The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลโครงการรักษ์ภาษาไทย ครูโศธิดา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aomasp1234, 2021-07-02 23:52:37

รายงานผลโครงการรักษ์ภาษาไทย ครูโศธิดา

รายงานผลโครงการรักษ์ภาษาไทย ครูโศธิดา

รายงานผลการดาเนนิ งาน

โครงการรกั ษ์ภาษาไทย

ประจาปีการศึกษา 2563

โรงเรยี นวดั พงั ยอม
ตาบลสวนหลวง อาเภอเฉลิมพระเกยี รติ จงั หวดั นครศรธี รรมราช

สานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา
นครศรธี รรมราช เขต ๑



สว่ นราชการ โรงเรียนวัดพังยอม บันทกึ ข้อความ
ท…่ี ……………………………………………
วนั ท่ี 7 พฤษภาคม ๒๕๖4

เรื่อง รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563

เรียน ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นวัดพงั ยอม

ตามท่ีข้าพเจ้านางสาวโศธิดา เพ็ชรช่วย ตาแหน่งครูโรงเรียนวัดพังยอม ได้รับมอบหมายให้
รับผิดชอบโครงการรักษ์ภาษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 เพ่ือพัฒนาทักษะความสามารทางด้านการใช้
ภาษาไทย และทาให้เกิดการฝึกทักษะกระบวนการคิด การทางานร่วมกับผู้อื่น การจัดการ การเผชิญ
สถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ในกิจกรรมต่าง ๆ บัดน้ีข้าพเจ้าได้
ดาเนนิ การเรียบร้อยแลว้

จงึ เรยี นมำเพื่อโปรดทรำบ

(นางสาวโศธิดา เพ็ชรช่วย)
ตำแหนง่ ครโู รงเรยี นวัดพงั ยอม

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้อานวยการโรงเรียน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(นางณฐั พัชร์ เพชรประสิทธ)์ิ
ผอู้ านวยการโรงเรียนวดั พงั ยอม

..……/………/….……

คำนำ

ตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 กาหนดแนวการจัดการศึกษา โดยยึดหลกั ว่า
ผเู้ รยี นทุกคนมีความสามารถเรยี นรู้และพฒั นาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญท่ีสุด กระบวนการ
จดั การศึกษาต้องส่งเสรมิ ใหผ้ ้เู รียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเตม็ ตามศักยภาพ โรงเรียนวดั พังยอมจึง
ได้จดั โครงการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนการสอน “ โครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ซง่ึ
เป็นกิจกรรมเสนอแนะทส่ี ามารถช่วยนกั เรยี นในโรงเรยี นได้พฒั นาตนเองตามวัตถปุ ระสงค์ เพ่อื พฒั นาทักษะ
ความสามารทางด้านการใชภ้ าษาไทย และทาใหเ้ กดิ การฝกึ ทกั ษะกระบวนการคดิ การทางานรว่ มกบั ผู้อื่น การ
จดั การ การเผชญิ สถานการณ์และการประยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ได้ในกิจกรรมต่าง ๆ

เพอ่ื ใหก้ ารดาเนนิ กิจกรรมเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ เกิดการพัฒนาในการดาเนนิ งานและมกี ารปรบั
กระบวนการทางาน ข้าพเจา้ จึงได้จดั ทารายงานผลการดาเนินกิจกรรม“โครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปี
การศกึ ษา 2563 เพือ่ ให้ทราบถงึ ความพึงพอใจของนกั เรยี น ครู และบุคลากรทกุ ท่านท่ีเข้าร่วมกิจกรรม การ
บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ และทราบถึงปัญหาและอุปสรรค เพือ่ ให้มกี ารพัฒนาปรับปรุงกิจกรรมให้ดยี ิง่ ขึน้

คณะผูจ้ ดั ทา

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 ก

สารบญั หนา้

เร่อื ง ก

คานา ๑
สารบัญ ๑
บทท่ี ๑ บทนา ๑
1
- หลักการและเหตผุ ล ๒
- วัตถุประสงค์ ๒
- กลุ่มเป้าหมาย ๒
- วิธีดาเนนิ งาน 3
- ขอบเขตของกิจกรรม 3
- เคร่ืองมือที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 4
บทที่ ๒ แนวคิดและทฤษฎี 7
- หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 9
9
กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย 12
- ความเปน็ มาของวันภาษาไทยแห่งชาติ 12
- ความเป็นมาของวนั แมแ่ หง่ ชาติ 12
- ความเป็นมาของวันพ่อแห่งชาติ 13
บทท่ี ๓ วธิ กี ารดาเนนิ งาน 13
- ขั้นตอนการวางแผน (Plan) 14
- ขน้ั ตอนการปฏบิ ัตงิ านรว่ มกนั (Do) 15
- ข้ันตอนการร่วมกันประเมิน (Check) 16
- ขน้ั ตอนการรว่ มปรับปรุง (Act) 17
บทท่ี ๔ ผลการดาเนนิ งานและการวเิ คราะห์ 18
- ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู 19
บทท่ี ๕ สรปุ ผล อภปิ รายผล ขอ้ เสนอแนะ
ภาคผนวก 24
ภาคผนวก ก 25
- สาเนาโครงการรักษ์ภาษาไทยปกี ารศกึ ษา 2561 26

- แบบประเมินความพึงพอใจ
ภาคผนวก ข

- แสดงภาพกิจกรรม

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ข

บทท่ี ๑

บทนำ

1. หลักกำรและเหตผุ ล

ภาษาไทยเป็นภาษาประจาชาติและใช้ส่ือสารกันระหว่างคนในชาติ นักเรียนเป็นผลผลิตทางการศึกษาทม่ี ี
ความสาคัญ โรงเรียนจะต้องจัดการศึกาโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ และนักเรียนเหล่านี้จะต้องสามารถใช้ภาษา
ส่ือสารได้อย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีนิสัยรักการอ่านการ ค้นคว้าเพ่ือเป็นพื้นฐานในการศึกษาและแสวงหา
ความรู้ในข้ันสูงต่อไปปัจจัยที่จะส่งผลให้การเรียนการสอนภาษาไทยเกิดประสิทธิภาพนอกเหนือจากครูผู้สอนและ
ตวั นักเรยี น วสั ดุ - อปุ กรณก์ ็เปน็ ปัจจัยสาคัญในการสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพในการเรยี นการสอนเช่นเดียวกัน
รวมทั้ง การจัดกิจกรรมส่งเสรมิ ทักษะการใช้ภาษาไทย ในวันสาคัญต่างๆ เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนให้นกั เรียนได้
แสดงความสามารถและตระหนักถึงความสาคญั ของภาษาไทย ซงึ่ จะส่งผลให้ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนวชิ าภาษาไทย
ของนักเรียนสูงขึน้

โรงเรยี นวัดพงั ยอมตระหนักและเหน็ ความสาคัญของภาษาไทยทง้ั ในรปู แบบของการจัดการเรียนการสอน
และกจิ กรรมเสรมิ ทักษะตา่ งๆ จึงดาเนนิ จดั ทาโครงการรักษ์ภาษาไทย เพอื่ วางรากฐานความรคู้ วามเข้าใจและ
ความสามารถด้านการใช้ภาษาที่ถูกต้องแกน่ กั เรียนนอกจากน้ียงั เสริมทักษะเฉพาะด้านอันเปน็ ความสามารถพิเศษ
และต่อยอดความรูใ้ นการศกึ ษาตอ่ ในอนาคตได้

2. วัตถปุ ระสงค์
๒.๑ เพ่ือส่งเสริมทักษะการเรียนร้แู ละพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นรายวิชาภาษาไทยใหส้ ูงขึน้
๒.๒ นกั เรยี นมที ักษะด้านต่างๆ เกย่ี วกบั วิชาภาษาไทยได้อย่างถูกหลกั การและมีความคิด

สร้างสรรคแ์ ละมีความคิดสรา้ งสรรค์
3. กลุ่มเปำ้ หมำย
3.1 ผลผลิต (Outputs)
๓.๑.๑ นกั เรยี นทกุ คนมีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนวชิ าภาษาไทยสงู ขน้ึ
๓.๑.๒ นักเรยี นแต่ละระดบั ช้นั สามารถอ่านและเขียนได้
๓.๑.๓ โรงเรียนมกี ิจกรรมสง่ เสริมทางด้านวิชาการโดยเน้นนกั เรียนทกุ กล่มุ เป้าหมาย
3.2 ผลลัพธ์ (Outcomes)
๓.๒.๑ นักเรยี นมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นภาษาไทยในระดบั ดี
๓.๒.๒ นักเรยี นแตล่ ะระดับช้ันสามารถอ่านออกเขียนได้ในระดบั ดี
๓.๒.๓ โรงเรียนมกี จิ กรรมส่งเสรมิ ทางดา้ นวชิ าการแก่นกั เรียน

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ๑

4. วิธีกำรดำเนนิ งำน ระยะเวลำ ผู้ท่รี ับผดิ ชอบ
ที่ กจิ กรรม 1 – ๑๑ ก.ค. ๒๕๖3
คณะกรรมการบริหาร
๑. ขนั้ เตรียมการ ประชมุ วางแผนและเขยี นโครงการ ครู และบุคลากรทุกคน
( Planning )
26 ก.ค. 2563 ครูทุกคน
๒. ขนั้ ดาเนินการ ๑.กจิ กรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ
( Doing ) ๒. กจิ กรรมวนั แมแ่ หง่ ชาติ ๑2 ส.ค.๒๕๖3 ครทู กุ คน
๓. กจิ กรรมวนั พ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2563 ครูทกุ คน

