The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Gypzy Publishing, 2021-06-29 23:33:03

จิม โรเจอร์ส

èĀÐùĀÜ×òéèúèśāÐòÿãāø
ëĈśČùöÖúāÓöāðòĈśČôÿïĈðăêŠÜÜāðāéòòâāÐāòèĀÐüŚāè

จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท
มองอนาคตโลกและญี่ปุ่นอย่างนักลงทุน
โอโนะ คาซึโมโตะ: เรียบเรียง
ภาคภูมิ กำาธรกิตติกุล: แปล
ราคา 270 บาท
OKANE NO NAGARE DE YOMU NIHON TO SEKAI NO MIRAI
Copyright © 2019 by Jim ROGERS / Kazumoto OHNO
All rights reserved.
First original Japanese edition published by PHP Institute, Inc., Japan.
Thai translation rights arranged with PHP Institute, Inc. Japan.
through JS Agency, Co., Ltd.
© ข้อความและรูปภาพในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
คาซึโมโตะ, โอโนะ.
จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท มองอนาคตโลกและญี่ปุ่นอย่างนักลงทุน.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป,
2564.
184 หน้า.
1. การลงทุน. I. ภาคภูมิ กำาธรกิตติกุล, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
658.152
ISBN 978-616-301-741-3

บรรณาธิการอำานวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน์
บรรณาธิการเล่ม : สวิณี แสงสิทธิชัย
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา
เลขากองบรรณาธิการ : กันยารัตน์ ทานะเวช
หัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษร : สวภัทร เพ็ชรรัตน์
ฝ่ายพิสูจน์อักษร : วนัชพร เขียวชอุ่ม สุธารัตน์ วรรณถาวร
รูปเล่ม : วรินทร์ เกตุรัตน์
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ภาพปก : วรายุทธ หล่อนกลาง
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
จัดพิมพ์โดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร 0 2728 0939 ต่อ 108
www.gypsygroup.net Line ID: @gypzy
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำาหน่ายโดย : บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำากัด
108 หมู่ที่ 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์
อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
โทร. 0 2423 9999 โทรสาร 0 2449 9222, 0 2449 9500-6
Homepage: http://www.naiin.com
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939

จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท
มองอนาคตโลกและญี่ปุ่นอย่างนักลงทุน
โอโนะ คาซึโมโตะ: เรียบเรียง
ภาคภูมิ กำาธรกิตติกุล: แปล
ราคา 270 บาท
OKANE NO NAGARE DE YOMU NIHON TO SEKAI NO MIRAI
Copyright © 2019 by Jim ROGERS / Kazumoto OHNO
All rights reserved.
First original Japanese edition published by PHP Institute, Inc., Japan.
Thai translation rights arranged with PHP Institute, Inc. Japan.
through JS Agency, Co., Ltd.
© ข้อความและรูปภาพในหนังสือเล่มนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
คาซึโมโตะ, โอโนะ.
จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท มองอนาคตโลกและญี่ปุ่นอย่างนักลงทุน.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, จิม โรเจอร์ส
2564.
184 หน้า. อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท
1. การลงทุน. I. ภาคภูมิ กำาธรกิตติกุล, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
658.152 มองอนาคตโลกและญี่ปุ่นอย่างนักลงทุน
ISBN 978-616-301-741-3

บรรณาธิการอำานวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน์
บรรณาธิการเล่ม : สวิณี แสงสิทธิชัย
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา โอโนะ คาซึโมโตะ เรียบเรียง
เลขากองบรรณาธิการ : กันยารัตน์ ทานะเวช ภาคภูมิ ก�าธรกิตติกุล แปล
หัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษร : สวภัทร เพ็ชรรัตน์
ฝ่ายพิสูจน์อักษร : วนัชพร เขียวชอุ่ม สุธารัตน์ วรรณถาวร
รูปเล่ม : วรินทร์ เกตุรัตน์
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ภาพปก : วรายุทธ หล่อนกลาง
ผู้อำานวยการฝ่ายการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
จัดพิมพ์โดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำากัด เลขที่ 37/145 รามคำาแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร 0 2728 0939 ต่อ 108
www.gypsygroup.net Line ID: @gypzy
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
พิมพ์ที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำากัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำาหน่ายโดย : บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำากัด
108 หมู่ที่ 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์
อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
โทร. 0 2423 9999 โทรสาร 0 2449 9222, 0 2449 9500-6
Homepage: http://www.naiin.com
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำานวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำานักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939



หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้นโดยเก็บข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์จิม โรเจอร์ส
ณ ที่พักส่วนตัวในประเทศสิงคโปร์

เหมาะส�าหรับนักอ่านชาวญี่ปุ่นและชาวเอเชีย

สารบัญ











ค�าน�าส�านักพิมพ์ 14

ค�าน�าผู้แปล 16
ค�าน�าผู้เขียน 18
รู้ทันกระแสเงินสด 18
ประวัติศาสตร์นั้นคือท่วงท�านอง 19

สิ่งที่เรียนรู้จากภาวะฟองสบู่แตกของสหรัฐอเมริกาเมื่อ 100 ปีก่อน 21
อย่าคิดเหมือนคนอื่นและจงเตรียมพร้อมส�าหรับการเปลี่ยนแปลง 22


อารัมภบท

สายลมได้พัดมาจากทวีปเอเชีย แต่สายลมนั้นมีความแรงและเบาอยู่ 23
ท�าไมถึงสามารถคาดการณ์วิกฤตการณ์เลห์แมนบราเธอร์ส 24
และการเลือกตั้งประธานาธิบดีทรัมป์ได้?
ศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อความส�าเร็จในการลงทุน 26

การมาถึงของ “ยุคเอเชีย” - หนี้สินอยู่ในประเทศตะวันตก สินทรัพย์อยู่ 27
ในประเทศตะวันออก
ญี่ปุ่นท�าอย่างไร? 32
ประเทศแห่งการบริโภคถัดไปคือที่แห่งนี้ 32

ภาวะเศรษฐกิจตกต�่าทั่วโลกที่เลวร้ายที่สุดจะเกิดขึ้นแน่นอน 34
การไหลเวียนของกระแสเงินสดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วง 10 ปี 36

บทที่ 1 ประเทศญี่ปุ่นมีศักยภาพที่ซ่อนอยู่ 39

อนาคตอันเรืองรองของประเทศญี่ปุ่นจากประวัติศาสตร์โลก 40
ประเทศที่ปิดจะตาย ประเทศที่เปิดจะรุ่งเรือง - ความจริงของ

ประวัติศาสตร์
ถ้าผมเป็นเด็กญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ผมจะหนีออกไปจากญี่ปุ่นทันที 40
ญี่ปุ่นในปี 2050 คือประเทศอาชญากรรมรายใหญ่ 41
ดูสาเหตุความตกต�่าของประเทศจากประวัติศาสตร์ 42

ความเจริญของญี่ปุ่นเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น 44
โรคร้ายแรงที่จะกัดกินประเทศนี้ในไม่ช้าคืออะไร?

