ั
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล ราชินีแห่งนครท้งมวล
Constantinople: The Queen of Cities
ชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล: เขียน
ราคา 340 บาท
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล.
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล ราชินีแห่งนครทั้งมวล = Constantinople: the queen of cities.-- กรุงเทพฯ :
ยิปซี กรุ๊ป, 2566.
294 หน้า.
1. ตุรกี -- ประวัติศาสตร์. 2. ยุโรป -- ประวัติศาสตร์. I. ชื่อเรื่อง.
949.61
ISBN 978-616-301-775-8
© ข้อความในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
บรรณาธิการอำานวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา วันวิสา เขตรดง
ณัฎฐิ์ภัทร์ ศิรพึ่งเงิน อันโตนิโอ โฉมชา
นักศึกษาฝึกงานกองบรรณาธิการ : จตุพร นาคใหม่ ณัฐดนัย ทัพพุ่ม สหัสทิวา กิจจริต
พิสูจน์อักษร : JoJo Pumpkin
รูปเล่ม : Evolution Art
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดพิมพ์และจัดจำาหน่ายโดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร 0 2728 0939 ต่อ 108
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939
CONSTANTINOPLE
The Queen of Cities
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ั
ราชินีแหงนครท้งมวล
่
ชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล
�
�
คานาส�านักพิมพ์
ี
ิ
ื
เม่อเอ่ยถึงมหานครท่ย่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก คงต้องนึกถึง
ิ
ื
เปอร์เซโปลิส โรม ไคโร แบกแดด ปักก่ง ปารีส ลอนดอน และเช่อว่า
ื
ื
ย่อมมีช่อของนครอิสตันบูลหรือคอนสแตนติโนเปิลในอดีตอยู่ในรายช่อ
มหานครเหล่าน้นด้วยอย่างแน่นอน
ั
ี
คอนสแตนติโนเปิลเป็นมหานครท่ต้งอยู่ในทาเลท่เป็นยุทธศาสตร์
ั
ี
�
ั
เช่อมต่อสามทวีปท้งเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา จึงเป็นศูนย์กลางทางการ
ื
เมือง เศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรมของจักรวรรดิต่างๆ ยาวนาน
เกือบ 1,600 ปี ต้งแต่ยุคโรมัน-ไบแซนไทน์ ละติน จวบจนจักรวรรด ิ
ั
ออตโตมัน อีกท้งตกเป็นท่หมายปองของอารยธรรมต่างๆ นับแต่อดีตกาล
ี
ั
จนถูกศัตรูบุกรุกโจมตีนับคร้งไม่ถ้วน
ั
นอกเหนือจากความสาคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจแล้ว
�
ื
คอนสแตนตโนเปิลยงมีชอเสยงในฐานะเป็นศนย์กลางการท่องเท่ยวท่ม ี
ี
ู
ั
ี
ิ
่
ี
ั
เสน่ห์สะกดตราตรึงผู้มาเยือนตลอดมา ด้วยช่องแคบบอสฟอรัสท่ค่นกลาง
ี
ระหว่างฝั่งเอเชียกับฝั่งยุโรปทาให้คอนสแตนติโนเปิลเป็นมหานครสอง
�
ี
ี
�
ี
ทวีป นอกจากน้ยังมีโบราณสถานและสถานที่ท่องเท่ยวท่สาคัญมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นมัสยิดอายาโซเฟีย สุเหร่าสีน�าเงิน พระราชวังโทปคาปึ หรือ
้
บาซาร์ท่เก่าแก่ท่สุดแห่งหน่งของโลก
ี
ึ
ี
ี
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิลเล่มน้ ถือได้ว่าเป็นหนังสือ
ี
ไตรภาคเก่ยวกับตุรกีของชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล ต่อจากผลงานแปล
“ประวัติศาสตร์ตุรกี” ของศาสตราจารย์นอร์แมน สโตน และงานเขียน
ึ
“The Ottoman Empire มหาจักรวรรดิผู้พิชิต” ซ่งชาครีย์นรทิพย์ฯ
ึ
ได้ใช้เวลาหน่งปีในการศึกษา รวบรวม และคัดสรรข้อมูลต่างๆ มาเรียบเรียง
�
ี
ั
ื
นาเสนอเร่องราวของราชินีแห่งนครท้งมวลแห่งน้ ไม่ว่าจะเป็นประวัต ิ
ของคอนสแตนตินมหาราช ผู้ก่อต้งกรุงคอนสแตนติโนเปิล และสุลต่าน
ั
�
ี
เมห์เหม็ดท่ 2 ผู้พิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิล ไปจนถึงเร่องราวของกาแพง
ื
ื
แห่งคอนสแตนติโนเปิลท่คุ้มครองมหานครแห่งน้ให้อยู่รอดจากเง้อมมือ
ี
ี
ู
ั
ของศตรมายาวนานหลายร้อยปี มนตร์เสน่ห์ของช่องแคบบอสฟอรสและ
ั
อ่าวโกลเดนฮอร์น จวบจนเร่องราวของการท่กรุงคอนสแตนติโนเปิลถูก
ื
ี
พิชิตในสงครามครูเสดคร้งท่ 4 และปี ค.ศ. 1453 ซ่งถูกกองทัพจักรวรรด ิ
ึ
ี
ั
ื
ี
้
ั
�
ั
่
ั
ิ
ุ
ิ
ี
ออตโตมนบกพชตอย่างถาวร อกทงยงนาเสนอเรองราวของไฟกรก
และปืนใหญ่ หน่งอาวุธพิทักษ์หน่งอาวุธพิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิล
ึ
ึ
�
ี
โรคระบาดจัสติเนียน โรคร้ายท่เกือบทาให้กรุงคอนสแตนติโนเปิลเป็น
ี
เมืองร้าง สัญลักษณ์การเปล่ยนผ่านแห่งคอนสแตนติโนเปิล นครแห่งเขา
7 ลูก หอคอยแห่งมหานคร ปกิณกะจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลสู่นคร
อิสตันบูล จากอดีตสู่ปัจจุบันและอนาคต
ส�านักพิมพ์เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะน�าเสนอเกร็ด ประวัติ ข้อมูล และ
มมมองเกยวกับคอนสแตนติโนเปิล หรอนครอสตนบูลในรปแบบใหม่ๆ ท ่ ี
ั
ู
ื
ี
่
ิ
ุ
ี
ึ
น่าสนใจจากนักเขียนท่คุ้นเคยและคลุกคลีกับตุรกีมายาวนาน ซ่งได้บรรจง
ึ
�
�
ื
เลือกสรรเร่องราวมานาเสนออย่างสนุกและแปลกใหม่ ซ่งจะทาให้ท่าน
ี
ได้รู้จักมหานครแห่งน้ในอีกมุมหน่ง
ึ
ด้วยมิตรภาพ
�
สานักพิมพ์ยิปซ ี
�
�
คานาผู้เขียน
นครอิสตันบูล หรือกรุงคอนสแตนติโนเปิล นอกจากจะเป็นเมือง
ท่ใหญ่ท่สุดของตุรกีในปัจจุบันซ่งเป็นหัวใจด้านเศรษฐกิจและการค้าของ
ึ
ี
ี
่
่
ั
ี
ั
ื
่
ึ
ื
ี
่
ประเทศแล้ว ยงเป็นเมองทมนกท่องเทยวมาเยอนมากทสดเมองหนงของ
ี
ื
ุ
ี
่
ี
โลก โดยในปี ค.ศ. 2019 มีนกท่องเทยวมาเทยวนครอสตนบูล 14.7 ล้าน
ั
่
ิ
ี
ั
ี
�
ี
ี
ี
คน ทาให้ได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองท่มีนักท่องเท่ยวมาเท่ยวมากท่สุด
เป็นอันดับท่ 9 ของโลกจากการจัดอันดับ Top 100 Cities Destinations
ี
ของ Euromonitor International และข้นมาจากอันดับท่ 10 ในปี ค.ศ.