๓. ขน้ั ตรวจสอบ ๑.ประเมินผล 31 ก.ค. 2563 ครทู ุกคน
และประเมินผล ๑. กิจกรรมวนั ภาษาไทยแห่งชาติ 17 ส.ค. 2563 ครูทุกคน
( Checking ) ๒. กจิ กรรมวนั แมแ่ ห่งชาติ 11 ธ.ค. 2563 ครทู กุ คน
15 ม.ค. 2564 ครูโศธดิ า
๓. กจิ กรรมวันพ่อแห่งชาติ 15 ม.ค.๒๕๖4 ครโู ศธิดา

๒.รายงานผล

๔. ขัน้ ปรบั ปรุง นาผลการประเมนิ จดั ทาโครงการ
และพัฒนา เพ่ือปรบั ปรุงพัฒนา ใหบ้ รรลุ วัตถปุ ระสงค์
( Action )

๕. ขอบเขตของกจิ กรรม
5.1 สถานที่ คอื โรงเรียนวดั พังยอม
5.2 วนั และเวลา กรกฎาคม 2563- มกราคม 2564
5.3 ประชากรที่นามารายงานผลคร้ังน้ี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 - 6 จานวน 100 คน

๖.เครอื่ งมือที่ใช้ในกำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล
เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมลู ในครัง้ น้ี
- แบบสอบถามความพงึ พอใจของนักเรียน ผมู้ ีส่วนเก่ยี วข้อง ที่มีตอ่ การจัดกิจกรรม

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศึกษา 2563 ๒

บทที่ 2

แนวคิดและทฤษฎี

ในการนาเสนอแนวคดิ ทฤษฎีที่เก่ยี วกับกิจกรรม “โครงการรกั ษภ์ าษาไทย” ปีการศึกษา ๒๕๖3 ขอเสนอ
ตามหวั ข้อดังตอ่ ไปนี้

1. หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
2. ความเป็นมาของวนั ภาษาไทยแห่งชาติ
3. ความเป็นมาของวันแม่แหง่ ชาติ
4. ความเปน็ มาของวันพ่อแหง่ ชาติ

1. หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน พทุ ธศักรำช 2551 กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย
หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานกาหนดสาระและมาตรฐานการเรยี นรู้เปน็ เกณฑ์ในการกาหนดคุณภาพของ

ผู้เรียนเม่ือจบการศึกษาข้ันพื้นฐาน ในกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย มีรายละเอียดดังน้ี (กรมวิชาการ. 2545 :
1-7)
ควำมสำคญั

ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจาชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ และ
เสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเคร่ืองมือในการติดต่อส่ือสารเพ่ือสร้างความเข้าใจและ
ความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน ทาให้สามารถประกอบกิจธุรการงานและดารงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้อย่าง
สันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้
ความคิดวิเคราะห์วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงทางสังคมและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ นอกจากน้ียังเป็นสื่อที่
แสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี ชีวทัศน์ โลกทัศน์ และสุนทรียภาพ โดยบันทึกไว้เป็น
วรรณคดีและวรรณกรรมอันล้าค่า ภาษาไทยจึงเป็นสมบัติของชาติที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ เพ่ืออนุรักษ์และสืบสาน
ให้คงอยู่คู่ชาตไิ ทยตลอดไป
ธรรมชำติ/ลักษณะเฉพำะ

ภาษาไทยเป็นเคร่ืองมือที่ใช้สื่อสารเพ่ือให้เกิดความเข้าใจตรงกันและตรงตามจุดมุ่งหมายไม่ว่าจะเป็นการ
แสดงความคิด ความต้องการและความรู้สึก คาในภาษาไทยย่อมประกอบด้วยเสียง รูปพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์
และความหมาย ส่วนประโยคเป็นการเรียงคาตามหลักเกณฑ์ของภาษาและประโยคหลายประโยคเรียงกันเป็น
ข้อความ นอกจากคาในภาษาไทย ยังมีเสียงหนักเบา มีระดับของภาษา ซึ่งต้องใช้ให้เหมาะแก่กาลเทศะและบุคคล
ภาษาย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ตามสภาพวัฒนธรรมของกลุ่มคน ตามสภาพของสังคมและเศรษฐกิจ
การใช้ภาษาเป็นทกั ษะที่ผู้ใช้ต้องฝึกฝนใหเ้ กิดความชานาญไมว่ า่ จะเปน็ การอ่าน การเขยี น การพดู การฟัง และการ
ดูสอื่ ต่างๆ รวมท้ังต้องใช้ใหถ้ กู ต้องตามหลักเกณฑ์ทางภาษาเพื่อส่ือสารให้เกิดประสิทธิภาพและใช้อย่างคล่องแคล่ว
มวี ิจารญาณและมีคณุ ธรรม

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๓

วสิ ัยทัศน์
ภาษาไทยเป็นเครื่องมอื ของคนในชาติเพื่อการส่อื สารทาความเข้าใจกันและใชภ้ าษาในการประกอบกิจการ

งานทงั้ ส่วนตน ครอบครวั กจิ กรรมทางสงั คมและประเทศชาติ เป็นเครื่องมือการเรยี นรู้การบันทกึ เรื่องราวจากอดีต
ถึงปัจจุบัน และเป็นวัฒนธรรมของชาติ ดังน้ันการเรียนภาษาไทยจึงต้องเรียนรู้เพื่อให้เกิดทักษะอย่างถูกต้อง
เหมาะสมในการส่ือสาร เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ แสวงหาความรู้และประสบการเรียนรู้ในฐานะเป็นวัฒนธรรม
ทางภาษา ทาให้เกิดความชื่นชม ซาบซึ้ง และภูมิใจในภาษาไทย โดยเฉพาะคุณค่าของวรรณคดีและภูมิ
ปัญญาทางภาษาของบรรพบุรษุ ทไ่ี ดส้ ร้างสรรคไ์ ว้อันเปน็ สว่ นเสรมิ ความงามในชีวติ

การเรยี นรู้ภาษาไทยยอ่ มเกีย่ วกบั ความคิดของมนุษย์ เพราะภาษเปน็ สือ่ ของความคดิ การเรียนรภู้ าษาไทย
จึงต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดสร้างสรรค์ คิดวิพากษ์วิจารณ์ คิดตัดสินใจแก้ปัญหา และวินิจฉัยอย่างมีเหตุผล
ขณะเดียวกันการใช้ภาษาอย่างมีเหตุผล ใช้ในทางสร้างสรรค์และใช้ภาษาอย่างสละสลวยงดงาม ย่อมสร้างเสริม
บคุ ลกิ ภาพของผูใ้ ช้ภาษาใหเ้ กิดความน่าเชื่อถือและเช่อื ภมู ดิ ้วย

ภาษาไทยเป็นทักษะท่ีต้องฝึกฝนจนเกิดความชานาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การอ่านและการฟัง
เป็นทักษะของการรับรู้เรื่องราว ความรู้และประสบการณ์ ส่วนการพูดและการเขียนเป็นทักษะของการแสดงออก
ด้วยการแสดงความคิดเห็น ความรู้และประสบการณ์ การเรียนภาษาไทยจึงต้องเรียนเพื่อการส่ือสารให้สามารถ
รับร้ขู ้อมลู ขา่ วสารไดอ้ ย่างพนิ ิจพิเคราะห์ สามารถเลอื กใช้คาเรียบเรียงความคดิ ความรู้ และใชภ้ าษาไดถ้ ูกตอ้ งตาม
กฎเกณฑ์ ได้ตรงตามความหมายและถกู ต้องตามกาลเทศะบุคคลและมีประสิทธภิ าพ

ภาษาไทยมสี ่วนท่ีเป็นเนื้อหาสาระ ไดแ้ ก่ กฎเกณฑท์ างภาษา ซ่งึ ผู้ใชภ้ าษาจะต้องรู้และใชภ้ าษาให้ถูกต้อง
นอกจากน้ันยังมีวรรณคดีและวรรณกรรม ตลอดจนบทร้องเล่นของเด็ก เพลงกล่อมเด็ก ปริศนาคาทาย เพลง
พ้ืนบ้าน วรรณกรรมพ้ืนบ้าน เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมซึ่งมีคุณค่า การเรียนภาษาไทยจึงต้องมีวรรณคดี
วรรณกรรม ภูมิปัญญาทางภาษาท่ีถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เร่ืองราวของสังคม
ในอดีตและความงดงามของภาษาในบทประพันธ์ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองประเภทต่างๆ เพื่อให้เกิดความซาบซ้ึง
และความภมู ิใจในสงิ่ ทีบ่ รรพบุรษุ ใหส้ งั่ สมและสบื ทอดมาจนถงึ ปจั จบุ ัน

คณุ ภำพของผู้เรยี น
เมื่อจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐานแล้วผู้เรียนต้องมีความรู้ ความสามารถและคุณธรรมจริยธรรมและ

ค่านยิ มดังน้ี
1. สามารถใช้ภาษาสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งดี
2. สามารถอา่ น เขยี น ฟงั ดู และพดู ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
3. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ คดิ อย่างมเี หตผุ ลและคดิ เป็นระบบ
4. มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน การแสวงหาความรู้และใช้ภาษาในการพัฒนาตน และสร้างสรรค์งาน

อาชีพ
5. ตระหนักในวฒั นธรรมการใชภ้ าษาและความเปน็ ไทยภมู ิใจและชืน่ ชมในวรรณคดีและวรรณกรรมซ่ึง

เปน็ ภมู ปิ ัญญาของคนไทย
6. สามารถนาทักษะทางภาษามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตาม

กาลเทศะ และบคุ คล

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 ๔

7. มีมนุษยสมั พันธท์ ีด่ ี และสรา้ งความสามคั คใี นความเป็นชาตไิ ทย
8. มีคณุ ธรรมจริยธรรม มวี ิสยั ทัศน์ โลกทัศนท์ ่ีกว้างไกลและลกึ ซ้งึ
เมื่อจบแตล่ ะชว่ งชน้ั ผู้เรียนต้องมีควำมรู้ ควำมสำมำรถ และคุณธรรม จรยิ ธรรม และคำ่ นยิ มดงั น้ี
ชว่ งชัน้ ท่ี 1 ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี 1-3
1. สามารถอา่ นได้คล่องและอา่ นไดเ้ รว็
2. เขา้ ใจความหมายและหนา้ ท่ีของคา
3. นาความรทู้ ไ่ี ดจ้ าการอ่านมาคดิ คาดคะเนเร่อื งราวหรอื เหตกุ ารณ์ และกาหนดแนวทางการปฏิบัตไิ ด้
4. เลือกอ่านหนงั สอื ท่ีเป็นประโยชน์ทงั้ ความรู้ และความบนั เทงิ
5. พดู และเขียนแสดงความรู้ ความคดิ ความรสู้ ึก ความต้องการและจินตนาการ
6. จดบนั ทกึ ความรู้ ประสบการณ์ และเรอ่ื งราวในชีวิตประจาวนั
7. จับใจความสาคัญ ตั้งคาถาม ตอบคาถาม สนทนา แสดงความคิดเห็นเล่าเรื่อง ถ่ายทอดความรู้
ความคิด ความรู้สกึ และประสบการณ์จากเร่ืองที่ฟังทด่ี ูได้
8 . เขา้ ใจว่าภาษาไทยมที งั้ ภาษาไทยกลางและภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่นิ
9. ใช้คาคลอ้ งจองแต่งบทร้อยกรองง่ายๆ
10.ท่องจาบทรอ้ ยกรองท่ไี พเราะ และนาไปใช้ในการพูดและการเขยี น
11.นาปริศนาคาทายและบทร้องเลน่ ในทอ้ งถ่นิ มาใชใ้ นการเรียนและเล่น
12. ใช้ทักษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือการเรียน การแสวงหาความรู้ และใช้ได้เหมาะสมกับบุคคลและ
สถานการณ์
13.นาความรู้ทไี่ ดจ้ ากการอา่ นวรรณคดแี ละวรรณกรรมไปใชใ้ นชวี ิต
14.มีมารยาทการอ่าน การเขยี น การฟัง การดู และการพดู
15.มนี ิสัยรักการอ่านและการเขียน
ชว่ งชั้นท่ี 2 ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4-6
1. สามารถอ่านไดค้ ลอ่ งแคลว่ และอ่านได้เร็วข้นึ
2. เข้าใจความหมายของคา สานวน โวหาร การเปรียบเทียบ จับประเด็นสาคัญ แยกข้อเท็จจริง และ
ข้อคดิ เหน็ วเิ คราะห์ความ ตคี วาม สรุปความ
3. นาความรู้ท่ีได้จากการอ่านไปใช้แก้ปัญหา ตัดสินใจ คาดการณ์และการใช้การอ่านเป็นเคร่ืองมือใน
การพัฒนาคน
4. เลือกอ่านหนังสอื และสื่อสารสนเทศจากแหลง่ เรยี นรูไ้ ดต้ ามจดุ ประสงค์
5. เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมาย เขียนอธิบาย เขียนชี้แจงการปฏิบัติงานและรายงาน เขียน
เร่ืองราวจากจินตนาการและเรื่องราวที่สัมพันธ์กับชีวิตจริง จดบันทึกความรู้ ประสบการณ์ และการสังเกตอย่าง
เปน็ ระบบ
6. สรปุ ความ วิเคราะห์เรอ่ื งท่ีฟงั ท่ดี ู และเปรียบเทยี บกับประสบการณใ์ นชวี ิตจรงิ
7. สนทนา โต้ตอบ พูดแสวงหาความรู้ ความคดิ ความตอ้ งการ พูดวิเคราะหเ์ รื่องราว พูดตอ่ หนา้ ชุมชน
และพูดรายงาน

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 ๕

8. ใช้ทักษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือการเรียน การดารงชีวิต และการอยู่ร่วมกันในสังคม รวมท้ังใช้ได้
ถกู ต้องเหมาะกบั บคุ คลและสถานการณ์

9. เขา้ ใจลักษณะของคาไทย คาภาษาถน่ิ และภาษาต่างประเทศทป่ี รากฏในภาษาไทย
10. ใชท้ ักษะทางภาษาเพื่อประโยชนไ์ ด้ตามจดุ ประสงค์
11. ใช้หลักการพิจารณาหนังสอื พิจารณาวรรณคดีและวรรณกรรมให้เห็นคุณค่าและนาประโยชน์ไปใช้
ในชีวติ
12. แต่งกาพยแ์ ละกลอนง่ายๆ
13. เลา่ นทิ านพื้นบา้ นและตานานพน้ื บา้ นในท้องถนิ่
14. มีมารยาทการอ่าน การเขียน การฟงั การดู และการพูด
15. มนี สิ ัยรักการอา่ นและการเขียน
ชว่ งช้ันท่ี 3 ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 1-3
1. อา่ นอยา่ งมสี มรรถภาพและอ่านได้เร็วยง่ิ ขึ้น
2. เข้าใจวงคาศัพท์ท่ีกว้างข้ึน สานวนและโวหารท่ีลึกซ้ึง แสดงความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์ ประเมินค่า
เรอื่ งทอี่ า่ นอย่างมีเหตุผล
3. เลอื กอา่ นหนงั สือและสื่อสารสนเทศจากแหลง่ เรยี นรไู้ ดก้ วา้ งขวาง
4. เขยี นเรยี งความ ย่อความ และจดหมาย เขยี นอธิบาย ชแี้ จง รายงาน เขียนแสดงความคดิ เห็น แสดง
การโต้แย้ง การเขยี นเชิงสร้างสรรค์
5. สรปุ ความ จับประเดน็ สาคัญ วิเคราะห์ วินิจฉัยขอ้ เท็จจรงิ ข้อคดิ เห็น และจดุ ประสงคข์ องเรอ่ื งที่ฟัง
และดู
6. รู้จักเลือกใช้ภาษาเรียบเรียงข้อความได้อย่างประณีต จัดลาดับความคิดข้ันตอนในการนาเสนอตาม
รปู แบบของงานเขยี นประเภทตา่ งๆ
7. พูดนาเสนอความรู้ ความคิด การวิเคราะห์ และการประเมินผลเร่อื งราวต่างๆ พูดเชิญชวน อวยพร
และพดู ในโอกาสตา่ งๆได้อย่างเหมาะสม
8. เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและการนาภาษาตา่ งประเทศมาใช้ในภาษาไทย
9. ใช้ภาษาแสดงความคดิ เห็น สรา้ งความเขา้ ใจ โนม้ น้าวใจ ปฏเิ สธ เจรจา ต่อรองด้วยภาษาและกิริยา
ทา่ ทางทส่ี ุภาพ
10. ใชท้ กั ษะทางภาษาในการแสวงหาความรู้ การทางาน อย่างสร้างสรรค์
11. ใช้หลักการพินจิ คณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม พิจารณาวรรณคดีและวรรณกรรมให้เห็นคุณค่า
และนาประโยชน์ไปใชใ้ นชีวิต
12. แตง่ กาพย์ กลอน และโคลง
13. ท่องจาบทรอ้ ยกรองทไี่ พเราะ มคี ุณค่าทางความคิดและนาไปใชก้ ลา่ วอ้างในการพดู และการเขียน
14. รอ้ งเลน่ หรือถา่ ยทอดเพลงพ้ืนบ้านและบทกล่อมเด็กในท้องถน่ิ
15. มมี ารยาทการอา่ น การเขียน การฟงั การดู และการพูด
16. มนี สิ ัยรกั การอ่าน การเขยี น

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๖

หมำยเหตุ
คุณภาพของผู้เรียนท่ีกาหนดให้แต่ละช่วงช้ันนั้น เป็นคุณภาพที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียนแต่ท้ังนี้ในการ

จัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนจะต้องฝึกทักษะต่างๆ ตามท่ีกล่าวไว้ในช่วงชั้นต้นๆด้วย เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะทาง
ภาษาอย่างต่อเนื่อง
สำระ

รายละเอียดของหลักสูตรภาษาไทยท่ีเป็นองค์ความรู้ ทักษะ หรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณธรรม
จริยธรรม และคา่ นิยมของกลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ประกอบดว้ ย

สาระท่ี 1 การอ่าน
สาระท่ี 2 การเขียน
สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพดู
สาระที่ 4 หลกั การใชภ้ าษา
สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มำตรฐำนกำรเรียนร้กู ำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน
มาตรฐานการเรียนรู้เมอ่ื จบการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานกลุม่ ภาษาไทย ประกอบดว้ ย
สำระที่ 1 : กำรอ่ำน
มำตรฐำน ท 1.1 : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปญั หา สร้างวิสยั ทัศน์
ในการดาเนินชวี ิต และมนี สิ ัยรกั การอ่าน
สำระท่ี 2 : กำรเขยี น
มำตรฐำน ท 2.1 : ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน
รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ
สำระท่ี 3 : กำรฟัง กำรดู และกำรพดู
มำตรฐำน ท 3.1 : สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ ความรูส้ ึก
ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
สำระที่ 4 : กำรหลักกำรใชภ้ ำษำ
มำตรฐำน ท 4.1 : เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ
มำตรฐำน ท 4.2 : สามารถใช้ภาษาแสวงหาความรู้ เสริมสร้างลักษณะนิสัย บุคลิกภาพและ
ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรม อาชีพ สังคมและชวี ิตประจาวัน
สำระที่ 5 : วรรณคดีและวรรณกรรม
มำตรฐำน ท 5.1 : เข้าใจและแสดงความคิดเห็นวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า
และนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ๗

