The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Gypzy Publishing, 2022-02-07 04:33:29

สารานุกรมภาพเครื่องแบบในสงครามโลกครั้งที่ 2 UNIFORMS OF WORLD WAR II

สารานุกรมภาพเครื่องแบบในสงครามโลกครั้งที่ 2



สารานุกรมภาพเครื่องแบบในสงครามโลกครั้งที่ 2























รวมรายละเอียดเครื่องแบบอังกฤษ อเมริกา เยอรมนี สหภาพโซเวียต และญี่ปุ่น

ตลอดจนประเทศอื่นๆ ทั้งฝ่ายอักษะและฝ่ายสัมพันธมิตร

โจนาธาน นอร์ธ เขียน / เจเรมี แบล็ก ที่ปรึกษา

ชัยจักร ทวยุทธานนท์ / ธนัย เจริญกุล / เบญจรินทร์ สันตติวงศ์ไชย แปล

สารบัญ






บทนำา 6
เริ่มสงคราม 8
สงครามในตะวันตก 10
สงครามในตะวันออก 12
เหตุการณ์หลังสงคราม 14
ลำาดับเหตุการณ์ ค.ศ. 1922-1945 16


จักรวรรดิอังกฤษ 18
อังกฤษในยามสงคราม 20

กองทหารองกฤษ 22

นายพลและเสนาธการ 24
ทหารราบ 26
ทหารม้า 36 ทหารโยธาและช่างเทคนิค 84
เหล่าทหารปืนใหญ่และทหารช่าง 38 ทหารยานเกราะ 86
หน่วยทหารยานเกราะ 40 ทหารพรานและหน่วยรบพิเศษ 88
หน่วยจู่โจมและหน่วยรบพิเศษ 42 ทหารนาวิกโยธิน 90
ทหารพลร่ม 44 ทหารพลรม 94

กองทัพอากาศ 46 ทหารอากาศ 96
ทหารอาสาสมัครต่างชาติ 48
กองทหารแคนาดา 50
กองทหารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 52 เยอรมนี 98
กองทหารแอฟริกัน 54
กองทหารอินเดีย 56 นาซีกับกองทัพ 100
เริ่มต้นมีชัย ลงท้ายพ่ายแพ้ 102
104
สหรัฐอเมริกา 58 แม่ทัพและเสนาธิการ 106
ทหารราบ

สหรัฐฯ เตรียมเข้าสู่สงคราม 60 หน่วยรบแอฟริกา 114
สหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามโลก 62 หน่วยเอสเอส 116
นายพลและเสนาธิการ 64 อาสาต่างชาติสังกัดเอสเอส 120
ทหารราบ 66 อาสาต่างชาติประจำากองทัพ 122


ทหารมา 80 ทหารมา 124
ทหารปืนใหญ่ 82 ทหารปืนใหญ่และทหารช่าง 126

ทหารราบนาวี (MARINE INFANTRY) 172
พลร่ม 174
กองทัพอากาศ 176



ฝ่ายสัมพันธมิตรอื่นๆ 178
พันธมิตรใหญ่น้อย 180
เบลเยียม 182
จีน 184
เดนมาร์ก 188
ฝรั่งเศส 190
กรีซ 202
เนเธอร์แลนด์ 204
นอร์เวย์ 206
โปแลนด์ 208
ยูโกสลาเวีย 214
ทหารยานเกราะ 128
ทหารภูเขา 130
ทหารพลร่ม 132 กองกำาลังอักษะอื่นๆ 216
กองพลรบทหารอากาศ 134 พันธมิตรของเยอรมนี 218
กองทัพอากาศ (Luftwaffe) 136 บัลแกเรีย 220
โครเอเชีย 222

สหภาพโซเวียต 138 ฟินแลนด์ 224
ฝรั่งเศส – วีชี
226

กองทัพแดง 140 ฮังการี 228
บทเรียนอันยากเข็ญ 142 อิตาลี 232
นายพล 144 ญี่ปุ่น 240
NKVD 146 โรมาเนีย 248
ทหารราบ 148 สโลวาเกีย 250
กองกำาลังทหารต่างชาติ 160
ทหารม้า 162 ประมวลศัพท์ 252
ทหารม้าคอสแสค 164 กิตติกรรมประกาศ 254
ทหารปืนใหญ่ 166 ประวัติผู้แปล 255
ทหารช่าง 168
กองร้อยติดอาวุธ 170

บทนำา






สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1939-1945 ทิ้ง เอธิโอเปียและได้ชัยชนะเหนือแอลเบเนีย
รอยแผลลึกให้แก่โลกยุคใหม่ ความโหดร้าย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อนแถลงการณ์

การเข่นฆ่าและความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอย่างไม ่ เด็ดขาดของนายกรัฐมนตรี เนวล แชมเบอรเลน

เคยปรากฏมานับศตวรรษ อีกทั้งจำานวนผู้ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 1939 ว่า “ดังนั้น
เสียชีวิตและความเสียหายก็มากขึ้นเป็น ประเทศนี้จึงประกาศสงครามกับเยอรมนี”
ประวัติการณ์ ขบวนการสังหารหมู่เพื่อชำาระ การยื่นคำาขาด การผนวกดินแดน การ
เผ่าพันธุ์ให้สะอาดนับไม่ถ้วนและความโหดร้าย ยึดครองและการรุกรานตลอดหลายปี จน
ทารุณจากการโจมตีทางอากาศจบลงด้วย กระทั่งปี 1939 จึงมีนัยว่าสงครามอาจถูก
เสียงระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก มองว่าเป็นผลสืบเนื่องจากสงครามโลกครั้ง
สงครามดังกล่าวถูกอธิบายว่าเป็นการ ที่ 1 ซึ่งก็อาจมีส่วนจริงอยู่บ้าง แม้ชาติที่เข้า
ต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว แต่ธรรมชาต ิ ร่วมสงครามและสมาชิกในกลุ่มพันธมิตร

ของสงครามย่อมซับซ้อนกว่านั้น แม้แต่เรองท ่ ี จะเปลี่ยนไปก็ตาม หลายประเทศเข้าร่วม

ทราบกันมาว่าสงครามเกิดขึ้นเมื่อใดก็ไม่ได้ แก้ไขสิ่งผิดในสนธิสัญญาต่างๆ ที่มีขึ้น
ถูกพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ชาวญี่ปุ่น เมื่อสิ้นสุดสงครามครั้งแรกให้ถูกต้อง เป็น กลุ่มควัน ‘ดอกเห็ด’ อันเด่นชัดของระเบิดปรมาณู


ขยายอำานาจเข้าไปในดินแดนจีนแล้วตั้งแต่ จรงและเขาใจได้ อย่างไรก็ตาม ความขด ระเบิดลูกนี้ถูกทิ้งเหนือเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น

ก่อนปี 1939 ชาวสเปนที่ต่อสู้กันเองนั้น แย้งครั้งที่ 2 ก็ยังเกิดขึ้นจากเงื่อนไขเฉพาะ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1945 ทำาให้มีคนตายทันที
80,000 คน และปิดฉากสงครามกับญี่ปุ่นลงในที่สุด
แต่ละฝ่ายได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตร อีก กล่าวคือ เป็นการเชื่อมโยงและผนวก


ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ชาวเยอรมันยึดครอง เขากบสงครามที่เกิดขึ้นในทวีปอื่นและยืด วิทยาการด้านอาวุธ


ออสเตรีย ปิดล้อมดินแดนเช็ก (แล้วก็ทำาให้ เยอนานกวาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วง เครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินขับไล่มีชื่อ


ประเทศเชโกสโลวะเกียสิ้นสุดลง) และยึด ปี 1914-1918 ทำาให้กลายเปนสงครามของ เสียงมากในสงครามโลกครั้งที่ 1 และรถถัง
เอาเมืองเมเมลจากลิทัวเนีย อิตาลีรุกราน ทั้งโลกมากกว่าสงครามครั้งแรก รวมถึงวิธี ทำาให้ฝ่ายสัมพันธมิตรประสบความสำาเร็จใน
การสู้รบที่มักจะรุนแรงขึ้นจากความเกลียด เชิงกลยุทธ์ได้ เครื่องบินรุ่นที่พัฒนาขึ้นได้บิน



เดือนพฤษภาคม 1945 เจ้าหน้าที่โซเวียตยืนอยู่หน้า ชงตอชนชาต เชื้อชาติและอุดมการณ์จนนำา ทิ้งระเบิดเหนือเมืองของสเปนในทศวรรษ 1930
ซากปรักหักพังของกรุงเบอร์ลินหลังจากกองทัพแดง พลเรือนเข้าสู่ใจกลางของสงครามที่ทำาลาย กราดยิงผู้อพยพในเอธิโอเปีย หรือต่อสู ้
เข้าถึงเมืองซึ่งได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิด
ของฝ่ายสัมพันธมิตร ลึกซึ้งและยาวนาน เหนือที่ราบแมนจูเรียในปี 1939 ทว่าอาวุธ
สงครามในปี 1940 ยังคงสมบูรณ์แบบแต่ก็
ไม่ใหม่เสียแล้ว จึงจำาเป็นต้องทำาให้ทันสมัย
ปรับปรุงและทดสอบ
เครื่องแบบทหาร




เครื่องแบบยังไม่ได้มีการพฒนาอยางเดนชด
จนกระทั่งปี 1918 แม้จะเปลี่ยนระหว่างการ
เกิดความขัดแย้งขึ้นก็ได้ แต่ทหารราบใน
ปี 1939 ยังคงเป็นที่จดจำาได้จากเครื่องแบบ
ที่เหมือนกันจากปี 1918 หลายประเทศยงคง

ใช้หมวกเหล็กแบบเดียวกัน (มีการปรับเปลยน


เล็กน้อยเพื่อสร้างความทนทานให้การ
ออกแบบหรือทำาให้ผลิตได้ง่ายขึ้น) และใช้
ปืนเล็กยาวมาตรฐานเดียวกัน แบบเสื้อก็ยิ่ง
เหมือนกันมากและสีกากีก็ยังมีอิทธิพลเหนือ
กว่าต่อไป แม้ว่าชาวฝรั่งเศสจะภาคภูมิใจใน
สีฟ้าของตนมากและเลือกเป็นสีสรรพสงของ


การปฏิรูปเครื่องแบบครั้งสำาคัญในช่วงสงคราม

INTRODUCTION 7

แต่เอกสารเกี่ยวกับความอ่อนด้อยของ
มหาอำานาจที่เข้าร่วมสงครามถูกถอดออกไป
เสีย ซึ่งเป็นผลมาจากความจำากัดของหน้า
กระดาษและเพราะการเน้นหนักที่การรบ
ทางบกเป็นหลัก กองทัพอากาศหลายแห่ง
ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของกองทัพบกและสวม
เครื่องแบบที่สะท้อนแบบแผนที่ทหารบก
สวมใส่ แต่กล่าวไม่ได้ว่านาวิกโยธินเยอรมัน
มิได้รบอย่างห้าวหาญบนภาคพื้นดินในปี
1945 หรือการรบของอีกหลายชาติที่ไม่มี
ค่ายนาวิกโยธินรักษาการณ์ชายฝั่งหรือ
รักษาความปลอดภัยท่าเรือหรือเกาะต่าง ๆ
ขณะเดียวกันก็มีการกล่าวถึงหน่วยทหารเรือ
ที่จัดตั้งขึ้นมาปฏิบัติภารกิจสะเทินน้ำาสะเทิน
บกและในเวลาต่อมาก็ใช้เวลาในการรบ
ภาคพื้นดินอีกด้วย
สุดท้ายแล้ว ก็ยังไม่มีหน้ากระดาษพอ
ให้ครอบคลุมเรื่องราวของกองกำาลังลับ กอง
โจรและทหารนอกประจำาการที่ต่อสู้อยู่ทั่ว
ดินแดนที่ถูกยึดครองในยุโรปและเอเชีย นี่
มิใช่การดูแคลนความสำาเร็จอันยิ่งใหญ่ของ
พวกเขาในการต่อสู้กับศัตรูจำานวนมากด้วย
บทเรียนราคาแพง และมิใช่การเมินเฉย
ต่อบทบาทสำาคัญทางการทหารหรือความ
กล้าหาญของคนเหล่านั้น กองกำาลังลับของ
สหภาพโซเวียต โปแลนด์ ยูโกสลาเวีย กรีซ
ปืนโบฟอร์ 40 มม. ของสหรัฐฯ เป็นอาวุธต่อสู้ ย่อมมาก่อนความองอาจผึ่งผายอย่างเห็นได้ชัด
อากาศยานขนาดกลางแบบหนึ่งในระหว่างสงคราม หนังสือเล่มนี้ได้รับการออกแบบมาให้ อิตาลีและที่อื่นๆ ควรมีหนังสือของตนเอง
ภาพนี้ถ่ายในฝรั่งเศส เดือนพฤศจิกายน 1944 สำารวจเครื่องแบบของประเทศมหาอำานาจ เครื่องแบบประเภทหนึ่งที่ทหารออสเตรเลียสวมใส่
แต่ชาวเยอรมันยังมั่นคงกับสีเทาของพวกเขา ต่างๆ ที่มีบทบาทอย่างมากในสงคราม ในกรุงลอนดอน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
นับแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา

เช่นเดิม สถานการณ์ความขัดแย้งครั้งใหม่ กระนั้นก็ยังถือว่ามีข้อจำากัด เนื้อหาทั้งเลมให ้
นำาไปสู่การเปลี่ยนแปลงเร่งด่วนตั้งแต่เริ่ม ความสำาคัญกับรายละเอียดบางอย่างของ
สงคราม การศึกษาเรื่องเครื่องแบบเป็นมาก เครื่องแบบของประเทศที่เข้าร่วมสงคราม
กว่าเรื่องวิชาการ สีและรูปทรงของเครื่อง ดังนั้น โดยธรรมชาติแล้วหนังสือเล่มนี้จึง
แบบเมื่ออยู่ในสถานการณ์จริงช่วยจำาแนก เป็นการสำารวจทั่วไปอย่างกว้างๆ และ


ระหว่างคนเป็นกับคนตาย แขงแรงหรอเจบปวย ละเลยประเทศที่เข้าร่วมสงครามไปจำานวน


เผยตัวหรือพรางตัว ผิวกระดุมโลหะถูกทำา หนึ่ง ทั้งยังไม่ได้รวมถึงกองทัพของประเทศ
ให้ด้าน แผ่นเครื่องหมายสีสดใสถูกพรางไว้ ที่ถูกยึดครองและผนวกดินแดนก่อนปี 1939


เป็นอย่างแรกๆ สำาคัญที่สุดคือการปกปิด ได้แก่ กองทัพเชโกสโลวัก กองทพแอลเบเนย
ตัวตนเพื่อป้องกันการตกเป็นเป้าลอบยิง และกองทัพเอกราชเอสโตเนีย ลัตเวีย และ
ขณะที่หมวกเหล็กก็ได้รับการปรับปรุงให้ ลิทัวเนีย ขณะเดียวกันก็มีข้อจำากัดทาง


ทหารยิงปืนได้สะดวกในท่านอน (เวลานน ภูมิประเทศด้วย กล่าวคือ ไม่มีการกล่าวถึง
มีสงครามสนามเพลาะบ้างเล็กน้อย) เมื่อ กองทัพไทยไว้แม้ว่าจะรบกับฝรั่งเศสก็ตาม
สงครามดำาเนินไป เครื่องแบบก็คลายความ หน่วยเคลื่อนที่เร็วของบราซิลก็มิได้ให้ราย
คับแน่นไปด้วย กลายมาเป็นชุดที่ใช้การได้ ละเอียดใดไว้ แม้ว่าจะมีกรณีที่ควรกล่าวถึง
และสวมใส่สบายมากขึ้นด้วย แบบ ไว้สำาหรับการมีส่วนในชัยชนะที่อิตาลีก็ตาม



ธรรมเนียมเดิมยังคงอยู่ แต่ประโยชน์ใช้สอย แมวาจะมีการกล่าวถึงกองทัพอากาศบาง

8 INTRODUCTION

เริ่มสงคราม






เยอรมนีแพ้สงครามในปี 1918 และถูกทา
ให้ต้องเก็บเปลวเพลิงแห่งความรุนแรงและ
ถูกบังคับให้ต้องจัดการกับผลลัพธ์ของ

สงครามโลก ต้องเผชิญกับเศรษฐกิจพังพนาศ
สังคมไร้ระเบียบและชาวเยอรมันกลุ่มน้อย
ที่ตอนนี้ก้าวเกินขอบเขตมาแล้วและพบว่า
ตนเองกำาลังบ่มเพาะการแก้แค้นอยู่ ขณะ
ที่ประเทศอื่นๆ ก็มีเหตุผลที่จะโกรธแค้นกับ
สันติภาพปี 1919 การกำาหนดชีวิตตนเอง
เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในหมู่คนที่สนับสนุนฝ่าย
สัมพันธมิตร (แต่ไม่ใช่สำาหรับประเทศใต้
ปกครองของจักรวรรดิเหล่านั้น) และเป็น
เครื่องมือต่อต้านประเทศที่รับรู้ว่ามีส่วนร่วม
กับเป้าหมายของเยอรมนี ฮังการีถูกแยกดิน
แดนออกเป็นส่วนๆ บัลแกเรียพังพินาศ ชาว

ออสเตรียกับชาวโครแอตต้องมีชีวิตอยู่ใน ปราศจากผู้เหลียวแล ประเทศอิตาลีก็ถูกกดดน สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในเยอรมนี

รัฐแปลกแยก จากการรู้สึกว่าไม่ได้รับผลตอบแทนเพยงพอ ในภาพเห็นผู้ก่อจลาจลและมีภาพชายหลายคนที่สวม
ข้อกำาหนดสันติภาพยังทำาให้พวกบอลเชวิก กบความเสียสละของตน ญี่ปุ่นก็ยืดเส้นยืดสาย เครื่องแบบของพรรคบอลเชวิกกำาลังต่อสู้กับเจ้าหน้าที่

