The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มืออาหารปลอดภัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sanchon.yindee, 2021-05-30 23:01:01

คู่มืออาหารปลอดภัย

คู่มืออาหารปลอดภัย

ลา้ งมอื ... ท�ำไมตอ้ งล้างมือ?
มือเป็นอวัยวะที่ต้องใช้ท�ำกิจกรรมต่างๆมากมาย มีโอกาสที่จะใช้มือสัมผัสส่ิงของรอบๆตัว ท่ีอาจ
ปนเป้ือนนำ�้ มกู น�้ำลายของผูป้ ่วย เชน่ ลกู บดิ ประตู แกว้ น�้ำ ผ้าเช็ดหน้า โทรศัพท์ ราวบนั ได จะท�ำใหม้ อื สกปรก
และได้รับเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้ ทางเย่ือบุจมูก ตา และปาก ฉะน้ันจะต้องดูแลมือให้สะอาด เพ่ือไม่ให้มือ
เป็นสือ่ น�ำเชือ้ โรค โดยการลา้ งมือใหส้ ะอาดดว้ ยน้ำ� และสบูท่ กุ ครัง้
• ก่อนบริโภคอาหาร
• ก่อนและหลังการเตรยี มปรงุ อาหาร
• หลงั เข้าหอ้ งสว้ ม
• หลงั สมั ผัสส่งิ สกปรก เชน่ หลังการไอ จาม ส่งั น้ำ� มกู
• หลังสัมผสั สัตว์ทกุ ชนดิ

การลา้ งมอื ใหส้ ะอาด ตอ้ งลา้ งดว้ ยนำ้� และสบู่ โดยวธิ กี าร 7 ขน้ั ตอน ทกุ ขน้ั ตอนทำ� 5 ครงั้ สลบั กนั ทง้ั 2 ขา้ ง ดงั น้ี

2. ฝ่ามอื ถูหลงั มอื และน้วิ ถซู อกนิ้ว
1. ฝ่ามือถกู นั

3. ฝา่ มอื ถฝู ่ามือ และนิว้ ถซู อกนว้ิ 4. หลังนว้ิ มอื ถูฝา่ มือ

5. ถูนิ้วหัวแมม่ อื โดยรอบด้วยฝ่ามอื 6. ปลายนิ้วมอื ถขู วางฝ่ามอื

7. ถูรอบขอ้ มือ

คู่มอื การจัดการอาหารกลางวนั นักเรยี น 45
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย ส�ำ หรับโรงเรียนประถมศกึ ษา

46 แบบสำ�รวจโรงอาหาร
ตามมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหาร กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ

คูม่ อื การจดั การอาหารกลางวันนกั เรียน ค�ำชแี้ จง ช่ือโรงอาหาร.......................................................................................................................................................
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั ส�ำ หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา แบบสำ� รวจนี้ใชส้ ำ� หรับโรงอาหาร ซ่ึงหมายถึง สถานท่ี ช่ือโรงเรยี น, หนว่ ยงาน........................................................................................................................................
จัดบริการอาหารในหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ โรงเรียน, สงั กดั ..............................................................................................จำ�นวนนักเรยี น หรอื พนกั งานค����������������� คน
สถาบันการศึกษา, บริษัท,โรงงาน, ส�ำนักงาน ฯลฯ อย่ทู ่ี เลขที่ .................................... หมทู่ ี่ ............................ ซอย......................................................................
(ยกเว้น โรงครัวของโรงพยาบาล ซ่ึงปรุงประกอบ ถนน...................................................ตำ�บล.........................................อำ�เภอเ����������������������������������������������������
อาหารให้กบั ผ้ปู ว่ ยในโรงพยาบาล) เขต (เทศบาล/อบต.)..........................................................จังหวดั ......................................................................
มาตรฐานสำ� หรบั โรงอาหาร แบง่ ออกเปน็ 2 ระดบั ดงั น้ี จำ�นวนผู้รบั บริการจากโรงอาหาร ����������������������������������������������������������������������������������������������������������� คน/วนั
1. มาตรฐานดมี าก ต้องปฏิบตั ิได้ทกุ ข้อครบ 30 ขอ้ จำ�นวนผู้สมั ผัสอาหาร ....................................... คน
2. มาตรฐานดี ต้องปฏิบตั ิได้ตามข้อ ครบ 20 ข้อ การอบรมดา้ นสุขาภบิ าลอาหาร ( ) เคย เมอ่ื ................................................................................... ( ) ไมเ่ คย
ลกั ษณะการใหบ้ ริการ
1. หน่วยงานดำ�เนนิ การเองทัง้ หมด
2. ใหบ้ ุคคลภายนอกเข้ามาจำ�หนา่ ยอาหาร จำ�นวน .................. ราย
3. มที ้ัง 1 และ 2 จำ�นวน .......................ราย
การจดั โครงการอาหารกลางวัน ( ) มี จำ�นวนนกั เรยี นในโครงการ ............. คน ( ) ไม่มี

สรุปผลการสำ�รวจ ครั้งที่ 1 ครง้ั ท่ี 2 ครง้ั ท่ี 3 ครงั้ ท่ี 4
มาตรฐานท่ีได้      
ชอ่ื ผูส้ ำ�รวจ      
วนั เดือน ปี ทสี่ ำ�รวจ      

วิธกี ารใช้แบบสำ�รวจ ให้แสดงเครอ่ื งหมาย “ / ” ในชอ่ งผลการสำ�รวจหลังข้อมาตรฐานทถ่ี กู ตอ้ งครบถ้วนทกุ รายการ
ใหแ้ สดงเครื่องหมาย “ X ” ในชอ่ งผลการสำ�รวจหลงั ข้อมาตรฐานที่ไม่ถูกตอ้ งหรือไม่ครบถว้ น
ให้แสดงเครอื่ งหมาย “ - ” ใ นช่องผลการสำ�รวจหลังข้อมาตรฐานในกรณที ่ีไมม่ ีกิจกรรมทร่ี ะบไุ ว้ในขอ้ มาตรฐานและไมเ่ ป็นปญั หาด้านสุขาภบิ าลอาหาร

