The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Gypzy Publishing, 2023-09-14 06:35:45

เงินเปลี่ยนโลก FOR MONEY TO CHANGE THE WORLD

นักสัญจรบนหน้ากระดาษ
ผู้แสวงหาความรู้และภูมิปัญญามาบรรณาการนักอ่าน


เงินเปลี่ยนโลก
FOR MONEY TO CHANGE THE WORLD
กิรญา เล็กสมบูรณ์: เขียน
ราคา 250 บาท
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของส�านักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
กิรญา เล็กสมบูรณ์.
เงินเปลี่ยนโลก = For money to change the world.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป,
2566.
248 หน้า.
1. เงินตรา. I. ชื่อเรื่อง.
332.4
isbn 978-616-301-784-0

© ข้อความในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
บรรณาธิการอ�านวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา วันวิสา เขตรดง
อันโตนิโอ โฉมชา ณัฎฐิ์ภัทร์ ศิรพึ่งเงิน
เลขากองบรรณาธิการ : จตุพร นาคใหม่
พิสูจน์อักษร : ณัฎฐิ์ภัทร์ ศิรพึ่งเงิน
รูปเล่ม : เปมิกา ตันติทวีโชค
ออกแบบปก : เฉลิมพันธุ์ ปัญจมาพิรมย์
ผู้อ�านวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จ�ากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดพิมพ์และจัดจ�าหน่ายโดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จ�ากัด เลขที่ 37/145 รามค�าแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร 0 2728 0939 ต่อ 108
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID: @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจ�านวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา ส�านักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939


For money

to change the world


เงินเปลี่ยนโลก

























กิรญา เล็กสมบูรณ์



ค�าน�าส�านักพมพ ์




เงิน คือสิ่งที่ผู้คนดิ้นรนไขว่คว้าเพื่อให้ได้มา

เงิน น�ามาซึ่งความทุกข์ แต่เงินก็น�ามาซึ่งความสุข
เงิน ใช้ท�าลายล้างโลกได้ แต่เงินก็ใช้กอบกู้โลกได้เช่นกัน
เงิน ซื้อเดือนซื้อตะวันไม่ได้ แต่มีเงินก็ใช้ผีโม่แป้งได้

เงิน ไม่ใช่พระเจ้า
แต่ “เงิน” บันดาลให้การลงทุนเกิดขึ้นได้


FOR MONEY TO CHANGE THE WORLD - เงินเปลี่ยนโลก





หนังสือเล่มน้เขียนข้นจากไอเดียท่ว่า ถ้าเราจะเปล่ยนโลก การเงิน

ต้องเปลี่ยนก่อน โดยผู้เขียนพาเราย้อนกลับไปทบทวนประวัติศาสตร์
การเงินโลก วิวัฒน์และพัฒนาการของเงินผ่านประวัติศาสตร์เร่องราว

ต่างๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยภาษาง่ายๆ ประโยคสั้นๆ เหมือนเพื่อน
เล่าให้เพื่อนฟัง

“เรากาลังอยู่ในศตวรรษท 21 ช่วงเวลาแห่งการรับมือกบความ



ไม่แน่นอนและความท้าทายนานัปการ ท้งทางเศรษฐกิจ สังคม และ

สิ่งแวดล้อม”







จากศตวรรษท 21 ผู้เขียนพาเราย้อนเวลากลบไปสู่ศตวรรษท 20
และศตวรรษท 19 อันเป็นการปูทางสู่เร่องราวท้งหมดและเป็นด่ง





ปฐมบทของหนังสือเล่มนี้ที่จะพาผู้อ่านท่องเที่ยวไปในโลกของ “เงิน” ที่มี
ภูมิทัศน์ประวัติศาสตร์เรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เพื่อสืบสาวความเป็นมา







ของโลกอย่างท่มันเป็นในวันน ค้นหาต้นนาท่พาเรามาถึงจุดน วิเคราะห์



และทาความเข้าใจหลากหลายเหตุการณ์ท่เกิดข้นในประวัติศาสตร์ และ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท�าให้เราเป็นแบบเราในปัจจุบัน

“...ร้านกาแฟโจนาธานท่เร่มมีการโพสต์ราคาหุ้นและสินค้า

โภคภัณฑ์ อันเป็นหลักฐานแรกของการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์อย่างเป็น

ระบบในลอนดอนในปี 1698 (ไม่นานหลังจากก่อต้งธนาคารกลางในปี
1694) จนกลายเป็นที่รวมตัวของนายหน้าส่วนใหญ่ในที่สุด”




“ในขณะท่ร้านกาแฟลอยด์สซึ่งต้งอยู่ใกล้แม่นาเทมส์เป็นสถานท ่ ี
พบปะยอดนิยมของบรรดาพ่อค้า กะลาสีเรือ รวมถึงคนท่เก่ยวข้องกับ


ธุรกิจการเดินเรือท้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเงินกู้ นายธนาคาร นาย

