The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pannika, 2020-09-08 05:15:51

มังกรสยายเกร็ด

มังกรสยายเกร็ด
趣闻中国

สมชาย จิว: เขียน
ราคา 320 บาท
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
สมชาย จิว.
มังกรสยายเกร็ด.--กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2563.
360 หน้า.
1. จีน--ประวัติศาสตร์. I. ชื่อเรื่อง.
951
ISBN 978-616-301-722-2
© ข้อความในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
บรรณาธิการอำานวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน์
บรรณาธิการเล่ม : สวิณี แสงสิทธิชัย
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา นันทนา วุฒิ
หัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษร : สวภัทร เพ็ชรรัตน์
ฝ่ายพิสูจน์อักษร : วนัชพร เขียวชอุ่ม สุธารัตน์ วรรณถาวร
พิสูจน์อักษร : ยุพดี ตันติทวีโชค
รูปเล่ม : Evolution Art
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
จัดพิมพ์โดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ต่อ 108
www.gypsygroup.net
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำาหน่าย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด โทร. 0 2728 0939
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID: @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939

สืบสาวเล่าขานต�านานจีน ย้อน “เกร็ด” มังกรจากโพ้นอดีตสู่ปัจจุบัน



















มังกรสยาย




“เกร็ด”

























สมชาย จิว

คานาสานักพิมพ์





วัฒนธรรมจีนท่เข้ามาสู่ประเทศไทยส่วนใหญ่มักมาในรูปแบบของ

ละครย้อนยุคสนุกๆ เคร่องแต่งกายสวยๆ อลังการ เน้อเร่องของวังหลัง



สุดชิงดีชิงเด่น โดยปกติแล้วละครเหล่าน้มักสร้างอ้างอิงกับประวัติศาสตร์
จีนบ้าง หรือไม่ก็แต่งเรื่องขึ้นใหม่ ในคราแรกทางส�านักพิมพ์คิดว่าหนังสือ
“มังกรสยายเกร็ด” จะเหมาะสาหรับผู้ติดตามละคร หรือนิยายจีน จนไปถึง

ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์อย่างจริงจังหรือเปล่า แต่เม่อได้อ่านต้นฉบับแล้วกลับ

พบว่าเกร็ดความรู้ต่างๆ เหล่านี้อ่านง่ายมาก สิ่งที่โดดเด่นที่ทางส�านักพิมพ์
ชอบมากที่สุดคงเป็น “ไทม์ไลน์” ของการเล่าเรื่อง เพราะหนังสือเล่มนี้เล่า



เร่องจากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยแต่ละเร่องมีตัวบุคคลทางประวัติศาสตร์

เป็นตัวเช่อม คอยยาให้นักอ่านเช่อมต่อเร่องราวในอดีตได้เอง นักอ่านท ี ่





ไม่ได้รู้เร่องราวประวัติศาสตร์ของจีนอย่างจริงจังก็สามารถอ่านเกร็ด
ความรู้ท่เรียงร้อยเป็นประวัติศาสตร์ผืนใหญ่ได้อย่างง่ายดาย นอกจาก

ประวัติศาสตร์ท่หลายคนยังไม่รู้แล้ว ยังมีเกร็ดความรู้ต่างๆ จากยุคร่วมสมัย

ไม่ว่าจะเป็นเร่องราวของเต้งล่จวิน หรือแม้กระท่งเร่องของสิบสามห้างท ี ่





บางล�าพูอันเก่าแก่ และ ฯลฯ โดย สมชาย จิว ผู้เขียนได้ถ่ายทอดเรื่องราว




ด้วยสานวนท่อ่านสนุก เพลิดเพลินเหมือนเพ่อนเล่าเร่องสู่กันฟังบนโต๊ะ
อาหาร ขอเชิญท่านผู้อ่านเพลิดเพลินเจริญใจไปกับเร่องราวอันสนุกและ

หลากหลายของ “มังกรสยายเกร็ด” ได้ ณ บัดนี้
ด้วยจิตคารวะ
ส�านักพิมพ์ยิปซี



คานาผู้เขียน


เกริ่นก่อนเกร็ด



“明镜所以照形,古事所以知今”
“กระจกใสส่องให้เห็นกายา เรื่องปรัมปราส่องให้เห็นปัจจุบัน”






ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกล่าวคาพูดข้างต้นไว้ในสุนทรพจน์เน่องใน
โอกาสครบรอบ 95 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในวันท่ 1 เดือนกรกฎาคม ค.ศ.









2016 แต่จะว่าไปแล้วคาพดนมมาแต่โบราณกาล สบย้อนไปได้ถงในสมย
คริสต์ศตวรรษที่ 3 ในจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่ว

จีนมักเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ว่าเป็นเสมือนกระจกท่ช่วยส่อง



สะท้อนให้เข้าใจเหตแห่งปัจจบน แม้แต่ถงไท่จงฮ่องเต้ จกรพรรดแห่ง



ราชวงศ์ถงกยงเปรยบประวตศาสตร์เป็นกระจกบานหนงในสามบานของ








พระองค์ (ดูรายละเอยดได้จากตอน “กระจกสามบานของถังไท่จง” ภายใน


เล่ม) หนังสือ “มังกรสยายเกร็ด” ท่ท่านผู้อ่านถืออยู่ในมือเล่มน้ หากจะ

เปรียบไปก็คงเป็นได้เพียง “กระจก” บานจ้อย ส่องได้แค่บางแง่บางมุม
ของประวัติศาสตร์จีน


จีนคือมังกรโบราณท่อยู่มายาวนานกว่า 5,000 ปี มังกรตัวน้ม ี








“เกรด” ทางประวตศาสตร์อนชวนให้น่าตนตาต่นใจมากมายมหาศาลนบไม ่



ถ้วน หนังสือเล่มน้เป็นเสมือน “มังกร” ท่สยาย “เกร็ด” ให้ท่านผู้อ่านได้พบ


เร่องราวท่อาจไม่เคยรู้มาก่อน ผู้เขียนจะพาท่านท่องไปในประวัติศาสตร์จีน
ตั้งแต่ยุคบรรพกาลไล่เรียงมาจนถึงประวัติศาสตร์ยุคใกล้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง



กาเนิดคาว่าฮ่องเต้, ปฏิบัติการสังหารจ๋นซี, ปมรักลึกเร้นของดร.ซุนยัตเซ็น,
เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ที่กลายเป็นคนกวาดถนน ไปจนถึงเรื่องของ ยี่กอฮง เจ้าพ่อ
หวยเมืองสยาม ที่ ดร. ซุนยัตเซ็นยกย่องให้เป็นเจ้าพ่อนักปฏิวัติ เล่มนี้มีให้

ครบทุกรสชาติ ทั้งรัก โลภ โกรธ หลง



“มังกรสยายเกร็ด” ยังคงยึดรูปแบบการเขียนเช่นเดียวกับหนังสือ
“จีนมีเกร็ด” และ “เกร็ดเทพเจ้าจีน” หนังสือก่อนหน้านี้ของผู้เขียน (ซึ่งตี

พิมพ์โดยส�านักพิมพ์ยิปซีเช่นเดียวกัน) นั่นคือ “เขียน ให้เหมือน เล่า” แบบ
จับเข่าคุยกัน เหมือนนักเล่านิทานเร่ จุดตะเกียงในยามค�่าคืน แล้วชักชวน

ผู้คนมาล้อมวงฟังเรื่องเล่าอันน่าตื่นใจ



แต่เกร็ดก็ยังคงเป็นเกร็ด เป็นเพียงส่วนเบ็ดเตล็ดหาใช่บทความอัน
เป็นเลิศทางวิชาการ มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า