นักเศรษฐศาสตร์มักจะผิดพลาด 44
อย่าหลงไปกับความเจริญแค่เปลือกนอก 46
- บทเรียนจากกระแสเงินสดในอดีต
สักวันจะหันกลับมาเห็นว่าอาเบะท�าลายญี่ปุ่น 47

แม้แต่ในวิกฤตยังมีโอกาสในการลงทุน 48

ประเทศที่รับผู้อพยพจะเจริญรุ่งเรือง ประเทศที่ปฏิเสธผู้อพยพจะตาย 51
มาคิดกันดูว่าจะควบคุมผลกระทบต่อสังคมอย่างไร
จะรับผู้อพยพเข้ามาหรือจะเป็นประเทศจนๆ 51
การรับผู้อพยพเข้ามาจะเพิ่มอัตราการก่ออาชญากรรมจริงหรือ? 53

ท�าอย่างไรให้ไม่ซ�้ารอย EU 54
ถ้าลงทุนกับญี่ปุ่น ลงกับการท่องเที่ยว การเกษตร และการศึกษา 55
เหตุผลที่อุตสาหกรรมของญี่ปุ่นจะขยายตัวต่อจากนี้
การลงทุนภายในประเทศยังขยายตัวได้อีก 55

ศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของภาคเกษตรกรรม 57
ทางรอดของธุรกิจการศึกษา 59

หนทางสู่การฟื้นฟูประเทศญี่ปุ่น 60

จุดแข็งของคนญี่ปุ่น 3 ข้อ และวิธีการฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่น 3 ข้อ
จุดแข็งของญี่ปุ่น 1) คุณภาพ 60
การผลิตของญี่ปุ่นที่คนอเมริกันต้องตกใจ 61

ห้ามเข้าไปในสงครามราคา 62
ประเทศอังกฤษยังพ่ายแพ้สงครามราคา 64
จุดแข็งของญี่ปุ่น 2) ลักษณะประชากรที่หาเทียบไม่ได้ 65
จุดแข็งของญี่ปุ่น 3) อัตราการออมเงินที่สูง 66
ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น 71

1) ตัดงบประมาณประจ�าปีทิ้ง 71
2) ลดภาษีศุลกากรและเปิดพรมแดน 71
3) รับผู้อพยพเข้ามา (อย่างระมัดระวัง) 73

ถ้าผมเป็นคนญี่ปุ่นอายุ 40 ปีละก็… 75


บทที่ 2 คาบสมุทรเกาหลีจะเป็นสถานที่ที่น่าสนใจของโลก 77
การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของคาบสมุทรเกาหลี 78
ปัญหาเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ทั้งหมดจะหายไปถ้ารวมประเทศ

เกาหลีเหนือจะเติบโตเป็นเลข 2 หลัก 78
คลายปัญหาอัตราการเกิดต�่าและสังคมสูงวัยของเกาหลีใต้ด้วยการ 80
เปิดประเทศของเกาหลีเหนือ

กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้กลายเป็นผู้เล่นคนส�าคัญไม่ว่าจะดี 82
จะร้าย

บริษัทสตาร์ตอัพเป็นที่ต้องการ แต่กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ยังคงมีบทบาท
ต่อการเปิดประเทศของเกาหลีเหนือ
บทบาทของรัฐบาลมุน แจอิน 82

อันดับของอาชีพที่เด็กๆ ชาวเกาหลีใต้อยากเป็น 84

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีผลกระทบอย่างไร 86
วันที่เงินลงทุนของโลกไหลเข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี 87

เหตุผลที่ผมอยากลงทุนในเกาหลีเหนือ 88
ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ประชากรท�างานหนักและการศึกษาสูง...
เกาหลีเหนือมีศักยภาพสูง

เกาหลีเหนือเคยร�่ารวยกว่าเกาหลีใต้ 88
การเตรียมการลับส�าหรับเปิดประเทศของเกาหลีเหนือ 90
คิม จองอึนเป็นผู้น�าแบบไหน? 91

อุตสาหกรรมใดจะได้ประโยชน์จากการรวมคาบสมุทรเกาหลี 94
ทางเลือกมากมายก�าลังรอคุณอยู่

เหตุผลที่ผมลงทุนในสายการบินโคเรียนแอร์ 94
การเติบโตของภาคเกษตรกรรมในเกาหลีใต้ 94
20 ปีจากนี้ภาคอุตสาหกรรมเกาหลีใต้จะมีความสุข 95

อุตสาหกรรมเกี่ยวกับเกาหลีเหนือที่ควรลงทุน 96
สถานการณ์เลวร้ายที่เป็นไปได้ 97

อย่าคลาดสายตาจากอเมริกา
อนาคตของกองก�าลังสหรัฐฯ ในเกาหลี 97
ความคาดหวังในการเปิดตลาดเกาหลีเหนือของจีนและรัสเซีย 99



บทที่ 3 ประเทศจีน - ประเทศที่ใกล้เคียงกับมหาอ�านาจของโลก 101
จีนยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างสูงอยู่อีก 102
ถ้ามองภาพรวมระยะยาวจีนยังจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
2 ศตวรรษที่เป็นข้อยกเว้น 102

เหตุผลที่จีนเป็นประเทศที่ส่งออกบุคลากรคุณภาพจ�านวนมาก 107

ศักยภาพในการเติบโตที่ยังหลับใหลอยู่รอบทะเลสาบไบคาล 108

ถ้าลงทุนกับจีน ลงกับธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐาน 109
และอุตสาหกรรมสุขภาพ
หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นตัวแปรใหญ่ที่ก�าหนดเศรษฐกิจจีน
ธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมยังเติบโตได้อีก 109

หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางก่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐาน 111
เงินหยวนจะแข็งขึ้นหลังจากนี้ 113
การปกครองแบบเผด็จการไม่ดีจริงหรือ? 113

ความเสี่ยงของจีนอยู่ที่อะไร? 116
ค้นหาจุดอ่อนของประเทศมหาอ�านาจ

อัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง 116
ความเหลื่อมล�้าขยายกว้างขึ้น 117
เงินกู้ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นสัญญาณอันตราย 118

สุภาษิตส�าหรับเศรษฐกิจจีน 122
เขตเศรษฐกิจอีกเขตของจีน ไต้หวัน และมาเก๊า 123

กุมบังเหียนโดยประเทศยิ่งใหญ่หรือเดินไปในทางของตนเอง
ไต้หวันจะถูกผนวกเข้ากับจีนหรือไม่? 123
หงไห่เทกโอเวอร์และขยายตัวต่อเนื่องหลังพลิกฟื้นแบบ V-shape 124
100 ปีหลังจากนี้มาเก๊าจะตกอันดับ 125

ผู้ชนะสงครามชิงอ�านาจระหว่างอเมริกาและจีนคือ? 126

ปัจจัยพื้นฐานของจีนแข็งแรง แต่ค่าเงิน USD แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สงครามการค้าเป็นเรื่องเหลวไหล 126
10 ปีจากนี้ค่าเงิน USD จะแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง 128

ในประวัติศาสตร์มีเพียงจีนเท่านั้นที่เจริญรุ่งเรือง 3 ครั้ง 129



บทที่ 4 ประเทศมหาอ�านาจรอบเอเชีย - สหรัฐอเมริกา รัสเซีย 131
และอินเดีย

โลกหลังจากอเมริกาสิ้นสุดช่วงขาขึ้น 132
สงครามชิงอ�านาจระหว่างอเมริกาและจีนน�ามาซึ่งฝันร้าย
บริษัทไอทียักษ์ใหญ่บางแห่งเท่านั้นที่อยู่ในช่วงขาขึ้นในอเมริกา 132
โศกนาฏกรรมที่เกิดจากกฎหมายศุลกากรของสหรัฐอเมริกาในยุค 134
1920

ผลกระทบของสงครามการค้าต่อสินค้าโภคภัณฑ์ 135
สงครามการค้าที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อใด? 136

เศรษฐกิจอินเดียจะเป็นอย่างไร? 137


ประเทศที่ชีวิตน้ควรไปสักคร้ง แต่ตอนน้ยังไม่เป็นประเทศชาติที่แท้จริง

ประเทศที่มีเสน่ห์ แต่ยังห่างไกลจากค�าว่าประเทศมหาอ�านาจ 137
จับตามองเศรษฐกิจรัสเซีย 138
ประเทศที่ถูกรังเกียจ แต่น่าลงทุน
เป้าหมายคือการลงทุนในรัสเซีย 138
ประเทศที่ดีที่สุดส�าหรับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตอนนี้ 139
โอกาสของเมืองวลาดีวอสตอค 140

