The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทละครเรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
จัดทำโดย
นายอนัสวิน บุญเลิศไมตรี เลขที่ ๑๖
นายชวิน ปึงโฆษิต เลขที่ ๑๘
นางสาวกุลนัดดา ถาพันธ์ เลขที่ ๒๙
นางสาวรุ่งมณี มาลีนันท์ เลขที่ ๓๒
นางสาววรวลัญช์ สวาวสุ เลขที่ ๓๓
นางสาวสตรีรัตน์ สอนใจ เลขที่ ๓๕
นางสาวไอริณ คณาวิวัฒน์ เลขที่ ๓๖
นางสาวปวีณ์สุดา แจ่มขำ เลขที่ ๓๘
เสนอ
คุณครู สุชาติ พิบูลย์วรศักดิ์
รายวิชาภาษาไทย (ท๓๑๑๐๑)
โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kulnaddathapahan, 2023-08-31 12:40:35

บทละครเรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง

บทละครเรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
จัดทำโดย
นายอนัสวิน บุญเลิศไมตรี เลขที่ ๑๖
นายชวิน ปึงโฆษิต เลขที่ ๑๘
นางสาวกุลนัดดา ถาพันธ์ เลขที่ ๒๙
นางสาวรุ่งมณี มาลีนันท์ เลขที่ ๓๒
นางสาววรวลัญช์ สวาวสุ เลขที่ ๓๓
นางสาวสตรีรัตน์ สอนใจ เลขที่ ๓๕
นางสาวไอริณ คณาวิวัฒน์ เลขที่ ๓๖
นางสาวปวีณ์สุดา แจ่มขำ เลขที่ ๓๘
เสนอ
คุณครู สุชาติ พิบูลย์วรศักดิ์
รายวิชาภาษาไทย (ท๓๑๑๐๑)
โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี

อิเหนา วิชวิาภาษาไทย เสนอ คุณครู สุชาติ พิบูลย์วรศักดิ์ รายวิชาภาษาไทย (ท๓๑๑๐๑) โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. นายอนัสวิน บุญเลิศไมตรี เลขที่ 16 นายชวิน ปึงโฆษิต เลขที่ 18 นางสาวกุลนัดดา ถาพันธ์ เลขที่ 29 นางสาวรุ่งมณี มาลีนันท์ เลขที่ 32 นางสาววรวลัญช์ สวาวสุ เลขที่ 33 นางสาวสตรีรัตน์ สอนใจ เลขที่ 35 นางสาวไอริณ คณาวิวัฒน์ เลขที่ 36 นางสาวปวีณ์สุดา แจ่มขำ เลขที่38 จัดทำ โดย เสนอ คุณครู สุชาติ พิบูลย์วรศักดิ์ รายวิชาภาษาไทย (ท๓๑๑๐๑) โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี ก


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็น ส่วนหนึ่งของรายวิชาภาษา ไทย ท๓๑๑๐๑ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้ผู้อ่านรายงานได้ศึกษานวนิยาย แบบสั้นเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม ส่วน ประกอบเนื้อหาได้แก่ประวัติผู้แต่ง จุด ประสงค์ในการแต่ง ลักษณะคำประพันธ์เนื้อเรื่องของจดหมายแต่ละฉบับ คุณค่าของเรื่อง การจัดทำครั้งนี้คณะผู้จัดทำขอขอบคุณ คุณครูสุชาติพิบูลย์วรศักดิ์ เป็นอย่างสูง ที่ให้ความรู้และแนะนำในการจัดทำทำให้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและคณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์นี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้อ่าน ผู้ที่สนใจศึกษาค้นคว้า ได้นำ ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คำ นำ ข


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย สารบัญ จัดทำ โดย คำ นำ ประวัติผู้แต่ง ความเป็นมา ลักษณะคำ ประพันธ์ ตัวละคร เนื้อเรื่อง คำ ศัพท์ยาก เกร็ดความรู้ ก ข ๑ ๒ ๓ ๔ ๙ ๙๓ ๑๐๐


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ประวัติผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเป็น พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลก มหาราชกับสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี พระนามเดิม ฉิม เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ลำ ดับ ที่ ๒ แห่งพระบรม ราชจักรีวงศ์ใน พ.ศ. ๒๓๕๒ และเสด็จ สวรรคตเมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๖๗ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีพระ ปรีชาสามารถหลายด้าน เช่น ด้านการปกครอง ทรงตรา พระราชกำ หนดและบทลงโทษเรื่องการสูบ การซื้อ และ การขายฝิ่น ด้านการศาสนา ทรงส่ง สมณทูตไปลังกาและ ปฏิสังขรณ์วัดหลายแห่ง โดยเฉพาะด้านศิลปะแขนงต่างๆ ทรงพระอัจฉริยภาพ ยิ่ง ด้านดุริยางคศิลป์ ทรงพระราช นิพนธ์ทำ นองเพลงบุหลันลอยเลื่อน ส่วนด้านวรรณศิลป์ ทรงพระ ราชนิพนธ์วรรณคดีจำ นวนมาก เช่น บทละคร เรื่องรามเกียรติ์ บทละครเรื่องอิเหนา บทพากย์และบท จับระบำ เรื่องรามเกียรติ์ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน เสภา เรื่องขุนช้างขุนแผน บทละครนอกเรื่องไกร ทอง คาวี ไชยเชษฐ์ มณีพิชัย และสังข์ทอง ซึ่งล้วนแต่มีความงดงาม ทางวรรณศิลป์ พ.ศ. ๒๕๑๑ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และ วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศ ยกย่องพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยให้ทรง เป็นบุคคลสำ คัญ ของโลก และทางราชการได้กำ หนดให้ วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรม ราชสมภพเป็น “วันศิลปินแห่งชาติ” พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ๑


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ความเป็นมาของบทละครเรื่อง อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุนิง บทละครเรื่องอิเหนาเป็นวรรณคดีเรื่องสำ คัญเรื่องหนึ่งของไทย บทละครเรื่อง อิเหนาที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ได้แก่ บทละครเรื่องอิเหนาพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และบทละครเรื่องอิเหนาพระราช นิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะห มังกุหนิง ที่นำ มาให้เรียนในชั้นนี้เป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ ซึ่งมี ความดีเด่น ทั้งในด้านเนื้อหาและภาษา บทละครเรื่องอิเหนาพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ เป็นวรรณคดีนิทานที่ใช้ สำ หรับ การแสดงละครใน มีเนื้อเรื่องมาจากนิทานปันหยีของชวา-มลายู ซึ่งแพร่หลายเข้ามา ในสังคมไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดังปรากฏหลักฐานว่าใน รัชกาลสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมีการแต่งบทละครเรื่องดาหลัง หรือ “อิเหนาใหญ่” (พระนิพนธ์ ในเจ้าฟ้าหญิงกุณฑล) และบทละครเรื่องอิเหนา หรือ “อิเหนาเล็ก” (พระนิพนธ์ในเจ้า ฟ้าหญิงมงกุฎ) ซึ่งได้เค้าเรื่องมาจากนิทานปันหยี ทั้งนี้บทละครเรื่องอิเหนาพระราช นิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ กวีทรงนำ บทละครเรื่อง อิเหนาพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 9 มาทรงปรับปรุงใหม่ให้เป็นฉบับที่สมบูรณ์ ทั้งในเชิงวรรณคดีและการแสดง โดยได้ เลือกสรรกวีที่มีฝีมือในการประพันธ์ ไว้เป็นที่ปรึกษาสำ หรับการพระราชนิพนธ์ เช่น กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี สุนทรภู่ ฯลฯ สันนิษฐานว่า ส่วนที่เป็นพระราชนิพนธ์ เริ่มตั้งแต่ตอนต้นเรื่องจนถึงตอนสึกชี ส่วนตอนต่อจากนั้น เป็นผลงานของ กวีท่านอื่นแต่งต่อภายหลัง บทละครเรื่องอิเหนาพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ ได้รับการยกย่องว่าสามารถ นำ ไปเล่นละครให้สมบูรณ์ครบองค์ห้าของละครดีได้ ได้แก่ ตัวละครงาม งาม ร้องเพราะ พิณพาทย์เพราะ และกลอนเพราะทั้งยังได้รับการยกย่องจากวรรณคดี- สโมสรว่า เป็นยอดของบทละครรำ ๒


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย บทละครเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภท กลอนบทละคร บทหนึ่งมี๔ วรรค หรือ ๒ คำกลอน/คำ (๑ คำกลอน คำ = ๒ วรรค) แต่ละวรรคจะมี๖-๙ คำ ยกเว้นวรรคแรกของกลอนแต่ละท่อนมักจะ มีจำนวนคำน้อยกว่าเพราะใช้คำขึ้นต้นเป็นพิเศษ เช่น มาจะกล่าวบทไป เมื่อนั้น บัดนั้น หรือใช้คำขึ้นต้นแบบกลอนดอกสร้อย เช่น สุดเอยสุดสวาท สัมผัสของ กลอนบทละครจะคล้ายกับกลอนสุภาพ คือ คำสุดท้ายของวรรคที่๑ สัมผัสกับ คำที่๑๒ ๓ ๔ หรือ ๕ ของวรรคที่๒ (ถ้าวรรคที่๑ เป็น “มาจะกล่าวบทไป” “เมื่อนั้น” “บัดนั้น” มักไม่ปรากฏสัมผัสตำแหน่งนี้) คำสุดท้ายของวรรคที่๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่๓ และคำที่๑ ๒ ๓ ๔ หรือ ๕ ของวรรคที่ ๔ ส่วนคำสุดท้ายของวรรคที่๔ ส่งสัมผัสระหว่างบทไปยังคำสุดท้าย ของวรรค ที่๒ ในบทต่อไป อนึ่งในตอนต้นของกลอนแต่ละท่อน มักระบุชื่อเพลงที่ใช้สำหรับร้องกำกับ เช่น ช้าปีร่าย และตอนท้ายอาจระบุชื่อเพลงหน้าพาทย์ที่จะต้องบรรเลงกำกับ เช่น เชิด โอด หากต้องมีการเจรจาแทรกระหว่างบทร้องก็มักระบุคำว่า “เจรจา” ไว้ด้วย ลักษณะคำ ประพันธ์ ๓