ให้ถือวา่ ผ่านมาตรฐานในขอ้ น้ัน

ค่มู อื การจัดการอาหารกลางวันนักเรยี น แบบสรุปผลการสำ�รวจโรงอาหาร (จำ�แนกตามรา้ นยอ่ ย)
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา
เรือ่ ง รายละเอยี ดมาตรฐาน ผลสำ�รวจ หมายเหตุ
1234

ก. สถานทร่ี บั ประทานอาหาร และบรเิ วณท่ัวไป 1. สะอาด เปน็ ระเบยี บ

2. โต๊ะ เกา้ อ้ี สะอาด แขง็ แรง จัดเปน็ ระเบียบ

ข. บริเวณท่ีเตรยี ม-ปรงุ อาหาร 3. มกี ารระบายอากาศดี

4. สะอาด เปน็ ระเบียบ พนื้ ทำ�ด้วยวัสดุถาวร แขง็ แรง เรียบ สภาพดี

5. ม ีการระบายอากาศรวมทั้งกลิ่น และควันจากการทำ�อาหารได้ดี

เช่น มีปลอ่ งระบายควัน หรือพัดลมดดู อากาศที่ใชก้ ารได้ดี

6. ไมเ่ ตรยี มและปรุงอาหารบนพ้นื

7. โต๊ะเตรียม-ปรุงอาหาร และบริเวณเตาไฟ ต้องทำ�ด้วยวัสดุที่

ทำ�ความสะอาดง่าย (เช่น สแตนเลส กระเบื้อง) มีสภาพดี และ

พื้นโตะ๊ ต้องสงู จากพนื้ อยา่ งนอ้ ย 60 ซม.

47

แบบสรุปผลการสำ�รวจโรงอาหาร (จำ�แนกตามรา้ นยอ่ ย)

48 เรอ่ื ง รายละเอียดมาตรฐาน ผลสำ�รวจ หมายเหตุ
ค. อาหาร น้ำ� น้ำ� แขง็ เครือ่ งด่มื 1234
คูม่ อื การจดั การอาหารกลางวันนกั เรียน
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั ส�ำ หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา 8. อาหารและเครอื่ งด่ืมในภาชนะทป่ี ดิ สนิท ต้องมีเลขสารบบอาหาร
เช่น เครอื่ งหมาย อย.

9. อาหารสด เชน่ เนอ้ื สตั ว์ ผกั สด ผลไม้ และอาหารแหง้ มคี ณุ ภาพดี
แยกเกบ็ เป็นสัดสว่ น ไมป่ ะปนกันวางสงู จากพ้นื อย่างนอ้ ย 60 ซม.
หรือเก็บในตู้เย็นถ้าเป็นห้องเย็น ต้องวางอาหารสูงจากพื้นอย่างน้อย
30 ซม. สำ� หรับอาหารสดต้องล้างให้สะอาดก่อนน�ำมาปรุง

10. อาหารและเคร่ืองด่ืมในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทมีคุณภาพดี
เกบ็ เปน็ ระเบยี บ สูงจากพื้นอยา่ งนอ้ ย 30 ซม.

11. อาหารทป่ี รงุ สำ� เรจ็ แลว้ เกบ็ ในภาชนะทส่ี ะอาดมกี ารปกปดิ วางสงู
จากพนื้ อย่างนอ้ ย 60 ซม.

12. มีตู้ส�ำหรับปกปิดอาหารที่ปรุงส�ำเร็จแล้ว และด้านหน้าของตู้ต้อง
เปน็ กระจก

13. น้�ำด่ืม เครื่องด่ืม น�้ำผลไม้ต้องสะอาด ใส่ในภาชนะท่ีสะอาด
มีฝาปิด มีก๊อกหรือทางเทรินน้�ำ หรือมีอุปกรณ์ท่ีมีด้ามส�ำหรับตัก
โดยเฉพาะ และวางสูงจากพืน้ อย่างนอ้ ย 60 ซม.

แบบสรุปผลการสำ�รวจโรงอาหาร (จำ�แนกตามร้านย่อย)

เร่อื ง รายละเอยี ดมาตรฐาน ผลสำ�รวจ หมายเหตุ
ง. ภาชนะอปุ กรณ์ 1234

ค่มู อื การจัดการอาหารกลางวันนักเรยี น 14. น้�ำแข็งท่ีใช้บริโภคต้องสะอาด ใส่ในภาชนะท่ีสะอาด มีฝาปิด
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา มีอุปกรณ์ที่มีด้ามส�ำหรับคีบ หรือตักโดยเฉพาะ วางสูงจากพ้ืน
อย่างนอ้ ย 60 ซม. และต้องไม่มสี ่ิงของอน่ื แช่รวมไว้
49
15. ภาชนะอุปกรณ์ เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม ฯลฯ ต้องท�ำดว้ ยวัสดทุ ่ี
ไม่เป็นอันตราย เช่น สแตนเลส กระเบื้องเคลือบขาว แก้ว
อะลมู ิเนยี ม เมลามีนสขี าวหรอื สอี อ่ น สำ� หรบั ตะเกียบต้องเป็นไม้
ไมต่ กแต่งสี หรอื พลาสติกสีขาว

16. ภาชนะใส่น�้ำส้มสายชู น้�ำปลา และน้�ำจ้ิม ต้องท�ำด้วยแก้ว
กระเบ้ืองเคลือบขาว มีฝาปิด และช้อนตักท�ำด้วยกระเบ้ือง
เคลือบขาว หรือสแตนเลส ส�ำหรับเคร่ืองปรุงรสอ่ืนๆ ต้องใส่
ในภาชนะที่ท�ำความสะอาดงา่ ย มฝี าปิด และสะอาด

17. ลา้ งภาชนะอปุ กรณ์ด้วยวิธีการอยา่ งน้อย 2 ข้ันตอน โดย
ข้นั ตอนที่ 1 ลา้ งด้วยน้ำ� ยาลา้ งภาชนะ และ
ขน้ั ตอนท่ี 2 ล้างด้วยน�้ำสะอาด 2 คร้ัง หรอื ล้างด้วยน้ำ� ไหล และ

อุปกรณ์การลา้ งตอ้ งสงู จากพื้นอย่างนอ้ ย 60 ซม.

