The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pannika, 2020-10-01 06:17:56

ไอน์สไตน์ ชายผู้พลิกจักรวาล EINSTEIN THE MAN

èĀÐùĀÜ×òéèúèśāÐòÿãāø
ëĈśČùöÖúāÓöāðòĈśČôÿïĈðăêŠÜÜāðāéòòâāÐāòèĀÐüŚāè

ไอน์สไตน์: ชายผู้พลิกจักรวาล
EINSTEIN: THE MAN, THE GENIUS, AND THE THEORY OF RELATIVITY
วอลเตอร์ ไอแซคสัน: เขียน
กิตติศักดิ์ โถวสมบัติ: แปล
ราคา 260 บาท


ALL RIGHTS RESERVED.
Text © Walter Isaacson 2009
Design and illustrations © Carlton Books 2018
Thai translation right © 2020 by Gypsy Publishing Co., Ltd.
© ข้อความและรูปภาพในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์

ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ไอแซคสัน, วอลเตอร์.
ไอน์สไตน์: ชายผู้พลิกจักรวาล = Einstein: the man, the genius, and the theory of relativity.--
กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2563.
168 หน้า.-- (บุคคลสำาคัญ).
1. ไอน์สไตน์, อัลเบิร์ต, ค.ศ. 1879-1955. I. กิตติศักดิ์ โถวสมบัติ, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
925.3
ISBN 978-616-301-725-3

บรรณาธิการอำานวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน์
บรรณาธิการเล่ม : สวิณี แสงสิทธิชัย
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา นันทนา วุฒิ
หัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษร : สวภัทร เพ็ชรรัตน์
ฝ่ายพิสูจน์อักษร : วนัชพร เขียวชอุ่ม สุธารัตน์ วรรณถาวร
พิสูจน์อักษร : พันธุ์นินทร์
รูปเล่ม : วรินทร์ เกตุรัตน์
ออกแบบปก : Wrong design
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
จัดพิมพ์โดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ต่อ 108
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำาหน่าย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด โทร. 0 2728 0939
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID: @gypzy


สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939

ไอน์สไตน์




ชายผู้พลิกจักรวาล





























วอลเตอร์ ไอแซคสัน: เขียน
กิตติศักดิ์ โถวสมบัติ: แปล

สารบัญ EARLY YEARS


ต�ำแหน่งแห่งหนของวิทยำศำสตร์ 10
ก�ำเนิดและปฐมวัย 15
โรงเรียน 20

SWISS YEARS

อำเรำ 24
สถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริค 28
มิเลวำ มำริช 32
ลีเซิร์ล 36
เสมียนจดสิทธิบัตร 41
ปีมหัศจรรย์: ทฤษฎีควอนตัม 47
ปีมหัศจรรย์: ทฤษฎีสัมพัทธภำพพิเศษ 53
ศำสตรำจำรย์ขำขึ้น 58
เอลซำ ไอน์สไตน์ 62

BERLIN YEARS
ทฤษฎีสัมพัทธภำพทั่วไป 68
เหตุบ้ำนกำรเรือน 76
หย่ำและแต่งงำนใหม่ 80
สุริยุปรำคำ 85
ไอน์สไตน์ในอเมริกำ 92
รำงวัลโนเบล 98
กลศำสตร์ควอนตัม 102
ไอน์สไตน์กับศำสนำ 108
กำรก้ำวสู่อ�ำนำจของฮิตเลอร์ 112


PRINCETON YEARS
สู่อเมริกำ 116
ระเบิดปรมำณู 122
กำรควบคุมอำวุธ 128
สิทธิพลเมือง 132
กำรแสวงหำอันไร้จุดจบ 138
อิสรำเอล 142
ควำมหวำดภัยคอมมิวนิสต์ 146
อ�ำลำ 154


ค�ำแปลเอกสำรต่ำงๆ ของไอน์สไตน์ 162
เครดิต 167

ค�าน�าส�านักพิมพ์










ไอน์สไตน์เป็นนักวิทยาศาสตร์ท่ย่งใหญ่ ผู้คนรู้จักเขาด้วยภาพลักษณ์ศาสตราจารย์
สติเฟื่องจนสำมำรถเรียกเป็นไอคอนิกของเหล่ำนักวิทยำศำสตร์ไปเลยก็ได้ ใน
ปัจจุบัน หนังสือชีวประวัติของไอน์สไตน์มีมำกมำย ทฤษฎีสัมพัทธภำพ กลศำสตร์




ควอนตัม เวลำและปริภูม ศัพท์หล่ำน้เรำเห็นได้บ่อย หำกแต่ใครจะรู้ว่ำท่มำท่ไป

ของทฤษฎีเหล่ำน้นมำจำกไหน เพ่อนคู่คิดท่คอยช่วยเหลือไอน์สไตน์อยู่บ่อยๆ คือ



ใคร (ไม่น่ำเช่อว่ำเขำจะโดดเรียนบ่อย) ส่งท่คนส่วนใหญ่มักไม่รู้คือสภำวะจิตใจของ



เขำในแต่ละช่วงชีวิตท่ท�ำงำนวิทยำศำสตร์เป็นอย่ำงไร เขำเศร้ำ เขำร้องไห้บ้ำงหรือ

เปล่ำ หรือแม้กระท่งไอน์สไตน์นับถือพระเจ้ำหรือไม่ และค�ำถำมท่น่ำจะค้ำงคำใจ



ท่สุดคือ เขำคิดอย่ำงไรกับระเบิดปรมำณูของเขำในสงครำมโลกคร้งท 2 ค�ำตอบ


ของค�ำถำมเหล่ำนั้นอยู่ในหนังสือเล่มนี้

















อกหนงสงทสำนกพมพประทบใจเกยวกบหนงสอเลมนคอ รปภำพประกอบ






สวยงำม อธิบำยหลักวิทยำศำสตร์ให้เห็นภำพ มีเกร็ดควำมรู้เล็กๆ เก่ยวกับบุคคล





รอบตวไอน์สไตน์ ทงคนทช่วยผลกดนเขำและคนทต่อต้ำนเขำ เรำร้สกได้ถงตวตน









ของไอน์สไตน์จำกหนังสือเล่มน้ได้มำกกว่ำเล่มอ่นๆ เรำยินดีท่เห็นเขำเกิดมำและ



เศร้ำใจเม่ออ่ำนถึงตอนเขำจำกไป ทำงส�ำนักพิมพ์หวังว่ำนักอ่ำนจะได้เปิดโลกกว้ำง



ไปถึงท่สุด จำกผืนดินถึงจักวำล ซ่งไม่ใช่ค�ำพูดท่พูดเกินจริงแต่อย่ำงใด เพรำะไอน์สไตน์
ได้น�ำทำงให้เรำไว้นำนแล้ว
ส�านักพิมพ์ยิปซี

ค�าน�าผู้แปล








หลังจากความพยายามอย่างหนักหน่วงในการจัดหมวดหมู่ธาตุต่างๆ ตาม

คุณสมบัติทำงเคมีของมัน ว่ำกันว่ำ ดมีตร เมนเดเลเยฟ ค้นพบหลักกำรในกำร

จัดเรียงหมวดหมู่ให้กับธำตุในควำมฝัน วันหน่งในเดือนกุมภำพันธ์ ค.ศ. 1869 เขำ
















หลบคำโตะทำงำนและตนขนมำพบกบคำตอบ นมตทเขำเหนในควำมฝนกลำยเปน





จดก�ำเนิดของ “ตำรำงธำตุ” ในปัจจุบนซ่งเป็นทรู้จักคุ้นเคยกันดีส�ำหรับนักเรยน










ทวโลก ตำรำงธำตนเปนไปตำมกฎพรออดก (the periodic law) ซงระบวำ สมบต ิ





ทำงกำยภำพและสมบติทำงเคมีของธำตุต่ำงๆ จะมลักษณะซำกันเป็นช่วงๆ เม่อ





เลขอะตอมเพ่มข้น กำรค้นพบน้ได้สร้ำงควำมก้ำวหน้ำคร้งใหญ่ให้กับวงกำรเคม ี





เมนเดเลเยฟได้รับกำรยกย่องให้เป็น “บดำแห่งตำรำงธำต” และกลำยเป็นหน่งใน



นักเคมีท่ทรงอิทธิพลคนหน่งของโลก ทว่ำ เขำกลับไม่ได้รับรำงวัลโนเบลซ่งมีกำร


มอบเป็นคร้งแรกใน ค.ศ. 1901 ผลงำนของเขำถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ำ มันเก่ำ

เกินไป




สิบปีก่อนหน้ำ ได้เกิดกำรเปล่ยนแปลงคร้งใหญ่ข้นในวงกำรชีววิทยำ ซ่งต่อ

มำภำยหลังก่อให้เกิดแรงกระเพ่อมที่ส่งผลกระทบในวงกว้ำงอย่ำงไม่อำจหยุดย้ง


ท้งต่อสังคม ศำสนำ และชีวิต หลังจำกกำรเดินทำงส�ำรวจโลกไปกับเรือหลวงบีเกิล
ส้นสุดลง ชำร์ลส์ ดำร์วิน ใช้เวลำกว่ำย่สิบปีในกำรเก็บสะสมรวบรวมข้อมูลจำกส่ง ิ


ท่ตนได้ไปรู้ไปเห็นมำตลอดระยะเวลำเกือบ 5 ปีของกำรเดินทำงเพ่อตกผลึกควำม


คิด และกลั่นกรองออกมำเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่จะเขย่ำโลกไปตลอดกำล วันที่ 24
พฤศจิกำยน ค.ศ. 1859 ดำร์วินก็ให้ก�ำเนิดหนังสือ On The Origin of Species







โดยจำนวนเล่มทพมพ์ออกมำในกำรพมพ์ครงแรกทงหมด 1,250 เล่มขำยหมด





เกล้ยงภำยในวันเดียว เน้อหำหลักของหนังสือเล่มน้กล่ำวถึงทฤษฎีวิวัฒนำกำร
โดยกำรคัดสรรทำงธรรมชำต (theory of evolution by natural selection)

ซ่งสรุปเป็นใจควำมสนๆ ได้ว่ำ ส่งมีชวิตท้งหลำยไม่ได้ถูกสร้ำงข้นมำอย่ำงแยกจำก







กัน แต่มีบรรพบุรุษร่วมกัน แล้วค่อยๆ แยกสำแหรกแตกแขนงไปตำมกำลเวลำโดย
มีกลไกส�ำคัญคือกำรคัดสรรทำงธรรมชำติ
นับจำกวันท่หนังสือ On the Origin of Species ได้รับกำรตีพิมพ์

60 ปีต่อมำก็เกิดกำรเปล่ยนแปลงคร้งส�ำคัญในวงกำรฟิสิกส์ ใน ค.ศ. 1919 ทีมนัก


ดำรำศำสตร์ออกเดินทำงไปท�ำกำรวัดและเก็บข้อมูลสุริยุปรำคำในหลำยประเทศ



ผลกำรศึกษำคร้งน้นท�ำให้หนังสือพิมพ์ London Times ถึงกับพำดหัวข่ำวว่ำ “การ
ปฏิวัติในวงการวิทยาศาสตร์ – ทฤษฎีใหม่แห่งจักรวาล - แนวคิดแบบนิวตันถูก
ล้มล้าง” กำรค้นพบนั้นเป็นไปตำมค�ำท�ำนำยของทฤษฎีที่ถูกน�ำเสนอโดยนักฟิสิกส์
วัย 40 ปีคนหนึ่ง ทฤษฎีของเขำท�ำนำยว่ำ แสงสำมำรถเดินทำงเป็นเส้นโค้งได้เมื่อ












มนเดนทำงผ่ำนเข้ำไปในสนำมโนมถวง สงนีขดแยงกับสงท เซอรไอแซก นวตัน นก




ฟิสิกส์ผู้ย่งใหญ่ตลอดกำลคนหน่งเคยเสนอไว้ว่ำ แสงเดินทำงเป็นเส้นตรง ก่อนหน้ำ


นี้ใน ค.ศ. 1905 นักฟิสิกส์คนเดียวกันนี้น�ำเสนอผลงำนวิจัยทำงฟิสิกส์ของตนออก

มำรวดเดียวติดต่อกันถึง 5 ช้น และหน่งในผลงำนวิจัยเหล่ำน้นเก่ยวข้องกับสมกำร



2




ท่โด่งดังท่สุดสมกำรหน่งของโลก น่นก็คือ E=mc นักฟิสิกส์ท่ผมก�ำลังพูดถึงอยู่น ี ้

คือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์



ทงเมนเดเลเยฟ ดำร์วิน และไอน์สไตน์ต่ำงก็เป็นนกวิทยำศำสตร์เจ้ำของ

ผลงำนท่พลิกโฉมวงกำรวิทยำศำสตร์ของตน ท้ง 3 แสดงอัจฉริยภำพของตนเอง

ออกมำได้อย่ำงน่ำท่ง ตำรำงธำตุท�ำให้นักเคมีสำมำรถจัดจ�ำแนกธำตุออกเป็น



หมู่ต่ำงๆ ซ่งท�ำให้เกิดควำมเข้ำใจถึงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงธำตุต่ำงๆ ซ่งเป็นองค์
ประกอบของจักรวำล ทฤษฎีวิวัฒนำกำรโดยกำรคัดสรรทำงธรรมชำติพลิกมุมมอง
ท่เรำมีต่อส่งมีชีวิตท้งหลำยไปอย่ำงส้นเชิง แบคทีเรีย นก ลิง และคนต่ำงก็เป็นญำต ิ




2
ร่วมวงศ์วำนว่ำนเครือแห่งวิวัฒนำกำร สมกำร E=mc แสดงให้เห็นว่ำ สสำรและ


พลังงำนเป็นส่งเดียวกัน มวลเพียงน้อยนิดสำมำรถเปล่ยนไปเป็นพลังงำนมหำศำลได้
แต่เพรำะเหตุใดไอน์สไตน์จึงกลำยเป็นภำพจ�ำแห่งควำมฉลำดปรำดเปร่อง? อะไร



คือส่งท่ท�ำให้เขำแตกต่ำงจำกเมนเดเลเยฟและดำร์วิน? และอะไรท�ำให้เขำเป็นท ี ่
รู้จักและจดจ�ำของผู้คนทั่วโลกในฐำนะอัจฉริยบุคคล?

หนังสือ ไอน์สไตน์: ชายผู้พลิกจักรวาล ท่ก�ำลังปรำกฏอยู่ต่อหน้ำท่ำนผู้อ่ำน



ในขณะน้จะน�ำพำทุกท่ำนไปพบกับค�ำตอบของค�ำถำมเหล่ำน้นได้อย่ำงหมดส้น


ควำมสงสัย เร่องรำวชีวิตของไอน์สไตน์น้นเป็นเร่องเล่ำไม่รู้จบ เพรำะในปัจจุบัน


ได้ปรำกฏว่ำมีหนังสือชีวประวัติไอน์สไตน์ถูกเขียนข้นมำเป็นร้อยเป็นพันเล่ม ทว่ำ

หนังสือ ไอน์สไตน์: ชำยผู้พลิกจักรวำล เล่มน้ไม่เหมือนกับหนังสือชีวประวัต ิ


ไอน์สไตน์เล่มอ่นๆ นอกจำกเน้อหำในแต่ละบทท่กระชับ เข้ำใจง่ำย และบอกเล่ำ


เร่องรำวและเหตุกำรณ์ส�ำคัญ ควำมพิเศษของหนังสือเล่มน้ยังอยู่ตรงท่ตลอด



ท้งเล่มอัดแน่นไปด้วยภำพถ่ำยและรูปภำพเอกสำรท่น่ำสนใจเก่ยวกับไอน์สไตน์


เป็นจ�ำนวนมำก เช่น สูติบัตรของไอน์สไตน์ ซ่งระบุวัน เวลำ และสถำนท่เกิดของ


ไอน์สไตน์ ใบแสดงผลกำรเรียนระดับมัธยมศึกษำ ซ่งบอกเรำว่ำไอน์สไตน์เก่งวิชำ


คณิตศำสตร์และฟิสิกส์ และอ่อนภำษำฝร่งเศสขนำดไหน สมุดจดท่เขำใช้ประกอบ


กำรบรรยำยเก่ยวกับทฤษฎีสัมพัทธภำพท่ด้ำนในเต็มไปด้วยลำยมือของเขำและ




สมกำรคณิตศำสตร์อันยุ่งยำกซับซ้อนเกินกว่ำท่มนุษย์ท่วไปอย่ำงเรำๆ จะสำมำรถ


เข้ำใจได้ นอกจำกน ยังมีจดหมำยท่ไอน์สไตน์ส่งถึงประธำนำธิบดีรูสเวลต์เพ่อเตือน



เก่ยวกับควำมเป็นไปได้ของกำรพัฒนำอำวุธนิวเคลียร์ในประเทศเยอรมนีในช่วง



สงครำมโลกคร้งท 2 และจดหมำยเชิญให้ไอน์สไตน์ด�ำรงต�ำแหน่งประธำนำธิบด ี
คนที่ 2 ของประเทศอิสรำเอล
ผมมีควำมต่นเต้นและปีติยินดีเป็นอย่ำงย่งท่ได้รับหน้ำท่แปลหนังสือ




เล่มน ตัวผมเองมีควำมผูกพันเป็นพิเศษกับไอน์สไตน์มำอย่ำงยำวนำน ควำม




สนใจของผมท่มีต่อไอน์สไตน์ได้ถูกจุดประกำยข้นในช้นเรียนวิชำฟิสิกส์ช้น ม.