ี
ึ
2018 โดยนอกจากจะเป็นมหานครท่มีความทันสมัยและมีชีวิตชีวาแล้ว
ี
่
�
ั
ั
ี
ิ
ิ
อสตนบลยงเป็นทตงของสถานทสาคญทางประวตศาสตร์มากมาย สมกบ
ั
ั
ู
ั
่
้
ี
ั
ึ
ท่มหานครแห่งน้มีอายุยาวนานกว่า 2,300 ปี นับต้งแต่ยุคการก่อต้งข้น
ั
ั
ี
ี
ในนาม ไบแซนทิอุม หรือไบแซนเทียม ราว 657 ปีก่อนคริสต์ศักราช จน
มาถึงการถูกเลือกและสถาปนาข้นเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของจักรวรรด ิ
ึ
�
โรมัน ภายใต้การนาของจักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราชในปี ค.ศ. 330
ไปจนถงการถกกองทพครเสดท 4 ในช่วงปี ค.ศ. 1202–1204 ซงบุก
่
ี
ู
ั
่
ึ
ู
ึ
ื
ุ
ิ
ั
ี
ยดครองอย่างไม่มใครคาดคดว่ากองทพครสเตยนจะบกเมองของชาว
ึ
ิ
ี
คริสต์ด้วยกันเอง และการตกสู่มือของกองทัพออตโตมันในปี ค.ศ. 1453
คงไม่ผิดนัก หากจะกล่าวว่า แทบทุกซอกทุกมุมของนครอิสตันบูล
แทรกซ่อนไว้ด้วยประวัติศาสตร์ท่น่าสนใจ และสถานท่ท่องเท่ยวสาคัญ
ี
ี
�
ี
ท่ดึงดูดให้ผู้คนจากท่วทุกมุมโลกเดินทางมาท่มหานครท่คร่อมสองทวีป
ี
ี
ั
ี
ึ
แห่งน้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิหารฮาเกียโซเฟีย ซ่งล่าสุดถูกแปลงให้กลับ
ี
�
้
ไปเป็นมัสยิดอายาโซเฟีย พระราชวังโทปคาปึ มัสยิดสีนาเงิน รวมถึง
ี
ี
พิพิธภัณฑ์ท่ยอดเย่ยมอีกมากมาย หรือการเดินเล่นในตลาดสไปซ์บาซาร์
ื
ั
ึ
และแกรนด์บาซาร์ ซ่งสามารถเดินได้ท้งวันโดยไม่เบ่อ ยังไม่นับรวมกับ
ี
การน่งเรือล่องช่องแคบบอสฟอรัสท่เพลิดเพลินใจ ทาให้ผู้คนหลงใหล
ั
�
ี
มนตร์เสน่ห์ของมหานครแห่งน้มาช้านาน
ี
ในการบอกเล่าเรองราวประวตศาสตร์ของมหานครทมประวต ิ
่
ื
ิ
ั
ั
่
ี
ู
ู
ี
ั
ั
ิ
ยาวนานกว่าสองพนปี เช่น นครอสตนบล แน่นอนว่ามข้อมลมากมาย
ในหลากหลายด้านและแง่มุม โดยหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นมหาวิหาร
�
ฮาเกียโซเฟีย กาแพงธีโอโดเซียน ประวัติศาสตร์จักรวรรดิโรมันตะวันออก
ี
กองทัพครูเสดท่ 4 เหตุการณ์การบุกยึดกรุงคอนสแตนติโนเปิลของกอง
ทัพออตโตมันภายใต้การนาของสุลต่านเมห์เหม็ดท่ 2 ผู้พิชิตแห่งจักรวรรด ิ
ี
�
ี
ั
ี
ออตโตมัน ฯลฯ ก็ล้วนเป็นหัวข้อท่เป็นท่สนใจ อีกท้งยังมีการศึกษาค้นคว้า
ั
้
วจัย และเขยนหนังสือออกมาได้เป็นเล่มๆ ดงนันเป้าหมายของผมกยังคง
ิ
็
ี
ี
เป็นการรวบรวมและสกัดข้อมูลในประเด็นท่คิดว่าน่าสนใจออกมา เพ่อให้
ื
ี
ี
ภาพรวมกว้างๆ ท่สมดุลเก่ยวกับมิติต่างๆ ของคอนสแตนติโนเปิล ท้งใน
ั
อดีต ปัจจุบน และอนาคต โดยไม่ได้ลงลกในรายละเอียดด้านเทคนค หรือ
ิ
ั
ึ
ึ
�
เน้นด้านใดด้านหน่งเป็นการเฉพาะ ด้วยความหวังว่า ข้อมูลท่นาเสนอจะ
ี
ั
ี
สามารถเป็นข้อมูลแรกเร่มท่จะช่วยทาให้ท่านผู้อ่านได้รู้จกมหานครแห่งน ้ ี
ิ
�
เพ่มข้นได้บ้าง อีกท้งเป็นชนวนจุดประกายความสนใจในประเด็นใด
ึ
ั
ิ
ี
ึ
ิ
ื
ึ
ประเด็นหน่ง เพ่อท่จะศึกษาหาอ่านอย่างลึกซ้งเพ่มเติมได้ต่อไป
ตลอดระยะเวลาหน่งปีท่ผมค้นคว้า อ่านหนังสือ และเดินทางไปเก็บ
ี
ึ
ิ
ี
ิ
ั
ข้อมูลเพ่มเติมท่นครอิสตันบูลเพ่อนามาเขียนหนังสือเล่มน้น้น ส่งหน่ง
ี
�
ื
ึ
ี
ท่เด่นชัดมาก คือ ลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของมหานครแห่งน้ท่ต้ง
ั
ี
ี
�
ี
ี
อยู่ในทาเลท่เรียกว่า ชัยภูมิ จึงเป็นท่หมายปองของผู้คนทุกยุคทุกสมัย
ั
ี
ี
แต่ท่เหนือกว่าน้น คือ ความเข้มแข็งของมหานคร ท่หากจะเปรียบเทียบ
ั
กับคน ก็คงจะกล่าวได้ว่า ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ท้งภัยคุกคาม
ของกองทัพศัตรู และภัยธรรมชาติต่างๆ อาทิ แผ่นดินไหวและอัคคีภัย
ี
ึ
ี
ท่สร้างความเสียหายนานัปการ แต่ทุกคร้งมหานครแห่งน้ก็จะผงาดข้น
ั
ั
ู
ั
ใหม่และปรบตวอย่เสมอ จนกลายเป็นศนย์กลางทางสังคม วฒนธรรม
ั
ู
วิทยาศาสตร์ในยุคต่างๆ
ผมขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกท่านท่หยิบหนังสือเล่มน้ข้นมา
ี
ี
ึ
ี
ิ
ิ
ุ
ี
ุ
่
่
ี
ุ
อ่าน ขอบพระคณสานกพมพ์ยปซทให้โอกาส และท้ายทสดผมขอขอบคณ
ั
�
ต่าย โอเอซิซ และเพิร์ล ครอบครัวท่เป็นกาลังใจให้ผมเสมอ หนังสือ
�
ี
เล่มน้เปรียบเสมือนบทสรุปของไตรภาคงานเขียนเก่ยวกับตุรกีของผม
ี
ี
ในยคแรกน้ ซงเร่มจากการแปลประวัตศาสตร์ตรกีของศาสตราจารย์
ุ
ุ
ึ
่
ิ
ิ
ี
นอร์แมน สโตน ต่อด้วยการเขียนเก่ยวกับประวัติศาสตร์ออตโตมัน และ
ี
ิ
ี
ึ
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิลน้ ซ่งผมหวังเป็นอย่างย่งว่าท่านผู้อ่าน
ั
จะได้รับท้งสาระและความบันเทิงครับ
ด้วยความขอบพระคุณและความปรารถนาด ี
(ชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล)
กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรก ี
กันยายน 2563
สารบัญ
ั
• คอนสแตนติน มหาราชผู้ก่อต้งกรุงคอนสแตนติโนเปิล 11
• จากไบแซนทิอุมสู่คอนสแตนติโนเปิล 39
�
• กาแพงแห่งคอนสแตนติโนเปิล 55
• ช่องแคบบอสฟอรัสและอ่าวโกลเดนฮอร์น มนตร์เสน่ห์ 77
มิรู้คลายแห่งคอนสแตนติโนเปิล
ั
• สงครามครูเสดคร้งท่ 4 การเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิล 97
ี
ั
คร้งแรกในประวัติศาสตร์
• 1453 ปีแห่งการตัดสินชะตากรรมกรุงคอนสแตนติโนเปิล 121
และสองจักรวรรด ิ
• ไฟกรีกและปืนใหญ่ หน่งอาวุธพิทักษ์ หน่งอาวุธพิชิต 151
ึ
ึ
กรุงคอนสแตนติโนเปิล
• โรคระบาดจัสติเนียน โรคร้ายท่เกือบทาให้ 179
ี
�
กรุงคอนสแตนติโนเปิลเป็นเมืองร้าง
• สัญลักษณ์การเปล่ยนผ่านแห่งคอนสแตนติโนเปิล 191
ี
• นครแห่งเขา 7 ลูก 215
• หอคอยแห่งมหานคร 237
• ปกิณกะจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลสู่นครอิสตันบูล 261
จากอดีตสู่ปัจจุบันและอนาคต
• บรรณานุกรมและแหล่งอ้างอิง 293
คอนสแตนติน มหาราชผู้ก่อต้ง
ั
กรุงคอนสแตนติโนเปิล
จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช (Emperor Constantine the
Great – ประสูติ 27 กุมภาพันธ์ ประมาณ ค.ศ. 272 และสวรรคต 22
ี
พฤษภาคม ค.ศ. 337) หรือจักรพรรดิคอนสแตนตินท่ 1 (Constantine I)
นอกจากจะเป็นกษัตริย์นักรบที่เก่งกาจและนักปฏิรูปท่ปรีชาสามารถแล้ว
ี
ื
พระองค์ยังได้ช่อว่าเป็นจักรพรรดิโรมันท่หันมานับถือศาสนาคริสต์พระองค์
ี
แรกในประวัติศาสตร์โลก (First Christian Roman Emperor) ด้วย แต ่
ึ
ี
�
ี
�
ส่งหน่งท่ทาให้จักรพรรดิคอนสแตนตินเป็นท่จดจาในหน้าประวัติศาสตร์โลก
ิ
ไม่น้อยไปกว่าวีรกรรมในสมรภูมิก็คือ กรุงคอนสแตนติโนเปิล มหานคร
ท่ย่งใหญ่แห่งยุคซ่งพระองค์เป็นผู้ก่อต้งข้น
ึ
ั
ึ
ิ
ี
ท้งน้ช่อเดิมของจักรพรรดิคอนสแตนติน คือ ฟลาวิอุส วาเลริอุส
ั
ี
ื
อูเรลิอุส คอนสแตนตินุส ออกุสตุส (Flavius Valerius Aurelius
Constantinus Augustus) ประสูติท่เมืองนาอิสซุส (Naissus) [หรือเมืองนิส
ี
ื
ั
(Nis) ต้งอยู่ในเซอร์เบียในปัจจุบัน] โดยเป็นบุตรของนายทหารช่อ ฟลาวิอุส
วาเลริอุส คอนสแตนตินุส (Flavius Valerius Constantinus) ในขณะ
ี
ื
ึ
ื
ท่มารดาเป็นชาวกรีกช่อ เฮเลนา (Helena) ซ่งมีความเช่อว่าเฮเลนาเป็น
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 11
ั
ผู้นับถือศาสนาคริสต์ และเป็นผู้มีอิทธิพลต่อจักรพรรดิคอนสแตนตินจน
�
ทาให้พระองค์มีความเห็นอกเห็นใจชาวคริสต์มาต้งแต่ต้นจนหันมานับถือ
ั
ศาสนาคริสต์ในภายหลัง โดยจักรพรรดิคอนสแตนตินประสูติในรัชสมัย
