1
ประวัติศาสตร์แห่งความหลอกลวง: 5,000 ปีของการต้มตุ๋น ฉ้อโกง โกหก ปลอมแปลง
HOAX A HISTORY OF DECEPTION: 5,000 YEARS OF FAKES, FORGERIES, AND FALLACIES
เอียน แททเทอร์ซอลล์/ปีเตอร์ เน-วรอมอนต์: เขียน
นรา สุภัคโรจน์: แปล
ราคา 365 บาท
ALL RIGHTS RESERVED.
Copyright © 2018 by Ian Tattersall and Peter N. Névraumont
Cover design by Amanda Kain
Cover copyright © 2018 by Hachette Book Group, Inc.
Thai translation right © 2020 by Gypsy Publishing Co., Ltd.
© ข้อความและรูปภาพในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
แททเทอร์ซอลล์, เอียน.
ประวัติศาสตร์แห่งความหลอกลวง = Hoax a history of deception.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2564.
248 หน้า.
1. ความรู้ทั่วไป. 2. รวมเรื่อง. I. เน-วรอมอนต์, ปีเตอร์, ผู้แต่งร่วม. II. นรา สุภัคโรจน์, ผู้แปล. III. ชื่อเรื่อง.
030
ISBN 978-616-301-733-8
บรรณาธิการอำานวยการ: คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร: สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร: วาสนา ชูรัตน์
บรรณาธิการเล่ม: ปริสนา บุญสินสุข
กองบรรณาธิการ: คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา นันทนา วุฒิ
หัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษร: สวภัทร เพ็ชรรัตน์
ฝ่ายพิสูจน์อักษร: วนัชพร เขียวชอุ่ม สุธารัตน์ วรรณถาวร
พิสูจน์อักษร: จารุณี นาคสกุล
รูปเล่ม: Evolution Art
ออกแบบปก: Rabbithood Studio
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด: นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด: ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป: เวชพงษ์ รัตนมาลี
จัดพิมพ์โดย: บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ต่อ 108
พิมพ์ที่: บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำาหน่าย: บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำากัด
108 หมู่ที่ 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
โทรศัพท์ 0-2423-9999 โทรสาร 0-2449-9222, 0-2449-9500-6
Homepage: http://www.naiin.com
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939
ประวัติศาสตร์แห่งความหลอกลวง:
5,000 ปของการต้มตุ๋น ฉ้อโกง
ี
โกหก ปลอมแปลง
ี
เอียน แททเทอร์ซอลล์/ปเตอร์ เน-วรอมอนต์: เขียน
นรา สุภัคโรจน์: แปล
สารบัญ
ix ค�าน�า 11. ปลอมชาติก�าเนิด
่
1. สัตว์อืนๆ ก็หลอกลวง 61 พซาลมานาซาร์
17 วิวัฒนาการแห่งความหลอกลวง 12. อัตวินิบาตกรรมแสนโรแมนติก
2. วันสิ้นพิภพ 65 โธมัส แช็ตเตอร์ตัน
่
ู
21 วันสิ้นสุดของโลกทีเราร้จัก 13. ไวน์เก๊
ี
69 ลาฟตของโธมัส เจฟเฟอร์สัน
3. นาวาศาสตร์จอมปลอม
25 เรือของโนอาห์ 14. เชคสเปยร์ตัวปลอม
ี
่
ทีสุดสายร้ง 73 เด็กหนุ่มผ้อาจเอื้อมสวมรอยกวีเอก
ู
ุ
่
4. การต่อสู้ทีเตี๊ยมกันไว้แล้ว 15. มานุษยวิทยาชวนงง
ุ
29 กลาดิเอเตอร์กับ 79 ต�านานบิ๊กฟต
นักมวยปล�้ามืออาชพ 16. ดินแดนแห่งจินตนาการ
ี
ั
5. เลหลังขายอาณาจักร 83 ปวเยส์
ื้
ู
35 จลิอานุสซอจักรวรรดิโรมัน 17. โลกความจริงทางเลือก
6. ปลดรหัสสัตววิทยา 89 ภาพถ่ายตัดแต่ง
39 สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนส 18. ชยชนะทางอากาศ
ั
์
7. โบราณวัตถุศักดิสิทธิ ์ 95 เอ็ดการ์ อัลลัน โพ
45 หนังลึงก์อันทรงค่า กับการเดินทางด้วยบอลลูนลวงโลก
8. ผิดเพศ 19. พดกับผี
ู
่
ื
49 โปบโจน 99 วิวัฒนาการของความเชอ
๊
่
9. ศาสตร์แห่งผ้าห่อศพ เกียวกับภูตผีวิญญาณ
53 ผ้าห่อศพแห่งตูริน 20. วิธีหลอกคน
103 นักต้มตุ๋นตัวพ่อ
ู
10. จอมลวงโลกแห่งยคฟนฟศิลปวิทยา
ุ
ื้
57 กามเทพของมิเกลันเจโล 21. โบราณคดีจอมปลอม
107 แผ่นจารึกดาเวนพอร์ต
22. สุดยอดอาหาร 38. โบราณคดีหลงทาง
111 บรีทธาเรียน 183 ความพลาดพลั้งของราชสีห์เฒ่า
ผ้กินลมหายใจต่างอาหาร
ู
่
39. การเดินทางรอบโลกทีไม่ครบรอบ
่
23. การกลับใจในวาระสุดท้าย 187 เรืองเศร้าของ
่
่
117 เรืองชวนเชอของคุณหญิง โดนัลด์ โครว์เฮิร์สต์
ื
24. เอกสารแหกตา 40. ดวงจันทร์กับความวิปริต
121 ไพรเออรีออฟไซออน 193 ทฤษฎีสมคบคิด
25. ความหูเบาของประชาชน 41. ความหลากหลายของมนุษย์
่
125 โกหกการเมือง 196 หลงผิดเรืองเชอชาติ
ื้
26. การจองล้างจองผลาญทางการเมือง 42. ชวิตอมตะ
ี
129 กรณีเดรย์ฟส 200 การแชแข็งมนุษย์
ั
่
27. แชร์ลูกโซ ่ 43. โฮมีโอพาธี
่
135 เมือนักต้มตุ๋นถูกต้ม 205 ความทรงจ�าของน�้า
28. บรรพมานุษยวิทยาลวงโลก 44. บรรพชวินวิทยาปๆ ปะๆ
ุ
ี
138 พิลต์ดาวน์ 208 “อาร์คีโอแร็พเตอร์”
่ ่
29. การส�ารวจขั้วโลกเหนือ 45. ความทรงจ�าทีเชอถือไม่ได้
ื
143 โรเบิร์ต เพียรี 213 บันทึกความทรงจ�ายกเมฆ
30. การแพทย์ก�ามะลอ 46. ความตืนตระหนกทีไร้เหตุผล
่
่
149 การบ�าบัดด้วยแม่เหล็กไฟฟา 217 วัคซนกับออทิสติก
้
ี
ั
31. นักปนแต่งต�านาน 47. พิชญพิจารณ์
้
153 โมนาลิซาทั้ง 6 202 จาน เฮนดริค เชน
ิ
่
32. ปลอมดนตรี 48. ความปลอดภัยทีแสนอันตราย
่
157 ฟริตซ ไครสเลอร์ 224 เครืองตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม
์
33. วิทยาดาวเคราะห์บิดๆ เบี้ยวๆ 49. ตายหลอกๆ
161 โลกแบนและกลวง 229 ฆ่าตัวตายปลอม
34. การปลอมภาพ 50. ข่าวปลอม
่
167 เพือให้เกียรติหรือหาประโยชน์ 232 ต�านานไม่จืดของ
่
35. เรืองถกเถียงทางชววิทยา สตีเฟน กลาสและเจสัน แบลร์
ี
่
171 ลัทธิลีเซนโกกับผลทีตามมา
36. ศพตบตา 237 บทส่งท้าย
175 ชายผ้ไม่เคยมีตัวตน 241 กิตติกรรมประกาศ
ู
37. ตัวตนประดิษฐ์
ั
179 คอร์ลา ปนดิต
แด่จอมลวงโลกและเหยื่อทุกคนในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
ผู้ท�าให้กิจการแห่งความเป็นมนุษย์ด�าเนินอยู่ได้
�
�
คานาส�ำนักพิมพ ์
ากันว่า ‘มนุษย์ทุกคนต่างเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการหลอก
หลวง’ เพราะการโกหกหลอกลวงเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการ
ื
ี
ว่ วิวัฒนาการของมนุษย์ มีงานวิจัยท่ชี้ให้เห็นว่าพ้นฐานของการ
โกหกคือทักษะการบริหารจัดการของสมอง ซ่งความสามารถน้จาเป็นต่อการ
�
ึ
ี
ั
วางแผน การคิดวิเคราะห์ และการควบคุมตนเอง กระท่งซิสเซลา บล็อก
ั
นักจริยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็เคยกล่าวเอาไว้ว่า “การโกหกน้นเป็น
เรื่องง่ายดาย เมื่อเทียบกับวิธีการแสวงหาอ�านาจในแบบอื่น”
ดังน้นเราอย่าได้แปลกใจท่พบว่าในประวัติศาสตร์หลายพันปีของมนุษยชาต ิ
ั
ี
ื
ื
น้นล้วนแต่ขับเคล่อนด้วยเร่องโป้ปดมดเท็จท้งส้น และน่คือไอเดียท่ทาให้
ี
ิ
ั
ี
ั
�
เอียน แททเทอร์ซอลล์ นักเขียนและคิวเรเตอร์ และ ปีเตอร์ เน-วรอมอนต์ นักเขียน
และโปรดิวเซอร์ ได้ร่วมมือกันล้วงลึกข้อมูลโป้ปดในประวัติศาสตร์กว่า 5,000 ปี
ี
เพ่อเปิดโปงให้มนุษย์ในศตวรรษท่ 21 อย่างเราเห็นว่าบรรพบุรุษของเราเป็น
ื
นักโกหกที่เซียนยิ่งกว่า แฟรงก์ อบาเนล
หนังสือเล่มน้รวบรวมการหลอกลวงคร้งสาคัญของมนุษยชาติ ท้งในแวดวงศิลปะ
ี
ั
�
ั
ื
�
ื
วิทยาศาสตร์ วรรณกรรม ศาสนา การเงิน และส่อ ท่หลายเร่องทาให้เราเหวอ หรือ
ี
ื
ื
บางเร่องอาจทาให้เราตบเข่าฉาดด้วยความขบขัน ผู้เขียนเร่มเร่องด้วยประกาศวัน
�
ิ
ื
ี
ิ
ส้นโลกท่ย้อนไปเม่อ 2,800 ปีก่อนคริสตกาล ไล่เรียงไปจนถึงทฤษฎีสมคบคิดเร่อง
ื
สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนส ผ้าห่อศพแห่งตูริน ตานานบ๊กฟุต เอ็ดการ์ อัลลัน โพ
ิ
�
กับการเดินทางด้วยบอลลูนลวงโลก เชคสเปียร์ตัวปลอม ฯลฯ
ิ
ี
ี
�
ส่งท่ทาให้หนังสือเล่มน้น่าสนใจ คือการแบ่งแต่ละเร่องราวออกเป็นตอนส้นๆ
ั
ื
�
ื
ทาให้เน้อหาเข้าใจง่าย และอ่านสนุก เหมือนเรามีนักประวัติศาสตร์สุดเนิร์ด
ื
ั
น่งสรุปเร่องโป้ปดอันยาวนานหลายพันปีให้เราเข้าใจได้ในความยาวเพียง 5-6
หน้ากระดาษ ความสามารถของนักเขียนท้งสองคนท่ร้อยเรียงเร่องราวได้อย่าง
ั
ื
ี
กลมกล่อม ท�าให้หนังสือเล่มนี้สามารถเป็นทั้งหนังสือที่เหมาะจะนั่งอ่านในร้าน
กาแฟ ใช้อ้างอิง ต่อยอดองค์ความรู้ และสร้างความบันเทิง
หาได้ยากที่หนังสือประวัติศาสตร์สักเล่มจะท�าได้ขนาดนี้
ั
กองบรรณาธิการยิปซีม่นใจว่าหนังสือเล่มน้จะเปิดหูเปิดตานักอ่านอย่างเรา ให้
ี
เรียนรู้ว่า ข้อมูลทุกอย่างมีสองด้านเสมอ และก่อนที่เราจะตัดสินใจเชื่ออะไรสัก
อย่าง เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อน
มิฉะน้น เราอาจจะกลายเป็นหน่งในเหย่อของเร่องโป้ปดในประวัติศาสตร์ เหมือน
ื
ั
ึ
ื
ผู้คนที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ก็เป็นได้
ขอให้สนุกกับการอ่าน ‘ประวัติศาสตร์แห่งความหลอกลวง 5,000 ปีของการต้ม
ตุ๋น ฉ้อโกง โกหก ปลอมแปลง’ (Hoax: A History of Deception: 5,000 Years
of Fakes, Forgeries, and Fallacies) และท่องไปในโลกแห่งความลวงครับ
ด้วยความจริงใจ
ส�านักพิมพ์ยิปซี
ู
ค�าน�าผ้แปล
ิ
ารถูกหลอกคือส่งท่เกิดข้นได้กับทุกคน ในทุกๆ วัน ท่ธรรมดา
ี
ี
ึ
ชาวบ้านที่สุดก็คือ “พี่ครับๆ ผมมาจากต่างจังหวัด ขอค่ารถกลับ
ก บ้านหน่อยครับ” แล้วพ่ก็ควักกระเป๋าให้เงินค่ารถไป ปรากฏว่า
ี
ึ
สามวันต่อมายังเห็นน้องอยู่ในกรุงเทพฯ ระดับมีเงินข้นมาหน่อยก็น่าจะเคย
ี
โดนแชร์ลูกโซ่ หรือหุ้นปั่น และน่ากลัวท่สุดในปัจจุบันคือข่าวลวงต่างๆ ทาง
อินเทอร์เน็ต
ี
ื
HOAX รวมเร่องหลอกลวง 50 เร่องท่ไม่ธรรมดาอย่างท่เราเจอทุกเม่อเช่อวัน
ื
ื
ื
ี
�
แต่เป็นเร่องราวการปลอมแปลง ต้มตุ๋น โกหก ฉ้อโกง รวมไปถึงตานานและ
ื
ื
ี
ื
โฆษณาชวนเช่อท่ควรค่าแก่การจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร บางเร่องก็แยบยล
จนรู้สึกว่าสมควรแล้วที่เชื่อ แต่บางเรื่องก็ธรรมดา ตื้นเขินจนคิดว่าเชื่อเข้าไปได้
ยังไง เหตุผลก็มีตั้งแต่ความโลภ ความหูเบา เชื่อคนง่าย ไปจนถึงธรรมชาติของ
ื
ุ
สมองและกระบวนการคิดและรบร้ของมนษย์ สรปแล้วไม่ว่าจะฉลาดหรอโง่
ู
ั
ุ
ี
ู้
ไม่เคยมีใครไม่ถูกหลอก... ว่าไปแล้ว ผแปลจะใช้เล่ห์เหล่ยมอะไรหลอกให้คุณควัก
กระเป๋าซ้อหนังสือเล่มน้ดี เอาเป็นว่าน่เป็นหนังสือท่ดีท่สุดในโลก ทุกคนต้องอ่าน
ื
ี
ี
ี
ี
ใครไม่อ่านจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
นรา สุภัคโรจน์
ู
ค�าน�าผ้เขียน
ไ ม่มีคาบรรยายใดๆ ท่สามารถบอกถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างแม่นยา
ี
�
�
ั
ั
ี
ในกรณีท่สุดข้ว มนุษย์เป็นได้ท้งปีศาจและนักบุญ ตระหน่หรือใจกว้าง
ี
มีมารยาทหรือหยาบกระด้าง ปราดเปร่องหรือโง่ซ่อ แม้ลักษณะ
ื
ื
ี
กว้างๆ เหล่าน้จะเป็นจุดเด่นท่มักดึงความสนใจของเรา แต่โดยมากแล้วเราจะ
ี
ี
พบว่ามนุษย์อยู่ตรงกลางระหว่างสองข้วของพฤติกรรมใดๆ ก็ตามท่เราจะยกข้น
ั
ึ
มาพิจารณา
ื
ี
ี
ี
และในพ้นท่สีเทา ไม่ชัดเจนน่แหละท่การต้มตุ๋น ความจอมปลอม หลอกลวง
ท้งหลายเบ่งบาน และไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นเช่นน้มาต้งแต่ท่โฮโมเซเปียนส์ยุค
ั
ี
ั
ี
ล่าสุดถือก�าเนิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งแสนปีก่อน ในหลายทางสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด
ื
ี
ี
ี
ระยะเวลาท่ผ่านมาในพ้นท่สีเทาท่คลุมเครืออันกว้างใหญ่ไพศาลน้บอกให้เรารู้ถึง
ี
ิ
ชีวิตของบรรพบุรุษ..และของเราเองมากกว่าเหตุการณ์ย่งใหญ่ใดๆ ท่เราคิดว่าคือ
ี
ประวัติศาสตร์เสียอีก และแน่นอนว่าละครน�้าเน่าของประวัติศาสตร์จะไม่มีวัน
สมบูรณ์แบบได้หากมิได้พิจารณาคุณสมบัติข้อนี้ของมนุษย์ด้วย
ี
ี
�
ี
แนวโน้มท่ทาให้กรณีท่น่ากังขาทางศีลธรรมมากมายหลายอย่างในเล่มน้เป็นไปได้
ิ
เป็นส่งท่เราคุ้นเคยและค่อนข้างตรงไปตรงมา ไม่มีสิบแปดมงกุฎ จอมลวงโลกคน
ี
่
ื
่
้
ู
่
่
่
ไหนทไมรวาเพอนมนษยของพวกเขาโลกสวย เชอคนงายขนาดไหน...โดยเฉพาะ
่
ี
ุ
์
ื
พวกที่คิดว่าตัวเองฉลาด เจนโลก รู้ทันคนที่สุด นักต้มตุ๋นทุกคนยังรู้ดีอีกด้วยว่า
ความต้องการจะเช่อในส่งท่ตนอยากเช่อดูเหมือนจะเป็นสากล แนวโน้มหรือความ
ื
ี
ื
ิ
ั
ปรารถนาพ้นฐานของมนุษย์เหล่าน้ล้วนเปิดประตูให้จอมลวงโลกท้งหลายฉวย
ี
ื
โอกาสหาประโยชน์จากเพื่อนมนุษย์ที่มองโลกในแง่ดีทั้งสิ้น
10
In 1165, the Byzantine emperor Manuel Comnenus received a letter from an unknown Christian king, Prester John,
ในปี 1165 มานูเอล คอมเนนุส จักรพรรดิแห่งอาณาจักรบีแซนไทน์ได้รับจดหมายจากเพรสเตอร์ จอห์น กษัตริย์ชาวคริสต์ที่
whose lands allegedly extended beyond India to the Tower of Babel. Pope Alexander III then sent envoys east, hoping
ี
ึ
ไม่เป็นท่รู้จักซ่งอ้างว่าครองดินแดนซ่งเลยไปจากอินเดียจรดหอบาเบล พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ท่ 3 จึงทรงส่งคณะผู้แทน
ี
ึ
that Prester John would come to the aid of Crusaders in Jerusalem besieged by Muslim armies. Prester John’s mythical
In 1165, the Byzantine emperor Manuel Comnenus received a letter from an unknown Christian king, Prester John,
kingdom, as seen on this 1564 map, became the object of a quest that fi red the imaginations of generations of
ี
ึ
มุ่งหน้าไปทางตะวันออก โดยหวังว่าเพรสเตอร์ จอห์นจะส่งกองทัพมาช่วยทหารครูเสดท่เยรูซาเล็มซ่งถูกกองทัพมุสลิมล้อมอย
whose lands allegedly extended beyond India to the Tower of Babel. Pope Alexander III then sent envoys east, hoping ู่
adventurers, but has always remained out of reach.
