รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
Russia: A Thousand Years of the Great Empire
รศ.ผุสดี จันทวิมล: เขียน
ราคา 580 บาท
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ผุสดี จันทวิมล.
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่ = Russia: a thousand years of the great empire.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2564.
528 หน้า.
1. รัสเซีย -- ประวัติศาสตร์่. I. ชื่อเรื่อง.
947
ISBN 978-616-301-742-0
© ข้อความในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
บรรณาธิการอำานวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน์
บรรณาธิการเล่ม : กว่าชื่น บางคมบาง สินีนาถ เศรษฐพิศาล
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา
เลขากองบรรณาธิการ : กันยารัตน์ ทานะเวช
หัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษร : สวภัทร เพ็ชรรัตน์
ฝ่ายพิสูจน์อักษร : วนัชพร เขียวชอุ่ม
พิสูจน์อักษร : รีดเดอร์ปาร์ตี
รูปเล่ม : Evolution Art
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
จัดพิมพ์โดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร 0 2728 0939 ต่อ 108
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
Line ID: @gypzy
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำาหน่ายโดย : บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำากัด
108 หมู่ที่ 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์
อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
โทร. 0 2423 9999 โทรสาร 0 2449 9222, 0 2449 9500-6
Homepage: http://www.naiin.com
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939
ิ
ี
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีท่ย่งใหญ่
Russia: A Thousand Years of the Great Empire
รศ.ผุสดี จันทวิมล
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
รัสเซียในสำยตำคุณ
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุด
ของโลก คือตัวแทนของรัสเซียที่คุณรู้จักในปัจจุบัน ค�ากล่าวติดปากอย่าง
ุ
ั
ิ
ั
ั
ี
ั
่
ี
ี
“โหดสส(สตว์)รสเซย” เป็นประโยคทให้ภาพบคลกของชาวรสเซยหลาก
หลายแง่มุม ราสปูตินคือตานานของความล้ลับไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์
�
ี
�
โรมานอฟ และนาตาชา โรมานอฟ แม่ม่ายดา คือตัวละครท่ทรงเสน่ห์
ี
คนหนึ่งในจักรวาลมาร์เวล
หากจะกล่าวกันอย่างวิชาการ ในสายตาของนักอ่านไทย รัสเซีย
ี
ปรากฏให้รู้จักในยุคสมัยท่ประเทศไทยอยู่ในช่วงความขัดแย้งทางอุดมการณ์
ความคิด ก่อน พ.ศ. 2475 นักเขียนก้าวหน้า อย่าง “ศรีบูรพา” ได้เปิด
โลกวรรณกรรมไทยด้วยนวนิยายเรื่อง สงครามชีวิต อันได้รับอิทธิพลใน
การเขียนมาจากเรื่อง Poor People ของฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี้ นักเขียน
ื
ิ
ั
รัสเซียผู้ย่งใหญ่ และต่อมาในช่วงความเคล่อนไหวของนิสิตนักศึกษา ต้งแต่
ั
ก่อน พ.ศ. 2516 จนกระท่งหลังเหตุการณ์ตุลาคม พ.ศ. 2519 โลกการอ่าน
ก็มีชื่อของนักเขียนรัสเซียอย่าง ลีโอ ตอลสตอย, ฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี้,
นิโคไล โกโกล และอันตัน เชคอฟ ปรากฏอยู่ในฐานะผู้เขียนวรรณกรรม
เพื่อสังคมที่ควรค่าแก่การอ่าน
ั
�
สาหรับความสัมพันธ์ของไทยกับรัสเซียในระดับประเทศน้น ราช-
สานักสยามมีไมตรีกับราชสานักรัสเซียมาต้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระ
�
ั
�
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ 5 โดยถือการเสด็จประพาสรัสเซียของ
ี
พระองค์ (เมื่อวันที่ 3-11 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 [ค.ศ.1897]) เป็นจุด
ิ
เร่มต้นของความสัมพันธ์ทางการทูตของสองราชอาณาจักร แต่หลังช่วง
ี
พ.ศ. 2460 (ค.ศ. 1917) คือหลังการปฏิวัติเปล่ยนแปลงการปกครองจาก
ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบสังคมนิยม สยามไม่ยอมรับการ
ปกครองโดยพรรคบอลเชวิค เมื่อทราบชะตากรรมของพระเจ้าซาร์นิโคลัส
และพระบรมวงศานุวงศ์ สยามจึงยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย
ต่อมาเมื่อประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ได้
มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียครั้งใหม่ ใน พ.ศ. 2491
�
ื
(ค.ศ.1948) และดาเนินมาอย่างต่อเน่อง แม้สหภาพโซเวียตได้สลายตัวลง
ใน พ.ศ. 2534 (ค.ศ.1991) เป็นสหพันธรัฐรัสเซีย ความสัมพันธ์กับไทย
ก็ยังด�าเนินต่อเนื่องมา
ี
ี
แต่รัสเซียท่คุณรู้จักน้น แทบไม่ได้เส้ยวหน่งของความย่งใหญ่แห่ง
ั
ิ
ึ
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่ จากชาวรุส อาณาจักรเคียฟ อาณาจักร
มัสโควี เต็มไปด้วยต�านานของการสู้รบ เหล่าผู้ปกครองทั้งซาร์และซารินา
ั
ั
�
ี
ผู้เปล่ยนแปลง ขัดแย้ง แย่งชิง ท้งพัฒนาอาณาจักรหรือท้งทาลายอาณาจักร
ี
�
ไปพร้อมกัน เต็มไปด้วยการเปล่ยนแปลงของอานาจ การต่อสู้ช่วงชิงยึด
ครองอาณาจักร ความขัดแย้งทางศาสนา ความเหลื่อมล�้าสุดขั้วของชนชั้น
ท้งผู้ปกครอง ประชาชน ทาส วรรณคดี วรรณกรรม สถาปัตยกรรม ศิลปะ
ั
นักเขียน ศิลปินที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่เป็นอมตะ
รัสเซียที่คุณรู้จัก ยังไม่ใช่รัสเซียทั้งหมดที่มี
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่ เล่มนี้ จะย้อนเล่าถึงเรื่องราวจาก
แรกเริ่ม เพื่อได้มองเห็นเส้นทางประวัติศาสตร์จากอดีตที่น�ามาสู่รัสเซียใน
ปัจจุบัน
รัสเซียที่คุณยังไม่รู้จัก จะท�าให้คุณรู้จักรัสเซียมากยิ่งขึ้น
รู้จักมหาอ�านาจที่แท้จริง!
ส�ำนักพิมพ์ยิปซี
ค�ำน�ำผู้เขียน
ี
ี
ประเทศชาติเหมือนบุคคลท่เกิดมีชีวิตและองคาพยพท่ต้องดาเนินไป
�
ตามร่องตามรอยในวิถีแห่งกาลและต้องเผชิญภาวการณ์จาเพาะ มีเส่อม
ื
�
ิ
ึ
สูญส้นสภาพเดิมแล้วเกิดสภาพใหม่ มีสภาพใหม่เกิดข้นตลอดเส้นทาง ไม่ม ี
คงอยู่อย่างถาวร ไม่มีที่แน่นอน ไม่ตายตัว ด้วยมีปัจจัยที่เป็นเหตุให้ขยับ
เขยื้อนเคลื่อนย้ายเปลี่ยนแปร ขยายพองออก หดเข้า มากขึ้นหรือยุบน้อย
ิ
�
ี
ถอยลง สูญส้นสภาพดับไป เหตุและปัจจัยมีมากมายหลายประการท่ทาให้การ
คงสภาพนั้นไม่อาจเป็นได้ แม้ความจริงเป็นเช่นนี้แล้วก็ยังมีความต้องการ
ี
ั
สภาพท่เป็นและคงอยู่ได้อย่างใจปรารถนาเสมอ ดังน้นก็ต้องรู้และเข้าใจได้
ว่าหมายถึงจาเป็นต้องปรับเปล่ยนตามความเหมาะสมแก่สภาพการณ์หรือ
�
ี
ื
ี
เลือกหนทางและใช้วิธีรับมือกับสถานการณ์ท่เป็นเง่อนไขตอบโจทย์ท่อยู่
ี
ตรงหน้าให้ได้เสมอ หากไม่ขยับหรือปรับเปลี่ยนให้ทันแก่การณ์ได้ก็จบ ที่
ี
ึ
ว่าน้ไม่ได้หมายเพียงให้ได้สรุปลงท่ความคิดเร่องเจริญข้นหรือเส่อมลงและ
ื
ี
ื
ี
ื
เจริญหรือเส่อมอย่างไร หรือสนับสนุนทฤษฎีวัฏจักรท่เก่าแก่พ้นสมัยแล้ว
นั้นแต่อย่างใด แค่ให้ได้ร�าลึกและตระหนักว่าประวัติศาสตร์เป็นวิชาหนึ่งใน
สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ท่ให้ความรู้เร่องมนุษย์และสังคม
ื
ี
ั
่
้
เนอหาเร่องราวประวตศาสตร์ชาติตางๆ บนโลกใบนน้นบอกสภาพธรรมอน
ั
้
ื
ื
ิ
ี
ั
เป็นสากลได้เป็นอย่างดี
ในเส้นทางชีวิต เริ่มต้นก่อนท�าคือคิด หากคิดเห็นผิด ได้ตั้งต้นผิด
ิ
ี
ื