ตำารวจ ภาพประมาณปี 1920-1930
ในรัสเซียกลายเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย พวก และตัดสินใจว่าจะต้องก้าวขึ้นมาเป็น
เขาฝ่าฟันขึ้นสู่อำานาจจากซากปรักหักพังของ มหาอำานาจของภูมิภาคที่ตอนนี้อำานาจของ ของอุดมการณ์แข็งกร้าวทั้งฝ่ายซ้ายและ
สงครามโลก แต่กลับถูกปฏิบัติด้วยความ จักรวรรดิยุโรปเสื่อมลงไปมากแล้ว ฝั่งขวา พร้อมกันนั้นก็ทำาให้กัดกร่อนและ
หวาดระแวง บ่อนทำาลายในทุกๆ โอกาส ทำาให้มหาอำานาจอ่อนแอทั้งที่ควรจะยืน
และกีดกันออกจากชุมชนประชาชาติ ส่วน สันติภาพที่ล้มเหลว หยัดเพื่อสร้างเสถียรภาพ อิตาลีเปลี่ยนไปสู่
รัฐอื่นๆ ผู้ชนะสงครามแต่ในนามกลับตองลม สันติภาพปี 1919 ได้บ่มเพาะสงครามครั้ง ระบอบฟาสซิสต์ในทศวรรษ 1920 เยอรมนี


ละลายเพราะความขัดแย้ง ขณะที่ประชาชน ต่อไปขึ้นมา สภาพการณ์ในเวลาที่สันติภาพ เปลี่ยนเป็นลัทธินาซีในทศวรรษ 1930
ได้รับผลกระทบครั้งใหญ่จากสงครามและ นั้นเกิดขึ้นแสนเปราะบางและเต็มไปด้วย สเปนก็เลือกเส้นทางเดียวกันซึ่งตามมา
ความคับแค้นใจอย่างที่สุด สงครามก่อน ดวยสงครามกลางเมืองที่แสนเจ็บปวด กอง

ทหารญี่ปุ่นโบกธงชาติของตนให้ช่างภาพเมื่อออก หน้านั้นกระพือความอาฆาตแค้นและความ กำาลังขวาจัดได้ชัยชนะเหนือยุโรปตะวันออก
เดินทางจากโตเกียวไปยังแมนจูเรีย ระทมทุกข์ ตลอดจนเติมไฟให้กบการลกฮือขน อุดมการณ์ดังกล่าวมีแกนกลางเป็นลัทธิ




นิยมทหาร ขณะที่สันติภาพที่ฉาบฉวยและ
ผิดทิศผิดทางกลับเอื้อโอกาสมากพอให้กับ
ลัทธิชาตินิยมหัวรุนแรง เห็นได้ชัดว่าในปี
1934 ยุโรปกำาลังก้าวไปบนเส้นทางสู่ความ
ขัดแย้ง ขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะจัดการกับ
ภัยคุกคามนั้นได้หรือไม่ ส่วนในเอเชีย ญี่ปุ่น
รับรู้ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นโอกาสดี
ของตน การโน้มน้าวให้ยอมทำาสงครามกับ
พวกบอลเชวิกในทศวรรษ 1920 และการรับ
รู้ว่าจีนเป็นชาติโดดเดี่ยวและอ่อนแอ ทำาให้
ญี่ปุ่นเข้ายึดครองแมนจูเรียและเตรียมทำา
สงครามเพื่อพิชิตจีน



เหตการณตางๆ ในยุโรปแสดงให้เห็นการ
เริ่มต้นของอุดมการณ์ใหม่ ผู้นำาชาติยุโรป

COMING OF WAR 9






จำานวนมากเห็นพ้องกับความเคลื่อนไหว ของจกรวรรดิออสเตรย-ฮังการี ประชากรทพด
ที่เน้นการควบคุมสังคมและการต่อต้าน ภาษาเยอรมันสามล้านคนเป็นชาวซูเดเทน
ลัทธิบอลเชวิก ขณะที่หลายฝ่ายรู้สึกได้ว่า เยอรมันซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีผู้นำาซึ่งไม่
เหตุการณ์ในดินแดนที่อยู่ไกลออกไปไม่ พอใจสถานภาพของพวกตนในประเทศและ
เกี่ยวข้องกันหรือสันติภาพของดินแดนเหล่า เปิดรับข้อเสนอจากต่างประเทศ ฝ่ายเยอรมัน
นั้นไม่ควรถูกแทรกแซงจากสิ่งที่พัฒนาขึ้น จึงเริ่มแทรกแซงและช่วยร่างแผนทางการทหาร
ในต่างประเทศ สหรัฐฯ ที่ถือนโยบายโดดเดยว อังกฤษและฝรั่งเศสตระหนักดีว่ากองทัพและ


ก็แยกตัวเองออกมา อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำา ประชาชนของตนไม่พร้อมสำาหรับสงคราม
เยอรมัน ซึ่งเป็นนักฉวยโอกาสตัวยง และ และการเผชิญหน้า จึงลงความเห็นว่าชาว
จัดการเรื่องราวภายในประเทศได้จนเป็นที่ เชโกสโลวักควรมอบซูเดเทนแลนด์ให้
พอใจแล้วก็อาศัยความได้เปรียบจากความ เยอรมนี (เรียกกันว่า ข้อตกลงมิวนิกในเดือน
ลังเลและความเหนื่อยล้าของยุโรปให้เป็น กันยายน 1938) แม้ว่าชาวเช็กเตรียมการ

ประโยชน์ ในปี 1935 ซาร์แลนด์กลับเข้ามา ตอต้านและเรียกร้องความช่วยเหลือจาก กองทหารเยอรมันเข้าสู่พรมแดนโปแลนด์
รวมกับเยอรมนีอีกครั้ง ส่วนปี 1936 ก็มีการเขา โจเซฟ สตาลิน ผู้นำาโซเวียต แตทหารเยอรมน ในเดือนกันยายน 1939 และทำาให้โปแลนด์ตกเป็น



ยึดครองไรน์แลนด์ ขณะเดียวกันเยอรมนี ในเมืองมิวนิกก็เริ่มเคลื่อนไหวเข้ายึดครอง ของเยอรมนีในสิ้นเดือนเดียวกัน
และอิตาลีก็สนับสนุนผู้นิยมลัทธิฟาสซิสต์ใน ซูเดเทนแลนด์ได้สำาเร็จในเดือนมีนาคม โปแลนด์ซึ่งทั้งโดดเดี่ยว ไม่มีพันธมิตรและ







สเปนในปี 1936 (อังกฤษและฝรงเศสขดขวาง 1939 พร้อมสลายดินแดนส่วนที่เหลือของ เป็นปฏิปักษ์กับสหภาพโซเวยตนนยดถอ


กลมนยมสาธารณรัฐจากการรับความช่วยเหลือ เชโกสโลวะเกีย (และเข้าไปในลิทัวเนีย) ข้อตกลงไม่รุกรานกันของตนททากบเยอรมน ี






แม้ว่าจะมีอาสาสมัครนับพันที่เตรียมเดินทาง ฝรั่งเศสและอังกฤษรู้ว่าการปรับปรุงใหม่ (ลงนามในปี 1934) เพื่อรับประกันสันติภาพ
สู่คาบสมุทรดังกล่าวเพื่อรบกับสาธารณรัฐ) ของเยอรมันครั้งนี้จะทำาให้เกิดแรงขับเคลอน และเปิดรับความช่วยเหลือ ดังนั้น หลังจาก


และเยอรมนีผนวกดินแดนออสเตรียในปี 1938 ครั้งใหม่แต่ก็ก้าวสู่ขั้นสำาคัญด้วยการปฏิเสธ ประสบความสำาเร็จในการทาสงครามกบ



ฝรั่งเศสและอังกฤษยังลังเลในการกาหนด ข้อเสนอในการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ ชาวเช็กแล้ว ฮิตเลอร์ก็มั่นใจวาชาวโปลจะไม ่

เส้นเขตแดนให้ชัดเจน ขณะเดียวกันก็จับตา สหภาพโซเวียตซึ่งเป็นรัฐทางตะวันออกที่ สามารถยืนหยัดอยู่ด้วยตนเองได้ ในที่สุดก็

ดูขั้นต่อไปเมื่อวิกฤตปรากฏขึ้น ซึ่งในเวลา ตระหนักถึงความทะเยอทะยานของเยอรมนี ค่อยบ่อนทำาลายทีละน้อยด้วยการทาขอตกลง



นั้นเน้นไปที่เชโกสโลวะเกียซึ่งเป็นประเทศ ในทางกลับกันนายกรัฐมนตรี เนวิล แชม- กบสหภาพโซเวียต (ที่ต้องการไดดนแดน

ประชาธิปไตยใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นบนดินแดนเดิม เบอร์เลน ของอังกฤษและนายกรัฐมนตรี ที่เสียให้กับโปแลนด์ไปเมื่อปี 1920 คืนมา)
เอดัวร์ ดาลาดิเยร์ ก็มองหามิตรด้วยข้อเสนอ ฮิตเลอร์รู้สึกว่าตนแข็งแกร่งพอที่จะเข้า
ทหารเยอรมันขึ้นบกพร้อมอาวุธที่ท่าเรือเมเมล
ในลิทัวเนีย วันที่ 1 พฤษภาคม 1939 หลังจากได้ชัยชนะ การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับกรีซและโรมาเนีย โจมตี และในเช้าตรู่วันที่ 1 กันยายน 1939
เหนือเชโกสโลวะเกีย ก่อนจะสรุปด้วยข้อตกลงกับโปแลนด์ ทั้งนี้ เยอรมันก็เคลื่อนพลเข้าสู่โปแลนด์

10 INTRODUCTION

สงครามในตะวันตก







ฝ่ายเยอรมันรุกรานโปแลนด์จากปรัสเซีย หรือบรรเทาความกดดันให้แก่ชาวโปล สำาหรับ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียมและลักเซมเบรก


ตะวันออกและในทางตะวันตกก็ระดมยิง ฮตเลอร สงครามดังกล่าวเป็นการแสดงถึง การสอดประสานกันระหว่างการโจมตีทาง






ชายฝงโปแลนดและทิ้งระเบดเหนือกรุงวอรซอ ประสิทธิภาพในกองทัพของเขา และของฝ่าย อากาศกับสงครามภาคพื้นดินทำาให้ฝ่ายรกราน
การต่อต้านของโปแลนด์ได้ผลและกองทัพ สัมพันธมิตร ที่น่าแปลกใจคือฝรั่งเศสและ ได้ชัยชนะเหนือชาวดัตช์ที่ยอมจำานนหลังจาก

อากาศโปแลนด์ก็สามารถรับมือได้สำาเร็จ อังกฤษเพิ่มการสนับสนุนฟินแลนด์มากขึ้น เมืองสำาคัญๆ หลายแห่งไดรบความเสยหาย


ฝรั่งเศสซึ่งจะช่วยเหลือชาวโปลจึงเริ่มการ เมื่อถูกสหภาพโซเวียตโจมตีในเดือน หนักจากการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด ตามมาดวย

โจมตีย่อยในซาร์แต่ก็ไม่มีผลมากนัก วันที่ 17 พฤศจิกายน เบลเยียมเมื่อกองทัพเยอรมันกดดันให้กอง



กันยายน 1939 กองทัพโซเวียตเคลื่อนเข้าสู่ พัฒนาการที่สำาคัญต่อไปก็ยังคงเกิดขึ้น ทหารอังกฤษและฝรังเศสทกาลังเดินทางมาชวย



โปแลนด์ทางตะวันออกและเยอรมันก็เพิ่ม ในสแกนดิเนเวีย กับการที่เยอรมนีเริ่มโจมตี ชาวเบลเยียมต้องล่าถอยไป จากนนเยอรมน


การโจมตีกรุงวอร์ซอหนักหน่วงขึ้น กระทั่ง เดนมาร์กก่อนแล้วตามมาด้วยนอร์เวย์ ที่ซง ่ ึ ก็โจมตีผ่านอาร์เดนส์อ้อมแนวมายิโนต์ (แนว

สิ้นเดือนกันยายน เมื่อกรุงวอรซอถูกยึดครอง ฝ่ายสัมพันธมิตรตอบโต้ด้วยการส่งกองทหาร ป้องกันที่ประกอบด้วยหมู่ป้อมปืน) ของฝรั่งเศส



โปแลนดกยอมจำานน ชาวโปลจำานวนมากขาม ไปรับมือการโจมตีของเยอรมันและต่อสู้ และได้ชัยชนะในการรบที่ซูดาน
พรมแดนไปยังโรมาเนียหรือหนีไปฝรั่งเศส อย่างดุเดือดเพื่อควบคุมท่าเรือของนอร์เวย์
และอังกฤษ แต่ในที่สุดเยอรมันก็ได้ชัยชนะและทำาให้ เสียกรุงปารีส



การต่อสู้ของโปแลนด์สิ้นสุดลงในเวลา ความจริงข้อนี้กลายเป็นชนวนนำาไปสู่การพน จากนั้นเยอรมันก็เคลื่อนทัพขึ้นทางเหนือรกคบ
5 สัปดาห์ และพันธมิตรของโปแลนด์ก็หยิบ จากตำาแหน่งของ เนวิล แชมเบอร์เลน ต่อมา เข้าสู่ท่าเรือหลายแห่งในช่องแคบอังกฤษ
ยื่นความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แก่ประเทศ วินสตัน เชอร์ชิล ก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่ง และพยายามตัดกำาลังฝ่ายอังกฤษ เบลเยียม

นายกรัฐมนตรีแทน และฝรั่งเศสในแคว้นปีการ์ดี กองทหารฝาย
เมื่อเยอรมนีควบคุมออสเตรียและซูเดเทนได้ใน



ปลายปี 1938 ความสนใจของฮิตเลอร์ก็พุ่งไปที่ปัญหา ในวันที่เชอรชลขึ้นดำารงตำาแหน่งนั้น ดูเหมือน สัมพันธมิตรเริ่มถอยร่นไปสู่ที่ปลอดภัยในชวง







พรมแดนโปแลนด์ เยอรมันได้เริ่มบุกเข้าสประเทศเปนกลางอยาง สิ้นเดือนพฤษภาคม ส่วนใหญ่มาจากดนเครก

WAR IN THE WEST 11

ชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตร
พัฒนาการสำาคัญที่บังคับให้ฝ่ายเยอรมันต้อง
เสริมกำาลังป้องกันทางตอนใต้เกิดตามมาใน
เดือนมิถุนายน 1944 จากการโจมตีดี-เดย์ที่
เกิดขึ้นในช่องแคบอังกฤษแล้วยกเข้าสู่แคว้น
นอร์มังดี ไม่นานหลังจากนั้นก็ตามมาด้วย
การที่ฝ่ายสัมพันธมิตรยกทัพเข้าไปในตอนใต้
ของฝรั่งเศสได้สำาเร็จ กระทั่งสิ้นเดือนสิงหาคม
1944 กรุงปารีสก็ได้รับการปลดปล่อย และ
ในฤดูใบไม้ผลิปีนั้นเองที่กองทหารฝ่าย
สัมพันธมิตรเข้าสู่พรมแดนเนเธอร์แลนด์และ
เยอรมนี ขณะที่ฝ่ายเยอรมันตอบโต้การโจมตี
ที่อาร์เดนส์ในฤดูหนาวอันแสนโหดร้ายถัดมา
นั้น บังคับให้กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรยกพล
ข้ามแม่น้ำาไรน์ แม้จะยากเย็นกว่าจะสำาเร็จ
แต่เมื่อประกอบกับความสำาเร็จของโซเวียต
ในทางตะวันออกก็ทำาให้ชัยชนะของฝ่าย
สัมพันธมิตรกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
สันติภาพหลังสงครามได้รับการกำาหนด
ขึ้นจากการประชุมที่ยัลตา ในไครเมีย เมื่อ

กองทัพเยอรมันยกเข้าสู่กรุงปารีสเมื่อวันที่ 14 ดวยการส่งหน่วยจู่โจมแอฟริกาเข้าไปใน
มิถุนายน 1940 ในภาพเป็นการสวนสนามผ่าน แอฟริกาเหนือและด้วยการบุกยูโกสลาเวีย เดือนกุมภาพันธ์ 1945 ถัดมาในเดือนเมษายน
ประตูชัย (Arc de Triomphe) มุ่งหน้าสู่ช็องเซลีเซ ในเดือนเมษายน 1941 ตลอดจนยังคงโจมตี กองกำาลังโซเวียตและอเมริกาก็มาพบกันที่
(Champs-Elysees) ทอร์เกา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมน ี

กรซอย่างต่อเนื่อง (ผลักดันกองทัพอังกฤษ
ที่กองทัพอากาศและกองทัพเรือเยอรมัน ให้ถอยร่นออกไปและบังคับกรีซให้ยอมแพ้) ขณะที่กองทัพอเมริกาก็ตัดขาดและทำาลาย
ฝ่ายต่อต้านเยอรมันกลุ่มเล็กๆ ในบาวาเรีย


ประสบความล้มเหลวในการแทรกแซงอย่าง อีก 2 เดือนต่อมาเยอรมันยกเข้ารุกรานรสเซย ออสเตรียและโบฮีเมียตะวันตก ขณะที่กองทัพ



เห็นได้ชัด จากนั้นกองทัพเยอรมันก็เคลื่อน กระทั่งสิ้นปี 1941 เยอรมนซงย่ามใจว่าโซเวยต อังกฤษเคลื่อนเข้าสพรมแดนเดนมารก ฮตเลอร์





