เครื่องดนตรีไทย ประเภทดีด เป็นเครื่อรื่งดนตรีปรีระเภทดีด ลักษณะของ พิณเปี๊ยะมีคันทวนยาวประมาณ 1 เมตรเศษ ตอนปลายคันทวนทำ ด้วยเหล็กรูปหัวช้าง ทองเหลือง สำ หรับรั ใช้เป็นที่พาดสาย สาย ทองเหลืองนี้จะพาดผ่านสลักตรงกะลาแล้ว ต่อไปผูกกับสลักตรงด้านซ้าซ้ย สายของพิณ เปี๊ยะมีทั้งทั้ 2 สายและ 4 สาย มีกระพุ้งเสียงรูปแบน ด้านหน้าและด้าน หลัง กลมรี คล้ายรูปไข่ มีคันต่อยาว เรียรีวขึ้นไป ตอนปลายบานและงอนโค้ง ไปข้างหลังเรียรีกว่า ทวน มี สายทำ ด้วย เอ็นหรือรื ไหม 4 สาย ขึงผ่านหน้ากะโหลก ตามคันขึ้นไปจนถึงลูกบิด 4 อัน ผูก ปลาย สายอันละสาย มีนมติดตามคัน ทวนสำ หรับรักดสายลงไปติดสันนม ให้ เกิดเสียงสูงต่ำ ตามประสงค์ กระจับ จั ปี่ พิณพิเปี๊ ย ปี ะ เป็น ป็ เครื่อรื่งสายที่มีกมีระโหลกเสียสีง และใช้นิ้ ช้ นิ้วมือมืหรือรื ไม้ ดีดสายให้สั่นสั่สะเทือนจนเกิดเป็น ป็ เสียสีงเช่น ช่ พิณพิกระจับจั ปี่ จะเข้ ซึง ซึ เป็น ป็ ต้น
เครื่องดนตรีไทย ประเภทดีด มี 3 สาย ซึ่งซึ่ ได้รับรัอิทธิพลมาจากมอญ และ ได้ปรับรั ปรุงแก้ไขมาจาก กระจับปี่ ซึ่งซึ่มี 4 สาย นำ มาวางดีดกับพื้นเพื่อความสะดวก เวลาบรรเลงใช้ดีดด้วยไม้ดีดกลมปลาย แหลมทำ ด้วย งาช้าง หรือรืกระดูกสัตว์ เคียนด้วยเส้นด้ายสำ หรับรัพันติดกับปลาย นิ้วชี้ข้างขวาของผู้ดีด และใช้นิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วกลางช่วยจับให้มีกำ ลัง มี 4 สาย แต่แบ่งออกเป็น 2 เส้น เส้นละ 2 สาย มีลักษณะคล้าย กระจับปี่ แต่มีขนาดเล็กกว่า กะโหลกและคันทวนใช้ไม้เนื้อแข็ง ชิ้นเดียวคว้านตอนที่เป็นกะโหลกให้ เป็นโพรง ตัดแผ่นไม้ให้กลม แล้ว เจาะรูตรงกลางทำ เป็นฝาปิดด้าน หน้า เพื่ออุ้มเสียงให้กังวาน คัน ทวนเป็นเหลี่ยมแบนตอนหน้า เพื่อ ติดตะพานหรือรืนมรับรันิ้ว ซึง ซึ จะเข้ เป็น ป็ เครื่อรื่งสายที่มีกมีระโหลกเสียสีง และใช้นิ้ ช้ นิ้วมือมืหรือรื ไม้ ดีดสายให้สั่นสั่สะเทือนจนเกิดเป็น ป็ เสียสีงเช่น ช่ พิณพิกระจับจั ปี่ จะเข้ ซึง ซึ เป็น ป็ ต้น
เครื่องดนตรีไทย ประเภทสี เป็นซอชนิดหนึ่งของไทย มีมาแต่โบราณ มี เสียงไพเราะ นุ่มนวล รูปร่าร่งวิจิตรสวยงาม กว่าซอชนิดอื่น ถือเป็นเครื่อรื่งดนตรีชั้รี ชั้นชั้สูง ใช้ในราชสำ นัก มีส่วนประกอบ ได้แก่ กะโหลก คันซอ ลูกบิด รัดรัอก หย่อง ถ่วง หน้า หนวดพราหมณ์ และคันชัก ซออู้ เป็นเครื่อรื่งสีที่มีสาย 2 สาย ทำ ด้วยไหมหรือรืเอ็น เรียรีกว่า สายเอกและสายทุ้มเช่น