หัวใจชายหนุ่ม
ผู้แต่งและประวัติผู้แต่ง
หัวใจชายหนุ่ม เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยทรงใช้พระนามแฝงว่า “รามจิตติ” เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ จำนวน
๑๘ ฉบับ รวมระยะเวลาที่ปรากฏตามจดหมายทั้งหมด 9 ปี ๗ เดือน
ดุสิตสมิต" เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔ ลักษณะการพระราชนิพนธ์เป็นรูปแบบของจดหมาย มี
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๖แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี
ตลอดระยะเวลา ๑๕ ปีที่ทรงครองราชย์ (พ.ศ. ๒๔๕๓-๒๔๖๔) ทรงประกอบพระราช
กรณียกิจเป็นอเนกประการทรงพระปรีชาสามารถทั้งด้านการทหาร
การปกครองการต่างประเทศ และโดยเฉาะด้านอักษรศาสตร์
พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์งานประพันธ์หลายประเภท
และทรงใช้พระราชนิพนธ์เป็นสื่อแสดงแนวพระราชดำริในเรื่องต่างๆ
ที่มาของเรื่องหัวใจชายหนุ่ม
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ได้ไปศึกษาต่อยังที่สหราช
อาณาจักร และทรงศึกษาอยู่ที่อังกฤษเป็นระยะเวลานานกว่า 9 ปี ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงเข้าใจความแตก
ต่างของวัฒนธรรมไทยและตะวันตกเป็นอย่างดี นอกจากนี้ในสมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยก็มีการเปิด
ประเทศมากขึ้น ทำให้มีนักเรียนไทยไปศึกษา ณ ต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และเมื่อ ‘นักเรียนนอก’ เหล่า
นี้กลับมายังประเทศไทยจึงรู้สึกไม่สะดวกไม่สบายกับความ ‘อันศิวิไลซ์’ หรือความไม่เจริญของประเทศไทย
สภาพแวดล้อมทางสังคมเหล่านี้ทำให้นวนิยายเรื่อง ‘หัวใจชายหนุ่ม’ ถือกำเนิดขึ้น โดยวัตถุประสงค์ในการ
แต่งมีดังนี้
๑. เพื่อสะท้อนให้ผู้อ่านเห็นภาพสังคมไทยในขณะนั้น
๒. เพื่อสะท้อนมุมมองความรู้สึกนึกคิดของคนรุ่นใหม่ (นักเรียนนอก) ที่มีต่อวัฒนธรรมและสังคมไทยใน
ด้านต่าง ๆ
ลักษณะคำประพันธ์
หัวใจชายหนุ่ม เป็นนวนิยายร้อยแก้วในรูปแบบของ จดหมาย
โดยมีข้อควรสังเกตสําหรับรูปแบบจดหมาย ทั้ง ๑๘ ฉบับใน
เรื่องดังนี้ ๑.หัวจดหมาย ตั้งแต่ฉบับที่ ๑ วันที่ ๒๓ กันยายน
พ.ศ. ๒๔๖- จนถึงฉบับ สุดท้ายวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖-
จะเห็นว่ามีการเว้นท้ายปี พ.ศ. ไว้ 5.ค่าขึ้นต้นจดหมาย ทั้ง ๑๔
ฉบับ ใช้คำขึ้นต้นเหมือนกันหมด คือ “พ่อประเสริฐเพื่อนรัก”
จุดประสงค์ในการแต่ง
๑. เพื่อสะท้อนให้ผู้อ่านเห็นภาพสังคมไทยในขณะนั้น
๒. เพื่อสะท้อนมุมมองความรู้สึกนึกคิดของคนรุ่นใหม่
(นักเรียนนอก) ที่มีต่อวัฒนธรรมและสังคมไทยในด้าน
ต่าง ๆ
จดหมาย ๑๑ ฉบับ
๑. ฉบับที่ ๑
