บทสรุปของผู้บริหาร สืบเนื่องจาก เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูง และยังไม่สามารถก้าวพ้นวิกฤตได้อย่างยั่งยืนซึ่งสืบเนื่องมาจาก สาเหตุหลายประการ โดยสาเหตุที่สำคัญประการหนึ่ง คือ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่มีอยู่สูงแสดงถึง ฐานเศรษฐกิจที่ยังไม่เข้มแข็ง ประชาชนระดับฐานรากยังมีรายได้น้อย และขาดโอกาสในการเพิ่มรายได้ โดยส่วน ใหญ่อยู่ในสาขาเกษตรและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่สนับสนุนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงไม่มีโอกาสที่จะ เติบโตเป็นชนชั้นกลาง ที่จะเป็นฐานการบริโภคและสร้างสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและเป็นของตนเองได้ และ ในช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงภาวะเงินเฟ้อ ก็จะเป็นกลุ่มคนที่เดือดร้อนจากค่าครองชีพและต้นทุนมากกว่าคนอื่น ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะทางเศรษฐกิจดังกล่าว คือ สถานการณ์และสภาวะแวดล้อมของ เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจดังที่กล่าวมานี้ ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา จึงได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจเป็นกรณีพิเศษ จุดมุ่งหมายของนโยบายของรัฐบาลได้มุ่ง ไปที่การพัฒนาทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ คือ มุ่งนำประเทศไทยไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจทางการจัดการศึกษาอาชีพใน สมดุล มีความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการสร้างการเติบโตอย่างมี คุณภาพและยั่งยืน และสามารถตอบสนองรองรับต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประชาคมอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์ โดยสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งการเมืองและความมั่นคง ทั้งนี้ได้กำหนดนโยบายเพื่อตอบสนองจุดมุ่งหมายดังกล่าวที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การเสริมสร้างกระบวนการสร้าง อาชีพ สร้างงานที่มีคุณภาพและมีรายได้สูงให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงเป็นระบบในทุกระดับชั้นความรู้ปัจจุบันมี ความสำคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบ อาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชนซึ่ง สำนักงาน กศน.ได้กำหนด หลักการในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำไว้ว่า ต้องเป็นการดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้าน หลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทำอย่างมี คุณภาพ ทั่งถึงและเท่าเทียมกันสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลและ กระทรวงศึกษาธิการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในปี 256๔ สำนักงาน กศน. จึงได้นำนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติ ด้วยการให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม.และสถานศึกษา กศน. ดำเนินการสานต่อการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ ของโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนโดยอาจเป็นการจัดฝึกอาชีพในรูปแบบกลุ่มสนใจ หรือรูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ ซึ่ง อาจเป็นชั้นเรียนระยะสั้นหรือชั้นเรียนระยะยาว ในวิชาต่างๆ (ยกตัวอย่าง เช่น การทอผ้าพื้นเมือง,การทอผ้ามัดหมี่, พรมเช็ดเท้า การทอผ้าย้อมคราม,การทอผ้าขาวม้า, ฯลฯ) และการจัดฝึกอาชีพให้กับผู้ที่ต้องการต่อยอดอาชีพเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และส่งเสริมการใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอาชีพ ในอัน ที่จะประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ได้จริง ทั้งนี้ โดยใช้สถานศึกษา กศน. และ กศน.ตำบลหรือแขวง เป็นฐานการจัด กิจกรรมให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่บริการ โดยมีความเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยให้ ประชาชนระดับฐานรากที่ยังว่างงาน หรือมีรายได้น้อย หรือขาดโอกาสในการเพิ่มรายได้ ได้เห็นช่องทางในการ ประกอบอาชีพมีโอกาสที่จะมีอาชีพ สามารถที่จะมีรายได้ ลดรายจ่าย ซึ่งอาจทำได้ด้วยการสร้างอาชีพใหม่ พัฒนา ต่อยอดอาชีพเดิมหรือทำเป็นอาชีพเสริม เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอดอนตาล ได้นำนโยบายและยุทธศาสตร์ข้างต้นไปสู่การปฏิบัติเพื่อจัด การศึกษาอาชีพ และเป็นการจัดการเรียนการสอน ในพื้นที่อำเภอดอนตาล จึงจัดทำโครงการพัฒนาอาชีพระยะสั้น หลักสูตรไม่เกิน ๓๐ ชั่วโมง กศน.