èĀÐùĀÜ×òéèúèśāÐòÿãāø
ëĈśČùöÖúāÓöāðòĈśČôÿïĈðăêŠÜÜāðāéòòâāÐāòèĀÐüŚāè
ไอน์สไตน์: ชายผู้พลิกจักรวาล
EINSTEIN: THE MAN, THE GENIUS, AND THE THEORY OF RELATIVITY
วอลเตอร์ ไอแซคสัน: เขียน
กิตติศักดิ์ โถวสมบัติ: แปล
ราคา 260 บาท
ALL RIGHTS RESERVED.
Text © Walter Isaacson 2009
Design and illustrations © Carlton Books 2018
Thai translation right © 2020 by Gypsy Publishing Co., Ltd.
© ข้อความและรูปภาพในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ไอแซคสัน, วอลเตอร์.
ไอน์สไตน์: ชายผู้พลิกจักรวาล = Einstein: the man, the genius, and the theory of relativity.--
กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2563.
168 หน้า.-- (บุคคลสำาคัญ).
1. ไอน์สไตน์, อัลเบิร์ต, ค.ศ. 1879-1955. I. กิตติศักดิ์ โถวสมบัติ, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
925.3
ISBN 978-616-301-725-3
บรรณาธิการอำานวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน์
บรรณาธิการเล่ม : สวิณี แสงสิทธิชัย
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา นันทนา วุฒิ
หัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษร : สวภัทร เพ็ชรรัตน์
ฝ่ายพิสูจน์อักษร : วนัชพร เขียวชอุ่ม สุธารัตน์ วรรณถาวร
พิสูจน์อักษร : พันธุ์นินทร์
รูปเล่ม : วรินทร์ เกตุรัตน์
ออกแบบปก : Wrong design
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
จัดพิมพ์โดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ต่อ 108
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำาหน่าย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด โทร. 0 2728 0939
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID: @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939
ไอน์สไตน์
ชายผู้พลิกจักรวาล
วอลเตอร์ ไอแซคสัน: เขียน
กิตติศักดิ์ โถวสมบัติ: แปล
สารบัญ EARLY YEARS
ต�ำแหน่งแห่งหนของวิทยำศำสตร์ 10
ก�ำเนิดและปฐมวัย 15
โรงเรียน 20
SWISS YEARS
อำเรำ 24
สถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริค 28
มิเลวำ มำริช 32
ลีเซิร์ล 36
เสมียนจดสิทธิบัตร 41
ปีมหัศจรรย์: ทฤษฎีควอนตัม 47
ปีมหัศจรรย์: ทฤษฎีสัมพัทธภำพพิเศษ 53
ศำสตรำจำรย์ขำขึ้น 58
เอลซำ ไอน์สไตน์ 62
BERLIN YEARS
ทฤษฎีสัมพัทธภำพทั่วไป 68
เหตุบ้ำนกำรเรือน 76
หย่ำและแต่งงำนใหม่ 80
สุริยุปรำคำ 85
ไอน์สไตน์ในอเมริกำ 92
รำงวัลโนเบล 98
กลศำสตร์ควอนตัม 102
ไอน์สไตน์กับศำสนำ 108
กำรก้ำวสู่อ�ำนำจของฮิตเลอร์ 112
PRINCETON YEARS
สู่อเมริกำ 116
ระเบิดปรมำณู 122
กำรควบคุมอำวุธ 128
สิทธิพลเมือง 132
กำรแสวงหำอันไร้จุดจบ 138
อิสรำเอล 142
ควำมหวำดภัยคอมมิวนิสต์ 146
อ�ำลำ 154
ค�ำแปลเอกสำรต่ำงๆ ของไอน์สไตน์ 162
เครดิต 167
ค�าน�าส�านักพิมพ์
ี
ิ
ไอน์สไตน์เป็นนักวิทยาศาสตร์ท่ย่งใหญ่ ผู้คนรู้จักเขาด้วยภาพลักษณ์ศาสตราจารย์
สติเฟื่องจนสำมำรถเรียกเป็นไอคอนิกของเหล่ำนักวิทยำศำสตร์ไปเลยก็ได้ ใน
ปัจจุบัน หนังสือชีวประวัติของไอน์สไตน์มีมำกมำย ทฤษฎีสัมพัทธภำพ กลศำสตร์
ี
ี
ิ
ี
ควอนตัม เวลำและปริภูม ศัพท์หล่ำน้เรำเห็นได้บ่อย หำกแต่ใครจะรู้ว่ำท่มำท่ไป
ี
ของทฤษฎีเหล่ำน้นมำจำกไหน เพ่อนคู่คิดท่คอยช่วยเหลือไอน์สไตน์อยู่บ่อยๆ คือ
ื
ั
ื
ใคร (ไม่น่ำเช่อว่ำเขำจะโดดเรียนบ่อย) ส่งท่คนส่วนใหญ่มักไม่รู้คือสภำวะจิตใจของ
ิ
ี
ี
เขำในแต่ละช่วงชีวิตท่ท�ำงำนวิทยำศำสตร์เป็นอย่ำงไร เขำเศร้ำ เขำร้องไห้บ้ำงหรือ
ั
เปล่ำ หรือแม้กระท่งไอน์สไตน์นับถือพระเจ้ำหรือไม่ และค�ำถำมท่น่ำจะค้ำงคำใจ
ี
่
ี
ท่สุดคือ เขำคิดอย่ำงไรกับระเบิดปรมำณูของเขำในสงครำมโลกคร้งท 2 ค�ำตอบ
ี
ั
ของค�ำถำมเหล่ำนั้นอยู่ในหนังสือเล่มนี้
ั
ี
ี
้
ู
ื
่
ั
่
ื
ั
์
ิ
่
่
ี
ี
อกหนงสงทสำนกพมพประทบใจเกยวกบหนงสอเลมนคอ รปภำพประกอบ
ึ
่
�
ั
ิ
ี
สวยงำม อธิบำยหลักวิทยำศำสตร์ให้เห็นภำพ มีเกร็ดควำมรู้เล็กๆ เก่ยวกับบุคคล
ั
ึ
ั
ึ
ู
รอบตวไอน์สไตน์ ทงคนทช่วยผลกดนเขำและคนทต่อต้ำนเขำ เรำร้สกได้ถงตวตน
ี
่
ั
ั
ั
้
่
ี
ี
ของไอน์สไตน์จำกหนังสือเล่มน้ได้มำกกว่ำเล่มอ่นๆ เรำยินดีท่เห็นเขำเกิดมำและ
ี
ื
ื
เศร้ำใจเม่ออ่ำนถึงตอนเขำจำกไป ทำงส�ำนักพิมพ์หวังว่ำนักอ่ำนจะได้เปิดโลกกว้ำง
ี
ึ
ี
ไปถึงท่สุด จำกผืนดินถึงจักวำล ซ่งไม่ใช่ค�ำพูดท่พูดเกินจริงแต่อย่ำงใด เพรำะไอน์สไตน์
ได้น�ำทำงให้เรำไว้นำนแล้ว
ส�านักพิมพ์ยิปซี
ค�าน�าผู้แปล
หลังจากความพยายามอย่างหนักหน่วงในการจัดหมวดหมู่ธาตุต่างๆ ตาม
ี
คุณสมบัติทำงเคมีของมัน ว่ำกันว่ำ ดมีตร เมนเดเลเยฟ ค้นพบหลักกำรในกำร
ึ
จัดเรียงหมวดหมู่ให้กับธำตุในควำมฝัน วันหน่งในเดือนกุมภำพันธ์ ค.ศ. 1869 เขำ
้
็
ึ
ื
๊
ั
่
�
ี
ิ
็
่
�
ั
ิ
ั
หลบคำโตะทำงำนและตนขนมำพบกบคำตอบ นมตทเขำเหนในควำมฝนกลำยเปน
่
ุ
ั
ึ
ี
จดก�ำเนิดของ “ตำรำงธำตุ” ในปัจจุบนซ่งเป็นทรู้จักคุ้นเคยกันดีส�ำหรับนักเรยน
ี
็
ั
ี
ุ
้
ี
ิ
ุ
่
ทวโลก ตำรำงธำตนเปนไปตำมกฎพรออดก (the periodic law) ซงระบวำ สมบต ิ
ึ
ิ
่
่
ั
ทำงกำยภำพและสมบติทำงเคมีของธำตุต่ำงๆ จะมลักษณะซำกันเป็นช่วงๆ เม่อ
ี
ั
ื
้
�
เลขอะตอมเพ่มข้น กำรค้นพบน้ได้สร้ำงควำมก้ำวหน้ำคร้งใหญ่ให้กับวงกำรเคม ี
ี
ิ
ั
ึ
ิ
เมนเดเลเยฟได้รับกำรยกย่องให้เป็น “บดำแห่งตำรำงธำต” และกลำยเป็นหน่งใน
ึ
ุ
ี
นักเคมีท่ทรงอิทธิพลคนหน่งของโลก ทว่ำ เขำกลับไม่ได้รับรำงวัลโนเบลซ่งมีกำร
ึ
ึ
มอบเป็นคร้งแรกใน ค.ศ. 1901 ผลงำนของเขำถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ำ มันเก่ำ
ั
เกินไป
ี
ึ
ั
ึ
สิบปีก่อนหน้ำ ได้เกิดกำรเปล่ยนแปลงคร้งใหญ่ข้นในวงกำรชีววิทยำ ซ่งต่อ
ั
มำภำยหลังก่อให้เกิดแรงกระเพ่อมที่ส่งผลกระทบในวงกว้ำงอย่ำงไม่อำจหยุดย้ง
ื
ั
ท้งต่อสังคม ศำสนำ และชีวิต หลังจำกกำรเดินทำงส�ำรวจโลกไปกับเรือหลวงบีเกิล
ส้นสุดลง ชำร์ลส์ ดำร์วิน ใช้เวลำกว่ำย่สิบปีในกำรเก็บสะสมรวบรวมข้อมูลจำกส่ง ิ
ี
ิ
ท่ตนได้ไปรู้ไปเห็นมำตลอดระยะเวลำเกือบ 5 ปีของกำรเดินทำงเพ่อตกผลึกควำม
ื
ี
คิด และกลั่นกรองออกมำเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่จะเขย่ำโลกไปตลอดกำล วันที่ 24
พฤศจิกำยน ค.ศ. 1859 ดำร์วินก็ให้ก�ำเนิดหนังสือ On The Origin of Species
้
ั
ิ
�
ี
่
ั
โดยจำนวนเล่มทพมพ์ออกมำในกำรพมพ์ครงแรกทงหมด 1,250 เล่มขำยหมด
ิ
้
ี
ี
ื
เกล้ยงภำยในวันเดียว เน้อหำหลักของหนังสือเล่มน้กล่ำวถึงทฤษฎีวิวัฒนำกำร
โดยกำรคัดสรรทำงธรรมชำต (theory of evolution by natural selection)
ิ
ซ่งสรุปเป็นใจควำมสนๆ ได้ว่ำ ส่งมีชวิตท้งหลำยไม่ได้ถูกสร้ำงข้นมำอย่ำงแยกจำก
ึ
ึ
ั
ิ
ั
ี
้
กัน แต่มีบรรพบุรุษร่วมกัน แล้วค่อยๆ แยกสำแหรกแตกแขนงไปตำมกำลเวลำโดย
มีกลไกส�ำคัญคือกำรคัดสรรทำงธรรมชำติ
นับจำกวันท่หนังสือ On the Origin of Species ได้รับกำรตีพิมพ์
ี
60 ปีต่อมำก็เกิดกำรเปล่ยนแปลงคร้งส�ำคัญในวงกำรฟิสิกส์ ใน ค.ศ. 1919 ทีมนัก
ี
ั
ดำรำศำสตร์ออกเดินทำงไปท�ำกำรวัดและเก็บข้อมูลสุริยุปรำคำในหลำยประเทศ
ั
ั
ผลกำรศึกษำคร้งน้นท�ำให้หนังสือพิมพ์ London Times ถึงกับพำดหัวข่ำวว่ำ “การ
ปฏิวัติในวงการวิทยาศาสตร์ – ทฤษฎีใหม่แห่งจักรวาล - แนวคิดแบบนิวตันถูก
ล้มล้าง” กำรค้นพบนั้นเป็นไปตำมค�ำท�ำนำยของทฤษฎีที่ถูกน�ำเสนอโดยนักฟิสิกส์
วัย 40 ปีคนหนึ่ง ทฤษฎีของเขำท�ำนำยว่ำ แสงสำมำรถเดินทำงเป็นเส้นโค้งได้เมื่อ
่
้
่
ี
ิ
ั
ั
ิ
์
่
ิ
ิ
มนเดนทำงผ่ำนเข้ำไปในสนำมโนมถวง สงนีขดแยงกับสงท เซอรไอแซก นวตัน นก
้
่
ั
้
ฟิสิกส์ผู้ย่งใหญ่ตลอดกำลคนหน่งเคยเสนอไว้ว่ำ แสงเดินทำงเป็นเส้นตรง ก่อนหน้ำ
ึ
ิ
นี้ใน ค.ศ. 1905 นักฟิสิกส์คนเดียวกันนี้น�ำเสนอผลงำนวิจัยทำงฟิสิกส์ของตนออก
ี
มำรวดเดียวติดต่อกันถึง 5 ช้น และหน่งในผลงำนวิจัยเหล่ำน้นเก่ยวข้องกับสมกำร
ั
ึ
ิ
2
ี
ี
ั
ี
ท่โด่งดังท่สุดสมกำรหน่งของโลก น่นก็คือ E=mc นักฟิสิกส์ท่ผมก�ำลังพูดถึงอยู่น ี ้
ึ
คือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
ั
้
ั
ทงเมนเดเลเยฟ ดำร์วิน และไอน์สไตน์ต่ำงก็เป็นนกวิทยำศำสตร์เจ้ำของ
ั
ผลงำนท่พลิกโฉมวงกำรวิทยำศำสตร์ของตน ท้ง 3 แสดงอัจฉริยภำพของตนเอง
ี
ออกมำได้อย่ำงน่ำท่ง ตำรำงธำตุท�ำให้นักเคมีสำมำรถจัดจ�ำแนกธำตุออกเป็น
ึ
ึ
ึ
หมู่ต่ำงๆ ซ่งท�ำให้เกิดควำมเข้ำใจถึงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงธำตุต่ำงๆ ซ่งเป็นองค์
ประกอบของจักรวำล ทฤษฎีวิวัฒนำกำรโดยกำรคัดสรรทำงธรรมชำติพลิกมุมมอง
ท่เรำมีต่อส่งมีชีวิตท้งหลำยไปอย่ำงส้นเชิง แบคทีเรีย นก ลิง และคนต่ำงก็เป็นญำต ิ
ิ
ั
ิ
ี
2
ร่วมวงศ์วำนว่ำนเครือแห่งวิวัฒนำกำร สมกำร E=mc แสดงให้เห็นว่ำ สสำรและ
ี
ิ
พลังงำนเป็นส่งเดียวกัน มวลเพียงน้อยนิดสำมำรถเปล่ยนไปเป็นพลังงำนมหำศำลได้
แต่เพรำะเหตุใดไอน์สไตน์จึงกลำยเป็นภำพจ�ำแห่งควำมฉลำดปรำดเปร่อง? อะไร
ื
ิ
ี
คือส่งท่ท�ำให้เขำแตกต่ำงจำกเมนเดเลเยฟและดำร์วิน? และอะไรท�ำให้เขำเป็นท ี ่
รู้จักและจดจ�ำของผู้คนทั่วโลกในฐำนะอัจฉริยบุคคล?
ี
หนังสือ ไอน์สไตน์: ชายผู้พลิกจักรวาล ท่ก�ำลังปรำกฏอยู่ต่อหน้ำท่ำนผู้อ่ำน
ี
ิ
ั
ในขณะน้จะน�ำพำทุกท่ำนไปพบกับค�ำตอบของค�ำถำมเหล่ำน้นได้อย่ำงหมดส้น
ื
ั
ควำมสงสัย เร่องรำวชีวิตของไอน์สไตน์น้นเป็นเร่องเล่ำไม่รู้จบ เพรำะในปัจจุบัน
ื
ึ
ได้ปรำกฏว่ำมีหนังสือชีวประวัติไอน์สไตน์ถูกเขียนข้นมำเป็นร้อยเป็นพันเล่ม ทว่ำ
ี
หนังสือ ไอน์สไตน์: ชำยผู้พลิกจักรวำล เล่มน้ไม่เหมือนกับหนังสือชีวประวัต ิ
ื
ื
ไอน์สไตน์เล่มอ่นๆ นอกจำกเน้อหำในแต่ละบทท่กระชับ เข้ำใจง่ำย และบอกเล่ำ
ี
ื
เร่องรำวและเหตุกำรณ์ส�ำคัญ ควำมพิเศษของหนังสือเล่มน้ยังอยู่ตรงท่ตลอด
ี
ี
ี
ท้งเล่มอัดแน่นไปด้วยภำพถ่ำยและรูปภำพเอกสำรท่น่ำสนใจเก่ยวกับไอน์สไตน์
ั
ี
เป็นจ�ำนวนมำก เช่น สูติบัตรของไอน์สไตน์ ซ่งระบุวัน เวลำ และสถำนท่เกิดของ
ึ
ี
ไอน์สไตน์ ใบแสดงผลกำรเรียนระดับมัธยมศึกษำ ซ่งบอกเรำว่ำไอน์สไตน์เก่งวิชำ
ึ
ั
คณิตศำสตร์และฟิสิกส์ และอ่อนภำษำฝร่งเศสขนำดไหน สมุดจดท่เขำใช้ประกอบ
ี
ี
กำรบรรยำยเก่ยวกับทฤษฎีสัมพัทธภำพท่ด้ำนในเต็มไปด้วยลำยมือของเขำและ
ี
ั
ี
สมกำรคณิตศำสตร์อันยุ่งยำกซับซ้อนเกินกว่ำท่มนุษย์ท่วไปอย่ำงเรำๆ จะสำมำรถ
ี
ื
เข้ำใจได้ นอกจำกน ยังมีจดหมำยท่ไอน์สไตน์ส่งถึงประธำนำธิบดีรูสเวลต์เพ่อเตือน
ี
้
ี
เก่ยวกับควำมเป็นไปได้ของกำรพัฒนำอำวุธนิวเคลียร์ในประเทศเยอรมนีในช่วง
ั
ี
่
สงครำมโลกคร้งท 2 และจดหมำยเชิญให้ไอน์สไตน์ด�ำรงต�ำแหน่งประธำนำธิบด ี
คนที่ 2 ของประเทศอิสรำเอล
ผมมีควำมต่นเต้นและปีติยินดีเป็นอย่ำงย่งท่ได้รับหน้ำท่แปลหนังสือ
ื
ิ
ี
ี
เล่มน ตัวผมเองมีควำมผูกพันเป็นพิเศษกับไอน์สไตน์มำอย่ำงยำวนำน ควำม
ี
้
ั
ึ
สนใจของผมท่มีต่อไอน์สไตน์ได้ถูกจุดประกำยข้นในช้นเรียนวิชำฟิสิกส์ช้น ม.