ของจักรพรรดิไดโอคลีเชียน (Emperor Diocletian) จักรพรรดิแห่งจักรวรรด ิ
ื
ี
ี
ึ
โรมัน ผู้ตระหนักว่าจักรวรรดิโรมันมีพ้นท่กว้างใหญ่เกินกว่าท่คนหน่งคน
จะสามารถปกครองได้อย่างมีประสิทธิภาพ จักรพรรดิไดโอคลีเชียน จึง
สถาปนาระบบการปกครองท่แยกจักรวรรดิโรมันเป็นฝั่งตะวันออกและ
ี
ี
ตะวันตก ภายใต้ระบอบจตุราธิปไตย (Tetrarchy) ซ่งมีผู้นาส่คนประกอบ
ึ
�
�
ด้วยตาแหน่งออกุสตุส (Augustus) หรือองค์จักรพรรดิหลักสองพระองค์
�
ื
ี
ั
ก่อนท่จะมีการแต่งต้งตาแหน่งซีซาร์ (Caesar) เพ่อเป็นรองจักรพรรดิอีก
สององค์ในเวลาต่อมา โดยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนด�ารงตาแหน่งออกุสตุส
�
ี
ึ
รูปปั้นสัญลักษณ์ระบอบจตุราธิปไตย ซ่งอยู่ท่ปียัซซา ซัน มาร์โก (Piazza San Marco) เมืองเวนิส
CONSTANTINOPLE
12 The Queen of Cities
ี
แห่งตะวันออก (Augustus of the East) มีเมืองหลวงอยู่ท่เมืองนิโคมีเดีย
(Nicomedia) [คือเมืองอิซมิต (Izmit) ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตุรก ี
ในปัจจุบัน] ร่วมกับ จักรพรรดิแม็กซิเมียน (Maximian) ออกุสตุสแห่ง
ี
ตะวันตก (Augustus of the West) ซ่งมีเมืองหลวงอยู่ท่เมืองเมดิโอลานุม
ึ
(Mediolanum – เมืองมิลานในอิตาลีปัจจุบัน) แม้ว่าจะแบ่งจักรวรรดิออก
�
เป็นฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก โดยแต่ละฝั่งจะมีสานักพระราชวง
ั
กองทัพ และระบบการบริหารของตัวเอง แต่ก็เป็นการแบ่งเพื่อการบริหาร
็
ั
ั
ั
ื
้
ิ
ราชการบ้านเมองเท่าน้น เพราะจกรพรรดทงสองพระองค์สามารถเสดจ
ไปท่ใดในจักรวรรดิได้โดยเสรี อีกท้งในเอกสารราชการยังคงยืนยันว่า
ี
ั
จักรวรรดิโรมันยังคงเป็นหน่งเดียวท่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
ี
ึ
ฟลาวิอุส วาเลริอุส คอนสแตนตินุส บิดาของจักรพรรดิคอนสแตนติน
ี
เป็นทหารท่เก่งกาจและได้รับการสถาปนาข้นเป็นซีซาร์ของฝั่งตะวันตก
ึ
ึ
องค์แรกใน ค.ศ. 293 ในขณะท่ กาเลริอุส (Galerius) ได้รับการสถาปนาข้น
ี
�
�
ึ
เป็นซีซาร์ของฝั่งตะวันออก ซ่งการดารงตาแหน่งดังกล่าวของคอนสแตนตินุส
ผู้พ่อ ท�าให้คอนสแตนตินุสผู้ลูก (ว่าท่จักรพรรดิคอนสแตนติน) ต้องถูกส่งตัว
ี
�
ไปยังสานักพระราชวังของจักรพรรดิไดโอคลีเชียน และแม้คอนสแตนตินจะ
ได้รับการดูแล รวมถึงการฝึกสอนในศาสตร์และศิลป์ต่างๆ อาทิ ภาษาละติน
ปรัชญา และวรรณกรรมกรีก แต่โดยท่ผู้นาท้งส่แห่งระบอบจตุราธิปไตย
ี
ี
�
ั
ั
ื
ต่างไม่มีใครไว้ใจใคร ดังน้นแท้จริงแล้วพระองค์จึงเป็นเหมือนเชลยเพ่อ
ื
ใช้เป็นเคร่องต่อรองและยาเตือนไม่ให้คอนสแตนตินุสซีซาร์แห่งตะวันตก
้
�
�
คิดหรือทาอะไรท่เป็นการท้าทายอานาจขององค์จักรพรรดิมากกว่า แต่
�
ี
กระน้น คอนสแตนตินก็ทรงพระปรีชาสามารถเป็นอย่างมาก และเข้าร่วม
ั
ั
ื
�
ทาศึกสงครามเพ่อองค์จักรพรรดิ ท้งในดานูบ ซีเรีย และเมโสโปเตเมีย
ื
ึ
จนก้าวหน้าข้นเร่อยๆ
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 13
ั
ี
อย่างไรก็ดี ในช่วงท่คอนสแตนตินประทับอยู่ท่ฝั่งตะวันออกน้น
ี
ั
�
ี
ก็ตรงกับช่วงท่จักรพรรดิไดโอคลีเชียนและกาเลริอุสดาเนินนโยบายกดข ่ ี
ข่มเหงและทาร้ายผู้นับถือศาสนาคริสต์อย่างเป็นทางการ ภายใต้นโยบาย
�
ั
ั
“การปราบปรามคร้งใหญ่” ต้งแต่ ค.ศ. 303 ท้งการขับไล่ชาวคริสต์
ั
�
�
ออกจากราชสานักและกองทัพโรมัน การทาลายหนังสือทางศาสนา ยึด
ทรัพย์สินของชาวคริสเตียน และทาลายโบสถ์ต่างๆ ซ่งรวมถึงโบสถ์คริสต์
ึ
�
ั
แห่งใหม่ในเมืองนิโคมีเดีย นอกจากน้นยังมีการเผาชาวคริสต์ท่ต่อต้านรัฐ
ี
การจับชาวคริสต์ไปทรมานและประหารชีวิตด้วยวิธีอันโหดเห้ยมต่างๆ
ี
นานา ซ่งเป็นการทาร้ายผู้นับถือคริสต์ศาสนาท่รุนแรงท่สุดนับต้งแต่สมัย
ึ
ี
ี
ั
�
ของจักรพรรดิเนโร (Emperor Nero – ครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. 54–68)
ิ
ี
�
และแม้ว่าคอนสแตนตนจะไม่ได้มส่วนร่วมในการดาเนนนโยบาย “การ
ิ
ปราบปรามคร้งใหญ่” ดังกล่าวด้วยตนเองโดยตรง แต่เหตุการณ์ดังกล่าว
ั
ก็ดูเสมือนว่าจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของพระองค์ไม่น้อย
ื
ต่อมาใน ค.ศ. 305 เม่อจักรพรรดิไดโอคลีเชียนและจักรพรรด ิ
แม็กซิเมียนตัดสินพระทัยท่จะสละราชบัลลังก์พร้อมกัน เน่องจากจักรพรรด ิ
ี
ื
ไดโอคลีเชียนประชวรอย่างหนัก ก็มีการคาดการณ์ว่า คอนสแตนติน
ึ
ื
จะได้รับการสถาปนาข้นเป็นออกุสตุส เพ่อสืบราชบัลลังก์แทน แต่ปรากฏ
ึ
ว่า กาเลริอุสได้รับการสถาปนาข้นเป็นออกุสตุสแห่งฝั่งตะวันออก ใน
ิ
้
ึ
ั
่
ิ
ี
ิ
ขณะทคอนสแตนตนุส บดาของคอนสแตนตน ได้รบการสถาปนาขน
เป็นออกุสตุสแห่งฝั่งตะวันตก แต่ไม่เพียงเท่าน้น คอนสแตนตินยังไม่ได้
ั
ึ
รับการสถาปนาข้นเป็นซีซาร์อีกต่างหาก โดยกาเลริอุสเลือก แม็กซิมินุส
ไดอา (Maximinus Daia) หลานชายของตนเองข้นดารงตาแหน่งซีซาร์
�
ึ
�
แห่งฝั่งตะวันออก และ วาเลริอุส เซเวรุส (Valerius Severus) นายพล
ั
�
�
ึ
ผู้เก่งกาจคนหน่ง ได้รับการแต่งต้งให้ดารงตาแหน่งซีซาร์แห่งฝั่งตะวันตก
การถูกมองข้ามดังกล่าวได้สร้างความผิดหวังและความบาดหมางระหว่าง
CONSTANTINOPLE
14 The Queen of Cities
ั
ิ
จกรพรรดแห่งฝั่งตะวันออกองค์ใหม่และคอนสแตนตินเป็นอย่างมาก และ
�
ิ
นอกจากคอนสแตนตินจะตกอยู่ในฐานะเชลยท่ถูกจากัดสิทธ์ย่งกว่าเดิม
ี
ิ
แล้ว มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ท่ระบุว่า จักรพรรดิกาเลริอุสได้พยายาม
ี
ั
�
ื
หาทางกาจัดคอนสแตนตินด้วยวิธีต่างๆ อย่างต่อเน่อง ไม่ว่าจะส่งการให้
�
คอนสแตนตินนาทัพฝ่าบึงหนองในดานูบ การส่งคอนสแตนตินไปต่อสู้กับ
สิงโต หรือการพยายามลอบสังหารคอนสแตนตินในยามท่ออกล่าสัตว์
ี
หรือออกรบ ซ่งล้วนทาให้คอนสแตนตินตระหนักว่าหากยังคงพานักอยู่ใน
�
�
ึ
�
ราชสานักของฝั่งตะวันออกต่อไป ชีวิตของพระองค์คงอยู่ในอันตรายและ
ื
ี
อาจจะหาไม่ได้ทุกเม่อ และโอกาสเดียวท่จะรอดชีวิตไปได้ก็คือต้องหา
�
ทางออกจากพระราชสานักให้ได้
ิ
และก็เป็นจักรพรรดิคอนแตนตนสแห่งฝั่งตะวนตก พระราชบดา
ั
ิ
ุ
ื
ของพระองค์ย่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการส่งสาส์นมาขอตัวพระโอรสไปช่วย
ั
ุ
ึ
ิ
ิ
่
ิ
ิ
ั
ิ
ู
ปฏบตการต่อส้ในบรเตน ซงแน่นอนว่าจกรพรรดกาเลรอสไม่ยอมง่ายๆ
แต่บันทึกของจักรพรรดิคอนสแตนตินท่เขียนข้นในภายหลังบอกเล่าว่า
ี
ึ
คืนหน่งหลังจากท่จักรพรรดิกาเลริอุสทรงด่มสุราอย่างหนัก พระองค์
ี
ึ
ื
ก็ทรงเผลออนุญาตให้คอนสแตนตินไปช่วยจักรพรรดิแห่งฝั่งตะวันตก
�
ั
ได้ ดังน้นคอนสแตนตินก็รีบฉวยจังหวะชิงหนีจากสานักพระราชวังใน
ั
คืนน้นเลย ด้วยเกรงว่าจักรพรรดิกาเลริอุสจะทรงเปล่ยนพระทัย โดย
ี
คอนสแตนตินทรงควบม้าเร็วไปยังจุดแวะพักต่างๆ ตามเส้นทางและ
ี
เปล่ยนม้าไปเร่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน ซ่งจักรพรรดิกาเลริอุสก็ทรงเปล่ยน
ี
ึ
ื
ั
ื
่
ิ
พระทยจรงๆ เมอได้สต แต่คอนสแตนตินกจากไปไกลแล้ว จกรพรรด ิ
ั
ิ
็
ื
กาเลริอุสจึงไม่มีทางเลือกอ่น นอกจากปล่อยเลยตามเลย
คอนสแตนตินเดินทางมาพบกับพระราชบิดาท่ดินแดนกอล (Gaul)
*
ี
ี
* กอล (Gaul) แคว้นกอล เป็นช่อท่ชาวโรมันใช้เรียกดินแดนในแถบฝร่งเศส เบลเยียม และเยอรมนีตะวันตกใน
ั
ื
ปัจจุบัน — บ.ก.