หน้า ฯลฯ”
และอีกหลากหลายเรื่องราวเก่ยวกับ “เงิน” ท่ท้งสนุกเพลิดเพลิน



เจริญปัญญา รอท่านผู้อ่านอยู่ในหนังสือเล่มนี้
FOR MONEY TO CHANGE THE WORLD - เงินเปลี่ยนโลก
ด้วยความปรารถนาดี
ส�ำนักพิมพ์ยิปซี


ค�าน�าผู้เขียน





โลกก�าลังเปลี่ยนผ่านในอัตราเร่ง

“เงิน” และวาทกรรมว่าด้วยเงินๆ ทองๆ ก็เปลี่ยนผ่านเช่นกัน
จาก “เงนไม่ใช่พระเจ้า” ส่ “เงนไม่ได้การนตความสข แต่การไม่มี






เงินการันตีความทุกข์”
ใช่แล้ว เงินสร้างทั้งสุขและทุกข์
ทั้งสงครามและสันติภาพ
ทั้งสวรรค์และนรก
เราใช้มัน และมันใช้เรา

เงินพาเรามาถึงจุดวิบัติ แต่ก็อาจเป็นกลจักรส�าคัญในการกู้คืนโลก
ที่ก�าลังจะล่มสลาย



ผู้คนมักกล่าวว่า ประวัติศาสตร์คือการเชื่อมต่อจุด

ถ้าเป็นอย่างนั้น สิ่งส�าคัญอาจไม่ใช่จุดแต่ละจุด หากเป็น “รอยต่อ”
ระหว่างจุดเหล่านั้น

เพราะมันเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเราท�าได้ดีแค่ไหน
ในวันนี้เราก�าลังอยู่ในรอยต่อที่ส�าคัญยิ่งอีกครั้ง

จากวิกฤตการณ์โควิด-19 สู่ระดับเงินเฟ้อท่โลกไม่เคยเห็นในรอบ


หลายทศวรรษ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ท่กาลังเขย่าระเบียบ
โลกอย่างรุนแรง


จากการที่โลกรวมเป็นหนึ่ง สู่การแยกออกอีกครา



และจากอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม ท่ไต่ระดับมาจนถึงจุดท่ไม่มี
วันหวนกลับอีกแล้ว
ค�าถามก็คือ เราจะท�าได้ดีพออีกครั้งหรือไม่ เพื่อที่จุดต่อไปจะไม่ใช่
“จุดจบ” ของโลกใบนี้

ตามมุมมองของนักประวัติศาสตร์ หากไม่มีนิเวศการเงินที่แข็งแรง


และสถาบันการเงินท่เปิดกว้าง การปฏิวัติอุตสาหกรรมก็อาจไม่เกิดข้นใน
อังกฤษ หรือไม่อย่างนั้น มันอาจไม่เกิดขึ้นเลย

เงินบันดาลให้การลงทุนเกิดข้นได้ และการลงทุนไม่ต่างจากการ
ปลูกต้นไม้ อยากได้อะไรต้องปลูกสิ่งนั้น

โลกที่เราอยู่จึงไม่ต่างจากดอกผลที่ได้จากการลงทุนของเรา

ด้วยเหตุน การเงินจึงไม่ได้มีค่าแค่เป็นส่วนหน่งในระบบเศรษฐกิจ


แต่คือเข็มทิศสาคัญโดยเฉพาะในห้วงรอยต่อ ท่จะพาเราเดินตกหน้าผา


หรือขึ้นเรือโนอาห์เพื่อผ่านศตวรรษแห่งความท้าทายร่วมกันได้
ในแบบที่อีลอน มัสก์ หรือ เจฟฟ์ เบซอส แม้จะอพยพตัวเองไปดาว
ดวงอื่นได้ ก็พาเรา “ทุกคน” ไปด้วยไม่ได้
และไม่เคยบอกว่าจะท�า



กิรญา เล็กสมบูรณ์


สารบัญ









Part I: ทุกอย่ำงเริ่มต้นที่ลอนดอน

1. โลกที่ไม่เหมือนเดิม 21
2. ชัยชนะของทุนนิยม 25
3. แบ่งบานจากทุนภาคเอกชน 30

4. จากวัฒนธรรมกาแฟ สู่วัฒนธรรมการเงิน 34
5. ประวัติศาสตร์ที่อยากลบออก 37

6. สถาปนาสถาบัน 40
7. การเงินปฏิวัติ 42

8. Long Depression 46
9. เงินจักรวรรดิ 51

10. สวรรค์ภาษี 55
11. เลขที่ 1209 ถนน North Orange 59
12. วิถีสวิส 64

13. Eurodollar ที่ไม่ใช่เงินสกุลยูโร 69
14. เกาะสวรรค์ 75

15. มั่งคั่งและยากจน 79
16. เชื่อผู้น�า ชาติพ้นภัย 81

17. หนึ่งตารางไมล์ 86
18. หญิงชราแห่งถนนเธรดนีเดิล 92


Part II: ทุกอย่ำงเริ่มต้นด้วยเงิน

19. ธนาคารวิวัฒน์ 103
20. The Medici 108
21. The Fugger 112

22. การเงินสงคราม 116
23. ไบเดน vs กลาส-สตีกัลล์ 120

24. คลินตัน vs แซนเดอร์ส 124
25. ธนาคารเงา 127

26. To trust or Not to trust 132
27. แด่เนื้อโกเบและเครปเค้ก 136

28. พ่อเป็นจอมต้มตุ๋น แม่เป็นผู้เคร่งศาสนา 141
29. United States vs Rockefeller 144
30. ซื้อ-ยืม-ตาย 148