เลอกเดนทางผด หมายถงหายนะ มคาพดทว่า “ควำมเจรญก้ำวหน้ำ
ึ
ิ
ี
ิ
่
�
ู
ี
หมำยถึงควำมตำยของผู้ท่มำก่อน” คนฉลาดย่อมรู้วิธีและรู้ประสบการณ์
ื
ี
ของผู้ท่มาก่อนเป็นเบ้องต้นท่ช่วยให้ไม่เสียเวลา ความเส่ยงลดน้อยลง
ี
ี
ี
�
ื
ี
และได้ผลท่แน่นอน ความรู้เร่องการกระทาของชนผู้ท่เกิดก่อนท่เรียกว่า
ี
ี
ึ
ื
ั
�
ประวัติศาสตร์น้น ความสาคัญอยู่ตรงเร่องท่ได้เกิดข้นแล้วย่อมส่งผลต่อ
ปัจจุบันและอนาคต เม่อมนุษย์และสังคมมนุษย์ดาเนินชีวิตอย่างท่ต้องเผชิญ
ี
ื
�
�
ี
ปัญหาและอุปสรรคในเส้นทาง ก่อนท่จะประสบความสาเร็จและล้มเหลว
ี
ื
ื
ี
ึ
การรู้เร่องท่เกิดข้นในอดีตกาลเป็นประสบการณ์ เช่นกันกับท่ได้รู้เร่องต่างๆ
ของปัจจุบันที่ยังประโยชน์แก่ชีวิต ประวัติศาสตร์เป็นต้นทุนที่ให้โอกาสท�า
ั
ี
สาเร็จได้มากกว่า ยงไปกว่าน้นประวตศาสตร์มความเก่ยวข้องกบศาสตร์
่
ั
ิ
ิ
ั
�
ี
ู
�
�
ื
ต่างๆ โดยทมีอย่ในเน้อหา และเน่องจากจาเป็นต้องนาศาสตร์อ่นมาใช้
ื
ี
่
ื
้
ประกอบการศึกษาเพ่อให้ได้รู้รอบรชัดและถูกต้องมากย่งขน ความก้าวหน้า
ึ
ู้
ื
ิ
ื
ของศาสตร์ต่างๆ จึงเป็นเคร่องมือใช้พิจารณาท่ก่อให้เกิดทัศนะท่กว้างขวาง
ี
ี
ยิ่งขึ้นไปอีกได้
ื
�
�
เม่อมนุษย์จะกระทาการใดก็ตามย่อมมีเหตุผลักดันให้กระทาท้งท ี ่
ั
ื
เป็นสาเหตุพ้นฐานและสาเหตุปัจจุบัน ความต้องการพ้นฐานของชีวิตคืออย ู่
ื
รอดปลอดภัย เป็นสุขและมั่นคงตลอดไป ในเหตุปัจจุบันมีค�าอ้างเรื่องบท
แห่งอุบัติการณ์ท่ไม่อาจคาดล่วงหน้า เกิดอย่างฉับพลันกะทันหันไม่คาดฝัน
ี
การตีความเหตุการณ์ว่าเป็นเช่นน้ย่อมเกิดข้นได้ เป็นอย่างเชนการเป่า
ี
ึ
่
ลูกโป่ง หากมีลมเกินพอดี ลูกโป่งย่อมแตก นักประวัติศาสตร์โซเวียตมัก
เน้นย�้าเรื่องการปฏิวัติ ค.ศ. 1917 ว่าเกิดขึ้นเอง เป็นอุบัติการณ์ไม่คาดคิด
ล่วงหน้า ที่เกิดมีมวลชนมาออกันอยู่เต็มถนน ลุกฮือขึ้นก่อการ จนกระทั่ง
�
ี
ิ
อานาจปกครองของราชวงศ์โรมานอฟส้นสุดลง แต่เราย่อมรู้ดีว่าปัจจัยท่ก่อ
เหตุปฏิวัติให้เกิดขึ้นได้มีหลายประการ และรู้ว่าหากเป่าลมเข้าลูกโป่งมาก
เกิน ลูกโป่งจะแตก ลูกโป่งที่เหนียวพอจึงจักรับปริมาณลมได้ มีผู้ไม่เชื่อ
เรื่องบทแห่งอุบัติการณ์ จนถึงว่าไม่มีเหตุใดเกิดขึ้นโดยไม่อยู่ในแผน หรือ
ื
�
ว่ามันได้ถูกกาหนดข้นน่นเอง ในการศึกษาประวัติศาสตร์ เม่อได้รู้ว่าเคย
ึ
ั
เกิดอะไรข้นตามลาดับกาลและรู้เหตุรู้ผลของเหตุการณ์ รู้เร่องของความน่า
ื
�
ึ
จะเป็น โดยหากตัวการผู้กระท�าบทบาทตัดสินใจเลือกท�าการเป็นอย่างอื่น
ี
เล่า จะเกิดอะไรหรือเป็นอย่างไรได้ มีกลุ่มผู้อ่านประวัติศาสตร์ท่คิดตรอง
และเชื่อในอันที่สุดว่ามีผู้ดลบันดาล ก�าหนดทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดมีขึ้น จน
มีผู้วางทฤษฎีตอบข้อสงสัยที่ว่าใครหรืออะไรผลักดันให้ทุกอย่างเป็นดังนั้น
ื
ี
และใครคุมเกม มีความจริงท่ปรากฏชัดอยู่ในเร่องพฤติกรรมของมนุษย์
ื
ี
ิ
คือมนุษย์น้นต้องการควบคุมเพ่อสัมฤทธ์ผลตามท่ใจตนปรารถนา น่นคือ
ั
ั
ต้องมีอ�านาจกระท�าการให้ส�าเร็จ และมีอาวุธส�าคัญที่ใช้ได้ในกระบวนการ
่
้
ื
ู
ี
่
่
ั
ี
ิ
ั
ึ
ั
ุ
ี
้
ั
้
ุ
ทกขนตอนคอความร อยางทเรียกวาศาสตราวธ ดงนจงมนกประวตศาสตร ์
ึ
ี
ี
ในยุคสมัยหน่งท่คิดเช่อว่าความรู้ความเข้าใจท่ได้จากประวัติศาสตร์ม ี
ื
ประสิทธิภาพถึงข้นท่ช่วยให้สามารถไขความลับของจักรวาลได้เลยทีเดียว
ี
ั
หรือรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อรู้อดีต รู้ปัจจุบัน ก็ย่อมรู้อนาคต ได้จาก
ี
ั
ี
การรู้เห็นตัวการท่ควบคุมเหตุการณ์ท้งหมดของโลกใบน้ ประวัติศาสตร์คือ
แผนหรือเกม แผนคือมีจุดหมาย เกมคือมีแพ้ชนะ
ื
การสืบค้นสาเหตุของเร่องหรือการกระทาในเส้นทางของเหตุและผล
�
เป็นเรื่องสนุกชวนติดตาม มากกว่าเพียงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เพียงเท่านั้น ที่
ต้องรู้สาเหตุเพราะมนุษย์เป็นสัตว์ท่คิดตามหลักเหตุผลและมีความต้องการ
ี
รู้ค�าอธิบาย ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ไหน อย่างไร ท�าไม ต่อไปจะเป็นอย่างไร ถ้า
ื
ึ
ี
เร่องท่เกิดข้นมีความสาคัญท่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของชนหมู่มากและโดย
ี
�
เฉพาะต่อตัวเราเองแล้วไซร้ ค�าถาม “ท�าไม” ยิ่งจ�าเป็น ค�าตอบที่ได้จะเป็น
เครื่องมือที่ใช้ส�าหรับเดินก้าวต่อไป
รัสเซียเป็นประเทศท่มีการพัฒนามาตลอดช่วงเวลาท่ยาวนานนับแต่
ี
ี
ี
ั
ั
แรกต้งอาณาจักรเคียฟในราวคริสต์ศตวรรษท่ 10 จนถึงสมัยจกรวรรด ิ
ี
ี
ี
แห่งราชวงศ์โรมานอฟท่ล่มสลายลงในคริสต์ศตวรรษท่ 20 นับพันปีท
่
�
ศูนย์อานาจปกครองต้องขยับโยกย้ายและมีศูนย์อานาจอยู่หลายแห่งกว่า
�
้
จะไดครองพื้นที่สองทวีป ท�าใหมีค�าถามเกิดขึ้นมากมายกับผูที่ศึกษาสังคม
้
้
ู
ี
ี
ั
ั
ั
ื
ี
และวฒนธรรมรสเซยท่มความซบซ้อน เน่องจากรัสเซียมีผ้คนมากมาย
ั
ั
ี
หลากหลายกลุ่มท้งชาติพันธุ์และชนช้นท่มีความสัมพันธ์กันมาโดยตลอด
ผู้ปกครองนับตั้งแต่กษัตริย์ลงมาถึงบิดากับผู้อยู่ใต้ปกครอง เจ้าของทรัพย์
ุ
่
่
ิ
ี
ี
ื
่
ี
่
ิ
ั
ุ
ื
ั
ทดนกบชาวนา ทาสทดน ทาส นกรบ นกบวช ชางฝมอ กลมคนหรอบคคล
ั
กระทาบทบาทโดยมีสาเหตุและมีปัจจัยพ้นฐานอยู่ท่ความจาเป็นตามเจตจานง
�
ี
ื
�
�
่
้
ี
ื
่
ั
ั
ั
ั
ิ
้
�
้
้
่
้
�
ี
และตาแหนงทยน บงคบผลกดนทาใหตองดนรนตอสใหไดสงทตนปรารถนา
ิ
่
้
่
ู
็
ิ
ปรากฏให้เหนอยในพฤตกรรมท่พยายามให้ได้ชัยชนะ ได้ถออานาจควบคม
ุ
ี
�
ื
ู่
กับให้ได้เป็นอิสระ พ้นจากอานาจควบคุมของผู้อ่น หรือว่าท่จริงก็คือ
�
ื
ี
ให้ได้เป็นผู้ถืออ�านาจนั้นเอง การต่อสู้เดิมพันกันด้วยชีวิต เป็นหรือตาย ใน
�
เส้นทางท่ดาเนินไปน้ น้อยนักท่คนเราจักขยับกระทาการอย่างหน่งอย่างใด
ี
�
ึ
ี
ี
�
�
โดยไม่เห็นจาเป็น ความจาเป็นจึงเป็นแรงบีบคั้นบังคับผลักดันกระตุ้นเร้า
ื
หรือบันดาลใจ โดยได้รับอย่างเป็นผลจากประสบการณ์ท่มีมาอย่างต่อเน่อง
ี
เห็นได้จากท่มนุษยชาติกระโดดข้ามจากยุคล่าฆ่าและเก็บกินมาเป็นยุค
ี
ท�าไร่ไถนาเลี้ยงสัตว์ การสู้รบ ท�าสงคราม หรือจากการลุกขึ้นจากที่นอน
่
ออกไปทามาหากน ออกจากหม่บ้าน โยกย้ายถนทอาศย หรอจากการ
�
ี
ั
ื
ู
่
ิ
ิ
ประกอบอาชีพจนสิ้นอายุขัย
ั
ตงแต่แรกตงอาณาจักรจนถึงปัจจบัน รสเซียมีเมืองหลวงต้งอยู่ใน
ั
ุ
ั
้
้
ั
ทวีปยุโรปและรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากแดนตะวันตกที่เหนือกว่า จาก
ี
สภาพท่ต้งของประเทศนับต้งแต่ต้นท่ชาวรัสเซียเป็นชาวป่าท่ต้องสู้กับชาว
ี
ั
ี
ั
ทุ่งสเตปป์ รัสเซียเป็นยูเรเชีย มีพื้นที่ขยายครอบคลุมที่ราบภาคตะวันออก
ของยุโรปและเอเชียทางเหนือ แต่จนถึงคริสต์ศตวรรษท่ 19 ไซบีเรีย
ี
มีบทบาทในด้านการพัฒนาวัฒนธรรมของรัสเซียไม่มาก รัสเซียรับอิทธิพล
ทางวัฒนธรรมจากสแกนดิเนเวีย บิแซนทีน เอเชีย ยุโรปตะวันตก และต่อมา
คืออเมริกาเหนือ อย่างไรก็ดี อิทธิพลจากภายนอกไม่อาจผลักดันรัสเซียให้
ี
ั
�
เหออกนอกทางท่เป็นตัวตนของตนได้ อีกท้งไม่สามารถกาหนดทิศทางการ
ื
พัฒนาพ้นฐานภายในของรัสเซียได้ รัสเซียไม่ใช่ท้งยุโรปและเอเชีย ถึงจะรับ
ั
�
ี
ค่านิยมและสถาบันสาคัญจากสองทวีปมาก็ตาม รัสเซียเหมือนจีนท่คงความ
ส�าคัญอยู่บนโลกนี้ด้วยตนเอง ทั้งที่ได้ดูดซับและบูรณาการปัจจัยภายนอก
ื
ั
มาผสมผสานเข้าด้วยกัน จึงเป็นด่งสะพานเช่อมโลกตะวันตกกับตะวันออก
ให้ถึงกัน รัสเซียมีประวัติศาสตร์ท่ยาวนานและซับซ้อนดังกล่าวแล้ว แต่ผู้คน
ี
ั