อย่าถูกหลอกโดยโฆษณาชวนเชื่อให้ต่อต้านรัสเซีย 141


บทที่ 5 ตามให้ทันกระแสคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง 145

การลงทุนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มีเคล็ดลับที่ใครก็สามารถท�าได้ 146
แม้ไม่ใช่ทางออก แต่มีกลไกเงินสร้างเงิน
อย่าฟังค�าแนะน�าของคนอื่น 146

วิธีเข้าถึงข้อมูลแบบฉบับจิม โรเจอร์ส 148

ความส�าเร็จไม่เกี่ยวกับประวัติการศึกษา 148
ถ้าลงทุนอย่างถูกวิธี เงินจะสร้างเงินด้วยตัวของมันเอง 149

ปรัชญาชีวิตที่เรียนรู้หลังสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดไป 151
การรอส�าคัญกว่าการกระท�าในบางครั้ง
สิ่งที่จ�าเป็นในการประสบความส�าเร็จมีเพียงสิ่งเดียว 151

รีบซื้อสิ่งที่ไม่มีใครสนใจ 153
การรอเป็นพรสวรรค์ที่ส�าคัญอย่างหนึ่ง 156
ความล้มเหลวมักเกิดขึ้นหลังจากการท�าก�าไร 157

สิ่งที่เรียนรู้หลังจากสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดภายใน 5 เดือน 159
หลังท�าก�าไรได้ 3 เท่า

ความลับของชีวิตที่ไม่ไหลไปกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ 160
ตั้งแต่เส้นทางลงทุนไปจนถึงทักษะที่จ�าเป็น
วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องตัวเองจากวิกฤตการเงินโลก 160

2 ทักษะที่จ�าเป็นส�าหรับคุณหลังจากนี้ 161
ถ้าผมเป็นคนญี่ปุ่นวัยหนุ่มสาว ผมจะอพยพไป 4 ประเทศนี้ 162


บทที่ 6 โครงสร้างเศรษฐกิจ และเงินในอนาคต 165
อุตสาหกรรมที่จะเติบโตและหายไปเพราะเอไอ 166

ฟินเทคจะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงินอย่างมาก
ท�าไมเทรดเดอร์ของโกลด์แมน แซคส์ลดจาก 600 คน เหลือ 2 คน 166
ยุคที่ธุรกิจเก่าตายไปคือโอกาสของธุรกิจใหม่ 168

กองทุน ETF เป็นการลงทุนที่ฉลาดหรือไม่? 169
หากจะเริ่มลงทุน อย่าลงกับกองทุน ETF 172

ถ้ารูปแบบของเงินเปลี่ยนแปลง โครงสร้างเศรษฐกิจก็เปลี่ยนแปลง 173

ระวังนโยบายผลักดันสังคมไร้เงินสดของรัฐบาล
แผนผังอ�านาจที่เปลี่ยนแปลงด้วยสังคมไร้เงินสด 173
สังคมไร้เงินสด และความคาดหวังของแต่ละประเทศ 175

ลงทุนกับบล็อกเชน ไม่ใช่สกุลเงินเสมือน 176
ประเทศใดจะขยายตัวเพราะบล็อกเชน 178
ครึ่งหลังของยุค 2010 คือยุคของเอไอและบล็อกเชน 180


บทสรุป 181

ปลดปล่อยตัวเองจากความเชื่อ 182

ค�าน�าส�านักพิมพ์














จิม โรเจอร์ส ผู้ได้รับสมญานามว่า “อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท” คือ
พ่อมดการเงินและนักลงทุนที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของโลก เขามีความคิดที่


แตกต่าง ไม่ท�าตามคนอ่น และชอบที่จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์อยู่เสมอ เขา


ชอบท่องเที่ยวรอบโลกกับภรรยาและน่นเป็นเหมือนการสร้างเครือข่ายใหมๆ

ในสมองของเขาเสมอ และไม่น่าเช่อว่าผลของการศึกษาประวัติศาสตร์และ

การเที่ยวแถบเอเชียจะท�าให้ได้ข้อสรุปอันน่าทึ่งว่า “จุดศูนย์กลางของโลก
จะเคลื่อนย้ายจากตะวันตกสู่ทวีปเอเชีย”

หนังสือเล่มน้เหมาะส�าหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนมือฉมัง
เหมือนเป็นการลับมีดลับดาบคู่กายของจอมยุทธ์และเปิดแนวทางใหม่ๆ ใน




การลงทุนให้ตวเอง หรอแมคณจะไมใชนกลงทุนแตสนใจเรองเศรษฐกจโลก








หนังสือเล่มน้ก็ตอบโจทย์เช่นกัน ด้วยภาษาและการเรียบเรียงที่กระชับ และ

การใส่เชิงอรรถเพื่อการเข้าใจในศัพท์การเงินอย่างง่ายๆ อย่างครบถ้วนจะ
ท�าให้โลกแห่งการเงินของคุณใหญ่และส่องแสงประกายวิบวับขึ้นมาทันที

หนังสือเล่มน้ไม่ได้มีแต่การวิเคราะห์กระแสเงินสดและอุตสาหกรรม
ที่น่าลงทุนของแต่ละประเทศเท่าน้น แต่ยังมีปรัชญา คาเตือน และแนวคิด


14

ดีๆ แถมมาให้ในส่วนท้าย ซึ่งถือเป็นสิ่งส�าคัญอย่างยิ่งส�าหรับนักลงทุน
เพราะใครๆ ก็รู้ว่าการลงทุนคือความเสี่ยง “ยิ่งเสี่ยง ก�าไรยิ่งสูง”

นั่นละ! คือเหตุผลที่คุณต้องอ่านหนังสือเล่มนี้





ส�านักพิมพ์ยิปซี



























15

ค�าน�าผู้แปล


























เหตการณ์ทีเคยเกดขนในอดีตมักจะเกดขนซาอีกครงในอนาคต หากเรา
ศึกษาสาเหตุและวิธีการรับมือกับปัญหาในอดีตได้เป็นอย่างดี เราก็จะ
สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ในอนาคตที่กาลังจะมาถึงได้ “มอง


อนาคตโลกและญ่ปุ่นอย่างนักลงทุน โดยจิม โรเจอร์ส” เป็นหนังสือที

ถอดแนวคิดของจิม โรเจอร์ส นักลงทุนระดับโลก ผู้ร่วมก่อต้ง Quantum


Fund ร่วมกับจอร์จ โซรอส กองทุนเฮดจ์ฟันด์ช่อดังระดับโลกที่มีแนวคิด

ทางการลงทุนด้วยการวเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ด้วยตัวเองเสมอ และใน
คร้งน้จิม โรเจอร์สจะมาวิเคราะห์แต่ละประเทศ เจาะลึกถึงจุดแข็งและ


จุดอ่อน เล่าถึงโอกาสและความน่าสนใจในการลงทุนในแต่ละประเทศผ่าน

ประวัติศาสตร์และวิกฤตทางการเงินที่เคยเกิดข้นในอดีต โดยจะเน้นไป
ที่ประเทศแถบเอเชียซึ่งเป็นพื้นที่ที่จิมให้การจับตามองเป็นพิเศษ เช่น

จีน ญ่ปุ่น และคาบสมุทรเกาหลีใต้ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา


ส�าหรับผู้แปลที่กาลังศึกษาด้านบริหารธุรกิจและมีความสนใจเร่อง


ประวัติศาสตร์เป็นทุนเดิมแล้ว หนังสือเล่มน้มีความน่าสนใจมาก เน่องจาก
จิม โรเจอร์สจะพาผู้อ่านท่องไปในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตผ่านกระแส
16

