ฟรอยด์: บิดาแห่งจิตวิเคราะห์
FREUD: THE MAN, THE SCIENTIST, AND THE BIRTH OF PSYCHOANALYSIS
รูธ เชพพาร์ด: เขียน
พฤฒิ กาฬสุวรรณ: แปล
ราคา 265 บาท
ALL RIGHTS RESERVED.
Text and Design © Carlton Books Ltd 2012, 2019
Thai translation right © 2020 by Gypsy Publishing Co., Ltd.
© ข้อความและรูปภาพในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
เชพพาร์ด, รูธ.
ฟรอยด์: บิดาแห่งจิตวิเคราะห์ = Freud: the man, the scientist, and the birth of psychoanalysis.
--กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2563.
176 หน้า.-- (บุคคลสำาคัญ).
1. ฟรอยด์, ซิกมุนด์, ค.ศ. 1856-1939. I. พฤฒิ กาฬสุวรรณ, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
150.1952092
ISBN 978-616-301-726-0
บรรณาธิการอำานวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน์
บรรณาธิการเล่ม : จารุวรรณ นพรัมภา
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา นันทนา วุฒิ
หัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษร : สวภัทร เพ็ชรรัตน์
ฝ่ายพิสูจน์อักษร : วนัชพร เขียวชอุ่ม สุธารัตน์ วรรณถาวร
รูปเล่ม : Evolution Art
ออกแบบปก : Wrong Design
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
จัดพิมพ์โดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ต่อ 108
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำาหน่าย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด โทร. 0 2728 0939
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID: @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939
ฟรอยด์
บิดาแห่งจิตวิเคราะห์
ู
รธ เชพพาร์ด: เขียน
พฤฒิ กาฬสุวรรณ: แปล
คำานำาสำานักพิมพ์
ผู้ชายที่มีชื่อเสียงเกือบทุกคนน่าผิดหวัง หรือน่าเบื่อหน่าย
หรือเป็นทั้งสองอย่าง ฟรอยด์ไม่เป็นแบบนั้นเลย เขามีรัศมี
เปล่งออกมา ไม่ใช่ด้วยชื่อเสียง แต่ด้วยความยิ่งใหญ่
ความระลึกถึงฟรอยด์ โดยเวอร์จิเนีย วล์ฟ
ู
ื
ั
ชีวิตของซิกมุนด์ ฟรอยด์เต็มไปด้วยเร่องราว ฟรอยด์กับความเจ็บป่วยอันยาวนานท้งทาง
ี
เหตุการณ์ และรายละเอียดต่างๆ มากมาย จาก ร่างกายและจิตใจ จากแพทย์ผู้ทาหน้าท่รักษาคนไข้
�
วัยเยาว์จนกระท่งวาระสุดท้ายของชีวิต นอกจาก กลับต้องกลายเป็นผู้ป่วยเสียเอง
ั
ี
ี
�
ี
ั
หนังสือเล่มน้จะทาให้ได้รู้จักกับฟรอยด์ในฐานะแพทย์ ฟรอยด์กับการเป็นยิวท่ต้องล้ภัยช่วงบ่นปลาย
ี
นักวิทยาศาสตร์ ผู้คิดค้นทฤษฎีจิตวิเคราะห์ท่เป็น ของชีวิต จากออสเตรียเมืองท่เขาเกิดและเติบโต
ี
ี
ท่ยอมรับในระดับสากล และเป็นท่รู้จักในแวดวง มากว่าค่อนชีวิตสู่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในช่วง
ี
จิตวิทยาแล้ว หนังสือเล่มน้ยังทาให้ได้รู้จักฟรอยด์ สงครามจากกล่มต่อต้านและกวาดล้างชาวยวของ
ี
ุ
ิ
�
ี
ในฐานะบุตรชายคนโตผู้เป็นท่รักของครอบครัว นาซี
ึ
ี
ี
สามีของผู้หญิงท่ตนรัก และผู้ชายซ่งเป็นหัวหน้า หนังสือเล่มน้ฉายภาพของฟรอยด์ เสมือน
ครอบครัว ผู้อ่านได้เดินทางเติบโตไปพร้อมๆ กับแต่ละช่วงชีวิต
ฟรอยด์ในวัยเด็กเกิดมาพร้อมกับสถานะอา ของฟรอยด์ ได้ร่วมติดตาม ร่วมรู้สึกไปกับเหตุการณ์
ซึ่งมีหลานอายุไล่เลี่ยกันเป็นเพื่อนเล่น ต่างๆ ท่เกิดข้น และได้ร่วมยินดีไปกับความสาเร็จและ
ี
�
ึ
ั
ั
ื
ฟรอยด์ในวัยหนุ่มเติบโตมาพร้อมกับความ การได้รบการยอมรับ ท้งในด้านผลงานและช่อเสียง
คาดหวังของตัวเขาเองและครอบครัวถึงความก้าวหน้า จะเห็นได้ว่าตลอดชีวิตของฟรอยด์ ฟรอยด์ขยันและ
และความส�าเร็จในอนาคต ทางานหนักเสมอมาแม้ว่าจะพบเจอกับอปสรรคและ
ุ
�
ฟรอยด์กับความรักท่ต้องห่างไกลกับคู่หม้น ความขัดแย้งมากมาย จึงไม่แปลกเลยท่ในท้ายท่สุด
ี
ี
ี
ั
เขาเขียนจดหมายกว่า 900 ฉบับหาคนรัก และรอ ผลงานของเขาจะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
คอยถึง 4 ปีก่อนที่จะได้แต่งงานและเริ่มต้นชีวิตคู่ และเป็นที่จดจ�ามาจนถึงทุกวันนี้
ฟรอยด์กับบทบาทการเป็นแพทย์ นักวิทยา
ึ
�
ศาสตร์ และนักวิจัย ผู้ซ่งอยากประสบความสาเร็จ
ิ
เขาต้องเผชญกับอุปสรรคและความขัดแย้งมากมาย ส�ำนักพิมพ์ยิปซี
ทางความคิดท่ส่งผลให้มิตรภาพระหว่างเขากับคน สิงหำคม 2563
ี
ที่เขาเคารพรักต้องจบลง
คำานำาผู้แปล
ื
�
ี
วประวัติของผู้คนเป็นราวกับนวนิยายเร่อง ก่อกาเนิดสมาคมนักจิตวิเคราะห์ท่เป็นแหล่งรวม
ื
ชี หน่งท่ประกอบด้วยรสชาติท่หลากหลายตาม และเพาะบ่มเหล่าบุคลากรรุ่นหลังท่มีช่อเสียงและ
ี
ี
ึ
ี
�
ุ
ี
แต่บุคคลไป ฟรอยด์ ผู้นับเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย ทาคณประโยชน์ต่อโลกอกมากมาย ในด้านผลงาน
ี
ผู้เป็นไอคอนของจิตวิทยา เฉกเช่นไอน์สไตน์ส�าหรับ วิชาการได้ฝากงานทรงคุณค่าท่มีผลกระทบต่อชีวิต
ิ
ู
ฟิสิกส์ และชาร์ลส์ ดาร์วินส�าหรับทฤษฎีวิวัฒนาการ ผ้คน โดยต่อมาผ่านการพสจน์ทดลองเชงประจักษ์
ู
ิ
ี
่
ได้ถูกนาเสนอโดยรูธ เชพพาร์ดด้วยสาบัดสานวนท ตามครรลองขององค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แม้ยัง
�
�
�
กระชับและน่าติดตาม พร้อมภาพประกอบ หลักฐาน มีหลากหลายแนวคิดโดยเฉพาะในระดับปลีกย่อย
ื
ร่วมสมัย อาทิ เอกสารและจดหมายส�าคัญๆ ราวกับ ก็ได้ถูกแก้ไขปรับปรุงเร่อยมาล้อไปตามความเจริญ
่
ี
ี
ได้พาผู้อ่านไปนั่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์บ้านเลขท 19 ถนน ก้าวหน้าของเทคโนโลยีท่ขยายศักยภาพในการตรวจ
ึ
ี
ิ
ิ
ั
�
แบร์กกัซเซอ กรุงเวียนนา บ้านท่เป็นจุดเร่มต้นของ สอบความถูกต้องน้นได้แม่นยาชัดเจนย่งข้น กาลเวลา
้
�
ี
�
ตานานมากมายของฟรอยด์และได้พักอาศัยอยู่กว่า และเทคโนโลยีอีกเช่นกันท่ได้ตอกยามโนทัศน์ที่ปราด
ี
�
้
ื
�
ค่อนชีวิต ฟรอยด์ยืนอยู่ในตาแหน่งท่สูงส่งในทาง เปร่องลายุคสมัยของฟรอยด์ ในด้านของชีวิตส่วนตัว
ภูมิปัญญาในสายตาอนุชนรุ่นหลังและเป็นแสงสว่าง น้น ตามท่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่าแม้นฟรอยด์จะ
ี
ั
ึ
ผู้ช้ทางสู่การเข้าถึงจิตอันยากแท้หย่งถึงของมนุษย์ เป็นหน่งในบุคคลท่ปราดเปร่องท่สุดคนหน่งในรอบ
ึ
ี
ี
ื
ี
ั
อย่างไรเสีย น่นก็เป็นภาพลักษณ์หนึ่งท่ผู้คนได้ให้ สหัสวรรษ แต่เราจะได้เห็นถึงส่วนความเป็นมนุษย์
ี
ั
ี
คุณค่าแก่ฟรอยด์ในภายหลังช่วงเวลาแห่งชีวิตของ มีรักใคร่ หึงหวง ชิงชัง เย่ยงมนุษย์สามัญท่วไป หลาย
ั
ี
ึ
ฟรอยด์ท่ได้ล่วงพ้นไปนานแล้ว ฟรอยด์เป็นเพียง โอกาสท่ผลงานท่ฟรอยด์ได้ทุ่มเทสรรค์สร้างข้นมา
ี
ี
ี
บุรุษผู้ย่งใหญ่ก็จริง แต่ก็หาใช่เทพเจ้าท่มิอาจผิด ไม่เป็นท่ยอมรับ ส่งผลร้ายแรงถึงขนาดกีดกันออกจาก
ี
ิ
พล้ง ปราดเปร่องและทรงพลานุภาพไปในทุกบทบาท วงวิชาการ หรือด้วยความคิดเห็นต่อแนวคิดท่แตก
ี
ั
ื
ฟรอยด์มีชีวิตอยู่ในยุคท่การเมืองการปกครองมีความ ต่างนามาสู่การพังทลายของมิตรภาพระหว่างบุคคล
ี
�
ี
ผันผวนในยุโรปกลาง เขาเจริญเติบโตในหน้าท่การ เร่องราวเหล่าน้ช่วยตกแต่งละครชีวิตของฟรอยด์ให้
ี
ื
งานและภูมิปัญญาร่วมสมัยกับยุคทองของจักรวรรด ดูมีสีสันข้น ท้งยังเห็นบริบทของการนาพาสัจธรรม
ิ
ึ
ั
�
ออสเตรีย-ฮังการีท่มีนครเวียนนาเป็นศูนย์กลางแห่ง ทางวิทยาศาสตร์แหวกผ่านหมอกม่านแห่งทัศนคต ิ
ี
ึ
วิทยาการแห่งหน่งของยุโรปในห้วงเวลาน้น ก่อกาเนิด และความขัดแย้ง สถาปนาตัวตนเป็นทฤษฎีหลักของ
�
ั
และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนมากมายท้งในด้าน วงการในปัจจุบัน
ั
ึ
ศาสตร์และศิลปะ (ไม่เว้นแม้แต่ฮิตเลอร์ในวัยหนุ่ม โดยส่วนตัวผู้แปลซ่งมีภูมิหลังเป็นนักฟิสิกส์
ผู้เคยใฝ่ฝันท่จะได้เป็นจิตรกรใหญ่แห่งกรุงเวียนนา) รู้จักฟรอยด์ผ่านการกล่าวถึงในหลากหลายส่อของ
ื
ี
ี
่
ิ
ฟรอยด์ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากสภาพแวดล้อมท วัฒนธรรมกระแสหลัก แต่ก็เร่มเคยได้อ่านชีวประวัต ิ
รุ่มรวยอารยธรรมของเมืองน ในทางหน่งยังเป็นผู้ และผลงานของฟรอยด์จริงๆ เม่อสนใจอ่านหนังสือ
้
ื
ึ
ี
ื
ื
จุดไฟแห่งความต่นตัวในวิทยาการด้านจิตวิเคราะห์ เก่ยวกับจิตวิทยาหลังจากประทับใจในเร่องราวปราด
ี
้
ื
�
ี
ึ
เปร่องลาลึกในภาพยนตร์สยองขวัญ The Silence อีกด้วยความมุ่งหมายหน่งของฟรอยด์ท่ไม่ได้สร้าง
of the Lambs ทั้งนี้ชีวประวัติซิกมุนด์ ฟรอยด์ก่อน วิชาการด้านจิตวิเคราะห์เพ่อใช้งานแค่เพียงในกลุ่ม
ื
หน้าน้นับว่าแทบจะหาได้ยากที่จะมีภาพประกอบ ผู้ป่วยจิตเวชเท่าน้น ยังต้องการสร้างข้นมาเพื่อให้
ั
ี
ึ
ุ
ุ
�
มากมายราวก�าลังนั่งดูสารคดี ทั้งยังอ่านง่าย แม้อาจ ทกผู้ทกคนสามารถนามาใช้ประโยชน์ในการเข้าใจ
ื
ี
จะหลีกเล่ยงไม่ได้ท่จะต้องใช้ศัพท์เฉพาะทางการ ตนเองและผู้อ่นในระดับจิตใจอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ี
แพทย์บ้าง แต่ก็ได้อธิบายออกมาให้บุคคลท่วไป
ั
พอเข้าใจได้ ผู้แปลจึงหวังในประโยชน์แก่ผู้อ่าน ท้ง ั พฤฒิ กำฬสุวรรณ
ในด้านเปิดโลกทัศน์ด้านจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์
การแพทย์ และในด้านความบันเทิงไปพร้อมๆ กัน
สารบัญ
บทน�า 13
ุ
1. โลกก่อนยคสมัยของฟรอยด์ 14
2. วัยเด็กของฟรอยด์ 20
3. เข้าโรงเรียนแพทย์ 30
4. ฟรอยด์ ณ ปารีส 36
5. โคเคน 42
ี
6. ชวิตแต่งงานและครอบครัว 48
่
7. จดเริมต้นของจิตวิเคราะห์ 56
ุ
8. การวิเคราะห์ความฝน 64
ั
9. ความเก็บกดของจิตไร้ส�านึก 76
่
่
10. ทฤษฎีเกียวกับเรืองเพศของฟรอยด์ 82
่
็
่
11. เมือหมอต้องมาเปนผ้ปวย 88
ู
12. ชวงเวลาสงคราม 98
่
13. การจากไปของลูกสาว 110
ู
14. อีโก้ ซเปอร์อีโก้ และอิด 120
ี
15. แรงขับแห่งชวิตและความตาย 128
ี
16. หนีภัยนาซ 134
17. การลี้ภัยในลอนดอน 146
18. ฟรอยด์และศาสนา 154
่
19. ความเจ็บปวยและการได้รับความชวยเหลือให้กระท�าอัตวินิบาตกรรม 162
่
่ ่
20. สิงทีฟรอยด์ได้ทิ้งไว้ให้ 170
่
เกียวกับการแปล 176
คำานำาฉบับภาษาอังกฤษ
ี
ื
ี