ี
ั
ู
ุ
ิ
ั
้
ื
่
ื
ั
ั
ี
่
4 ของครสชำต สงวรกำญจน์ ในคำบเรยนวนนน เมอเกอบ 20 ปีทแล้ว เพอน
ี
่
ื
็
ี
ั
ร่วมห้องและผมเรยนเรองฟิสกส์ของแสง ทนททผมทรำบว่ำแสงมควำมเรว
่
ื
ิ
ี
่
ี
ี
8
3x10 เมตรต่อวินำที ผมรู้สึกอัศจรรย์ใจมำก ต่นเต้นเหลือประมำณจนยำกจะต้ำน
ื
ทำนให้นั่งอยู่เฉยได้ไหว เมื่อหมดคำบเรียนนั้น ผมได้ถำมค�ำถำมเกี่ยวกับธรรมชำติ
ิ
ของแสงและพูดคุยกับครูสุชำติเพ่มเติม และมันได้กลำยเป็นบทสนทนำท่เปล่ยนแปลง
ี
ี
ชีวิตของผมไปอย่ำงไม่มีวันหวนกลับ ผมได้รู้จักกับไอน์สไตน์จำกบทสนทนำนั้น
ี
ควำมช่นชอบท่ผมมีต่อไอน์สไตน์เร่มผลิบำน ผมหำหนังสือเก่ยวกับไอน์สไตน์
ิ
ื
ี
ทุกเล่มเท่ำท่จะหำได้มำอ่ำน เม่อพบว่ำร้ำนหนังสือท่มีอยู่เพียงไม่ก่ร้ำนในจังหวัด
ื
ี
ี
ี
บ้ำนเกิดของผมไม่มีหนังสือเกี่ยวกับไอน์สไตน์ใหม่ๆ ให้ผมได้อ่ำนอีกต่อไปแล้ว ผม
ื
จึงหำโอกำสเดินทำงเข้ำบำงกอกเพ่อกว้ำนซ้อหนังสือเก่ยวกับไอน์สไตน์มำอ่ำนให้
ี
ื
ี
ี
ั
ี
่
ได้มำกทสุด ภำยในระยะเวลำเพยง 1 ปี ผมได้อ่ำนหนงสือเก่ยวกับไอน์สไตน์ ท้ง ั
ี
ิ
ชีวประวัต หนังสือรวบรวมค�ำพูดและควำมคิดของเขำ และหนังสือเก่ยวกับทฤษฎ ี
ี
ื
สัมพัทธภำพมำกกว่ำหนังสือเรียน และในท่สุด ควำมช่นชอบก็ได้สุกงอมจนกลำย
เป็นควำมหลงใหลคลั่งไคล้ตลอดชีวิตของผม
กำรได้รับโอกำสอันดีงำมแห่งกำรแปลหนังสือเล่มน้ส�ำหรับผมจึงเหมือนกับ
ี
ั
กำรได้น่งไทม์แมชชีนย้อนเวลำกลับไปสมัยเป็นวัยรุ่น ได้เดินทำงกลับไปพบกับคนท ่ ี
ี
ี
มีบทบำทส�ำคัญต่อกำรเปล่ยนแปลงในชีวิตของผม คนท่มีอิทธิพลทำงควำมคิดต่อ
้
ผมอย่ำงท่วมท้น และท�ำให้ผมเติบโตมำเป็นตัวผมอย่ำงท่เป็นอยู่ในทุกวันน ชำย
ี
ี
ผู้พลิกจักรวำลและปฏิวัติมุมมองที่เรำมีต่อกำลเวลำและแรงโน้มถ่วงโดยสมบูรณ์
้
ี
ส�ำหรับกำรท�ำงำนแปลหนังสือเล่มน ผมคงไม่อำจปล่อยให้โอกำสนี้ผ่ำนเลย
ึ
ไปได้โดยปรำศจำกกำรแสดงออกซ่งค�ำขอบคุณไปยังผู้คนท่มีส่วนท�ำให้กำรแปล
ี
หนังสือเล่มนี้ของผมเป็นไปได้อย่ำงรำบรื่น
ี
ี
ี
อันดับแรก ผมขอขอบคุณ พ่อ๊ด-วำสนำ ชูรัตน์ และส�ำนักพิมพ์ยิปซ ท ่ ี
้
ี
ได้ตัดสินใจเลือกแปลหนังสือเล่มน และมอบหมำยให้ผมท�ำหน้ำท่เป็นผู้แปล รวม
ี
ี
ั
ท้งทีมบรรณำธิกำรท่ท�ำงำนกันอย่ำงหนักในกำรแก้ไขปรับปรุงส�ำนวนกำรแปลให้
ี
มีควำมสละสลวยและเป็นมิตรต่อกำรอ่ำน หำกไม่มีพวกท่ำนหนังสือแปลเล่มน้ก ็
ไม่อำจมีตัวตนขึ้นมำได้
อันดับท่สอง พ่แคล (ดร.พฤฒ กำฬสุวรรณ) และพ่แทน (ดร.แทนไท
ี
ี
ี
ิ
ประเสริฐกุล) ที่ช่วยแนะน�ำให้ผมได้มำท�ำงำนแปลหนังสือเล่มนี้
ี
ี
อันดับท่สำม พ่โตโต้ (อำจำรย์คชำนนท์ นิรันดร์พงศ์) ท่คอยให้ค�ำแนะน�ำ
ี
ี
ั
และควำมช่วยเหลือเก่ยวกับศัพท์เฉพำะทำงฟิสิกส์อย่ำงทุ่มเท รวมท้งช่วยตีควำม
ี
บำงช่วงบำงตอนของหนังสือท่มีเน้อหำฟิสิกส์ยำกเกินควำมรู้ควำมเข้ำใจของผมอย่ำง
ื
ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย
ี
ึ
ี
ี
และอันดับท่สุดท้ำยซ่งขำดไม่ได้ ท่ำนผู้อ่ำนทุกท่ำนท่เลือกหนังสือเล่มน้มำ
เป็นเครื่องขยำยเส้นขอบฟ้ำทำงสติปัญญำของท่ำน
้
ี
ั
ิ
ี
ื
่
ึ
ั
หนงสือเล่มนเป็นหนงสอแปลเล่มแรกในชวตของผม ซงผมได้ทุ่มเทเวลำ
ื
และก�ำลังสติปัญญำด้วยควำมเบิกบำนใจ ต่นเต้น และรู้สึกเอร็ดอร่อยอยู่ในทุก
ื
ี
ค�ำแปล เพ่อควำมถูกต้องแม่นย�ำของเน้อหำ ผมแปลหนังสือเล่มน้ด้วยควำมประณีต
ื
นอกจำกจะแปลจำกต้นฉบับภำษำอังกฤษท่ได้รับมำจำกส�ำนักพิมพ์แล้ว ผมยังได้
ี
เทียบเคียงกับหนังสือเล่มเดียวกันน้ในฉบับภำษำเยอรมันท่ผมซ้อมำอ่ำนเม่อหลำย
ื
ื
ี
ี
ปีก่อนอีกด้วย
ี
สุดท้ำยน ผมหวังเป็นอย่ำงย่งว่ำ กำรได้เรียนรู้เก่ยวกับชีวิตของไอน์สไตน์
ี
้
ิ
ผ่ำนหนังสือเล่มน้จะกลำยเป็นแรงบันดำลใจให้กับผู้อ่ำนทุกท่ำนเหมือนท่เคยเกิดข้น
ึ
ี
ี
ื
กับผม เม่อไอน์สไตน์มีอำยุครบ 5 ขวบ เขำได้รับเข็มทิศเป็นของขวัญจำกพ่อของ
ี
เขำ เข็มทิศอันน้ได้จุดประกำยควำมกระหำยใคร่รู้ของไอน์สไตน์ต่อธรรมชำต และ
ิ
ี
ั
ี
ั
ิ
ี
้
ิ
ี
�
ั
มส่วนชกำหนดทศทำงแห่งชวตของเขำ ผมหวงว่ำหนงสอเล่มนจะเป็นเหมือนกบ
้
ื
่
ู
่
ุ
็
ี
่
เขมทิศทจดประกำยควำมสนใจหรอเป็นแรงบันดำลใจให้กบทำนผ้อำน ผมขอใหทำน
ื
่
ั
้
้
ู
ั
ั
ั
ิ
�
้
ุ
ผอำนเพลดเพลนกบกำรอำนหนงสอเลมน และสนกสนำนไปกบกำรทำควำมรจกกบ
ื
่
ี
้
ู
่
ิ
่
ั
ั
ชำยผู้เป็นแรงบันดำลใจอย่ำงไม่มีที่สิ้นสุดให้กับผู้คนมำกมำยนับไม่ถ้วน – อัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์
กิตติศักดิ์ โถวสมบัติ
ต�าแหน่งแห่งหนของวิทยาศาสตร์
่
ิ
ี
จุดส้นสุดของศตวรรษท 19 รำกฐำนต่ำงๆ อย่ำงเรียบง่ำยว่ำ คล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำเกิดจำกกำร
ื
ื
ั
ิ
ู
ึ
ื
ั
ของฟิสกส์ดเหมอนจะได้รบกำรจัดวำงไว้ ส่นสะเทือนและกำรกระเพื่อมข้นลงแบบคล่นของ
ั
ี
อย่ำงม่นคงเป็นท่เป็นทำง กำลิเลโอได้ผสมผสำนกำร รูปแบบของสสำรทำงกำยภำพบำงอย่ำงท่ด�ำรงอยู่ท่ว
ั
ี
สังเกตเชิงทดลองเข้ำกับค�ำอธิบำยทำงคณิตศำสตร์ใน ทุกหนแห่ง นักวิทยำศำสตร์เรียกสสำรท่มองไม่เห็นน้ว่ำ
ี
ี
กำรสร้ำงมุมมองกลไกควำมเป็นจักรกลของจักรวำล
ึ
ข้นมำ ไอแซก นิวตัน อำศัยข้อค้นพบของกำลิเลโอ
ื
ื
ี
และคนอ่นๆ ในกำรพัฒนำกฎแห่งกำรเคล่อนท่และ
แรงโน้มถ่วงท่อธิบำยจักรวำลซ่งเป็นส่งท่สำมำรถ
ี
ึ
ิ
ี
ท�ำนำยได้อย่ำงสมบรณ์ อย่ำงน้อยก็ในทำงทฤษฎ ี
ู
(โมเดลท่รู้จักในนำม “กลศำสตร์แบบด้งเดิม”) เหต ุ
ั
ี
ท�ำให้เกิดผล แรงกระท�ำต่อวัตถ ลูกแอปเปิ้ลท่ก�ำลัง
ี
ุ
ร่วงหล่นกับดวงจันทร์ท่ก�ำลังโคจรต่ำงก็ถูกควบคุม
ี
ด้วยกฎเกณฑ์เดียวกัน
กลศำสตร์แบบนิวตันถูกผนวกเข้ำกับควำม
ึ
ก้ำวหน้ำอันย่งใหญ่อีกประกำรหน่งในตอนกลำงของ
ิ
ศตวรรษท 19 น่นคือกำรค้นพบกฎของสนำมไฟฟ้ำ
่
ี
ั
และสนำมแม่เหล็ก ไมเคิล ฟำรำเดย์ แสดงให้เห็น
ว่ำ กระแสไฟฟ้ำสำมำรถก่อให้เกิดอ�ำนำจแม่เหล็กได้
ี
ื
และกำรเคล่อนท่ของสนำมแม่เหล็กก็สำมำรถท�ำให้
เกิดกระแสไฟฟ้ำได้เช่นกัน เขำไม่ได้รับกำรศึกษำตำม
แบบแผน และมีควำมเป็นมำในชีวิตท่น่ำหดหู่เพรำะ
ี
ี
ิ
เป็นเพียงลูกชำยของช่ำงตีเหล็ก ส่งเหล่ำน้ท�ำให้ควำม
ึ
ิ
ส�ำเร็จของเขำดูไม่ธรรมดำมำกย่งข้น ข้อค้นพบเหล่ำน ี ้
ึ
ได้รับกำรยืนยันอย่ำงหนักแน่นมำกย่งข้นโดย เจมส์
ิ
คลำร์ก แมกซ์เวลล์ นักฟิสิกส์ชำวสก็อตผู้ศึกษำควำม
สัมพันธ์ระหว่ำงสนำมไฟฟ้ำและสนำมแม่เหล็ก
ทฤษฎีสนำมแม่เหล็กไฟฟ้ำ ซ่งถูกพัฒนำข้น
ึ
ึ
มำโดยแมกซ์เวลล์ ดูเหมือนจะเข้ำกันได้กับกลศำสตร ์
่
ื
่
ี
แบบนิวตัน อย่ำงน้อยก็เข้ำกันได้ในตอนแรก เปนทเชอ
็
ื
ื
กันว่ำคล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ เช่น คล่นแสง เป็นเพียง กำลิเลโอ กำลิเลอิมีบทบำทส�ำคัญในกำรปฏิวัติวิทยำศำสตร์ ู
ึ
ื
ิ
ซ่งเร่มต้นข้นในสมัยยุคกลำง และสืบเน่องมำถึงยุคฟื้นฟ
ึ
ึ
อีกปรำกฏกำรณ์หน่งท่เข้ำกันได้พอดีกับกรอบของ ศิลปวิทยำ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ถือว่ำ กำลิเลโอเป็นผู้ให้ก�ำเนิด
ี
ั
ั
กลศำสตร์แบบด้งเดิม นักวิทยำศำสตร์ต้งสมมติฐำน วิทยำศำสตร์สมัยใหม่
10
ปกหน้ำของหนังสือของนิวตันช่อ Philosophiae Naturalis Principia Mathematica (หลักกำรคณิตศำสตร์แห่งปรัชญำ
ื
ธรรมชำติ - ผู้แปล) ปี 1867
ทฤษฎีของไอแซก นิวตัน
ี
ไอแซก นิวตัน (1643-1723) ในท่สุด อริสโตเติล ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเขำเสนอค�ำ
ศำสตรำจำรย์ด้ำนคณิตศำสตร์แห่งเคมบริดจ์ได้ อธิบำยทำงกำยภำพเกี่ยวกับกำรโคจรของเทหวัตถ ุ
ึ
ค้นพบค�ำตอบของปัญหำมำกมำยซ่งสร้ำงควำม บนฟำกฟ้ำในระบบสุริยะจักรวำล ทฤษฎีกำร
ี
ร�ำคำญให้กับ “นักปรัชญำเชิงกล” (เป็นกลุ่ม เคล่อนท่ของเขำ เช่น กฎของควำมเฉื่อย (วัตถุจะ
ื
ิ
ี
ี
่
ของนักปรัชญำท่โด่งดังในคริสต์ศตวรรษท 17 รักษำสภำพหยุดน่งเอำไว้เว้นเสียแต่จะมีแรงมำ
ุ
ซ่งพยำยำมอธิบำยปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำต กระทำต่อวัตถน้น) เขำได้เสนอค�ำอธบำยอันเรียบ
ึ
ั
ิ
ิ
�
ด้วยค�ำอธิบำยทำงกำยภำพของสสำรและกำร ง่ำยท่น่ำสนใจเก่ยวกับปรำกฏกำรณ์ทำงกำยภำพ
ี
ี
ี
ื
ี
เคล่อนท่ด้วยหลักกำรจักรกลท่เป็นระบบเหมือน จ�ำนวนมำก ในขณะท่กำรพัฒนำแคลคูลัสของเขำ
ี
ื
ึ
เครองจกร – ผ้แปล) อย่ำงรอเบิร์ต บอยล์ และ (ซ่งเขำเรียกมันว่ำ fluxion) กลำยเป็นเคร่องมืออัน
ั
ู
่
ื
ี
รอเบิร์ต ฮุค และได้พลิกโฉมมุมมองทำงวิทยำศำสตร์ ทรงพลังส�ำหรับกำรค�ำนวณเก่ยวกับส่วนของเส้น
ู
้
�
่
ี
ี
ทดำรงอย่ในขณะนนเก่ยวกับจักรวำลท่ยังยึดโยง โค้งและเส้นสัมผัส
ั
ี
อยู่กับระบบคิดของนักปรัชญำกรีกโบรำณนำม
11
“อีเธอร์อันเป็นตัวกลำงของแสง” (light-bearing
ี
ั
ิ
ี
ether) และสนนษฐำนว่ำ อเธอร์มบทบำทในกำร “ณ ขณะนี้ ฟิสิกส์ไม่มีสิ่งใหม่ๆ
ี
�
ื
กระจำยคล่นแสงในท�ำนองเดียวกันกับท่น้ำมีบทบำท หลงเหลือให้ค้นพบอีกต่อไปแล้ว”
ื
ื
ส�ำหรับคล่นในมหำสมุทร และอำกำศส�ำหรับคล่นเสียง ลอร์ด เคลวิน
ด้วยควำมถึงพร้อมในทฤษฎีท้งหมดเหล่ำน ้ ี
ั
ั
นักฟิสิกส์ชำวอังกฤษอย่ำงลอร์ดเคลวินได้ต้งข้อสังเกต
ื
อันโด่งดังไว้ในปี 1900 เขำกล่ำวต่อสมำคมเพ่อควำม ผลที่ตำมมำก็คือ เขำไม่สำมำรถเรียนจบปริญญำเอก
ื
ก้ำวหน้ำทำงวิทยำศำสตร์แห่งสหรำชอำณำจักร (the ได้ หรือได้รับต�ำแหน่งงำนสอนใดๆ แต่เน่องจำกเขำ
British Association for the Advancement เก่งกำจในกำรท้ำทำยสมมติฐำนและตั้งค�ำถำมกับ
้
ี
of Science) ว่ำ “ณ ขณะน ฟิสิกส์ไม่มีส่งใหม่ๆ หลักกำรต่ำงๆ ท�ำให้เขำกลำยเป็นผู้ตรวจสอบค�ำร้อง
ิ
หลงเหลือให้ค้นพบอีกต่อไปแล้ว ส่งท่เหลือเป็นกำร ขอจดสิทธิบัตรที่ค่อนข้ำงมีควำมสำมำรถ
ี
ิ
ิ
ั
�
่
ึ
ี
ี
ู
ึ
้
ี
วดผลให้แม่นยำมำกยงขน” เรำสำมำรถมควำมร้สก และเป็นเพรำะลักษณะเหล่ำน้ท่ยังได้ช่วย
ื
ร่วมกับส่งท่เคลวินเช่อได้ กำรผนึกรวมกนของกำร ท�ำให้เขำกลำยเป็นคนท่เหมำะสมในกำรพลิกโฉม
ี
ี
ั
ิ
สังเกตเชิงทดลอง กำรวิเครำะห์ทำงคณิตศำสตร์ตำม ฟิสิกส์แบบด้งเดิม เขำเป็นนักคิดหัวขบถ ซ่งเหมำะสม
ั
ึ
แบบอย่ำงของกำลิเลโอ นิวตัน และแมกซ์เวลล์ได้ เป็นอย่ำงดีกับช่วงเวลำท่วิทยำศำสตร์ต้องกำรขจัด
ี
ประกำศชัยชนะ จักรวำลดูเหมือนจะถูกควบคุมด้วย เอำช้นควำมรู้แบบด้งเดิมซ่งก�ำลังบดบังรอยแตกร้ำว
ั
ั
ึ
ั
ี
กฎต่ำงๆ และกฎเหล่ำน้นดูเหมือนจะแสดงออกผ่ำน ท่ปรำกฎอยู่ในรำกฐำนของฟิสิกส์ออกไป เขำเต็ม
ิ
ทำงภำษำของคณิตศำสตร์ ไปด้วยจินตนำกำร ย่งท�ำให้เขำสร้ำงแนวคิดแบบ
ั
้
้
่
ิ
แต่ ณ ขณะนนเอง เรมปรำกฏมรอยร้ำวขน ก้ำวกระโดดทนักคิดดั้งเดิมไม่เคยพบเคยเห็นมำก่อน
่
ี
ึ
ี
ี
ท่รำกฐำนของฟิสิกส์ รูปแบบของกำรแผ่รังสีท่ไม่น่ำ เหนือส่งอื่นใด เขำไม่มีควำมย�ำเกรงต่อผู้ใด ท�ำให้
ิ
ี
ี
ี
จะเกิดข้นได้ เช่น รังสีเอ็กซ์ และกำรแผ่กัมมันตรังส เขำสำมำรถต้งค�ำถำมกับสมมติฐำนต่ำงๆ ท่นัก
ั
ึ
แบบเกิดขึ้นเองได้ถูกค้นพบ กำรศึกษำกำรแผ่รังสีท วิทยำศำสตร์ส่วนใหญ่มองข้ำมไป
่
ี
ื
ึ
เกิดข้นเวลำคล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำท�ำปฏิกิริยำกับวัตถ ุ
ทำงกำยภำพน้น แสดงให้เห็นว่ำส่งท่เป็นปริศนำ
ั
ิ
ี
ี
ก�ำลังบังเกิดข้น ณ จุดท่ทฤษฎีกลศำสตร์แบบนิวตัน
ึ
่
ุ
ึ
ิ
ั
ิ
ซงอธบำยพฤตกรรมของอนภำคมำบรรจบพบกันกบ
์
์
ี
ทฤษฎสนำมของแมกซเวลลซงบรรยำยปรำกฏกำรณ ์
ึ
่
ี
ทำงแม่เหล็กไฟฟ้ำ นอกจำกน นักวิทยำศำสตร์ได้
้
คิดค้นวิธีกำรอันแยบคำยในทุกรูปแบบเพ่อหำหลัก
ื
ฐำนมำสนับสนุนอีเธอร์อันเป็นตัวกลำงของแสงและ
�
�
เช่อกันว่ำมีอยู่จริง แต่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ำ พวกเขำก็คว้ำน้ำ �
ื
เหลว
ในปี 1905 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยำ-
ิ
ศำสตร์ผู้ย่งใหญ่อีกคนหน่ง ก้ำวเข้ำมำสู่เร่องน ณ
ี
้
ึ
ื
ั
้
ี
ู
เวลำนน เขำเป็นเพยงผ้ตรวจสอบคำร้องขอจดสทธ ิ
�
ิ
บัตรระดับสำมในส�ำนักงำนจดสิทธิบัตรแห่งสวิส เขำ
ส�ำเร็จกำรศึกษำหลักสูตรฝึกหัดครูด้วยผลกำรเรียน
ปำนกลำงจำกสถำบันโพลีเทคนิคในเมืองซูริค ณ ท ่ ี
ั
แห่งน้นเอง เขำได้ท�ำตัวเป็นศัตรูกับอำจำรย์ส่วนใหญ่ อุปกรณ์ที่แมกซ์เวลล์พัฒนำขึ้นส�ำหรับกำรเปรียบเทียบหน่วยทำง
เพรำะควำมมุ่งม่นชอบท้ำทำยอ�ำนำจของตัวเขำเอง ไฟฟ้ำสถิตและหน่วยทำงแม่เหล็กไฟฟ้ำ
ั
12
เจมส์ คลาร์ก แมกซ์เวลล์ (1831-1879)
ี
เกิดท่เอดินบะระ เจมส์ คลำร์ก แมกซ์เวลล์เผย
ั
ควำมสำมำรถทำงฟิสิกส์ต้งแต่วัยเยำว์ และเข้ำเรียนท ี ่
มหำวิทยำลัยเอดินบะระและมหำวิทยำลัยเคมบริดจ์ เขำ
ิ
เรียนจบจำกเคมบริดจ์ในปี 1854 ผลงำนช้นแรกๆ ของเขำ
ั
แสดงให้เห็นว่ำ แสงขำวน้นประกอบด้วยแสงสีแดง แสง
สีเขียว และแสงสีฟ้ำ และกำรอธิบำยว่ำวงแหวนของดำว
ั
เสำร์สำมำรถต้งอยู่อย่ำงม่นคงได้อย่ำงไร ในช่วงปี 1860
ั
เขำหันเหควำมสนใจไปยังควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไฟฟ้ำและ
สนำมแม่เหล็ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ำกำรเปลี่ยนแปลงในไฟฟ้ำ
ก่อให้เกิดกำรเปล่ยนแปลงในสนำมแม่เหล็กได้อย่ำงไร ซ่ง ึ
ี
้
่
กระตุนใหเกิดกำรเปลี่ยนแปลงในสนำมแมเหล็กอีกตอหนึ่ง
้
่
ื
และก่อให้เกิด “คล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ” บทควำม “สมกำร
ท่วไปของสนำมแม่เหล็กไฟฟ้ำ” ของเขำมีบทบำทส�ำคัญ
ั
อย่ำงย่งในกำรท�ำควำมเข้ำใจกระแสไฟฟ้ำ กำรน�ำ
ิ
ไฟฟ้ำ และสภำพแม่เหล็ก และให้กรอบทำงทฤษฎี
ส�ำหรับกำรสร้ำงมอเตอร์ไฟฟ้ำท่มีประสิทธิภำพ
ี
13
14
ก�าเนิดและปฐมวัย
อแม่ผู้เป็นกังวลและนักเรียนท่มีผลกำรเรียน
ี
�
ต่ำกว่ำเกณฑ์น่ำจะรู้สึกสบำยใจได้ถ้ำเทียบ
ิ
กบไอน์สไตน์ เม่อเขำยังเป็นเด็ก อัลเบร์ต ไอน์สไตน์
ั
ื
ี
่
ี
่
่
ิ
ั
ู
ู
ี
ไม่ใช่ไอน์สไตน์อย่ำงทเรำร้จก เขำเรยนร้ทจะเรม
ี
พูดได้ช้ำ ช้ำเสียจนพ่อแม่ไปปรึกษำแพทย์เก่ยวกับ
ื
ั
อำกำรของเขำ สำวใช้ในครอบครัวต้งช่อให้เขำว่ำ
“เจ้ำท่ม” ควำมเป็นตัวของตัวเองและกำรต่อต้ำน
ึ
อ�ำนำจท�ำให้ครูโรงเรียนคนหน่งประกำศไว้ว่ำ เด็ก
ึ
หนุ่มไอน์สไตน์จะไปไหนไม่ได้ไกลหรอก “เจ้าทึ่ม”
ี
กำรปฏิเสธท่จะยอมรับแนวทำงฟิสิกส์แบบ ค�าที่สาวใช้ประจ�าครอบครัวใช้เรียกไอน์สไตน์
ึ
ด้งเดิมน น�ำมำซ่งควำมสร้ำงสรรค์ทำงวิทยำศำสตร์
ั
ี
้
ั
ั
อนทรงพลังของเขำ (ไอน์สไตน์ทึกทักว่ำเป็นเช่นนน สำยฟำดลงอย่ำงพร้อมกันในกำรรับรู้ของคนที่ยืนอยู่
้
ในภำยหลัง) และพัฒนำกำรด้ำนกำรพูดท่เช่องช้ำ ท่ชำนชำลำ สำยฟ้ำท้ง 2 สำยจะยังฟำดลงมำพร้อม
ั
ื
ี
ี
ั
ึ
ี
น�ำไปสู่อุปนิสัยท่ติดตัวเขำไปตลอดชีวิต น่นคือกำร กันหรือไม่ในกำรรับรู้ของอีกคนหน่งซึ่งอยู่บนรถไฟ
ี
ื
ี
คิดเป็นภำพมำกกว่ำจะคิดเป็นเพียงแค่กำรบรรยำย ท่ก�ำลังเคล่อนท่ผ่ำนไป? หำกคุณอยู่ในลิฟต์โดยสำร
ี
ถ้อยค�ำ เขำช่นชอบท่จะท�ำส่งท่ตัวเขำเรียกว่ำ กำร ท่ปิดทึบซ่งเคล่อนท่ด้วยควำมเร่งมีทิศข้นด้ำนบนใน
ื
ึ
ื
ิ
ึ
ี
ี
ี
ทดลองทำงควำมคิดให้เป็นภำพ อันเป็นส่งซ่งคุณ อวกำศซึ่งปรำศจำกแรงโน้มถ่วง ประสบกำรณ์ของ
ึ
ิ
ี
และผมอำจจะเรียกมันว่ำฝันกลำงวัน แต่เพรำะเป็น คุณจะเหมือนกับกำรท่คุณอยู่ในลิฟต์โดยสำรปิดทึบ
ื
ไอน์สไตน์ เขำเรียกส่งเหล่ำน้นว่ำ กำรทดลองทำง ซ่งต้งอยู่กับท่บนพ้นในสนำมโน้มถ่วงของโลกหรือไม่?