31. ภาพเขียน เรือยอช์ต และนาฬิกาเพื่อน 153
32. Don’t fight the FED 159

33. Fed ที่หมายถึงระบบ 164
34. Main Street vs Wallstreet 167

35. ความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล 171


Part III: เงินปรับ โลกเปลี่ยน

36. The Rockefeller vs ExxonMobil 179
37. เปลี่ยนผ่านโลกการเงิน 184
38. การลงทุนใหม่ 187

39. ต้นสาย vs ปลายทาง 193
40. การเงินสีเขียว 198

41. ความเสี่ยง ความเสี่ยง และความเสี่ยง 202
42. ปิด vs เปิด 207

43. นักฉวยโอกาส 211
44. โลกหมุนได้ด้วยเทคโนโลยี 215

45. ความโปร่งใสเท่านั้นที่จะพาเราไปต่อ 219
46. แมวจับหนู 223
47. One World 227

48. Great Gatsby แห่งเอเชีย 231
49. 2022 235

50. ทุกอย่างเริ่มต้นอีกครั้งที่ลอนดอน 239


ไทม์ไลน์







1189 เลือกตั้งนายกเทศมนตรีซิตีออฟลอนดอนครั้งแรก
1215 ตรากฎบัตรใหญ่แมกนาคาร์ตา

1397 ก่อตั้งธนาคารเมดิชี



1494 พระเจ้าชาร์ลท 8 แห่งฝร่งเศสบุกอิตาลี,
ธนาคารเมดิชีล่มสลาย
1551 เริ่มต้นการส�ารวจทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ก่อตั้งบริษัทร่วมหุ้นแรกของอังกฤษ (และของโลก)

1555 เปลี่ยนชื่อบริษัทร่วมหุ้นแห่งแรกเป็นบริษัทมอสโก
1571 ก่อตั้งตลาดแลกเปลี่ยนในลอนดอน
1600 ก่อตั้งบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ




1602 กอต้งบริษัทอนเดยตะวนออกของดตช์ และตลาดหลกทรัพย ์




แห่งอัมสเตอร์ดัม
1621 ก่อตั้งบริษัทอินเดียตะวันตกของดัตช์
1664 ก่อตั้งธนาคารกลางของสวีเดน
1688-1689 การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ในอังกฤษ
1694 ก่อตั้งธนาคารแห่งอังกฤษ

1698 ร้านกาแฟโจนาธานเร่มโพสต์ราคาหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์

1717 จุดเริ่มต้นอย่างไม่เป็นทางการของมาตรฐานทองค�า
1734 ธนาคารอังกฤษย้ายที่ท�าการไปยังถนนเธรดนีเดิล

1745 อังกฤษเริ่มใช้ธนบัตรฉบับพิมพ์


1789 การปฏิวัติฝรั่งเศสและการก่อสร้างระบบโรงงานสมัยใหม่
เป็นแห่งแรกในอังกฤษ

1789-1848 ยุคแห่งการปฏิวัติ

1791-1811 ก่อต้งธนาคารกลางแห่งแรกของอเมริกาในรูปแบบสถาบัน
การเงินซึ่งมีก�าหนดอายุ 20 ปี



1816-1836 ก่อต้งธนาคารกลางแห่งท่สองของอเมริกาในรูปแบบสถาบัน
การเงินซึ่งมีก�าหนดอายุ 20 ปี
1848 คลื่นการปฏิวัติในทวีปยุโรป, นโปเลียนที่ 3 ขึ้นเป็น

ประธานาธิบดีคนแรกของฝร่งเศส, หนังสือ แถลงการณ์พรรค
คอมมิวนิสต์ ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก

1848-1875 ยุคแห่งทุน
1852 นโปเลียนที่ 3 เปลี่ยนฝรั่งเศสเป็นจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2

1861-1865 สงครามกลางเมืองอเมริกา
1863 อเมริกาออกกฎหมายธนาคารแห่งชาติ

1867 หนังสือ ทุน ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก
1870 สิ้นสุดสมัยนโปเลียนที่ 3, ก่อตั้งสแตนดาร์ดออยล์