ต่อไปยังกรุงปารีสพร้อมเปิดฉากโจมตีอย่าง กำาลังพ่ายแพ้ก็ประกาศสงครามกับสหรัฐฯ ทำาอัตวินิบาตกรรมในเบอร์ลินและอีก 1 สัปดาห์
รุนแรงที่สร้างความเสียหายให้แก่ฝ่ายตั้งรับ รูปการณ์สงครามในตะวันตกมาถึงจุด ถัดมา จอมพลเรือเดอนิทซ์ปกครองเยอรมนี
และสามารถบุกเข้ายึดกรุงปารีสได้สำาเร็จใน เปลี่ยน อังกฤษมุ่งเน้นกับการทิ้งระเบิดถล่ม จนกระทั่งการยอมแพ้ครั้งสุดท้ายได้รับการ
กลางเดือนมิถุนายน ฝรั่งเศสขอเจรจาสงบศก เยอรมนีและนาวียุทธเพื่อเอาชนะเรือดำาน้ำา ลงนามเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1945

ในหนึ่งสัปดาห์ถัดมา และเพื่อป้องกันเรือ ของเยอรมัน พร้อมกับปิดล้อมพวกเยอรมัน
ไปตกอยู่ในมือเยอรมัน อังกฤษจึงต้องโจมตี ไปด้วย ยุโรปที่ถูกยึดครองในเวลานั้นดูจะ ทหารอเมริกันในเรือท้องแบนเทียบฝั่ง 1 ใน 4 แห่ง
กองทัพเรือฝรั่งเศสในวันที่ 27 พฤศจิกายน เริ่มปรากฏสงครามกลุ่มหัวรุนแรงตลอดจน ที่แคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ในปฏิบัติการดี-เดย์
วันที่ 6 มิถุนายน 1944

1942 ฝ่ายเยอรมันครอบครองหมู่เกาะแชนแนล ขบวนการต่อต้านที่อาจเป็นปัญหาสำาหรับผู้


และเพมการโจมตีทางอากาศในภาคพื้นดิน ยึดครองชาวเยอรมันและชาวอิตาลีรวมถึง

ของอังกฤษมากขึ้น ในที่สุดก็มีเป้าหมายอยท ี ่ พันธมิตรของประเทศทั้งสองในช่วงที่เหลือ


กรงลอนดอนและเมืองสำาคญๆ ที่เรียกกนวา ของสงคราม การสังหารหมู่ที่ไม่มีใครคิดว่า



การโจมตีสายฟ้าแลบ จะเกิดขึ้นยังคงดำาเนินไปอย่างรวดเร็ว ใน
สงครามขยายตัวขึ้นในเดือนมิถุนายน แอฟริกาเหนือฝ่ายสัมพันธมิตรค่อยๆ ได้
1940 เมื่ออิตาลีเข้าสู่สงครามและเปิดฉาก ชัยชนะเหนือการตอบโต้ของเยอรมันและ
โจมตีที่มั่นฝรั่งเศสและอังกฤษในแถบ อิตาลี และในเดือนกรกฎาคม 1943 ก็เปิด
เมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกา อิตาลีเริ่ม ฉากโจมตีซิซิลี นับแต่นั้นก็เคลื่อนไปสู่
การโจมตีกรีซแต่แล้วก็ต้องยุติกลางคัน คาลาเบรีย ส่งผลให้มุสโสลินีพ้นจาก
เพราะกองทัพอังกฤษและจักรวรรดิอังกฤษได้ ตำาแหน่ง (ในเวลาต่อมาก็ถูกแทนที่ด้วยผู้นำา
ชัยชนะในแอฟริกากลับคืนมา สถานการณ์ หุ่นเชิดของเยอรมันในตอนเหนือของอิตาลี)



นบงคบให้เยอรมนีต้องยื่นมือเข้าไปช่วยอิตาลี และอิตาลียอมแพ้ในที่สุด


12 INTRODUCTION
สงครามในตะวันออก






สงครามในตะวันออกเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์และมาลายาต่างก็พ่าย ปี 1945 ทหารอเมริกันเปิดฉากจู่โจมเกาะ
ญี่ปุ่น ในปี 1931 ญี่ปุ่นซึ่งเป็นมหาอำานาจที่ แพ้ สิงคโปร์ยอมจำานนในเดือนกุมภาพันธ์ อิโวจิมาโดยหวังว่าการยึดสนามบินจะเป็น
ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชียในทศวรรษก่อนหน้า 1942 คำาพูดขอเชอร์ชิลที่ว่า “มาถึงขั้นนี้ แรงกดดันอย่างหนักแก่ญี่ปุ่น (ซึ่งขณะนั้น
นั้นเข้ายึดครองแมนจูเรียและสร้างความ แล้วไม่ต้องคิดเรื่องการรักษาชีวิตกำาลังพล กำาลังถูกโจมตีด้วยระเบิดเพลิง)
มั่นคงด้วยการบ่อนทำาลายจีนแล้วเข้ายึด หรือประชากรกันแล้ว การต่อสู้ต้องทำาให้ โซเวียตตกลงร่วมในสงครามดังกล่าว
ครองพร้อมความพยายามสถาปนาอำานาจ เกิดความเสียหายแก่ทุกฝ่าย...ผู้บัญชาการ หลังจากเสร็จสงครามในยุโรปแล้ว ด้วยการ
ควบคุมแบบรวมศูนย์ กองทัพญี่ปุ่นที่ทำา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงควรตายไปพร้อมกับ เปิดฉากโจมตีแมนจูเรียในวันที่ 9 สิงหาคม
สงครามก่อนหน้านี้น่าจะสมบูรณ์และโจมตี กำาลังพลของตน” กลับไม่มีใครได้ยิน การ 1945 ขณะยังลังเลใจเกี่ยวกับการยกพล
ตอนเหนือของจีนอย่างรวดเร็ว (แต่กลับ ผลักดันทางทะเลและทางอากาศช่วยยับยั้ง ขึ้นบกในภาคพื้นดินของญี่ปุ่นเนื่องจาก
แย่ลงเมื่อปะทะกับกองทัพแดงตามแนว การรุกคืบของญี่ปุ่นได้ แต่ต่อมาญี่ปุ่นเปิด หมู่เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกมีการ
ชายแดนโซเวียต) ญี่ปุ่นเอาชนะได้เพียง ฉากสงครามครั้งใหญ่กับพม่าและเพื่อ ป้องกันอย่างเหนียวแน่น สหรัฐฯ ก็เลือก
กองทัพย่อยของจีน แต่ความเหี้ยมโหดและ รักษาความสำาเร็จครั้งสำาคัญที่สุดของตนใน การทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่นในวันที่ 6
การปกครองแบบไร้ปรานีทำาให้การต่อต้าน แถบแปซิฟิก และ 9 สิงหาคม อีก 1 สัปดาห์ถัดมาญี่ปุ่น
กลายเป็นสิ่งไม่อาจควบคุมได้ ก็ยอมแพ้
สงครามของฝ่ายสัมพันธมิตร สงครามครั้งนี้สร้างความสูญเสียจาก
การโจมตีอ่าวเพิร์ล สถานการณ์เปลี่ยนไปในปลายปี 1942 การไม่ไยดีต่อชีวิตมนุษย์ (ทั้งสองฝ่าย)
ความอ่อนล้าจากสงครามทำาให้ญี่ปุ่นเลือก เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีภาคพื้นดินของ ประชาชนที่เป็นพลเรือนถูกทำาให้เป็นทาส
เปิดฉากทำาสงครามกับสหรัฐฯ ด้วยการ ญี่ปุ่นอย่างหนักและกองทหารเข้ายึดเกาะ เชลยสงคราม ถูกข่มเหงและทารุณ อีกทั้ง
โจมตีอ่าวเพิร์ลที่ฮาวายในปลายปี 1941 ต่างๆ ที่เคยถูกญี่ปุ่นยึดครอง ทำาให้ญี่ปุ่น การทิ้งระเบิดก็เป็นการรบโดยมีชีวิตของ
จากนั้นก็ได้ชัยชนะในการทำาสงครามไปยัง ต้องเพิ่มการป้องกันตนเองมากขึ้น ขณะที่ พลเรือนเป็นเป้าหมาย
เอเชียใต้และออสเตรเลีย แม้ความย่ามใจ ฝ่ายสัมพันธมิตรซึ่งทำาลายกองเรือญี่ปุ่น ดินแดนในมหาสมุทรแปซิฟิก ปี 1941 ช่วงที่ญี่ปุ่น
บดบังกระบวนการตัดสินใจ แต่ในช่วง และได้ชัยชนะสำาคัญในการทำาสงครามทาง เตรียมการโจมตีสายฟ้าแลบในอาณานิคมต่างๆ ของ
สั้นๆ ญี่ปุ่นก็ยังชนะ ดินแดนของอังกฤษใน อากาศถือว่ามีความได้เปรียบมากกว่า ต้น ชาติตะวันตกในเอเชียใต้

WAR IN THE EAST 13






























พรมแดนตะวันออกของเยอรมนี (ซึ่งตกเป็นของโซเวียตก่อนหน้านั้นเพียง ภาพแสดงการโจมตีอ่าวเพิร์ล ถ่ายจากที่นั่งนักบินญปน




ความขัดแย้งเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นคู่แข่ง 1 ปี) มีการโจมตีเบียโลรัสเซีย และยดครอง ขณะที่ตอร์ปิโดพุ่งชนเรือรบโอกลาโฮมาของสหรัฐฯ

กับความโหดเหี้ยมและน่าสะพรึงกลัวของ ยูเครนในเวลาต่อมา กองทัพทั้งหมดของ เยอรมันในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปี
สงครามครั้งนี้คือสงครามที่ฮิตเลอร์ทำาเพื่อต่อ โซเวียตประสบความพ่ายแพ้และในฤดู 1941 ด้วยการผลักดันให้ถอยร่นกลับไป
ต้านสหภาพโซเวียต ปี 1918 เยอรมนีเข้ายึด ใบไม้ร่วง ปี 1941 เยอรมันก็เดินทัพมุ่งหนาส ู ่ พร้อมกับการโจมตีที่ทำาให้เกิดการสูญเสีย




ครองยูเครนช่วงสั้นๆ ซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่า กรุงมอสโกและปิดล้อมเมืองเลนินกราดททาให ้ จำานวนมาก ฝ่ายเยอรมันชะงักอยู่ครู่หนึ่ง
ทรัพยากรจำานวนมากทั้งธัญพืชและวัตถุดิบ เกิดเป็นการปิดล้อมครั้งใหญ่ที่ยาวนานมาก ก่อนจะเบนความสนใจไปทางใต้ด้วยการ
ต่างๆ ของเยอรมนีถูกฝ่ายสัมพันธมิตรปิด นโยบายการยึดครองที่ป่าเถื่อนทำาให้เชลย เข้ายึดครองไครเมียและรอสตอฟออนดอน
กั้นเอาไว้ถึง 4 ปี แนวคิดของการยึดครองดิน สงครามชาวโซเวียตนับล้านคนต้องเสียชีวิต แล้วเคลื่อนไปสู่เทือกเขาคอร์เคซัสแต่ก็ไม่
แดนซึ่งในเวลานี้หมายถึงการนำาชาวเยอรมัน และพลเรือนอีกหลายล้านคนต้องอดอยาก อาจบุกฝ่าไปได้ ในทางกลับกันเยอรมัน
เข้าไปตั้งถิ่นฐานในที่แห่งนั้นกลายเป็นหลัก หิวโหย ซึ่งเป็นสิ่งกระตุ้นการก่อสงครามของ ประสบปัญหาในแถบเมืองสตาลินกราด
คิดในแผนของนาซีตั้งแต่เริ่มต้นเลยด้วย ฝ่ายหัวรุนแรง (และการตอบโต้ด้วยกำาลัง กระทั่งโซเวียตตอบโต้ด้วยการปิดล้อม
ซ้ำา ข้อเสนออันต่ำาช้าที่ว่าชาวสลาฟเป็นคน ทหารอย่างป่าเถื่อน) กองทัพเยอรมันแล้วบีบบังคับให้ต้องยอม
ชั้นต่ำาซึ่งสามารถปล่อยให้อดอยากหิวโหย โซเวียตเปิดฉากตอบโต้การโจมตีของ แพ้ในต้นปี 1943
หรือนำามาเป็นทาสได้นั้นส่งเสริมแนวคิดดัง หน่วยทหารจักรยานของเยอรมันในพรมแดนด้าน โซเวียตเปิดฉากโจมตีที่แย่งชิงความได้
กล่าวและผู้ปกครองเยอรมันก็กล่าวถึงการ ตะวันออก ปี 1942 เปรียบมาจากฝ่ายเยอรมันและได้รับชัยชนะ
ยึดครองอย่างเปิดเผยในช่วงกลางทศวรรษ อย่างเด็ดขาดในสมรภูมิเคิร์ก พร้อมทั้งเน้น
1930 การทำาข้อตกลงร่วมกันระหว่าง ย้ำาความสำาเร็จในปี 1944 ด้วยปฏิบัติการ
เยอรมนีของฮิตเลอร์กับสหภาพโซเวียตของ บาเกรชันที่ผลักดันชาวเยอรมันออกไปจาก
สตาลินในปี 1939 มีความหมายว่าทั้งสอง โซเวียตเข้าสู่โปแลนด์และบังคับให้ถอนตัว
ฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำาสงครามกันในพรมแดน จากกรุงวอร์ซอ มีการสงครามในสโลวาเกีย
ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งขณะนั้นโซเวียตกำาลังทำา โรมาเนีย บัลแกเรียและยูโกสลาเวียอย่างดุ
สงครามกับญี่ปุ่นในแมนจูเรียอยู่ แต่หลัง เดือดใน 1 ปีถัดมา และโซเวียตก็ทำาสงคราม
จากได้ชัยชนะอย่างรวดเร็วในยุโรปตะวัน ครั้งสุดท้าย (ในเบอร์ลิน เวียนนาและ
ตกและโซเวียตก็กำาลังประสบปัญหายาก บูดาเปสต์) ในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1945
ลำาบากในฟินแลนด์ เยอรมนีจึงฉวยโอกาส ชัยชนะที่เบอร์ลินในวันที่ 23 เมษายน
โจมตีสหภาพโซเวียตในเดือนมิถุนายน 1941 1945 ทำาให้ฮิตเลอร์ทำาอัตวินิบาตกรรมใน
การโจมตีครั้งนั้นถือเป็นหายนะของโซเวียต อีก 1 สัปดาห์ถัดมาและในที่สุดเยอรมนีก็
กองทัพเยอรมันซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ต้องยอมแพ้ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 8 พฤษภาคม
ชาวโรมาเนียน ฮังกาเรียน ชาวฟินน์ ชาวสโล (เป็นวันที่ 9 พฤษภาคม ตามเวลาของกรุง
วัก อาสาสมัครหลากหลายเชื้อชาติพร้อม มอสโก) จากนั้นโซเวียตจึงเริ่มเข้าไปมีส่วน



พนธมตรกเขารุกรานดินแดนแถบบอลติก ในการโจมตีญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม 1945


14 INTRODUCTION

เหตุการณ์หลังสงคราม





เยอรมันยอมแพ้ให้กับสัมพันธมิตรตะวันตก ส่วนใหญ่เป็นทหาร แต่ก็ยังมีพลเรือนถึง
ที่เมืองแร็งส์ (Reims) เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 3.8 ล้านคนที่ถูกสังหารจากการทิ้งระเบิด
1945 และลงนามในเอกสารยอมจำานนอย่าง ของฝ่ายสัมพันธมิตรและในช่วงเดือนท้ายๆ

สนเชิงที่กรุงเบอร์ลินในวันรุ่งขึ้น ยุโรปพินาศ ของสงคราม การยึดครองและการพ่ายแพ้

ย่อยยับ ขณะที่ญี่ปุ่นถูกโจมตีด้วยระเบิดเพลิงและ
จำานวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดไม่เคยได้รับ การโจมตีทางอากาศแบบสายฟ้าแลบ ก่อน
การประเมินครบถ้วนเลย สหภาพโซเวียต จะถูกทำาลายราบด้วยอาวุธปรมาณูและมี
สูญเสียไปกว่า 25 ล้านคนจากจำานวน คนตายไป 2 ล้านคน ส่วนอิตาลี อังกฤษ
ประชากร 196 ล้านคนในเดือนมิถุนายน และสหรัฐฯ สูญเสียชีวิตประชากรไปแห่ง
1941 ในจำานวนนี้ 9 ล้านคนเป็นทหารจาก ละราว 400,000 คน ค่ายกักกันโฮโลคอสต์
จำานวนกำาลังพลทั้งหมด 35 ล้านคน จีนก็ (The Holocaust) อ้างว่ามีคนตกเป็นเหยื่อ
เผชิญความสูญเสียในจำานวนใกล้เคียงกัน 5.8 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยิวจาก
ในระยะ 8 ปีของสงครามและยังคงประสบ โปแลนด์และสหภาพโซเวียต นอกจากนี้
ความทุกข์ยากต่อเนื่องเมื่อสงครามโลก ยังเป็นจำานวนเดียวกันกับคนที่ตายหรือถูก
ผนวกเข้ากับสงครามกลางเมือง นับเป็นสิ่ง ประหารชีวิตในค่ายของเยอรมันซึ่งส่วนใหญ่ หลุมฝังศพหลุมหนึ่งจากจำานวนหลายล้านหลุม
ที่คำานวณได้ยากมาก โปแลนด์ถูกสงคราม (3.5 ล้านคน) เป็นเชลยศึกโซเวียต การฆ่า ในสุสานสงครามหลายแห่งทั่วโลก
บดขยี้ ต้องสูญเสียประชากรพลเรือนไปเป็น ด้วยวิธีรมแก๊สในค่ายกักกันที่เอาชวิทซ์ ของสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในยุโรปตะวันตกเมื่อ
จำานวนมาก (6 ล้านคนรวมทั้งคนที่ถูกฆ่า (Auschwitz) ในช่วงที่นาซียึดครองโปแลนด์ เดือนเมษายน 1948 ได้รับการออกแบบ
ในค่ายกักกัน) เกือบ 1 ใน 5 ของประชากร อยู่นั้นก็นำามาใช้ทดลองกับเชลยเหล่านี้ มาให้สร้างเศรษฐกิจยุโรปขึ้นมาใหม่และ
ขณะที่ยูโกสลาเวียถูกสงครามป่าเถื่อนแยก นอกจากมีคนเสียชีวิตทั้งสิ้น 60 ล้าน หยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงไปสู่ฝ่ายซ้ายของ