แบบสรปุ ผลการสำ�รวจโรงอาหาร (จำ�แนกตามรา้ นย่อย)

50 เร่อื ง รายละเอยี ดมาตรฐาน ผลสำ�รวจ หมายเหตุ
จ. การรวบรวมขยะและน�้ำโสโครก 1234
คูม่ อื การจดั การอาหารกลางวันนกั เรียน
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั ส�ำ หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา 18. ใช้อา่ งลา้ งภาชนะอุปกรณท์ มี่ ีทอ่ ระบายนำ�้ ท่ีใชก้ ารไดด้ ี อย่างนอ้ ย
2 อ่าง

19. จ าน ชาม ถว้ ย แกว้ นำ�้ ถาดหลมุ ฯลฯ เกบ็ ควำ�่ ในภาชนะโปรง่ สะอาด
หรือตะแกรง วางสูงจากพื้นอยา่ งนอ้ ย 60 ซม. หรือเกบ็ ในภาชนะ
หรือสถานที่ทสี่ ะอาดมีการปกปิด

20. ช้อน ส้อม ตะเกียบ วางต้ังเอาด้ามข้ึนในภาชนะโปร่งสะอาด
หรือวางเป็นระเบียบในภาชนะท่ีสะอาดและมีการปกปิด ตั้งสูง
จากพ้ืนอย่างนอ้ ย 60 ซม.

21. เขียงต้องมีสภาพดี ไม่แตกร้าวหรือเป็นร่อง มีเขียงใช้เฉพาะ
อาหารสุกและอาหารดิบ แยกจากกัน มีฝาชีครอบ (ยกเว้นครัว
ทม่ี ีการปอ้ งกันแมลงวันแลว้ )

22. ใช้ถงั ขยะท่ีไมร่ ว่ั ซึม และมฝี าปดิ
23. มที อ่ หรอื รางระบายนำ้� ทมี่ สี ภาพดี ไมแ่ ตกรา้ ว ระบายนำ้� จากหอ้ งครวั

และท่ีล้างภาชนะอุปกรณ์ลงสู่ท่อระบายหรือแหล่งบ�ำบัดได้ดี
และตอ้ งไม่ระบายน�้ำเสยี ลงสแู่ หลง่ น�ำ้ สาธารณะโดยตรง
24. มีบ่อดักเศษอาหารและดักไขมันท่ีใช้การได้ดี ก่อนระบายน้�ำเสีย
ลงส่แู หลง่ นำ้� สาธารณะโดยตรง

แบบสรุปผลการสำ�รวจโรงอาหาร (จำ�แนกตามรา้ นยอ่ ย)

เร่ือง รายละเอียดมาตรฐาน ผลสำ�รวจ หมายเหตุ
ฉ. หอ้ งนำ�้ ห้องสว้ ม 1234
ค่มู อื การจัดการอาหารกลางวันนักเรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา ช. ผปู้ รุง ผู้เสิร์ฟ 25. หอ้ งน�้ำ ห้องส้วม ต้องสะอาด ไมม่ กี ลนิ่ เหมน็ มีน�ำ้ ใช้เพียงพอ
26. หอ้ งสว้ มแยกเปน็ สดั สว่ น ประตไู มเ่ ปดิ สบู่ รเิ วณทเี่ ตรยี ม-ปรงุ อาหาร

ที่ล้างและเก็บภาชนะอุปกรณ์ท่ีเก็บอาหาร และต้องมีอ่างล้างมือ
ทใ่ี ช้การไดด้ ีอยู่ในบริเวณห้องส้วม
27. แตง่ กายสะอาด สวมเสือ้ มีแขน
28. ผูกผ้ากันเปื้อนสีขาว หรือมีเครื่องแบบ ผู้ปรุงจะต้องใส่หมวก
หรือเนทคลุมผมดว้ ย
29. ต้องเป็นผู้มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคติดต่อ ไม่เป็นโรคผิวหนัง ส�ำหรับ
ผูป้ รุงจะตอ้ งมหี ลกั ฐานการตรวจสุขภาพในปีน้ันใหต้ รวจสอบได้
30. มีสุขนิสัยท่ีดี เช่น ตัดเล็บส้ัน ไม่สูบบุหรี่ในขณะปฏิบัติงาน
ไม่ใชม้ ือหยบิ จับอาหารทีป่ รงุ เสร็จแล้วโดยตรง ฯลฯ

สำ� นักสุขาภบิ าลอาหารและนำ�้ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข โทร 0-2590-4177

51

52 แบบสรปุ ผลการสำ�รวจโรงอาหาร (จำ�แนกตามร้านยอ่ ย)
สำ�หรับโรงอาหารทีม่ ีรา้ นจำ�หนา่ ยอาหาร จำ�นวนมากกวา่ 1 ร้านข้นึ ไป
ช่อื โรงอาหาร..............................................ชื่อโรงเรียน / หน่วยงาน...........................................จงั หวดั ..........................................

คูม่ อื การจดั การอาหารกลางวันนกั เรียน ข้อมาตรฐาน มาตรฐานที่ได้
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั ส�ำ หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา
ชือ่ เจา้ ของ/หมายเลขรา้ น ดีมาก ดี ไม่ได้

                                                                 
    
                                                                 
    
                                                                 
    
                                                    
    
                                                            
จำ�นวนท่ีไดม้ าตรฐาน   
จำ�นวนท่ไี มไ่ ดม้ าตรฐาน                                                                

รวม                                                             

                                                            

                                                            

                                                            

หมายเหตุ โรงอาหารทีไ่ ด้มาตรฐาน รา้ นย่อยทุกรา้ นต้องได้มาตรฐานทงั้ หมด วัน / เดอื น / ป ี ท่ตี รวจ.....................................................................................
ผู้ตรวจ.....................................................................................