นังสือเล่มน้มีเอกลักษณ์ตรงท่ได้เขียนให้ ปัญหาสุขภาพ การเงิน และความสัมพันธ์กับเพ่อนฝูง
ห รู้สึกราวกับว่ากาลังยืนอยู่ในห้องท�างานหรือ ผู้ซึ่งเติบโตข้นมาด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า
�
ึ
ี
ี
ห้องตรวจของฟรอยด์เหมือนอย่างท่เป็นในปี 1939 ท่จะค้นพบ ‘ความลับแห่งจิตใจ’ และผู้เหลือไว้แต่
เมื่อฟรอยด์จากไป บนชั้นหนังสือเต็มไปด้วยหนังสือ เพียงมรดกท่สืบเนื่องมาถึงยุคปัจจุบัน โครงสร้างของ
ี
ี
ิ
ท่ฟรอยด์อ่านไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ หนงสือประกอบด้วยเร่องราวในหลายมติและหลาย
ั
ื
ื
วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ โบราณคดี และจิตวิทยา ระดับ เน้อหาหลักๆ มีภาพและคาอธิบายประกอบ
�
โบราณวัตถุท่ฟรอยด์รักต้งวางอยู่ในตู้กระจกและ ซ่งจะให้ข้อมูลในหลากหลายระดับ ท้งประวัติโดย
ี
ั
ั
ึ
ั
่
ี
�
ื
ี
่
ิ
ิ
่
ทุกพ้นท ไม่เพียงแสดงถึงนัยสาคัญของ ‘อดีตกาล’ ท ย่อของ ‘ตวละครสาคญ’ (นกจตวทยา เพอนร่วมงาน
ื
ั
�
ั
ั
ปรากฏในงานของเขาเท่าน้น แต่ยังยืนยันความสนใจ คนไข้ เพื่อนฝูง) จะถูกน�าเสนอใน ‘กล่องข้อความ’
ี
่
ในด้านศิลปวัฒนธรรมอีกด้วย ภาพของบุคคลท่เขา แยกออกมา หรือสาเนาเอกสารสาคญๆ ทเก็บไว้อย่าง
ั
�
ี
�
ั
ิ
ื
ี
รักถูกแขวนไว้บนผนังและช้นวาง เป็นภาพของอดีต เฉพาะเจาะจงเพ่อให้ดึงออกมาดูได้ ส่งที่น่าสนใจท่สุด
�
ั
่
ื
ครและเพอนร่วมงาน อีกท้งหญิงผู้ร่วมทางเดินชีวิต เห็นจะเป็นลายมือของฟรอยด์ในบทความสาหรับ
ู
กับเขา เรียงรายไปตามผนังยังมีโซฟายาวที่คนไข้นับ วิทยุบีบีซี (BBC) ในปี 1938 ซึ่งฟรอยด์ได้สรุปรวม
ิ
ื
�
ร้อยเคยได้เล่าเร่องราว ความฝัน และความทรงจา ชีวตและผลงานของตนไว้ใน 120 คา ในฐานะงาน
�
ี
ี
ี
่
ี
ิ
นับพันภายใต้ระเบียบวิธี free association หนังสือ เขยนทกระชับเพยงพอท่ชาวทวตเตอร์ในยคสมัยใหม่
ุ
เล่มนี้ ‘ฟรอยด์’ สร้างบรรยากาศผ่านภาพประกอบ เห็นแล้วจะชื่นชม
มากมายและนาไปสู่คาตอบของคาถามส�าคัญของ ฟรอยด์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
�
�
�
ี
�
ผู้ศึกษาชีวประวัติของฟรอยด์ท่ว่า “แล้วฟรอยด์ไป ในไม่ก่ปีท่ผ่านมา การวิจารณ์มักใช้คาว่า ‘ฟรอยด์’
ี
ี
เอาความคิดเหล่านี้มาจากไหน” เพ่อแยกความแตกต่างระหว่าง ‘ตัวบุคคล’ ออก
ื
ึ
ึ
่
ั
ุ
ุ
เพ่อการศึกษาให้ลึกข้นไปอีก ผู้เขียนได้รับ จาก ‘งาน’ ของเขา ข้อวิจารณ์ซงพ่งเป้าไปที่ตวบคคล
ื
ั
ี
สิทธิพิเศษในการเข้าถึงท่เก็บจดหมาย ภาพถ่าย และ เป็นข้อวจารณ์อนเป็นปกตต่อฟรอยด์ แสดงให้เหน
ิ
ิ
็
ั
เอกสารมากมายจากพิพิธภัณฑ์ของฟรอยด์ เอกสาร ว่าแนวคิดของฟรอยด์น้นไม่มีอะไรมากไปกว่าผลจาก
ิ
ื
และรูปถ่ายเหล่าน้เพ่มสีสันให้กับหนังสือ สร้าง ‘บุคลิกภาพทางจิตประสาท’ ด้วยเร่องราวท่เป็นท ่ ี
ี
ี
ี
ชวประวติทเป็น ‘รูปภาพ’ ทาให้เรองราวของฟรอยด์ นิยมและอ่านง่าย หนังสือเล่มนี้จะเปิดรูปลักษณ์ใหม่
ั
�
ี
ื
่
่
กลับมามีชีวิตข้นอีกคร้ง อาจไม่ใช่เร่องแปลกอะไร ของฟรอยด์ต่อหลายๆ คน แสดงให้เห็นถึง ‘ฟรอยด์
ึ
ื
ั
ื
ื
เม่อผู้เขียนแท้จริงแล้วเป็นผู้เขียนส่อบรรยายใน ในฐานะมนุษย์’ ภายใต้บริบทของห้วงเวลา ผลงาน
ิ
นิทรรศการของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาต ภายใต้ ผองเพื่อน ผู้ร่วมงาน และครอบครัวของเขา มีอะไร
บริบทของการเปล่ยนแปลงทางการเมืองในยุโรป มากมายให้ได้ค้นหาและชื่นชม พร้อมภาพประกอบ
ี
การเปล่ยนผ่านสู่ยุคอุตสาหกรรม ความก้าวหน้าด้าน เรื่องราวชีวิตของฟรอยด์
ี
ชีววิทยา การแพทย์ และจิตเวช เราจะได้เห็นฟรอยด์
ิ
ในฐานะนกวิจยทกาลงคดไม่ตกกับวชาชพของตน ไอแวน วอร์ด, ผู้อ�ำนวยกำรด้ำนกำรศึกษำ
ั
ั
�
ี
ิ
ี
ั
่
ในฐานะชายผู้มีความรัก ผู้เคยผิดพลาด (และได้เขียน และแคโรล ไซเกิล ผู้อ�ำนวยกำร
เกี่ยวกับความผิดพลาดเหล่านั้น) ผู้ต้องวิตกกังวลกับ พิพิธภัณฑ์ฟรอยด์, ลอนดอน
บทนำา
ใ นบทสนทนาท่วไปในชีวิตประจาวันของเรา ม โดยไม่จาเพาะแต่ผู้ป่วยทางจิต ต่อมาฟรอยด์ได้รับ
�
�
ั
ี
ึ
ื
ี
ึ
ี
หลายคราด้วยกันท่ศัพท์แสงท่บัญญัติข้นโดย การยกย่องให้เป็นหน่งในปัญญาชนผู้ปราดเปร่อง
ซิกมุนด์ ฟรอยด์ นักจิตวิเคราะห์ชาวออสเตรียยังถูก ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยงานของเขามี
ั
นามาใช้ประกอบบทสนทนา ไม่ว่าจะเป็นในสานวน มากมายนับต้งแต่งานวิชาการทางวิทยาศาสตร์และ
�
�
ี
ภาษาอังกฤษมีประโยค อาท “น่นคือฟรอยเดียน ประสาทวิทยาในวัยหนุ่ม หรือหนังสือส่วนใหญ่ท่ว่า
ิ
ั
ั
สลิปหรือเปล่า” (Freudian slip-การพล้งปาก ด้วยจิตวิเคราะห์ ครอบคลุมไปถึงงานเขียนเชิงศาสนา
1
เน่องจากความปรารถนาภายใน) หรือ “คุณกาลัง สังคม ศิลปะ และวัฒนธรรม
ื
�
ี
2
เก็บกดอารมณ์ของคุณอยู่” หรือ “ตาน่อีโก้สูง ซิกมุนด์ ฟรอยด์ นักวิทยาศาสตร์ พ่อและ
ี
3
สุดๆ” แม้นอิทธิพลของแนวคิดของฟรอยด์ได้ส่ง สาม ผู้บุกเบิกศาสตร์แห่งจิตวิเคราะห์ ผู้สร้างและ
่
ั
ั
ผลกระจายไปทวท้งวัฒนธรรมและแนวคิดของโลก ผู้น�าของประชาคมโลกในการวิเคราะห์ข้างต้น ย้อน
้
่
็
ี
ั
้
ู
ั
ั
็
ี
์
ิ
ตะวนตก กระนนแลวตวตนของฟรอยดเองกเปนทถก ไปสู่ชีวิตวัยเด็กของฟรอยด์ท่เร่มต้นจากครอบครัวท ่ ี
�
เข้าใจผิดอยู่ราไป เขาถูกนาไปล้อเลียนในลักษณะของ มีโครงสร้างสลับซับซ้อน การเรียนแพทย์ท่ท้ายสุด
่
ี
�
ชายลามกผู้ลุ่มหลงกับเซ็กซ์ มือหน่งถือซิการ์ ข้างๆ ก็นาไปสู่การสร้างงานด้านจิตวิเคราะห์ในหนทาง
ึ
�
มีคนไข้ผู้ดูจะหูเบาและอ่อนแออยู่บนโซฟาให้รักษา ของตัวเอง เราจะไปศึกษาแนวความคิดและทฤษฎ ี
ตลอดกว่าเจ็ดทศวรรษหลังการจากไปของ หลักๆ ของเขา ซึ่งตัวเขาเองได้พัฒนาปรับปรุงอย่าง
�
ั
ฟรอยด์ หลากหลายทฤษฎีของเขาได้ถูกต้งคาถาม ต่อเนื่องจนถึงช่วงบั้นปลายชีวิต แม้นกระทั่งจวบจน
้
ี
ั
้
บางมการปรบเปลยนแกไขตามกาลเวลา บางกตกไป วันสุดท้ายของชีวิตท่ถูกคุกคามด้วยโรคมะเร็ง การ
ี
ี
็
้
่
ี
จวบจนปัจจุบันมีน้อยคนนักท่จะเข้าถึงและต่นตา รวบรวมหลากหลายงานในรูปของทฤษฎีต่างๆ และ
ื
ต่นใจในงานของเขา ในวันน้นของจิตแพทย์หนุ่ม บันทึกเคสการรักษา บ้างก็เป็นจดหมายและบันทึก
ื
ั
เขาเพียงปรารถนาจะสร้างแนวทางการรักษาคนไข้ ประจ�าวัน โดยส่วนหนึ่งหยิบมาจากหลักฐานที่เขียน
�
ิ
ู
ึ
ี
�
ของเขาด้วยวิธีท่ดีขนแม้จะต้องฝ่าฟันคาวิจารณ์ ด้วยลายมือของฟรอยด์ จะนาพาเราใกล้ชดชายผ้น ้ ี
้
อันหนักหน่วงโดยล�าพัง เพื่อออกมาเป็นศาสตร์ใหม่ มากข้น ประกอบกับรูปถ่ายของฟรอยด์ ครอบครัว
ึ
ี
แห่งยุคสมัยในท่สุด หลายคนอาจจะเคยได้ยินได้ฟัง เพื่อนร่วมงาน และลูกศิษย์ลูกหา ก็คงจะช่วยในการ
ี
�
ื
อะไรเก่ยวกับฟรอยด์จากเพียงเร่องของปมอีดิปุส เข้าถึงเบ้องลึกในชีวิตและผลงานแห่ง ‘นักสารวจจิต’
ื
ี
หรือทฤษฎีว่าด้วยเพศอ่นๆ ส่วนใหญ่ของทฤษฎ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ื
�
ี
ี
ยังเป็นท่ถกเถียงอยู่ มีคนจานวนน้อยมากท่เข้าถึง
ผลงานมากมายและกว้างขวางท่ชายผู้ย่งใหญ่ผู้น ้ ี
ี
ิ
ได้สรรค์สร้างกว่าหกทศวรรษ ช่วงทศวรรษ 1890
ี
ฟรอยด์พยายามท่จะสร้างหลักจิตวิทยาแนวใหม่ รูปหน้ำ 11: ฟรอยด์กับโต๊ะท�างานในบ้านพักชั่วคราวที่ถนน
ี
ท่จะสามารถปะติดปะต่อลักษณะทางจิตของผู้คน เอลส์เวิร์ธ ลอนดอน (Elsworth Road)
ี
รูปหน้ำ 12: ฟรอยด์มักจะเขียนงานเก่ยวกับทฤษฎและ
ี
ั
1 “Was that a Freudian slip?” หนังสือใหม่โดยใช้เวลาส้นๆ ตอนกลางดึก หลังจากใช้เวลาท้ง ั
ี
ั
่
2 “you’re repressing your emotions” วันไปกับการวิเคราะห์และจดบันทึกเกยวกบคนไข้และการ
3 “He has such a big ego” ตอบจดหมาย
13
ุ
โลกก่อนยคสมัยของฟรอยด์
ซิ กมุนด์ ฟรอยด์เกิดเม่อวันท 6 พฤษภาคม พบว่าการปฏิวัติหลังสงครามนโปเลียนได้กระจายตัว
ื
ี
่
1856 ท่แคว้นโมราเวีย (Moravia) ช่วงท่อยู่ ทั่วยุโรปอยู่หลายปี
ี
ี
ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออสเตรีย โดยใน ในปี 1848 การปฏิวัติในสมาพันธรัฐเยอรมัน
ช่วงเวลาดังกล่าวมีการเปล่ยนแปลงเกิดข้นมากมาย นามาสู่การรวมรัฐเยอรมัน สมาพันธ์ถูกสลายตัวใน
ี
ึ
�
ิ
ิ
ในปี 1806 จักรวรรดิโรมันอันศักด์สิทธ์ได้ล่มสลาย เวลาอันสั้นและมีการก่อตั้งขึ้นใหม่ในปี 1850 ฉะนั้น
ั
ี
ลงด้วยน�้ามือของนโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon ในช่วงเวลาท่ฟรอยด์เกิด ท้งออสเตรียและปรัสเซีย
ี
Bonaparte; 1769-1821) ด้วยสายพระเนตรของ ต่างก็ก�าลังแก่งแย่งท่จะถือสิทธ์ปกครองแผ่นดิน
ิ
่
จักรพรรดิฟรานซิสท 2 (Francis II; 1768-1835) เยอรมันท้งหมด และผลคือปรัสเซียชนะในสงคราม
ั
ี
ท่ทรงคาดการณ์ไว้ว่านโปเลียนจะเส่อมอานาจลง ออสโตร-ปรัสเซียนซ่งเกดขึ้นในปี 1866 เม่อสมาพนธ์
�
ื
ั
ึ
ิ
ื
ี
�
พระองค์จึงทรงต้งตนเป็นจักรพรรดิผู้ครองออสเตรีย สลายตัวก็ทาให้เกิดสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือข้น
ึ
ั
ั
�
ั
ึ
�
ึ
จักรวรรดิได้ถือกาเนิดข้นท่ามกลางความคุกรุ่นของ และรฐเยอรมนอิสระทางใต้จานวนมาก ซ่งต่อมา
สงครามนโปเลียน และกลายเป็นมหาอานาจของ ภายหลงรฐเหล่านรวมเป็นชาตเยอรมน ในปีต่อมา
ี
ิ
้
ี
ั
�
ั
ยุโรป โดยชาติออสเตรียและปรัสเซียเป็นผู้มีอิทธิพล จักรวรรดิออสเตรียและราชอาณาจักรฮังการีได้
หลักในกลุ่มสมาพันธรัฐเยอรมันซ่งเกิดข้นหลังการ ประกาศอธิปไตยร่วมในนามของออสโตร-ฮังกาเรียน
ึ
ึ
่
ประชุมท่เวียนนาปี 1815 ท่ามกลางความพยายาม และปกครองโดยฟรันซ์ โยเซฟท 1 (Franz Joseph I;
ี
ี
�
ในการถ่วงดุลอานาจในยุโรปของชาติมหาอานาจ 1830-1916)
�
กองทัพปรัสเซียมีชัยเหนือกองทัพออสเตรียในสมรภูมิซาโดวา ตัดสินสงครามออสโตร-ปรัสเซียน ซ่งจะมีการเซ็นสัญญาสงบศึก
ึ
ี
(Battle of Sadowa) หรือท่รู้จักกันในนาม เคอนิชเกรทซ์ ใน 3 สัปดาห์ต่อมา
(Königgrätz) ในเดือนกรกฎาคม 1866 หน่งในเหตุการณ์
ึ
14
การแพทย์เป็นหน่งในศาสตร์ท่พัฒนาเร็วเกิน
ี
ึ
กว่าใครจะคาดคิดในช่วงศตวรรษที่ 19 การจ�าแนก
่
ึ
ิ
ั
และรกษาความป่วยไข้ทางจตเป็นหนงในศาสตร์ท ่ ี
พัฒนาอย่างรวดเร็ว ความสนใจในการศึกษาทางจิต
ั