เงินสด และบอกเล่าแนวคิดทางการลงทุนที่แหวกแนวจากประสบการณ์ตรง
ของจิม โรเจอร์ส ผู้แปลหวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้รับแนวคิดด้านการลงทุน

ที่เป็นประโยชน์ในอนาคตเช่นเดียวกัน





ภาคภูมิ ก�าธรกิตติกุล
ผู้แปล (จากภาษาญี่ปุ่น)



























17

ค�าน�าผู้เขียน














รู้ทันกระแสเงินสด



โดยปกติผมคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าผ่านประวัติศาสตร์

เน่องจากประวัติศาสตร์สามารถบอกแนวโน้มในอนาคตได้ว่ากระแสเงินสด

จะไหลไปในทิศทางใด หากคุณต้องการประสบความสาเร็จ คุณจะต้อง

คาดการณ์อนาคตล่วงหน้า ไม่ใช่เฉพาะนักลงทุนเท่าน้น นักดนตร นัก

ฟุตบอล หรือพนักงานบริษัท ไม่ว่าอุตสาหกรรมใด การคาดการณ์เป็น
สิ่งที่ส�าคัญ อย่างที่ผมและครอบครัวได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
ในปี 2007 เพราะผมคาดการณ์ไว้ว่าจุดศูนย์กลางของโลกจะเคลือนย้าย

จากตะวันตกสู่ตะวันออกอย่างทวีปเอเชีย

ผมรับรู้ถึงความส�าคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์หลังจากที่ผม
จบการศึกษาวิชาเอกประวัตศาสตร์อเมริกาและยุโรปจากมหาวิทยาลัยเยล

ประเทศสหรัฐอเมริกา และศึกษาต่อปริญญาโทวิชาเอกประวัติศาสตร์ประเทศ


อังกฤษที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ (เป็นเร่องน่าอายที่ผม
คิดมาตลอดว่าอเมริกาและยุโรปเป็นทุกอย่างของโลก ผมเพิ่งรู้ว่ายังม

เรื่องราวอีกมากมายที่ผมไม่รู้)


อย่างไรกตาม ในขณะทีผมศึกษาประวตศาสตร์ประเทศอังกฤษ



18


ผมรู้สึกได้ว่าเหตุการณ์ที่คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดข้นในอดีตน้นเกิดข้น










ซาแล้วซาเล่า หลังจากนนในช่วงทีผมเร่มท�างานในอุตสาหกรรมการลงทุน
ู้
ที่วอลล์สตรีท ณ นิวยอร์ก ผมก็รสึกเหมือนเดิมว่าการไหลเวียนของกระแส
เงินสดและเงินทุนในปัจจุบันนั้นมีความคล้ายคลึงกับในอดีตเป็นอย่างยิ่ง
ตลอด 10 ปีหลังจากน้นผมได้ศึกษาประวัติศาสตร์ประเทศเอเชีย


เช่น จีน และญ่ปุ่น รวมไปถึงประวัติศาสตร์ประเทศอื่นๆ และได้ออก
เดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกถึงสองคร้งเพื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดข้นในพื้นที่ต่างๆ



ทั่วโลกด้วยตาของผมเอง อย่างที่ผมเคยเขียนในหนังสือของผม คร้งแรกผม
ท่องเที่ยว 6 ทวีปด้วยมอเตอร์ไซค์ และคร้งที่สองผมขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์

ไป 116 ประเทศทั่วโลก ระยะทางมากกว่า 240,000 กม. ผมสามารถพูด

ได้ว่าเม่อผมอายุมากข้น ผมก็เข้าใจโลกมากข้น ต้องขอบคุณประวัติศาสตร์


ที่สอนผมว่าเงินทางานอย่างไร ท�าให้ผมสามารถคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆ

1
ได้มากมาย เช่น วิกฤตการณ์เลห์แมนบราเธอร์ส (Lehman Shock)


การรุ่งโรจน์ข้นของประเทศจีน การเลือกต้งประธานาธิบดีทรัมป์ และการ
เปิดประเทศของเกาหลีเหนือ
ประวัติศาสตร์นั้นคือท่วงท�านอง

มาร์ก ทเวน กล่าวประโยคส�าคัญไว้ว่า “ประวัติศาสตร์น้นคือ

ท่วงท�านอง” เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิด



1 Lehman Shock หมายถึงวิกฤตการณ์ล่มสลายของเลห์แมนบราเธอร์ส ธนาคารเพื่อการลงทุน

ขนาดใหญ่ที่ล่มสลายเพราะการกู้เงินมาเป็นจ�านวนมหาศาลเพื่อนามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
แต่เมื่อเงินเฟ้อ เกิดหนี้เสียมากมาย จึงท�าให้ธนาคารขาดสภาพคล่องและล้มละลายในที่สุด


19




ข้นมาแล้วทั้งน้น แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดข้นในปัจจุบันแตกต่างจากเดิม แต่


ก็มีความคล้ายคลึงกันและเกิดข้นซ�าแล้วซ�าเล่า เช่น สงคราม ความ


อดอยากหิวโหย การกดขข่มเหงชาวต่างชาต สงครามการค้า และปัญหา





การอพยพ ปัญหาเหล่าน้เกิดข้นซ�าแล้วซ�าเล่าในลักษณะที่แตกต่างกันใน

แต่ละคร้ง ถ้าเรารู้ว่าปัญหาในอดีตคล้ายคลึงกับปัญหาในปัจจุบันอย่างไร

เราจะสามารถเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันได้และรู้ว่าเหตุการณ์จะไปจบลง



ที่ไหน แม้ผมจะพูดบ่อยๆ ว่าประวัติศาสตร์เกิดข้นซ�าแล้วซ�าเล่า แต่

เหตุการณ์ที่เกิดข้นไม่เหมือนเดิม เปรียบดั่งท่วงท�านองที่บรรเลงอย่าง
ต่อเนื่องเพียงแต่แตกต่างไปเล็กน้อย


อย่างเช่นช่วงครงหลังของยุค 1990 ถงช่วงประมาณปี 2000

สหรัฐอเมริกาเกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ท�าให้มูลค่าของสินทรัพย์ซึ่ง
ส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงข้น บุคคลในวงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง
2

พูดว่า “เหตุการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้ง” และในช่วงเวลานั้นคนญี่ปุ่น
ที่มีฐานะต่างบินไปนิวยอร์กเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เหล่าน้นทันที เพราะคิด

ว่าหลังจากนี้ไปราคาอสังหาริมทรัพย์จะพุ่งสูงขึ้น
ในช่วงน้นเองหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลได้

รายงานว่า “เศรษฐกิจกาลังเข้าสู่ยุคใหม่” และสร้างคาว่า “The New





Economy” ข้นมา แต่หลังจากที่ฟองสบู่แตกก็เลิกใช้คาว่า “The New
Economy” เพราะเหตุการณ์ที่เกิดข้นไม่ใช่เศรษฐกิจยุคใหม่ แต่เป็นเพียง



แค่ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่เท่าน้น ซึ่งส�าหรับคนที่เรียนประวัติศาสตร์จะรู้ว่า


“ภาวะคร้งน้มีสัญญาณเหมือนกับวิกฤตฟองสบู่แตกก่อนหน้าน้อย่างชัดเจน”

2 หลังจากเหตุการณ์วิกฤตซับไพรม์ ทางรัฐบาลมีนโยบายในการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นให้

ประชาชนอยากลงทุน เม่อดอกเบี้ยตาลง ประชาชนบางกลุ่มซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกาไร



การเก็งก�าไรต่อเนื่องนี้ท�าให้ราคาของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
20