4 ของครสชำต สงวรกำญจน์ ในคำบเรยนวนนน เมอเกอบ 20 ปีทแล้ว เพอน






ร่วมห้องและผมเรยนเรองฟิสกส์ของแสง ทนททผมทรำบว่ำแสงมควำมเรว







8
3x10 เมตรต่อวินำที ผมรู้สึกอัศจรรย์ใจมำก ต่นเต้นเหลือประมำณจนยำกจะต้ำน

ทำนให้นั่งอยู่เฉยได้ไหว เมื่อหมดคำบเรียนนั้น ผมได้ถำมค�ำถำมเกี่ยวกับธรรมชำติ

ของแสงและพูดคุยกับครูสุชำติเพ่มเติม และมันได้กลำยเป็นบทสนทนำท่เปล่ยนแปลง


ชีวิตของผมไปอย่ำงไม่มีวันหวนกลับ ผมได้รู้จักกับไอน์สไตน์จำกบทสนทนำนั้น

ควำมช่นชอบท่ผมมีต่อไอน์สไตน์เร่มผลิบำน ผมหำหนังสือเก่ยวกับไอน์สไตน์



ทุกเล่มเท่ำท่จะหำได้มำอ่ำน เม่อพบว่ำร้ำนหนังสือท่มีอยู่เพียงไม่ก่ร้ำนในจังหวัด




บ้ำนเกิดของผมไม่มีหนังสือเกี่ยวกับไอน์สไตน์ใหม่ๆ ให้ผมได้อ่ำนอีกต่อไปแล้ว ผม

จึงหำโอกำสเดินทำงเข้ำบำงกอกเพ่อกว้ำนซ้อหนังสือเก่ยวกับไอน์สไตน์มำอ่ำนให้







ได้มำกทสุด ภำยในระยะเวลำเพยง 1 ปี ผมได้อ่ำนหนงสือเก่ยวกับไอน์สไตน์ ท้ง ั


ชีวประวัต หนังสือรวบรวมค�ำพูดและควำมคิดของเขำ และหนังสือเก่ยวกับทฤษฎ ี


สัมพัทธภำพมำกกว่ำหนังสือเรียน และในท่สุด ควำมช่นชอบก็ได้สุกงอมจนกลำย
เป็นควำมหลงใหลคลั่งไคล้ตลอดชีวิตของผม
กำรได้รับโอกำสอันดีงำมแห่งกำรแปลหนังสือเล่มน้ส�ำหรับผมจึงเหมือนกับ


กำรได้น่งไทม์แมชชีนย้อนเวลำกลับไปสมัยเป็นวัยรุ่น ได้เดินทำงกลับไปพบกับคนท ่ ี


มีบทบำทส�ำคัญต่อกำรเปล่ยนแปลงในชีวิตของผม คนท่มีอิทธิพลทำงควำมคิดต่อ

ผมอย่ำงท่วมท้น และท�ำให้ผมเติบโตมำเป็นตัวผมอย่ำงท่เป็นอยู่ในทุกวันน ชำย


ผู้พลิกจักรวำลและปฏิวัติมุมมองที่เรำมีต่อกำลเวลำและแรงโน้มถ่วงโดยสมบูรณ์


ส�ำหรับกำรท�ำงำนแปลหนังสือเล่มน ผมคงไม่อำจปล่อยให้โอกำสนี้ผ่ำนเลย

ไปได้โดยปรำศจำกกำรแสดงออกซ่งค�ำขอบคุณไปยังผู้คนท่มีส่วนท�ำให้กำรแปล

หนังสือเล่มนี้ของผมเป็นไปได้อย่ำงรำบรื่น



อันดับแรก ผมขอขอบคุณ พ่อ๊ด-วำสนำ ชูรัตน์ และส�ำนักพิมพ์ยิปซ ท ่ ี


ได้ตัดสินใจเลือกแปลหนังสือเล่มน และมอบหมำยให้ผมท�ำหน้ำท่เป็นผู้แปล รวม



ท้งทีมบรรณำธิกำรท่ท�ำงำนกันอย่ำงหนักในกำรแก้ไขปรับปรุงส�ำนวนกำรแปลให้


มีควำมสละสลวยและเป็นมิตรต่อกำรอ่ำน หำกไม่มีพวกท่ำนหนังสือแปลเล่มน้ก ็
ไม่อำจมีตัวตนขึ้นมำได้
อันดับท่สอง พ่แคล (ดร.พฤฒ กำฬสุวรรณ) และพ่แทน (ดร.แทนไท




ประเสริฐกุล) ที่ช่วยแนะน�ำให้ผมได้มำท�ำงำนแปลหนังสือเล่มนี้


อันดับท่สำม พ่โตโต้ (อำจำรย์คชำนนท์ นิรันดร์พงศ์) ท่คอยให้ค�ำแนะน�ำ



และควำมช่วยเหลือเก่ยวกับศัพท์เฉพำะทำงฟิสิกส์อย่ำงทุ่มเท รวมท้งช่วยตีควำม

บำงช่วงบำงตอนของหนังสือท่มีเน้อหำฟิสิกส์ยำกเกินควำมรู้ควำมเข้ำใจของผมอย่ำง

ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย




และอันดับท่สุดท้ำยซ่งขำดไม่ได้ ท่ำนผู้อ่ำนทุกท่ำนท่เลือกหนังสือเล่มน้มำ
เป็นเครื่องขยำยเส้นขอบฟ้ำทำงสติปัญญำของท่ำน









หนงสือเล่มนเป็นหนงสอแปลเล่มแรกในชวตของผม ซงผมได้ทุ่มเทเวลำ

และก�ำลังสติปัญญำด้วยควำมเบิกบำนใจ ต่นเต้น และรู้สึกเอร็ดอร่อยอยู่ในทุก


ค�ำแปล เพ่อควำมถูกต้องแม่นย�ำของเน้อหำ ผมแปลหนังสือเล่มน้ด้วยควำมประณีต

นอกจำกจะแปลจำกต้นฉบับภำษำอังกฤษท่ได้รับมำจำกส�ำนักพิมพ์แล้ว ผมยังได้

เทียบเคียงกับหนังสือเล่มเดียวกันน้ในฉบับภำษำเยอรมันท่ผมซ้อมำอ่ำนเม่อหลำย




ปีก่อนอีกด้วย

สุดท้ำยน ผมหวังเป็นอย่ำงย่งว่ำ กำรได้เรียนรู้เก่ยวกับชีวิตของไอน์สไตน์



ผ่ำนหนังสือเล่มน้จะกลำยเป็นแรงบันดำลใจให้กับผู้อ่ำนทุกท่ำนเหมือนท่เคยเกิดข้น




กับผม เม่อไอน์สไตน์มีอำยุครบ 5 ขวบ เขำได้รับเข็มทิศเป็นของขวัญจำกพ่อของ

เขำ เข็มทิศอันน้ได้จุดประกำยควำมกระหำยใคร่รู้ของไอน์สไตน์ต่อธรรมชำต และ












มส่วนชกำหนดทศทำงแห่งชวตของเขำ ผมหวงว่ำหนงสอเล่มนจะเป็นเหมือนกบ









เขมทิศทจดประกำยควำมสนใจหรอเป็นแรงบันดำลใจให้กบทำนผ้อำน ผมขอใหทำน













ผอำนเพลดเพลนกบกำรอำนหนงสอเลมน และสนกสนำนไปกบกำรทำควำมรจกกบ










ชำยผู้เป็นแรงบันดำลใจอย่ำงไม่มีที่สิ้นสุดให้กับผู้คนมำกมำยนับไม่ถ้วน – อัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์
กิตติศักดิ์ โถวสมบัติ

ต�าแหน่งแห่งหนของวิทยาศาสตร์















จุดส้นสุดของศตวรรษท 19 รำกฐำนต่ำงๆ อย่ำงเรียบง่ำยว่ำ คล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำเกิดจำกกำร








ของฟิสกส์ดเหมอนจะได้รบกำรจัดวำงไว้ ส่นสะเทือนและกำรกระเพื่อมข้นลงแบบคล่นของ


อย่ำงม่นคงเป็นท่เป็นทำง กำลิเลโอได้ผสมผสำนกำร รูปแบบของสสำรทำงกำยภำพบำงอย่ำงท่ด�ำรงอยู่ท่ว


สังเกตเชิงทดลองเข้ำกับค�ำอธิบำยทำงคณิตศำสตร์ใน ทุกหนแห่ง นักวิทยำศำสตร์เรียกสสำรท่มองไม่เห็นน้ว่ำ


กำรสร้ำงมุมมองกลไกควำมเป็นจักรกลของจักรวำล

ข้นมำ ไอแซก นิวตัน อำศัยข้อค้นพบของกำลิเลโอ



และคนอ่นๆ ในกำรพัฒนำกฎแห่งกำรเคล่อนท่และ
แรงโน้มถ่วงท่อธิบำยจักรวำลซ่งเป็นส่งท่สำมำรถ




ท�ำนำยได้อย่ำงสมบรณ์ อย่ำงน้อยก็ในทำงทฤษฎ ี

(โมเดลท่รู้จักในนำม “กลศำสตร์แบบด้งเดิม”) เหต ุ


ท�ำให้เกิดผล แรงกระท�ำต่อวัตถ ลูกแอปเปิ้ลท่ก�ำลัง


ร่วงหล่นกับดวงจันทร์ท่ก�ำลังโคจรต่ำงก็ถูกควบคุม

ด้วยกฎเกณฑ์เดียวกัน
กลศำสตร์แบบนิวตันถูกผนวกเข้ำกับควำม

ก้ำวหน้ำอันย่งใหญ่อีกประกำรหน่งในตอนกลำงของ

ศตวรรษท 19 น่นคือกำรค้นพบกฎของสนำมไฟฟ้ำ



และสนำมแม่เหล็ก ไมเคิล ฟำรำเดย์ แสดงให้เห็น
ว่ำ กระแสไฟฟ้ำสำมำรถก่อให้เกิดอ�ำนำจแม่เหล็กได้


และกำรเคล่อนท่ของสนำมแม่เหล็กก็สำมำรถท�ำให้
เกิดกระแสไฟฟ้ำได้เช่นกัน เขำไม่ได้รับกำรศึกษำตำม
แบบแผน และมีควำมเป็นมำในชีวิตท่น่ำหดหู่เพรำะ



เป็นเพียงลูกชำยของช่ำงตีเหล็ก ส่งเหล่ำน้ท�ำให้ควำม


ส�ำเร็จของเขำดูไม่ธรรมดำมำกย่งข้น ข้อค้นพบเหล่ำน ี ้

ได้รับกำรยืนยันอย่ำงหนักแน่นมำกย่งข้นโดย เจมส์

คลำร์ก แมกซ์เวลล์ นักฟิสิกส์ชำวสก็อตผู้ศึกษำควำม
สัมพันธ์ระหว่ำงสนำมไฟฟ้ำและสนำมแม่เหล็ก
ทฤษฎีสนำมแม่เหล็กไฟฟ้ำ ซ่งถูกพัฒนำข้น


มำโดยแมกซ์เวลล์ ดูเหมือนจะเข้ำกันได้กับกลศำสตร ์




แบบนิวตัน อย่ำงน้อยก็เข้ำกันได้ในตอนแรก เปนทเชอ



กันว่ำคล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ เช่น คล่นแสง เป็นเพียง กำลิเลโอ กำลิเลอิมีบทบำทส�ำคัญในกำรปฏิวัติวิทยำศำสตร์ ู



ซ่งเร่มต้นข้นในสมัยยุคกลำง และสืบเน่องมำถึงยุคฟื้นฟ


อีกปรำกฏกำรณ์หน่งท่เข้ำกันได้พอดีกับกรอบของ ศิลปวิทยำ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ถือว่ำ กำลิเลโอเป็นผู้ให้ก�ำเนิด



กลศำสตร์แบบด้งเดิม นักวิทยำศำสตร์ต้งสมมติฐำน วิทยำศำสตร์สมัยใหม่
10

ปกหน้ำของหนังสือของนิวตันช่อ Philosophiae Naturalis Principia Mathematica (หลักกำรคณิตศำสตร์แห่งปรัชญำ

ธรรมชำติ - ผู้แปล) ปี 1867

ทฤษฎีของไอแซก นิวตัน


ไอแซก นิวตัน (1643-1723) ในท่สุด อริสโตเติล ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเขำเสนอค�ำ
ศำสตรำจำรย์ด้ำนคณิตศำสตร์แห่งเคมบริดจ์ได้ อธิบำยทำงกำยภำพเกี่ยวกับกำรโคจรของเทหวัตถ ุ

ค้นพบค�ำตอบของปัญหำมำกมำยซ่งสร้ำงควำม บนฟำกฟ้ำในระบบสุริยะจักรวำล ทฤษฎีกำร

ร�ำคำญให้กับ “นักปรัชญำเชิงกล” (เป็นกลุ่ม เคล่อนท่ของเขำ เช่น กฎของควำมเฉื่อย (วัตถุจะ





ของนักปรัชญำท่โด่งดังในคริสต์ศตวรรษท 17 รักษำสภำพหยุดน่งเอำไว้เว้นเสียแต่จะมีแรงมำ

ซ่งพยำยำมอธิบำยปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำต กระทำต่อวัตถน้น) เขำได้เสนอค�ำอธบำยอันเรียบ





ด้วยค�ำอธิบำยทำงกำยภำพของสสำรและกำร ง่ำยท่น่ำสนใจเก่ยวกับปรำกฏกำรณ์ทำงกำยภำพ





เคล่อนท่ด้วยหลักกำรจักรกลท่เป็นระบบเหมือน จ�ำนวนมำก ในขณะท่กำรพัฒนำแคลคูลัสของเขำ




เครองจกร – ผ้แปล) อย่ำงรอเบิร์ต บอยล์ และ (ซ่งเขำเรียกมันว่ำ fluxion) กลำยเป็นเคร่องมืออัน





รอเบิร์ต ฮุค และได้พลิกโฉมมุมมองทำงวิทยำศำสตร์ ทรงพลังส�ำหรับกำรค�ำนวณเก่ยวกับส่วนของเส้น






ทดำรงอย่ในขณะนนเก่ยวกับจักรวำลท่ยังยึดโยง โค้งและเส้นสัมผัส


อยู่กับระบบคิดของนักปรัชญำกรีกโบรำณนำม
11

“อีเธอร์อันเป็นตัวกลำงของแสง” (light-bearing




ether) และสนนษฐำนว่ำ อเธอร์มบทบำทในกำร “ณ ขณะนี้ ฟิสิกส์ไม่มีสิ่งใหม่ๆ



กระจำยคล่นแสงในท�ำนองเดียวกันกับท่น้ำมีบทบำท หลงเหลือให้ค้นพบอีกต่อไปแล้ว”


ส�ำหรับคล่นในมหำสมุทร และอำกำศส�ำหรับคล่นเสียง ลอร์ด เคลวิน
ด้วยควำมถึงพร้อมในทฤษฎีท้งหมดเหล่ำน ้ ี


นักฟิสิกส์ชำวอังกฤษอย่ำงลอร์ดเคลวินได้ต้งข้อสังเกต

อันโด่งดังไว้ในปี 1900 เขำกล่ำวต่อสมำคมเพ่อควำม ผลที่ตำมมำก็คือ เขำไม่สำมำรถเรียนจบปริญญำเอก

ก้ำวหน้ำทำงวิทยำศำสตร์แห่งสหรำชอำณำจักร (the ได้ หรือได้รับต�ำแหน่งงำนสอนใดๆ แต่เน่องจำกเขำ

British Association for the Advancement เก่งกำจในกำรท้ำทำยสมมติฐำนและตั้งค�ำถำมกับ


of Science) ว่ำ “ณ ขณะน ฟิสิกส์ไม่มีส่งใหม่ๆ หลักกำรต่ำงๆ ท�ำให้เขำกลำยเป็นผู้ตรวจสอบค�ำร้อง

หลงเหลือให้ค้นพบอีกต่อไปแล้ว ส่งท่เหลือเป็นกำร ขอจดสิทธิบัตรที่ค่อนข้ำงมีควำมสำมำรถ













วดผลให้แม่นยำมำกยงขน” เรำสำมำรถมควำมร้สก และเป็นเพรำะลักษณะเหล่ำน้ท่ยังได้ช่วย

ร่วมกับส่งท่เคลวินเช่อได้ กำรผนึกรวมกนของกำร ท�ำให้เขำกลำยเป็นคนท่เหมำะสมในกำรพลิกโฉม




สังเกตเชิงทดลอง กำรวิเครำะห์ทำงคณิตศำสตร์ตำม ฟิสิกส์แบบด้งเดิม เขำเป็นนักคิดหัวขบถ ซ่งเหมำะสม


แบบอย่ำงของกำลิเลโอ นิวตัน และแมกซ์เวลล์ได้ เป็นอย่ำงดีกับช่วงเวลำท่วิทยำศำสตร์ต้องกำรขจัด

ประกำศชัยชนะ จักรวำลดูเหมือนจะถูกควบคุมด้วย เอำช้นควำมรู้แบบด้งเดิมซ่งก�ำลังบดบังรอยแตกร้ำว





กฎต่ำงๆ และกฎเหล่ำน้นดูเหมือนจะแสดงออกผ่ำน ท่ปรำกฎอยู่ในรำกฐำนของฟิสิกส์ออกไป เขำเต็ม

ทำงภำษำของคณิตศำสตร์ ไปด้วยจินตนำกำร ย่งท�ำให้เขำสร้ำงแนวคิดแบบ





แต่ ณ ขณะนนเอง เรมปรำกฏมรอยร้ำวขน ก้ำวกระโดดทนักคิดดั้งเดิมไม่เคยพบเคยเห็นมำก่อน





ท่รำกฐำนของฟิสิกส์ รูปแบบของกำรแผ่รังสีท่ไม่น่ำ เหนือส่งอื่นใด เขำไม่มีควำมย�ำเกรงต่อผู้ใด ท�ำให้




จะเกิดข้นได้ เช่น รังสีเอ็กซ์ และกำรแผ่กัมมันตรังส เขำสำมำรถต้งค�ำถำมกับสมมติฐำนต่ำงๆ ท่นัก


แบบเกิดขึ้นเองได้ถูกค้นพบ กำรศึกษำกำรแผ่รังสีท วิทยำศำสตร์ส่วนใหญ่มองข้ำมไป




เกิดข้นเวลำคล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำท�ำปฏิกิริยำกับวัตถ ุ
ทำงกำยภำพน้น แสดงให้เห็นว่ำส่งท่เป็นปริศนำ




ก�ำลังบังเกิดข้น ณ จุดท่ทฤษฎีกลศำสตร์แบบนิวตัน







ซงอธบำยพฤตกรรมของอนภำคมำบรรจบพบกันกบ



ทฤษฎสนำมของแมกซเวลลซงบรรยำยปรำกฏกำรณ ์



ทำงแม่เหล็กไฟฟ้ำ นอกจำกน นักวิทยำศำสตร์ได้

คิดค้นวิธีกำรอันแยบคำยในทุกรูปแบบเพ่อหำหลัก

ฐำนมำสนับสนุนอีเธอร์อันเป็นตัวกลำงของแสงและ


เช่อกันว่ำมีอยู่จริง แต่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ำ พวกเขำก็คว้ำน้ำ �

เหลว
ในปี 1905 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยำ-

ศำสตร์ผู้ย่งใหญ่อีกคนหน่ง ก้ำวเข้ำมำสู่เร่องน ณ








เวลำนน เขำเป็นเพยงผ้ตรวจสอบคำร้องขอจดสทธ ิ


บัตรระดับสำมในส�ำนักงำนจดสิทธิบัตรแห่งสวิส เขำ
ส�ำเร็จกำรศึกษำหลักสูตรฝึกหัดครูด้วยผลกำรเรียน
ปำนกลำงจำกสถำบันโพลีเทคนิคในเมืองซูริค ณ ท ่ ี

แห่งน้นเอง เขำได้ท�ำตัวเป็นศัตรูกับอำจำรย์ส่วนใหญ่ อุปกรณ์ที่แมกซ์เวลล์พัฒนำขึ้นส�ำหรับกำรเปรียบเทียบหน่วยทำง
เพรำะควำมมุ่งม่นชอบท้ำทำยอ�ำนำจของตัวเขำเอง ไฟฟ้ำสถิตและหน่วยทำงแม่เหล็กไฟฟ้ำ

12

เจมส์ คลาร์ก แมกซ์เวลล์ (1831-1879)


เกิดท่เอดินบะระ เจมส์ คลำร์ก แมกซ์เวลล์เผย

ควำมสำมำรถทำงฟิสิกส์ต้งแต่วัยเยำว์ และเข้ำเรียนท ี ่
มหำวิทยำลัยเอดินบะระและมหำวิทยำลัยเคมบริดจ์ เขำ