2.ควำมเปน็ มำของวันภำษำไทยแห่งชำติ

สบื เน่ืองจากคณะรฐั มนตรใี นปี ๒๕๔๒ ไดป้ ระกาศใหว้ นั ที่ ๒๙ กรกฎาคม ของทุกปี เป็น “วนั
ภาษาไทยแห่งชาติ” โดยถอื กาหนดจากวันท่ี ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ
พลอดุลยเดช เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงเปน็ ประธานและทรงอภิปรายเรอ่ื ง “ปัญหาการใช้คาไทย ” ร่วมกับ
ผทู้ รงคณุ วฒุ ิในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ในวาระ
อนั เป็นประวตั ิศาสตรค์ ร้ังนนั้ พระองค์ไดพ้ ระราชทานพระราชดารแิ ละพระราชวนิ ิจฉัยที่มีคุณคา่ ยง่ิ เกีย่ วกับ
ภาษาไทยและการรกั ษาภาษาไทยให้บริสทุ ธิ์ ซงึ่ ได้แสดงให้ประจกั ษ์ถึงพระปรชี าพระปรีชาสามารถและความสน
พระราชหฤทัยและความหว่ งใยที่มีตอ่ การใช้ภาษาไทย จนเป็นทปี่ ระทบั ใจผูร้ ว่ มประชุมคร้ังนนั้ เปน็ อย่างยงิ่

2.1 ควำมสำคญั ของภำษำไทย
ภาษาเปน็ วัฒนธรรมที่สาคญั ของชาติ ภาษาเป็นส่ือใช้ตดิ ต่อกันเเละทาให้วัฒนธรรมอนื่ ๆ เจริญข้ึน เเตล่ ะ
ภาษามรี ะเบียบของตนเเล้วเเตจ่ ะตกลงกันในหมู่ชนชาติน้นั ภาษาจงึ เปน็ ศนู ย์กลางยืดคนทง้ั ชาติ ดงั ข้อความ ตอน
หนงึ่ ในพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยหู่ วั เร่อื ง "ความเป็นชาติโดยเเท้จริง" วา่ ภาษาเปน็
เครอ่ื งผกู พันมนุษย์ต่อมนุษย์เเนน่ เเฟ้นกว่าสง่ิ อื่น เเละไม่มสี ่ิงใด ที่จะทาให้คนรู้สึกเป็นพวกเดียวกนั หรือเเนน่ อนย่งิ
ไปกว่าภาษาเดยี วกัน รัฐบาลทงั้ ปวงย่อมรู้สึกในข้อนี้อย่ดู ี เพราะฉะน้ัน รัฐบาลใดท่ีตอ้ งปกครองคนต่างชาติตา่ ง
ภาษา จงึ ตอ้ งพยายามตง้ั โรงเรยี นเเละออกบญั ญตั ิบงั คับ ใหช้ นต่างภาษาเรียนภาษาของผู้ปกครอง เเตค่ วามคดิ เห็น
เชน่ น้ี จะสาเร็จตามปรารถนาของรัฐบาลเสมอกห็ ามิได้ เเต่ถา้ ยงั จัดการเเปลง ภาษาไมส่ าเรจ็ อยู่ตราบใด ก็เเปลวา่
ผูพ้ ดู ภาษากับผู้ปกครองนัน้ ยังไม่เชื่ออยู่ตราบน้ัน เเละยังจะเรียกวา่ เป็นชาติเดยี วกันกบั มหาชนพน้ื เมอื งไม่ได้ อยู่
ตราบนนั้ ภาษาเป็นสงิ่ ซึง่ ฝงั อยู่ในใจมนษุ ย์เเนน่ เเฟน้ ยง่ิ กวา่ สงิ่ อ่ืน"

ดังนัน้ ภาษากเ็ ปรยี บได้กบั รว้ั ของชาติ ถ้าชนชาตใิ ดรักษาภาษาของตนไว้ไดด้ ี ให้บรสิ ุทธิ์ ก็จะไดช้ ื่อว่า รักษา
ความเป็นชาติ

คนไทยทกุ คนใช้ภาษาไทยเป็นสอื่ ความร้สู ึกนึกคิดเท่านนั้ ยังไม่เพยี งพอ ควรจะรกั ษาระเบยี บความงดงาม
ของภาษา ซงึ่ เเสดงวฒั นธรรม เเละ เอกลักษณป์ ระจาชาติไวอ้ ีกด้วย ดงั พระราชดารสั สมเดจ็ พระเทพ
รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตอนหน่ึงวา่

"ภาษานอกจากจะเปน็ เครอ่ื งสื่อสารเเสดงความ รู้สกึ นึกคดิ ของคนท่วั โลก เเลว้ ยงั เป็นเคร่อื งเเสดงใหเ้ หน็
วัฒนธรรม อารยธรรม เเละเอกลกั ษณ์ ประจาชาติอีกดว้ ย ไทยเป็นประเทศซงึ่ มขี นบประเพณี ศิลปกรรมเเละ
ภาษา ซ่ึงเจริญรุ่งเรอื งมาแตอ่ ดีตกาล เราผู้เป็นอนชุ นจงึ ควรภมู ิใจ ชว่ ยกนั ผดงุ รักษามรดกทางวัฒนธรรมอันเป็น
ทรัพย์สินทางปัญญาทบ่ี รรพบุรุษได้ อุตส่าห์สร้างสรรคข์ นึ้ ไว้ให้เจริญสืบไป "

ทมี่ า https://www.dmc.tv/pages/top_of_week

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 ๘

3.ประวัติควำมเปน็ มำของวันแม่แห่งชำติ
งานวันแม่จดั ข้นึ ครง้ั แรกเมื่อ วนั ที่ 10 มนี าคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่

ช่วงน้นั เกิดสงครามโลกครง้ั ที่ 2 งานวนั แมใ่ นปีต่อมาจงึ ต้องงดไป เม่ือวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้
พยายามให้มีวันแม่ขนึ้ มาอีก แตก่ ไ็ มป่ ระสบผลสาเร็จเทา่ ท่ีควร และมีการเปลย่ี นกาหนดวนั แม่ไปหลายครง้ั ต่อมา
วันแม่ทร่ี ัฐบาลรับรอง คือวนั ท่ี 15 เมษายน โดยเร่มิ จัดต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2493 แตก่ ต็ อ้ งหยุดลงอกี ในหลายปีต่อมา
เนอื่ งจากกระทรวงวฒั นธรรมถูกยบุ ไป สง่ ผลให้สภาวฒั นธรรมแห่งชาติ ซึ่งรับหน้าทจี่ ดั งานวนั แมข่ าดผู้สนับสนนุ
ต่อมาสมาคมครูคาทอลกิ แหง่ ประเทศไทย ไดจ้ ัดงานวันแม่ข้ึนอกี คร้ัง ในวันที่ 4 ตลุ าคม พ.ศ. 2515
แต่จดั ไดเ้ พยี งปเี ดียวเท่าน้ัน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอานวยการสภาสงั คมสงเคราะหแ์ ห่ง
ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กาหนดวนั แมข่ ึ้นใหม่ให้เป็นวันทแี่ นน่ อน โดยถือเอาวันเสดจ็ พระราช
สมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วนั ท่ี 12 สิงหาคมเป็นวนั แมแ่ ห่งชาติ และกาหนดให้
ดอกไมส้ ัญลกั ษณ์ของวนั แม่ คือ ดอกมะลิ

นับตั้งแต่นนั้ เปน็ ตน้ มา สมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ ทรงเปน็ สมเด็จพระบรมราชนิ ีนาถใน
รัชกาลท่ี 9 พระนามเดิม หม่อมราชวงศ์สริ กิ ิต์ิ กติ ยิ ากร เป็นพระธิดาองค์ใหญข่ องหม่อมเจา้ นกั ขัตรมงคล
(ภายหลงั ไดร้ บั พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ สถาปนาขน้ึ เปน็ พลเอกพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสรุ นาถ) กับ
หมอ่ มหลวงบวั กิตยิ ากร เสด็จพระราชสมภพเม่อื วันศุกร์ที่ 12 สงิ หาคม พ.ศ. 2475 ณ บ้านของพลเอก
เจา้ พระยาวงศานุประพัทธ์ (ม.ร.ว.สทา้ น สนิทวงศ์) และทา้ ววนดิ าพิจารณิ ี บิดาและมารดาของหมอ่ มหลวงบัว กติ ิ
ยากร ตง้ั อยู่ท่ี 1808 ถนนพระรามที่ 6 อาเภอปทุมวนั จ.พระนคร ได้รบั พระราชทานนามจากพระบาทสมเดจ็
พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หวั วา่ "สิริกิต"์ิ มคี วามหมายวา่ "ผู้เป็นศรีแหง่ กิติยากร

4..ควำมเปน็ มำของวนั พ่อแห่งชำติ
วนั พอ่ แหง่ ชาติ ไดจ้ ัดให้มีขนึ้ ครงั้ แรกเมื่อวนั ท่ี 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคณุ หญิงเน้อื ทิพย์ เสมรสุต

นายกสมาคมผูอ้ าสาสมัครและชว่ ยการศึกษาเปน็ ผรู้ ิเริม่ หลักการและเหตผุ ลในการจัดตั้งวนั พ่อแหง่ ชาติ พ่อเปน็ ผู้มี
พระคณุ ที่มีบทบาทสาคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เปน็ ลูกจะเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความ
กตญั ญู และสมควรทีส่ งั คมจะยกยอ่ งใหเ้ กยี รติราลกึ ถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธนั วาคม ของทุกปีซงึ่ เปน็ วัน
เฉลมิ พระชนมพรรษาเปน็ “วันพอ่ แห่งชาติ” ดว้ ยพระมหากรุณาธคิ ุณ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวท่ที รงมี
ตอ่ พสกนกิ รชาวไทยอยา่ งนานัปการ ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธดิ า ทรงรักใคร่และให้
ดอกพุทธรกั ษาเป็นสญั ลกั ษณ์ วนั พ่อแห่งชาติ ดว้ ยพอ่ เป็นบคุ คลผมู้ ีพระคุณ มีบทบาทสาคัญต่อครอบครวั และ
สงั คม สมควรที่ผเู้ ป็นลูกจะเคารพ เทิดทูน และตอบแทนพระคุณดว้ ยความกตัญญู และสังคมควรท่ีจะยกย่องให้
เกียรติราลึกถึงผู้เป็นพ่อนี่เปน็ ท่ีมาของการจดั ให้มี วนั พ่อแห่งชาติ
ในวนั น้ีเป็นวันสาคัญอะไรท่ีคนไทยต้องจดจาไวใ้ นหัวใจบ้าง