สิ่งที่เรียนรู้จากภาวะฟองสบู่แตกของสหรัฐอเมริกาเม่อ 100 ปี

ก่อน





เม่อประมาณ 80 ปีก่อนหน้าน้สหรัฐอเมริกาก็ประสบปัญหาภาวะ

เศรษฐกจฟองสบู่เหมือนกน ในปี 1920 ขณะทีทวปยุโรปเหนอยล้าจาก







สงครามโลกครงที 1 สหรฐอเมริกากลับได้เปรียบในการแข่งขัน มการ



ลงทุนในอุตสาหกรรมหนักเป็นอย่างมาก อุตสาหกรรมยานยนต์ก้าวหน้า
มีการผลิตและบริโภคเป็นจ�านวนมาก
เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในขณะน้นกล่าวว่า


น่คือ “ความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นนิรันดร์” เกิดเป็นค�าว่า “ยุคใหม่” และ
“ยุคทองปี 20” ข้นมา แต่ในความเป็นจริงไม่มีอะไรที่เป็นนิรันดร์หรอก

มันเป็นแค่เพียงภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ ในไม่ช้าราคาหุ้นที่วอลล์สตรีท
ในนิวยอร์กก็ตกลง และเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจตกต�่าครั้งใหญ่ในปี 1929
3

ปลายปี 1980 ประเทศญ่ปุ่นก็ประสบภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่
ส�าหรับคนที่เรียนประวัติศาสตร์จะรู้ว่าน่คือภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ แต่ใน






ตอนนนไม่ใช่แค่คนญ่ปุ่นเท่าน้น แต่คนต่างชาติกคิดว่ามันไม่ใช่ภาวะ








เศรษฐกจฟองสบู่เหมอนกน ภาวะทีญปุ่นเผชญครงนแตกต่าง ในโลกแห่ง





การลงทุน วลี “คร้งน้แตกต่าง” เป็นสัญญาณของอันตรายที่ต้องระมัดระวัง


เป็นอย่างยิ่ง ในประวัติศาสตร์ไม่มีคาว่า “คร้งน้แตกต่าง” คนที่ไม่มีความร ู้

3 ในช่วงปี 1980 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นรุ่งเรืองเพราะการมีนวัตกรรมที่รุ่งโรจน์ ท�าให้เกิดการหลวม
ตัวและใช้จ่ายเงินอย่างเกินตัว มีเงินในระบบเยอะจนท�าให้เงินทุนล้นตลาด ราคาอสังหาริมทรัพย์

เพิ่มข้นอย่างรวดเร็ว และมีการตกแต่งงบการเงินโดยการนากาไรจากการเก็งกาไรสินทรัพย์เข้าไป




รวมอยู่ในงบกาไรขาดทุน ยิ่งงบดูสวย บริษัทก็ยิ่งปั่นหุ้นได้สูงข้นทั้งที่มูลค่าของบริษัทไม่มีอะไร

ที่จับต้องได้จริงๆ
21

เรื่องประวัติศาสตร์เท่านั้นถึงจะพูดว่า “ครั้งนี้แตกต่าง”



อย่าคิดเหมือนคนอื่นและจงเตรียมพร้อมส�าหรับการเปลี่ยนแปลง



ข้นแรกของการประสบความสาเร็จคืออย่าคิดเหมือนคนอื่น การที ่


เราคิดต่างจากคนอื่น เราจะเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น
หากความคิดของคุณถูกเยาะเย้ยหรือถูกหัวเราะให้คิดว่ามันเป็น






โอกาสทีดี ไม่มคนประสบความส�าเรจจากการท�าตามคนอืน และทีสาคญ

ที่สุดคือการที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามยุคสมัยที่เปล่ยนแปลง


จงรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้นเสมอ


คนเราจะปรับตัวได้ยากข้นเมื่ออายุมากข้น ถึงแม้ว่าตอนคุณอาย 40

คุณต้งตัวได้แล้ว แต่ถ้าหากคุณไม่ปรับตัวต่อไป คุณก็จะสูญเสียความม่นคง


นั้นไปได้อยู่ดี
ในหนังสือเล่มน้ผมจะอธิบายถึง “วิธีคาดการณ์อนาคตผ่าน

ประวัติศาสตร์” และ “วิธีปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย” โดยผมหวังว่าผู้อ่าน
ทุกท่านจะได้รับประโยชน์จากการอ่านหนังสือเล่มนี้


จิม โรเจอร์ส














22

อารัมภบท




สายลมได้พัดมาจากทวีปเอเชีย

แต่สายลมนั้นมีความแรงและเบาอยู่

จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท



จิม โรเจอร์ส เกิดในชนบทของอเมริกาและใช้ชีวิตอย่างยากล�าบากใน


ช่วงวัยรุ่น จิมได้รับการปลูกฝังพ้นฐานทางความคิดผ่านการศึกษา


ประวตศาสตร์ทีมหาวทยาลัยชอดังของอเมรกาและอังกฤษ หลังจากนน







จิมได้ก่อต้งกองทุนในตานาน “ควอนตัมฟันด์ ” ร่วมกับ จอร์จ โซรอส

4


ซึ่งสามารถท�ากาไรได้อย่างมหาศาลถึง 4,200% ภายใน 10 ปี ที ่
วอลล์สตรีท

นักลงทุนหาตัวจับยากคนน้ยังสามารถคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆ
มากมาย เช่น เหตุการณ์เลห์แมนบราเธอร์ส การรุ่งโรจน์ของประเทศจีน

การเลือกต้งประธานาธิบดีทรัมป์ และการเปิดประเทศของเกาหลีเหนือ ด้วย
สายตาที่มองทะลุกระแสเงินสดผ่านมุมมองของเศรษฐศาสตร์ทั้งไมโครและ
แมคโคร

บทน้เราจะวิเคราะห์ว่า “ประเทศใดในเอเชียจะเป็นประเทศที่ม

ความสุขมากที่สุดใน 5 ปีหลังจากน้” ด้วยปรัชญาการลงทุนของจิม

โรเจอร์ส ซูซาน วอซซิซก ซีอีโอของยูทูบได้ให้สัมภาษณ์กับฟอร์บสว่า







เธอตดสินใจสิงต่างๆ ด้วยพืนฐานวา “โลกจะเปลียนแปลงไปอย่างไรใน 5

ปีหลังจากน้” หากคุณอ่านบทน้จบแล้ว คุณจะตามภาพรวมเศรษฐกิจ

คร่าวๆ ของโลกในอนาคตทันในทันที
ท�าไมถึงสามารถคาดการณ์วิกฤตการณ์เลห์แมนบราเธอร์ส
และการเลือกตั้งประธานาธิบดีทรัมป์ได้?