ออกจากกันและถกทาลายล้างอย่างโหดเหยม คน สงครามครั้งนี้ยังนำาความเสียหายทาง การเมืองหลังสงคราม
เยอรมนีเสียประชากรไป 9 ล้านคนซึ่ง เศรษฐกิจมาสู่หลายประเทศ โครงสร้าง
พื้นฐานถูกทำาลาย ประชากรพลเรือนจิตใจ แบ่งแยกและปกครอง
ยุโรปเต็มไปด้วยผู้อพยพและผู้พลัดถิ่น กลุ่มนี้ ชอกช้ำา กระจัดกระจายหรืออ่อนแอลงอย่าง การยอมแพจบลงแล้วแต่การลงโทษผทาผด





ได้รับการดูแลในค่ายที่เมืองวีสบาเดิน (Wiesbaden) ยังดำาเนินต่อไป เยอรมนีถูกทำาให้ปลอดทหาร
ระหว่างเดินทางกลับถิ่นฐาน เห็นได้ชัด แผนมาร์แชล (Marshall Plan) (ทั้งยังสูญเสียเรือสินค้าด้วย) และถูกแยก
ครอบครองเป็นส่วนๆ เช่นเดียวกับกรุง


เบอร์ลินที่แม้อยู่ในเขตของโซเวียตแต่กถก
แบ่งออกเช่นเดียวกัน ฝรั่งเศส อังกฤษและ
อเมริกา เยอรมนีก็ต้องจ่ายค่าปฏิกรรม
สงคราม ยอมรับการขจัดความเป็นนาซี
(มาตรการเพื่อการขจัดอุดมคตินาซีที่หลงเหลอ

อยู่ในเยอรมนีและออสเตรียออกให้หมดสน)


และยอมให้มีการตั้งถิ่นฐานของชาวเยอรมัน
ที่ถูกเนรเทศมาจากตะวันออก เช่นเดียวกับ
ออสเตรียที่ถูกแบ่งเขตอิทธิพลเป็นส่วนๆ
แต่ก็กลับมารวมกันใหม่ในปี 1955 เมื่อ
มหาอำานาจที่ครอบครองยอมถอนกำาลังออก





ไปอย่างสันติ ขณะทญปนตองสูญเสียกองทัพ


และถูกปฏิรูปให้เป็นระบอบประชาธิปไตย
(แม้จะยังมีราชตระกูลสมเด็จพระจักรพรรดิ
อยู่ก็ตาม) สนธิสัญญาสันติภาพที่ลงนามใน
กรงปารีสเมื่อปี 1947 ยอมให้ประเทศย่อย ๆ

ของฝ่ายอักษะอันได้แก่ฮังการี โรมาเนีย
บัลแกเรีย อิตาลีและฟินแลนด์กลับเข้าสู่
ชุมชนประชาชาติ ให้สิทธิเข้าร่วมในองค์การ

THE AFTERMATH 15




































ปี 1946 กรุงเบอร์ลินซึ่งถูกแบ่งแยกโดยฝ่าย ลดขนาดโปแลนด์ลง ดังนั้น จึงยกดานซิก สถานการณ์ในตะวันตกยุ่งเหยิงจาก
สัมพันธมิตรเป็นสัญลักษณ์การขยายตัวของความ (Danzig) พื้นที่ส่วนใหญ่ของปรัสเซีย พื้นที่ ความจริงที่ว่าขบวนการปลดปล่อยจำานวน
แตกแยกทางการเมืองระหว่างฝ่ายตะวันออกและฝ่าย ส่วนที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ของแซกโซนี มากที่เคยต่อสู้กับฝ่ายอักษะกลายไปนิยม
ตะวันตกในยุโรป (Saxony) รวมถึงสเชชเซ็น (Stettin) ให้ แนวคิดฝ่ายซ้ายและเข้าข้างโซเวียต มีการ
สหประชาชาติ (เยอรมนีตะวันออกและ เป็นการชดเชย เส้นเขตแดนออร์เดอร์-นีสเซ ปราบปราม (อย่างโหดเหี้ยม) ในกรีซ บ่อน
ตะวันตกยังไม่ได้รับสิทธิดังกล่าวจนกระทั่ง (Oder-Neisse) นี้ ใช้เป็นพรมแดนโปแลนด์- ทำาลายในอิตาลีและจำากัดสิทธิในฝรั่งเศส
ปี 1973) แม้ว่าประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ เยอรมนีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ขบวนการดังกล่าวกลับ
จะยอมแพ้และย้ายข้างตั้งแต่ปี 1943 และ เบ่งบานในเอเชียและในเวลาต่อมาก็นำา
1944 แล้วก็ตาม ค่าปฏิกรรมสงครามก็ สงครามเย็น ไปสู่ความขัดแย้งกับประเทศมหาอำานาจ
เป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ (อิตาลีจ่ายมาก การจัดเขตแดนใหม่ถูกลดความสำาคัญลง จักรวรรดิในเกาหลี เวียดนามและจีน
ที่สุด บัลแกเรียจ่ายน้อยที่สุด) ขณะเดียวกัน ด้วยการแบ่งแยกครั้งสำาคัญ พฤติกรรม
อิตาลีก็ต้องสูญเสียดินแดนอาณานิคมใน ระหว่างสงครามทำาให้เกิดตัวอย่างของความ จักรวรรดิล่มสลาย
จักรวรรดิและมีการกำาหนดเขตแดนกันใหม่ ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างประเทศ ในสถานการณ์การแบ่งแยกอุดมการณ์
การกำาหนดเขตแดนใหม่เป็นเรื่องสำาคัญ มหาอำานาจทั้งสามแพร่กระจายออกไปและ แบบใหม่และการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
อิตาลีสูญเสียดินแดนในกรีซและยูโกสลาเวีย สถานการณ์ยุ่งยากเริ่มปรากฏขึ้นตั้งแต่ปี ท่ามกลางความขัดแย้ง อีกกระบวนการ
สหภาพโซเวียตผนวกดินแดนเอสโตเนีย 1945 กล่าวคือ เมื่อฝ่ายอักษะพ่ายแพ้ไป หนึ่งก็ทวีความเข้มข้นมากขึ้น อาณานิคม

ลตเวยและลิทัวเนีย ขณะที่ยังรักษาเบสซา- แล้วก็เกิดสมดุลอำานาจใหม่ของโลกขึ้นมา ของยุโรปหลายแห่งได้รับอนุญาตให้


ราเบย (Bessarabia) และบางส่วนของรูธีเนีย ชาติตะวันตกมองว่าสหภาพโซเวียตเป็นศัตรู ปกครองตนเอง รวมถึงสิทธิและความรับ
(Ruthenia) เอาไว้ ทั้งยังจัดตั้งดินแดนแทรก ในอุดมการณ์รายใหม่ อีกฝ่ายหนึ่งก็มีความ ผิดชอบต่างๆ ดังนั้น เมื่อชาติยุโรปอ่อนแรง

(enclave) ขึ้นมารอบๆ เมืองเคอนิกสแบรก รู้สึกนี้เช่นเดียวกัน ที่จริงการประชุมที่ยัลตา ลงก็เป็นเพียงการรอคอยเวลาก่อนที่จะ
(Königsberg ซึ่งเปลี่ยนชื่อจากกรุงคาลินินกราด (Yalta Conference) เป็นการกำาหนดสิ่งที่ เปลี่ยนจากการปกครองของจักรวรรดิไป
(Kaliningrad) ของปรัสเซียตะวันออก) จะเกิดขึ้นในยุโรป แต่สถานการณ์เปลี่ยนไป สู่รัฐเอกเทศที่มีสิทธิในตนเอง จอร์แดน
เยอรมนีถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนในปี 1949 สู่ความคลางแคลงใจและความเป็นปรปักษ์ เป็นประเทศแรก (อิสราเอลและซีเรียก็
บางทีการเปลี่ยนแปลงที่สำาคัญที่สุดคือสิ่งที่ ระหว่างสงคราม ชาติตะวันตกทำาสิ่งที่อาจ ปรากฏขึ้นจากดินแดนที่จัดตั้งขึ้นนี้ด้วย)
เกิดขึ้นกับโปแลนด์ กล่าวคือ ฝ่ายสัมพันธมิตร เป็นการบั่นทอนสหภาพโซเวียต ขณะที่ อินเดีย (และปากีสถาน) เป็นก้าวที่สำาคัญ
ตกลงว่าพรมแดนโปแลนด์-รัสเซียควรกำาหนด สหภาพโซเวียตเองก็ทำาทุกวิถีทางที่จะสร้าง ยิ่งขึ้น สถานการณ์เช่นนี้ยังมีอยู่ในเอเชีย
ตามเส้นเคอร์ซอน (Curzon Line) ที่ถูกกำาหนด ความอ่อนแอให้กับชาติตะวันตกพร้อมกับ ช่วงทศวรรษ 1950 และในแอฟริกาช่วง
ให้เป็นเส้นกั้นเขตแดนมาตั้งแต่ก่อนสงคราม สร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานภาพของตน ทศวรรษ 1960 ระเบียบโลกแบบใหม่เกิด
บอลเชวิก-โปแลนด์ในปี 1919 สิ่งนี้เท่ากับ ในยุโรปตะวันตก ขึ้นจากความย่อยยับของแบบเก่า

16 INTRODUCTION

ลำาดับเหตุการณ์ ค.ศ. 1922-1945





1922 1938 5 สิงหาคม อังกฤษและฝรั่งเศสส่งคณะ
27 ตุลาคม การสวนสนามในกรุงโรมเริ่มขึ้น 12 มีนาคม กองทหารเยอรมันเข้ายึดครอง ผู้แทนไปยังสหภาพโซเวียตทางเรือ

นำาไปสู่การที่มุสโสลินีและพรรคฟาสซิสต์ ออสเตรีย 17 สิงหาคม สหภาพโซเวียตขอทำาสนธิสญญา
ยึดอำานาจในอิตาลี 20 กันยายน สหภาพโซเวียตประกาศจะช่วย ว่าด้วยการไม่รุกรานกันกับเยอรมนี
1931 เหลือชาวเช็กหากฝรั่งเศสร่วมสนับสนุนด้วย 23 สิงหาคม ข้อตกลงไม่รุกรานกันระหว่าง
เยอรมนีกับสหภาพโซเวียตได้รับการลงนาม
18 กันยายน ญี่ปุ่นยึดครองเมืองมุกเดน 21 กันยายน อังกฤษและฝรั่งเศสยืนยัน ที่กรุงมอสโก ขณะที่ฝรั่งเศสและอังกฤษได้รับ
จุดชนวนขัดแย้งกับจีน ให้ชาวเช็กส่งมอบแคว้นซูเดเทนแลนด์ รายงานเกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยการแบ่งแยก
29 กันยายน การประชุมที่มิวนิกมีการหารือ
1933 เกี่ยวกับสถานการณ์ในเช็ก โปแลนด์



30 มกราคม ฮิตเลอร์ได้รับการแตงตงให้เป็น 1 ตุลาคม กองทัพเยอรมันเข้ายึดครองแคว้น 25 สิงหาคม อังกฤษและโปแลนด์ลงนามการ
นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ซูเดเทนแลนด์ เป็นพันธมิตรความร่วมมือระหว่างประเทศ
1934 2 ตุลาคม กองทัพโปแลนด์เข้ายึดครองเมือง 1 กันยายน เยอรมนีและโปแลนด์ประกาศ
26 มกราคม เยอรมนีกับโปแลนด์ลงนาม เทชเชนของเชโกสโลวะเกีย สงครามกัน
ในข้อตกลงไม่รุกรานกัน 1939 3 กันยายน อังกฤษประกาศสงครามกับเยอรมนี
5 พฤษภาคม ข้อตกลงไม่รุกรานกันระหว่าง 14 มีนาคม สโลวะเกียประกาศเอกราชจาก 17 กันยายน กองทหารโซเวียตเคลื่อนเข้าสู่
โปแลนด์กับโซเวียตได้รับการทบทวนใหม่ เยอรมนี ขณะที่กองทัพเยอรมันเข้ายึดครอง ทางตะวันออกของโปแลนด์
30 พฤศจิกายน สงครามฤดูหนาว หรือ
1935 ดินแดนเช็ก สงครามระหว่างโซเวียตกับฟินแลนด์เริ่มขึ้น
18 มิถุนายน ในข้อตกลงทางการทหารเรือ 22 มีนาคม เยอรมนียึดครองเมืองเมเมล
ระหว่างอังกฤษ-เยอรมนี มีการกำาหนดขนาด จากลิทัวเนีย 1940
เรือไว้ชัดเจน 30 มีนาคม โปแลนด์ยอมรับการรับรองของ 19 มกราคม ฝรั่งเศสและอังกฤษยกเลิก
แผนการจัดส่งกองทหารไปช่วยเหลือ
1936 อังกฤษ ฟินแลนด์ แต่ในเดือนมีนาคม ฟินแลนด์และ
7 เมษายน อิตาลียึดครองแอลเบเนีย

7 มีนาคม ไรน์แลนด์ตกอยู่ใต้อำานาจทหารอกครง ั ้ 13 เมษายน ฝรั่งเศสเสนอการรับรองแก่โปแลนด์ สหภาพโซเวียตก็เจรจาสงบศึกกันได้
18 กรกฎาคม สงครามกลางเมืองสเปนเริ่มขึ้น 17 เมษายน สหภาพโซเวียตขอทำาข้อตกลง 9 เมษายน เยอรมนีเริ่มทำาสงครามกับ
25 พฤศจิกายน เยอรมนีกับญี่ปุ่นลงนาม กับฝรั่งเศสและอังกฤษ เดนมาร์กและนอร์เวย์
ในข้อตกลงต่อต้านโคมินเทิร์นของโซเวียต 28 พฤษภาคม ญี่ปุ่นและสหภาพโซเวียต 10 พฤษภาคม เยอรมนีเริ่มทำาสงครามกับ
1937 ปะทะกันที่แมนจูเรีย เนเธอร์แลนด์และเบลเยียม ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส
7 กรกฎาคม ญี่ปุ่นทำาสงครามกับจีน 9 มิถุนายน เยอรมนีลงนามข้อตกลงไม่ ในเวลาต่อมาด้วย
6 พฤศจิกายน อิตาลีเข้าร่วมในข้อตกลง รุกรานกันกับเอสโตเนียและลัตเวีย 10 มิถุนายน มุสโสลินีแห่งอิตาลีประกาศ
ต่อต้านโคมินเทิร์นของโซเวียต 24 กรกฎาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ สงครามกับฝรั่งเศสและอังกฤษ
12 พฤศจิกายน นครเซี่ยงไฮ้ถูกหน่วยจู่โจม ต่างประเทศของสหภาพโซเวียตประชุมกับ 15 มิถุนายน สหภาพโซเวียตเริ่มยึดครอง
ของญี่ปุ่นเข้ายึดครอง มหาอำานาจตะวันตกเกี่ยวกับความก้าวร้าว เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย

13 ธันวาคม เมืองนานกิงตกเป็นของกองทัพญปน ของเยอรมนี 22 มิถุนายน ฝรั่งเศสยอมแพ้ให้เยอรมนี



ปี 1933 ฮิตเลอร์ซึ่งเข้ารับตำาแหน่งนายกรัฐมนตรี กองทหารอิตาลี 3,000 คนที่ถูกส่งไปปฏิบัติการทาง กองทหารฟินแลนด์ซึ่งเรียกกันว่า “ทหารปีศาจ” ใช้สกี

คนใหม่ถ่ายภาพกับสมาชิกพรรคนาซี อากาศในสงครามยึดครองแอลเบเนีย อยางคลองแคลว พรางตัวอยู่ในชุดคลุมหลวมสีขาว



TIMELINE 1922-1945 17






















พนักงานดับเพลิงอาสากำาลังช่วยกันดับไฟที่โกดังใน ทหารโซเวียตในการปิดล้อมเมืองเลนินกราด ปี ผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันที่เอาชวิทซ์มองผ่านรั้ว
ลอนดอนหลังการโจมตีทางอากาศของเยอรมนี ปี 1940 1943 ก่อนหน้าเยอรมนียุติการปิดล้อมไม่นานนัก ลวดหนาม ปี 1945
13 กันยายน อิตาลีเริ่มทำาสงครามกับอียิปต์ ที่แอฟริกา 31 สิงหาคม สหภาพโซเวียตเข้ายึดกรุง
27 กันยายน เยอรมนี อิตาลีและญี่ปุ่นลงนาม 5 กรกฎาคม กองทัพเยอรมันที่โจมตีเมือง บูคาเรสต์
ในข้อตกลงไตรภาคี เคิร์สก์พ่ายแพ้แก่กองทัพโซเวียต 16 กันยายน กองทัพโซเวียตเข้ายึดกรุงโซเฟีย
28 ตุลาคม อิตาลีรุกเข้าไปในกรีซ 10 กรกฎาคม กองกำาลังฝ่ายสัมพันธมิตร 19 ตุลาคม ฟินแลนด์ลงนามในสนธิสัญญา
เคลื่อนพลเข้าสู่ซิซิลี สงบศึกกับสหภาพโซเวียต
1941 26 กรกฎาคม มุสโสลินีลาออก มาร์แชล 20 ตุลาคม การปลดปล่อยกรุงเบลเกรด


6 เมษายน เยอรมนีทำาสงครามกับยโกสลาเวย บาโดกลิโอ ขึ้นดำารงตำาแหน่งแทน 16 ธันวาคม กองทัพเยอรมันตอบโต้การ
ขณะที่การโจมตีกรีซยังดำาเนินต่อไป 25 สิงหาคม ลอร์ดเมาท์แบตเทน บัญชาการ โจมตีในป่าอาร์เดนส์
27 เมษายน กรุงเอเธนส์ตกเป็นของเยอรมนี รบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเตรียมการ