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 15
ั
ี
รูปปั้นจักรพรรดิคอนสแตนตินท่เมืองยอร์กในอังกฤษ
ท่เมองบูโลญ (Boulogne – ชายฝั่งทิศเหนือของฝร่งเศสในปัจจุบัน) ในราว
ั
ี
ื
ี
ปี ค.ศ. 305 ก่อนท่จะติดตามพระราชบิดาข้ามช่องแคบอังกฤษไปยัง
บริเตน ไปยังเมืองอีโบราคุม (Eboracum – เมืองยอร์กในอังกฤษ
ปัจจุบัน) ซ่งเป็นเมืองหลวงของดินแดนบริแทนเนีย เซคุนดา (Britannia
ึ
ู
ั
ิ
ิ
Secunda) และใช้เวลาแรมปีอย่กบบดาในการทาศกสงครามในบรเตน
�
ึ
เหนือ ต่อสู้กับชาวพิคท์ ที่ได้รับการขนานนามว่า เหล่านักรบสีนาเงิน
*
้
�
ี
�
ึ
แห่งสกอตแลนด์ ซ่งประสบความสาเร็จเป็นอย่างมาก ก่อนท่จักรพรรด ิ
คอนสแตนตินุสจะประชวรและเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 306 โดยก่อน
ิ
ส้นพระชนม์ จักรพรรดิคอนสแตนตินุสได้ประกาศสนับสนุนการสถาปนา
ึ
คอนสแตนตินให้ข้นสู่ตาแหน่งออกุสตุส ซ่งกองทัพท่จงรักภักดีต่อ
ี
ึ
�
จักรพรรดิคอนสแตนตินุสก็ถวายความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิองค์ใหม่
ี
ั
ี
* ชาวพิคท์ (Picts) กลุ่มชาติพันธุ์ท่ต้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณท่ต่อมาเป็นทางด้านตะวันออกและทางตอนเหนือของ
สกอตแลนด์ — บ.ก.
CONSTANTINOPLE
16 The Queen of Cities
*
อย่างไม่ลังเล รวมถึงดินแดนกอลและบริเตนด้วย มีเพียงฮิสเปเนีย ซึ่ง
เป็นดินแดนภายใต้การปกครองของพระราชบิดาของพระองค์ได้ไม่ถึงปี
ั
ี
เท่าน้นท่ไม่ยอมรับคอนสแตนติน
ั
ื
ดังน้นคอนสแตนตินจึงส่งสาส์นไปยังจักรพรรดิกาเลริอุส เพ่อแจ้ง
ข่าวการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิคอนสแตนตินุส และการสถาปนา
ึ
ั
ตนเองข้นดารงต�าแหน่งออกุสตุส พร้อมท้งส่งภาพวาดของพระองค์ท่ ี
�
�
�
สวมชุดประจาตาแหน่งออกุสตุสตามธรรมเนียมปฏิบัติ และเรียกร้องให้
จักรพรรดิกาเลริอุสยอมรับว่า พระองค์เป็นรัชทายาทท่คู่ควรจะสืบทอด
ี
�
ตาแหน่งต่อไป และพระองค์เพียงรับตาแหน่งเพราะเป็นข้อเรียกร้องของ
�
ี
กองทัพ ท้งน้มีบันทึกว่า จักรพรรดิกาเลริอุสพิโรธอย่างมาก และเกือบ
ั
้
จะนาภาพวาดของคอนสแตนตินไปเผาด้วยซา แต่ท่ปรึกษาของพระองค์
�
ี
�
ก็ค่อยๆ ปลอบจนพระองค์ใจเย็นลง พร้อมช้ให้เห็นว่า การปฏิเสธคา
�
ี
กล่าวอ้างของคอนสแตนติน ย่อมหมายความถึงการประกาศสงครามอย่าง
หลีกเลี่ยงไม่ได้ จักรพรรดิกาเลริอุสจึงยอมประนีประนอม แต่ประกาศให้
�
ี
คอนสแตนตินรับตาแหน่งซีซาร์แห่งฝั่งตะวันตกแทนท่จะเป็นออกุสตุส
ื
ึ
ั
ื
ี
และเล่อนข้นเซเวรุสข้นเป็นจักรพรรดิแห่งฝั่งตะวันตก เพ่อให้เป็นท่ประจักษ์
ี
ว่า พระองค์เป็นผู้เดียวท่มีอานาจแต่งต้งตาแหน่งต่างๆ ซ่งคอนสแตนติน
�
ึ
�
ั
ยอมรับการตัดสินใจดังกล่าว เพราะอย่างน้อยก็เป็นการยืนยันสถานะ
ื
ของพระองค์อย่างเป็นทางการ เน่องจากระบอบจตุราธิปไตยไม่ได้มีการ
ถ่ายทอดทางสายเลือด ท้งน้การรับตาแหน่งดังกล่าว ทาให้คอนสแตนติน
ั
�
ี
�
ี
ได้รับดินแดนท่ประกอบไปด้วยบริเตน กอล และฮิสเปเนีย อีกท้งทรง
ั
ี
ึ
ควบคุมกองทัพท่ใหญ่ท่สุดกองทัพหน่งของจักรวรรดิโรมัน
ี
ิ
ั
แต่พฒนาการดงกล่าวทาให้แมกเซนตอส (Maxentius) พระโอรส
ั
�
ุ
็
* ฮิสเปเนีย (Hispania) เป็นช่อท่โรมันใช้เรียกคาบสมุทรไอบีเรียท้งหมด ปัจจุบันคือประเทศสเปน โปรตุเกส
ื
ั
ี
อันดอร์รา ยิบรอลตาร์ และส่วนเล็กๆ ทางตอนใต้ของฝร่งเศส — บ.ก.
ั
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 17
ั
ของอดีตจักรพรรดิแม็กซิเมียนออกุสตุสแห่งตะวันตก ผู้สละราชบัลลังก์
ึ
ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะพระองค์ก็รอคอยการได้รับสถาปนาข้นเป็น
ั
ซีซาร์แห่งฝั่งตะวันตกเช่นกัน และเคยผิดหวังมาคร้งหน่งแล้ว ตอนท ี ่
ึ
พระราชบิดาสละราชบัลลังก์ แม็กเซนติอุสอิจฉาอานาจของคอนสแตนติน
�
ึ
ิ
และเร่มเป็นปรปักษ์กับคอนสแตนตินอย่างชัดเจนข้น ก่อนท่จะตัดสินใจ
ี
ี
ประกาศตนเองเป็นจักรพรรดิในวันท่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 306 แต่จักรพรรด ิ
กาเลริอุสไม่ยอมรับการประกาศดังกล่าว และมองว่าแม็กเซนติอุสก่อกบฏ
จึงส่งจักรพรรดิเซเวรุสไปจัดการกับแม็กเซนติอุส แต่กองทัพของเซเวรุส
ึ
ี
ซ่งล้วนเป็นพลทหารท่เคยรับใช้อดีตจักรพรรดิแม็กซิเมียน พระราชบิดา
ของแม็กเซนติอุสจึงหักหลังเซเวรุส และแปรพักตร์ไปสวามิภักด์กับ
ิ
แม็กเซนติอุสพร้อมจับเซเวรุสเป็นเชลยและจับประหารชีวิตในเวลาต่อมา
จักรพรรดิกาเลริอุสจึงยกทัพมาบุกกรุงโรมในฤดูใบไม้ร่วง แต่ก็ไม่สามารถ
ั
ี
ุ
ิ
พชิตกรงโรมได้ ในขณะเดยวกนอดตจักรพรรดแม็กซิเมียน ซ่งถกพระราช
ึ
ู
ิ
ี
ื
โอรสร้องขอให้กลับคืนเวทีการเมืองเพ่อสนับสนุนการกบฏของตน ก็เสด็จ
์
้
้
ั
ไปพบกบคอนสแตนตนเพอปองกนไมใหสถานการณเลวรายลง โดยเสนอให ้
่
้
่
ิ
ั
ื
คอนสแตนตินแต่งงานกับฟาอุสตา (Fausta) พระธิดาของตน พร้อมท้งเสนอ
ั
จะยกระดับคอนสแตนตินจากซีซาร์ข้นเป็นออกุสตุส แต่คอนสแตนติน
ึ
จะต้องยอมรับการเป็นพันธมิตรทางทหาร เหมือนในยุคของพระราชบิดา
และสนบสนนตาแหน่งของแมกเซนตอสในอตาล ซงคอนสแตนตนยอมรบ
ี
ั
่
ึ
ิ
ิ
ิ
�
็
ุ
ั
ุ
ข้อเสนอดังกล่าว และแต่งงานกับฟาอุสตาในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 307
อดีตจักรพรรดิแม็กซิเมียนเดินทางกลับมาถึงกรุงโรมในช่วงฤดูหนาวของ
ปี ค.ศ. 307 แต่ไม่นานนักก็เกิดผิดใจกับพระโอรส พระองค์จึงพยายามท ี ่
จะทารัฐประหารโค่นล้มพระโอรสในปี ค.ศ. 308 แต่ก็ไม่ประสบผลสาเร็จ
�
�
�
พระองค์จึงเสด็จหนีไปร่วมสานักพระราชวังของคอนสแตนติน
ในช่วงต้นของการดารงตาแหน่ง คอนสแตนตินพยายามครอง
�
�
CONSTANTINOPLE
18 The Queen of Cities
ี
ตัวเองไม่เข้าไปยุ่งเก่ยวกับปัญหาทางการเมืองในอิตาลี และเน้นการ
ี
*
เดินหน้าต่อสู้กับชนเผ่าป่าเถ่อนเจอร์แมนิก และชาวแฟรงก์ ท่พยายาม
ื