4 Quantum Fund คือกองทุนบริหารความเสี่ยง (Hedge Fund) ประเภทหนึ่ง


24

JIM ROGERS



ใน “คานาผู้เขียน” ผมได้กล่าวไว้ว่า ผมสามารถคาดการณ์


เหตการณ์ต่างๆ เช่น วกฤตการณ์เลห์แมนบราเธอร์ส การร่งโรจน์ของ



ประเทศจีน การเลือกต้งประธานาธิบดีทรัมป์ และการเปิดประเทศของ

เกาหลีเหนือ ได้ด้วยการศึกษากระแสเงินสดผ่านประวัติศาสตร์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตการณ์เลห์แมนบราเธอร์ส การที่ผมคาดการณ์
ล่วงหน้าหลายปีว่าวิกฤตการณ์เลห์แมนบราเธอร์สจะเกิดข้น หลังจากน้น


ผมสามารถสร้างก�าไรได้ไม่น้อยเลยละ


คร้งหน่งผมรู้สึกว่างบดุลหรืองบแสดงฐานะการเงิน (Balance Sheet)
ของสมาคมการจ�านองแห่งชาตของรัฐบาลกลาง (หรอที่เรียกว่าแฟนน เม)



ที่ดูแลเร่องการจานองหรือสินเช่อบ้านมีความผิดปกต ณ จุดน้เองผมได้ท�า





การขายชอร์ตหุ้น (Short Selling) ของสมาคม (การขายชอร์ตคือการที ่

ผู้ถือหุ้นคิดว่าในอนาคตราคาหุ้นจะตกตาลงอย่างแน่นอน ผู้ถือหุ้นเลยขาย



หุ้นออกไปในราคาที่แพง เมื่ออนาคตราคาหุ้นตาลงจริงตามคาด ผู้ถือหุ้นก ็




ซ้อหุ้นตัวน้นกลับมาในราคาที่ตากว่าราคาที่ขายไปในตอนแรก ส่วนต่างน ้ ี
จะกลายเป็นก�าไร)



ไม่ใช่แค่สมาคมแฟนน เมเท่านน ผมยังขายชอร์ตหุ้นธนาคารเพือ

การลงทุน เช่น ซิต้แบงก์ ด้วย ผมได้กล่าวแนะนาและเตือนเพื่อนนักลงทุน


รอบข้างและสมาชิกวุฒิสภาที่เก่ยวข้องกับการเงินว่า “อีกไม่นานแฟนน เม



จะพังแล้ว ระวังโดนแฟนน เมหลอก” ผ่านรายการโทรทัศน์ แต่ไม่มีใครฟัง
ผมเลย แถมยังกล่าวอีกว่า “จิม โรเจอร์ส เป็นบ้าไปแล้ว”
ส�าหรับผมแล้วการถูกกล่าวหาว่าบ้าไม่ใช่เร่องแปลกอะไร ปี 2016



ผมกถูกกล่าวหาเช่นน้ในเลกเชอร์ที่โตเกียว เพราะผมกล่าวว่า “หลังจากน ี ้
เกาหลีเหนือจะเติบโตข้น” ผมพูดแต่คาว่า เกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือ จน



เกือบจะถูกจับ แต่ 2 ปีหลังจากน้น ในปี 2018 สถานการณ์เปลี่ยนแปลง
25

จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท




ไปอย่างส้นเชิง ผู้คนต่างกล่าวว่า “ตอนที่จิม โรเจอร์สพูดถึงเกาหลีเหนือ
ผมคิดว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมเพิ่งรู้ว่าเขาพูดถูกเผง”

เหตุการณ์เลือกต้งประธานาธิบดีของอเมริกาในปี 2016 ก็เช่นกัน

ผมจ�าได้อย่างดีว่าผมบอกภรรยาและลูกสาว 2 คนตอนดูข่าวว่าโดนัลด์ ทรมป



จะชนะการเลือกต้ง ครอบครัวของผมโกรธมากที่พูดอย่างน ผมไม่ได้


ประกาศตัวเชียร์โดนัลด์ ทรัมป์อะไรหรอกนะ แค่พูดว่าเขาจะชนะแค่น้นเอง

ซึ่งความจริงแล้วผมก็ไม่ได้เลือกเขา แต่ผลการเลือกต้งก็เป็นไปตามที

ผมคาดการณ์ไว้ โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
ศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อความส�าเร็จในการลงทุน




บางคร้งผมพูดความจริงที่มันถูกต้อง แต่คนทั่วไปกลับคิดว่าผมเป็น


ไอ้บ้า ซ่งแท้จริงแล้วถ้าหากคุณต้องการประสบความส�าเร็จ คุณจะต้องม
วิธีคิดที่แตกต่างจากคนอื่น ตราบใดที่คุณยังคิดเหมือนคนอื่น คุณจะไม่
ประสบความส�าเร็จ





ผมมนโยบายว่า “เราศกษาประวตศาสตร์เพือความส�าเรจในการ

ลงทุน” ประวัติศาสตร์บอกว่าโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และมีเหตุการณ์
ที่หักล้างสิ่งที่เราคาดการณ์เกิดขึ้นตลอดเวลาในโลกนี้
ไม่ว่าเราจะศึกษาปีใดในประวัติศาสตร์ โลกจะเปลี่ยนแปลงอย่าง
สิ้นเชิงใน 15 ปีหลังจากน้น ยกตัวอย่างเช่น ความคิดของคนในปี 1900

จะผิดแปลกไปจากความคิดของคนในปี 1915 ไม่ว่าจะปี 1930 และ 1945
หรือปี 1960 และ 1975 ก็เป็นแบบนั้น

ถ้าคุณไม่เข้าใจสถานการณ์ของตนเอง คุณจะไม่สามารถลงทุนได้


ดังน้น คุณต้องเข้าใจอย่างชัดเจนว่าขณะน้เศรษฐกิจดีหรือมันจะดิ่งลงเหว
26

JIM ROGERS





ไปเร่อยๆ การศึกษาประวัติศาสตร์เท่าน้นที่จะท�าให้คุณเข้าใจสถานการณ์
ได้

ก่อนหน้าน้ผมมีคลาสเก่ยวกับการลงทุนที่มหาวิทยาลัยโคลอมเบีย

สหรัฐอเมริกา ผมสอนนักศึกษาเก่ยวกับการคาดการณ์อนาคตผ่าน

ประวัติศาสตร์



ผมให้นักศึกษาหาว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ท�าให้ตลาดขยายขนาดใหญ่





เพมขนและหดตวลดลงในอดีต เกดเหตการณ์อะไรก่อนหน้าทีตลาดจะ



เปลี่ยนแปลง โลกเปลี่ยนแปลงอย่างไรจากเหตุการณ์น้น หากนักศึกษาฝึก



วิเคราะห์อย่างน้ไปเร่อยๆ นักศึกษาจะสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลง
ในอนาคตจากประวัติศาสตร์และกระแสเงินสดได้





การมาถงของ “ยุคเอเชย” - หนสินอยู่ในประเทศตะวนตก
สินทรัพย์อยู่ในประเทศตะวันออก
เรามาลองดูตลาดการลงทุนโดยเฉพาะกัน สิ่งที่ประวัติศาสตร์บอก
เราคือการมาถึงของ “ยุคเอเชีย”
ตอนน้อเมริกาเป็นประเทศลูกหน้รายใหญ่สุดในประวัติศาสตร์








(ประเทศทียมเงนจากประเทศอืนไปทัว) ประเทศทีโอบอุมเงินกมากทีสุดเป็น















อันดับ 1 ในประวตศาสตรโลก และสิ่งทีเลวรายคอหนสินทีมมากอยูแลวก ็


ดันเพิ่มข้นเร่อยๆ สินทรัพย์สุทธิที่หมายถึงการนาสินทรัพย์และหน้สินใน



งบดุลมาลบกัน มันติดลบประมาณ 900 ล้านล้านเยน (ณ สิ้นปี 2017)
เป็นหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาประเทศอื่นๆ (รูปที่ 1)
27

จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท



รูปที่ 1: สินทรัพย์สุทธิภายนอกของประเทศ / ภูมิภาคที่ส�าคัญ

(ล้านล้านเยน)
400
300
200
100
0
-100
-200

-800
-900
ญี่ปุ่น เยอรมนี จีน ฮ่องกง นอร์เวย์ รัสเซีย อิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา


(หมายเหตุ) ตัวเลข ณ สิ้นปี 2017 ตัวเลขญี่ปุ่นจากกระทรวงการคลัง
ตัวเลขประเทศอื่นจาก IMF
ที่มา: บทความวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 จาก Jiji Dotcom