สรุปใจความสําคัญของจดหมาย หัวใจชายหนุ่ม
นายประพันธ์ ประยูรสิริ ได้ส่งจดหมายถึงนายประเสริฐ สุวัฒน์ ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันเป็นฉบับแรก
เนื้อความในจดหมายกล่าวถึงการเดินทางกลับมายังประเทศไทยจากลอนดอนของนายประพันธ์
นอกจากนั้นยังบรรยายถึงความเสียใจที่ไปกลับประเทศไทยและการดูถูกบ้านเกิดเมืองนอนของ
ตนเอง และ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางกลับภายในเรือโดยสาร คือ ได้พบปะกับ
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ คนเองสนใจ แต่ต้องผิดหวังเนื่องจา หล่อนมีหวานใจมารอรับที่ท่าเรืออยู่แล้ว
คำศัพท์ เสตอริงก์ พิวิไลซ์ ศิวิไลซ์ คำแสลง โก้
๒. ฉบับที่ ๔
จดหมายในฉบับที่ ๔ นี้กล่าวถึง การกลับมาถึงประเทศไทย และการเข้ารับราชการ งใช้เส้นแต่ไม่ สําเร็จผล
นอกจากนี้คุณพ่อของนายประพันธ์ไค้ าภรรยาไว้ให้นายประพันธ์แล้ว หล่อนชื่อ กิมเน้ย เป็นลูก สาวของ
นายอากรเพ้ง ซึ่งพ่อของนายประพันธ์รับรองว่าเป็นคนดีสมควรแก่นายประพันธ์ด้วยประการทั้ง ปวง แต่
ด้วยนายประพันธ์เป็นนักเรียนบอก จึงไม่ยอมรับเรื่องการคลุมลงชน จึงได้ขอดูตัวแม่กิมเน้ยก่อน นอกจาก
นั้นในจดหมายได้เล่าถึง การพบปะกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ดินถูกไป โรงพัฒนากรด้วย
คําทับศัพท์ : แบทะเลอร์ ฟรี แฟแช่น โฮเต็ล
สํานวนที่ได้ เดินเข้าท้ายครัว หมอบราบคาบแก้ว คลุมถุงชน ลงรอยเปื่ นก้าประนม
๓. ฉบับที่ ๕
จดหมายฉบับที่ ๕ กล่าวถึง การได้เข้ารับราชการของนายประพันธ์ นายประพันธ์ได้เข้ารับราชการ
ในกรมพานิชย์และสถิติพยากรณ์ และนายประพันธ์ได้พอกับแม่กิมเน้ย หน้าตาของหล่อนเหมือนนาย
ชุนสู หยิน แต่ก็ยังไม่เป็นที่ถูกใจของนายประพันธ์ นอกจากนั้นนายประพันธ์ได้เล่าถึงผู้หญิงที่เจอใน
โรงพัฒนากร หล่อนชื่อนางสาวอุไร พรรณโสภณ เป็นลูกสาวของพระพินิจ พัฒนากร
๔.ฉบับที่ ๖
จดหมายฉบับที่ 5 กล่าวถึง การใต้นับพบแม่อุไร การไปเที่ยวในระหว่างงานฤดูหนาวทุกวัน ทุกคืน
และได้บรรยายถึงรูปร่างลักษณะองแม่อุไร ว่าเป็นคนสวยน่ารัก และกล่าวว่า แม่อุไรงามที่สุดในกรุง
สยาม แม่ ไรมี ท มะเหมียนฝรั่งมากกว่าคนไทย มีการศึกษาติ โดยสิ่งที่นายประพันธ์ชอบมากที่สุด
คือ การเต้นรำา ซึ่งแม่อุไร เต้นรําเปนอีกด้วย
คำทับศัพท์ : ปอปูล่าร์ สัปเปอร์ เอดูเคชั่น โช
สํานวนที่ได้ : ทําตัวเป็นหอยจุ๊บแจง ค้อนเสียสามวง
๕. ฉบับที่ ๔
จดหมายจบที 5 กล่าวถึง การแต่งงานการแม่อุไร โดยรีบร้อ เนื่องจากสาเหตุการนัดพบ
เจอกัน บ่อยครั้ง จนทำให้แม่อุไรตั้งครรภ์ขึ้นมา การสู่ขอนั้นคุณพ่อได้ไปขอให้ท่านเจ้าคุณ
มหาดเล็กไปสู่ขอ หลังจากแต่งงานทั้งคู่ได้ไปฮันนีมูนที่หัวหินด้วยกัน.