3.3 การคดั แยกขยะ และการจดั การขยะอย่างถูกหลกั สขุ าภบิ าล
1. ปญั หาขยะ

ปัญหาการจัดการขยะของประเทศไทยนับเป็นปัญหาสาธารณสุขท่ีส�ำคัญ และมีแนวโน้มสู่ภาวะวิกฤต
ขยะมากขึ้นเป็นล�ำดับ ทั้งนี้เน่ืองจากการเพิ่มข้ึนของประชาชน การพัฒนาเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ วิถีชีวิตที่เร่งรีบ
และการต้องการความสะดวกสบาย ทำ� ให้เกดิ เกดิ ปญั หาการใช้ทรัพยากรอย่างส้นิ เปลือง ก่อใหเ้ กิดขยะอยา่ งมหาศาล
และการจัดการขยะท่ีไม่มีระบบแยกจัดการระหว่างขยะท่ัวไปและขยะที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน
การจัดการขยะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ กลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค สารเคมี เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์
และแมลง พาหะนำ� โรค และอาจก่อให้เกดิ ความเสย่ี งและผลกระทบตอ่ สุขภาพและสงิ่ แวดล้อม ดงั น้ี

1) ผลกระทบตอ่ สุขภาพ
ผลกระทบต่อสขุ ภาพกาย
- โรคระบบทางเดนิ หายใจ ไดแ้ ก่ โรคภมู แิ พ้ โรคปอดอกั เสบ โรคปอดเรอื้ รงั หลอดลมอกั เสบ เปน็ ตน้
- โรคระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อุจจาระรว่ ง
- โรคผิวหนงั ไดแ้ ก่ โรคติดเชื้อทางผิวหนัง ภูมิแพท้ างผวิ หนัง อาการผนื่ คนั ตา่ งๆ
- โรคติดเช้ือแบคทีเรยี ไวรัส เช้ือรา ได้แก่ ไวรสั ตบั อกั เสบ โรคเอดส์ และบาดทะยัก เป็นต้น
- โรคระบบประสาท ได้แก่ อาการคล่ืนเหียน เวียนศีรษะ อาการหูเส่ือม ที่พบในผู้ปฏิบัติงาน

เก่ียวกับการจัดการขยะ และพบความผิดปกติทางระบบประสาทส่วนกลาง ระบบประสาท
กล้ามเน้ือลาย ในเด็กทารกที่แม่สัมผัสกับขยะที่ปนเปื้อนสารตัวท�ำละลาย ยาฆ่าแมลง
และโลหะหนกั
- ภาวะโรคทเ่ี กดิ จากการทำ� งาน ไดแ้ ก่ อาการปวดเมอื่ ยกลา้ มเนอ้ื ขอ้ เอน็ และหลงั จากการทำ� งาน
ผปู้ ฏบิ ัตงิ านเกี่ยวกบั การจัดการขยะ
ผลกระทบต่อสขุ ภาพจติ -สงั คม และคุณภาพชีวติ
- คนเก็บขยะ คนคุ้ยขยะ รับซ้ือของเก่า และผู้ท่ีอาศัยอยู่รอบบริเวณสถานที่ก�ำจัดขยะ มักมี
ภาพลักษณ์ที่คนกลุ่มอ่ืนมองว่าต้อยต่�ำ เส่ียงอันตราย สกปรกและน่ารังเกียจ ซ่ึงมุมมอง
ดังกลา่ วน้ี มผี ลกระทบท้ังทางตรงและทางอ้อมต่อสภาวะจิตใจ สังคม ตลอดจนการดำ� เนนิ ชวี ติ

2) ผลกระทบต่อสิง่ แวดลอ้ ม
- ทำ� ให้ดินเส่ือมและเกิดมลพษิ
- ท�ำลายแหล่งน�ำ้
- ท�ำให้เกิดมลพิษทางอากาศ
- เกิดเหตุรำ� คาญ (Nuisance) และบ่ันทอนสขุ ภาพของมนษุ ย์
- ท�ำใหเ้ กดิ อคั คภี ยั

คูม่ ือการจดั การอาหารกลางวนั นักเรียน 53
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรับโรงเรยี นประถมศกึ ษา