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๙

วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมิทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช แลว้ ยังนบั วา่ เปน็ วนั
สาคญั ตา่ งๆอีกหลายวัน ดงั น้ี

วนั ชาตไิ ทย เป็นวนั เฉลมิ ฉลองของชาตไิ ทย เดิมกาหนดเป็นวันที่ 24 มิถุนายน อนั เปน็ วันท่คี ณะราษฎร
กอ่ การปฏวิ ัตสิ ยามใน พ.ศ. 2475 โดยเร่มิ ประกาศใช้ตง้ั แต่ พ.ศ. 2481[1] และเร่มิ งานฉลองตัง้ แต่ปี พ.ศ.
2482ต่อมาใน พ.ศ. 2503 จึงเปล่ยี นไปเปน็ วันคลา้ ยวันพระราชสมภพของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทย ตามอยา่ ง
ประเทศราชาธปิ ไตยอ่ืน ๆ ปัจจบุ นั ตรงกับวนั ที่ 5 ธนั วาคม ของทุกปี [อ้างอิง : วกิ ิพเี ดยี ]

วนั พอ่ แห่งชาติ ได้จัดใหม้ ีขึน้ คร้ังแรก เมื่อวันท่ี 5 ธนั วาคม พ.ศ. 2523 โดยคณุ หญงิ เน้ือทิพย์ เสมรสุต
นายกสมาคมผอู้ าสาสมัครและชว่ ยการศึกษา หลกั การและเหตผุ ลท่ีมกี ารจดั ต้ังวันพ่อขน้ึ แห่งชาติ เน่ืองจากพ่อ
เป็นบคุ คลผมู้ ีพระคุณและมีบทบาทสาคญั ตอ่ ครอบครัวและสังคมที่ผเู้ ป็นลกู จะเคารพเทิดทนู และตอบแทนพระคุณ
ด้วยความกตญั ญู และสงั คมควรทีจ่ ะยกย่องใหเ้ กียรตริ าลึกถงึ ผู้เปน็ พ่อ จงึ ถือเอาวันท่ี 5 ธนั วาคม ของทกุ ปี ซึง่ เปน็
วันคล้ายวนั เฉลมิ พระชนมพรรษาของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ รเป็น “วัน
พอ่ แห่งชาติ” ในวันที่ 8 ธนั วาคม พ.ศ. 2559 ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหา
ภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมือ่ วนั ท่ี 13 ตลุ าคม ของเดียวกันนัน้ เอง ก็ได้มกี ารประกาศจากรฐั บาลของ
ประเทศไทยว่า “วันพอ่ แห่งชาติ” ของประเทศไทย จะยงั คงไว้ ใหเ้ ป็นวนั ที่ 5 ธันวาคมของทุกปตี ่อไปตามเดมิ
[อ้างองิ : วกิ ิพเี ดีย]

วันดนิ โลก (อังกฤษ: World Soil Day) ตรงกบั วันท่ี 5 ธันวาคมของทุกปี จากการประชุมขององค์การ
อาหารและการเกษตรแหง่ สหประชาชาติ (FAO) ครง้ั ท่ี 144 ระหว่างวันที่ 11-15 มิถนุ ายน พ.ศ. 2555 ณ
สานกั งานใหญ่องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ กรุงโรม ประเทศอติ าลี ทปี่ ระชมุ ได้มมี ติสนบั สนนุ และ
รว่ มกันผลกั ดนั ใหม้ ีการจดั ตัง้ “วันดนิ โลก” (World Soil Day) ตรงกับวนั ที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซ่ึงตรงกบั วนั
คลา้ ยวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดชสืบเนื่องมาจากพระบาทสมเดจ็ พระ
ปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ทรงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ เกย่ี วกับการพัฒนาที่ดินมาอย่างตอ่ เนื่องและยาวนาน
ปรากฏผลสาเร็จเป็นท่ีประจักษอ์ ยา่ งกว้างขวางทงั้ ในประเทศและนานาชาติ โดยศาสตราจารยเ์ กยี รติคุณ ดร. สตี
เฟน นอร์ตคลิฟฟ์ (Emeritus Professor Dr. Stephen Nortcliff) กรรมการบริหารสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดิน
นานาชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลพี ระบาท ทลู เกล้าทูลกระหมอ่ มถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดนิ เพ่อื มนษุ ยธรรม
(The Humanitarian Soil Scientist) เม่อื วนั ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 และขอพระบรมราชานญุ าตใหว้ นั ที่ 5
ธนั วาคมของทุกปีเปน็ “วันดินโลก” เพื่อให้วนั ดังกลา่ วเป็นท่ีรูจ้ ักแพร่หลายในระดบั นานาชาติเกิดความต่อเน่ือง
และจรงิ จังในการรณรงคด์ า้ นทรัพยากรดินในทุกระดบั พร้อมทั้งสนบั สนุนและส่งเสริมใหอ้ งค์การสหประชาชาติ
จัดกจิ กรรมเปน็ การเฉพาะต่างๆ อาทิ การประกาศให้ พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) เปน็ “ปดี ินสากล” ตามที่
องค์การอาหารและการเกษตรแหง่ สหประชาชาติ (FAO) สหภาพวิทยาศาสตรท์ างดนิ นานาชาติ และสานักงานท่ี
ปรึกษาการเกษตรตา่ งประเทศ ประจากรุงโรม นาเสนอประเด็นดังกล่าวเกยี่ วกบั บทบาทและความสาคัญของ
ทรัพยากรดินทมี่ ตี ่อความมน่ั คงทางอาหารของโลก โดยสืบเนือ่ งจากประเทศไทยเป็นผู้ผลักดนั ข้อเสนอปีดนิ สากล
ตอ่ ทป่ี ระชมุ สมชั ชาใหญแ่ หง่ สหประชาชาติ เพือ่ ให้วนั ท่ี 5 ธ.ค. ของทุกปี เป็นวันดนิ โลก กระท่ังมีการรบั รอง
ขอ้ เสนอดงั กล่าว [อ้างอิง : วกิ พิ เี ดีย]

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๑๐

นอกจากนี้ ครม.ยังได้มีมติใหว้ นั ที่ 5 ธนั วาคมของทุกปี เปน็ วนั หยดุ ราชการ
แตท่ ป่ี ระกาศโดยคณะรัฐมนตรี ให้เปน็ วนั สาคัญของชาตไิ ทยคือ

1. วนั เฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช
2. วนั ชาตไิ ทย
3. วนั พ่อแห่งชาติ

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศึกษา 2563 ๑๑

บทท่ี 3

วธิ ดี ำเนินกำร

การดาเนินการกิจกรรม““โครงการรักษ์ภาษาไทย” ปีการศึกษา ๒๕๖3” ของโรงเรียนวัดพังยอม
ได้นาวงจรคณุ ภาพของเดม่ิง PDCA มาใช้ในการดาเนนิ การ 4 ข้ันตอนดังนี้

1. ขนั้ ตอนการร่วมกันวางแผน (Plan)
2. ข้นั ตอนการร่วมกันปฏบิ ัติ ( Do)
3. ขนั้ ตอนการว่ มกนั ประเมิน ( Check )
4. ขน้ั ตอนการรว่ มปรับปรุง ( Act)

1. ขัน้ ตอนกำรร่วมกนั วำงแผน (Plan)
ขัน้ ตอนน้ีเปน็ การวางแผนการดาเนินการโดยมีขัน้ ตอน ดงั น้ี
1.1 ประชมุ ปรึกษารว่ มกันระหว่างหวั หน้างาน/หัวหน้ากลมุ่ สาระฯ แลว้ ขยายผลสูค่ ณะครทู กุ คน
1.2 จัดทาร่างตาราง““โครงการรกั ษภ์ าษาไทย” ปกี ารศึกษา ๒๕๖3 เพอ่ื พิจารณาเห็นชอบ
1.3 แตง่ ตงั้ คณะกรรมการผู้รบั ผิดชอบเก่ยี วกบั การจดั กจิ กรรมแต่ละงานแต่กิจกรรมตามความเหมาะสม
1.4 สร้างความเขา้ ใจกบั นักเรียนเพอ่ื กาหนดแนวทางในการดาเนนิ การ
1.5 เตรยี มความพรอ้ ม ทงั้ ดา้ นสถานท่ี และอปุ กรณ์
1.6 กาหนดระยะเวลาในการดาเนินการ และวิธปี ระเมนิ ผล

2. ขั้นตอนกำรรว่ มกนั ปฏิบัติ (Do)
การปฏบิ ตั ิงานตามแผนงานที่วางไว้โดยมขี ั้นตอนในการดาเนนิ งาน ดงั นี้
2.1 บันทกึ ข้อความเสนอผ้บู ริหารเพ่ือขออนุญาตดาเนินการ
2.2 ดาเนนิ การจดั “โครงการรักษภ์ าษาไทย” ปีการศึกษา ๒๕๖3 โดยมีกลุ่มเป้าหมายเปน็ นกั เรียนช้ัน

ประถมศึกษาปที ่ี 1-6 โดยมีกิจกรรมดาเนนิ การดังนี้
๒.๒.๑ รายละเอยี ดมีกิจกรรมดังน้ี
๑. กิจกรรมวันภาษาไทยแหง่ ชาติ
๒. กจิ กรรมวนั แมแ่ ห่งชาติ
๓. กิจกรรมวนั พ่อแหง่ ชาติ