ั
ั
ึ
ิ
ี
ื
ควำมคิด กำรเรียนรู้ท่เช่องช้ำท�ำให้เขำหลงใหลใคร่รู้
ี
กำรค้นพบทำงวิทยำศำสตร์ท่ส�ำคัญของเขำ เก่ยวกับเหตุกำรณ์ธรรมดำสำมัญที่คนอื่นๆ เห็นเป็น
ี
ี
ื
ึ
ึ
ิ
ึ
ส่วนใหญ่เกิดข้นจำกกำรแค่ทดลองโดยใช้จินตนำกำร เร่องปรกต ตัวอย่ำงหน่งเกิดข้นเม่อเขำอำยุรำวๆ 5
ื
่
คล่นแสงจะมีลักษณะเป็นอย่ำงไรหำกคุณเคล่อนท ขวบ พ่อให้เข็มทิศแก่เขำ ไอน์สไตน์ซ่งตอนน้นป่วย
ี
ื
ึ
ั
ื
ื
ั
ไปกับแสงด้วยควำมเร็วเท่ำกับแสง? หำกสำยฟ้ำ 2 อยู่ที่บ้ำน เม่อได้เพ่งพินิจเข็มทิศอันน้น เขำรู้สึก
ิ
ั
ต่นเต้นมำกเสียจนมือส่น ไม่มีส่งใดสัมผัสตัวเข็ม แต่
ื
้
ี
ุ
ั
ั
็
ื
ิ
หน้าซ้าย: อูล์ม บ้ำนเกิดของไอน์สไตน์ เขมยงคงชไปทำงทศเหนอเสมอไม่ว่ำคณจะขยบ
ี
ึ
บน: แฮร์มันน์ ไอน์สไตน์ พ่อของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เข็มทิศอย่ำงไร มันมีสนำมของแรงท่มองไม่เห็นซ่งแผ่
15
�
ี
ื
ตัวไปทั่วทั้งห้องนอน และดูเหมือนจะทั่วทั้งจักรวาล อย่างไรหากเราเคล่อนท่ไปข้างๆ ลาแสง? สนาม
ภูมิหลังครอบครัวของไอน์สไตน์นั้นธรรมดา โน้มถ่วงมีลักษณะเช่นไร?
ิ
บรรพบุรุษของเขาเป็นพ่อค้าเร่ชาวยิวจากชนบทของ เหนือส่งอ่นใด เขามีหัวขบถมากพอท่จะต้ง
ื
ี
ั
ี
�
�
สวาเบียผู้ประสบความสาเร็จในการค้าขาย และปรับ คาถามกับความรู้ท่สืบต่อกันมา ไม่ว่าความรู้น้นจะ
ั
ั
ั
ั
ื
ั
�
้
�
ั
้
ตวกลมกลนเข้ากบสงคมและวฒนธรรมของเยอรมน กระจ่างชัดเจนเพียงใด เขากล่าวยาแล้วยาอีกว่า
่
ี
ื
ี
ไอน์สไตน์เกิดเม่อวันศุกร์ท 14 มนาคม ค.ศ. 1879 ความศรัทธาอย่างโง่เขลาต่อผู้รู้เป็นศัตรูของความจรง
ิ
ึ
ี
เวลา 11.30 น. ณ เมืองอูล์มซ่งมีคาขวัญทานอง นิวตันส่งต่อหลักการท่มีความแน่นอนให้กับโลกสมัย
�
�
ุ
โอ้อวดตัวไว้ว่า “Ulmenses sunt mathematici” ใหม่โดยการป่าวประกาศไว้ในจดเร่มต้นของหนังสือ
ิ
ิ
(ชาวเมืองอูล์มเป็นนักคณิตศาสตร์) เมืองอูล์มเพ่งจะ Principia ของเขา ยกตัวอย่างเช่น สมมติฐานที่ว่า
ึ
กลายมาเป็นส่วนหน่งของอาณาจักรไรค์ของเยอรมน เวลาเดินหน้าไปทีละวินาทีอย่างไม่หยุดหย่อน และ
ี
ยุคเร่มแรก พร้อมๆ กับส่วนอ่นท่เหลือของสวาเบีย ไม่ข้นอยู่กับการสังเกตของเรา ส่งเหล่าน้อาจดูชัดเจน
ึ
ี
ิ
ิ
ี
ื
ื
�
�
พ่อและแม่ของไอน์สไตน์-แฮร์มันน์และเพาลีเนอ- สาหรับคนอ่นๆ แต่มันทาให้ไอน์สไตน์ต้งคาถามว่า
ั
�
ต้งใจไว้ในตอนแรกว่าจะต้งช่อไอน์สไตน์ว่า อับราฮัม เรารู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นเช่นนั้น?
ั
ื
ั
ี
ื
ตามช่อปู่ แต่พวกเขาเปล่ยนใจ เพราะเห็นว่าช่อแรก
ื
�
่
ั
้
ิ
ี
ทเลือกนนฟังดู “ยิวเกนไป” (ตามคาบอกเล่าในภาย
หลังของไอน์สไตน์) และหาทางออกด้วยการคงอักษร
ตัวแรก “A” เอาไว้ และตั้งชื่อให้เขาว่า อัลเบิร์ต
เม่อเขาเป็นเด็ก ไอน์สไตน์สนุกสนาน
ื
เพลิดเพลินกับการสร้างส่งท่ซับซ้อนจากของเล่น
ี
ิ
ึ
และต่อตึกข้นจากไพ่ได้สูงถึง 14 ช้น แต่ความบาก
ั
บ่นและความด้อดึงของเขาก็มีอยู่พอๆ กับความ
ั
ื
ี
ข้โมโหฉุนเฉียว ท่เขามีแนวโน้มจะแสดงออกมา
ี
หัวของมายา-น้องสาวของเขา-เป็นเป้าแห่งการโจมต ี
ซ�้าแล้วซ�้าเล่าจากของแข็งต่างๆ
ตลอดชีวิตของเขา อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
สามารถรักษาความสามารถในการตกตะลึงและ
ช่างสงสัยเย่ยงเด็กเอาไว้ได้ จากท่เขาเขียนถึงเพ่อน
ี
ื
ี
คนหน่งภายหลัง เขาเช่อว่า คนหลายคนอย่างเช่น
ึ
ื
ตัวเขาไม่เคยแก่ แต่จะคงความกระหายใคร่รู้แบบ
ิ
เด็กๆ ท่มีต่อปริศนาอันย่งใหญ่ของจักรวาลไว้ตลอด
ี
ไป เขารู้สึกอัศจรรย์ใจต่อปรากฏการณ์อันน่าตะลึง
ของธรรมชาตท่ผู้ใหญ่ส่วนมากเหนเป็นเรองธรรมดา
ิ
ี
ื
็
่
อะไรคือสนามแม่เหล็ก? อะไรคือแรงโน้มถ่วง? เหต ุ
ิ
ื
�
้
ี
็
ใดเขมทิศจึงชไปทางทศเหนอ เขายังพยายามจาลอง
ิ
ภาพและจินตนาการส่งต่างๆ อยู่เสมอ มันจะเป็น ภาพถ่ายไอน์สไตน์ภาพแรกสุดเท่าที่รู้ว่ามีอยู่
16
น้องสาวของไอน์สไตน์
มำเรีย น้องสำวของไอน์สไตน์ เป็นท่รู้จักกันในนำม
ี
“มำยำ” เสมอมำ เกิด 2 ปีหลังไอน์สไตน์ แม้ว่ำจะมีช่วงเวลำท ่ ี
ยำกล�ำบำกในวัยเด็ก (ไอน์สไตน์น้อยมักตีหัวของเธอด้วยของแข็ง
�
�
ี
ี
ซ้ำแล้วซ้ำเล่ำ) เธอกลำยเป็นผู้ท่พ่ชำยไว้วำงใจตลอดชีวิต และ
ื
ี
ั
บ่อยคร้งก็เป็นเพ่อนท่สนิทท่สุด เธอได้รับคัดเลือกเป็นครูท่อำเรำ
ี
ี
ในปี 1902 และหลังจำกน้น เธอศึกษำภำษำโรมำนซ์ในเบอร์ลิน
ั
ี
ิ
ในช่วงปี 1930 เธอและสำม พอล วนเทเลอร์ ย้ำยไปฟลอเรนซ์
แต่กฏหมำยต่อต้ำนเซมิติกของมุสโสลินีท�ำให้เธอเดินทำงไปอยู่
ี
กับพ่ชำยในสหรัฐอเมริกำในปี 1938 และใช้ชีวิตอีก 13 ปีต่อ
มำในพรินซ์ตัน และหลังจำกเธอเป็นโรคหลอดเลือดสมองในปี
1948 ไอน์สไตน์คอยดูแลน้องสำวของเขำ และอ่ำนหนังสือให้
ั
เธอฟังทุกเย็น หนังสือท่อ่ำนมีต้งแต่ ดอน กิโฆเต้ ไปจนถึงหนังสือ
ี
ี
ิ
ี
้
วทยำศำสตร์กรีกโบรำณเล่มใหญ่ท่น้อยคนจะเขำใจได้ เธอเสยชวิต
ี
ในปี 1951 และยังสร้ำงควำมรู้สึกเศร้ำเสียใจให้กับไอน์สไตน์
ุ
์
์
บน: ไอนสไตน์และนองสำวของเขำ มำยำ ในป 1884 ไอนสไตน์อำย 5 ขวบ
ี
้
ภำพถ่ำยไอน์สไตน์ภำพแรกสุดเท่ำที่รู้ว่ำมีอยู่ และมำยำอำยุ 3 ขวบในขณะนั้น
17
สูติบัตรของไอน์สไตน์ ลงวันที่ 15 มีนำคม 1879
18
แม่ของไอน์สไตน์ เพำลีเนอ
ไอน์สไตน์กับดนตรี
ุ
ื
เม่อเขำอำย 6 ขวบ แม่ของไอน์สไตน์มอบของ
ขวัญให้เขำ นั่นคือ บทเรียนไวโอลิน ซึ่งส่งอิทธิพลต่อ
ี
มำตลอดชีวิตของเขำเหมือนกับเข็มทิศท่เขำได้รับจำก
ั
พ่อ ไอน์สไตน์ต่อต้ำนระเบยบวินัยท่บังคับคนให้ทำตว
�
ี
ี
ี
ื
เหมือนเคร่องจักรท่ครูสอนดนตรีของเขำพยำยำม
ยัดเยียดให้เขำ แต่หลังจำกได้ฟังเพลงโซนำตำของ
โมสำร์ท เขำเข้ำถึงจิตวิญญำณอันสร้ำงสรรค์และเต็ม
่
ี
ิ
ไปด้วยจนตนำกำรท่บนดำลให้เกิดดนตรีทย่งใหญ่โดย
ั
ี
ิ
ื
ทันท เขำบอกเพ่อนคนหน่งภำยหลังว่ำ ดนตรีของ
ึ
ี
ิ
โมสำร์ทบริสุทธ์และงดงำมมำกเสียจนเป็นเหมือนกับ
ส่งฉำยสะท้อนควำมงดงำมท่อยู่ภำยในของจักรวำล
ี
ิ
้
็
ออกมำ ดนตรีชวยใหเขำคิด และยังเปนสะพำนเชื่อม
่
ี
โยงเขำเข้ำกับควำมกลมกลืนของจักรวำล ท่ส�ำคัญ
ู
ั
ิ
ื
ุ
ื
ี
่
ทสดคอ มนเป็นเครองเตอนใจเรำว่ำ อจฉรยะผ้ยง ่ ิ
่
ื
ั
ใหญ่ แม้แต่ (หรืออำจจะโดยเฉพำะอย่ำงย่ง) ในด้ำน
ิ
คณิตศำสตร์หรือวิทยำศำสตร์ ไม่ได้เป็นเพียงกำร
ท�ำงำนแต่ในด้ำนของควำมชำญฉลำดเท่ำนั้น หำกแต่
ยังเต็มไปด้วยควำมคิดสร้ำงสรรค์และจินตนำกำร
ื
ขวา: ควำมรักในดนตรีของไอน์สไตน์ด�ำรงอยู่สืบเน่องไปตลอด
ี
ชีวิตของเขำ และเขำชอบเล่นไวโอลินบ่อยท่สุดเท่ำท่จะเป็นไปได้
ี
19
โรงเรียน
รื่องเล่ำเกี่ยวกับไอน์สไตน์ที่เป็นที่ถูกอกถูกใจเรื่อง
ึ
หน่งคือ เขำสอบตกคณิตศำสตร์สมัยเป็นนักเรียน
ิ
ี
ี
ท่มิวนิก เร่องน้แพร่กระจำยไปท่วท้งในส่งพิมพ์และ
ั
ั
ื
ั
เว็บไซต์ และบ่อยคร้งท่ถูกกล่ำวถึงพร้อมกับวลีท ่ ี
ี
็
่
ั
่
ี
ั
ั
มนอกมนใจว่ำ “อย่ำงท่ใครๆ กรู้” จนเหมือนมนได้
กลำยเป็นข้อเท็จจริงที่บอกเล่ำต่อกันมำ
ื
แม้ว่ำชีวิตของไอน์สไตน์จะเต็มไปด้วยเร่อง
ี
รำวย้อนแย้งท่น่ำหลงใหลมำกมำย แต่ก็น่ำเสียดำย
ี
ท่กำรไร้ควำมสำมำรถทำงคณิตศำสตร์ในวัยเด็ก
ไม่ใช่หน่งในเร่องรำวเหล่ำน้น เขำไม่เก่งภำษำ และ
ื
ึ
ั
ควำมมุ่งม่นท่จะท้ำท้ำยอ�ำนำจท�ำให้เขำไม่เป็นท ี ่
ี
ั
โปรดปรำนของอำจำรย์อยู่เสมอ แต่เขำเรียนวิชำ
คณิตศำสตร์ได้ด เพรำะสำมำรถคิดส่งต่ำงๆ เป็นภำพ
ี
ิ
ี
ได้ด เขำรู้ว่ำสมกำรคณิตศำสตร์เป็นเพียงรอยตวัด
แห่งพู่กันของพระเจ้ำท่วำดระบำยบำงส่งบำงอย่ำง
ี
ิ
ิ
ึ
ในธรรมชำต ซ่งสำมำรถมองเห็นได้ด้วยจินตนำกำร
เหมือนกับท่คุณสำมำรถมองเห็นภำพเม่อคุณอ่ำน
ื
ี
วลีของโฮเมอร์ “เทพีแห่งอโณทัยท่มีน้วมือสีแดง”
ิ
ี
้
ไอน์สไตน์สำมำรถแสดงไดด้วยภำพว่ำสมกำรสะท้อน
ควำมจริงได้อย่ำงไร ยกตัวอย่ำงเช่น สมกำรสนำม
ึ
แม่เหล็กไฟฟ้ำซ่งถูกค้นพบโดย เจมส์ คลำร์ก งำนชิ้นส�ำคัญที่สุดของแมกซ์เวลล์ A Treatise on Electricity
ึ
แมกซ์เวลล์ จะปรำกฏภำพอย่ำงไรแก่เด็กคนหน่งท ่ ี and Magnetism (บทควำมว่ำด้วยไฟฟ้ำและภำวะแม่เหล็ก -
ื
ก�ำลังว่งไปข้ำงๆ ล�ำแสง เขำเช่ออย่ำงหนักแน่นเสมอ ผู้แปล) ตีพิมพ์ในปี 1873 มีอิทธิพลอย่ำงใหญ่หลวงต่อไอน์สไตน์
ิ
ในวัยหนุ่ม
ึ
ี
ว่ำ จินตนำกำรน�ำมำซ่งควำมเห็นแจ้งท่หลักแหลม
ื
ี
ึ
ี
ี
ื
ท่สุดในควำมเป็นจริงท่อยู่เบ้องหลัง หำใช่ควำมรู้อัน ซ่งมีตัวแปร x เป็นเหมือนเหย่อท่เรำจะต้องแกะรอย
เรียบง่ำยที่มำจำกข้อเท็จจริง ตำมไปอย่ำงไม่ปรำนีจนกว่ำเรำจะจับมันได้ (หรือใน
ื
ลุงของเขำ ยำคอบ ไอน์สไตน์ ผู้เป็นวิศวกร ทำงคณิตศำสตร์ก็คือ จนกว่ำสมกำรจะถูกแก้) เม่อ
ี
ได้บ่มเพำะควำมรักในพีชคณิตให้กับไอน์สไตน์ วิธ ไอน์สไตน์ช่ำชองในส่งน ลุงของเขำจึงแนะน�ำให้เขำ
�
ิ
้
ี
ี
ึ
กำรของเขำก็เต็มไปด้วยจินตนำกำรเช่นกัน เขำ รู้จักกับแนวคิดท่ยำกข้นกว่ำเดิม หน่งในแนวคิด
ึ
เชอมโยงกระบวนกำรแก้สมกำรเข้ำกบกำรล่ำสตว์ เหล่ำน้นคือทฤษฎีบทพีทำกอรัส (ทฤษฎีของรูป
่
ื
ั
ั
ั
20
การทดลองทางความคิดของ สำมเหล่ยมมุมฉำก ว่ำด้วยผลรวมของควำมยำวของ
ี
แบร์นสไตน์ ด้ำนประกอบมุมฉำกแต่ละด้ำนยกก�ำลัง 2 มีค่ำ
เท่ำกบควำมยำวของด้ำนตรงข้ำมมุมฉำกยกก�ำลัง
ั
กำรอ่ำนหนังสือวิทยำศำสตร์ของแบร์นสไตน์ สอง) ในท้ำยท่สุด ไอน์สไตน์ “พิสูจน์” ทฤษฎีน้โดย
ี
ี
ปลูกฝังควำมสนใจในกำรทดลองทำงควำมคิดให้ ใช้ควำมคล้ำยกันของรูปสำมเหล่ยมเป็นวิธีกำรพิสูจน์
ี
ี
ึ
กับไอน์สไตน์ในวัยหนุ่ม หัวข้อหน่งท่แบร์นสไตน์ เขำรู้สึกว่ำมันชัดเจนมำกท่ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงด้ำน
ี
สนใจคืออัตรำเร็วของแสง ในงำนอันน่ำสนใจของ ต่ำงๆ ของสำมเหล่ยมมุมฉำกถูกก�ำหนดโดยสมบูรณ์
ี
้
ื
ี
เขำเก่ยวกับเร่องนี เรำสำมำรถมองเห็นเมล็ดพันธุ์ จำกหนึ่งในมุมแหลมของสำมเหลี่ยมนั้น
ี
ี
แห่งกำรทดลองทำงควำมคิดท่ไอน์สไตน์จะใช้ในอีก อีกคร้งหน่งท่เขำไม่ได้เพียงแค่จดจ�ำมโนทัศน์
ั
ึ
15 ปีต่อมำในกำรปลุกปล�้ำกับทฤษฎีสัมพัทธภำพ ต่ำงๆ แต่เขำมองเห็นมโนทัศน์เหล่ำน้น และคิดออก
ั
ิ
ี
ิ
พิเศษ ลองจินตนำกำรว่ำมันจะเป็นอย่ำงไรหำก มำเป็นภำพ ส่งน้ไม่ใช่ส่งท่โรงเรียนเยอรมันให้ควำม
ี
ื
ี
ี
ื
เรำอยู่บนรถไฟท่ก�ำลังเคล่อนท่ไป แบร์นสไตน์ ส�ำคัญในวิชำคณิตศำสตร์ โรงเรียนร่วมสมัยอ่นๆ ก ็
ิ
ี
ี
ื
ช้ให้เห็นว่ำ ลูกกระสุนท่ว่งทะลุเข้ำไปในรถไฟจะ ไม่ให้ควำมส�ำคัญในเร่องน้เช่นกัน ทฤษฎีบทพีทำกอรัส
ี
ี
ื
ื
ี
ื
ดูเหมือนเคล่อนท่โค้งงอ เน่องจำกรถไฟเคล่อนท่ไป มกถกสอนโดยกำรท่องจ�ำมำกกว่ำจะเป็นสงทเข้ำใจ
่
ั
ี
ู
ิ
่
ิ
ี
ึ
ในระหว่ำงท่กระสุนว่งเข้ำมำด้ำนหน่งและออกไป ได้โดยกำรคิดเป็นภำพ ควำมรู้สึกของเขำที่มีต่อ
ั
ี
้
ี
่
่
ี
ิ
ึ
ื
ิ
่
ั
ิ
อกด้ำนหนง สงเดยวกนนต้องเป็นจรงเช่นกนเมอ ทฤษฎีบทพีทำกอรัสกลำยเป็นส่งท่เป็นประโยชน์