that Prester John would come to the aid of Crusaders in Jerusalem besieged by Muslim armies. Prester John’s mythical
ี
ี
ี
ี
อาณาจักรลึกลับของเพรสเตอร์ จอห์นดังท่เห็นในแผนท่ปี 1564 น้ได้กลายเป็นดินแดนท่โหมกระพือจินตนาการของนักผจญภัย
kingdom, as seen on this 1564 map, became the object of a quest that fi red the imaginations of generations of
หลายรุ่นให้พากันออกตามหา แต่ก็ไม่เคยมีใครได้พบเสียที
adventurers, but has always remained out of reach.
In contrast, the motivations that have fueled the consequent entrenchment of misrep-
resentation, fakery, and demagoguery in common human experience are a little more
complex; and they are as varied as the species Homo sapiens itself. The reason for
ี
ื
ในทางตรงข้าม แรงจูงใจท่เติมเช้อให้กับเจตนาในการต้มตุ๋น หลอกลวง ทาให้เข้าใจ
In contrast, the motivations that have fueled the consequent entrenchment of misrep-
�
taking advantage of the innocence, avarice, or preconceptions of others is most
resentation, fakery, and demagoguery in common human experience are a little more
ผิดนั้นซับซ้อนกว่าหน่อย และมีสารพัดหลากหลายเท่าๆ กับความหลากหลาย
commonly simple greed, but malice and personal animosity are also frequent driving
complex; and they are as varied as the species Homo sapiens itself. The reason for
forces, as are sheer impishness, the desire for power or infl uence, a wish to “show the
taking advantage of the innocence, avarice, or preconceptions of others is most
ของโฮโมเซเปียนส์ เหตุผลของการเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ คนที่
experts,” or even the pathetic need to simply be recognized for something.
commonly simple greed, but malice and personal animosity are also frequent driving
ละโมบโลภมาก หรือคนท่มีอคติโดยส่วนใหญ่แล้วก็คือความโลภ แต่บางคร้ง
ี
ั
forces, as are sheer impishness, the desire for power or infl uence, a wish to “show the
x experts,” or even the pathetic need to simply be recognized for something.
ความมุ่งร้ายหรือเกลียดชังเป็นส่วนตัวก็เป็นแรงผลักดันด้วย เช่นเดียวกับ
ี
ื
�
x ความซุกซน ความต้องการมีอิทธิพลหรืออานาจ หรือ “เพ่อเย้ยพวกท่คิดว่าตัวเอง
เก่ง” หรือแม้แต่เพื่อที่จะได้รับการยอมรับในบางสิ่งบางอย่างอย่างน่าสมเพช
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd x 31/10/17 9:49 am
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd x 31/10/17 9:49 am
11
กระนั้น ไม่ว่าแรงจูงใจคืออะไรก็ตาม สิ่งที่ท�าให้การหลอกลวงเป็นไปได้ดูเหมือนจะฝังแน่นอยู่ใน
คุณสมบัติของมนุษย์ที่ระบุชัดเจนได้ยาก ตราบใดที่ยังมีคนหรือภาษา ตราบนั้นก็จะมีการหลอก
ื
ี
ลวงและการโกหก จะมีนักต้มตุ๋น และเหย่อ ... จะมีคนหูเบาและคนท่ยินดีและพร้อมจะเอาเปรียบ
่
ั
หากท้งความไม่รจักระมัดระวังตนและความปรารถนาทจะหาประโยชน์จากมัน (ซ่งเป็นส่งท่เป็น
ู้
ิ
ึ
ี
ี
ึ
�
ี
มาโดยตลอดและจะเป็นต่อไปโดยตลอดด้วย) เป็นส่วนหน่งท่แยกกันไม่ออกจากจิตสานึกของ
มนุษย์แล้วไซร้ ความหลอกลวง การต้มตุ๋น โกหก ปลอมแปลง ที่เกิดขึ้นตามมาก็จะเป็นเสมือน
เลนส์อีกอันที่จะช่วยให้เราเข้าใจถึงอดีตและปัจจุบัน เลนส์ที่ว่านี้ทรงพลังเสียด้วย เพราะในขณะ
ที่ความเชื่อง่ายจะอยู่คู่มนุษย์ไปชั่วนิรันดรกาล แต่การแสดงออกจะแตกต่างกันไปอย่างมากโดย
ขึ้นอยู่กับความกลัว ความปรารถนา และมุมมองที่มีต่อโลกของคนแต่ละรุ่น และเราสามารถพูด
ได้อย่างมั่นใจว่า สิ่งที่เราน�ามาเล่าในที่นี้ใช่ประวัติศาสตร์ที่ผู้ชนะเป็นผู้เขียนด้วย
หนังสือเล่มนี้เป็นเพียงการถ่ายทอดครั้งล่าสุดของหนึ่งในประเพณีทางประวัติศาสตร์อันเจิดจรัส
ซึ่งสามารถย้อนหลังไปอย่างน้อยไปถึง Extraordinary Popular Delusions and Madness of
the Crowds (การหลอกลวงที่ประสบความส�าเร็จอย่างเหลือเชื่อและความบ้าของฝูงชน) ของ
ชาร์ลส์ แมคเคย์ ในปี 1841 โดยเราสองคนได้เลือกเรื่องฉาวโฉ่สารพัดหลากหลายรวม 50 เรื่อง
ซ่งครอบคลุม 5,000 ปีของประสบการณ์มนุษย์และหลายพันล้านปีท่ชีวิตเกิดข้นบนโลก เน่องจาก
ึ
ื
ึ
ี
เราพยายามให้แต่ละเรื่องสั้นเข้าไว้
ื
ี
ี
เร่องราวในหนังสือเล่มน้บ้างก็เป็นเร่องท่คุ้นเคยกันดี บ้างก็ไม่ บ้างก็แสดงเจตนานาเสนอแบบ
�
ื
ผิดๆ บ้างก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงอคติท่มีอยู่ก่อนมากกว่า ขณะท่บ้างก็เผยให้เห็นถึงความ
ี
ี
อ�ามหิต ชั่วร้ายของมนุษย์ ขณะที่บ้างก็เป็นส่วนหนึ่งของความพึงพอใจโดยรวมเท่านั้น อย่างไร
ก็ตาม เมื่อพิจารณาทั้งหมดรวมกันแล้ว มันบอกถึง 2 ด้านของประสบการณ์มนุษย์ที่ขัดแย้งกัน
ในด้านหน่งคือความม่นคง ไม่เปล่ยนแปลงของธรรมชาติของมนุษย์โดยพ้นฐาน เห็นได้ชัดว่าสปีชีส์
ั
ึ
ื
ี
ี
ี
ิ
ของเราโดยรวมไม่ได้เปล่ยนไปแม้แต่น้อยนิดนับจากท่เราเร่มเขียนความคิด ความรู้สึก และ
ี
ประสบการณ์ของเราออกมา ในอีกด้านท่ตรงข้ามกัน แสดงให้เห็นว่าเมล็ดทรายแห่งประวัติศาสตร์
ี
ื
ี
่
สามารถเคลื่อนหรือพลิกเปลยนไปได้มากขนาดไหน ความเช่อ ความคิดท่มีอยู่ก่อน และความ
พร้อมที่จะถูกหลอกของเราในแง่ของสังคมโดยรวม ได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ี
ื
ในฐานะผู้เขียนเราได้พยายามอย่างย่งท่จะไม่นาเร่องราว 50 เร่องเข้าไปเก่ยวข้องกับประวัติศาสตร์
ื
ี
�
ิ
ุ
ิ
ุ
็
ี
่
ี
ุ
่
ุ
ในแง่มมทกว้างกว่า หรอคาดเดาว่ามนจะคลคลายอย่างไร ทงนกเพราะทกสงทกอย่างทมนษย์
ั
่
ื
่
้
ั
้
ี
ี
ประสบมาจากความบังเอิญมากเกินกว่าจะทาเช่นน้นได้ แต่เราสองคนคิดว่าแต่ละเหตุการณ์ล้วน
�
ั
มีความหมายในตัวมันเอง
ื
ั
ี
สุดท้ายน้เน่องจากปรากฏว่ากรณีการหลอกลวงไม่ได้สมควรถูกประณามเสียท้งหมด และความจริง
ี
ั
ื
�
แล้วคนท่ทาเร่องหลอกลวงบางคนยังเป็นคนน่ารักดีเสียด้วย - ดังน้นเราจึงได้ซ่อนอะไรบางอย่าง
ที่เรากุขึ้นไว้ในหนังสือเล่มนี้เพื่อดูว่าคุณจะจับได้หรือไม่
12
มีการประมาณว่าในล�าไส้ใหญ่ของเรามี
แบคทีเรียอาศัยอยู่ 100 ล้านล้านตัว ขณะที่
มนุษย์มีเซลล์เพียง 40 ล้านล้านเซลล์ น้อยกว่า
แบคทีเรียซิมไบโอติกซึ่งได้เรียนรู้ที่จะหลอก
ระบบภูมิคุ้มกันของเรามาก
13
A HISTORY OF DECEPTION: 5,000 YEARS OF
FAKES, FORGERIES, AND FALLACIES
5,000 YEARS OF FAKES,
FORGERIES, AND FALLACIES
ประวัติศาสตร์แห่งความหลอกลวง:
5,000 ปของการต้มตุ๋น ฉ้อโกง
ี
IAN TATTERSALL AND PETER NÉVRAUMONT
โกหก ปลอมแปลง
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd iii 31/10/17 9:49 am
ี
เอียน แททเทอร์ซอลและปเตอร์ เน-วรอมอนต์: เขียน
นรา สุภัคโรจน์: แปล
16
่
ี
1. สัตว์อืนๆ ก็หลอกลวง กว่า 4 พันล้านปก่อน
วิวัฒนาการ ความหลอกลวง
แห่ง
นี่ คือหนังสือท่รวมเร่องราวของความหลอกลวง ต้มตุ๋น โกหก ฉ้อโกง
ี
ื
สารพัดเท่าที่มนุษย์เคยเจอะเจอ กระนั้น คุณน่าจะเห็นภาพและเข้าใจ
ได้ดีข้นหากจะบอกกันเสียก่อนว่า การโกหกหลอกลวงไม่ได้จากัดแต่
ึ
�
ในสปีชีส์ โฮโมเซเปียนส์ของเราเท่านั้น ดูเหมือนว่านิสัยที่ไม่น่าชื่นชม
น้จะมีอยู่ในส่งมีชีวิตทุกชนิด ดังน้นขณะท่เราโอดครวญตาหนิธรรมชาต
ั
ี
ิ
ี
�
�
ท่น่ารังเกียจของมนุษย์ การรู้ว่าพฤติกรรมด่างพร้อยน้ไม่ได้จากัดอยู่แค่มนุษย์เท่าน้น ิ
ี
ี
ั
อาจช่วยให้เราสบายใจขึ้นได้
ี
ิ
ึ
มนุษย์เราเป็นส่วนหน่งของต้นไม้แห่งชีวิตอันย่งใหญ่อันเป็นท่สถิตของสรรพชีวิตซ่ง
ึ
ล้วนสืบสายมาจากบรรพบุรุษเดียวกันท่มีชีวิตเม่อ 3.5 พันล้านปีก่อน ไม่ต้องสงสัยเลย
ื
ี
ว่าบรรพบุรุษผู้นี้มีลักษณะหลายอย่างเหมือนกับแบคทีเรียเซลล์เดียวที่มองไม่เห็นด้วย
ตาเปล่าในปัจจุบัน แต่เช่อหรือไม่ว่าแม้ส่งมีชีวิตท่เรียบง่ายธรรมดาท่สุดอย่างแบคทีเรีย
ื
ิ
ี
ี
ก็ยังสามารถหลอกลวงได้
หนึ่งในการค้นพบทางชีววิทยาส�าคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือการตระหนักว่า “ไมโคร
ไบโอตา” (microbiota) หรือจุลินทรีย์ทุกชนิดท้งดีและร้ายท่อยู่ในร่างกายและบน
ี
ั
ผิวหนังของเรามีความส�าคัญต่อการท�างานของร่างกายโดยรวม ตัวอย่างหลักๆ ก็คือ
แบคทีเรียเซลล์เดียวจานวนมากมายมหาศาลในกระเพาะซ่งมีความสาคัญอย่างย่งต่อ
ึ
ิ
�
�
ึ
ี
�
กระบวนการย่อยอาหาร และระบบภูมิคุ้มกันท่ทางานอย่างแข็งขันซ่งจะส่งเซลล์พิเศษ
ั
ี
ออกไปโจมตีแบคทีเรียก่อโรคท่บุกรุกเข้ามา กระน้น ไมโครไบโอตาก็ยังปฏิบัติหน้าท ี ่
�
ั
ี
ท้งหมดน้โดยไม่ได้บาดเจ็บเสียหาย มันทาได้อย่างไรกันเล่า คาตอบก็คือ เหล่าแบคทีเรีย
�
ี
�
ท่วิวัฒนาการมาพร้อมกับมนุษย์เราได้ทาการ “เลียนแบบโมเลกุล” พูดอีกอย่างก็คือ
มันปลอมตัวเป็นเซลล์ของเรา แบคทีโรอีเดส ฟราจิลิส (Bacteroides fragilis) เป็น
ี
ี
ี
แบคทเรยสปีชส์หน่งทมีความสามารถเยยมเป็นพิเศษในการเลยนแบบโปรตีนและ
ี
ึ
่
ี
ี
่
น�้าตาลที่เคลือบเซลล์ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์และสัตว์อื่นๆ
17
การหลอกลวงแบบน้มีประโยชน์ต่อท้งแบคทีเรียและตัวเราเอง ทว่าบางคร้ง
ั
ี
ั
�
�
่
การหลอกลวงก็โหดร้ายเหมือนกัน สาหรับพวกเราแล้ว แสงกะพริบในคาคืนฤดูร้อน
ของหิ่งห้อยช่างงดงาม ทว่าในโลกของหิ่งห้อย มันมีอันตรายที่แฝงอยู่ โดยปกติ
ิ
ห่งห้อยจะส่งแสงวิบวับเก้ยวพาราสีกัน โดยตัวผู้และตัวเมียแต่ละสปีชีส์จะม ี
ี
that have coevolved with us indulge in what is known as “molecular mimicry.” In other
รูปแบบการกะพริบโต้ตอบเฉพาะ ไม่เหมือนกัน ทว่าหิ่งห้อยตัวเมียสกุล โพทูริส
words, they pretend to be our own cells, the bacterial species known as Bacteroides
fragilis being especially good at imitating the proteins and sugars that coat the cells in
(Photuris) เล่นขี้โกง
the digestive tracts of humans and other animals.
ิ
ห่งห้อยตัวเมียตระกูลโพทูริส
Deception of this kind benefi ts
both the bacteria and ourselves.
จะเลียนแบบการกะพริบของ
But false advertising is not always
ห่งห้อยตัวเมียตระกูลโพทินุส
ิ
so benign. To us, the intimate
fl ashing of fi reflies is one of the
(Photinus) แล้วนอนรอโพทินุส
more delightful aspects of many
ี
ตัวผู้ท่มีตัวเล็กกว่าบินเข้ามาหา
a summer evening. But in the
world of fi reflies, danger always
และจับกินเป็นอาหาร c ี
ด้วยวิธ
lurks. Usually a fi refl y flkers in
i
นี้โพทูริสตัวเมียไม่เพียงแต่ได้
the context of courtship, as males
and females of the same species
ของกินรสโอชะเท่าน้น แต่ยังได้
ั
respond to specifi c patterns of
fl ashes. But females of the fi refl y ู
ี
สารสเตียรอยด์ท่เรียกว่าลูซิบ
genus Photuris cheat.