เรียนจบจำกเคมบริดจ์ในปี 1854 ผลงำนช้นแรกๆ ของเขำ

แสดงให้เห็นว่ำ แสงขำวน้นประกอบด้วยแสงสีแดง แสง
สีเขียว และแสงสีฟ้ำ และกำรอธิบำยว่ำวงแหวนของดำว

เสำร์สำมำรถต้งอยู่อย่ำงม่นคงได้อย่ำงไร ในช่วงปี 1860

เขำหันเหควำมสนใจไปยังควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไฟฟ้ำและ
สนำมแม่เหล็ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ำกำรเปลี่ยนแปลงในไฟฟ้ำ
ก่อให้เกิดกำรเปล่ยนแปลงในสนำมแม่เหล็กได้อย่ำงไร ซ่ง ึ



กระตุนใหเกิดกำรเปลี่ยนแปลงในสนำมแมเหล็กอีกตอหนึ่ง



และก่อให้เกิด “คล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ” บทควำม “สมกำร
ท่วไปของสนำมแม่เหล็กไฟฟ้ำ” ของเขำมีบทบำทส�ำคัญ

อย่ำงย่งในกำรท�ำควำมเข้ำใจกระแสไฟฟ้ำ กำรน�ำ

ไฟฟ้ำ และสภำพแม่เหล็ก และให้กรอบทำงทฤษฎี
ส�ำหรับกำรสร้ำงมอเตอร์ไฟฟ้ำท่มีประสิทธิภำพ








































13

14

ก�าเนิดและปฐมวัย















อแม่ผู้เป็นกังวลและนักเรียนท่มีผลกำรเรียน


ต่ำกว่ำเกณฑ์น่ำจะรู้สึกสบำยใจได้ถ้ำเทียบ

กบไอน์สไตน์ เม่อเขำยังเป็นเด็ก อัลเบร์ต ไอน์สไตน์












ไม่ใช่ไอน์สไตน์อย่ำงทเรำร้จก เขำเรยนร้ทจะเรม

พูดได้ช้ำ ช้ำเสียจนพ่อแม่ไปปรึกษำแพทย์เก่ยวกับ


อำกำรของเขำ สำวใช้ในครอบครัวต้งช่อให้เขำว่ำ
“เจ้ำท่ม” ควำมเป็นตัวของตัวเองและกำรต่อต้ำน

อ�ำนำจท�ำให้ครูโรงเรียนคนหน่งประกำศไว้ว่ำ เด็ก

หนุ่มไอน์สไตน์จะไปไหนไม่ได้ไกลหรอก “เจ้าทึ่ม”

กำรปฏิเสธท่จะยอมรับแนวทำงฟิสิกส์แบบ ค�าที่สาวใช้ประจ�าครอบครัวใช้เรียกไอน์สไตน์

ด้งเดิมน น�ำมำซ่งควำมสร้ำงสรรค์ทำงวิทยำศำสตร์





อนทรงพลังของเขำ (ไอน์สไตน์ทึกทักว่ำเป็นเช่นนน สำยฟำดลงอย่ำงพร้อมกันในกำรรับรู้ของคนที่ยืนอยู่

ในภำยหลัง) และพัฒนำกำรด้ำนกำรพูดท่เช่องช้ำ ท่ชำนชำลำ สำยฟ้ำท้ง 2 สำยจะยังฟำดลงมำพร้อม







น�ำไปสู่อุปนิสัยท่ติดตัวเขำไปตลอดชีวิต น่นคือกำร กันหรือไม่ในกำรรับรู้ของอีกคนหน่งซึ่งอยู่บนรถไฟ



คิดเป็นภำพมำกกว่ำจะคิดเป็นเพียงแค่กำรบรรยำย ท่ก�ำลังเคล่อนท่ผ่ำนไป? หำกคุณอยู่ในลิฟต์โดยสำร

ถ้อยค�ำ เขำช่นชอบท่จะท�ำส่งท่ตัวเขำเรียกว่ำ กำร ท่ปิดทึบซ่งเคล่อนท่ด้วยควำมเร่งมีทิศข้นด้ำนบนใน








ทดลองทำงควำมคิดให้เป็นภำพ อันเป็นส่งซ่งคุณ อวกำศซึ่งปรำศจำกแรงโน้มถ่วง ประสบกำรณ์ของ



และผมอำจจะเรียกมันว่ำฝันกลำงวัน แต่เพรำะเป็น คุณจะเหมือนกับกำรท่คุณอยู่ในลิฟต์โดยสำรปิดทึบ

ไอน์สไตน์ เขำเรียกส่งเหล่ำน้นว่ำ กำรทดลองทำง ซ่งต้งอยู่กับท่บนพ้นในสนำมโน้มถ่วงของโลกหรือไม่?






ควำมคิด กำรเรียนรู้ท่เช่องช้ำท�ำให้เขำหลงใหลใคร่รู้

กำรค้นพบทำงวิทยำศำสตร์ท่ส�ำคัญของเขำ เก่ยวกับเหตุกำรณ์ธรรมดำสำมัญที่คนอื่นๆ เห็นเป็น







ส่วนใหญ่เกิดข้นจำกกำรแค่ทดลองโดยใช้จินตนำกำร เร่องปรกต ตัวอย่ำงหน่งเกิดข้นเม่อเขำอำยุรำวๆ 5


คล่นแสงจะมีลักษณะเป็นอย่ำงไรหำกคุณเคล่อนท ขวบ พ่อให้เข็มทิศแก่เขำ ไอน์สไตน์ซ่งตอนน้นป่วย







ไปกับแสงด้วยควำมเร็วเท่ำกับแสง? หำกสำยฟ้ำ 2 อยู่ที่บ้ำน เม่อได้เพ่งพินิจเข็มทิศอันน้น เขำรู้สึก


ต่นเต้นมำกเสียจนมือส่น ไม่มีส่งใดสัมผัสตัวเข็ม แต่









หน้าซ้าย: อูล์ม บ้ำนเกิดของไอน์สไตน์ เขมยงคงชไปทำงทศเหนอเสมอไม่ว่ำคณจะขยบ


บน: แฮร์มันน์ ไอน์สไตน์ พ่อของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เข็มทิศอย่ำงไร มันมีสนำมของแรงท่มองไม่เห็นซ่งแผ่
15




ตัวไปทั่วทั้งห้องนอน และดูเหมือนจะทั่วทั้งจักรวาล อย่างไรหากเราเคล่อนท่ไปข้างๆ ลาแสง? สนาม
ภูมิหลังครอบครัวของไอน์สไตน์นั้นธรรมดา โน้มถ่วงมีลักษณะเช่นไร?

บรรพบุรุษของเขาเป็นพ่อค้าเร่ชาวยิวจากชนบทของ เหนือส่งอ่นใด เขามีหัวขบถมากพอท่จะต้ง






สวาเบียผู้ประสบความสาเร็จในการค้าขาย และปรับ คาถามกับความรู้ท่สืบต่อกันมา ไม่ว่าความรู้น้นจะ











ตวกลมกลนเข้ากบสงคมและวฒนธรรมของเยอรมน กระจ่างชัดเจนเพียงใด เขากล่าวยาแล้วยาอีกว่า




ไอน์สไตน์เกิดเม่อวันศุกร์ท 14 มนาคม ค.ศ. 1879 ความศรัทธาอย่างโง่เขลาต่อผู้รู้เป็นศัตรูของความจรง



เวลา 11.30 น. ณ เมืองอูล์มซ่งมีคาขวัญทานอง นิวตันส่งต่อหลักการท่มีความแน่นอนให้กับโลกสมัย




โอ้อวดตัวไว้ว่า “Ulmenses sunt mathematici” ใหม่โดยการป่าวประกาศไว้ในจดเร่มต้นของหนังสือ


(ชาวเมืองอูล์มเป็นนักคณิตศาสตร์) เมืองอูล์มเพ่งจะ Principia ของเขา ยกตัวอย่างเช่น สมมติฐานที่ว่า

กลายมาเป็นส่วนหน่งของอาณาจักรไรค์ของเยอรมน เวลาเดินหน้าไปทีละวินาทีอย่างไม่หยุดหย่อน และ

ยุคเร่มแรก พร้อมๆ กับส่วนอ่นท่เหลือของสวาเบีย ไม่ข้นอยู่กับการสังเกตของเรา ส่งเหล่าน้อาจดูชัดเจน









พ่อและแม่ของไอน์สไตน์-แฮร์มันน์และเพาลีเนอ- สาหรับคนอ่นๆ แต่มันทาให้ไอน์สไตน์ต้งคาถามว่า


ต้งใจไว้ในตอนแรกว่าจะต้งช่อไอน์สไตน์ว่า อับราฮัม เรารู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นเช่นนั้น?





ตามช่อปู่ แต่พวกเขาเปล่ยนใจ เพราะเห็นว่าช่อแรก







ทเลือกนนฟังดู “ยิวเกนไป” (ตามคาบอกเล่าในภาย
หลังของไอน์สไตน์) และหาทางออกด้วยการคงอักษร
ตัวแรก “A” เอาไว้ และตั้งชื่อให้เขาว่า อัลเบิร์ต
เม่อเขาเป็นเด็ก ไอน์สไตน์สนุกสนาน

เพลิดเพลินกับการสร้างส่งท่ซับซ้อนจากของเล่น



และต่อตึกข้นจากไพ่ได้สูงถึง 14 ช้น แต่ความบาก

บ่นและความด้อดึงของเขาก็มีอยู่พอๆ กับความ



ข้โมโหฉุนเฉียว ท่เขามีแนวโน้มจะแสดงออกมา

หัวของมายา-น้องสาวของเขา-เป็นเป้าแห่งการโจมต ี
ซ�้าแล้วซ�้าเล่าจากของแข็งต่างๆ
ตลอดชีวิตของเขา อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
สามารถรักษาความสามารถในการตกตะลึงและ
ช่างสงสัยเย่ยงเด็กเอาไว้ได้ จากท่เขาเขียนถึงเพ่อน



คนหน่งภายหลัง เขาเช่อว่า คนหลายคนอย่างเช่น


ตัวเขาไม่เคยแก่ แต่จะคงความกระหายใคร่รู้แบบ

เด็กๆ ท่มีต่อปริศนาอันย่งใหญ่ของจักรวาลไว้ตลอด

ไป เขารู้สึกอัศจรรย์ใจต่อปรากฏการณ์อันน่าตะลึง
ของธรรมชาตท่ผู้ใหญ่ส่วนมากเหนเป็นเรองธรรมดา





อะไรคือสนามแม่เหล็ก? อะไรคือแรงโน้มถ่วง? เหต ุ






ใดเขมทิศจึงชไปทางทศเหนอ เขายังพยายามจาลอง

ภาพและจินตนาการส่งต่างๆ อยู่เสมอ มันจะเป็น ภาพถ่ายไอน์สไตน์ภาพแรกสุดเท่าที่รู้ว่ามีอยู่
16

น้องสาวของไอน์สไตน์


มำเรีย น้องสำวของไอน์สไตน์ เป็นท่รู้จักกันในนำม

“มำยำ” เสมอมำ เกิด 2 ปีหลังไอน์สไตน์ แม้ว่ำจะมีช่วงเวลำท ่ ี
ยำกล�ำบำกในวัยเด็ก (ไอน์สไตน์น้อยมักตีหัวของเธอด้วยของแข็ง




ซ้ำแล้วซ้ำเล่ำ) เธอกลำยเป็นผู้ท่พ่ชำยไว้วำงใจตลอดชีวิต และ



บ่อยคร้งก็เป็นเพ่อนท่สนิทท่สุด เธอได้รับคัดเลือกเป็นครูท่อำเรำ


ในปี 1902 และหลังจำกน้น เธอศึกษำภำษำโรมำนซ์ในเบอร์ลิน



ในช่วงปี 1930 เธอและสำม พอล วนเทเลอร์ ย้ำยไปฟลอเรนซ์
แต่กฏหมำยต่อต้ำนเซมิติกของมุสโสลินีท�ำให้เธอเดินทำงไปอยู่

กับพ่ชำยในสหรัฐอเมริกำในปี 1938 และใช้ชีวิตอีก 13 ปีต่อ
มำในพรินซ์ตัน และหลังจำกเธอเป็นโรคหลอดเลือดสมองในปี
1948 ไอน์สไตน์คอยดูแลน้องสำวของเขำ และอ่ำนหนังสือให้

เธอฟังทุกเย็น หนังสือท่อ่ำนมีต้งแต่ ดอน กิโฆเต้ ไปจนถึงหนังสือ





วทยำศำสตร์กรีกโบรำณเล่มใหญ่ท่น้อยคนจะเขำใจได้ เธอเสยชวิต

ในปี 1951 และยังสร้ำงควำมรู้สึกเศร้ำเสียใจให้กับไอน์สไตน์



บน: ไอนสไตน์และนองสำวของเขำ มำยำ ในป 1884 ไอนสไตน์อำย 5 ขวบ


ภำพถ่ำยไอน์สไตน์ภำพแรกสุดเท่ำที่รู้ว่ำมีอยู่ และมำยำอำยุ 3 ขวบในขณะนั้น
17

สูติบัตรของไอน์สไตน์ ลงวันที่ 15 มีนำคม 1879




18

แม่ของไอน์สไตน์ เพำลีเนอ
ไอน์สไตน์กับดนตรี




เม่อเขำอำย 6 ขวบ แม่ของไอน์สไตน์มอบของ
ขวัญให้เขำ นั่นคือ บทเรียนไวโอลิน ซึ่งส่งอิทธิพลต่อ

มำตลอดชีวิตของเขำเหมือนกับเข็มทิศท่เขำได้รับจำก

พ่อ ไอน์สไตน์ต่อต้ำนระเบยบวินัยท่บังคับคนให้ทำตว





เหมือนเคร่องจักรท่ครูสอนดนตรีของเขำพยำยำม
ยัดเยียดให้เขำ แต่หลังจำกได้ฟังเพลงโซนำตำของ
โมสำร์ท เขำเข้ำถึงจิตวิญญำณอันสร้ำงสรรค์และเต็ม



ไปด้วยจนตนำกำรท่บนดำลให้เกิดดนตรีทย่งใหญ่โดย




ทันท เขำบอกเพ่อนคนหน่งภำยหลังว่ำ ดนตรีของ



โมสำร์ทบริสุทธ์และงดงำมมำกเสียจนเป็นเหมือนกับ
ส่งฉำยสะท้อนควำมงดงำมท่อยู่ภำยในของจักรวำล




ออกมำ ดนตรีชวยใหเขำคิด และยังเปนสะพำนเชื่อม


โยงเขำเข้ำกับควำมกลมกลืนของจักรวำล ท่ส�ำคัญ








ทสดคอ มนเป็นเครองเตอนใจเรำว่ำ อจฉรยะผ้ยง ่ ิ



ใหญ่ แม้แต่ (หรืออำจจะโดยเฉพำะอย่ำงย่ง) ในด้ำน

คณิตศำสตร์หรือวิทยำศำสตร์ ไม่ได้เป็นเพียงกำร
ท�ำงำนแต่ในด้ำนของควำมชำญฉลำดเท่ำนั้น หำกแต่
ยังเต็มไปด้วยควำมคิดสร้ำงสรรค์และจินตนำกำร

ขวา: ควำมรักในดนตรีของไอน์สไตน์ด�ำรงอยู่สืบเน่องไปตลอด

ชีวิตของเขำ และเขำชอบเล่นไวโอลินบ่อยท่สุดเท่ำท่จะเป็นไปได้

19

โรงเรียน












รื่องเล่ำเกี่ยวกับไอน์สไตน์ที่เป็นที่ถูกอกถูกใจเรื่อง

หน่งคือ เขำสอบตกคณิตศำสตร์สมัยเป็นนักเรียน



ท่มิวนิก เร่องน้แพร่กระจำยไปท่วท้งในส่งพิมพ์และ




เว็บไซต์ และบ่อยคร้งท่ถูกกล่ำวถึงพร้อมกับวลีท ่ ี








มนอกมนใจว่ำ “อย่ำงท่ใครๆ กรู้” จนเหมือนมนได้
กลำยเป็นข้อเท็จจริงที่บอกเล่ำต่อกันมำ

แม้ว่ำชีวิตของไอน์สไตน์จะเต็มไปด้วยเร่อง

รำวย้อนแย้งท่น่ำหลงใหลมำกมำย แต่ก็น่ำเสียดำย

ท่กำรไร้ควำมสำมำรถทำงคณิตศำสตร์ในวัยเด็ก
ไม่ใช่หน่งในเร่องรำวเหล่ำน้น เขำไม่เก่งภำษำ และ



ควำมมุ่งม่นท่จะท้ำท้ำยอ�ำนำจท�ำให้เขำไม่เป็นท ี ่


โปรดปรำนของอำจำรย์อยู่เสมอ แต่เขำเรียนวิชำ
คณิตศำสตร์ได้ด เพรำะสำมำรถคิดส่งต่ำงๆ เป็นภำพ



ได้ด เขำรู้ว่ำสมกำรคณิตศำสตร์เป็นเพียงรอยตวัด
แห่งพู่กันของพระเจ้ำท่วำดระบำยบำงส่งบำงอย่ำง




ในธรรมชำต ซ่งสำมำรถมองเห็นได้ด้วยจินตนำกำร
เหมือนกับท่คุณสำมำรถมองเห็นภำพเม่อคุณอ่ำน


วลีของโฮเมอร์ “เทพีแห่งอโณทัยท่มีน้วมือสีแดง”



ไอน์สไตน์สำมำรถแสดงไดด้วยภำพว่ำสมกำรสะท้อน
ควำมจริงได้อย่ำงไร ยกตัวอย่ำงเช่น สมกำรสนำม


แม่เหล็กไฟฟ้ำซ่งถูกค้นพบโดย เจมส์ คลำร์ก งำนชิ้นส�ำคัญที่สุดของแมกซ์เวลล์ A Treatise on Electricity

แมกซ์เวลล์ จะปรำกฏภำพอย่ำงไรแก่เด็กคนหน่งท ่ ี and Magnetism (บทควำมว่ำด้วยไฟฟ้ำและภำวะแม่เหล็ก -

ก�ำลังว่งไปข้ำงๆ ล�ำแสง เขำเช่ออย่ำงหนักแน่นเสมอ ผู้แปล) ตีพิมพ์ในปี 1873 มีอิทธิพลอย่ำงใหญ่หลวงต่อไอน์สไตน์

ในวัยหนุ่ม


ว่ำ จินตนำกำรน�ำมำซ่งควำมเห็นแจ้งท่หลักแหลม






ท่สุดในควำมเป็นจริงท่อยู่เบ้องหลัง หำใช่ควำมรู้อัน ซ่งมีตัวแปร x เป็นเหมือนเหย่อท่เรำจะต้องแกะรอย
เรียบง่ำยที่มำจำกข้อเท็จจริง ตำมไปอย่ำงไม่ปรำนีจนกว่ำเรำจะจับมันได้ (หรือใน

ลุงของเขำ ยำคอบ ไอน์สไตน์ ผู้เป็นวิศวกร ทำงคณิตศำสตร์ก็คือ จนกว่ำสมกำรจะถูกแก้) เม่อ

ได้บ่มเพำะควำมรักในพีชคณิตให้กับไอน์สไตน์ วิธ ไอน์สไตน์ช่ำชองในส่งน ลุงของเขำจึงแนะน�ำให้เขำ