เดียวกับ ซอด้วง แต่กะโหลกซึ่งซึ่เป็นเครื่อรื่ง อุ้มเสียงทำ ด้วยกะลามะพร้าร้ว ตัด ตามยาวให้พูอยู่ข้างบน ขึงหน้าด้วย หนังแพะหรือรืหนังลูกวัว มีทวน (คัน) เสียบยาวขึ้นไปกลึงกลม ตลอดปลาย มีลูกบิด สำ หรับรัพัน สาย 2 อัน คันชักนั้นนั้ร้อร้ยเส้นหาง ม้าให้อยู่ภายในระหว่างสายทั้งทั้สอง ซออู้ ซอสามสาย เป็น ป็ เครื่อรื่งดนตรีที่รี ที่ ดัดแปลงมาจากดครื่อรื่งดีด มีสมีายและกะโหลก เสียสีงเป็น ป็ ส่ว ส่ นประกอบที่สำ คัญเช่น ช่ เดียวกับเครื่อรื่งดีด ทำ ให้เกิดเสียสีง โดยใช้คั ช้ คันชักชัสีที่สี ที่ สาย เช่น ช่ ซอสามสาย ซออู้ ซอด้วง สะล้อ
เครื่องดนตรีไทย ประเภทสี เป็นเครื่อรื่งดนตรีเรีครื่อรื่งสีพื้น เมืองล้านนา ซึ่งซึ่สะล้อมีทั้งทั้ 2 สาย และ 3 สาย และเป็นตัวหลักมักนิยม ใช้ขึ้นนำ เพลงในวงกับเครื่อรื่งดนตรี ชนิดอื่นๆ เช่น สะล้อ ซอ ซึงซึ สะล้อ การเล่นสะล้อจะใช้มือซ้าซ้ยจับ ที่ ตัวสะล้อโดยใช้ช่วง นิ้ว ระหว่าง นิ้วโป้ง และ นิ้วชี้ รับรั ไว้ การจับต้อง ผ่อนคลายเป็นเรื่อรื่งสำ คัญที่สุด เป็นเครื่อรื่งสีที่มี ๒ สายเรียรีกว่า สายเอก และสายทุ้ม ตัวกระพุ้งอุ้มเสียงเรียรีกว่า กระบอก เพราะมีรูปอย่างกระบอกไม้ไผ่ ทำ ด้วยไม้เนื้อแข็งหรือรืงาช้าง ขึงหน้าด้วยหนัง งูเหลือม หนังแพะหรือรืหนังลูกวัว มีทวน (คัน) เสียบกระบอกยาวขึ้นไป เนื่องจากซอ ด้วงเป็นซอเสียงเล็กแหลม จึง ใช้สายที่ทำ ด้วยไหมหรือรืเอ็นเป็นเส้นเล็กๆ สะล้อ ซอด้วง เป็น ป็ เครื่อรื่งดนตรีที่รี ที่ ดัดแปลงมาจากดครื่อรื่งดีด มีสมีายและกะโหลก เสียสีงเป็น ป็ ส่ว ส่ นประกอบที่สำ คัญเช่น ช่ เดียวกับเครื่อรื่งดีด ทำ ให้เกิดเสียสีง โดยใช้คั ช้ คันชักชัสีที่สี ที่ สาย เช่น ช่ ซอสามสาย ซออู้ ซอด้วง สะล้อ
เครื่องดนตรีไทย ประเภทตี ลูกระนาดมี 21 ลูก ลูกที่ 21 หรือรืลูก ยอด จะมีขนาดสั้นสั้ที่สุด ลูกระนาด จะร้อร้ยไว้ด้วยเชือกติดกันเป็นผืน แขวนไว้บนราง ซึ่งซึ่ทำ ด้วย ไม้เนื้อ แข็งรูปร่าร่งคล้ายเรือรืด้ามหัวและ ท้ายโค้งขึ้นเพื่อให้อุ้มเสียง มีแผ่น ไม้ปิดหัวและท้ายรางเรียรีกว่า “โขน” ฐานรูปสี่เหลี่ยมเรียรีกว่า “ปี่พาทย์ไม้ แข็ง”ไม้สำ หรับรัตีมี 2 อย่างคือ ไม้ แข็ง (เมื่อต้องการเสียงดังแกร่งร่ กร้าร้ว) และไม้นวม (เมื่อต้องการ เสียงเบาและนุ่มนวล) ทำ ด้วยไม้เนื้อแข็ง ลักษณะเป็นแท่ง สี่เหลี่ยม มีสันมนวิธีตี การตีใช้ขยับมือที่ละ คู่ การขับเสภาใช้กรับรัสองคู่ ถือมือละคู่ ผู้ ขับเสภาจะขยับกรับรัสองคู่นี้ตาม ท่วงทำ นองที่เรียรีกเป็นไม้ต่าง ๆ เช่น ไม้ กรอ ไม้หนึ่ง ไม้รบ หรือรื ไม้สี่ ระนาดเอก กรับ รั เสภา เป็น ป็ เครื่อรื่งดนตรีที่รี ที่ ทำ ให้เกิด เสียสีงดนตรีด้รี ด้ วยการใช้ข ช้ องสองสิ่งสิ่กระทบ กัน ด้วยการตี นับนัว่า ว่ เป็น ป็ เครื่อรื่งดนตรีปรีระเภท เก่าแก่ที่สุดสุที่ที่มนุษนุย์รู้ย์รู้จั รู้ กจั ใช้ ได้มีวิมีวัวิฒวันาการจากอุปกรณ์ง่ณ์ ง่ ายๆ ให้มี ความหลากหลายออกไปทั้งรูปแบบ และวัสวัดุที่ดุที่ใช้
เครื่องดนตรีไทย ประเภทตี กลองยาว เป็นเครื่องดนตรีสำ หรับ ตีด้วยมือตัวกลองทำ ด้วยไม้ มี ลักษณะกลมกลวง ขึงด้วยหนังมี หลายชนิด ถ้าทำ ด้วยหนังหน้าเดียว มีรูปยาวมากใช้สะพายในเวลาตี เรียก ว่ากลองยาวหรือ เถิดเทิง ฆ้องวงใหญ่มี ๑๖ ลูก ขนาดลดหลั่นกันไป ตามลำ ดับ ลูกต้นขนาดใหญ่ เสียงต่ำ อยู่ ทาง ซ้าซ้ยของผู้ตี ลูกยอดขนาดเล็ก เสียง สูง อยู่ทางขวาของผู้ตี ทุกลูกผูกบนร้าน ซึ่งซึ่ทำ เป็นวงรอบตัว คนตี เว้นด้านหลังไว้ ผู้ตีนั่งในกลางวง ตีด้วยไม้ที่ทำ ด้วยแผ่น หนังหนา ตัดเป็นวงกลม มีด้าม เสียบ ตรงรูกลางแผ่นหนัง กลองยาว ฆ้อ ฆ้ งวง เป็น ป็ เครื่อรื่งดนตรีที่รี ที่ ทำ ให้เกิด เสียสีงดนตรีด้รี ด้ วยการใช้ข ช้ องสองสิ่งสิ่กระทบ กัน ด้วยการตี นับนัว่า ว่ เป็น ป็ เครื่อรื่งดนตรีปรีระเภท เก่าแก่ที่สุดสุที่ที่มนุษนุย์รู้ย์รู้จั รู้ กจั ใช้ ได้มีวิมีวัวิฒวันาการจากอุปกรณ์ง่ณ์ ง่ ายๆ ให้มี ความหลากหลายออกไปทั้งรูปแบบ และวัสวัดุที่ดุที่ใช้
เครื่องดนตรีไทย ประเภทเป่า ขลุ่ยเพียงออ เป็นขลุ่ยขนาดกลาง ระดับ เสียงต่ำ สุดคือ เสียงโด ของไทย ใช้เป็น หลักเทียบเสียง ในวงเครื่อรื่งสาย เครื่อรื่งตี ถ้าเล่นกับวงมโหรี ขลุ่ยเพียงออต้องมี ระดับเสียง ได้ระดับเดียวกับลูกฆ้องวงใหญ่ ลูกที่ ๑๐ ที่เรียรีกว่า ลูกเพียงออ เครื่องเป่าชนิดหนึ่ง เสียงคล้าย ออร์แกน เป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ นิยมเล่นในทุกจังหวัดของภาคอีสาน ตอนเหนือ ทำ ด้วยไม้ซาง เรียกว่า ไม้ มีขนาดยาวลดหลั่นกัน เรียงติดเป็น ตับในเต้าแคนที่ทำ ด้วยไม้ ทำ เสียง สูง-ต่ำ ด้วยการเปิดปิดนิ้วที่รูเล็ก ๆ แคน ขลุ่ย ลุ่ เพีย พี งออ เครื่อรื่งดนตรีไรีทยประเภทเป่าจะเป็น ป็ เครื่อรื่งดนตรีที่รี ที่ บรรเลง ด้วยการใช้ล ช้ มของผู้บรรเลงผ่านลิ้นหรือรืดากของเครื่อรื่ง ดนตรีนั้รี นั้นั้ ๆ จึง จึ จะเกิดเสียสีงขึ้น ขึ้ ได้แก่