ึ
ฟากินซ่งทาให้แมงมุมกระโดด
�
ห่งห้อยโพทูริสตัวเมียจะเลียนแบบการกะพริบหาคู่ของห่งห้อยโพทินุสตัวเมีย
Females of the fi refl y genus Photuris mimic the courtship fl ashes of the
ิ
ิ
ิ
เมินหน้า ไม่สนใจจับนางกนอย่าง
genus Photinus. Male Photinus drawn to these fl ashes are captured and Imitating the fl ash pattern of
เมื่อโพทินุสตัวผู้บินเข้าหาแสงกะพริบก็จะถูก “นางมารร้าย” โพทูริสจับกิน
eaten by these “femme fatale” Photuris fi refl ies. another genus, Photinus, those
ู
ั
ทนางทากบโพทนสตวผ้ พดก ็
ุ
ิ
่
ี
�
ู
ั
female Photuris lie in wait for a
smaller Photinus male. And when he shows up, he gets eaten. In the process, the ี
�
ั
คือ..บางคร้งการทาช่วก็กลับได้ด
ั
female Photuris gets not only a tasty snack but also a dose of a steroid called lucibufagin,
which will discourage jumping spiders from extending a similar courtesy to her.
บางทีตัวอย่างการหลอกลวงท่เป็นท่รู้จักกันดีท่สุดในโลกของสัตว์อาจคือ “การ
ี
ี
ี
Sometimes crime pays.
ฝากไข่” ซึ่งพบได้ทั่วไปในหมู่นกทั้งหลาย การฝากไข่พบได้ในนกห้าตระกูลที่ไม่
Perhaps the most famous example of deception in the animal world is the “brood
เกี่ยวข้องกัน แต่ที่โดดเด่นเป็นพระเอกส�าหรับนิสัยที่ไม่ค่อยดีนี้คือ กาเหว่ายุโรป
parasitism” that is remarkably common among birds. It is independently found in fi ve
(European cuckoo) โดยนกกาเหว่าตัวเมียจะวางไข่ในรังของนกอื่น ไข่ที่วางมี
different bird families, though the poster child for this bad habit is the common
European cuckoo. A female cuckoo will lay an egg in another bird’s nest that very closely ี ่
ึ
ลักษณะคล้ายกันมากกับไข่ของนกเจ้าของรัง ท่น่าท่งคือ กาเหว่ายุโรปเจ็ดชนิดท
ี
resembles the ones laid by the host. Amazingly, seven different variants of European
มีไข่สีไม่เหมือนกันมีความสามารถพิเศษในการเลือกวางไข่ในรังของนกอื่นที่มีไข่
cuckoo, producing different-colored eggs, specialize in parasitizing seven different
kinds of host that range from warblers to wagtails.
เหมือนกับของตนเจ็ดชนิด ซึ่งมีตั้งแต่นกกระจิบถึงนกเต้าลม
Sometimes a male cuckoo will attempt to lure a prospective victim out of her nest so
ื
บางคร้งกาเหว่าตัวผู้จะพยายามล่อนกเป้าหมายออกจากรังเพ่อให้คู่ของมันแอบ
ั
that his mate can sneak in to lay her egg. If it is not ejected right away from the host’s
nest, that egg will incubate faster than the rest and the cuckoo chick will mature more
เข้าไปวางไข่ ซึ่งหากไข่นั้นไม่ถูกนกเจ้าของรังเขี่ยทิ้งไปทันที มันจะฟักตัวเร็วกว่า
quickly than the host’s own. Once hatched, it will do its best to dispatch the competition
ไข่ฟองอื่น ท�าให้ลูกนกกาเหว่าโตเร็วกว่าลูกๆ ของเจ้าของรัง ลูกนกกาฝากนี้จะ
and to monopolize the food provided by the unsuspecting foster parents. The cuckoo
parents can meanwhile relax, relieved of the responsibility of raising their youngsters. ี ่
ั
ื
ทาตัวเป็นมาเฟียแย่งชิงอาหารท้งหมดจากลูกนกตัวอ่นๆ ทันทีท่ออกจากไข่ โดยท
ี
�
2
พ่อแม่อุปถัมภ์ของมันไม่สงสัยแม้แต่น้อย ส่วนกาเหว่าพ่อแม่ท่แท้จริงน้น หลัง
ี
ั
จากโยนภาระเลี้ยงลูกน้อยไปให้นกอื่นแล้ว ก็ใช้ชีวิตชิลๆ อย่างสบายอกสบายใจ
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 2 31/10/17 9:51 am
18
หากแบคทีเรียและนกมีนิสัยหลอกลวงแล้ว คงไม่น่าประหลาดใจท่วานร (primates)
ี
ึ
�
ก็ทาเช่นกัน แม้จะยังไม่มีรายงานของการหลอกลวงในหมู่ลีเมอร์และลิงลมซ่งจัดเป็น
วานรระดับล่าง แต่วานรระดับ “สูงกว่า” หรือเหล่าญาติโยมที่ใกล้ชิดกับมนุษย์
ั
เรามากกว่าน้นล้วนมีพฤติกรรมหลอกลวงพล่านอยู่ในสายเลือด ตัวอย่างเช่น ลิง
ื
ึ
ี
ชิมแปนซีซ่งเป็นท่ทราบกันว่าจะปกปิดอาพรางเจตนาท่แท้จริงจากผู้อ่น โดยเฉพาะ
�
ี
If bacteria and birds are both into deception, then it is hardly surprising that primates
ี
่
�
ิ
ื
อย่างย่งเม่อตัวผู้ที่มีสถานะตาว่าพยายามจีบลิงสาวเจ้าเสน่ห์ต่อหน้าตัวผู้ท่เป็นจ่าฝ
do it, too. Actually, cheating hasn’t been reported yet among the lemurs and lorises, the ูง
so-called lower primates. But among our closer relatives, the “higher” primates, misleading
มีรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ชิมแปนซีตัวหนึ่งได้พยายามปกปิดความตั้งใจของมันจาก
behaviors are rampant. Chimpanzees, for example, are well known for hiding their real
intentions from others, especially when such dissimulation involves a lower-status
ิ
มนษยดวย โดยชมแปนซตวผนามซานตโน ซงมนวาสสถานอยในสวนสตวฟรวกของ
ู
ุ
้
์
ี
ี
ิ
ึ
่
ู
ิ
ั
้
ิ
์
ั
ู
ู
่
male who is trying to woo an attractive female within view of a dominant male.
สวีเดนได้เริ่มมีนิสัยเก็บหินมาซ่อนไว้หลังขอนไม้และกองฟาง จุดประสงค์ของมันก็
Recently a chimpanzee has been reported hiding its intentions from humans, too. A
คือเอาไว้ขว้างผู้มาเยือนสวนสัตว์ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่และไม่ทันระวังตัว
male chimpanzee named Santino, resident at Sweden’s Furuvik Zoo, has now apparently
gotten in the habit of hiding stones behind logs and hay piles, and then later suddenly
สดท้าย การศึกษาเม่อไม่กปีก่อนได้แสดงให้เห็นว่า ความถในการหลอกลวงของวานร
่
ี
ี
่
ื
ุ
snatching one and throwing it at an unsuspecting visitor.
สปีชีส์ต่างๆ สามารถคาดเดาได้จากขนาดของนีโอคอร์เท็กซ์ (neocortex) หรือ
Finally, a study some years ago showed that how often individuals of a primate species
เปลือกสมอง อันเป็นวิวัฒนาการล่าสุดในหมู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ด้วยเหตุนี้มนุษย์
typically deceive one another is accurately predicted by how big the brain’s neocortex
is in the species concerned. This is a measure that places us way ahead of chimpanzees.
เราจึงมีความสามารถในการหลอกลวงถี่กว่าชิมแปนซีมาก เราเตือนคุณแล้วนะ
You have been warned.
ประมาณร้อยละ 1 ของนก (100 สปีชีส์) จะแอบเข้าไป “ฝากไข่” ในรังนกอื่น ซึ่งหากไม่ถูกนกเจ้าของรัง
About 1 percent (around 100 species) of birds resort to “brood parasitism” by sneaking an egg into
a host’s nest. If it is not ejected right away, that egg will incubate faster than the rest, and the chick
เข่ยท้งแต่แรก ไข่ฝากจะฟักและโตเร็วกว่าลูกของนกเจ้าของรัง นกเจ้าของรังบางตัวสามารถจับได้ว่าลูกนก
ี
ิ
will mature more quickly than the host’s own. Some hosts have learned to recognize “foster” chicks
ั
ตัวใดเป็น “กาฝาก” โดยสังเกตจากจุดในปาก และจะให้อาหารมันน้อยกว่าลูกจริง ดังน้นลูกนกพิน
by the spots inside their mouths, in what is known as “gape pattern recognition,” and will feed them
less than their own offspring. In response, parasitic pin-tailed whydah chicks (left) have evolved spots
เทลด์ไวดาร์หางจุด (pin-tailed whydah) (ซ้าย) จึงวิวัฒน์จุดในปากแบบเดียวกับลูกนกคอมมอนแว็กซ์
that closely mimic those of the host common waxbill chick (right).
บิล (common waxbill) (ขวา) ซึ่งเป็นเจ้าของรัง 3
19
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 3 31/10/17 9:51 am
จดหมายเขียนโดยเซอร์ไอแซค นิวตัน
The letter written by Isaac Newton in which
he predicted the world would end in 2060.
ท�านายว่าโลกจะสิ้นสุดในปี 2060
4
20
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 4 31/10/17 9:51 am
ี
2. วันสิ้นพิภพ 2,800 ปก่อนคริสต์ศักราช
วันสิ้นสุดของโลก
ที่เรารู้จัก
ห ากคุณเหมือนเราสองคน คุณคงเคยเห็นการ์ตูนล้อเลียนที่มีภาพคนถือ
ิ
ป้าย จงกลับใจเสีย เพราะวันส้นพิภพใกล้มาถึงแล้ว มากกว่าเคยเห็นคน
ยืนถือป้ายแบบนั้นจริงๆ กระนั้นค�าท�านายนี้ก็ยังติดแน่นฝังลึกอยู่ใน
ั
ื
วัฒนธรรมมนุษย์ โดยมีหลักฐานว่ามันมีมาต้งแต่มนุษย์เร่มจดบันทึกถึงความเช่อ
ิ
ั
ุ
และความกลวในชะตากรรมของตนและของมนุษย์ทกคน จารึกบนแผ่นดินเหนียวของ
ชาวอัสซีเรียซึ่งมีอายุย้อนหลังไปถึง 2800 ปีก่อนคริสต์ศักราชบอกว่า “โลกของเราได้
เริ่มพังทลายลงในพักหลังมานี้ นี่คือสัญญาณว่าโลกก�าลังจะสิ้นสุดลงในเร็ววัน”
ชาวคริสต์ในยุคแรกๆ โอบรับความคิดดังกล่าวน้อย่างจริงจัง จากประกาศของพระเยซ ู
ี
ิ
�
ท่ว่า โลกมนุษย์กาลังจะส้นสุดลง และแผ่นดนสวรรค์ของพระเจ้าจะเข้ามาแทนท ่ ี
ิ
ี
�
ดูเหมือนว่าในตอนแรกพวกเขาพากันคาดว่าหายนะกาลังรออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่แล้ว
ราวปลายศตวรรษที่หนึ่งก็มีหลักฐานบ่งบอกถึงความกังขาว่า “แต่วันนั้น โมงนั้น ไม่มี
ใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว” (มัทธิว 24:36)
็
ื
ี
้
ดเหมอนเหล่านกเทววทยาหลงจากนนจะเหนว่าความไม่แน่นอนนคอความท้าทายท ่ ี
ั
ื
ู
้
ั
ิ
ั
จะต้องระบุให้แน่ชัด ในปี ค.ศ. 365 นักเทววิทยานามฮิลารีแห่งปัวติเยได้หวนกลับไป
ยังประกาศดั้งเดิมว่าวันสิ้นโลกก�าลังใกล้เข้ามาเต็มที ทว่าไม่ระบุชัดว่าเมื่อใด อย่างไร
ก็ตาม เหล่านักเทววิทยารุ่นต่อๆ มาต่างพากันดาหน้าออกมาฟันธงว่าวันสิ้นโลกจะมา
ถึงในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1000 หรือหนึ่งคริสต์สหัสวรรษพอดี แม้วันดังกล่าวได้ผ่าน
ไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าการระบุวันสิ้นพิภพที่แน่นอนก็ยังเป็นที่นิยม
21
ข้อความกระท่อนกระแท่นจากมหากาพย์กิลกาเมช ท่จารึกอยู่บนแผ่นดินเหนียวของชาวอัสซีเร
This Assyrian clay tablet bearing the Epic of Gilgamesh, dated to 2800 BC, reads in part: ีย อาย ุ
ี
“Our Earth is degenerate in these later days; there are signs that the world is speedily coming
2800 ปีก่อนคริสต์ศักราช “โลกของเราได้เริ่มพังทลายลงในพักหลังมานี้ มีสัญญาณต่างๆ ที่บอกว่า
to an end; bribery and corruption are common; children no longer obey their parents; every man
โลกก�าลังจะสิ้นสุดลงในเร็ววัน การติดสินบนและฉ้อราษฎร์บังหลวงจะเกิดขึ้นไปทั่ว บุตรจะไม่เชื่อฟัง
wants to write a book and the end of the world is evidently approaching.”
บิดามารดา ทุกคนต่างต้องการเขียนหนังสือและวันสิ้นโลกก�าลังจะใกล้เข้ามาอย่างเห็นได้ชัด”
the Christian millennium. Despite the disenchantment that must have followed when the
�
magic date passed uneventfully, specifi c dates remained in vogue.
แม้แต่มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นาศาสนานอกคอกท่ปฏิเสธพระธรรมวิวรณ์ อันเป็น
ี
ื
หนังสือเล่มสุดท้ายในพระคัมภีร์ไบเบิลและเป็นต้นตอยอดนิยมของความเช่อ
Even the iconoclastic Martin Luther—who rejected the Book of Revelation, a favorite
ิ
ึ
ี
source of such apocalyptic embellishments as the Rapture, as “neither apostolic nor
เร่องวันส้นพิภพและการรับตัวข้นสู่สวรรค์ว่า “ไม่เก่ยวกับการเผยแผ่ศาสนา
ื
prophetic”—expected that the world would end on October 9, 1538. When that failed
หรือการพยากรณ์” ก็ยังฟันธงว่าวันสิ้นโลกคือวันที่ 9 ตุลาคม 1538 ซึ่งเมื่อโลก
to occur, he revised the date to 1600, by which time he was comfortably dead and
immune from disappointment.
ยังอยู่ดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาได้เปลี่ยนใหม่เป็นปี 1600 แต่เมื่อถึงปีนั้นเขาได้
เสียชีวิตไปนานแล้ว ไม่ต้องรับรู้ความผิดหวังใดๆ อีก
Given the amazing variety of the things that people are manifestly prepared to believe,
it is maybe not too surprising that ancient Assyrians and medieval theologians should
have bought into apocalyptic predictions. Who knows? They might in the long run even
จากการที่คนเราพร้อมที่จะเชื่อเรื่องสารพัดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ จึงไม่น่าแปลกใจ
be right, though we shall have to wait and see. More disconcerting is that Sir Isaac
Newton, the very embodiment of the Age of Reason that saw the birth of modern
เท่าใดนักท่ชาวอัสซีเรียโบราณและนักเทววิทยาในยุคกลางจะพากันเช่อเร่อง
ื
ื
ี
science, stood right there alongside them. For it seems that the inventor of celestial
6 วันสิ้นพิภพ..แต่ก็เถอะ ใครจะไปรู้ ลงท้ายแล้ว มันอาจจะจริงก็ได้ รอดูกันต่อไป
ก็แล้วกัน
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 6 31/10/17 9:51 am
22
ื
ั
ั
�
้
ุ
ั
ี
็
่
ั
ุ
ุ
ทชวนให้สบสนไปกว่านนกคอ เซอร์ไอแซค นวตน บคคลสาคญของยคแห่งเหตผล
ิ
อันเป็นยุคท่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ถือกาเนิดข้นก็ยังยืนเคียงข้างพวกเขา ดูเหมือนผู้
ี
ึ
�
คิดค้นกลศาสตร์ท้องฟ้าและแคลคูลัส ผู้เขียนหนังสือหลักคณิตศาสตร์ พรินซิเปีย
mechanics and calculus, the author of the magisterial Principia Mathematica, was also
a very literal believer, convinced that biblical prophecy was “no matter of indifferency,
แมทธีมาติกา (Principia Mathematica) ก็เชื่อเรื่องนี้ด้วย โดยบอกว่าค�าพยากรณ์
but a duty of the greatest moment.”
ในคัมภีร์ไบเบิล “มิใช่เรื่องที่จะเพิกเฉย แต่เป็นหน้าที่ที่มีความส�าคัญยิ่งยวด
For Newton, scriptural prophecies were “histories of things to come,” albeit written in
ส�าหรับนิวตันแล้วค�าพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลคือ “ความเป็นมาของสิ่งที่จะเกิดขึ้น”
arcane symbolic language requiring expert interpretation that he was happy to supply.
After years of effort he calculated that the world would end some 1,260 years after the
ี
ี
แม้จะเขียนเป็นภาษาสัญลักษณ์ท่ลึกลับ ต้องตีความโดยผู้เช่ยวชาญก็ตาม..แต่เขาก ็
foundation of the Holy Roman Empire, a period that would see us through to AD 2060.