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ตัวละคร อิเหนา อิเหนาหรือระเด่นมนตรีเป็นโอรสของ ท้าวกุเรปันและประไหมสุหรีนิหลาอระตา แห่งกรุงกุเรปัน อิเหนาเป็นชายรูปงามมี เสน่ห์เจรจาอ่อนหวาน นิสัยเจ้าชู้มี ความเชี่ยวชาญในการใช้กริชและกระบี่ เป็นอาวุธ บุษบา บุษบา เป็นธิดาของท้าวดาหาและประ ไหมสุหรีดาหราวาตีแห่งกรุงดาหาเมื่อ ตอนประสูติมีเหตุอัศจรรย์คือ มีกลิ่นหอม ตลบอบอวลไปทั่วทั้งวัง ดนตรีแตรสังข์ก็ ดังขึ้นเองโดยไม่มีผู้บรรเลง ท้าวดาหา ระตูปาหยัง ท้าวดาหา เป็นกษัตริย์ผู้ครองกรุงดาหา มีมเหสีครบ ตามตำ แหน่ง 5 องค์ ตำ แหน่งประไหมสุหรีซึ่งเป็นมเหสี เอกชื่อดาหราวาตี เป็นน้องสาวของ ประไหมสุหรีแห่ง กรุงกุเรปัน ท้าวดาหามีโอรสและธิดากับประไหมสุหรี 2 องค์คือ บุษบาหนึ่งหรัดกับสียะตรา ระตูปาหยัง เป็นอนุชาของท้าวกะหมังกุ หนิง ครองนครปาหยัง มีราชบุตรีสององค์ คือ ระเด่นรัตนาระติกาและรัตนาวาตี ระตู ปาหยังได้ช่วยพระเชรษฐา ในศึกกะหมังกุหนิง ๔


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ตัวละคร จินตะหราวาตี ท้าวกุเรปัน จินตะหราวาตีเป็นธิดาของระตูหมันหยากับประ ไหมสุหรีจินดาส่าหรีแห่งเมืองหมันหยา มีรูปโฉม งดงาม มีผิวสองสีนิสัยเจ้าอารมณ์เอาแต่ใจ ตนเอง แสนงอน ช่างพูด ประชดประชัน บาง ครั้งก็ก้าวร้าวหยาบคาย จนแม้แต่อิเหนายังนึก เบื่อและรำคาญใจ ท้าวกุเรปันนั้นทรงหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีของวงศ์ อสัญแดหวาจึงจัดการหาคู่ตุนาหงัน (คู่หมั้น) ที่ เป็นเชื้อสายของวงศ์อสัญแดหวาด้วยกัน ให้โอรส และธิดาของพระองค์ตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นจึงไม่พอ พระทัยเมื่ออิเหนาไปมีสัมพันธ์รักกับจินตะหรา ธิดาของระตูหมันหยาองค์ใหม่ ระตูจรกา มีรูปร่างอัปลักษณ์และเสียงแหบสั่น แต่ต้องการหญิง งามเป็นคู่ครอง ดังคำประพันธ์ที่ว่า ระตูรำพึงถึงองค์ ด้วยรูปทรงอัปลักษณ์หนักหนา ดูไหนมิได้งามทั้ง กายา ลักขณาผมหยักพักตร์เพรียง จมูกใหญ่ ไม่สง่าราศีจะพาทีแห้งแหบแสบเสียง คิดจะหากัลยา เป็นคู่เคียง ที่งามเพียงสาวสวรรค์ให้เกื้อองค์ ท้าวกะหมังกุหนิง ท้าวกะหมังกุหนิง ผู้ครองเมืองกะหมังกุหนิง มีน้อง ชาย 2 คนคือ ระตูปาหยังกับระตูประหมัน และมี โอรสชื่อวิหยาสะกำ ซึ่งพระองค์และมเหสีรักราวกับ แก้วตา เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงทราบว่าวิหยาสะกำคลั่ง ไคล้ใหลหลงบุษบา ธิดาของท้าวดาหา ซึ่งเพียงแต่เห็น รูปวาดเท่านั้น พระองค์ก็แต่งทูตไปสู่ขอนางทันที ๕


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ตัวละคร สังคามาระตา ระเด่นวิหยาสะกำ สังคามาระตา โอรสของระตูปรักมาหงัน และเป็น น้องของมาหยารัศมีสังคามาระตาเป็นหนุ่มรูป งาม มีความเฉลียวฉลาด รอบคอบ แก้ไขปัญหา เฉพาะหน้าได้เก่ง และกล้าหาญ มาหยารัศมี มาหยารัศมีเป็นธิดาของระตูปักมาหงันนางมีน้อง ชายคือสังคามาระตา รูปโฉมของมาหยารัศมีงดงาม มากเป็นกุลสตรีที่สงบเสงี่ยมเรียบร้อยไม่เห่อเหิม ทะเยอทะยาน เชื่อฟังและยอมปฏิบัติตามคำสั่งฃอง บิดามารดาและสามีแต่โดยดี สุหรานากง ระเด่นวิหยาสะกำ เป็นโอรสของท้าวกะหมังกุหนิง ซึ่งเกิดจากประไหมสุหรีเป็นหนุ่มรูปงาม ผิว พรรณผุดผ่อง มีฝีมือในการใช้ทวนเป็นอาวุธ จึง เป็นที่สุดสวาทของพระบิดา พระมารดายิ่งนัก แต่วิหยาสะกำมีจิตใจอ่อนไหวมาก สุหรานากง โอรสของท้าวสิงหัดส่าหรีที่เกิดจากประ ไหมสุหรีพระบิดาได้สู่ขอสะการะหนึ่งหรัด ธิดาท้าว กาหลังให้เป็นคู่ตุหนาหงันตั้งแต่เด็ก สุหรานากง ปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีอยู่ในโอวาทของพระบิดาและ พระมารดาอยู่เสมอ มีความกล้าหาญ และวางตนได้ อย่างเหมาะสม ๖


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ตัวละคร ท้าวสิงหส่าหรี ท้าวกาหลัง สังคามาระตา โอรสของระตูปรักมาหงัน และเป็น น้องของมาหยารัศมีสังคามาระตาเป็นหนุ่มรูป งาม มีความเฉลียวฉลาด รอบคอบ แก้ไขปัญหา เฉพาะหน้าได้เก่ง และกล้าหาญ ระตูหมันหยา เป็นโอรสของท้าวมังกันแห่งเมืองมังกัน พระบิดาได้ขอตุนาหงัน ระเด่นจินดาส่าหรีธิดาองค์ สุดท้องของระตูหมันหยาซึ่งสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เมื่อ แต่งงานกับประไหมสุหรีผู้มารดาของระเด่นจินดา ส่าหรีก็อภิเษกให้ครองเมืองหมันหยา เป็นระตูหมันห ยาองค์ต่อมา องค์ปะตาระกาหลา ระเด่นวิหยาสะกำ เป็นโอรสของท้าวกะหมังกุหนิง ซึ่งเกิดจากประไหมสุหรีเป็นหนุ่มรูปงาม ผิว พรรณผุดผ่อง มีฝีมือในการใช้ทวนเป็นอาวุธ จึง เป็นที่สุดสวาทของพระบิดา พระมารดายิ่งนัก แต่วิหยาสะกำมีจิตใจอ่อนไหวมาก ระตูหมันหยา องค์ปะตาระกาหลา หรือบางทีเรียกว่า องค์ อสัญแดหวา เป็นเทวดาบรรพบุรุษของ ราชวงศ์ อสัญแดหวา ซึ่งมีอยุ่ด้วยกัน 4 เมือง คือ กรุงกุเรปัน กรุงดาหา กรุงกาหลังและกรุงสิงหัดส่าหรีองค์ปะตา ระกาหลาจะคอยดูแลทุกข์สุขของบุคคลในราชวงศ์ อสัญแดหวาอยู่เสมอ ๗


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ตัวละคร ประสันตา สะการะวาตี ประสันตา เป็นพี่เลี้ยงหนึ่งในสี่ของอิเหนา ซึ่งท้าว กุเรปันเลือกแต่ครั้งอิเหนาประสูติใหม่ๆ บิดาของ ประสันตาเป็นเสนาบดีตำแหน่งยาสา(ฝ่าย ตุลาการ) ของกุเรปัน ประสันตามีนิสัยตลก คะนอง ปากกล้า เจ้าอารมณ์ชอบพูดเย้าแย่ เสียดสีผู้อื่นอยู่เสมอ และยังเจ้าเล่ห์อีกด้วย สะการะวาตีเป็นธิดาของท้าวปันจะรากันผู้เป็น พระเชษฐาของท้าวปักมาหงัน นางถูกพระชนก ถวายให้อิเหนาโดยการยินยอมของ จินตะหราวา ตีตอนที่อิเหนาจะยกทัพไปช่วยรบป้องกันเมือง ดาหานั้นได้ฝากนางและมาหยารัศมีไว้กับจินตะ หราวาตี ๘


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี เสด็จเหนือแท่นรัตน์มณี ภูมีเห็นสองอนุชา จึงตรัสเรียกให้นั่งร่วมอาสน์ สำ ราญราชหฤทัยหรรษา แล้วปราศรัยระตูบรรดามา ยังปรีดาผาสุกหรือทุกข์ภัย ซึ่งเราให้หามาทั้งนี้ จะไปตีดาหากรุงใหญ่ ระตูทุกนครอย่านอนใจ ช่วยเราชิงชัยให้ทันการ ถอดบทประพันธ์ ท้าวกะหมังกุหนิงเสด็จขึ้นแท่นประทับ เมื่อเห็นพระอนุชาทั้งสอง ซึ่งก็คือ ระตูปาหยังและระตูประหมัน จึงตรัสเรียกให้มานั่งร่วมกัน แล้วถามสารทุกข์สุกดิบ และบอกว่าที่ให้พระอนุชาทั้งสองมานี้ เพื่อให้ไปช่วยตี เมืองดาหา ให้กษัตริย์ทุกนครอย่างได้นิ่งนอนใจ ให้มาช่วยกัน ชิงชัยในการรบครั้งนี้ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๙


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น เหล่าระตูปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ จึงสนองมธุรสพจมาน พระมีการสงครามแต่ละครั้ง จะตั้งหน้าอาสาออกชิงชัย มิได้ย่อท้อถอยหลัง สู้ตายไม่เสียดายชีวัง กว่าจะสิ้นกำ ลังของข้านี้ ถอดบทประพันธ์ ระตูปาหยังและระตูประหมัน จึงตอบว่า เมื่อมีสงครามในแต่ละครั้ง ก็จะอาสาออกชิงชัยชนะ ด้วยความไม่ย่อท้อ จะสู้ตายโดยไม่เสียดายชีวิต จะสู้จนกว่าตัวจะตาย เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี ฟังระตูทูลตอบชอบที สมถวิลยินดีปรีดา จึงตรัสว่าท่านมาเหนื่อยนัก จงไปพักพลขันธ์ให้หรรษา ตรัสพลางทางชวนอนุชา เข้ามหาปราสาทรูจี ถอดบทประพันธ์ เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงได้ยินที่อนุชาทั้งสองตอบมาก็รู้สึกพอใจมาก จึงตรัสว่า อนุชาทั้งสองเดินทางมานี้คงเหนื่อยมาก ให้พากองทัพไปพักผ่อน และชวนให้ อนุชาทั้งสองเข้าปราสาท บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๑๐