22 มิถุนายน เยอรมนีรุกเข้าไปในสหภาพโซเวยต โจมตีพม่า 1945
19 กันยายน เมืองเคียฟตกเป็นของเยอรมนี 3 กันยายน อิตาลียอมแพ้แก่สหรัฐฯ 2 มกราคม พื้นที่ร้อยละ 90 ของเมืองนูเรม



5 ธันวาคม เยอรมนตองยตการโจมตีกรุงมอสโก 23 กันยายน เยอรมนีสถาปนาสาธารณรัฐ เบิร์กถูกทำาลายจากการโจมตีทางอากาศของ

ไว้ชั่วคราว สังคมนิยมอิตาลีขึ้นทางตอนเหนือของ ฝ่ายสัมพันธมิตร
7 ธันวาคม เครื่องบินญี่ปุ่นโจมตีฐานที่มั่น ประเทศอิตาลี 17 มกราคม กองทัพโซเวียตเข้ายึดกรุงวอร์ซอ
ของสหรัฐฯ ที่อ่าวเพิร์ล ส่งผลให้สหรัฐฯ 6 พฤศจิกายน สหภาพโซเวียตยึดเมือง 26 มกราคม ทหารโซเวียตปลดปล่อยค่าย
ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น เคียฟกลับคืนได้ กักกันที่เอาชวิทซ์
8 ธันวาคม อังกฤษประกาศสงครามกับ 3 กุมภาพันธ์ ทหารอเมริกันเริ่มโจมตีเพื่อยึด
ญี่ปุ่นหลังการโจมตีฐานที่มั่นหลายแห่งใน 1944 กรุงมะนิลาคืนจากญี่ปุ่น
มหาสมุทรแปซิฟิก 6 มกราคม โซเวียตยกทัพข้ามเส้นพรมแดน 4 กุมภาพันธ์ การประชุมยัลตาเริ่มขึ้นเพื่อ


11 ธันวาคม เยอรมนีและอตาลประกาศสงคราม 1939 เข้าสู่โปแลนด์ พิจารณาสันติภาพหลังสงคราม
กับสหรัฐฯ 22 มกราคม ฝ่ายสัมพันธมิตรล้มเหลวในการ 13 กุมภาพันธ์ เมืองบูดาเปสต์ยอมแพ้แก่
1942 ปฏิบัติการในอันซิโอหลังแนวตั้งรับฝ่ายอักษะ กองทัพโซเวียต
19 กุมภาพันธ์ การรบที่เกาะอิโวจิมาเริ่มขึ้น
27 มกราคม ยุติการปิดล้อมเมืองเลนินกราด
15 กุมภาพันธ์ ดินแดนของอังกฤษใน 7 มีนาคม กองทัพญี่ปุ่นเริ่มโจมตีอังกฤษในพม่า 13 เมษายน กองทัพโซเวียตปลดปล่อยกรุง
สิงคโปร์ที่ ‘ไม่อาจฝ่าไปได้’ ตกเป็นของญี่ปุ่น 23 มีนาคม เยอรมนีเข้ายึดครองฮังการีและ เวียนนา
ตามที่คาดการณ์ไว้ จัดตั้งรัฐบาลที่เข้าข้างฝ่ายเยอรมัน 23 เมษายน กองทหารโซเวียตเคลื่อนเข้าสู่
6 พฤษภาคม ฟิลิปปินส์ยอมแพ้แก่กองทัพญี่ปุ่น 17 พฤษภาคม อังกฤษเริ่มทำาสงครามในพม่า กรุงเบอร์ลิน
23 ตุลาคม กองกำาลังฝ่ายอักษะพ่ายแพ้ที่ 4 มิถุนายน ฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ายึดกรุงโรม 28 เมษายน มุสโสลินีถูกฝ่ายหัวรุนแรงจับกุม
สมรภูมิเอล อลาเมน ทางตอนเหนือของทวีป 6 มิถุนายน การยกพลขึ้นบก (ดี-เดย์) และถูกประหารชีวิต
แอฟริกา ที่นอร์มังดี 30 เมษายน ฮิตเลอร์ทำาอัตวินิบาตกรรม
11 พฤศจิกายน ดินแดนตอนใต้ของฝรั่งเศส 22 มิถุนายน สหภาพโซเวียตเริ่มการโจมตีใน 8 พฤษภาคม เยอรมนียอมแพ้
ถูกอิตาลีและเยอรมนียึดครอง ปฏิบัติการบาเกรชัน 17 กรกฎาคม การประชุมที่พอตสดัมเริ่มขึ้น
19 พฤศจิกายน สหภาพโซเวียตทำาสงคราม 20 กรกฎาคม ข้าราชการล้มเหลวในการลอบ 6 สิงหาคม สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรก
ปิดล้อมกองทัพเยอรมันในสตาลินกราด สังหารฮิตเลอร์ ที่เมืองฮิโรชิมา อีก 3 วันถัดไปก็ทิ้งอีกลูกหนึ่ง
1943 15 สิงหาคม กองกำาลังฝ่ายสัมพันธมิตร ที่เมืองนางาซากิ
31 มกราคม ทหารเยอรมันในสตาลินกราด เคลื่อนเข้าสู่ดินแดนตอนใต้ของฝรั่งเศส 8 สิงหาคม โซเวียตประกาศสงครามกับญี่ปุ่น
ยอมแพ้ 25 สิงหาคม กองกำาลังฝ่ายสัมพันธมิตร 14 สิงหาคม ญี่ปุ่นยอมแพ้
12 พฤษภาคม กองกำาลังฝ่ายอักษะพ่ายแพ้ ปลดปล่อยกรุงปารีส

18

19
จักรวรรดิอังกฤษ





อังกฤษเป็นจักรวรรดิใหญ่ที่สุดในโลก ช่วงเวลาไม่กี่ปีของทศวรรษ 1930 เป็น

บทพิสูจน์ความสุขและความทุกข์ไปพร้อมกัน จักรวรรดิประสบปัญหายุ่งยากใน
การดูแลความสงบเรียบร้อยและยังมีความท้าทายในการรักษาอำานาจปกครอง
ของตนเอาไว้ ทั้งยังต้องเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของขบวนการเรียกร้องการปกครอง
ตนเอง ขณะเดียวกันอังกฤษก็เข้าถึงแหล่งทรัพยากรในทวีปห่างไกลได้โดยง่าย

สงครามทำาให้ลักษณะตรงข้ามกันนี้ดำาเนินต่อไป การที่จักรวรรดิต้องป้องกัน
ไม่ว่าจะเป็นมอลตาหรือคาบสมุทรมาเลย์ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดมหาศาล
ต่อทรัพยากรของอังกฤษเองในช่วงปี 1939-1940 อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรวรรดิ
เริ่มเคลื่อนทัพ อังกฤษก็ต้องนำาเอากำาลังคนและทรัพยากรจำานวนมากออกมาใช้

ในปี 1941 ปริมาณคนและทรัพยากรมหาศาลนี้จำาเป็นอย่างยิ่งต่อการสกัดกั้น
ชัยชนะที่ไหลบ่าของฝ่ายอักษะและเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้เป็นตรงกันข้าม
เยอรมนียอมเสี่ยงเพื่อให้ได้ชัยชนะอย่างรวดเร็ว แต่สำาหรับอังกฤษ ตราบเท่าที่
แผ่นดินแม่ยังหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ ก็สามารถรับมือกับความขัดแย้ง

ได้ยาวนานกระทั่งได้ชัยชนะสมบูรณ์แบบ



































แอนโธนี เอเดน (Anthony Eden) รัฐมนตรีเครือจักรภพตรวจแถวทหารอินเดียในค่ายที่อียิปต์ใกล้ๆ พีระมิด
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1940
ทหารอังกฤษสวนสนามไปตามถนนอาเดน (Aden) ซึ่งเป็นท่าเรือยุทธศาสตร์และด่านหน้าของจักรวรรดิ
ในการควบคุมเส้นทางการขนส่งสำาคัญไปยังคลองสุเอซ (Suez) สิ่งที่ขัดกันของถุงเท้าสีเข้ม กางเกงขาสั้นสีกากี
และหมวกกะโล่ เป็นภาพแปลกตาที่ปรากฏขึ้นในช่วงต้นของสงคราม

20 THE BRITISH EMPIRE

อังกฤษในยามสงคราม





อังกฤษคิดถูกที่ประเมินว่าตนยังไม่พร้อมจะ
เข้าสู่สงครามในปี 1939 เกิดภาวะเศรษฐกิจ



ตกต่ำาอยหลายป เชนเดียวกับความสัมพันธ์

ทางการทูตและความไว้เนื้อเชื่อใจกันที่มีมา
เป็นเวลานานกับฝรั่งเศสมากกว่าเยอรมนี
อันหมายความว่ากองทัพอังกฤษยังไม่พร้อม
การที่เยอรมนีผนวกดินแดนออสเตรีย
แล้วขยายไปยังเชโกสโลวะเกียในปี 1938
เร่งให้อังกฤษต้องตรวจสอบความพร้อม
ของกองทัพ ในเดือนมีนาคม 1939 ขณะที่
เยอรมนีกำาลังเข้าครอบครองส่วนที่เหลือของ
ประเทศเชโกสโลวะเกีย กองกำาลังรักษาดิน
แดน (Territorial Army) ก็เพิ่มจำานวนขึ้น
เป็นสองเท่าและในเดือนเมษายน 1939 ก็
มีการนำารูปแบบการเกณฑ์ทหารแบบจำากัด
มาใช้ แม้ขณะนั้นอังกฤษจะยังไม่พร้อมเข้า
สู่สงครามก็ตาม ขณะที่ทหารประจำาการใน
กองทัพก็ขยายขึ้นในราว 212,000 นายใน ปัญหาอีกประการหนึ่งที่เกิดจากการส่ง ความพ่ายแพ้ของกองกำาลังจู่โจมของอังกฤษและ
การถอนทหารอย่างสิ้นหวังจากชายหาดในเมือง
ฤดูร้อนปี 1939 กองทหารไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับกองทัพ ดันเคิร์ก (Dunkirk) ทำาให้ชาวอังกฤษชอกช้ำาใจมาก
แผนการเบื้องต้นคือการระดมพลเพื่อ ฝรั่งเศสคือการที่อิตาลีเข้าร่วมสงครามใน
เปิดฉากสงครามในฝรั่งเศสเพื่อช่วยเหลือ เดือนมิถุนายน 1940 สร้างปัญหายุ่งยากให้
การรบในชายแดนด้านตะวันออกเช่นเดียว แก่อังกฤษ เนื่องจากขอบเขตการรบขยาย สินค้าจำานวนมากจากผู้จัดจำาหน่ายชาว
กับที่เคยทำาในปี 1914 กองกำาลังจู่โจมของ วงกว้างขึ้น รวมถึงแถบเมดิเตอร์เรเนียนและ อเมริกัน และอังกฤษยังยอมปล่อยให้เช่า
อังกฤษ (British Expeditionary Force, แอฟริกา (แอฟริกาตะวันออกและลิเบียมี เครือจักรภพหลายแห่งในแถบแคริบเบียน
BEF) ประกอบด้วยหน่วยทหารที่ดีที่สุดเท่า เครือจักรภพของอิตาลีอยู่หลายแห่ง) ซึ่งก็ เพื่อแลกกับเรือพิฆาตล้าสมัยจากกองทัพ
ที่จะมีได้และบางหน่วยก็มียุทโธปกรณ์ที่ เท่ากับว่าในช่วงสั้นๆ อังกฤษต้องขยายการ เรือสหรัฐฯ 50 ลำา ดังนั้น ในเดือนมีนาคม
ก้าวหน้า แต่ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นกับกอง ป้องกันไปยังกรีซ (ซึ่งกำาลังคุกคามอียิปต์) 1941 อเมริกาก็ออกกฎหมายว่าด้วยการให้
กำาลังดังกล่าวในปี 1940 ทำาให้เกิดความ อันเป็นผลมาจากการคุกคามของฝ่ายอักษะ กู้ยืมและการให้เช่า (the Lend-Lease Bill)
เสียหายและความสามารถในการรบของ การยอมแพ้ของฝรั่งเศสและการทำาสงคราม ที่จะช่วยให้อังกฤษมียุทธปัจจัยจำานวนมาก
อังกฤษตกต่ำาลงไม่น้อย ของฝรั่งเศสเขตวีชี (Vichy regime) ใน (มากกว่ายุทธภัณฑ์ตามสัญญาให้กู้-ให้เช่า
แอฟริกาเหนือและซีเรีย อุบายของเยอรมัน ที่สหรัฐฯ ทำากับสหภาพโซเวียตถึง 3 เท่า)
ทหารกองกำาลังจู่โจมของอังกฤษบนเรือที่ออก ในอิรักและสงครามของอิตาลีในแอฟริกา จำานวนเงินสูงที่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิด
เดินทางไปยังฝรั่งเศสตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในขณะที่อังกฤษกำาลัง ขึ้นทันทีเมื่ออังกฤษกู้เงินจำานวนมากจาก
ถูกโจมตีทางอากาศและภาคตะวันตกของ สหรัฐฯ ในปี 1946 ซึ่งอังกฤษเพิ่งจะชำาระหนี้
ฝรั่งเศสก็กลายเป็นฐานทัพเรืออู (U-boat) จำานวนดังกล่าวได้หมดไปเมื่อปี 2006 ขณะ
และเครื่องบินจู่โจมของเยอรมัน ต่อมาญี่ปุ่น เดียวกันเครือจักรภพก็มีส่วนช่วยระดมทุน
ก็มาร่วมสร้างความวุ่นวาย ความตึงเครียด ดังที่แคนาดาเสนอความช่วยเหลือด้านยุทธ
เริ่มปรากฏขึ้น ขณะที่ทรัพยากรสำาหรับการ ปัจจัยเป็นเสื้อผ้าและอาหาร
รบต่อเนื่องเริ่มขาดแคลนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กำาลังพลก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ประสบ
ความยุ่งยาก มักจะมีการยืนยันว่าอังกฤษ
ยุทธปัจจัยและกำาลังพล ยืนหยัดเพียงลำาพัง แต่นับว่าห่างไกลความจริง
อังกฤษขอให้สหรัฐฯ สนับสนุนยุทธปัจจัย มาก เพราะอังกฤษต้องได้รับการสนับสนุนจาก
รวมทั้งช่วยระดมทุนเพื่อทำาสงครามตลอด เครือจักรภพและอาณานิคม
จนสนับสนุนกำาลังพลแก่เครือจักรภพ มี
การนำามาตรการหลายประการมาใช้เพื่อ แคนาดา
ให้ชนะใจสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อ ประเทศในเครือจักรภพแห่งแรกที่เริ่ม

BRITISH AT WAR 21

เคลื่อนไหวคือแคนาดา ด้วยการส่งหน่วย
ทหารไปยังอังกฤษ เรียกระดมพลเข้าประจำา
การในแคนาดาในต้นปี 1940 และอนุญาต
ให้อาสาสมัครแจ้งความจำานงไปปฏิบัติ
หน้าที่ในต่างประเทศ การตอบรับเกิดขึ้น
ล้นหลาม มีชาวแคนาดานับหมื่นคนลุกขึ้น
มาจับอาวุธและสมัครไปร่วมรบในดินแดน
ห่างไกล ในที่สุดความต้องการก็มีมากกว่า
ปัจจัยสนับสนุน ดังนั้น ในเดือนเมษายน
1942 รัฐบาลจึงเสนอวิธีการเกณฑ์ทหาร
แบบใหม่ที่รวมไปถึงการปฏิบัติหน้าที่ในต่าง
ประเทศ การต่อต้านของแคว้นควีเบกและ
ความขัดแย้งทางการเมือง ทำาให้แผนการ
ดังกล่าวล้มเหลวแม้จะมีการออกกฎหมาย
ว่าด้วยการปฏิบัติงานในต่างประเทศเมื่อ
เดือนพฤศจิกายน 1944 ก็ตาม ในที่สุด
ทหารเกณฑ์ประมาณ 13,000 นายก็ถูกส่ง
ไปประจำาการนอกแคนาดาซึ่งถือว่าเป็น
สัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำานวน
ทหารแคนาดาที่ร่วมรบในสงคราม กล่าวคือ
มีทหาร 800,000 นายประจำาการในกองทัพ
ระหว่างสงคราม ในจำานวนนั้น 370,000 หมู่เกาะใกล้เคียง ส่วนนิวซีแลนด์นั้นเมื่อ กองพันทหารในสังกัดกรมทหารโดกรา (Dogra)
นายอยู่ในยุโรปและเสียชีวิตไป 83,000 นาย แรกก็มีหลักเกณฑ์แบบเดียวกัน โดยการส่ง ที่ 17 แห่งกองทัพอินเดียกำาลังข้ามทะเลสาบระหว่าง
อาสาสมัครไปร่วมรบในต่างประเทศและมี ปฏิบัติการใกล้สิงคโปร์ในเดือนธันวาคม 1941
ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และ การเกณฑ์ทหารขึ้นในประเทศ แต่ในเดือน เหล่านี้ก็ได้รับการปรับปรุงในเดือนมีนาคม
แอฟริกาใต้ มิถุนายน 1942 มีการเปลี่ยนแปลงหลัก 1940 เพื่อให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้าได้
สถานการณ์คล้ายกับที่กล่าวถึงข้างต้นเกิด เกณฑ์ที่กำาหนดให้ทหารเกณฑ์ที่อายุเกิน ด้วย
ขึ้นในออสเตรเลียซึ่งมีการเกณฑ์ทหารขึ้น 21 ปีสามารถไปรบในต่างประเทศได้
ในประเทศและมีหน่วยทหารอาสาสมัครไป แอฟริกาใต้ซึ่งประกาศสงครามกับเยอรมนี อินเดีย