ิ
ี
“It may,” he wrote in 1704, “end later, but I see no reason for its ending sooner.” So by
ี
ยินดีอย่างย่งท่จะรับหน้าท่น้ หลังจากทุ่มเทกับการคานวณนานหลายปี นิวตันได้
�
ี
the calculations of one of the most outstanding scientists of all time, many of us, at
ระบุว่าโลกจะส้นสุดลงในราว 1,260 ปีหลังการก่อต้งอาณาจักรโรมันอันศักด์สิทธ์หรือ
ิ
ิ
ั
ิ
least, can rest easy.
ปี ค.ศ. 2060 “มันอาจสิ้นสุดลงหลังจากนั้นก็ได้” เขาเขียนในปี 1704 “แต่ข้าพเจ้า
Interestingly, Newton made his conjecture “not to assert when the time of the end shall be,
�
ไม่เห็นเหตุผลใดๆ ว่าจะส้นสุดก่อนหน้าน้น” จากการคานวณของนักวิทยาศาสตร์
ั
ิ
but to put a stop to the rash conjectures of fanciful men who are frequently predicting
[it], and by doing so bring the sacred prophesies into discredit as often as their
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลนี้ อย่างน้อยพวกเราหลายคนคงนอนหลับได้อย่างสบายใจ
predictions fail.”
ี
�
ท่น่าสนใจคือ การทานายถึงวันส้นพิภพ
ิ
Not that this sage objective was achieved.
ของนิวตัน “มิได้เพื่อระบุเวลา แต่เพื่อ
For example, closer to our own times,
the radio evangelist Harold Camping
หยุดการคาดเดาโดยปราศจากการ
predicted in 1992 that the Rapture
(when, roughly at the time of Christ’s
ไตร่ตรองอย่างถ่ถ้วนของพวกเพ้อเจ้อ
ี
Second Coming, believers living and
ื
ี
ึ
�
ซ่งมักจะพากันทานาย (เร่องน้) และ
dead would be raised up to join the
Lord in the clouds, while the rest of us
ทาให้คาพยากรณ์อันศักด์สิทธ์หมด
ิ
ิ
�
�
would be consumed by earthquakes
�
ื
�
ื
ความน่าเช่อถือลงเม่อคาทานายของ
and plagues: blame Revelation again)
would probably occur on September 6,
พวกเขาปรากฏว่าไม่ถูกต้อง”
1994. Undeterred by the failure of this
happening to take place on schedule, สาธุคุณแฮโรลด์ แคมปิงทานายทางสถานีวิทยุแฟมิลี เรดิโอ
�
ั
ั
ุ
ิ
On his Family Radio network, Harold Camping predicted Jesus would
้
็
ิ
อย่างไรกตาม นวตนมอาจหยดยง เน็ตเวิร์กของเขาว่า พระเยซูจะเสด็จกลับมายังโลกอีกคร้งในวันท ่ ี
he revised his prediction for the Rapture
ั
return to Earth on May 21, 2011, followed by fi ve months of fi re,
to May 21, 2011, with the actual end of
brimstone, and plagues that would culminate in the end of the entire
ี
การทานายเก่ยวกับเร่องน้ได้อยู่ดี ยก 21 พฤษภาคม 2011 จากนั้นไฟ ก�ามะถัน และโรคระบาดจะเผา
�
ื
ี
the world to follow fi ve months later, on universe on October 21, 2011. At age ninety-two, Camping met his
�
own end on December 15, 2013, with Earth still intact.ักรวาล
ตัวอย่างท่ใกล้ตัวพวกเราหน่อยก็คือ ผลาญทาลายโลกและคร่าชีวิตเป็นเวลาห้าเดือน ยังผลให้จ
ี
October 21.
สาธุคุณแฮโรลด์ แคมปิง ผู้ประกาศ สิ้นสุดลงในวันที่ 21 ตุลาคม 2011 สุดท้ายชีวิตของแคมปิงเองสิ้น
สุดลงในวันที่ 15 ธันวาคม 2013 ในวัย 92 ปี แต่โลกยังคงอยู่ต่อไป
Events, or the lack thereof, eventually forced Camping to “humbly acknowledge we
ื
�
ศาสนาช่อดังทางวิทยุได้ทานายในปี
were wrong about the timing.” But meanwhile, he and his associates had pocketed
millions of dollars in donations to his Family Radio stations. Camping declined to return
1922 ว่า การรับตัวขึ้นสู่สวรรค์ (ซึ่งจะเกิดขึ้นใกล้กับการเสด็จมายังโลกเป็นครั้งที่ 2
these donations after his prognostications failed to turn out as advertised, allegedly
�
ึ
ี
ของพระเยซู โดยผู้ท่เช่อในพระเจ้าไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือตายแล้วจะได้รับการนาข้น
ื
remarking, “We’re not at the end. Why would we return it?” Sadly, aggressive publicity
directed at the 200 million souls he had expected to save incurred signifi cant cost
สู่ท้องฟ้าเพ่อไปอยู่กับพระเจ้า ส่วนท่เหลือจะถูกแผ่นดินไหวและโรคระบาดทาลาย
�
ื
ี
overruns, eventually forcing his network to sell off stations and lay off staff.
เสีย – อีกคร้งตามคาทานายของหนังสือวิวรณ์) น่าจะเกิดข้นในวันท่ 6 กันยายน 7
ึ
�
�
ั
ี
้
�
�
้
ื
่
่
ั
ั
1994 เมอไมมอะไรเกิดขนในวนดงกล่าว แคมปิงกยังไม่ลดละ และไดแกไขคาทานาย
ึ
็
ี
้
การรับตัวสู่สวรรค์เป็นวันที่ 21 พฤษภาคม 2011 โดยวันสิ้นโลกจะตามมาหลังจาก
นั้นห้าเดือน ในวันที่ 21 ตุลาคม
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 7 31/10/17 9:51 am
23
This discouraging experience is unlikely to end such ั ั
ึ
้
ี
ิ
ู
่
ึ
้
ิ
สงทเกดขน (น่าจะพดว่าไม่เกดขนมากกว่า) บงคบ
่
ิ
predictions, especially in an age when an all-too-
ให้แคมปิงต้องออกมา “ขอยอมรับด้วยความถ่อมตนว่า
probable meltdown of the Internet could potentially
have even more disastrous consequences for human-
เราคาดเวลาผิดไป” ทว่าระหว่างน้น เขาและพรรคพวก
ั
kind than any number of apocalyptic Horsemen.
�
ได้รับเงินบริจาคหลายล้านเหรียญสาหรับสถานีวิทย
But why, after so many disappointments, do so ุ
many people continue to devour them?
ี
ี
และได้ปฏิเสธท่จะคืนเงินบริจาคหลังจากท่ส่งต่างๆ
ิ
้
ี
่
�
�
่
้
่
็
ไมไดเปนไปตามคาทานายอยางทโฆษณาดวยเหตผลท
The theologian Lorenzo DiTommaso suggests that ุ ่ ี
such beliefs fl ourish when problems loom in the
ว่ากันว่า “วันสิ้นพิภพยังมาไม่ถึงเท่านั้น ท�าไมต้องคืน
material world (as they almost invariably do) and
ี
ด้วย” โชคร้ายของแคมปิงท่การประกาศศาสนาเพ่อ
people feel pressured by circumstances. They ื
come, he suggests, from the desire to reconcile
ช่วยชีวิตคนกว่า 200 ล้านให้พบทางรอดมีค่าใช้จ่าย
two confl icting beliefs: that there is something
สูงเกินกว่าจะรับไหว ท�าให้เขาต้องขายสถานีวิทยุและ
disquietingly wrong with modern human existence,
and that there are nonetheless grounds for hope.
ลอยแพพนักงานในที่สุด
The idea that we are hurtling toward some kind of
“cosmic correction” is balanced by the promise of
�
ดูเหมือนความล้มเหลวท่เกิดข้นไม่ได้ทาให้คน
ึ
ี
salvation, so that “the God of apocalypticism is a
God of order, not chaos.” And if DiTommaso is
ี
ย่อท้อกับการทานายอะไรแบบน้ โดยเฉพาะในยุค
�
correct, the belief in apocalypse is as good an
ื
ี
น้ ท่หากอินเตอร์เน็ตล่มสลายเม่อไร ความเสียหาย
ี
example as you will fi nd of the cognitive dissonance
that seems to characterize the human condition
ต่อมนุษยชาติจะรุนแรงย่งกว่าการท่อาชาแห่งวัน
so profoundly. ิ ี
ั
ี
�
โลกาวินาศจะตะบึงมาท้งฝูงเสียอีก ท่แปลกก็คือทาไม
ี
ื
ั
ื
ี
เราจึงพร้อมจะเช่อเร่องน้กันนักท้งๆ ท่ก็ปรากฏแล้วว่า
ค�าท�านายได้ผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า
Millions logged on to Internet conspiracy
sites alarmed that a 5,126-year Mayan cycle
concluding on December 23, 2012, would
นักเทววิทยาลอเรนโซ ดิทอมมาสโซให้เหตุผลว่า คน
mark the end of the world as we know it.
The Dresden Codex, several pages of which ี
ื
เราจะพากันเช่อเร่องแบบน้ในยามท่โลกมีปัญหามากๆ
ี
ื
are shown here, contains astronomical and
astrological tables used to calculate this ู ู
ี
ู
็
(ซงโลกของเรากมปัญหาอย่ตลอดอย่แล้ว) และถก
่
ึ
cycle. This codex is one of only three Mayan
codices that survived out of an estimated fi ve
สถานการณ์ต่างๆ กดดัน มันมาจากความต้องการ
thousand; the rest were destroyed by Spanish
ี
ื
ผนวกรวมความเช่อสองอย่างท่ขัดแย้งกัน น่นก็คือ
religious authorities in the sixteenth century. ั
ื
ี
ี
คนนับล้านท่เข้าไปในเว็บไซต์ลวงโลกพากันต่น ชีวิตมนุษย์ทุกวันน้มีบางอย่างท่ผิดมาก แต่ก็ยังม ี
ี
ี
ตระหนกว่าโลกจะถึงกาลอวสานในวันท่ 23 อะไรท่มีความหวัง ความคิดท่ว่าเรากาลังจะต้องถูก
ี
ี
�
ื
ิ
ธันวาคม 2012 เม่อส้นสุดวงจร 5,126 ปีของชาว
ั
ี
มายา ในเดรสเดนโคเด็กซ์ (Dresden Codex) “ลงโทษคร้งใหญ่” อย่างไม่มีทางเล่ยงถูกถ่วงดุลโดย
ื
ี
ม้วนคัมภีร์โบราณของชาวมายา หลายหน้าใน สัญญาของการช่วยให้รอด เพ่อท่ว่า “พระเจ้าของ
8
ภาพน้มีตารางดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ซ่งใช้ การส้นโลกคือพระเจ้าของความมีระเบียบไม่ใช่ความ
ี
ึ
ิ
�
ในการคานวณวงจร โดยเป็นหน่งใน 3 คัมภีร์
ึ
ี
โบราณของชาวมายาท่เหลือรอดมาจากการ วุ่นวาย” หากดิทอมมาสโซถูก ความเชื่อเรื่องการสิ้น
ี
ึ
31/10/17 9:51 am
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 8 พิภพก็เป็นตัวอย่างท่ดีตัวอย่างหน่งของความขัดแย้ง
ท�าลายของสเปนในศตวรรษที่ 16 จากที่คาดว่า
ึ
มีทั้งสิ้นราว 5,000 ม้วน ในกระบวนการรู้คิด (cognitive dissonance) ซ่งด ู
เหมือนจะเป็นลักษณะส�าคัญหนึ่งของมนุษย์
24
3. นาวาศาสตร์จอมปลอม 275 ปก่อนคริสต์ศักราช
ี
เรือของโนอาห์
นาวาที่สุดสายรุ้ง
ม นุษย์มีประสบการณ์จากัด ซ่งเป็นเหตุผลว่าทาไมประวัติศาสตร์จึงม ี
�
�
ึ
เหตุการณ์ในท�านองเดียวกันปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า หนึ่งในอุปมา
ี
ื
ี
ท่เป็นท่กล่าวขานกันมากท่สุดในวัฒนธรรมตะวันตกคือเร่องโนอาห์
ี
้
�
และนาท่วมใหญ่ในคัมภีร์ไบเบิลซ่งมีความนัยชัดเจนว่า เป็นการไม่ฉลาดเลยหากมนุษย์
ึ
�
ื
จะด้อดึงขัดใจพลังอานาจท่อยู่เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม แม้พวกเราส่วนใหญ่จะผูกเร่องราว
ื
ี
ดังกล่าวน้กับหนังสือปฐมกาลและพระเจ้าของชาวยิว-คริสเตียน แต่ความจริงองค์
ี
ี
ื
ั
ประกอบต่างๆ ของเร่องน้มีมาต้งแต่ก่อนจะมีคัมภีร์ไบเบิล คือย้อนไปถึงยุคบาบิโลน
ั
้
และอาจจะไปไกลกว่าน้นด้วยซา..ทว่าไม่มีหลักฐานลายลักษณ์อักษรใดๆ ก่อนหน้าน้น
�
ั
มหากาพย์กิลกาเมชซ่งเขียนราว 1,500 ปีก่อนจะมีพระคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญา
ึ
ึ
เดิมบอกว่า.. บรรดาพระเจ้าท้งหลายซ่งหงุดหงิดกับความเจ้าเล่ห์เพทุบายของมนุษย์
ั
ได้ตัดสินใจขจัดมนุษย์ให้สิ้นซากด้วยการให้น�้าท่วมตายให้หมด แต่ก่อนจะลงมือได้มา
�
เข้าฝันชายนามอัทนาพิชติม และบอกให้เขาต่อเรือมีหลังคาตามขนาดท่ระบุ แล้วนา
ี
“เมล็ดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด” มาไว้บนเรือ
�
ื
ี
เร่องน้แทบจะเหมือนกันเป๊ะกับเร่องของโนอาห์กับนาท่วมโลกในคัมภีร์ไบเบิล แม้ช่อ
ื
้
ื
�
ั
้
�
พระเอกจะออกเสียงยากไปหน่อยก็เถิด อย่างไรก็ตาม ตานานเร่องนาท่วมท้งสองก ็
ื
ี
เหมือนกันมากพอท่จะอนุมานได้ว่ามาจากแหล่งเดียวกัน หรือไม่เร่องหลังก็ขโมยพล็อต
ื
จากเรื่องแรกมาตรงๆ เลยก็ได้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวนี้มีพลังพอที่จะเกาะติด
และกระตุ้นสองความเชื่ออันขัดแย้งกันในจิตใต้ส�านึกของมนุษย์
25
The fi rst of these is the desire to believe in a truth revealed by a higher power. The
ื
ื
ี
ื
ี
The 16,854-foot-
ภูเขาอรารัต ความเช่อแรกก็คือ ความปรารถนาท่จะเช่อในความจริงท่เบ้องบนเผยให้รู้ ส่วน
high Mount Ararat,
second, presumably based in doubt at least as much as in the underlying faith, is a
สูง 16,854 ฟุต ความเชื่อที่สอง น่าจะมาจากความกังขาที่มีพอๆ กันกับความเชื่อแรก ซึ่งก็คือ
located in eastern
Turkey close to
ทางตะวันออกของ thirst to fi nd some kind of material evidence to back up such convictions. Hence the
regular reports in the press that someone has found defi nitive evidence of Noah’s Ark,
้
้
the borders of
ตุรกีใกล้พรมแดน ความกระหายที่จะหาหลักฐานที่จับตองไดเพื่อสนับสนุนความเชื่อนี้ ดังนั้นจึง
perched somewhere up on “the mountains of Ararat” as reported in Genesis. Today Mount
Iran, Armenia,
ื
้
์
ู
้
ั
์
ื
็
ี
ื
and Azerbaijan.
Ararat is located in far eastern Turkey, though it was more anciently in the territory of
อิหร่าน อาร์เมเนีย ปรากฏเปนข่าวในหนงสอพิมพอย่เสมอว่า มผูพบหลักฐานของเรอโนอาหเกยตน
It is reported in
Greater Armenia.