“เกร็ดท�าหน้าที่ก่อให้เกิดค�าถามมากกว่าให้ค�าตอบ” ผู้เขียนก็หวัง

ใจไว้เช่นน้นว่า เม่อท่านอ่าน “มังกรสยายเกร็ด” เล่มน้จบลงแล้ว จะก่อ





ให้เกิดคาถาม เกิดความสนใจใคร่รู้ ลุกข้นมาหาคาตอบให้กับตัวเองเก่ยว

กับประวัติศาสตร์จีน และนั่นก็จะท�าให้มังกรสยายเกร็ดกว้างไกลต่อๆ ไป
อีกไม่รู้จบ


ผู้เขียนขอขอบคุณมิตรสหายมากมายท้งในชีวิตจริงและในโลก




โซเชียล ท่ทาให้ผู้เขียนมีความสุขกับการ “หาเร่อง” มาเล่าสู่กันฟังท้งในเพจ
“เกร็ดก็เก่าเกย์ที่เล่าก็แก่” และ “ปักกิ่งให้ถึงแก่น” และขอขอบคุณทุกๆ

คนในสานักพิมพ์ยิปซีท่ให้ความกรุณาวางอกวางใจเปิดโอกาสให้ผู้เขียนได้



ผลิตหนังสือเล่มน้ออกมา (โดยเฉพาะผู้ท่ต้องอดทนกับความเกียจคร้านและ
ผัดวันประกันพรุ่งของผู้เขียน อิอิ)


สุดท้ายน ความดงามอันใดหากมีขอมอบให้กับปวงปราชญ์ ครูบา


อาจารย์ เจ้าของความรู้ต่างๆ ที่ผู้เขียนใช้ศึกษามาตลอด และหากมีข้อผิด
พลาดประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว



ถึงตรงนี้ คงได้เวลาไปสยาย “เกร็ด” มังกรกันแล้ว!



สมชาย จิว

เขียนในคืนวันแห่งโควิด-19
ณ มุมหนึ่งของกรุงเทพฯ

สารบัญ





ฮ่องเต้/โอรสสวรรค์/พระหมื่นปี มาจากไหน? 13
• ฮ่องเต้ 皇帝 13

• โอรสสวรรค์ 天子 15
• พระหมื่นปี 万岁 16

จอมคน จอมคลั่ง: 10 อันดับฮ่องเต้ไม่เอาไหนในประวัติศาสตร์จีน 21
• อันดับที่ 10 เหวินเสวียนตี้ 文宣帝 แห่งราชวงศ์เป่ยฉี 21

• อันดับที่ 9 เทียนจั้วตี้ 天祚帝 แห่งราชวงศ์เหลียว 22
• อันดับที่ 8 หยวนซุ่นตี้ 元顺帝 แห่งราชวงศ์หยวน 23

• อันดับที่ 7 สุยหยางตี้ 隋炀帝 แห่งราชวงศ์สุย 24
• อันดับที่ 6 สู่ฮั่นโฮ่วจู่ 蜀汉后主 แห่งรัฐสู่ฮั่น 25

• อันดับที่ 5 ซุนเฮ่า 孙皓 แห่งรัฐอู๋ 26
• อันดับที่ 4 ซ่งฮุ่ยจง 宋徽宗 แห่งราชวงศ์ซ่งเหนือ 28

• อันดับที่ 3 หมิงซีจง 明熹宗 แห่งราชวงศ์หมิง 29
• อันดับที่ 2 เฉินโฮ่วจู่ 陈后主 แห่งราชวงศ์เฉิน 30

• อันดับที่ 1 ซ่งเฉียนเฟ่ยตี้ 宋前废帝 แห่งราชวงศ์หลิวซ่ง 31
ปฏิบัติการสังหารจิ๋นซี 35

• ครั้งที่ 1 จิงเคอ กับมีดสั้นปลายม้วนแผนที่ 35
• ครั้งที่ 2 เกาเจี้ยนหลี กับเพลงพิณพิฆาตจิ๋นซี 36

• ครั้งที่ 3 จางเหลียง กับลูกตุ้มสังหาร 38
ปริศนาความตายซือหม่าเชียน 41

หวังหม่าง: ทรราชหรือ “นักสังคมนิยม” คนแรกในประวัติศาสตร์จีน 47
กระจกสามบานของถังไท่จง 53

รัชทายาทราชวงศ์ถัง: วางแผนปิตุฆาตเพราะขาดชายคนรัก! 59
• เหตุการณ์ “รัชทายาทสมคบคิดก่อการกบฏ” 59

• องค์ชายบนหลังม้า รักทุ่งหญ้ามากกว่าบ้านเมือง 60
• เมื่อเด็กชายคนรักถูกสังหาร แผนการร้ายจึงก�าเนิด 61

ว่านเจินเอ๋อ: ต�านานรัก “กินเด็ก” แห่งราชวงศ์หมิง 65
เหวินเทียนเสียง: ตงฉินสิ้นแผ่นดินซ่ง 71

เมืองไคเฟิง ไม่ได้มีแค่จั่นเจา เปาบุ้นจิ้น แต่ยังมี...ยิว! 77
สามคดีดังสะเทือนบัลลังก์ปลายราชวงศ์หมิง 83

• คดีที่ 1 คดีไม้พลอง! 梃击案 84
• คดีที่ 2 คดียาเม็ดสีแดง 红丸案 86

• คดีที่ 3 คดีย้ายวัง 移宫案 90
กฎหมายห้ามสูบยา มีมาแต่สมัยราชวงศ์หมิง 95

“แปดกองธงแมนจู พิชิตใต้หล้า” มาจากไหน 99
โองการเหล็ก...ห้ามขันทีเล่นการเมือง 105

“จารชนปล้นชา” ภารกิจลับลูบคมมังกรของอีสต์อินเดีย 109
เผยด้านมืดไท่ผิงเทียนกว๋อพ่ายแพ้เพราะ “เน่าใน” 113

ประตูเมือง...มีเรื่องเศร้า 119
ซูสีไทเฮาติดงิ้ว 125

หลิวก่านซาน ตัวตลกผู้หาญกล้าท้าทายซูสีไทเฮา 129
ใครจับพระสนมเจินยัดลงบ่อ ค�าให้การจากขันทีผู้แอบดู 133

โศกนาฏกรรมวันนั้น
ซูสีไทเฮากับเก๋งฝรั่ง 139

ข้างหลังภาพซูสีไทเฮา 145
“ประตูผี” ก็มีที่ปักกิ่ง 151

สวีซีหลิน-ชิวจิ่น: ผู้ใช้ความตายจุดประกายโค่นชิง 157
Fake News ตบตาหยวนซื่อข่าย ฝีมือลูกชายจริงหรือ? 163

ไช่เอ้อ เสี่ยวฟ่งเซียน ต�านานรักดับฝันหยวนซื่อข่าย 169
• แม่ทัพหนุ่มกับนางโลม 169

• จากพานพบเป็นสมคบคิด 170
• ลุ่มหลงอิสตรี ละทิ้งปณิธาน 171

• พ้นกรงเล็บเหยี่ยว ลดเลี้ยว...เสือคืนถิ่น 172
• รักจ�าพราก แม้นจากยังจดจ�า 173

• สิ้นฮ่องเต้ 83 วันไม่ทันไร แม่ทัพไช่เอ้อก็ตายตาม 174
• เขากลับมาปักกิ่งจริงๆ แต่ในสภาพร่างที่ไร้ลมหายใจ 174

• สูญหายไร้ร่องรอย 35 ปีต่อมาจึงปรากฏ 174
กรณีบัลลังก์ 12 วันของปูยี 179

ชะตาชีวิตแม่ปูยี ฆ่าตัวตาย 2 ครั้งซ้อน 187
เมื่อปูยีถูก “ขงเบ้ง” ตุ๋นจนเปื่อย 195