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ลดองค์ลงนั่งบนแท่นทอง กับด้วยพระน้องทั้งสองศรี จึงตรัสเล่าความตามคดี จนใช้เสนีถือสารไป ถอดบทประพันธ์ แล้วลงนั่งบนแท่นประทับ พร้อมด้วยพระอนุชาทั้งสอง แล้วตรัสเล่า ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อนุชาทั้งสองฟัง เมื่อนั้น สองกษัตริย์ฟังแจ้งแถลงไข จึงทูลขัดทัดทานทันใด เป็นไฉนผ่านเกล้ามาเบาความ อันสุรีย์วงศ์เทวัญอสัญหยา เรืองเดชเดชาชาญสนาม ทั้งโยธีก็ชำ นาญการสงคราม ลือนามในชวาระอาฤทธ์ กรุงกษัตริย์ขอขึ้นก็นับร้อย เราเป็นเมืองน้อยกระจิหริด ดังหิ่งห้อยจะแข่งแสงอาทิตย์ เห็นผิดระบอบบุราณมา ใช่จะไร้ธิดาทุกธานี มีงามแต่บุตรีท้าวดาหา พระองค์จงควรตรึกตรา ไพร่ฟ้าประชากรจะร้อนนัก ถอดบทประพันธ์ เมื่อระตูปาหยังและระตูประหมันได้ยินดังนั้น จึงรีบทัดทานว่า ทำ ไมท่านถึงไม่คิดให้ รอบคอบเสียก่อน เมืองดาหานั้น มีวงศ์เทวัญซึ่งเป็นเชื้อสายกษัตริย์ที่สืบวงศ์มาจาก เทวดาปกครองอยู่ อีกทั้งมีพลทหารซึ่งชำ นาญการทำ สงคราม มีเมืองขึ้นนับร้อย เมือง ของเราเป็นเพียงเมืองเล็กๆเหมือนกับหิ่งห้อยที่ริอาจจะไปแข่งกับแสงอาทิตย์ หญิงงามใช่ ว่าจะมีแต่พระธิดาของท้าวดาหาเท่านั้น ขอให้พระองค์คิดให้ดีๆ เพราะการศึกครั้งนี้ จะทำ ให้ไพร่ฟ้าประชาชนได้รับความเดือนร้อน บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๑๑


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงมีศักดิ์ จึงบ่ายเบี่ยงเลี่ยงตอบพระน้องรัก ใช่จะหาญหักวงศ์เทวัญ ด้วยบัดนี้บุตรีดาหา จรกาให้มาตุนาหงัน เราจะยกพลไกรไปโรมรัน ช่วงชิงนางนั้นกับจรกา ถอดบทประพันธ์ ท้าวกะหมังกุหนิงไม่เชื่อคำ ทัดทาน จึงบ่ายเบี่ยงที่จะตอบอนุชาทั้งสอง ตัวเรานั้นก็ไม่ อยากที่จะทำ สงครามกับเมืองดาหาหรอก แต่เนื่องด้วยพระธิดาของท้าวดาหาได้หมั้นหมาย กับจรกาจึงจะไปทำ ศึกเพื่อไปแย่งนางบุษบากับจรกา เมื่อนั้น สองระตูทูลตอบพระเชษฐา เมื่อนางยังอยู่กับบิดา ที่ในดาหากรุงไกร แม้นเกิดการสงครามช่วงชิง ท้าวดาหาหรือจะนิ่งดูได้ จะบอกความไปสามเวียงชัย กรีธาทัพใหญ่มามากมาย จะเป็นศึกกระหนาบหน้าหลัง เหลือกำ ลังโยธาทั้งหลาย ถ้าเสียทีเพลี่ยงพล้ำ สิซ้ำ ร้าย จะอัปยศอดอายแก่จรกา ถอดความ. พระอนุชาทั้งสองจึงตอบกลับไปว่า นางบุษบายังคงอยู่กับบิดาที่เมืองดาหา ถ้าเกิดสงคราม การช่วงชิงท้าวดาหาคงไม่อยู่เฉยแน่ ท้าวดาหาคงต้องส่งสาน์สบอกแก่กษัตริย์วงศ์เทวัญทั้ง สามเมือง ให้ยกทัพใหญ่มามากมายเกิดเป็นศึกครั้งใหญ่ ทั้งศึกนาบทั้งหน้าหลัง ถ้าเรา เสียทีเพลี่ยงพล้ำ แพ้ขึ้นมา ก็จะอายจรกาไปเสียอีก บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๑๒


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงนาถา จึงตรัสตอบสองพระน้องยา ซึ่งว่านี้เจ้าไม่เข้าใจ อันระเด่นมนตรีกุเรปัน ก็ขัดข้องเคืองกันเป็นข้อใหญ่ ไปอยู่เมืองหมันหยากว่าปีไป ที่ไหนจะยกพลมา แต่กาหลังสิงหัดส่าหรี จะกลัวดีเป็นกระไรหนักหนา ฝ่ายเราเล่าก็สามพารา เป็นใหญ่ในชวาแว่นแคว้น ถึงทัพจรกาล่าสำ นั้น พี่ไม่พรั่นให้มาสักสิบแสน จะหักโหมโจมตีให้แตกแตน พักเดียวก็จะแล่นเข้าป่าไป เจ้าอย่าย่อท้อไม่พอที่ แต่เพียงนี้ไม่พรั่นหวั่นไหว เอ็นดูนัดดาโศกาลัย ว่ามิได้อรไทจะมรณา แม้นวิหยาสะกำ มอดม้วย พี่ก็คงตายด้วยโอรสา ไหนไหนในจะตายวายชีวา ถึงเร็วถึงช้าก็เหมือนกัน ผิดก็ทำ สงครามดูตามที เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน พี่ดังพฤกษาพนาวัน จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกล่าวมา ถอดบทประพันธ์ ท้าวกะหมังกุหนิงจึงตรัสว่า พวกเจ้าไม่เข้าใจหรอกว่า เจ้าฟ้าแห่งเมืองกุเรปัน (อิเหนา) มี เรื่องขัดเคืองกับท้าวดาหาอยู่และไปอยู่เมืองหมันหยาก็หลายปี จะยกทัพมาได้อย่างไร แต่ เมืองกาหลัง และเมืองสิงหัดส่าหรี พวกเจ้าจะกลัวอะไรกันหนักหนา ฝ่ายเราก็มีตั้งสามเมือง ที่เป็นใหญ่ในชวาเหมือนกัน ส่วนทัพของท้าวล่าสำ พี่ชายของจรกานั้น พี่ก็ไม่หวั่นกลัว ต่อให้ มาสักสิบแสน (หนึ่งล้าน) ก็จะโจมตีกองทัพให้แตก เดี๋ยวพวกมันก็หนีเข้าป่าไปเอง พวกเจ้า อย่ากลัวไปเลย สงสารวิหยาสะกำ เถอะ ถ้าไม่ได้นางบุษบามาคงจะขาดใจตาย ถ้าวิหหยาสะ กำ ตาย พี่ก็คงต้องตายตามไปด้วยแน่ อย่างไรก็จะต้องตายอยู่แล้ว ถึงจะช้าหรือเร็วก็คง เหมือนกัน ผิดกันตรงที่ว่า ถ้าทำ สงคราม เคราะห์ดีอาจได้ตามสมใจนึก เมื่อนั้น สองกษัตริย์ฟังตรัสพระเชษฐา จะเซ้าซี้ก็จะขัดพระอัชฌา ต่างก้มพักตราไม่พาที ถอดบทประพันธ์ มื่อระตูปาหยังและระตูประหมันได้ยินที่ท้าวกะหมังกุหนิงพูด ก็ก้มหน้าไม่กล้าพูดจา เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี ชวนสองอนุชาธิบดี เข้าสู่ที่บรรทมสำ ราญ ถอดบทประพันธ์ ท้าวกะหมังกุหนิงเห็นพระอนุชาทั้งสองไม่โต้แย้งใดๆ ก็ชวนทั้งสองให้เข้าที่บรรทมให้สบายใจ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๑๓


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ท้าวดาหาเสด็จออกรับทูตกะหมังกุหนิง เมื่อนั้น พระองค์ทรงพิภพดาหา ครั้นสุริย์ฉายบ่ายสามนาฬิกา ก็โสรจสรงคงคาอ่าองค์ ทรงเครื่องประดับสรรพเสร็จ แล้วเสด็จอย่างเยื้องยูรหงส์ ออกยังพระโรงคัลบรรจง นั่งลงบนบัลลังก์รูจี ยาสาบังคมบรมนาถ เบิกทูตถือราชสารศรี จึงดำ รัสสั่งไปทันที ให้เสนีนำ แขกเมืองมา ถอดบทประพันธ์ ครั้นเมื่อเวลาบ่ายสามนาฬิกาองค์ท้าวดาหาก็เสร็จเข้าสรงน้ำ ในคงคา จากนั้นก็แต่งองค์ทรง เครื่องประดับทั้งหลาย แล้วจึงเสด็จเยื้องย่างอย่างสวยงามดุจดั่งหงส์ ออกมายังท้องพระโรง แล้วนั่งลง ณ บัลลังก์อันงดงาม เสนาบดีตำ แหน่งยาสานั้นได้บังคมทูลเบิกทูตนำ ราชสารให้ พระองค์ ดังนั้นจึงรับสั่งให้เหล่าเสนานำ แขกเข้ามาพบในทันที บัดนั้น อำ มาตย์รับสั่งใส่เกศา ออกไปพาสองทูตา เข้ามาประณตบทมาลย์ ถอดบทประพันธ์ เมื่ออำ มาตย์ได้รับคำ สั่งแล้ว จึงออกไปพาสองทูตกะหมังกุหนิงให้มาเข้าเฝ้าท้าวดาหา บัดนั้น เสนีผู้ใหญ่ฝ่ายทหาร จึงให้อาลักษณ์พนักงาน รับราชสารมาอ่านพลัน ถอดบทประพันธ์ แล้วเสนาชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายทหารจึงให้พนักงานผู้รับผิดชอบรับราชสารมาอ่านถวายพระองค์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๑๔