ร่วมรบในต่างประเทศ รัฐบาลออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 5 กันยายน 1939 มีการเมองซบซอน ความช่วยเหลือที่สำาคัญอีกอย่างหนึ่งคือการ
ใช้ชั้นเชิงอีกเล็กน้อยในการเกณฑ์ทหาร ในประเทศที่ต้องแก้ไขให้ลุล่วง กองทัพขนาด เข้าร่วมของอินเดีย กล่าวคือ กองทัพอินเดีย
กล่าวคือในปี 1943 ปาปัวนิวกินีได้รับการ ย่อมที่มีทหารประจำาการ 3,300 นายซึ่ง ซึ่งมีชาวยุโรปรับราชการอยู่เป็นจำานวนมาก
ประกาศให้เป็นดินแดนของออสเตรเลีย จึง สนับสนุนภารกิจโดยทหารกองหนุนนั้น นั้น เคยมีบทบาทสำาคัญยิ่งมาแล้วในสงคราม
มีการนำาการเกณฑ์ทหารไปใช้ซึ่งรวมไปถึง ถือว่าไม่เพียงพอ แต่อาสาสมัครจำานวนมาก ครั้งก่อนและในปี 1939 ก็เริ่มมีการส่งกอง
ที่ไปร่วมรบในแอฟริกาเหนือ มีเพียงคนผิวขาว ทหารอาสาสมัครไปปฏิบัติหน้าที่ในดินแดน
เด็กๆ ชาวอังกฤษประมาณ 10,000 คนหลบภัยไป
สู่เครือจักรภพอังกฤษ ในภาพเป็นกลุ่มที่ลงเรือมุ่งหน้า เท่านั้นที่ได้รับการพิจารณาให้ไปรบในแนว ห่างไกลอย่างอียิปต์ แอฟริกาตะวันออกและ
ไปยังแคนาดา หน้า ขณะเดียวกัน ข้อตกลงของอาสาสมัคร เอเชีย ที่จริงกองทัพอินเดียควรจะยังเป็น
กองทหารที่เข้าร่วมด้วยความสมัครใจ แต่
เนื่องจากสัดส่วนของทหารยุโรปลดลงอย่าง
มากตลอดเวลาที่สงครามดำาเนินไป ทั้งนี้
ทหารยุโรปเคยมีความจำาเป็นเสมอในอดีต
ที่ผ่านมา กระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
ในช่วงทศวรรษ 1920 ที่ให้มีการฝึกทหาร
อินเดีย ‘โครงการเพิ่มความเป็นอินเดียใน
กองทหาร 8 กอง’ (Eight Unit Scheme
of Indianization) ที่มีมาก่อนหน้านี้ (ด้วย
การจัดตั้งกรมทหารที่มีนายทหารเป็นชาว
อินเดีย) ได้รับการสนับสนุนให้เพิ่มมากขึ้น
หลังปี 1939 เป็นต้น

22 THE BRITISH EMPIRE
กองทหารอังกฤษ






เกือบจะคิดไปได้ว่าชัยชนะในปี 1918 นั้น แต่เป็นการหานายทหารที่มีความคิดแบบ
ทำาให้เกิดปฏิกิริยาด้านลบต่อการบัญชาการ จักรกลและวิทยาศาสตร์ซึ่งกองทัพที่กำาลัง
ตามลำาดับชั้นของทหารอังกฤษ นวัตกรรม เติบโตต้องการ มีอยู่แหล่งหนึ่งที่ผลิต
สำาคัญๆ เกือบทั้งหมดที่มีส่วนในการทำาให้ ชายหนุ่มนับพันคนที่มีความเป็นเลิศทาง
เยอรมันพ่ายแพ้และองค์ประกอบพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และจักรกลถูกผลิตออกมา
ของสงครามยุคใหม่ทั้งหมดดูจะถูกกวาด ทุกๆ ปี ผมหมายถึงโรงเรียนมัธยม”
ไว้ใต้พรม ขณะเดียวกันก็มีเพียงเงินจำานวน
น้อยนิดสำาหรับใช้เพื่อการค้ำาจุนสิ่งที่มีมา ความเฉื่อยชา
ในอดีตหรือราชนาวี ระบบที่ตายตัวซึ่งถูกสำาทับด้วยการ
สิ่งนี้อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะกองทัพ ขาดแคลนเงินและการจำาใจปรับเปลี่ยน
ในระหว่างสงครามนั้นอยู่ภายใต้การ เป็นเหตุให้เกิดความเฉื่อยชา หน่วยป้องกัน
บัญชาการเด็ดขาดของกลุ่มบุคคลที่สมาชิก ภัยทางอากาศถูกลดให้เป็นแผนกย่อยใน
ของกลุ่มนั้นมองว่าตนเป็นทั้งข้าราชการ กระทรวงกลาโหมและได้รับยุทโธปกรณ์ที่
และสุภาพบุรุษ พวกเขาได้รับการศึกษา โละเป็นของเก่าแล้ว หน่วยยานเกราะก็ลด เซอร์ วิลเลียม เอ็ดมุนด์ ไอรอนไซด์ หัวหน้าคณะ
จากโรงเรียนเอกชน ตามมาด้วยการศึกษาที่ ขนาดและในปี 1931 ก็ถูกลดความสำาคัญ เสนาธิการของจักรวรรดิรีบเดินไปตามถนนดาวนิง
มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดหรือมหาวิทยาลัย ลงอย่างถึงที่สุด ในกรุงลอนดอน เมื่อปี 1939
เคมบริดจ์ ทั้งยังอยู่ในตระกูลที่มีเครือญาติ ทหารหลายคนคิดว่าสงครามต่อไปน่า
เกี่ยวดองใกล้ชิด (หลายตระกูลรับราชการ จะรบกันในดินแดนห่างไกล ซึ่งอาจมาจาก ถูกจัดให้มีความสำาคัญอันดับต้นๆ เพื่อสร้าง
ต่อเนื่องมากว่าร้อยปี) แฮสติง ลีส์-สมิธ การแย่งกันครอบครองอาณานิคม ทำาให้ ความมั่นคงให้กับการป้องกันมาตุภูมิ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคแรงงาน ภารกิจในการขนส่งและป้องกันทหารราบ
ทำาให้เกิดความวุ่นวายในสภาผู้แทนราษฎร ติดอาวุธอย่างเบาเป็นของทหารเรือก็น่าจะ การปรับปรุงให้ทันสมัย
ในเดือนมีนาคม 1938 ด้วยการกล่าวว่า เพียงพอแล้ว ขณะที่อีกไม่มากนักเห็นว่า ก้าวแรกที่สำาคัญยิ่งของการเดินหน้าสู่การ
“บัดนี้กองทัพกลายเป็นจักรกลขนาดใหญ่ สงครามขนาดใหญ่ที่รวมเอาอังกฤษเข้าไป สร้างกองทัพให้ทันสมัยเกิดขึ้นในปี 1932
และปัญหาที่เด่นชัดอย่างหนึ่งไม่ใช่การหา ด้วยอาจเกิดขึ้นในยุโรปไม่นานนับแต่การ จากการละทิ้งกฎ 10 ปี (Ten Year Rule)
จำานวนนายทหารที่เหมาะสมซึ่งอาจแก้ไขได ้ สูญเสียที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อเป็นที่แน่ชัด ภายใต้ระดับของการใช้จ่ายที่มีสมมติฐาน
แล้วว่าสงครามดังกล่าวอาจเกิดขึ้น การ ว่าจะไม่มีสงครามใหญ่เกิดขึ้นกำากับอยู่
ทหารขับเครื่องบินทิ้งระเบิดในชุดอุปกรณ์สำาหรับ ลงทุนกับกองทัพอากาศและกองทัพเรือจึง การละทิ้งกฎดังกล่าวช่วยแก้ปัญหาการ
ที่สูง ปืนกลและร่ม ในปี 1940 ขาดแคลนงบประมาณของกองทัพซึ่งส่วน


ใหญ่เป็นการใช้เงินที่กู้ยืมมา มีการเพมงบ
ประมาณจำานวนมากให้กับราชนาวีเพื่อให้
คงความเหนือกว่ากองทัพเรืออื่นๆ เอาไว้ได้
และมีการเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงิน
ให้แก่กองทัพอากาศเพื่อให้มีสมรรถภาพ
เทียบเคียงกับกองทัพอากาศเยอรมัน แม้ว่า
การฝึกฝนกำาลังพลจะถูกละเลยไปก็ตาม
ที่จริงแล้วการเทียบเคียงกลายเป็นความ
หลงใหลที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจมากกว่าการ
กำาหนดหลักการของนโยบายที่มีเหตุผล
อย่างรอบคอบ
เมื่อแรกกองทัพปรากฏขึ้นพร้อมแผน
ปฏิบัติการไม่มากนัก ซึ่งเท่ากับว่าจนกระทั่ง
ปี 1938 มีกองพลติดอาวุธพร้อมจริงๆ เพียง
2 กองพลซึ่งสามารถปฏิบัติการบนภาคพื้น
ทวีปได้ ขณะที่เยอรมันเคลื่อนทัพเข้าส ู ่

BRITAIN’S ARMED FORCES 23































ไรน์แลนด์และหยิบความสงสัยเกี่ยวกับแนว ปี 1938 เห็นได้ชัดว่ากองทัพต้องการแข่ง ทหารประจำารถถังของกองทัพอังกฤษเดินผ่านข้างๆ
มายิโนต์ (Maginot Line) ขึ้นมาพิจารณา กับยานเกราะ (panzer) ของฮิตเลอร์ จึง สถานีรถไฟลอนดอนเพื่อไปยังรถไฟที่บรรทุกรถถัง
เชอร์ชิล ในเดือนกันยายน ปี 1942
แต่วิกฤตการณ์มิวนิกและการที่เยอรมัน ตัดสินใจปรับปรุงกองทหารม้าเป็นระบบ

เข้ายึดครองเชโกสโลวะเกียเป็นสิ่งบังคับให้ เครื่องยนต์กลไกด้วยงบประมาณมหาศาล (ผู้ผลิตรถยนต์อังกฤษ ผู้ก่อตั้งบริษัทมอร์รส
อังกฤษต้องเพิ่มหน่วยทหารและให้สัญญา เกราะหุ้มรถเข้ามาแทนที่ม้าในฤดูใบไม้ผลิ มอเตอร์) สำาหรับความช้าและการเร่ง
กับชาวฝรั่งเศสว่ากองพลที่เพิ่มขึ้นจะทำาให้ ป 1938 แต่กว่าจะได้รับยานยนต์จริงๆ ก ็ ความเร็วที่แสนยากเย็นของเครื่องยนต์ของ

ชาวเช็กพ่ายแพ้ให้แก่ฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่ง กลางปี 1939 แม้จะมีนายทหารต่อต้านการ เขา” เพราะความบกพร่องเช่นนี้เองที่ทำาให้
หมายความว่ามีกองพลอยู่ถึง 32 กองพลที่ นำาเครื่องยนต์กลไกมาใช้ แต่ในที่สุดก็ต้อง การขับขี่อันตรายน้อยลง ทหารม้าส่วนใหญ่
พร้อมปฏิบัติการในปีแรกของสงคราม ยอมรับ กระนั้นก็ยังยืนยันว่าหน่วยของตน ได้รับรถถังเบาวิกเกอร์ (Vickers light tank)
การโยนเงินไปยังปัญหาใช่ว่าจะ ต้องยังคงชื่อเดิม เครื่องหมายและกลุ่มทหาร ซึ่งเป็นยานยนต์ที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยและ
ปรับปรุงกองทัพได้เสมอไป ตัวอย่างเช่น ใน ม้าของตนไว้ อย่างเดียวที่อนุญาตแต่ไม่ ประกอบได้แย่มากจนทำาให้พังจนต้องซ่อม
เต็มใจนักก็คือการรับการฝึกโดยหน่วยรถถัง อยู่เสมอ
การฝึกฝนกับรถถังใหม่มีความสำาคัญมาก ในช่วงหนึ่งบนรถเก่าๆ ทหารผู้หนึ่งบันทึกไว ้ สถานการณ์ที่พาหนะใช้งานแย่และ
ในภาพทหารกำาลังได้รับการสอนวิธีเปลี่ยนตีนตะขาบ วาทหารของเขา “รสึกขอบคุณที่ลอร์ดนัฟฟิลด์ ขาดแคลนรถบรรทุกที่ใช้ขนส่งเสบียงอาหาร



ในปี 1941
เสื้อผ้าและอาวุธยุทธภัณฑ์ไปให้แก่ทหาร
ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ การเรียกร้องจากแหล่ง
ทรัพยากรพลเรือนในท้องถิ่นเป็นเพียงการ
แก้บางส่วนของปัญหาเท่านั้น ทั้งยังทำาให้
เกิดฝันร้ายของการขนส่งเมื่อต้องหาอะไหล่
หรือชิ้นส่วนสำารองอีกด้วย
กองทัพที่ได้รับการสนับสนุนและมี
เครื่องไม้เครื่องมือไม่เพียงพอเช่นนี้เองที่ถูก
นำามารวมกันตั้งเป็นกองกำาลังจู่โจมเพื่อส่ง
ไปยังฝรั่งเศสในปี 1939 นับว่าเป็นโชคดี
ของอังกฤษก็เป็นได้ที่การรบดังกล่าวยังไม่
เกิดขึ้นจนช่วงต้นฤดูร้อนปี 1940 ซึ่งทำาให้
ทหารมีเวลาในการฝึก แต่กองทัพก็รู้ดีว่า แม้
กองพลที่มีความแข็งแกร่งและความเป็นมอ

อาชีพจะมีขนาดเล็ก อุปกรณ์ไม่เพียงพอและ
ขาดการฝึกฝนที่เหมาะสมเช่นเดียวกับหลัก
การที่เป็นเหมือนอุปสรรคในการฝึกนั้นๆ

24 THE BRITISH EMPIRE
นายพลและเสนาธิการ






นายพลอังกฤษมักถูกบรรยายภาพเหมือน กองทัพ พลโทบัญชาการเหล่าทหาร พลตรี ใช้สวมทางศีรษะ ขณะที่มีการสวมใส่เสื้อ
คนยึดติดประเพณีอยู่ตลอดเวลา แต่ในความ บัญชาการกองพลและพลจัตวาบัญชาการ บุชแจ๊คเก็ต (bush jacket) เสื้อเชิ้ตสีเขียว
เป็นจริงมีอยู่บ่อยครั้งที่เครื่องแบบของนายพล กองพลน้อย (brigades) ทั้งนี้ ยศพลจัตวา ชุดฝึกและเสื้อเชิ้ตสีกากีในเอเชียเช่นกัน
เหล่านั้นแสดงลักษณะเฉพาะและการปรับ เพิ่งมีการนำามาใช้ในปี 1928 ก่อนหน้านั้น กางเกงขี่ม้าแบบเป็นทางการของทศวรรษ
เปลี่ยนกฎระเบียบในบางระดับอีกด้วย ยศที่จัดสรรในตำาแหน่งนี้คือพันเอกพิเศษ 1930 ซึ่งเน้นรูปแบบดั้งเดิมที่คับแน่นและ
(colonel commandant) ความนิยมช่วงสั้นๆ ของกางเกงกอล์ฟใน
ยศและหน้าที่ สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือ นายพลและ ช่วงสิ้นทศวรรษดังกล่าวค่อยๆ หลีกทางให้
ยศพิเศษสัมพันธ์กับหน้าที่พิเศษ จอมพล เสนาธิการอังกฤษยังคงใช้เครื่องแบบใน กับเครื่องแบบที่คล่องตัวกว่า นั่นคือ กางเกง
ที่บัญชาการหมู่กองทัพจะรับผิดชอบใน ลักษณะเดียวกับเมื่อปี 1918 เครื่องแบบ ขายาวแบบสนาม (battledress trousers)


ปฏิบัติการเฉพาะพื้นที่ พลเอกบัญชาการ ปกติที่ได้รับการตัดเย็บเฉพาะบุคคลมี กางเกงชุดฝึกขายาวหรือขาสนสกาก ี

กระดุมชุบทองและกระเป๋า 4 ใบพร้อมฝา
รูปเปลือกหอยที่กระเป๋า 2 ใบบน และฝารูป
สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่กระเป๋า 2 ใบล่าง เข็มขัด
แซมบราวน์ กางเกงขี่ม้าและสวมรองเท้าบูต
ทหารม้า
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีแรกๆ ของ
สงครามก็มีการพิจารณาทางเลือกสำาคัญ
ส่วนใหญ่เนื่องจากนายทหารระดับสูงรู้สึก
สะดวกใจกับการปรับมาตรฐานเครื่อง
แบบให้เข้ากับสภาพท้องถิ่นและเพื่อแสดง
ถึงความแตกต่าง ขณะเดียวกันก็มักจะ
ใช้ความแตกต่างสร้างขวัญและกำาลังใจ
ตลอดจนหล่อหลอมอัตลักษณ์ให้แก่หน่วย
ทหาร ซึ่งหมายความว่าบางครั้งก็มีการพัก
เครื่องแบบปกติไว้เสียก่อนแล้วหันมานำา
เครื่องหมายยศมาประดับบนเครื่องแบบ
สนาม (battledress) แทน เครื่องแบบเหล่าน ี ้
มักจะได้รับการตัดเย็บเฉพาะบุคคลทั้งใน
แบบยุโรปหรือตะวันออกกลางที่น้ำาหนักเบา
กว่า แต่ไม่เคยมีชุดฝึกผ้าฝ้ายเนื้อหนา (drill
tunic) หรือเสื้อเชิ้ตสีกากีแบบประหยัด เสื้อ
เชิ้ตสักหลาดอ่อนหรือเสื้อคลุมผ้าขนแกะที่

พลตรี ปี 1940 มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนับแต่
ปี 1918 เป็นต้นมา และยังไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องแบบ
เท่าใดนัก ดุมบนอินทรธนูแข็งและอินทรธนูอ่อนล้วนมี
คทาไขว้กระบี่ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นกระบี่โค้งของทหาร
ม้าเบาแทน

