันโดยใช้เกมต่าง ๆ เพื่อให้สมาชิกในกลุ่มได้ แลกเปลี่ยนความรู้ ช่วยเหลือกันเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเล่นเกม ขั้นที่ 5 การสรุปและจัดระเบียบความรู้คือ การสรุปความรู้ที่ได้รับทั้งหมดทั้งความรู้เดิมและความรู้ใหม่ และ จัดสิ่งที่เรียนให้มีระบบระเบียบ เพื่อช่วยให้จดจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ง่าย ขั้นที่ 6 การปฏิบัติและหรือการแสดงผลงาน คือ การให้นักเรียนอ่านสะกดคำพร้อมกันทั้งห้องและแสดงผล งาน เป็นการช่วยตอกย้ำหรือตรวจสอบความเข้าใจของตน และช่วยส่งเสริมให้นักเรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์ ขั้นที่ 7 การประยุกต์ใช้ความรู้คือ การส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกฝนการนำความรู้ความเข้าใจของตนนำไปใช้ใน การทำใบงานต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความชำนาญ ความเข้าใจ ความสามารถในการแก้ปัญหาและความจำในเรื่องนั้น ขั้นตอนการนําไปใช้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบนวัตกรรมโดยใช้ CIPPA Model ร่วมกับเกม ขั้นสรุปผลและติดตาม สรุปผลการพัฒนากานอ่าน-เขียน โดยใช้ CIPPA Model ร่วมกับเกม 5. ผลการดำเนินงาน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 โรงเรียนวัดโคกมะเฟือง มีพัฒนาด้านการอ่านและเขียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 80 และมีผลสัมฤทธ์รายวิชาภาษาไทยสูงขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา 6. ประโยชน์ที่ได้รับ ผลที่เกิดกับโรงเรียน โรงเรียนวัดโคกมะเฟือง เป็นโรงเรียนที่ปลอดการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 และมีนักเรียนมีผลการทดสอบคัดกรองการอ่าน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงขึ้น
ผลที่เกิดกับครู จากการทำนวัตกรรมวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ชื่อ พัฒนากานอ่าน-เขียน โดยใช้ CIPPA Model ร่วมกับเกม เป็นนวัตกรรมที่ครูสามารถนำมาใช้จัดกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนวัตกรรมนี้สามารถนำไปเผยแพร่ให้คุณครูชั้นอื่นได้นำเอาวิธีการปละหลักการในนวัตกรรมนี้ไปแก้ไขปัญหา เด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ในแต่ละชั้นได้ จะทำให้แต่ละชั้นนั้นจะเป็นชั้นที่ปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกและเขียน ไม่ได้ และส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียนในแต่ละวิชาเพิ่มสูงขึ้น ผลที่เกิดกับนักเรียน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความสามารถด้านการอ่านและการเขียนอยู่ในระดับที่สูงรวมไปถึงผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของรายวิชาภาษาไทยและวิชาอื่นๆอยู่ในระดับที่สูงขึ้นเป็นที่น่าพอใจของผู้บริหาร คณะครูและ ผู้ปกครองเป็นอย่างมาก รวมไปถึงผู้เรียนมีความสุขในการเรียนในทุกๆรายวิชา 7. ปัจจัยความสำเร็จ - ผู้บริหารโรงเรียนให้ความสำคัญและเอาใจใส่กับการดำเนินงาน - การดำเนินกิจกรรมมีเวลาที่เพียงพอ - บุคลกรทุกคนให้ความทุ่มเทในการดำเนินกิจกรรม - การร่วมกิจกรรมของนักเรียนมีความพร้อมทุกครั้ง 8. บทเรียนที่ได้รับ - การดำเนินกิจกรรมต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ - ผู้ปกครองถือเป็นเครื่อข่ายที่สำคัญในการพัฒนานักเรียน - ความแตกต่างระหว่างบุคคลของนักเรียนมีผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน - การดำเนินงานที่ดีจะส่งผลต่อนักเรียนในระยะยาวและมีความยั่งยืน 9. การเผยแพร่ / รางวัลที่ได้รับ - เผยแพร่ผลงานทางรูปแบบออนไลน์ เช่น Facebook , line - ประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของสารสัมพันธ์ของโรงเรียนให้ผู้ปกครองทราบ - แจ้งคณะกรรมการสถานศึกษาในที่ประชุม
