The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากล 23

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ขวัญฤทัย ลีชานนท์, 2020-08-05 09:30:03

การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากล 23

การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากล 23

ก า ร แ บ่ ง ยุ ค ส มั ย ท า ง
ประวัติศาสตร์ สากล

ยุคหนิ เก่า (PALEOLITHIC AGE หรอื OLD STONE AGE)

1. อายปุ ระมาณ 2 ลา้ นปีก่อนครสิ ตศ์ กั ราช
2. ดาํ รงชีพดว้ ยการลา่ สตั วแ์ ละเก็บผลไมป้ ่ า
3. อาศยั ตามถา้ํ หรอื ท่ีพกั หยาบๆ
4. พง่ึ พาธรรมชาติและไมเ่ ขา้ ใจปรากฎการณธ์ รรมชาติ
5. รูจ้ กั ใชไ้ ฟ
6. ประกอบพิธีฝังศพอนั เป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ของศาสนา
7. ภาพจิตรกรรมผนงั ถา้ํ ตามความเช่ือและพิธีกรรม

ยุคหินกลาง (MESOLITHIC AGE หรือ MIDDLE STONE AGE) ยุคหนิ ใหม่

1. อายปุ ระมาณ 8 พนั ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช 1. อายปุ ระมาณ 4 พนั ปีกอ่ นครสิ ตศ์ กั ราช
2. ผลิตอาหารไดเ้ อง รูจ้ กั เก็บกกั อาหาร หยดุ เรร่ อ่ น
2. เร่ิมรู้จกั เพาะปลูกและเล้ียงสตั วแ์ บบง่ายๆ 3. เครอ่ื งมือเครอ่ื งใชท้ ่ีทาํ ดว้ ยหินประณีตขนึ้
3. ภาพจิตรกรรมผนงั ถ้าํ มีความซบั ซอ้ นมากข้ึน 4. รูจ้ กั การทอผา้ เครอ่ื งปั้นดนิ เผา ทาํ เครอ่ื งทนุ่ แรง เชน่
การเสียดสใี หเ้ กิดไฟ การประดิษฐ์เรอื
จุดมุ่งหมายเพื่อพิธีกรรมความเชื่อเร่ืองวญิ ญาณ 5. รวมกลมุ่ เกษตรกรรมเป็นหมบู่ า้ น มีการจดั ระเบยี บ เพ่ือควบคมุ สงั คม มี
หวั หนา้ ชมุ ชน
4. มีพิธีกรรมเก่ียวกบั พระ 6. อนสุ าวรยี ห์ ิน ซง่ึ ถือเป็นการเรม่ิ ตน้ งานสถาปัตยกรรมของมนษุ ย์ เช่ือวา่
สรา้ งเพ่ือคาํ นวณทางดาราศาสตร์ พิธีกรรมทางศาสนาท่ีเก่ียว ขอ้ งกบั
การเกษตรหรอื บชู าพระอาทิต

ยคุ โลหะ เร่ิมเม่ือประมาณ4,000 ปี 2 ยุคเหล็ก (Iron Age)

1 ยุคสาํ ริด (Bronze Age) • เรม่ิ เม่ือประมาณ 3,200 ปี มาแลว้ เป็นชว่ งของการพฒั นาการทางเทคโนโลยี ที
ตอ่ เน่ืองจากยคุ สาํ รดิ หลงั จากท่ีมนษุ ยส์ ามารถนาํ ทองแดงมาผสมกบั ดบี กุ
จะเร่ิมระหวา่ งประมาณ4,000ปี มาแล้วในช่วงเวลานีม้ นุษยร์ ู้จัก และหลอมเป็นโลหะผสมไดแ้ ลว้ มนษุ ยก์ ็ คิดคน้ หาวิธี นาํ เหลก็ ซง่ึ เป็นโลหะท่ีมี
ทองแดงผสมกับดบี ุกหลอมรวมกันกลายเป็ นโลหะผสมทเี่ ราเรียกวา่ ความแขง็ และทนทานกวา่ สาํ รดิ มาทาํ เป็นเครอ่ื งมือเครอ่ื งใชแ้ ละอาวธุ ดว้ ยการใช
สาํ ริดมาใช้ทาํ เป็ นเคร่ืองมอื เครื่องใช้และอาวุธทม่ี ี คุณภาพดี กว่าทที่ าํ อณุ หภมู ิ ในการหลอมท่ีสงู กวา่ การหลอมสาํ รดิ
จากหนิ ขัดมากการดาํ รงชวี ติ ของมนุษยย์ ุคนีก้ เ็ ปลี่ยนไปจากการเป็ น
ชุมชนเกษตรกรรมเล็กๆกลายเป็ นชุมชนขนาดใหญ่ทเี่ ราเรียกว่าชุมช
เมืองมี การจดั แบง่ ความสัมพนั ธข์ องคนในสังคมตามความสัมพนั ธ
และความสามารถซงึ่ พฒั นาการนีท้ าํ ใหส้ ังคม