**
ยึดดินแดนกอล และในยามท่ไม่ออกรบ พระองค์ก็จะเสด็จไปเยือนดิน
ี
ื
�
�
แดนต่างๆ เพ่อให้คาแนะนาด้านการพัฒนาบ้านเมืองและการสนับสนุน
ศิลปะ อีกท้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเมืองต่างๆ ภายใต้การปกครอง
ั
ของพระองค์ โดยเฉพาะเมืองเทรียร์ (Trier) และมีบันทึกทางประวัติศาสตร์
ว่า พระองค์ให้ความปรานีกับชาวคริสเตียน แม้ว่าในช่วงน้นพระองค์จะ
ั
ยังไม่ได้เปล่ยนมานับถือศาสนาคริสต์อย่างเป็นทางการ โดยทรงออก
ี
ี
กฎหมายคืนท่ดินและทรัพย์สินให้แก่ชาวคริสเตียนท่ถูกลิดรอนสิทธ ์ ิ
ี
ไปก่อนหน้าน้ ซ่งมีการคาดการณ์ว่า พระองค์คงพิจารณาแล้วว่าเป็น
ึ
ี
ี
่
ี
นโยบายทดกว่าการปราบปรามชาวคริสต์อย่างเปิดเผยซงมแต่จะสร้าง
ึ
ี
่
�
ความรู้สึกต่อต้าน นอกจากน้การดาเนินนโยบายดังกล่าวยังทาให้พระองค์
�
ี
ี
มีภาพลักษณ์ท่แตกต่างและดีกว่าจักรพรรดิกาเลริอุส ท่เป็นผู้อยู่เบ้องหลัง
ี
ื
การปราบปรามชาวคริสเตียนอันโหดร้าย ซ่งการท่พระองค์ปฏิเสธท่จะ
ี
ึ
ี
�
เข้าร่วมในการเมืองอันยุ่งเหยิงของจักรวรรดิโรมัน ทาให้พระองค์ได้รับ
ึ
ความนิยมจากพสกนิกรเพ่มมากข้น และทาให้ฐานอานาจของพระองค์
�
�
ิ
ในฝั่งตะวันตกเข้มแข็งข้นด้วย
ึ
ี
อย่างไรก็ดี วันท่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 308 จักรพรรดิกาเลริอุส
ื
ึ
ั
ทรงเรียกประชุมสภาเพ่อถกปัญหาความไม่ม่นคงในฝั่งตะวันตก ซ่งผลก ็
ี
ี
ั
ื
* เจอร์แมนิก (Germanic) เป็นกลุ่มชนในประวัติศาสตร์ท่เดิมต้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือของยุโรป ผู้ท่สืบเช้อสาย
มาจากกลุ่มชนนี้กลายมาเป็นต้นตระกูลของชาตพันธุ์ต่างๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป ได้แก่ ชาวสวีเดน
ิ
เดนมาร์ก นอร์เวย์ อังกฤษ ไอซ์แลนด์ เยอรมัน ออสเตรีย ดัตช์ เป็นต้น — บ.ก.
ั
** แฟรงก์ (Franks) กลุ่มชนเจอร์แมนิกกลุ่มหนึ่ง ปรากฏตัวคร้งแรกในบันทึกทางประวัติศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษท ่ ี
ี
้
3 อาศัยอยู่ในท่ราบลุ่มทางตะวันออกของแม่น�าไรน์ล่าง ในตอนนั้นชาวแฟรงก์แบ่งออกเป็นสามกลุ่มย่อย คือ ชาว
ซาเลียน ชาวริปัวเรียน และชาวชัตติหรือชาวเฮสเซียน แต่ละกลุ่มมีความเกี่ยวข้องกันทางด้านภาษาและวัฒนธรรม
แต่ในทางการเมืองถือว่าเป็นคนละชนเผ่ากัน — บ.ก.
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 19
ั
ั
คือ อดีตจักรพรรดิแม็กซิเมียนถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์อีกคร้ง และ
ู
ิ
�
ั
ี
ุ
ิ
คอนสแตนตนถกลดตาแหน่งให้กลบไปเป็นซซาร์ โดยกาเลรอสแต่งตง
ั
้
พันธมิตร คือ ลิซินิอุส (Licinius) ให้ดารงตาแหน่งออกุสตุสแห่งฝั่งตะวันตก
�
�
�
แต่คอนสแตนตินปฏิเสธท่จะยอมรับการถูกลดตาแหน่งดังกล่าว และยัง
ี
ี
คงออกเหรียญตราท่ระบุว่าพระองค์เป็นออกุสตุสต่อไป ในขณะเดียวกัน
แม็กซิมินุส ไดอา หลานชายของจักรพรรดิกาเลริอุส ก็ทรงผิดหวังและ
หงุดหงิดท่ถูกลิซินิอุสชิงตาแหน่งไป และเรียกร้องให้กาเลริอุสเล่อนข้นให้
ื
�
ี
ั
ี
ตนเอง กาเลริอุสเสนอท่จะเรียกแม็กซิมินุสและคอนสแตนตินว่า “โอรส
ื
�
ั
แห่งออกุสตุส” แต่ท้งสองไม่ยอมรับตาแหน่งใหม่ดังกล่าว และเม่อมาถึงฤด ู
ใบไม้ผลของปี ค.ศ. 310 พระองค์กต้องจาใจเรยกทงสองคนว่า ออกุสตส
้
ั
็
ี
�
ุ
ิ
ั
การถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์อีกคร้ง ทาให้อดีตจักรพรรด ิ
�
ี
ิ
ั
แมกซเมยนโกรธเคองเป็นอย่างมาก และในจงหวะทพระองค์ถกส่งไปทาง
ี
่
็
ู
ื
ใต้เพ่อเตรียมการเผ่อแม็กเซนติอุสจะยกทัพบุก พระองค์ก็ก่อการกบฏ
ื
ื
ในระหว่างที่คอนสแตนตินออกไปปฏิบัติการทางทหารต่อสู้กับพวกแฟรงก์
ิ
โดยอดีตจักรพรรดิแม็กซิเมียนเร่มแผนการกบฏด้วยการประกาศว่า
คอนสแตนตนสนพระชนม์แล้ว และเสนอทจะให้เงินสนับสนุนใครกตามท ่ ี
ิ
็
่
ิ
้
ี
สวามิภักด์ต่อพระองค์ แต่กระน้น กองทัพของคอนสแตนตินก็ยังคงจงรัก
ิ
ั
�
ภักดีต่อคอนสแตนติน ทาให้แม็กซิเมียนไม่มีทางเลือกและต้องหลบหน ี
ื
ออกจากดินแดนของคอนสแตนตินไป เม่อคอนสแตนตินได้รับรายงาน
ข่าวการกบฏของแม็กซิเมียน ก็ทรงยกทัพกลับมา แม็กซิเมียนถูกจับได้
อย่างง่ายดาย และแม้ว่าจะไม่ถูกประหารในทันที แต่คอนสแตนตินก็ส่อ
ื
เป็นนัยให้รู้ว่า ทางออกท่ดีท่สุดน่าจะเป็นการอัตวินิบาตกรรม จักรพรรด ิ
ี
ี
ึ
แม็กซิเมียนจึงแขวนคอพระองค์เองในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 310 ซ่งใน
ั
ช้นต้นคอนสแตนตินเสนอข้อมูลว่า การอัตวินิบาตกรรมของอดีตจักรพรรด ิ
แม็กซิเมียน เป็นโศกนาฏกรรมภายในครอบครัว โดยแม้ว่าพระองค์จะ
CONSTANTINOPLE
20 The Queen of Cities
ให้อภัยแม็กซิเมียนแล้ว แต่แม็กซิเมียนก็วางแผนจะลอบปลงพระชนม์
ึ
พระองค์อยู่ดี ซ่งฟาอุสตาพระราชธิดาของแม็กซิเมียนได้ทราบแผนการ
ดังกล่าว และเตือนคอนสแตนตินได้ทันการณ์ แม็กซิเมียนจึงถูกจับได้
ี
คาหนังคาเขา อย่างไรก็ดี แม็กเซนติอุสก็ฉวยจังหวะพยายามท่จะแสดง
ภาพว่าพระองค์เป็นคนท่รักและทุ่มเทต่อพระราชบิดา และประกาศว่า
ี
ิ
์
้
ั
้
่
้
ี
พระองคจะแกแคนใหพระราชบดา แม้วาก่อนหน้าน ความสัมพนธ์ระหว่าง
้
ท้งสองจะแตกหักก็ตาม
ั
ท้งน้ในช่วงกลางปี ค.ศ. 310 จักรพรรดิกาเลริอุสประชวรหนัก
ี
ั
จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ได้อีกต่อไป โดยพระราชโองการสุดท้ายใน
ี
ี
ั
วันท่ 30 เมษายน ค.ศ. 311 ก็คือการส่งยุติการปราบปรามผู้นับถือ
ั
ศาสนาคริสต์ และกลับมาให้ความอดทนอดกล้นทางศาสนา พระองค์
ส้นพระชนม์หลังจากน้นไม่นาน ทาให้เป็นจุดเร่มต้นในจุดจบของระบอบ
�
ั
ิ
ิ
�
จตุราธิปไตย โดยแม็กซิมินุสรวบรวมทหารและทาการปฏิวัติเพ่อโค่นล้ม
ื
ลิซินิอุส โดยบุกยึดดินแดนเอเชียไมเนอร์ในทันที ในขณะเดียวกัน ระหว่าง
ท่คอนสแตนตินไปปฏิบัติภารกิจในบริเตนและกอล แม็กเซนติอุสก็เตรียม
ี
ั
ั
่
�
ื
การสาหรบสงคราม ด้วยการยกระดบความมนคงในอตาลตอนเหนอ และ