ภาคผนวก
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้อ่าน-เขียน โดยใช้CIPPA Model ร่วมกับเกม กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ปีการศึกษา 2565 ภาคเรียนที่ 1 รายวิชา ภาษาไทย ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 แผนการเรียนรู้เรื่อง สระเสียงสั้น (สระอะ , อิ, อุ) เวลา 60 นาที ผู้สอน นางสาวฮัยมาณี เจ๊ะฮะ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ ดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ความคิด และ ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง และข้อความสั้นๆ มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟังคำแนะนำคำสั่งง่ายๆ และปฏิบัติตาม มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ 1. ผลการเรียนรู้ (Learning Outcome) นักเรียนนักเรียนสามารถอ่านคำและสะกดคำที่มีสระอะ สระอิ และสระอุ ได้ถูกต้อง และให้ความร่วมมือในการ ทำกิจกรรม 2. ความคิดรวบยอดหลัก (Main Concept) สระอะ สระอิ และสระอุ เป็นสระเสียงสั้น มีรูปแบบการสะกดต่างจากที่ผ่านมาคือ มีเสียงสั้น นอกจำกสอน เรื่องการสะกดคำแล้ว จึงสอดแทรกประโยค ที่มีคำจากสระต่างๆ ที่เรียนมาแล้วเพื่อเป็นการทบทวน
3. หัวข้อสาระการเรียนรู้ (Sub Concept / Topic) สระอะ ,สระอิ และสระอุ 4. สมรรถนะ ความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ 6. จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objective) ด้านความรู้ (Knowledge) 1. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคำได้ถูกต้อง ด้านทักษะกระบวนการ (Process) 1. นักเรียนสามารถอ่านและเขียนสะกดคำที่มีสระอะ สระอิ และสระอุได้ถูกต้อง ด้านคุณลักษณะ (Affective) 1. นักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย 7.ค่านิยมหลักของคนไทย ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 8. การออกแบบกิจกรรม (การจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA Model) ขั้นที่ 1 การทบทวนความรู้เดิม - ครูทักทายนักเรียน - ครูนำบัตรคำสระ (สระอา สระอี สระอู) นำไปติดบนกระดาน และชี้แจงนักเรียนให้หยิบบัตรคำพยัญชนะ แล้วไปประสมกับสระบนกระดาน เช่น หากหยิบได้พยัญชนะ ก ก + า สะกดว่า กอ-อา-กา โดยให้นักเรียนสะกดครบทุกสระบนกระดานให้เพื่อนทั้งห้องฟัง ขั้นที่ 2 การแสวงหาความรู้ใหม่ - ครูนำบัตรคำสระอะ สระอิ และสระอุ บนกระดาน และถามคำถาม -นักเรียนเคยพบเห็นสระดังกล่าวหรือไม่ -นักเรียนรู้จักสระดังกล่าวหรือไม่ หากรู้จักให้นักเรียนบอกว่าคือสระอะไร