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศึกษา 2563 ๑๒

3. ขนั้ ตอนกำรร่วมกันประเมนิ ( Check )
3.1 ดาเนนิ การประเมินผลการจดั “โครงการรักษภ์ าษาไทย” ปีการศึกษา ๒๕๖3 โดยใช้แบบประเมิน

ความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม
3.2 ข้อมลู ท่เี ป็นมาตราสว่ นประมาณคา่ ( Rating Scale ) ใชว้ ิธแี จกแจงความถี่ หาค่าเฉล่ยี (X) และ

สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ทง้ั ในรายข้อและภาพรวมเทยี บกบั เกณฑ์ ดงั น้ี(บญุ ชม ศรสี ะอาด , 2545 )
4.51-5.00 หมายถึงมคี วามเหมาะสม/การปฏิบัติอยใู่ นระดบั มากท่สี ุด
3.51-4.50 หมายถึงมคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ตั ิอย่ใู นระดบั มาก
2.51-3.50 หมายถงึ มคี วามเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดบั ปานกลาง
1.51-2.50 หมายถงึ มีความเหมาะสม/การปฏบิ ตั ิอยู่ในระดบั น้อย
1.00-1.50 หมายถึงมคี วามเหมาะสม/การปฏิบตั ิอยู่ในระดับนอ้ ยทส่ี ุด

3.3 ข้อมูลทีเ่ ป็นความคิดเหน็ ข้อเสนอแนะจากแบบบนั ทกึ กจิ กรรม ใช้วธิ ี วิเคราะห์เน้ือเรื่อง
( Content Analysis )

3.4 สถิติทีใ่ ช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู
1. ค่าเฉลี่ย (Arithmetic: X )
2. สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ( Standard Deviation : SD )

3.5 รายงานผลการดาเนนิ งานตอ่ ผู้บรหิ ารและบุคลากรโรงเรียนวัดพงั ยอม

4. ขัน้ ตอนกำรรว่ มปรบั ปรงุ ( Act)
เม่ือคณะกรรมการฝ่ายประเมินผล สรุปผลการดาเนินงาน ปญั หา อุปสรรค และข้อเสนอแนะกลมุ่ งาน

ผู้รับผิดชอบจึงไดน้ าสารสนเทศท่ไี ด้มาปรับปรุง พัฒนาการงานให้มปี ระสทิ ธภิ าพมากยิ่งข้ึน

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศึกษา 2563 ๑๓

บทที่ 4

ผลกำรดำเนินกำรและวเิ ครำะหข์ ้อมูล

ผลการจัดกิจกรรม “โครงการรกั ษภ์ าษาไทย” ปีการศึกษา ๒๕๖3 สามารถสรปุ ตามขั้นตอนในการ
ดาเนินงาน ดงั น้ี

ขน้ั ตอนกำรรว่ มกันวำงแผน (Plan)
ขน้ั ตอนนเี้ ป็นการวางแผนการดาเนนิ การโดยมขี นั้ ตอน พบว่า การประชุมปรึกษารว่ มกนั

ระหว่างหวั หนา้ งาน คณะครูทุกคนได้รบั ความรว่ มมือและสนับสนนุ การทากิจกรรม“โครงการรกั ษ์ภาษาไทย”
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖3 เปน็ อยา่ งดี และนาเสนอผูบ้ ริหารเพ่ือพิจารณาเหน็ ชอบ ไดร้ บั การอนมุ ัติกจิ กรรม“โครงการ
รกั ษ์ภาษาไทย” ปีการศึกษา ๒๕๖3 ผู้รับผิดชอบโครงการจงึ ได้ดาเนินการแตง่ ตั้งคณะกรรมการผรู้ ับผดิ ชอบ
เกี่ยวกบั การจัดกจิ กรรมแต่ละกิจกรรมตามความเหมาะสมแลว้ สรา้ งความเขา้ ใจกับนักเรียนเพอื่ กาหนดแนวทางใน
การดาเนนิ การ ติดต่อประสานงานเตรยี มความพร้อม ทง้ั ด้านสถานท่ี และกาหนดระยะเวลาในการดาเนินการ
และวธิ ีประเมนิ ผล ตามลาดับ

ขัน้ ตอนกำรรว่ มกนั ปฏบิ ัติ ( Do)
การปฏบิ ตั งิ านตามแผนงานที่วางไว้โดยมีข้ันตอนในการดาเนินงาน คือ การบนั ทึกขอ้ ความ

เสนอผบู้ รหิ ารเพื่อขออนุญาตดาเนนิ การ พบวา่ ไดร้ บั การอนุญาตและใหด้ าเนินการ และผลการดาเนนิ การของ
กิจกรรม“โครงการรักษ์ภาษาไทย” ปีการศึกษา ๒๕๖3 โดยมกี ลมุ่ เปา้ หมายเปน็ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1-6
พบว่า โครงการรักษภ์ าษาไทย” ปกี ารศึกษา ๒๕๖3 นักเรียนและครใู ห้ความรว่ มมือในการดาเนินกิจกรรมดว้ ยดี
ผูเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมให้ความสนใจมาก

ขัน้ ตอนกำรรว่ มกนั ประเมิน ( Check )
การประเมินผลการจดั กจิ กรรม“โครงการรักษ์ภาษาไทย” ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖3 โดยใช้

แบบสอบถามความพึงพอใจ พบวา่
ตอนที่ ๑.ข้อมูลพ้นื ฐานของผู้ตอบแบบสารวจ

ตาแหน่ง
นกั เรียน 100 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 84

ตอนที่ ๒ ระดับความพึงพอใจของกิจกรรม“โครงการรักษ์ภาษาไทย” ปกี ารศึกษา ๒๕๖3 โดยมีการวเิ คราะห์
ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลย่ี ( x̄ ) และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D) จากแบบสอบถาม โดยแปลความหมาย
ดังตอ่ ไปนี้

4.51 - 5.00 หมายความวา่ ระดบั ความพึงพอใจ ในระดบั มากทีส่ ดุ
3.51 – 4.50 หมายความวา่ ระดบั ความพงึ พอใจ ในระดบั มาก
2.51 - 3.50 หมายความว่า ระดบั ความพงึ พอใจ ในระดบั ปานกลาง
1.51 - 2.50 หมายความวา่ ระดับความพึงพอใจ ในระดบั พอใช้
1.00 - 1.50 หมายความว่า ระดบั ความพงึ พอใจ ในระดบั ปรับปรุง

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 ๑๔

วเิ คราะหข์ ้อมูลจากแบบประเมิน ไดผ้ ลการประเมิน ดังนี้
ตำรำงที่ 1 แสดงระดบั ควำมพึงพอใจต่อกจิ กรรม“โครงกำรรกั ษภ์ ำษำไทย” ปีกำรศึกษำ ๒๕๖3 โรงเรยี น
วัดพงั ยอม โดยแสดง เปน็ ค่าเฉลยี่ x̄ และสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D)

ข้อท่ี รำยกำร (X) (S.D) ระดับควำมพึงพอใจ
1 ความเหมาะสมของระยะเวลา
2 ความเหมาะสมของสถานท่ี 4.23 0.51 มาก
3 กจิ กรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ
4 กจิ กรรมวนั แม่แห่งชาติ 4.50 0.69 มาก
5 กิจกรรมวนั พ่อแหง่ ชาติ
6 การนาความรทู้ ่ีได้ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั 4.44 0.52 มาก
7 ความพึงพอใจในภาพรวม
4.29 0.52 มาก
รวม
4.85 0.48 มากที่สดุ

4.77 0.49 มากที่สดุ

4.81 0.46 มากท่สี ุด

๔.55 0.52 มากท่สี ุด

จากตาราง พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจโดยเรียงลาดบั ความพึงพอใจจากมากท่ีสดุ ไปน้อย
ทส่ี ุด ดังน้ี ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจมากทีส่ ุด คือ กจิ กรรมวันพ่อแห่งชาติ (x̄=4.85,SD = 0.48)
รองลงมาคอื ความพงึ พอใจในภาพรวม (x̄=4.81 ,SD = 0.46) การนาความร้ทู ีไ่ ด้ไปประยุกตใ์ ชใ้ น
ชีวิตประจาวัน (x=̄ 4.77 ,SD = 0.59) ความเหมาะสมของสถานท่ี (x̄=4.50 ,SD = 0.69) กจิ กรรมวัน
ภาษาไทยแห่งชาติ (x̄=4.44 ,SD = 0.52) และ ความเหมาะสมของระยะเวลา (x=̄ 4.23 ,SD = 0.51)
ตามลาดบั
ขอ้ เสนอแนะ

1. ควรมีการจัดโครงการในลักษณะนี้อีก

2. อยากให้คุณครูแจกของรางวัลให้มากข้ึน

3. อยากใหม้ สี ือ่ การเรียนรู้แบบนี้ตลอดไป

ขัน้ ตอนกำรร่วมปรบั ปรงุ ( Act)
เม่ือคณะกรรมการฝ่ายประเมนิ ผลแล้วจึงไดจ้ ัดทาสรุปผลการดาเนนิ งาน ปญั หา อุปสรรค และ

ขอ้ เสนอแนะกลุ่มงานผู้รับผิดชอบและได้นาสารสนเทศทไี่ ด้นาเสนอต่อผบู้ ริหารและเผยแพรใ่ หผ้ ูม้ ีสว่ นเกีย่ วข้อง
รับทราบและนาผลการทาเนินงานมากปรับปรุงพฒั นาการงานใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากย่ิงข้ึน

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ๑๕

บทท่ี 5

สรุปผล อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ

ผลการจดั กิจกรรม“โครงการรักษ์ภาษาไทย” ปีการศึกษา ๒๕๖3 ไดผ้ ลสรปุ ดงั น้ี
๑.สรปุ ผลกำรดำเนินกำร