ิ
ั
ี
พยายามเรียกเสียงสนับสนุนจากชุมชนคริสเตียน โดยยอมให้พวกเขาได้
เลือกบาทหลวงแห่งโรมองค์ใหม่เอง ซ่งแม้จะได้รับความนิยมในช่วงแรก
ึ
ั
ื
แต่การปกครองของแม็กเซนติอุสก็ส่นคลอนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเม่อ
ิ
ึ
พระองค์เพ่มภาษี ซ่งส่งผลให้เกิดการจลาจลในกรุงโรมและคาร์เธจ จน
สองปีให้หลัง ประชาชนก็แทบจะทนพระองค์ไม่ไหวอีกต่อไป
เม่อมาถึงช่วงกลางปี ค.ศ. 311 ผู้ท่ทรงอิทธิพลท่สุดในจักรวรรด ิ
ี
ื
ี
โรมัน ประกอบด้วยคอนสแตนตินและแม็กเซนติอุส ในฝั่งตะวันตก
และลิซินิอุสกับแม็กซิมินุส ไดอา ในฝั่งตะวันออก โดยคอนสแตนติน
พยายามท่จะหลีกเล่ยงการปะทะกับแม็กเซนติอุส ผู้มีความสัมพันธ์เป็น
ี
ี
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 21
ั
ี
ี
พ่เขยและน้องเขยกัน แต่ถึง ค.ศ. 312 ก็เป็นท่ชัดเจนว่าไม่สามารถท่จะ
ี
ี
ี
หลีกเล่ยงการเผชิญหน้าได้อีกต่อไป และในขณะท่ลิซินิอุสยังคงวุ่นวาย
อยู่กับการจัดการภารกิจในฝั่งตะวันออก แม็กเซนติอุสก็เตรียมทัพทหาร
ื
พร้อมประกาศศึกกับคอนสแตนติน โดยอ้างว่าเพ่อเป็นการแก้แค้นให้การ
ี
ื
ท่พระราชบิดาของตนถูก “ฆาตกรรม” แต่เพ่อชิงจังหวะไม่ให้แม็กเซนติอุส
ร่วมเป็นพันธมิตรกับลิซินิอุส คอนสแตนตินก็ชิงจังหวะสานพันธมิตร
กับลิซินิอุสก่อน ด้วยการเสนอให้ลิซินิอุสแต่งงานกับคอนสแตนติอา
(Constantia) น้องสาวของพระองค์ในช่วงฤดูหนาวของปี ค.ศ. 311–312
�
�
แต่การดาเนินการดังกล่าว ทาให้แม็กซิมินุส ไดอามองว่าเป็นการท้าทาย
�
ี
อานาจของตน จึงส่งคณะทูตไปยังกรุงโรมเพ่อแสดงความพร้อมท่จะ
ื
ยอมรับอานาจของแม็กเซนติอุส เพ่อแลกกับการสนับสนุนทางการทหาร
�
ื
แม็กเซนติอุสกับแม็กซิมินุส ไดอาจึงร่วมเป็นพันธมิตรกัน
็
ในฤดใบไม้ผลิ ค.ศ. 312 คอนสแตนตนเหนว่าไม่สามารถทจะถ่วง
่
ู
ิ
ี
เวลาได้อีกต่อไป จึงรวบรวมกองทัพประมาณ 40,000 นาย และหมาย
จะเอาชนะแม็กเซนติอุสด้วยตัวเอง และแม้ท่ปรึกษาและนายพลของ
ี
ี
พระองค์จะพยายามทักท้วงเก่ยวกับการบุกโจมตีแม็กเซนติอุสก่อน แต่
ั
กระน้น คอนสแตนตินก็ไม่ฟังและยกทัพข้ามเทือกเขาแอลป์ โดยมาพบ
กับเมืองเซกูซิอุม (Segusium) [หรือเมืองซูซา (Susa) ในอิตาลีปัจจุบัน]
ซ่งเป็นเมืองท่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาและไม่ยอมเปิดทางให้กองทัพ
ี
ึ
�
ั
ของพระองค์ คอนสแตนตินจึงส่งให้เผาประตูเมืองและปีนกาแพงเมือง
เข้าไปจนสามารถยึดเมืองดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ก่อนท่จะเดินหน้าต่อไป
ี
จนมาถึงเมืองออกุสตา ทาอุริโนรุม (Augusta Taurinorum – เมืองตูรินใน
ึ
อิตาลีปัจจุบัน) ซ่งพระองค์ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพทหารม้าขนาดใหญ่
ของแม็กเซนติอุสในยุทธการ ณ ตูริน (Battle of Turin) โดยการต่อสู้
ั
คร้งน้เป็นการแสดงพระปรีชาสามารถทางการทหารของคอนสแตนติน
ี
CONSTANTINOPLE
22 The Queen of Cities
เพราะกองทัพของแม็กเซนติอุสมีมากถึงแสนนาย
กองทัพของแม็กเซนติอุสมีทหารม้าเป็นหลัก และถึงแม้ว่ากองทัพ
ของคอนสแตนตินจะตกเป็นรองในทุกด้าน แต่พระองค์ทรงพัฒนาแผน
การต่อสู้กับกองทัพศัตรูด้วยอัจฉริยภาพ โดยทรงจัดแถวรบให้มีแนวยาว
ึ
ิ
ื
ี
กว่าศัตรู และเม่อฝ่ายตรงข้ามซ่งเป็นทหารม้าท่สวมชุดเกราะหนักเร่มบุก
ตรงกลาง พระองค์ก็ส่งให้กองพลทหารม้าเบาทางปีกซ้ายและปีกขวาโผ
ั
�
ี
เข้าโอบล้อมหลังศัตรูเอาไว้ ทาให้ศัตรูตกอยู่ในบ่วงกับดักท่ไม่มีทางหน ี
ี
นอกจากน้คอนสแตนตินยังส่งการให้ทหารของพระองค์ใช้กระบอกไม้ท ี ่
ั
ึ
ื
ี
ี
มีเหล็กย่นออกมาจากด้านบนรอบหัวกระบอง ซ่งเป็นอาวุธท่เย่ยมยอดใน
�
การตอบโต้กับกองพลทหารม้าท่สวมชุดเกราะหนัก ทาให้ทหารศัตรูท้งถูก
ั
ี
ื
ทุบตีจนตกม้า หรือถูกอาวุธดังกล่าวทุบตีจนเสียศูนย์ เม่อเจอสถานการณ์
ดังกล่าว ทหารของแม็กเซนติอุสก็เสียกาลังใจ และเร่มหลบหนี แต่ก็ถูก
�
ิ
ั
ื
ั
ิ
สงหารลงเป็นจานวนมาก และเม่อกองทพของแมกเซนตอุสมุ่งหน้าไป
�
็
�
ยังเมืองออกุสตา ทาอุริโนรุม คอนสแตนตินก็เป็นผู้นากองทัพไล่ล่าศัตร ู
ด้วยพระองค์เอง ท้งน้เมืองออกุสตา ทาอุริโนรุมปฏิเสธท่จะเปิดประต ู
ี
ี
ั
ี
�
เมืองให้แก่ทหารของแม็กเซนติอุสท่หลบหนีมา ทาให้ทหารถูกสังหารท ่ ี
กาแพงเมืองอีกเป็นจานวนมาก โดยประชาชนเมืองออกุสตา ทาอุริโนรุม
�
�
ื
ั
ให้การต้อนรับคอนสแตนตินอย่างย่งใหญ่ หลังจากน้นช่อเสียงของ
ิ
ื
คอนสแตนตินก็โด่งดังมากข้น ประชาชนช่นชมการที่พระองค์ให้เกียรต ิ
ึ
�
และดูแลพสกนิกรเป็นอย่างดี ทาให้พระองค์ได้รับการสนับสนุนจาก
ื
ประชาชนในเมืองอ่นๆ ด้วย และต่อมาก็สามารถพิชิตดินแดนในอิตาล ี
ตอนเหนือได้อย่างง่ายดาย
ชัยชนะท่ยุทธการตูริน ทาให้เส้นทางในอิตาลีเปิดกว้างสาหรับ
ี
�
�
คอนสแตนติน โดยพระองค์เสด็จต่อไปยังมิลาน และได้รับการต้อนรับ
ด้วยความช่นชมยินดีจากประชาชน พระองค์มีชัยชนะเหนือกองทัพของ
ื
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 23
ั
ี
ี
้
ั
ี
็
ิ
ุ
่
แมกเซนตอสอกสองครงทเบรสเซย (Brescia) และเวโรนา (Verona)
ก่อนท่จะยกทัพมุ่งหน้าไปยังกรุงโรม และทาการต่อสู้กับแม็กเซนติอุส
�
ี
�
คร้งสาคัญคร้งสุดท้าย
ั
ั
เดิมทีแม็กเซนติอุสเตรียมแผนรบว่าจะรับมือกับคอนสแตนติน
เหมือนท่ประสบความสาเร็จในการสู้รบกับเซเวรุสและกาเลริอุสก่อน
�
ี
หน้าน้ ด้วยการรออยู่ท่กรุงโรมและได้มีการกักตุนเสบียงเพ่อเตรียมพร้อม
ื
ี
ี
�
ี
�
ี
สาหรับการถูกปิดล้อมแล้ว นอกจากน้ยังมีกาแพงเมืองท่หนาแน่นให้ความ
คุ้มกันด้วย และแม็กเซนติอุสได้ส่งการให้ทาลายสะพานข้ามแม่นาไทเบอร์
�
�
้
ั
ั
่
ี
�
�
ุ
�
ึ
ั
ทงหมดตามทได้รบคาแนะนาจากการปรกษาเทพเจ้าทานาย ทาให้กรงโรม
�
้
ื
ั
�
ี
ื
ถูกตัดขาดจากพ้นท่ส่วนอ่นๆ อีกท้งทาให้ภาคกลางอิตาลีปราศจากการ
ปกป้อง คอนสแตนตินจึงสามารถเดินทัพผ่านดินแดนดังกล่าวได้โดย
