การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
คณิตศาสตร์
โดย
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ณชั ชา กมล
สาขาวิชาคณิตศาสตร์
ภาควิชาหลักสูตร การสอน และการเรียนรู้
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กิจกรรมกลุ่ม: การวิเคราะหแ์ ผนการจัดการเรียนรู้
ใหแ้ ต่ละกลุม่ วิเคราะห์แผนการจัดการเรียนรูท้ ่มี อบให้ว่า แต่ละ
หัวขอ้ ในแผนการจัดการเรยี นรู้อยดู่ า้ นไหนใน 4 ดา้ นดงั น้ี
สอนอะไร สาระการเรียนรู้ (KPA)
สอนทาไม วัตถุประสงค์ (KPA)
สอนอย่างไร วิธีการ/กิจกรรม
ผลเป็นอยา่ งไร การวดั และประเมินผล
องค์ประกอบการเรียนการสอน
1. คร/ู ผสู้ อน
2. นกั เรียน/ผูเ้ รียน
3. หลกั สูตร
4. สิ่งแวดลอ้ มทางการเรียน
การออกแบบการเรียนการสอน
(Instructional Design)
การกาหนดรายละเอียด รายการตา่ งๆ
เพื่อทาให้เกิดการเรียนรใู้ นสาระความรู้
รปู แบบการเรียนการสอน
(Instructional Models)
โครงสร้างองคป์ ระกอบการดาเนินการเรียน
การสอนทีไ่ ดจ้ ดั เปน็ ระบบสมั พนั ธส์ อดคล้อง
กับทฤษฏี/หลักการเรียนรหู้ รือทีไ่ ด้รบั การ
พิสจู น์ เพื่อชว่ ยให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรตู้ าม
จุดม่งุ หมาย
ผู้สอน กิจกรรม การบรรยายแบบมี
ความรู้ การเรียนรู้ ส่วนร่วม
ความสามารถ การอภิปราย
ทกั ษะการสอน การสาธิต
ทัศนคตติ อ่ การสอน การศึกษาคน้ คว้า
ผู้เรียน การใช้คาถาม
ความรเู้ ดิม บุคลิกฯ การแสดงบทบาท
ความต้องการ/สนใจ สมมุติ
ทัศนคติต่อการเรียน การทดลอง
บูรณาการ การศึกษานอก
กระบวนการเรียนรู้ สถานที่
เง่อื นไข/สถานการณ์ การระดมพลังสมอง
เนื้อหา บทเรียนสาเร็จรูป
ผู้เรียน การใช้เกม
การใช้สถานการณ์
จาลอง
การเชิญวทิ ยากร
การสัมมนา
การทาแบบฝึกหดั
ฯลฯ
การปฏิสมั พันธ์ในชัน้ เรียน
1. ผู้เรียน กบั ผู้สอน
2. ผ้เู รียน กบั ผเู้ รียน
3. ผู้เรียน กับ สือ่ วสั ดุ อปุ กรณ์ หรือแหลง่
เรียนรู้
คาถามเพือ่ การออกแบบการเรียนรู้
สอนอะไร สาระการเรียนรู้ (KPA)
สอนทาไม วัตถุประสงค์ (KPA)
สอนอยา่ งไร วิธีการ/กิจกรรม
ผลเป็นอยา่ งไร การวัดและประเมนิ ผล
1. กาหนดสาระการเรียนรู้
ข้อมูล ความรู้ หรือสิง่ อันเปน็ สาระทีก่ าหนดไว้
ให้ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ ประกอบดว้ ย
- ความรู้ (Knowledge)
- ทักษะ/กระบวนการ(Skill/Process)
- คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attribute)
สาระการเรียนรู้
สาระตามรายวิชา + สาระเพิ่มเติมที่ตอ้ งการพฒั นา
- ปญั หา
- คณุ ลักษณะฯ และสมรรถนะ
(วิเคราะห์ผู้เรียน)
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั
2. กาหนดวตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร(ู้ KPA)
3. การกาหนดวิธีการ/กจิ กรรมการเรยี นรู้
วิธีการจดั การเรยี นการสอน
ที่เนน้ ผูเ้ รยี นเป็ นสาคญั
พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ….