ทางคณะครูได้ดาเนนิ การจัดกิจกรรม““โครงการรักษ์ภาษาไทย” ปีการศกึ ษา ๒๕๖3 ตามแผนปฏิบัตกิ าร
ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖3 โดยดาเนนิ การแล้วเสร็จและสรุปรายงานตอ่ ผูบ้ ริหาร สรปุ โดยภาพรวม พบวา่
กิจกรรม“โครงการรักษภ์ าษาไทย” ปีการศกึ ษา ๒๕๖3 สาเร็จลลุ ว่ งด้วยดจี ากการสอบถามความพึงพอใจของผู้มี
สว่ นเก่ียวข้องในกจิ กรรม พบวา่ ผมู้ ีสว่ นเก่ียวข้องสว่ นใหญม่ ีความพงึ พอใจต่อการจดั กิจกรรมโดยเฉล่ียอย่ใู นระดบั
มากทส่ี ดุ (x̄ = ๔.55,SD = 0.42 ) คิดเป็นร้อยละ 91

สรปุ ได้วา่
เชิงปริมำณ

๑. นักเรียนรอ้ ยละ 75 มผี ลสัมฤทธิท์ างการเรียนวิชาภาษาไทยสูงขนึ้
๒. นกั เรียนรอ้ ยละ 100 แตล่ ะระดับชน้ั สามารถอา่ นและเขยี นได้
3. นักเรยี นร้อยละ 100 เขา้ ร่วมกิจกรรมสง่ เสรมิ ทางดา้ นวชิ าการรายวชิ าภาษาไทย
เชิงคุณภำพ
๓.๒.๑ นกั เรียนมีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นภาษาไทยในระดบั ดีเลิศ
๓.๒.๒ นักเรยี นแตล่ ะระดับช้ันสามารถอ่านออกเขยี นได้ในระดับดีเลิศ
๓.๒.๓ โรงเรียนมกี ิจกรรมส่งเสรมิ ทางดา้ นวชิ าการแกน่ ักเรียนในระดับยอดเยี่ยม

2. อภิปรำยผล

การจดั กจิ กรรม “โครงการรักษ์ภาษาไทย” ปีการศกึ ษา ๒๕๖3 ครง้ั น้ี จากการประเมินผลจะเหน็ ได้ว่า
การจดั กจิ กรรมโดยภาพรวมมีความพึงพอใจในการทากิจกรรมต่าง ๆ มีคา่ เฉล่ยี อยใู่ นระดับมากทีส่ ุด คือ (x̄ = ๔.
55,SD = 0.42 ) และกิจกรรมท่ีมคี ่าเฉลี่ย มคี วามพึงพอใจมากทีส่ ุด คือ กิจกรรมวันพ่อแหง่ ชาติ (x̄=4.85,SD
= 0.48) แสดงให้เหน็ วา่ การดาเนินกิจกรรม“โครงการรักษภ์ าษาไทย” ปกี ารศึกษา ๒๕๖3 นี้ทุกฝ่ายที่มีส่วน
เกย่ี วขอ้ งได้รว่ มกันวางแผน จดั เตรียมงาน ใหม้ ีความพร้อมในทุก ๆ ดา้ นเพื่อใหน้ ักเรียนได้เรยี นรทู้ ี่หลากหลาย มี
ความกล้าแสดงออก ตระหนักถงึ ความสาคัญของการเรยี นรู้สบื ต่อไป

3. ข้อเสนอแนะ

คณะดาเนนิ กจิ กรรมควรนาข้อเสนอแนะท่ีได้ไปพจิ ารณาวางแผนปรบั ปรงุ การจัดกจิ กรรมในปีการศึกษา
ต่อไป โดยจัดหาจัดหากิจกรรมใหม้ ีความหลากหลายทีเ่ หมาะสมกบั นักเรยี นแตล่ ะระดับชันให้มากขึน้

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๑๖

ภำคผนวก

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ๑๗

ภำคผนวก ก

- สำเนำโครงกำรรักษ์ภำษำไทย
- แบบประเมินควำมพึงพอใจ

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 ๑๘

โครงกำร โครงการรักษ์ภาษาไทย
แผนงำน ขยายโอกาสการเขา้ ถึงบรกิ ารทางการศกึ ษาและการเรียนรู้ตลอดชวี ติ
สนองยุทธศำสตร์ สพฐ. อย่างท่วั ถึงและมคี ณุ ภาพ
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๒ ด้านการพฒั นาคุณภาพของผเู้ รยี น และสง่ เสรมิ
สนองมำตรฐำนโรงเรยี น การจดั การศกึ ษาเพ่ือสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน
สนองกลยทุ ธข์ องโรงเรยี น ข้อที่ ๒.๒ ส่งเสริมสนับสนนุ ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถอา่ นออกเขยี นไดต้ ามชว่ งวัย
สนองเปำ้ หมำยของโรงเรยี น ข้อท่ี ๒.๓ ส่งเสรมิ สนับสนุนให้ผูเ้ รยี นมีนิสยั รักการอ่าน
ที่ ๒.๔ ส่งเสรมิ การจดั การเรียนรทู้ ใ่ี ห้ผ้เู รียนไดเ้ รียนร้ผู ่านกิจกรรมปฏิบัติจรงิ
สนองตวั ชวี้ ัดของโรงเรยี น (Active Leaning) เนน้ ทักษะกระบวนการ ใหเ้ กดิ ทักษะการคิดวิเคราะห์ คิด
แก้ปัญหา และคดิ สร้างสรรค์ในทกุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ทงั้ ในและนอกระบบ
ลกั ษณะโครงกำร ขอ้ ที่ ๓.๒ สง่ เสรมิ การพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสคู่ วามเปน็ เลิศในดา้ นต่าง ๆ
งำนท่รี ับผดิ ชอบ มาตรฐานที่ ๑ พฒั นาคุณภาพผู้เรยี น
ผู้รับผดิ ชอบ มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ
ระยะเวลำดำเนินงำน 1. พฒั นาคุณภาพของผเู้ รียน
3. พัฒนาการจดั การเรยี นรทู้ เ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ
1. ผูเ้ รยี นไดร้ ับการพัฒนาอย่างรอบดา้ นและมีผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นสูงข้ึน
ตามเกณฑท์ โ่ี รงเรียนกาหนด
2. ผูเ้ รียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงคต์ ามเกณฑ์ทโ่ี รงเรยี นกาหนด
4. ครมู คี วามรู้และจัดการเรยี นรู้ท่เี น้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญ
1.1 ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการอ่าน การเขยี น การส่อื สารและการคิด
คานวณ
1.2 ผู้เรียนมคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
อภปิ รายแลกเปลี่ยน ความคดิ เห็น และแก้ปัญหา
1.3 ผู้เรียนความสามารถในการสร้างนวัตกรรม
2.1 ผ้เู รยี นมคี ณุ ลักษณะและคา่ นยิ มที่ดตี ามทีส่ ถานศึกษากาหนด
2.3 ผู้เรียนยอมรับที่จะอยรู่ ว่ มกันบนความแตกต่างและหลากหลาย
4.1 จดั การเรยี นร้ผู า่ นกระบวนการคดิ และปฏิบัตจิ ริงและสามารถนาไป
ประยกุ ต์ใชใ้ นการดาเนินชีวิต
4.2 ใชส้ อ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหลง่ เรยี นรู้ทีเ่ อื้อต่อการเรยี นรู้
4.3 มีการบรหิ ารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก
ตอ่ เน่อื ง
วิชาการ
นางสาวโศธดิ า เพ็ชรช่วย
1 กรกฎาคม 2563 – 10 เมษายน 2564

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศึกษา 2563 ๑๙

๑. หลักกำรและเหตุผล
ภาษาไทยเปน็ ภาษาประจาชาติและใช้ส่ือสารกันระหว่างคนในชาติ นักเรียนเป็นผลผลิตทางการศึกษาท่ีมี

ความสาคัญ โรงเรียนจะต้องจัดการศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ และนักเรียนเหล่าน้ีจะต้องสามารถใช้
ภาษาไทยสอ่ื สารไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ มนี ิสัยรกั การอ่าน การคน้ ควา้ เพอื่ เป็นพน้ื ฐานในการศึกษาและแสวงหา
ความรู้ในข้ันสงู ต่อไป ปัจจยั ทจี่ ะสง่ ผลให้การเรยี นการสอนภาษาไทยเกิดประสิทธภิ าพนอกเหนอื จากครผู สู้ อนและ
ตัวนักเรียน วัสดุ – อุปกรณ์ก็เป็นปัจจัยสาคัญในการสนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียนการสอน
เช่นเดียวกัน รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะการใช้ภาษาไทยในวันสาคัญต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน
ใหน้ ักเรยี นได้แสดงความสามารถและตระหนักถงึ ความสาคัญของภาษาไทย ซง่ึ จะสง่ ผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วชิ าภาษาไทยของนกั เรยี นสงู ขึน้

โรงเรยี นวดั พังยอม ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของภาษาไทยท้ังในรปู แบบของการจดั การเรียนการ
สอนและกิจกรรมเสรมิ ทักษะตา่ ง ๆ จึงดาเนินจัดทาโครงการรักษ์ภาษาไทย เพ่ือวางรากฐานความรูค้ วามเข้าใจ
และความสามารถดา้ นการใช้ภาษาท่ถี ูกตอ้ งแก่นักเรียน นอกจากนย้ี งั เสริมสรา้ งทักษะเฉพาะดา้ นอนั เป็น
ความสามารถพเิ ศษทตี่ ่อยอดความรู้ในการศกึ ษาตอ่ ในอนาคตได้

๒. วัตถปุ ระสงค์
๒.๑ เพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการเรียนรู้และพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นรายวชิ าภาษาไทยใหส้ ูงขึ้น
๒.๒ นักเรยี นมีทกั ษะด้านตา่ งๆ เกย่ี วกับวิชาภาษาไทยได้อย่างถูกหลกั การและมีความคิดสร้างสรรค์