2. การลดปรมิ าณขยะ

ปญั หาขยะลน้ เมอื งเปน็ ปญั หาของสงั คมโลก เนอื่ งจากในปจั จบุ นั ชมุ ชนตา่ งๆ มกี ารผลติ ขยะเพมิ่ มากขนึ้
ท้ังในด้านปริมาณและประเภทของขยะ มีการใช้วัสดุในการผลิตบรรจุภัณฑ์ท่ีก�ำจัดยาก การจัดหาพ้ืนที่ส�ำหรับ
ก�ำจัดขยะด้วยวิธีการฝังกลบหาได้ยากมากข้ึน ท่ีดินมีราคาแพงและได้รับการต่อต้านจากประชาชนบริเวณใกล้เคียง
จงึ จำ� เปน็ ทป่ี ระชาชนทกุ คนตอ้ งหนั มามสี ว่ นรว่ มในการจดั การขยะทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพและเหมาะสมทสี่ ดุ จงึ มงุ่ เนน้
ไปท่กี ารลดปริมาณ/การคัดแยกขยะดว้ ยหลัก 3Rs คอื
1. การลดปริมาณ (Reduce)
เป็นหลักการเริ่มต้นในการจัดการขยะที่ดีที่สุด การท�ำให้เกิดขยะน้อยท่ีสุด ลดการใช้ทรัพยากร ส่ิงของ
เครื่องใช้ที่ไม่จ�ำเป็น เช่น การลดการใช้กระดาษโดยการไม่ปร๊ินเอกสารโดยไม่จ�ำเป็น ลดการใช้แก้วน้�ำพลาสติก
โดยการใชแ้ ก้วน�้ำสว่ นตัว ลดการใชถ้ ุงพลาสติกโดยการใชถ้ ุงผ้า การเลือกซ้อื สนิ ค้าชนดิ เตมิ (Refill) เปน็ ต้น
2. การใช้ซ้ำ� (Reuse)
เป็นการน�ำส่ิงของท่ีจะท้ิงเป็นขยะกลับมาใช้ใหม่ ใช้ซ้�ำ เพ่ือให้คุ้มค่าก่อนท้ิงเป็นขยะเพ่ือยืดอายุ
การใช้งาน หรือน�ำมาประยุกต์ใช้ เช่น การน�ำถังพลาสติกบรรจุสีมาใช้ท�ำถังน้�ำส�ำหรับล้างรถหรือเก็บสิ่งของ
เครอื่ งใช้ การน�ำกระป๋อง แกว้ น้�ำพลาสติกมาใช้ปลูกต้นไม้ การนำ� ขวดกาแฟท่ใี ชห้ มดแลว้ มาใส่น�้ำตาล เป็นตน้
3. การน�ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)
เปน็ การนำ� ขยะบางประเภทมาผา่ นขบวนการผลติ เปน็ สนิ คา้ ใหม่ โดยนำ� มาแปรรปู เชน่ การนำ� ถงั พลาสตกิ
กะละมังพลาสตกิ เกา่ มาแปรรปู เปน็ ถงั พลาสตกิ ทมี่ คี ุณภาพด้อยกวา่

3. การคัดแยกขยะ

เม่ือมีขยะเกิดข้ึนในโรงเรียน หลักการต่อมาคือการคัดแยกขยะ เพ่ือให้เหลือขยะน้อยที่สุดที่ต้องน�ำไป
กำ� จัด ซึ่งขยะแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ประเภทใหญ่ คอื ขยะท่วั ไป ขยะติดเชอ้ื ขยะอนั ตราย ดงั นี้
1) ขยะทัว่ ไป ประกอบด้วย
- ขยะประเภทย่อยสลายได้ หรือ ขยะสด หรือขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร เศษผัก ผลไม ้

ขยะประเภทนม้ี นี ำ�้ และอนิ ทรยี วตั ถใุ นปรมิ าณสงู มคี วามชนื้ ประมาณรอ้ ยละ 40-70 ขยะเหลา่ น้ี
หากทงิ้ ไวน้ านจะเกดิ การเนา่ เสยี สง่ กลนิ่ เหมน็ รบกวน และเปน็ แหลง่ เพาะพนั ธแ์ุ มลง สตั วพ์ าหะ
นำ� โรค ควรนำ� ไปใชป้ ระโยชน์ เช่น การน�ำไปท�ำปุ๋ยหมกั นำ้� หมกั ชวี ภาพ เปน็ ตน้
- ขยะสามารถน�ำกลับไปใช้ใหม่ได้ เช่น แก้ว กระดาษ พลาสติก โลหะ อะลูมิเนียม ฯลฯ ขยะเหล่านี้
บางอยา่ งสามารถนำ� กลบั มาใช้ใหม่ จึงควรน�ำไปใชป้ ระโยชนใ์ ห้ค้มุ คา่ กอ่ นนำ� ไปขาย
- ขยะอ่ืนๆ เช่น ถุงพลาสติก หอ่ ลูกอม ซองบะหม่ี ฯลฯ เป็นขยะทีต่ อ้ งนำ� ไปก�ำจัด
2) ขยะอันตราย เชน่ หลอดไฟ แบตเตอร่ี ถ่านไฟฉาย กระป๋องสเปรย์ ยาหมดอายุ ขวดน้ำ� ยาลา้ งพื้น
เปน็ ตน้ ขยะประเภทนค้ี วรแยกทง้ิ จากขยะประเภทอ่ืนๆ และควรระมัดระวังสารพิษ
3) ขยะติดเชื้อ เช่น ผ้าก๊อซ ส�ำลี จากการท�ำบาดแผล ขยะจากห้องพยาบาล การส่งเสริมให้นักเรียน
เรียนรู้เรื่องการคัดแยกขยะเป็นส่ิงจ�ำเป็น เพื่อให้นักเรียนน�ำความรู้ที่ได้ไปใช้ท่ีบ้านและชุมชน ท�ำให้เกิด
การลดการเกดิ ขยะและมีการน�ำขยะไปใชป้ ระโยชน์ นอกจากนี้ทางโรงเรียนควรมีการจัดภาชนะรองรบั ขยะแยก
ประเภท พร้อมติดปา้ ยสัญลกั ษณ์ เพอ่ื ให้นกั เรยี นไดฝ้ กึ ทกั ษะ

54 คู่มือการจดั การอาหารกลางวันนกั เรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั สำ�หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา

4. ภาชนะรองรับขยะ

การเลอื กภาชนะรองรบั ขยะตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ประเภทของภาชนะหรอื อปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการเกบ็ กกั โดยเลอื กให้
เหมาะสมกบั ประเภทและปรมิ าณของขยะนน้ั ๆ ภาชนะรองรบั ขยะตอ้ งทำ� ดว้ ยวสั ดทุ คี่ งทน ไมร่ ว่ั ซมึ ไมเ่ ปน็ สนมิ
มฝี าปดิ มดิ ชดิ เพอื่ ปอ้ งกนั แมลงและพาหะนำ� โรค ควรสวมถงุ พลาสตกิ ไวด้ า้ นในถงั เพอื่ ความสะดวกในการรวบรวม
ไปท้ิง และป้องกันการหมักหมมของส่ิงสกปรกท่ีก้นถัง กรณีท่ีถังเป็นโลหะ ก้นถังควรมีขอบสูงประมาณ 2 น้ิว
เพ่ือป้องกันไม่ให้ก้นถังสัมผัสกับพื้น ความชื้นจะท�ำให้ก้นถังผุกร่อนได้ง่าย หรือควรตั้งยกสูงจากพ้ืนอย่างน้อย
20 เซนติเมตร และขนาดของถังประมาณ 20-40 ลิตร ไม่ควรมีขนาดใหญ่จนเกินไป จะท�ำให้ไม่สะดวก
ในการขนย้ายและควรน�ำขยะไปทง้ิ นอกหอ้ ง/อาคารทกุ วัน