ยุคประวัตศิ าสตร์ ยุคโบราญ

กรีก

เป็ นเชอื้ สายอินโด ยโู รเปี้ ยน เรียกวฒั นธรรมตนเองวา่ เฮเลนนีส (HELLENES)
เรียกบา้ นเมืองตนเองว่า เฉลลัส (HELLAS)

ยุคเฮเลนิค

- มศี ูนยก์ ลางอย่ทู เ่ี อเธนส์ มกี ารปกครองแบบนครรัฐ ศูนยก์ ลางของนครรัฐอยู่ท่ี อะโครโปลิส " มีความเจริญรุ่งเรืองทางการคา้ มาก การเดนิ ทางไป
ค้าขายกบั ดนิ อดนต่างๆ ทาํ ใหช้ าวกรีกมีโลกทศั นก์ ว้างขวางและรับวัฒนธรรมจากดนิ แดนตา่ งๆ ทาํ ใหช้ าวกรีกเป็ นคนอยากรู้อยากเหน็ เช่อื ม่ันใน
เหตุผล เช่อื ในดุลพนิ ิจของตน ส่งผลตอ่ แนวคดิ มนุษยน์ ิยม (HUMANISM)

- สนใจในธรรมชาตนิ ิยม (NATURALISM) นับถอื เทพเจ้าหลายองค์ แตม่ อี สิ รภาพทางความคดิ เพราะศาสนาไม่มอี ทิ ธิพลวถิ เี หนือชีวิตของคนใน
สังคมมากนัก

- แนวคดิ ประชาธิปไตย มนุษยป์ กครองแบบนครรัฐอสิ ระ เช่น นครรัฐเอเธนส์ ปกครองแบบประชาธิปไตยทางตรง โดยพลเมอื งชายทเี่ ป็ นเจ้าของทด่ี นิ
และเกดิ ในนครรัฐจะมีสิทธิในการปกครอง มสี ิทธิในการเข้าประชุมสภาราษฎร

 อารยธรรมของกรีกซ่ึงเป็นรากฐานของอารยธรรมตะวนั ตกในปัจจุบนั ไดแ้ ก่

สถาปัตยกรรม
- ไอโอนิค

- โดรินเซียน
ประตมิ ากรรม

- เป็นการป้ันที่เป็นสดั ส่วนและสรีระท่ีเป็นมนุษยจ์ ริง การเปลือยกายเป็นการแสดงออก
ถึงความงามของมนุษยต์ ามธรรมชาติ เช่น นกั ขวา้ งจกั ร
จิตรกรรม

- จิตรกรรมที่มีชื่อเสียง ไดแ้ ก่ การเขียนภาพบนเครื่องป้ันดินเผาลวดลายต่างๆ
วรรณกรรม