และพฤติกรรมน้นมีมายาวนาน นับย้อนหลังไปถึงยุค
โบราณมีหลักฐานการรักษาทางจิตเวชต้งแต่ศตวรรษ
ั
ี
่
ท 8 ในสถานพยาบาลของอิสลาม แม้โรงพยาบาล
�
สาหรับผู้ป่วยจิตเวชจะมีมาหลายศตวรรษ แต่การ
�
ดาเนินการอย่างเป็นกิจจะลักษณะในการรักษาผู้ป่วย
ี
ทางจตนนเรมมามมากในศตวรรษท 18 และ 19
ิ
ั
ิ
่
้
ี
่
เท่าน้น เป็นผลมาจากการมีผู้ป่วยทางจิตเพ่มข้น
ั
ึ
ิ
มากมายในช่วงเวลาดังกล่าว ซ่งอาจจะพอคาดได้
ึ
ิ
ว่าเกิดจากหลากหลายสาเหตุ อาท ความกดดันใน
การต่อสู้ต่อต้านรัฐบาลกลางท่แฟรงก์เฟิร์ตในปี 1848 การ ครอบครัว อันเป็นผลจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ี
�
ึ
ปฏิวัติในเดือนมีนาคมท่กรุงเวียนนานามาซ่งการลุกฮือต่อต้าน
ี
ี
ั
ั
ี
ั
ท่วเยอรมน จนกระท่งเดือนพฤษภาคมมีสมัชชาแห่งชาต ิ ประกอบกับสภาพสังคมในขณะน้นท่ไม่เปิดกว้าง
ี
ี
ี
้
�
ี
ั
ี
่
ี
ทแฟรงก์เฟิร์ตข้น นับเป็นคร้งแรกท่มีรัฐสภาท่มาจากการ สาหรับผู้มีพฤติกรรมท่ผิดปกติน และเลือกท่จะ
ึ
เลือกตั้งโดยอิสระจากทั่วเยอรมนี เนรเทศคนเหล่าน้นไปสู่สถานพยาบาลสาหรับผู้ป่วย
�
ั
จิตเวชโดยเฉพาะมากขึ้น
ี
เช่นเดียวกับการเปล่ยนแปลงทางการเมือง การ
ี
ิ
ปฏิวัติอุตสาหกรรมท่เร่มต้นจากสหราชอาณาจักร
่
่
ี
ขยายวงกว้างทวยุโรปในช่วงศตวรรษท 19 ส่งผล
ั
ต่อด้านสังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และวัฒนธรรม
อย่างกว้างขวาง มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลย ี
�
อย่างมโหฬาร ไม่ว่าจะเป็นกาเนิดเคร่องจักรไอนา
�
้
ื
ื
ั
เคร่องจกรกล การพัฒนาถนนหนทาง รางรถไฟ
้
�
และการขนส่งทางนา ล้วนปฏิวัติความเป็นอยู่ของ
ผ้คน แต่กหาใช่ว่าทกผ้ทกคนจะได้ประโยชน์จาก
ู
็
ู
ุ
ุ
การพัฒนาน ในเมืองเล็กๆ ห่างไกลในแคว้นโมราเวีย
ี
้
ครอบครัวของฟรอยด์ประสบปัญหาทางการเงินอย่าง
้
หนัก เป็นผลเน่องจากความเจริญน อีกท้งยังถูก
ี
ื
ั
รังเกียจจากกลุ่มต่อต้านชาวยิวในฐานะเป็นส่วนหน่ง ึ
ของชุมชนชาวยิว การรังเกียจเดียดฉันท์ชาวยิวน ี ้ จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟท 1 แห่งออสเตรีย กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
ี
่
ต่อมาได้สร้างปัญหาไปตลอดชีวิตของฟรอยด์จน กษัตริย์แห่งโครเอเชีย และกษัตริย์แห่งฮังการี (Apostolic
่
ู
ี
่
ี
ั
ั
ี
กระท่งช่วงบ้นปลายท่ต้องหลบล้หนีภัยจากพวกนาซ ี King of Hungary) ทรงปกครองอยกวา 68 ป โดยทรงครองราชย ์
ภายหลังการสละราชสมบัติของพระปิตุลา (ลุง) และการ
ในยามชราและเจ็บป่วย สละสิทธิ์ของพระราชบิดา
15
ี
ี
ิ
่
ั
ั
ี
่
หลายสถานพยาบาลมขนาดใหญ่มากและไม่ ท 19 ทผู้ป่วยทางจตมากมายได้รบการรกษาผ่าน
ว่าท่ใดก็เต็มไปด้วยผู้ป่วยจากปัญหาทางจิต รวมถึง การบ�าบัดจิตใจ แต่ก็ยังเป็นที่โต้แย้งโดยเหล่าแพทย์
ี
ั
ิ
ั
ี
ู
ื
ี
ผ้มปัญหาทางสงคมและเศรษฐกจ ส่วนใหญ่มความ ในช่วงเวลาน้น เน่องจากผู้ป่วยทางจิตล้วนมีปัญหา
ี
ี
สกปรกน่าขยะแขยงและเป็นท่ชวนให้หดหู่ บ้างก็ม ในทางกายภาพประกอบด้วย และการรักษาในทาง
การกักขังหน่วงเหน่ยวผู้ป่วย หรือขนาดนาไปเดิน การแพทย์ยังคงเป็นสิ่งที่จ�าเป็น
�
ี
ี
�
�
พาเหรดออกแสดงให้ฝูงชนชม จวบจนช่วงเปล่ยน คาว่า ‘จตเวช’ (psychiatry) เรมถกนามา
ู
ิ
ิ
่
ผ่านไปยังศตวรรษที่ 19 การรักษาในสถานพยาบาล ใช้ในปี 1808 ทดแทนคาเดิมว่า ‘alienism’ โดย
�
ี
ึ
ื
มีการพัฒนาขึ้นมาบ้าง ในปารีสช่วงทศวรรษ 1790 ศาสตร์น้ได้ถูกพัฒนาข้นเม่อสถานพยาบาลทางจิต
�
ั
ั
ฟิลิปป์ ปีเนล์ (Philppe Pinel; 1745-1826) ได้น�า น้นมีจานวนมากข้น นาไปสู่พัฒนาการคร้งใหญ่ใน
ึ
�
ี
การเปลยนแปลงคร้งใหญ่มาส่สถานพยาบาลผ้ป่วย การรกษาความป่วยไข้ทางจต ประเทศเยอรมนเป็น
ั
ิ
ู
ู
ี
่
ั
1
�
ี
จิตเวชชายบิแซ็ตร์ (Bicêtre) โดยการปลดโซ่ตรวน ท่ยอมรับในฐานะผู้นาโลกด้านจิตเวชในศตวรรษท ่ ี
ให้ที่พักที่ได้คุณภาพแก่ผู้ป่วย ให้งานง่ายๆ กับผู้ป่วย 19 มหาวิทยาลัยต่างๆ แข่งขันกันผลิตนักจิตเวชเพื่อ
ิ
ี
ได้รับผิดชอบ ปีเนล์เรยกส่งน้ว่า ‘การบาบัดจิตใจ’ พัฒนาการรักษาและเข้าถึงความเจ็บป่วยทางจิตน ้ ี
ี
�
ั
เขาใช้เวลาพูดคุยกับผู้ป่วยร่วมหลายช่วโมง บันทึก ให้มากขึ้น
ั
รายละเอียดลงบนประวัติผู้ป่วยทงหมด เขาปฏิเสธ มีการพัฒนาทฤษฎีทางจิตเวชและวิธีการรักษา
้
วิธีการรักษา เช่น การถ่ายเลือด (bleeding), ท�าให้ มากมายถูกพัฒนาข้นเพ่อเยียวยาความเจ็บป่วยทาง
ึ
ื
อาเจียน (purging) และการรักษาโดยการท�าให้เกิด จิต เช่น เมสเมอริสม์ (Mesmerism) ซึ่งเป็นจุดเริ่ม
แผลพุพอง (blistering) จนช่วงกลางๆ ของศตวรรษ ต้นของการรักษาด้วยการสะกดจิต คิดค้นโดยฟรันซ์
อันทอน เมสเมอร์ (Franz Anton Mesmer; 1734-
ั
1 สถานพยาบาลบิแซ็ตร์ต้งอยู่ในชุมชนเขตชานเมืองทางตอนใต้ของ
ื
ิ
กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นในปี 1634 1815) แพทย์ชาวออสเตรีย โดยเร่มจากความเช่อ
16
ลึกลงไปในจิตใจของข้าพเจ้า...ยังคงมีตัวตนของ
เด็กน้อยผู้มีความสุขจากไฟรแบร์กด�ารงอยู่
ิ
ซกมนด์ ฟรอยด์
ุ
รูปหน้ำ 16: รูปสถานพยาบาลผู้ป่วยจิตเวชในสเปน (ช่วง รูปบน: เมสเมอร์ได้พัฒนาวิธีการรักษาโดยใช้แท่งเหล็กย่น
ื
ปี 1812-1819) โดยฟรานซิสโก เดอ โกยา ในเวลาดังกล่าว จากอ่างให้สัมผัสส่วนบาดเจ็บของผู้ป่วย โดยของเหลวจากอ่าง
สถานพยาบาลด้านจิตเวชยังเป็นเร่องให้ต้องถกเถียงกันใน จะถูกถ่ายไปยังจุดนั้นโดยใช้มือ
ื
สังคมสเปน รูปวาดนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะตีแผ่ให้เห็นถึงสภาพ
การรักษาในเวลานั้น
17
ู
่
ี
ุ
�
ี
ู
ั
ี
ท่ว่าของเหลวท่มีคุณสมบัติทางแม่เหล็กน้นไหลวน ในปี 1841 และได้ข้อสรปว่าผ้ทถกกระทาการ
ี
อยู่ในร่างกายของสัตว์ โดยสารเหล่าน้สามารถถูก เมสเมอริสม์จะมีลักษณะทางกายภาพท่เปล่ยนไป
ี
ี
ิ
รบกวนด้วยกระแสของสารแม่เหล็กจากร่างกายสัตว์ เบรดเร่มทดลองโดยใช้วิธีของเขาเองชื่อว่า ‘rational
ื
ี
ิ
ตัวอ่นได้ด้วย เขาเรียกส่งน้ว่า ‘สภาพแม่เหล็กของ Mesmerism’ หรือ ‘เมสเมอริสม์อย่างมีเหตุมีผล’
�
สัตว์’ (animal magnetism) และเชื่อว่าการหายไป นาไปสู่การพัฒนาศาสตร์ของการสะกดจิตบาบัด โดย
�
ี
�
หรือการไหลท่ติดขัดนามาซ่งความป่วยไข้ การสัมผัส อาศัยพื้นฐานของสรีรวิทยาร่วมกับจิตวิทยา การถูก
ึ
พวกตัวนาไฟฟ้าน่าจะเป็นวิธีหน่งในการรักษา ต่อมา สะกดจิตสามารถทาให้เกิดข้นได้เมอเพ่งมองวัตถ ุ
ึ
่
�
ึ
ื
�
ี
ก็ได้กลายเป็นทฤษฎีท่ถูกนามาใช้อย่างกว้างขวาง น่งๆ เป็นเวลานาน เบรดไม่เช่อว่าการถูกสะกดจิต
�
ื
ิ
โดยเทคนิคบางอย่างยังถูกเก็บไว้เป็นความลับอย แต่ เกิดจากพลังใดๆ ของผู้ให้การรักษาหรือจินตนาการ
ู่
ก็มีผู้คนจ�านวนมากที่ไม่เชื่อและเรียกทฤษฎีนี้ว่าเป็น ของผู้รักษา งานของเขามีอิทธิพลต่องานต่อๆ มาของ
ั
ั
ทฤษฎีลวงโลก ต่อมากรรมาธิการหลวงของฝร่งเศส วงการแพทย์ฝร่งเศส อย่างเช่นงานของนักประสาท
ี
ได้ศึกษาการรักษาน้โดยพระราชโองการของพระเจ้า วิทยา ฌอง มาร์แต็ง ชาร์โคต์ (Jean Martin Charcot;
หลุยส์ที่ 16 (Louis XVI; 1754-1793) ในปี 1784 1825-1893)
ึ
ได้ความว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยันการมีอยู่ของ เวียนนาซ่งเป็นเมืองท่ฟรอยด์อาศัยเกือบตลอด
ี
ของไหลแม่เหล็ก ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เมสเมอร์ได้ ชีวิตและได้เกิดการค้นพบด้านจิตท่สาคัญมากมาย
�
ี
อ้างว่าค้นพบน้นมาจากจินตนาการหรอไมก็ดวยการ เดิมทีท่น่ข้นช่อในด้านเป็นแหล่งรวมความก้าวหน้า
่
ี
้
ั
ื
ื
ี
ึ
ื
ึ
ิ
ั
ใช้กลเม็ดบางอย่างท้งส้น หน่งในลูกศิษย์ของเขาช่อ ทางการแพทย์โดยเฉพาะด้านจิตเวช นาร์เรินทอร์ม
ี
แอบเบ ฟาเรีย (Abbé Faria; 1746-1819) ได้ศึกษา (Narrenturm) เป็นอาคารในเวียนนาท่นับได้ว่า
ื
งานของเมสเมอรตอ และทาการทดลองเพอแสดงให เป็นแหล่งพักพิงสาหรับผู้ป่วยทางจิตที่เก่าแก่ท่สุด
ี
้
่
่
�
์
�
ี
ี
ึ
ิ
เห็นว่าอาการเคล้มหรือปรากฏการณ์ใดๆ ท่เป็นผล ในยุโรป สร้างข้นในปี 1784 หลังจากพบว่าพ่น้อง
่
ู
ิ
จากเทคนิคของเมสเมอร์น้นล้วนเกิดจากการกล่อม คาปชน (Capuchin) ทป่วยทางจตได้ถกกกขงใน
ี
ั
ั
ู
ั
ิ
ให้คล้อยตาม (power of suggestion) ห้องใต้ดิน ท่ต้งนาร์เรินทอร์มอยู่ติดกับโรงพยาบาล
ั
ี
ศัลยแพทย์ชาวสกอต เจมส์ เบรด (James Braid; เวียนนา (Vienna General Hospital) อันเก่าแก่
�
1795-1860) ได้สังเกตการณ์การทาเมสเมอริสม์ สามารถรองรับผู้ป่วยทางจิตได้ถึง 200-250 คน ห้อง
วิลเลียม เจมส์ (William James; 1842-1910)
เจมส์ศึกษาด้านแพทยศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด แต่ไม่เคยได้รักษาคนไข้
ในวัยหนุ่มเขาป่วยด้วยโรคประสาทชนิดอ่อนเพลียง่าย (neurasthenia) จึง
ื
ั
ได้เดินทางมาเยอรมนีเพ่อหาทางรักษา และน่นทาให้เขาสนใจในจิตวิทยา
�
�
และปรัชญา เขาทางานด้านวิชาการตลอดชีวิตในฮาร์เวิร์ดโดยมีงานสอนใน
วิชาสรีรวิทยา กายวิภาคศาสตร์ จิตวิทยา และปรัชญา เขาได้รับต�าแหน่ง
ประธานสาขาจิตวิทยาในปี 1889 ด้วยความท่รู้จักกับบุคคลอย่างเฮอร์มันน์
ี
เฮล์มโฮลทซ์ (Hermann Helmholtz) และปิแอร์ ฌาเนต์ (Pierre Janet)
�
ี
ทาให้เขาสามารถพัฒนาคอร์สเก่ยวกับจิตวิทยาในเชิงวิทยาศาสตร์ท่ฮาร์เวิร์ด
ี
และได้เริ่มสอนการทดลองทางจิตวิทยาในปี 1875 นักเรียนของเขาที่เด่นๆ
ได้แก่ แกรนวิลล์ สแตนลีย์ ฮอลล์ (Granville Stanley Hall) และธีโอดอร์
ั
รูสเวลต์ (Theodore Roosevelt) เขาเป็นผู้เสนอให้ก่อต้งสาขาวิชาจิตวิทยาการ
ั
ี
หน้าท และเขยนหนงสือสาคญๆ เก่ยวกบจิตวทยา จตวทยาการศกษา และปรชญา
่
ี
ิ
ิ
ั
ึ
ิ
�
ั
ั
ี
18
ึ
ตึกนาร์เรินทอร์มในเวียนนา สร้างข้น
ในปี 1784 ตั้งอยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาล
ี
ุ
ึ
กรงเวยนนา การสร้างตกแยกออก
ื
มาจากการพยาบาลด้านอ่นแสดง
�
ี
ถึงแนวคิดท่ให้ความสาคัญมากข้น
ึ
เกี่ยวกับการป่วยทางจิต
ั
ึ
ั
ี
ต่างๆ จะมีกระด่งติดไว้เพ่อควบคุมคนไข้ หลังจากน้น จิตเวชท่มีการศึกษาผ่านการทดลองน้นถูกพัฒนาข้น