�
ท่วไปมักสนใจเร่องของชาวเกรตรัสเซียท่มีศูนย์อานาจอยู่ท่มอสโกมากกว่า
ี
ื
ี
ื
ึ
ี
�
ี
ท่อ่น ซ่งอาจเน่องจากผู้ควบคุมศูนย์อานาจท่มอสโกมีวีรกรรมและบทบาทเด่น
ื
ิ
ื
เหนือชาวสลาฟตะวันออกกลุ่มอ่นๆ รวมท้งชนท่ไม่ใช่สลาฟในจักรวรรด
ี
ั
แต่ประชาชาติท่ไม่ใช่เกรตรัสเซียก็ได้ร่วมพัฒนารัสเซียมาด้วยตลอด ในการ
ี
ศึกษาศูนย์อานาจใหญ่ของรัสเซียทาให้เห็นว่าชาติเหล่าน้ได้รับผลกระทบ
ี
�
�
ี
และมีปฏิสัมพันธ์กับศูนย์กลางแห่งอานาจท่มอสโกอย่างไร เคียฟรัสเซียเอง
�
ิ
ื
ก็มความเช่อมโยงกับมัสโควีและจักรวรรดมาโดยตลอด และเป็นองค์ประกอบ
ี
�
ี
ท่สาคัญในประวัติศาสตร์ของรัสเซีย อย่างไรก็ดี เหตุปัจจัยทางประวัติศาสตร์
และวัฒนธรรมก็ได้ส่งผลอย่างย่งให้ชาวเกรตรัสเซียมีความแตกต่างจากชาว
ิ
ยูเครนและเบโลรัสเซีย พวกนิยมลัทธิมาร์กซ์-เลนินเช่อว่ามนุษยชาติมีการ
ื
ั
พัฒนาตามข้นตอนทางเศรษฐกิจ-สังคม ท่จัดเป็นยุคได้ดังน้ ประชาคมนิยม
ี
ี
บรรพกาล ยุคทาส ยุคขุนศึก-ศักดินาสวามิภักดิ์ และยุคทุนนิยม ที่สุดคือ
ี
ประชาคมนิยมคอมมิวนิสต์ แต่ละข้นมีสถานะท่แตกต่างกันและรูปแบบการ
ั
ผลิตที่ก้าวหน้าขึ้นเป็นล�าดับ มีความขัดแย้งทางชนชั้นในทุกยุคก่อนจะถึง
ยุคคอมมิวนิสต์ ในการศึกษาประวัติศาสตร์รัสเซียโดยทั่วไป การจัดล�าดับ
ิ
ี
ยุคเป็นดังน้ ยุคโบราณก่อนต้งอาณาจักร เคียฟ มัสโควี จักรวรรด สหภาพ
ั
โซเวียต และสหพันธรัฐรัสเซียในเครือรัฐอิสระ ยุคต่างๆ มีความเชื่อมโยง
ติดต่อกันอย่างไม่อาจตัดตอนจากกันให้เด็ดขาดได้
ผู้เขียนมีประสบการณ์การสอนนาน 40 ปี มีสิ่งที่ท�าได้ยากแต่ต้อง
พยายามทา คือสร้างแรงบันดาลใจและปรับโลกทัศน์แก่ผู้เรียน ซึ่งการวัดผล
�
ื
ี
ทาได้ยากเช่นกัน เน่องจากการสอบมีเฉพาะข้อเขียนท่อาจบ่งบอกได้แต่
�
ื
เพียงว่าผู้เรียนผ่านประสบการณ์การเรียนรู้เร่องราวมามากน้อยเพียงใด
�
และความรู้ประวัติการณ์หรือประวัติบุคคลอาจนาไปใช้ให้เป็นประโยชน์
โดยตรงต่อการประกอบอาชีพเลยทีเดียวไม่ได้ แต่ส�าหรับคนทั่วไปไม่ว่าจะ
ื
ี
ประกอบอาชีพใดก็ตามจาต้องมีความเข้าใจชีวิต นับเป็นเร่องท่สาคัญอย่าง
�
�
ยิ่ง ประวัติศาสตร์ให้ความรู้จากการเห็นและเข้าใจ “ตัวกระท�าบทบาท” ใน
ึ
ื
ื
ื
�
ี
เร่อง เห็นโครงเร่อง แนวเร่อง และรูปแบบท่ทาให้เข้าใจชีวิตท่เคยเกิดข้นแล้ว
ี
หากมีวันใดท่ให้รู้สึกอับจนส้นหนทาง ผิดหวังเศร้าสร้อยน้อยใจในโชคชะตา
ี
ิ
ค่าของชีวิตตกต่าเสียจนไปต่อไม่ได้ สติท่อยู่คู่กับปัญญาแม้จะเหลืออยู่เพียง
�
ี
ี
ื
ั
ั
น้อยจักช่วยให้ได้ยับย้งช่งใจใคร่ครวญโดยเห็นจริง ท่เป็นทางอ่นให้เดินต่อ
ปราชญ์อินเดียท่านว่า “สตฺย เมว ชยเต” นั่นคือควำมจริงอยู่เหนือทุกส่ง
ิ
ประวัติศาสตร์มุ่งหมายความจริง หากรู้จริงย่อมเป็นประโยชน์แก่ชีวิต
เพียงรู้เท่านี้ก็นับว่าคุ้มมากแล้ว
ี
่
ิ
ุ
ู
ี
�
ั
ผ้เขียนขอขอบคณสานกพมพ์ยปซทร้คณค่าของวชาและมองเหน
ุ
ู
็
ิ
ิ
ประโยชน์ที่จะเกิดจากการพิมพ์เผยแพร่ รัสเซีย จักรวรรดิพันปีท่ย่งใหญ่
ี
ิ
ิ
ี
เล่มน้ และหวังเป็นอย่างย่งว่าผู้อ่านจะได้รับความเพลิดเพลินในอรรถรส
นอกเหนือจากที่ได้ความรู้เรื่องราวในอดีตของรัสเซีย ทั้งความยิ่งใหญ่ของ
จักรวรรดิ มหัศจรรย์ของเร่องราวการต่อสู้ด้นรนให้พ้นจากทุกข์ยาก ความ
ื
ิ
ส�าเร็จและล้มเหลว ที่ส�าคัญคือการหาทางออกของทุกกลุ่มชนชั้นที่เราอาจ
พิจารณาเป็นแบบอย่างให้เกิดแนวคิดที่ใช้ในปัจจุบันได้
รศ.ผุสดี จันทวิมล
สำรบัญ
หน้า
บทน�ำ รัสเซียก่อนสมัยอำณำจักร 19
ที่ตั้ง ภูมิประเทศ 20
ชนชาติที่อาศัยในรัสเซียก่อนสมัยอาณาจักร 23
ชนชาติสลาฟตะวันออก 31
ี
บทท่ 1 สมัยอำณำจักรเคียฟ 35
ผู้ปกครองอาณาจักรเคียฟ (คริสต์ศตวรรษที่ 9–12) 38
การบริหารการปกครอง 51
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ 57
เศรษฐกิจ 60
สังคม 65
คริสต์ศาสนาและคริสตจักร 68
วัฒนธรรม 73
ศิลปะและสถาปัตยกรรม 76
ี
บทท่ 2 สมัยรำชรัฐรัสเซีย 81
ดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ 83
ดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือ 86
มองโกลพิชิตรัสเซีย 92
อาณาจักรตะวันตกเฉียงเหนือ 99
มอสโก 110
การต่อสู้กับรัฐเจ้าชายแห่งทเวอร์ 113
แกรนด์ปรินส์แห่งมอสโกและวลาดิมีร์ 115
การขยายอ�านาจของเจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่แห่งมอสโก 120
การสถาปนาเสถียรภาพแห่งราชอาณาจักรมัสโควี 127
สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม 135
ความขัดแย้งภายในคริสตจักร 145
ี
บทท่ 3 สมัยอำณำจักรมัสโคว ี 155
ซาร์อิวานที่ 4 156
กิจการภายนอกประเทศ 163
สมัยออพริชนินา 165
ซาร์ฟีโอดอร์ที่ 1 และโบริส โกดูนอฟ 171
ยุคแห่งความยุ่งยากล�าบาก 175
กบฏภายในราชอาณาจักรและการบุกรุกของต่างชาติ 178
การฟื้นฟูชาติ 188
ผลจากเหตุการณ์ในสมัยยุ่งยากล�าบาก 192
ราชวงศ์โรมานอฟสมัยต้น 194
การบริหารราชการ 196
การขยายอาณาเขต 197
เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม 205
ศาสนาและคริสตจักร 212
ี
บทท่ 4 จักรวรรดิรัสเซียสมัยต้น 223
ซาร์ปีเตอร์มหาราช (ค.ศ. 1689-1725) 225
สงครามและการทูต 236
การบริหารราชการ 246
สังคม เศรษฐกิจ และศาสนา 249
สมัยยุ่งยากล�าบากครั้งที่ 2 257
เศรษฐกิจและสังคมภายหลังสมัยซาร์ปีเตอร์มหาราช 264
วัฒนธรรม 267
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ 269
ซาร์ปีเตอร์ที่ 3 และซารินา แคทรีนที่ 2 (ค.ศ. 1762-1796) 274
การบริหารราชการ 280
การต่างประเทศ 284
เศรษฐกิจ 291
สังคม 294
กบฏปูกาเชฟ 297
การศึกษา 300
วัฒนธรรม 301
ความคิดแบบทรงภูมิธรรมทางปัญญาของรัสเซีย 303
ซาร์ปอลที่ 1 และซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 (ค.ศ. 1796-1825) 307
การปฏิรูประบบบริหารราชการ 314
สมาคมลับและกบฏธันวาคม 321
สงครามและการทูต 325
ซาร์นิโคลาสที่ 1 (ปีปกครอง ค.ศ. 1825-1855) 341
การบริหารราชการ 342
กองทัพ 344
กลุ่มปัญญาชนทางการเมือง 345
การต่างประเทศ 349
สงครามไครเมีย (ค.ศ. 1853-1856) 354
สังคม เศรษฐกิจ 358
วัฒนธรรม 363
ี
บทท่ 5 รัสเซียสมัยใหม่ 373
ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 (ปีปกครอง ค.ศ. 1855-1881) 375
การตรวจสอบและการศึกษา 378
การปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น 381
การปฏิรูปการศาล 383
การปฏิรูปการทหาร 384
ชนกลุ่มน้อย 387
การเงิน การคลัง และอุตสาหกรรม 389
นโยบายต่างประเทศ 391
การขยายอ�านาจสู่เอเชีย 397
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้านระบอบเก่า 401
ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 และซาร์นิโคลาสที่ 2 สมัยต้น 412
คริสตจักร 416
ชนกลุ่มน้อย 418
ซาร์นิโคลาสที่ 2 (ปีปกครอง ค.ศ. 1868-1918) 419
นโยบายต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่ใช้กับชนกลุ่มน้อย 420
นโยบายต่างประเทศหลังการประชุมสมัชชาแห่งเบอร์ลิน 423
รัสเซียในแดนตะวันออกไกล 428
สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น (ค.ศ. 1904–1905) 432
กลุ่มปฏิวัติทางการเมือง 434
การปฏิวัติ ค.ศ. 1905 437
สภาดูมา 440
นโยบายท�าให้สงบของสโตลิปิน 445
นโยบายต่างประเทศก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 448
รัสเซียกับสงครามโลกครั้งที่ 1 451