ตำบลบ้านแก้ง เพื่อพัฒนาอาชีพตามนโยบาย กลุ่มเป้าหมายให้มีความรู้ ความสามารถ และเป็นศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนเข้มแข็ง ในการกระจายความรู้ในท้องถิ่นพื้นที่ตำบล สร้างความมั่นคง ให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงานอาชีพการทำพรมเช็ดเท้า 2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีทักษะในงานอาชีพการทำพรมเช็ดเท้า 3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถประกอบอาชีพการทำพรมเช็ดเท้าได้อย่างมีคุณธรรม เป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชน ตำบลบ้านแก้ง จำนวน ๖ คน เชิงคุณภาพ ร้อยละ 80 ประชาชนที่ผ่านการอบรม สามารถนำความรู้ทักษะและประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชีวิตมีอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตัวชี้วัดความสำเร็จ เชิงปริมาณ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการกิจกรรมได้เรียนรู้หลักสูตรวิชาการทำพรมเช็ดเท้า เชิงปริมาณ ร้อยละ 80 ประชาชนที่ผ่านการอบรม สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว
คำนำ การจัดกิจกรรมศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอดอนตาล เป็นสถานศึกษาที่ให้บริการกับผู้เรียน ผู้รับบริการ และประชาชนในชุมชน ในหลายลักษณะเพื่อให้การดำเนินงานในการจัดกิจกรรมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและ ความต้องการของผู้เรียน ผู้รับบริการและชุมชนได้อย่างมีคุณภาพ จึงควรมีการประเมิน โครงการหลักสูตรการทำ พรมเช็ดเท้า ซึ่งจะเป็นผลการสรุปผลการดำเนินงาน ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร โดยดำเนินการตั้งแต่ วันที่ ๒๐ กรกฎาคม 256๖ ถึงวันที่ ๒๖ กรกฎาคม 256๖ รายงานการประเมิน โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนรูปแบบกลุ่มสนใจ(ไม่เกิน ๓๐ ชั่วโมง) หลักสูตรการทำ การทำพรมเช็ดเท้า สามารถนำไปเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอดอนตาล จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้บ่งบอกถึงการบรรลุวัตถุประสงค์ ของโครงการและจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดกิจกรรม สกร. ทั้งในการบริหารงาน การพัฒนาคน และการทำงานที่ ตรงตามความต้องการของผู้เรียน ผู้รับบริการและชุมชนและสามารถเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ และขอบขอบคุณผู้ที่ มีส่วนร่วมส่วนเกี่ยวข้องและให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย กศน.ตำบลบ้านแก้ง กรกฎาคม 256๖
บทที่ 1 บทนำ โครงการพรมเช็ดเท้า หลักการและเหตุผล สืบเนื่องจาก เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูง และยังไม่สามารถก้าวพ้นวิกฤตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสืบเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ โดยสาเหตุที่สำคัญประการหนึ่ง คือ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่มีอยู่สูง แสดงถึงฐานเศรษฐกิจที่ยังไม่เข้มแข็ง ประชาชนระดับฐานรากยังมีรายได้น้อย และขาดโอกาสในการเพิ่มรายได้ โดย ส่วนใหญ่อยู่ในสาขาเกษตรและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่สนับสนุนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงไม่มีโอกาส ที่จะเติบโตเป็นชนชั้นกลาง ที่จะเป็นฐานการบริโภคและสร้างสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและเป็นของตนเองได้ และ ในช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงภาวะเงินเฟ้อ ก็จะเป็นกลุ่มคนที่เดือดร้อนจากค่าครองชีพและต้นทุนมากกว่าคนอื่น ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะทางเศรษฐกิจดังกล่าว คือ สถานการณ์และสภาวะแวดล้อมของ เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจดังที่กล่าวมานี้ ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา จึงได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจเป็นกรณีพิเศษ จุดมุ่งหมายของนโยบายของรัฐบาลได้มุ่ง ไปที่การพัฒนาทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ คือ มุ่งนำประเทศไทยไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจทางการจัดการศึกษาอาชีพใน สมดุล มีความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการสร้างการเติบโตอย่างมี คุณภาพและยั่งยืน และสามารถตอบสนองรองรับต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประชาคมอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์ โดยสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งการเมืองและความมั่นคง ทั้งนี้ได้กำหนดนโยบายเพื่อตอบสนองจุดมุ่งหมายดังกล่าวที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การเสริมสร้างกระบวนการสร้าง อาชีพ สร้างงานที่มีคุณภาพและมีรายได้สูงให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงเป็นระบบในทุกระดับชั้นความรู้ปัจจุบันมี ความสำคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบ อาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชนซึ่ง สำนักงาน กศน.ได้กำหนด หลักการในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำไว้ว่า ต้องเป็นการดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้าน หลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทำอย่างมี คุณภาพ ทั่งถึงและเท่าเทียมกันสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลและ กระทรวงศึกษาธิการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในปี 2564 สำนักงาน สกร. จึงได้นำนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติ ด้วยการให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม.และสถานศึกษา กศน. ดำเนินการสานต่อการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ ของโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนโดยอาจเป็นการจัดฝึกอาชีพในรูปแบบกลุ่มสนใจ หรือรูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ ซึ่ง อาจเป็นชั้นเรียนระยะสั้นหรือชั้นเรียนระยะยาว ในวิชาต่างๆ (ยกตัวอย่าง เช่น การทอผ้าพื้นเมือง,การทอผ้ามัดหมี่, การทอผ้าย้อมคราม,การทอผ้าขาวม้า, ฯลฯ) และการจัดฝึกอาชีพให้กับผู้ที่ต้องการต่อยอดอาชีพเดิม เพื่อให้ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และส่งเสริมการใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอาชีพ ในอันที่จะ ประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ได้จริง ทั้งนี้ โดยใช้สถานศึกษา สกร. และ กศน.ตำบลหรือแขวง เป็นฐานการจัด กิจกรรมให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่บริการ โดยมีความเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยให้ ประชาชนระดับฐานรากที่ยังว่างงาน หรือมีรายได้น้อย หรือขาดโอกาสในการเพิ่มรายได้ ได้เห็นช่องทางในการ ประกอบอาชีพมีโอกาสที่จะมีอาชีพ สามารถที่จะมีรายได้ ลดรายจ่าย ซึ่งอาจทำได้ด้วยการสร้างอาชีพใหม่ พัฒนา ต่อยอดอาชีพเดิมหรือทำเป็นอาชีพเสริม เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอดอนตาล ได้นำนโยบายและยุทธศาสตร์ข้างต้นไปสู่การปฏิบัติเพื่อจัด การศึกษาอาชีพ และเป็นการจัดการเรียนการสอน ในพื้นที่อำเภอดอนตาล จึงจัดทำโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน
รูปแบบกลุ่มสนใจไม่เกิน ๓๐ ชั่วโมง หลักสูตรการทำพรมเช็ดเท้า ดำเนินการที่ ศาลาประชาคมบ้านหนองบัว หมู่ที่ ๖ ตำบลบ้านแก้ง เพื่อพัฒนาอาชีพตามนโยบาย กลุ่มเป้าหมายให้มีความรู้ ความสามารถ และเป็นศูนย์ฝึกอาชีพ ชุมชนเข้มแข็ง ในการกระจายความรู้ในท้องถิ่นพื้นที่ตำบล สร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ 4.วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ประชาชนเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพ 2. เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน 5.เป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชนทั่วไป จำนวน ๖ คน เชิงคุณภาพ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีความรู้ความสามารถด้านอาชีพ เห็นช่องทางในการประกอบอาชีพมีอาชีพ และ มีรายได้ ลดรายจ่าย ๖.วิธีการดำเนินงาน กิจกรรมหลัก วัตถุประสงค์ เป้าหมาย พื้นที่ ดำเนินการ ระยะเวลา งบประมาณ ๑.ประชุมวางแผนการ ดำเนินงาน/มอบหมาย งาน -ประชุมชี้แจง วัตถุประสงค์สร้าง ความรู้ความเข้าใจให้แก่ คณะทำงานให้สามารถ วางแผนการจัดกิจกรรม การเรียนรู้นำสู่การ ปฏิบัติ 1. เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในการ ดำเนินงานให้กับ คณะทำงานจัดการ เรียนรู้ทางด้านอาชีพ 2. เพื่อวางแผนงานสู่ การจัดการเรียนการ สอนอาชีพให้แก่ ประชาชน -องค์การ ปกครองส่วน ท้องถิ่น -ผู้นำชุมชน -ภูมิปัญญา ท้องถิ่น -ครู กศน.ตำบล สกร. อำเภอ ดอนตาล กรกฎาคม ๒๕๖๖ -