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ในสารพระผู้ผ่านนคเรศ กะหมังกุหนิวงนิเวศน์เขตขันธ์ ขอถวายประณตบังคมคัล พระผู้วงศ์เทวัญศักดา ไม่ควรเคืองเบื้องบาททบทศรี ด้วยข้าน้อยนี้มีโอรสา เดิมไปไล่ล้อมมฤคา ได้รูปพระธิดาในกลางไพร ชะรอยเป็นบุพเพนิวาสา เทวาอารักษ์มาชักให้ มีความเสน่หาอาลัย แต่หลงใหลใฝ่ฝันรันทด หวังเป็นเกือกทองรองบาทา พระผู้วงศ์เทวาอันปรากฏ จะขอพระบุตรีมียศ ให้โอรสข้าน้อยดังจินดา อันกรุงไกรไอศูนย์ทั้งสอง จะเป็นทองแผ่นเดียวในวันหน้า ขอพำ นักพักพึ่งพระเดชา ไปกว่าชีวันจะบรรลัย ถอดบทประพันธ์ ในสารนั้นบอกถึงองค์ผู้ครองเมืองกะหมังกุหนิงขอถวายบังคมถึงพระองค์ ขอพระองค์ ทรงประนีประนอมไม่เขื้องโกรธกัน ด้วยว่าตนมีโอรสอยู่องหนึ่งได้ไปท่องป่าล่าสัวต์และ ได้พบเจอกับรูปของพีะวิตาในกลางป่า เชื่อว่าคงเป็นบุพเพสันนิวาส อาจเกิดจากเทวา นำ พาให้พระโอรสตกอยู่ในเสน่หาและมีความอาลัย เฝ้าแต่หลงใหล ใฝ่ฝันพระธิดาน่า รันทดยิ่ง หวังเพียงรับใช้รองบาทพระองค์ผู้เป็นกษัตริย์วงเทวัญ ขอพระธิดาผู้สูงศักดิ์ ให้กับโอรสของตนได้สมหวังดังใจหวังอันกรุงของเราทั้งสองจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ในวันช้างหน้า และขออาศัยพึ่งพิงบารมีไปจนกว่าจะสิ้นชีวัน บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๑๕


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น องค์ศรีปัตหราเป็นใหญ่ ฟังสารทราบอรรถแล้วตรัสไป แก่เสนาในทั้งสองนั้น อันอะหนะบุษบาบังอร ครั้งก่อนจรกาตุนาหงัน ได้ปลดปลงลงใจให้ปัน นัดกันจะแต่งการวิวาห์ ซึ่งจะนับของสู่นะตูนี้ เห็นผิดประเพณีหนักหนา ฝูงคนทั้งแผ่นดินจะนินทา สิ่งของที่เอามาจงคืนไป ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง บัดนั้น ทูตานุทูตแถลงไข ท้าวกะหมังกุหนิงภูวไนย สั่งให้ข้าทูลพระภูมี ถ้าแม้นมิยินยอมอนุญาต ให้พระราชธิดามารศรี เร่งระวังพระองค์ให้จงดี ตกแต่งบุรีให้มั่นคง ฯ ถอดบทประพันธ์ เมื่อองค์ท้าวดาหาผู้เป็นใหญ่ได้รับฟังสารทราบถึงข้อความแล้ว จึงรับสั่งแต่ เสนาทั้งสองของท้าวกะหมังกุหนิงที่มาเข้าเฝ้าว่าอันนางบุษบาพระธิดาของเรา นั้น ในครั้งก่อนเราไปยกให้แก่จรกาที่มาหมายหมั้นไว้ไปก่อนแล้ว และได้ปลงใจ จะให้แต่งงานกันแล้ว อันจะรับของสู่ของท้าวกะหมังกุหนิงนี้ ก็ดูจะผิดประเพณี ยิ่งนัก เหล่าประชาราชอาจนินทาได้ จึงขอให้นำ สิ่งของเหล่านี้กลับคืนไป เหล่าทูตเมื่อรับแจ้งแล้วก็ทูลบอกพระองค์ว่า ท้าวกะหมังกุหนิงรับสั่งให้ตนทูล พระองค์ว่าถ้าแม้นพระองค์ไม่ยินยอมยกพระราชธิดาให้ ก็ให้ระวังพระองค์ให้ดี ให้สร้างบ้านเมืองของพระองค์ให้มั่นคง ๑๖


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น พระผู้ผ่านไอศูรย์สูงส่ง ประกาสิตสีหนาทอาจอง จะณรงค์สงครามก็ตามใจ ตรัสพลางย่างเยื้องยุรยาตร จากอาสน์แท่นทองผ่องใส พนักงานปิดม่านทันใด เสด็จเข้าข้างในฉับพลัน ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง บัดนั้น ทูตานุทูตก็ผายผัน ออกจากพาราดาหานั้น พากันกลับไปมิได้ช้า ฯ ถอดบทประพันธ์ ครั้นแล้วองค์ท้าวดาหาก็ประกาศิตอย่างองอาจว่า หากจะยัง คงทำ สงครามก็ตามใจ พลางเสด็จลงจากที่นั่งแท่นทองเข้า ด้านในอย่างฉับพลัน ธารกำ นัลก็ปิดม่านในทันที ฝ่ายทูตก็ได้ออกจากเมืองดาหาพากันกลับทันใด ๑๗


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์องค์ศรีปัตหรา เผยสีหบัญชรแล้วบัญชา ตรัสสั่งเสนาธิบดี จงเร่งไปทูลเหตุพระเชษฐา อีกองค์อนุชาทั้งสองศรี บอกระตูจรกาอย่าช้าที ว่าไพรีจะยกมาชิงชัย ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เมื่อนั้น พระปิ่นภพกุเรปันราชฐาน แจ้งว่าไพรีมารอนราญ พระจึงให้แต่งสารหนังสือลับ ครั้นเสร็จสั่งสองเสนา จงถือไปหมันหยาสองฉบับ ใบหนึ่งนั้นเร่งกองทัพ กำ ชับอิเหนาให้ยกมา ใบหนึ่งนั้นไปให้ระตู ท้าวผู้ผ่านเมืองหมันหยา จงรีบไปให้ถึงพารา แต่ในสิบห้าราตรี ฯ ถอดบทประพันธ์ ฝ่ายองค์ผู้เป็นสุริย์วงศ์องค์ดาหาเปิดหน้าต่างแล้วมีบัญชาสั่งเสนาให้เร่งไปทูล เหตุการณ์แก่ผู้เป็นพี่ของพระองค์ และทูลกับผู้เป็นน้องอีกสองคนของพระองค์ ไป บอกระตูจรกาอย่าจรกาอย่ามัวช้าเพราะจะมีข้าศึกยกทัพมาชิงชัย ๑๘ ฝ่ายองค์ท้าวกุเรปันได้รับแจ้งว่าจะมีข้าศึกมารุกราน จึงให้แต่งสาร หนังสือลับแล้วสั่งให้สองเสนาถือไปยังเมืองหมันหยา ฉบับหนึ่งเร่งนำ กองทัพกำ ชับให้อิเหนาเร่งยกมาช่วย อีกใบหนึ่งไปให้กับเจ้าเมืองผู้ครอง เมืองหมันหยา แล้วสั่งให้รีบไปให้ถึงเมืองหมันหยาภายใน 15 คืน


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย บัดนั้น ดะหมังรับสั่งใส่เกศี จึงนำ สาราจรลี มาจากที่พระโรงชัยฉับพลัน เรียกหาบ่าวไพร่ได้พร้อมหน้า มมมมดะหมังขึ้นขี่ม้าผายผัน ออกจากนคเรศกุเรปัน พากันเร่งรีบคลาไคล ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เมื่อนั้น องค์ท้าวกุเรปันเป็นใหญ่ ครั้นดะหมังเสนาทูลลาไป พระตรึกไตรในคดีด้วยปรีชา แล้วตรัสแก่กะหรัดตะปาตี อันสงครามครั้งนี้เห็นหนักหนา จะเปลี่ยวเปล่าเศร้าใจอนุชา ไม่มีที่จะปรึกษาหารือใคร เจ้าจงยกพลขันธ์ไปบรรจบ สมทบทัพอิเหนาให้จงได้ ชวนกันยกรีบเร็วไป อย่าทันให้ปัจจามิตรติดพารา ฯ ถอดบทประพันธ์ ๑๙ ครั้นแล้วขุนนางได้รับคำ สั่งแล้วจึงรีบนำ สารไปจากท้องพระโรงใน ทันที พร้อมกับเรียกทั้งบ่าวไพร่ให้มาพร้อมหน้า แล้วรีบขึ้นขี่ม้า ออกจากนครกุเรปันอย่างเร่งรีบในทันใด ฝ่ายองค์ท้าวกุเรปันผ็เป็นใหญ่หลังจากที่ขุนนางได้ทูลลาไปแล้วพระองค์ก็ตรึก ตรองในคดีความด้วยพระปรีชา แล้วตรัสกับกะหรัดตะปาตี ว่าสงครามนี้เห็นว่า จะสาหัส หากกลัวอนุชาจะเปล่าเปลี่ยวเศร้าใจ ไม่มีที่ปรึกษา จึงรับสั่งให้ยกพล ยกกองทัพ ไปสมทบกับทัพของอิเหนาให้ทันอย่างเร็วไว อย่าให้ข้าศึกทันยกทัพ มาประชิดเมืองได้


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น กะหรัดตะปาตีโอรสา ก้มเกล้าทูลสนองพระบัญชา จะถวายบังคมลาพรุ่งนี้ ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เมื่อนั้น กะหรัดตะปาตีศรีใส ครั้นรุ่งรางสุริยาก็คลาไคล เข้าในที่สนานสำ ราญองค์ ถอดบทประพันธ์ ๒๐ ฝ่ายกะหรัดตะปาตีผู้เป็นโอรสทูลสนองรับสั่งพระองค์ แล้วบอกว่าจะถวายบังคมลาในวันพรุ่งนี้


