The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kulnaddathapahan, 2022-12-01 02:59:24

แอน โบลีน

-เมียน้อยที่แซ่บของกษัตริย์Henry VII-

สารบัญ 1
2
ประวัติ 9
ตอนที่ชีวิตอยู่ 11
มนต์ดำ ข้อกล่าวหา และลานประหาร 13
เกิดอะไรขึ้นกับศพของแอนน์ โบลีน?

แอน โบลีน

แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) เกิดเมื่อปี 1507
ส่วนวันที่เท่าไหร่ไม่มีบันทึกที่แน่ชัด เธอเป็นบุตรของ
เซอร์โธมัส โบลีน (Thomas Boleyn) ซึ่งภายหลัง
ได้เป็นเอิร์ลแห่งวิลต์เชียร์และออร์มอนด์ (Earl of
Wiltshire and Ormonde)

ตอนที่ชีวิตอยู่

แอนน์ โบลีน ใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในวัยเด็กที่ฝรั่งเศส ก่อนเดิน
ทางกลับอังกฤษในปี 1522 และเข้ารับใช้ในราชสำนักของ
กษัตริย์เฮนรีที่ 8 (Henry VIII) ความงามของเธอทำให้มี
หลายคนหลงใหล แม้กระทั่งกษัตริย์เฮนรีเองที่ทรงสมรส
แล้วกับแคเธอรีนแห่งอารากอน (Catherine of
Aragon) พระชายาที่มีอายุมากกว่าพระองค์ 6 พรรษา
แต่ทรงเป็นพระธิดาของราชวงศ์ที่ทรงอำนาจที่สุดในยุโรป
ยุคนั้น [แคเธอรีนแห่งอารากอนเป็นพระธิดาองค์เล็กของ
กษัตริย์เฟอร์ดินันด์ที่ 2 แห่งอารากอน (Ferdinand II
of Aragon) กับ ราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสติล
(Isabella I of Castile)]

กษัตริย์เฮนรีที่ 8 (Henry VIII)

เดิมแอนน์ โบลีน ได้หมั้นหมายไว้กับ
ลอร์ดเฮนรี เพอร์ซี (Lord Henry
Percy)
แต่กษัตริย์เฮนรีได้เข้าขัดขวาง โดยให้
พระคาดินัลด์วอลซี (Cardinal
Wolsey) ประกาศให้การหมั้นหมาย
ของทั้งสองตกเป็นโมฆะ

แต่ความรักของกษัตริย์เฮนรียังมี
อุปสรรคสำคัญคือการที่พระองค์ทรง
สมรสแล้ว และการหย่าในสมัยนั้นก็
ไม่ใช่
เรื่องง่าย พระองค์ต้องได้รับการ
ยินยอมจากสมเด็จพระสันตะปาปา
แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกด้วย

ลอร์ดเฮนรี เพอร์ซี (Lord Henry Percy)

ราชินีแคเธอรีน เหตุผลสำคัญที่กษัตริย์เฮนรี

ต้องการหย่ากับราชินีแคเธอรีน คือ

การที่พระนางไม่สามารถให้กำเนิด

ทายาทเป็นโอรสได้ แต่สมเด็จพระ
สันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 (Clement
VII) ก็ทรงบอกปัดฎีกาของกษัตริย์

เฮนรีมาโดยตลอด ด้วยแรงกดดัน
จากจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 (Charles
V) แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
(พระองค์ทรงสืบทอดบัลลังก์แห่ง

อาณาจักรสเปนและดินแดนใน
ครอบครองของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก)

แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ความรักที่ถูก

ขวางกั้นด้วยจารีตประเพณียิ่งทำให้

แรงปรารถนาของกษัตริย์เฮนรีพลุ่ง

พล่าน

พระองค์ทรงแอบสมรสอย่างลับๆ กับแอนน์ โบลีน ช่วงปลาย
เดือนมกราคม 1533 ก่อนมีการประกาศในช่วงอีสเตอร์ปีเดียวกัน
(ราวปลายเดือนมีนาคมต้นเดือนเมษายน) จากนั้นในวันที่ 23
พฤษภาคม กษัตริย์เฮนรีได้ให้อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี
โธมัส แครนเมอร์ (Thomas Cranmer) ประกาศให้การสมรส
ของพระองค์กับราชินีแคเธอรีน ตกเป็นโมฆะ เท่ากับการสมรสของ
ทั้งสองพระองค์เสียเปล่ามาแต่ต้น
ทั้งนี้ แคเธอรีนแห่งอารากอน เคยสมรสกับเจ้าชายอาเธอร์
(Prince Arthur) โอรสองค์โตของกษัตริย์เฮนรีที่ 7 เมื่อเจ้า
ชายอาเธอร์สิ้นพระชนม์ แคเธอรีนจึงสมรสกับเจ้าชายเฮนรี โอรส
องค์ที่สองของกษัตริย์เฮนรีที่ 7 ซึ่งภายหลังได้ขึ้นครองราชย์เป็น
กษัตริย์เฮนรีที่ 8