เมื่อ “ปูยี” ต้องมาเผชิญหน้ากับ “ศัตรู” 201
ผู้ขับไล่เขาจากวังต้องห้าม

พระสนมคนสุดท้ายของจักรพรรดิโลกไม่ลืม 207
ขอหย่าแต่กลับถูกบังคับให้หลับนอน

บุปผามากรักแห่งแมนจู: น้องสะใภ้ปูยี ชู้รักจางเสวียเหลียง 213
หลู่ซวิ่น: มรสุมชีวิตเมื่อคิดตัดหางเปีย 219

เหอเถา เจ้าเคล้าคลึง 225

เท้าดอกบัวกับคนดังในยุคสาธารณรัฐจีน 229
เปิดกล่องดวงใจขันที 235

เปิดปมรักซุนยัตเซ็น 239
ท�าไม “ซ่งชิ่งหลิง” จึงไม่ฝังร่างข้างซุนยัตเซ็น 243

คาวชีวิตจางจงชาง ขุนศึก “สามไม่รู้” 249
ไขปริศนาคดีฆาตกรรมพี่ร่วมสาบานเจียงไคเช็ก 255

หวงจินหรง: จากเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้สู่คนกวาดถนน 263
วันสุดท้ายของเจียงไคเช็กบนแผ่นดินจีน 269

จางฉีอวิ๋น ชายผู้แนะน�าไต้หวันให้เจียงไคเช็ก 275
เปิดตู้ดูกี่เพ้า...มาดามเจียงไคเช็ก 279

เผยโฉมหน้า...หวงเฟยหง 283
ชีวิตที่มีแต่ปริศนาจากเจ้าหญิงแมนจูสู่สายลับญี่ปุ่น 289

สือเพ่ยผู: สายลับนางงิ้ว ผู้หลอกสามีว่าเป็นหญิงมาเกือบ 20 ปี 295
เรื่องเล่าที่เทียนอันเหมิน? 301

พระราชวังต้องห้ามข้ามพ้นเงื้อมมือเรดการ์ดมาได้อย่างไร 307
จางจื้อซิน: ตัวจึงตายเพราะท้าทายเหมา 315

เมื่อซ้องกั๋งช่วยชาวอเมริกันจากเรดการ์ด 321
หนึ่งนครา สองเติ้ง 327

ฤาจ้าวจื่อหยางคือ กวงซวี่ฮ่องเต้กลับชาติมาเกิด 333
เปลื้องกี่เพ้าแอบดู...ซูซี่ วอง 339

สิบสามห้าง...ถนนอยู่บางล�าพู แต่ต้นก�าเนิดอยู่ที่กวางตุ้ง 345
จากอั้งยี่ถึงเลียะพะ จากโค่นชิงกู้หมิง ถึงเยาวราช 349

ยี่กอฮง จากเจ้าพ่อหวยสู่เจ้าสัวนักปฏิวัติ 355

ฮ่องเต้ โอรสสวรรค์ พระหมื่นปี

ฮ่องเต้/โอรสสวรรค์/




พระหม่นปี มาจากไหน?












เราๆ ท่านๆ คงคุ้นเคยกับสามคาน้เป็นอย่างดี เพราะท้งฮ่องเต้ หรือ


หวงตี้ 皇帝 โอรสสวรรค์ หรือ เทียนจื่อ 天子 หมื่นปี หรือ ว่านซุ่ย


万岁 ล้วนมีความหมายถึงคนผู้หน่งท่อยู่เหนือผู้คนท้งประเทศจีนในสมัย

ราชาธิปไตย องค์พระจักรพรรดิ ราชันย์เหนือบัลลังก์มังกร แต่ค�าเหล่านี้มี
ที่มาอย่างไร




ฮ่องเต้ 皇帝


ค�าว่าหวงตี้ หรือฮ่องเต้ที่คนไทยเรียกกันติดปากนั้น ถ้าจะถามถึงที่
มาคงต้องย้อนไปถึงสมัยแรกก่อต้งอาณาจักรราชวงศ์ฉิน และเก่ยวพันกับ


ปฐมจักรพรรดิราชจิ๋นซีฮ่องเต้ นับแต่ราชวงศ์ซาง ราชวงศ์โจว จนมาถึงยุค
ชุนชิว จ้านกว๋อ ค�าเรียกขานผู้ที่เป็นเจ้าสูงสุดหรือกษัตริย์ ได้แก่ หวาง 王

หรือ อ๋อง กษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว เป็น อ๋อง 王 ส่วนผู้ครองแคว้นต่างๆ


13

เป็นเพียง กง 公 แต่ครั้นราชวงศ์โจวเริ่มเสื่อมอ�านาจลง เจ้าครองแคว้น

พากันยกตัวเองขึ้นเป็น อ๋อง บ้าง

จวบจนกระท่ง ฉินอ๋องเจ้ง 秦王政 เจ้าผู้ครองแคว้นฉิน สามารถ

พิชิตหกแคว้นรวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่ง ฉินอ๋องเจิ้งทรงด�าริว่า ค�าว่า “อ๋อง”
น้น ด้อยค่าเกินไปแล้วสาหรับพระองค์ จึงให้เหล่าขุนนางถวายพระสมัญญา



ใหม่ให้พระองค์ เหล่าขุนนางประชุมกันแล้วก็นาความข้นทูลเกล้าว่า แต่

โบราณมี ซานหวง 三皇- สามราชา ได้แก่ ราชาสวรรค์ เทียนหวง 天
皇, ราชาพิภพ ตี่หวง 地皇, และราชามนุษย์ ไท่หวง 泰皇 เห็น
เหมาะสมจะถวายพระสมัญญาใหม่ให้พระองค์จากอ๋อง เป็นไท่หวง

ฉินอ๋องเจิ้ง ตัดค�าว่า ไท่ ทิ้งไป คงค�าว่า หวง 皇 ไว้ แล้วให้น�าค�า
ว่า ตี้ 帝 จาก อู่ตี้ 五帝- ห้าจักรพรรดิ มารวมไว้ด้วยกัน (ห้าจักรพรรดิ











น แตละตาราแตกตางกนออกไป เช่นบนทกประวัตศาสตร ส่อจของซอหม่า-




เชียน จัดไว้เป็น หวงตี้ 黄帝, จวนซฺวี 颛顼 , ตี้คู่ 帝喾, พระเจ้า
หยาว 尧 และพระเจ้าซุ่น 舜) เมื่อน�าหวงมาบวกกับตี้ จึงกลายเป็นค�าว่า
หวงตี้ 皇帝 หรือฮ่องเต้เพื่อจะสื่อให้โลกรู้ว่า จิ๋นซีฮ่องเต้นั้น...
“เพียบพร้อมคุณธรรมสามราชา ความส�าเร็จดั่งห้าจักรพรรดิ”
德兼三皇,功过五帝。
โดย สามราชา ห้าจักรพรรด 三皇五帝 ถือเป็นผู้ปกครอง

อันทรงคุณธรรมล�้าเลิศ เป็นพระเจ้าแผ่นดินในอุดมคติของจีนมารวมอยู่ใน

ตัวพระองค์ และเพราะเป็นหวงต้พระองค์แรกของราชวงศ์ฉินจึงให้ขนาน

พระนามว่า ฉินสื่อหวงตี้ 秦始皇帝 หรือ จิ๋นซีฮ่องเต้ นั่นเอง





14

แม้จ๋นซีฮ่องเต้จะสวรรคตไปแล้ว แม้ราชวงศ์ฉินจะล่มสลายไปใน

เวลาอันแสนสั้น แต่ค�าว่า หวงตี้ หรือ ฮ่องเต้ ก็ยังถูกใช้สืบทอดต่อกันมา

จวบจนอวสานของระบอบการปกครองแบบราชาธิปไตยของแผ่นดนจีน
โดยมี ปูยี เป็นฮ่องเต้พระองค์สุดท้าย




โอรสสวรรค์ 天子


ค�าว่าเทียนจื่อ หรือ โอรสสวรรค์ ปรากฏขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร
ครั้งแรกในคัมภีร์ประวัติศาสตร์ ซ่างซู 尚书 โดยแรกนั้น โอรสสวรรค์