ี
ื
ี
ั
ี
แสงเคล่อนท่เข้ำมำในกล้องโทรทรรศน์ น่นเพรำะ เพรำะเขำได้เห็นส่งท่จะกลำยมำเป็นทฤษฎีสัมพัทธภำพ
ิ
กำรเคลื่อนที่ของโลกไปในปริภูมิ พิเศษของเขำ
ี
ื
ี
ภำพแสดงกำรทดลองทำงควำมคิดของแบร์นสไตน์ แผนภำพ A แสดงต�ำแหน่งท่กระสุนเคล่อนท่เข้ำไปในรถไฟ และแผนภำพ
B แสดงวิถีกระสุนจริงๆ (เส้นสีแดง) และวิถีกระสุนที่เรำรับรู้ (เส้นสีเขียว)
21
ไอน์สไตน์กับการทหาร
ไอน์สไตน์ในวัยหนุ่มมักเห็นเหล่ำทหำรเดินขบวน
ื
พร้อมวงดุริยำงค์ผ่ำนทำงหน้ำต่ำงของเขำ เพ่อนๆ ท ่ ี
ื
โรงเรียนของเขำหลำยคนช่นชอบกำรเล่นเป็นทหำรและ
ี
จะแกล้งเดินตำมขบวนทหำร แต่ภำพท่ปรำกฎท้งหมด
ั
ท�ำให้ไอน์สไตน์ร้องไห้ เขำบอกพ่อแม่ของเขำว่ำ มันเป็น
ส่งท่น่ำรังเกียจท่สุด เขำไม่อยำกโตข้นมำพร้อมกับแนวคิด
ึ
ี
ิ
ี
ั
ทำงกำรทหำร ใครท่ยอมรับแนวคิดเหล่ำน้นโดยไม่ต้ง
ั
ี
ค�ำถำมส�ำหรับเขำแล้วมีค่ำมำกกว่ำสัตว์เพียงเล็กน้อย
ท่ำทีต่อต้ำนเผด็จกำรน้ท�ำให้เขำได้รับควำมล�ำบำกใน
ี
โรงเรียน เขำเห็นว่ำรูปแบบกำรสอนด้วยกำรท่องจ�ำและ
ไม่ให้ตั้งค�ำถำมเป็นสิ่งที่น่ำรังเกียจ
ขวา: ในปี 1896 ขบวนพำเหรดทหำรเฉลิมฉลองเกียรติยศของ
มกุฎรำชกุมำรเยอรมันซึ่งมีกองทหำรอำรักขำท�ำให้ไอน์สไตน์
วัยหนุ่มคับข้องใจเป็นอย่ำงยิ่ง
่
ี
ุ
ไอน์สไตน์ได้รับอิทธิพลทำงกำรศึกษำท สำรำนุกรมชดน้มอบให้แทบจะกระชำกลมหำยใจของ
ี
ั
ย่งใหญ่อีกประกำรหน่งจำกนอกโรงเรียน น่นคือ เขำไป ชุดสำรำนุกรม 21 เล่มเล็กๆ น้คือหีบสมบัติท ี ่
ึ
ี
ิ
ึ
ี
นักศึกษำแพทย์ผู้ยำกจนนำม มักซ์ ทำลมุด ผู้ซ่งมำ บรรจุงำนทำงวิทยำศำสตร์ท่ทันสมัย โดยเฉพำะอย่ำง
ร่วมโต๊ะอำหำรเย็นกับครอบครัวไอน์สไตน์สัปดำห์ ยิ่งงำนที่เกิดขึ้นในประเทศเยอรมนี
ี
ละคร้ง นับเป็นธรรมเนียมท่ปฏิบัติสืบต่อกันมำอย่ำง หลังจำกท่ไอน์สไตน์ศึกษำหนังสือของ
ี
ั
�
ุ
ยำวนำนของชำวยิวในกำรเชิญผู้รู้ทำงศำสนำท่อัตคัด แบร์นสไตน์อย่ำงแตกฉำนแล้ว ทำลมดได้มอบตำรำ
ี
ื
ี
ขัดสนมำร่วมรับประทำนมื้อชำบัท (วันศักดิ์สิทธิ์ของ เรขำคณิตให้เพ่อท่เขำจะได้รู้สึกร่นรมย์ในควำม
ื
ั
ั
ี
ิ
ชำวยิวสำหรับกำรปฏิบตศำสนกิจและกำรพกผ่อน บันเทิงของมันก่อนท่เขำจะถูกบังคับให้เรียนวิชำน ้ ี
�
ิ
ึ
ั
ิ
จำกกำรงำน ซ่งเร่มต้นในเย็นวันศุกร์และส้นสุดในเย็น ในโรงเรียนเสียอีก มันเป็นหนงสือท่ในเวลำต่อมำ
ี
ึ
ั
ื
วันเสำร์ – ผู้แปล) กับพวกเขำ ครอบครัวไอน์สไตน์ ไอน์สไตน์กล่ำวถงด้วยควำมยกย่องยำเกรง หนงสอ
�
ี
ื
ื
ี
ยงคงยดถอธรรมเนยมน แต่ในรูปแบบของพวกเขำ เล่มน้เต็มไปด้วยประพจน์แห่งควำมงดงำมท่น่ำต่น
้
ึ
ี
ั
ี
ั
ึ
น้นเปล่ยนไป จำกวันศุกร์ก็เล่อนเป็นวันพฤหัสบด ตำต่นใจ ซ่งถูกพิสูจน์โดยควำมแน่นอนอันสมบูรณ์
ี
ื
ี
ื
ั
ู
ู
ี
่
ั
ึ
และแขกทควรเป็นผ้ร้ทำงศำสนำกลบเป็นนกศกษำ แบบของสัจพจน์ทำงเรขำคณิต กำรท่เส้นแสดงควำม
ี
ี
ึ
แพทย์แทน สูงท้ง 3 เส้นของรูปสำมเหล่ยมหน่งๆ (เส้นท่ลำก
ี
ั
ึ
ี
ทำลมุดเร่มต้นกำรมำเยือนประจ�ำสัปดำห์ จำกด้ำนสำมเหล่ยมด้ำนหน่งเป็นมุมตั้งฉำกไปหำมุม
ิ
ี
ั
ั
ื
ของเขำเม่อไอน์สไตน์อำย 10 ขวบ เขำน�ำหนังสือ ตรงข้ำมของด้ำนน้นๆ) จะมำตัดกันท่จุดเดียวกันน้น
ุ
ี
ี
ี
ิ
ึ
ั
วิทยำศำสตร์ท่เป็นท่นิยมติดตัวมำ หน่งในน้นคือ ไม่ใช่ส่งท่ประจักษ์เสียทีเดียว แต่หลักกำรอันเรียบ
ี
ี
ึ
สำรำนุกรมซ่งมีช่อว่ำ หนังสือเก่ยวกับวิทยำศำสตร์ ง่ำยท่แสดงไว้ในงำนของแบร์นสไตน์สำมำรถเป็น
ื
ธรรมชำติส�ำหรับประชำชน เขียนโดย อำรอน กุญแจสู่ควำมเข้ำใจในควำมซับซ้อนที่ปรำกฏนั้นได้
แบร์นสไตน์ ซ่งเด็กน้อยไอน์สไตน์อ่ำนด้วยควำม แม้ว่ำพ่อแม่ของเขำจะไม่เคร่งศำสนำ และ
ึ
สนใจย่ง ควำมรู้อันลุ่มลึกทำงวิทยำศำสตร์ต่ำงๆ ท ไม่เป็นสมำชิกของซินนำกอก (ศำสนสถำนของชำว
ิ
่
ี
22
ู
ื
ิ
ั
ื
ั
่
ยว – ผ้แปล) เมอยงเป็นเดก ไอน์สไตน์นบถอ
็
ศำสนำยูดำยอยู่ 2-3 ปี พยำยำมแม้กระท่งรักษำ
ั
ข้อปฏิบัติทำงอำหำรท่เรียกว่ำ โคเชอร์ (อำหำรท ่ ี
ี
ถูกต้องตำมหลักศำสนำยิว – ผู้แปล) แต่กำรได้ท�ำ
ี
ควำมรู้จักกับวิทยำศำสตร์ก่อให้เกิดกำรเปล่ยนแปลง
ุ
ึ
โดยฉับพลันขณะท่เขำมีอำย 12 ปี ซ่งเป็นช่วงอำย ุ
ี
ท่เขำจะได้อ่ำนหนังสือเตรียมตัวส�ำหรับเข้ำพิธีบำร์
ี
ิ
่
ี
มตซวำห์ (พิธีทำงศำสนำของชำวยิวทแสดงว่ำ
เด็กชำยได้กลำยเป็นผู้ใหญ่แล้ว กระท�ำเม่อเด็กชำย
ื
อำยุครบ 13 ปีบริบูรณ์ – ผู้แปล) ในหนังสือ
วิทยำศำสตร์ท่เป็นท่นิยมของแบร์นสไตน์ เขำ
ี
ี
อธิบำยควำมสัมพันธ์และประนีประนอมระหว่ำง
ิ
ี
วิทยำศำสตร์และศำสนำ เขำท�ำส่งน้ลุล่วงด้วย
กำรอธิบำยถึงสำเหตุพ้นฐำนซ่งวำงตัวอยู่เบ้องหลัง
ื
ื
ึ
ื
ึ
จักรวำล ซ่งกำรค้นพบสำเหตุพ้นฐำนเหล่ำน้ถือเป็น ภำพไอน์สไตน์ขณะอำยุ 14 ปี ถ่ำยที่มิวนิก
ี
งำนของวิทยำศำสตร์ แต่กำรรับรู้อันสลัวคลุมเครือ
ี
ึ
ต่อส่งเหล่ำน้เผยแสดงออกมำเป็นควำมส�ำนึกทำง ซ่งครอบครัวหวังว่ำจะมีโอกำสท่ดีกว่ำส�ำหรับกำรท�ำ
ิ
ี
ี
็
ศำสนำท่ปรำกฏอยู่ในมนุษย์ทุกคน ส่งน้ค่อนข้ำง บรษทเลกๆ ครอบครวของเขำตงใจไว้ว่ำ ไอน์สไตน์
ิ
ั
ิ
ั
ี
้
ั
ื
ี
ื
เป็นค�ำอธิบำยท่ดีถึงส่งท่ไอน์สไตน์จะเช่อเม่อเขำเป็น จะอยู่ท่มิวนิกต่อไปอีก 3 ปีโดยให้อำศัยอยู่กับญำต ิ
ี
ิ
ี
ุ
ผู้ใหญ่ แต่เน่องจำกเขำเป็นเด็กอำย 12 ผู้มีหัวขบถ ห่ำงๆ เพื่อให้เขำเรียนให้จบ
ื
กำรก้ำวออกจำกศรัทธำของเขำนับว่ำรุนแรงยิ่งนัก ส่งน้นไม่เคยเกิดข้น ไอน์สไตน์ ซ่งถูกมองว่ำ
ึ
ิ
ึ
ั
ิ
ี
ี
ิ
ั
ั
กำรหันออกจำกศำสนำในคร้งน้ย่งเพ่มควำม เป็นนักเรียนท่อวดดี เป็นไปได้ท้งได้รับกำรสนับสนุน
ี
หนักแน่นให้กับควำมเคลือบแคลงสงสัยท่ไอน์สไตน์ ในไม่ช้ำ หรือไม่ก็ถูกบังคับให้ออกจำกโรงเรียน เขำ
ึ
มีติดอยู่ในตัวของเขำต่อควำมรู้ท่ได้รับสืบต่อกันมำ โน้มน้ำวให้แพทย์ประจ�ำครอบครัวของเขำ ซ่งเป็น
ี
เขำเร่มแสดงควำมไม่เช่อถืออย่ำงย่งยวดต่อควำมเช่อ พ่ชำยของมักซ์ ทำลมุด ออกจดหมำยรับรองว่ำ เขำ
ื
ิ
ื
ี
ิ
ิ
่
ื
ั
ฝังหัวและค�ำสอนทำงศำสนำ ซ่งต่อมำจะสะท้อนให้ ป่วยด้วยอำกำรเหนอยล้ำทำงจตใจและวตกกงวล
ึ
ิ
�
ื
เห็นในควำมไม่ยอมจำนนในควำมเช่อทำงกำรเมอง อันเน่องมำจำกควำมเครียด ด้วยเหตุผลน เขำจึงออก
้
ื
ี
ื
ี
้
ั
ิ
ึ
ุ
สังคม และวิทยำศำสตร์ของเขำ ไอน์สไตน์กล่ำวใน จำกโรงเรยนในวนหยดครสต์มำสปี 1894 ขนรถไฟ
ี
ี
ภำยหลังว่ำ ประสบกำรณ์น้จุดประกำยควำมสงสัย ไปอิตำล และบอกพ่อแม่ท่ก�ำลังตระหนกตกใจว่ำ
ี
ี
ั
ต่ออ�ำนำจทุกรูปแบบในตัวเขำ เป็นควำมรู้สึกท่ไม่ เขำจะไม่กลบไปประเทศเยอรมนอีกแล้ว เขำสญญำ
ี
ั
เคยจำกเขำไป เขำเปรียบกำรไม่ใส่ใจในกำรเดินตำม ว่ำจะเรียนหนังสือเพ่อจะสอบเข้ำเรียนท่วิทยำลัย
ื
ี
ิ
ู
ู
ี
ิ
ี
ุ
ธรรมเนียมในกำรท�ำส่งต่ำงๆ เป็นเทวดำท่คอยปกปัก โพลเทคนคในซรคในฤดใบไม้ร่วงปีหน้ำ (ปัจจบันม ี
ิ
ึ
รักษำ ซ่งจะช้น�ำทำงเขำไปยังสถำนท่ต่ำงๆ ซ่งผู้ท่ม ช่อว่ำ Eidgenõssische Technische Hochschule
ี
ี
ึ
ี
ื
ี
จิตใจยอมจ�ำนนในธรรมเนียมเก่ำๆ ไม่มีวันไปถึง หรือ สถำบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส)
ั
ในช่วงเวลำน้น เม่อไอน์สไตน์มีอำย 15 ปี
ื
ุ
บริษัทไฟฟ้ำของพ่อและลุงของเขำเร่มขำดทุน
ิ
ครอบครัวของเขำย้ำยไปทำงตอนเหนือของอิตำลี ที่
23
อาเรา
ื
นฤดูร้อนของปี 1895 เม่อไอน์สไตน์มีอำย 16
ุ
ปี เขำเขียนบทควำมฟิสิกส์ช้นแรกซ่งเก่ยวข้องกับ
ี
ึ
ิ
ประเด็นท่จะมีบทบำทส�ำคัญย่งต่อชีวิตกำรท�ำงำนของ ภำพถ่ำยงำนแต่งงำนของน้องสำวไอน์สไตน์ มำยำ กับ พอล
ี
ิ
ื
ึ
ี
ั
เขำ น่นคือสสำรท่รู้จักกันในนำมว่ำ “อีเธอร์” ซ่งเช่อ วินเทเลอร์ ในปี 1910
กันว่ำด�ำรงอยู่ นักวิทยำศำสตร์ถือว่ำแสงเป็นคล่นชนิด
ื
้
ึ
ี
ื
หน่ง และด้วยเหตุน เหล่ำนักวิทยำศำสตร์จึงเช่อว่ำใน ไฮน์ริช เวเบอร์ มองเห็นควำมสำมำรถของไอน์สไตน์
ี
ึ
ี
จักรวำลมีสสำรท่มองไม่เห็นแผ่กระจำยอยู่ ซ่งเรียกว่ำ และแนะน�ำให้เขำพักอยู่ท่ซูริค และมำเข้ำเรียนวิชำ
ี
ื
อีเธอร์ มันท�ำหน้ำท่กระจำยคล่นแสงออกไปโดยกำร ท่เขำสอนได้โดยไม่ต้องสอบเอำคะแนน แต่ไอน์สไตน์
ี
กระเพอมเป็นระลอกต่อเนองเหมือนกบทน้ำกระจำย ตัดสินใจว่ำ มันจะดีกับเขำมำกกว่ำ หำกเขำเข้ำเรียน
ื
่
�
ื
ี
่
่
ั
ั
ื
คล่นในทะเล ณ เวลำน้น นักวิทยำศำสตร์ก�ำลังพยำยำม ท่โรงเรียนแห่งหน่งในหมู่บ้ำนใกล้ๆ ของเมืองอำเรำเป็น
ี
ึ
่
ี
์
ี
ี
ิ
ั
่
่
ี
ทกวถทำงในกำรตรวจหำตวตนของสงทเรยกวำอเธอรน ี ้ เวลำ 1 ปี
ุ
ิ
ึ
และวัดกำรเคล่อนท่ของโลกซ่งสัมพันธ์กับมัน ไม่มีใคร ทนน เขำได้พบกบยำถอนพษจำกกำรศกษำ
ื
ี
ั
ี
ึ
่
ั
่
ิ
ประสบควำมส�ำเร็จ แต่น่นก็ไม่ได้ท�ำให้พวกเขำถอดใจ แบบเยอรมันอันเข้มงวด ไอน์สไตน์เขียนในภำยหลัง
ั
หรือส�ำหรับไอน์สไตน์ในวัยรุ่นท่จะหยุดเช่อว่ำอีเธอร์ม ี ว่ำ วิถีแห่งกำรเรียนกำรสอนท่อำเรำท�ำให้เขำช่นชม
ื
ี
ี
ื
ตัวตนอยู่จริง คุณค่ำของกำรศึกษำท่บ่มเพำะควำมรู้สึกในกำรแสดง
ี
บทควำมของไอน์สไตน์แสดงภำพรวมของกำร ควำมรับผิดชอบต่อกำรกระท�ำของตนเองมำกกว่ำกำร
ทดลองท่สำมำรถช่วยอธิบำยได้ว่ำ อีเธอร์จะมีพฤติกรรม สยบยอมต่อกฎระเบียบและอ�ำนำจ โรงเรียนแห่งน้ยัง
ี
ี
อย่ำงไรในสนำมแม่เหล็ก เขำส่งบทควำมไปให้ลุงของ กระตน “กำรทดลองทำงควำมคด” (หรอ Gedanken-
ิ
้
ุ
ื
ึ
ี
ี
เขำ ซีซำร์ คอค ซ่งเป็นพ่อค้ำอยู่ท่ประเทศเบลเย่ยม experiment ในภำษำเยอรมัน ซึ่งตรงกับภำษำอังกฤษ
ด้วยควำมแสแสร้งแสดงควำมถ่อมตน ไอน์สไตน์เน้น ว่ำ thought experiment – ผู้แปล) และกำรออก
�
ย้ำถึงควำมไม่สมบูรณ์ต่ำงๆ ในบทควำมของเขำ เขำ ก�ำลังทำงควำมคิดโดยใช้จินตนำกำรเหล่ำน้ก็กลำยมำ
ี
วิจำรณ์บทควำมตัวเองว่ำ เป็นผลงำนที่อ่อนหัดของเด็ก เป็นหนึ่งในกุญแจสู่ควำมส�ำเร็จของไอน์สไตน์
ิ
ี
ั
่
ี
่
ี
ึ
่
ิ
หนุ่มท่ขำดประสบกำรณ์ เขำยงอธบำยให้ลุงของเขำ ทอำเรำ เขำได้คดค้นสงทจะกลำยเป็นหนง
ิ
่
ี
ี
ี
ั
ฟังเก่ยวกับควำมต้งใจของเขำท่จะเข้ำเรียนท่วิทยำลัย ในกำรทดลองทำงควำมคิดท่โด่งดังที่สุดของเขำ เขำ
ี
ี
ื
โพลีเทคนิคในเมืองซูริค แต่ระเบียบของสถำบันเก่ยว พยำยำมใช้จินตนำกำรว่ำ มันจะเป็นอย่ำงไรหำกเคล่อนท ี ่
ี
กับเกณฑ์อำยุท่รับเข้ำเรียนสร้ำงควำมล�ำบำกให้กับเขำ ไปข้ำงๆ ล�ำแสง แม้ว่ำตัวเขำเองจะรู้สึกว่ำ กำรทดลอง
เพรำะอำยุของเขำต�่ำกว่ำเกณฑ์อยู่ 2 ปี ทำงควำมคิดต่ำงๆ ในช่วงแรกเป็นเร่องเด็กๆ แต่ต่อมำ
ื
ื
ี
ึ
เพ่อนของไอน์สไตน์คนหน่งก้ำวเข้ำมำข้องเก่ยว เขำบอกเพ่อนคนหน่งว่ำ กำรทดลองทำงควำมคิดน้มี
ื
ี
ึ
ี
ื
กับเร่องน้โดยตกลงกับผู้อ�ำนวยกำรสถำบันโพลีเทคนิค ควำมสัมพันธ์โดยตรงกับทฤษฎีสัมพัทธภำพพิเศษของ
ึ
ผู้อนุญำตให้ “เด็กอัจฉริยะ” สอบเข้ำได้ เขำสอบผ่ำน เขำ เขำตระหนกได้ว่ำหำกใครสักคนหนงสำมำรถไล่ตำม
ั
่