และอาเซอร์ไบจัน อยู่ท่ไหนบางแห่งของ “เทือกเขาอรารัต” ตามท่ระบุไว้ในหนังสือปฐมกาล
ี
the Old Testament
ี
to be the fi nal
ซึ่งในพระคัมภีร์ “Arkeology,” the search for physical traces of the Ark, has a long pedigree. Back in
resting place of
Noah’s Ark. As
ภาคพันธสัญญาเก่า ปัจจุบันภูเขาอรารัตที่ว่าตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของตุรกี โดยในยุคโบราณอยู่
275 BC the Babylonian historian Berossus recorded that “some parts [of the Ark] still
early as 275 BC
ระบุว่าเป็นที่พ�านัก ในดินแดนที่เรียกว่าเกรตเตอร์อาร์เมเนีย
remain in Armenia, and some get pitch from the ship by scraping it off.” Since then,
the Babylonian
historian Berossus
สุดท้ายของ numerous intrepid souls have set off in search of those remains, even though a stranded
reported on an ark
ี
ื
wooden vessel is highly unlikely to have survived thousands of years on the wind-and-
ิ
ั
ื
ั
เรือโนอาห์ ตั้งแต่ “นาวาศาสตร์” หรอการเสาะหาซากเรอโนอาห์มประวตความเป็นมาอน
in Armenia from
rain-swept fl anks of a 16,854-foot-high mountain. But the rate of investigation seems
which “some get
275 ปีก่อน ยาวนาน... ย้อนกลับไปใน 275 ปีก่อนคริสตกาล บีรอสซุส นักประวัติศาสตร์
to have increased sharply with the advent of TV, and its thirst for sensational material.
pitch from the
คริสต์ศักราชก็มี
ship by scraping it
off, and use it for ชาวบาบิโลนบันทึกไว้ว่า “บางส่วน (ของเรือยักษ์) ยังคงอยู่ในอาร์เมเนีย บาง
รายงานโดย In 1949 a Bible college professor called Aaron J. Smith, upset with what he saw as
amulets.”
widespread disbelief in the Bible, organized a large-scale expedition to Mount Ararat
บีรอสซุส นัก ส่วนถูกเลาะออกไป” นับแต่นั้นเป็นต้นมาเหล่าผู้กล้าได้พากันออกตามหาซาก
with the avowed intent of proving the Good Book true. Alas, after following up on various
ึ
ี
ประวัติศาสตร์ เรือที่ว่า แม้มีความเป็นไปได้อย่างมากท่เรือซ่งสร้างจากไม้ไม่น่าจะทนลมทน
local myths he found no trace of the Ark. Undeterred, in the subsequent sixty years at
ชาวบาบิโลนแล้วว่า ฝนอยู่บนสันของภูเขาที่มีความสูง 16,854 ฟุตมาได้หลายพันปีก็ตาม กระนั้น
least one hundred different expeditions have also tried, many spurred by the identifi cation
10 มีเรือยักษ์ใน ดูเหมือนจานวนผู้ออกไปเสาะแสวงจะพุ่งขึ้นอีกหลังจากท่มีการประดิษฐ์
ี
�
อาร์เมเนียโดย
“บางส่วนถูกถาก โทรทัศน์ซึ่งท�าให้ความกระหายในเรื่องราวผจญภัยที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นตามมา
ออกไปเพื่อใช้เป็น
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 10 31/10/17 9:51 am
เครื่องรางของขลัง” ในปี 1949 ศาสตราจารย์ของวิทยาลัยที่สอนเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลผู้หนึ่งนาม
ิ
แอรอน เจ.สมิธ เกิดหงุดหงิดกับส่งท่เขามองว่าคือการขาดซ่งความศรัทธา
ึ
ี
ในคัมภีร์ไบเบิล ดังนั้นเขาจึงจัดคณะส�ารวจขนาดใหญ่มุ่งสู่ภูเขาอรารัต โดย
ประกาศความตั้งใจว่าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่ไบเบิลพูดถึงเป็นความจริง ทว่า
�
หลังจากออกเดินทางค้นหาตามตานานเร่องเล่าในท้องถ่นก็ยังไม่พบร่องรอย
ิ
ื
ใดๆ ของเรือ กระนั้น ความล้มเหลวนี้มิได้ท�าให้คนย่อท้อ ในอีก 60 ปีต่อมายัง
26
�
ึ
ี
มีคณะสารวจอีกอย่างน้อยหน่งร้อยคณะท่พยายามค้นหาซากเรือดังกล่าว โดยหลายคณะได้แรง
บันดาลใจจากส่งท่ “มีรูปร่างเหมือนเรือ” บนสันเขาในภาพถ่ายทางอากาศและดาวเทียม แต่ผล
ิ
ี
ี
ื
ื
ึ
การสารวจไม่ได้มีอะไรท่น่าประทับใจ (รายงานสารวจหลายฉบับเป็นเร่องท่ชาวเคิร์ดกุข้นเพ่อ
ี
�
�
of “boat-shaped” features on aerial photos and satellite images of the mountain’s slopes.
ึ
�
หาเงิน) นักวิชาการบางคนได้เปล่ยนไปสารวจภูเขาสุไลมานในอิหร่าน ซ่งอยู่ทางใต้ของทะเล
ี
So unimpressive were the results (many reports turned out to be profi table hoaxes by
คาสเปียนแทน แต่ก็คว้าน�้าเหลวเช่นกัน
local Kurds) that some scholars shifted the focus of their exploration to Mount Suleiman
in Iran, on the south side of the Caspian Sea. Once more, to no avail.
ี
�
ี
ื
อย่างไรก็ตาม ในท่สุดก็มีเร่องท่ทาให้พวกโทรทัศน์เห็นว่ามีสาระน่าเล่น.. ในปี 1993 สถานีโทรทัศน์
But finally a story came along that the TV people could really get their teeth into. In 1993
ซีบีเอสได้ออกอากาศสารคดีช่อ The Incredible Discovery of Noah’s Ark (การค้นพบ
ื
the CBS network aired a purported documentary titled The Incredible Discovery of
เรือของโนอาห์ท่น่าอัศจรรย์) ตัวเอกในสารคดี - จอร์จ จัมมาล นักแสดงตกงานบอกผู้ชมว่าเขาได้ไป
ี
Noah’s Ark. This starred George Jammal, an out-of-work actor who told the national TV
ื
้
�
ี
ั
ี
้
ี
ท่ภูเขาอรารัตเพ่อค้นหาเรือโนอาห์สามคร้ง และในท่สุดก็ได้พบถ�านาแข็งท่สันเขาด้านบน ข้างใน
audience that he had visited Ararat three times in search of the Ark, finally finding it in
ึ
เรือไม้ขนาดใหญ่ท่ห่อหุ้มด้วยนาแข็งน้ก้นเป็นคอกสัตว์และเขาได้จามไม้ออกมาช้นหน่งเพ่อไว้เป็น
ิ
ี
ั
้
�
ื
ี
an ice cave on the mountain’s upper slopes. As Jammal described it, the interior of this
large icebound wooden vessel was divided into animal pens, and he had hacked off
ื
หลักฐานว่ามันมีอยู่จริง หลักฐานอ่นๆ นอกจากน้นเขาได้ถ่ายภาพเก็บไว้ แต่น่าเสียดายท่ช่างภาพ
ั
ี
from it a piece of wood as proof of its existence. The other proof was going to be
พลัดตกลงไปในซอกเขาหลังจากพบเรือไม่นาน และไม่สามารถกู้ร่าง (และกล้องถ่ายรูป) ข้นมาได้
ึ
photographic; but alas, Jammal’s photographer fell into a crevasse soon after the Ark
เร่องท่จัมมาลเล่าน้ฟังดูช่างเบาหวิว และผู้ผลิตรายการน่าจะพิจารณารอบคอบกว่าน้เม่อเห็นช่อ
ื
ี
ี
ี
ื
ื
was discovered, and his body (and camera) were never recovered. This story was razor thin
at best, and the show’s producers might productively have listened more carefully to the
“อเชาเลียน” และ “อัลลิส บัล ฮิตเตียน” ผู้ช่วยชาวอาร์เมเนียนของจัมมาล
names of Jammal’s local Armenian collaborators: “Mr. Asholian” and “Allis Buls Hittian.”
ี
กระน้นก็ตาม จัมมาลยังคงเป็นพระเอกในสารคดีท่ออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์และยังได้นาไม้
�
ั
Nonetheless, Jammal was the centerpiece of the prime-time program, theatrically
ที่ “มีค่ายิ่ง..เป็นของขวัญจากพระเจ้า” มาอวดผู้ชม นอกจากฝีมือการแสดงอันเยี่ยมยอดแล้ว
showing off his piece of wood as “precious—and a gift from God.” His stellar performance
จัมมาลยังมี “ผู้เชี่ยวชาญ” สนับสนุนเขาอีกเป็นขบวน แต่ละคนต่างมีเหตุผลยืนยันซึ่งอัศจรรย์
มหากาพย์ กิลกาเมชบอกว่าบรรดาพระเจ้าได้ส่งน�้ามาท่วมโลก แต่ได้สั่งชายคนหนึ่งชื่อ อัทนาพิชติม ให้สร้างเรือเพื่อความ
The Epic of Gilgamesh recounts how the gods sent a fl ood to destroy Earth, but instructed one
อยู่รอดของตัวเอง ครอบครัว นกและสัตว์ชนิดต่างๆ นาท่วมอยู่หกวันก็ลด ปล่อยให้เรือเกยต้น ส่วนในหนังสือปฐมกาล
�
้
ื
man, Utnapishtim, to build a boat to save himself, his family, and birds and beasts of all kinds.
พระเจ้าทรงตัดสินใจส่งน�้าท่วมโลก แต่สั่งให้โนอาห์สร้างเรือ เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ครอบครัว และสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง
After six days, the waters abated and the ship was grounded. In the Book of Genesis, God
decided to fl ood Earth but instructed Noah to build an ark to save himself, his family, and two
อย่างละคู่ น�้าท่วมอยู่สี่สิบวันก็ลด ปล่อยให้เรือเกยตื้น
of every living thing. After forty days, the waters receded and the Ark was grounded. 27
11
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 11 31/10/17 9:51 am
เรือโนอาห์ขนาด
An ark built to
the dimensions
เท่าที่บรรยายใน
described in the
หนังสือปฐมกาลที่
Book of Genesis at
the Ark Encounter
สวนสนุกอาร์คเอน
theme park in
เคาน์เตอร์ ในเมือง
Williamstown,
Kentucky. What has
วิลเลียมทาวน์
been the motivation
รัฐเคนทักกี อะไร
for the endless and
fruitless expeditions
คือแรงกระตุ้นให้
to fi nd Noah’s Ark?
ผู้คนในอดีตจวบจน
Or Bigfoot, or the
Fountain of Youth,
ปัจจุบันพากันออก
or the Golden City
ค้นหาเรือโนอาห์
of El Dorado…what
are we looking for?
หรือบิ๊กฟุต หรือ
น�้าพุแห่งความเยาว์
วัย หรือเอลโดราโด
นครทองค�า.. พวก
เราพยายามตามหา
อะไรกันแน่
was backed up by a parade of “experts,” each of whom made more extravagant and
ื
ั
ี
ึ
พันลึกข้นเร่อยๆ ในตอนจบของสารคดีจับแพะชนแกะความยาวสองช่วโมงน้ ดาร์เรน แมคกาวิน
loopy claims than the last. The reverential host, Darren McGavin, summed up the whole
พิธีกรซึ่งเป็นที่นับหน้าถือตาได้กล่าวสรุปว่าทั้งหมดที่จัมมาลกล่าวอ้างนั้น “สนับสนุนเหตุการณ์
two-hour farrago by declaring that the claims “support the biblical story of the Deluge
in every detail.” Evangelicals applauded; skeptics harrumphed.
น�้าท่วมโลกในคัมภีร์ไบเบิลในทุกๆ รายละเอียด” เหล่าผู้เผยแผ่ศาสนาพากันปรบมือด้วยความ
ยินดี ขณะที่ผู้กังขาพากันส่งเสียงครางด้วยความกังขาต่อไป
Within a year of the airing, Jammal publicly announced that the entire Ararat episode
had been made up. He had never been anywhere near the mountain, and the allegedly
ancient wood was a scrap of local pine he had boiled and baked with every condiment
ึ
ี
ื
หน่งปีหลังสารคดีออกอากาศ จัมมาลประกาศยอมรับว่าเร่องท่ภูเขาอรารัตน้นเป็นเร่องกุข้นท้ง ั
ึ
ื
ั
he could fi nd in his kitchen. It reportedly smelled of teriyaki sauce, but the TV producers
ั
ั
ส้น ความจริงแล้วเขาไม่เคยเฉียดใกล้ภูเขาน่นเลย ส่วนเจ้าไม้โบราณน้นก็ถากจากต้นสนแถว
ิ
had declined to test its antiquity, as they had failed to fact-check everything else.
ิ
บ้าน เอามาต้มและอบในส่วนผสมต่างๆ ท่เขาหาได้จากในครัว มีรายงานว่าไม้น่นมีกล่นซอส
ั
ี
Jammal’s aim had, in his own words, been to expose the “propaganda” of the “radical
เทริยากิ และงานน้ผู้ผลิตรายการไม่ได้ใส่ใจพิสูจน์อายุของไม้และไม่ได้มีการตรวจสอบความถูกต้อง
ี
religious right”; and after his revelations the CBS brass rushed to recast the “documentary”
ของข้อมูลหรืออะไรทั้งสิ้นด้วย
as “entertainment.” But the lesson was already clear: not only can you not believe
everything you read; you can’t believe everything you see, either.
�
ี
ื
ี
จัมมาลบอกว่าท่เขาทาเช่นน้ก็เพ่อเปิดโปง “โฆษณาชวนเช่อ” ของพวก “ขวาจัดทางศาสนา”
ื
Noah’s Ark remains a phantasm. But the fl ood recounted in Gilgamesh and Genesis
ื
ั
ี
ี
หลังจากท่จัมมาลประกาศออกมาเช่นน้ คนใหญ่คนโตในซีบีเอสได้รีบส่งการให้เปล่ยนเร่องราว
ี
may actually have a basis in fact. Around 5600 BC the waters of the Mediterranean
burst through into the low-lying and formerly isolated Black Sea basin, not too far from
ของเขาจากประเภท “สารคดี” เป็น “รายการบันเทิง” เรื่องนี้ให้บทเรียนที่ชัดเจนว่า ไม่เพียง
Ararat. Imagine the shock among the basin’s resident early farmers when the waters
แต่เราจะเชื่อในสิ่งที่อ่านไม่ได้เท่านั้น แต่เราไม่สามารถเชื่อทุกสิ่งที่เห็นด้วยเช่นกัน
of their formerly freshwater lake rose, drowning the familiar landscape and doubtless
many of them as well. It is a shock that still resonates today.
�
ึ
้
12 แม้เรือโนอาห์จะยังคงเป็นเพียงภาพหลอนต่อไป ทว่าเหตุการณ์นาท่วมซ่งได้รับการกล่าวถึงใน กิล
กาเมช และหนังสือปฐมกาลอาจตั้งอยู่บนความจริงก็ได้.. เรื่องของเรื่องก็คือ ราว 5600 ปีก่อน
คริสตกาล นาในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ไหลบ่าเข้าท่วมพ้นท่ราบลุ่มบริเวณทะเลดาซ่งในอดีต
ึ
�
้
�
ื
ี
ี
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 12 31/10/17 9:51 am
ี
มีลักษณะเป็นทะเลสาบท่แยกออกมาโดดเด่ยวอยู่ไม่ไกลจากภูเขาอรารัต ให้เราจินตนาการถึง
ื
ั
ึ
ื
้
�
ื
ตาสีตาสาในแถบน้น พวกเขาคงต่นตระหนกกันน่าดูเม่อเห็นนาจืดในทะเลสาบสูงข้นเร่อยๆ
ี
ภูมิทัศน์ท่คุ้นเคยรอบๆ จมหายไปพร้อมกับคนมากมาย พวกเราในปัจจุบันคงเข้าใจความรู้สึก
ช็อกที่เกิดขึ้นกับผู้คนในยุคนั้นได้
28
่
4. การต่อสู้ทีเตี๊ยมกันไว้แล้ว 260 ปก่อนคริสต์ศักราช
ี
กลาดิเอเตอร์กับ
นักมวยปล�้ามืออาชีพ
ค ร้งหน้าท่คุณไปยืนอยู่ในโคลอสเซียมในกรุงโรม ลองจินตนาการว่า ภายใน
ี
ั
ี
ี
ิ
�
ส่งก่อสร้างมหึมาน้อัดแน่นไปด้วยผู้คนท่กาลังบ้าเลือด ส่งเสียงโห่ร้อง
ตะโกนให้กาลังใจ สลับกับการเย้ยหยัน ณ ใจกลางอัฒจันทร์รูปวงแหวน
�
เหล่ากลาดิเอเตอร์ควงดาบ เหว่ยงตาข่าย ถือมีดส้น พยายามจ้วงแทงกันและกัน
ั
ี
ี
ิ
ื
คริสเตียนถูกสัตว์ร้ายฉีกเน้อเป็นช้นๆ หรือไม่ก็แค่นึกภาพแอสโตรโดมในคืนท่เวิลด์
เรสต์ลิง เอนเทอร์เทนเมนต์ (World Wrestling Entertainment – (WWE) เช่าก็ได้...
ความบันเทิงสองรูปแบบนี้มีบางอย่างที่คล้ายคลึงกันมากกว่าที่เห็นในตอนแรกมาก
อย่างที่ชื่อ WWE ซึ่งแปลว่ามวยปล�้าเพื่อความบันเทิงโลกบอกไว้ การฮึ่มฮ�่า แยกเขี้ยว
ั
ี
ั
ข่มขู่ และท่วงท่าท่ปรากฏบนเวทีเป็นการแสดงเพ่อความบันเทิงเท่าน้น นักมวยท่วไป
ื
จะชกจริง เจ็บจริง แต่นักมวยปล�้าของ WWE ไม่ใช่แบบนั้น แม้ดูเหมือนว่าพวกเขา
ื
คว้าตัวกันและกันทุ่มลงบนพ้นสุดแรงเกิด แล้วกระทืบหัวของคู่ต่อสู้ซา แต่ความจริง
�
้
แล้วพวกเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้คู่ต่อสู้ต้องเจ็บ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยในขณะที่
พยายามสร้างภาพสุดยอดของความโหดเหี้ยมทารุณ
้
่
ื
่
ี
้
ิ
ิ
ี
�
บนเวท นกมวยปลาจะพยายามทาทกอยางเพอใหภาพโหดรายสมจรง ในวดโอเมอไมนาน
�
้
่
่
ื
ุ
ั
ี
มาน้ทริเปิลเอช แชมป์ WWE จับหัวโรมัน เรนจ์ส คู่ต่อสู้กระหนาโขกกับโต๊ะโฆษก
่
�
ซ�้าแล้วซ�้าเล่า ขณะที่ไบรอน แซกส์ตัน ผู้พากย์ซึ่งเคยเป็นนักมวยปล�้ามาก่อนแอบส่ง
แคปซูลเลือดปลอมให้เรนจ์ส ยกดังกล่าวนี้จบลงด้วยหัวของเรนจ์สในสภาพเลือดอาบ
ั
ื
และความต่นเต้นสุดขีดของผู้ชม ว่าไปแล้วการต่อสู้จนถึงข้นเลือดตกยางออกจริง
ึ
เป็นการละเมิดนโยบายของ WWE ซ่งต้องการให้รายการน้จัดเป็นรายการประเภท
ี
29
มวยปล�้า WWE PG ซึ่งเด็กดูได้โดยอยู่ในการดูแลของผู้ปกครอง แม้จะเข้าใจได้ยากว่าเป็นไป
that banging of Reigns’s face on the hard tabletop. But for some altogether unfathomable
World Wrestling
Entertainment
ไม่ใช่การต่อสู้ reason, in the absence of real blood the TV-PG rating is maintained.