กำรของเขำก็เต็มไปด้วยจินตนำกำรเช่นกัน เขำ รู้จักกับแนวคิดท่ยำกข้นกว่ำเดิม หน่งในแนวคิด

เชอมโยงกระบวนกำรแก้สมกำรเข้ำกบกำรล่ำสตว์ เหล่ำน้นคือทฤษฎีบทพีทำกอรัส (ทฤษฎีของรูป





20

การทดลองทางความคิดของ สำมเหล่ยมมุมฉำก ว่ำด้วยผลรวมของควำมยำวของ

แบร์นสไตน์ ด้ำนประกอบมุมฉำกแต่ละด้ำนยกก�ำลัง 2 มีค่ำ
เท่ำกบควำมยำวของด้ำนตรงข้ำมมุมฉำกยกก�ำลัง

กำรอ่ำนหนังสือวิทยำศำสตร์ของแบร์นสไตน์ สอง) ในท้ำยท่สุด ไอน์สไตน์ “พิสูจน์” ทฤษฎีน้โดย


ปลูกฝังควำมสนใจในกำรทดลองทำงควำมคิดให้ ใช้ควำมคล้ำยกันของรูปสำมเหล่ยมเป็นวิธีกำรพิสูจน์



กับไอน์สไตน์ในวัยหนุ่ม หัวข้อหน่งท่แบร์นสไตน์ เขำรู้สึกว่ำมันชัดเจนมำกท่ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงด้ำน

สนใจคืออัตรำเร็วของแสง ในงำนอันน่ำสนใจของ ต่ำงๆ ของสำมเหล่ยมมุมฉำกถูกก�ำหนดโดยสมบูรณ์




เขำเก่ยวกับเร่องนี เรำสำมำรถมองเห็นเมล็ดพันธุ์ จำกหนึ่งในมุมแหลมของสำมเหลี่ยมนั้น


แห่งกำรทดลองทำงควำมคิดท่ไอน์สไตน์จะใช้ในอีก อีกคร้งหน่งท่เขำไม่ได้เพียงแค่จดจ�ำมโนทัศน์


15 ปีต่อมำในกำรปลุกปล�้ำกับทฤษฎีสัมพัทธภำพ ต่ำงๆ แต่เขำมองเห็นมโนทัศน์เหล่ำน้น และคิดออก




พิเศษ ลองจินตนำกำรว่ำมันจะเป็นอย่ำงไรหำก มำเป็นภำพ ส่งน้ไม่ใช่ส่งท่โรงเรียนเยอรมันให้ควำม





เรำอยู่บนรถไฟท่ก�ำลังเคล่อนท่ไป แบร์นสไตน์ ส�ำคัญในวิชำคณิตศำสตร์ โรงเรียนร่วมสมัยอ่นๆ ก ็




ช้ให้เห็นว่ำ ลูกกระสุนท่ว่งทะลุเข้ำไปในรถไฟจะ ไม่ให้ควำมส�ำคัญในเร่องน้เช่นกัน ทฤษฎีบทพีทำกอรัส






ดูเหมือนเคล่อนท่โค้งงอ เน่องจำกรถไฟเคล่อนท่ไป มกถกสอนโดยกำรท่องจ�ำมำกกว่ำจะเป็นสงทเข้ำใจ









ในระหว่ำงท่กระสุนว่งเข้ำมำด้ำนหน่งและออกไป ได้โดยกำรคิดเป็นภำพ ควำมรู้สึกของเขำที่มีต่อ














อกด้ำนหนง สงเดยวกนนต้องเป็นจรงเช่นกนเมอ ทฤษฎีบทพีทำกอรัสกลำยเป็นส่งท่เป็นประโยชน์





แสงเคล่อนท่เข้ำมำในกล้องโทรทรรศน์ น่นเพรำะ เพรำะเขำได้เห็นส่งท่จะกลำยมำเป็นทฤษฎีสัมพัทธภำพ

กำรเคลื่อนที่ของโลกไปในปริภูมิ พิเศษของเขำ



ภำพแสดงกำรทดลองทำงควำมคิดของแบร์นสไตน์ แผนภำพ A แสดงต�ำแหน่งท่กระสุนเคล่อนท่เข้ำไปในรถไฟ และแผนภำพ
B แสดงวิถีกระสุนจริงๆ (เส้นสีแดง) และวิถีกระสุนที่เรำรับรู้ (เส้นสีเขียว)
21

ไอน์สไตน์กับการทหาร

ไอน์สไตน์ในวัยหนุ่มมักเห็นเหล่ำทหำรเดินขบวน

พร้อมวงดุริยำงค์ผ่ำนทำงหน้ำต่ำงของเขำ เพ่อนๆ ท ่ ี

โรงเรียนของเขำหลำยคนช่นชอบกำรเล่นเป็นทหำรและ

จะแกล้งเดินตำมขบวนทหำร แต่ภำพท่ปรำกฎท้งหมด

ท�ำให้ไอน์สไตน์ร้องไห้ เขำบอกพ่อแม่ของเขำว่ำ มันเป็น
ส่งท่น่ำรังเกียจท่สุด เขำไม่อยำกโตข้นมำพร้อมกับแนวคิด





ทำงกำรทหำร ใครท่ยอมรับแนวคิดเหล่ำน้นโดยไม่ต้ง


ค�ำถำมส�ำหรับเขำแล้วมีค่ำมำกกว่ำสัตว์เพียงเล็กน้อย
ท่ำทีต่อต้ำนเผด็จกำรน้ท�ำให้เขำได้รับควำมล�ำบำกใน

โรงเรียน เขำเห็นว่ำรูปแบบกำรสอนด้วยกำรท่องจ�ำและ
ไม่ให้ตั้งค�ำถำมเป็นสิ่งที่น่ำรังเกียจ
ขวา: ในปี 1896 ขบวนพำเหรดทหำรเฉลิมฉลองเกียรติยศของ
มกุฎรำชกุมำรเยอรมันซึ่งมีกองทหำรอำรักขำท�ำให้ไอน์สไตน์
วัยหนุ่มคับข้องใจเป็นอย่ำงยิ่ง




ไอน์สไตน์ได้รับอิทธิพลทำงกำรศึกษำท สำรำนุกรมชดน้มอบให้แทบจะกระชำกลมหำยใจของ


ย่งใหญ่อีกประกำรหน่งจำกนอกโรงเรียน น่นคือ เขำไป ชุดสำรำนุกรม 21 เล่มเล็กๆ น้คือหีบสมบัติท ี ่





นักศึกษำแพทย์ผู้ยำกจนนำม มักซ์ ทำลมุด ผู้ซ่งมำ บรรจุงำนทำงวิทยำศำสตร์ท่ทันสมัย โดยเฉพำะอย่ำง
ร่วมโต๊ะอำหำรเย็นกับครอบครัวไอน์สไตน์สัปดำห์ ยิ่งงำนที่เกิดขึ้นในประเทศเยอรมนี

ละคร้ง นับเป็นธรรมเนียมท่ปฏิบัติสืบต่อกันมำอย่ำง หลังจำกท่ไอน์สไตน์ศึกษำหนังสือของ




ยำวนำนของชำวยิวในกำรเชิญผู้รู้ทำงศำสนำท่อัตคัด แบร์นสไตน์อย่ำงแตกฉำนแล้ว ทำลมดได้มอบตำรำ



ขัดสนมำร่วมรับประทำนมื้อชำบัท (วันศักดิ์สิทธิ์ของ เรขำคณิตให้เพ่อท่เขำจะได้รู้สึกร่นรมย์ในควำม





ชำวยิวสำหรับกำรปฏิบตศำสนกิจและกำรพกผ่อน บันเทิงของมันก่อนท่เขำจะถูกบังคับให้เรียนวิชำน ้ ี





จำกกำรงำน ซ่งเร่มต้นในเย็นวันศุกร์และส้นสุดในเย็น ในโรงเรียนเสียอีก มันเป็นหนงสือท่ในเวลำต่อมำ




วันเสำร์ – ผู้แปล) กับพวกเขำ ครอบครัวไอน์สไตน์ ไอน์สไตน์กล่ำวถงด้วยควำมยกย่องยำเกรง หนงสอ





ยงคงยดถอธรรมเนยมน แต่ในรูปแบบของพวกเขำ เล่มน้เต็มไปด้วยประพจน์แห่งควำมงดงำมท่น่ำต่น







น้นเปล่ยนไป จำกวันศุกร์ก็เล่อนเป็นวันพฤหัสบด ตำต่นใจ ซ่งถูกพิสูจน์โดยควำมแน่นอนอันสมบูรณ์











และแขกทควรเป็นผ้ร้ทำงศำสนำกลบเป็นนกศกษำ แบบของสัจพจน์ทำงเรขำคณิต กำรท่เส้นแสดงควำม



แพทย์แทน สูงท้ง 3 เส้นของรูปสำมเหล่ยมหน่งๆ (เส้นท่ลำก




ทำลมุดเร่มต้นกำรมำเยือนประจ�ำสัปดำห์ จำกด้ำนสำมเหล่ยมด้ำนหน่งเป็นมุมตั้งฉำกไปหำมุม





ของเขำเม่อไอน์สไตน์อำย 10 ขวบ เขำน�ำหนังสือ ตรงข้ำมของด้ำนน้นๆ) จะมำตัดกันท่จุดเดียวกันน้น







วิทยำศำสตร์ท่เป็นท่นิยมติดตัวมำ หน่งในน้นคือ ไม่ใช่ส่งท่ประจักษ์เสียทีเดียว แต่หลักกำรอันเรียบ



สำรำนุกรมซ่งมีช่อว่ำ หนังสือเก่ยวกับวิทยำศำสตร์ ง่ำยท่แสดงไว้ในงำนของแบร์นสไตน์สำมำรถเป็น


ธรรมชำติส�ำหรับประชำชน เขียนโดย อำรอน กุญแจสู่ควำมเข้ำใจในควำมซับซ้อนที่ปรำกฏนั้นได้
แบร์นสไตน์ ซ่งเด็กน้อยไอน์สไตน์อ่ำนด้วยควำม แม้ว่ำพ่อแม่ของเขำจะไม่เคร่งศำสนำ และ

สนใจย่ง ควำมรู้อันลุ่มลึกทำงวิทยำศำสตร์ต่ำงๆ ท ไม่เป็นสมำชิกของซินนำกอก (ศำสนสถำนของชำว



22








ยว – ผ้แปล) เมอยงเป็นเดก ไอน์สไตน์นบถอ

ศำสนำยูดำยอยู่ 2-3 ปี พยำยำมแม้กระท่งรักษำ

ข้อปฏิบัติทำงอำหำรท่เรียกว่ำ โคเชอร์ (อำหำรท ่ ี

ถูกต้องตำมหลักศำสนำยิว – ผู้แปล) แต่กำรได้ท�ำ

ควำมรู้จักกับวิทยำศำสตร์ก่อให้เกิดกำรเปล่ยนแปลง


โดยฉับพลันขณะท่เขำมีอำย 12 ปี ซ่งเป็นช่วงอำย ุ

ท่เขำจะได้อ่ำนหนังสือเตรียมตัวส�ำหรับเข้ำพิธีบำร์




มตซวำห์ (พิธีทำงศำสนำของชำวยิวทแสดงว่ำ
เด็กชำยได้กลำยเป็นผู้ใหญ่แล้ว กระท�ำเม่อเด็กชำย

อำยุครบ 13 ปีบริบูรณ์ – ผู้แปล) ในหนังสือ
วิทยำศำสตร์ท่เป็นท่นิยมของแบร์นสไตน์ เขำ


อธิบำยควำมสัมพันธ์และประนีประนอมระหว่ำง


วิทยำศำสตร์และศำสนำ เขำท�ำส่งน้ลุล่วงด้วย
กำรอธิบำยถึงสำเหตุพ้นฐำนซ่งวำงตัวอยู่เบ้องหลัง





จักรวำล ซ่งกำรค้นพบสำเหตุพ้นฐำนเหล่ำน้ถือเป็น ภำพไอน์สไตน์ขณะอำยุ 14 ปี ถ่ำยที่มิวนิก

งำนของวิทยำศำสตร์ แต่กำรรับรู้อันสลัวคลุมเครือ


ต่อส่งเหล่ำน้เผยแสดงออกมำเป็นควำมส�ำนึกทำง ซ่งครอบครัวหวังว่ำจะมีโอกำสท่ดีกว่ำส�ำหรับกำรท�ำ




ศำสนำท่ปรำกฏอยู่ในมนุษย์ทุกคน ส่งน้ค่อนข้ำง บรษทเลกๆ ครอบครวของเขำตงใจไว้ว่ำ ไอน์สไตน์










เป็นค�ำอธิบำยท่ดีถึงส่งท่ไอน์สไตน์จะเช่อเม่อเขำเป็น จะอยู่ท่มิวนิกต่อไปอีก 3 ปีโดยให้อำศัยอยู่กับญำต ิ




ผู้ใหญ่ แต่เน่องจำกเขำเป็นเด็กอำย 12 ผู้มีหัวขบถ ห่ำงๆ เพื่อให้เขำเรียนให้จบ


กำรก้ำวออกจำกศรัทธำของเขำนับว่ำรุนแรงยิ่งนัก ส่งน้นไม่เคยเกิดข้น ไอน์สไตน์ ซ่งถูกมองว่ำ










กำรหันออกจำกศำสนำในคร้งน้ย่งเพ่มควำม เป็นนักเรียนท่อวดดี เป็นไปได้ท้งได้รับกำรสนับสนุน

หนักแน่นให้กับควำมเคลือบแคลงสงสัยท่ไอน์สไตน์ ในไม่ช้ำ หรือไม่ก็ถูกบังคับให้ออกจำกโรงเรียน เขำ

มีติดอยู่ในตัวของเขำต่อควำมรู้ท่ได้รับสืบต่อกันมำ โน้มน้ำวให้แพทย์ประจ�ำครอบครัวของเขำ ซ่งเป็น

เขำเร่มแสดงควำมไม่เช่อถืออย่ำงย่งยวดต่อควำมเช่อ พ่ชำยของมักซ์ ทำลมุด ออกจดหมำยรับรองว่ำ เขำ









ฝังหัวและค�ำสอนทำงศำสนำ ซ่งต่อมำจะสะท้อนให้ ป่วยด้วยอำกำรเหนอยล้ำทำงจตใจและวตกกงวล




เห็นในควำมไม่ยอมจำนนในควำมเช่อทำงกำรเมอง อันเน่องมำจำกควำมเครียด ด้วยเหตุผลน เขำจึงออก










สังคม และวิทยำศำสตร์ของเขำ ไอน์สไตน์กล่ำวใน จำกโรงเรยนในวนหยดครสต์มำสปี 1894 ขนรถไฟ


ภำยหลังว่ำ ประสบกำรณ์น้จุดประกำยควำมสงสัย ไปอิตำล และบอกพ่อแม่ท่ก�ำลังตระหนกตกใจว่ำ



ต่ออ�ำนำจทุกรูปแบบในตัวเขำ เป็นควำมรู้สึกท่ไม่ เขำจะไม่กลบไปประเทศเยอรมนอีกแล้ว เขำสญญำ


เคยจำกเขำไป เขำเปรียบกำรไม่ใส่ใจในกำรเดินตำม ว่ำจะเรียนหนังสือเพ่อจะสอบเข้ำเรียนท่วิทยำลัย









ธรรมเนียมในกำรท�ำส่งต่ำงๆ เป็นเทวดำท่คอยปกปัก โพลเทคนคในซรคในฤดใบไม้ร่วงปีหน้ำ (ปัจจบันม ี


รักษำ ซ่งจะช้น�ำทำงเขำไปยังสถำนท่ต่ำงๆ ซ่งผู้ท่ม ช่อว่ำ Eidgenõssische Technische Hochschule






จิตใจยอมจ�ำนนในธรรมเนียมเก่ำๆ ไม่มีวันไปถึง หรือ สถำบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส)

ในช่วงเวลำน้น เม่อไอน์สไตน์มีอำย 15 ปี


บริษัทไฟฟ้ำของพ่อและลุงของเขำเร่มขำดทุน

ครอบครัวของเขำย้ำยไปทำงตอนเหนือของอิตำลี ที่
23

อาเรา













นฤดูร้อนของปี 1895 เม่อไอน์สไตน์มีอำย 16

ปี เขำเขียนบทควำมฟิสิกส์ช้นแรกซ่งเก่ยวข้องกับ



ประเด็นท่จะมีบทบำทส�ำคัญย่งต่อชีวิตกำรท�ำงำนของ ภำพถ่ำยงำนแต่งงำนของน้องสำวไอน์สไตน์ มำยำ กับ พอล






เขำ น่นคือสสำรท่รู้จักกันในนำมว่ำ “อีเธอร์” ซ่งเช่อ วินเทเลอร์ ในปี 1910
กันว่ำด�ำรงอยู่ นักวิทยำศำสตร์ถือว่ำแสงเป็นคล่นชนิด





หน่ง และด้วยเหตุน เหล่ำนักวิทยำศำสตร์จึงเช่อว่ำใน ไฮน์ริช เวเบอร์ มองเห็นควำมสำมำรถของไอน์สไตน์



จักรวำลมีสสำรท่มองไม่เห็นแผ่กระจำยอยู่ ซ่งเรียกว่ำ และแนะน�ำให้เขำพักอยู่ท่ซูริค และมำเข้ำเรียนวิชำ


อีเธอร์ มันท�ำหน้ำท่กระจำยคล่นแสงออกไปโดยกำร ท่เขำสอนได้โดยไม่ต้องสอบเอำคะแนน แต่ไอน์สไตน์

กระเพอมเป็นระลอกต่อเนองเหมือนกบทน้ำกระจำย ตัดสินใจว่ำ มันจะดีกับเขำมำกกว่ำ หำกเขำเข้ำเรียน










คล่นในทะเล ณ เวลำน้น นักวิทยำศำสตร์ก�ำลังพยำยำม ท่โรงเรียนแห่งหน่งในหมู่บ้ำนใกล้ๆ ของเมืองอำเรำเป็น












ทกวถทำงในกำรตรวจหำตวตนของสงทเรยกวำอเธอรน ี ้ เวลำ 1 ปี



และวัดกำรเคล่อนท่ของโลกซ่งสัมพันธ์กับมัน ไม่มีใคร ทนน เขำได้พบกบยำถอนพษจำกกำรศกษำ









ประสบควำมส�ำเร็จ แต่น่นก็ไม่ได้ท�ำให้พวกเขำถอดใจ แบบเยอรมันอันเข้มงวด ไอน์สไตน์เขียนในภำยหลัง

หรือส�ำหรับไอน์สไตน์ในวัยรุ่นท่จะหยุดเช่อว่ำอีเธอร์ม ี ว่ำ วิถีแห่งกำรเรียนกำรสอนท่อำเรำท�ำให้เขำช่นชม




ตัวตนอยู่จริง คุณค่ำของกำรศึกษำท่บ่มเพำะควำมรู้สึกในกำรแสดง

บทควำมของไอน์สไตน์แสดงภำพรวมของกำร ควำมรับผิดชอบต่อกำรกระท�ำของตนเองมำกกว่ำกำร
ทดลองท่สำมำรถช่วยอธิบำยได้ว่ำ อีเธอร์จะมีพฤติกรรม สยบยอมต่อกฎระเบียบและอ�ำนำจ โรงเรียนแห่งน้ยัง


อย่ำงไรในสนำมแม่เหล็ก เขำส่งบทควำมไปให้ลุงของ กระตน “กำรทดลองทำงควำมคด” (หรอ Gedanken-







เขำ ซีซำร์ คอค ซ่งเป็นพ่อค้ำอยู่ท่ประเทศเบลเย่ยม experiment ในภำษำเยอรมัน ซึ่งตรงกับภำษำอังกฤษ
ด้วยควำมแสแสร้งแสดงควำมถ่อมตน ไอน์สไตน์เน้น ว่ำ thought experiment – ผู้แปล) และกำรออก

ย้ำถึงควำมไม่สมบูรณ์ต่ำงๆ ในบทควำมของเขำ เขำ ก�ำลังทำงควำมคิดโดยใช้จินตนำกำรเหล่ำน้ก็กลำยมำ

วิจำรณ์บทควำมตัวเองว่ำ เป็นผลงำนที่อ่อนหัดของเด็ก เป็นหนึ่งในกุญแจสู่ควำมส�ำเร็จของไอน์สไตน์










หนุ่มท่ขำดประสบกำรณ์ เขำยงอธบำยให้ลุงของเขำ ทอำเรำ เขำได้คดค้นสงทจะกลำยเป็นหนง






ฟังเก่ยวกับควำมต้งใจของเขำท่จะเข้ำเรียนท่วิทยำลัย ในกำรทดลองทำงควำมคิดท่โด่งดังที่สุดของเขำ เขำ



โพลีเทคนิคในเมืองซูริค แต่ระเบียบของสถำบันเก่ยว พยำยำมใช้จินตนำกำรว่ำ มันจะเป็นอย่ำงไรหำกเคล่อนท ี ่

กับเกณฑ์อำยุท่รับเข้ำเรียนสร้ำงควำมล�ำบำกให้กับเขำ ไปข้ำงๆ ล�ำแสง แม้ว่ำตัวเขำเองจะรู้สึกว่ำ กำรทดลอง
เพรำะอำยุของเขำต�่ำกว่ำเกณฑ์อยู่ 2 ปี ทำงควำมคิดต่ำงๆ ในช่วงแรกเป็นเร่องเด็กๆ แต่ต่อมำ




เพ่อนของไอน์สไตน์คนหน่งก้ำวเข้ำมำข้องเก่ยว เขำบอกเพ่อนคนหน่งว่ำ กำรทดลองทำงควำมคิดน้มี





กับเร่องน้โดยตกลงกับผู้อ�ำนวยกำรสถำบันโพลีเทคนิค ควำมสัมพันธ์โดยตรงกับทฤษฎีสัมพัทธภำพพิเศษของ

ผู้อนุญำตให้ “เด็กอัจฉริยะ” สอบเข้ำได้ เขำสอบผ่ำน เขำ เขำตระหนกได้ว่ำหำกใครสักคนหนงสำมำรถไล่ตำม


คณิตศำสตร์และวิทยำศำสตร์อย่ำงง่ำยดำย อย่ำงไร คลื่นแสงไปด้วยอัตรำเร็วเดียวกันกับแสงแล้ว คลื่นแสง





ก็ตำม เขำสอบตกภำษำฝร่งเศส วรรณคด กำรเมอง จะหยุดน่งอยู่ในเวลำ ณ ตอนน้น ไอน์สไตน์เห็นว่ำส่งน ้ ี








และสตววทยำ ศำสตรำจำรย์ด้ำนฟิสกส์คนหนงชอ เป็นไปไม่ได้
24



ครอบครัวอุปถัมภ์ของไอน์สไตน์ท่อำเรำคือ จะต้องเป็นหมำกตัวหนึ่งโดนจับไปท�ำหน้ำท่ทำงกำร



ครอบครัววินเทเลอร์ ซ่งจะเป็นครอบครัวท่มีอิทธิพล ทหำร ดังน้น เม่อได้รับอนุญำตจำกพ่อ เขำกรอกแบบ


อย่ำงใหญ่หลวงต่อชีวิตของเขำไปอีกยำวนำน ไม่มีใคร ฟอร์มสละสัญชำต และกระบวนกำรสละสัญชำติเสร็จ

รู้สึกประหลำดใจ และทุกคนดูเหมือนจะมีควำมสุข เม่อ ส้นในเดือนมกรำคมปี 1896 นอกจำกจะไม่ได้เป็น

ไอน์สไตน์หลงรักมำร ลูกสำวของพวกเขำ เม่อปลำยปี พลเมืองของประเทศใด เขำยังถือว่ำตัวเองไม่ได้เป็น










1895 ซงเป็นเวลำไม่กเดอนหลงจำกทเขำย้ำยเข้ำมำ สมำชิกของศำสนำใดๆ อีกด้วย ในค�ำร้องสละสัญชำต ิ





เธอเพงจะอำยครบ 18 ปี ซงแก่กว่ำเขำ 2 ปี และ เยอรมันอย่ำงเป็นทำงกำร เขำได้เขียนไว้ว่ำ เขำไม่


ก�ำลังอยู่อำศัยกับพ่อแม่ของเธอก่อนท่จะเข้ำท�ำงำนใน นับถือศำสนำใดๆ เม่อเขำมีอำยุมำกข้น โดยเฉพำะ


โรงเรียนแห่งหน่งในหมู่บ้ำนใกล้เคียง ในเดือนเมษำยน อย่ำงย่งเมอลทธต่อต้ำนยวเรมรนแรงขนในประเทศ













ปีถัดมำ ในช่วงปิดภำคเรียนฤดูใบไม้ผล เขำกลับไป เยอรมน เขำเร่มกลับมำเช่อมโยงตัวเองเข้ำกับควำม




เย่ยมครอบครัวของเขำในประเทศอิตำลี และเร่มจรด เป็นยิวของเขำ ไม่เหมือนกับเพ่อนร่วมงำนจ�ำนวนมำก




ปำกกำเขียนจดหมำยรักฉบับแรกถึงมำร เขำเขียนบอก ท่พยำยำมละท้งศำสนำยิวของตน เพรำะเป็นผู้ไม่ยอม
เธอว่ำ เธอท�ำให้เขำมีควำมสุขมำกแค่ไหน และเขำกอด จ�ำนนเสมอมำ ไอน์สไตน์รังเกียจชำวยิวที่ยินยอมและ
จดหมำยของเธอแนบไว้ท่หัวใจของเขำอย่ำงไร และ ประจบสอพลอผ้ททรมำนพวกเขำ และมองยวเหล่ำนั้น








จินตนำกำรถึงมือของเธอท่ก�ำลังขีดเขียนไปมำบนหน้ำ ว่ำเป็นเหมือนหอยทำกท่ละท้งเปลือกของตน ไม่มีส่งใด


กระดำษ สำมำรถเปล่ยนแปลงควำมเป็นยิวในระดับรำกฐำนของ






ไอน์สไตน์เป็นพลเมืองเยอรมันโดยก�ำเนิด บคคลหนงๆ ได้ สำหรบไอน์สไตน์แล้ว ควำมข้องเก่ยว


แต่เป็นสัญชำติท่น่ำอึดอัดส�ำหรับเขำ เขำเกลียดชัง กับยิวเป็นเร่องของเผ่ำพันธุ์ ไม่ใช่เร่องของควำมเช่อทำง



บรรยำกำศทำงกำรทหำรของประเทศเยอรมน และ ศำสนำ เขำอธิบำยว่ำ แม้ว่ำเขำไม่มีควำมเชื่อใดๆ เลย
ู่


กังวลใจว่ำ หำกเขำยังเป็นพลเมืองเยอรมันอย เขำอำจ ในส่งชำวยิวศรัทธำ เขำก็ยังยินดีท่จะนับว่ำตนเองเป็น
ทฤษฎีการศึกษาของโยฮันน์
ฮายน์ริช เพสตาโลซซี

บำงคร้งโชคชะตำก็สร้ำงควำมเหมำะสมอนสมบรณ ์



แบบ ส่งน้เกิดข้นเม่อไอน์สไตน์เข้ำเรียนท่โรงเรียนอำเรำ





กำรเรยนกำรสอนท่น่นเป็นไปตำมวิธีกำรของโยฮันน์





ฮำยนรช เพสตำโลซซิซงพฒนำขนมำในช่วงต้นศตวรรษท ่ ี




19 ในหนังสือ How Gertrude Teaches her Children

ตีพิมพ์เม่อปี 1801 นักปฏิรูปทำงกำรศึกษำ ชำวสวิส
ออกแบบหลักกำรท่ส่งเสริมให้เด็กๆ รู้จักคิด เขำเช่อว่ำ


เด็กๆ ควรมีควำมเข้ำใจอย่ำงลุ่มลึกผ่ำนกำรสังเกตและ
กำรทดลอง ไม่ใช่กำรเรียนแบบท่องจ�ำ โรงเรียนอำเรำ




จดกำรเรยนกำรสอนโดยอำศยจนตนำกำรผำนกำรทดลอง



ทำงควำมคิดซ่งไอน์สไตน์ช่นชอบ แม้แต่กำรเรียนกำรสอน


คณิตศำสตร์ก็เป็นไปตำมวิธีกำรของเพสตำโลซซ ซ่งเร่ม

ต้นด้วยกำรสังเกตวัตถุต่ำงๆ และอำศัยจินตนำกำรในกำร
สร้ำงมโนทัศน์เชิงนำมธรรม วิธีกำรในกำรเข้ำถึงแนวคิด




พนฐำนผ่ำนกำรใช้จนตนำกำรเช่นนกลำยส่วนสำคัญท ี ่


ขัดเกลำอัจฉริยภำพของไอน์สไตน์ให้แหลมคม
ซ้าย: ภำพแกะสลักไม้ในปี 1882 แสดงกำรเรียนกำรสอนของ
เพสตำโลซซีและอันนำ ภรรยำของเขำ
25

ครอบครัววินเทเลอร์

บิดำจอสต์ วินเทเลอร์ ซ่งเป็นครูสอนภำษำกรีกและประวัติศำสตร์

เป็นนักเสรีนิยมประชำธิปไตย เป็นคนเถรตรง และมีอุดมกำรณ์ ซึ่งเป็น

ลักษณะท่ไอน์สไตน์ช่นชอบ เขำเกลียดชังลัทธิทหำรเยอรมันและควำม

เปนชำตนยมเชนเดยวกบไอนสไตน์ เขำยงมสวนปลกฝงควำมเชอเกยวกบ

















ควำมเป็นสำกลนิยม ควำมรักสันติภำพ และสังคมนิยมประชำธิปไตยให้กับ







ไอนสไตน เชนเดยวกนกับควำมหวังท่จะมีสหพันธรัฐโลก ซ่งจะกลำยเป็น

ส่วนหน่งของควำมคิดของไอน์สไตน์ในภำยหลัง นอกจำกน สมำชิกคนอ่นๆ




ในครอบครวก็มีอิทธิพลท่ลึกซ้งต่อไอน์สไตน์ โรซำ ภรรยำของวินเทเลอร์


เป็นเหมือนตัวแทนแม่ของเขำ ในขณะท่มำร ลูกสำวของพวกเขำ กลำยเป็น


แฟนคนแรกของไอน์สไตน์ และมำยำ น้องสำวของไอน์สไตน์ต่อมำได้
แต่งงำนกับ พอล ลูกชำยของครอบครัววินเทเลอร์
บน: มิเคเลอ เบสโซ เพ่อนสนิทของไอน์สไตน์ได้กระชับควำมสัมพันธ์ของ

ไอน์สไตน์ท่มีกับครอบครัววินเทเลอร์เม่อเขำแต่งงำนกับอันนำ ลูกสำวของ


ครอบครัววินเทเลอร์
ส่วนหนึ่งของชำวยิว เป็นวิชำท่เขำท�ำได้ไม่ดีนัก อย่ำงไรก็ตำม แม้ว่ำควำม


หลังจำกใช้เวลำหน่งปีในอำเรำ ไอน์สไตน์เรียน ช�ำนำญในภำษำของเขำจะอ่อนด้อย แต่บทควำมของ



จบด้วยคะแนนสงสดเป็นอนดบ 2 ของห้องและสอบ เขำก็เต็มไปด้วยควำมคิดเห็นส่วนตัวอันหลักแหลม


เข้ำสถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริคอีกคร้ง เขำได้คะแนน ท่ท�ำให้มันกลำยเป็นส่วนท่น่ำสนใจท่สุดในกำรตอบ






สูงสุดในวิชำคณิตศำสตร์ท้งๆ ท่สับสนระหวำงจำนวน ข้อสอบของเขำ เขำเขียนว่ำ เขำหวังจะเป็นครูสอน


“จินตภำพ” กับ จ�ำนวน “อตรรกยะ” เขำยงได้คะแนน คณิตศำสตร์หรือฟิสิกส์ โดยเน้นไปในทำงทฤษฎีของ







สงสดในวชำฟิสกส์ แม้ว่ำเขำจะใช้เวลำเพยง 75 นำท ศำสตร์เหล่ำน้น ควำมเป็นอิสระท่ได้รับจำกกำรประกอบ



จำก 120 นำทีท่มีให้ส�ำหรบกำรสอบ ภำษำฝร่งเศส อำชีพด้ำนวิทยำศำสตร์เป็นสิ่งที่ดึงดูดเขำ


ไอน์สไตน์กับเพื่อนร่วมชั้นที่ก�ำลังจะส�ำเร็จกำรศึกษำในปี 1896 ที่โรงเรียนอำเรำ ไอน์สไตน์นั่งอยู่ซ้ำยมือคนแรก
26









ใบผลกำรเรยนของไอน์สไตน์จำกโรงเรยนอำเรำในปี 1896 เขำมผลกำรเรยนดในวชำประวตศำสตร์ พชคณต เรขำคณต



เรขำคณิตพรรณนำ และฟิสิกส์
(ดูค�ำแปลด้ำนหลัง)
27

สถาบันโพลีเทคนิคแห่งซูริค













ถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริคเป็นวิทยำลัยท่ดีเป็น เห็นคุณค่ำของบุคลิกและนิสัยท่ชอบท้ำทำยและ

อันดับสองของเมือง ไม่เหมือนกับมหำวิทยำลัย ต้งค�ำถำมของไอน์สไตน์ได้อย่ำงเต็มท ไฮน์ริช เวเบอร์





ซูริคท่โดดเด่นกว่ำ สถำบันโพลีเทคนิคไม่มีกำรเรียน ผู้ซึ่งหนึ่งปก่อนหนำชื่นชอบไอนสไตน์และชวนใหเขำ



กำรสอนปริญญำระดับดุษฏีบัณฑิต มันเป็นสถำบัน มำฟังบรรยำยของตนโดยไม่ต้องสอบเอำคะแนนนน




ท่มุ่งเน้นกำรฝึกหัดครูและกำรฝึกหัดทำงเทคนิค เม่อ เป็นอำจำรย์สอนฟิสิกส์ให้ไอน์สไตน์เป็นหลัก พวก
ไอน์สไตน์วัย 17 ปีเดินทำงไปถึงท่น่นในเดือนตุลำคม เขำเข้ำกันได้ดีในช่วงปีแรกๆ ท่ไอน์สไตน์เรียนท ี ่





1896 เขำลงทะเบียนเรียนในสำขำส�ำหรับฝึก “ผู้ท โพลีเทคนิค แต่ไม่นำน ไอน์สไตน์ก็หมดควำมอดทน






จะเป็นครูผู้มีควำมเช่ยวชำญเฉพำะด้ำนคณิตศำสตร์ กบวธกำรสอนของเวเบอร์ทเน้นควำมเป็นมำทำง
และฟิสิกส์” ประวัติศำสตร์ และขำดควำมสนใจต่อควำมก้ำวหน้ำ
เขำเป็นนักศึกษำท่เรียนด โดยเฉพำะอย่ำง ในฟิสิกส์ในปัจจุบัน ยกตัวอย่ำงเช่น เวเบอร์ไม่



ย่งในวิชำฟิสิกส์ ในระยะเวลำ 4 ปีของหลักสูตรของ พยำยำมจะข้องเกยวกบทฤษฎอนสง่ำงำมของเจมส์





เขำ เขำได้คะแนนสูงในวิชำฟิสิกส์เชิงทฤษฎีท้งหมด คลำร์ก แมกซ์เวลล์ ซ่งอธิบำยว่ำ คล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ









แต่กลับได้คะแนนต่ำลงมำในวิชำคณิตศำสตร์ โดย อย่ำงเช่นแสงนนแผ่กระจำยตวได้อย่ำงไร นกศกษำ


เฉพำะอย่ำงย่งวิชำเรขำคณิต ตำมท่ไอน์สไตน์ได้ ร่วมช้นเรียนคนหน่งบ่นว่ำ “เรำเฝ้ำรอกำรพูดถึง




อธบำยในภำยหลงว่ำ เมอยงเป็นนกศกษำ เขำ ทฤษฎีของแมกซ์เวลอย่ำงเสียเวลำเปล่ำ ไอน์สไตน์








ท�ำพลำดไปท่ไม่ส�ำนึกว่ำควำมเข้ำใจท่ดีในควำมรู้ ผิดหวังมำกกว่ำใครๆ” เขำเร่มเรียกเวเบอร์ด้วย



พ้นฐำนของฟิสิกส์ถือเป็นส่งท่ขำดไม่ได้ และส�ำคัญ ลักษณะท่ไม่เป็นทำงกำร โดยเรียกเขำว่ำ “คุณ





ย่งต่อกำรได้มำซ่งควำมช�ำนำญแตกฉำนในวิธีกำรทำง เวเบอร” แทนทจะเปน “ทำนศำสตรำจำรย” ควำม





คณิตศำสตร์ที่สลับซับซ้อน จองหองของไอน์สไตน์ท�ำให้เวเบอร์รู้สึกโมโห เม่อจบ
แม้ว่ำเขำจะเป็นนักศึกษำท่ด แต่เขำก็ม ปี 4 พวกเขำเป็นศัตรูกัน เวเบอร์ให้ค�ำแนะน�ำเขำว่ำ




ปัญหำกับเหล่ำอำจำรย์อยู่เสมอ เพรำะอย่ำงไร กำร “คุณเป็นเด็กท่ฉลำดมำกๆ ไอน์สไตน์ ฉลำด

เคำรพเช่อฟังผู้มีอ�ำนำจก็ไม่เคยเป็นส่วนหน่งใน หลักแหลมเป็นท่สุด แต่คุณมีข้อเสียท่ใหญ่ย่งอยู่




ธรรมชำติของเขำอยู่แล้ว ส่วนพวกครูก็มองไม่ ข้อหน่ง น่นคือ คุณไม่เคยยอมรับฟังอะไรจำกใคร



“คุณเป็นเด็กท่ฉลาดมากๆ ไอน์สไตน์ ฉลาดหลักแหลมเป็นท่สุด แต่คุณ

มีข้อเสียที่ใหญ่ยิ่งอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือ คุณไม่เคยยอมรับฟังอะไรจากใครเลย”
ไฮน์ริช เวเบอร์
28

สถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริค ซึ่งไอน์สไตน์เป็นนักศึกษำระหว่ำงปี 1896-1900



เลย” แม้ว่ำค�ำพูดน้จะเป็นควำมจริง แต่เม่อพิจำรณำ ไอน์สไตน์ตกวิชำฟิสิกส์ กำรเข้ำช้นเรียนไม่สม่ำเสมอ





สภำพท่ขัดแย้งกันในโลกแห่งฟิสิกส์ในปลำยศตวรรษ ของเขำส่วนหน่งเป็นส่งท่น่ำต�ำหน ส่งผลให้ในเดือน


ท 19 แล้ว ควำมสำมำรถของไอน์สไตน์ในกำร มีนำคม 1899 เขำได้รับ “ค�ำว่ำกล่ำวตักเตือนจำก



เมินเฉยต่อควำมรู้ท่สืบต่อกันมำไม่ได้เป็นข้อบกพร่อง ผู้อ�ำนวยกำรสถำบันฯ” ว่ำ “ขำดควำมขยันหม่น

ที่เลวร้ำยถึงตำย เพียรในฟิสิกส์เชิงปฏิบัติ”


ควำมสัมพันธ์ของไอน์สไตน์กับอำจำรย์ฟิสิกส์ เม่อไอน์สไตน์ยอมเข้ำช้นเรียนของเปร์เนต์

คนอ่นๆ ท่โพลีเทคนิค เช่น ฌอง เปร์เนต์ ก็ไม่ จริงๆ นิสัยรักอิสระท่ยำกจะแก้ไขได้ของเขำมักท�ำให้





ได้ยำกล�ำบำกน้อยไปกว่ำกัน เปร์เนต์ควบคุมดูแล เร่องต่ำงๆ ย่ำแย่ลงไปกว่ำเดิมอยู่บ่อยๆ วันหน่งเขำ

กำรทดลองเชิงปฏิบัต และไอน์สไตน์ไม่เคยเป็น ได้รับค�ำส่งเป็นลำยลักษณ์อักษรให้ท�ำกำรทดลองหน่ง



นักทดลองท่ด ซ่งก็เป็นเหตุผลหน่งท่เขำกลำยเป็น เพ่อนร่วมช้นของเขำเล่ำในภำยหลังว่ำ “ด้วยนิสัย






นกทฤษฎ ในชนเรียนของเปร์เนต์ “กำรทดลอง ไม่ฟังใครอันเป็นธรรมดำของเขำ ไอน์สไตน์เหว่ยง







ทำงฟิสิกส์ส�ำหรับผู้เร่มต้น” ไอน์สไตน์มีผลกำรเรียน เอกสำรค�ำสั่งน้นลงถังขยะไปเลย” เม่อไม่ยอมท�ำตำม

ต่ำท่สุดเท่ำท่จะเป็นไปได้ น่นคือ เขำได้เกรด 1 ค�ำสั่งของผู้อ่น เขำก็ท�ำกำรทดลองไปตำมควำมพอใจ







อำจำรย์เปร์เนต์จึงได้รับช่อเสียงในฐำนะผู้ท่ท�ำให้ ของเขำ กำรชอบท�ำอะไรตำมใจตนเองก็น�ำมำซ่ง


29



อุบัติเหตุในท่สุด ในเดือนกรกฎำคมปี 1899 เขำได้ สอนเปียโนอยู่ในห้องใต้หลังคำท่อยู่ติดกับบ้ำนของ

รับบำดเจ็บท่มือขวำเพรำะเหตุระเบิดในห้องทดลอง เขำ เขำคว้ำไวโอลินของตัวเองแล้วรีบวิ่งออกไป พุ่ง



และจบลงที่เขำต้องไปเย็บแผลที่คลินิก ตรงข้นบันไดบ้ำนของเพอนบ้ำนทันท แม้ว่ำเธอจะ







ดนตรไม่เคยหยุดเป็นหนงในควำมคล่งไคล้ท ตกอยู่ในควำมสับสนมึนงง ไอน์สไตน์ขอร้องให้เธอ


ทรงอิทธิพลของไอน์สไตน์ มันเป็นสะพำนท่ต่อตรง เล่นต่อไป และไม่ช้ำท้งสองก็เล่นดนตรีแบบบรรเลง


กับควำมสอดประสำนเป็นหน่งเดียวท่วำงตัวอยู่ คู่ โดยมีไวโอลินประกอบเพลงโซนำตำของโมสำร์ท


เบ้องหลังจักรวำล เขำรู้สึกว่ำอัจฉริยภำพของนัก ไอน์สไตน์มีควำมช่นชมเป็นพิเศษต่อควำม


ประพันธ์เพลงผู้ย่งใหญ่ท้งหลำยน้น อยู่ท่ควำม ชัดเจนของโครงสร้ำงในดนตรีของโมสำร์ทและบำค


สำมำรถในกำรสร้ำงแบบแผนออกมำมำกกว่ำเพียง เขำรู้สึกว่ำ ควำมชัดเจนน้ท�ำให้ดนตรีของพวกเขำ

แค่เรียบเรียงค�ำพูด เขำยังสัมผัสควำมสวยงำมแห่ง ดูรำวกับถือก�ำเนิดออกมำจำกจักรวำลโดยตรงมำกกว่ำ

ควำมเป็นหนึ่งเดียวนี้ได้ในกำรศึกษำฟิสิกส์ของเขำ ถูกประพันธ์ปั้นแต่งข้นมำอย่ำงจงใจ คล้ำยๆ กับ

ขณะก�ำลังน่งอยู่ในบ้ำนพักของเขำในเย็นวัน ทฤษฎีทำงวิทยำศำสตร์ของเขำเอง ในขณะท่ดนตร ี

หนง ไอน์สไตน์ได้ยนเสยงเพ่อนบ้ำนผ้เป็นหญงชรำ ของบีโธเฟนเป็นที่แน่ชัดว่ำ มำจำกฝีมืออันสร้ำงสรรค์







เล่นเปียโนเพลงโซนำตำของโมสำร์ท ขณะท่เธอก�ำลัง ของนักประพันธ์ ไอน์สไตน์ต้งข้อสังเกตภำยหลังว่ำ


มาร์เซล โกรสส์มันน์ (1878-
1936)

ขณะเป็นนักศึกษำ เขำมีเพ่อนสนิทหน่ง ึ

หรือสองคนท่ไปไหนมำไหนด้วยกัน มำร์เซล



โกรสส์มันน์ เป็นเพ่อนสนิททสดของเขำ เขำม ี



พ้นเพเป็นชำวยิวท่ร่ำรวย พ่อของเขำเป็นเจำของ


โรงงำนใกล้ซูริค โกรสส์มันน์คอยช่วยเหลือ

ไอนสไตนเก่ยวกับกำรจดค�ำบรรยำยในห้องเรียน


ผู้ซ่งไม่ค่อยมำเข้ำเรียน ต่อมำในภำยหลง








ไอน์สไตน์รู้สึกเป็นหน้บุญคุณโกรสสมนนในเรองน ้ ี
เขำกล่ำวว่ำ เขำไม่อยำกจะคิดเลยว่ำ ผลกำรเรียน
ของเขำจะออกมำเป็นอย่ำงไร หำกเขำไม่มีสมุด

จดบันทึกของเพ่อนของเขำ ท้งคู่ใช้เวลำยำมบ่ำย

ด้วยกันอย่ำงยำวนำน ด่มกำแฟเย็นและสูบบุหร่ท ี ่


คำเฟเมโทรโพลรมแม่นำในซริค โกรสส์มนนกลำว







ยืนยันกับพ่อแม่ของเขำว่ำ “วันหน่งไอน์สไตน์




จะเป็นคนท่ย่งใหญ่คนหน่ง” ตวโกรสส์มนน์เอง



ก็มีส่วนในควำมย่งใหญ่ของไอน์สไตน์ในอนำคต
เขำช่วยให้ไอน์สไตน์ได้มีงำนท�ำเป็นงำนแรกท ี ่
ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตรสวิส และยังช่วยเขำเก่ยวกับ

คณิตศำสตร์ท่เปล่ยนแปลงทฤษฎีสัมพัทธภำพ


พิเศษเป็นทฤษฎีสัมพัทธภำพทั่วไป
30



ดนตรีของโมสำร์ทดูเหมอนจะครอบครองควำม ของเขำบอกกับพ่อแม่ของเขำว่ำ “เจ้ำหนุ่มคนน้จะ


บริสุทธ์ซ่งด�ำรงอยู่ไปพร้อมๆ กัน และไม่ได้ถูกสร้ำง ไม่มีวันท�ำอะไรได้ส�ำเร็จ เพรำะเขำไม่สำมำรถจดจ�ำ


ข้นมำ ซ่งเป็นสิ่งท่ท�ำให้ดนตรีของเขำสอดประสำน อะไรได้เลย”




กลมกลืนเป็นหน่งเดียวกับจักรวำล ส่วนบีโธเฟน ด้วยในตอนน้ไอน์สไตน์เป็นนักเรียนท่ม ี
แน่นอนว่ำไม่เป็นท่ช่นชอบสักเท่ำใดส�ำหรับรสนิยม เอกลกษณ์เฉพำะตวไม่เหมอนใคร มกำรใช้ชีวิตท ่ ี







ของไอน์สไตน์ และควำมจรงทว่ำบทเพลงของบโธเฟน ไม่แคร์โลก และค่อนข้ำงหมกมุ่นครุ่นคิดอยู่กับแต่



แสดงออกถึงตัวตนของตัวผู้แต่งมำกเหลือเกินท�ำให้ ตัวเอง ควำมสัมพันธ์ของเขำกับมำร วินเทเลอร์น่ำ

ไอน์สไตน์รู้สึกอึดอัด จะไม่ยืนยำว ในตอนแรก เขำเขียนตอบจดหมำยท ่ ี
ท่สถำบันโพลีเทคนิค ไอน์สไตน์เร่มมีอำกำร ออกจะดูประหลำดกับลูกสำวแสนน่ำรักแต่เอำแน่





ใจลอยและแตงตัวหลดลย ซงต่อมำจะท�ำให้เขำกลำย เอำนอนไม่ได้ของครอบครัวอุปถัมภ์ของเขำท่อำเรำ


ุ่

เป็นภำพแทนของศำสตรำจำรย์สติเฟื่อง เม่อออกเดิน เขำส่งเส้อผ้ำไปให้เธอซักทำงไปรษณีย์โดยท่บ่อยคร้ง ั



ทำงไปไหนมำไหน เขำมักหลงลืมท่จะน�ำเส้อผ้ำติดตัว ไม่มีแม้แต่จะเขียนโน้ตข้อควำมส่งไปถึงเธอ มำรีก็ยัง



ไปด้วย เขำล้มเหลวอย่ำงต่อเน่องท่จะจดจ�ำว่ำเขำได้ พยำยำมตำมใจเขำด้วยกำรเขียนเล่ำกำรเดินทำงของ













ท�ำอะไรกับกุญแจบ้ำนของเขำ จนมันกลำยเป็นเร่อง เธอไปยงททำกำรไปรษณย์เพอส่งเสือผ้ำทเพิงซกเสรจ


ตลกท่เจ้ำของบ้ำนหญิงของเขำมักน�ำมำล้อเลียนเป็น กลับไปให้ว่ำ “เดินผ่ำนป่ำฝ่ำสำยฝนท่ไหลรินลงมำ





ประจ�ำ ในระหว่ำงกำรเย่ยมครอบครัวเพ่อนคร้งหน่ง ฉันเพ่งมองหำกระดำษโน้ตแผ่นเล็กๆ อย่ำงสูญเปล่ำ
ไอน์สไตน์ได้ลืมกระเป๋ำเดินทำงของเขำ และเจ้ำบ้ำน แต่เพียงแค่กำรได้เห็นลำยมือของเธอบนท่อยู่ก็เพียง

พอที่จะท�ำให้ฉันสุขใจ”
เม่อไอน์สไตน์ตดสมพนธ์กบมำร เขำเขียน






จดหมำยอธิบำยกำรกระท�ำของเขำไปยังแม่ของ


มำร จดหมำยแสดงให้เหนว่ำ ไอน์สไตน์ได้เร่มเอำ



ตัวออกห่ำงจำกส่งต่ำงๆ ท่เป็นผลของควำมผูกผัน
ทำงอำรมณ์ และพยำยำมอำศัยวิทยำศำสตร์เป็น


หนทำงแห่งกำรหลีกหนีจำกเร่องรบกวนใจท “เป็น


เพียงเร่องส่วนตัว” เขำให้เหตุผลกับกำรกระท�ำของ
เขำโดยยนยนว่ำ เขำเองกร้สกเจบปวดทได้ทำให้มำ









รีทุกข์ทรมำนจำกกำรเลิกรำของพวกเขำทเกิดข้น



อย่ำงฉับพลัน แม้กระน้น ด้วยนิสัยท่ชอบหมกมุ่นอย ู่


กับตัวเอง เขำอธิบำยต่อไปว่ำ เขำจะไว้วำงใจให้กำร
แสวงหำทำงปัญญำและกำรใคร่ครวญครุ่นคิดถึง
แผนกำรของพระเจ้ำในจักรวำลเป็นหนทำงในกำรน�ำ
เขำให้ก้ำวพ้นข้ำมผ่ำนเวลำอันยำกล�ำบำกเหล่ำนี้
ภำพถ่ำยในปี 1895 แสดงให้เห็นภำพลักษณ์ท่รกรุงรังของ

ไอน์สไตน์ น่ทำให้เขำกลำยเป็นภำพจ�ำของศำสตรำจำรย์


สติเฟื่อง
31

มิเลวา มาริช












ผู้หญิงอยู่เพียงคนเดียวในช้นเรียนคณิตศำสตร์



และฟิสิกส์ท่สถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริค น่เป็น

ช่วงเวลำก่อนท่ผ้หญิงจะได้รับกำรสนับสนนให้เข้ำสู่


วงกำรวิทยำศำสตร์ระดับสูง แต่มิเลวำ มำริช เป็นข้อ
ยกเว้น เธอมำจำกครอบครัวเกษตรกรชำวเซอร์เบียอัน







ตำต้อย อย่ำงไรกตำม พ่อผ้ท่มเทของเธอ ซงท�ำงำน มิเลวำ มำริช นักฟิสิกส์และนักคณิตศำสตร์ ชำวเซอร์เบียน

ตำมสำยงำนทหำร และแต่งงำนเป็นอยู่สุขสบำย ก็ม ภรรยำคนแรกของไอน์สไตน์

เงินทองเพียงพอท่จะสนับสนุนควำมมุ่งม่นของลูกสำว


ผู้มีควำมสำมำรถของเขำในกำรฝ่ำฟันเข้ำไปยังโลกของ ได้กลำยมำเป็นศูนย์กลำงท่ส�ำคัญในชีวิตของไอน์สไตน์
วิทยำศำสตร์ที่มีผู้ชำยเป็นใหญ่ เป็นคนรักของเขำ เป็นภรรยำ และคู่ถกเถียงท่เป็น


กำรศึกษำของเธอเป็นสงท่ต้องกำรควำมวิริยะ มิตร เธอสร้ำงสนำมอำรมณ์ข้นมำรอบตัวเขำ รวมท้ง ั



อุตสำหะมำก แต่เธอก็สอบได้คะแนนสูงสุดในช้น แรงดึงดูดและแรงผลักในบำงคร้ง ซ่งเป็นส่งที่ทรงพลัง





เรียนอยู่เสมอ ไม่ว่ำจะเป็นท่สถำนศึกษำใดท่เธอเข้ำ มำกเสียจนท่แม้แต่นักวิทยำศำสตร์ผู้ซ่งคุ้นเคยกับกำร







เรียน เช่น ท่โรงเรียนมัธยมชำยล้วนช่อ Classical ไขควำมลับของปริศนำท่ลึกซ้งย่งกว่ำมำกไม่สำมำรถ

Gymnasium ในเมืองซำเกร็บ พ่อของเธอสำมำรถ เข้ำใจได้


จัดกำรให้เธอเข้ำเรียนได้ (โรงเรียนแห่งน้เป็นโรงเรียน พวกเขำตกหลุมรักกันเม่อไปเดินป่ำด้วยกันใน





ท่เก่ำแก่มำกแห่งหน่งของโครเอเชีย ก่อต้งในปี 1607 ฤดูร้อนปี 1897 ซ่งเป็นเวลำไม่ถึงปีท่พวกเขำพบกันท ี ่
ได้ช่อว่ำ classical เพรำะเน้นกำรศึกษำด้ำนภำษำ สถำบันโพลีเทคนิค เพรำะหวำดกลัวควำมรู้สึกแปลก

เช่น ภำษำละติน กรีกโบรำณ ปรัชญำ วรรณคดี และ ใหม่ที่เธอมีให้ไอน์สไตน์ มำริชตัดสินใจรักษำระยะ


ประวัติศำสตร์ – ผู้แปล) เธอเรียนจบท่น่น และท�ำ ห่ำงระหว่ำงเธอและเขำ และลงเรียนท่มหำวิทยำลัย

คะแนนในวิชำฟิสิกส์และคณิตศำสตร์ได้สูงสุดเช่นเคย ไฮเดลแบร์กเป็นกำรชั่วครำว

มำริชเข้ำเรียนร่วมช้นกับไอน์สไตน์ท่สถำบันโพลีเทคนิค หลังจำกไปถึงท่น่นได้ไม่นำน มำริชเขียน











แห่งซูริคตอนที่อำยุยังไม่ถึง 21 ปี จดหมำยฉบบหนงถงไอน์สไตน์ซงแสดงให้เหนถง
มำริชไม่ได้น่ำรักหรือมีเสน่ห์อะไรเป็นพิเศษ ลักษณะต่ำงๆ ของเธอท่ไอน์สไตน์หลงใหลเป็นอย่ำงย่ง




เธอเกิดมำพร้อมกับอำกำรสะโพกเคล่อนซ่งท�ำให้เธอ มำริชไร้ซ่งควำมน่ำรักและควำมโลเลแบบมำร วินเทเลอร์



เดินกะเผลก และเธอมีอำกำรส้นหวังเก่ยวกับตัวเธอ เธอแสดงควำมไม่ผูกพันอันยียวนซึ่งช้ชัดให้เห็นว่ำ เธอ





เอง แต่ไอน์สไตน์ชอบเธอ อย่ำงน้อยก็ในสมัยท่ยัง คดถงเขำเพียงน้อยนด แม้ว่ำจะได้รบจดหมำยขนำด








เป็นนักศึกษำปริญญำตร เธอมีลักษณะท่เขำเห็นว่ำน่ำ ยดยำวจำกเขำกตำม เธอเขียนว่ำ “บดน้ก็เป็นระยะ
หลงใหล น่นคือ ควำมคล่งไคล้ในวิทยำศำสตร์และ เวลำพอสมควรแล้วต้งแต่ฉันได้รับจดหมำยของเธอ




จิตวิญญำณที่ชอบครุ่นคิดใคร่ครวญในสิ่งต่ำงๆ แววตำ และฉันควรจะได้ตอบจดหมำยของเธอในทันท และ