คําทับศัพท์ :ฮันนีมูน
สํานวนที่ได้ : โรงเรียนฝึกหัด ชู้ ชิงสุกก่อนห่าม
๖. ฉบับที่ ๑๑
ประพันธ์กลับกรุงเทพได้ ๓ ทาทอ มาอยู่ที่บ้านใหม่ บ้านใหม่ที่เขาคิดว่าไม่มีความสุขเลย
ประพันธ์ ได้เล่าให้พ่อประเสริฐฟังตอนที่อยู่เพชรบุรีว่า ได้ทะเลาะกับแม่อุไร แล้วเลยกลับ
กรุงเทพ มีเรื่องขัดใจ มี ปากเสียงกันตลอด กลับ เมื่อมาถึงที่บ้านใหม่ ต้องมีเรื่องให้
ทะเลาะกัน แม่อุไร ไม่อยากจิตบ้านบนของ เพราะถือตนว่าเป็นลูกผู้ดี และนอกจากนั้นก็มี
เหตุให้ขัดใจกันเรื่อยๆ ไม่ว่าประพันธ์จะทำอะไร แม่อุไรก็มอง ว่าผิดเสมอ
ทับศัพท์ : หัวเมือง หน้ามู่ทู่ บ่าว
๓. ฉบับที่ ๑๒
แม่อุไรได้แท้งลูก และสนรักประพันธ์แล้ว แต่ประพันธ์ก็ยังทนอยู่กับแม่อุไร ยอมฝืนรับชะตากรรม แม่อุไรชอบไป
เที่ยวและชอบไปคนเดียว หอประพันธ์ถามว่าไปไหน แม่อุไรก็โกรธกุนเฉียว นานเข้าห้าง ร้านต่างๆ ส่งไปทวงเงินมา
ที่ประพันธ์ ประพันธ์จึงเตือนแม่อุไร แต่แม่ ไรกลับสวนกลับมาว่า ประพันธ์ ไม่สืบประวัติของเธอให้ดีก่อน และเธอก็
จะไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง ประพันธ์จึงต้องไปขอเงินพ่อเพื่อใช้หนี้ ต่อมาพ่อของประพันธ์จึงลงแจ้งความใน
หนังสือพิมพ์เรื่องจะไม่ชดใช้หนี้ให้แม่อุไร เมื่อแม่อุไรเห็นแจ้ง สาม บึ้งลงย้อนกลับบ้าง แล้วแม่อุไร กลับไปอยู่บ้าน
พ่อของเธอ คุณหลวงเทพ หามาหาประพันธ์ คุยเรื่องต่างๆกัน รวมถึงเรื่องแม่อุไร ที่เที่ยว อยู่กับพระยาตระเวน
นคร ด้วยความเป็นห่วงแม่อุไร จึงส่ง จดหมายไปกล่าว น แต่ ก ก เป็นชิ้นๆ กลับมา ต่อมาหลวงเทพ มาหา
ประพันธ์ เพื่อบอกว่าแม่อุไรไป ค้างบ้านพระยาตระเวนนคร แล้ว และหลวงเทพก็รับธุระเรื่องขอหย่า ตอนนี้
ประพันธ์จึงกลับมาโสดอีกครั้ง สำนวนที่ได้ : เมฆทุกก้อนบีบใบเป็นเงิน อุทิศตัวเป็นพรหมจรรย์ คําศัพท์ นิ้ว
๘. ฉบับที่ ๑๓
ประพันธ์มีความสุขที่ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ส่วนแม่อุไรก็ไปอยู่กับพระยาตระเวน
นคร พระยา ตระเวนนคร นางบำเรออยู่ถึง 6 นาง และทั้งหมด แผลงฤทธิ์เวลา
พระยาไม่อยู่ พระยาตระเวนจึงหาบ้านให้ แม่อุไรอยู่อีกหนึ่งหลัง ประพันธ์ได้ย้ายตำ
แหน่งการทํางาน มาเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโรงเรียนในพระบรม ราชูปถัมภ์ ทางเสียป่า