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 454
การคลังและอุตสาหกรรม 456
แรงงานกรรมกร 462
เกษตรกรรม 464
ชาวนา 466
วัฒนธรรม 469
สงครามกับการปฏิวัติ 487
สถานการณ์ภายในประเทศช่วงสงคราม 496
การปฏิวัติเดือนภุมภาพันธ์และรัฐบาลชั่วคราว 501
ความพยายามท�ารัฐประหารของคอร์นิลอฟ 515
การปฏิวัติเดือนตุลาคม 518
บรรณำนุกรม 524
บทน�ำ
รัสเซียก่อนสมัยอำณำจักร
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
ที่ตั้ง ภูมิประเทศ
ี
ื
รัสเซียเป็นประเทศท่ปรากฏเร่องราวอันเป็นเหตุอัศจรรย์ของโลก
ื
ใบน้หลายประการ ประการหน่งคือท่ต้งของประเทศครอบคลุมพ้นท่สองทวีป
ี
ึ
ี
ี
ั
เรียกว่ายูเรเชีย (Eurasia) ขนาดของประเทศสมัยจักรวรรดิและสมัยสหภาพ
ี
ึ
ื
โซเวียตใหญ่โตมโหฬาร กินเน้อท่หน่งในหกของพื้นผิวดินหรือราวแปดล้าน
ห้าแสนตารางไมล์ นับความยาวเป็นเส้นตรงจากโปแลนด์ในยุโรปข้าม
่
ี
้
ิ
ั
ุ
ี
ี
เอเชยมาทฝั่งมหาสมทรแปซฟิกได้ 6,000 ไมล์ และตงแต่เปอร์เซยจด
ขั้วโลกเหนือในเขตที่ไม่มีผู้คนอาศัยยาว 3,000 ไมล์ สภาพภูมิอากาศมี
ี
ทุกแบบต้งแต่ร้อนท่สุดถึงเย็นท่สุด มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์หลากหลาย
ี
ั
ประเภท และมีผลผลิตให้บริโภคได้เท่าที่ต้องการ รัฐนี้สามารถพัฒนาหรือ
เลี้ยงตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร
ื
ื
ี
พ้นท่รัสเซียติดต่อเป็นผืนเดียวกัน ส่วนใหญ่เป็นพ้นท่ราบ แผ่ครอบคลุม
ี
ทวีปยุโรปภาคกลางไปจนถึงไซบีเรีย มีเทือกเขาและขุนเขาอยู่ประปรายทาง
ตะวันออก เทือกเขาอูราลทอดขวางแบ่งทวีปท้งสองออกจากกัน จุดท่สูงสุด
ี
ั
สูงราว 6,214 ฟุต ระหว่างเทือกเขาอูราล ทะเลแคสเปียน และทะเลอาราล
(Aral) ทางตะวันตกเฉียงใต้มีช่องเขากว้างราว 800 ไมล์ เปิดทางออกส ู่
ี
ทุ่งสเตปป์ ชาวเอเชียบุกเข้ายุโรปทางช่องน้เป็นระลอกจนถึงคริสต์ศตวรรษท่ 13
ี
ี
เทือกเขาท่เป็นพรมแดนธรรมชาติคือ เทือกเขาคาร์เปเทียน (Carpathians)
อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ เทือกเขาคอเคซัสทางใต้ ยอดปามีร์ เขาเทียนชาน
และอัลไตอยู่ติดกับอัฟกานิสถาน อินเดีย และจีน รัสเซียเขตยุโรปเป็นท ่ ี
ราบลุ่ม ทางตะวันตกเฉียงเหนือมีท่ราบสูงต้นน้าสาคัญหลายสายคือเทือกเขา
�
�
ี
วัลได (Valdai Hills) สูงกว่าระดับน�้าทะเลมากท่สุดราว 1,000 ฟุต ส่วนใหญ่
ี
ึ
�
สายน้าไหลผ่านท่ราบลุ่มจากเหนือลงใต้อย่างช้าๆ มีท่ไหลข้นเหนือลงทะเล
ี
ี
บอลติกและมหาสมุทรอาร์กติกคือ ดวีนาเหนือและเพคอรา (the Pechora)
20
บทน�ำ - รัสเซียก่อนสมัยอาณาจักร
�
ี
ื
สายอ่นๆ ท่สาคัญคือ ดนีสเตอร์ (the Dniester) บัก (the Bug) และสายใหญ่
อย่างดนีเปอร์และดอนไหลลงทะเลดา โวลก้าน้นไหลลงทะเลแคสเปียน ใน
ั
�
ไซบีเรียมีแม่น้าออบ (the Ob) และเอนิเซ (the Yenisei) เป็นสายใหญ่ และ
�
ท่ไหลแรงคือ ลีนา (the Lena) อินดิเกอร์กา (the Indigirka) และโคลิมา (the
ี
ี
Kolyma) ไหลลงอาร์กติก เว้นอามูร์ (the Amur) ท่ไหลไปทางตะวันออก เป็น
พรมแดนธรรมชาติก้นจีนกับรัสเซีย แล้วไหลลงช่องแคบตาร์ตารี ทางใต้ของ
ั
ไซบีเรียมีอมู ดาเรีย (the Amu Darya) และซีร์ ดาเรีย (the Syr Darya) ไหล
�
ึ
ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือลงอาราล ซ่งเดิมใช้เป็นทางสู่แคสเปียน แม่น้าและ
ี
�
ั
แควสาขาเหล่าน้รวมท้งแม่น้าสายอ่นๆ และทะเลสาบเป็นเส้นทางคมนาคม
ื
ทางน�้า เช่อมต่อถึงกันอย่างดีเลิศ เทือกเขาวัลไดท่เต้ยแต่ก็เป็นสันปันน�้าสาคัญ
ื
ี
ี
�
ทางตะวันตกเฉียงเหนือเขตยุโรปและเป็นต้นน้าสายดนีเปอร์ โวลก้า ดวีนา
�
�
ตะวันตกและโลแวท (the Lovat) อย่างไรก็ดี แม้ว่ารัสเซียจะมีแม่น้าและ
ี
ทะเลสาบมาก แต่กลับไม่มีทางออกทะเล ชายฝั่งท่ยาวท่สุดคือฝั่งมหาสมุทร
ี
ี
อาร์กติกมีแต่น�้าแข็ง ทะเลท่อยู่ใกล้รวมท้งบอลติกและทะเลดาจะไปถึงได้ก ็
ั
�
ี
โดยผ่านช่องแคบท่ห่างจากพรมแดน ต่อไปถึงแคสเปียนและอาราลได้ ทะเล
อาราลอยู่ในเขตรัสเซีย เช่นเดียวกับลาโดกา (Lake Ladoga) และโอนีกา
(Onega) ในยุโรป บอลคาช (Balkhash) ในเอเชียกลาง และไบคาล (ฺBaikal)
ั
ี
ในไซบีเรียท่ท้งลึกและกว้างใหญ่ ชายฝั่งตะวันออกของรัสเซียมีอากาศหนาวเย็น
ื
และไม่เอ้อต่อชีวิตให้อยู่อาศัยได้ เว้นทางใต้ท่ติดกับจีน
ี
สภำพภูมิประเทศ มีผลต่อความเจริญเติบโตของรัสเซียให้สามารถ
ี
่
�
ขยายอานาจแผ่ออกไปได้อย่างกว้างขวาง เช่นทมอสโกแผ่อานาจไปยัง
�
ยุโรปตะวันออก หรือข้ามอูราลไปจนถึงแปซิฟิก แม้แต่อลาสก้าและ
แคลิฟอร์เนีย รัสเซียมีเคร่องป้องกันการโจมตีจากภายนอก โดยเฉพาะระยะ
ื
ั
�
ทางท่ไกลกว่าจะถึงเมืองหลวงทาให้ผู้บุกรุกประสบความพ่ายแพ้ได้ ต้งแต่
ี
สมัยเปอร์เซีย ซีเธียน จนถึงนโปเลียนและฮิตเลอร์ แดนที่ยึดครองได้มาก
21
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
เขตพืชพันธุ์ตามสภาพภูมิอากาศ
ท�าให้มีปัญหาเรื่องการบริหารการปกครอง ขนาดที่ใหญ่โตมากจนรวมทุก
�
ภาคส่วนเข้าด้วยกันอย่างดียาก หรือจะร่วมกระทาการให้ประสานอย่างเป็น
ี
ึ
อันหน่งอันเดียวกันก็เป็นงานท่ผู้ปกครองต้องเหน่อยยาก ท้งยังไม่มีทางออก
ั
ื
้
�
ี
�
�
ทะเล ทาให้ต้องแสวงหาลู่ทางออกสู่น่านนาเก่ยวข้องกับเขตบอลติก ทะเลดา
และช่องแคบตุรกีมาตลอด
สภาพภูมิอากาศก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก ไล่ต้งแต่ไซบีเรีย
ั
ี
เขตทุนตราท่เป็นหนองนา ทุ่งหญ้าสเตปป์ เขตเทือกเขาอัลไตในเอเชีย
้
�
จนถึงทะเลทรายในเอเชียตอนกลาง
22
บทน�ำ - รัสเซียก่อนสมัยอาณาจักร
ชนชำติที่อำศัยในแดนรัสเซียก่อนสมัยอำณำจักร
ั
ึ
ี
ก่อนหน้าท่ชาวรัสเซียจะต้งม่นอยู่อาศยและต้งอาณาจักรแห่งแรกข้น
ั
ั
ั
�
บนท่ราบยูเรเชียอันกว้างใหญ่ไพศาลทางตอนเหนือของทะเลดา หลายพันปี
ี
ี
ก่อนคริสตกาล ท่ราบแห่งน้เป็นแหล่งรวมกระแสวัฒนธรรมจากเอเชีย
ี
ตะวันตก ทะเลด�า และเทือกเขาคอเคซัส ส�าหรับชาวสลาฟ (Slavs) หรือ
ื
ี
ี
เช้อสายสลาฟท่เป็นรัสเซียไม่มีหลักฐานว่าเดิมได้เคยอาศัยอยู่ท่ใดมาก่อน
ื
ี
และเร่องท่มาก็ไม่ชัดเจน แต่ท่แน่ชัดคือชนชาวสลาฟไม่ได้อยู่บนท่ราบแห่งน ี ้
ี
ี
ื
ิ
จนเม่อคริสตกาลเร่มต้นแล้วหลายร้อยปี จากหลักฐานทางโบราณคด ี
ู่
บ่งบอกว่าในยุคหินใหม่ราว 4,000 ปีก่อนคริสตกาล มีมนุษย์อาศัยอยในแถบ
ั
์
�
ลมนาดนเปอร บก และดนสเตอร ทาเกษตรกรรมและมการตอสกนระหวาง
ี
ี
์
่
่
ุ
้
�
่
้
ั
ี
ู
ี
�
ี
ั
พวกทาไร่ไถนากับพวกเล้ยงสัตว์ทุ่งท่บุกเข้ามา มีการนบถือศาสนา รู้จัก
ทอผ้า ปั้นหม้อรูปเกลียวและเวียน ทาให้รู้ได้ว่ามีความเช่อมโยงกับเขตยุโรป
ื
�
ี
กลางตอนใต้และเอเชียน้อย มีการใช้โลหะท่พัฒนาในหุบเขาคิวบัน
ี
�
เหนือแนวคอเคซัส มีลักษณะใกล้เคียงกับท่อียิปต์และเมโสโปเตเมีย วัสดุทา
ี
�
จากทองแดง ทอง และเงิน แสดงให้เห็นว่ามีความชานาญและรสนิยมท่เป็น
�
ของยุคสาริด แต่ไม่พบวัสดุและร่องรอย จนเม่อเข้ายุคเหล็กในช่วง 1,000 ปี
ื
ก่อนคริสตกาล มีคล่นผู้อพยพจากเอเชียและตะวันออกกลางเข้ามาเป็น
ื
ระลอก
ี
ิ
ั
หลกฐานทางประวตศาสตร์ชนแรกระบว่าชนชาตซมเมอเรยน
ิ
ุ
ิ
ิ
ั
้
(Cimmerians) เชื้อสายชาวเทรซ (Thrace) ที่พูดภาษาอินโดยุโรป เข้ามา
ี
พิชิตและต้งถ่นฐานอยู่ทางฝั่งเหนือของทะเลดา ปกครองชนพ้นเมืองท่อยู่
ื
ิ
�
ั
ี
�
กระจัดกระจายบนท่ราบและมีอานาจแผ่ไปจดคอเคซัส ซิมเมอเรียนชานาญ
�
การใช้เหล็ก ซึ่งอาจเป็นข้อได้เปรียบเหนือชนพื้นเมือง ท�าให้มีการใช้เหล็ก