1871 รวมชาติเยอรมัน
1873 ปีแห่งความตื่นตระหนก
1875-1914 ยุคแห่งจักรวรรดิ

1882 ก่อตั้งทรัสต์สแตนดาร์ดออยล์
1890 อเมริกาออกกฎหมายต่อต้านการผูกขาดเชอร์แมน

1901 ฝรั่งเศสปฏิรูปภาษีมรดกให้เป็นแบบก้าวหน้า
1906 รัฐบาลอเมริกาย่นฟ้องบริษัทสแตนดาร์ดออยล์ (นิวเจอร์ซีย์)


1907 วิกฤตนิกเกอร์บอกเกอร์
1911 สแตนดาร์ดออยล์ถูกศาลสั่งแยกกิจการ

1913 ก่อตั้งธนาคารกลางอเมริกา (Federal Reserve System)
1914 สิ้นสุดศตวรรษที่ 19 อันยาวนาน และเริ่มต้นสงครามโลก
ครั้งที่ 1

1929 คดีระหว่าง Egyptian Delta กับ Todd, วอลล์สตรีตล่ม
1933 อเมริกาออกกฎหมายกลาส-สตีกัลล์

1934 สวิตเซอร์แลนด์ออกกฎหมายว่าด้วยธนาคาร ก�าหนดให้
การเปิดเผยความลับเป็นความผิดอาญา
1940 ก่อตั้งกองทุนร็อกเกอะเฟลเลอร์บราเธอร์ส

1946 ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษถูกโอนเป็นของรัฐ
1956 วิกฤตการณ์คลองสุเอซ

1957 ค�าวินิจฉัยธนาคารแห่งประเทศอังกฤษระบุให้ธุรกรรมที่

ดาเนินการผ่านธนาคารในอังกฤษ ในนามของผู้ให้กู้และผู้ก ู้
ที่ไม่ได้อยู่ในอังกฤษ ไม่นับว่าเกิดขึ้นในอังกฤษ
1965 ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์

1966 หมู่เกาะเคย์แมนออกกฎหมายเกี่ยวกับธนาคาร ทรัสต์
และการแลกเปลี่ยน
1971 อเมริกายกเลิกมาตรฐานทองค�า

1979 วิลเลียม (บิล) แจงค์โลว์ ได้รับการเลือกให้เป็นผู้ว่าการ
รัฐเซาท์ดาโคตา

1998 การควบรวมกิจการระหว่างซิตีคอร์ปกับทราเวลเลอร์สกรุ๊ป
1999 อเมริกาออกกฎหมายแกรมม์-ลีช-บลิลีย์


2000 เลือกตั้งนายกเทศมนตรีลอนดอนครั้งแรก
2003 เริ่มความพยายามในการขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น

เอ็กซอนโมบิล เพื่อให้บริษัทท�าการศึกษาผลกระทบต่อการ
เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ


2007 เร่มต้นวิกฤตซับไพรม์, เร่มต้นคดีอื้อฉาวของธนาคารยูบีเอส
2007-2008 วิกฤตการเงินโลก
2008 บารัก โอบามา ด�ารงต�าแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา,

บิล คลินตัน จดทะเบียนบริษัทในเดลาแวร์, อเมริกาเริ่มท�า
QE, มาเลเซียก่อตั้งกองทุนความมั่งคั่ง
2010 อเมริกาออกกฎหมายดอดด์-แฟรงก์ และ FATCA

2013 ฮิลลารี คลินตัน จดทะเบียนบริษัทในเดลาแวร์
2014 คณะกรรมการสหภาพยุโรปเริ่มสอบสวนการละเมิดภาษี

ของแอปเปิล
2015 เริ่มต้นความตกลงปารีส, เริ่มต้นคดีอื้อฉาว 1MDB

2016 เปิดเอกสารปานามา
2017 เปิดเอกสารพาราไดซ์, โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามกฎหมาย


ปฏิรูปภาษี, ท่ประชุมผู้ถือหุ้นเอ็กซอนโมบิลผ่านมติให้บริษัท
ท�าการศึกษาผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ,
หลายประเทศเริ่มใช้มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชี

ทางการเงินแบบอัตโนมัติ
2018 อเมริกาออกกฎหมายว่าด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการคุ้มครองผู้บริโภค,
ธนาคารทหารไทยออกกรีนบอนด์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย,


ธนาคารเอชเอสบีซีประกาศว่าจะไม่สนับสนุนเงินทุนให้กับ
เหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่นับตั้งแต่

เดือนเมษายน, รัฐนิวยอร์กยื่นฟ้องเอ็กซอนโมบิล
2019 ยกฟ้องคดีระหว่างรัฐนิวยอร์กและเอ็กซอนโมบิล,
ยื่นฟ้องเชลล์ในเนเธอร์แลนด์, ศาลฝรั่งเศสสั่งปรับยูบีเอส

2020 นาจิบ ราซัก ถูกตัดสินจ�าคุก, ธุรกิจประกันลอยด์สออก
จดหมายขอโทษเรื่องการค้าทาส, การประท้วงในเสฉวนกรณ ี