โธมัส แครนเมอร์ (Thomas Cranmer)

กษัตริย์เฮนรีที่ 8 จึงอ้างข้อเท็จจริงดังกล่าว ประกอบกับบัญญัติ
ตามคัมภีร์ไบเบิลในส่วนพันธสัญญาเก่า (เลวีนิติ 20:21) ที่ระบุว่า
“ถ้าชายใดเอาเมียของพี่ชายหรือน้องชายไปเป็นเมียตน ผู้นั้นต้อง

ตายโดยไร้ทายาท บุคคลนั้นได้ทำเรื่องอันเป็นมลทินและสร้าง
ความอัปยศต่อพี่หรือน้องตนเอง” ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงอ้าง

ว่าการสมรสครั้งแรกของพระองค์ถือเป็นการขัดต่อประสงค์ของ

พระเจ้า จึงทำให้การสมรสในครั้งนั้นตกเป็นโมฆะ

เหตุการณ์ครั้งนี้ยังนำไปสู่การแยกตัวจากคริสตจักร

โรมันคาทอลิก กษัตริย์เฮนรี ทรงออกพระราชบัญญัติว่าด้วยพระ
ราชอำนาจสูงสุดหรือ “Act of Supremacy” ซึ่งทำให้

พระองค์มีสถานะเป็นประมุขศาสนจักรแห่งอังกฤษ

ราชินีอลิซาเบ็ธที่ 1

แต่ความพยายามของกษัตริย์เฮนรีในการสมรสกับแอนน์ โบลีน
ด้วยหวังจะมีทายาทเป็นพระโอรสกลับสูญเปล่า เมื่อเดือน
กันยายน 1533 ราชินีแอนน์ทรงให้กำเนิดทายาทเป็นพระธิดา
(ซึ่งภายหลังได้ขึ้นครองราชย์เป็น ราชินีอลิซาเบ็ธที่ 1) ทำให้
กษัตริย์เฮนรีเริ่มมีพระทัยออกห่าง พอถึงปี 1534 ราชินีแอนน์
ทรงแท้งลูก การพยายามมีพระราชโอรสจึงเป็นความหวังเดียวที่
ช่วยรักษาสถานะของพระองค์ไว้ได้ แต่ในเดือนมกราคม 1536
พระโอรสที่น่าจะช่วยราชินีแอนน์ได้ กลับสิ้นพระชนม์ตั้งแต่แรก
ประสูติ

ความถือพระองค์ของราชินีแอนน์ ทำให้พระองค์
ไม่ได้รับความนิยมในราชสำนักมาแต่แรก และเมื่อ
พระองค์ไม่อาจให้กำเนิดพระโอรสได้ยิ่งทำให้สถานะ
ของพระองค์เสื่อมทรามอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่
เดือนหลังทรงแท้งพระโอรส กษัตริย์เฮนรีทรงบีบให้
พระองค์รับสารภาพว่า ทรง “ทำชู้” กับชายมากหน้า
หลายตา รวมถึงกับพี่น้องร่วมอุทรของพระองค์เอง
คดีของพระองค์ถูกไต่สวนในศาลต่อหน้าคณะลูกขุน
ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พระองค์มีความผิดจริงตาม
ข้อกล่าวหา

ราชินีแอนน์ ทรงถูกลงโทษด้วยการตัดศรีษะในวัน
ที่ 19 พฤษภาคม 1536 ซึ่งนักประวัติศาสตร์มอง
ว่าโอกาสที่ราชินีแอนน์จะทรงมีความผิดจริงตาม
ข้อกล่าวหานั้นมีน้อย แต่เชื่อว่าความผิดของ
พระองค์น่าจะเป็นผลมาจากการแย่งชิงอำนาจใน
ราชสำนักมากกว่า)

มนต์ดำ ข้อกล่าวหา
และลานประหาร

แอนน์ถูกประหารในวันที่ 19 พฤษภาคม 1536 ในเวลานั้นเธอ
เพิ่งเป็นราชินีอังกฤษได้ 3 ปี มีทายาทให้พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เพียง
หนึ่งคน ข้อกล่าวหาที่พาเธอไปสู่ความตายมีมากมายตั้งแต่การใช้
มนต์ดำไปจนถึงการคบชู้ สมสู่ในครอบครัว Eustace
Chapuys (ยูสตาซ ชาปุยส์) ราชทูตสเปนและศัตรูตัวฉกาจของ
แอนน์ กล่าวว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 สารภาพกับเขาว่าตนถูกชักจูงและ
บังคับให้สมรสกับแอนน์โดยมนต์ดำ