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย รดชำ ระมลทินอินทรีย์ มุรธาวารีภิเษกสรง ลูบไล้เสาวคนธ์ธารทรง บรรจงสอดซับสนับเพลา ภูษายกพื้นดำ อำ ไพ สอดใส่ฉลององค์ทรงวันเสาร์ เจียระบาดคาดรัดหน่วงเนา ปั้นเหน่งเพชรเพริศเพราพรรณราย ตาบทิศทับทรวงห่วงห้อย สวมสร้อยสังวาลประสานสาย ทองกรแก้วกิ่งพริ้งพราย ธำ มรงค์เรืองรายพลอยเพชร ทรงชฎามาลัยดอกไม้ทัด กรรเจียกจอนจำ รัสตรัสเตร็จ เหน็บพระแสงกั้นหยั่นกัลเม็ด แล้วเสด็จขึ้นเฝ้าพระบิดา ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๒๑ ครั้นถึงรุ่งสางก็เข้าอาบน้ำ ชำ ระมลทินจากร่างกาย สรงน้ำ ศักดิ์สิทธิ์แสน บริสุทธิ์ ลูบไล้ด้วยเครื่องหอม แล้วบรรจงสวมใส่สนับเพลาสวมใส่ภูษาสีดำ อำ ไพ ในวันเสาร์ คาดผ้ารัดเอวใส่เข็มขัดเพชรแสนจะงดงาม ห้อยด้วย ตาบทิศสวมสร้อยสังวาลทั้งทองกรทั้งแก้วช่างงดงาม ธำ มรงค์ประดับด้วย พลอยเพชรมากมาย ทรงสวมชฎามาลัยมีดอกไม้ทัดที่แสนจะเจิดจ้าเปล่ง ประกาย พร้อมด้วยเหน็บพระแสงแล้วเข้าเฝ้าพระบิดา


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ก้มเกล้าเคารพอภิวาท พระปิ่นภพภูวนาถนาถา ยับยั้งคอยฟังพระวาจา จะบัญชาให้ยกโยธี ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เมื่อนั้น องค์ท้าวกุเรปันเรืองศรี จึงอำ นวยอวยพรสวัสดี ให้เจ้ามีเดชาวราฤทธิ์ อันเหล่าศัตรูหมู่ร้าย จงแพ้พ่ายอย่ารอต่อติด อานุภาพปราบปรามไปทั่วทิศ ปัจจามิตรจงเกรงฤทธิรอน ถอดบทประพันธ์ ๒๒ แล้วเคารพกราบบังคมพระบิดาคอยฟังวาจารับสั่งจะให้บัญชาให้ยกทัพ ฝ่ายองค์ท้าวกุเรปันก็อวยพรให้โชคดีให้มีฤทธิ์เดชเก่งกล้า สามารถ ให้ศัตรูผู้มุ่งร้ายทั้งหลายจงพ่ายแพ้ ให้มีอานุภาพ สามารถสยบศัตรูได้รอบทิศ ให้ศัตรูจงเกรงในฤทธิ์ในตัว


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น กะหรัดตะปาตีชาญสมร กราบถวายบังคมประนมกร รับพรพระบิดาแล้วคลาไคล ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ครั้นถึงเกยชาลาหน้าพระลาน พร้อมหมู่ทวยหาญน้อยใหญ่ เสด็จทรงมิ่งม้าอาชาไนย ให้เคลื่อนพลไกรยาตรา ฯ ถอดบทประพันธ์ ๒๓ ครั้นแล้วกะหรัดตะปาตีก็กราบบังคมไหว้รับพรจากพระบิดาแล้วทูลลาไป ครั้นทัพถึงถึงหน้าพระลานพร้อมด้วยบริวารทหารมากมาย ก็เสด็จขึ้นทรงม้าแล้วรับสั่งให้เคลื่อนพลออกไป


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย รอนแรมมาในพนาเวศ ถึงทางร่วมนคเรศหมันหยา พระสั่งให้หยุดพลโยธา คอยท่าทัพระเด่นมนตรี ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๒๔ รอนแรมอยู่ในป่าจนถึงทางร่วมเข้าสู้เมืองหมันหยาแล้ว สั่งให้หยุดพลทัพไว้ คอยทัพของอิเหนาที่จะตามมา


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย บัดนั้น ตำ มะหงงกาหลังกรุงใหญ่ ทั้งดะหมังมหาเสนาใน เร่งเกณฑ์ทัพชัยฉับพลัน จัดทหารอาสาได้ห้าหมื่น แต่พื้นกำ แหงแข็งขัน ช้างม้าอาวุธครบครัน ธงสำ คัญคอยนำ ดำ เนินพล ทั้งสองเสนีขึ้นขี่ม้า โยธาเยียดยัดอัดถนน ทนายเดินเคียงข้างกางสัปทน ยกพลออกจากพารา ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง มาถึงทางร่วมริมดง พบสุหรานากงวงศา สามทัพสมทบโยธา ยกล่วงมรรคามาพร้อมกัน ถอดบทประพันธ์ ทัพเมืองกาหบังยกมาสมทบ ๒๕ ฝ่ายขุนนางตำ มะหงงกาหลังรวมทั้งดะหมังและมหาเสนาใน ก็เร่ง เกณฑ์ทัพในทันใด ได้จัดทหารอาสาผู้มีพื้นฐานการรบที่แข็งขัน จำ นวนห้าหมื่นคน มีช้างม้าและอาวุธอย่างครบครัน มีพลธงที่ สำ คัญคอยนำ กองทัพ สองจอมทัพขึ้นขี่ม้ากองทัพแน่นอัดเต็มถนน ข้ารับใช้เดินเคียงคอยกางสัปทน แล้วเคลื่อนพลออกจากเมืองไป เมื่อมาถึงทางร่วมริมป่าก็พบกับกองทัพของกะหรัดตะปาตี ทั้งสองกองทัพได้สมทบกันพากันเคลื่อนตามทางมาพร้อม กัน


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย บัดนั้น ทั้งสองทูตาคนขยัน ซึ่งถือสารไปเมืองดาหานั้น พากันรีบกลับมาฉับไว ถึงกะหมังกุหนิงนคเรศ มายังนิเวศน์วังใหญ่ พอเวลาเฝ้าท้าวไท ก็เข้าไปในพระโรงรจนา ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๒๖ มาถึงฝ่ายทูตทั้งสองของท้าวกะหมังกุหนิงซึ่งได้ถือสารไปเมืองดาหานั้นก็ พากันกลับมายังเมืองของตน จนถึงตัวเมืองกะหมังกุหนิง ก็ตรงดิ่งมายัง วังใหญ่ เมื่อถึงเวลาก็เข้าเฝ้ากะหมังกุหนิงเหนือหัวในท้องพระโรง


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย จึงประนมก้มเกล้าเคารพ ทูลพระองค์ทรงภพนาถา ข้าไปได้ถวายสารา ท้าวดาหาทราบสิ้นทุกประการ ตรัสขาดว่าราชบุตรี จรกาธิบดีมากล่าวขาน พระยกให้ได้กำ หนดนัดงาน ยังแต่จะแต่งการวิวาห์กัน บรรดาของถวายนั้นไม่รับ ส่งกลับคืนมาทุกสิ่งสรรพ์ มิได้คิดเกรงองค์พระทรงธรรม์ บากบั่นสลัดตัดรอน ข้าทูลความตามสั่งนอกสารา ว่ามิให้พระธิดาดวงสมร จงเร่งตกแต่งพระนคร รับทัพภูธรจะยกมา จะชิงนางโฉมยงให้จงได้ ใครมีชัยก็จะสมปรารถนา ท้าวตรัสว่าตามแต่วิญญาณ์ พระราชาจงทราบบาทมูล ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๒๗ แล้วจึงก้มกราบบังคมทูลเหนือหัว ว่าได้ไปถวายสารมาแล้ว องค์ท้าวดาหา ได้ทราบเนื้อความทุกประการ ทรงตรัสอย่างเฉียบขาดว่าพระธิดาของ พระองค์นั้น มีจรกามาสู่ขอและได้ยกให้ทั้งยังได้กำ หนดนัดหมายงานวิวาห์ ไปแล้ว ส่วนบรรดาของถวายนั้นท่านไม่รับ ให้ส่งกลับมาทั้งหมด ท่านไม่ได้ คิดเกรงองค์พระ คอยแต่จะตัดรอนซะทุกเรื่อง และได้ทูลความตามได้รับ นอกสาร ถ้าท้าวดาหาไม่ให้พระธิดา ก็จงรีบเร่งทำ การปรับแต่งพระนครให้ มั่นคง รับทัพเหนือหัวที่จะยกมา จะชิงพระธิดาให้ได้หากใครที่ได้รับชัยชนะ จะสมปรารถนา แต่องค์ท้าวดาหากลับตรัสว่าแล้วแต่ตามวิญญาณ์ ขอ พระองค์จงทราบด้วย


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงนเรนทร์สูร ได้ฟังทั้งสองทูตทูล ให้อาดูรเดือดใจดังไฟฟ้า จึงบัญชาตรัสด้วยขัดเคือง ดูดู๋เจ้าเมืองดาหา เราอ่อนง้อขอไปในสารา แต่ว่าจะรับไว้ก็ไม่มี ถึงจรกามากล่าวนางไว้ ได้ยกให้เขาก่อนก็ควรที่ จะโอภาปราศรัยมาให้ดี นี่สิตัดไมตรีให้ขาดทาง เราก็เรืองฤทธาศักดาเดช อาณาจักรนัคเรศกว้างขวาง จำ ต้องมีมานะไม่ละวาง จะชิงนางบุษบาลาวัณย์ แม้นมิได้สมคิดดังจิตปอง ไม่คืนครองกรุงไกรไอศวรรย์ จะสงครามตามตีติดพัน ไปกว่าชีวันจะบรรลัย ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๒๘ เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงได้สดับฟังทั้งสองทูตทูลความดังนั้นก็โกรธอย่างยิ่ง จึงมีบัญชาตรัสออกมาด้วยความขัดเคืองใจว่า ดูดู๋เจ้าเมืองดาหา เรา อุตส่าห์อ่อนน้อมง้อขอไปในสาร จะรับไว้ก็ไม่มีเลย ถึงแม้จรกามาขอนาง ไว้ แล้วได้ยกนางให้เขาไปก่อนก็สมควรอยู่ที่จะปราศรัยมาให้ดี แล้วดูสิ มาตัดไม่ตรีให้ขาดกัน เรานั้นก็มีศักดามีบารมีมาก อาณาจักรก็กว้าง ขวางอยู่พอที่ จำ เป็นจะต้องมีความพยายามไม่ละวาง จะต้องชิงนาง บุษบามาให้ได้ หากไม่ได้สมดั่งใจหมายก็จะไม่ขอกลับคืนพระนครแห่งนี้ อีก จะทำ สงครามตามรังควาญอยู่ทุกครา จนกว่าชีวิตจะหาไม่