คณิตศำสตร์และวิทยำศำสตร์อย่ำงง่ำยดำย อย่ำงไร คลื่นแสงไปด้วยอัตรำเร็วเดียวกันกับแสงแล้ว คลื่นแสง
ั
ื
ี
ิ
ิ
ก็ตำม เขำสอบตกภำษำฝร่งเศส วรรณคด กำรเมอง จะหยุดน่งอยู่ในเวลำ ณ ตอนน้น ไอน์สไตน์เห็นว่ำส่งน ้ ี
ั
่
ึ
ิ
ั
ื
่
ิ
และสตววทยำ ศำสตรำจำรย์ด้ำนฟิสกส์คนหนงชอ เป็นไปไม่ได้
24
ี
ี
ครอบครัวอุปถัมภ์ของไอน์สไตน์ท่อำเรำคือ จะต้องเป็นหมำกตัวหนึ่งโดนจับไปท�ำหน้ำท่ทำงกำร
ั
ื
ี
ครอบครัววินเทเลอร์ ซ่งจะเป็นครอบครัวท่มีอิทธิพล ทหำร ดังน้น เม่อได้รับอนุญำตจำกพ่อ เขำกรอกแบบ
ึ
ิ
อย่ำงใหญ่หลวงต่อชีวิตของเขำไปอีกยำวนำน ไม่มีใคร ฟอร์มสละสัญชำต และกระบวนกำรสละสัญชำติเสร็จ
ื
รู้สึกประหลำดใจ และทุกคนดูเหมือนจะมีควำมสุข เม่อ ส้นในเดือนมกรำคมปี 1896 นอกจำกจะไม่ได้เป็น
ิ
ไอน์สไตน์หลงรักมำร ลูกสำวของพวกเขำ เม่อปลำยปี พลเมืองของประเทศใด เขำยังถือว่ำตัวเองไม่ได้เป็น
ี
ื
ี
่
่
ี
ั
่
ื
ึ
1895 ซงเป็นเวลำไม่กเดอนหลงจำกทเขำย้ำยเข้ำมำ สมำชิกของศำสนำใดๆ อีกด้วย ในค�ำร้องสละสัญชำต ิ
ิ
่
ึ
่
ุ
เธอเพงจะอำยครบ 18 ปี ซงแก่กว่ำเขำ 2 ปี และ เยอรมันอย่ำงเป็นทำงกำร เขำได้เขียนไว้ว่ำ เขำไม่
ื
ี
ก�ำลังอยู่อำศัยกับพ่อแม่ของเธอก่อนท่จะเข้ำท�ำงำนใน นับถือศำสนำใดๆ เม่อเขำมีอำยุมำกข้น โดยเฉพำะ
ึ
ึ
โรงเรียนแห่งหน่งในหมู่บ้ำนใกล้เคียง ในเดือนเมษำยน อย่ำงย่งเมอลทธต่อต้ำนยวเรมรนแรงขนในประเทศ
ื
ิ
ั
่
้
ิ
ุ
ิ
่
ิ
ึ
ี
ิ
ปีถัดมำ ในช่วงปิดภำคเรียนฤดูใบไม้ผล เขำกลับไป เยอรมน เขำเร่มกลับมำเช่อมโยงตัวเองเข้ำกับควำม
ิ
ื
ี
ิ
เย่ยมครอบครัวของเขำในประเทศอิตำลี และเร่มจรด เป็นยิวของเขำ ไม่เหมือนกับเพ่อนร่วมงำนจ�ำนวนมำก
ื
ิ
ี
ี
ปำกกำเขียนจดหมำยรักฉบับแรกถึงมำร เขำเขียนบอก ท่พยำยำมละท้งศำสนำยิวของตน เพรำะเป็นผู้ไม่ยอม
เธอว่ำ เธอท�ำให้เขำมีควำมสุขมำกแค่ไหน และเขำกอด จ�ำนนเสมอมำ ไอน์สไตน์รังเกียจชำวยิวที่ยินยอมและ
จดหมำยของเธอแนบไว้ท่หัวใจของเขำอย่ำงไร และ ประจบสอพลอผ้ททรมำนพวกเขำ และมองยวเหล่ำนั้น
่
ี
ิ
ู
ี
ี
ี
ิ
จินตนำกำรถึงมือของเธอท่ก�ำลังขีดเขียนไปมำบนหน้ำ ว่ำเป็นเหมือนหอยทำกท่ละท้งเปลือกของตน ไม่มีส่งใด
ิ
ี
กระดำษ สำมำรถเปล่ยนแปลงควำมเป็นยิวในระดับรำกฐำนของ
ึ
�
ี
่
ุ
ั
ไอน์สไตน์เป็นพลเมืองเยอรมันโดยก�ำเนิด บคคลหนงๆ ได้ สำหรบไอน์สไตน์แล้ว ควำมข้องเก่ยว
ื
ี
แต่เป็นสัญชำติท่น่ำอึดอัดส�ำหรับเขำ เขำเกลียดชัง กับยิวเป็นเร่องของเผ่ำพันธุ์ ไม่ใช่เร่องของควำมเช่อทำง
ื
ื
ี
บรรยำกำศทำงกำรทหำรของประเทศเยอรมน และ ศำสนำ เขำอธิบำยว่ำ แม้ว่ำเขำไม่มีควำมเชื่อใดๆ เลย
ู่
ี
ิ
กังวลใจว่ำ หำกเขำยังเป็นพลเมืองเยอรมันอย เขำอำจ ในส่งชำวยิวศรัทธำ เขำก็ยังยินดีท่จะนับว่ำตนเองเป็น
ทฤษฎีการศึกษาของโยฮันน์
ฮายน์ริช เพสตาโลซซี
ั
บำงคร้งโชคชะตำก็สร้ำงควำมเหมำะสมอนสมบรณ ์
ั
ู
ิ
แบบ ส่งน้เกิดข้นเม่อไอน์สไตน์เข้ำเรียนท่โรงเรียนอำเรำ
ี
ี
ื
ึ
ั
กำรเรยนกำรสอนท่น่นเป็นไปตำมวิธีกำรของโยฮันน์
ี
ี
ึ
้
ิ
ฮำยนรช เพสตำโลซซิซงพฒนำขนมำในช่วงต้นศตวรรษท ่ ี
์
ั
ึ
่
19 ในหนังสือ How Gertrude Teaches her Children
ื
ตีพิมพ์เม่อปี 1801 นักปฏิรูปทำงกำรศึกษำ ชำวสวิส
ออกแบบหลักกำรท่ส่งเสริมให้เด็กๆ รู้จักคิด เขำเช่อว่ำ
ื
ี
เด็กๆ ควรมีควำมเข้ำใจอย่ำงลุ่มลึกผ่ำนกำรสังเกตและ
กำรทดลอง ไม่ใช่กำรเรียนแบบท่องจ�ำ โรงเรียนอำเรำ
ั
ิ
ั
่
จดกำรเรยนกำรสอนโดยอำศยจนตนำกำรผำนกำรทดลอง
ี
ื
ึ
ทำงควำมคิดซ่งไอน์สไตน์ช่นชอบ แม้แต่กำรเรียนกำรสอน
ิ
ึ
คณิตศำสตร์ก็เป็นไปตำมวิธีกำรของเพสตำโลซซ ซ่งเร่ม
ิ
ต้นด้วยกำรสังเกตวัตถุต่ำงๆ และอำศัยจินตนำกำรในกำร
สร้ำงมโนทัศน์เชิงนำมธรรม วิธีกำรในกำรเข้ำถึงแนวคิด
�
ี
้
ิ
พนฐำนผ่ำนกำรใช้จนตนำกำรเช่นนกลำยส่วนสำคัญท ี ่
ื
้
ขัดเกลำอัจฉริยภำพของไอน์สไตน์ให้แหลมคม
ซ้าย: ภำพแกะสลักไม้ในปี 1882 แสดงกำรเรียนกำรสอนของ
เพสตำโลซซีและอันนำ ภรรยำของเขำ
25
ครอบครัววินเทเลอร์
บิดำจอสต์ วินเทเลอร์ ซ่งเป็นครูสอนภำษำกรีกและประวัติศำสตร์
ึ
เป็นนักเสรีนิยมประชำธิปไตย เป็นคนเถรตรง และมีอุดมกำรณ์ ซึ่งเป็น
ื
ลักษณะท่ไอน์สไตน์ช่นชอบ เขำเกลียดชังลัทธิทหำรเยอรมันและควำม
ี
เปนชำตนยมเชนเดยวกบไอนสไตน์ เขำยงมสวนปลกฝงควำมเชอเกยวกบ
์
็
ิ
ิ
ั
ี
่
ี
ั
่
่
ื
ู
ั
ั
่
ี
ควำมเป็นสำกลนิยม ควำมรักสันติภำพ และสังคมนิยมประชำธิปไตยให้กับ
์
่
ั
ี
ี
ึ
์
ไอนสไตน เชนเดยวกนกับควำมหวังท่จะมีสหพันธรัฐโลก ซ่งจะกลำยเป็น
ี
ส่วนหน่งของควำมคิดของไอน์สไตน์ในภำยหลัง นอกจำกน สมำชิกคนอ่นๆ
้
ึ
ื
ึ
ในครอบครวก็มีอิทธิพลท่ลึกซ้งต่อไอน์สไตน์ โรซำ ภรรยำของวินเทเลอร์
ั
ี
เป็นเหมือนตัวแทนแม่ของเขำ ในขณะท่มำร ลูกสำวของพวกเขำ กลำยเป็น
ี
ี
แฟนคนแรกของไอน์สไตน์ และมำยำ น้องสำวของไอน์สไตน์ต่อมำได้
แต่งงำนกับ พอล ลูกชำยของครอบครัววินเทเลอร์
บน: มิเคเลอ เบสโซ เพ่อนสนิทของไอน์สไตน์ได้กระชับควำมสัมพันธ์ของ
ื
ไอน์สไตน์ท่มีกับครอบครัววินเทเลอร์เม่อเขำแต่งงำนกับอันนำ ลูกสำวของ
ี
ื
ครอบครัววินเทเลอร์
ส่วนหนึ่งของชำวยิว เป็นวิชำท่เขำท�ำได้ไม่ดีนัก อย่ำงไรก็ตำม แม้ว่ำควำม
ี
ึ
หลังจำกใช้เวลำหน่งปีในอำเรำ ไอน์สไตน์เรียน ช�ำนำญในภำษำของเขำจะอ่อนด้อย แต่บทควำมของ
ั
ั
ุ
จบด้วยคะแนนสงสดเป็นอนดบ 2 ของห้องและสอบ เขำก็เต็มไปด้วยควำมคิดเห็นส่วนตัวอันหลักแหลม
ู
ั
เข้ำสถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริคอีกคร้ง เขำได้คะแนน ท่ท�ำให้มันกลำยเป็นส่วนท่น่ำสนใจท่สุดในกำรตอบ
ี
ี
ี
�
ี
สูงสุดในวิชำคณิตศำสตร์ท้งๆ ท่สับสนระหวำงจำนวน ข้อสอบของเขำ เขำเขียนว่ำ เขำหวังจะเป็นครูสอน
ั
่
“จินตภำพ” กับ จ�ำนวน “อตรรกยะ” เขำยงได้คะแนน คณิตศำสตร์หรือฟิสิกส์ โดยเน้นไปในทำงทฤษฎีของ
ั
ู
ั
ี
ิ
ิ
ี
สงสดในวชำฟิสกส์ แม้ว่ำเขำจะใช้เวลำเพยง 75 นำท ศำสตร์เหล่ำน้น ควำมเป็นอิสระท่ได้รับจำกกำรประกอบ
ี
ุ
ี
จำก 120 นำทีท่มีให้ส�ำหรบกำรสอบ ภำษำฝร่งเศส อำชีพด้ำนวิทยำศำสตร์เป็นสิ่งที่ดึงดูดเขำ
ั
ั
ไอน์สไตน์กับเพื่อนร่วมชั้นที่ก�ำลังจะส�ำเร็จกำรศึกษำในปี 1896 ที่โรงเรียนอำเรำ ไอน์สไตน์นั่งอยู่ซ้ำยมือคนแรก
26
ั
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ี
ี
ใบผลกำรเรยนของไอน์สไตน์จำกโรงเรยนอำเรำในปี 1896 เขำมผลกำรเรยนดในวชำประวตศำสตร์ พชคณต เรขำคณต
ี
ี
ี
เรขำคณิตพรรณนำ และฟิสิกส์
(ดูค�ำแปลด้ำนหลัง)
27
สถาบันโพลีเทคนิคแห่งซูริค
ี
ถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริคเป็นวิทยำลัยท่ดีเป็น เห็นคุณค่ำของบุคลิกและนิสัยท่ชอบท้ำทำยและ
ี
อันดับสองของเมือง ไม่เหมือนกับมหำวิทยำลัย ต้งค�ำถำมของไอน์สไตน์ได้อย่ำงเต็มท ไฮน์ริช เวเบอร์
ี
ั
่
ี
้
ซูริคท่โดดเด่นกว่ำ สถำบันโพลีเทคนิคไม่มีกำรเรียน ผู้ซึ่งหนึ่งปก่อนหนำชื่นชอบไอนสไตน์และชวนใหเขำ
้
์
ี
กำรสอนปริญญำระดับดุษฏีบัณฑิต มันเป็นสถำบัน มำฟังบรรยำยของตนโดยไม่ต้องสอบเอำคะแนนนน
ั
้
ี
ื
ท่มุ่งเน้นกำรฝึกหัดครูและกำรฝึกหัดทำงเทคนิค เม่อ เป็นอำจำรย์สอนฟิสิกส์ให้ไอน์สไตน์เป็นหลัก พวก
ไอน์สไตน์วัย 17 ปีเดินทำงไปถึงท่น่นในเดือนตุลำคม เขำเข้ำกันได้ดีในช่วงปีแรกๆ ท่ไอน์สไตน์เรียนท ี ่
ี
ั
ี
ี
่
1896 เขำลงทะเบียนเรียนในสำขำส�ำหรับฝึก “ผู้ท โพลีเทคนิค แต่ไม่นำน ไอน์สไตน์ก็หมดควำมอดทน
ี
ี
ี
ั
่
ิ
จะเป็นครูผู้มีควำมเช่ยวชำญเฉพำะด้ำนคณิตศำสตร์ กบวธกำรสอนของเวเบอร์ทเน้นควำมเป็นมำทำง
และฟิสิกส์” ประวัติศำสตร์ และขำดควำมสนใจต่อควำมก้ำวหน้ำ
เขำเป็นนักศึกษำท่เรียนด โดยเฉพำะอย่ำง ในฟิสิกส์ในปัจจุบัน ยกตัวอย่ำงเช่น เวเบอร์ไม่
ี
ี
ั
ย่งในวิชำฟิสิกส์ ในระยะเวลำ 4 ปีของหลักสูตรของ พยำยำมจะข้องเกยวกบทฤษฎอนสง่ำงำมของเจมส์
ี
ี
่
ิ
ั
เขำ เขำได้คะแนนสูงในวิชำฟิสิกส์เชิงทฤษฎีท้งหมด คลำร์ก แมกซ์เวลล์ ซ่งอธิบำยว่ำ คล่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ
ั
ื
ึ
ั
้
ั
ั
�
ึ
แต่กลับได้คะแนนต่ำลงมำในวิชำคณิตศำสตร์ โดย อย่ำงเช่นแสงนนแผ่กระจำยตวได้อย่ำงไร นกศกษำ
ิ
ั
เฉพำะอย่ำงย่งวิชำเรขำคณิต ตำมท่ไอน์สไตน์ได้ ร่วมช้นเรียนคนหน่งบ่นว่ำ “เรำเฝ้ำรอกำรพูดถึง
ึ
ี
ั
ั
อธบำยในภำยหลงว่ำ เมอยงเป็นนกศกษำ เขำ ทฤษฎีของแมกซ์เวลอย่ำงเสียเวลำเปล่ำ ไอน์สไตน์
ึ
ื
ั
่
ิ
ิ
ี
ี
ท�ำพลำดไปท่ไม่ส�ำนึกว่ำควำมเข้ำใจท่ดีในควำมรู้ ผิดหวังมำกกว่ำใครๆ” เขำเร่มเรียกเวเบอร์ด้วย
ิ
ี
ี
พ้นฐำนของฟิสิกส์ถือเป็นส่งท่ขำดไม่ได้ และส�ำคัญ ลักษณะท่ไม่เป็นทำงกำร โดยเรียกเขำว่ำ “คุณ
ื
ึ
่
่
ี
ย่งต่อกำรได้มำซ่งควำมช�ำนำญแตกฉำนในวิธีกำรทำง เวเบอร” แทนทจะเปน “ทำนศำสตรำจำรย” ควำม
ิ
์
็
์
ื
คณิตศำสตร์ที่สลับซับซ้อน จองหองของไอน์สไตน์ท�ำให้เวเบอร์รู้สึกโมโห เม่อจบ
แม้ว่ำเขำจะเป็นนักศึกษำท่ด แต่เขำก็ม ปี 4 พวกเขำเป็นศัตรูกัน เวเบอร์ให้ค�ำแนะน�ำเขำว่ำ
ี
ี
ี
ี
ปัญหำกับเหล่ำอำจำรย์อยู่เสมอ เพรำะอย่ำงไร กำร “คุณเป็นเด็กท่ฉลำดมำกๆ ไอน์สไตน์ ฉลำด
ี
เคำรพเช่อฟังผู้มีอ�ำนำจก็ไม่เคยเป็นส่วนหน่งใน หลักแหลมเป็นท่สุด แต่คุณมีข้อเสียท่ใหญ่ย่งอยู่
ื
ึ
ี
ิ
ธรรมชำติของเขำอยู่แล้ว ส่วนพวกครูก็มองไม่ ข้อหน่ง น่นคือ คุณไม่เคยยอมรับฟังอะไรจำกใคร
ึ
ั
ี
“คุณเป็นเด็กท่ฉลาดมากๆ ไอน์สไตน์ ฉลาดหลักแหลมเป็นท่สุด แต่คุณ
ี
มีข้อเสียที่ใหญ่ยิ่งอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือ คุณไม่เคยยอมรับฟังอะไรจากใครเลย”
ไฮน์ริช เวเบอร์
28
สถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริค ซึ่งไอน์สไตน์เป็นนักศึกษำระหว่ำงปี 1896-1900
�
ั
เลย” แม้ว่ำค�ำพูดน้จะเป็นควำมจริง แต่เม่อพิจำรณำ ไอน์สไตน์ตกวิชำฟิสิกส์ กำรเข้ำช้นเรียนไม่สม่ำเสมอ
ื
ี
ี
ึ
ิ
สภำพท่ขัดแย้งกันในโลกแห่งฟิสิกส์ในปลำยศตวรรษ ของเขำส่วนหน่งเป็นส่งท่น่ำต�ำหน ส่งผลให้ในเดือน
ิ
ี
ท 19 แล้ว ควำมสำมำรถของไอน์สไตน์ในกำร มีนำคม 1899 เขำได้รับ “ค�ำว่ำกล่ำวตักเตือนจำก
่
ี
ั
เมินเฉยต่อควำมรู้ท่สืบต่อกันมำไม่ได้เป็นข้อบกพร่อง ผู้อ�ำนวยกำรสถำบันฯ” ว่ำ “ขำดควำมขยันหม่น
ี
ที่เลวร้ำยถึงตำย เพียรในฟิสิกส์เชิงปฏิบัติ”
ื
ั
ควำมสัมพันธ์ของไอน์สไตน์กับอำจำรย์ฟิสิกส์ เม่อไอน์สไตน์ยอมเข้ำช้นเรียนของเปร์เนต์
ี
คนอ่นๆ ท่โพลีเทคนิค เช่น ฌอง เปร์เนต์ ก็ไม่ จริงๆ นิสัยรักอิสระท่ยำกจะแก้ไขได้ของเขำมักท�ำให้
ื
ี
ึ
�
ื
ได้ยำกล�ำบำกน้อยไปกว่ำกัน เปร์เนต์ควบคุมดูแล เร่องต่ำงๆ ย่ำแย่ลงไปกว่ำเดิมอยู่บ่อยๆ วันหน่งเขำ
ั
กำรทดลองเชิงปฏิบัต และไอน์สไตน์ไม่เคยเป็น ได้รับค�ำส่งเป็นลำยลักษณ์อักษรให้ท�ำกำรทดลองหน่ง
ึ
ิ
ื
นักทดลองท่ด ซ่งก็เป็นเหตุผลหน่งท่เขำกลำยเป็น เพ่อนร่วมช้นของเขำเล่ำในภำยหลังว่ำ “ด้วยนิสัย