๒. วิเคราะห์และ กำหนดกรอบกิจกรรม การเรียนรู้พร้อมทั้ง ประสานเครือข่าย กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วม กิจกรรมอาชีพ -จัดทำแผนการเรียนรู้ที่ สอดคล้องกับหลักสูตร และความต้องการของ กลุ่มเป้าหมาย -ประสานเครือข่ายร่วม จัด -ประสานงาน กลุ่มเป้าหมายร่วม กิจกรรม 1. เพื่อวิเคราะห์ ศักยภาพ กลุ่มเป้าหมาย กำหนดรูปแบบและ ออกแบบการเรียนรู้ที่ เหมาะสมกับ กลุ่มเป้าหมาย 2. เพื่อประสานงาน ภาคีเครือข่ายร่วม จัดการเรียนการสอน อาชีพให้กับ กลุ่มเป้าหมาย -องค์การ ปกครองส่วน ท้องถิ่น -ผู้นำชุมชน -ภูมิปัญญา ท้องถิ่น -ครู กศน.ตำบล สกร. อำเภอ ดอนตาล กรกฎาคม ๒๕๖๖ ๓. ดำเนินงานตาม โครงการพัฒนาอาชีพ ระยะสั้นหลักสูตรไม่เกิน ๓๐ ชั่วโมง กศน.อำเภอ ดอนตาลดังนี้ -สมาชิกกลุ่มอาชีพ 1. เพื่อให้ประชาชน เห็นช่องทางในการ ประกอบอาชีพ 2. เพื่อให้ประชาชน มีอาชีพ มีรายได้ ลด รายจ่าย -สมาชิก กลุ่มเป้าหมาย จำนวน ๖ คน กศน.ตำบล บ้านแก้ง ๒๐-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ๓,๒๐0
บทที่ 2 สรุปผลการดำเนินงาน 2.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน 1. ประสานงานเครือข่าย 2. ประชุมวางแผนการดำเนินงาน 3. จัดทำโครงการดำเนินงานตามโครงการ 4. ติดตามวัดผล ประเมินผล 5. สรุปและรายงานผลโครงการ 2.2 รูปแบบกิจกรรม ภาคเนื้อหาวิชาการ 2.1.1 จัดอบรมให้ความรู้การทำพรมเช็ดเท้า 2.1.2 สาธิต ภาคกิจกรรมปฏิบัติ 2.1.3 ลงมือจัดการทำพรมเช็ดเท้า 2.1.4 ดัดแปลงเพื่อให้ได้ตามความต้องการ 2.3 สถานที่ในการจัดกิจกรรม ศาลาประชาคมบ้านดง หมู่ที่ ๗ ตำบลบ้านแก้ง อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร 2.4 ระยะเวลา วันที่ ๒๐ – ๒๖ กรกฎาคม 25๖๖ 2.5 งบประมาณแหล่งที่ใช้ งบประมาณปี ๒๕๖๖ แผนงาน : ยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน กิจกรรมส่งเสริมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน งบรายจ่ายอื่น ค่าใช้จ่าย โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รหัสงบประมาณ 200023๔00520050000๓3 ภายในวงเงิน ๔,๒00 บาท (สี่พันสองร้องบาทถ้วน) รายละเอียดดังนี้ - ค่าวัสดุฝึก เป็นเงิน 1,000 บาท - ค่าตอบแทนวิทยากร เป็นเงิน ๓,๒๐0 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๔,๒00 บาท (สี่พันสองร้อยบาทถ้วน) หมายเหตุ ถั่วจ่ายตามรายการที่จ่ายจริง 2.5 ผู้รับผิดชอบกิจกรรม นายยุทธนา สารมาศ ครูกศน.ตำบลบ้านแก้ง (หัวหน้าตำบล) 2.6 จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน ๖ คน 2.7 เครื่องมือในการเก็บข้อมูล
ตอนที่ 1 เป็นข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 เป็นข้อมูลแสดงพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 5 ข้อ สำหรับคำถามแต่ละข้อได้ใช้มาตราประมาณค่า (Rating Scales) โดยประเมินเป็น 5 ระดับคือ มากที่สุด/เห็นด้วยอย่างยิ่ง เท่ากับ 5 คะแนน มาก/เห็นด้วย เท่ากับ 4 คะแนน ปานกลาง/พอใช้ เท่ากับ 3 คะแนน น้อย/ไม่เห็นด้วย เท่ากับ 2 คะแนน น้อยที่สุด/ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เท่ากับ 1 คะแนน ตอนที่ 3 เป็นข้อเสนอแนะของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นข้อคำถามแบบปลายเปิด การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์จากแบบสอบถามเป็นหลักโดย ตอนที่ 1 และ 2 ใช้การคำนวณหาค่าร้อย ละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตอนที่ 3 เป็นข้อมูลเสนอแนะจากผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้การเขียนเชิง พรรณนา และเพื่อให้รายงานฉบับนี้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผู้รายงานจึงได้วิเคราะห์จากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ โครงการ รวมทั้งวิเคราะห์จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นการคำนวณ ผลการประเมินโครงการกิจกรรม ตอนที่ 1 เป็นข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จากผู้เข้ารับการอบรม จำนวน ๖ คน ตารางที่ 1 ผู้เข้ารับการอบรม จำแนกตามเพศ เพศ จำนวน คน ร้อยละ ชาย หญิง ๖ ๑๐๐ รวม ๖ 100 จากตารางที่ 1 พบว่า ผู้เข้ารับการอบรม เป็นเพศชายจำนวน - คน คิดเป็นร้อยละ - เป็นเพศหญิงจำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ตารางที่ 2 ประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนผู้รับบริการ ผู้ประเมินได้แก่ ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน ประเด็น / หัวข้อ การพิจารณา มากที่สุด (5) มาก (4) ปานกลาง (3) น้อย (2) น้อยที่สุด (1) ประเด็นด้านกระบวนการ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม 1. ได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือได้บริการอย่าง ประทับใจ ๖ 2. ได้เข้าร่วมโครงหรือได้รับบริการตรงตาม ความต้องการ 6 3. ได้เข้าร่วมโครงการหรือได้รับบริการที่ เป็นประโยชน์ 6 - 4. สามารถนำความรู้จากการเข้าร่วม กิจกรรมประยุกต์กับอาชีพเสริมได้ 6 - 5. สามารถนำความรู้จากการเข้าร่วม กิจกรรมไปใช้ร่วมกับชีวิตประจำวันและ ควรมีการดำเนินการครั้งต่อไปหรือไม่ 6 จากตารางที่ 2 ข้อมูลความพึงพอใจของผู้ตอบคำถาม ในการจัดกิจกรรมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนรูปแบบกลุ่มสนใจ (ไม่เกิน ๓๐ ชั่วโมง ) หลักสูตรการทำ พรมเช็ดเท้า กศน.ตำบลบ้านแก้ง พบว่า ระดับความพึงพอใจ เมื่อพิจารณาเป็นภาพรวมมีระดับความพึง พอใจ มากที่สุด คือ สามารถนำความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปใช้ร่วมกับชีวิตประจำวันและ ควรมีการดำเนินการ ครั้งต่อไปหรือ 1. ได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือได้รับการบริการอย่างประทับใจอยู่ในเกณฑ์ มากที่สุด คือ ๖ (100) 2. ได้เข้าร่วมโครงหรือได้รับบริการตรงตามความต้องการอยู่ในเกณฑ์ มากที่สุด คือ ๖ (100) 3. ได้เข้าร่วมโครงการหรือได้รับบริการที่เป็นประโยชน์ อยู่ในเกณฑ์ มากที่สุดคือ ๖ (100) 4. สามารถนำความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมประยุกต์กับอาชีพเสริมได้อยู่ในเกณฑ์ มากที่สุดคือ ๖ (100) 5. สามารถนำความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปใช้ร่วมกับชีวิตประจำวันและควรมีการดำเนินการครั้ง ต่อไปหรือไม่ อยู่ในเกณฑ์ มากที่สุดคือ ๖ (100)
บทที่ 3 สรุปอภิปราย และข้อเสนอแนะ โครงการอบรมการทำพรมเช็ดเท้า ตามวิถีการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบัน กศน.ตำบลบ้านแก้ง สรุปอภิปรายผลข้อมูลความพึงพอใจของ ผู้ตอบคำถามในการจัดกิจกรรมโครงการอบรมการทำพรมเช็ดเท้าและการดำรงชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียงเป็น การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน กศน.ตำบลบ้านแก้ง เมื่อพิจารณาเป็นภาพรวมมีความ พึงพอใจมากที่สุดคือ สามารถนำความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมประยุกต์กับอาชีพเสริมได้และสามารถใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม กับทุกสภาพครอบครัว ปัญหาและอุปสรรค ไม่มี ข้อเสนอแนะ - ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจและเข้าใจเรื่องการและนำเอาความรู้เกี่ยวกับการทำพรมเช็ดเท้า ไปใช้ในชีวิตประจำวันเป็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน - ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความต้องการที่จะสานต่ออาชีพการทำพรมเช็ดเท้า - ผู้เข้ารับการอบรมมีส่วนร่วมในการทำการทำพรมเช็ดเท้าอย่างมาก
รูปภาพวัสดุและอุปกรณ์ หลักสูตรการทำพรมเช็ดเท้า ที่ ศาลาประชาคมบ้านดง หมู่ที่ ๗ ตำบลบ้านแก้ง อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร
วิทยากรให้ความรู้ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในการทำพรมเช็ดเท้า
วิทยากรให้ความรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ในการทำพรมเช็ดเท้า
วิทยากรให้ความรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ในการทำพรมเช็ดเท้า
คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา นายประมวล ดอนอามาต ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอดอนตาล คณะทำงาน นายยุทธนา สารมาศ ครู กศน.ตำบลบ้านแก้ง