ได้อย่างไรที่การเอาหน้าของเรนจ์สกระแทกลงบนโต๊ะแข็งๆ จะไม่มีเลือดออก
(WWE) shows
แต่เป็นการแสดง
are not genuine
As wrestling, then, the TV pro version is entirely fake—though its practitioners hate
contests, but are
เพื่อความบันเทิง แต่มันก็เป็นไปแล้ว และการไม่มีเลือดจริงนี่เองที่ท�าให้รายการนี้ยังคงจัดอยู่
purely entertainment
that word, preferring to describe their sport (to the extent that it is accurately described
อย่างแมตช์ ในประเภท PG ต่อไปได้
based, such as this
as a sport) as “predetermined.” Still, as a form of entertainment that demands high
match featuring
ที่เห็นในภาพนี้ skills in acrobatics, theater, and improvisation, professional wrestling is not at all fake.
star John Cena.
�
ี
้
�
้
It is, indeed, highly demanding. Not to injure or to be injured amid all that exertion and
They feature plot-
จอห์น เซนา ในฐานะมวยปลา ภาพการต่อสู้ของนักมวยปลามืออาชีพท่เห็นในโทรทัศน์
driven, scripted,
นักมวยปล�้าชื่อดัง activity in the ring takes a great deal of expertise and concentration. But it pays off. As
�
้
ี
ั
ิ
คือภาพหลอกลวงท้งส้น แม้นักมวยปลาจะเกลียดคาน้ก็ตาม พวกเขาบอก
�
and choreographed
matches, and often
ก�าลังถล่มคู่ต่อสู้ one pro wrestling coach reportedly remarked: “Nobody ever loses a wrestling show.”
include moves that
การแสดงนี้มีพล็อต ว่าอยากให้ใช้ค�าว่ามวยปล�้าที่มีการ “วางแผนไว้ก่อน” แทนเมื่อพูดถึงกีฬานี้
Naturally, the audience is perfectly well aware that it is being treated to a staged
can put performers
at risk of injury
มีบท และการ (หากจะเรียกได้ว่ามันคือกีฬาอะนะ) กระนั้นก็ตามในฐานะของความบันเทิงที่
performance. Protected by the anonymity of the crowd, many people apparently like
if not performed
�
ี
ั
้
to lose themselves in the illusion of violence. But of course, if anyone were actually to
ออกท่าที่สอดคล้อง ต้องใช้ท้งทักษะทางกายกรรม การแสดง และการด้นสด มวยปลาอาชีพน้ก ็
correctly.
กัน ซึ่งบ่อยครั้งที่มี get killed or badly injured down there in the ring, the spectators would instantly subside
ไม่ได้หลอกลวงใครเลย ความจริงแล้วนี่เป็นการแสดงที่ยากมากด้วย กิจกรรม
ท่ายากซึ่งท�าให้ into a shocked silence. Or would they? After all, tradition tells us that those crowds in
ั
the Colosseum responded to all that gore with cries for more.
�
ี
นักแสดงบาดเจ็บได้ บนเวทีมวยท่ดุเดือดขนาดน้น การไม่ทาให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บหรือได้รับบาดเจ็บ
�
้
ี
�
ิ
14 หากผิดคิว เองนักมวยปลาต้องชานาญและมีสมาธิมาก แต่ก็คุ้มค่าอย่างย่ง..อย่างท่โค้ช
คนหนึ่งบอกว่า “ไม่เคยมีใครแพ้ในการแสดงมวยปล�้า”
ี
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 14 แน่นอน ผู้ชมต่างรู้ดีว่าการต่อสู้ท่เห็นคือการแสดง และการอยู่ท่ามกลาง 31/10/17 9:51 am
�
ี
ฝูงชนท่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทาให้หลายคนรู้สึกปลอดภัยกับการสนุกสนานกับ
ี
ความรุนแรงจอมปลอมน้ แต่แน่นอน หากมีใครตายหรือบาดเจ็บสาหัสข้น
ึ
มาจริงๆ คนดูคงช็อก เอ..หรือว่าไม่ เพราะเท่าที่ทราบประวัติศาสตร์บอกว่า
30
หลังจากท่ได้เห็นเลือดและความสยดสยองแล้วคนดูในโคลอสเซียมพากันส่งเสียง
ี
โห่ร้อง ตะโกนว่าเอาอีกๆ
การศึกษาค้นคว้าเม่อเร็วๆ น้บอกว่า ส่งท่เกิดข้นในกรุงโรมไม่ได้ตรงไปตรงมาอย่าง
ี
ิ
ี
ื
ึ
ี
ี
ท่คิด การตีความท่วไปของนักประวัติศาสตร์เก่ยวกับความเป็นมาของการต่อสู้แบบ
ั
กลาดิเอเตอร์ก็คือ หลังจากกองทัพโรมันต้องท�าสงครามมากว่าสองศตวรรษ ใน
ที่สุดอาณาจักรโรมันก็เข้าสู่ยุคสันติภาพ การต่อสู้แบบกลาดิเอเตอร์เป็นกิจกรรม
ั
ี
Recent research, though, suggests that what was going on in Rome was not quite that
ท่จดข้นในรูปแบบของสงครามกลายๆ เพ่อคงความสามารถในการสรบของทหาร
ึ
ู้
ื
straightforward. The standard interpretation of gladiatorial combat is that it became
ี
ื
โดยว่ากันว่าการต่อสู้น้ต้องมีความโหดร้ายป่าเถ่อนเท่าๆ กับสงครามจริง อย่างไร
formalized as a sort of ritual warfare after the Pax Romana (the Roman Peace) was
established around 30 BC. For more than two centuries, the Roman army had been
ี
ี
ก็ตาม การตีความดังกล่าวน้ลืมคานึงถึงคุณค่าด้านความบันเทิงของผู้ชมท่น่งดูการ
ั
�
engaged in almost constant war, and with the arrival of peace the gladiatorial tradition
ต่อสู้ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยด้วย
allowed for the maintenance of martial skills. To keep those skills sharp, it is argued,
such combat was necessarily as savage as the fi ghting it replaced. But that is to forget
the entertainment value of confl ict that is staged in front of an audience secure in the
ื
ี
ี
ั
แม้บางคร้งการต่อสู้แบบกลาดิเอเตอร์ในโคลอสเซียมและท่อ่นจะเห้ยมโหดอย่าง
knowledge of its own safety.
ที่ประวัติศาสตร์วาดภาพไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเชลยศึกสงคราม อาชญากร
ี
ชาวคริสเตียน สัตว์ร้ายเข้ามาเก่ยวข้อง แต่ก็อย่าประเมินความต้องการในการบูชา
Although some of those spectacles in the Colosseum and elsewhere were just as
hideous as history paints them—especially when they were mass events involving
ึ
ั
ิ
ิ
่
ู
ุ
ุ
่
�
ี
ั
prisoners of war, criminals, Christians, wild animals, and so forth—we should never ์
ั
ดาราหรอคนดงอนเปนธรรมชาตท่ฝงลกอยในตัวมนษย์ทกคนตาเกนไป กลาดเอเตอร
ื
็
ิ
underestimate the apparently deeply ingrained human need to worship celebrity. And
ื
ี
ท่เก่งกาจ สามารถต่อสู้แบบตัวต่อตัวอย่างน่าต่นเต้นจะไม่ผิดแผกแตกต่างจาก
some gladiators indeed became celebrities, famed for their skills in hand-to-hand
ดาราเจ้าเสน่ห์ชนิดที่ท�าให้สาวๆ พากันเคลิ้มเลยทีเดียว
combat and in making nubile ladies swoon.
ตัวอย่างเช่น แฟล็มมา หนึ่งในกลาดิเอเตอร์ชาวโรมันที่โด่งดัง แฟล็มมาซึ่งมีเพียง
Flamma, for example, was one of the biggest names among Roman gladiators. Using
a small sword and shield, and armor on only one-half of his body, he terrorized his
ิ
ิ
ั
ู
ึ
่
็
ี
ื
้
่
ื
ี
มดเล่มเลกและโล่ ใส่เสอเกราะเพยงครงตัวมชอเสยงโด่งดงจากการพชตค่ต่อส้ ู
ี
ี
ส่วนล่างของภาพโมเสคในคริสต์
In the lower panel of this
fourth-century mosaic, a
ศักราชที่ 4 นี้ เรเทียริอุส (นักสู้
retiarius (net-fi ghter) named
ตาข่าย) นามคาเลนดิโอ เหวี่ยง
Kalendio has thrown his weighted
net over a more heavily armored
ตาข่ายที่หนักมากคลุมเซคิวเตอร์
secutor (chaser) named Astyanax.
(ผู้ไล่ล่า) ในเสื้อเกราะและอาวุธครบ
In the upper panel Kalendio is on
the ground, wounded, and raising
ครันนามอัสทีอะแน็กซ์ ด้านบน
his dagger to surrender. The
คาเลนดิโอได้รับบาดเจ็บ นั่งอยู่บน
inscription above him bears the
sign for “null” (Ø) and his name,
พื้นและยกกริชขึ้นเป็นสัญญาณ
implying that he was killed.
ยอมแพ้ เหนือศีรษะของเขามี
สัญลักษณ์ “ศูนย์” (Ø) และชื่อ
ของเขา ซึ่งหมายความว่าเขาตาย
ในการต่อสู้
15
31
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 15 31/10/17 9:51 am
โคลอสเซียมในกรุงโรมสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 80 จุผู้ชมได้ 8 หมื่นคน เป็นสถานที่จัดการต่อสู้ของ
The Roman Colosseum was completed in AD 80 and could hold up to eighty thousand
spectators. It was the scene of gladiatorial contests as well as massive animal hunts,
กลาดิเอเตอร์ การแสดงการท�าศึกสงครามทั้งบนบกและทะเลซึ่งมีการจัดฉากอย่างยิ่งใหญ่
elaborately staged mock land and sea battles, magic shows, and brutal executions.
ตระการตา การแสดงการล่าสัตว์ การแสดงมายากล และการประหารชีวิตนักโทษอย่างโหดเหี้ยม
opponents in thirty-four combats, drawing huge numbers of spectators. Thanks to
Hollywood, though, the most famous to us today is Spartacus, who led a slave revolt
ื
ั
34 คร้งต่อหน้าผู้ชมแน่นขนัด อย่างไรก็ตาม เน่องจากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด
that defeated six Roman armies before he was fi nally brought down. Gladiators were
�
กลาดิเอเตอร์ท่เรารู้จักกันมากท่สุดในปัจจุบันคือสปาร์ตาคัส ผู้นาเหล่าทาส
ี
ี
often stars; and the parallels between the present and Imperial Rome are uncannily
close: Roman children even played with clay gladiator “action figures.”
ั
ี
ู
ั
ึ
ื
ุ
ลกฮอข้นต่อสู้กับกองทพทหารโรมน ก่อนถกสังหารในทสุด กลาดิเอเตอร์
่
ี
ส่วนใหญ่เป็นดาราขวัญใจ เด็กๆ ชาวโรมันจะเล่นตุ๊กตุ่นกลาดิเอเตอร์ท่ทา �
A-list gladiators were obviously far from expendable. Aside from the fact that these
martial artists were expensive to train, the reputations of famous gladiators were hugely
จากดินเหนียว จะว่าไปแล้วโลกคู่ขนานของอาณาจักรโรมันกับโลกสมัยใหม่
valuable to their sponsors, governmental and aristocratic alike. Although most gladiators
ของเราน่าจะคล้ายกันมาก
were nominally slaves, we see their worth in what top practitioners got paid. The
emperor Tiberius is said to have found his gladiators so expensive that he had to limit
the number of games he staged to stave off bankruptcy, while a century and a half
กลาดิเอเตอร์ระดับซูเปอร์สตาร์จะมีค่าตัวสูงมาก ศิลปินด้านการต่อสู้ป้องกัน
later one of his successors, Marcus Aurelius, was forced to try a salary cap. Maybe this
ตัวเหล่าน้มีค่าใช้จ่ายในการฝึกสูงลิบ และช่อเสียงของกลาดิเอเตอร์คนสาคัญ
ี
�
ื
was necessary because by then gladiators even had agents: impresarios called
lanistae, who supplied them for the games staged by the emperors and the rich. A
ุ
ื
ั
ู
ี
มค่ามากต่อผ้สนบสนน..ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรอขุนนาง แม้กลาดิเอเตอร์
really famous gladiator with a good agent might fi ght only a couple of bouts a year, and
่
ั
ั
ื
ั
่
ี
ส่วนใหญ่จะได้ชอว่าเป็นทาส แต่สถานะของพวกเขาจะวดจากค่าตวทได้รบ
make enough in that short time to buy a country estate.
16
ว่ากันว่าจักรพรรดิทิเบรอุสพบว่าค่าใช้จ่ายสาหรับกลาดิเอเตอร์ของพระองค์
�
ิ
สูงมาก ทาให้ต้องจากัดรอบการแสดงด้วยเกรงว่าจะล้มละลายเสียก่อน ใน
�
�
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 16 อีกหน่งศตวรรษคร่งต่อมาจักรพรรดิมาร์คัส ออเรลิอุสต้องประกาศก�าหนด 31/10/17 9:51 am
ึ
ึ
เพดานเงินเดือนสูงสุดของเหล่ากลาดิเอเตอร์ ในยุคน้นกลาดิเอเตอร์แต่ละ
ั
คนถึงขนาดมีเอเยนต์ประจ�าตัวที่เรียกว่า ลานิสเต คอยดูแลและต่อรองราคา
ื
ค่าตัวเม่อจักรพรรดิหรือเศรษฐีต้องการจัดเกมการต่อสู้ข้น กลาดิเอเตอร์ท ี ่
ึ
32
มีชื่อเสียงและมีเอเยนต์ดีๆ อาจท�าเงินได้มากพอที่จะซื้อที่ดินในชนบทจาก
การลงสนามเพียงปีละสองสามครั้งเท่านั้น
�
ี
ี
ภายใต้สถานการณ์เช่นน้เป็นไปได้น้อยมากท่กลาดิเอเตอร์คนสาคัญจะออก
ั
้
ู
่
ั
่
้
ื
ี
ี
มาตอส้อย่างจริงจงถึงขนเสยชวิตหรอบาดเจ็บสาหัส ส่วนใหญแลวพวกเขา
ึ
ื
จะออกมาโชว์ลีลาการต่อสู้ท่ฝึกซ้อมมานาน ซ่งสร้างความต่นตาต่นใจให้กับ
ี
ื
ผู้ชมมากกว่า จากรายงานของสตีเวน ทัคแห่งมหาวิทยาลัยไมอามี การแสดง
กลาดิเอเตอร์ส่วนใหญ่แบ่งเป็น 3 ส่วน ในส่วนแรก กลาดิเอเตอร์ท้งสอง
ั
ฝ่ายพร้อมอาวุธครบเครื่องจะออกมาประจันหน้าและต่อสู้กัน ส่วนที่สอง
กลาดิเอเตอร์คนหนึ่งจะบาดเจ็บ (ว่ากันว่าเป็นการแกล้งเจ็บ และถึงขนาด
มีการใช้เลือดปลอม) และพยายามถอยหนีจากคู่ต่อสู้ และส่วนที่สาม ทั้ง
สองฝ่ายจะถอดเสื้อเกราะ ปลดอาวุธ แล้วสู้กันแบบประชิดตัว..อาจจะด้วย
ท่วงท่าที่เป็นทางการมากกว่านักมวยปล�้า WWE เล็กน้อย
แม้การต่อสู้ส่วนใหญ่จะมีผู้แพ้และผู้ชนะ ทว่าผลการต่อสู้ในอุดมคติคือ
ซูเปอร์สตาร์ทั้งสองฝ่ายจะสู้กันจนมาถึงจุดท่ไม่สามารถทาอะไรกันและกัน
�
ี
ได้ ไม่มีผู้ใดต้องเสียศักดิ์ศรี และจะกลับมาห�้าหั่นกันอีกครั้งในอนาคต แม้
ค�ากล่าวที่ว่า “ไม่เคยมีใครแพ้” จะไม่ตรงเสียทีเดียว แต่ก็ใกล้เคียงมาก
33
ทันทีที่ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์
จักรพรรดิจูเลียนุสได้
ประกาศลดค่าเงินโรมันลง
ร้อยละ 6 เพื่อลดเงินที่ต้อง
จ่ายกองทหารพรีโทเรียน
ซึ่งเป็นกองทหารองครักษ์
ประจ�าตัวจักรพรรดิ การ
ท�าเช่นนี้ไม่เป็นที่พอใจของ
เหล่าทหารและชาวโรม
อย่างมากถึงขนาดพยายาม
ขว้างปาก้อนหินใส่ทุกครั้ง
ที่พระองค์ปรากฏตัวในที่
สาธารณะ
34
5. เลหลังขายอาณาจักร ค.ศ. 193
จูลิอานุสซื้อ
จักรวรรดิโรมัน
ค� าแนะนาทดทสดในวงการอสงหารมทรพยคอ กอนจะซออะไร จงแนใจ
่
ี
ุ
่
�
ี
ี
ั
้
่
่
ื
ั
ิ
ื
์
ี
ี
�
ิ
�
เสียก่อนว่าผู้ขายเป็นเจ้าของกรรมสิทธ์จริง และคาแนะนาท่ดีท่สองคือ
ผู้ขายต้องแน่ใจว่าผู้ซ้อมีเงินพอจ่ายด้วย แม้ย้อนหลังไปถึงสมัยจักรวรรด
ื
โรมัน กฎทองสองข้อนี้ใช้ได้ย้อนหลังไปถึงสมัยจักรวรรดิโรมัน โดยเฉพาะตอนที่มีการ ิ
ประมูลที่ดินผืนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์โลก
กองทหารพรีโทเรียนก่อต้งข้นราว 275 ปีก่อนคริสตกาล หลังจากน้นไม่นานก็ได้รับการ
ั
ั
ึ
ั
�
ี
แต่งต้งให้เป็นกองทหารรักษาพระองค์ของจักรพรรดิ ในตอนแรกทหารหน่วยน้ประจา
การนอกกรุงโรม ซ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเร่งรุดเข้าปกป้ององค์จักรพรรดิทันท ี
ึ
ที่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น แต่ไม่สามารถควบคุมองค์จักรพรรดิโดยตรง ทว่าใน ค.ศ. 23
มีการย้ายค่ายทหารพรีโทเรียนเข้ามาประชิดกาแพงเมือง ทาให้พวกเขาสามารถจับ
�
�
ตามองความเป็นไปทุกอย่างท่เกิดข้นภายในวังหลวง แม้ระบบใหม่น้ทาให้การถวาย
ี
ี
ึ
�
การอารักขามีประสิทธิภาพขึ้น แต่ก็เป็นภัยคุกคามองค์ประมุขด้วยเช่นกัน และแล้ว
ใน ค.ศ. 41 กองทหารราชองครักษ์นี้ก็ได้มีบทบาทในการลอบปลงพระชนม์จักรพรรดิ
คาลิกูลา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอ�านาจของกองทหารพรีโทเรียนก็ขึ้นบ้างลงบ้าง ขึ้นอยู่
กับจักรพรรดิแต่ละพระองค์ซ่งพยายามใช้ประโยชน์และควบคุมพวกเขาด้วยในขณะ
ึ
เดียวกัน
แม้กองทหารพรีโทเรียนจะสามารถควบคุมชะตากรรมของจักรพรรดิ แต่ก็ไม่เคยเข้ามา
เป็นส่วนหนึ่งในคณะผู้มีอ�านาจบริหารกรุงโรม ดังนั้นพวกเขาจึงค่อนข้างโดดเดี่ยวใน
เชิงการเมือง ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือใน ค.ศ. 193 ที่เรียกกันว่า “ปีแห่งห้าจักรพรรดิ” ซึ่ง
35
จักรวรรดิโรมัน “แผ่ไพศาลจากเฮเดรียนส์วอลล์ทางเหนือของอังกฤษท่ชุ่มโชกด้วยสายฝนจรด
ี
The Roman Empire “stretched from Hadrian’s Wall in drizzle-soaked northern England to the sun-
ดินแดนชายฝั่งแม่น�้ายูเฟรติสในซีเรียที่แห้งแล้งแตกระแหงจากแสงแดดแผดเผา จากระบบแม่น�้า
baked banks of the Euphrates in Syria; from the great Rhine-Danube river system, which snaked
across the fertile, flat lands of Europe from the Low Countries to the Black Sea, to the rich plains
ี
ี
ิ
ี
ไรน์-ดานูบอันย่งใหญ่ท่ไหลคดเค้ยวผ่านท่ราบลุ่มอันอุดมสมบูรณ์ของยุโรป จากกลุ่มประเทศแผ่นดิน
of the North African coast and the luxuriant gash of the Nile Valley in Egypt. The empire completely
่
ี
ู
�
�
่
ึ
ุ
ุ
้
�
ุ
ั
ู
ื
ิ
ตาส่ทะเลดาจรดทราบอนอดมสมบรณ์ของชายฝั่งแอฟรกาเหนอและหบเขาแคบลกล่มนาไนล์ใน
circled the Mediterranean…referred to by its conquerors as mare nostrum—‘our sea.’”