ขณะที่อเมริกาสร้างหน้เพิ่มข้น ประเทศในเอเชียกลับสร้างสินทรัพย์
เพ่มและกลายเป็นประเทศเจ้าหน (ประเทศที่ให้ประเทศอ่นกู้ยืมเงิน) ใน







ช่วง 75 ปีน้เงินทุนจานวนมหาศาลจากอเมริกา ยุโรป และญ่ปุ่นไหลเข้า
ประเทศในเอเชีย เช่น จีน และสิงคโปร์ เห็นหรือยังล่ะว่าในปัจจุบันหน้สิน

อยู่ในประเทศตะวันตก และสินทรัพย์อยู่ในประเทศตะวันออก (รูปที่ 2)

ปัจจุบันประเทศเจ้าหน้รายใหญ่อันดับ 1 คือญ่ปุ่น และอันดับ 3 คือ



จีน จีนแทบจะไม่มีหน้สินเลยจนกระทั่งเม่อไม่นานมาน เพราะเหมาเจ๋อตุง


ผู้นาสูงสุดของจีนไม่ได้รับความเช่อถือจากโลก ท�าให้ไม่มีประเทศใดให้




กู้เงินจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 1976 เน่องด้วยจีนไม่มีภาระหน้สินอยู่แล้ว
28

JIM ROGERS



เลยท�าให้จีนสามารถสร้างสินทรัพย์ได้อย่างมากมายโดยไม่มีต้นทุนที่ติดลบ

อะไรเลย







รปที 2: ทุนสารองระหว่างประเทศของจีนและญ่ปุ่นอยู่ในอันดับที 1

และ 2
อันดับ ประเทศ ทุนส�ารองระหว่างประเทศ
(หน่วย: $ 1 แสนล้าน)

1 จีน $3,219.0

2 ญี่ปุ่น $1,259.3
3 สวิตเซอร์แลนด์ $804.3


4 ซาอุดีอาระเบีย $501.3
5 รัสเซีย $460.6

6 ไต้หวัน $459.9*

7 ฮ่องกง $424.8

8 อินเดีย $403.1

9 เกาหลีใต้ $402.4

10 บราซิล $379.4



ที่มา: จัดท�าโดย IMF ธนาคารกลางจีน ปี 2018







29

จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท



ในปี 2008 หลังจากเกิดวิกฤตการเงินโลกเลห์แมนบราเธอร์ส จีนเร่ม


ใช้เงินทุนที่เก็บสะสมไว้ในกรณีฉุกเฉินปั่นราคาหุ้นให้สูงข้นผ่านรัฐวิสาหกิจ
ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์ของจีนได้ช่วยเหลือประเทศต่างๆ ทั่วโลกไว้

แต่หลังจากน้นมาจีนกลายเป็นฝั่งที่กู้เงินเพราะอุปสงค์โดยรวมของ


โลกลดลง (รายได้หลักของจีนคือการส่งออก) รัฐบาลท้องถ่น บริษัทเอกชน

และบุคคล ถึงแม้เร่มมีหน้สินเพ่มข้น แต่จีนยังคงเป็นประเทศเจ้าหน





รายใหญ่เหมือนเดิม

เกาหลีใต้ก็เคยมีเงินทุนก้อนใหญ่ที่เก็บสะสมไว้เหมือนจีน แต่เร่มม ี


การกู้เงินในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมาน โดยเฉพาะหน้สินส่วนบุคคล (หน



ครัวเรือน) ที่เพิ่มข้นมาก ส�าหรับรัสเซียและสิงคโปร์ ยังคงเป็นประเทศ

เจ้าหนี้ที่แข็งแกร่งเหมือนเคย
แล้วญี่ปุ่นล่ะ?
รูปที่ 3: วิวัฒนาการศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก









ੈل







30 ੈل


Πϯυͱதࠃ͕஍ ੈքͷܦࡁͷॏ৺ ೥ʹ࢝·Ϧ
ٿ্ͷܦࡁ׆ಈͷ ͸ ੈلΛ͔͚ͯ ͪΐ͏Ͳ ೥ؒ
෼ͷ Λ઎ΊɺҎ Ϥ ʔϩο ύʹ ޲ ͰɺதࠃɺΠϯυɺ
ޙ ೥ؒɺੈ ͔ͬͯҠಈɻΠΪ ͦͷଞ৽ڵࠃͷڵ
քͷܦࡁͷॏ৺͸ Ϧεͷ࠷ॳͷ࢈ۀ ོʹΑΓɺੈքܦ
΄ͱΜͲҠಈ͠ͳ ֵ໋͕͖͔͚ͬͱ ࡁͷॏ৺͸ݩͷ৔
͔ͬͨɻ ͳΓɺͦͯ͠๺ถ ॴʹ໭ΔͩΖ͏ɻ
΁ͱ޲͔͏ɻ

JIM ROGERS




ศตวรรษที่ 1 1950 2025

อินเดียและจีนครอบครอง ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกได้ เริ่มต้นปี 2000 ในเวลา


กิจกรรมทางเศรษฐกิจ 2 เคล่อนย้ายไปสู่ยุโรปในช่วง เพียง 25 ปี จีน อินเดีย
ใน 3 ของโลก 1,500 ปี 3 ศตวรรษ เริมจากการ และประเทศเกิดใหม่อื่นๆ


หลังจากน้น ศูนย์กลาง ปฏิวัติอุตสาหกรรม และ จะน�าศูนย์กลางเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ที เคลื่อนย้ายไปยังอเมริกา โลกกลับมาสู่ที่เดิม
อินเดียและจีน เหนือ

ที่มา: อนาคตที McKinsey ท�านาย (Richard Dobbs, James Manika, Jonathan
Utzel, Diamond Company), หน้า 35 วิเคราะห์โดย McKinsey Global
Institute ใช้ข้อมูลจาก Angus Madison มหาวิทยาลัยโกรนินเกน




ญ่ปุ่นมีสินทรัพย์สุทธิในภาพรวมของประเทศเป็นอันดับ 1 ของโลก
ประมาณ 300 ล้านล้านเยน (รูปที 1) และมีทุนส�ารองระหว่างประเทศ ณ

สิ้นเดือนมีนาคม 2018 มากกว่า 1,200 แสนล้านดอลลาร์ (รูปที 2) ตัวเลขน ้ ี

ถือว่าสูงมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก
แต่หากพิจารณาการลงทุนรายย่อยภายในประเทศแล้ว ตัวเลขรายได ้

หักค่าใช้จ่ายของการคลังรัฐบาลติดลบเป็นอย่างมาก ญ่ปุ่นแบกรับหน้สิน

ระยะยาวประมาณ 898 พันล้านเยน ณ สิ้นปี 2017 นอกจากน้จานวน




หน้สินยังเพิ่มข้นเร่อยๆ ทุกปี รัฐบาลได้ออกตราสารหน (ตราสารที่ออก




โดยรัฐบาลเพ่อให้ประชาชนลงทุนและมีสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนภายหลัง)





เพื่อนาเงินมาชาระหน้จ�านวนน้คร้งแล้วคร้งเล่าวนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์


ภาษีจากรายได้ที่เด็กและวัยรุ่นยุคน้ต้องเสียเม่อโตข้นเป็นผู้ใหญ่จะถูกนามา



ชาระหน้จ�านวนน้เหมือนกัน มันเหมือนเป็นการผลักภาระให้กับคนรุ่นใหม่



ต่อไปเรื่อยๆ

ประเทศที่มีภาระหน้สินจ�านวนมากส่วนใหญ่มักจะจบลงไม่ค่อยดี
31

จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท






ประวัติศาสตร์จะบอกเล่าเร่องราวเหล่าน้ไว้ทั้งหมด โดยผมจะพูดถึงเร่องน ้ ี
ในบทต่อไป


ญี่ปุ่นท�าอย่างไร?