อย่างกว้างขวาง เมื่อถึงราว 700 ปีก่อนคริสตกาล
23
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
ซีเธียน (Scythians) พูดภาษาอิหร่านจากเอเชียกลางได้เข้าแทนที่
ซิมเมอเรียนตั้งแต่ราว 700 ปีก่อนคริสตกาลถึงราว 300 ปีก่อนคริสตกาล
ซีเธียนมีความเจริญมากกว่า ได้เข้าครองเขตแม่น�้าดานูบตอนใต้ ข้าม
คอเคซัสเข้าเขตเอเชียน้อย จากแม่น�้าดานูบถึงแม่น�้าดอน และจากตอน
เหนือของทะเลด�าขึ้นเหนือ ใช้เวลาเดินทาง 20 วัน ไม่แน่ชัดว่าซีเธียนเป็น
ี
อิหร่านหรือมองโกล แต่ท่แน่ๆ มีมองโกลรวมกลุ่มอยู่ด้วย นักวิชาการชาว
ื
รัสเซียเห็นว่าเป็นชาวสลาฟหรือเช้อสายสลาฟ จอร์จ เวอร์นาดสก้ (George
ี
ื
�
Vernadskii) เห็นว่าเป็นกลุ่มชนชาติเช้อสายผสมสองชาติท่มีจานวนมากคือ
ี
ี
ี
ั
ี
ั
ี
ซเธยนกบซิมเมอเรียนท่กลายเป็นชนชาติท่อยู่ใต้การปกครอง เฮรอโดตส
(Herodotus นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก) เล่าเรื่องซีเธียไว้เมื่อ 500 ปีก่อน
คริสตกาลเมื่อได้มาอยู่เก็บข้อมูลที่โอลเบีย (Olbia) ซึ่งเฮรอโดตัสเรียกว่า
ซีเธีย (Scythia) หมายถึงแดนของผู้อาศัยและชาติพันธุ์ของพวกที่อยู่ในที่
ราบยูเรเชีย จึงท�าให้สับสนเมื่อเอ่ยถึงซีเธียและเชื้อชาติพันธุ์ของพวกเขา มี
เหตุผลว่า ซีเธียนเป็นอิหร่านเนื่องจากชนชั้นปกครองพูดอิหร่าน มีข้ออ้าง
ึ
จากหลักฐานทางโบราณคดี ซ่งบันทึกโดยเฮรอโคตัสว่าสลาฟและส่วนหน่ง
ึ
ของซีเธียนได้ช่อว่าเป็นพวกซีเธียนไถนา โดยเปรียบเทียบสรีระของ
ื
ซีเธียนกับสลาฟในยุคต้นว่าคล้ายคลึงกัน ซีเธียนอาศัยอยู่นาน 300 ปี มี
ื
ี
วัฒนธรรมพ้นฐานสามแบบคือท่เป็นของซีเธียนอยู่บริเวณตอนล่างของ
แม่น้าบักและดนีเปอร์ ต่อมาคือทุ่งสเตปป์ซึ่งอยู่ทางตะวันออก สุดท้ายคือ
�
ที่ทุ่งสเตปป์บริเวณอาซอฟที่อยู่ไกลออกไปอีก บริเวณทั้งหมดเป็นที่ตั้งของ
เผ่าที่รวมกันเป็นสมาพันธ์ ส่วนหนึ่งเป็นเกษตรกรที่ลงหลักปักฐาน (พวก
ี
ไถนา) อีกส่วนเป็นพวกเล้ยงสัตว์ในทุ่ง (nomads) มีกลุ่มผู้ปกครองท่ม ี
ี
อ�านาจเหนือเผ่าทั้งหลาย เฮรอโดตัสเรียกว่าเผ่ากษัตริย์ซีเธียน (the Royal
Scythians) ชนเผ่าทั้งหลายเหล่านี้ใช้ภาษาและขนบประเพณีอย่างเดียวกัน
มีเผ่าท่เพาะปลูกทานาทาไร่อยู่ทางตะวันตก ทางตะวันออกเป็นพวก
�
�
ี
24
บทน�ำ - รัสเซียก่อนสมัยอาณาจักร
ี
เล้ยงสัตว์ ไม่ใช่ซีเธียน แต่มีวัฒนธรรมคล้ายกับพวกซีเธียนท่เป็นผู้ปกครอง
ี
้
ั
ื
ั
ั
ี
ี
ู
่
ิ
่
้
ู
ั
่
อนทจรงการทผ้คนตงแต่เทอกเขาคอเคซสจนถงแมนาดานบทางตะวนตก
ึ
�
ี
่
ื
ุ
มีวัฒนธรรมอย่างเดียวกันเป็นดังท่เฮรอโดตัสบรรยายไว้เรองกล่มชาตพนธ์ ุ
ิ
ั
ื
ี
ื
อาวุธ เคร่องประดับ ม้า และแบบศิลปะประดับท่ใช้รูปสัตว์อันมีช่อเสียงของ
ที่ราบนี้ ซีเธียนอาศัยธรรมชาติเลี้ยงฝูงสัตว์ ล่าสัตว์ เป็นนักรบ เกษตรกร
ที่รู้และเข้าใจรวมถึงนับถือโลกของสัตว์ เพราะสัตว์มีบทบาทส�าคัญในชีวิต
และศิลปะซีเธียน ซีเธียนท�าการค้าติดต่อรับและถ่ายทอดทางวัฒนธรรมกับ
ี
�
ื
ชนเผ่าอ่นบนท่ราบยูเรเชียอย่างกว้างขวางในช่วงต้นสมัย ซีเธียนทาสงคราม
เช่นกันโดยใช้ก�าลังม้าขนาดเบา มีอาน ธนู ดาบสั้น ใช้ยุทธวิธีระดมก�าลัง
เคลื่อนที่เร็วแล้วจู่โจมตี พวกเปอร์เซียได้บุกเข้าตีแต่เอาชนะไม่ได้ ซีเธียน
อยู่เกวียนที่มีหลังคาคลุมใช้วัวลากและวัดฐานะจากจ�านวนม้าที่มี
กรีก (Ancient Greece, Greek) เข้ามาอยู่บริเวณคาบสมุทรไครเมีย
(Crimea) ในเวลาเดียวกันและกระจายกันอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลด�า กรีก
ั
ิ
ต้งอาณานิคมการค้าโดยเร่มจากค้าปลาจนกลายเป็นศูนย์การค้า ชุมชน
ี
และเมืองใหญ่ในเวลาไม่นาน เช่น โอลเบียท่ปากน�้าบัก เชอร์ซอนิซุส
ี
(Chersonesus) ท่ไครเมีย (ปัจจุบันคือ เซวาสโตโปล) ทาเนอิส (Tanais) ท ี ่
ปากน้าดอน แพนทิซาเพอุม (Panticapaeum) และพานากอเรีย (Phanagoria)
�
ื
ท่ช่องแคบเคิร์ช (Kerch) ท่เช่อมทะเลอาซอฟกับทะเลดาและแบ่งไครเมีย
ี
ี
�
�
ออกจากคอเคซัสต้งแต่ 644 ปีก่อนคริสตกาล ทาการค้าขายกับซีเธียนและ
ั
ี
ชาติอ่นๆ ท่อยู่เหนือข้นไป กรีกค้าขายหลายประเภทโดยเฉพาะส่งธัญพืชให้
ื
ึ
ิ
ิ
โลกเฮลเลนสตก อาณานิคมกรีกช่วยเช่อมโยงท่ราบยูเรเชียกับเฮลเลนิสติก
ี
ื
ทางเมดเตอรเรเนยนตะวนออก ชมชนช่องแคบเครชเปนศนยกลางอาณาจกร
ิ
์
์
ิ
ี
ั
็
์
ู
ั
ุ
บอสฟอรัสเม่อราว 100 ปีก่อนคริสตกาล ภายใต้อานาจของมิทริดาทิส
ื
�
(Mithridates) มหาราชแห่งพอนตุส (ต่อมาพ่ายแพ้โรม และเมื่อโรมล่ม
สลาย อาณาจักรเชอร์ซอนิซุสก็ตั้งเป็นสถานีการค้าของบิแซนทีน)
25
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
ซำร์มำเทียน (the Sarmatians) ชนเผ่านักรบชาติพันธุ์อิหร่านจาก
เอเชียกลาง บุกรุกเข้ามาเมื่อราว 300 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงราว 150 ปี
ี
ก่อนคริสตกาลได้เข้าครองรัสเซียใต้แทนท่ซีเธียน ซาร์มาเทียนเป็นนักเพาะ
พันธุ์ปศุสัตว์ทุ่ง อยู่อาศัยในเกวียนหลังคาสักหลาด ท่องตามฝูงปศุสัตว์และ
ข่ม้าได้อย่างรวดเร็ว ซาร์มาเทียนรับวัฒนธรรมซีเธียนมาประสานเข้ากับ
ี
วัฒนธรรมของตนและเร่มติดต่อทาการค้ากับอาณานิคมกรีกบนฝั่งเหนือ
�
ิ
�
ของทะเลดา ซึ่งสตราโบ (Strabo) นักภูมิศาสตร์กรีกอธิบายว่าคือเส้น
ี
ี
์
ั
้
ี
์
ุ
่
ั
ทางการคาสายตะวนออก-ตะวนตก ในเขตทงสเตปป ซารมาเทยนมระเบยบ
สังคมและวัฒนธรรมคล้ายซีเธียน แต่การสู้รบใช้กองทหารม้า พวกเขาเป็น
ี
ชนชาติแรกท่จ่ายเงินเดือนทหาร ซาร์มาเทียนมีโกลน เกราะ หอก และดาบยาว
ี
ผิดกับซีเธียนท่ใช้อาวุธเบา ซาร์มาเทียนได้เข้าสู่ปริมณฑลทางวัฒนธรรม
ของเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกโดยการติดต่อค้าขาย ซาร์มาเทียน
มีหลายกลุ่ม กลุ่มใหญ่กลุ่มสุดท้ายที่เข้าสู่ที่ราบคือ อลัน (the Alans) เป็น
ึ
ผู้ปกครองของสมาพันธ์แห่งชนเผ่า พวกอลันเผ่าหน่งช่อ รุคส์-แอส (Rukhs
ื
ิ
-As-แอสผมงาม) กับอีกเผ่าชื่อ โรโซลำน (the Roxolani) มีผู้ให้ความ
เห็นว่าชื่อของสองเผ่าย่อยนี้เป็นที่มาของชื่อรุส แต่ไม่มีอะไรยืนยันได้ นับ
เป็นเวลาหลายศตวรรษท่อิหร่านกับกรีกอยู่อาศัยและทางานด้วยกัน ซีเธียน
ี
�
และซาร์มาเทียนไม่เคยพยายามทาลายอาณานิคมกรีก นอกจากติดต่อ
�
ค้าขายกันแล้ว ยังมีการสมรสท่ทาให้มีการผสมผสานวัฒนธรรมกรีก-
ี
�
ื
ั
ื
อิหร่านเร่อยมา จนมีผู้ต้งข้อสังเกตว่าอำณำจักรบอสฟอรัสเบ้องต้นเกิด
จากการรวมวัฒนธรรมจากการเป็นสมาพันธ์แห่งนครรัฐและเผ่าท่รวมกัน
ี
ี
อย่างหลวมๆ และกลายเป็นหน่วยการเมืองท่มีธรรมชาติสองแบบ แบบกรีก
ที่มีหน่วยการเมืองมาจากวิธีเลือกตั้ง (magistrate) และแบบชนพื้นเมืองที่
มีระบอบเทวสิทธิราช
26
บทน�ำ - รัสเซียก่อนสมัยอาณาจักร
ดินแดนซาร์มาเทียน 200 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ. 200
27
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 พวกกอธ (the Goths) อพยพจากสแกน
ดิเนเวียเขตบอลติกลงใต้มาท่แม่น�้าวิสตุลาตอนล่าง แล้วลงใต้ต่อไปท่ท่ราบ
ี
ี
ี
ึ
ยูเรเชีย เข้าพิชิตและกวาดต้อนเผ่าต่างๆ ในลุ่มดนีเปอร์ซ่งมีเผ่าเวเนเด (the
Venedae) สคลาเวนิ (the Sclaveni) และแอนทิส (the Antes) จอร์แดนิส
(Jordanes) นักเขียนชาวกอธยุคคริสตวรรษที่ 6 เล่าไว้ว่ากอธได้รวมเผ่า
ี
ี
เหล่าน้เข้ากับชาวสลาฟ หรืออาจกล่าวว่าลูกหลานชนเผ่าเหล่าน้เป็น