พลจัตวา ปี 1941 มีการกำาหนดให้พลจัตวาสวม
อินทรธนูแข็งบนเสื้อเชิ้ต (มีการผลิตแบบที่ค่อนข้าง
เล็กกว่าสำาหรับติดบนปกและคอแบะเสื้อเชิ้ต) แต่โดย
ทั่วไปจะไม่ติดเครื่องหมายใดไว้ที่ปกเสื้อและใช้การ
แสดงยศบนอินทรธนูอ่อนเท่านั้น

GENERALS AND STAFF 25

บนพื้นสีแดงสดประกอบมงกุฎปักดิ้นทอง เอกลักษณ์ ขณะที่นายทหารอื่นๆ อาจ
(มงกุฎกษัตริย์หรือมงกุฎจักรวรรดิประกอบ ใช้สีดังกล่าวซ้อนหลังเครื่องหมายยศบน
มาลาผ้าสีแดง) พร้อมช่อใบไม้โอบรอบคทา อินทรธนูอ่อนได้ นายทหารเหล่านี้มักจะไม่
จอมพลไขว้ (ซึ่งลดขนาดลงเพื่อให้วางได้ ติดแถบแสดงเหล่า ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยข่าว
พอดีในช่อใบไม้) พลเอกมีมงกุฎเช่นกัน ต่ำา กรองติดแถบแสดงเหล่าสีเขียวและ
ลงมาเป็นดาว 1 ดวงกับกระบี่ทหารม้าเบา สีเขียวซ้อนหลังเครื่องหมายยศบนอินทรธนู
ไขว้คทาที่ท้ายอินทรธนู (จอมพลเคยใช้ นอกจากนี้หน่วยลาดตระเวนและหน่วย
เครื่องหมายนี้มาก่อนหน้านั้นเป็นเวลานาน) ติดต่อกองบัญชาการใหญ่ยังมีผู้สืบข่าว
พลโทมีมงกุฎครอบดาบไขว้กับคทาซึ่งพล กรองที่ติดอักษร P สีขาวไว้บนอินทรธนูสีดำา
ตรีก็ใช้เครื่องหมายเช่นเดียวกันนี้แต่แทนที่ จนกระทั่งหน่วยดังกล่าวกลายเป็นส่วนหนึ่ง
มงกุฎด้วยดวงดาว ส่วนพลจัตวาใช้มงกุฎ ของเหล่ายานเกราะในปี 1944
ครอบดาวสามดวง
นอกจากนี้ยังมีการใช้อินทรธนูแข็ง สิบเอก หน่วยข่าวกรอง ปี 1943 นายทหาร
ประทวนผู้นี้สวมชุดสนามแบบปี 1940 ที่ไม่มีสาบหน้า
(แบบที่เล็กกว่าใช้ติดบนเครื่องแบบสนาม แต่ง่ายต่อการผลิตและราคาถูกกว่า ป้ายโลหะแสดง
หรือเสื้อเชิ้ต) มีหมุดที่มีพระปรมาภิไธยย่อ เหล่าติดไหล่ (มีชื่อย่อเหล่าว่า INT CORPS) มีใช้ติด
และแถบดิ้นปักอยู่บนพื้นหลังที่มีสีต่างๆ กัน อยู่ก่อนใช้ป้ายผ้าแทน
พลเอกเซอร์ เบอร์นาร์ด แอล. มอนต์โกเมอรี ไปตามเหล่าที่สังกัด นายพลและเสนาธิการ
ที่กองบัญชาการรบที่ 8 ของอังกฤษในตริโปลี (Tripoli) ส่วนใหญ่ใช้สีแดงสด เหล่าทหารช่างใช้สีฟ้า
เดือนกรกฎาคม 1943
เหล่าเสนารักษ์ใช้สีแดงเข้ม เหล่าสรรพาวุธ
เช่นเดียวกับการสวมชุดคลุมสั้นของทหาร ใช้สีกรมท่า (กระทั่งปี 1941 จากนั้นเปลี่ยน
ม้าและเสื้อคลุมหนาแบบดั้งเดิมของอังกฤษ เป็นสีแดง) ทหารราชองครักษ์ (Aides-de-




ซึ่งเป็นชุดคลุมสั้นที่มกระดม 2 แถวทหนาอก camp) จะติดพระปรมาภิไธยย่อที่ทำาด้วย

ดิ้นทองไว้ที่อินทรธนูอ่อน นายพลของทหาร
หมวก กองหนุนจะเพิ่มอักษร R ไว้บนอินทรธนูอ่อน
หมวกเครื่องแบบปกติที่มีแถบสีแดงเป็น ด้วย
สามัญมาก เข็มประดับที่มีรูปสิงโตเหนือ ป้ายแสดงเหล่า (formation signs)
มงกุฎทองคำาบนหมวกผ้าสีแดงสำาหรับพล ก็ปรากฏใช้อยู่ทั่วไป มีทั้งแบบแผ่น
จัตวา หรือสิงโตบนดาวและคทา รูปแบบนี้ ป้ายของกองบัญชาการใหญ่ (รวม
ยังถูกนำาไปปรับใช้ทั่วไปโดยไม่มีการออก ทั้งกองบัญชาการใหญ่ที่อินเดียและ
เป็นคำาสั่ง สิ่งที่ต่างออกไปคือ นายพลใน ตะวันออกกลางด้วย) ตลอดจนแผ่นป้าย
เอเชียใช้หมวกปีก (slouch hat) ขณะที่นาย ของหน่วยบัญชาการร่วมพันธมิตร หน่วย
พลในยุโรปเลือกใช้หมวกปกติที่นำาแผ่นรอง บัญชาการมาตุภูมิ หน่วยบัญชาการโพ้น
เสริมความแข็งแรงออกหรือหมวกหนีบที่มี ทะเล หน่วยบัญชาการกองทัพและหมู่
สีตามหน่วยหรือสังกัดเดิม นายพลที่บังคับ กองทัพ กองบัญชาการเหล่าทัพหรือกองพล
บัญชาหน่วยของชาติหนึ่งๆ จะใช้หมวกของ ทหารจากเครือจักรภพหรือหน่วย
หน่วยนั้น ไม่ว่าจะเป็นหมวกกลม (Tam บัญชาการจากชนชาติพลัดถิ่นบางครั้งก็ติด
O’Shanter) หรือหมวกครอบ (bonnet) ของ ป้ายโค้ง (shoulder arc titles) สีต่างๆ ซึ่ง
ชาวสกอต หมวกสี่เหลี่ยมของชาวโปล หรือ มักจะมีชื่อประเทศปักเป็นอักษรสีขาวบนพื้น
หมวกปีกของชาวกุรข่า ขณะที่นายพลของ หลังสีต่างๆ ขณะที่นายทหารชั้นสูงใช้ดิ้นเงิน
อินเดียในช่วงสงครามเริ่มต้นก็สวมหมวก ปักเป็นตัวอักษรแทน ส่วนทหารฝรั่งเศส
กะโล่ (domed sun helmet) โปแลนด์และเช็กยังคงใช้เครื่องหมายยศ
ของชาติตน
เครื่องหมาย
เครื่องหมายยศส่วนมากแสดงไว้บน หน่วยข่าวกรอง
อินทรธนูอ่อน จอมพลประดับตรางดงาม นายทหารเสนาธิการใช้สีแดงสดแสดง

26 THE BRITISH EMPIRE
ทหารราบ






เมื่อสงครามเริ่มขึ้นในปี 1939 ดูเผินๆ ราบเบา ทหารราบในเขตที่ราบสูง หรือทหาร กากี แต่จนกระทั่งปี 1937 จึงได้ข้อสรุปและ
เหมือนกับว่าทหารราบอังกฤษแต่งกายด้วย ราบภาคพื้นดิน มีความแตกต่างกันเล็กน้อย เริ่มผลิตในปี 1938 กระนั้นแรงกดดันในแง่


เครื่องแบบที่ใช้มาในปี 1918 ทว่าภายใต้สิ่ง ในบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ แต่ความหลาก ทรัพยากรทาให้หลีกเล่ยงไม่ได้ท่หลายหน่วย

ที่มองเห็นนั้นยังมีการปรับเปลี่ยนที่พยายาม หลายของเครื่องแบบ เครื่องหมายและ ยังไม่มีชุดแบบใหม่ในปี 1939 และต้องใช้
ทำาให้เครื่องแบบและเครื่องไม้เครื่องมือของ คำาขวัญของแต่ละหน่วยก็ต่างกันไปอย่าง ชุดปกติแบบเดิมไปก่อนซึ่งเป็นเสื้อแบบเดิม

ทหารประหยัดแต่มิได้สบายหรอสวยงาม หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ใช้มาตั้งแต่สงครามครั้งที่แล้ว คือ เสื้อปก
เสมอไป การส่งหน่วยทหารอังกฤษไปปฏิบัติการ ตั้ง มีกระเป๋า 4 ใบ (กระเป๋าสองใบที่หน้าอก
แม้ว่าจะมีทหารราบหลายแบบ แต่ ในยุโรป แอฟริกา แถบเมดิเตอร์เรเนียนและ เป็นแบบมีจีบ และทุกใบมีฝาปิดสี่เหลี่ยม)
ทั้งหมดก็ปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะเดียวกัน ตะวันออกไกล ทำาให้มีเครื่องแบบที่หลาก ด้านหน้ามีกระดุมโลหะ 5 เม็ด ชุดปกติเช่นนี้
ไม่ว่าจะเป็นทหารราบรักษาการณ์ ทหาร หลายและได้รับการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง
หรือสลับสับเปลี่ยนตลอดช่วงสงคราม ถึง
แม้อังกฤษจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำานาจทาง
อุตสาหกรรมก่อนชาติอื่นๆ แต่ก็ยังอาศัย
ปัจจัยการผลิตจากอาณานิคม เครือจักรภพ
และพันธมิตร (จากความช่วยเหลือในการ
ทำาสงครามของอเมริกาสู่เครื่องแบบสนาม
ของแคนาดาและเสื้อบุชเชิ้ตของอินเดีย)

เครื่องแบบสนาม
สิ่งสำาคัญยิ่งในเครื่องแบบทหารราบ
อังกฤษคือเครื่องแบบสนาม ชุดผ้าเนื้อ
หยาบ ไม่ได้ขนาดและกลิ่นฉุนจัดนี้มาจาก
การแช่สารเคมี แต่ก็พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว
ว่าได้รับความนิยมกว้างขวาง มีทั้งการตอบ
รับและการเลียนแบบ ดังเห็นได้จากการที่
ฝรั่งเศสสั่งซื้อ 100,000 ชุดจากแคนาดาใน
ปี 1944 และในช่วงปลายสงครามก็ผลิตชุด
ทำานองเดียวกันออกมา
ในปี 1932 เริ่มมีการหารือกันถึงเสื้อ
แบบต่างๆ ที่จะสวมใส่กับกางเกงกอล์ฟสี


พลทหาร กองพันที่ 4 กรมทหารรักษาชายแดน
ปี 1940 ทหารราบช่วงต้นสงครามออกปฏิบัติหน้าที่
โดยคล้องกระเป๋าสัมภาระซึ่งหมวกกันแก๊สพิษอยู่บน
สุด (กระเป๋าสายสีขาวคล้องอยู่บนบ่า) เช่นเดียวกับ
หน้ากากกันแก๊สพิษหรือเครื่องหายใจในกระเป๋าผ้าใบ
เครื่องช่วยหายใจรุ่น Mark IV ที่หน้าอกสามารถปลด
ออกมาสวมได้อย่างรวดเร็วหากถูกโจมตี

พลทหาร กองพันที่ 2 กรมทหารปืนเล็กยาว
รักษาพระองค์ ปี 1940 กรมทหารปืนเล็กยาวอังกฤษ
ยังเห็นว่าตนเป็นชนชั้นผู้นำาและสวมเครื่องแบบที่แตก
ต่างอยู่ไม่น้อย รวมถึงกระดุมรมดำา ภาพพลปืนเลกยาวน ้ ี

สะพายเครื่องหลังทำาด้วยหนังแบบปี 1939 ที่
กำาหนดให้เป็นยุทธภัณฑ์ขาดแคลนหรือใช้
สำาหรับทหารที่เข้ารับการฝึก

INFENTRY 27










1 2 3 4 5





6 7 8









9 10 11 12 13 14


เครื่องหมายยศทหารราบ 1 สิบตรี 2 สิบโท พันตรี กรมทหารเคนท์ตะวันออก ปี 1940
3 สิบเอก 4 จ่าสิบตรี 5 สิบเอก (1945) 6 จ่าสิบโท นายทหารสามารถเลือกซื้อเครื่องแบบพร้อมสวมใส่
7 จ่าสิบโท 8 จ่าสิบเอก 9 ร้อยตรี 10 ร้อยโท หรือเครื่องแบบที่ตัดเย็บโดยช่างตัดเสื้อส่วนบุคคล
11 ร้อยเอก 12 พันตรี 13 พันโท 14 พันเอก ทั้งสองแบบตัดเย็บจากผ้าคุณภาพดีกว่าชั้นประทวน
ปกตินายทหารจะมีปืนลูกโม่ยี่ห้อเว็บลีย์โดยใส่ไว้ใน
มักจะมีดุมเครื่องหมายและเข็มเครื่องหมาย ซองหนังแบบมีสายรัดยี่ห้อมิลส์ ซึ่งมักจะฟอกให้เป็น
สีขาวหรือสีกากีแกมเขียวมะกอก
ติดที่ปกเสื้อ ทั้งยังมีป้ายโลหะติดอยู่ที่ไหล่
(เป็นชื่อหรืออักษรย่อของหน่วยทหาร) แบบสนามตัดเย็บด้วยผ้าสีเขียวเข้มปน
แต่ชุดสนามต่างออกไป คือ สั้นเพื่อ เหลืองทึม (olive drab) คุณภาพดีและนำาไป
ประหยัดวัตถุดิบที่มักจะเป็นผ้าเสิร์ท (ผ้าทอ ใช้กับหน่วยทหารในอิตาลีเป็นหลัก เสื้อแบบ
ลายสอง) คุณภาพดี ซึ่งได้รับการออกแบบ นี้ใช้กระเป๋าแบบเรียบและมีสาบหน้า ขณะ
มาให้สวมใส่โดยไม่ต้องประดับเครื่องหมาย ที่ชุดซึ่งผลิตในแคนาดาก็มีใช้เช่นกัน เป็น
มีกระดุม 5 เม็ดซ่อนอยู่หลังสาบหน้า คอปก เสื้อที่มีสีเขียวเข้มกว่า โดยรวมมีคุณภาพดี
เสื้อแบบเรียบ (ติดด้วยตะขอ 2 อัน) และ กว่าและมีปลายฝากระเป๋าแหลมกว่า
มีอินทรธนูอ่อนติดกระดุม นอกจากนี้ยังมี นายทหารสวมเครื่องแบบสนามคล้าย
กระเปาที่หน้าอกแบบมีจีบ 2 ใบและฝา กัน แต่มักจะเป็นเสื้อคอแบะเผยให้เห็นเสื้อ

กระเป๋ารูปเปลือกหอย (ซ่อนกระดุม) และมี เชิ้ตสีเขียวหรือสีกากีและเนกไท ซับในเสื้อ
กระเป๋าอีก 1 ใบอยู่ในอกเสื้อด้านซ้ายของผู้ กลับด้านเกือบถึงคอแบะ (ซึ่งซีดจางเป็น และสนับสนุนให้เปลี่ยนจากเครื่องแบบปกติ
สวมใส่ มีการเสริมความแข็งแรงของเสื้อที่ สีขาวนวล) เสื้อผ้าแบบนี้ตัดเย็บขึ้นเฉพาะ เป็นเครื่องแบบสนาม พร้อมกันนี้ก็มีการใช้
บริเวณเอว สาบเสื้อและข้อศอก ตัวด้วยผ้าเนื้อดีกว่า ชุดปกติก็ยังคงมีให้พบ ป้ายแสดงเหล่าที่ถอดออกง่ายแทน ป้ายผ้า
การขาดแคลนผ้าจำานวนมากหมาย ได้ในช่วงต้นของสงครามซึ่งยังรักษาการ สักหลาดซึ่งลดรายละเอียดของป้ายโลหะ
ถึงต้องมีการปรับปรุงเครื่องแบบสนาม ออกแบบส่วนใหญ่ที่มีมาตั้งแต่ 1902 ไม่ มักจะเป็นผ้าสีกากีหรือสีน้ำาตาล ป้ายแบบ
ท่ามกลางข้อจำากัดของสงคราม เครื่องแบบ เปลี่ยนแปลง ถอดได้นี้นิยมใช้กันมากขึ้นเมื่อมีการนำาป้าย
อย่างประหยัดที่เริ่มใช้ในปี 1940 แต่มีการ ผ้ามีสีมาใช้ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของป้าย


ใช้จริงน้อยมากก่อนปี 1942 นั้นไมใชผาเสรท เครื่องหมาย โค้งที่มีตัวอักษรสีขาว เช่น ป้ายกรมทหาร



อีกต่อไปแต่เปลี่ยนไปใช้ผ้าขนสัตว์และเพื่อ เครื่องแบบสนามตัดเย็บขึ้นจากแนวคิดให้ พลร่มแฮมพ์เชอร์ (Hampshire Regiment)
ให้ง่ายต่อการผลิตก็ยกเลิกสาบหน้าหรือ สวมใส่อย่างเรียบง่ายและเคร่งขรึม ป้าย ใช้อักษรสีเหลืองบนพื้นสีดำา ทหารราบรักษา
การติดกระดุมซ่อนที่ฝากระเป๋า กระดุมส่วน ติดไหล่ทำาด้วยทองเหลืองที่ใช้บอกเหล่าไม่ การณ์เป็นกลุ่มแรกที่นำาการปักอักษรเช่น
ใหญ่ในเวลานั้นเปลี่ยนเป็นพลาสติก ได้รับอนุญาตให้ใช้อย่างเป็นทางการกับ นี้มาใช้แล้วหน่วยอื่นๆ ก็ใช้ตาม กระทั่ง
ชุดตัวอย่างที่ผลิตในสหรัฐฯ เป็นเครื่อง เครื่องแบบนี้ แต่ก็มีหลายหน่วยที่ยังคงใช้ ปี 1943 จึงมีการออกระเบียบรองรับเป็น