“ทรัสต์ออฟทรัสต์”, นักเคลื่อนไหวกลุ่มกรีนพีซปิดล้อม
ธนาคารบาร์เคลย์เกือบร้อยแห่งทั่วสหราชอาณาจักร
2021 เปิดเอกสารแพนดอรา, 136 ประเทศลงนามความตกลงใน




การกาหนดอัตราภาษีนิติบุคคลข้นตา, ศาลกรุงเฮกตัดสินให้

เชลล์ลดการปล่อยคาร์บอน, สวิสไลฟ์จ่ายค่าปรับโทษฐาน
ช่วยชาวอเมริกันหนีภาษี
2022 สหราชอาณาจักรยกเลิกมาตรการวีซ่าทองค�าและร่าง

กฎหมายอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ, เริ่มต้นวิกฤตรัสเซีย-
ยูเครน, อีลอน มัสก์ ซื้อทวิตเตอร์, คณะกรรมการบริหาร

เชลล์ถูกยื่นฟ้องในสหราชอาณาจักร
2050 ปีเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย
2065 ปีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของ

ประเทศไทย


Part I: ทุกอย่างเริ่มต้นที่ลอนดอน


1. โลกที่ไม่เหมือนเดิม






เรากาลังอยู่ในศตวรรษท 21 ช่วงเวลาแห่งการรับมือกับความ




ไม่แน่นอนและความท้าทายนานัปการ ท้งทางเศรษฐกิจ สังคม และ
สิ่งแวดล้อม
ไม่ผิดหากจะกล่าวว่า ความท้าทายส่วนใหญ่ที่เราก�าลังเผชิญอยู่นี้
ถูกบ่มเพาะมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 อันเป็นช่วงเวลาที่โลกเห็นการพัฒนา
และเติบโตแบบก้าวกระโดดในทุกด้าน

ไม่ว่าจะเป็นระดับการผลิตและบริโภคท่เพ่มข้นแบบทวีคูณจนเกิด



เป็นวิกฤตสภาพอากาศในวันนี้



การเพ่มข้นของประชากรท่นามาสู่ปัญหาโครงสร้างประชากรอัน

ยากรับมือในปัจจุบัน
สงครามอุดมการณ์ท่จุดความขัดแย้งท่วโลกและการสั่งสมอาวุธ


ร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากน�าออกมาใช้

ไปจนถึงนโยบายเศรษฐกิจท่แผ้วทางความเหล่อมล�าจนใกล้ถึง


จุดเดือด


เมื่อนาทุกอย่างมารวมกัน มันจึงหมายถึงทุกปัญหาท่จะพึงเกิดข้น

ได้ แต่ที่โหดคือมันเล็งยากว่าวันไหนจะตื่นมาเจอกับเรื่องอะไร


เงินเปลี่ยนโลก 21




ไม่แปลกท่นักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจระดับตานานของโลก อย่าง
เอริก ฮอบส์บอว์ม จะนิยามศตวรรษที่ 20 ว่าเป็น “ยุคสุดโต่ง” 1


แต่ศตวรรษท 20 ก็ไม่ใช่ต้นนาท่พาเรามาถึงจุดน ตรงกันข้าม มัน





น่าจะเป็นช่วงเวลาการขยายใหญ่ของทุกอย่างมากกว่า


เพราะหากจะเริมสบสาวความเป็นมาของโลกอยางทมันเปนในวนน ้ ี





เราจ�าเป็นต้องย้อนกลับไปอีกนิด ไปให้ถึงศตวรรษที่ 19 อันเป็นช่วงเวลา
ของการเปลี่ยนผ่านภูมิทัศน์โลกแบบหมดจด

ในแบบท่หากปราศจากนวนิยาย ซีรีส์ หรือภาพยนตร์ย้อนยุค เรา
คงไม่มีวันนึกออกว่าชีวิตประจ�าวันของผู้คนก่อนยุคนั้นมีหน้าตาอย่างไร












ไม่วาจะเป็นเรืองพนๆ อยางอาหารการกนและเส้อผาหนาผม สเรอง


ท่เปล่ยนความสัมพันธ์และการอยู่ร่วมกันของทุกคนอย่างการเข้าสู่ความ

เป็นเมือง ความเป็นอุตสาหกรรม ระบบตลาด ระบบการผลิต และระบบ
การบริโภค ที่ท�าให้เราเป็นแบบเราในปัจจุบัน
นักเขียนชื่อดังอย่างปีเตอร์ ดรักเกอร์ เคยอธิบายภาพการเปล่ยน

ผ่านนี้แบบง่ายๆ ในหนังสือ Post-capitalist Society (1993) ของเขาว่า
มันคือการเปล่ยนจากภาพท่เราเห็นในบทประพันธ์ของเจน ออสเตน ซึ่ง



แทบไม่มีเร่องราวเก่ยวกับชีวิตในโรงงานอุตสาหกรรมหรือนักการธนาคาร


ไปเป็นภาพท่เห็นในบทประพันธ์ของชาร์ลส์ ดิกเคนส์ ท่มีทุนนิยม โรงงาน

และเครื่องจักรเป็นแกนหลักของเรื่องราว
หากเปรียบเป็นภาพยนตร์ ศตวรรษท 19 ก็น่าจะเป็นภาพยนตร์