ั
ี
ี
ี
ึ
ึ
นกทฤษฎ ในชนเรียนของเปร์เนต์ “กำรทดลอง ไม่ฟังใครอันเป็นธรรมดำของเขำ ไอน์สไตน์เหว่ยง
ี
้
ั
ี
ั
ั
ื
ทำงฟิสิกส์ส�ำหรับผู้เร่มต้น” ไอน์สไตน์มีผลกำรเรียน เอกสำรค�ำสั่งน้นลงถังขยะไปเลย” เม่อไม่ยอมท�ำตำม
ิ
ต่ำท่สุดเท่ำท่จะเป็นไปได้ น่นคือ เขำได้เกรด 1 ค�ำสั่งของผู้อ่น เขำก็ท�ำกำรทดลองไปตำมควำมพอใจ
ื
ี
ี
ั
�
ึ
อำจำรย์เปร์เนต์จึงได้รับช่อเสียงในฐำนะผู้ท่ท�ำให้ ของเขำ กำรชอบท�ำอะไรตำมใจตนเองก็น�ำมำซ่ง
ี
ื
29
ี
ี
อุบัติเหตุในท่สุด ในเดือนกรกฎำคมปี 1899 เขำได้ สอนเปียโนอยู่ในห้องใต้หลังคำท่อยู่ติดกับบ้ำนของ
ี
รับบำดเจ็บท่มือขวำเพรำะเหตุระเบิดในห้องทดลอง เขำ เขำคว้ำไวโอลินของตัวเองแล้วรีบวิ่งออกไป พุ่ง
ึ
ื
่
และจบลงที่เขำต้องไปเย็บแผลที่คลินิก ตรงข้นบันไดบ้ำนของเพอนบ้ำนทันท แม้ว่ำเธอจะ
ี
่
่
ี
ั
ึ
ี
ดนตรไม่เคยหยุดเป็นหนงในควำมคล่งไคล้ท ตกอยู่ในควำมสับสนมึนงง ไอน์สไตน์ขอร้องให้เธอ
ี
ั
ทรงอิทธิพลของไอน์สไตน์ มันเป็นสะพำนท่ต่อตรง เล่นต่อไป และไม่ช้ำท้งสองก็เล่นดนตรีแบบบรรเลง
ี
ึ
กับควำมสอดประสำนเป็นหน่งเดียวท่วำงตัวอยู่ คู่ โดยมีไวโอลินประกอบเพลงโซนำตำของโมสำร์ท
ื
ื
เบ้องหลังจักรวำล เขำรู้สึกว่ำอัจฉริยภำพของนัก ไอน์สไตน์มีควำมช่นชมเป็นพิเศษต่อควำม
ี
ั
ประพันธ์เพลงผู้ย่งใหญ่ท้งหลำยน้น อยู่ท่ควำม ชัดเจนของโครงสร้ำงในดนตรีของโมสำร์ทและบำค
ิ
ั
สำมำรถในกำรสร้ำงแบบแผนออกมำมำกกว่ำเพียง เขำรู้สึกว่ำ ควำมชัดเจนน้ท�ำให้ดนตรีของพวกเขำ
ี
แค่เรียบเรียงค�ำพูด เขำยังสัมผัสควำมสวยงำมแห่ง ดูรำวกับถือก�ำเนิดออกมำจำกจักรวำลโดยตรงมำกกว่ำ
ึ
ควำมเป็นหนึ่งเดียวนี้ได้ในกำรศึกษำฟิสิกส์ของเขำ ถูกประพันธ์ปั้นแต่งข้นมำอย่ำงจงใจ คล้ำยๆ กับ
ี
ขณะก�ำลังน่งอยู่ในบ้ำนพักของเขำในเย็นวัน ทฤษฎีทำงวิทยำศำสตร์ของเขำเอง ในขณะท่ดนตร ี
ั
หนง ไอน์สไตน์ได้ยนเสยงเพ่อนบ้ำนผ้เป็นหญงชรำ ของบีโธเฟนเป็นที่แน่ชัดว่ำ มำจำกฝีมืออันสร้ำงสรรค์
ู
ี
ื
ิ
ึ
ิ
่
เล่นเปียโนเพลงโซนำตำของโมสำร์ท ขณะท่เธอก�ำลัง ของนักประพันธ์ ไอน์สไตน์ต้งข้อสังเกตภำยหลังว่ำ
ี
ั
มาร์เซล โกรสส์มันน์ (1878-
1936)
ื
ขณะเป็นนักศึกษำ เขำมีเพ่อนสนิทหน่ง ึ
ี
หรือสองคนท่ไปไหนมำไหนด้วยกัน มำร์เซล
่
ี
ุ
โกรสส์มันน์ เป็นเพ่อนสนิททสดของเขำ เขำม ี
ื
้
�
พ้นเพเป็นชำวยิวท่ร่ำรวย พ่อของเขำเป็นเจำของ
ี
ื
โรงงำนใกล้ซูริค โกรสส์มันน์คอยช่วยเหลือ
ี
ไอนสไตนเก่ยวกับกำรจดค�ำบรรยำยในห้องเรียน
์
์
ผู้ซ่งไม่ค่อยมำเข้ำเรียน ต่อมำในภำยหลง
ั
ึ
ั
์
ี
์
่
ื
ไอน์สไตน์รู้สึกเป็นหน้บุญคุณโกรสสมนนในเรองน ้ ี
เขำกล่ำวว่ำ เขำไม่อยำกจะคิดเลยว่ำ ผลกำรเรียน
ของเขำจะออกมำเป็นอย่ำงไร หำกเขำไม่มีสมุด
ั
จดบันทึกของเพ่อนของเขำ ท้งคู่ใช้เวลำยำมบ่ำย
ื
ด้วยกันอย่ำงยำวนำน ด่มกำแฟเย็นและสูบบุหร่ท ี ่
ี
ื
คำเฟเมโทรโพลรมแม่นำในซริค โกรสส์มนนกลำว
่
ู
ั
้
�
ิ
์
ยืนยันกับพ่อแม่ของเขำว่ำ “วันหน่งไอน์สไตน์
ึ
ิ
ึ
ั
จะเป็นคนท่ย่งใหญ่คนหน่ง” ตวโกรสส์มนน์เอง
ั
ี
ิ
ก็มีส่วนในควำมย่งใหญ่ของไอน์สไตน์ในอนำคต
เขำช่วยให้ไอน์สไตน์ได้มีงำนท�ำเป็นงำนแรกท ี ่
ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตรสวิส และยังช่วยเขำเก่ยวกับ
ี
คณิตศำสตร์ท่เปล่ยนแปลงทฤษฎีสัมพัทธภำพ
ี
ี
พิเศษเป็นทฤษฎีสัมพัทธภำพทั่วไป
30
ื
ี
ดนตรีของโมสำร์ทดูเหมอนจะครอบครองควำม ของเขำบอกกับพ่อแม่ของเขำว่ำ “เจ้ำหนุ่มคนน้จะ
ึ
ิ
บริสุทธ์ซ่งด�ำรงอยู่ไปพร้อมๆ กัน และไม่ได้ถูกสร้ำง ไม่มีวันท�ำอะไรได้ส�ำเร็จ เพรำะเขำไม่สำมำรถจดจ�ำ
ึ
ึ
ข้นมำ ซ่งเป็นสิ่งท่ท�ำให้ดนตรีของเขำสอดประสำน อะไรได้เลย”
ี
ี
ึ
ี
กลมกลืนเป็นหน่งเดียวกับจักรวำล ส่วนบีโธเฟน ด้วยในตอนน้ไอน์สไตน์เป็นนักเรียนท่ม ี
แน่นอนว่ำไม่เป็นท่ช่นชอบสักเท่ำใดส�ำหรับรสนิยม เอกลกษณ์เฉพำะตวไม่เหมอนใคร มกำรใช้ชีวิตท ่ ี
ี
ื
ั
ื
ั
ี
่
ของไอน์สไตน์ และควำมจรงทว่ำบทเพลงของบโธเฟน ไม่แคร์โลก และค่อนข้ำงหมกมุ่นครุ่นคิดอยู่กับแต่
ี
ิ
ี
แสดงออกถึงตัวตนของตัวผู้แต่งมำกเหลือเกินท�ำให้ ตัวเอง ควำมสัมพันธ์ของเขำกับมำร วินเทเลอร์น่ำ
ี
ไอน์สไตน์รู้สึกอึดอัด จะไม่ยืนยำว ในตอนแรก เขำเขียนตอบจดหมำยท ่ ี
ท่สถำบันโพลีเทคนิค ไอน์สไตน์เร่มมีอำกำร ออกจะดูประหลำดกับลูกสำวแสนน่ำรักแต่เอำแน่
ี
ิ
่
ี
่
ใจลอยและแตงตัวหลดลย ซงต่อมำจะท�ำให้เขำกลำย เอำนอนไม่ได้ของครอบครัวอุปถัมภ์ของเขำท่อำเรำ
ุ
ึ
ุ่
ื
เป็นภำพแทนของศำสตรำจำรย์สติเฟื่อง เม่อออกเดิน เขำส่งเส้อผ้ำไปให้เธอซักทำงไปรษณีย์โดยท่บ่อยคร้ง ั
ื
ี
ี
ทำงไปไหนมำไหน เขำมักหลงลืมท่จะน�ำเส้อผ้ำติดตัว ไม่มีแม้แต่จะเขียนโน้ตข้อควำมส่งไปถึงเธอ มำรีก็ยัง
ื
ี
ื
ไปด้วย เขำล้มเหลวอย่ำงต่อเน่องท่จะจดจ�ำว่ำเขำได้ พยำยำมตำมใจเขำด้วยกำรเขียนเล่ำกำรเดินทำงของ
่
ั
็
่
ั
ี
ื
่
้
ี
ื
ี
่
ท�ำอะไรกับกุญแจบ้ำนของเขำ จนมันกลำยเป็นเร่อง เธอไปยงททำกำรไปรษณย์เพอส่งเสือผ้ำทเพิงซกเสรจ
�
ี
ตลกท่เจ้ำของบ้ำนหญิงของเขำมักน�ำมำล้อเลียนเป็น กลับไปให้ว่ำ “เดินผ่ำนป่ำฝ่ำสำยฝนท่ไหลรินลงมำ
ี
ี
ื
ึ
ั
ประจ�ำ ในระหว่ำงกำรเย่ยมครอบครัวเพ่อนคร้งหน่ง ฉันเพ่งมองหำกระดำษโน้ตแผ่นเล็กๆ อย่ำงสูญเปล่ำ
ไอน์สไตน์ได้ลืมกระเป๋ำเดินทำงของเขำ และเจ้ำบ้ำน แต่เพียงแค่กำรได้เห็นลำยมือของเธอบนท่อยู่ก็เพียง
ี
พอที่จะท�ำให้ฉันสุขใจ”
เม่อไอน์สไตน์ตดสมพนธ์กบมำร เขำเขียน
ั
ั
ั
ั
ื
ี
จดหมำยอธิบำยกำรกระท�ำของเขำไปยังแม่ของ
็
ี
มำร จดหมำยแสดงให้เหนว่ำ ไอน์สไตน์ได้เร่มเอำ
ิ
ี
ิ
ตัวออกห่ำงจำกส่งต่ำงๆ ท่เป็นผลของควำมผูกผัน
ทำงอำรมณ์ และพยำยำมอำศัยวิทยำศำสตร์เป็น
ื
ี
หนทำงแห่งกำรหลีกหนีจำกเร่องรบกวนใจท “เป็น
่
ื
เพียงเร่องส่วนตัว” เขำให้เหตุผลกับกำรกระท�ำของ
เขำโดยยนยนว่ำ เขำเองกร้สกเจบปวดทได้ทำให้มำ
็
�
่
ี
ึ
็
ู
ื
ั
รีทุกข์ทรมำนจำกกำรเลิกรำของพวกเขำทเกิดข้น
่
ึ
ี
อย่ำงฉับพลัน แม้กระน้น ด้วยนิสัยท่ชอบหมกมุ่นอย ู่
ั
ี
กับตัวเอง เขำอธิบำยต่อไปว่ำ เขำจะไว้วำงใจให้กำร
แสวงหำทำงปัญญำและกำรใคร่ครวญครุ่นคิดถึง
แผนกำรของพระเจ้ำในจักรวำลเป็นหนทำงในกำรน�ำ
เขำให้ก้ำวพ้นข้ำมผ่ำนเวลำอันยำกล�ำบำกเหล่ำนี้
ภำพถ่ำยในปี 1895 แสดงให้เห็นภำพลักษณ์ท่รกรุงรังของ
ี
ไอน์สไตน์ น่ทำให้เขำกลำยเป็นภำพจ�ำของศำสตรำจำรย์
�
ี
สติเฟื่อง
31
มิเลวา มาริช
ผู้หญิงอยู่เพียงคนเดียวในช้นเรียนคณิตศำสตร์
ั
ี
ี
และฟิสิกส์ท่สถำบันโพลีเทคนิคแห่งซูริค น่เป็น
ุ
ช่วงเวลำก่อนท่ผ้หญิงจะได้รับกำรสนับสนนให้เข้ำสู่
ู
ี
วงกำรวิทยำศำสตร์ระดับสูง แต่มิเลวำ มำริช เป็นข้อ
ยกเว้น เธอมำจำกครอบครัวเกษตรกรชำวเซอร์เบียอัน
�
่
่
ึ
ุ
็
ู
ตำต้อย อย่ำงไรกตำม พ่อผ้ท่มเทของเธอ ซงท�ำงำน มิเลวำ มำริช นักฟิสิกส์และนักคณิตศำสตร์ ชำวเซอร์เบียน
ี
ตำมสำยงำนทหำร และแต่งงำนเป็นอยู่สุขสบำย ก็ม ภรรยำคนแรกของไอน์สไตน์
ี
เงินทองเพียงพอท่จะสนับสนุนควำมมุ่งม่นของลูกสำว
ั
ี
ผู้มีควำมสำมำรถของเขำในกำรฝ่ำฟันเข้ำไปยังโลกของ ได้กลำยมำเป็นศูนย์กลำงท่ส�ำคัญในชีวิตของไอน์สไตน์
วิทยำศำสตร์ที่มีผู้ชำยเป็นใหญ่ เป็นคนรักของเขำ เป็นภรรยำ และคู่ถกเถียงท่เป็น
ี
ิ
กำรศึกษำของเธอเป็นสงท่ต้องกำรควำมวิริยะ มิตร เธอสร้ำงสนำมอำรมณ์ข้นมำรอบตัวเขำ รวมท้ง ั
ึ
ี
่
อุตสำหะมำก แต่เธอก็สอบได้คะแนนสูงสุดในช้น แรงดึงดูดและแรงผลักในบำงคร้ง ซ่งเป็นส่งที่ทรงพลัง
ึ
ิ
ั
ั
ี
เรียนอยู่เสมอ ไม่ว่ำจะเป็นท่สถำนศึกษำใดท่เธอเข้ำ มำกเสียจนท่แม้แต่นักวิทยำศำสตร์ผู้ซ่งคุ้นเคยกับกำร
ี
ึ
ี
ึ
ิ
ี
ี
เรียน เช่น ท่โรงเรียนมัธยมชำยล้วนช่อ Classical ไขควำมลับของปริศนำท่ลึกซ้งย่งกว่ำมำกไม่สำมำรถ
ื
Gymnasium ในเมืองซำเกร็บ พ่อของเธอสำมำรถ เข้ำใจได้
ื
ี
จัดกำรให้เธอเข้ำเรียนได้ (โรงเรียนแห่งน้เป็นโรงเรียน พวกเขำตกหลุมรักกันเม่อไปเดินป่ำด้วยกันใน
ึ
ึ
ี
ี
ั
ท่เก่ำแก่มำกแห่งหน่งของโครเอเชีย ก่อต้งในปี 1607 ฤดูร้อนปี 1897 ซ่งเป็นเวลำไม่ถึงปีท่พวกเขำพบกันท ี ่
ได้ช่อว่ำ classical เพรำะเน้นกำรศึกษำด้ำนภำษำ สถำบันโพลีเทคนิค เพรำะหวำดกลัวควำมรู้สึกแปลก
ื
เช่น ภำษำละติน กรีกโบรำณ ปรัชญำ วรรณคดี และ ใหม่ที่เธอมีให้ไอน์สไตน์ มำริชตัดสินใจรักษำระยะ
ี
ั
ประวัติศำสตร์ – ผู้แปล) เธอเรียนจบท่น่น และท�ำ ห่ำงระหว่ำงเธอและเขำ และลงเรียนท่มหำวิทยำลัย
ี
คะแนนในวิชำฟิสิกส์และคณิตศำสตร์ได้สูงสุดเช่นเคย ไฮเดลแบร์กเป็นกำรชั่วครำว
ี
มำริชเข้ำเรียนร่วมช้นกับไอน์สไตน์ท่สถำบันโพลีเทคนิค หลังจำกไปถึงท่น่นได้ไม่นำน มำริชเขียน
ั
ี
ั
ั
่
ึ
ึ
็
ึ
่
ึ
แห่งซูริคตอนที่อำยุยังไม่ถึง 21 ปี จดหมำยฉบบหนงถงไอน์สไตน์ซงแสดงให้เหนถง
มำริชไม่ได้น่ำรักหรือมีเสน่ห์อะไรเป็นพิเศษ ลักษณะต่ำงๆ ของเธอท่ไอน์สไตน์หลงใหลเป็นอย่ำงย่ง
ิ
ี
ี
ื
เธอเกิดมำพร้อมกับอำกำรสะโพกเคล่อนซ่งท�ำให้เธอ มำริชไร้ซ่งควำมน่ำรักและควำมโลเลแบบมำร วินเทเลอร์
ึ
ึ
ี
เดินกะเผลก และเธอมีอำกำรส้นหวังเก่ยวกับตัวเธอ เธอแสดงควำมไม่ผูกพันอันยียวนซึ่งช้ชัดให้เห็นว่ำ เธอ
ิ
ี
ิ
ึ
ั
เอง แต่ไอน์สไตน์ชอบเธอ อย่ำงน้อยก็ในสมัยท่ยัง คดถงเขำเพียงน้อยนด แม้ว่ำจะได้รบจดหมำยขนำด
ิ
ี
ี
ี
็
ื
ี
ั
เป็นนักศึกษำปริญญำตร เธอมีลักษณะท่เขำเห็นว่ำน่ำ ยดยำวจำกเขำกตำม เธอเขียนว่ำ “บดน้ก็เป็นระยะ
หลงใหล น่นคือ ควำมคล่งไคล้ในวิทยำศำสตร์และ เวลำพอสมควรแล้วต้งแต่ฉันได้รับจดหมำยของเธอ
ั
ั
ั
ี
จิตวิญญำณที่ชอบครุ่นคิดใคร่ครวญในสิ่งต่ำงๆ แววตำ และฉันควรจะได้ตอบจดหมำยของเธอในทันท และ
ี
ของเธอมีควำมลุ่มลึกและควำมเอำจริงเอำจัง ใบหน้ำ ขอบคุณส�ำหรับควำมเสียสละท่ได้เขียนมำยำวถึง 4
ี
ของเธอแสดงควำมโศกเศร้ำท่เย้ำยวนใจ ในท่สุด เธอ หน้ำกระดำษ และฉันควรจะได้บอกกับเธอว่ำ ฉันได้
ี
32
ึ
รับควำมสนุกสนำนจำกเธอตลอดกำรเดินทำงของเรำ ผู้ซ่งแทบจะไม่มีอะไรดึงดูดใจ แถมยังมีขำกะเผลก
ี
ั
ึ
ึ
ั
ั
ั
ึ
ื
แต่เธอบอกว่ำ ฉนควรเขยนถงเธอสกวนหน่งเมอฉน และซึมเศร้ำเป็นนิสัย เพ่อนร่วมช้นคนหน่งพูดกับเขำ
ื
่
ั
ื
ื
รู้สึกเบ่อ และฉันเป็นคนด้อมำก และฉันรอและรอให้ ว่ำ “ฉันไม่มีวันกล้ำพอที่จะแต่งงำนกับผู้หญิง เว้นเสีย
ี
ี
ควำมเบ่อปรำกฏ แต่จนบัดน้กำรรอคอยของฉันนับว่ำ แต่ว่ำ เธอจะมีสุขภำพท่ดีจริงๆ” ไอน์สไตน์ตอบกลับ
ื
�
สูญเปล่ำ” ไปว่ำ ควำมงดงำมในน้ำเสียงของมิเลวำมันท�ำให้ยำก
ไอน์สไตน์ดูเหมือนจะหลงใหลในลักษณะท่ย้อน ที่จะต้ำนทำนเธอได้
ี
ี
ั
แย้งกันเองของมำริช น่นคือ ควำมข้เล่นและควำมเป็น แน่นอน พวกเขำมีจิตวิญญำณท่คล้ำยคลึง
ี
ั