ประพันธ์ เข้าประจำกรมม้าหลวง
๘. ฉบับที่ ๑๓
ประพันธ์มีความสุขที่ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ส่วนแม่อุไรก็ไปอยู่กับพระยาตระเวนนคร พระยา ตระเวนนคร นางป่ารออยู่ถึง ๓
นาง และทั้งหมด แผลงฤทธิ์เวลาพระยาไม่อยู่ พระยาตระเวนจึงหาบ้านให้ แม่อุไรอยู่อีกหนึ่งหลัง ประพันธ์ได้ย้ายตำแหน่งการ
ทำงาน มาเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโรงเรียนในพระบรม ราชูปถัมภ์ ทางเสือป่า ประพันธ์ เข้าประจำกรมม้าหลวง
: อินเตอรี่สด อ้อกฟอร์ด เลิกเซอร์
พบศัพท์ คําศัพท์ 3 นางสุวิญชา ฝรั้ง หลวง
๔.ฉบับที่ ๑๕
ประพันธ์คิดว่างานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษา จะสนุกมาก พระยาตระเวน สนุกเหมือนกับ เพราะไปไหนมา
ไหนเป็นชายโสด เนื่องจากพระยาตระเวนกับแม่อุไรยังไม่ได้เป็นผัวเมียกันตามกฎหมาย
ตอนนี้พระยาตระเวนติดผู้หญิงที่ชื่อสร้อย แต่แม่อุไรก็ยังได้แค่นิ่งเฉยไม่สามารถทำอะไรได้
สํานวนที่ได้ ขนมปังครึ่งก้อนดีกว่าไม่มีเลข
คำศัพท์ น ครคราง ห้าน ก
๑๐. ฉบับที่ ๑๗
ประพันธ์ไปอยู่ที่ค่ายตอนนี้ได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่ใหญ่ขึ้น พอกลับบ้าน แม่อุไรก็มาหาประพันธ์ที่ บ้าน
หล่อนมาง้อประพันธ์ให้ชุบเลี้ยงหล่อนอีกครั้ง เพราะหล่อนไม่มีที่ไป บ้านที่หล่อนเคยอยู่ พระยา ตระเวนก็
ยกให้แม่สร้อย จะไปหาพ่อ ก็เคยพูดอวด กับพ่อไว้ แต่ประพันธ์เห็นว่า ให้หล่อนกลับไปง้อพ่อจะ กว่า หล่อน
จึงไปง้อพ่อแล้วไปอยู่กับพ่อ
สํานวนที่ได้ ชุดคู่
คำศัพท์ เรี่ยม
๑๑. ฉบับที่ ๑๘
แม่อุไรได้แต่งงานกับหลวงพิเศษ ผลพานิช พ่อค้ามั่งมี ประพันธ์จึงกลายห่วง ส่วนประพันธ์ ได้ก ชอบพกับ นางสาวศรีสมาน ลูก
ชาวพระยาพิ เสวย
สํานวนที่ได้ : เทวดาถอดรูป
คำศัพท์ เพื่อนบ่าว
วิจารณ์ตัวละครสำคัญภายในเรื่อง
นายประพันธ์ ประยูรสิริ: หนุ่มไทยดีกรีนักเรียนนอกจากอังกฤษที่เดินทางกลับไทย ต่อมาได้เข้ารับราชการ
ในกรมพานิชย์และสถิติพยากรณ์และได้เลื่อนขั้นเป็นหลวงบริบาลบรมศักดิ์ ประพันธ์เป็นคน ‘หัวนอก’ คือ
มีความคิดก้าวหน้าอย่างคนหนุ่ม และด้วยความที่เพิ่งกลับจากเมืองนอก จดหมายของประพันธ์จะติดการ