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย บัดนั้น สองทูตทูลแจ้งแถลงไข ข้าได้ยินตระหนักประจักษ์ใจม ท้าวดาหาตรัสใช้เสนี ให้รีบไปแจ้งเหตุพระเชษฐา กับพาราสิงหัดส่าหรี อนุชากาหลังธิบดี อีกบุรีระตูจรกา เห็นกษัตริย์ทั้งสี่ธานีนั้น จะมาช่วยป้องกันกรุงดาหา เมื่อวันข้าออกจากเมืองมา เสนาก็ไปพร้อมกัน ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๒๙ สองทูตทูลความอีกครั้ง ข้าได้ยินได้ตระหนักในใจว่าท้าวดาหาตรัสให้เสนารีบ ไปแจ้งเหตุแก่เชษฐา กับเมืองสิงหัสส่าหรี อีกทั้งพระอนุชาแห่งกาหลัง ทั้งยัง เมืองแห่งระตูจรกา เห็นว่ากษัตริย์ทั้งสี่เมืองนั้นจะมาช่วยป้องกันเมืองดาหา เมื่อตอนที่ข้าออกมาจากเมืองนั้น เสนาก็ไปพร้อมกันด้วย


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงแข็งขัน ได้ฟังกริ้วโกรธดังเพลิงกัลป์ จึงกระชั้นสีหนาทประภาษไป ถึงว่ากษัตริย์ทั้งสี่กรุง จะมาช่วยรบพุ่งเป็นศึกใหญ่ กูก็ไม่ครั่นคร้ามขามใคร จะหักไปให้เป็นภัสม์ธุลีลง ว่าพลางทางมีพจนารถ สั่งอำ มาตย์ดะหมังตำ มะหงง เร่งเกณฑ์พวกพลรณรงค์ ที่สามารถอาจองในสงคราม เลือกสรรโยธีทั้งสี่หมู่ เคยทำ ลายค่ายคูขวากหนาม แต่กองร้อยรบพันไม่ครั่นคร้าม ให้ครบสามสิบหมื่นพื้นตัวดี เอาวิหยาสะกำ เป็นกองหน้า ตรวจตราเตรียมกระบวนถ้วนถี่ อันกองหลังรั้งพลมนตรี ทั้งสองศรีอนุชาผู้ใจภักดิ์ กูจะเป็นจอมพลโยธา หนุนทัพลูกยาเข้าโหมหัก ไม่เกรงวงศ์เทวาสุรารักษ์ ให้ปรากฏยศศักดิ์เสียครั้งนี้ ครั้นเสร็จสั่งมหาเสนา จึงถามขุนโหราทั้งสี่ เราจะยกพลไกรไปต่อตี พรุ่งนี้ดีร้ายประการใด ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๓๐ ฝ่ายท้าวกะหมังกุหนิงได้ฟังก็ยิ่งกริ้วโกรธยิ่งนัก จึงประภาษไป ถึงว่ากษัตริย์ ทั้งสี่เมืองจะมาช่วยท้าวดาหารบเป็นศึกใหญ่ ตัวกูก็ไม่เกรงกลัวใคร จะหัก ล้างให้เป็นธุลีจงได้ พูดพร้อมสั่งอำ มาตย์ดะหมังตำ มะหงงให้เร่งเกณฑ์ ไพร่พลที่มาความสามารถในสงคราม ให้เลือกสรรทหารทั้งสี่หมู่ที่เคยทำ ลาย ค่ายทำ ลายศัตรูมาแต่กองร้อยให้มารบในฉับพลับอย่าได้ครั่นคร้าม หาให้ได้ ครบสามสิบหมื่นนายที่มีพื้นฐานการรบดี นำ เอาวิหยาสะกำ เป็นกองหน้า คอยตรวจตราเตรียมกระบวนทัพให้ถี่ถ้วน ส่วนกองหลังรั้งที่พลมนตรีของทั้ง สองอนุชา กูจะเป็นจอมพลทัพ คอยหนุนทัพลูกให้เข้าโจมตี ไม่เกรงวงศ์เทวา แต่อย่างใด ให้ปรากฏถึงยศศักดิ์ในครั้งนี้ ครั้นแล้วเสด็จสั่งมหาเสนาถามขุน โหราทั้งสี่คนว่าการที่เราจะยกทัพไปต่อตีในวันพรุ่งนี้ จะดีร้ายประการใด


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย บัดนั้น พระโหราราชครูผู้ใหญ่ รับรสพจนารถภูวไนย คลี่ตำ รับขับไล่ไปมา เทียบดูดวงชะตาพระทรงยศ กับโอรสถึงฆาตชันษา ทั้งชั้นโชคโยคยามยาตรา พระเคราะห์ขัดฤกษ์พาสารพัน จึงทูลว่าถ้ายกวันพรุ่งนี้ จะเสียชัยไพรีเป็นแม่นมั่น งดอยู่อย่าเสด็จสักเจ็ดวัน ถ้าพ้นนั้นก็เห็นไม่เป็นไร ขอพระองค์จงกำ หนดงดยาตรา ฟังคำ โหราหาฤกษ์ใหม่ อันการยุทธ์ยิงชิงชัย หนักหน่วงน้ำ พระทัยดูให้ดี ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๓๑ เมื่อโหราได้ฟังองกษัตริย์กล่าวดังนั้นจึงคลี่ตำ ราพลางคำ นวณเหตุเทียบดวง ชะตาของ พระองค์กับโอรสจึงเห็นว่าอาจถึงฆาต ทั้งโชคที่ไม่อาจชัดเจนอีกทั้ง เคราะห์ในตอนนี้ที่เป็นตัวบดบังฤกษ์ทั้งหลาย จึงทูลไปว่าถ้าหากยกทัพในวัน พรุ่งนี้ จะไม่อาจมีชัยเป็นแน่ ขอให้งดไปเจ็ดวัน ถ้าพ้นจากเจ็ดวันนี้ก็ยังพอ ทำ เนาได้ ขอให้พระองค์ทรงสั่งให้งดศึกแล้วหาเวลาเพื่อให้ตัวโหราเองหาฤกษ์ ใหม่ เพราะการศึกชิงชัยชนะนี้ต้องหนักหน่วงน้ำ พระทัยให้มั่น


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี ได้ฟังโหราพาที จึงมีพจนารถประภาษไป เมื่อเราบัญชาการกำ หนดทัพ แล้วจะกลับงดอยู่อย่างไรได้ อายแก่ไพร่ฟ้าเสนาใน จะว่ากลัวฤทธิไกรไพริน จำ จะไปต้านต่อรอฤทธิ์ ถึงม้วยมิดมิให้ใครดูหมิ่น เกียรติยศจะไว้ในธานินทร์ จะสุดสิ้นดินแดนแผ่นฟ้า ประการหนึ่งถ้าว่าช้าวันไป ทัพใหญ่จะมาพร้อมยังดาหา จะต้องหักหนักมือโยธา เห็นจะยากยิ่งกว่านี้ไป สุดแท้แต่บุญกับกรรม จะฟังคำ โหรานั้นหาไม่ ตรัสพลางเสด็จคลาไคล เข้าในไพชยนต์มนเทียรทอง ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๓๒ ฝ่ายเท้ากะหมังกุหนิงได้ฟังดังนั้นก็บอกกลับไปว่าเมื่อตนนั้นมีคำ สั่งให้จัดทัพ ออก ไปแล้วจะต้องสั่งยกเลิกไปให้อับอายเหล่าเสนาหรือประชาชนได้อย่างไร พวกเขาจะ คิดเอาว่าตนนั้นเกรงกลัวต่ออำ นาจของฝ่ายตรงข้าม จึงจำ เป็นต้องออกทัพไปสู้ศึก เพราะถึงตัวตายก็ไม่อาจให้ใครดูหมิ่นได้ จะทิ้งเกียรติยศให้จารึกไว้ในแผ่นดินตราบ จนวันที่โลกจะสูญสิ้นไป อีกทั้งถ้ายังยกทัพไปช้ากว่านี้เกรงว่าทางดาหาจะมีทัพ ใหญ่มาช่วย แล้วการศึกจะยากยิ่งกว่านี้ไปอีก จึงสุดแท้แต่บุญกับกรรมเท่านั้น แล้วพระองค์ก็เสด็จออกไปยังที่พักโดยไม่ฟังคำ กล่าวของโหราเลย


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น ฝ่ายวิหยาสะกำ เรืองศรี ครั้นหักศึกมีชัยได้บุรี ให้ตรวจเตรียมโยธีทุกกระทรวง แล้วยกพลนิกายกองหน้า ยาตราดำ เนินนำ ทัพหลวง ตีเมืองรายทางทั้งปวง เลยล่วงไปตามมรคา ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง สิบวันดั้นเดินในไพรพง ก็สิ้นดงตกทุ่งกรุงดาหา แลไปเห็นกำ แพงพารา ทั้งมหาปราสาทเรียงรัน จึงยับยั้งฟังองค์พระทรงยศ จะกำ หนดให้ตั้งค่ายมั่น กองทัพนับแสนแน่นนันต์ พร้อมกันหยุดอยู่ที่ชายไพร ถอดบทประพันธ์ ๓๓ กลับมาฝ่ายวิหยาสะกำ ที่ออกศึกได้รับชัยและเมืองอีกฝ่ายแล้ว จึงสั่ง ให้เตรียมทัพทุกหมู่ยกพลไปตีเมืองทุกเมืองที่เดินทางผ่าน เป็นเวลาสิบวันที่เดินทางอยู่ในป่าก็พ้นออกมายังทุ่งของกรุงดาหา เห็นถึงกำ แพงเมืองและมหาปราสาทเรียงรายจึงหยุดไว้ แล้วตั้งค่าย กองทัพนับแสนคนที่แน่นขนัดจึงหยุดพร้อมกันที่ชายป่า