หมายถึง โอรสคนโปรดของสวรรค์ 天之骄子ซึ่งหมายถึงผู้ใดก็ได้ที่
มีคุณธรรมย่อมสามารถปกครองแผ่นดินได้ ในยุคบุพกาล พระเจ้า เหยา

尧, ซุ่น 舜, อวี่ 禹ไม่ยกราชสมบัติให้กับโอรสของตน แต่ยกให้กับผู้มี
คุณธรรมความสามารถ แต่เมื่อสังคมเริ่มมีระบบการผลิตที่ซับซ้อนขึ้น เกิด

ระบบทาสและความเป็นรัฐชาติเริ่มพัฒนา ค�าว่า โอรสสวรรค์ถูกใช้ในการ


อ้างสิทธิธรรม เพ่อจะสามารถปกครองเหนือคนท้งปวง โดยอ้างว่า เป็น
อาณัติแห่งสวรรค์


นับแต่น้นมา ใครจะข้นมาเป็นเจ้าเข้าครอง ย่อมต้องอ้างว่าเป็น



บญชาสวรรค์และจะพยายามสบสาวสาแหรกใหไปเชอมโยงกบผทเปนธรรม








ราชาแต่เก่าก่อนให้ได้ ดูอย่าง หลิวปัง 刘邦 จากชาวนาต�่าต้อย ที่แม้แต่



ช่อบิดาผู้ให้กาเนิดยังไม่ถูกบันทึกไว้ คร้นหลิวปัง ต้งตนข้นเป็นฮ่องเต้ฮ่นเกาจ ู่



ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น เหล่าขุนนางต้องพากันไปพลิกต�าราค้นกันจน
เลือดตาแทบกระเด็น เพ่อหาท่มาท่ไปของบรรพบุรุษหลิวปังว่าเหมาะสม



กับการเป็นโอรสสวรรค์หรือไม่



ท่สุดก็มีผู้ไปค้นพบในตารา จั่วจ้วน 左传 มีจุดหน่งระบุว่า
15

พระเจ้าเหยามีทายาทรุ่นหลังผู้หนึ่งนามว่า หลิวเล่ย 刘累 หลิวเล่ยเป็น

บรรพชนของหลิวปัง ดังนั้น หลิวปังจึงนับได้ว่าสืบสายโลหิตมาจาก เหยา


ซ่งก็สืบเช้อสายมาจาก หวงต้ จักรพรรดิเหลืองอีกทอด จึงเหมาะสมด้วย

ประการทั้งปวงที่จะเป็นเทียนจื่อ โอรสสวรรค์
ฮ่องเต้หลายๆ พระองค์ต่อมาก็ใช้วิธีเดียวกันน้ เช่น หวังหม่ง 王莽


หรือ อองหมัง (ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ชิน) และ เฉาพ 曹丕 หรือ

โจผี (ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์เว่ย) พอต้งตนเป็นฮ่องเต้ก็ให้คนไปค้นสาแหรก

จนสืบสาวไปได้ว่าเป็นทายาทเกี่ยวดองหนองยุ่งกับพระเจ้าซุ่น ทั้งหมดทั้ง


ปวงน้ก็เพ่ออ้างความเป็นโอรสสวรรค์ มีความชอบธรรมในการปกครองแผ่น
ดินเหนือทวยราษฎรนั่นเอง




พระหมื่นปี 万岁


“ขอทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นๆ ปี”
“万岁万岁万万岁”






ว่านซุ่ย คาน้ได้ยินกันจนชินหู เป็นคาถวายพระพรฮ่องเต้ให้ทรงม ี
พระชนมายุยั่งยืนนาน และยังเป็นค�าที่ขุนนางใช้เรียกแทนองค์ฮ่องเต้ด้วย
แต่เชื่อไหมว่าแต่เดิมค�าว่า “ว่านซุ่ย หมื่นปี” นี้ เป็นค�าอวยพรตอนชนแก้ว

ราสุราของสามัญชนเท่าน้น โดยมีปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ในหนังสือซือจิง



ยุคราชวงศ์โจวตะวันตก


จนกระท่งล่วงมาสมัยราชวงศ์ฮ่น ในรัชสมัย ฮั่นอู่ตี้ 汉武帝
ฮ่องเต้พระองค์น้เป็นหน่งในผู้หลงใหลความเป็นอมตะ ในปี 110 ก่อน


คริสตกาล ฮั่นอู่ตี้มีพระบรมราชโองการลงไปว่า เมื่อทรงไปท�าพิธีบวงสรวง

16

ฟ้าดินบนภูเขาสูง ได้ยินเสียง “ว่านซุ่ย ว่านซุ่ย” ดังก้องราวจะถวายพระพร













พระองค นบเปนนมตหมายอนด จงใหขนนางและอาณาประชาราษฎรเรยก





พระองค์ว่า ว่านซุ่ย-หม่นปี และนับแต่น้ให้สงวนคาน้ไว้แต่สาหรับฮ่องเต้
ห้ามมิให้สามัญชนคนใดใช้เป็นค�าอวยพรกันอีก



เม่อคาน้ถูกฮ่องเต้ยึดไปใช้ ใครท่เผลอใช้ก็คงต้องรับโทษทัณฑ์กัน


ไป ในสมัยราชวงศ์ซ่ง แม้แต่ขุนนางตงฉินยังตกกระป๋องมาแล้วเพราะคา
ว่า ว่านซุ่ย ค�าเดียว เรื่องมีอยู่ว่า มีวันหนึ่งขณะอ�ามาตย์ โค่วจุ่น 寇凖
ผู้จงรักภักดีก�าลังเดินทาง มีคนบ้าผู้หนึ่งร้องตะโกนเรียกท่านว่า “ว่านซุ่ย”

เร่องน้ไปเข้าหูศัตรูทางการเมืองของท่านเข้า ศัตรูของโค่วจุ่นนาความข้น





กราบทูลฮ่องเต้ เป็นผลให้โค่วจุ่นถูกถอดจากตาแหน่งอามาตย์ไปเป็นเจ้า
เมืองเล็กๆ ที่ชิงโจว
แล้วค�าถวายพระพร หมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี ที่กล่าวมาข้างต้นเล่า
มีที่มาอย่างไร?

เร่องน้ต้องย้อนกลับไปในสมัยพระนางบูเช็กเทียน 武则天





ราชวงศ์ถัง พระนางบูเช็กเทียนน้นมักนิยมข้นกลอนไว้วรรคหน่งท้งไว้เพ่อ

ท้าทายปฏิภาณของข้าราชบริพาร วันหนึ่งทรงขึ้นกลอนไว้ว่า
นงคราญหยกตีเกราะ (เครื่องดนตรี) ดังปาปัง ปาปัง ปาปาปัง!
玉女河边敲叭梆,叭梆!叭梆!叭叭梆!






17

แล้วรอให้ผู้มีความสามารถมาต่อกลอน แต่ไม่มีผู้ใดต่อกลอนได้ถูก

พระทัยพระนาง จนกระทั่งมีขุนนางผู้หนึ่งต่อกลอนขึ้นว่า



หน้าบัลลังก์ทองกู่ร้อง หมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี!
金銮殿前呼万岁,万岁万岁,万万岁。





กลอนวรรคน้ถูกพระทัยพระนางเป็นอย่างมาก และนับแต่น้นมา ใน
วังหลวงก็นิยมใช้ค�าว่าหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี ถวายพระพรองค์ฮ่องเต้สืบ
กันมา แม้กระทั่ง เหมาเจ๋อตง ก็ยังได้รับค�าอวยพรประหนึ่งฮ่องเต้เช่นกัน



毛主席万岁 ประธานเหมาจงเจริญ....หมื่นปี!



