แอนน์และเฮนรี่ที่ 8

แม้เฮนรี่ที่ 8 จะสรรหาเหตุผลมากมายมาเพื่อกำจัดอดีตคนรัก
แต่คนรุ่นหลังเชื่อกันว่าเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้แอนน์ต้องเดินเข้าสู่
แดนประหารคือการแท้งบุตรชายอายุครรภ์ราว 3 เดือนเมื่อต้นปี
1536 ราชทูตสเปนกล่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า

“ในวันเดียวกับที่มีพิธีฝังศพ (ของพระนางแคเทอรีนแห่งอารา
กอน ราชินีองค์ก่อนของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8) นางเมียน้อย (หมาย
ถึงแอนน์ โบลีน) แท้งลูกซึ่งดูเหมือนจะเป็นเด็กชาย อายุครรภ์
ประมาณ 3 เดือนครึ่ง นางโทษว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของดยุก
แห่งนอร์ฟอล์กที่นำข่าวอาการบาดเจ็บของพระราชามาบอกเมื่อ 6
วันก่อน (เฮนรี่ได้รับบาดเจ็บหนักเพราะตกจากหลังม้าในการ
แข่งขันประลองทวน)

พรานป่าและกวางสาว

น่าสนใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมักไม่ค่อยเป็นที่พูดถึง มี
คำกล่าวว่าเฮนรี่ที่ 8 ให้ความสนใจกับฉากประหาร แต่ไม่ได้
เตรียมการพิธีศพของแอนน์ไว้แม้แต่น้อย เพราะร่างและศีรษะ
ของพระนางถูกพันด้วยผ้า ก่อนบรรจุลงในหีบเก็บลูกธนูทำจาก
ไม้ ไม่ใช่โลงศพอย่างดีที่ถูกเตรียมไว้สำหรับราชินีอังกฤษ เป็นไป
ได้ว่าการจัดการร่างของแอนน์อาจไม่ถูกเตรียมการ และหีบ
สำหรับเก็บลูกธนูอาจเป็นของที่หาได้แบบเร่งรีบจากลานประหาร
ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณหอคอยแห่งลอนดอน
Robert Parry นักเขียนนิยายอิงประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ
กล่าวไว้ในหนังสือของเขาเรื่อง The Arrow Chest ถึง
ความเป็นไปได้ที่หีบเก็บลูกธนูอาจเป็นสิ่งที่ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า
อ้างอิงจากหนังสือของ Retha M. Warnicke นัก
ประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันที่กล่าวว่า “ในระหว่างปี 1530 เฮนรี่ที่
8 มอบของขวัญมีค่ามากมายให้แอนน์ บ่อยครั้งสิ่งของเหล่านี้ก็
เป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิงของพระนาง ยกตัวอย่างเช่น คัน
ธนู ลูกธนู และถุงมือสำหรับสวมเพื่อยิงธนู กีฬายิงธนูเป็นงาน
อดิเรกที่แอนน์ชอบเป็นพิเศษ”

เฮนรี่รักการล่าสัตว์เช่นเดียวกับแอนน์ ‘กษัตริย์
ผู้เป็นนักล่า’ ยังเป็นคำเปรียบเปรยว่าพระองค์
เป็นหนุ่มนักรักที่ออกล่าหญิงสาวมากหน้าหลาย
ตา เป็นไปได้ว่าเฮนรี่เห็นแอนน์เป็นหนึ่งในเหยื่อ
ของพระองค์ กษัตริย์อังกฤษเคยส่งนกยูงที่
ทรงยิงได้ด้วยพระองค์เองมาให้แอนน์พร้อม
ข้อความ “หวังว่าตอนที่คุณทานนกยูงตัวนี้ คุณ
จะระลึกถึงนักล่า”

นอกจากนี้เฮนรี่ยังเคยแต่งกลอนรักเปรียบ
เปรยความรู้สึกที่มีต่อแอนน์ว่าเป็นเหมือนพราน
ป่าที่กำลังออกล่ากวาง เป็นไปได้หรือไม่ว่าหีบ
เก็บลูกธนูเองก็เป็นสิ่งที่เฮนรี่เตรียมไว้ให้แอนน์
เพื่อบรรจุร่างของกวางสาวที่พระองค์ไม่
ต้องการเสียแล้ว?

กล่องใส่ธนูและคันธนูที่เฮนรี่ที่ 8 มอบให้แอนน์

เกิดอะไรขึ้นกับศพของ
แอนน์ โบลีน?