บรรพบุรุษของชนเผ่าสลาฟสมัยต่อมาก็ได้ กอธเป็นชนเผ่าเยอรมันท่อยู่ป่า
ี
มานาน มีสมาพันธ์แห่งเผ่า แต่ไม่มีโครงสร้างของรัฐที่จะท�าให้รวมตัวกัน
ได้ จึงไม่สามารถรวมชนในทุ่งราบยูเรเชียให้เป็นหน่งเดียวกันได้ กลางคริสต์
ึ
ศตวรรษที่ 4 เผ่ากอธแตกแยกออกเป็นสองสมาพันธ์ที่ทรงอ�านาจคือ ออส
โตรกอธ (กอธตะวันออก) และวิสิกอธ (กอธตะวันตก) กอธตะวันออกได้
ก่อตั้งรัฐใหญ่เฮอร์แมนริก (Hermanric) ขึ้น กินอาณาเขตตั้งแต่ทะเลด�าไป
ี
ี
ี
ถึงบอลติก กอธในเขตท่ราบน้เป็นทหารบกและทหารเรือท่สามารถและม ี
ฝีมือ แต่โดยทั่วไปไม่มีวัฒนธรรมสูงเท่าซีเธียนและซาร์มาเทียน และเลือก
ั
หยิบของซาร์มาเทียนมาใช้ต้งแต่ ค.ศ. 200-370 กอธทาให้ท่ราบแห่งน ้ ี
ี
�
เจริญสืบเนื่องต่อกันได้ตั้งแต่ราว 500 ปีก่อนคริสตกาลจนถึง ค.ศ. 500
หลัง ค.ศ. 350 ชนเผ่ำฮัน (the Huns) พูดภาษาเติร์ก มีกองก�าลัง
ี
มองโกลและอุร์กขนาดใหญ่อยู่ด้วยเป็นท่น่าสะพรึงกลัว ได้บุกเข้ามาจาก
ี
�
ั
เอเชียกลาง ฮันถูกจีนสกัดก้นไว้ด้วยกาแพงเมืองจีน แต่ด้วยเหตุท่เป็นชาต ิ
ี
ท่ทรงอานาจก้าวร้าวคุกคามและขยายอานาจได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามุ่ง
�
�
บุกรุกมาทางตะวันตกจนถึงที่ราบ เมื่อ ค.ศ. 370 เข้าจู่โจมตีพวกอลันที่
อาศัยอยู่ระหว่างแม่น้าดอนและทะเลอาซอฟ อลนหนีมาทางตะวันตก
�
ั
ฮันตามติดและปล้นสะดมตามรายทาง จนได้เผชิญหน้ากับกอธ การบุกรุก
ื
ของฮันเป็นเหตุผลักดันให้เกิดคล่นผู้อพยพอย่างมโหฬาร ท้งวิสิกอธ
ั
ี
ออสโตรกอธ และอลันถอยร่นมาทางตะวันตก ท่เหลือถูกผลักดันให้ออก
28
บทน�ำ - รัสเซียก่อนสมัยอาณาจักร
จากที่ราบอย่างไร้เมตตา วิสิกอธมาหยุดที่แคว้นกอลทางใต้และเคลื่อนต่อ
�
ไปยังสเปน ออสโตรกอธหนีเข้าแคว้นเทรซและไปยึดอิตาลี พร้อมกับทาลาย
จักรวรรดิโรมันตะวันตก อลันมุ่งไปทางตอนกลางของเทือกเขาคอเคซัส ลูก
หลานที่อยู่ต่อมาใช้ชื่อชาติตนว่า ออสเสเทียน (the Ossetians / มารดา
ของโจเซฟ สตาลิน เป็นออสเสเทียน) ฮันถึงจุดสูงสุดแห่งอ�านาจสมัยเมื่อ
อัตติลา (Attila the Han) คุกคามขู่เข็ญจักรวรรดิบิแซนทีน (Byzantine)
ใน ค.ศ. 447 บุกแคว้นกอลของพวกแฟรงค์ใน ค.ศ. 451 [การยุทธ์ที่ทุ่ง
ชาลอง (Chââlon)] และบุกอิตาลีใน ค.ศ. 452 กวาดต้อนก�าลังเยอรมัน
ั
ิ
ิ
่
้
้
�
และอหรานไปรบดวย อตตลาละเวนไม่ทาลายโรมโดยเห็นแก่สันตะปาปาเลโอ
ิ
่
ุ
ี
ั
ั
ท 1 ชาตยโรปตะวนตกพากนอกส่นขวัญแขวนตกใจกลัวฮันจะบุกต่ออีก แต่
ั
้
ี
่
ี
ิ
้
ิ
อตตลาไดสนชพลงเสยกอนใน ค.ศ. 453 และจักรวรรดิฮันอันไพศาลล่มลง
ั
�
�
ี
อย่างรวดเร็วเพราะไร้ระเบียบ พ่น้องทาสงครามช่วงชิงอานาจด้วยอิจฉา
ื
�
รษยากัน ผ้ทสบอานาจไม่ฉลาดเฉลียวพอ เกดกลุ่มปฏปักษ์แข่งขนกน
ิ
่
ู
ั
ิ
ั
ี
ิ
กองทัพใหญ่ต้งอยู่ท่บัลการ์ กับทัพเล็กอยู่ที่อูติกูร์และกุตริกูร์ นัก
ี
ั
ประวัติศาสตร์เชื่อว่าช่วงสมัยนี้ชาวสลาฟ (the Slavs) เริ่มอพยพจากยุโรป
ภาคกลางและภาคตะวันออกไปทางตะวันออก ทางใต และตะวนตก
ั
้
ใน ค.ศ. 558 ฮันต้องพ่ายแก่ ชนเผ่ำอำวำร์ (the Avars) ชาวเอเชีย
ี
ี
ท่พูดเติร์ก มองโกลและจีนท่เข้าพิชิตท่ราบ อาวาร์ผสมผสานกับฮันและชน
ี
กลุ่มอ่นท่เหลืออยู่ รัฐอาวาร์ทรงพลังอานาจและแผ่ขยายอาณาเขตต้งแต่โวลก้า
ั
ื
�
ี
ทางตะวันออกจดแม่น้าเอลเบ้ทางตะวันตก ใน ค.ศ. 581 อาวาร์บีบบังคับ
�
จักรวรรดิบิแซนทีนให้จ่ายบรรณาการสาเร็จ เน่องจากจักรวรรดิเป็นของชนเผ่า
ื
�
เลี้ยงสัตว์ทุ่งไม่ใคร่มีวัฒนธรรมก้าวหน้านัก จึงครองที่ราบได้ราว 100 ปีก็
เสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในเอกสารบิแซนทีนบ่งบอกว่ามีสลาฟเผ่าสคลาเวนิ
�
ร่วมกับอาวาร์สู้รบต่อต้านบิแซนทีนด้วย พงศาวดารฉบับอาวาร์ทาสงคราม
กับจักรวรรดิของชาร์เลอมาญด้วยแต่ไม่ชนะ บิแซนทีนเอาชนะและปราบ
29
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
อาวาร์ลงได้อย่างเด็ดขาดเมื่ออาวาร์เสื่อมอ�านาจลงในคริสต์ศตวรรษที่ 7
คำซำร์ (the Khazars) ชาวเอเชียเชื้อสายเติร์กตั้งมั่นบนฝั่งโวลก้า
ตอนล่าง คอเคซัสทางเหนือ และทุ่งสเตปป์ทางตะวันออกเฉียงใต้ มีก�าลัง
�
ึ
ิ
�
ทหารตลอดแนวฝั่งเหนือของทะเลดาและแคสเปียน มีอานาจเพ่มมากข้น
็
ในท่ามกลางพวกฮัน อาวาร์ แอนทีส อัลไตเติร์ก และสลาฟ คาซารเปนชน
์
ั
ั
ี
ึ
เผ่าก่งเลี้ยงสัตว์ทุ่ง แต่สามารถติดต่อค้าขายกับบแซนทนและกบจกรวรรด ิ
ิ
อาหรับได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคาซาร์สืบอ�านาจต่อจากฮันและอาวาร์ก็ต้องสู้
รบกับอาหรับอย่างสาหัสสากรรจ์และเป็นปราการสกัดก้นอิสลามท่แผ่ขยาย
ั
ี
ื
ั
ี
้
์
่
ู
เขามา คาซารเป็นคนกลางระหว่างกรก อาหรบ และชนพนเมอง ซงอยเหนอ
ื
่
ื
้
ึ
้
ั
�
ุ
ึ
ั
ี
เขตเศรษฐกิจของคาซาร์ท่ทารายได้ให้อย่างมาก จงพยายามเขาควบคมบงคบ
เผ่าสลาฟในลุ่มดนีเปอร์ให้จ่ายบรรณาการมากข้น แต่ก็ยังมีขันติธรรมด้วย
ึ
ิ
นับถือสลาฟว่ามีฤทธ์เดชต่อสู้ได้อย่างกล้าหาญ เช่น พวกโพเลียน (the
�
Poliane) เป็นต้น เมืองหลวงของคาซาร์ชื่อ อิติล (Itil) ตั้งอยู่ปากน้าโวลก้า
ส่วนเมืองอื่นๆ เช่น ซามานดาร์ ซาร์กิจ สร้างความเจริญทางเศรษฐกิจได้
เพราะอยู่บนเส้นทางการค้าสายสาคัญ มีรายได้จากการเป็นสถานีการค้า
�
และรับบรรณาการจากชนพื้นที่ราบ ผู้ปกครอง (kagan หรือ khakan) และ
�
ั
ราชสานกนบถอศาสนายูดาห์ (Judaism) ท้งท่ติดต่อกับบิแซนทีน รวมท้ง
ั
ั
ั
ื
ี
ชวยบิแซนทีนในการรบ แต่ไม่ได้รับวัฒนธรรมกรีกและนิกายกรีกมาปฏิบัติ
่
ี
ี
ถ้าจะว่าไปแดนท่ราบยูเรเชียน้มีลักษณะสากล มีท้งพวกท่นับถือลัทธ ิ
ี
ั
นอกศาสนา (pagan) มสลม คริสต์ และยิว มีอิสระและระเบียบการปกครอง
ิ
ุ
ที่เปนของตนเอง มีวิวัฒนาการทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมอยู่
็
้
ก่อนแล้วก่อนที่ชนสลาฟจะตั้งรัฐขึ้น โดยเฉพาะการคาขายที่ขยายขึ้นเหนือ
์
้
ไปถึงเขตบัลการโวลกา สลาฟเองก็ได้ร่วมค้าขายกับคาซาร์ พวกสลาฟเผ่า
ั
ั
ี
ต่างๆ ต้งม่นอาศัยอยู่ในเขตลุ่มน�้าดนีเปอร์ในราวคริสต์ศตวรรษท่ 8 ต่อมา
จึงได้ก่อตั้งรัฐสลาฟขึ้น
30
บทน�ำ - รัสเซียก่อนสมัยอาณาจักร
ชนชำติสลำฟตะวันออก
�
ดินแดนฝั่งเหนือทะเลดาและทุ่งสเตปป์ทางตอนใต้ของรัสเซียม ี
ี
วัฒนธรรมท่สืบต่อเน่องมาต้งแต่ยุคหินใหม่ จนถึงสมัยจักรวรรดิคาซาร์
ั
ื
�
ท่เป็นพ้นฐานสาคัญให้สลาฟรัสเซีย ประชากรของรัฐสลาฟท่รู้จักในช่อ
ื
ื
ี
ี
ั
�
รัสเซียในเวลาต่อมาน้นเป็นชนสลาฟตะวันออก คาว่าสลาฟตะวันออก
ื
�
ี
หมายถึงภาษาท่พวกเขาใช้พูด เรามักใช้ภาษาเป็นเคร่องจาแนกแยกแยะ
กลุ่มคนโบราณ กลุ่มชนนี้พูดภาษาสลาฟตะวันออกนั่นเอง สลาฟเป็นพวก
่
ี
ื
ี
สุดท้ายท่เข้ามาสู่ท่ราบยูเรเชีย แต่ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเมอใด
ี
สันนิษฐานว่าราวคริสต์ศตวรรษท่ 6 ชนเผ่าสลาฟและเช้อสายสลาฟอพยพ
ื
่
ุ
ี
ู
ั
่
้
ั
์
่
้
ุ
ี
ยายออกจากยโรปภาคกลางมาตงกระจายอยกนทลมดนเปอร เวลาผานไป
่
ื
ภาษาสลาฟตะวันออกได้แตกออกเป็นสามกลุ่มคอ เกรตรัสเซยน เรียกง่ายๆ
ี
ว่ารัสเซียน รัสเซียนขาว หรือเบโลรัสเซียน และรัสเซียนน้อยหรือยูเครน
ส่วนเผ่าที่ลงใต้ไปบอลข่านเรียกสลาฟใต้ ได้แก่ เซิร์บ (Serbs) โครแอท
ี
(Croats) สโลวีน (Slovenes) และบัลการ์ (Bulgars) พวกท่ไปทางตะวันตก
เรียกว่า สลาฟตะวันตก ได้แก่ โปลเช็ค (Czeches) หรือโบฮีเมียสโลวัก