ผู้ใหญ่ ควำมไม่แยแสและควำมใส่ใจ ควำมกระตือรือร้น กัน พวกเขำดึงดูดกันและกันด้วยท้งทำงสติปัญญำ
ึ
ั
และควำมเฉยชำของเธอ มันเป็นส่วนผสมซ่งดูแปลก และจิตวญญำณ พวกเขำถอว่ำตนเองเป็นค่รักอน
ิ
ู
ื
ประหลำด แม้กระน้นก็ส่องสะท้อนควำมเป็นตัวตน สูงส่งแห่งกำรเป็นคนนอกกรอบทำงวิชำกำร พวกเขำ
ั
ของตัวไอน์สไตน์เองด้วย เขำพยำยำมโน้มน้ำวให้มิเลวำ ปฏิเสธธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมกระฎุมพ แต่ละคน
ี
ี
กลับมำยังสถำบันโพลีเทคนิค ในเดือนกุมภำพันธ์ 1898 ก็แสวงหำควำมเก่ยวข้องแบบโรแมนติกกับใครสักคน
เธอตัดสินใจกลับมำซ่งสร้ำงควำมต่นเต้นให้กับไอน์สไตน์ ท่สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรทำงสติปัญญำของ
ี
ื
ึ
ี
ื
ี
ิ
เป็นอย่ำงย่ง เขำเขียนว่ำ มันไม่ใช่กำรตัดสินใจท่เธอจะ พวกเขำได้ และเป็นคู่หูและเพ่อนร่วมงำนท่ท�ำงำน
ั
ึ
ู
มำร้สกเสียใจในภำยหลง และกระตุ้นให้เธอกลับมำให้ ได้ประสบควำมส�ำเร็จ ในจดหมำยของเขำถึงมิเลวำ
เร็วที่สุดเท่ำที่เธอจะท�ำได้ ไอน์สไตน์เขียนว่ำ มันดูรำวกับว่ำพวกเขำเป็นจิตวิญญำณ
ึ
ิ
2-3 เดือนต่อมำ เธอกลับมำยังเมืองซูริค ฝำแฝดซ่งอภิรมย์ชมชอบในส่งเดียวกัน ประสบกำรณ์
ี
ื
อำศัยอยู่ในบ้ำนเช่ำห่ำงไปเพียงไม่ก่หลังจำกไอน์สไตน์ ธรรมดำสำมัญท่มีร่วมกันท่เช่อมพวกเขำเข้ำไว้ด้วยกัน
ี
ี
ี
พวกเขำกลำยเป็นคู่รักท่อ่ำนหนังสือร่วมกัน มีควำมใกล้ กำรโอบกอด กำรไปเดินเล่นด้วยกัน กำรชงกำแฟ
ื
ชิดสนิทสนม และไปมำหำสู่กันท่ห้องพักของแต่ละคน หรือแม้แต่กำรทะเลำะกัน และแน่นอน เขำร่นรมย์ไป
ี
ควำมสัมพันธ์ของพวกเขำสร้ำงควำมฉงนให้กับเพ่อนๆ กับควำมเป็นสหำยทำงสติปัญญำของเธอรวมท้งเวลำ
ื
ั
ของไอน์สไตน์ รูปลักษณ์หล่อเหลำและธรรมชำติท ท่พวกเขำใช้ศึกษำร่ำเรียนไปด้วยกันเป็นอย่ำงย่ง เขำ
ิ
ี
�
ี
่
ี
ิ
ิ
็
�
่
น่ำหลงใหลของเขำสำมำรถเอำชนะใจผู้หญิงเกือบจะ ร้สกภำคภมใจอย่ำงแท้จรงทแฟนสำวของเขำจะสำเรจ
ึ
ู
ู
ี
ทุกคนท่เขำปรำรถนำ แต่เขำกลับเลือกชำวเซอร์เบีย ปริญญำเอกในไม่ช้ำ
ล่าง: เพำลีเนอ ไอน์สไตน์ ในช่วงรำวๆ ปี 1900 ซึ่งเป็นช่วงเวลำที่ควำมสัมพันธ์ของไอน์สไตน์กับมิเลวำก�ำลังเบ่งบำน
แม่ของไอน์สไตน์กับมิเลวา
หลังจำกเรียนจบ ในเดือนกรกฎำคม ปี 1900 ไอน์สไตน์
เดินทำงไปยังเมลช์ทำล ซ่งเป็นหมู่บ้ำนในเทือกเขำแอลป์ ประเทศ
ึ
สวิสเซอร์แลนด์ ซ่งครอบครัวของเขำก�ำลังพักผ่อนวันหยุดฤดูร้อน
ึ
ี
กันอยู่ แม่ของเขำไม่เคยพบมำริช แต่เธอไม่ชอบส่งท่เธอได้ยิน
ิ
เก่ยวกับมำริช เธอถำมไอน์สไตน์ทันทีว่ำ ระหว่ำงเขำกับมำริชคือ
ี
อะไร ไอน์สไตน์ตอบอย่ำงไร้ควำมกังวลว่ำ เธอจะเป็นภรรยำของ
ี
เขำในท่สุด ซ่งสร้ำงควำมไม่พอใจอย่ำงรุนแรงให้กับแม่ของเขำ
ึ
ี
ื
ไอน์สไตน์จ�ำได้ว่ำ แม่ของเขำว่งท่ไปเตียงและร้องไห้อย่ำงขมข่น
ิ
และน�ำหมอนมำปิดหัวของเธอไว้ แม่ของไอน์สไตน์ปฏิเสธมำริช
ี
ไม่ใช่เพรำะเธอไม่ใช่ยิว และไม่ใช่เพรำะเธอชอบมำร วินเทเลอร์
่
้
ั
ี
เหมอนกบเพอนๆ ของไอน์สไตน์ แต่ทเธอไม่ชอบมำรชนนเป็น
ื
ื
ั
่
ิ
ั
เพรำะว่ำ มำริชมีอำยุมำกกว่ำไอน์สไตน์ถึง 3 ปี รวมท้งมีอำรมณ์
ที่แปรปรวน ร่ำงกำยที่พิกลพิกำรและควำมไร้ซึ่งควำมงำมของเธอ
33
ควำมสัมพันธ์ทำงสติปัญญำ มิเลวาที่มหาวิทยาลัย
และควำมผูกพันแบบหนุ่มสำวของพวก ไฮเดลเเบร์ก
ุ
ั
ั
ั
เขำถกทอแนบแน่น ในช่วงวนหยดกบ
ครอบครวในปี 1899 ไอน์สไตน์เขยน มำริชดูเหมือนจะม ี
ี
ั
ี
จดหมำยแสดงควำมผิดหวังท่กำรอ่ำน ควำมสุขกับเวลำของเธอ
ี
งำนของเฮล์มโฮลทซ์ (Helmholtz) ท่ไฮเดลแบร์ก และเห็น
ั
ั
เป็นคร้งแรกของเขำต้องพงทลำยลง ว่ำกำรบรรยำยของผู้ช่วย
เหตุเพรำะไม่มีเธออยู่ข้ำงกำยเขำ กำร ศำสตรำจำรย์ ฟิลิปป์ เลนำร์ด
ี
ั
ได้ท�ำงำนโดยมีเธออยู่เคียงข้ำงน้นท�ำให้ เป็นอะไรท่คุ้มค่ำแก่กำรรับฟัง
เป็นอย่ำงย่ง เธอเขียนจดหมำย
ิ
เขำอุ่นใจและรู้สึกตื่นเต้น โต้ตอบทมเนอหำเข้มข้นในเชง
้
ี
ิ
ื
่
ี
ึ
็
�
ื
เม่อถงเวลำสำเรจกำรศึกษำ กำรแลกเปล่ยนควำมคิดกับไอน์สไตน์
ี
ี
ไอน์สไตน์เรียนจบด้วยเกรดเฉล่ย 4.9 ซ่งบอกเล่ำช่วงเวลำของเธอท่น่นซ่งเต็มไปด้วยกำรกระตุ้นและส่งเสริม
ี
ึ
ึ
ั
ื
เป็นรองเพ่อนอีก 3 คนในช้นเรียน ทำงสติปัญญำ เธอบอกไอน์สไตน์อย่ำงต่นเต้นว่ำ เลนำร์ดก�ำลัง “พูด
ั
ื
ึ
เล็กๆ ซ่งมีเพียง 5 คนของเขำ ผล ถึงทฤษฎีจลน์ของควำมร้อนและก๊ำซ” และในจดหมำยอีกฉบับหน่ง
ึ
ี
กำรเรียนน้ตรงกันข้ำมอย่ำงเห็นได้ชัด เธออธิบำยควำมคิดเก่ยวกับอนันต์ ซ่งไอน์สไตน์เคยพูดถึงก่อนหน้ำ
ี
ึ
ี
ี
ื
จำกกำรสอบกลำงเทอมในปี 1898 น้ว่ำ “ฉันไม่เช่อว่ำ เรำควรโทษโครงสร้ำงสมองมนุษย์ท่ไม่อนุญำต
ซ่งเขำได้คะแนนเป็นท่หน่งในช้นด้วย ให้เรำเข้ำใจควำมเป็นอนันต์ มนุษย์สำมำรถจินตนำกำรถึงควำมสุข
ั
ึ
ี
ึ
ิ
ี
ี
ื
ี
เกรดเฉล่ย 5.7 เต็ม 6 แม้ว่ำเร่อง ท่ไม่มีท่ส้นสุดได้ และควรสำมำรถเข้ำใจควำมเป็นอนันต์ของปริภูม ิ
ี
ื
ี
เล่ำท่เป็นท่ช่นชอบท่ว่ำเขำสอบตก ได้ ฉันคิดว่ำมันง่ำยกว่ำกันมำก”
ี
ึ
้
ั
ั
ิ
คณตศำสตร์ระดบชนมัธยมศกษำจะ บน: ฟิลิปป์ เลนำร์ด นักฟิสิกส์ชำวเยอรมัน กำรบรรยำยของเขำท่มหำวิทยำ
ี
ี
เป็นเร่องโคมลอย แต่ก็มีเร่องรำวท่น่ำ ลัยไฮเดลแบร์กสร้ำงควำมประทับใจให้กับมิเลวำ
ื
ื
ร่นหูพอกันท่วำเขำเรยนจบเกอบจะเป็น
ี
ื
่
ื
ี
ื
่
ี
ที่โหล่ของห้อง ซึ่งเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน เกรดเฉลย 4.9 ของไอน์สไตน์เหนอกว่ำ และเธอไม่
ิ
็
ู
ี
ื
ั
แม้ว่ำจะเป็นเร่องเฉียดฉิวท่เขำเกือบเรียนไม่ ผ่ำน อย่ำงไรกตำม เธอไม่ย่อท้อและตดสนใจอย่ต่อ
ั
ผ่ำน ไอน์สไตน์ก็ท�ำได้ดีพอท่จะได้รบประกำศนียบัตร และลองใหม่อีกครั้งในปีหน้ำ
ี
ในเดือนกรกฎำคมปี 1900 มิเลวำ มำริชไม่ได้โชคด ควำมล้มเหลวทำงวิชำกำรของเธอหรือกำรท ่ ี
ี
ี
ั
่
อย่ำงน้น คะแนน 4.0 ของเธอเป็นเพียงหน่งเดียวท ครอบครัวของเขำต่อต้ำนเธอไม่ได้ท�ำให้ควำมรู้สึกของ
ึ
มหำวิทยำลัยไฮเดลแบร์ก ใน
ขณะมิเลวำมีควำมรู้สึกท่วมท้น
ด้วยควำมสัมพันธ์อันเข้มข้น
ชองเธอกับไอน์สไตน์ เธอมำ
เรียนที่นี่เป็นระยะเวลำสั้นๆ
34
ิ
ี
ี
ี
ไอน์สไตน์ท่มีให้เธอลดน้อยลงไป ภำษำท่เขำใช้เร่มม แต่งให้เธอ เขำจินตนำกำรถึงกระท่งเปลวไฟแห่งควำม
ั
ั
ี
สีสันในบำงคร้ง เขำกล่ำวถึงมำริชว่ำเป็นเด็กข้ำงถนน ปรำรถนำของพวกเขำท่แผดเผำหมอนของพวกเขำ
ผู้ซุกซนบ้ำคล่ง และป่ำวประกำศว่ำเขำตกหลุมรักเธอ อย่ำงร้อนแรง
ั
อย่ำงเต็มท่และยำกจะถอนตัว ในบทกวีบทหน่งท่เขำ
ี
ึ
ี
โปสกำร์ดที่มิเลวำส่งให้กับไอน์สไตน์ในช่วงต้นของควำมสัมพันธ์ของพวกเขำ (ดูค�ำแปลด้ำนหลัง)
35
ลีเซิร์ล
ื
นฤดูใบไม้ผลิปี 1901 แม้ว่ำเขำไม่พร้อมท เม่อเธอท้องกับไอน์สไตน์ เธอเผชิญกับ
ี
่
�
�
่
ี
จะต่อต้ำนพ่อแม่ของเขำด้วยกำรแต่งงำน สถำนกำรณ์ทยำกลำบำก เธอกำลงวำงแผนทจะเข้ำ
ั
ี
่
กับเธอ ไอน์สไตน์ตัดสินใจชวนมำริชไปพักผ่อน ร่วมกำรสอบไล่ท่สถำบันโพลีเทคนิคอีกคร้ง ด้วย
ี
ั
ี
วันหยุดกับเขำ เธอรู้สึกหมดหวังกับทัศนคติของ เป้ำหมำยท่จะส�ำเร็จปริญญำเอก และเป็นนักฟิสิกส์
ั
ั
พ่อแม่ของเขำท่มีต่อเธอ ดังน้น ไอน์สไตน์จึง หลังจำกน้น เธอได้เพียรพยำยำมเดินสู่เป้ำหมำยน ี ้
ี
ี
แนะน�ำให้เธอและเขำใช้เวลำในวันหยุดด้วยกัน มำเป็นเวลำหลำยปี และควำมคิดเก่ยวกับอนำคตท ่ ี
ั
ั
ั
ี
ี
ี
ณ หน่งในสถำนท่ท่โรแมนติกท่สุดในโลก น่นคือ ว่ำ เธอก�ำลังจะเป็นแม่คนได้ส่นคลอนควำมม่นคง
ึ
ึ
ทะเลสำบโคโม ซ่งเหมือนอัญมณีท่ซ่อนอยู่ใน ด้ำนอำรมณ์และกำรเงินของเธอ มันง่ำยดำยมำกท่จะ
ี
ี
เทือกเขำแอลป์ระหว่ำงอิตำลีและสวิตเซอร์แลนด์ ท�ำแท้ง เพรำะว่ำซูริคได้กลำยเป็นเหมือนศูนย์กลำง
ึ
มำริชตั้งครรภ์ในช่วงวันหยุดนี้เอง แห่งอุตสำหกรรมแรกเร่มในด้ำนกำรคุมก�ำเนิด ซ่ง
ิ
ี
ึ
บทควำมทำงวิทยำศำสตร์ช้นแรกของไอน์สไตน์ท่ได้รับกำรตีพิมพ์ บทควำมน้เก่ยวข้องกับปรำกฏกำรณ์แคพิลลำรีซ่งได้รับ
ี
ี
ิ
ี
ี
ี
กำรตีพิมพ์ในเดือนมีนำคม ปี 1901 และเป็นช่วงเวลำเดียวกันกับท่มิเลวำต้งครรภ์ เวลำท่เขียนถึงมิเลวำเก่ยวกับบทควำม
ั
ิ
ึ
ี
ั
ั
ี
่
ั
ิ
�
่
ไอน์สไตน์มกใช้คำว่ำ “เรำ” และ “ของเรำ” ซงก่อให้เกดกำรถกเถยงกนว่ำ มเลวำมส่วนเกยวข้องกบงำนทำงวทยำศำสตร์
ิ
ี
ของไอน์สไตน์อย่ำงไร
36
ี
้
รวมไปถึงบริษัทที่จัดส่งยำท�ำแท้งโดยเฉพำะ ในตอนน ไอน์สไตน์ได้รับแรงกดดันให้หันมำ
ี
แต่เธอก็เลือกท่จะเดินหน้ำต่อและเก็บลูก มองอนำคตของตนเองอย่ำงจริงจัง เขำมำถึงจุดท่ได้
ี
ของไอน์สไตน์เอำไว้ แม้ว่ำผู้เป็นพ่อของเด็กจะยังไม่ รับจ้ำงท�ำงำนแบบนิดๆ หน่อยๆ โดยเป็นติวเตอร์
ต้องกำรเป็นสำมีของเธอก็ตำม กำรมีลูกนอกสมรส แบบรับจ้ำงเป็นคร้งครำว เน่องจำกเขำได้ท�ำตัวเป็น
ื
ั
ั
ิ
ี
ในเวลำน้นนับเป็นส่งท่ผิดธรรมเนียม หรืออำจจะเป็น ศัตรูกับอำจำรย์ของเขำ เขำเลยไม่ได้รับข้อเสนอให้
ส่งท่หำพบได้ยำกแน่ๆ กล่ำวคือ ในปี 1901 ของ ท�ำงำนสอนหรือเรียนต่อปริญญำเอก และยังไม่อำจ
ี
ิ
ี
ซูริค กำรเกิดเช่นน้คิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ของจ�ำนวน ได้รับจดหมำยรับรองกำรท�ำงำนท่เอ้อต่องำนท่เขำ
ี
ี
ื
้
ิ
ู
ั
้
กำรเกดทงหมด ตวเลขนสงเป็นพเศษในกลุ่มชำว ต้องกำร เพรำะว่ำพวกเขำก�ำลังจะมีลูกในตอนน เขำ
ี
้
ิ
ั
ี
ออสโตร-ฮังกำเรียน สูงไปถึงระดับ 1 ใน 3 ในตอนใต้ สัญญำกับมำริชว่ำ เขำจะหำงำนที่มั่นคงให้ได้ไม่ทำง
ิ
ของฮังกำร และสูงย่งกว่ำน้นอีกในเซอร์เบีย อย่ำงไร ใดก็ทำงหน่ง และไม่สนว่ำต�ำแหน่งงำนน้นอำจจะ
ั
ึ
ั
ี
ก็ตำม เปอร์เซ็นต์เก่ยวกับเร่องน้กลับต่ำที่สุดในชำว ต่ำต้อยเพียงใด เขำกล่ำวเพ่มเติมอย่ำงดุดันว่ำ จะ
ิ
ื
ี
�
ี
�
ยิว ได้ไม่มีใครมำดูถูกดูแคลนเธอได้
ไอน์สไตน์และมิเลวาที่ทะเลสาบโคโม
ิ
ส้นเดือนเมษำยนปี 1901 ไอน์สไตน์ชวน เดินผ่ำนเทือกเขำในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ไป
มิเลวำไปท่โคโม เขำไม่อนุญำตให้เธอปฏิเสธและ ด้วยกัน แต่พบว่ำเส้นทำงถูกหิมะขวำงไว้ พวกเขำ
ี
ื
ื
บอกให้เธอน�ำเส้อคลุมสีน้ำเงินมำด้วยเพ่อท่จะได้ จึงจ้ำงรถลำกเล่อนไปแทน ในระหว่ำงท่พวกเขำใช้
ื
ี
ี
�
ใช้ห่อห่มตัวพวกเขำท้งสอง เขำสัญญำกับเธอว่ำ มัน เวลำไปด้วยกันนั้น ไอน์สไตน์สัมผัสได้ถึงควำมใกล้
ั
ึ
ื
จะเป็นกำรเดินทำงที่ไม่อำจลืมเลือน และในเช้ำวัน ชิดแห่งอ้อมอกเม่อพวกเขำสวมกอดกัน ซ่งเป็นสิ่งท่ ี
ึ
ั
อำทิตย์วันหน่งของเดือนพฤษภำคม เขำต้งหน้ำ ท้งงดงำมและเป็นธรรมชำติ และในช่วงเวลำน้เองท ี ่
ั
ี
ั
ั
ี
ี
ต้งตำรอเธอท่สถำนีรถไฟท่น่น หัวใจของเขำเต้นรัว ไอน์สไตน์ได้กลำยเป็นพ่อของลูกสำวผู้ซ่งเขำไม่เคย
ึ
่
ื
ิ
ั
ึ
่
หลงจำกใช้เวลำหนงคนในโรงแรมท้องถน พวกเขำ มีโอกำสได้พบเจอ
ี
่
ิ
ิ
ี
ื
ล่าง: บรเวณหนึงของแนวทะเลสำบโคโม น่เป็นภำพตำมท่มันเป็นเม่อไอน์สไตน์และมเลวำเดินทำงไปในปี 1901