มหากาพย์ท่มีโครงเร่องซับซ้อนและตัวละครหลายรุ่น อย่างท่ฮอบส์บอว์ม


น�ามาบันทึกไว้ในหนังสือไตรภาค “ศตวรรษที่ 19 อันยาวนาน” ของเขา
2
1 The Age of Extreme
2 The Long 19 Century
th
22 FOR MONEY TO CHANGE THE WORLD



ศตวรรษท 19 ตามเวลาปฏิทินท่เราคุ้นเคยน้นหมายถึงช่วงเวลา



ระหว่างปี 1801 ถึง 1900 แต่ศตวรรษที่ 19 อันยาวนานนี้จะนับตั้งแต่ปี
1789 ไปสิ้นสุดลงในปี 1914

น่นคือ เร่มจากการปฏิวัติฝร่งเศสไปจนถึงการอุบัติข้นของ



สงครามโลกครั้งที่ 1

ในภาพใหญ ส่งท่เกิดข้นในช่วงเวลาราว 125 ปีก็คือ การปฏิวัต การ




แบ่งบานของทุนนิยม และความเกรียงไกรของจักรวรรดินิยม


สามส่งท่กลายเป็นธีมหลักในแต่ละภาคของศตวรรษท 19 อัน


ยาวนาน


เร่มจากภาคแรก ซึ่งเล่าไว้ในหนังสือเล่มแรกท่มีชื่อว่า ยุคแห่งการ
ปฏิวัติ: ยุโรป 1789-1848 หากเทียบกับประวัติศาสตร์ไทยก็ราวต้น
3
รัชกาลที่ 1 ถึงปลายรัชกาลที่ 3


ปี 1789 น้นไม่เพียงเป็นปีท่เกิดการปฏิวัติฝร่งเศส แต่หากอ้างอิง


ฮอบส์บอว์ม มันยังเป็นปีท่มีการก่อสร้างระบบโรงงานสมัยใหม่เป็นแห่ง
แรกในแถบแลงคาเชอร์ของอังกฤษด้วย


ระบบโรงงานสมัยใหม่น้ถือเป็นหลักไมล์สาคัญของการปฏิวัต ิ
อุตสาหกรรม
ค�าว่า “การปฏิวัติ” ในที่นี้จึงหมายถึงการปฏิวัติคู่ขนาน นั่นคือ การ

ปฏวตทางการเมืองในภาคพนทวปยโรป และการปฏวตอุตสาหกรรมท ี ่









เริ่มต้นบนเกาะอังกฤษ
โดยเรื่องราวในภาคแรก หรือระหว่างปี 1789 - 1848 ก็คือช่วงเวลา



แห่งความยุ่งยากทางการเมือง รวมถึงสงครามนโปเลียนซึ่งกินพ้นท่ท้ง
3 The Age of Revolution: Europe 1789-1848, ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1962
เงินเปลี่ยนโลก 23


ยุโรป และในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาแห่งการเกิดขึ้นของสิ่งใหม่ๆ ที่
จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนไปตลอดกาล


ยุคแห่งการปฏิวัติคู่ขนานน้สิ้นสุดลงในปีท่ประวัติศาสตร์บันทึก



ไว้ว่าเป็นปีแห่งการปฏิวัติในยุโรป ท้งในเยอรมน อิตาลี ออสเตรีย และ
แน่นอนว่าในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการปฏิวัติท่นาไปสู่การสถาปนาสาธารณรัฐ


ฝรั่งเศสที่ 2
หนังสือทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง แถลงการณ์พรรค
คอมมิวนิสต์ ที่คาร์ล มาร์กซ์ เขียนร่วมกับ ฟรีดริช เองเกลส์ ก็ได้รับการตี
พิมพ์เป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 1848 นี้เช่นเดียวกัน


แต่หากจะถามว่าใครได้คะแนนมากกว่ากันในเกมน ก็น่าจะเป็น
อังกฤษและการปฏิวัติอุตสาหกรรมท่ส่งผลต่อการเปล่ยนภูมิทัศน์ทาง


เศรษฐกิจและสังคมของโลก และพาเราเดินทางมาจนถึงจุดที่ต้องเผชิญ
ความท้าทายในวันนี้

วันท่เรากาลังก้าวสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะเปลี่ยนโลก

แบบหมดจดอีกครั้ง
























24 FOR MONEY TO CHANGE THE WORLD


2. ชัยชนะของทุนนิยม








ฝร่งเศสกับอังกฤษ หรือจะบอกว่าปารีสกับลอนดอนก็ได้น้น เป็นไม่

ต่างจากสองผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ยุโรป
แม้จะไม่ใช่เมืองท่เก่าแก่ท่สุดในโลก แต่ท้งสองเมืองก็มีประวัติศาสตร์