(Slovaks) มอราเวียน (Moravians) คาชับ (Kashubs) และเวนด์ (Wends)
ภาษาสลาฟอยู่ในตระกูลภาษาอินโดยุโรป นอกจากสลาฟยังมีติวตอนิก
โรมานส์ เฮลเลนิก บอลติก เซลติก อิหร่าน อินดิก อาร์มีเนีย และเทรซ–
ี
อิลลิเรียท่เป็นตระกูลย่อย ซิมเมอเรียน ซีเธียน ซาร์มาเทียนเป็นอิหร่าน
กอธเป็นติวตันหรือเยอรมัน กรีกเป็นตัวแทนของเฮลเลนิก
ี
ประวตศาสตร์รสเซยสมัยต้นน้ได้รับอิทธิพลจากชนชาติท่พูดอินโด
ั
ิ
ั
ี
ี
่
ยุโรปอื่น เชน ลิทัวเนีย บอลติกกับพวกที่ไม่ใช่อินโดยุโรป ที่ส�าคัญคือเติร์ก
มีมองโกลและฟินน์–อูร์กด้วย
31
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
ี
จากการศึกษาเร่องตระกูลภาษาทาให้สันนิษฐานว่าท่อาศัยอยู่เดิม
ื
�
ี
ของชนสลาฟอยู่ในลุ่มแม่น�้าวิสตุลาและท่ลาดเชิงเขาคาร์เปเทียนด้านเหนือ
พวกสลาฟเริ่มแยกตัวออกมาในคริสต์ศตวรรษท่ 6 และในราวคริสต์
ี
ศตวรรษ 7–9 พวกสลาฟตะวันออกได้มาอยู่ท่ท่ราบยูเรเชียภาคยุโรป ภาษา
ี
ี
สลาฟตะวันออกมีลักษณะใกล้เคียงกับภาษาสลาฟใต้มากกว่าสาขาอ่น
ื
สลาฟมีช่อเรียกอ่นว่า “เวเนดิ” บ้าง “แอนทีส” บ้าง แอนทิสหมายถึงสลาฟ
ื
ื
ั
ี
ตะวนออก แต่ก็หมายถึงกอธท่อาศัยในท่ราบทางใต้ของรัสเซียได้ด้วย
ี
ั
ิ
ั
�
เช่นกัน สลาฟต้งถ่นฐานในบริเวณลุ่มแม่น้าดอนต้งแต่ราว 500 ปีก่อน
ี
คริสตกาล บ้างว่าสลาฟหมายถึงประชากรท่อาศัยบนท่ราบของรัสเซียกลาง
ี
ี
ี
ั
และใต้ต้งแต่สมัยซีเธีย อย่างท่เฮรอโดตัสเรียกว่าซีเธียนคนไถนา แต่ท่รู้ๆ
คือสลาฟสู้กับกอธและถูกกวาดต้อนไปกับฮันไปทางตะวันตก จนเม่ออาวาร์
ื
เข้าพิชิตแดนและชนเผ่าสลาฟตะวันออกต้องจ่ายบรรณาการให้แก่คาซาร์
ก่อนที่จะตั้งรัฐเคียฟ
พงศาวดารฉบับแรกของเคียฟเม่อต้นคริสต์ศตวรรษท่ 12 เขียน
ี
ื
เรื่องของสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 อ้างถึงเผ่าสลาฟตะวันออกว่า อาศัยอยู่
ึ
ี
บนท่ราบต้งแต่ทะเลดา ดานูบ และเทือกเขาคาร์เปเทียน จากยูเครนข้น
ั
�
เหนือสู่นอฟโกรอดไปทางตะวันออกถึงโวลก้ามชำวฟินน์กระจายอยู่ทาง
ี
ื
ั
ี
ู
ี
ี
ั
เหนอและตะวนออกของรสเซย เผ่าลทวเนยอย่ทางตะวนตก สโลวน
ั
ิ
ั
ี
อยู่รอบนอฟโกรอด คริวิชีอยู่ใต้สโลวีน โพโลเชนอยู่บริเวณสโมเลนสก์
เวียติชอยู่แถบมอสโก เซเวเรียนอยู่ทางตะวันออกของดนีเปอร์บริเวณ
ิ
เชอร์นิกอฟ รำดิมิชอยู่ทางเหนือของดนีเปอร์ถึงใต้สโมเลนสก์ เดเวลียนอย ู่
ี
เหนือเคียฟทางตะวันตกของดนีเปอร์ อูลิชีอยู่ทางใต้แม่น้าบัก ไปทางตะวันตก
�
ิ
มีทิเวอร์ซิ คอร์วำตอยู่เหนือสุดของดนีสเตอร์ โพเลียนอยู่บริเวณเคียฟบนฝั่ง
�
ตะวันออกของดนีเปอร์ เดรโกวิชอยู่บริเวณแม่น้านิเมนตอนล่างในเขต
ี
ี
สโมเลนสก์ตะวันตก และดูเลเบียนอยู่ทางตะวันตกของเดเวลียน เผ่าเหล่าน้ม ี
32
บทน�ำ - รัสเซียก่อนสมัยอาณาจักร
พัฒนาการทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมอย่างจริงจัง มีอาชีพเกษตรกรรม
รวมทั้งหาปลา ล่าสัตว์ เลี้ยงผึ้ง เพาะพันธุ์ปศุสัตว์ ทอผ้า ปั้นหม้อ เป็น
ช่างศิลปะและช่างฝีมืออย่างช่างไม้ เป็นต้น รู้จักใช้เหล็กมานานหลายร้อยปี
และท�าพาณิชยกรรม เมืองที่ตั้งขึ้นนับได้ 238 เมืองเป็นอย่างน้อย เมือง
�
อย่างนอฟโกรอด สโมเลนสก์ และเคียฟ ซ่งเป็นของโพเลียนเป็นเมืองสาคัญ
ึ
ื
ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่มีหลักฐานระบุเร่องหน่วยการเมืองของสลาฟ
ตะวันออก แต่มีเรื่องผู้ปกครองแอนทีสและบางเผ่าที่เป็นสลาฟมาประกอบ
ี
ี
อย่างท่จอร์แดนิส นักเขียนชาวกอธยุคคริสตวรรษท่ 6 เล่าเร่องเจ้าชายบอช
ื
แห่งแอนทีสสมัยสงครามกอธ หรือนักเขียนอาหรับเลาเรื่องมาดชัก เจาชาย
้
่
่
เผาดูเลเบียนสมัยอาวาร ชนสลาฟตะวันออกเหล่านี้ทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่
์
ก็มีที่รวมกันได้ในระดับหนึ่ง
33
ี
บทท่ 1
สมัยอำณำจักรเคียฟ
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
อาณาจักรเคียฟเป็นรัฐแห่งแรกของรัสเซีย เรื่องการก่อตั้งรัฐแห่งนี้
ี
ี
เป็นประเด็นท่ยังถกเถียงกันไม่เป็นท่ยุติ นักประวัติศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษ
ื
ี
ท่ 18 ให้น้าหนักเป็นความเช่อท่ว่าพวกชาวเหนือ (Norse Men) หรือ
�
ี
นอร์มัน หรือไวกิ้ง ได้เดินทางจากสแกนดิเนเวียมาจัดตั้งรัฐบาลเพื่อสร้าง
ความสมานฉันท์และความเจริญก้าวหน้าทางวัฒนธรรม ความเห็นน้เรียกว่า
ี
“ทฤษฎีนอร์มัน” มีผู้โต้แย้งว่าชาวนอร์มันไม่น่าจะมีอิทธิพลทางวัฒนธรรม
่
ี
่
ั
ั
่
ั
ื
ู
่
ั
ื
์
ี
ตอสงคมรสเซย เนองจากชาวนอรมนอยอาศยในแดนเหนอทหางไกลความ
่
ี
่
ื
ี
ั
้
�
ิ
เจรญอยู่มากเมอเปรียบกบดินแดนในลุ่มนาดนเปอร์ท่เป็นศนย์กลางการ
ู
ค้าขาย มีความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและเจริญมั่งคั่งขึ้นอย่างรวดเร็วมา
�
ี
นานแล้วก่อนท่ชาวเหนือจะลงมาปกครอง คาของชาวเหนือมีปรากฏใน
ี
�
ภาษารัสเซียไม่มากนัก ในภาษารัสเซียเก่ามีคาท่ใช้ในการเดินเรือเป็นคา
�
�
ี
กรกเสียมาก ในด้านการค้าขายเป็นคาของพวกทางตะวันออกหรือภาษา
พื้นเมืองสลาฟ (native slavic) สลาฟมีวรรณคดีก่อนสแกนดิเนเวีย โดย
ิ
รับอิทธิพลจากบิแซนทีนและบัลแกเรียด้านการปกครอง การยุตธรรม ส่วน
ความเชื่อถือในลัทธิศาสนาก็ไม่มีร่องรอยของชาวนอร์มันเช่นกัน
ึ
ทฤษฎีนอร์มันเกิดข้นตามความในเอกสารพงศาวดารฉบับแรก
ื
ค.ศ. 862 (the Primary Chronicle) ท่บอกเล่าเร่องการก่อต้งอาณาจักร
ี
ั
ี
�
ื
เคยฟไว้ว่า ชาวรุส (Rus) ได้มาตามคาเช้อเชิญของชนเผ่าสลาฟ ได้แก่
่
เผาสโลเวนี (the Sloveni) คริวิชี (the Krivichi) และชนเผ่าฟินน์ (Finnish
�
tribes) เผ่าเหล่านี้ทะเลาะเบาะแว้งกัน ชาวสลาฟจึงข้ามน้าข้ามทะเลไปหา
ี
พวกวาแรนเก้ยนรุส (the Varangian Russes) พร้อมกับพวกชัด (the Chuds)
ื
ั
ั
ขอให้ชาวรุสมาช่วยปกครองพวกตน เน่องจากแดนสลาฟใหญ่โตและม่งค่ง
ี
แต่ไร้ระเบียบ พวกรุสได้เลือกชายสามพ่น้องและเหล่าญาติพร้อมด้วย
ชาวรุสอื่นๆ ให้อพยพกันมา ผู้พี่ใหญ่ชื่อ รูริค (Rurik) ตั้งมั่นที่นอฟโกรอด
(Novgorod) ซีนีอุส (Sineus) คนรองหยุดท่เบลูเซโร (Byeloozero) ทรูวอร์
ี
36
ี
บทท่ 1 - สมัยอาณาจักรเคียฟ
ี
(Truvor) คนท่สามอยู่ท่อิสบอร์กส์ (Izborsk) พงศาวดารเล่าว่า ชาว
ี
วาแรนเก้ยนรุสถือว่านอฟโกรอดเป็นแดนรุส ชาวนอฟโกรอดเป็นลูกหลาน
ี
�
ี
้
ี
วาแรนเกยน แต่คาว่า รุส หามปรากฏในแดนสแกนดเนเวียนและทาง
ิ
ตะวันตกไม่ แต่กลับปรากฏอยู่ในประวัติการก่อสร้างรัฐเคียฟซึ่งเป็นรัฐทาง
ี
ตอนใต้ของรัสเซีย และเป็นรัฐท่มีความเจริญกว่ารัฐทางเหนือ และนอฟโกรอด
อย่างเห็นได้เด่นชัด เอกสารของชาวตะวันออกและของบิแซนทีนปรากฏ
ื
ช่อชาวรุสในเร่องราวก่อน ค.ศ. 862 ซ่งแสดงว่าชาวรุสอาศัยอยู่ในแดน
ึ
ื
รัสเซียใต้ หลักฐานพงศาวดารของตะวันตก หลักฐานกรีก และหลักฐาน
่
ี
ี
ื
อาหรับให้ข้อมูลเก่ยวกับท่มาของชาวเคียฟรัสเซียหลายเรอง ไดแก เรองทต
่
ู
ื
่
้
ี
ุ
รัสเซียท่คอนสแตนติโนเปิลในราวคริสต์ศตวรรษท่ 9 และทระบวาคากาน–รส
่
่
ี
ุ
ี
�
�
ิ
ั
(Khakan–Rus) ส่งมา ตาแหน่งคากานเป็นตาแหน่งของจกรวรรดคาซาร ์
ผู้ปกครองชาวรุสหลายเมืองมีตาแหน่งคากาน หลักฐานยงระบอกว่าภาษา
ี
ุ
ั
�
สลาฟและภาษารัสเซียเป็นภาษาเดียวกัน เคียฟและบิแซนทิอุมมีความ
่
สัมพันธ์กัน ดังนี้เปนตน เรื่องที่รูริคและนองชายได้กอตั้งรัฐรัสเซียทางตอน
้
็
้
เหนืออย่างสันติตามท่ระบุไว้ในพงศาวดารฉบับแรกก็มีเน้อหาคล้ายคลึงกับ
ี