- มหากาพยล์ ีเลียดและโอเดสซีของโฮมเมอร์

- นิทานอีสปและงานดา้ นปรัชญาของเพลโต โสเกรตีส อริสโตเติล

ยุคกลาง เริ่มต้งั แต่อาณาจกั รโรมนั ล่มสลายในปี ค.ศ.476 ศตวรรษที่ 5-15

ลักษณะสังคม เป็ นสังคมในลัทธิฟิ วดัล วรรณกรรม

• แบง่ เป็น 3 กลมุ่ คอื สมยั กลางช่วงตน้ จะเนน้ วรรณกรรมศาสนาหรอื วรรณกรรมสะทอ้ น
1. พระ เป็นผมู้ ีบทบาทมาก เพราะเป็นศนู ยข์ องความเช่ือ ความศรทั ธาในศาสนา ภาพสงั คมฟิวดลั เช่น THE CITY OF GOD
ของ ประชาชน พระสนั ตะปาปาท่ีกรุงโรมมีอาํ นาจสงู สดุ
2. ชนชนั้ ปกครอง ไดแ้ ก่ กษัตรยิ ์ ขนุ นาง และอศั วนิ ซง่ึ เป็นเจา้ ของท่ีดิน มีชีวติ สมยั กลางชว่ งปลาย เนน้ วรรณกรรมทางโลกมากขนึ้ เช่น
หรูหราฟ่ มุ เฟื อย THE DIVINE COMEDY
3. สามญั ชน ไดแ้ ก่ ชาวนาและทาสติดท่ีดนิ ท่ีตอ้ งทาํ งานหนกั หาเลยี้ งชีพ

ยุคใหม่ วรรณกรรม มกี ารใช้ภาษาถนิ่ แทนภาษาละตนิ

สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง • ศลิ ปะสมัยใหม่ ( MODERN ART )

1. ดา้ นเศรษฐกจิ เกิดการตนื่ ตวั ทางการค้า มกี ารสาํ รวจดนิ แดนใหม่ๆ 1. ศลิ ปะจินตนิยม ( ROMANTICISM ) ค.ศ.1800-1900
พระแ2ล.ะกขาํ ุนเนนิดาชงถนกูชลั้นดกลบาทงบคาทอื พอ่ ค้าและปัญญาชน ความเสื่อมของระบบฟิ วดลั - ก่อเกิดในองั กฤษและฝร่งั เศสชว่ งระยะเวลาท่ีใกลเ้ คียงกนั มีทรรศนะคตทิ ่ี
เป็ นร3ัฐ.ชกาตาริ ปกครองเปลี่ยนไปสู่ระบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชย์ เกดิ แนวคดิ ความ
ตอ้ งการความเป็นอิสระในการแสดงออกท่ีศลิ ปินตอ้ งการมากกวา่ การ เดนิ ตาม
4. การปฏิวัตวิ ิทยาศาสตร์ เรียกยุคนีว้ ่า AGE OF REASON และ AGE OF กฎเกณฑแ์ ละแบบแผนทางศลิ ปะ ดงั ท่ีศิลปินลทั ธิคลาสสกิ ใหมย่ งั ยดึ ถืออยู่

ENLIGHTENMENT - เป็นศิลปะท่ีเนน้ อารมณอ์ ยเู่ หนือเหตผุ ล มงุ่ สรา้ งสรรคง์ านท่ีต่ืนเตน้ เรา้ ใจ
ก่อใหเ้ กิดอารมณส์ ะเทือนใจ แกผ่ ชู้ ม
5. การปฏิรูปศาสนา เกดิ นิกายโปรเตสแตนท์ โดย มารต์ นิ ลูเธ

2. ศิลปะสจั นิยม ( REALISTICISM ) กลางคริสตศ์ ตวรรษที่ 19
- ศิลปิ นในยคุ น้ีไดแ้ ก่ กสุ ตาฟ คูร์เบท์ , ฌอง ฟรังซวั ส์ มิลเ์ ลท์
3. ศิลปะลทั ธิประทบั ใจ ( IMPRESSIONISM ) ศิลปะแห่ง

ความงดงามของประกายแสงและสี
- แสดงภาพทิวทศั นบ์ ก ทะเล ริมฝั่ง เมืองและชีวติ ประจาํ วนั ท่ีรื่นรมย์
เช่น การสงั สรรค์ บลั เลต์ กา แข่งมา้

- พยายามแสดงคุณสมบตั ิของแสงสี อนั เป็นผลมาจากความรู้
เกี่ยวกบั แสงจากสเปกตรัมและสี ซ่ึงเป็น ผลผลิตจากความกา้ วหนา้ ทาง
วทิ ยาศาสตร์

- ศิลปิ นในยคุ น้ี ไดแ้ ก่ มาเนท์ , โคลด โมเนท์ , เรอนวั ร์

จดั ทาํ โดย

นางสาว ณฐั ณิชา รสิ อน ม.5/2
เลขท่ี 23


Click to View FlipBook Version