• ได้กาหนดแนวทางการศึกษาทย่ี ดึ หลกั ให้ผ้เู รียนเป็ นผ้ทู ่ี
สำคญั ทส่ี ุด โดยมุ่งเน้นให้ความสาคญั สูงสุดใน
กระบวนการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ทเ่ี น้นผ้เู รียนเป็ น
ศูนย์กลำง เพ่ือให้ผู้เรียนได้พฒั นาเตม็ ศักยภาพ สามารถ
เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และรู้จกั แสวงหาความรู้ได้ต่อเนื่อง
ตลอดชีวติ เพื่อเป็ นการเตรียมการรองรับกระแสการ
เปลยี่ นแปลงของโลกในด้านเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกจิ
และการเมือง
หมวด 4 มาตรา 22
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
พทุ ธศักราช 2551
1. ยดึ หลกั ผู้เรียนมคี วามสาคญั เช่ือว่าทุกคนสามารถ
เรียนรู้และพฒั นาตนเองได้
2. กระบวนการเรียนรู้เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็ นหลกั
ใช้วธิ ีการสอนทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกบั ผู้เรียน
รายบุคคล
3. การออกแบบการจดั การเรียนรู้ใช้วธิ ีการ กจิ กรรม สื่อ/
แหล่งเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผลทเี่ หมาะสมกบั ผู้เรียน
การเรียนรู้ทเี่ น้นผู้เรียนเป็ นศูนย์กลาง
• การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ทต่ี อบ
เสนอความสนใจหรือความต้องการของผู้เรียน โดย
ให้ผู้เรียนได้ปฏบิ ตั จิ ริง เพื่อให้เกดิ ทกั ษะ
กระบวนการในการแสวงหาความรู้ จนค้นพบ
ความรู้ด้วยตนเอง และสามารถนาความรู้น้ันไปใช้ใน
ชีวติ จริง
บูรชัย ศิริมหาสาคร, 2537
การจัดการเรียนการสอนทเ่ี น้นผู้เรียนเป็ นสาคญั
จอห์น ดวิ อี้ (John Dewey)
“การเรียนรู้โดยการกระทา” หรือ
“Learning by Doing”
ให้ผู้เรียนเป็ นผู้ลงมือปฏบิ ตั ิ
การจัดการเรียนการสอนทเ่ี น้นผู้เรียนเป็ นสาคญั
ผู้เรียน
ผู้รับ ผู้เรียนหรือสร้างองค์ความรู้
ผู้สอน ผู้จดั ประสบการณ์การเรียนรู้
ผู้ถ่ายทอดข้อมูลความรู้
เป้าหมาย
ตอบสนองความแตกต่างระหว่าง
บุคคล เพ่ือให้พฒั นาเตม็ ตามศักยภาพ
และประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน
การวดั ผลประเมนิ ผล การเรียนรู้ทเ่ี น้น รูปแบบการเรียนการสอน
เน้นการวดั และ ผู้เรียนเป็ นสาคญั เน้นการสอนทหี่ ลากหลาย
ประเมินผลตาม เช่น การปฏิบตั จิ ริง การ
สภาพจริง ค้นพบแบบร่วมมือ ฯลฯ
กจิ กรรมการเรียนการสอน
เน้นการพฒั นากระบวนการคดิ จาก
การปฏบิ ตั จิ ริง สะท้อนความคดิ
อภปิ รายแลกเปลยี่ น การสรุปด้วย
ตัวเอง นาไปใช้ในชีวติ จริง ฯลฯการ
เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้
4. การกาหนดวิธีการวดั และประเมินผล
ประเมินผลตามสภาพจรงิ
การประเมินที่สามารถประเมินความรู้ ความสามารถ
และความรสู้ กึ ของผูเ้ รยี น ดว้ ยวิธีการที่หลากหลายและ
ต่อเนอ่ื งกนั ควบค่ไู ปกบั การเรยี นการสอนอยา่ งต่อเนอ่ื ง
ตลอดเวลา
ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้
ตามสภาพจริง ตัวชี้วดั /
(วัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้) ผลการเรียนรู้
การวดั และประเมนิ ผล การเรียนการสอน
ตามสภาพจริง ตามสภาพจริง
ขน้ั ตอนการประเมินตามสภาพจริง
1.กาหนดวัตถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายในการประเมิน
2.กาหนดขอบเขตในการประเมิน
3.กาหนดผูป้ ระเมิน