ื
ิ
ี
ี
ี
ในทศวรรษต่อมาท่น่ก็กลายเป็นสถานพยาบาลท่ล้า ราวปี 1879 เมื่อวิลเฮล์ม วุนดท์ (Wilhelm Wundt;
�
ั
หลังไปเมื่อมีความก้าวหน้าใหม่ๆ ในการรักษาผู้ป่วย 1832-1920) ได้ก่อต้งห้องทดลองสาหรับการวิจัย
ั
จิตเวชในเวลาน้น มีคลินิกเฉพาะทางมากมายเกิดข้น ทางจิตเวชในเมืองไลพ์ซิก ในแล็บน้ได้มีการจ�าแนก
ี
ึ
่
่
ิ
ในเวยนนาชวงปลายศตวรรษท 18 คลนกจตเวชแหง ความผดปกตทางจตและพฤตกรรมต่างๆ เชอมโยง
ิ
ี
ี
ิ
่
ื
่
ิ
ิ
ิ
ิ
แรกในออสเตรียเกิดข้นท่เวียนนาในปี 1870 เวียนนา กับบริเวณสมองส่วนที่ได้รับความเสียหาย
ึ
ี
ี
ั
้
นนมสถานพยาบาลท่หลากหลาย โดยยังหลากหลาย ในเวลาต่อมาฟรอยด์ได้ก้าวเข้าสู่ศาสตร์ท ่ ี
ี
ท้งในการรักษาในทุกความเจ็บป่วยทางจิตทุกแขนง ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยการค้นพบท ่ ี
ั
ื
้
อย่างไรกด จตเวชในแบบฉบบเวยนนานนม่งเน้นไป น่าต่นเต้นในฐานะนักวิทยาศาสตร์ผู้พิถีพิถันและ
ุ
ั
็
ิ
ั
ี
ี
ี
ท่อาการทางกายภาพและพยาธิวิทยา โดยจะไม่ค่อย แพทย์ผู้ผ่านการฝึกอย่างด เขาได้สร้างสาขาใหม่ของ
ี
ี
ี
�
ื
สนใจสาเหตุที่แท้จริงของความป่วยทางจิต วิทยาศาสตร์และจิตเวชท่ไม่ได้ทาหน้าท่เพียงเพ่อ
ค�าว่า ‘จิตวิทยา’ (psychology) ถูกน�ามาใช้ อธิบายและบรรเทาความป่วยของจิต แต่ได้รังสรรค์
ี
�
่
ี
ั
ี
ในช่วงกลางศตวรรษท 19 แรกเร่มน้นเป็นท่รู้จักใน ศาสตร์ใหม่ท่สาคัญและลุ่มลึกในการเข้าถึงสภาพ
ิ
ฐานะ ‘ปรัชญาของจิต’ คาน้น้นแท้จริงวิวัฒน์จากการ ภายในจิตใจของบุคคลปกติท่ไม่ได้ป่วยไข้ทางจิตด้วย
ี
�
ั
ี
ิ
่
ี
ิ
แทนทการศึกษาเชงจตวญญาณด้วยแพทยศาสตร์
ิ
วิลเฮล์ม วุนดท์ (Wilhelm Wundt; 1832-1920)
วิลเฮล์ม วุนดท์ แพทย์ นักจิตวิทยา นักกายวิภาค และนักปรัชญาชาวเยอรมัน
เป็นท่ยอมรับในฐานะบิดาแห่งจิตวิทยาการทดลอง วุนดท์เคยเป็นผู้ช่วยของ
ี
เฮอร์มันน์ ฟอน เฮล์มโฮลทซ์ ท�าให้งานของวุนดท์ตั้งอยู่บนฐานของระบบ
ประสาทรับความรู้สึก ทั้งยังได้รับอิทธิพลจากกุสตาฟ เธโอดอร์ เฟชเนอร์
(Gustav Theodor Fechner) ผู้บุกเบิกด้านจิตวิทยาการทดลอง ในปี 1874
ได้ตีพิมพ์ หลักการทางจิตสรีรวิทยา (Principles of Physiological
Psychology) ซึ่งต่อมาถือว่าเป็นหนึ่งในงานที่ส�าคัญที่สุดในด้านจิตวิทยา
ั
เขาเป็นผู้ก่อต้งห้องปฏิบัติการแรกๆ ด้านงานวิจัยทางจิตวิทยาใน
มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก (Universität of Leipzig) ในปี 1879 ด้วยผลงาน
�
ของวุนดท์ทาให้วิชาจิตวิทยาสามารถแตกแขนงออกมาเป็นสาขาใหม่ใน
วิทยาศาสตร์ได้
19
วัยเด็กของฟรอยด์
ั
ึ
รอยด์รู้ตัวต้งแต่วัยเด็กแล้วว่าวันหน่งเขาจะ โดดเด่นในวงสังคมออสเตรียจะกลายเป็นความสับสน
ิ
ฟกลายเป็นบุรุษผู้ย่งใหญ่ ฟรอยด์เป็นลูกคนโต ยุ่งยากต่ออนาคตจากการต่อต้านชาวยิว
ของยาค็อบ (Jakob; 1815-1896) กับอมาเลีย ซิกิสมุนด์ ชโลโม ฟรอยด์ (Sigismund
ี
ิ
ี
(Amalia; 1835-1930) เขาเป็นท่คาดหวังอย่างย่ง Schlomo Freud) เกิดวันท 6 พฤษภาคม 1856
่
โดยครอบครัว ในหลายโอกาสความปรารถนาใดๆ ในเมืองไฟรแบร์ก เขตโมราเวีย ในช่วงการปกครอง
�
ของลูกชายคนโตดูจะสาคัญเหนือกว่าของลูกลาดับ โดยราชวงศ์ฮับส์บวร์ก (Haus von Habsburg) ของ
�
ื
่
ี
ั
อ่นๆ อีกท้งในช่วงกลางของศตวรรษท 19 น้นนับ ออสเตรีย ซ่งปัจจุบันคือเมืองพรีบอร์ (Pribor) ภายใต้
ั
ึ
ึ
ื
ื
ี
ี
ื
ได้ว่าเป็นช่วงเวลาหน่งท่น่าต่นใจ ดูเหมือนจะม สาธารณรัฐเช็ก ช่อชโลโมของฟรอยด์เป็นช่อของคุณปู่
ความเป็นไปได้มากมายท่คนหนุ่มสามารถแสวงหา ผู้เสียชีวิตก่อนฟรอยด์เกิดไม่กี่เดือน ในครอบครัวจะ
ี
์
ั
ความสาเร็จท้งในงานทางดานวทยาศาสตรและศลปะ เรียกฟรอยด์ว่า ‘ซิกิ’ (Sigi) และกร่อนช่อหน้าเขา
้
�
ื
ิ
ิ
ฟรอยด์เองก็มีความคาดหวังในความก้าวหน้าน้เช่น กลายเป็นซิกมุนด์ในปี 1877
ี
เดียวกันกับครอบครัวของเขา ฟรอยด์เกิดมาพร้อมกับ ตระกูลยาค็อบนับถือยิวนิกายออร์โธด็อกซ์
ส่วนของถุงนาครา (หรือพังผืดท่เหลืออยู่บนศีรษะ) ในหน่งศตวรรษก่อนหน้าได้หนีการกวาดล้างชาวยิว
ึ
ี
�
้
�
่
ซ่งมีความเช่อว่าทารกท่เกิดมาในลักษณะดังกล่าวจะ ไปทางทิศตะวันออกแล้วพ�านักที่ลิทัวเนีย ต่อมาก็ได้
ี
ื
ึ
เพียบพร้อมทั้งความสุขและชื่อเสียงในภายภาคหน้า หนีกลับมาออสเตรียเยอรมันอีกคร้งในศตวรรษท 19
ี
่
ั
่
ื
่
ั
1
ความเชอม่นในตวฟรอยดยงหนักแน่นขนเมอวนหนง ทางกาลิเซีย (Galicia) พ่อของฟรอยด์เป็นพ่อค้า
ึ
ั
่
ิ
่
ื
์
ั
้
ึ
ึ
แม่ของเขาได้รับการทายทักจากหญิงชราท่านหน่ง โดยสินค้าส่วนใหญ่เป็นพวกขนสัตว์ ในช่วงปลาย
ในร้านขนมว่าเธอได้ให้ก�าเนิดบุตรชายผู้ประเสริฐล�้า ทศวรรษ 1850 ไฟรแบร์กอยู่ในช่วงตกตาอย่างหนัก
�
่
ื
แก่โลก เม่อฟรอยด์อายุเพียง 11-12 ขวบ กวีใน อัตราว่างงานสูงมาก ไม่เพียงส่งผลเสียต่อธุรกิจ
ึ
้
ึ
ั
่
่
ั
่
ั
ั
รานอาหารทานหนงถงกบแตงโคลงเยนยอวาวนหนง ของยาค็อบเท่าน้น กลุ่มชาตินิยมเช็กยังได้ก่อต้งข้น
่
ิ
ึ
่
ึ
ชายผู้นี้จะเติบโตขึ้นมาเป็นรัฐมนตรี ฟรอยด์ ณ เวลา
ั
น้นก็คล้อยตามเห็นด้วยกับความเป็นไปได้ในข้อน้แม้ 1 กาลิเซีย (Galicia) ราชอาณาจักรกาลิเซีย หรือออสเตรียโปแลนด์
ี
เป็นอาณาจักรภายใต้การปกครองของฮับส์บวร์ก ในปี 1804 ได้
เขาจะตระหนักรู้ได้ในภายหลังว่าการเป็นยิวผู้มีความ กลายเป็นเมืองแห่งจักรวรรดิออสเตรีย
ี
บ้านเกิดของฟรอยด์ ท่เมืองพรีบอร์
ไฟรแบร์ก ในปี 1931 ได้มีการทาป้าย
�
เพอราลกถงฟรอยด์ตรงบ้านท่เขาเกิด
ึ
ี
ื
�
่
ึ
ื
และฟรอยด์ก็ได้เขียนจดหมายเพ่อเป็น
ี
ี
การขอบคุณหน่วยงานท่เก่ยวข้องในการ
ร�าลึกถึงเขา
20
และนาไปสู่การปฏิวัติในปี 1848-1849 มีการกล่าวโทษชุมชน
�
ชาวยิวของเมืองซ่งส่วนใหญ่พูดภาษาเยอรมันและได้รับการ
ึ
ศึกษาแบบเยอรมันว่าเป็นต้นเหตุของความโกลาหลทาง
เศรษฐกิจ ยาค็อบได้ตระหนักในทันทีว่าจะส่งผลร้ายต่ออนาคต
ของครอบครัวในไฟรแบร์ก เลยโยกย้ายครอบครัวไปไลพ์ซิก
เป็นเวลาหนึ่งปีและจึงย้ายไปตั้งรกรากถาวรต่อมาในเวียนนา
้
ั
ั
่
ี
ิ
่
ี
ี
่
้
่
ั
ิ
อนทจรงนนฟรอยด์ไมไดเกดในครอบครวเดยวทประกอบ
ด้วยเพียงพ่อแม่และลูกๆ พ่อของเขาอายุมากกว่าแม่ถึง 20 ปี
เคยผ่านการแต่งงานมาก่อนและมีลูกชายติดมาซ่งโตเป็น
ึ
ผู้ใหญ่แล้วชื่อ เอมานูเอล (Emanuel) และฟิลิปป์ (Philipp)
ั
ท้งสองต่างมีครอบครัวแล้วและอาศัยบริเวณใกล้ๆ กับครอบครัว
ของฟรอยด์ อมาเลีย แม่ของฟรอยด์อายุน้อยกว่าเอมานูเอล
และยังคงเป็นเพียงสาวรุ่นเมื่อครั้งแต่งงานกับยาค็อบ ฟรอยด์
ุ
่
ึ
ุ
เกดมาก็กลายเป็นคณอา ด้วยจอห์นซงอายมากกว่าฟรอยด์
ิ
หน่งปีเป็นหลานโดยเป็นลูกของเอมานูเอล ท้งสองอาหลานเป็น
ั
ึ
เพ่อนเล่นกันเสมอจวบจนเอมานูเอลย้ายครอบครัวไปอังกฤษ
ื
รูปบน: ฟรอยด์อายุ 7 ขวบ นั่งอยู่บนโต๊ะ แม้เพียงอายุเท่านี้ รูปล่ำง: ภาพมุมบนของเวียนนาในปี 1860 ครอบครัว
ครอบครัวให้ความสาคัญกับการศึกษาของฟรอยด์เป็นอันดับ ฟรอยด์ย้ายมาอยู่ย่านชาวยิวในปี 1859 ฟรอยด์มีท้งส่วน
�
ั
ี
ี
ี
แรก โดยเหล่าพ่น้องถูกห้ามไม่ให้รบกวนการเรียนของเขา ท่ชอบและไม่ชอบเก่ยวกับเมือง ส่วนหน่งก็เพราะกลุ่ม
ึ
เด็ดขาด เหยียดยิวที่มีอยู่ชุกชุมในเมือง
21
ั
ื
เม่อฟรอยด์ยังอายุแค่ 3 ขวบ เฉกเช่นเด็กท่วไป รูปล่ำง: ฟิลิปป์ ฟรอยด์ (1835-1911) อาศัยอยู่ละแวก
เดียวกับฟรอยด์ในวัยเด็ก ฟรอยด์เคยสับสนในความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะเป็นแบบรักๆ ชังๆ และ ระหว่างพี่ชายผู้นี้กับอมาเลีย แม่ของตน
เม่อมีการต่อยตีเกิดข้น คนตัวเล็กกว่าอย่างฟรอยด์
ื
ึ
รูปหน้ำ 23: เอมานูเอล ฟรอยด์ (1833-1914) และแบร์ธา
�
ก็จะต่อสู้สุดกาลัง ต่อมาภายหลังฟรอยด์ได้วิเคราะห์ ลูกสาวของเขา เอมานูเอลมีลูกชายคนโตช่อ จอห์น ซ่งเกิด
ึ
ื
ั
ื
ว่าการมีมิตรภาพท่ผันผวนอยู่เป็นนิจ โดยเฉพาะ ปี 1855 และเป็นเพ่อนเล่นกับฟรอยด์จวบจนท้งครอบครัว
ี
ย้ายไปอยู่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
ี
ั
ื
ระหว่างชายท่มีอายุใกล้เคียงกันน้นน่าจะมีพ้นฐาน
จากความเป็นเพ่อนท่ข้นๆ ลงๆ กับหลานในวัยเด็ก
ื
ี
ึ
ี
ื
เขารู้สึกว่าเพ่อนรักและศัตรูท่เขาเกลียดชังส่งผลต่อ
อารมณ์ความรู้สึกของเขามาก ในหลายโอกาสก็พบว่า
ู
ั
ื
่
สถานะเพอนและศัตรูน้นกลับปรากฏอย่ในคนคนเดียว
ท่ต่างวาระกัน ฟรอยด์ได้กล่าวกับสหายของเขา
ี
วิลเฮล์ม ฟลีสส์ (Wilhelm Fliess; 1858-1928)
ั
(บทท 7) ว่าในมิตรภาพของเขาท้งหมด ความสัมพันธ์
่
ี
ั
ั
กับหลานและน้องชายน้น “ท้งตึงเครียดและกวน
ประสาท”
ื
คาดว่าคงเป็นความสับสนเอาการเม่อฟรอยด์
ในวัยเยาว์น้นมีจอห์นซ่งท้งแข็งแรงกว่าและแก่กว่า
ั
ึ
ั
ั
เป็นหลาน อีกท้งจอห์นยังเรียกพ่อของฟรอยด์ว่า
�
้
‘ปู่’ เม่อฟรอยด์โตข้นเป็นวัยรุ่น เอมานูเอลเคยยากับ
ึ
ื
ี
ฟรอยด์ว่าบ้านของเขาท่แท้แล้วมีคนอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น
ฟรอยด์ได้วิเคราะห์ตัวเองในวัย 40 (บทท 11) ว่า
่
ี
ขณะเกิดนับเป็นครั้งแรกสุดที่มนุษย์ได้ประสบกับ
ความรู้สึกวิตกกังวล จึงกลายเป็นทั้งต้นก�าเนิด
และรูปแบบตั้งต้นของผลเนื่องจากความวิตกกังวล
ุ
ซกมนด์ ฟรอยด์
ิ
22
ได้ยอมรับว่าเขามีความริษยาในตัวน้องชายอยู่เหมือน
กัน ด้วยความที่ความรักและความเอาใจใส่จากแม่
นั้นถูกถ่ายเทให้น้อง ส่วนการตายของจูเลียสมีผลต่อ
ความรู้สึกของเขาในลักษณะการต�าหนิตัวเอง
ื
น้องสาวคนแรกของฟรอยด์คืออันนาเกิดเม่อ
ึ
เขาอายุได้ 2 ขวบคร่ง ตามด้วยโรซา (Rosa), มาร ี
ี
(Marie) หรือมิตซ (Mitzi), อดอล์ฟิน (Adolfine)
หรือดอล์ฟี (Dolfi) และพอลล่า (Paula) ส่วนคน
สุดท้อง อเล็กซานเดอร์ (Alexander) เด็กกว่าฟรอยด์
ถึง 10 ปี
ในช่วงท่อันนาเกิดมาน้น พ่เล้ยงเด็กสูงวัย
ี
ั
ี
ี
ชาวเช็กของครอบครัวถูกเลิกจ้างด้วยข้อหาลักขโมย
ี
ฟรอยด์โดยส่วนตัวน้นเป็นท่รักใคร่ของพ่เล้ยงผู้น ี ้
ี
ี
ั
ี
ี
พ่เล้ยงคุยกับเขาเป็นภาษาเช็กและยังพาเขาไปเข้า
ื
�
ี
น่นนาไปสู่ความสับสนเก่ยวกับพลวัตในครอบครัว โบสถ์คาทอลิกบ่อยๆ เป็นผู้ทาให้เขารู้จักความเช่อใน