28 THE BRITISH EMPIRE

ทางการและมีการใช้ป้ายชื่อแบบพิมพ์ใน หน่วยพลาธิการใช้สีเทา/เหลือง แม้ว่าทหาร ได้รับความนิยมมากในยุโรปเหนือนับแต่ปี
เวลาต่อมา ราบใช้แถบสีแดง แต่ก็ยังมีข้อกำาหนดปลีก 1941 เป็นต้นมา
เดือนกันยายน 1940 ในขณะที่ ย่อยลงไปอีกว่าให้ใช้หนึ่งแถบหากสังกัด กองทหารที่เคลื่อนพลเข้าสู่แถบ
พยายามจะลดความเด่นของสีเหลืองทึม กองพลน้อยที่ 1 สองแถบสำาหรับกองพล เมดิเตอร์เรเนียนและเอเชียใช้รูปแบบที่

(drab) ลง หรือฟื้นฟูตราบอกสังกัดขึ้นมาใหม น้อยกลางและสามแถบสำาหรับกองพลน้อย แตกต่างด้วยการสวมชุดฝึกสีกากี ส่วนกอง
จึงมีการนำาแถบแสดงหน่วยทหาร (branch- รองๆ ลงไป ทหารในอิตาลีดูจะเป็นหน่วยเดียวที่ยังคงยึด
of-service strips) มาใช้ แถบผ้าบางๆ ติด เครื่องหมายกองพลซึ่งมีใช้โดยทั่วไป เครื่องแบบตามอย่างที่ใช้กันในยุโรปเหนือ
อยู่ที่ต้นแขนและปลายแขนเสื้อแต่ละข้าง ในสงครามครั้งล่าสุดนั้นได้รับความนิยม
ของเครื่องแบบสนามและเสื้อคลุมใหญ่ สีที่ นำากลับมาใช้อีกในปี 1940 ในเบื้องต้น ยศ
เลือกสำาหรับทหารราบคือสีแดง แต่กรมปืน เครื่องหมายกองพลถูกจำากัดให้ใช้เฉพาะ นายทหาร นอกจากจะสวมเครื่องแต่งกายที่
เล็กยาวใช้สีเขียว ขณะที่หน่วยพิเศษหลาย กับยานพาหนะแต่หน่วยทหารที่ส่งไป แตกต่างและตัดเย็บดีกว่าแล้วยังประดับยศ
หน่วยก็เลือกใช้สีต่างๆ กันไป ได้แก่ หน่วย ยังฝรั่งเศสก็นิยมเย็บป้ายชื่อหน่วยหรือ บนอินทรธนูอ่อน เครื่องหมายยศประกอบ
บัญชีใช้สีเหลือง หน่วยการศึกษาใช้สีฟ้า สัญลักษณ์กองพลลงบนไหล่ เครื่องหมาย ด้วยดาวที่ทำาจากผ้าและสำาหรับนายทหาร
อ่อน หน่วยฝึกฝนกายภาพกองทัพใช้สีดำา/ กองพลดูจะเป็นที่นิยมมากดังมีหลักฐาน ระดับสูงยังเป็นดาวประกอบมงกุฎ ซึ่งล้วน
แดง/ดำา หน่วยช่างโยธาใช้สีแดง/เขียว และ ในบันทึกข้อความห้ามใช้ในเดือนเมษายน กลายมาจากเครื่องหมายโลหะที่ใช้ประดับ
1940 แต่ในอีก 5 เดือนถัดมาก็เปลี่ยนแปลง ในยามสงบนั่นเอง ดาวซึ่งมักเรียกกันอย่าง
เมื่อมีความต้องการที่จะสร้างขวัญและ ผิดๆ ว่า พิพ (pip) เป็นของสกุลแห่งบาธ
กำาลังใจและเครื่องกองพล (หรือกองทัพ (Order of the Bath) ขณะที่กางเขนมอลตา
หน่วย หรืออื่นๆ) ก็ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ (Maltese crosses) บนผ้าสีกากีนั้นวางอยู่
ทั้งนี้ เครื่องหมายดังกล่าวใช้ติดบนเครื่อง บนลวดลายแสงอาทิตย์ที่มีสีอ่อนกว่า
แบบสนามในตำาแหน่งเหนือแถบบอกหน่วย ร้อยตรีมีดาว 1 ดวง ร้อยโทมีดาว 2 ดวง
ทหาร แต่ก็มีบางหน่วยที่เพิ่มป้ายแสดงกรม และร้อยเอกมีดาว 3 ดวง พันตรีมีมงกฎ 1 องค ์
ไว้ใต้แถบดังกล่าวด้วย เครื่องหมายเช่นนี้ พันโทมีมงกุฎ 1 องค์ครอบดาว 1 ดวง และ
พันเอกมีมงกุฎ 1 องค์ครอบดาว 2 ดวง
สิบเอก กรมทหารปืนเล็กยาวอุลสเตอร์รักษา ปลายปี 1939 มีการหารือเกี่ยวกับการ
พระองค์ (กองพันที่ 2) ปี 1944 แถบ 2
อันบนแขนเสื้อแสดงว่ากรมปืนเล็กยาว ใช้สีบอกเหล่าซ้อนหลังเครื่องหมายของนาย
นี้เป็นกองพลน้อยที่ 2 และกองพล ทหารซึ่งเป็นที่ยอมรับนับแต่เดือนกันยายน
ที่ 3 ซึ่งแสดงด้วยเครื่องหมาย 1940 เป็นต้น กล่าวคือเหล่าทหารราบใช้สี
สามเหลี่ยมซ้อนอยู่ในสามเหลี่ยม แถบสีน้ำาตาลที่ แดง (เหล่าปืนเล็กยาวใช้สีเขียว) เหล่าช่าง
ปลายสุดของอินทรธนูอ่อนแสดงว่าทหารชั้นประทวน โยธาก็ใช้สีแดงตั้งแต่ปี 1943 และเช่นเดียว
นายนี้สังกัดกองร้อย B ในกองพันที่ 2
กับเหล่าสารวัตรทหารที่ใช้สีแดงตั้งแต่ 1944
ยุทโธปกรณ์ทหารราบ กระเป๋าสัมภาระมีสายรัด นายทหารสัญญาบัตรพิเศษไม่มีข้อกำาหนด
แบบ 37 ถูกนำามาใช้ในปี 1937 ซึ่งนอกจากจะใช้บรรจุ ให้ใช้สีซ้อนหลังเครื่องหมาย (ใช้ตราเหล่า
กระสุนปืนเช่นเดียวกับรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว สังกัดติดบนแขนเสื้อสำาหรับชั้นที่ 1 มงกฎ

ยังสลับสับเปลี่ยนส่วนประกอบเพื่อปรับตามความ

ต้องการของทหารได้อีกด้วย พรอมช่อใบไม้บนแขนเสื้อสำาหรับชั้นที่ 2

INFENTRY 29


ร้อยโท ทหารราบเบาซัมเมอร์เซ็ต 1944 ดาว
บนบ่ามีสีแดงซ้อนหลังแทนที่จะเป็นสีเขียว แม้เดิม
กรมนี้จะมีกำาเนิดจากกรมทหารเบา แต่ก็ไม่ได้รับการ
จัดหมวดหมู่เหมือนกรมทหารปืนเล็กยาวและไม่ได้
สิทธิ์ใช้สีเขียวของปืนเล็กยาวอีกด้วย

พลทหาร กรมทหารสตัฟฟอร์ดเชอร์เหนือ
(กองพันที่ 6) ปี 1943 เครื่องแบบสนามที่แช่สาร
เคมีให้กันแก๊สมัสตาร์ดได้ วิธีการกันเม็ดพุพอง (มีการ
ประทับตรา ‘AV’ บนเครื่องแต่งกายที่ผ่านการแช่สาร
เคมีแล้ว) มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวิธีการกันยุงหรือ
แมลงต่างๆ
รักษาพระองค์ กองพลน้อยปืนเล็กยาว และ
หลังจากถกเถียงในระดับหนึ่งแล้วก็ยังรวม
ถึงกองพันบักกิงแฮมเชอร์ในกองทหารราบ
เบาออกซ์ฟอร์ดเชอร์และบักกิงแฮมเชอร์
กรมทหารราบเบาเหล่านี้ใช้เครื่องหมาย
รมดำา แถบแสดงเหล่าสีเขียว (1 2 หรือ 3 เสน)

และแถบชื่อเหล่าสีเขียว (ใช้อักษรสีดำา
หรือสีแดง) นายทหารใช้สีเขียวซ้อนหลัง
เครื่องหมายยศ(ตรงกลางสีเข้ม) ส่วน
นายทหารประทวนใช้บั้งสีดำาบนพื้นแดง
นอกจากนี้กรมทหารเหล่านี้ยังต่อสู้เพื่อ
เรียกร้องอย่างเต็มที่และยาวนานเพื่อรักษา

เอกลักษณ์การใช้กระดุมสีดำาเอาไว้ โดยที่มการ
อนุญาตให้นายทหารได้อภิสิทธิ์ดังกล่าวใน
ปี 1943 และทหารยศอื่นๆ ก็ดูจะใช้เหมือน
กัน (ตรงกันข้ามกับคำาสั่ง)

ทหารสกอตและทหารไอริช
เครื่องแบบสนามเข้ามาแทนที่การแต่งกาย
ตามธรรมเนียมของกรมทหารไฮแลนด์และ
โลว์แลนด์ เครื่องแบบปกติที่มีชายหลังยาว
และกระโปรงสั้นลายตาหมากรุกถูกกันไว้
ให้ใช้ในยามมีพิธีการ แต่ในแง่ของหมวก
และมงกุฎบนแขนเสื้อสำาหรับชั้นที่ 2) นาย ทหารสกอตเรียกร้องให้คงเอกลักษณ์ดัง



ทหารประทวนประดับบั้งผ้าสักหลาดที่แขน กล่าวไว้ ซึ่งเป็นเรื่องจริงจังมากสำาหรับนาย หลงเครองหมายกรมทหาร กล่าวคือ กรม


เสื้อบริเวณเหนือข้อศอก จ่าสิบตรีเพิ่มมงกุฎ ทหาร เพราะเกือบทั้งหมดปฏิเสธหมวกมี ทหารกอรดอนไฮแลนเดอร์สใช้ลายกอรดอน
1 องค์เหนือบั้ง 3 อันของสิบเอก สิบโทมีบั้ง กะบังหน้าที่ใช้อยู่ในช่วงก่อนเกิดสงคราม (Gordon tartan) กรมทหารคาเมรอนเนียน
2 อันและสิบตรีมีบั้ง 1 อัน บางครั้งบั้งก็ได้ หมวกนักล่าสัตว์ (Glengarry cap) ใช้ลายดักลาส (Douglas tartan) ขณะที่
รับการปรับให้ติดบนเสื้อเชิ้ตได้ง่ายขึ้นและ เป็นสิ่งที่พบได้ยากเช่นเดียวกับหมวกครอบ ลายที่กรมทหารซีฟอร์ธไฮแลนเดอร์สใช้
ในปี 1945 ก็มีการเย็บติดกันเป็นแผ่นเดียว (Atholl bonnet) ซึ่งทหารพรานโลวัต (Lovat มีความซับซ้อนมากขึ้น กล่าวคือ กองพัน
Scouts) และหน่วยทหารบางภูมิภาคยังคง ที่ 5 (ภาคพื้นทวีป) ใช้ลายซูเทอร์แลนด์
ทหารราบเบา สวมอยู่ แต่หมวกกลมทำาจากผ้าสักหลาด (Sutherland tartan) ขณะที่กองพันอื่นๆ
กรมทหารปืนเล็กยาวจำานวนหนึ่งยึด (Tam O’Shanter) กลับเป็นสิ่งที่ได้รับความ ใช้ลายแม็กเคนซี (Mackenzie tartan) และ
ธรรมเนียมการใช้สีเขียวเป็นสีประจำากรม นิยม กรมทหารแบล็ควอทช์นิยมสวมแบบ ทุกครั้งที่มีโอกาสกองทหารสกอตจะสวม
ส่วนใหญ่ได้แก่ กรมทหารคาเมรอเนียน ที่มีขนนกประดับเช่นเดียวกับทหารแบลม กระโปรงสั้นลายสกอตและสนับแข้งสีขาว
(Cameronians) กรมทหารปืนเล็กยาวรักษา อรัล (Balmoral) ส่วนหมวกมีกะบังหน้านั้น หรือกางเกงรัดรูปลายสกอตสำาหรับนาย
พระองค์ กรมทหารปืนเล็กยาวอุลสเตอร์ มักจะสวมโดยมีแผ่นลายตาหมากรุกติดอยู่ ทหาร

30 THE BRITISH EMPIRE

พลทหาร กองพันที่ 5 หน่วยทหารรักษาการ
กองทหารยานเกราะ ปี 1944 กองพันที่ 5 ติดเลข 5
โรมันไว้ใต้แถบบอกเหล่ายานเกราะ ทหารราบ
ที่ปฏิบัติงานในกองทหารยานเกราะมักจะสวม
เครื่องแบบเช่นนี้ แม้จะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง
เครื่องหมายต่ำาลงไปเป็นของกองยานเกราะ
รักษาการณ์รูปดวงตาเบิกตลอดเวลาซึ่งเกิดขึ้นมา
ตั้งแต่ปี 1941

สิบโท ทหารราบเบาไฮแลนด์ ปี 1944 หมวกที่
โดดเด่นและขนาดค่อนข้างใหญ่มีข้อความว่า
“Assaye” (ชัยชนะในอินเดีย ปี 1803) อยู่เหนือ
รูปช้าง กรมทหารกำาหนดว่าในยามเป็นทางการให้
สวมกางเกงรัดรูปลายสกอตแทนที่จะเป็นกระโปรง
สั้น ซึ่งนายทหารหลายคนก็เลือกสวมเครื่องแต่ง
กายเช่นนี้เป็นชุดพิเศษอีกด้วย

ทหารรักษาการณ์
หน่วยรักษาการณ์เป็นกลุ่มแรกๆ ที่สวม
ป้ายชื่อโค้งมีสีที่บ่า แนวคิดดังกล่าว
ได้รับการรับรองให้ใช้กับชุดปกติได้ใน
ปี 1936 และอาจมีการนำาไปใช้กับเครื่อง
แบบสนามในเวลาต่อมา ทหารรักษาการณ์
โคลด์สตรีมและเกรนาเดียร์ (Coldstream
and Grenadier Guards) ใช้อักษรสีขาว
บนพื้นสีแดง ทหารรักษาการณ์ไอริช (Irish
Guards) ใช้อักษรสีขาวบนพื้นสีเขียว ทหาร
รักษาการณ์สกอต (Scots Guards) ใช้
อักษรสีเหลืองบนพื้นสีฟ้าและชาวเวลส์
ใช้อักษรสีขาวบนพื้นสีดำา นอกเหนือจากนี้
ทหารรักษาการณ์ยังใช้ป้ายโลหะ เช่น ป้าย
อักษร ‘SG’ กับดอกทิสเซิล (thistle) สำาหรับ
ทหารรักษาการณ์สกอต ป้ายอักษร ‘WG’
กับต้นกระเทียม (leek) สำาหรับชาว
เวลส์ หรือใช้ตราแบบฉลุที่ถอดออก
ได้ นายทหารรักษาการณ์มีประดับ
เครื่องหมายยศบนบ่า ดังนี้ ทหารมา ้
อังกฤษ (Household Cavalry) ทหาร การณ์ก็ปรับปรุงเครื่องหมายหน่วยรักษา
รักษาการณ์เกรนาเดียร์ ทหารรักษาการณ์ การณ์จากสงครามครั้งก่อน
การที่ไอร์แลนด์ซึ่งขณะนั้นเป็น โคลด์สตรีม และทหารรักษาการณ์เวลส์ใช้
เอกราชและเป็นกลางนั้น จึงมีเพียงกรม ดาวจากเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์ หมวกเหล็ก
ทหารของกองทัพอังกฤษไม่กี่กรมที่ยังคง (the Order of the Garter) ทหารรักษา หมวกเหล็กรุ่น Mark I ซึ่งมีรูปทรงกลม
รักษาธรรมเนียมการแต่งกายแบบไอริช การณสกอตใชดาวจากเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นเอกลักษณ์มีบทบาทสำาคัญในกองทัพ


ไว้ ชาวไอริชในลอนดอนรับเอาหมวกครอบ ทิสเซิล (the Order of the Thistle) และ อังกฤษเมื่อสงครามครั้งที่ผ่านมา ซึ่งพิสูจน์
(caubeen bonnet) ในปี 1937 (บางครั้งก็ ทหารรักษาการณ์ไอริชใช้ดาวจากเครื่อง แล้วว่าผลิตง่าย ให้การป้องกันที่เหมาะสม
มีขนนกสีฟ้าประดับ) แต่เป็นที่นิยมในอิตาลี ราชอิสริยาภรณ์เซนต์แพททริก (the Order อย่างน้อยก็ในระหว่างการรบในสนามเพลาะ
เมื่อปี 1943 โดยกรมทหารอินนิสกิลลิง of St Patrick) ส่วนทหารรักษาการณ์โคลด์ และมีการผลิตออกมาเป็นจำานวนมาก รุ่นที่
รักษาพระองค์ (ขนนกสีเทา) และกรมทหาร สตรีมยังคงรักษาธรรมเนียมการประดับเลข ปรับปรุงขึ้นคือ Mark II ปรากฏขึ้นในปลาย
ปืนคาบศิลาไอริชรักษาพระองค์ (ขนนก กองพันเป็นเลขโรมันบนแขนเสื้อเครื่องแบบ ทศวรรษ 1930 (ที่จริงตั้งแต่เดือนมิถุนายน
สีเขียว) สนามเอาไว้ และกองพลยานเกราะรักษา 1939) และกลายเป็นเครื่องป้องกันศีรษะ


Click to View FlipBook Version