—Christopher Kelly, The Roman Empire: A Very Short Introduction(Oxford University Press, 2007)
อียิปต์ อาณาจักรโรมันรายล้อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในทุกด้านจนจักรพรรดิผู้พิชิตเรียกมันว่า
มาเรนอสตรุม หรือ ‘ทะเลของเรา’” – คริสโตเฟอร์ เคลลี, The Roman Empire: A Very Short In-
apparent in AD 193, which became known as the “Year of the Five Emperors.” It
troduction (ความเป็นมาส้นๆ ของอาณาจักรโรมัน) - สานักพิมพ์มหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด, 2007
ั
�
began when the increasingly unstable emperor Commodus was assassinated with
Praetorian connivance, and the general Pertinax was declared the new emperor.
เร่มต้นข้นเม่อจักรพรรดิคอมโมดุส ผู้อ่อนแอลงทุกวันถูกลอบปลงพระชนม์
ื
ึ
ิ
Among the fi rst discoveries Emperor Pertinax made was that Commodus had
exhausted the imperial treasury, leaving him short of cash with which to pay his
ขณะท่ทหารพรีโทเรียนแกล้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ จากน้นก็ยกนายพล
ี
ั
protectors. This was doubly awkward for Pertinax, since while he understandably
ี
ึ
เปอร์ติแน็กซ์ข้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ หน่งในส่งแรกๆ ท่จักรพรรดิเปอร์ติแน็กซ์
ึ
ิ
wished to exert stronger control over the Guard, his inability to cough up their salaries
set the stage for confrontation. The upshot was that after Pertinax had ruled for only
�
ี
พบก็คือ คอมโมดุสได้ใช้เงินเกล้ยงท้องพระคลัง ทาให้พระองค์ไม่มีเงินจ่าย
20
ทหารองครักษ์ สถานการณ์นี้สร้างความกระอักกระอ่วนเป็นพิเศษในขณะที่
�
เปอร์ติแน็กซ์ย่อมต้องการมีอานาจเหนือกองทหารองครักษ์ สุดท้ายการ
ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายเงินเดือนนาไปสู่การเผชิญหน้าและแตกหักกัน
�
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 20 31/10/17 9:51 am
หลังจากขึ้นครองราชย์ได้เพียง 3 เดือน กองทหารพรีโทเรียนก็ยกพลมาบุก
ทะลวงประตูวังเพื่อทวงเงิน และจักรพรรดิถูกสังหาร
ี
ื
ี
ี
น่คือจุดท่เร่องราวเร่มไม่เป็นตามมาตรฐานท่วไป คือ แทนท่จะสถาปนา
ิ
ั
ึ
ึ
พรรคพวกคนใดคนหน่ง (หรืออย่างน้อยก็ผู้สมรู้ร่วมคิด) ข้นเป็นจักรพรรด ิ
กองทหารพรีโทเรียนที่โดดเดี่ยวกลับน�าอาณาจักรโรมันออกเลหลัง เมื่อมอง
36
ี
�
ย้อนกลับไป เหตุการณ์ดังกล่าวน้คือจุดเร่มต้นของการเส่อมอานาจของอาณาจักร แต่ในตอนน้น
ั
ิ
ื
ี
ื
อาณาจักรโรมันครอบคลุมพ้นท่กว้างใหญ่ไพศาล ไม่เพียงแต่บริเวณรอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ั
เท่าน้น แต่ยังดินแดนส่วนใหญ่ของตะวันออกใกล้และยุโรปกลางและเหนือด้วย ประมาณว่าพ้นท ี ่
ื
ครอบครองในปี ค.ศ. 131 นั้นมีขนาดถึง 1.4 พันล้านเอเคอร์
ึ
ในตอนแรกกองทหารพรีโทเรียนกลัวว่าวุฒิสภาและประชาชนจะลุกฮือข้นมาแก้แค้น ทว่าแม้
ี
�
จะมเสยงบ่นด่ากนขรม แต่กไม่มผ้ใดลงมอทาจรง พวกเขาจงประกาศว่าผ้ให้ราคาสงสดจะเป็น
ั
ู
็
ุ
ู
ู
ี
ึ
ี
ิ
ื
ผู้ได้อาณาจักรไป ผู้มีศักยภาพส่วนใหญ่พากันเมินข้อเสนอ หรือไม่ก็รีบร้อนวางแผนย้ายออก
จากเมือง นอกจากดิดิอุส จูลิอานุส
หลังจากกินดื่มฉลองมื้อกลางวัน และได้ลูกยุจากภรรยาและ “เหล่ากาฝาก” ทั้งหลาย จูลิอานุส
นายทหารและนักปกครองท่มีช่อเสียงก็รีบรุดไปยังค่ายทหารพรีโทเรียนเพ่อเสนอราคา อีกคน
ี
ื
ื
ที่เสนอราคาคือติตุส ซุลพีชิอานุส พ่อตาของอดีตจักรพรรดิเปอร์ติแน็กซ์ และเป็นเจ้าหน้าที่ชั้น
ผู้ใหญ่ของโรมซึ่งวุฒิสภาส่งตัวมาสงบศึกกับกองทหารพรีโทเรียน
ึ
ิ
สงครามการประมูลจึงเร่มต้นข้น ซุลพีชิอานุสเสนอราคาอยู่ในค่ายทหารพรีโทเรียน ส่วนจูลิอานุส
ื
�
ตะโกนให้ราคามาจากนอกกาแพง เม่อได้รับรายงานว่าซุลพีชิอานุสเสนอจ่ายให้ทหารคนละ
The Roman Empire “stretched from Hadrian’s Wall in drizzle-soaked northern England to the sun-
ิ
ิ
ู
ิ
ุ
ื
่
ั
baked banks of the Euphrates in Syria; from the great Rhine-Danube river system, which snaked 20,000 เซสเตรอซสเป็นค่าซ้อจกรวรรด จลอานสจึงเกทับเป็น 25,000 เนืองจากกองทหาร
across the fertile, flat lands of Europe from the Low Countries to the Black Sea, to the rich plains
ี
of the North African coast and the luxuriant gash of the Nile Valley in Egypt. The empire completely พรีโทเรียนรู้ดีว่าพวกเขาไม่ควรวางใจญาติของเปอร์ติแน็กซ์ท่ถูกพวกเขาฆ่าตาย จึงตกลงรับ
circled the Mediterranean…referred to by its conquerors as mare nostrum—‘our sea.’”
—Christopher Kelly, The Roman Empire: A Very Short Introduction(Oxford University Press, 2007) ข้อเสนอของจูลิอานุสด้วยความยินดี เมื่อเทียบกับค่าเงินปัจจุบัน ราคาของจักรวรรดิโรมันอยู่ที่
ราว 1 พันล้านเหรียญ หรือ 1.40 เหรียญต่อพื้นที่อาณาจักรหนึ่งเอเคอร์
apparent in AD 193, which became known as the “Year of the Five Emperors.” It
began when the increasingly unstable emperor Commodus was assassinated with
ุ
ี
ิ
ื
ี
�
็
ั
ี
Praetorian connivance, and the general Pertinax was declared the new emperor. ปัญหากคอ กองทหารพรโทเรยนไม่ได้เป็นเจ้าของจกรวรรด และแม้จะมอานาจควบคมวง ั
Among the fi rst discoveries Emperor Pertinax made was that Commodus had หลวง แต่ก็ไม่มีอิทธิพลในการบริหาร พวกเขาสามารถบังคับให้วุฒิสภาประกาศให้จูลิอานุสเป็น
exhausted the imperial treasury, leaving him short of cash with which to pay his
ุ
ิ
ุ
่
ื
้
ึ
ั
ิ
ื
ี
ั
่
ู้
ิ
่
็
ั
่
็
ี
protectors. This was doubly awkward for Pertinax, since while he understandably จกรพรรดิก็จรง แตขณะเดียวกนกมผทไมเหนด้วย และหน่งในนนคอเซ็พตมอส เซเวรส เพอนสนิท
wished to exert stronger control over the Guard, his inability to cough up their salaries ของเปอร์ติแน็กซ์ ซึ่งได้น�ากองทัพที่อยู่ภายใต้บัญชาการของเขาในยุโรปกลางมุ่งสู่กรุงโรมทันที
set the stage for confrontation. The upshot was that after Pertinax had ruled for only
20
ี
ขณะเดียวกัน จูลิอานุส จักรพรรดิองค์ใหม่ซ่งไม่มีเงินพอจ่ายทหารพรีโทเรียนท่เร่มหงุดหงิด
ิ
ึ
ี
ึ
มากข้นทุกที ได้หาทางออกด้วยการประกาศลดค่าเงิน ทาให้ประชาชนท่ไม่พอใจอยู่แล้วย่ง
�
ิ
ขุ่นเคือง ในท่สุดฝูงชนซ่งมารวมตัวกันในเซอร์คัส แม็กซิมัส สนามแข่งรถม้าในกรุงโรมได้เรียกร้อง
ี
ึ
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 20 31/10/17 9:51 am
ให้เพสเซนนุส ไนเจอร์ กงสุลแห่งซีเรียเข้ามาด�ารงต�าแหน่งประมุขแทน ไนเจอร์ประกาศตนเป็น
ื
ิ
จักรพรรดิและนากองทหารใต้บังคับบัญชาเคล่อนพลเข้ามายังกรุงโรม เหตุการณ์ย่งวุ่นวายข้น
�
ึ
เมื่อกองทัพโรมันในอังกฤษและไอบีเรียประกาศยกคลอดิอุส อัลบินุส ผู้น�าของตนซึ่งในตอนแรก
�
ั
อยู่ฝ่ายเดียวกับเซเวรุสข้นเป็นจักรพรรดิ อันนาไปสู่สงครามการเมือง ท้งไนเจอร์และอัลบินุส
ึ
ิ
ซ่งในตอนน้นแตกคอกับเซเวรุสเรียบร้อยแล้วส้นชีพในการสู้รบกับทหารของเซเวรุส และสงคราม
ึ
ั
ได้สิ้นสุดลงในที่สุด
37
�
ึ
�
ี
ขณะท่สถานการณ์ดาเนินไปน้น จูลิอานุสซ่งกาลังจนตรอกได้พยายามทาทุกอย่าง
ั
�
เพื่อตัดเขี้ยวเล็บของเซเวรุส ตั้งแต่ประกาศว่าเขาเป็นศัตรูของประชาชน จ้างคน
ี
ลอบสังหาร ส่งให้ทหารพรโทเรยนจัดการ และถึงขนาดเสนอว่าจะให้เขาเป็น
ี
ั
ประมุขร่วม แต่ทุกอย่างไม่ได้ผล หลังจากที่เอาชนะกองทหารพรีโทเรียนและได้
ี
ี
As all this began to unfold, an increasingly desperate Julianus was trying everything he
ั
ี
ประกาศอภัยโทษกับทหารท่เหลือ ยกเว้นผู้ท่สังหารเปอร์ติแน็กซ์ท่ถูกส่งประหาร
could think of to neutralize the threat from Severus. He declared him a public enemy;
ชีวิต เซเวรุสก็ได้ยาตราทัพเข้ากรุงโรม.. เหล่าวุฒิสมาชิกรีบเร่งประกาศยกเขาข้น
ึ
he hired assassins; he ordered the Praetorians against him; he even offered him a co-
ื
ี
regency. To no avail. After defeating a Praetorian contingent and offering the rest of the
ี
เป็นจักรพรรดิท่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยความต่นกลัว..ก่อนท่จูลิอานุสจะถูก
Guard amnesty—though he had the Praetorians who had murdered Pertinax
ทหารคนหนึ่งสังหารเสียอีก
executed—Severus entered Rome, where, even before one of his soldiers killed
Julianus, a trembling Senate had recognized him as lawful emperor.
นั่นคือต้นเดือนมิถุนายน ค.ศ. 193 หลังจากที่จูลิอานุสซื้อ
This was the beginning of June, AD 193, a scant nine weeks
ตาแหน่งจักรพรรดิไปไม่ถึงเก้าสัปดาห์ดี มีรายงานว่าคา
�
�
after Julianus had purchased his imperial title. Reportedly,
สุดท้ายก่อนที่จูลิอานุสจะสิ้นชีพคือ “ข้าได้ท�าอะไรชั่วร้าย
Julianus’s dying words were: “But what evil have I done? Whom
have I killed?” And despite his military background, he actually
ฤา ข้าได้ฆ่าใครฤา” แม้จะมีพื้นเพทางทหาร แต่ดูเหมือน
appears to have been of signifi cantly less violent proclivities
ว่าจูลิอานุสจะโหดร้ายน้อยกว่าตัวเอกคนอื่นๆ ในเรื่องราว
than the other major actors in this unfortunate story. Indeed,
history—written of course by the victor, the austere Severus—
ท่น่าเศร้าน้มาก ทว่าแน่นอน ประวัติศาสตร์เขียนโดยผู้ชนะ
ี
has painted him as more interested in debauchery than in the
ี
arts of power and governance.
คือเซเวรุส ผู้เด็ดขาด และเขาได้ระบายภาพว่าจูลิอานุสคือ
�
ี
จักรพรรดิท่เหลวไหลรักสนุกมากกว่าศิลปะในการใช้อานาจ
And thus the most spectacular real estate deal of all time
ended in tears, not only for the unfortunate Julianus but also
และการปกครอง
for the Praetorian Guard, which Severus disbanded. To both
sides, the $1.40-per-acre price tag for the entire Roman
ี
ั
ด้วยเหตุน้การซ้อขายอสังหาริมทรัพย์คร้งย่งใหญ่ท่สุดใน
ิ
ื
ี
Empire might have looked like a good deal at the time—after
all, the Praetorians had good reason to distrust the underbidder
โลกจึงจบลงด้วยน�้าตา ไม่เพียงแต่ของจูลิอานุสเท่านั้น แต่
Sulpicianus, whose son-in-law they had murdered, while in the
ของกองทหารพรีโทเรียนซ่งถูกเซเวรุสยุบด้วย ดูเหมือน
ึ
afterglow of a good lunch Julianus was not to know that he
would fi nd the imperial treasury empty, or that Severus would
ท้งผู้ซ้อและผู้ขายจะคิดว่าราคาท่ดินสาหรับจักรวรรดิโรม
ื
ั
ี
�
or could move so fast. But then, the true cost of things is often
ี
ี
่
ี
่
ซงตกอย่ท 1.40 เหรยญต่อเอเคอร์จะเป็นราคาทดมาก..