ของเธอมีควำมลุ่มลึกและควำมเอำจริงเอำจัง ใบหน้ำ ขอบคุณส�ำหรับควำมเสียสละท่ได้เขียนมำยำวถึง 4

ของเธอแสดงควำมโศกเศร้ำท่เย้ำยวนใจ ในท่สุด เธอ หน้ำกระดำษ และฉันควรจะได้บอกกับเธอว่ำ ฉันได้

32


รับควำมสนุกสนำนจำกเธอตลอดกำรเดินทำงของเรำ ผู้ซ่งแทบจะไม่มีอะไรดึงดูดใจ แถมยังมีขำกะเผลก









แต่เธอบอกว่ำ ฉนควรเขยนถงเธอสกวนหน่งเมอฉน และซึมเศร้ำเป็นนิสัย เพ่อนร่วมช้นคนหน่งพูดกับเขำ





รู้สึกเบ่อ และฉันเป็นคนด้อมำก และฉันรอและรอให้ ว่ำ “ฉันไม่มีวันกล้ำพอที่จะแต่งงำนกับผู้หญิง เว้นเสีย


ควำมเบ่อปรำกฏ แต่จนบัดน้กำรรอคอยของฉันนับว่ำ แต่ว่ำ เธอจะมีสุขภำพท่ดีจริงๆ” ไอน์สไตน์ตอบกลับ


สูญเปล่ำ” ไปว่ำ ควำมงดงำมในน้ำเสียงของมิเลวำมันท�ำให้ยำก
ไอน์สไตน์ดูเหมือนจะหลงใหลในลักษณะท่ย้อน ที่จะต้ำนทำนเธอได้



แย้งกันเองของมำริช น่นคือ ควำมข้เล่นและควำมเป็น แน่นอน พวกเขำมีจิตวิญญำณท่คล้ำยคลึง


ผู้ใหญ่ ควำมไม่แยแสและควำมใส่ใจ ควำมกระตือรือร้น กัน พวกเขำดึงดูดกันและกันด้วยท้งทำงสติปัญญำ


และควำมเฉยชำของเธอ มันเป็นส่วนผสมซ่งดูแปลก และจิตวญญำณ พวกเขำถอว่ำตนเองเป็นค่รักอน



ประหลำด แม้กระน้นก็ส่องสะท้อนควำมเป็นตัวตน สูงส่งแห่งกำรเป็นคนนอกกรอบทำงวิชำกำร พวกเขำ

ของตัวไอน์สไตน์เองด้วย เขำพยำยำมโน้มน้ำวให้มิเลวำ ปฏิเสธธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมกระฎุมพ แต่ละคน



กลับมำยังสถำบันโพลีเทคนิค ในเดือนกุมภำพันธ์ 1898 ก็แสวงหำควำมเก่ยวข้องแบบโรแมนติกกับใครสักคน
เธอตัดสินใจกลับมำซ่งสร้ำงควำมต่นเต้นให้กับไอน์สไตน์ ท่สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรทำงสติปัญญำของ







เป็นอย่ำงย่ง เขำเขียนว่ำ มันไม่ใช่กำรตัดสินใจท่เธอจะ พวกเขำได้ และเป็นคู่หูและเพ่อนร่วมงำนท่ท�ำงำน



มำร้สกเสียใจในภำยหลง และกระตุ้นให้เธอกลับมำให้ ได้ประสบควำมส�ำเร็จ ในจดหมำยของเขำถึงมิเลวำ
เร็วที่สุดเท่ำที่เธอจะท�ำได้ ไอน์สไตน์เขียนว่ำ มันดูรำวกับว่ำพวกเขำเป็นจิตวิญญำณ


2-3 เดือนต่อมำ เธอกลับมำยังเมืองซูริค ฝำแฝดซ่งอภิรมย์ชมชอบในส่งเดียวกัน ประสบกำรณ์


อำศัยอยู่ในบ้ำนเช่ำห่ำงไปเพียงไม่ก่หลังจำกไอน์สไตน์ ธรรมดำสำมัญท่มีร่วมกันท่เช่อมพวกเขำเข้ำไว้ด้วยกัน



พวกเขำกลำยเป็นคู่รักท่อ่ำนหนังสือร่วมกัน มีควำมใกล้ กำรโอบกอด กำรไปเดินเล่นด้วยกัน กำรชงกำแฟ

ชิดสนิทสนม และไปมำหำสู่กันท่ห้องพักของแต่ละคน หรือแม้แต่กำรทะเลำะกัน และแน่นอน เขำร่นรมย์ไป

ควำมสัมพันธ์ของพวกเขำสร้ำงควำมฉงนให้กับเพ่อนๆ กับควำมเป็นสหำยทำงสติปัญญำของเธอรวมท้งเวลำ


ของไอน์สไตน์ รูปลักษณ์หล่อเหลำและธรรมชำติท ท่พวกเขำใช้ศึกษำร่ำเรียนไปด้วยกันเป็นอย่ำงย่ง เขำ











น่ำหลงใหลของเขำสำมำรถเอำชนะใจผู้หญิงเกือบจะ ร้สกภำคภมใจอย่ำงแท้จรงทแฟนสำวของเขำจะสำเรจ




ทุกคนท่เขำปรำรถนำ แต่เขำกลับเลือกชำวเซอร์เบีย ปริญญำเอกในไม่ช้ำ
ล่าง: เพำลีเนอ ไอน์สไตน์ ในช่วงรำวๆ ปี 1900 ซึ่งเป็นช่วงเวลำที่ควำมสัมพันธ์ของไอน์สไตน์กับมิเลวำก�ำลังเบ่งบำน
แม่ของไอน์สไตน์กับมิเลวา
หลังจำกเรียนจบ ในเดือนกรกฎำคม ปี 1900 ไอน์สไตน์
เดินทำงไปยังเมลช์ทำล ซ่งเป็นหมู่บ้ำนในเทือกเขำแอลป์ ประเทศ

สวิสเซอร์แลนด์ ซ่งครอบครัวของเขำก�ำลังพักผ่อนวันหยุดฤดูร้อน


กันอยู่ แม่ของเขำไม่เคยพบมำริช แต่เธอไม่ชอบส่งท่เธอได้ยิน

เก่ยวกับมำริช เธอถำมไอน์สไตน์ทันทีว่ำ ระหว่ำงเขำกับมำริชคือ

อะไร ไอน์สไตน์ตอบอย่ำงไร้ควำมกังวลว่ำ เธอจะเป็นภรรยำของ

เขำในท่สุด ซ่งสร้ำงควำมไม่พอใจอย่ำงรุนแรงให้กับแม่ของเขำ



ไอน์สไตน์จ�ำได้ว่ำ แม่ของเขำว่งท่ไปเตียงและร้องไห้อย่ำงขมข่น

และน�ำหมอนมำปิดหัวของเธอไว้ แม่ของไอน์สไตน์ปฏิเสธมำริช

ไม่ใช่เพรำะเธอไม่ใช่ยิว และไม่ใช่เพรำะเธอชอบมำร วินเทเลอร์




เหมอนกบเพอนๆ ของไอน์สไตน์ แต่ทเธอไม่ชอบมำรชนนเป็น






เพรำะว่ำ มำริชมีอำยุมำกกว่ำไอน์สไตน์ถึง 3 ปี รวมท้งมีอำรมณ์
ที่แปรปรวน ร่ำงกำยที่พิกลพิกำรและควำมไร้ซึ่งควำมงำมของเธอ
33

ควำมสัมพันธ์ทำงสติปัญญำ มิเลวาที่มหาวิทยาลัย
และควำมผูกพันแบบหนุ่มสำวของพวก ไฮเดลเเบร์ก




เขำถกทอแนบแน่น ในช่วงวนหยดกบ
ครอบครวในปี 1899 ไอน์สไตน์เขยน มำริชดูเหมือนจะม ี



จดหมำยแสดงควำมผิดหวังท่กำรอ่ำน ควำมสุขกับเวลำของเธอ

งำนของเฮล์มโฮลทซ์ (Helmholtz) ท่ไฮเดลแบร์ก และเห็น


เป็นคร้งแรกของเขำต้องพงทลำยลง ว่ำกำรบรรยำยของผู้ช่วย
เหตุเพรำะไม่มีเธออยู่ข้ำงกำยเขำ กำร ศำสตรำจำรย์ ฟิลิปป์ เลนำร์ด


ได้ท�ำงำนโดยมีเธออยู่เคียงข้ำงน้นท�ำให้ เป็นอะไรท่คุ้มค่ำแก่กำรรับฟัง
เป็นอย่ำงย่ง เธอเขียนจดหมำย

เขำอุ่นใจและรู้สึกตื่นเต้น โต้ตอบทมเนอหำเข้มข้นในเชง










เม่อถงเวลำสำเรจกำรศึกษำ กำรแลกเปล่ยนควำมคิดกับไอน์สไตน์


ไอน์สไตน์เรียนจบด้วยเกรดเฉล่ย 4.9 ซ่งบอกเล่ำช่วงเวลำของเธอท่น่นซ่งเต็มไปด้วยกำรกระตุ้นและส่งเสริม





เป็นรองเพ่อนอีก 3 คนในช้นเรียน ทำงสติปัญญำ เธอบอกไอน์สไตน์อย่ำงต่นเต้นว่ำ เลนำร์ดก�ำลัง “พูด



เล็กๆ ซ่งมีเพียง 5 คนของเขำ ผล ถึงทฤษฎีจลน์ของควำมร้อนและก๊ำซ” และในจดหมำยอีกฉบับหน่ง


กำรเรียนน้ตรงกันข้ำมอย่ำงเห็นได้ชัด เธออธิบำยควำมคิดเก่ยวกับอนันต์ ซ่งไอน์สไตน์เคยพูดถึงก่อนหน้ำ





จำกกำรสอบกลำงเทอมในปี 1898 น้ว่ำ “ฉันไม่เช่อว่ำ เรำควรโทษโครงสร้ำงสมองมนุษย์ท่ไม่อนุญำต
ซ่งเขำได้คะแนนเป็นท่หน่งในช้นด้วย ให้เรำเข้ำใจควำมเป็นอนันต์ มนุษย์สำมำรถจินตนำกำรถึงควำมสุข









เกรดเฉล่ย 5.7 เต็ม 6 แม้ว่ำเร่อง ท่ไม่มีท่ส้นสุดได้ และควรสำมำรถเข้ำใจควำมเป็นอนันต์ของปริภูม ิ



เล่ำท่เป็นท่ช่นชอบท่ว่ำเขำสอบตก ได้ ฉันคิดว่ำมันง่ำยกว่ำกันมำก”






คณตศำสตร์ระดบชนมัธยมศกษำจะ บน: ฟิลิปป์ เลนำร์ด นักฟิสิกส์ชำวเยอรมัน กำรบรรยำยของเขำท่มหำวิทยำ


เป็นเร่องโคมลอย แต่ก็มีเร่องรำวท่น่ำ ลัยไฮเดลแบร์กสร้ำงควำมประทับใจให้กับมิเลวำ


ร่นหูพอกันท่วำเขำเรยนจบเกอบจะเป็น








ที่โหล่ของห้อง ซึ่งเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน เกรดเฉลย 4.9 ของไอน์สไตน์เหนอกว่ำ และเธอไม่






แม้ว่ำจะเป็นเร่องเฉียดฉิวท่เขำเกือบเรียนไม่ ผ่ำน อย่ำงไรกตำม เธอไม่ย่อท้อและตดสนใจอย่ต่อ

ผ่ำน ไอน์สไตน์ก็ท�ำได้ดีพอท่จะได้รบประกำศนียบัตร และลองใหม่อีกครั้งในปีหน้ำ

ในเดือนกรกฎำคมปี 1900 มิเลวำ มำริชไม่ได้โชคด ควำมล้มเหลวทำงวิชำกำรของเธอหรือกำรท ่ ี




อย่ำงน้น คะแนน 4.0 ของเธอเป็นเพียงหน่งเดียวท ครอบครัวของเขำต่อต้ำนเธอไม่ได้ท�ำให้ควำมรู้สึกของ

มหำวิทยำลัยไฮเดลแบร์ก ใน
ขณะมิเลวำมีควำมรู้สึกท่วมท้น
ด้วยควำมสัมพันธ์อันเข้มข้น
ชองเธอกับไอน์สไตน์ เธอมำ
เรียนที่นี่เป็นระยะเวลำสั้นๆ
34





ไอน์สไตน์ท่มีให้เธอลดน้อยลงไป ภำษำท่เขำใช้เร่มม แต่งให้เธอ เขำจินตนำกำรถึงกระท่งเปลวไฟแห่งควำม



สีสันในบำงคร้ง เขำกล่ำวถึงมำริชว่ำเป็นเด็กข้ำงถนน ปรำรถนำของพวกเขำท่แผดเผำหมอนของพวกเขำ
ผู้ซุกซนบ้ำคล่ง และป่ำวประกำศว่ำเขำตกหลุมรักเธอ อย่ำงร้อนแรง

อย่ำงเต็มท่และยำกจะถอนตัว ในบทกวีบทหน่งท่เขำ




























































โปสกำร์ดที่มิเลวำส่งให้กับไอน์สไตน์ในช่วงต้นของควำมสัมพันธ์ของพวกเขำ (ดูค�ำแปลด้ำนหลัง)

35

ลีเซิร์ล
















นฤดูใบไม้ผลิปี 1901 แม้ว่ำเขำไม่พร้อมท เม่อเธอท้องกับไอน์สไตน์ เธอเผชิญกับ






จะต่อต้ำนพ่อแม่ของเขำด้วยกำรแต่งงำน สถำนกำรณ์ทยำกลำบำก เธอกำลงวำงแผนทจะเข้ำ



กับเธอ ไอน์สไตน์ตัดสินใจชวนมำริชไปพักผ่อน ร่วมกำรสอบไล่ท่สถำบันโพลีเทคนิคอีกคร้ง ด้วย



วันหยุดกับเขำ เธอรู้สึกหมดหวังกับทัศนคติของ เป้ำหมำยท่จะส�ำเร็จปริญญำเอก และเป็นนักฟิสิกส์


พ่อแม่ของเขำท่มีต่อเธอ ดังน้น ไอน์สไตน์จึง หลังจำกน้น เธอได้เพียรพยำยำมเดินสู่เป้ำหมำยน ี ้


แนะน�ำให้เธอและเขำใช้เวลำในวันหยุดด้วยกัน มำเป็นเวลำหลำยปี และควำมคิดเก่ยวกับอนำคตท ่ ี







ณ หน่งในสถำนท่ท่โรแมนติกท่สุดในโลก น่นคือ ว่ำ เธอก�ำลังจะเป็นแม่คนได้ส่นคลอนควำมม่นคง


ทะเลสำบโคโม ซ่งเหมือนอัญมณีท่ซ่อนอยู่ใน ด้ำนอำรมณ์และกำรเงินของเธอ มันง่ำยดำยมำกท่จะ


เทือกเขำแอลป์ระหว่ำงอิตำลีและสวิตเซอร์แลนด์ ท�ำแท้ง เพรำะว่ำซูริคได้กลำยเป็นเหมือนศูนย์กลำง


มำริชตั้งครรภ์ในช่วงวันหยุดนี้เอง แห่งอุตสำหกรรมแรกเร่มในด้ำนกำรคุมก�ำเนิด ซ่ง












บทควำมทำงวิทยำศำสตร์ช้นแรกของไอน์สไตน์ท่ได้รับกำรตีพิมพ์ บทควำมน้เก่ยวข้องกับปรำกฏกำรณ์แคพิลลำรีซ่งได้รับ






กำรตีพิมพ์ในเดือนมีนำคม ปี 1901 และเป็นช่วงเวลำเดียวกันกับท่มิเลวำต้งครรภ์ เวลำท่เขียนถึงมิเลวำเก่ยวกับบทควำม












ไอน์สไตน์มกใช้คำว่ำ “เรำ” และ “ของเรำ” ซงก่อให้เกดกำรถกเถยงกนว่ำ มเลวำมส่วนเกยวข้องกบงำนทำงวทยำศำสตร์


ของไอน์สไตน์อย่ำงไร
36



รวมไปถึงบริษัทที่จัดส่งยำท�ำแท้งโดยเฉพำะ ในตอนน ไอน์สไตน์ได้รับแรงกดดันให้หันมำ

แต่เธอก็เลือกท่จะเดินหน้ำต่อและเก็บลูก มองอนำคตของตนเองอย่ำงจริงจัง เขำมำถึงจุดท่ได้

ของไอน์สไตน์เอำไว้ แม้ว่ำผู้เป็นพ่อของเด็กจะยังไม่ รับจ้ำงท�ำงำนแบบนิดๆ หน่อยๆ โดยเป็นติวเตอร์
ต้องกำรเป็นสำมีของเธอก็ตำม กำรมีลูกนอกสมรส แบบรับจ้ำงเป็นคร้งครำว เน่องจำกเขำได้ท�ำตัวเป็น





ในเวลำน้นนับเป็นส่งท่ผิดธรรมเนียม หรืออำจจะเป็น ศัตรูกับอำจำรย์ของเขำ เขำเลยไม่ได้รับข้อเสนอให้
ส่งท่หำพบได้ยำกแน่ๆ กล่ำวคือ ในปี 1901 ของ ท�ำงำนสอนหรือเรียนต่อปริญญำเอก และยังไม่อำจ



ซูริค กำรเกิดเช่นน้คิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ของจ�ำนวน ได้รับจดหมำยรับรองกำรท�ำงำนท่เอ้อต่องำนท่เขำ








กำรเกดทงหมด ตวเลขนสงเป็นพเศษในกลุ่มชำว ต้องกำร เพรำะว่ำพวกเขำก�ำลังจะมีลูกในตอนน เขำ





ออสโตร-ฮังกำเรียน สูงไปถึงระดับ 1 ใน 3 ในตอนใต้ สัญญำกับมำริชว่ำ เขำจะหำงำนที่มั่นคงให้ได้ไม่ทำง

ของฮังกำร และสูงย่งกว่ำน้นอีกในเซอร์เบีย อย่ำงไร ใดก็ทำงหน่ง และไม่สนว่ำต�ำแหน่งงำนน้นอำจจะ




ก็ตำม เปอร์เซ็นต์เก่ยวกับเร่องน้กลับต่ำที่สุดในชำว ต่ำต้อยเพียงใด เขำกล่ำวเพ่มเติมอย่ำงดุดันว่ำ จะ






ยิว ได้ไม่มีใครมำดูถูกดูแคลนเธอได้
ไอน์สไตน์และมิเลวาที่ทะเลสาบโคโม

ส้นเดือนเมษำยนปี 1901 ไอน์สไตน์ชวน เดินผ่ำนเทือกเขำในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ไป
มิเลวำไปท่โคโม เขำไม่อนุญำตให้เธอปฏิเสธและ ด้วยกัน แต่พบว่ำเส้นทำงถูกหิมะขวำงไว้ พวกเขำ



บอกให้เธอน�ำเส้อคลุมสีน้ำเงินมำด้วยเพ่อท่จะได้ จึงจ้ำงรถลำกเล่อนไปแทน ในระหว่ำงท่พวกเขำใช้




ใช้ห่อห่มตัวพวกเขำท้งสอง เขำสัญญำกับเธอว่ำ มัน เวลำไปด้วยกันนั้น ไอน์สไตน์สัมผัสได้ถึงควำมใกล้