4.เลือกใช้เทคนิคและเครื่องมือในการประเมิน
5.กาหนดเวลา สถานที่ที่จะประเมิน
6.กาหนดเกณฑ์ในการประเมิน
ด้านพุทธิพิสยั (Cognitive domain)
Thinking : ความรู้ ความคิด
1. ความรู้ ความจา (Knowledge)
2. ความเข้าใจ (Comprehension)
3. การนาไปใช้ (Application)
4. การวิเคราะห์ (Analysis)
5. การสงั เคราะห์ (Synthesis)
6. การประเมินคา่ (Evaluation)
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พนั ธศ์ กั ด์ิ พลสารมั ย์
www.maxvibrat.com.2016
ตวั อยา่ งเครือ่ งมือในการวดั ผลการเรียนรู้
ผู้เรียน
บนั ทึกการเรียนรู้
ถือเปน็ เครื่องมือที่สาคญั ในการวดั และประเมินผล
การเรียนรขู้ องผเู้ รียน ซึง่ ทาใหค้ รูทราบถึง
กระบวนการคิด ความรูส้ ึกนึกคิด ความคิดเห็น
ทัศนคติ เจตคติ การสะทอ้ นความคิดของนกั เรียน
ตลอดจนความรู้ความเข้าใจของนักเรียนต่อสิง่ ที่
เขาได้เรียนรู้
แบบบนั ทึกการเรียนรู้ของนักเรียน
1. คาบนี้นกั เรียนได้เรียนรู้เกีย่ วกับเรือ่ งอะไร
...............................................................
2. ถ้าคาบนี้เพือ่ นนกั เรียนไม่ไดม้ าเรียน นักเรียนจะสอนเพื่อนเรือ่ งที่
เรียนวันนีอ้ ย่างไร
…………………………………………………….…………………………………………
…………………………………………….………………………………..………………
…………………………………….…………………………………………………………
…………………………….…………………………………
3. จากการเรียนคาบนี้ฉันรูส้ ึกวา่ ........ ........
........
ชื่อ-สกลุ ............................................................เลขที่.......
การบนั ทึกแบบสนั้
• เปน็ เครือ่ งมือครใู หน้ ักเรียนเขียนตอบ
ส้นั ๆ เกี่ยวกบั สิ่งทีน่ ักเรียนเขา้ ใจและ
ไม่เข้าใจในการเรียนคาบน้ัน ๆ
ชื่อ...................................................เลขท.ี่ ................
1. หัวข้อใดทีน่ กั เรียนเข้าใจมากที่สดุ เข้าใจว่าอะไร
.............................................................................
2. หัวข้อใดทีน่ กั เรียนไม่เข้าใจ
............................................................................
3. สิ่งทีน่ ักเรียนได้เรียนร้ใู นคาบน้คี ืออะไร เรียนรู้ว่าอย่างไร
.......................................................................
4. นกั เรียนอยากให้ครเู พิ่มเติมอะไร
............................................................................
แบบบนั ทึกการสังเกตพฤติกรรม
แบบบนั ทึกการสังเกตพฤติกรรม
การใชผ้ ลงานของนักเรียน
เป็นการเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากการประเมินผล
งานหรือชิ้นงานของนกั เรียน ซึ่งถือเปน็
แหล่งข้อมูลทีส่ ะท้อนใหเ้ หน็ ถึงศักยภาพของ
ผเู้ รียนในการลงมือกระทาเพือ่ ให้ไดผ้ ลงานหรือ
ชิน้ งานน้ัน ๆ
กิจกรรม
• ให้นกั เรียนใช้หลักการแปลงทางเรขาคณิตชนิดต่าง ๆ
ออกแบบลวดลายบนจานเวียงกาหลงทีก่ าหนดให้
พร้อมตกแต่งให้สวยงามและตอบคาถามต่อไปนี้
ลวดลายบนจานเวียงกาหลงที่นักเรียนออกแบบใชห้ ลกั การแปลง
ทางเรขาคณิตอะไรบา้ ง และใชอ้ ยา่ งไร จงอธิบายให้ละเอียด
พิจารณาชิ้นงานของนกั เรียนต่อไปนี้ แล้วระบเุ กณฑ์ในการประเมิน
ช่วยเสนอแนะวธิ ีการจัดกลุ่ม
นักเรียนให้หน่อยค่ะ ขอ
สาขาวชิ าละ 3 วธิ ีทแ่ี ตกต่าง
และน่าสนใจค่ะ
คำถำม หรือขอ้ สงสยั