ร่างของแอนน์ถูกนำไปฝังในห้องสวดมนต์ของโบสถ์ St. Peter
ad Vincula (เซนต์ปีเตอร์ แอด วินคิวลา) บริเวณใกล้แท่น
ประกอบพิธี โบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่ฝังร่างบุคคลสำคัญในยุคทิว
ดอร์อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นจอร์จ โบลีน น้องชายของแอนน์ที่ถูก
ประหารข้อหาสมสู่กับพี่สาว, แคเทอรีน ฮาเวิร์ด ราชินีคนที่ 5
ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ถูกตัดสินประหารในข้อหาคบชู้ รวมไปถึง
เอ็ดเวิร์ด ซีมัวร์ ดยุกแห่งซอมเมอร์เซต พี่ชายคนโตของเจน ซี
มัวร์ และจอห์น ดัดลีย์ ดยุกแห่งนอร์ทัมเบอร์แลนด์ ขุนนางคน
สำคัญที่ถูกประหารในข้อหากบฏหลังยุคของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8

ร่างของแอนน์ถูกฝังอย่างเรียบง่ายเป็นเวลาหลายร้อยปี จนถึง
รัชสมัยของควีนวิกตอเรีย โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ แอด วินคิวลาทรุด
โทรมลงอย่างมากจนถึงคราวต้องบูรณะใหม่ ทำให้ต้องมีการขุด
บริเวณที่ฝังศพเพื่อปรับปรุงฐานราก การขุดค้นเริ่มต้นในเดือน
ตุลาคมปี 1876 โดยมีการใช้แบบแปลนเก่าเพื่อเทียบเคียง
ตำแหน่งฝังศพของบุคคลสำคัญ

ในบริเวณที่ร่างของแอนน์ถูกฝัง ทีมผู้ขุดค้นพบร่างของสตรีนาง
หนึ่งที่ความลึกประมาณ 2 ฟุต (ประมาณ 60 เซนติเมตร) Dr.
Frederick Mouat เจ้าหน้าที่ทางการอังกฤษที่ได้มีโอกาส

ศึกษาร่างซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นแอนน์ กล่าวถึงลักษณะของสตรี
เจ้าของร่างว่า “มีอายุราว 25-30 ปี รูปร่างเพรียวบาง หน้าผาก

และกรามมีขนาดเล็กแต่มีรูปร่างดี กระดูกสันหลังเล็กมากโดย
เฉพาะส่วนคอ” ข้อสังเกตนี้ตรงกับบันทึกร่วมสมัยเกี่ยวกับรูป

ร่างของแอนน์ โดยเฉพาะคอของพระองค์ซึ่งแอนน์เคยกล่าวว่า

เพชฌฆาตคงออกแรงน้อยมากในวันประหาร

โมอาตกล่าวว่าแอนน์น่าจะมีความสูงราว 152-161 เซนติเมตร ซึ่ง
เป็นความสูงมาตรฐานของสตรียุคทิวดอร์ เขายังกล่าวว่าโครง
กระดูกไม่มีร่องรอยความผิดปกติใด แม้ว่าในยุควิกตอเรียจะไม่มี
เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สามารถสร้างภาพจริงของแอนน์จากโครง
กระดูก แต่คำบรรยายของโมอาตก็สามารถไขปริศนาและพิสูจน์
เรื่องราวได้หลายอย่าง เช่น ความเชื่อที่ว่าพระนางเป็นแม่มดที่มี
6 นิ้ว

ข้อกล่าวหานี้ปรากฏครั้งแรกในงานเขียนของ Nicholas
Sanders นักบวชคาทอลิกที่ลี้ภัยออกจากอังกฤษในรัชสมัย
ของควีนเอลิซาเบธที่ 1 เขากล่าวว่า “แอนน์รูปร่างค่อนข้างสูง มี
ใบหน้ารูปไข่สีขาวซีด พระองค์มีผมสีดำ ฟันเก และมีนิ้วมือขวา 6
นิ้ว ทรงมีเนื้องอกที่คอทำให้ต้องใส่เสื้อปิดคออยู่ตลอด” นิโคลัส
แซนเดอร์ส ยังเด็กมากในขณะที่แอนน์มีชีวิต และอันที่จริงงาน
ของเขาเขียนหลังแอนน์เสียชีวิตไปแล้วถึง 37 ปี เป็นไปได้ว่าเขา
เขียนงานชิ้นนี้เพื่อโจมตีควีนเอลิซาเบธที่ 1 ซึ่งเป็นลูกสาวเพียง
คนเดียวของแอนน์ ว่าเป็นราชินีที่ไม่ชอบธรรม เกิดจากมารดาที่
ยุ่งเกี่ยวกับมนต์ดำต่างๆ

จัดทำโดย
ด.ญ.กุลนัดดา ถาพันธ์

ม.3/10

ขอบคุณค่ะ


Click to View FlipBook Version