จะเป็นกำรเดินทำงที่ไม่อำจลืมเลือน และในเช้ำวัน ชิดแห่งอ้อมอกเม่อพวกเขำสวมกอดกัน ซ่งเป็นสิ่งท่ ี


อำทิตย์วันหน่งของเดือนพฤษภำคม เขำต้งหน้ำ ท้งงดงำมและเป็นธรรมชำติ และในช่วงเวลำน้เองท ี ่






ต้งตำรอเธอท่สถำนีรถไฟท่น่น หัวใจของเขำเต้นรัว ไอน์สไตน์ได้กลำยเป็นพ่อของลูกสำวผู้ซ่งเขำไม่เคย







หลงจำกใช้เวลำหนงคนในโรงแรมท้องถน พวกเขำ มีโอกำสได้พบเจอ






ล่าง: บรเวณหนึงของแนวทะเลสำบโคโม น่เป็นภำพตำมท่มันเป็นเม่อไอน์สไตน์และมเลวำเดินทำงไปในปี 1901
37






กำรตดสนใจของไอน์สไตน์ท�ำให้สภำพจตใจ พร้อมส�ำหรับเร่องน ไอน์สไตน์ไม่ได้ใช้เวลำในช่วงฤด ู






ของมำรชผู้ซงก�ำลงต่อส้ควำมยำกลำบำกของกำร ร้อนกับเธอ แต่ไปพักผ่อนวันหยุดในเทือกเขำแอลป์



ต้งครรภ์ดีข้นอย่ำงไม่อำจประเมินได้ “เอำละ ท่รัก กับแม่และน้องสำวของเขำอีกคร้ง ซ่งสร้ำงควำมวิตก



เธอต้องกำรหำงำนโดยทันทีใช่ไหม? และให้ฉันย้ำย กังวลให้เธอ เธอย้ำยไปอยู่ท่บ้ำนพ่อแม่ของเธอท่โนว ิ


เข้ำไปอยู่กับเธอนะ!” ไอน์สไตน์ยังไม่ค่อยมีควำม สำด ท่ซ่งเธอให้ก�ำเนิดลูกสำวในช่วงต้นปี 1902 เธอ














































อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
รำวๆ ปี 1900

38



และไอน์สไตน์ต้งช่อให้กับลูกสำวว่ำ ลีเซิร์ล ไอน์สไตน์ เขำอำจจะไม่เคยบอกควำมลับเก่ยวกับลูกสำวของเขำ












ไม่ได้อยู่ท่น่น เขำอยู่ท่เมืองเบิร์นท่ซ่งเขำก�ำลังรอคอย กบใครเลยจรงๆ เป็นทเข้ำใจกนว่ำ ทำรกหญงถก


ค�ำตอบเก่ยวกับกำรสมัครงำนของเขำในต�ำแหน่ง ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อ่น และเท่ำท่เรำรู้


เสมียนท่ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตรแห่งสวิส ไอน์สไตน์ ไอน์สไตน์ไม่เคยเหลียวกลับมำมองเธออีกเลย เขำไม่


เขียนจดหมำยถึงมำริชแสดงควำมอยำกรู้ว่ำทำรก เคยพูดถึงเธอในท่สำธำรณะหรือบอกเป็นนัยถึงกำรมี
มีรูปร่ำงหน้ำตำเช่นไร และมีสุขภำพแข็งแรงดีหรือ ตัวตนอยู่ของเธอ เขำไม่เคยกล่ำวถึงเธอในกำรโต้ตอบ
ไม่ เขำลองคำดเดำว่ำ ลูกมีลักษณะคล้ำยคลึงเขำ จดหมำยของเขำ มีบันทึกไว้ในจดหมำยเพียงไม่ก ่ ี



หรือเธอมำกท่สุด และจะให้เธอเล้ยงดูลูกให้ท่ดีท่สุด ฉบับถึงมำริชซ่งถูกเก็บเป็นควำมลับจนถึงปี 1986









ได้อย่ำงไร แม้ว่ำเขำจะยังไม่เคยเห็นลีเซิร์ล เขำก เมอกำรดำรงอย่ของลเซร์ลถกเปิดเผยต่อโลกวชำกำร


ยอมรับว่ำเขำรักเธอ ที่ไม่เคยแม้แต่จะสงสัยถึงกำรมีอยู่ของเธอ
ทำรกดงเอำอำรมณ์ขนของเขำออกมำ เขำ ในจดหมำยท่หลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย






กล่ำวให้แง่คิดว่ำ ทำรกรู้เป็นแน่ท่จะร้องไห้อย่ำงเป็น กำรกล่ำวถึงลีเซิร์ลเป็นคร้งสุดท้ำยเกิดข้นใน 2 ปี



ธรรมชำต แต่กำรหัวเรำะเป็นอะไรบำงอย่ำงท่เธอจะ ถัดมำ น่นคือในเดือนกันยำยนปี 1903 มีควำมเป็น

ต้องเรียนรู้ในภำยหลังอย่ำงไรก็ตำม ควำมรักของเขำ ไปได้ท่เธอตำยด้วยไข้อีด�ำอีแดง (scarlet fever)



ท่มีให้กับทำรกท่เพ่งถือก�ำเนิดของพวกเขำดูเหมือน ในช่วงเวลำน้น แต่ไม่มีใครรู้ได้อย่ำงแน่ใจจนทุกวันน ้ ี



จะเป็นเพียงนำมธรรมเป็นส่วนใหญ่ เพรำะควำมรัก เรำรู้ว่ำ เธอไม่เคยมำท่เบิร์น ท่ซ่งพ่อของเธอสำมำรถ

นนไม่เพียงพอท่จะชกจงให้เขำน่งรถไฟเดนทำงมำท รักษำอิสรภำพของเขำไม่ให้ถูกจ�ำกัด และคงไว้ซ่งรัศมี











โนวิ สำด แห่งชนช้นกลำงท่น่ำนับถือซ่งจ�ำเป็นต่อกำรสำนต่อ





ไอน์สไตน์เก็บเร่องกำรเกิดของลีเซิร์ลไว้เป็น ควำมปรำรถนำในกำรเป็นเจ้ำหน้ำทของรัฐบำลสวิส
ควำมลับจำกครอบครัวและเพ่อนของเขำ ดูเหมือนว่ำ

ล่าง: ไอน์สไตน์กับภรรยำคนแรกของเขำ ในปี 1905 ในตอนนี้ มิเลวำตัดสินใจไม่เรียนต่อแล้ว เพื่อที่เธอจะได้ให้เวลำกับกำร
เป็นภรรยำและกำรเป็นแม่
มิเลวาละทิ้งการเรียน

มิเลวำล้มป่วยระหว่ำงกำรต้งครรภ์ซ่งท�ำให้เธอ



ต้องนอนติดเตียง ส่งน รวมท้งกำรคลอดลูกท่ก�ำลัง



จะมำถึง ท�ำให้กำรเรียนของเธอเป็นไปด้วยควำม
ยำกล�ำบำก และไอน์สไตน์ก็แทบไม่ได้ช่วยท�ำให้
สถำนกำรณ์ดีข้นเลย เพรำะเขำไม่สำมำรถไปพบเธอ





ได้ท่โนว ซำด ท้งๆ ท่เธอพยำยำมโนมนำวให้เขำมำพบ



พ่อแม่ของเธอ ในปลำยเดือนกรกฎำคม ป 1901 เธอ
เข้ำสอบอีกคร้ง แต่ก็สอบไม่ผ่ำน เธอได้คะแนนเท่ำ



เดิมเหมือนกำรสอบคร้งแรก น่นคือ 4.0 จำกคะแนน
เต็ม 6 และเป็นอีกคร้งหน่งท่เธอเป็นเพียงคนเดียวใน




กลุ่มท่สอบไม่ผ่ำน
39

40

เสมียนจดสิทธิบัตร












ร่องรำวชีวิตของไอน์สไตน์เต็มไปด้วยเร่องคำด และท่น่ำประหลำดใจย่งไปกว่ำน้นก็คือ ต้องรอให้










ไม่ถึงเป็นจ�ำนวนมำก แต่ท่หนักหนำท่สุดใน เวลำผ่ำนพ้นไปถงสปีหลงจำกทเขำได้ปฏวตวงกำร







ท้งหมดคือปัญหำต่ำงๆ ท่เขำเผชิญในกำรหำต�ำแหน่ง ฟิสิกส์ใน Annus Mirabilis หรือปีมหัศจรรย์ของเขำ

แห่งหนทำงในวงกำรวิชำกำรให้กับตัวเอง เป็นเวลำ (Annus Mirabilis เป็นวลีในภำษำละตินซึ่งหมำยถึง

ยำวนำนถึง 9 ปี ซ่งเป็นช่วงเว้นวรรคท่เน่นนำนเกินปกต ปีมหัศจรรย์ – ผู้แปล) กว่ำจะมีใครเห็นสมควรท่จะ





กว่ำท่เขำจะได้รับต�ำแหน่งเป็นผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ เสนอว่ำจ้ำงเขำให้ท�ำงำนวิชำกำร ไม่มีอำจำรย์คน
ใดเลยจำกสถำบันโพลีเทคนิคจะให้จดหมำยรับรอง
แก่เขำ
หน้าซ้าย: เลขที่ 49 ครัมกัสเซอร์ เบิร์น บ้ำนของ

ไอน์สไตน์ในขณะที่เขำท�ำงำนอยู่ที่ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตร ในขณะท่เขำหำงำน ไอน์สไตน์ยังคงเขียน

และผลิตผลงำนจ�ำนวนมำกใน “ปีมหัศจรรย์” ของเขำ บทควำมทำงฟิสิกส์อย่ำงต่อเน่อง แต่ก็ไม่มีบทควำม
ทฤษฎีของเดวิด ฮูม


คร้งหน่งไอน์สไตน์เคยพูดว่ำ เดวิด ฮูม (1711-
1776) นักปรัชญำประสบกำรณ์นิยมชำวสก็อต (เหล่ำนัก

ปรัชญำประสบกำรณ์นิยมเช่อว่ำ แหล่งท่มำของควำมรู้คือ

ประสบกำรณ์ – ผู้แปล) มีอิทธิพลอย่ำงใหญ่ย่งต่อตัวเขำ

แนวควำมคิดของเขำเป็นไปตำมแนวทำงทำงปรัชญำของ

จอห์น ล็อค และจอร์จ เบิร์คเลย์ ซ่งปฏิเสธควำมรู้ใดๆ ก ็


ตำมท่ไม่ได้มำจำกประสำทสัมผัสโดยตรง ฮูมต้งค�ำถำมแม้แต่
กับกฎควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสำเหตุและผล เขำให้เหตุผลว่ำ



เพียงเพรำะเหตุกำรณ์หน่ง (เช่น ลูกบอลลูกหน่งว่งชนลูกบอล
อีกลูกหน่งแล้วท�ำให้เกิดกำรเคล่อนท่) เคยเกิดข้นแบบน้น







ซ้ำแล้วซ้ำเล่ำ อย่ำงไม่เคยเป็นอย่ำงอ่นไม่ได้หมำยควำมว่ำ


มันจะเป็นเช่นน้นเสมอ ฮูมใช้ปรัชญำประสบกำรณ์นิยมน ี ้
กับแนวคิดเรื่องเวลำ โดยปฏิเสธกำรด�ำรงอยู่ของเวลำอัน

เป็นอิสระจำกกำรเปล่ยนแปลงท่สังเกตเห็นได้ในวัตถุต่ำงๆ

ซ่งท�ำให้เรำสำมำรถวัดเวลำได้อย่ำงเฉพำะเจำะจง กำร




ยืนยันว่ำ เวลำสัมบูรณ์ไม่มควำมหมำยนจะสะท้อนอยู่ใน
งำนของไอน์สไตน์อย่ำงหนักแน่นในเวลำต่อมำ
ขวา: งำนท่มีอิทธิพลมำกท่สุดช้นหน่งของนักวำดรูปชำวอังกฤษ เดวิด




มำร์ติน คือภำพวำดเดวิด ฮูมของเขำ ไอน์สไตน์ได้รับแรงบันดำลใจ
จำกมุมมองของฮูม เม่อเขำคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภำพพิเศษ

41










ชนใดท่น่ำดงดดพอท่จะได้รบกำรตพมพ์และผ่ำน
เกณฑ์เป็นวิทยำนิพนธ์ระดับปริญญำเอก เขำเขียน
บทควำมช้นแรกเก่ยวกับปรำกฏกำรณ์แคพิลลำร ี



(capillary effect) ปรำกฏกำรณ์ท่แสดงตัวออกมำ


เมอผวนำมลกษณะโค้งเว้ำในทศขนเมอเกำะตวกบ












ด้ำนข้ำงของหลอด ภำยหลัง ไอน์สไตน์ถือว่ำงำน


ช้นแรกน้ไร้ค่ำ อย่ำงไรก็ตำม มันก็เป็นส่งท่น่ำสนใจ


ส�ำหรับพัฒนำกำรทำงควำมคิดของเขำ เพรำะเขำ
ได้ส�ำรวจควำมคิดที่จะกลำยเป็นหัวใจของงำนเขำใน
ู่

อีก 5 ปีต่อมำ น่นคือ อะตอมและโมเลกุลมีอย และ
ควำมหลำกหลำยของปรำกฏกำรณ์ในธรรมชำติเป็น
ส่งท่เรำสำมำรถเข้ำใจได้ด้วยกำรสอดส่องพฤติกรรม หอนำฬิกำในเบิร์นปี 1900 ทิวทัศน์น้เองท่มอบแรงบันดำลใจ




ทำงสถิติของพวกมัน ให้กับไอน์สไตน์ในอีก 2 ปีต่อมำ

ในท่สุด ไอน์สไตน์ก็ได้หยุดพัก มำร์เซล
โกรสส์มันน์ ผู้ซ่งเป็นเพ่อนสมัยเรียนมหำวิทยำลัย ไอน์สไตน์ได้ใช้เวลำ 7 ปีท่คุ้มค่ำมำกท่สุดในชีวิตนก





ท่คอยจดโน้ตให้เขำในช้นเรียนคณิตศำสตร์ อำศัย วิทยำศำสตร์ของเขำ เขำไปท�ำงำน 6 วันต่อสัปดำห์


ควำมช่วยเหลือจำกครอบครัวช่วยให้ไอน์สไตน์ได้งำน และเร่มงำนตรวจสอบอุปกรณ์ต่ำงๆ เวลำ 8 โมง



ท่ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตรสวิสท่เบิร์น มันเป็นต�ำแหน่ง หลังจำกน้นเขำใช้เวลำเขียนงำนท่พลิกโฉมวงกำร



ผู้ตรวจสอบค�ำร้องขอจดสิทธิบัตรระดับ 3 ซ่งเป็น ฟิสกส์ เขำเล่ำให้เพือนคนหนงฟังเก่ยวกบควำม








ต�ำแหน่งท่ต่ำท่สุด เพรำะต�ำแหน่งในระดับ 1 หรือ สำละวนอนน่ำเหลอเชอในชวตประจำวนของเขำ









2 น้นต้องกำรคนเรียนจบปริญญำเอก และผู้ทรงภูม เขำใช้เวลำ 8 ช่วโมงท่ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตร ตำม







ท้งหลำยในซูริคปฏิเสธควำมพยำยำมอย่ำงต่อเน่อง มำด้วยกำรสอนพิเศษเป็นเวลำ 1 ชวโมง และหลัง


ของไอน์สไตน์ในกำรท�ำให้วิทยำนิพนธ์ปริญญำเอก จำกน้นจึงสำมำรถหันมำหำงำนด้ำนวิทยำศำสตร์ของ
ของเขำเป็นที่ยอมรับ ตัวเขำเอง
ในเดือนมิถุนำยน 1902 กำรสมัครต�ำแหน่ง แต่เรำไม่ควรรู้สึกสงสำรเขำ งำนท่ส�ำนักงำน



งำนของไอน์สไตน์ประสบควำมสำเร็จ สำนักงำน จดสิทธิบัตรอำจจะดูเหมือนเป็นงำนท่ถูกส่งมำจำก

จดสทธิบตรตงอย่ทตึกไปรษณีย์และโทรเลขใกล้ๆ สรวงสวรรค์ ซ่งดีกว่ำกำรเป็นผู้ช่วยศำสตรำจำรย์










ู่
กับหอนำฬิกำท่มีช่อเสียงของเบิร์นซ่งต้งตระหง่ำนอย ในมหำวิทยำลัย เขำไม่อำจจะเป็นผู้ช่วยท่ดีได้ใน






บนหน่งในประตูสมัยยุคกลำงของเมือง เม่อนำฬิกำ วงวิชำกำร เพรำะเขำจะต้องรังเกียจกำรสอนควำม


ตีบอกเวลำแต่ละชั่วโมง ขบวนแห่งภำพสลักจะ เช่อฝังหัวตำมธรรมเนยมเพ่อสนองควำมพึงพอใจ


ปรำกฏตัวออกมำ มีตัวตลก หมีเต้น อัศวินในชุด ของศำสตรำจำรย์อำวุโส รวมท้งกำรตีพิมพ์ผลงำน

เกรำะเต็มยศ และสุดท้ำย เทพเจ้ำโครโนส (เทพ ท่ขำดสีสันอย่ำงจืดชืด ตรงกันข้ำม กำรตรวจสอบ
แห่งกำลเวลำตำมต�ำนำนเทพปกรณัมกรีก-ผู้แปล) อุปกรณ์ท่มำขอจดสิทธิบัตรท�ำให้เขำต้องท�ำในส่งท ี ่



ผู้ซ่งถือนำฬิกำทรำยไว้ในมือ ณ สถำนีรถไฟท่อยู่ใกล้ๆ เขำท�ำได้ดีที่สุด น่นคือ ต้งค�ำถำมกับหลักกำรท้งหมด







นำฬิกำสวยงำมอลังกำรถูกติดต้งเรียงรำยอยู่ตำม ตรวจสอบทุกๆ สมมติฐำน และจินตนำกำรว่ำ แนว




ชำนชำลำ ซ่งแต่ละเรือนถูกต้งเวลำเทียบกับเรือนท ควำมคิดท่อยู่เบ้องหลังส่งน้นๆ ท�ำงำนในควำมเป็น







อยู่บนหอคอย รถไฟท่มำถึงจำกเมืองอ่นๆ ในขณะท จริงอย่ำงไร กำรจดจ่อกับค�ำถำมเก่ยวกับกำรใช้


แล่นผ่ำนเบิร์น สำมำรถตรวจสอบเคร่องวัดเวลำของ เชิงเทคนิคและเชิงกำยภำพในชีวิตประจ�ำวัน เป็น


ตนเองได้ด้วยกำรมองนำฬิกำบนหอคอยอย่ำงรวดเร็ว ผู้กอบกู้ทำงสติปัญญำส�ำหรับเขำ น่เท่ำกับว่ำเขำม ี



ในส่งแวดล้อมท่ไม่น่ำจะเป็นไปได้น้เองท ควำมเข้ำใจท่ดีกว่ำเพ่อนๆ ของเขำในวงกำรวิทยำ-




42


Click to View FlipBook Version