ไม่มีการกีดขวางเลย กองทัพคอนสแตนตินค่อยๆ ยกทัพไปอย่างช้าๆ
ื
เพ่อกดดันให้สถานการณ์ของแม็กเซนติอุสย่งเลวร้ายข้น และความนิยม
ิ
ึ
ื
ในตัวแม็กเซนติอุสก็ลดลงเร่อยๆ โดยมีบันทึกทางประวัติศาสตร์ว่า ใน
ี
ิ
การแข่งขันรถม้าศึกในวันท่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 312 ฝูงชนเร่มล้อเลียน
�
แม็กเซนติอุสและตะโกนว่า คอนสแตนตินเป็นผู้ไม่เคยปราชัย จึงทาให้
ิ
ี
ั
ั
แม็กเซนติอุสเร่มไม่ม่นใจว่าจะสามารถชนะศึกคร้งน้ได้ด้วยการอยู่น่งเฉย
ิ
และปรึกษาโหรผู้คุมตาราทานายอนาคตไซบิลไลน์ บุ๊กส์ (Sibylline
�
�
Books) และได้รับคาทานายว่า “ในวันน้น ศัตรูของกรุงโรมจะมอดม้วย”
�
�
ั
ึ
�
ซ่งแม็กเซนติอุสตีความคาทานายน้นเข้าข้างตนเอง อีกท้งวันท่ 28 ตุลาคม
ี
ั
�
ั
ค.ศ. 312 ซ่งเป็นวาระครบรอบหกปีแห่งการข้นครองราชย์ของพระองค์ ซ่ง ึ
ึ
ึ
ื
ถือเป็นฤกษ์ดี พระองค์จึงตัดสินพระทัยยกทัพออกไปเพ่อเตรียมเผชิญหน้า
ั
กับคอนสแตนติน โดยส่งให้สร้างสะพานไม้และสะพานโป๊ะช่วคราวข้าม
ั
แม่น�้าไทเบอร์ สะพานมิลเวียน (Ponte Milvio – ซึ่งในทุกวันนี้ยังมีสะพาน
ที่ตั้งอยู่ ณ จุดที่ใกล้เคียงกับที่เดิม แต่ได้มีการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น)
CONSTANTINOPLE
24 The Queen of Cities
ภาพวาดศึกสะพานมิลเวียน
ี
ั
ท้งน้ศึกสะพานมิลเวียน (Battle of the Milvian Bridge)
ั
ึ
ี
�
เป็นศึกคร้งสาคัญท่มีผลต่อคอนสแตนตินเป็นอย่างมาก โดยเกิดข้น
เม่อวันท่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 312 ซ่งนักประวัติศาสตร์หลายคนส่อว่า
ี
ื
ื
ึ
ึ
ี
เป็นเหตุการณ์ท่ทาให้จักรพรรดิคอนสแตนติน ซ่งทรงนับถือเทพแห่ง
�
ิ
พระอาทตย (Sol Invictus) มาก่อน หันมาศรัทธาและนับถือศาสนาคริสต์
์
ื
อย่างจริงจัง เพราะทรงเช่อว่าเป็นเพราะความช่วยเหลือของพระเป็นเจ้า
แห่งคริสต์ศาสนา โดยรายละเอียดของเหตุการณ์ท่นาไปสู่ชัยชนะของ
�
ี
จักรพรรดิคอนสแตนตินในศึกสะพานมิลเวียนมีความแตกต่างกันไม่น้อย
โดยแลคตันติอุส (Lactantius) นักประวัติศาสตร์ชาวละตินระบุว่า ในคืน
�
ก่อนการสู้รบ จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงพระสุบินว่าได้รับคาส่งให้วาด
ั
ึ
รูปสัญลักษณ์แห่งสรวงสวรรค์บนโล่ของทหารพระองค์ ซ่งพระองค์ทรง
ื
ึ
ทาตามด้วยการใช้สัญลักษณ์ท่เขียนช่อพระเยซู ซ่งแลคตันติอุสบรรยาย
ี
�
ี
สัญลักษณ์ดังกล่าวว่าเป็นไม้กางเขนละตินท่ด้านบนมีทรงกลมและมีรูปแบบ
เหมือนตัว P ในขณะที่ยูเซบิอุส (Eusebius) นักประวัติศาสตร์อีกคนบันทึก
ไว้ว่า จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงรับสั่งให้เขาฟังว่า ในระหว่างที่พระองค์
กาลังเคล่อนทัพอยู่น้น ในช่วงกลางวัน พระองค์ได้แหงนพระพักตร์
�
ื
ั
ึ
ึ
ข้นมองพระอาทิตย์ ก็เห็นไม้กางเขนปรากฏข้นเหนือพระอาทิตย์ และเห็น
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 25
ั
ึ
อักษรกรีกว่า “Εν Τούτῳ Νίκα” (En toutō níka) ซ่งมักได้รับการ
ี
*
แปลเป็นภาษาละตินว่า “In hoc signo vinces” ท่ความหมายตรงตัว
ของภาษากรีกก็คือ “ด้วยสัญลักษณ์น้ จงพิชิต” ขณะท่ในภาษาละตินจะ
ี
ี
แปลว่า “ด้วยสัญลักษณ์น้ เจ้าจะพิชิต”
ี
ภาพวาดจักรพรรดิคอนสแตนตินเห็นสัญลักษณ์ Chi-Rho
แรกเร่มจักรพรรดิคอนสแตนตินทรงไม่ม่นใจกับส่งท่เห็นเท่าใด
ี
ิ
ั
ิ
ั
แต่ในคืนน้น พระองค์ทรงพระสุบินเห็นพระเยซู ซ่งรับส่งให้ใช้สัญลักษณ์
ั
ึ
ู
ึ
่
ั
ู
ิ
ั
ิ
ดงกล่าวในการต่อส้กบศัตร จักรพรรดคอนสแตนตนจงรับสงให้เขียน
ั
�
ตัวอักษรเป็นรูปตัว Chi (X) โดยมีตัวอักษร Rho (P) ทับ ทาให้กลาย
เป็นสัญลักษณ์ ☧ ซึ่งเป็นอักษรสองตัวแรกของช่อพระเยซูในภาษากรีก
ื
(ΧΡΙΣΤΟΣ / Christos) และกลายมาเป็นสัญลักษณ์ Chi-Rho
ั
่
ซงสญลกษณ์นจะถูกนาไปตดบนธงศกทเรยกว่า ลาบารม (Labarum)
ุ
ี
ี
ึ
ึ
ั
้
ี
่
ิ
�
ทงนนกประวตศาสตร์ทงสองเหนพ้องกนว่า ในขณะนนสญลกษณ์
ั
ั
้
ั
้
ั
้
ั
ิ
ั
็
ั
้
ั
ี
* ภาษาอังกฤษว่า ”In this sign„ — บ.ก.
CONSTANTINOPLE
26 The Queen of Cities
ี
ี
ื
ดังกล่าวยังไม่เป็นท่รับรู้อย่างกว้างขวางว่าเป็นสัญลักษณ์ท่ส่อความ
หมายถึงพระเยซู (แม้ว่าในหมู่ชาวคริสเตียนจะใช้สัญลักษณ์ดังกล่าวบน
ื
หีบศพหิน เพ่อสะท้อนว่าเป็นหีบศพของชาวคริสเตียนแล้วก็ตาม)
ี
ธงลาบาลุม (Labarum) ท่ประดับสัญลักษณ์ Chi-Rho
ุ
ในเช้าวันท 28 ตลาคม แม็กเซนตอุสเลือกนากองทพของพระองค์
�
ี
่
ิ
ั
ั
ี
ข้ามสะพานมิลเวียน และต้งจุดต้งรับไว้ท่บริเวณทิศเหนือด้านหน้าสะพาน
ั
ั
�
�
ิ
ึ
ซ่งการรักษาตาแหน่งน้นไว้ให้ได้ ถือว่ามีความสาคัญอย่างย่งยวดท ี ่
จะกีดกันไม่ให้กองทัพคอนสแตนตินเข้ามายังกรุงโรมได้สาเร็จ เพราะ
�
�
สภาแห่งกรุงโรมย่อมให้การสนับสนุนใครก็ตามท่สามารถยึดอานาจได้
ี
ี
ั
ึ
ั
ี
ท้งน้เป็นอีกคร้งหน่งท่กองทัพของคอนสแตนตินตกเป็นรองกองทัพของ
ี
แม็กเซนติอุสท่มีจานวนมากกว่า แต่คอนสแตนตินแก้สถานการณ์ด้วยการ
�
จัดทัพใหเปนแนวยาวเทากับกองทัพของแม็กเซนติอุส และสั่งการใหทหาร
้
่
็
้
ม้าบุกโจมตีก่อน และสามารถฝ่ากองพลทหารม้าของแม็กเซนติอุสไปได้
ั
หลังจากน้น จึงส่งให้กองพลทหารบกบุกต่อไปเผชิญหน้ากับทหารบกของ
ั
ึ
ศัตรู ซ่งส่งผลให้กองทัพของแม็กเซนติอุสถูกผลักดันไปข้างหลัง และท้าย
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 27
ั
ี
ท่สุด หากไม่โดนสังหารด้วยปลายดาบของทหารของคอนสแตนติน ก็จม
้
�
�
้
นาตายในแม่นาไทเบอร์ โดยใช้เวลาสู้รบไม่นานกองทัพของแม็กเซนติอุส
ก็แตกแถวกระเจิงและพยายามหลบหนีไป แม็กเซนติอุสและกองพล
เพรโทเรยนพยายามคุมตาแหน่งไว้ แต่ก็ต้านทานไม่ไหว แม็กเซนติอุสจึง
�
ี
ั
ี
ั
ส่งถอยทัพ โดยตั้งใจท่จะไปต้งรับในกรุงโรมอีกคร้ง แต่ปัญหาก็คือ เส้นทาง
ั
การหลบหนีน้นมีอยู่เส้นทางเดียวก็คือการข้ามสะพานกลับไปอีกฝั่งหน่ง
ั
ึ
ั