5. ที่พักรวมขยะ

ควรมีจุดรวบรวมขยะของโรงเรียนหรือของแต่ละอาคารให้มีความเพียงพอและเป็นสัดส่วน มีถังรองรับ
ขยะแยกตามชนิดของขยะ เชน่ ถงั ส�ำหรบั ขยะอินทรีย์ ถังส�ำหรับขยะรไี ซเคิล ถังขยะอนั ตราย และถังขยะทัว่ ไป
เพ่ือความสะดวกในการน�ำไปก�ำจดั ใหถ้ ูกตอ้ ง

6. การกำ� จัดขยะ

การกำ� จดั ขยะมหี ลากหลายวธิ ี ตอ้ งทำ� อยา่ งถกู หลกั สขุ าภบิ าลและเหมาะสมกบั พนื้ ท่ี โดยเนน้ การนำ� ขยะ
ไปใช้ประโยชน์ เช่น ขยะอินทรีย์หรือขยะสดสามารถน�ำมาท�ำปุ๋ยหมัก น้�ำหมักชีวภาพ น�ำมาเล้ียงไส้เดือน
เพ่อื เป็นปุ๋ย น�ำไปเลย้ี งสตั ว์ เปน็ ต้น สว่ นทีไ่ ม่เกดิ ประโยชน์แลว้ เช่น ขยะทว่ั ไปจงึ ใหเ้ ทศบาล/อบต.นำ� ไปฝงั กลบ
การนำ� ขยะอนิ ทรีย์มาใชป้ ระโยชนส์ ามารถทำ� ได้ดงั น้ี

6.1 การหมกั ท�ำปยุ๋ (Composting)
ขยะทเ่ี ปน็ สารอนิ ทรยี ซ์ งึ่ ยอ่ ยสลายไดง้ า่ ย เชน่ เศษอาหารจากโรงครวั เศษผลไม้ เศษผกั ทเี่ กดิ จาก
การเตรยี มประกอบอาหาร หากนำ� ไปกองทง้ิ ไวจ้ ะเนา่ เสยี และสง่ กลนิ่ เหมน็ แตห่ ากนำ� ไปหมกั ดว้ ยวธิ กี ารทถ่ี กู ตอ้ ง
กลน่ิ เหม็นจะลดลงอยา่ งมาก และผลผลิตทไ่ี ดส้ ามารถนำ� ไปใช้เปน็ ปยุ๋ สำ� หรบั บำ� รุงดินอกี ด้วย
วิธีการ
โดยนำ� ขยะทสี่ ามารถเนา่ เป่อื ยได้ (ขยะอินทรีย์) มาผ่านกระบวนการบดหมกั เพอื่ ใหเ้ กดิ การยอ่ ย
สลายขยะท่ีผ่านการหมักแล้ว จะถูกน�ำไปผึ่งต่อที่ลานผ่ึงประมาณ 40-60 วัน เพื่อให้การย่อยสลายเป็นไปโดย
สมบูรณ์ จากนนั้ จะถกู น�ำไปรอ่ นแยกเอาส่วนที่จะใชเ้ ปน็ ปุ๋ยต่อไป

ตัวอยา่ ง สตู รการท�ำปุย๋ หมัก
วตั ถุดิบ
1) เศษพืช เชน่ ใบไม้ กง่ิ ไมท้ ั้งแห้งและสด 100 ส่วน
2) ปุย๋ คอก 10 ส่วน
3) ปยุ๋ ยูเรยี 1 สว่ น
4) ผงซกั ฟอก ละลายน้�ำเลก็ นอ้ ย * (ใสห่ รอื ไมใ่ สก่ ไ็ ด)้

คู่มือการจัดการอาหารกลางวันนักเรยี น 55
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั สำ�หรับโรงเรียนประถมศกึ ษา

ข้ันตอน
1) เตรียมพ้ืนท่ีวางกองปุ๋ยหมัก อาจขุดหลุมลึกราว 50 เซนติเมตร หรือใช้ถังซีเมนต์ซ้อนกัน
2-3 ชั้น วางตะแกรงในชัน้ ทีส่ องเพอ่ื ใหเ้ หลอื ทีว่ า่ งชนั้ ล่างสุด เจาะชอ่ งเปิดปดิ ส�ำหรับน�ำปุ๋ยหมกั ออกไปใชไ้ ดง้ า่ ย
2) น�ำเศษก่ิงไม้ ใบไม้ท้ังสดและแห้งผสมคลุกเคล้าให้ท่ัว หากใบไม้แห้งเกินไปให้ใช้ผงซักฟอก
ผสมนำ�้ เลก็ นอ้ ยเพอ่ื ใหใ้ บจบั กบั นำ�้ ไดด้ ขี นึ้ ความชน้ื ควรอยใู่ นระดบั ทเ่ี มอื่ ลองกำ� ดแู ลว้ ใหค้ วามรสู้ กึ มากกวา่ หมาด
แต่ไม่ถึงกบั เปยี ก
3) ใสป่ ๋ยุ คอกและปยุ๋ ยเู รียโรยสลับกนั เป็นชนั้ ๆ หรือผสมคลุกเคลา้ กบั วัสดุ แล้วใสใ่ นภาชนะ
4) กดกองวัสดุให้อัดตัวกันแต่ต้องไม่แน่นจนเกินไป เพื่อให้เกิดความร้อนภายในกองหม่ันกลับ
กองป๋ยุ หมักเพ่อื ให้มกี ารเติมอากาศเขา้ ไป
5) ระยะเวลาการย่อยสลายของวัสดุขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุและกระบวนการท่ีเกิดข้ึน อาจอยู่
ในราว 1-2 เดือน ปุ๋ยหมักท่ีน�ำไปใช้ได้จะมีลักษณะเป็นสีเข้ม เมื่อใช้มือบดสามารถขาดออกจากกันได้ง่าย
มีกล่ินคล้ายกล่ินธรรมชาติ ไม่ฉุนหรือเหม็นรุนแรง หากท�ำปุ๋ยหมักในถังซีเมนต์สามารถเก็บปุ๋ยท่ีร่วงลงมาจาก
ตะแกรงไปใช้ไดท้ ันที
6.2 การหมักขยะมูลฝอยท�ำน�ำ้ หมกั จลุ นิ ทรยี ์
น�้ำหมักจุลินทรีย์ คือ สารละลายที่ได้จากการย่อยสลายเศษวัสดุท่ีเหลือใช้จากส่วนต่างๆ ของพืช
หรือซากสัตว์ โดยผ่านกระบวนการหมักในสภาพท่ีไม่มีออกซิเจน มีจุลินทรีย์ท�ำหน้าที่ย่อยสลายซากพืชและ
ซากสัตว์ให้กลายเป็นสารละลาย รวมถึงการใช้เอนไซม์ท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ หรือมีการเติมเอนไซม์
หรือการเร่งการย่อยสลาย ท�ำให้เกิดกระบวนการยอ่ ยสลายไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ย่งิ ขนึ้