ใช้สแลงและคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่เสมอ ๆ
นายประเสริฐ สุวัฒน์: เพื่อนของนายประพันธ์ที่ยังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ
ลิลี่: คนรักชาวอังกฤษของประพันธ์
กิมเน้ย: หญิงสาวเชื้อสายไทยจีน ลูกสาวของอากรเพ้ง โดยพ่อของประพันธ์หวังจะให้กิมเน้ยหมั้นหมายกับประพันธ์
แต่ประพันธ์ไม่ค่อยชอบกิมเน้ยนัก เพราะเธอใส่เครื่องเพชรรุงรัง และมีหน้าตาแบบสาวหมวย (ประพันธ์กล่าวว่าหน้าตา
เจ้าหล่อนเหมือนนางซุนฮูหยิน) และประพันธ์ก็ไม่ชอบการคลุมถุงชนแบบธรรมเนียมโบราณของไทย จึงไม่ยอมรับการ
แต่งงานครั้งนี้เด็ดขาด
อุไร พรรณโสภณ: สาวฮอตประจำเมืองลูกสาวของคุณพระพินิฐพัฒนากร อุไรเป็นคนสวย
และเป็นผู้หญิงอย่างสมัยใหม่ ได้รับการศึกษา อ่านเขียนภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้
ด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มมากหน้าหลายตา และขึ้นชื่อว่าเป็น
‘โรงเรียนฝึกหัดเจ้าชู้’
พระยาตระเวนนคร: เสือผู้หญิงและเพลย์บอยประจำเมือง เป็นคนมีฐานะร่ำรวยและมีชื่อ
เสียง พระยาตระเวนนครถือเป็นตัวแทนของความนิยม “มีเมียคราวละมาก ๆ” เพราะมีเมีย
อยู่แล้วถึง 7 คนก่อนที่จะมาพบกับอุไร
หลวงพิเศษผลพานิช: พ่อค้าซึ่งมีฐานะดี แม้จะบุคลิกลักษณะไม่ดีนักแต่ก็มีจิตใจที่ดีและได้
แต่งงานกับอุไรในภายหลัง
ศรีสมาน: หญิงสาวผู้เป็นความรักครั้งใหม่ของประพันธ์ ศรีสมานเป็นลูกสาวของพระยา
พิสิฐเสวก ซึ่งสนิทสนมกับพ่อแม่และครอบครัวประพันธ์อยู่แล้ว การแต่งงานครั้งใหม่ของ
ประพันธ์จึงดูราบรื่นสดใสมาก
คำศัพท์ที่ปรากฏ
แบชะเลอร์ หมายถึง ชายโสด
ฟรี
เร็สเตอรังต์ หมายถึง ไม่เสียมูลค่าหรือไม่ได้ค่าตอบแทนใด ๆ
โฮเต็ล หมายถึง ภัตตาคาร ร้านอาหาร
ศิวิไลซ์ หมายถึง โรงแรม, ที่พักแรม
หมายถึง เจริญมีอารยธรรม
ปอปูล่าร์ หมายถึง เป็นที่นิยมกัน
สัปเป้อร์ หมายถึง อาหารเย็นซึ่ง รับประทานตอนหัวค่ำหรืออาหารเบาๆ ที่รับประทานตอนกลางคืน
เอดูเคชั่น หมายถึง การศึกษา
โช หมา
ยถึง เปิดให้ดู, อวด, แสดงให้คนทั่วไปได้ดูได้ชม
ฮันนีมูน หมา
ยถึง ช่วงเวลาแห่งการเดินทางไปพักผ่อนตามลำพังของคู่แต่งงานใหม่
หัวเมือง หมา
ยถึง เมืองอื่นนอกจากเมืองหลวง.