แต่สะพานช่วคราวก็ถล่มลง แม็กเซนติอุสถูกม้าพยศจนตกลงไปในแม่นา
้
�
�
้
และถูกทหารของตนทับจนจมนาตาย ขณะเดียวกันทหารท่ติดอยู่ทาง
ี
ฝั่งทิศเหนือของแม่นาไทเบอร์ก็ถูกจับเป็นเชลย หรือไม่ก็ถูกทหารของ
�
้
คอนสแตนตินสังหารในระหว่างถอยหน ี
ความปราชัยของแม็กเซนติอุสอาจเกิดจากความผิดพลาดของ
�
ั
ี
ู
ั
ั
พระองค์เอง ทจดแนวทหารใกล้กบแม่นาไทเบอร์ทอย่ทางด้านหลงมาก
่
้
่
ี
ี
�
เกินไป ทาให้ไม่เหลือท่มากพอท่จะปรับตาแหน่ง หรือปรับยุทธศาสตร์
�
ี
�
การสู้รบ แต่นักประวัติศาสตร์โดยเฉพาะในสานักพระราชวังของจักรพรรด ิ
คอนสแตนตินมักพยายามนาเสนอว่า การตัดสินใจท่น่าประหลาดใจ
ี
�
ของแม็กเซนติอุส ท่เลือกยกทัพออกไปเผชิญหน้ากับคอนสแตนตินใน
ี
ั
สงครามกลางแจ้ง รวมถึงการจัดทัพท่ผิดพลาดน้น เป็นเพราะพระเจ้าเข้า
ี
ข้างคอนสแตนติน และดลใจให้แม็กเซนติอุสตัดสินใจเช่นน้น อย่างไรก็ด ี
ั
ี
ิ
นักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังต้งข้อสังเกตว่า ส่งท่จักรพรรด ิ
ั
ั
คอนสแตนตินเห็นในวันน้น น่าจะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น
ี
พระอาทิตย์ทรงกลด หรือปรากฏการณ์ซันด็อก (Sun Dog) ท่เกิดจาก
การหักเหและการสะท้อนของแสงอาทิตย์กับเมฆนาแข็ง
้
�
ี
ภายหลังจากชัยชนะท่ศึกสะพานมิลเวียน คอนสแตนตินเสด็จ
เข้าไปยังกรุงโรมในวันท่ 29 ตุลาคม และได้รับการต้อนรับอย่างย่งใหญ่
ี
ิ
ึ
ี
ในขณะท่ศพของแม็กเซนติอุสถูกลากข้นมาจากแม่นาไทเบอร์ ถูกตัด
้
�
CONSTANTINOPLE
28 The Queen of Cities
ั
ึ
ศีรษะแล้วนาไปประจานท่วทุกแห่งหนของเมือง ซ่งภายหลังการเฉลิมฉลอง
�
ื
ศีรษะของแม็กเซนติอุสก็ถูกส่งไปยังคาร์เธจเพ่อเป็นหลักฐานว่าพระองค์
ส้นพระชนม์แล้ว ทาให้แอฟริกาไม่กล้าต่อต้านคอนสแตนตินอีกต่อไป
�
ิ
�
ั
ั
�
ชัยชนะในคร้งน้นทาให้คอนสแตนตินได้รับอานาจในการปกครองฝั่ง
ตะวันตกของจักรวรรดิโรมันอย่างไม่มีคู่แข่งอีกต่อไป และเดินหน้าลบล้าง
ประวัติศาสตร์ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยทาลายเอกสาร รูปปั้น และทุกส่ง
ิ
�
ี
ั
ี
ทุกอย่างท่เก่ยวกับแม็กเซนติอุสพร้อมท้งขนานนามแม็กเซนติอุสว่าเป็น
ทรราช นอกจากน้ยังมีการก่อสร้างประตูชัย (Triumphalarch) ข้นในปี
ี
ึ
ึ
ื
ึ
315 เพ่อฉลองชัยชนะในศึกสะพานมิลเวียน ซ่งเป็นอีกหน่งธรรมเนียม
ึ
ปฏิบัติแห่งยุค แต่ส่งหน่งท่คอนสแตนตินฉีกธรรมเนียมปฏิบัติและไม่ได้ทา
ิ
ี
�
ี
�
ก็คือ การไปท่เขาคาปิโตลิเน (Capitoline Hill) และทาพิธีบวงสรวงบูชา
ู
่
ี
ั
ท่วิหารแห่งเทพจปิเตอร์ ซ่งเป็นสญญาณทชัดเจนถึงความแตกต่างทาง
ี
ึ
ี
ความเช่อและการปฏิบัติระหว่างชาวโรมันท่ยังเคารพบูชาเหล่าทวยเทพ
ื
กับจักรพรรดิคอนสแตนตินท่เคารพพระผู้เป็นเจ้าแห่งคริสต์ศาสนาใน
ี
ึ
เวลาต่อมา ซ่งความแตกต่างดังกล่าวจะสร้างความตึงเครียดและช่องว่าง
ื
ระหว่างจักรพรรดิ และประชาชนของพระองค์มากข้นเร่อยๆ
ึ
�
ุ
ิ
ิ
ื
ชยชนะเหนอแมกเซนตอสทาให้คอนสแตนตนเป็นผ้ปกครอง
็
ั
ู
จักรวรรดิโรมันฝั่งตะวันตกอย่างไม่มีคู่แข่งหรือผู้ท้าชิงอานาจอีกต่อไป
�
ี
ั
ในขณะท่ฝั่งตะวันออกน้น ลิซินิอุสก็สามารถพิชิตแม็กซิมินุส ไดอาได้
ใน ค.ศ. 313 ท�าให้พระองค์กลายเป็นจักรพรรดิของฝ่ายตะวันออกแต่
ั
เพียงผู้เดียวเช่นกัน ดังน้นในปีดังกล่าว คอนสแตนตินและลิซินิอุสได้มา
ั
่
ั
ี
ิ
ุ
ี
ั
ื
่
ประชมกนท่เมืองมลาน และหารอนโยบายเกยวกบศาสนาทสอดคล้องกน
ี
และประกาศพระราชกฤษฎีกามิลาน (Edict of Milan) ซ่งเป็นจดหมาย
ึ
เวียนลงช่อโดยท้งสองพระองค์ ท่แม้ว่าจะไม่ถึงกับประกาศให้ศาสนา
ี
ื
ั
คริสต์เป็นศาสนาหลักของจักรวรรดิโรมัน แต่ประกาศให้เสรีภาพในการ
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
ราชินีแห่งนครท้งมวล 29
ั
นับถือศาสนาแก่ประชาชนในจักรวรรดิโรมัน และประกาศว่าจักรวรรด ิ
�
ึ
จะทาตัวเป็นกลางในการนับถือศาสนาของประชาชน ซ่งเป็นการยกเลิก
ั
ื
อุปสรรคต่างๆ ในการนับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอ่นๆ อีกท้งช่วยให้
ึ
ี
ิ
ชาวโรมันท่นับถือศาสนาคริสต์ได้รับอิสรภาพและสิทธ์ต่างๆ มากข้นกว่า
เดิม อาทิ สิทธ์ทรัพย์สินและท่ดิน ซ่งเคยถูกยึดไปในช่วงการปราบปราม
ิ
ึ
ี
ชาวคริสต์ก่อนหน้าน้น
ั
�
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคอนสแตนตินและลิซินิอุสยาแย่ลงเร่อยๆ
่
ื
โดยเฉพาะเม่อมีการลอบปลงพระชนม์คอนสแตนติน โดยคนท่ลิซินิอุส
ื
ี
ั
ประสงค์จะแต่งต้งเป็นซีซาร์ รวมท้งการท่ลิซินิอุสหันมากดข่ข่มเหงชาว
ี
ี
ั
ั
ึ
คริสต์อีกคร้ง อันนาไปสู่สงครามกลางเมืองคร้งใหญ่ต้งแต่ปี ค.ศ. 314 ซ่ง
ั
ั
�
�
ั
ั
ี
ิ
ั
กองทพของคอนสแตนตินได้รบชัยชนะท่สาคญในหลายสมรภมท้งทางบก
ู
ั
ิ
ิ
และทางทะเล จวบกระท่งปี ค.ศ. 324 ทคอนสแตนตินจะบงคบให้ลซินอุส
ี
ั
ั
่
ั
ั
ยอมรับความพ่ายแพ้คร้งสุดท้ายในยุทธการ ณ ไครโซโปลิส (Battle of
ี
Chrysopolis) เม่อวันท่ 18 กันยายน ค.ศ. 324 และแม้ว่าในช่วงแรก
ื
ี
คอนสแตนตินยังคงไว้ชีวิตอีกฝ่ายหน่ง แต่ท้ายท่สุดลิซินิอุสก็ถูกประหาร
ึ
�
ในปี ค.ศ. 325 ในข้อหาพยายามกบฏ และการประหารลิซินิอุสทาให้
คอนสแตนตินผงาดข้นเป็นจักรพรรดิองค์เดียวของจักรวรรดิโรมันท้งหมด
ั
ึ
แต่ถึงตอนน้น ความปราชัยของลิซินิอุสถูกมองว่าเป็นชัยชนะของ
ั
ชาวคริสต์ท่ใช้ภาษาละตินเหนือลัทธิบูชาเทพเจ้าและการใช้ภาษากรีก ซ่ง ึ
ี
ความแตกต่างทางความเช่อระหว่างองค์จักรพรรดิและพสกนิกรดังกล่าว
ื
ก็เร่มจะถึงจุดแตกหักแล้ว นอกจากนี้จักรพรรดิคอนสแตนตินตระหนักว่า
ิ
ี
จากมุมมองทางการทหาร การปกป้องดินแดน และขจัดความเส่ยงจาก
้
�
ื
ทางตะวันออก เพ่อเป็นการปกป้องทรัพยากรอันสาคัญ อาทิ อู่ข้าวอู่นา
�
�
ึ
ในอียิปต์ น่าจะกระทาได้ง่ายข้นหากพระองค์ขยับเมืองหลวงไปยังจุดท ี ่
สามารถพิทักษ์ดินแดนท้งหมดได้จากทางฝั่งตะวันออก โดยพระองค์จะ
ั
CONSTANTINOPLE
30 The Queen of Cities