ั
�
ี
ในวัยเด็กเขาเคยคิดเลยเถิดถึงข้นว่าฟิลิปป์ พ่ชาย นรก-สวรรค์ กลับมาจากโบสถ์เขาก็ยังกลับมาเทศนา
ั
�
ต่างมารดาน้นมีความสัมพันธ์กับแม่ของเขาและทาให ้ ธรรมให้ที่บ้านต่อ พี่เลี้ยงคนนี้เป็นเหมือนพ่อแม่ของ
ั
�
เกิดอันนา น้องสาวของเขาออกมา ซ่งเม่อพิจารณา ฟรอยด์ ผู้ทาให้ฟรอยด์ได้ตระหนักในศักยภาพของ
ึ
ื
ี
�
ี
ี
ี
ี
ว่าด้วยอมาเลียและฟิลิปป์ต่างก็มีอายุไล่เล่ยกัน ตัวเอง การเลิกจ้างพ่เล้ยงผู้น้เป็นความทรงจาท่เจ็บ
ี
ก็เป็นไปได้ท่จะทาให้เด็กคิดไปเช่นน้น ส่งเหล่าน้ยังช ้ ี ปวดอันหนึ่ง ซึ่งเขาเคยได้ระลึกให้ฟังถึงความทรงจ�า
ิ
ั
ี
�
้
ิ
ี
ี
ให้เห็นว่าองค์ประกอบของครอบครัวสามารถทาให้ นในการวเคราะห์ฝันของตนเองในอกหลายปีต่อมา
�
ี
เด็กๆ สับสนได้ อย่างไรก็ด ไม่มีหลักฐานว่าความเข้าใจ อีกทั้งยังมีการยืนยันข้อเท็จจริงจากแม่ของเขาด้วย
ที่เตลิดเปิดเปิงข้อนี้ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง
ตอนที่ฟรอยด์เกิด อมาเลียมีอายุเพียง 21 ปี
ื
เธอมีช่อเดิมว่า อมาเลีย นาธานซอห์น (Amalia
Nathansohn) เกิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ
กาลิเซียในปี 1835 เธอเคยใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็กทั้งที่
โอเดสซา (Odessa) และเวียนนา ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้
2
เห็นการปฏิวัติปี 1848 หลังจากให้กาเนิดฟรอยด์ เธอ
�
และยาค็อบยังมีลูกด้วยกันอีก 7 คนในช่วงเวลาไม่นาน
ลูกคนถัดมาช่อว่า จูเลียส เสียชีวิตเม่ออายุได้ 8 เดือน
ื
ื
ซึ่งตอนนั้นฟรอยด์มีอายุได้ 19 เดือน ต่อมาฟรอยด์
โบสถ์ยิวในเวียนนาราวทศวรรษที่ 1860 แม้จะไม่ใช่ผู้ฝักใฝ่ใน
ศาสนายิว แต่ฟรอยด์ก็ถือว่าตนเองเป็นชาวยิวโดยแท้ ท้งยัง
ั
โอเดสซา (Odessa) เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสามของ รู้สึกอ่อนไหวกับอะไรท่ไปเก่ยวข้องกับการต่อต้านชาวยิวซ่งม
2 ี ี ึ ี
ประเทศยูเครน และเป็นศูนย์กลางการท่องเท่ยวท่สำาคัญบนชายฝั่ง ให้เห็นดาษดื่นในช่วงศตวรรษที่ 19 ของนครเวียนนา
ี
ี
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลดำา
23
รูปซ้ำย: ฟรอยด์และพ่อ ฟรอยด์ได้บรรยายถึงรูปลักษณ์ของ
ตนเองว่าราวกับถอดแบบออกมาจากพ่อเลยทีเดียว ในด้าน
จิตใจบางส่วนเช่นกัน ยาค็อบ ฟรอยด์ อายุ 41 ปีเมื่อฟรอยด์
เกิด เป็นพ่อที่ใจดี เป็นที่รักใคร่ และใจกว้าง
ครอบครัวฟรอยด์ได้ย้ายออกจากไฟรแบร์ก
เมื่อเขาอายุได้ 3 ขวบ การต้องเดินทางจากบ้านเป็น
ึ
ื
จุดเร่มต้นหน่งของอาการวิตกจริตเม่อเขาต้องเดิน
ิ
ิ
ั
ทางด้วยตวเอง เขาได้วนจฉยในภายหลงว่าความ
ั
ั
ิ
ื
ั
วิตกจริตน้นอาจเช่อมโยงกับประสบการณ์การเห็น
ื
ื
แม่ของตัวเองเปลอยขณะโดยสารรถไฟข้ามคนจาก
ิ
ื
ไลพ์ซกไปเวียนนาเม่อคร้งยงเป็นเด็ก แม้ว่าต่อมา
ั
ั
เขาจะสามารถข่มความกลัวการเดินทางน้ไปได้แล้ว
ี
ื
ิ
ี
ก็ตาม แต่ความวตกจริตยังคงอยู่ทุกเม่อท่เขาต้อง
ั
จับรถไฟ โดยเขาจะไปถึงสถานีก่อนเวลาหน่งช่วโมง
ึ
ี
เสมอ การต้องจากบ้านในวัยเยาว์ท่เต็มไปด้วยความสุข
รูปล่ำง: ครอบครวฟรอยด์ในปี 1878 แถวหลงจากซ้าย
ั
ั
ิ
ี
พอลล่า, อันนา, ฟรอยด์, เอมานูเอล, โรซา, มารี และซีมอน มักจะเป็นส่งท่ยากเย็นเสมอ เขายังคงระลึกถึงเมือง
นาธานซอห์น แถวหน้าจากซ้าย ดอล์ฟี, บุคคลซ่งระบุไม่ได้ เล็กๆ และภาพชนบทด้วยความรู้สึกดีโดยตลอด ณ
ึ
ว่าคือใคร, อมาเลีย, อเล็กซานเดอร์, บุคคลซ่งระบุไม่ได้ ช่วงเวลาเดยวกันท่ยาค็อบได้โยกย้ายครอบครัวไป
ึ
ี
ี
ว่าคือใคร และยาค็อบ
24
ั
�
�
ื
ี
ตึกโดมในสวนปราเทอร์ (Prater Park) สาหรับจัดงานเวียนนา น้นจึงทาได้เพียงบางส่วนด้วยแหล่งท่อยู่อาศัยไม่เอ้อ
เวิลด์แฟร์ ปี 1873 มีคาขวัญว่า วัฒนธรรมและการศึกษา 3
�
�
(Kultur und Erziehung) อานวย เช่น การไม่มีครัวตามหลักการของศาสนายิว
ั
ี
่
้
ั
ครอบครวทกาลงเตบโตขนนตอมากตองการการขยบ
ี
้
้
่
็
ิ
ั
�
ึ
ั
ี
ทางตะวันออก พ่ชายต่างมารดาท้งสองก็ได้ย้ายไป ขยาย จึงได้ย้ายไปอยู่แฟลตบนถนนไคเซอร์ โยเซฟ
แมนเชสเตอร์ ทาให้ฟรอยด์ต้องเสียเพ่อนเล่นอย่าง สตราสเซอ (Kaiser Josefstrasse) ซ่งมีท้งห้องน่ง ั
�
ึ
ั
ื
จอห์นไป เล่น ห้องอาหาร ครัว 3 ห้องนอน และห้องยาวแคบ
ั
เม่อฟรอยด์อายุได้ 16 ปี มีเพียงคร้งเดียว แยกออกจากตัวแฟลต ไม่มีห้องอาบน�้า โดยจะอาบ
ื
เท่าน้นท่เขาได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ใน กันวันเว้นวันในอ่างไม้ขนาดใหญ่ในห้องครัว ห้องยาว
ี
ั
ั
�
ั
ั
ตอนน้นเขาไปพกอาศยกบครอบครวฟลุสส์ (Fluss) แคบเป็นของฟรอยด์ไปจนกระท่งทางานและเรียนใน
ั
ั
ั
ื
ซ่งเป็นสหายรักของบ้านฟรอยด์ ปรากฏว่าฟรอยด์ โรงพยาบาลเวียนนา ไม่เหมือนห้องนอนอ่นๆ ท่ใช้
ี
ึ
ึ
ี
ไปตกหลุมรักกีเซลา (Gisela) ลูกสาวบ้านดังกล่าว เทียนให้แสงสว่าง ห้องน้จะใช้ตะเกียงนามันซ่งส่อง
�
้
ื
ซ่งเด็กกว่าเขาเล็กน้อยอย่างรวดเร็ว ฟรอยด์น้นม สว่างดีกว่าเม่อเขาต้องอ่านหนังสือ ในช่วงวัยรุ่นเขา
ั
ึ
ี
ั
ความขวยเขินมากเสียจนไม่กล้าพูดด้วย เขาชอบ จะทานม้อคาในห้องตวเองเพ่อจะได้ไม่เสียเวลาจาก
่
ื
ื
�
ี
�
หลบไปเดินเล่นในป่า ในใจก็นึกเสียดายว่าคงจะด การอ่านหนังสือ ท้งพ่อและแม่ล้วนให้ความสาคัญ
ั
ถ้าพ่อแม่ยังคงอยู่ไฟรแบร์ก เขาจะได้เติบโตเป็น กับการเรียนของลูกชาย คร้งหนึ่งฟรอยด์ถูกรบกวน
ั
หนุ่มบ้านนอกและได้แต่งงานกับกีเซลา ด้วยเสียงเปียโนจากน้องสาว เปียโนก็ต้องถูกย้าย
ช่วงต้นของชีวิตในเวียนนา ยาค็อบและ ออกจากแฟลตตามค�าขอของฟรอยด์ แม้ดนตรี
ั
�
ั
ครอบครวค่อนข้างลาบาก เวลาน้นท้งครอบครัว จะเป็นที่โปรดปรานของแม่ก็ตาม
ั
อาศัยในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ บนถนนเฟฟเฟอร์กัซเซอ
ี
ี
ี
3 ตามกฎของชาวยิวจะมีกฎท่เก่ยวข้องกับอาหารท่ชาวยิวได้รับ
(Pfeffergasse) ย่านเลโอโพลด์ชตัดท์ (Leopoldstädt) อนุญาตให้กินและวิธีการเตรียมอาหารเหล่าน้น อาหารท่ถกบริโภค
ู
ี
ั
ี
ซ่งเป็นย่านท่ชาวยิวเวียนนาอยู่อาศัยอย่างแออัด การ ถอว่าเป็นโคเชอร์ (kosher) มีข้อกาหนดในการแยกเนอสตว์และ
ึ
ื
้
ั
ำ
ื
ั
ปฏิบัติตามแบบแผนประเพณียิวนิกายออร์โธด็อกซ์ ผลิตภัณฑ์นมออกจากกัน ดังน้น ห้องครัวโคเชอร์อาจมีลักษณะ
ซาซ้อน 2 ชุดหม้อ 2 ชุดจาน และบางคร้งแม้แต่มี 2 เตาอบ
้
ั
ำ
หรือ 2 อ่างล้างจาน
25
ซิกมุนด์ ฟรอยด์ อายุ 16 ปี กับแม่ เธอยังคงรักลูกชายแม้จะ
โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอได้เปรียบเทียบว่า “ฟรอยด์เป็นดั่งทอง
ของฉัน” (mein goldener Sigi) ฟรอยด์ได้เล่าให้ฟังต่อมา
ว่าการเป็นลูกรักของแม่ทาให้เขาเป็นผู้มีความม่นใจในการท ี ่
�
ั
จะประสบความส�าเร็จ
พอควร คอยตรวจตราส่งท่เหมาะท่ควรให้น้องๆ อ่าน
ี
ี
ิ
และให้ค�าแนะน�าถึงการวางตัว
ี
ื
ื
ท่โรงเรียนฟรอยด์มีเพ่อนซ้ช่อ เอดวร์ด ซิลแบร์
ี
ชไตน์ (Eduard Silberstein; 1856-1925) โดยทั้ง
สองสนิทสนมกันมากในช่วงวัยรุ่นจนวัยย่สิบกว่า
ี
ั
ท้งสองเรียนภาษาสเปนด้วยตัวเองร่วมกัน และได้
ื
ต้งสมาคมวิชาการ ‘แปลกๆ’ ช่อว่า Academia
ั
Castallana มีการส่งจดหมายหากันเป็นภาษาสเปน
โดยใช้ช่อลับและเล่นมุกชวนหัวกัน ท้งสองสนิทกัน
ื
ั
จนกระทั่งฟรอยด์ได้เจอภรรยาในอนาคตของเขา
ปี 1873 ฟรอยด์จบการศึกษาระดับมัธยม
ี
(Matura-ใบรับรองการจบการศึกษา) ด้วยผลดเด่น
เม่ออาย 17 ปี พ่อเขาสัญญาว่าจะให้เดินทางไป
ุ
ื
อังกฤษเป็นรางวัล ฟรอยด์จึงได้เดินทางไปเย่ยม
ี
ี
แรกเริ่มแม่เป็นคนสอนสิ่งต่างๆ ให้กับฟรอยด์ พ่ชายต่างมารดาเม่ออาย 19 ปี และอังกฤษเป็น
ุ
ื
ี
ต่อมาพ่อกเป็นผู้ให้การศึกษาก่อนท่เขาจะต้องไป ประเทศที่เป็นที่หลงใหลของเขาเสมอมาตลอดชีวิต
็
อยู่โรงเรียนประจา เม่ออาย 9 ขวบ เขาสอบผ่าน พ่อแม่ของฟรอยด์ต่างเติบโตตามขนบของ
ื
ุ
�
ี
ั
ั
เพ่อไปเรยนยงโรงเรียนได้เร็วกว่าเพ่อนรุ่นราวคราว ยิวแบบด้งเดิม ฟรอยด์ได้รับการขริบหนังหุ้มปลาย
ื
ื
เดียวกัน 1 ปี ในปี 1865 ฟรอยด์เข้าเรียนที่โรงเรียน อวัยวะเพศต้งแต่ยังแบเบาะ และยังมีความรู้ใน
ั
Leopoldstädter Kommunal-Realgymnasium ขนบและเทศกาลของยิวท้งหมด ครอบครัวเข้าร่วม
ั
ี
ั
4
หลังจากเรียนได้ 2 ปีเขาก็กลายเป็นท่หน่งของห้อง ท้งในพิธีเซเดอร์ (Seder) ก่อนวันปัสกา (Passover)
5
ึ
ิ
ื
ฟรอยด์เล่าให้ฟังว่าเขาช่นชอบการเป็นอภิสิทธ์ชน ของชาวยิว ตามด้วยเทศกาลอีสเตอร์และคริสต์มาส
�
ในโรงเรียน และไม่ค่อยต้องตอบคาถามมากมายใน ในอัตชีวประวัติของฟรอยด์ตีพิมพ์ในปี 1924 ระบ ุ
ห้องเรียน เวลาท่เขาใช้ส่วนใหญ่ในตอนน้นมีเพียง ว่าเขายังคงนับถือยิวอยู่ เพ่อนพ้องส่วนใหญ่ก ็
ื
ี
ั
ื
การอ่านและการเรียนหนังสือ มักจะเป็นคนยิว เขาจึงรู้สึกคับข้องใจอยู่บ้างเม่อ
ั
ฟรอยด์มีพรสวรรค์เป็นอย่างมากด้านภาษาท้ง เห็นพฤติการณ์ต่อต้านชาวยิวแม้เพียงเล็กน้อย ซ่ง ึ
ั
ภาษาละติน กรีก ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี สเปน และ เขาเคยได้พานพบมาทงสิ้นนบตงแต่เยาว์วยใน
้
ั
ั
ั
้
ู
ฮีบร เขาชอบภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ
ึ
ั
ี
ิ
งานเขียนของเชกสเปียร์ซ่งเขาเคยได้อ่านต้งแต่อาย ุ 4 เป็นงานฉลองพิธีกรรมท่เป็นจุดเร่มต้นของวันหยุดเทศกาลปัสกา
ของชาวยิว
8 ขวบ ในทางหนึ่งเขายังช่วยเหลือเหล่าน้องสาวใน 5 Passover หรือปัสกา (Pesach) ในภาษาฮีบรู เป็นวันหยุดที่สำาคัญ
�
ี
ื
ี
เร่องเรียนเขียนอ่าน เขาดูจะเป็นพ่ชายท่ใช้อานาจ ของชาวยิว มีขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ
26
ั
เวียนนา แต่กระน้นเขาเคยกล่าวกับออสการ์ ฟิสเตอร์ สนใจภาวะการเงินของครอบครัว ในฐานะชาวยิวแห่ง
้
ี
(Oskar Pfister; 1873-1956) พระนิกายลูเธอรัน กรุงเวียนนา อาชีพทางเลือกของคนกลุ่มน ได้แก่
6
ิ
่
ี
ี
ู
ื
่
ว่าเขาเป็นยวทไม่เชอการมอย่ของพระเจ้า ฟรอยด์ นักอุตสาหกรรม นักธุรกิจ นักกฎหมาย และแพทย์
ี
เคยได้รับคัมภีร์ไบเบิลเขียนเป็นภาษาฮีบรูโดยพ่อของ จากอทธิพลของเพอนร่นพในโรงเรยนฟรอยด์ค่อยๆ