หน้ามู่ทู่ หมายถึง หน้าบึ้ง
บ่าว หมายถึง คนใช้, ชายหนุ่ม
บรรณาศักดิ์ขุนนางไทยในอดีต
ข้าราชการระดับ ๑ เทียบ “นาย”
ข้าราชการระดับ ๒ เทียบ “พัน” หรือ “หมื่น”
ข้าราชการระดับ ๓,๔ เทียบ “ขุน” (เพราะระดับ ๓ ถือ
เป็นข้าราชการสัญญาบัตร)
ข้าราชการระดับ ๕,๖ เทียบ “หลวง”
ข้าราชการระดับ ๗,๘ เทียบ “พระ”
ข้าราชการระดับ ๙,๑0 เทียบ “พระยา” (โดยระดับ ๑0
อาจเทียบพระยานาหมื่น คือศักดินา ๑0,000 ไร่ ส่วน
ระดับ ๙ เทียบพระยาศักดินาต่ำลงมาคือ ๕,000 ไร่)
ข้าราชการระดับ ๑๑ เทียบ “เจ้าพระยา”
ข้อคิดคติธรรมที่ได้จากเรื่องนี้
๑. พฤติกรรมของนายประพันธ์เป็นพฤติกรรมที่เลียนแบบพฤติกรรมของปุถุชนที่มีทั้งข้อดีและ ข้อเสีย ทั้งความถูกต้อง
และผิดพลาด เปรียบเสมือนกับมนุษย์ที่สามารถผิดพลาดได้ตลอดเวลา แต่อย่าลืมบ้า ความผิดพลาดนั้นมาใช้ในการ
แก้ไขตนเอง และปรับทัศนคติที่ผิดอยู่ให้ดีขึ้น จนสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นใน สังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป
๒. อย่าหลงวัฒนธรรมตะวันตกจนลืมจิตสำนึกแห่งความเป็นไทย ควรเก็บสิ่งที่ดีมาปฏิบัติ แล้วเก็บ สิ่งที่ไม่ดีไว้เป็น
อุทาหรณ์ ขณะเดียวกันก็อย่าดูถูกบ้านเกิดเมืองนอนว่าหัวโบราณ เก่าคร่ำครึ เพราะ วัฒนธรรมที่ดีงามของไทยนี้แลจึง
สามารถจรรโลงประเทศให้อยู่ได้มาสืบทุกวันนี้
๓. การแต่งงานของหนุ่มสาวที่มาจากการชอบพอกันแค่เพียงเปลือกนอก ขาดการรู้จักและเข้าใจกัน
อย่างแท้จริงย่อมไม่ยั่งยืนและอับปางลงอย่างง่ายดาย เช่นกรณีของประพันธ์ และแม่อุไร รักเร็วใจเร็ว ทำให้
ความรักนั้นจบลงในเวลาอันสั้น
๔. การใช้เสรีภาพในทางที่ผิดโดยปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนกระทั่งพลาดพลั้งชิงสุกก่อนห่ามจะต้อง ประสบชะตากรรมอัน
เลวร้าย ดังแม่อุไรที่ปล่อยตัวได้เสียกับประพันธ์ทำให้ไม่เป็นที่พอใจของผู้ใหญ่ของ ทั้งสองฝ่าย นำาไปสู่การหย่าร้างกัน
วันข้างหน้า ๕. คนเราควร าเนินชีวิตในทางยุติธรรม ดังเช่นประพันธ์ เขาไม่ชอบการใช้เส้นสาย แต่ไม่สามารถ
หางานได้ด้วยตนเอง จึงต้องยอมรับงานที่ผู้ใหญ่ฝากฝังให้ แต่ก็ได้ใช้ความสามารถของตนเองทําให้มี
ความก้าวหน้าในราชการ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงบริบาลบรมศักดิ์ในที่สุด
บรรณานุกรม
https://online.pubhtml5.com/xvvo/udmz/#p=11
https://blog.startdee.com/%E0%B8%A14-
%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E
0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-
%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0
%B8%88%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8
%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1
http://thn21710-01.blogspot.com/2012/01/blog-post.html?m=1
http://thn21710-01.blogspot.com/2012/01/blog-post.html?m=1
ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ท ๓๑๑๐๑ ภาษาไทย
๑ เสนอ ครูสุชาติ พิบูลย์วรศักดิ์ ครูประจำวิชา
จัดทำโดย
1. นายภานุวัชร์ ไพบูลย์ เลขที่ 1
2.นายธนกร จงบัญญัติ เลขที่ 3
3.นายธนวุฒิ กิ่งมาลา เลขที่ 4
4.นาย ปิยังกูร ราตะกั่ว เลขที่15
5..นายภูวดล ตะกรุดทอง เลขที่ 16
6.นางสาวปุณยาภา ทวีวงศ์สมบูรณ์ เลขที่ 27
7.นางสาวเขมจิรา นาคอ่อน เลขที่ 36
8.นางสาวเขมิกา อินทร์ภิรมย์ เลขที่37
9.นางสาววิมลทิพย์ สุทธิภาพย์ เลขที่ 38
10.นางสาวศรัญญา เกรียงกุล เลขที่ 39
11.นางสาวสโรชา พันธุ์อุบล เลขที่ 42