56 คมู่ ือการจัดการอาหารกลางวนั นกั เรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย ส�ำ หรับโรงเรียนประถมศึกษา

ประเภทนำ�้ หมกั จุลินทรยี ์ สว่ นผสม/อปุ กรณ์ รายละเอยี ด

1. นำ้� หมกั 1.1 เศษอาหาร ส่วนผสม วิธีทำ�
จลุ ินทรีย์ท่ีผลติ - เศษอาหาร 1/2 ถัง 1. เตมิ นำ้� สะอาดลงในถงั พลาสตกิ ประมาณครงึ่ ถงั จากนนั้ เตมิ
มาจากพชื หรือ - กากนำ้� ตาล 1 ลติ ร
ขยะเปยี ก - น้�ำหมกั จลุ นิ ทรีย์ 1 ลติ ร กากน�้ำตาลและหัวเชื้อจุลินทรียผ์ สมใหเ้ ขา้ กัน
- น�้ำสะอาด 1/2 ลิตร 2. นำ� เศษอาหารใสถ่ งุ ป๋ยุ ผกู ปากถุง นำ� ไปแช่กดให้จม หมกั ไว้
อุปกรณ์
- ถงั พลาสติกขนาด 20-40 ลติ ร 7 วัน เกบ็ ในทรี่ ่ม
- ถุงปยุ๋ ประโยชน์
ผสมนำ้� 1:500 ใชฉ้ ดี พน่ หรอื รดตน้ พชื ชว่ ยเรง่ การเจรญิ เตบิ โต
และใชเ้ ปน็ หวั เชือ้ จลุ ินทรีย์

1.2 เศษผัก ส่วนผสม วธิ ีท�ำ
- เศษผกั 1/2 ถัง 1. เตมิ นำ�้ สะอาดลงในถงั พลาสตกิ ประมาณครงึ่ ถงั จากนนั้ เตมิ
- กากนำ้� ตาล 1 ลิตร
- นำ้� หมกั จุลนิ ทรีย์ 1 ลิตร กากน�้ำตาลและหัวเช้ือจุลินทรียผ์ สมให้เข้ากัน
- น้ำ� สะอาด 1/2 ลิตร 2. นำ� เศษผกั ใสถ่ งุ ปยุ๋ ผกู ปากถงุ นำ� ไปแชก่ ดใหจ้ มหมกั ไว้ 7 วนั
อปุ กรณ์
- ถงั พลาสตกิ ขนาด 20-40 ลติ ร เกบ็ ในทร่ี ม่
- ถุงปุย๋ ประโยชน์
ผสมน�้ำ 1:500 ใช้ฉีดพ่นหรือรดต้นพืช ช่วยเร่ง
การเจริญเตบิ โต และใช้เปน็ หวั เชือ้ จุลนิ ทรยี ์

1.3 เศษผลไม้ ส่วนผสม วธิ ที ำ�
รสเปรีย้ ว - เปลอื กส้ม มะนาว สบั ปะรด 1. เตมิ น้�ำสะอาดลงในถงั พลาสตกิ ประมาณคร่งึ ถงั จากน้นั เติม
- กากน้ำ� ตาล 1 ลติ ร
- นำ�้ หมักจลุ ินทรยี ์ 1 ลิตร กากน้ำ� ตาลและหวั เชื้อจลุ ินทรยี ผ์ สมใหเ้ ขา้ กัน
- น�้ำสะอาด 1/2 ลติ ร 2. นำ� เศษผลไมร้ สเปรีย้ วใสถ่ ุงปุ๋ย ผกู ปากถุง น�ำไปแช่กดใหจ้ ม
อุปกรณ์
- ถังพลาสตกิ ขนาด 20-40 ลติ ร หมกั ไว้ 7 วัน เก็บในท่รี ่ม
- ถงุ ปยุ๋ ประโยชน์
ใช้ขดั หอ้ งนำ้� โดยไมต่ ้องผสมน้ำ� แทนน�้ำยาลา้ งหอ้ งน้ำ� ท่เี ปน็
สารเคมี ใชเ้ ทลงในทอ่ ระบายนำ�้ จะชว่ ยลดกลน่ิ เหมน็ ของนำ�้ เสยี
และใชเ้ ทลงในโถสว้ มเพอื่ ชว่ ยในการยอ่ ยสลายทำ� ใหส้ ว้ มไมเ่ ตม็