อนาคตของญ่ปุ่นเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก ตัวผมเองก็กังวล

เก่ยวกับอนาคตของญ่ปุ่นเช่นกัน ทั้งสังคมผู้สูงอาย อัตราการเกิดลดลง






และการไม่รับผู้อพยพ นอกน้นไม่พอ ในขณะที่จานวนผู้สูงอายุเพ่มข้น


ค่าใช้จ่ายประจ�าปี เช่น ค่าประกันสังคมก็เพิ่มข้นอย่างต่อเน่องเช่นกัน

หนี้สินของประเทศก็เพิ่มขึ้นต่อไปเพื่อน�าเงินมาใช้ในค่าใช้จ่ายส่วนนี้
แม้ว่าจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่บันทึกไว้ในปี 1990



แล้ว หน้ระยะยาวของญ่ปุ่นยังคงเพิ่มข้นอย่างต่อเน่องในเวลาไม่ถึง 10 ปี


เม่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียช่วง 10 ปีน


ความแตกต่างของทั้งสองประเทศช่างเป็นสิ่งที่น่าปวดหัว เพราะแม้ว่าภาพ
รวมประเทศเอเชียจะถือสินทรัพย์จ�านวนมาก แต่ยังคงมีประเทศอย่างเช่น
ญี่ปุ่นที่แบกรับหนี้สินจ�านวนมาก

ถ้าผมเป็นเด็กญ่ปุ่นที่อายุ 10 ปี ผมคงคิดที่จะย้ายออกจากญี่ปุ่นไป

อยู่ประเทศอื่นแล้ว เพราะ 30 ปีหลังจากน ตอนที่ผมอายุ 40 ปี หน้สิน





ของประเทศคงเพิ่มข้นมากกว่าน้แน่นอน และคนที่จะใช้หน้สินน้เป็นใครอื่น

ไม่ได้นอกจากตัวคนญี่ปุ่นเอง
ประเทศแห่งการบริโภคถัดไปคือที่แห่งนี้


ตลอดช่วง 50 ปีน้ประเทศที่น่าสนใจที่สุดในโลกคือญี่ปุ่น ช่วง 40
32

JIM ROGERS





ปีน้คือสิงคโปร์ และช่วง 30 ปีน้คือจีน ช่วง 10-20 ปีจากน้ไปประเทศ

ที่น่าสนใจที่สุดในโลกก็คือเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้


10-15 ปีก่อนหน้าน เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ผมไม่ได้ให้ความ


สนใจเลย แต่ตอนน้ผมกลับคิดถึงเร่องราวของเกาหลีเหนือมากข้น เน่องจาก


การเปลี่ยนแปลงคร้งใหญ่ที่กาลังเขย่าโลกกาลังจะเกิดข้นในดินแดนของเขา




อีกไม่นานเกาหลีเหนือจะเปิดประเทศและรวมเป็นหน่งเดียวกับเกาหลีใต้

ทั้งสองประเทศจะกลายเป็นประเทศที่น่าสนใจที่สุดในโลก
เกาหลีใต้มีอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างมากและแบกรับปัญหาร้ายแรง
เอาไว้เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ผู้ชายมากเกินไป ในขณะที่ผู้หญิงไม่เพียงพอ แต่


ปัญหาทีกล่าวมาจะเบาลงไปด้วยการรวมประเทศของคาบสมทรเกาหล ี
เกาหลีเหนือมีประชากรวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิงจ�านวนมาก พวกเขาไม่ม ี




ความลังเลในการต้งครรภ์ ทัศนคติเก่ยวกับการกาเนิดบุตรและเล้ยงบุตร
ของญ่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่เปล่ยนไปท�าให้อัตราการเกิดลดลง แต่ทัศนคต ิ





เร่องน้ในเกาหลีเหนือไม่ได้เปล่ยนไปเลย การรวมประเทศอาจจะไม่ได้
แกปญหาได้มาก แตปญหาอัตราการเกดลดลงของเกาหลีใตจะดีขนแนนอน









อย่างน้อยก็ดีข้นกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือสิงคโปร์

ที่ก�าลังเผชิญปัญหาอัตราการเกิดลดลง
จีนประกาศใช้นโยบายไร้สาระที่เรียกว่า “นโยบายลูกคนเดียว”
ต้งแต่ปี 1979 และยกเลิกปี 2015 แต่ถึงเช่นน้นผลกระทบจากนโยบายยัง


เกิดขึ้นต่อ อัตราการเกิดของจีนปี 2017 อยู่แค่ 1.24 ซึ่งต�่ากว่าอัตราการ
เกิดของญี่ปุ่นปี 2016 ที่ 1.44
ถ้าเป็นอย่างน้ต่อไปจีนจะมีอนาคตที่ยากล�าบาก การยกเลิกนโยบาย

ลูกคนเดียวไม่ได้แก้ไขปัญหาอัตราการเกิดลดลงได้ จีนต้องจริงจังกับการ
แก้ไขปัญหาอัตราการเกิดลดลงให้มากกว่านี้
33

จิม โรเจอร์ส อินเดียน่า โจนส์แห่งวอลล์สตรีท





ถ้าเทียบกับญ่ปุ่นแล้ว ญ่ปุ่นเป็นอันดับต้นของโลกในเร่องปัญหาอัตรา



การเกิดลดลง แม้ว่าญ่ปุ่นเป็นผู้นาในด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์คุณภาพ

แต่ญี่ปุ่นก็เป็นอันดับหน่งของโลกในด้านแย่ๆ เหมือนกัน ทั่วโลกกาลังเฝ้าดู

อนาคตของญี่ปุ่นด้วยความต่นเต้น และผลที่ได้ก็คือประเทศอื่นๆ สามารถ

เรียนรู้จากญี่ปุ่นเป็นกรณีศึกษาได้ด้วย ถ้าญี่ปุ่นสามารถแก้ไขปัญหาอัตรา
การเกิดลดลงและสังคมผู้สูงอายุได้ ญ่ปุ่นจะสามารถกลับข้นมาเป็นผู้นาโลก



ได้แน่นอน

หากพิจารณาจากสถานการณ์ตอนน้แล้ว ประเทศที่มีความสุขที่สุด



ในเอเชีย 5 ปีหลังจากน้คือประเทศรวมของคาบสมุทรเกาหล น่นเพราะ
ประเทศน้จะเจริญรุ่งเรืองที่สุด ประชาชนในประเทศที่เจริญรุ่งเรืองจะม ี

ความพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีปัญหาการขาดแคลนงาน และไม่ต้อง
กังวลเกี่ยวกับการล้มละลาย

หากแต่ความเจริญรุ่งเรืองไม่ได้นาไปสู่ความสุขเสมอไป ประวัติศาสตร์
บอกไว้ว่าพอประเทศประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ประชาชนจะไม่มีความ
สุข เม่อประชาชนไม่มีความสุข พวกเขาจะโทษคนต่างชาต (ผู้อพยพ) ไว้


ก่อน สีผิว ภาษา ศาสนา และอาหารแตกต่างกัน ชาวต่างชาติมีกลิ่น
เหม็นบ้าง อาหารก็เช่นกัน
ในทางกลับกัน เราจะเห็นได้ว่าประเทศที่เจริญรุ่งเรืองจะยอมรับ

ชาวต่างชาติเสมอ ความเจริญรุ่งเรืองท�าให้ประชาชนเปิดใจกว้างและมีนาใจ


ต่อผู้อื่น ชาวต่างชาตินาความหลากหลาย ความคิดใหม่ และเงินทุนเข้ามา
ในประเทศมากขึ้น ท�าให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ



ภาวะเศรษฐกิจตกต�่าทั่วโลกที่เลวร้ายที่สุดจะเกิดขึ้นแน่นอน




34


Click to View FlipBook Version