18



ซ่งเฉียนเฟยตี้ จอมคน จอมคลั่ง อันดับที่ 1


จอมคน จอมคล่ง:


10 อันดับฮ่องเต้ไม่เอาไหน



ในประวัติศาสตร์จีน












ตลอดห้าพันปีของประวัติศาสตร์ จีนผ่านการมีฮ่องเต้ (ท้งรัฐน้อย

ใหญ่) รวมประมาณ 557 พระองค์ มีทั้งฮ่องเต้ที่ปรีชาสามารถ และฮ่องเต้

ที่อ่อนแอไร้อ�านาจ มีทั้งฮ่องเต้ที่เปี่ยมเมตตา และฮ่องเต้ที่เหี้ยมโหด มีทั้ง

จอมคน และจอมคล่ง เคยมีการจัดอันดับฮ่องเต้จอมคล่งไว้ 10 อันดับ ดังน ี ้



อันดับที่ 10

เหวินเสวียนตี้ 文宣帝 แห่งราชวงศ์เป่ยฉี


เหวินเสวียนตี้ เดิมชื่อ เกาหยาง 高洋 เป็นผู้โค่นล้มราชวงศ์ตง
เว่ยแล้วสถาปนาตัวเองขนเป็นฮ่องเต้แห่งราชวงศ์เป่ยฉแห่งยุคราชวงศ์



เหนือ-ใต้ เมื่อแรกนั่งบัลลังก์ เกาหยางเป็นฮ่องเต้ที่มีความสามารถ มุ่งมั่น
สร้างอาณาจักรจนเข้มแข็ง ปราบการทุจริต จัดเกบภาษีอาณาประชาราษฎร์

อย่างเป็นธรรม


21

แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายรัชสมัย กลับกลายเป็นคนลุ่มหลงสุรานารี ที่










หนกสดคอตดเหล้า และเมอเมากจะคล้มคลง และต้องฆ่าคน! ในหนงสอ



จือจื่อทงเจี้ยน 资治通鉴 ของซือหม่ากวง 司马光 บันทึกเกี่ยว
กับความเมาคลั่งของเกาหยางไว้ว่า
“เหวินเสวยนต้ ด่มหนักและใช้ชวิตอย่างไร้ศีลธรรม บางคราก็ด่ม








แล้วร้องเต้นท้งวันท้งคืน บางคราปล่อยผมสยายสวมชุดชนเผ่าป่าเถ่อน...

บางเวลาก็เปลือยกายออกไปนอกถนน น่งอยู่กลางถนนบ้าง นอนกลาง
ถนนบ้าง”

มีคราวหน่ง เกาหยางร่วมหลับนอนกับน้องสาวของพระสนม จาก


น้นพอเมาได้ท่ก็ตัดหัวนาง วันต่อมา เกาหยางยังให้แขวนศีรษะนางไว้กลาง
งานเลี้ยง เป็นที่สยดสยองกับเหล่าขุนนางเป็นอย่างมาก อัครมหาเสนาบดี
หยางยิน 杨愔 ถึงกับต้องจัดหานักโทษประหารมารอไว้ให้เกาหยางฆ่า
เวลาเมามาย



เดชะบุญ ท่แผ่นดินเป่ยฉีเวลาน้น เหล่าขุนนางท่นาโดยหยางยินม ี

ความสามารถพอท่จะประคองประเทศไปได้ เกาหยางประชวรหนักและ





ตายลงในฤดใบไม้ร่วง ค.ศ. 559 นกประวตศาสตร์สนนษฐานว่าน่าจะมา


จากโรคพิษสุราเรื้อรัง
อันดับที่ 9
เทียนจั้วตี้ 天祚帝 แห่งราชวงศ์เหลียว



เทยนจวต หรอ เย-ลว่เหยียนส 耶律延禧 เป็นฮ่องเต้องค์







สุดท้ายของราชวงศ์เหลียวท่เป็นชนเผ่าชี่ตัน 契丹 ก่อนจะถูกราชวงศ์จิน
(หนี่ว์เจิน 女真) กลืนชาติในที่สุด ตลอด 25 ปีในรัชสมัยของพระองค์
22




ท่านเอาแต่เสพสุขสุรานารี ด้วยพ้นเพเป็นชนเผ่าช่ตันท่อยู่บนหลังม้า ชม


ชอบการล่าสัตว์ เย-ลว่เหยียนส่ จึงชอบตกปลา ล่าสัตว์ ตีคลี มีชีวิตท่หรูหรา


สุขสาราญ ผลาญเงินทองท้องพระคลังไปมากมายจนไม่มีเวลาให้กับการ
บริหารราชการงานเมือง
เย-ลวี่เหยียนสี่ ปล่อยให้เรื่องของบ้านเมืองตกอยู่ในมือของขุนนาง





กงฉน จนแผ่นดนเกดกบฏลกฮอหลายครง แตเขากหาไดใสใจ ในราชสานกม ี












แต่การแก่งแย่งชิงดี ในขณะท่ชนเผ่าหน่ว์เจินท่ก่อต้งราชวงศ์จินก็แข็งแกร่ง




ข้นเร่อยๆ ท่สุดแผ่นดินราชวงศ์เหลียวก็ตกเป็นของเผ่าหน่ว์เจิน ราชวงศ์จิน

เทียนจั้วตี้ตายภายใต้การจับกุมของราชวงศ์จินนี่เอง
อันดับที่ 8
หยวนซุ่นตี้ 元顺帝 แห่งราชวงศ์หยวน

ฮ่องเต้ลาดับท่ 11 และเป็นองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์หยวนของ




ชาวมองโกล ข้นครองราชย์ต้งแต่อายุ 13 พระชันษา ตลอดรัชสมัยส่งท ี ่
หยวนซุ่นตี้ท�าคือ “เข้าแต่หอล่อกามา”
ว่ากันว่าทรงใฝ่พระทัยในการเสพสมเป็นที่สุด ภายในวังให้สร้างห้อง
ลับเพื่อทอดพระเนตรมหรสพโดยมีเรื่องเล่าว่า ทรงคัดเลือกนางร�า 16 คน
เรียกว่า 16 มารฟ้า 十六天魔 มาร่ายร�าให้พระองค์ทอดพระเนตรใน
ห้องลับและหลังการแสดง มักจะตามด้วยกามกรีฑาเสมอ
แต่เรื่องเล่าเหล่านี้ออกจะไม่เป็นธรรมกับหยวนซุ่นตี้นัก เพราะเอา
เข้าจริงแล้วในช่วงท้ายของราชวงศ์หยวน ภายในเวลา 26 ปี มีการเปลี่ยน


ฮ่องเต้ไปถึง 9 พระองค์ บ้านเมืองจึงระสาระสายไม่เป็นปึกแผ่น ภายในราช
ส�านักแก่งแย่งชิงดี ภายนอกเกิดทุพภิกขภัย ชาวประชาเดือดร้อนแทบทุก


23




หย่อมย่าน ภายในวัง หยวนซุ่นต้ก็ไม่ได้มีอานาจท่แท้จริง ส่วนนอกวัง กบฏ
โพกผ้าแดงก็พากันรุกคืบ
หยวนซุ่นตี้จะท�าอะไรได้ ที่สุดก็ถูก จูหยวนจาง 朱元璋 ปฐม


กษัตริย์ราชวงศ์หมิงควาแผ่นดิน หยวนซุ่นต้ต้องหนีหัวซุกหัวซุนล้ภัยข้น




เหนือไปในท้ายที่สุด เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์หยวนของมองโกล คืนแผ่นดิน
ให้ชาวฮั่น ภายใต้การน�าของคนแซ่จู สถาปนาราชวงศ์หมิงขึ้นแทน


อันดับที่ 7
สุยหยางตี้ 隋炀帝 แห่งราชวงศ์สุย




สุยหยางต้ เป็นฮ่องเต้องค์ท่สองและองค์สุดท้ายของราชวงศ์สุย
พระนามเดิม หยางกว่าง 杨广 น่าจะเรียกได้ว่าเป็นฮ่องเต้ท่เก่งกาจ