อันยาวนาน ปารีสน้นแก่กว่านิดหน่อย แต่รวมๆ แล้วก็เรียกได้ว่าเป็นเมือง
เก่าแก่สองพันปีด้วยกันทั้งคู่
ความสัมพันธ์ของทั้งสองเมืองนี้ หากจะอธิบายโดยใช้ทฤษฎีความ

สัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็ต้องบอกว่าเป็นความสัมพันธ์ท่ใช้ท้งการควบคุม

และการหมั้นหมายร่วมมือต่อกันและกันมาโดยตลอด
ห�้าหั่นกันก็บ่อย ญาติดองกันก็มาก สู้กันเป็นร้อยปีก็มีมาแล้ว



แต่การชนะหรือพ่ายแพ้ของฝ่ายใดฝ่ายหน่งไม่เคยส่งผลต่อคนท้ง
โลกได้เท่ากับชัยชนะของการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เริ่มต้นจากอังกฤษ


เม่อผ่านพ้นการปฏิวัติในปี 1848 ฝร่งเศสเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐท 2


โดยมีนโปเลียนท 3 เป็นประธานาธิบดีคนแรกและคนเดียว (โดยการ




เลือกของประชาชน) ก่อนท่เขาจะยึดอ�านาจตนเองและเปล่ยนฝรั่งเศส
เป็นจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2 ส่วนตัวเขาเองขึ้นเป็นจักรพรรดินโปเลียนที่ 3

ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าในการคืนความย่งใหญ่ให้ฝรั่งเศส



กว่า 20 ปีแห่งการครองอานาจของนโปเลียนท 3 จึงเป็นเวลาของการ
พัฒนาครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเมกโอเวอร์กรุงปารีสจนกลายเป็นเมือง



ทสวยงามขนชืออย่างทเหนในปัจจุบน การปฏิรปเศรษฐกจและสงคมทมง
ุ่











เงินเปลี่ยนโลก 25


เน้นไปทางเสรีนิยม ในขณะเดียวกันก็ใช้ประโยชน์จากแนวคิดชาตินิยมท ่ ี
ขยายใหญ่ในขณะนั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพให้กับอ�านาจของตนเอง



การก้าวสู่ยุคนโปเลียนท 3 จึงไม่ต่างจากการควบรวมการปฏิวัติคู่

ขนานให้เข้าสู่เส้นทางเดียวกัน น่นคือการสั่งสมทุน และเปล่ยนผ่านยุโรป

จากยุคปฏิวัติสู่ยุคปฏิรูป
แม้นโปเลียนท 3 จะเก็บกวาดความยุ่งยากในช่วงต้นของการข้น



สู่อานาจด้วยมาตรการแข็งกร้าว แต่กระแสการปฏิวัติทางการเมืองก ็

ทาให้เขารู้แก่ใจว่าผู้คนไม่ต้องการการปกครองแบบปราศจากการมีส่วน

ร่วมของประชาชน และบรรยากาศท่เปิดกว้างต่อการค้าเสรีจะส่งผลดีต่อ

ฝรั่งเศสและอ�านาจของเขามากกว่า


นโยบายของนโปเลียนท 3 ส่งผลต่อความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม










นอกเกาะอังกฤษ ซึงเป็นสิงทบอกให้ร้ว่าเราเดนทางมาถงยคทสองใน
ไตรภาคศตวรรษที่ 19 อันยาวนาน ซึ่งมีชื่อว่า ยุคแห่งทุน: 1848-1875
4
เทียบกับประวัติศาสตร์ไทยคือปลายรัชกาลที่ 3 ถึงต้นรัชกาลที่ 5

ฮอบส์บอว์มให้เหตุผลไว้ว่ายุคแห่งทุนน้คือยุคท่ทุนนิยมพัฒนา

ตนเองจนก้าวขึ้นเป็น “ค�าศัพท์หลัก” ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองของ
โลก และเป็นธีมประวัติศาสตร์โลกหลังยุคแห่งการปฏิวัติ







อกทงช่วงเวลานยงเป็นเวลาทมาร์กซ์เผยแพร่ผลงานวพากษ์ระบบ


ทุนนิยมชิ้นเอกของเขาในชื่อ ทุน (1867)
ต้องท�าความเข้าใจก่อนว่า ทั้งการปฏิวัติอุตสาหกรรมและทุนนิยม
น้นไม่ได้มาเร่มต้นท่ศตวรรษท 19 อันยาวนาน ประวัติศาสตร์ถือเอา







คร่งหลังของศตวรรษท 18 เป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นของการปฏิวัต ิ

4 The Age of Capital: 1848-1875, ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1975
26 FOR MONEY TO CHANGE THE WORLD


อุตสาหกรรม ส่วนทุนนิยมนั้นบ่มเพาะกันมาก่อนหน้านั้น
ใจความส�าคัญของทุนนิยมก็คือ การลงทุนโดยเอกชนเพื่อแสวงหา