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย บัดนั้น ดะหมังรับสั่งใส่เกศา ออกมาเกณฑ์กันดังบัญชา ให้โยธาถางที่นี่นัน ทำ ค่ายหน้าค่ายหลังตั้งบรรจบ ยกหอรบขึ้นปรับสับวิหลั่น ชักปีกกาขึงไปถึงกัน ผูกราวสามชั้นขันชะเนาะ หว่างป้อมเป็นจังหวะระยะแย่ง ใส่บังตางาแซงมั่นเหมาะ พูนดินเต็มตามสนามเพลาะ ไม้ไผ่เจาะรวงปล้องเป็นช่องปืน บ้างปลูกโรงรถคชา ทั้งที่ผูกช้างม้ามิให้ตื่น เสาตะลุงหลักแหล่งแปลงปืน พ่างพื้นปราบเลี่ยนเตียนตา บ้างเร่งทำ ตำ หนักน้อยใหญ่ เพิงรายรอบในซ้ายขวา ข้างนอกค่ายปักขวากดาษดา ชักเขื่อนเข้าหาประจบมุม บ้างจัดคนลำ ลองทุกกองเกณฑ์ ออกตระเวนนั่งทางวางหลุม คอยเล็ดลอดสอดแนมจับกุม ชั้นในให้ประชุมจัตุรงค์ ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๓๔ ดะหมังได้รับคำ สั่งมา ให้ถางป่าบริเวณหน้าค่ายและ หลังค่ายให้เรียบร้อย จัด ตั้งหอพักและวางรั้ว บ้างก็ไปขุดดูเพื่อ กำ บังจากศัตรู บ้างก็ไปปลูกโรงช้าง เพื่อผูกช้างผูกม้า บ้างก็ไปจัด หอพักเล็กใหญ่นอกค่าย บ้างก็จัดคนไปลาด ตระเวน วางกับดัก และสอดแนม บ้างก็จัดประชุมกองทัพ


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงสูงส่ง เห็นตั้งค่ายเสร็จพลันมั่นคง จึงชวนองค์โอรสธิบดี ตรัสเรียกสองราชอนุชา เสร็จจากรถาเรืองศรี พร้อมด้วยกิดาหยันเสนี จรลีขึ้นสุวรรณพลับพลา ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง บัดนั้น กองร้อยคอยเหตุข้างดาหา ออกสอดแนมอยู่นอกพารา เห็นไพรียกมาถึงชายไพร กระบวนทัพหน้าหลังมาตั้งลง ทิวธงซ้อนซับนับไม่ได้ เสียงคนอึงอัดตัดไม้ ราบไปทั้งป่าพนาลี ต่างคนต่างเผ่นขึ้นหลังม้า พลางประมาณหมายตาดูถ้วนถี่ แล้วอ้อมออกนอกทุ่งทันที ขับควบพาชีเข้าเวียงชัย ถอดบทประพันธ์ ๓๕ เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงเห็นค่ายเสร็จมั่นคงแล้วก็ชวน บุตรและน้องชายทั้งสองให้ เสด็จลงจากรถพร้อมด้วย เหล่ามหาดเล็กแล้วเดินทางไปยังที่พัก ฝ่ายกองร้อยรักษาการณ์รอบข้างดาหาออกสอดแนมอยู่นอกเมือง ได้เห็นทัพที่ยกมาถึงชายป่า กระบวนทัพทั้งหน้าหลังล้อมตั้งหนา แน่น ผืนธงซ้อนทับกันมากมายจนมิอาจนับได้ ทั้งเสียงคนอื้ออึง เสียงตัดไม้ ราบไปทั้งป่า ต่างคนต่างก็รีบขึ้นหลังม้าแล้วกะสายตาดู กองทัพอย่างถี่ถ้วน จึงอ้อมออกมานอกทุ่งแล้วควบม้าคู่กายเข้าเมือง ทันที


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ครั้นถึงจึงไปแจ้งกิจจา แก่ปาเตะเสนาผู้ใหญ่ เล่าความแต่ต้นจนปลายไป โดยได้เห็นสิ้นทุกสิ่งอัน ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง บัดนั้น ปาเตะตกใจไหวหวั่น ให้จดเอาถ้อยคำ สำ คัญ แล้วผายผันเข้าพระโรงรจนา ถอดบทประพันธ์ ๓๖ เมื่อเข้าสู่เมืองจึงรีบไปแจ้งข่าวแก่เสนาชั้นผู้ใหญ่ เล่า ความถึงสิ่งที่ได้เห็นมาทุกๆสิ่งตั้งแต่ต้นจนจบ ครั้นเสนาได้ยินข่าวดังนั้นก็ตกใจหวั่นไหว จึงให้เหล่าทหารจดเอาใจ ความคำ สำ คัญแล้วรีบพาเข้าไปยังท้องพระโรงทันที


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย จึงก้มเกล้าประณตบทบงสุ์ ทูลพระองค์ทรงพิภพดาหา ว่าไพรีตีเมืองล่วงมา รี้พลโยธามากมาย ม้ารถคชกรรม์ครั่นครื้น ดังเสียงคลื่นในสมุทรไม่ขาดสาย บัดนี้มาตั้งอยู่เนินทราย ที่ชายทุ่งกับป่าต่อกัน ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๓๗ เสนาก้มหัวบังคมทูลท้าวดาหาถึงข่าวว่ามีทัพตีเมืองยกมา ไพร่พลในกองทัพมากมาย ทั้งเสียงม้า เสียงรถ และเสียงช้าง ต่าง อื้ออึงคั่นครื้นไม่ขาดสายดังเสียงคลื่นในมหาสมุทร และในตอนนี้ ทัพนั้นก็ได้เข้ามาตั้งอยู่ ณ เนินทรายที่เชื่อมต่อของชายทุ่งและป่า แล้ว


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น องค์ศรีปัตหรารังสรรค์ ได้ฟังปาเตะทูลพลัน พระทรงธรรม์ตริตรึกนึกใน อันศึกครั้งนี้ซึ่งมีมา เพราะเขาขอบุษบาเราไม่ให้ จึงเป็นเสี้ยนศัตรูหมู่ภัย น้อยใจด้วยอิเหนานัดดา แกล้งจะให้เกิดการโกลาหล ร้อนรนไปทั่วทุกเส้นหญ้า เสื่อมเดชเพศพงศ์เทวา ศึกมาถึงราชธานี คิดพลางทางสั่งเสนาใน เร่งให้เกณฑ์คนขึ้นหน้าที่ รักษามั่นไว้ในบุรี จะดูทีข้าศึกซึ่งยกมา อนึ่งจะคอยท่าม้าใช้ ที่ให้ไปแจ้งเหตุพระเชษฐา กับสองศรีราชอนุชา ยังจะมาช่วยหรือประการใด แม้นจะเคืองขัดตัดรอน ทั้งสามพระนครหาช่วยไม่ แต่ผู้เดียวจะเคี่ยวสงครามไป จะยากเย็นเป็นกระไรก็ตามที ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ๓๘ เมื่อท้าวดาหาได้ฟังดังนั้นแล้วในใจก็ทรงคิดไตร่ตรองถึงสาเหตุของศึกนี้ที่ มีเพราะ ตัวพระองค์เองที่ไม่สามารถยกบุษบาให้แก่ฝ่ายนั้นได้ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดศัตรู ครั้น แล้วก็นึกน้อยใจไปถึงอิเหนาผู้เป็นหลานที่แกล้งให้เกิดเหตุการณ์ วุ่นวายเช่นนี้ ทั้ง ร้อนรนไปทั่วทุกเขต ทั้งเสื่อมเสียไปยังชื่อเสียงวงศ์เทวา อีกทั้งศึกก็มาถึงเมืองแล้ว คิดพลางก็สั่งให้เหล่าเสนาอำ มาตย์ให้เร่งมือเกณฑ์คนเข้ารบ รักษาเมืองไว้ให้มั่นคง พลางรับสั่งให้ดูท่าทีข้าศึกที่ยกมา เหตุหนึ่งก็เป็นไปได้ว่าจะรอดูข่าวจากม้าเร็วที่สั่ง ให้ไปแจ้งเหตุกับผู้ เป็นพี่และอีกสองผู้เป็นน้องว่าจะมาช่วยหรือไม่ แม้ว่าเมื่อทั้ง สามนครไม่มาช่วยอาจจะมีขุ่นเคืองน้ำ ใจอยู่บ้าง แต่อย่างไรตนก็จะปราบศัตรูยุติ สงครามแม้จะยากเย็นเท่าไรก็ตาม


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย มาจะกล่าวบทไป ถึงสุหรานากงเรืองศรี กับเสนากาหลังบุรี ยกพลมนตรีรีบมา แรมร้อนนอนป่าสิบห้าวัน ก็ลุถึงเขตขัณฑ์ดาหา ได้ข่าวปัจจามิตรติดพารา ก็เร่งยกโยธาเข้ากรุงไกร ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เมื่อนั้น พระองค์ทรงพิภพดาหา เห็นสุหรานากงพระนัดดา กับเสนากาหลังบุรี จึ่งมีบัญชาปราศรัย เราขอบใจอนุชาทั้งสองศรี ให้ยกมาช่วยต่อตี ก็เห็นชอบท่วงทีดีนัก แต่การศึกครั้งนี้ไม่ควรเป็น เกิดเข็ญเพราะลูกอัปลักษณ์ จะมีคู่ผู้ชายก็ไม่รัก จึงหักให้สาสมใจ อันองค์พระบรมเชษฐา เห็นจะให้ใครมาหรือหาไม่ เจ้ามาในทางพนาลัย ยังได้ข่าวบ้างหรือนัดดา ถอดบทประพันธ์ ๓๙ กล่าวไปถึงฝ่ายสุหรานากงกับเหล่าเสนาเมืองกาหลังได้ยกพลกองทัพเร่งรีบเดินทาง มา รอนแรมกินนอนในป่าเป็นเวลาทั้งสิ้นสิบห้าวันก็ถึงเขตเมืองดาหาได้ยินถึงข่าว ศัตรูที่ยกทัพมาประชิดเมืองแล้วก็เร่งเดินทางเข้าไปในเมืองทันที เมื่อท้าวดาหาได้ทอดพระเนตรเห็นถึงสุหรานากงผู้เป็นหลานกับเหล่าเสนาแห่ง เมืองกาหลังก็ได้พูดคุยและขอบคุณน้องชายของพระองค์ทั้งสองที่ยกทัพมาช่วย ตน แต่สงครามครั้งนี้นั้นไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย เพราะเหตุของมันคือลูกสาวของ ตนที่อัปลักษณ์จะมีคู่ทั้งทีฝ่ายชายก็ไม่รัก จึงหักหาญน้ำ ใจกันเช่นนี้ แล้วไตร่ ถามถึงผู้เป็นพี่ว่าจะส่งให้ใครมาหรือไม่