ื
่
ิ
ี
่
ุ
เขาในวันเกิดอายุ 35 ปี ฟรอยด์ได้อ่านไบเบิลตั้งแต่ อยากที่จะศึกษาด้านกฎหมาย แต่ต่อมาก่อนจบการ
็
ิ
ึ
่
ี
เด็ก ในภายหลังก็ได้เล่าว่ามีอิทธิพลต่อเขาอย่างมาก ศกษากได้เปลยนใจ งานของชาร์ลส์ ดาร์วนเป็นที ่
ี
ี
อันท่จริงยังคงเป็นท่สงสัยว่าในความหมายของฟรอยด์ โจษจันมาก ณ เวลาน้น และฟรอยด์ก็เป็นหน่งใน
ึ
ั
หมายถึงอิทธิพลในเชิงศาสนา จริยธรรม หรือในเชิง ผู้หลงใหลช่นชม งานเหล่าน้ได้เปิดให้เขาเข้าใจโลก
ี
ื
ี
ประวัติศาสตร์ (อ่านเพิ่มเติมในบทที่ 18) อย่างถึงแก่นมากข้น ฟรอยด์ยอมรับว่าท่จริงแล้ว
ึ
แม้นในช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขาน้น ครอบครัว เขาก็ไม่ได้อยากจะเป็นหมอ แต่เขาเพียงสนใจใคร่รู้
ั
ไม่ได้ร�่ารวยมากมาย แต่พ่อก็ยังยืนยันเสมอว่าจะให้ เกี่ยวกับมนุษย์ สุดท้ายก่อนจบออกจากโรงเรียนเขา
ฟรอยด์ได้เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองโดยไม่ต้อง ได้เลือกเรยนแพทย์หลังได้ฟังบทความของเกอเธ่ว่า
ี
ด้วยธรรมชาติ
6 โปรเตสแตนต์สายมาร์ติน ลูเธอร์-ผู้แปล
อพาร์ตเมนต์ที่ฟรอยด์เคยอาศัยในเวียนนา
27
28
ค�ำอธิบำยประกอบจดหมำย หน้ำ 28-29:
ผลการเรียนหรือใบจบการศึกษาระดับ
Matura ในปี 1873 ของฟรอยด์ แสดง
ให้เห็นถึงวิชาและผลการเรียนระดับดีเด่น
ในทุกวิชา
29
เข้าโรงเรียนแพทย์
1
รอยด์เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเวียนนาในปี 1873 ตริเอสเต (Trieste) การให้ทุนน้เป็นผลจากคุณภาพ
ี
ี
ฟเมื่ออายุได้ 17 ปี ความเปิดกว้างทางวิชาการ งานท่ดีของฟรอยด์ โดยงานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับอวัยวะ
�
ในมหาวิทยาลัยทาให้เขาสามารถไขว่คว้าตามความ เพศของปลาไหล ฟรอยด์ต้องผ่าปลาไหลถึง 400
ู
ี
่
ั
ั
ึ
ั
ิ
่
ั
่
ึ
สนใจทกว้างขวางของเขาได้ เขายอมรบว่าเขาชอบ ตว และได้เป็นผ้ค้นพบอวยวะหนงซงสนนษฐานว่า
�
ี
ี
มากกว่าท่จะจมจ่อมอยู่กับเฉพาะสาขาท่สาคัญต่อ อาจเป็นลูกอัณฑะท่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยัง
ี
ั
การจบแพทย์ แม้ว่าน่นจะทาให้ต้องใช้เวลาเกินไป ปราศจากซ่งหลักฐานท่ชัดเจน ฟรอยด์ไม่พอใจเอา
ี
ึ
�
ี
กว่าที่จ�าเป็นถึง 3 ปี มากๆ กับข้อสรุปท่ไม่ลงตัวน ช่วงท่เขาเดินทางไป
ี
้
ี
ใน 3 เทอมแรกฟรอยด์เลือกเรียนหลากหลาย ตริเอสเตในหน้าร้อน เขาจึงไปจดจ่ออยู่กับการเรียน
สาขาท่แตกต่างกันไป และในช่วงหน้าร้อนของปี ชีววิทยาโดยเน้นหนักด้านสัตววิทยา
ี
1875 กเรมเรยนสาขาแตกแขนงออกไปอก แทนท ฤดูใบไม้ร่วง ปี 1876 ฟรอยด์ได้รับการตอบรับ
่
ี
ี
ิ
ี
็
่
�
จะเรียนสัตววิทยาสาหรับนักศึกษาแพทย์ เขากลับ ให้เข้าร่วมสถาบันสรีรวิทยาในฐานะ famulus หรือ
ั
ี
ั
ั
ี
้
ไปลงเรยนสตววทยาโดยตรง ทงยงได้ลงเรียนใน นักศึกษาวิจัย สถาบันน้มีแอนสท์ บรูคเกอ (Ernst
ิ
ิ
วิชาท่เกินจาเป็นอย่างย่งอย่างฟิสิกส์ ปรัชญา และ Brücke; 1819-1892) ซึ่งต่อมาสามารถนับได้ว่าคือ
�
ี
�
สรีรวิทยา ปีต่อมาก็เรียนลึกลงไปอีกในรายวิชา ครูคนสาคัญท่สุดในชีวิตของฟรอยด์ ฟรอยด์ได้เข้าฟัง
ี
ชีววิทยาท่ต้องเรียน 10 ช่วโมงต่อสัปดาห์ ในห้อง บรรยายด้านสรีรวิทยาของบรูคเกอต้งแต่เทอมแรก
ี
ั
ั
ปฏิบัติการสัตววิทยาของศาสตราจารย์คาร์ล เคลาส์ ฟรอยด์จ�าได้ว่าหลังจาก 3 ปีที่มหาวิทยาลัย เขารู้สึก
(Karl Claus; 1835-1899) ควบคู่ไปกับการลงเรียน ว่าในท้ายท่สุดเขาก็ได้พบกับความพึงพอใจจากการ
ี
สรีรวิทยา กายวิภาคศาสตร์ และปรัชญา ได้ร่วมแล็บของบรูคเกอ เขายังให้ความนับถือกับทั้ง
ิ
มีนาคม 1876 เขาได้เร่มต้นงานวิจัยแรกในชีวิต บรูคเกอและผู้ช่วย ซิกมุนด์ เอกซ์เนอร์ (Sigmund
โดยคาร์ล เคลาส์ได้ให้เงินวิจัยในการศึกษาท่ศูนย์ Exner; 1846-1926) และแอนสท์ ฟอน ไฟลเชิล
ี
ปฏิบัติการด้านสัตววิทยาของมหาวิทยาลัย ท่เมือง มาร์คโซว์ (Ernst von Fleischl-Marxow; 1846-
ี
1891)
บรูคเกอเป็นคนเคร่งเครียดและเคร่งขรึม แม้
จะเป็นคนมีเหตุผลและเคร่งครัด แต่ก็รู้จักเห็นอก
เห็นใจลูกศิษย์ลูกหา ให้ความยอมรับในแนวคิด เป็น
ผู้ให้กาลังใจและสนับสนุนในความสามารถ ต่อให้
�
บางคร้งเขาไม่ได้เห็นด้วยกับลูกศิษย์เสียทุกคร้งไป
ั
ั
ปี 1840 บรูคเกอและเอมิล ดู บัวส์ เรย์มงด์ (Emil
du Bois-Reymond; 1818-1896) ร่วมกับเฮอร์มันน์
เฮล์มโฮลทซ์ (Hermann Helmholtz; 1821-1894)
ี
ั
1 ตริเอสเต (Trieste) เป็นเมืองท่าท่ต้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ
มหาวิทยาลัยเวียนนาในศตวรรษที่ 19
ประเทศอิตาลี
30
โยเซฟ บรอยเออร์
(Joseph Breuer; 1842-1925)
ฟรอยด์ได้รู้จักกับบรอยเออร์
ต้งแต่เม่อคร้งท่อยู่ในแล็บของ
ั
ื
ี
ั
บรูคเกอ โดยบรอยเออร์เปน
็
หมอผู้โด่งดังในเวียนนา
โดยทาการวิจัยเก่ยวกับ
�
ี
สรีรวิทยาของระบบหายใจ
ึ
และหลอดคร่งวงกลม
(semicircular canal) ในหู
บรอยเออร์เป็นบุคคลสาคัญในชีวิต
�
ื
ของฟรอยด์ เป็นท่ช่นชมของฟรอยด์ท้งในด้านภูมิปัญญา
ั
ี
�
ู้
ความร ความเข้าอกเข้าใจ และคอยให้คาปรึกษาอยู่เสมอ
ท้งยังช่วยในการตัดสินใจคร้งสาคัญในชีวิตของฟรอยด์
�
ั
ั
บรอยเออร์มักจะให้ฟรอยด์ติดตามไปดูการรักษาของ รูปบน: ซิกมุนด์ เอกซ์เนอร์ (Sigmund Exner; 1846-1926)
�
เขาในวอร์ด และยังได้ส่งคนไข้ไปให้เมื่อฟรอยด์มีคลินิก นักสรีรวิทยาชาวออสเตรีย เขาได้ทางานกับบรูคเกอที่เวียนนา
ี
ของตนเอง ต่อมาเม่อฟรอยด์ประสบปัญหาทางการเงิน กับเฮล์มโฮลทซ์ท่ไฮเดลแบร์ก ต่อมาได้เป็นผู้ช่วยของบรูคเกอ
ื
ในสถาบันสรีรวิทยา และสืบทอดต�าแหน่งศาสตราจารย์และ
อย่างหนักก็เป็นผู้ให้ฟรอยด์ได้หยิบยืมเงินอยู่เสมอๆ ใน ผู้อ�านวยการสถาบันจากบรูคเกอในปี 1891
ั
ื
ทศวรรษ 1890 ความเป็นเพ่อนของท้งสองจืดจางลงเม่อ ื
ฟรอยด์ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องเพศ
รูปล่ำง: ภาพสเก็ตช์ของไขสันหลังปลาปากกลมโบราณ
โดยฟรอยด์ จะเห็นถึงรายละเอียดในงานวิทยาศาสตร์ช้นแรก
ิ
่
้
ุ
ิ
ั
และคารล ลดวก (Carl Ludwig; 1816-1895) ไดกอตง ของฟรอยด์ แสดงถึงเซลล์ท่เขาต้องศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์
้
์
ี
โรงเรียนการแพทย์ของเฮล์มโฮลทซ์ หลักการในการ อยู่วันละหลายชั่วโมง
ิ
ี
ิ
่
่
้
่
ิ
ี
่
ศกษาสงมชวตตางๆ เรมจากทนและไดสงอทธพลตอ
ิ
ี
่
ิ
่
ึ
่
ี
ิ
ความคดของนกสรรวทยาและเหลาครผประสาทวชา
ิ
ั
ู
ู
่
้
ี
ิ
ี
�
วิทยาศาสตร์ในเยอรมน ส่วนสาคัญของสรีรวิทยา
ในแบบฉบับของบรูคเกอคือบทบาทของแรงทาง
ื
ิ
กายภาพในส่งมีชีวิต เขาสนใจในเร่องของวิวัฒนาการ
ั
ิ
ท่เช่อว่า คน สัตว์ พืชน้นล้วนแตกแขนงจากส่งเดียวกัน
ี
ื
ี
โดยความแตกต่างของสิ่งเหล่าน้เป็นผลมาจากการ
พัฒนา แม้ว่าทฤษฎีของดาร์วินยังเป็นที่ถกเถียงกัน
ื
อยู่มาก แต่บรูคเกอยังคงเดินหน้าศึกษาความเช่อม
ิ
โยงระหว่างส่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม
ระหว่างสปีชีส์ และความคล้ายคลึงท่ซ่อนเร้นอยู่ใน
ี
ความหลากหลายภายนอกของสปีชีส์ต่างๆ
ฟรอยด์ได้รับหน้าท่ในการศึกษาจุลกายวิภาค
ี
ศาสตร์ของเซลล์ท่พบในไขสันหลังของปลาปากกลม
ี
โบราณซ่งมีขนาดใหญ่และยังไม่มีการจาแนกชนิด
ึ
�
�
เขาประสบความสาเร็จในการระบุได้ว่าเป็นเซลล์ของ
ื
ปมประสาทท่เป็นจุดเช่อมต่อระหว่างวิวัฒนาการของ
ี
31
ระบบประสาทของสัตว์ชั้นสูงและสัตว์ชั้นต�่า การค้น รูปวาดโดยฟรอยด์ในผลงานวิจัยยาว 86 หน้า เรื่องไขสันหลัง
ของปลาปากกลมโบราณ รายละเอียดของภาพแสดงถึงความ
ี
ื
�
พบน้เป็นการค้นพบท่สาคัญ ด้วยก่อนหน้าเช่อว่าไม่ม ี เอาใจใส่อย่างสูงและความหลงใหลในการทางานในห้อง
ี
�
ั
ื
ั
จุดเช่อมของวิวัฒนาการของสัตว์ช้นสูงและสัตว์ช้นตา ่ � ปฏิบัติการ
�
้
ี
น ความสาเร็จของฟรอยด์เกิดจากการศึกษาและแปล พัฒนาทางความคิดและเส้นทางอาชีพของฟรอยด์นา �
ผลอย่างพิถีพิถัน ในงานวิจัยขนาด 86 หน้านี้มีความ มาสู่ความตื่นตาตื่นใจต่อบรูคเกอ ทั้งที่จริงแล้วหลัก
ล�้าหน้าทั้งในเชิงเนื้อหาและการน�าเสนอ การท่ฟรอยด์นามาใช้พัฒนาทฤษฎีทางสรีรวิทยา
ี
�
ี
งานวิจัยช้นต่อมาว่าด้วยระบบประสาทของกุ้ง ของเขาน้น เป็นท่รับรู้กันว่าได้รับอิทธิพลมาจาก
ั
ิ
ี
้
ึ
ั
ี
�
ั
นาจืด โดยศึกษาท้งท่ยังมีชีวิตด้วยกล้องจุลทรรศน์ บรูคเกอน่นเอง ความยากข้อหน่งท่ฟรอยด์ประสบ
ี
ึ
ี
�
ชนิดใหม่ซ่งเป็นเทคนิคท่ค่อนข้างท้าทาย แม้งานน ในงานคือการท่ต้องนาหลักการเหล่าน้มาใช้กับ
้
ี
ี
ี
ดูจะออกไปในเชิงกายวิภาค แต่เขาก็ได้ให้ข้อเสนอ ปรากฏการณ์เก่ยวข้องกับจิตใจ ขณะท่ทางานอยู่
ี
�
ั
แนะในเอกสารงานวจยว่างานนดาเนนการด้วยหวง กับบรูคเกอน้น เขาได้รู้จักกับโยเซฟ บรอยเออร์
ี
ิ
ั
้
�
ั
ิ
�
ิ
ว่าจะเป็นจุดเร่มต้นในการเข้าใจการทางานของระบบ (Joseph Breuer; 1842-1925) ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่มี
ี
ประสาท แนวความคิดของเขาเก่ยวกับเซลล์ประสาท อิทธิพลยิ่งต่ออนาคตของฟรอยด์
�
�
�
และกระบวนการทางานของมันแทบจะนาเขาไปสู่ ในช่วงการทาวิจัยฟรอยด์ศึกษาแพทย์ควบคู่
ู
�
ื
ั
ี
ี
การค้นพบทฤษฎีท่เก่ยวข้องกับกลไกการทางานของ ไปด้วย ดเหมอนว่าฟรอยด์จะไม่ค่อยประทับใจนก
ึ
ทั้งระบบประสาทในองค์รวม แต่ฟรอยด์ไม่กล้าที่จะ ในการเรียนจากเหล่าผู้สอนซ่งมีความโดดเด่นและ
ึ
�
ี
ดาเนินการเพ่อบรรลุผลสุดท้าย ถือได้ว่าเขาได้เสีย เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ แต่ก็มีคลาสหน่งท่เขาสนใจ
ื
ั
โอกาสในฐานะผู้ค้นพบทางวิทยาศาสตร์คร้งสาคัญ เป็นพิเศษ น่นคือคลาสจิตเวชของเธโอดอร์ ไมย์เนิร์ท
ั
�
ั
ยงมีเหตการณ์พลาดโอกาสเช่นนเกดขนกับฟรอยด์ (Theodore Meynert; 1833-1892)
้
ิ
ึ
ุ
้
ี
ี
ื
ี
�
้
อีกในภายหลัง สาหรับเร่องระบบประสาทน ต่อมา การเรียนมความจาเป็นต้องหยุดลงในช่วง
�
์
ี
ู
็
ี
่
ี
่
ิ
ไมกปทฤษฎเซลลประสาทกถกหยบยกขนมาอธบาย ส้นๆ ระหว่างปี 1879-1880 เพราะเขาต้องไปรับ
ิ
ึ
้
ั
ั
เป็นคร้งแรกโดยไฮน์ริช ฟอน วาลไดเยอร์ ฮาร์ทซ์ ใช้ชาติในกองทัพ ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งยากล�าบาก เพราะ