๓. กลุ่มเปำ้ หมำย
๓.๑ ผลผลิต (Outputs)
๓.๑.๑ นกั เรยี นทกุ คนมีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นวชิ าภาษาไทยสูงขึน้
๓.๑.๒ นกั เรยี นแต่ละระดับชัน้ สามารถอา่ นและเขยี นได้
๓.๑.๓ โรงเรยี นมกี จิ กรรมสง่ เสรมิ ทางดา้ นวิชาการโดยเนน้ นกั เรียนทุกกลมุ่ เป้าหมาย
๓.๒ ผลลัพธ์ (Outcomes)
๓.๒.๑ นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนภาษาไทยในระดบั ดี
๓.๒.๒ นักเรยี นแต่ละระดบั ช้ันสามารถอา่ นออกเขียนไดใ้ นระดับดี
๓.๒.๓ โรงเรียนมกี ิจกรรมส่งเสรมิ ทางดา้ นวชิ าการแกน่ กั เรยี น

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๒๐

๔. กจิ กรรมและวธิ กี ำรดำเนินงำน ระยะเวลำ ผ้ทู ร่ี บั ผิดชอบ
ที่ กจิ กรรม 1 – ๑๑ ก.ค. ๒๕๖3
คณะกรรมการบรหิ าร
๑. ข้นั เตรยี มการ ประชุมวางแผนและเขียนโครงการ ครู และบคุ ลากรทกุ คน
( Planning )
26 ก.ค. 2563 ครูทกุ คน
๒. ข้ันดาเนนิ การ ๑.กิจกรรมวนั ภาษาไทยแห่งชาติ
( Doing ) ๑2 ส.ค.๒๕๖3 ครูทุกคน
๒. กิจกรรมวนั แมแ่ หง่ ชาติ

๓. กจิ กรรมวนั พ่อแหง่ ชาติ 5 ธ.ค. 2563 ครทู กุ คน

๓. ข้ันตรวจสอบ ๑.ประเมนิ ผล 31 ก.ค. 2563 ครทู ุกคน
และประเมนิ ผล ๑. กจิ กรรมวันภาษาไทยแหง่ ชาติ 17 ส.ค. 2563 ครทู กุ คน
( Checking ) ๒. กจิ กรรมวนั แม่แห่งชาติ 11 ธ.ค. 2563 ครูทุกคน
15 ม.ค. 2564 ครโู ศธดิ า
๓. กจิ กรรมวนั พ่อแหง่ ชาติ 15 ม.ค.๒๕๖4 ครโู ศธดิ า

๒.รายงานผล

๔. ข้ันปรบั ปรุง นาผลการประเมินจัดทาโครงการ
และพฒั นา
( Action ) เพ่ือปรับปรุงพฒั นา ใหบ้ รรลุ
วัตถปุ ระสงค์

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๒๑

๕. งบประมำณ ใช้งบอุดหนุนจดั กำรศกึ ษำ จำนวน 2,0๐๐บำท

จำแนกหมวดรำยจำ่ ย

ที่ รำยกำร/กิจกรรม/กำรใช้ งบประมำณ ค่ำตอบ ค่ำใช้ ค่ำวัสดุ ผูร้ ับผิดดชอบ
แทน สอย
งบประมำณ

๑. ขน้ั เตรียมการ ประชุมวางแผนและเขียนโครงการ คณะกรรมการ

( Planning ) - --- บรหิ าร ครู

และบคุ ลากรทกุ คน

๒. ขน้ั ดาเนนิ การ ๑. กิจกรรมวันภาษาไทยแหง่ ชาติ ๕๐๐ - - ๕๐๐ ครูทุกคน

( Doing ) ๒. กิจกรรมวันแม่แหง่ ชาติ ๕๐๐ - - ๕๐๐ ครทู กุ คน

๓. กจิ กรรมวันพอ่ แหง่ ชาติ ๑,๐๐๐ - - ๑,๐๐๐ ครูทุกคน

๓. ขัน้ ตรวจสอบ ตดิ ตาม ประเมนิ และรายงานผล -- ครูโศธดิ า
และประเมินผล โครงการ
( Checking ) ครโู ศธิดา
๔. ขั้นปรับปรุง นาผลการประเมนิ จัดทา
- ---
และพัฒนา โครงการ เพอื่ ปรับปรงุ
( Action ) พัฒนา ให้บรรลวุ ตั ถุประสงค์ 2,0๐๐ - - 2,0๐๐ -

รวม

หมายเหตุ *ขออนุมัตถิ ัวจา่ ยทกุ รายการ

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ๒๒

๖. กำรประเมนิ ผล วธิ ีกำรประเมนิ เคร่ืองมอื
- สงั เกต
ตัวชี้วัดควำมสำเรจ็ - สอบถาม - แบบสังเกต
- แบบสอบถาม
ผลผลติ (Outputs) - ผลงานนกั เรยี น
๑. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย - แบบสงั เกต
- แบบสอบถาม
รอ้ ยละ ๗๕
๒. นักเรียนแต่ละระดับช้ันสามารถอ่านและเขียนได้

ร้อยละ ๗๕
๓. โรงเรียนมีกิจกรรมส่งเสริมทางด้านวิชาการโดยเน้น

นกั เรียนทกุ กลุม่ เปา้ หมายไม่นอ้ ยกว่า ๕๐
ผลลพั ธ์ (Outcomes)

๑. โรงเรียนมีกิจกรรมส่งเสริมทางด้านวิชาการด้าน
ภาษาไทยแกน่ กั เรยี นทุกคน

๗. ผลทค่ี ำดว่ำจะไดร้ บั

โรงเรียนวัดพังยอมมีการส่งเสริมทางวิชาด้านทักษะภาษาไทยอย่างครบวงจร มีการพัฒนาคุณภาพ
ความรู้ ความเข้าใจ และต่อยอดความสามารถพิเศษแก่นักเรียน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคุณภาพของ
นักเรียนเป็นสาคญั

ลงช่อื ................................... ผู้เสนอโครงการ
(นางสาวครโู ศธิดา เพช็ รช่วย)

ครผู ูช้ ว่ ยโรงเรยี นวัดพังยอม

ผูอ้ นุมตั ิโครงการ  อนุมตั ิ  ไมอ่ นุมัติ

(ลงชือ่ ) ผู้อนุมตั โิ ครงการ
(นางณฐั พัชร์ เพชรประสิทธ)ิ์

ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นวัดพังยอม

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ๒๓

แบบประเมนิ ควำมพึงพอใจ กิจกรรม “โครงกำรรักษภ์ ำษำไทย” ปีกำรศึกษำ ๒๕๖3
ณ โรงเรยี นวัดพงั ยอม จงั หวัดนครศรธี รรมรำช

คำชแ้ี จง ใหท้ าเครอ่ื งหมาย  ลงในหมายเลขทีต่ รงกบั ระดับความพงึ พอใจของทา่ นมากทีส่ ุด

 ผูบ้ ริหาร  ครู บุคลากร  นักเรยี น

ระดบั ควำมพึงพอใจ

ลำดับ รำยกำร มากท่สี ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ย
ที่ (5) (4) (3) (2) ท่ีสดุ
(1)

1 ความเหมาะสมของระยะเวลา
2 ความเหมาะสมของสถานที่
3 กจิ กรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ
4 กิจกรรมวันแม่แหง่ ชาติ
5 กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ
6 การนาความรทู้ ี่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั
7 ความพึงพอใจในภาพรวม

ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๒๔

ภำคผนวก ข

• ภำพกจิ กรรม“โครงกำรรกั ษ์ภำษำไทย” ปกี ำรศึกษำ ๒๕๖3

รายงานผลโครงการรกั ษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ๒๕

ภำพประกอบกจิ กรรม “โครงกำรรักษ์ภำษำไทย” ปีกำรศึกษำ ๒๕๖3
กจิ กรรมวนั ภำษำไทยแหง่ ชำติ

นักเรยี นไดฝ้ ึกทกั ษะการ
อา่ น การฟัง การเขียน
การคดิ วิเคราะห์ เชน่
กจิ กรรมอ่านบทร้อย
กรอง กจิ กรรมแต่งเร่ือง

จากภาพ กจิ กรรม
คดั ลายมอื

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศึกษา 2563 ๒๖

ภำพประกอบกิจกรรม “โครงกำรรักษภ์ ำษำไทย” ปีกำรศึกษำ ๒๕๖3
กจิ กรรมวันแม่แหง่ ชำติ

นักเรียนได้ฝกึ ทกั ษะการ
อ่าน การฟงั การเขียน
การคิดวเิ คราะห์ เช่น
กิจกรรมอา่ นหนงั สือที่
รกั กจิ กรรมแต่งเร่ือง

จากภาพ กิจกรรม
ประดษิ ฐ์การ์ดวนั แม่
และมกี ารมอบของ
รางวลั ใหแ้ ก่นักเรียนที่
ทาผลงานออกมาได้ดี

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปกี ารศึกษา 2563 ๒๗

ภำพประกอบกจิ กรรม “โครงกำรรักษภ์ ำษำไทย” ปกี ำรศึกษำ ๒๕๖3
กิจกรรมวนั พอ่ แห่งชำติ

นักเรียนได้ฝกึ ทกั ษะการอ่าน การฟงั การเขียน การคดิ
วเิ คราะห์ เช่น กจิ กรรมระบายสี กิจกรรมจดหมายถึงพ่อ
กิจกรรมประดษิ ฐก์ าร์ดวนั พ่อ กจิ กรรมคัดลายมอื จดั บอร์ด
นิทรรศการ และมีประกวดการแขง่ ขนั ในกจิ กรรมต่าง ๆ

รายงานผลโครงการรักษภ์ าษาไทย ประจาปีการศกึ ษา 2563 ๒๘




Click to View FlipBook Version