สามารถพระองค์หนึ่ง หากไม่บ้าอ�านาจจนท�าลายตัวเองในที่สุด การขึ้นสู่

บัลลังก์ของหยางกว่างเองก็ไม่ใสสะอาดนัก ว่ากันว่าหยางกว่างใส่ร้ายพระ
เชษฐาแล้วบีบบังคับให้ สยเหวินต 隋文帝 ผู้เป็นพระราชบิดาปลดไท่จ่อ








แต่งต้งตัวเองข้นเป็นองค์รัชทายาทแทน แล้วจึงได้ข้นครองราชย์ในท่สุด
(โดยมีบางต�านานเล่าว่าเป็นผู้ลอบปลงพระชนม์สุยเหวินตี้พระราชบิดา)
สุยหยางตี้ ถูกตราหน้าว่าเป็นทรราชย์ แต่ในรัชสมัยของพระองค์ก็
สร้างความสาเร็จไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอภิมหาโครงการขุดคลองต้าอว๋น-


เหอที่มีความยาวถึง 2,500 กิโลเมตร การซ่อมสร้างก�าแพงเมืองจีน สร้าง
นครหลวงตะวันออกแห่งใหม่ที่ลั่วหยาง มิหน�าซ�้ายังกรีฑาทัพบุกเกาหลีถึง
สามครั้งสามครา แล้วกลับมาด้วยความพ่ายแพ้

ดูไปแล้วสุยหยางต้อาจเป็นฮ่องเต้ท่ทะยานอยากจะเป็นจอมคน


แบบจ๋นซีฮ่องเต้ก็เป็นได้ แต่ก็ลงท้ายเป็นจอมคล่ง เพราะการเกณฑ์แรงงาน

24


ไพร่พลไปสร้างโครงการใหญ่ๆ และก่อสงครามสู้รบ ก็ทาให้ผู้คนล้มตาย


มหาศาล ส้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินมากมาย จึงเกิดการลุกฮือท่วทุก
สารทิศ ที่สุด ก็ถูกนายทหารใกล้ชิดอย่าง อวี่เหวินฮั่วจี๋ 宇文化及
ปลงพระชนม์ แล้วราชวงศ์สุยก็ล่มสลาย ราชวงศ์ถังขึ้นแทน




อันดับที่ 6
สู่ฮั่นโฮ่วจู่ 蜀汉后主 แห่งรัฐสู่ฮั่น


ฟังช่ออาจไม่ค่อยคุ้นหู แต่ถ้าบอกว่าเขาคือ อาเต๊า ลูกเล่าปี่แห่ง

จ๊กก๊กในยุคสามก๊ก ทุกคนก็คงร้องอ๋อ


สู่ฮ่นโฮ่วจู่ หรือ หลิวส้าน 刘禅 (เล่าเส้ยนในฉบับสามก๊กของ

ไทย) เป็นโอรสองค์โตของเล่าปี่ 刘备 รู้จักกันดีในช่อเล่นว่า อาโต่ว



阿斗 (อาเต๊า) ซ่งจนทุกวันน้ คาว่าอาโต่วยังกลายเป็นศัพท์แสลงท ี ่

หมายถึง “คนท่อ่อนแอ ไร้ความสามารถ แม้จะมีพร้อมทุกส่ง ก็มิอาจประสบ

ความส�าเร็จได้”
ซึ่งหลิวส้านหรืออาโต่วก็มีชะตากรรมเช่นนี้จริงๆ หลิวส้านได้รับการ




อบรมเล้ยงดูท้งบู๊ท้งบุ๋นอย่างเพียบพร้อมเพ่อเตรียมความพร้อมข้นเป็น


ฮ่องเต้ แล้วก็ได้ข้นครองราชย์ต่อจากเล่าปี่เม่อมอาย 17 พระชันษา



ขางกายเขามีขุนนางและแม่ทัพเป็นคนดีมีความสามารถมากมาย โดยเฉพาะ

จูเก่อเลี่ยง 诸葛亮 หรือขงเบ้งยอดกุนซือที่ดูแลบ้านเมืองอย่างแข็งขัน
จนถึงกับมีค�ากล่าวว่า
“政事无巨细,咸决于亮”

“ราชการน้อยใหญ่ ให้เลี่ยง (ขงเบ้ง) ตัดสินใจ”


25


เรียกได้ว่าหลิวส้านเป็นฮ่องเต้ในสภาพแวดล้อมท่สบายเอามากๆ


ทว่า เขาก็ปล่อยให้ทุกอย่างหลุดมือเพราะความไม่เอาไหน เม่อส้นขงเบ้ง
ก็เหมือนสิ้นหนทาง หลงเชื่อแต่ขันทีชั่ว หวงเฮ่า 黄皓 ไม่คิดสู้กับรัฐเว่ย
สุดท้ายก็ยอมศิโรราบ มอบเมืองให้รัฐเว่ยโดยง่ายดาย ต่อมาถูกซือหม่าเจา







司马昭 (สมาเจยว) จับมาอย่ทล่วหยาง โดยต้งให้เป็น อันเล่อกง
安乐公 เลี้ยงดูไว้เยี่ยงตัวประกัน




มีอยู่คราวหน่ง ซือหม่าเจาจัดงานเล้ยงให้หลิวส้านท่ล่วหยาง ในงาน
น้น ให้มีการร้องราดนตรีของรัฐสู่ฮ่น เล่นเอาขุนนางเก่ารัฐสู่ฮ่นท่ติดตาม





หลิวส้านมาเป็นตัวประกันท่น่ ต่างร้องไห้นาตานองหน้าคิดถึงบ้านท่จาก





มา มีเพียงหลิวส้านผู้เดียวที่ฟังดนตรี แล้วกินดื่มอย่างสบายใจ ซือหม่าเจา
ถึงถามหลิวส้านว่า ไม่คิดถึงรัฐสู่ฮ่นหรืออย่างไร หลิวส้านตอบหน้าตาเฉยว่า

“此间乐,不思蜀也。”
“อยู่นี่ก็มีสุข ไม่คิดถึง(รัฐ)สู่แล้ว”
สมกับเป็น “อาโต่ว” จริงๆ

อันดับที่ 5
ซุนเฮ่า 孙皓 แห่งรัฐอู๋


เขาคือซุนโฮแห่งง่อก๊กในยุคสามก๊ก หน่งในทรราชย์ล่มเมือง และ

เมื่อง่อก๊กจบสิ้นในน�้ามือของเขา ก็สิ้นสุดยุคสามก๊กที่ยาวนานถึง 60 ปี
ซุนเฮ่า เป็นหลานของซุนเฉวียน 孙权 (ซุนกวน) เป็นฮ่องเต้ลาดับ

ที่สี่และล�าดับสุดท้าย แล้วก็เหมือนฮ่องเต้ไม่เอาไหนหลายๆ พระองค์ก่อน


26



หน้า คือเร่มต้นทาท่าจะดี มีการลดหย่อนภาษีช่วยทวยราษฎร์ กากับควบคุม

ขุนนางให้ใส่ใจราชการงานเมือง และปลดปล่อยบรรดาสาวสวรรค์กานัล

ในมากมายจากวังไปออกเรือน
แต่ไม่นานซุนเฮ่าก็ออกลาย กลายเป็นฮ่องเต้ท่โหดร้าย ไม่เช่อฟังคา



ทัดทานของตงฉิน ลุ่มหลงในสุรานารี สุดท้ายก็ไม่สนใจราชการงานเมือง


เอาแต่เสวยสุข ว่ากันว่าทรงออกคาส่งให้บรรดาบุตรีขุนนางผู้ใหญ่ห้ามออก
เรือน จนกว่าน�ามาให้พระองค์คัดเลือกเข้าเป็นสนม
พฤติกรรมของซุนเฮ่านับวันมีแต่วิปริตขึ้นเรื่อยๆ ทรงชื่นชอบดูการ