ก�าไรในตลาดเสรี
และส่งท่เกิดข้นในศตวรรษท 19 อันยาวนานก็คือ การทางานร่วม






กันของการปฏิวัติอุตสาหกรรมและทุนนิยมอย่างขยันขันแข็งและทรง



ประสิทธิภาพ ในแบบท่หากปราศจากส่งหน่ง อีกส่งหน่งก็จะแบ่งบานไม่ได้





หากจะสืบสาวท่มาท่ไปของทุนนิยม เราอาจต้องย้อนกลับไปสารวจ
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งส�าคัญบนเกาะอังกฤษ
เพราะความจริงก็คือ ใช่ว่าอังกฤษไม่ต้องเผชิญกับการปฏิวัต ิ
ทางการเมืองอย่างในภาคพ้นยุโรป ตรงกันข้าม เป็นอังกฤษท่มีพัฒนาการ


ทางการเมืองที่ก้าวหน้ากว่าเพื่อนชาวภาคพื้นยุโรปตลอดมา


โดยหมุดหมายสาคัญก็คือ “การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์” ซึ่งเกิดข้นในช่วง
5
ปลายปี 1688 ต่อเนื่องถึงปี 1689 (ตรงกับรัชสมัยพระเพทราชา)

การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์น้นอกจากจะถือเป็นการส้นสุดของระบอบ


สมบูรณาญาสิทธิราชย์ของอังกฤษ และเปล่ยนให้กษัตริย์เป็นประมุข


ภายใตรัฐธรรมนูญแลว ยงเปนจุดเรมต้นของระบบการเงินใหม่ทจะส่งผล







ต่อการสงสมทนของเอกชน เพอรองรบความต้องการเงนทนในการสร้าง








โรงงานและเคร่องจักรซึ่งเป็นแกนของระบบการผลิตและการค้าแบบใหม่
ในวันที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมมาถึง

ระบบการเงินใหม่น้รวมถึงการก่อต้งธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ


หรือธนาคารกลางอังกฤษท่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน การลดอัตราดอกเบ้ย

การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินอย่างหุ้นและหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ตลอด
5 Glorious Revolution หรือ The Revolution of 1688
เงินเปลี่ยนโลก 27


จนการขยายตัวของธนาคารและสินเชื่อที่ให้แก่พ่อค้าและนักธุรกิจ
ไม่นับการออกกฎหมายท่เปิดให้การจัดระเบียบกรรมสิทธ์ทรัพย์สิน



ใหม่ ซึ่งส่งผลต่อการเกิดข้นของนักประดิษฐ์คิดค้นและผู้ประกอบการใหม่
จ�านวนมาก


และไม่นับกฎหมายทออกมาเพอสนบสนนการผกขาดการค้า





ระหว่างประเทศ เพื่อให้อังกฤษได้เปรียบเพื่อนบ้านชาวยุโรป
ต้องยกความดีความชอบให้กับโชคชะตาด้วย เพราะการปฏิวัติอัน
รุ่งโรจน์นั้น ก็คือการปฏิวัติโค่นล้มราชบัลลังก์ของพระเจ้าเจมส์ที่ 2 และ




ส่งไม้ต่อให้กับผู้ท่เป็นท้งหลานชายและลูกเขยของเจมส์ นนคอเจ้าชาย


วิลเลียมแห่งออเรนจ์-นัสเซา จากดินแดนดัตช์ ท่สภาอังกฤษเชิญให้ยก









กาลงมาบกประเทศตวเอง เพอขนเป็นพระเจ้าวลเลยมท 3 แห่งอังกฤษ




ครองบัลลังก์คู่กับราชินีคือสมเด็จพระราชินีนาถแมรีท 2 ซึ่งก็คือลูกสาว

ของเจมส์


ประวัติศาสตร์บันทึกศตวรรษท 17 ว่าเป็นยุคทองของดัตช์ และ
เป็นดัตช์ที่มีการพัฒนาการค้าและทุนนิยมอย่างเป็นระบบมาก่อน การที่

อังกฤษนาเข้ากษัตริย์จากดัตช์จึงเป็นการพ่วงเอาหลายอย่างมาด้วย โดย


เฉพาะพ่อค้าดัตช์ท่พกความรู้เก่ยวกับสถาบันการเงินเข้ามาและมีส่วน
อย่างมากในการช่วยอังกฤษพัฒนาระบบการเงิน

นอกจากน ภาระในการหาเงินมาใช้หน้สาธารณะท่กู้มาทาสงคราม




กับฝรั่งเศสก่อนหน้านั้นก็ถือเป็นโชคชะตาอีกแบบ
เพราะมันเป็นตัวผลักดันส�าคัญให้เกิดการก่อต้งธนาคารกลางดัง


กล่าว เพ่อเป็นแหล่งระดมเงินทุนส�าหรับให้ท้องพระคลังกู้ยืมมาช�าระ
หนี้และท�าสงคราม
28 FOR MONEY TO CHANGE THE WORLD


Click to View FlipBook Version