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น สุหรานากงวงศา ก้มเกล้าทูลสนองพระบัญชา ข้ามาแจ้งข่าวที่กลางคัน พระปิ่นภพกุเรปันธานี ให้กะหรัดตะปาตีเป็นทัพขันธ์ ยกจากเวียงชัยได้หลายวัน บรรจบกันกับระเด่นมนตรีมา ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เมื่อนั้น พระองค์ทรงพิภพดาหา ฟังสุหรานากงนัดดา จึงมีบัญชาว่าไป อันกะหรัดตะปาตีจะมาช่วย พอจะเห็นจริงด้วยไม่สงสัย แต่อิเหนาเขาจะมาทำ ไม ผิดไปเจ้าอย่าเจรจา พระเชษฐาให้สารไปกี่ครั้ง เขายังไม่จากหมันหยา จนสลัดตัดการวิวาห์ ศึกติดพาราก็เพราะใคร เห็นจะรักเมียจริงยิ่งกว่าญาติ ไหนจะคลาดจากเมืองหมันหยาได้ ถึงมาตรจะมาก็จำ ใจ ด้วยกลัวภัยพระราชบิดา เราอย่าคอยเขาเลยนะหลานรัก ก้มพักตร์รบศึกไปดีกว่า แต่ว่าวันนี้เจ้าเหนื่อยมา จงไปพักโยธาให้สำ ราญ ถอดบทประพันธ์ ๔๐ สุหรานากงก็ตอบไปว่าท้าวกุเรปันได้ให้กะหรัดตะปาตียกทัพมาสมทบกับอิเหนา ท้าวดาหาได้ฟังเช่นนั้นก็ประชดอิเหนาว่า กะหรัดตะปาตีมาช่วยก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ แต่อิเหนาเล่า เขาจะมาทำ ไม ท้าวกุเรปันเรียกให้กลับกี่ครั้งก็ไม่ยอมจากเมืองหมันหยาจน ตัดขาดการแต่งงาน มีศึกประชิดเมืองก็เพราะใคร เห็นทีคงจะรักเมียมากกว่าญาติ ถ้า มาก็เห็นว่าคงจะมาเพราะกลัวท้าวกุเรปันเสียมากกว่า แล้วท้าวดาหาบอกสุหรานากงว่า คงไม่ต้องคอยอิเหนาหรอก แล้วให้สุหรานากงไปพักผ่อน


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น สุหรานากงใจหาญ ก้มเกล้าสนองพจมาน อันการสงครามครั้งนี้ จะขอเอาเมืองขึ้นบรรดามา กับโยธาสิงหัดส่าหรี ยกออกโรมรันประจัญตี ดูทีฝีมือปัจจามิตร ถ้าเห็นศึกย่นย่อท้อกำ ลัง จะโหมหักมิให้ตั้งต่อติด จะอาสากว่าจะสิ้นสุดฤทธิ์ ชีวิตอยู่ใต้บาทบงสุ์ ฯ ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง บัดนั้น ฝ่ายดะหมังกุเรปันกรุงศรี ครั้นถึงหมันหยาธานี ก็ตรงไปยังที่ประเสบัน ขึ้นบนชานพักตำ หนักนอก พอเห็นเสด็จออกกิดาหยัน จึงเข้าไปใกล้องค์พระทรงธรรม์ อภิวันท์แล้วถวายสารา ถอดบทประพันธ์ ตะหมังเมืองกุเรปันถวายสาส์นท้าวหมันหยาและอิเหนา ๔๑ สุหรานากงจึงขอถวายชีวิตให้เพื่อรับใช้ท้าวดาหา และอาสา ไปออกรบกับทัพของท้าวกะหมังกุหนิง กล่าวถึงดะหมังจากเมืองกุเรปัน เมื่อเดินทางมาถึงเมืองหมันหยาก็ ตรงไปยังเรือนพักของอิเหนาเข้าเฝ้าถวายพระราชสารแก่อิเหนา


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น พระโฉมยงวงศ์อสัญแดหวา คลี่สารสมเด็จพระบิดา พลางทอดทัศนาทันใด ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ในลักษณ์นั้นว่าปัจจามิตร มาตั้งติดดาหากรุงใหญ่ จงเร่งรีบรี้พลสกลไกร ไปช่วยชิงชัยให้ทันที ถึงไม่เลี้ยงบุษบาเห็นว่าชั่ว แต่เขารู้อยู่ว่าตัวนั้นเป็นพี่ อันองค์ท้าวดาหาธิบดี นั้นมิใช่อาหรือว่าไร มาตรแม้นเสียเมืองดาหา จะพลอยอายขายหน้าหรือหาไม่ ซึ่งเกิดศึกสาเหตุเภทภัย ก็เพราะใครทำ ความไว้งามพักตร์ ครั้งหนึ่งก็ให้เสียวาจา อายชาวดาหาอาณาจักร ครั้นนี้เร่งคิดดูจงนัก จะซ้ำ ให้เสียศักดิ์ก็ตามที แม้นมิยกพลไกรไปช่วย ถึงเราม้วยก็อย่ามาดูผี อย่าดูทั้งเปลวอัคคี แต่วันนี้ขาดกันจนบรรลัย ถอดบทประพันธ์ ๔๒ อิเหนาคลี่สารของท้าวกุเรปันออกอ่าน ซึ่งในสารนั้นกล่าวว่าตอนนี้มีข้าศึกมาตั้งทัพประชิดเมืองดาหา ขอให้ อิเหนารีบยกพลไปตีให้ทันท่วงที ถึงไม่เห็นแก่บุษบาก็ขอให้เห็นแก่ท้าว ดาหาผู้เป็นอา ศึกครั้งนี้เกิดขึ้นก็เพราะใครไปทำ งามหน้าไว้ให้ เสียคำ พูด ให้อายชาวเมืองดาหา ครั้งนี้จะเมินเฉยอีกทำ ให้เสียศักดิ์ศรีก็แล้วแต่ใจ ถ้า ไม่มาช่วยก็ขาดกันอย่าได้เผาผีกันอีกเลย


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ครั้นอ่านสารเสร็จสิ้นพระทรงฤทธิ์ ถอนฤทัยคิดแล้วสงสัย บุษบาจะงามสักเพียงไร จึงต้องใจระตูทุกบุรี หลงรักรูปนางแต่อย่างนั้น จะพากันมาม้วยไม่พอที่ แม้นงามเหมือนจินตะหราวาตี ถึงจะเสียชีวิตก็ควรนัก แล้วว่าแก่ดะหมังเสนา เราจะยกโยธาไปโหมหัก มิให้เสียวงศาสุรารักษ์ งดสักเจ็ดวันจะยกไป ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เมื่ออิเหนาได้อ่านดังนั้น ก็ถอนใจด้วยความสงสัยว่าบุษบาจะงามถึงเพียงไหน เชียวจึงถูกใจระตูทุกเมือง แค่เพียงเห็นรูปก็จะพากันมาตายเสียแล้ว หากงาม เหมือนจินตะหราก็ว่าไปอย่าง จึงบอกแก่ดะหมังไปว่าจะยกทัพไปในอีก ๗ วัน แต่ดะหมังรีบทูลว่าต้องรีบไปในทันที เพราะตอนนี้ข้าศึกยกทัพมาติดพระนคร แล้ว ๔๓


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์เทวาอัชฌาสัย สุดที่จะบิดเบือนเลื่อนวันไป ด้วยเกรงในบิตุเรศตรัสมา ความกลัวความรักสลักทรวง ให้เป็นห่วงหนหลังกังวลหน้า แต่เรรวนหวนนึกตรึกตรา พระราชาสะท้อนถอนใจ จึงดำ รัสตรัสสั่งตำ มะหงง เร่งเตรียมจัตุรงค์ทัพใหญ่ ม้ารถคชสารชาญชัย รีบรัดจัดไว้ให้ครบครัน เลือกสรรโยธาจงสามารถ ที่อยู่คงองอาจแข็งขัน แต่ปืนตึงก็ถึงทันควัน เข้าโรมรุกบุกบันฟันแทง เราจะตัดศึกใหญ่ให้ย่อย่น ด้วยกำ ลังรี้พลเข้มแข็ง แม้ไพรีหนีมือกลางแปลง เห็นหักได้ไม่แคลงวิญญาณ์ ฤกษ์รุ่งพรุ่งนี้จะยกไป ชิงชัยช่วยกรุงดาหา สั่งเสร็จเสด็จทรงอาชา ไปเฝ้าท้าวหมันหยาฉับพลัน ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง อิเหนาเกรงกลัวท้าวกุเรปันพระบิดาสุดที่จะเลื่อนวันไป ทั้งรักทั้งกลัวห่วงหน้า พะวงหลังคิดแล้วก็ทอดถอนใจจึงสั่งตำ มะหงงให้รีบจัดทัพใหญ่ทั้งทัพม้า ทัพรถ ทัพช้างเลือกทหารที่มีความสามารถทั้งทหารปืนและทหารดาบ อิเหนาจะตัด ศึกใหญ่ด้วยกำ ลังที่เข้มแข็งแม้นข้าศึกหนีก็จะทำ ลาย ให้สิ้นไป ถือเอาฤกษ์พรุ่ง นี้จะยกทัพไปช่วยเมืองดาหาเมื่อสั่งเสร็จอิเหนา ก็ไปเข้าเฝ้าท้าวหมันหยา ๔๔


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย ครั้นถึงนิเวศน์วังใน ลงจากมโนมัยผายผัน ยุรยาตรนาดกรจรจรัล เข้าพระโรงสุวรรณทันใด ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง บัดนั้น ดะหมังกุเรปันกรุงใหญ่ จึงรีบไปหาเสนาใน แถลงไขข้อความตามคดี ถอดบทประพันธ์ เมื่อถึงวัง ท้าวกุเรปันก็ได้เดินเข้าไปที่พระโรงทันที เมื่อได้รับคำ สั่งจากท้าวกุเรปันดะหลังเมืองกุเรปั่นจึง ไปหาเสนาในของหมันหยาเพื่อบอกทันที ๔๕


๒0-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ลานกิจกรรม ชั้น ๑ ๑0:00-๑๖:00 น. จัด จั ทำ โดย บัดนั้น อำ มาตย์หมันหยากรุงศรี ได้แจ้งแห่งดะหมังเสนี ก็พาไปยังที่พระโรงคัล ถอดบทประพันธ์ บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ก้มเกล้าประณตบทมาลย์พ ระผู้ผ่านเวียงชัยไอศวรรย์ ทูลเบิกดะหมังเสนานั้น ว่าพระปิ่นกุเรปันใช้มา ถอดบทประพันธ์ จากนั้นอำ มาตย์หมันหยาจึงได้ แจ้งกะหมังเมืองและพาเข้าท้องพระโรงทันที เมื่อได้เข้าเฝ้า กะหมังเมืองกุเรปั่นจึงทูล บอกท้าวหมันหยาว่ามาตามคำ สั่งของท้าวกุเรปัน ๔๖


Click to View FlipBook Version