(Heinrich von Waldeyer-Hartz; 1836-1921) ฟรอยด์เพียงต้องกลับมาอยู่บ้านและไม่มีภาระหน้าท ี ่
ี
ื
�
ั
ขณะยังศึกษาอยู่น้นฟรอยด์ได้พัฒนาเทคนิค อ่นใดนอกจากทางานในโรงพยาบาล แต่งานน้ก ็
ั
่
ื
ใหม่ๆ มากมายเพ่อการศึกษาทางสรีรวิทยา การ น่าเบอเอาการ ฟรอยด์จึงแก้ด้วยการแปลหนงสือของ
ื
32
นักปรัชญาชาวอังกฤษ จอห์น สจวร์ต มิลล์ (John
Stuart Mill; 1806-1873) จากภาษาอังกฤษเป็น
ภาษาเยอรมัน
ี
แม้ว่าฟรอยด์จะมีความสนใจท่หลากหลายใน
ี
การเรียนท่มหาวิทยาลัยเวียนนา แต่ก็สามารถผ่าน
การสอบจบในปี 1881 ด้วยผลการเรียนดีเลิศ เขา
ี
�
บอกว่าน่เป็นผลของความจาอันดีเลิศมากไปกว่า
การเตรียมตัวและทบทวนอย่างต่อเนื่อง
�
ั
ฟรอยด์กลบไปทางานให้บรคเกอ โดยทางาน
ู
�
เต็มเวลาเป็นเวลา 15 เดือน ในฐานะผู้สอนแล็บ เขา
ทาการทดลองทางเคมีบ้าง แต่ไม่ได้ประสบผลสาเร็จ
�
�
ี
นัก โดยภาพรวมปี 1882 นับเป็นปีท่เขาประสบความ
ั
�
ี
สาเร็จทางการงานน้อยท่สุด ณ เวลาน้นหากยังคง
ทางานในสายงานผู้สอนแล็บจะมีโอกาสได้เล่อนข้น
�
ั
ื
สู่ระดับศาสตราจารย์ด้านสรีรวิทยาในท้ายท่สุด แต่
ี
ก็ดูเหมือนไม่มีโอกาสสาหรับความก้าวหน้าใดๆ เขา
�
จึงได้ออกจากสถาบันตอนกลางปี 1882
แม้พ่อจะให้อสระในการเลอกงานททาโดยไม่
ื
่
ี
ิ
�
ได้เอาเร่องทางวัตถุมาเป็นตัวตัดสิน แต่บรูคเกอเอง
ื
ได้แนะนาให้ละท้งอาชีพท่ต้องทาวิจัยเพียงอย่างเดียว
ี
�
�
ิ
เพราะด้วยสภาพทางการเงินในครอบครัว เขาควรไป
เรียนหมอเพื่อจะมีรายได้มาเจือจุน ฟรอยด์พยายาม
ิ
่
ั
ั
ี
้
ุ
ุ
ั
ู
ั
หลบหหลับตากบเหตผลข้อนและม่งมนกับงานวจย
ี
่
ั
่
ี
่
ี
ทตนรก เขาหลกเลยงทจะเรยนแพทย์เพราะความ
ี
ี
ไม่ชอบ แต่ก็ทาอย่างน้ได้ไม่นาน ด้วยจานนกับเหตุผล
�
�
ี
ของบรูคเกอในเร่องการเงิน แม้ฟรอยด์จะไม่ได้เป็น
ื
คนใช้จ่ายอะไรมากมาย แต่ก็ยังคงเป็นภาระกับพ่อ
ผู้ซึ่งแก่เฒ่าลงทุกวันและไม่ได้ร�่ารวย และยังมีลูกอีก รูปบน: มาร์ธา แบร์ไนยส์ รูปบนสุด: ศาลากลางเมือง
ึ
6 คน บ่อยครั้งที่ฟรอยด์ต้องหยิบยืมจากเพื่อนๆ แต่ ปี 1884 สองปีหลังจากรู้จัก โอลมุตซ์ (Olmütz) ซ่ง
และได้หม้นหมายกับฟรอยด์ ฟรอยด์ต้องไปทางานเป็น
�
ั
�
เขาก็จ่ายคืนโดยเร็วเสมอ ถ้ายังคงทางานกับบรูคเกอ เวลาหน่งเดือนช่วงเป็นทหาร
ึ
ี
ื
ื
ต่อ เช่อได้ว่าคงต้องหาแหล่งรายได้อ่นมาประคับ กองหนุนท่เมืองเล็กๆ ใน
โอลมุตซ์ แคว้นโมราเวียใน
ประคองชีวิต และแน่นอนว่าจะไม่มีทางมากพอให้ ปี 1886
ึ
เขาได้แต่งงานหรือสร้างครอบครัว ซ่งฟรอยด์ก็ไม่เคย
คิดถึงเรื่องสร้างครอบครัวมาก่อนจนกระทั่งปี 1882
ี
ท่เขาได้พบและตกหลุมรักมาร์ธา แบร์ไนยส์ (Martha
33
Bernays; 1861-1951) แอนสท์ บรูคเกอ
�
�
สุดท้ายเขาก็ยอมตามคาแนะนาของบรูคเกอ (Ernst Brücke; 1819-1892)
โดยเริ่มต้นในฐานะหมอเรซิเดนต์ 3 ปีในโรงพยาบาล
ื
ั
เวียนนา ต่อมาก็ได้เล่อนข้นเป็นหมอ Sekundararzt บรูคเกอเป็นแพทย์และ
นักสรีรวิทยาชาวเยอรมัน
(แพทย์จบใหม่หรือ junior doctors-ผู้แปล) ได้ ผู้ตีพิมพ์งานกว่า 143
ทางานในหลากหลายแผนก ฟรอยด์อาศัยและเรียนร ู้ บทความ เข้ามาอยู่ท ี ่
�
เวียนนาปี 1848 สถาบัน
ั
ี
ึ
งานในโรงพยาบาลอีก 3 ปี โดยได้รับความรู้ในด้าน ท่เขาได้ต้งข้นกลายเป็น
การรักษาจากหลากหลายสาขา ส่วนหลักของโรงเรียนการ
แพทย์ของเฮล์มโฮลทซ์
ช่วง 2 เดอนแรกฟรอยด์ต้องไปอย่ในแผนก ซึ่งสร้างเหล่านักสรีรวิทยา
ื
ู
ช่อดังมากมายในยุคต่อมา
ื
ึ
ี
ื
ศัลยศาสตร์ซ่งเป็นงานท่เหน่อยล้าทางร่างกาย ต่อมา ฟรอยด์ได้วิชาความรู้มากมาย
�
ได้ตาแหน่งแพทย์ฝึกหัดกับคาร์ล วิลเฮล์ม เฮอร์มันน์ จากการบรรยายและการทางานกับบรูคเกอ และได้ ่ ี
�
พัฒนาวิชาจิตวิเคราะห์ของตนเองโดยใช้หลักการท
นอธนาเกล (Carl Wilhelm Hermann Nothnagel; ได้รับการถ่ายทอดจากบรูคเกอ เชอได้ว่าบรคเกอเอง
่
ื
ู
ึ
ื
ึ
1841-1905) ในภาคอายุรศาสตร์ โดยได้รับการ คงจะท่งมากเม่อได้เห็นหน่งในศิษย์รักสามารถเจริญ
ก้าวหน้าจากการท�างานอย่างหนักในแล็บของเขา
�
ช่วยเหลือจากเธโอดอร์ ไมย์เนิร์ทเป็นผู้แนะนาให้
ี
นอธนาเกลน้นอยากให้ลูกศิษย์มีความทุ่มเทและ ด้านน้มากนักในเวียนนา ฟรอยด์คิดว่าจะดีกับท้งงาน
ั
ั
ี
ิ
ทางานวันละหลายๆ ช่วโมง เขาเป็นท่เคารพนับถือ และการเงนของเขา เขาวางแผนท่จะเป็นอาจารย์
ี
ั
�
ของเหล่าลูกศิษย์และคนไข้ ฟรอยด์เคารพนับถือ มหาวิทยาลัยด้านโรคระบบประสาท และจะไปปารีส
นอธนาเกลเช่นกัน แต่ไม่ได้สนใจในการรักษาหรือ เพื่อเรียนกับฌอง มาร์แต็ง ชาร์โคต์
ศึกษาอาการความเจ็บป่วยของคนไข้ของเขา ปีใหม่ปี 1884 ฟรอยด์ย้ายไปยังสาขาวิชา
�
ภายใน 6 เดือนคร่งฟรอยด์กได้ตาแหน่งแพทย์ โรคระบบประสาทหรือ Nervenabteilung แม้ว่าเคส
ึ
็
จบใหม่ในคลินิกของเธโอดอร์ ไมย์เนิร์ท เขาคิดว่า ทางระบบประสาทจะมีเข้ามาที่นี่ไม่บ่อยนัก หัวหน้า
ี
ไมย์เนิร์ทเป็นนักสรีรวิทยาสมองท่เก่งท่สุด แต่อาจ สาขา ฟรันซ์ โชลซ์ (Franz Scholz) ตั้งเป้าที่จะลด
ี
ี
ี
�
ื
ไม่เป็นท่เช่อถือมากนักในสาขาจิตเวช เขาอยู่กับ จานวนผู้ป่วยในให้น้อยท่สุดเท่าท่เป็นไปได้ก็เพื่อลด
ี
ไมย์เนิร์ทได้ 5 เดือน ได้รับประสบการณ์ทางจิตเวช ค่าใช้จ่าย คนไข้ต้องถูกปล่อยให้หิว ใช้ยาราคาถูก
ี
จากในวอร์ดทั้งหญิงและชาย และอ่านหนังสืออย่าง ท่สุด และหอผู้ป่วยก็ถูกปล่อยให้สกปรก ไม่มีแก๊ส
หนักเพื่อจะรักษาได้แม่นย�าตามหลักการทางทฤษฎี ให้ใช้ เมื่อหมอออกตรวจต้องใช้ตะเกียงแทน ฤดูร้อน
ี
ั
�
�
ฟรอยด์ยังคงทางานวิจัยเก่ยวกับระบบ ปีน้นในขณะท่หัวหน้าสาขากาลังลาพักร้อนมีการ
ี
ุ
ประสาทส่วนกลางของมนษย์ระหว่างเป็นแพทย์ ระบาดของอหิวาตกโรค และต้องมีการเรียกแพทย์
ี
ฝึกหัด ได้เขียนงานวิจัยเก่ยวกับก้านสมองส่วนท้าย มาช่วย ฟรอยด์เป็นหมอท่เหลืออยู่เพียงคนเดียวใน
ี
ี
ิ
�
(medulla oblongata) ไมย์เนิร์ทเร่มรู้สึกว่าตัว สาขา เขาทาหน้าท่หัวหน้าสาขาและมีการใช้จ่าย
�
่
ิ
เองอาจจะแก่เกินไปทจะตดตามความก้าวหน้าด้าน อย่างเป็นท่พอใจแม้ภายหลังจะโดนตาหนิจากโชลซ์
ี
ี
ี
�
วิชาการ จึงแนะนาให้ฟรอยด์เต็มท่กับการศึกษา ว่าใช้จ่ายเกินตัว
กายวิภาคของสมองและได้มอบหมายงานสอนของ ความตึงเครียดระหว่างฟรอยด์และหัวหน้ามีมา
เขาแก่ฟรอยด์ ฟรอยด์ปฏิเสธและเลือกท่จะศึกษา อย่างต่อเนอง ทาให้ฟรอยด์ถูกให้ย้ายสาขาในเดือน
่
�
ี
ื
ี
เฉพาะโรคระบบประสาทด้วยยังไม่มีผู้เช่ยวชาญ กุมภาพันธ์ ปี 1885 แม้ว่าฟรอยด์จะร้องขออย่างไร
34
ี
ั
แต่ก็ถูกย้ายไปสาขาจักษุวิทยาอยู่ดี จนกระทั่งเดือน ศึกษาได้ 6 เดือน ฟรอยด์มุ่งม่นกับทุนน้มากด้วย
�
มิถุนายนก็ถูกย้ายไปสาขาตจวิทยา (เกี่ยวกับผิวหนัง) หวังว่าจะทาให้เขาได้เดินทางไปศึกษากับชาร์โคต์
�
ึ
�
ี
ึ
ซ่งเป็นหน่งสัปดาห์ก่อนเขาจะรับตาแหน่งรักษาการ ท่ปารีส ฟรอยด์พยายามอย่างหนักในการทาให้ตัว
ั
้
ื
ั
ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งนอกกรุงเวียนนา เองได้รบเลอกจากการโหวต ทงอาศัยความดความ
ี
ื
ี
ควบคู่ไปกับงานด้านคลินิก ฟรอยด์ยังคงตีพิมพ์ ชอบเก่าก่อนมาโน้มน้าวทุกคนท่มีอิทธิพลเพ่อชักจูง
งานวิจัยท่เก่ยวข้องกับระบบประสาท ในปี 1885 แม้ คณาจารย์ท่านอ่น ทางคณะได้มีการประชุมและไม่
ื
ี
ี
�
เขาต้องถูกย้ายไปย้ายมาตามสาขาต่างๆ เขาก็ยังได้ ประสบความสาเร็จในการตดสินใจว่าใครควรได้รับ
ั
รับการบรรจุเป็นอาจารย์ด้านพยาธิวิทยาประสาท ทุน จึงมีการส่งเรื่องให้อนุกรรมการ 3 ท่าน ซึ่งแต่ละ
โดยพิจารณาจากผลงานตีพิมพ์ การสอบสัมภาษณ์ ท่านจะเป็นผู้ให้ข้อมูลเก่ยวกับผู้สมัครแต่ละคน โดยม ี
ี
ิ
และการบรรยายสาธารณะ ตาแหน่งดังกล่าวเรียก ผู้สมัคร 3 คน ฟรอยด์อยู่ในภาวะกระวนกระวายใจย่ง
�
ี
ึ
ว่า Privatdocent ซ่งมีค่าตอบแทนท่สูง นับเป็น ด้วยเชื่อว่าจะไม่ได้รับทุน แต่ด้วยผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ
�
ก้าวแรกในการทางานมหาวิทยาลัยและเป็นความ ฟรอยด์คือบรูคเกอ ผู้ท่ขอร้องอ้อนวอนให้ฟรอยด์
ี
�
หวังแก่ฟรอยด์ในการใช้การรักษาทางการแพทย์ ชนะทุน ในที่สุดฟรอยด์จึงได้อาลางานโรงพยาบาล
้
ี
เพ่อให้สามารถเล้ยงดูครอบครัวได้ และปี 1885 น และประสบการณ์ด้านการแพทย์อย่างถาวรในปลาย
ื
ี
ี
เองท่ฟรอยด์ได้สมัครทุนการศึกษาต่างประเทศเป็น เดือนสิงหาคม ปี 1885 เพื่อมุ่งตรงสู่ปารีส
ึ
เงิน 600 คึลเดิน (gulden) ซ่งอนุญาตให้ลาไป
2
ี
ึ
ี
2 600 คึลเดิน ประมาณ 7,500 บาท คึลเดินเป็นสกุลเงินท่ใช้กันใน โรงพยาบาลกรุงเวียนนา ท่ซ่งฟรอยด์
ิ
ั
ประเทศเนเธอร์แลนด์มาตั้งแต่ศตวรรษท่ 17 จนกระท่งถึงปี 2002 ได้เร่มต้นงานแพทย์ฝึกหัดในเดือน
ี
ั
ี
ได้เปลี่ยนเป็นสกุลยูโร ตุลาคม 1882 ในการท่จะส่งสม
ประสบการณ์ด้านคลินิกเพ่อจะได้
ื
ท�าการรักษาตามบ้านต่อไป
35
ฟรอยด์ ณ ปารีส
ื
ลาคม 1885 ฟรอยด์ได้ทุนเพ่อการเดินทาง ชาร์โคต์ได้ต้งคลินิกประสาทวิทยาเป็นแห่งแรก
ั
ตุ ไปยังโรงพยาบาลซัลเปตรีแยร์ (Salpêtrière) ในยุโรปเมื่อปี 1882 เขาเป็นที่รู้จักในนาม ‘บิดาแห่ง
ี
ี
ื
่
ึ
ในกรุงปารีส ช่วงปลายศตวรรษท 18 ท่นี ประสาทวิทยายุคใหม่’ ซ่งศึกษาเร่องความเส่อมแข็ง
่
ื
ี
ี
คือโรงพยาบาลท่ใหญ่ท่สุดในโลก สามารถรองรับ ของเนื้อเยื่อและโรคพาร์กินสัน แต่เขาเป็นที่รู้จักกัน
ั
ั
ึ
่
้
ั
ื
่
คนไข้ได้นบหมนคน รวมทงนกโทษซงส่วนใหญ่เป็น เป็นอย่างดีจากโรคฮิสทีเรียและการสะกดจิต
โสเภณีตามท้องถนนปารีสอีกราว 300 คน การปฏิวัต ิ
ั
ไปสู่การรักษาผู้ป่วยทางจิตข้นรุนแรงด้วยมนุษยธรรม
้
ิ
ี
ั
ิ
ั
เริ่มทดลองน�ามาใช้โดยฟิลิปป์ ปีเนล์ เมื่อเขาย้ายมา โรงพยาบาลซลเปตรแยร์ เดมเป็นโรงงานดนปืน จากนน
กลายมาเป็นที่พักพิงของผู้ยากไร้ ผู้ป่วยโรคลมชัก อาชญากร
ี
ึ
จากบิแซ็ตร์ในปี 1795 ซ่งเป็นช่วงท่ฌอง มาร์แต็ง โรคจิต และบรรดาผู้ป่วยทางจิต พระเจ้าหลุยส์ท 14 ทรงสร้าง
่
ี
ี
ี
ี
่
ี
�
ชาร์โคต์ทางานและสอนอยู่ท่น โรงพยาบาล โรงพยาบาลท่โรงงานน้ราวกลางศตวรรษท 16 และสร้างสถาน
่
ี
รับรองพระธุดงค์ (La Hospice de la Salpêtrière) ขึ้นมา