ื
ื
เร่องของชาวแองโกล-แซกซอน (Anglo-Saxon) มีเรื่องอ่นๆ อีก โดยเฉพาะ
ื
เรื่องที่ชนชาวสลาฟได้เชื้อเชิญชาววาแรนเกี้ยนมาปกครอง มีหลายตอนที่
ค่อนข้างสับสน เช่น เรื่องโอเล็กยึดอ�านาจในนามของอิกอร์บุตรแห่งรูริค
รายละเอียดหลายข้อไม่ถูกต้อง จึงเช่อได้ว่าผู้เขียนพงศาวดารเขียนตาม
ื
ความประสงค์ของผู้ปกครองในราชวงศ์ พงศาวดารฉบับแรกเป็นประโยชน์
ท่ได้สะท้อนเหตุการณ์จริงให้เห็น แต่ก็เป็นเร่องอันตรายท่จะสรุปลงไป
ี
ี
ื
ทีเดียวว่าชาวนอร์มันมีอิทธิพลต่อความเจริญทางวัฒนธรรมของยุโรป
ี
ตะวันออก ดังน้จึงบอกได้แต่เพียงว่าอาณาจักรเคียฟได้ก่อต้งข้นในลุ่มน�้า
ึ
ั
ดนีเปอร์ในราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ 9 เท่านั้น
37
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
ผู้ปกครองอำณำจักรเคียฟ
(คริสต์ศตวรรษที่ 9–12)
ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 กลุ่มชาววาแรนเกี้ยนซึ่งเป็นนักรบไวกิ้งจาก
�
สแกนดิเนเวียได้เข้ายึดครองดินแดน โดยมีผู้นาคือรูริค ผู้ก่อต้งราชวงศ ์
ั
วาแรนเก้ยนเป็นผู้บุกเบิก ในสมัยต่อมาจึงต้งรัฐข้นโดยมีเจ้าชายเป็น
ี
ึ
ั
ี
ผู้ปกครอง สหพันธรัฐรัสเซียประกอบด้วยหลายรัฐ มีศูนย์กลางท่เมืองเคียฟ
ิ
(Kiev) และนอฟโกรอด (Novgorod) อาณาจักรเคียฟเร่มต้นสมัยโดยม ี
เจ้าชายราชวงศ์เดียวปกครองตลอด รับวัฒนธรรมจากจักรวรรดิบิแซนทีน
ั
และรบนับถือคริสต์ศาสนานิกายกรีกออร์ทอดอกซ์ (Greek Orthodox)
ั
ี
�
อาณาจกรเคยฟเป็นศูนย์อานาจท่รวมชาวสลาฟตะวันออกเข้าด้วยกันในช่วง
ี
สามรอยปตอมา และมีบทบาทสาคัญในประวัติศาสตร์อารยธรรมยุคกลาง
ี
้
�
่
ของทวีปยุโรป
ในพงศาวดารฉบับแรกมีความระบุว่าผู้ปกครองเคียฟองค์แรกคือ
โอเล็ก (Oleg) โอเล็กเป็นญาติเรียงพ่เรียงน้องกับอิกอร์ (Igor) “ผู้บุตรแห่ง
ี
ิ
รูริค” ได้ครองเคียฟในนามของอิกอร์ใน ค.ศ. 882 และส้นพระชนม์ใน
ค.ศ. 913 ซึ่งเป็นปีเริ่มสมัยที่เจ้าชายแห่งเคียฟน�าชนเผ่าสลาฟตะวันออก
ท้งหลายทาประโยชน์อย่างเต็มท่ โดยอาศัยสถานะเมืองเคียฟท่ต้งบนทาเล
ั
�
ี
ี
�
ั
ี
่
ึ
ิ
เส้นทางสายวาแรนเกยนจดแดนกรก ซงเป็นเส้นทางจากสแกนดเนเวย
้
ี
ี
ทะเลบอลติกถึงทะเลดาและคอนสแตนติโนเปิล จากทะเลสาบแคสเปียนถึง
�
เทือกเขาคาร์เปเทียน แดนต่อแดนชาวป่ากับชาวทุ่งหญ้าสเตปป์ เหล่า
เจ้าชายทรงสร้างอาณาจักรเคียฟให้เป็นรัฐส�าคัญในทวีปยุโรป
ื
โอเล็ก (ปีปกครอง ค.ศ. 882?–913) ทรงเป็นผู้เช่อมโยงเคียฟกับ
�
นอฟโกรอด พระองค์เสด็จจากนอฟโกรอดมาตามแม่น้าดนีเปอร์เข้ายึด
�
ครองและใช้เคียฟเป็นฐานท่ม่นขยายอานาจจากแดนโปเลียน (Poliane)
ั
ี
38
บทท่ 1 - สมัยอาณาจักรเคียฟ
ี
�
โดยทาสงครามเอาชนะชนเผ่าต่างๆ ให้ยอมเป็นพวกและส่งบรรณาการให้
ั
ั
หลงจากคุมเส้นทางสายดนีเปอร์และดินแดนจากเหนือจดใต้ ต้งแต่ทะเล
บอลติกถึงทะเลด�าได้แล้ว โอเล็กทรงยกทัพเรือ 2,000 ล�า พร้อมทัพบก
้
ขามแดนบัลแกเรียเข้าโจมตีกรุงคอนสแตนติโนเปิลใน ค.ศ. 907 ต่อมาใน
ค.ศ. 911 บิแซนทิอุมจาต้องยอมตกลงสัญญาทางการค้าท่ให้ประโยชน์
ี
�
1
อย่างสูงสุดแก่โอเล็ก
อิกอร์ (ปีปกครอง ค.ศ. 913?–945) บุตรแห่งรูริค ทรงปกครอง
่
ื
�
เคียฟสืบต่อจากโอเล็ก ทรงทาสงครามตลอดรัชสมัยเพอควบคุมชนเผ่า
ั
สลาฟตะวนออกและเกบบรรณาการโดยเฉพาะจากเผ่าเดเวลียน (Devliane)
็
บรรณาการทชนสลาฟเผ่าต่างๆ มอบให้คือขนสัตว์ (furs) หรือไม่ก็เงิน เม่อ
่
ี
ื
ถึงช่วง ค.ศ. 941–944 อิกอร์ทรงมีกองทัพขนาดใหญ่โตขึ้น โดยได้กอง
กาลังชาวพีเชนเนก (the Pechenegs) และทหารรับจ้างชาววาแรนเก้ยนมา
ี
�
สมทบ จึงเข้าโจมตีบิแซนทิอุม และใน ค.ศ. 945 ได้ตกลงสัญญาทางการ
ค้าฉบับใหม่ที่น่าพอใจมากขึ้น (แต่กลับให้ประโยชน์น้อยกว่าสัญญาฉบับ
ค.ศ. 911) อิกอร์ทรงท�าสงครามกับแคว้นต่างๆ ในเขตทรานส์แคสเปียน
ของเปอร์เซียใน ค.ศ. 943 และประสบความส�าเร็จ อิบน์ มิสกาวายฮ์ (Ibn
Miskawaih) นักพงศาวดารชาวอาหรับเล่าถึงนักรบรัสเซียไว้อย่างชื่นชมว่า
รูปร่างใหญ่โต ทรงพลังและกล้าหาญอย่างยิ่ง พวกเขาไม่รู้จักยอมแพ้ ไม่
หันหลังจนกว่าจะได้ฆ่าหรือถูกฆ่า พวกเดเวลียนปลงพระชนม์อิกอร์เม่อ
ื
�
ื
1 สัญญาฉบับ ค.ศ. 911 ตกลงเร่องค่าปฏิกรรมจานวนมากและพ่อค้ารัสเซียได้รับสิทธิทางการค้าขาย นอก
ี
ั
เหนือจากน้นเป็นข้อตกลงปกติและออกจะเสมอภาค อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าน้ใน ค.ศ. 860 ชาวรัสเซีย
ื
ได้โจมตีคอนสแตนติโนเปิลตามเร่องของไวก้งท่ออกสารวจและเข้าพิชิตยุโรปท้งตะวันตกและตะวันออก
ี
�
ิ
ั
�
�
ี
ในตอนแรกเจ้าชายวาแรนเก้ยนอย่างโอเล็กทาการสู้รบขยายอานาจ แต่ต่อมาเม่อชาวสลาฟผสมกลมกลืน
ื
ิ
กับไวก้งแล้ว มีเจ้าชายและนักรบท่เป็นของตน การขยายอานาจจึงมุ่งไปท่คอนสแตนติโนเปิลและ
ี
ี
�
ื
ทรานส์คอเคซัสเพ่อหาประโยชน์ทางการค้าเป็นหลักมากกว่าเพ่อพิชิตแดน การโจมตีคอนสแตนติโนเปิล
ื
ซ�้าแล้วซ�้าอีกก็เพื่อบีบให้เปิดตลาดให้กับสินค้าและพ่อค้ารัสเซีย ทมุโทรากัน (Tmutorakan) ซึ่งเป็นรัฐเล็ก
ิ
ึ
ุ
ิ
ในเขตทะเลอาซอฟ จงได้รบบทเป็นคนกลางในการตดต่อระหว่างเคยฟกบบแซนทอม แต่การตดต่อ
ั
ี
ิ
ั
ิ
ั
ี
ไม่ใคร่ได้ผล เพราะรัสเซียพบปัญหาท่เกิดจากรัฐคาซาร์และบัลการ์โวลก้า การสู้รบกับรัฐท้งสองไม่ประสบ
�
ี
ผลสาเร็จนัก ทาให้เจ้าชายแห่งเคียฟทรงเลิกฝันท่จะสร้างจักรวรรดิอันไพศาล
�
39
รัสเซีย จักรวรรดิพันปีที่ยิ่งใหญ่
พระองค์เสด็จไปเรียกเก็บบรรณาการเพิ่มจากพวกเขา
ิ
ึ
นอกจากจักรวรรดบแซนทีนซ่งรสเซยไดรบประโยชนอยางมากจาก
ิ
ั
์
่
ั
ี
้
�
การทาสัญญาพันธไมตรีและการค้าด้วยแล้ว ยังมีจักรวรรดิคาซาร์ (the
Khazars) ที่เจริญมั่นคงและมีอารยธรรมที่เหนือกว่าชาติป่าเถื่อนที่คุกคาม
แดนรัสเซีย ได้แก่ พวกแมกยาร์ (the Magyars) ชนเผ่าเร่ร่อนที่พูดภาษา
ฟินน์-อุร์ก ชาวแมกยาร์อยู่กับจักรวรรดิคาซาร์จนถึงคริสต์ศตวรรษท่ 9
ี
จึงย้ายออกจากเขตทุ่งหญ้าสเตปป์ของรัสเซียเข้าไปยังท่ราบแพนโนเนีย
ี
(Pannonian Plain) และตั้งแคว้นฮังการีขึ้น แต่แล้วกลับถูกพวกพีเชนเนก
่
หรอแพทซแนก (the Patzinaks) ชนเผาเตรกเรรอนทปาเถอนและดรายกวา
่
์
ิ
่
ุ
ื
่
้
่
ี
่
่
ื
ิ
จากตะวันออกผลักดันให้ออกจากรัสเซียใต้ พีเชนเนกจู่โจมตีเคียฟด้วย
เช่นกันหลังจากจักรวรรดิคาซาร์เสื่อมลงหลังคริสต์ศตวรรษที่ 10
โอลก้ำ (Olga) มเหสีของอิกอร์ทรงครองบังลังก์เคียฟตั้งแต่ ค.ศ.
ี
ิ
945-962 นางเป็นสตรีคนแรกท่ปกครองรัสเซีย ทรงเร่มต้นสมัยด้วย
การเผาทูตเดเวลียนท้งเป็นในโรงอาบน�้า ชาระโทษแค้นแทนสวามี เผ่า
ั
�
�
ื
เดเวลียนเผชิญหน้ากับกองกาลังปราบปรามอย่างหนักเพ่อเคียฟจะได้ม ี
อ�านาจอย่างมั่นคงในท่ามกลางชนเผ่าสลาฟตะวันออกทั้งหลาย และไม่ให้
เกิดเหตุปลงพระชนม์เจ้าชายแห่งเคียฟอีก
เจ้าหญิงโอลก้าทรงแบ่งราชอาณาจักรออกเป็นมณฑล แต่ละมณฑล
มีพนักงานเสียภาษีประจ�า พงศาวดารฉบับแรกเขียนยกย่องโอลก้าว่าเป็น
ี
สตรีท่ฉลาดเฉลียวท่สุด และเสริมว่าอาจเป็นเพราะทรงยอมรับนับถือคริสต์
ี
ั
ศาสนา (ราว ค.ศ. 944–945) แต่ชาวรัสเซียท่วไปไม่ได้นับถือตาม
พงศาวดารระบุว่าโอลก้าเสด็จไปคอนสแตนติโนเปิลใน ค.ศ. 957 ในสมัย
จักรวรรดิคอนสแตนติน พอร์ไพโรเจนิตุส (Constantine Porphyrogenitus)
สเวียโตสลำฟ (Sviatoslav ปีปกครอง ค.ศ. 962-972) โอรสแห่ง
ิ
โอลก้า พระนามเป็นภาษาสลาฟ แต่ทรงเป็นไวก้งขนานแท้ คือทรงเป็น
40