37
ิ
ั
ิ
ื
ี
กำรตดสนใจของไอน์สไตน์ท�ำให้สภำพจตใจ พร้อมส�ำหรับเร่องน ไอน์สไตน์ไม่ได้ใช้เวลำในช่วงฤด ู
้
ึ
�
ู
ั
ิ
ของมำรชผู้ซงก�ำลงต่อส้ควำมยำกลำบำกของกำร ร้อนกับเธอ แต่ไปพักผ่อนวันหยุดในเทือกเขำแอลป์
่
ี
ั
ต้งครรภ์ดีข้นอย่ำงไม่อำจประเมินได้ “เอำละ ท่รัก กับแม่และน้องสำวของเขำอีกคร้ง ซ่งสร้ำงควำมวิตก
ั
ึ
ึ
เธอต้องกำรหำงำนโดยทันทีใช่ไหม? และให้ฉันย้ำย กังวลให้เธอ เธอย้ำยไปอยู่ท่บ้ำนพ่อแม่ของเธอท่โนว ิ
ี
ี
เข้ำไปอยู่กับเธอนะ!” ไอน์สไตน์ยังไม่ค่อยมีควำม สำด ท่ซ่งเธอให้ก�ำเนิดลูกสำวในช่วงต้นปี 1902 เธอ
ี
ึ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
รำวๆ ปี 1900
38
ี
ั
และไอน์สไตน์ต้งช่อให้กับลูกสำวว่ำ ลีเซิร์ล ไอน์สไตน์ เขำอำจจะไม่เคยบอกควำมลับเก่ยวกับลูกสำวของเขำ
ื
ั
่
ี
ิ
ิ
ี
ี
ั
ู
ึ
ั
ไม่ได้อยู่ท่น่น เขำอยู่ท่เมืองเบิร์นท่ซ่งเขำก�ำลังรอคอย กบใครเลยจรงๆ เป็นทเข้ำใจกนว่ำ ทำรกหญงถก
ี
ี
ค�ำตอบเก่ยวกับกำรสมัครงำนของเขำในต�ำแหน่ง ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อ่น และเท่ำท่เรำรู้
ื
ี
เสมียนท่ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตรแห่งสวิส ไอน์สไตน์ ไอน์สไตน์ไม่เคยเหลียวกลับมำมองเธออีกเลย เขำไม่
ี
ี
เขียนจดหมำยถึงมำริชแสดงควำมอยำกรู้ว่ำทำรก เคยพูดถึงเธอในท่สำธำรณะหรือบอกเป็นนัยถึงกำรมี
มีรูปร่ำงหน้ำตำเช่นไร และมีสุขภำพแข็งแรงดีหรือ ตัวตนอยู่ของเธอ เขำไม่เคยกล่ำวถึงเธอในกำรโต้ตอบ
ไม่ เขำลองคำดเดำว่ำ ลูกมีลักษณะคล้ำยคลึงเขำ จดหมำยของเขำ มีบันทึกไว้ในจดหมำยเพียงไม่ก ่ ี
ี
ี
ี
หรือเธอมำกท่สุด และจะให้เธอเล้ยงดูลูกให้ท่ดีท่สุด ฉบับถึงมำริชซ่งถูกเก็บเป็นควำมลับจนถึงปี 1986
ึ
ี
็
ิ
�
ิ
ี
ู
ื
ได้อย่ำงไร แม้ว่ำเขำจะยังไม่เคยเห็นลีเซิร์ล เขำก เมอกำรดำรงอย่ของลเซร์ลถกเปิดเผยต่อโลกวชำกำร
ู
่
ยอมรับว่ำเขำรักเธอ ที่ไม่เคยแม้แต่จะสงสัยถึงกำรมีอยู่ของเธอ
ทำรกดงเอำอำรมณ์ขนของเขำออกมำ เขำ ในจดหมำยท่หลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย
ี
ึ
ั
ั
ึ
ี
กล่ำวให้แง่คิดว่ำ ทำรกรู้เป็นแน่ท่จะร้องไห้อย่ำงเป็น กำรกล่ำวถึงลีเซิร์ลเป็นคร้งสุดท้ำยเกิดข้นใน 2 ปี
ิ
ั
ี
ธรรมชำต แต่กำรหัวเรำะเป็นอะไรบำงอย่ำงท่เธอจะ ถัดมำ น่นคือในเดือนกันยำยนปี 1903 มีควำมเป็น
ี
ต้องเรียนรู้ในภำยหลังอย่ำงไรก็ตำม ควำมรักของเขำ ไปได้ท่เธอตำยด้วยไข้อีด�ำอีแดง (scarlet fever)
ั
ิ
ี
ท่มีให้กับทำรกท่เพ่งถือก�ำเนิดของพวกเขำดูเหมือน ในช่วงเวลำน้น แต่ไม่มีใครรู้ได้อย่ำงแน่ใจจนทุกวันน ้ ี
ี
ึ
ี
จะเป็นเพียงนำมธรรมเป็นส่วนใหญ่ เพรำะควำมรัก เรำรู้ว่ำ เธอไม่เคยมำท่เบิร์น ท่ซ่งพ่อของเธอสำมำรถ
ี
นนไม่เพียงพอท่จะชกจงให้เขำน่งรถไฟเดนทำงมำท รักษำอิสรภำพของเขำไม่ให้ถูกจ�ำกัด และคงไว้ซ่งรัศมี
้
ั
ั
ิ
ี
่
ู
ึ
ี
ั
ึ
โนวิ สำด แห่งชนช้นกลำงท่น่ำนับถือซ่งจ�ำเป็นต่อกำรสำนต่อ
ั
ี
ื
ี
่
ไอน์สไตน์เก็บเร่องกำรเกิดของลีเซิร์ลไว้เป็น ควำมปรำรถนำในกำรเป็นเจ้ำหน้ำทของรัฐบำลสวิส
ควำมลับจำกครอบครัวและเพ่อนของเขำ ดูเหมือนว่ำ
ื
ล่าง: ไอน์สไตน์กับภรรยำคนแรกของเขำ ในปี 1905 ในตอนนี้ มิเลวำตัดสินใจไม่เรียนต่อแล้ว เพื่อที่เธอจะได้ให้เวลำกับกำร
เป็นภรรยำและกำรเป็นแม่
มิเลวาละทิ้งการเรียน
ึ
มิเลวำล้มป่วยระหว่ำงกำรต้งครรภ์ซ่งท�ำให้เธอ
ั
ี
ั
ต้องนอนติดเตียง ส่งน รวมท้งกำรคลอดลูกท่ก�ำลัง
ิ
ี
้
จะมำถึง ท�ำให้กำรเรียนของเธอเป็นไปด้วยควำม
ยำกล�ำบำก และไอน์สไตน์ก็แทบไม่ได้ช่วยท�ำให้
สถำนกำรณ์ดีข้นเลย เพรำะเขำไม่สำมำรถไปพบเธอ
ึ
ี
้
้
ี
ได้ท่โนว ซำด ท้งๆ ท่เธอพยำยำมโนมนำวให้เขำมำพบ
ิ
ั
ี
พ่อแม่ของเธอ ในปลำยเดือนกรกฎำคม ป 1901 เธอ
เข้ำสอบอีกคร้ง แต่ก็สอบไม่ผ่ำน เธอได้คะแนนเท่ำ
ั
ั
ั
เดิมเหมือนกำรสอบคร้งแรก น่นคือ 4.0 จำกคะแนน
เต็ม 6 และเป็นอีกคร้งหน่งท่เธอเป็นเพียงคนเดียวใน
ี
ึ
ั
ี
กลุ่มท่สอบไม่ผ่ำน
39
40
เสมียนจดสิทธิบัตร
ร่องรำวชีวิตของไอน์สไตน์เต็มไปด้วยเร่องคำด และท่น่ำประหลำดใจย่งไปกว่ำน้นก็คือ ต้องรอให้
ื
ี
ิ
ื
ั
่
ี
ั
ิ
ั
ไม่ถึงเป็นจ�ำนวนมำก แต่ท่หนักหนำท่สุดใน เวลำผ่ำนพ้นไปถงสปีหลงจำกทเขำได้ปฏวตวงกำร
ิ
่
ึ
ี
ี
ี
ั
ท้งหมดคือปัญหำต่ำงๆ ท่เขำเผชิญในกำรหำต�ำแหน่ง ฟิสิกส์ใน Annus Mirabilis หรือปีมหัศจรรย์ของเขำ
ี
แห่งหนทำงในวงกำรวิชำกำรให้กับตัวเอง เป็นเวลำ (Annus Mirabilis เป็นวลีในภำษำละตินซึ่งหมำยถึง
ิ
ยำวนำนถึง 9 ปี ซ่งเป็นช่วงเว้นวรรคท่เน่นนำนเกินปกต ปีมหัศจรรย์ – ผู้แปล) กว่ำจะมีใครเห็นสมควรท่จะ
ี
ึ
ิ
ี
ี
กว่ำท่เขำจะได้รับต�ำแหน่งเป็นผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ เสนอว่ำจ้ำงเขำให้ท�ำงำนวิชำกำร ไม่มีอำจำรย์คน
ใดเลยจำกสถำบันโพลีเทคนิคจะให้จดหมำยรับรอง
แก่เขำ
หน้าซ้าย: เลขที่ 49 ครัมกัสเซอร์ เบิร์น บ้ำนของ
ี
ไอน์สไตน์ในขณะที่เขำท�ำงำนอยู่ที่ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตร ในขณะท่เขำหำงำน ไอน์สไตน์ยังคงเขียน
ื
และผลิตผลงำนจ�ำนวนมำกใน “ปีมหัศจรรย์” ของเขำ บทควำมทำงฟิสิกส์อย่ำงต่อเน่อง แต่ก็ไม่มีบทควำม
ทฤษฎีของเดวิด ฮูม
ึ
ั
คร้งหน่งไอน์สไตน์เคยพูดว่ำ เดวิด ฮูม (1711-
1776) นักปรัชญำประสบกำรณ์นิยมชำวสก็อต (เหล่ำนัก
ี
ปรัชญำประสบกำรณ์นิยมเช่อว่ำ แหล่งท่มำของควำมรู้คือ
ื
ประสบกำรณ์ – ผู้แปล) มีอิทธิพลอย่ำงใหญ่ย่งต่อตัวเขำ
ิ
แนวควำมคิดของเขำเป็นไปตำมแนวทำงทำงปรัชญำของ
ึ
จอห์น ล็อค และจอร์จ เบิร์คเลย์ ซ่งปฏิเสธควำมรู้ใดๆ ก ็
ั
ี
ตำมท่ไม่ได้มำจำกประสำทสัมผัสโดยตรง ฮูมต้งค�ำถำมแม้แต่
กับกฎควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสำเหตุและผล เขำให้เหตุผลว่ำ
ึ
ึ
ิ
เพียงเพรำะเหตุกำรณ์หน่ง (เช่น ลูกบอลลูกหน่งว่งชนลูกบอล
อีกลูกหน่งแล้วท�ำให้เกิดกำรเคล่อนท่) เคยเกิดข้นแบบน้น
ึ
ึ
ั
ื
ี
�
ื
ซ้ำแล้วซ้ำเล่ำ อย่ำงไม่เคยเป็นอย่ำงอ่นไม่ได้หมำยควำมว่ำ
�
ั
มันจะเป็นเช่นน้นเสมอ ฮูมใช้ปรัชญำประสบกำรณ์นิยมน ี ้
กับแนวคิดเรื่องเวลำ โดยปฏิเสธกำรด�ำรงอยู่ของเวลำอัน
ี
เป็นอิสระจำกกำรเปล่ยนแปลงท่สังเกตเห็นได้ในวัตถุต่ำงๆ
ี
ซ่งท�ำให้เรำสำมำรถวัดเวลำได้อย่ำงเฉพำะเจำะจง กำร
ึ
้
ี
ี
ยืนยันว่ำ เวลำสัมบูรณ์ไม่มควำมหมำยนจะสะท้อนอยู่ใน
งำนของไอน์สไตน์อย่ำงหนักแน่นในเวลำต่อมำ
ขวา: งำนท่มีอิทธิพลมำกท่สุดช้นหน่งของนักวำดรูปชำวอังกฤษ เดวิด
ิ
ี
ี
ึ
มำร์ติน คือภำพวำดเดวิด ฮูมของเขำ ไอน์สไตน์ได้รับแรงบันดำลใจ
จำกมุมมองของฮูม เม่อเขำคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภำพพิเศษ
ื
41
ี
ึ
้
ิ
ู
ี
ิ
ี
ั
ชนใดท่น่ำดงดดพอท่จะได้รบกำรตพมพ์และผ่ำน
เกณฑ์เป็นวิทยำนิพนธ์ระดับปริญญำเอก เขำเขียน
บทควำมช้นแรกเก่ยวกับปรำกฏกำรณ์แคพิลลำร ี
ิ
ี
ี
(capillary effect) ปรำกฏกำรณ์ท่แสดงตัวออกมำ
ั
ี
เมอผวนำมลกษณะโค้งเว้ำในทศขนเมอเกำะตวกบ
ั
่
ื
ิ
�
้
้
ึ
่
ื
ิ
ั
ด้ำนข้ำงของหลอด ภำยหลัง ไอน์สไตน์ถือว่ำงำน
ิ
ิ
ช้นแรกน้ไร้ค่ำ อย่ำงไรก็ตำม มันก็เป็นส่งท่น่ำสนใจ
ี
ี
ส�ำหรับพัฒนำกำรทำงควำมคิดของเขำ เพรำะเขำ
ได้ส�ำรวจควำมคิดที่จะกลำยเป็นหัวใจของงำนเขำใน
ู่
ั
อีก 5 ปีต่อมำ น่นคือ อะตอมและโมเลกุลมีอย และ
ควำมหลำกหลำยของปรำกฏกำรณ์ในธรรมชำติเป็น
ส่งท่เรำสำมำรถเข้ำใจได้ด้วยกำรสอดส่องพฤติกรรม หอนำฬิกำในเบิร์นปี 1900 ทิวทัศน์น้เองท่มอบแรงบันดำลใจ
ี
ี
ี
ิ
ทำงสถิติของพวกมัน ให้กับไอน์สไตน์ในอีก 2 ปีต่อมำ
ี
ในท่สุด ไอน์สไตน์ก็ได้หยุดพัก มำร์เซล
โกรสส์มันน์ ผู้ซ่งเป็นเพ่อนสมัยเรียนมหำวิทยำลัย ไอน์สไตน์ได้ใช้เวลำ 7 ปีท่คุ้มค่ำมำกท่สุดในชีวิตนก
ั
ี
ื
ี
ึ
ท่คอยจดโน้ตให้เขำในช้นเรียนคณิตศำสตร์ อำศัย วิทยำศำสตร์ของเขำ เขำไปท�ำงำน 6 วันต่อสัปดำห์
ี
ั
ควำมช่วยเหลือจำกครอบครัวช่วยให้ไอน์สไตน์ได้งำน และเร่มงำนตรวจสอบอุปกรณ์ต่ำงๆ เวลำ 8 โมง
ิ
ี
ี
ท่ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตรสวิสท่เบิร์น มันเป็นต�ำแหน่ง หลังจำกน้นเขำใช้เวลำเขียนงำนท่พลิกโฉมวงกำร
ั
ี
ึ
ผู้ตรวจสอบค�ำร้องขอจดสิทธิบัตรระดับ 3 ซ่งเป็น ฟิสกส์ เขำเล่ำให้เพือนคนหนงฟังเก่ยวกบควำม
ิ
ึ
ั
่
ี
่
ื
่
ต�ำแหน่งท่ต่ำท่สุด เพรำะต�ำแหน่งในระดับ 1 หรือ สำละวนอนน่ำเหลอเชอในชวตประจำวนของเขำ
ั
�
ื
ี
ี
�
ิ
ั
ี
2 น้นต้องกำรคนเรียนจบปริญญำเอก และผู้ทรงภูม เขำใช้เวลำ 8 ช่วโมงท่ส�ำนักงำนจดสิทธิบัตร ตำม
ั
ิ
ี
ั
ั
ื
ั
ท้งหลำยในซูริคปฏิเสธควำมพยำยำมอย่ำงต่อเน่อง มำด้วยกำรสอนพิเศษเป็นเวลำ 1 ชวโมง และหลัง
่
ั
ของไอน์สไตน์ในกำรท�ำให้วิทยำนิพนธ์ปริญญำเอก จำกน้นจึงสำมำรถหันมำหำงำนด้ำนวิทยำศำสตร์ของ
ของเขำเป็นที่ยอมรับ ตัวเขำเอง
ในเดือนมิถุนำยน 1902 กำรสมัครต�ำแหน่ง แต่เรำไม่ควรรู้สึกสงสำรเขำ งำนท่ส�ำนักงำน
ี
�
�
งำนของไอน์สไตน์ประสบควำมสำเร็จ สำนักงำน จดสิทธิบัตรอำจจะดูเหมือนเป็นงำนท่ถูกส่งมำจำก
ี
จดสทธิบตรตงอย่ทตึกไปรษณีย์และโทรเลขใกล้ๆ สรวงสวรรค์ ซ่งดีกว่ำกำรเป็นผู้ช่วยศำสตรำจำรย์
้
ั
ั
ู
ี
่
ิ
ึ
ี
ู่
กับหอนำฬิกำท่มีช่อเสียงของเบิร์นซ่งต้งตระหง่ำนอย ในมหำวิทยำลัย เขำไม่อำจจะเป็นผู้ช่วยท่ดีได้ใน
ื
ั
ี
ึ
ึ
ื
บนหน่งในประตูสมัยยุคกลำงของเมือง เม่อนำฬิกำ วงวิชำกำร เพรำะเขำจะต้องรังเกียจกำรสอนควำม
ื
ี
ตีบอกเวลำแต่ละชั่วโมง ขบวนแห่งภำพสลักจะ เช่อฝังหัวตำมธรรมเนยมเพ่อสนองควำมพึงพอใจ
ื
ั
ปรำกฏตัวออกมำ มีตัวตลก หมีเต้น อัศวินในชุด ของศำสตรำจำรย์อำวุโส รวมท้งกำรตีพิมพ์ผลงำน
ี
เกรำะเต็มยศ และสุดท้ำย เทพเจ้ำโครโนส (เทพ ท่ขำดสีสันอย่ำงจืดชืด ตรงกันข้ำม กำรตรวจสอบ
แห่งกำลเวลำตำมต�ำนำนเทพปกรณัมกรีก-ผู้แปล) อุปกรณ์ท่มำขอจดสิทธิบัตรท�ำให้เขำต้องท�ำในส่งท ี ่
ี
ิ
ผู้ซ่งถือนำฬิกำทรำยไว้ในมือ ณ สถำนีรถไฟท่อยู่ใกล้ๆ เขำท�ำได้ดีที่สุด น่นคือ ต้งค�ำถำมกับหลักกำรท้งหมด
ั
ี
ั
ั
ึ
ั
นำฬิกำสวยงำมอลังกำรถูกติดต้งเรียงรำยอยู่ตำม ตรวจสอบทุกๆ สมมติฐำน และจินตนำกำรว่ำ แนว
ั
ึ
ี
่
ชำนชำลำ ซ่งแต่ละเรือนถูกต้งเวลำเทียบกับเรือนท ควำมคิดท่อยู่เบ้องหลังส่งน้นๆ ท�ำงำนในควำมเป็น
ื
ิ
ั
ี
ี
ี
ื
อยู่บนหอคอย รถไฟท่มำถึงจำกเมืองอ่นๆ ในขณะท จริงอย่ำงไร กำรจดจ่อกับค�ำถำมเก่ยวกับกำรใช้
ี
่
แล่นผ่ำนเบิร์น สำมำรถตรวจสอบเคร่องวัดเวลำของ เชิงเทคนิคและเชิงกำยภำพในชีวิตประจ�ำวัน เป็น
ื
ี
ตนเองได้ด้วยกำรมองนำฬิกำบนหอคอยอย่ำงรวดเร็ว ผู้กอบกู้ทำงสติปัญญำส�ำหรับเขำ น่เท่ำกับว่ำเขำม ี
่
ี
ี
ในส่งแวดล้อมท่ไม่น่ำจะเป็นไปได้น้เองท ควำมเข้ำใจท่ดีกว่ำเพ่อนๆ ของเขำในวงกำรวิทยำ-
ี
ี
ื
ิ
42