ทรมานคน โดยการควกลกตา ลอกผวหนงใบหน้า มหนาซายงบังคบให้
ขุนนางทั้งหลายมาร่วมดื่มกินดูการทรมานอันโหดร้ายนี้ด้วย
เฮ่อเส้า 贺邵 ขุนนางผู้ใหญ่เกิดล้มป่วยด้วยอาการเส้นโลหิตใน
สมองแตก ท�าให้ไม่สามารถพูดหรือทางานได้ แต่ซุนเฮ่าไม่เช่อคิดว่าเฮ่อเส้า


ป่วยการเมืองด้วยไม่อยากทางานให้เขา ซุนเฮ่าจึงจับตัวเฮ่อเส้ามาแล้วให้


โบยตีนับพันคร้ง เฮ่อเส้าคิดจะร้องขอชีวิตก็ร้องไม่ออก สุดท้ายก็ตายคา
ไม้พลอง ตระกูลเฮ่อทั้งตระกูลหนีราชภัยไปจนสิ้น


นับวัน ซุนเฮ่าก็ย่งไม่ฟังใครแต่กลับไปเช่อในเร่องเหนือธรรมชาติและ

คาทานายท่ว่าเขาจะย่งใหญ่และมีชัยเหนือราชวงศ์จ้นของซือหม่าเหยียน





司马炎 หรือสุมาเอี๋ยน ซึ่งสุดท้ายกลับกลายเป็นตรงข้าม เขาพ่ายแพ้



และถูกจับไปเป็นตัวประกันท่ล่วหยาง รัฐอู๋ล่มสลาย แผ่นดินทแบ่งเป็นสาม

ก๊กก็กลับมาเป็นหนึ่งอีกครั้งภายใต้ราชวงศ์จิ้นของสกุลซือหม่า



27

อันดับที่ 4

ซ่งฮุ่ยจง 宋徽宗 แห่งราชวงศ์ซ่งเหนือ


ซ่งฮุ่ยจง พระนามเดิม จ้าวจี๋ 赵佶 ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้เมื่อ
พระชนมายุ 18 พรรษา ถ้าเป็นสามัญชนก็คงได้เป็นศิลปินระดับโลก แต่



เม่อมีตาแหน่งฮ่องเต้แบกอยู่บนบ่า ฝีแปรงพู่กันใดๆ ก็ไม่อาจช่วยบริหาร
ประเทศได้
ซ่งฮุ่ยจงน้นชมชอบชีวิตฟุ้งเฟ้อหรูหรา รักในความงามวิจิตรของภาพ

เขียน ศิลปะ และบทกวี ผลงานทางศิลปะของซ่งฮุ่ยจงยังหลงเหลือเป็น

สมบัติของโลกมาจนทุกวันนี้ แต่ผลงานทางปกครองของพระองค์ถือว่าล้ม
เหลวโดยสิ้นเชิง ทรงปล่อยให้การบริหารแผ่นดินตกอยู่ในมือขุนนางกังฉิน

โดยไม่ใส่ใจ เอาแต่สร้างงานศิลปะ พร้อมๆ ไปกับการเสพสุขกับยอดคณิกา
หลี่ซือซือ 李师师

ในปี 1126 กองทัพต้าจิน ของชนเผ่าหน่ว์เจิน ยกทัพประชิดเปี้ยนจิง




(ไคเฟิง) แทนท่ฮยจงจะบญชาการปกป้องแผ่นดินต้าซง กลับสละราชบลลังก ์



ให้ จ้าวหวน 赵桓 พระโอรสขึ้นเป็นฮ่องเต้ ซ่งชินจง 宋钦宗 เพื่อ
รับเผือกร้อนไปแทน


แต่ในทสุด ซ่งเหนือก็ตกเป็นของต้าจน ซ่งฮุ่ยจงพร้อมซ่งชินจง

ราชนิกุลและขุนนางน้อยใหญ่นับพันถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยศึกในดิน
แดนต้าจิน ถูกเยาะเย้ยเหยียดหยาม และทรมานต่างๆนานา ฮ่องเต้ต้าจิน
ถึงกับต้งยศล้อซ่งฮุ่ยจงให้เป็นท่ 昏德公 (พระยาผู้มีความเลอะเทอะ


เป็นคุณธรรม)
สุดท้าย ในปี 1135 ฮ่องเต้นักรักอัครศิลปิน ก็ตรอมใจตายท่ามกลาง

ความหนาวเหน็บของเมืองเฮยหลงเจียง พระชนมายุได้ 54 พรรษา



28

อันดับที่ 3

หมิงซีจง 明熹宗 แห่งราชวงศ์หมิง


ในขณะท่ซ่งฮุ่ยจงจมอยู่กับการวาดรูป เขียนอักษร หมิงซีจงก็ง่วน

อยู่กับการเป็นช่างไม้!



หมิงซีจง จูโหยวเส้ยว 朱由校 เป็นฮ่องเต้ลาดับท่ 15 ใน

ราชวงศ์หมิง ขึ้นครองราชย์เมื่อชนมายุ 16 พรรษา อยู่ในบัลลังก์ 7 ปี แต่


เป็นเจ็ดปีท่เปล่าประโยชน์ เพราะทรงโปรดแต่งานช่างไม้ สร้างเคร่องเรือน
แต่ไม่สร้างบ้านแปงเมือง ท้งเร่องของแผ่นดินไว้กับ 2 บุคคลท่มีอิทธิพล



ครอบง�าเขาเป็นอย่างมากหนึ่งคือ เค่อสื่อ 客氏 ที่เป็นพระนม (แม่นม)
ของหมิงซีจง สองคือ เว่ยจงเสียน 魏忠贤 ขันทีจอมโฉด






ท้งคู่น้นมีความสัมพันธ์กันลบๆ และเม่อร่วมมือกัน กมีอานาจล้นฟ้า

มหาขันทีเว่ยจงเสียนน้นถึงกับถูกเรียกขานเป็น “เก้าพันปีหลวง 九千岁”



(ฮ่องเต้ถูกเรียกว่า พระหมนปี ดังนนเก้าพันปีจึงมีนัยยะว่าเป็นรองแค่ฮ่องเต้)



หมิงซีจง ปล่อยปละละเลยเร่องราชการงานเมือง ปล่อยให้เป็นเร่อง
ของเว่ยจงเสียน เว่ยจงเสียนก็ย่งเหลิงอานาจ กาจัดบรรดากลุ่มขุนนาง



ตงฉินท่เป็นเส้ยนหนามออกไปให้พ้นทางด้วยการฆ่า และขังคุกมากมาย


ท�าเอาแผ่นดินแทบไม่เหลือคนดีมีฝีมือไว้ท�างาน

แผ่นดินต้าหมิงในรัชสมัยของหมิงซีจงจึงอ่อนแอลงเร่อยๆ เดชะ
บุญท่หมิงซีจงสวรรคตกะทันหัน เพราะอุบัติเหตุตกจากเรือจมนาจนป่วย



ไข้ แม้จะรักษาด้วยยาอายุวัฒนะก็ไร้ผล สวรรคตทพระราชวังเฉียนชิง


乾清宫 ด้วยพระชนมายุเพียง 23 พรรษา

แต่น่อาจจะสายเกินไปแล้ว เพราะแผ่นดินต้าหมิงอยู่ต่อมาได้อีก
ไม่กี่ปีก็สิ้นสูญ
29

อันดับที่ 2

เฉินโฮ่วจู่ 陈后主 แห่งราชวงศ์เฉิน




เฉนโฮ่วจ พระนามเดม เฉินซูเป่า 陈叔宝 ฮองเตองคสดทายของ







ราชวงศ์เฉิน แห่งยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ เฉินซูเป่าขึ้นครองราชย์ในท่ามกลาง

ความขัดแย้งเป็น-ตาย ในวันท่ฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต เฉินซูเป่าท่เป็น