ี
ซัลเปตรีแยร์เป็นท่ยอมรับระดับโลกในด้านจิตเวช ภายหลังในศตวรรษเดียวกัน
36
ปารีสเป็นผู้ให้ชีวิตใหม่แก่ข้าพเจ้า
ิ
ุ
ซกมนด์ ฟรอยด์
ี
ั
่
จนกระท่งศตวรรษท 17 ฮิสทีเรียถูกจัดให้เป็น
ความป่วยที่เกิดข้นกับเพศหญิง โดยสาเหตุมาจาก
ึ
ปัญหาในมดลูก ในศตวรรษท 19 ถูกจัดเป็นความ
่
ี
ี
ี
ผิดปกติท่เก่ยวข้องกับเพศ ชาร์โคต์ได้ศึกษากับคนไข้
ี
ื
ี
อย่างใกล้ชิดเพ่อท่จะสามารถบ่งช้และหาลักษณะ
เฉพาะของความผิดปกติน การศึกษาของเขานาไป
้
ี
�
สู่ความเข้าใจฮิสทีเรียในมุมมองใหม่ๆ สามารถบ่งช ้ ี
ได้ 4 ระดับขั้นของการเป็นฮิสทีเรีย รวมไปถึงอาการ
เล็กน้อยอื่นๆ ก็จัดอยู่ใน 4 ระดับขั้นนี้ด้วย เขาจัดให้ รปบนซ้ำย: ผู้ป่วยโรคฮิสทีเรียในปี 1887 ท่โรงพยาบาล
ู
ี
ฮิสทีเรียเป็นความผิดปกติในระบบประสาท ใน ซัลเปตรีแยร์ ถูกท�าการสะกดจิตหมู่โดยใช้เสียง
บางรายมีการแสดงอาการส่งต่อทางกรรมพันธุ์
ชาร์โคต์ได้ศึกษาความเจ็บป่วยในระบบ รูปบนขวำ: ฌอง มาร์แต็ง ชาร์โคต์ (1825-1893) ให้ความ
สนใจกับความเจ็บป่วยของคนไข้หญิงในโรงพยาบาลซัลเป
ั
ู
็
ั
ื
ประสาทจากผ้เคยประสบกบการบาดเจบร้ายแรง ตรีแยร์ต้งแต่ยังเป็นหมอหนุ่มๆ ต่อมาเม่อมีตาแหน่งท่สูงข้น
ี
�
ึ
�
ี
ี
ี
ในการศึกษาอาการอ่อนแรงจากฮิสทีเรียท่จะปรากฏ ก็ได้ทางานในหน่วยท่เก่ยวข้องกับโรคระบบประสาทของ
โรงพยาบาล เขาเคยกล่าวว่าเขาอาจไม่ได้มีความเป็นนักคิด
ิ
ี
หลงจากเกดความเครยดได้มการสร้างความอมพาต แต่เขาจะเป็นนักสังเกตการณ์มากกว่า เขาใช้เวลาอย่างมาก
ั
ั
ี
เทียมโดยนาการสะกดจิตมาใช้ในโรงพยาบาล ผู้ป่วย ในการสังเกตอาการและรูปแบบร่วมในหมู่คนไข้ของเขา
�
มากพอให้เขาสามารถจ�าแนกชนิดของมันได้
จะถูกให้เพ่งไปยังแสงสว่างๆ จนกว่าจะเกิดการเกร็ง
ตัวของกล้ามเน้อ จึงปิดตาคนไข้เพ่อให้เข้าสู่ภวังค์
ื
ื
แล้วก็ออกแรงกดตรงด้านบนของศีรษะให้เกิดการ
ึ
ึ
ละเมอข้น ซ่งช่วงน้ผู้สะกดจิตสามารถส่อสารกับ
ื
ี
37
�
ผู้ถูกสะกดจิตได้ ชาร์โคต์ประสบความสาเร็จในการ
แสดงให้เห็นว่าอาการอ่อนแรงจากฮิสทีเรียอาจมีผล
มาจากปัจจัยทางจิตวิทยา ภาวะอัมพาตเทียมนี้เป็น
ั
ี
ึ
ส่งเดียวกับภาวะอัมพาตท่เกิดข้นจริงกับผู้ป่วย น่น
ิ
อาจจะหมายความว่าไม่ว่าฮิสทีเรียจะมีสาเหตุจาก
�
อะไรก็ตามก็อาจรักษาและทาให้หายได้ด้วยการปรับ
ท่จิต ชาร์โคต์สรุปว่าผู้ป่วยฮิสทีเรียเท่าน้นท่ถูกสะกด
ี
ี
ั
ิ
้
ี
ื
้
จตได และจากช่อเสยงของเขาในการใชการสะกดจิต
ึ
ทาให้วิธีการน้ถูกบรรจุเป็นส่วนหน่งในกระบวนการ
�
ี
ทางการแพทย์ นอกจากจะพิสูจน์เก่ยวกับการมีอยู่
ี
จริงของฮิสทีเรียแล้ว เขายังพบว่าโรคน้สามารถเกิด
ี
กับผู้ชายได้อีกด้วย
ฟรอยด์กลายเป็นนกเรยนของซลเปตรแยร์
ี
ั
ี
ั
และเป็นหน่งในนักศึกษาต่างชาตจานวนมากของโรง
ึ
ิ
�
ั
ั
ึ
่
ู
ื
พยาบาลในเวลาน้น เขาได้ร้จกชาร์โคต์มากข้นเมอ
เขาเสนอตัวท่จะแปลงานสอนของชาร์โคต์เป็นภาษา
ี
เยอรมัน หลังจากได้ยินชาร์โคต์บ่นว่าไม่สามารถ
ติดต่อคนแปลก่อนหน้าได้และต้องการหาคนมาแปล
ผลงานเล่มใหม่
ฟรอยด์ประทับใจเป็นท่สุดในงานด้านฮิสทีเรีย
ี
ของชาร์โคต์ เม่อเขาได้เห็นการทางานของชาร์โคต์
�
ื
ิ
ฟรอยด์แทบจะท้งความสนใจเดิมด้านกายวิภาค
และการวิจัย โดยมีงานด้านจิตวิทยาและงานคลินิก
มาแทนท ต่อมาภายหลงฟรอยด์ยอมรับว่าแม้
ั
ี
่
ิ
แนวคดบางอย่างของชาร์โคต์จะตกไปหรือไม่เป็น
ี
ท่ยอมรับ แต่ก็ไม่อาจเมินเฉยต่อความสาคัญของ
�
ั
แนวคิดเหล่าน้นได้ ชาร์โคต์ยังคงเป็นต้นแบบของ
ั
ฟรอยด์เสมอท้งในฐานะนักวิทยาศาสตร์และแพทย์
ึ
รูปซ้ำย: แพทย์คนหน่งของชาร์โคต์กาลังถ่ายภาพผู้ป่วย
�
ฮิสทีเรียในปี 1883
38
ื
รูปบน: ภาพบรรยากาศการสอนเร่องฮิสทีเรียโดยชาร์โคต์
ี
ท่ซัลเปตรีแยร์ มีบลองช์ วิทท์แมน (Blance Wittman)
คนไข้ของชาร์โคต์ ถูกนามาสาธิตในการบรรยายท่เป็นท่รู้จัก
�
ี
ี
มากท่สุด โดยในภาพเธอถูกประคองโดยโยเซฟ บาแบงสก ี
ี
(Joseph Babinski) ลูกศิษย์ของชาร์โคต์ ฟรอยด์มีภาพพิมพ์
ของรูปนี้ติดอยู่เหนือโซฟาคนไข้ของตนด้วย
39
ึ
ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาเขาจะไม่ได้เห็นด้วยกับทุก วิทยาซ่งเป็นภาควิชาใหม่ ก่อนกลับมาถึงเวียนนา
ทฤษฎีของชาร์โคต์ ปี 1893 ชาร์โคต์ได้เสียชีวิต ฟรอยด์ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในกรุงเบอร์ลิน โดย
ิ
ิ
ี
ี
ั
ู
่
กะทันหันด้วยวัย 68 ปี ฟรอยด์ได้เขียนถึงการจากไป อาศยอย่ทคลนิกของอดอลฟ์ บากนสก (Adolf
ของชาร์โคต์ด้วยความรักใคร่สรรเสริญในคุณภาพ Baginsky; 1843-1918) เพ่อจะเรียนรู้เก่ยวกับ
ื
ี
ความเป็นครูและนักบรรยาย รวมท้งความสามารถ โรคเด็ก
ั
ื
�
ในการจุดประกายคนรุ่นหลัง และนาไปสู่การสร้าง เม่อกลับมาถึงเวียนนาในเดือนตุลาคมปี 1886
�
ี
กลุ่มแพทย์และผู้ช่วยท่เต็มใจจะอยู่และทางานกับ ฟรอยด์ได้น�าเสนอต่อสมาคมแพทย์ (Gesellschaft
ิ
ี
เขา ฟรอยด์จบประโยคสุดท้ายว่า แม้ความคิดท้งหมด der Ärzte) ของกรุงเวียนนาในส่งท่เขาได้เรียนรู้
ั
ี
ของชาร์โคต์อาจจะยังไม่สมบูรณ์ และแม้ว่าเขาจะ จากชาร์โคต์ โดยได้อ่านงานวิจัยเก่ยวกับโรคฮิสทีเรีย
ประเมินปัจจัยทางพันธุกรรมมากเกินไปในการก่อ ในผู้ชาย การสนับสนุนวิธีการของชาร์โคต์อย่าง
ี
�
ั
ให้เกิดความเจ็บป่วยทางประสาท แต่น่นไม่ได้ทาให้ กระตือรือร้นกลับพบกับการต้อนรับท่เย็นชาจาก
ี
�
เกียรติยศของชาร์โคต์ด้อยค่าลงไปเลย สมาคม จากข้อคิดเห็นท่ว่าไม่ได้นาเสนออะไรใหม่
ี
ก่อนท่ฟรอยด์จะออกจากปารีส เขาได้รับข้อ และการสะกดจิตยังมีข้อน่ากังขาอยู่มาก ฟรอยด์
ี
เสนอตาแหน่งในสถาบันโรคเด็กแห่งแรกของกรุง ถูกเธโอดอร์ ไมย์เนิร์ท (บทท 3) พูดจาเชิงท้าทาย
่
�
ี
เวียนนา โดยสถาบันน้มีความทันสมัยในเวลาน้น ว่าเห็นจะไม่มีทางได้พบชายท่เป็นโรคฮิสทีเรียใน
ี
ั
ี
แม็กซ์ คาสโซวิตซ์ (Max Kassovitz) ขอให้ฟรอยด์ เวียนนาอย่างท่ฟรอยด์ศึกษาพบที่ปารีสเป็นแน่
�
�
ี
ั
�
ั
ทาหน้าท่เป็นท้งผู้อานวยการของภาควิชาประสาท ฟรอยด์รู้สึกได้ถึงการถูกปิดก้นในการทางาน แม้การ
40
ึ
ู
ี
ค้นพบของเขาจะถกต้องเหมาะสม แต่แพทย์อาวโส มีท่ให้บรรยายอยู่ราวหน่งปีในการสอนทางคลินิก แต่
ุ
ี
ในแผนกก็ยังคงไม่ยอมให้เขาร่วมงานด้วย ต่อมา ยังได้บรรยายในสาขากายวิภาคศาสตร์ในห้องท่มีคน
ฟรอยด์ได้พบชายผู้มีอาการ ‘ชาคร่งซีกแบบฮิสทีเรีย’ ฟังพอควร ฟรอยด์เล่าว่าหลังต้องออกจากแล็บ เขา
ึ
ึ
�
่
ั
ุ
นอกโรงพยาบาลและได้นาเสนอต่อสมาคม ซงเป็น กถอนตวออกจากวงวิชาการและไม่สมาคมกบกล่ม
ั
็
ั
ึ
ึ
ู
่
ื
่
เรองน่าชนชม แต่ฟรอยด์ยงคงร้สกได้ถงการไม่เป็น คนเหล่านั้นอีกเลย
ื
ที่ยอมรับ
�
ไม่ช้าหลังการนาเสนอของฟรอยด์ ช่วงปลาย
ปี 1886 เขาก็ถูกตัดออกจากห้องแล็บสรีรวิทยา
ั
สมองโดยไมย์เนิร์ท ความสัมพันธ์ระหว่างท้งสอง รูปหน้ำ 40 และรูปล่ำง: ท่ปารีสฟรอยด์ใช้โคเคนในการกระตุ้น
ี
�
จึงเร่มตึงเครียดข้นภายหลังจากงานวิจัยของฟรอยด์ และช่วยปรับอารมณ์ และทาให้รู้สึกผ่อนคลาย ชาร์โคต์ได้
ึ
ิ
ี
ี
�
ี
ได้รับการตีพิมพ์ และดูจะด้วยเหตุผลน้มากกว่า ทาการทดลองกับสารเสพติดด้วย รูปท่ยุ่งเหยิงน้เป็นฝีมือ
ของชาร์โคต์หลังการเสพกัญชา ต่อมาเขาได้สรุปว่ากัญชา
อ่นใดในการให้ฟรอยด์ออกจากแล็บ ฟรอยด์ไม่ได้ มีส่วนท�าให้เกิดอาการแบบเดียวกับฮิสทีเรีย
ื
41
โคเคน
1884 ระหว่างการศึกษาวิจัยทางคลินิกท ่ ี
ปีโรงพยาบาลเวียนนา ฟรอยด์ได้รับโคเคนจาก
1
บริษัทเคมีภัณฑ์แมร์ค (Merck) ให้ศึกษาความเป็น
ไปได้ในการนามาใช้ทางการแพทย์ โคเคนเป็นสาร
�
สกัดอัลคาลอยด์ในใบของต้นโคคา ซ่งชาวอเมริกาใต้
ึ
มีการน�าใบของต้นโคคามาเคี้ยวกันนับเป็นพันปีแล้ว
ท้งยังรู้ดีในสรรพคุณการบรรเทาปวด การเป็นสาร
ั
กระตุ้น และลดความหิว โคเคนถูกสกัดครั้งแรกโดย
�
นักเคมีเยอรมันในปี 1855 และถูกนามาใช้ทางการ
ี
ิ
แพทย์ต่อมาในโลกตะวันตก ตอนท่ฟรอยด์เร่มศึกษา
สารตัวนี้นั้น มันยังคงไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
ื
ด้วยความพยายามที่จะสร้างเน้อสร้างตัว
ั
ึ
โดยเร็วเพ่อจะได้แต่งงานกับคู่หม้นให้ได้เร็วข้น
ื
ฟรอยด์พยายามค้นหาวิธีหรือยาตัวใหม่เพ่อสร้างช่อ
ื
ื
ิ
จากการเห็นหมอชาวเยอรมันได้เร่มลองใช้โคเคน
2
กับทหารแคว้นบาวาเรีย ฟรอยด์เก็บสารตัวอย่าง
�
โคเคนไว้ด้วยความหวังว่าจะนามาใช้ประโยชน์กับ
ผู้ป่วย โดยคิดว่าไม่น่าจะมีใครท่กาลังคิดใช้งานใน
�
ี
ลักษณะเดียวกัน อุปสรรคแรกที่ฟรอยด์พบคือราคา
ื
ึ
ยาซ่งแพงเกินกว่าท่คาดไว้มาก ฟรอยด์ซ้อมาเพียง
ี
ื
รูปบน: คาร์ล โคลเลอร์ (Karl Koller; 1857-1944) เป็น 1 กรัมและพยายามจ่ายคืนเม่อเขาพร้อม เขาได้
ื
ผู้มีช่อเสียงในด้านการรักษาทางจักษุวิทยาสืบเน่องจากการ ทดลองใช้กับตัวเองและบันทึกไว้ว่า ‘ให้อาการเคลิ้ม
ื
ี
ี
ั
ค้นพบท่ไปเก่ยวข้องกับการใช้โคเคน ท้งยังได้รับฉายาว่า
ื
‘โคคา โคลเลอร์’ จากความเกี่ยวข้องกับโคเคนของเขา ระดับปกติ’ ฟรอยด์ศึกษาผลลัพธ์กับผู้ป่วยคนอ่นท ี ่
มีโรคหัวใจและระบบประสาทอ่อนเพลีย (nervous
รปหน้ำ 43: โฆษณาไวน์ผสมโทนิกฝร่งเศสทาจากใบโคคา exhaustion) เขาพบว่าโคเคนสามารถช่วยลดความ
ู
�
ั
ี
จากปี 1890 คุณสมบัติท่ก่อให้เกิดการเสพติดของโคเคน
ื
ี
ั
ไม่เป็นท่รับรู้อยู่หลายปี โดยได้ถูกใช้เป็นส่วนผสมของท้งยา ผิดปกติในกระเพาะและอาการไอเร้อรัง จากการใช้
ั
ั
�
ั
้
่
ิ
และนาโทนิกช่วงระหว่างปลายศตวรรษท 19 และต้นศตวรรษ สารในปรมาณน้อยกบตนเองยงช่วยรกษาอาการ
ี
ที่ 20
ซึมเศร้าและอาหารไม่ย่อยได้อย่างเห็นผล ฟรอยด์
ื
ี
ิ
เร่มท่จะต่นเต้นกับตัวยาใหม่น้โดยเช่อว่าจะสามารถ
ื
ี
ี
ึ
ี
ั
1 บริษัทเคมีและเภสัชกรรมท่เก่าแก่ท่สุดในโลก ก่อต้งข้นในปี 1668
ื
มีสำานักงานใหญ่ในดาร์มสตัดท์ (Darmstadt) ประเทศเยอรมนี ช่วยเหลือผู้ป่วยได้อีกมากมาย เขาได้แบ่งให้เพ่อน
2 Bavaria เป็นแคว้นที่ตั้งอยู่ในบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
ั
เยอรมนี ผู้ร่วมงาน และน้องสาวทดลองใช้ แม้กระท่งมาร์ธา
คู่หมั้นของฟรอยด์ก็ให้ลองเอาไปใช้อยู่เสมอๆ เพื่อน
42