- ครูอธิบายว่า สระอะ สระอิ สระอุ เป็นสระเสียงสั้น และพานักเรียนอ่านสะกดคำที่ประสมสระอะ สระอิ สระอุ ใน Power point ขั้นที่ 3 การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม - ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงความแตกต่างระหว่าง สระอะและสระอา สระอิและสระอี สระอุและ สระอู (สระอะ สระอิ สระอุ เป็นสระเสียงสั้น และสระอา สระอี สระอู เป็นสระเสียงยาว) ขั้นที่ 4 การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่มร่วมกับเกม - ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่มเท่าๆกันตามความเหมาะสม - ครูชี้แจง เกม หาให้เจอ โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มหาคำตามสระที่ครูกำหนด นำมาเขียนให้ถูกต้องและ สวยงาม กลุ่มใดหาเจอและเขียนเสร็จกลุ่มแรก จะเป็นผู้ชนะ ขั้นที่ 5 การสรุปและจัดระเบียบความรู้ - ครูตรวจสอบความถูกต้องของแต่ละกลุ่ม และเขียนคำบนกระดานให้นักเรียนอ่าน เพื่อเป็นการทดสอบ ความเข้าใจ และสรุปความรู้ ขั้นที่ 6 การปฏิบัติและหรือการแสดงผลงาน - ครูแบ่งให้นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกอ่าน กลุ่มสระอะ กลุ่มสระอิ และกลุ่มสระอุ - ครูให้แต่ละกลุ่มอ่านตามที่กลุ่มตนเองได้รับมอบหมายให้เพื่อนทั้งห้องฟัง ขั้นที่ 7 การประยุกต์ใช้ความรู้ - ครูให้นักเรียนทำใบงานเรื่อง สระอะ สระอิ และสระอุ
9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 บัตรคำสระ 9.2 บัตรคำพยัญชนะไทย 9.3 เกมหาให้เจอ 9.4 แบบฝึกหัดเรื่อง สระอะ สระอิ และสระอุ 9.5 Power Point เรื่อง สระอะ สระอิ และสระอุ 10. การประเมินผล 10.1 การสังเกตการร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน 10.2 การสังเกตทักษะกระบวนการทำงาน 10.3 การตรวจแบบฝึกหัด 11. การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจาก จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด แหล่งข้อมูล เกณฑ์ ด้านความรู้ (Knowledge) 1.นักเรียนสามารถ บอความหมายของคำ ได้ถูกต้อง สังเกตการตอบ คำถาม แบบสังเกตการตอบ คำถาม (อย่างไม่เป็น ทางการ) -นักเรียน ผ่าน : 1.นักเรียนสามารถ บอกความหมายของคำได้ ถูกต้อง ไม่ผ่าน : 1.นักเรียนไม่ สามารถบอกความหมายของ คำได้ถูกต้อง ด้านทักษะกระบวนการ (Process) 1.นักเรียนสามารถอ่าน และเขียนสะกดคำที่มี สระอะ สระอิ และสระ อุได้ถูกต้อง ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด -นักเรียน -แบบฝึกหัด ดีมาก : นักเรียนสามารถอ่าน และเขียนสะกดคำที่มีสระอะ สระอิ และสระอุได้ถูกต้องทุก คำ ดี: นักเรียนสามารถอ่านหรือ เขียนสะกดคำที่มีสระอะ สระอิ และสระอุได้ถูกต้อง บางคำ พอใช้: นักเรียนสามารถอ่าน และเขียนสะกดคำที่มีสระอะ
ตัวชี้วัดจาก จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด แหล่งข้อมูล เกณฑ์ สระอิ หรือสระอุได้ถูกต้อง บางคำ ด้านคุณลักษณะ (Affective) นักเรียนมีความ รับผิดชอบต่องานที่ ได้รับมอบหมาย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียน ผ่าน : นักเรียนส่งงานตรง ตามเวลาที่กำหนด ไม่ผ่าน : นักเรียนไม่ส่งงาน ตามเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้หน้าเดียวอ่าน-เขียน โดยใช้CIPPA Model ร่วมกับเกม
ตัวอย่างเกมที่ใช้ร่วมกับ CIPPA Model เกม หาให้เจอ อุปกรณ์ - ใบงานเกม หาให้เจอ วิธีการ - ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มหาคำที่สระเดียวกันกับที่กำหนดให้ แล้วนำคำมาใส่ในช่องให้ถูกต้องและสวยงาม
เกม ทายรูป ช่วยเขียน อุปกรณ์ - Power point เกมเปิดแผ่นป้ายรูปภาพ - กระดาษเขียนคำตอบ วิธีการ - ครูให้นักเรียนเลือกตัวเลข เพื่อเปิดแผ่นป้าย แล้วทายว่าคือรูปอะไร พร้อมทั้งเขียนคำตอบลงในกระดาษให้ถูกต้อง
รูปภาพการทำกิจกรรมพัฒนาการอ่าน-เขียน โดยใช้ CIPPA Model ร่วมกับเกม