ึ
ี
่
ู
a lot more than is apparent at fi rst sight.
เพราะฝ่ายพรีโทเรียนก็มีเหตุผลท่ไม่ไว้ใจซุลพีชิอานุส ซ่ง
ึ
ี
Sulpicianus survived Julianus’s death เป็นพ่อตาของจักรพรรดิท่ถูกพวกเขาปลิดชีพและยังเสนอ
ี
and the arrival of the new emperor
จูลิอานุสเสียชีวิต ซุลพีชิอานุสมีชีวิตรอดและ ราคาต�่ากว่า ส่วนจูลิอานุสซึ่งยังคงคึกคะนองจากงานเลี้ยง
Septimius Severus. But due to his having
supported the rival imperial claimant
ได้เห็นเซ็พติมิอุส เซเวรุสขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ ม้อกลางวันก็ไม่รู้ว่าท้องพระคลังว่างเปล่า หรือว่าเซเวรุส
ื
Clodius Albinus, Sulpicianus was tried
and executed in AD 197.
ใหม่ แต่เนื่องจากเขาเคยสนับสนุนคลอดิอุส
ั
อัลบินุส อดีตศัตรูที่พยายามขึ้นครองบัลลังก์ จะขยับตัวได้รวดเร็วขนาดน้น.. จะว่าไปแล้วราคาค่างวด
อีกคนจึงถูกน�าตัวขึ้นไต่สวนและต้องโทษ ที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ มักจะสูงกว่าที่เห็นในตอนแรกเสมอ
ประหารชีวิต
22
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 22 31/10/17 9:51 am
38
6. ปลดรหัสสัตววิทยา ค.ศ. 563
สัตว์ประหลาดแห่ง
ล็อคเนส
สั ตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสเป็นการหลอกลวงโดยต้งใจ เป็นความเข้าใจผิด
ั
ี
ื
หรือเป็นการดึงดูดนักท่องเท่ยว หรือเป็นแค่ความเช่อผิดๆ... ส�าหรับ
ปัจจุบัน มันคือทุกอย่างที่ว่ามาและอาจจะมากกว่านั้นด้วย กระนั้นการ
ื
ื
ี
ี
ท่มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ท่แสดงถึงความสามารถในการเช่อเร่องประหลาดพิสดาร
ู
�
ุ
ั
ี
้
ิ
ของมนษย์ทาให้เราสมควรย้อนกลบไปดเจ้าเนสซ เพอจะได้ร้ว่าตานานคลาสสกนม ี
ี
ู
ื
่
�
ที่มาที่ไปอย่างไร
้
�
ื
ี
ล็อคเนสคือทะเลสาบนาจืดท่แคบและลึก ทอดเป็นแนวยาวตามรอยเล่อนเกรทเกล็นซ่ง ึ
แบ่งสก็อตแลนด์ออกเป็น 2 ส่วนจากตะวันออกเฉียงเหนือสู่ตะวันตกเฉียงใต้ มีช่อเสียง
ื
ว่านาในทะเลสาบขุ่นมาก เน่องจากดินพรุอันเกิดจากการเน่าเปื่อยของพืชพรรณท่อยู่ใต้
ี
้
�
ื
ท้องทะเลสาบ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผลุบโผล่อยู่ใต้น�้าเป็นอะไรก็ได้ใครจะรู้
รายงานแรกเก่ยวกับ “สัตว์ประหลาด” ในล็อคเนสมาจากนักบุญโคลัมบา พระชาว
ี
ึ
ี
�
ไอริชในคริสต์ศตวรรษท่ 6 ซ่งนาศาสนาคริสต์มาเผยแผ่ในสก็อตแลนด์ อด็อมนาน
แห่งไอโอนา ผู้เขียนชีวประวัติของนักบุญโคลัมบาในศตวรรษที่ 7 บันทึกไว้ว่า ขณะที่
ึ
กาลังเดินทางข้ามทะเลสาบ ท่านได้เห็นคนกาลังฝังศพชายผู้หน่งซ่ง “เพ่งจะถูกสัตว์
�
ิ
ึ
�
ประหลาดที่อาศัยอยู่ใต้น�้าดึงตัวลงไปกัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส” หลังจากนั้นไม่นาน
สมาชิกคนหนึ่งในคณะของนักบุญโคลัมบาเองได้ลงไปในทะเลสาบและถูกเจ้าสัตว์ร้าย
ั
�
ื
�
ทาร้าย แต่รอดมาได้เม่อนักบุญผู้ทรงศีลส่งให้เจ้าสัตว์ร้ายปล่อยตัวเขาด้วยนาเสียงสงบ
้
นิ่ง จากค�าของอด็อมนาน “เจ้าสัตว์ร้ายกลัวมากเมื่อได้ยินเสียงท่านนักบุญและรีบหนี
ไป” ชาวพิคท์..ชนเผ่าโบราณท่อาศัยอยู่ในแถบน้นประทับใจอย่างย่งกับความอัศจรรย์
ิ
ี
ั
ี
น้ และพากันเปล่งเสียงสรรเสริญขอบคุณพระเจ้า ไม่มีบันทึกใดๆ ท่บอกว่านักบุญ
ี
39
�
ภาพประกอบ โคลัมบานาพวกเขามาเข้ารีตได้หรือไม่ แต่โดยรวมแล้วผลงานการประกาศ
A very badly After its skirmish with the redoubtable Columba, the newly skittish Loch Ness Monster
เล็กๆ ที่จางมาก
faded marginal was not seen again for well over a millennium. Indeed, the series of sightings that gave
ศาสนาของท่านในสก็อตแลนด์ค่อนข้างดี
decoration
ใน Itinerarium
in the late rise to the legend as we know it today actually dates only from 1933. According to a
Scotiae (การเดินทาง
twelfth-century report in the Inverness Courier published on May 2 that year, Mr. and Mrs. John
ื
หลังจากเร่องราวการปะทะระหว่างสัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสกับนักบุญ
manuscript Mackay of Drumnadrochit had just seen a whale-like creature disporting itself in the
ในสก็อตแลนด์)
โคลัมบาแล้ว ก็ไม่มีใครเห็นมันอีกเป็นเวลากว่าพันปี ความจริงตานานท่เราได้ยินกัน
Itinerarium loch; and on July 22 a George Spicer reported that he and his wife had seen “a most
�
ี
Scotiae (Travels
หนังสือเขียนด้วย
ี
in Scotland), extraordinary form of animal” crossing the road that skirted the lake. The creature had
ิ
ั
ทุกวันน้ว่ามันปรากฏตัวให้คนเห็นหลายคร้งเร่มข้นในปี 1933 เอง โดยหนังสือพิมพ์
ึ
ลายมือในปลาย
thought to depict a lumpy body and a long neck; how it contrived to move is unclear, since the Spicers
ี
ั
อินเวอร์เนสคูเรียร์ ฉบับวันท่ 2 พฤษภาคมของปีน้นรายงานว่า นายและนาง
Saint Columba’s noticed no limbs. The next month a possibly concussed veterinary student named
ศตวรรษที่ 12 ซึ่ง
encounter with Arthur Grant, having just fallen off his motorcycle, also claimed to have seen a small-
เชื่อกันว่าเป็นภาพ
�
้
ิ
�
the Loch Ness จอห์น แม็คเคย์แห่งดรัมนาโดรชิตได้เห็นส่งมีชีวิตคล้ายปลาวาฬกาลังเล่นนาอย่าง
Monster. Colors headed, long-necked animal entering the loch.
ของการเผชิญหน้า
have been restored เพลิดเพลินในทะเลสาบ จากนั้นวันที่ 22 กรกฎาคม นายจอร์จ สไปเซอร์ก็บอก
ระหว่างนักบุญ
based on detailed The fi rst photograph of the mysterious beast was taken on November 12, 1933. After
study of the ว่าเขาและภรรยาได้เห็น “สัตว์ที่มีรูปทรงเหลือเชื่อ” ก�าลังเดินข้ามถนนซึ่งทอด
โคลัมบากับ
pigments used this, sightings took off, until by now around a thousand people have purportedly seen
ื
สัตว์ประหลาดแห่ง
�
ไปตามทะเลสาบ ลาตัวของมันใหญ่เทอะทะ คอยาว มันเคล่อนตัวไปอย่างไร
in comparable the monster, and blurry photos abound. Many of the latter have been explicitly exposed
medieval drawings. as hoaxes, most recent among them being a 2011 image of a fuzzy-looking hump
ล็อคเนส สีที่ใช้ใน
์
ไม่รู้แน่ เพราะสามีภรรยาสไปเซอรไมเห็นขามัน เดือนต่อมานักศึกษาสัตวแพทย์
่
การบูรณภาพใน (nonetheless hailed as one of the “best ever” Nessie photos) taken by a tourist boat
ซงเพ่งตกจากมอเตอร์ไซค์และสมองน่าจะได้รบการกระทบกระเทอนอย่างแรง
ิ
ึ
่
ั
ภายหลังมาจากการ skipper who eventually admitted he was trawling for business. ื
อ้างเช่นกันว่าเขาได้เห็นสัตว์ที่มีหัวเล็ก คอยาวเดินลงไปในทะเลสาบ
ศึกษาเม็ดสีที่ใช้โดย The fi rst systematic investigation into the Loch Ness Monster was mounted not long
เปรียบเทียบกับ after the initial sightings but came up with the peculiarly Scottish verdict of “not proven.”
ี
ี
เจ้าสัตว์ร้ายลึกลับน้ถูกบันทึกภาพได้คร้งแรกในวันท่ 12 พฤศจิกายน 1933
ั
ภาพวาดในสมัยนั้น World War II intervened, but then during the decade between 1962 and 1972, the
ั
ี
ั
ต้งแต่น้นเป็นต้นมามีผู้อ้างว่าได้เห็นมันมากมาย จนถึงขณะน้เกือบพันคนแล้ว
อย่างละเอียด “Loch Ness Phenomena Investigation Bureau” conducted sonar and other studies,
eventually giving up, too.
�
บ้างก็มีภาพถ่ายลางๆ เป็นหลักฐานด้วย ในจานวนน้หลายภาพถูกจับได้ใน
ี
The arena was then entered by a team led by the American lawyer Robert H. Rines,
ภายหลังว่าเป็นภาพแต่ง ภาพล่าสุดเป็นภาพถ่ายในปี 2011 ซึ่งเห็นหลังมหึมาของมันลางๆ (แต่
and eventually a puzzling sonar image and some associated photographs were
ก็ยังว่ากันว่าเป็นภาพที่ “ดีที่สุด” ของเจ้าเนสซี) ผู้ถ่ายภาพนี้เป็นกัปตันเรือท่องเที่ยวซึ่งยอมรับใน
secured. After computer enhancement at the Jet Propulsion Laboratory in Pasadena,
24
ที่สุดว่าท�าเพื่อธุรกิจ
ึ
ั
การค้นหาความจริงอย่างเป็นระบบมีข้นคร้งแรกหลังจากมีผู้พบคร้งแรกไม่นาน โดยคณะผู้ค้นหา
ั
ั
สรุปด้วยคาตัดสินท่ค่อนข้างจะเป็นเอกลักษณ์ของชาวสก็อตว่า “พิสูจน์ไม่ได้” จากน้นก็เกิด
ี
�
HBG8768*HOAX_Interior FINAL.indd 24 31/10/17 9:51 am
ั
สงครามโลกคร้งท่สองทาให้การค้นหาชะงักลง ต่อมาระหว่างปี 1962 ถึง 1972 เป็นเวลาหน่ง ึ
�
ี
ทศวรรษที่ “ส�านักงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปรากฏการณ์ล็อคเนส” ได้ท�าการค้นหาโดย
ใช้ระบบตรวจจับคลื่นเสียงใต้น�้าและอื่นๆ แต่ก็ไม่พบและได้ล้มเลิกไปในที่สุดเช่นกัน
40
�
ึ
และแล้วทีมค้นหาซ่งนาโดยโรเบิร์ต เอช. ไรน์ส ทนายความชาวอเมริกันก็ก้าวเข้ามา และสามารถ
�
ึ
ี
�
ื
ื
ได้ภาพจากคล่นเสียงและภาพถ่ายปริศนาจานวนหน่ง หลังจากท่นามาเข้าเคร่องคอมพิวเตอร์ใน
ห้องปฏิบัติการพลังงานไอพ่นที่พาซาดีนา แคลิฟอร์เนีย ภาพอะไรบางอย่างที่มีขนาดมหึมานี้ได้
รับการวิเคราะห์โดยไรน์สและเซอร์ปีเตอร์ สก็อต นักปักษีวิทยาและนักอนุรักษ์ บุตรชายของ
ึ
ื
�
ั
ั
โรเบิร์ต ฟอลคอน สก็อต นักสารวจข้วโลกใต้ช่อดัง บุคคลท้งสองซ่งไม่เคยมีประสบการณ์มากมาย
ี
ี
ื
เก่ยวกับสัตว์ประเภทน้มาก่อนได้สรุปว่า มันคือภาพขาหลังท่กาลังแหวกว่ายของสัตว์เล้อยคลาน
ี
�
ขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในน�้า
รายงานใน เนเจอร์ วารสารวิทยาศาสตร์ชั้นน�าฉบับวันที่ 11 ธันวาคม 1975 บอกว่า ทั้งสองได้
�
้
ี
ี
ึ
ต้งวงศ์และสปีชีส์ใหม่ให้กับสัตว์ท่พวกเขาเห็นแหวกว่ายอยู่ในนา (ซ่งผู้เช่ยวชาญของพิพิธภัณฑ์
ั
ี
ุ
ิ
่
ุ
ประวัตศาสตร์ธรรมชาติในกรงลอนดอนคดว่าพวกเขาน่าจะเหนฟองขนาดยกษ์ทผดจากแก๊ส
ิ
ั
็
�
ึ
ใต้นามากกว่า) ว่า เนสซีเทรัส ร็อมบ็อพเทริกซ์ (Nessiteras rhombopteryx) ซ่งแปล
้
ี
ความหมายคร่าวๆ ได้ว่า “ครีบ-รูปทรงส่เหล่ยมขนมเปียกปูนท่น่าอัศจรรย์แห่งล็อคเนส” เรา
ี
ี
สองคนต้องขอบอกว่าน้อยครั้งมากที่เราจะได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ จากวงการนักจัดหมวดหมู่พืช
และสัตว์ที่ค่อนข้างจริงจัง
ี
ี
ึ
ั
ในการอภิปรายซ่งจริงจังเท่าท่สถาบันการศึกษาแห่งศตวรรษท่ 18 สามารถสนับสนุนได้น้น ไรน์ส
ื
ี
และสก็อตต์ได้ถกอย่างเคร่งเครียดว่าสัตว์เล้อยคลานกลุ่มไหนท่เจ้าสัตว์สปีชีส์ใหม่ของพวกเขา
ี
ี
เก่ยวข้องด้วย ทว่าสุดท้ายก็มีความรับผิดชอบพอท่จะยอมรับว่าหาข้อสรุปแน่นอนไม่ได้ อย่างไร
ิ
ุ
ั
ุ
ี
ุ
ั
็
กตาม ขอบอกว่า แฟนๆ ของเนสซคดว่าบรรพบรษของมนน่าจะเป็นเพลสโอซอร์ กล่มสตว์
ิ
เลื้อยคลานคอยาวที่อยู่ในน�้าซึ่งสูญพันธุ์ไปเมื่อราว 66 ล้านปีก่อน
ั
ี
ื
ั
ี
เหตุผลในการต้งช่อวงศ์ให้เจ้าเนสซีท้งท่หลักฐานน้อยมาก (ท่ประชุมของนักจัดหมวดหมู่พืชและ
ั
สัตว์จะไม่ต้งช่อให้อะไรท้งส้นจนกว่าจะมีหลักฐานในมือ) ก็คือ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม เจ้าเนสซ ี
ิ
ั
ื
ในภาพยนตร์ปี 1970 ของบิลลี ไวล์เดอร์เรื่อง The Private
Life of Sherlock Holmes (ชีวิตส่วนตัวของเชอร์ล็อก โฮล์มส์)
�
ี
ุ
ื
่
ื
นกสบชอดังไดเจอสตวประหลาดแห่งลอคเนส หนจาลองท่ทา �
ั
้
็
่
ั
์
ขึ้นมีคอยาว หลังมี 2 โหนก แต่ไวล์เดอร์ไม่ชอบโหนกและสั่ง
ให้เอาออก แม้มีผู้เตือนว่าจะทาให้มันลอยตัวไม่ได้ก็ตาม และ
�
สุดท้ายหุ่นจ�าลองของเขาก็จมน�้า
41
โดรนถ่ายภาพคลื่นเสียงใต้น�้าถ่ายร่อนอยู่เหนือ
ทะเลสาบล็อคเนสเพื่อหาร่องรอยของเจ้าสัตว์
ประหลาด หลังจากที่หุ่นเนสซีจมน�้าไปแล้ว 50 ปี
นักวิจัยได้พบมันนอนอยู่ใต้ก้นทะเลสาบ
ซึ่งอยู่ลึกลงไป 590 ฟุต
42