องค์ชายรัชทายาทคุกเข่าร้องไห้อยู่ต่อหน้าพระศพ องค์ชายรองเฉินซูหลิง

陈叔陵 ชักมีดออกมาจ้วงแทงท่ลาคอของเฉินซูเป่าหมายชิงบัลลังก์



เฉินซูเป่ารอดชีวิตจากการลอบสังหารท่อุกอาจคร้งน้นได้ แล้วก็ได้ข้น


ครองราชย์

น่าเสียดาย เขากลับไม่ได้เป็นฮ่องเต้ท่ดี เพราะเฉินซูเป่าเอาแต่จัด
งานเลี้ยง ร่ายบทกวี ขุนนางที่มีความสามารถเชิงกาพย์กลอน แม้จะด้อย
ความสามารถทางการงาน กลับได้ดีมีอ�านาจ ขุนนางที่มีความสามารถแต่
ไม่เก่งกาพย์กลอน ก็ไม่ทรงโปรดและกีดกันออกจากแวดวงอานาจ บ้างก ็

ถูกเนรเทศไปแดนไกล รอบกายเฉินซูเป่าจึงมีแต่คนไม่เอาไหน
เฉินซูเป่ายังลุ่มหลงพระสนมจาง ว่ากันว่าเวลาทอดพระเนตรฎีกา
ต่างๆ จะมีพระสนมจางนั่งอยู่บนตัก และเป็นพระสนมจางนี่เองที่ให้ความ

เห็นเรื่องต่างๆ ของบ้านเมือง หาใช่ตัวเฉินซูเป่าไม่


เฉินซูเป่าใช้งบประมาณแผ่นดินไปสร้างพระตาหนักท่หรูหราข้น

มาใหม่ 3 หลังเพื่อใช้อยู่กิน เสพสุขส�าราญกับพระสนมและขุนนางคู่ใจทั้ง
วันท้งคืน ความสุรุ่ยสุร่ายของเฉินซูเป่า ทาให้ต้องขูดรีดภาษีจากไพร่ฟ้า


ประชาราษฎร์อย่างหนัก จนเดือดร้อนไปทั่ว

สุดท้าย ราชวงศ์สุยก็ได้ชัยเหนือราชวงศ์เฉิน วันท่แม่ทัพราชวงศ์
สุยบุกเข้าวัง



30

เฉินซูเป่าและพระสนมจางกับขุนนางคู่ใจ หนีไปแอบซ่อนอยู่ในบ่อนา


แต่ก็ไม่พ้นถูกจับได้ เฉินซูเป่าตัวสั่นงันงก ลงทุนคุกเข่าร้องขอชีวิต ไม่เหลือ
สภาพความเป็นฮ่องเต้ เพราะหลบหนีไปซ่อนตัวก้นบ่อ ต่อมาผู้คนจึงเยาะ

เย้ยเฉินซูเป่าว่าเป็น “ฮ่องเต้ก้นบ่อ 井底皇帝”
เฉินซูเป่าและพวกถูกพาตัวกลับไปควบคุมไว้ท่เมืองหลวง ราชวงศ์สุย

แม้จะเป็นเชลยศึก แต่เฉินซูเป่าก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เฉินซูเป่ายังคง
ผ่านคืนวันด้วยกวีและสุราจนกระทั่งลาโลกไปด้วยพระชนมายุ 52 พรรษา




อันดับที่ 1

ซ่งเฉียนเฟ่ยตี้ 宋前废帝 แห่งราชวงศ์หลิวซ่ง





ซ่งเฉียนเฟ่ยต้ พระนามเดิม หลิวจ่อเย่ 刘子业 ข้นครองบัลลังก์
ราชวงศ์หลิวซ่ง 刘宋 ต้งแต่วัยรุ่น เพียง 15 พระชันษา ช่อราชวงศ์หลิวซ่ง



เป็นคนละราชวงศ์กับราชวงศ์ซ่งหรือซ้องท่ไทยเราคุ้นเคยกัน ราชวงศ์
หลิวซ่งเป็นหนึ่งในราชวงศ์เล็กๆ จากยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ ราชวงศ์หลิวซ่ง
เรืองอ�านาจอยู่ในราว ค.ศ. 420 - 479


ซ่งเฉียนเฟ่ยต้ หรือ หลิวจ่อเย่ เป็นฮ่องเต้อยู่บนบัลลังก์ได้เพียงปี
เศษๆ แต่เป็นช่วงเวลาปีเศษๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดจะฉาวโฉด



ขณะดารงพระยศเป็นไท่จ่อองค์รัชทายาท เขาทาความผิด ก่อปัญหา





อย่บ่อยครง ไม่เป็นทโปรดของฮ่องเต้ผ้พ่อ จนหวดๆ จะถกถอดออกจาก




การเป็นองค์ชายรัชทายาท แต่ในท่สุด หลิวจ่อเย่ก็ข้นสู่การเป็นฮ่องเต้จนได้



เพราะพระราชบิดาสวรรคตลง ว่ากันว่าขณะหลิวจ่อรับตราหยกเพ่อข้นเป็น



ฮ่องเต้องค์ใหม่ เขามีท่าทีหย่งผยอง ไร้อาการเศร้าโศกเสียใจกับการจากไป
ของฮ่องเต้องค์ก่อนแต่อย่างไร
31

หลิวจื่อเย่นั้นไม่พอใจพระราชบิดาของตัวเองมาโดยตลอด เมื่อเขา

ได้ขึ้นครองราชย์ เขาสั่งให้กฎหมายต่างๆ ที่พระราชบิดาของเขาเคยแก้ไข
ถือเป็นโมฆะ ให้กลับไปใช้กฎหมายก่อนหน้านั้น


มีอยู่คราวหน่ง เม่อหลิวจ่อเย่เข้าไปทอดพระเนตรภาพของฮ่องเต้


ผู้เป็นพระราชบิดาในศาลบรรพชน เขากล่าวกับเหล่าขุนนางว่า
“ฮ่องเต้องค์น้ต้องจมูกบวมฉุเพราะพิษเหล้าสิ ไหนล่ะ จมูกบวมๆ”

แล้วหลิวจื่อเย่ก็ทรงสั่งให้รื้อภาพนั้นเพื่อเติมจมูกอัปลักษณ์ลงไป!

หลิวจื่อเย่นั้น แม้จะมีพระชนมายุเพียง 15 พรรษา แต่ทั้งโหดร้าย
และวิปริตเกินวัย ทันทีท่ข้นครองราชย์ เขาก็ส่งประหารขุนนางช้นผู้ใหญ่




ทันที และด้วยความกลัวจะถูกปลงพระชนม์ แย่งชิงราชบัลลังก์ เขาสั่งขัง
และสั่งฆ่าบรรดาพระญาติและพี่น้องไปมากมาย


ในด้านความวิปริตน้น หลิวจ่อเย่บังคับเอาเจ้าหญิง หลิวอิงเม่ย 刘
英媚 ที่มีศักดิ์เป็นป้ามาเป็นของตน แล้วให้ฆ่าสามีของนางเสีย ว่ากันว่า

หลิวจ่อเย่ยังมีสัมพันธ์สวาทกับ หลิวฉู่อว 刘楚玉 น้องสาวแท้ๆ ของตัว


เอง องค์หญิงหลิวฉู่อวี้ผู้นี้ก็ใช่ย่อย นางเคยตัดพ้อกับหลิวจื่อเย่ว่า

“陛下后宫美女数以万计,

而我只有驸马一人。事情不公平”
“ฝ่าบาทมีหญิงงามในวังหลวงนับพัน ตัวข้ามีฟู่หม่า (ราชบุตรเขย)

เพียง 1 เดียว
ช่างไม่ยุติธรรมเลย”



ผลก็คือ หลิวจ่อเย่คัดสรรชายหนุ่มรูปงาม 30 คนส่งเข้าไปปรนเปรอ

สวาทให้กับนางได้สมใจ


32


Click to View FlipBook Version