1.4 เศษผลไม้ สว่ นผสม วิธที �ำ
สแี ดง - มะละกอ แตงโม กระเจยี๊ บ ฟกั ทอง ขนนุ 1. เติมนำ้� สะอาดลงในถังพลาสตกิ ประมาณคร่ึงถัง จากนน้ั เติม
สีเหลอื ง - กากนำ�้ ตาล 1 ลิตร กากน�้ำตาลและหวั เชอ้ื จุลนิ ทรียผ์ สมให้เขา้ กัน
- น�้ำหมกั จุลินทรยี ์ 1 ลิตร 2. น�ำเศษผลไม้สีแดง สีเหลืองใส่ถุงปุ๋ย ผูกปากถุง น�ำไปแช่
- น�ำ้ สะอาด 1/2 ลติ ร กดใหจ้ ม หมักไว้ 7 วนั เก็บในที่ร่ม
อปุ กรณ์ ประโยชน์
- ถงั พลาสตกิ ขนาด 20-40 ลติ ร ผสมน�้ำ 1:500 ใช้ฉีดพ่นพืชดอก ช่วยเร่งสีของดอกไม้ให้มี
- ถุงปุ๋ย สสี ันสวยงาม

2. นำ้� หมัก 2.1 เศษปลา สว่ นผสม วธิ ที ำ�
จุลนิ ทรียท์ ผี่ ลติ - เศษปลาทีท่ งิ้ แลว้ 3 กิโลกรัม 1. ผสมส่วนผสมท้ังหมดใส่ลงในถังพลาสติกแล้วท�ำการปิดฝา
จากสตั ว์ - กากน�้ำตาล 1 ลิตร
- น�้ำหมกั จุลนิ ทรยี ์ ขณะทีห่ มักควรเก็บไวใ้ นรม่
- นำ้� สะอาด 1/2 ลิตร 2. หมักไว้ 1-2 เดือน และต้องคอยเปิดถังคนน�้ำหมักจุลินทรีย์
อปุ กรณ์
- ถงั พลาสติกมีฝาปดิ อย่างสม่�ำเสมอเพอื่ ช่วยใหย้ อ่ ยสลายเร็วขึน้
- ไม้ส�ำหรบั คน ประโยชน์
ผสมน้�ำ 1:500 ใช้ฉีดพ่นหรือรดต้นพืชช่วยเร่งการเจริญ
เติบโตและช่วยปรับปรงุ คณุ ภาพดนิ



คมู่ ือการจดั การอาหารกลางวันนักเรยี น 57
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหารและอาหารปลอดภยั สำ�หรบั โรงเรยี นประถมศึกษา

6.3 การก�ำจัดขยะโดยการเลยี้ งไสเ้ ดอื นดิน
ไสเ้ ดอื นดนิ บางชนดิ ทอ่ี ยใู่ นกลมุ่ ทอ่ี าศยั อยใู่ นมลู สตั ว์ หรอื เศษซากอนิ ทรยี วตั ถุ สามารถนำ� มาเลย้ี ง
ขยายพันธุ์และใช้ในการก�ำจัดขยะอินทรีย์ต่างๆ และวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตรได้ เช่น สายพันธุ์ Eisenia
foetida, Lumbricus rubellus, Eudrilus eugeniae และ Pheretima peguana
มหี ลายหนว่ ยงานทใ่ี หค้ วามสนใจในการใชไ้ สเ้ ดอื นดนิ กำ� จดั ขยะอนิ ทรยี ์ โดยมกี ารประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ ง
แพรห่ ลาย ในการน�ำไส้เดือนดินสายพนั ธ์ทุ เ่ี หมาะสมมาใชใ้ นการก�ำจดั ขยะอินทรยี ์เพือ่ ลดปัญหาส่งิ แวดลอ้ มและ
เพ่ือผลิตปยุ๋ หมักมลู ไสเ้ ดอื นดนิ
แตข่ ยะอนิ ทรยี ์ ของเสยี จากทอ่ ระบายนำ้� ทง้ิ และวสั ดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตรบางชนดิ ไมเ่ หมาะสม
ในการน�ำมาให้ไส้เดือนดินย่อยสลายในข้ันแรก จ�ำเป็นต้องผ่านกระบวนการท�ำให้เหมาะสมก่อน เช่น การลด
ปริมาณน้�ำท่ีมากเกินไป หรือการหมักเพื่อลดปริมาณความร้อน และก๊าซพิษหรือเพ่ือให้วัสดุเหล่านั้นมีความ
อ่อนนมุ่ ลงเหมาะแก่การยอ่ ยสลายโดยไส้เดอื นดิน
การเล้ยี งไสเ้ ดอื นดินก�ำจัดขยะอินทรยี ์
ภายในโรงเรียนมักมกี ิจกรรมทีก่ อ่ ใหเ้ กิดขยะอนิ ทรยี ์จ�ำนวนมาก เช่น เศษผกั เปลอื กผลไม้ เศษอาหาร
เป็นประจ�ำทุกวัน ขยะอินทรีย์ต่างๆ ดังกล่าว สามารถเล้ียงไส้เดือนดินได้ ด้วยชุดเล้ียงท่ีสามารถท�ำเองได้ง่าย เช่น
ถังน้�ำ/อ่างน้�ำพลาสติก ลิ้นชักพลาสติก บ่อวงซีเมนต์ หรือสร้างโรงเรือนขนาดเล็ก โดยสามารถใส่เศษขยะอินทรีย์
ได้ทุกวัน เมื่อไส้เดือนดินย่อยสลายขยะอินทรีย์เหล่านั้น จะได้ปุ๋ยหมักและน�้ำหมักมูลไส้เดือนดินคุณภาพสูงไว้ใช้
ปลกู พชื ตา่ งๆ ภายในบ้านได้ นอกจากน้ียังสามารถลดภาระการจัดเกบ็ ขยะของทอ้ งถ่นิ ลงได้จ�ำนวนมาก
วธิ กี ารเล้ยี งไส้เดอื นดินกำ� จดั ขยะอินทรยี ์ในบ่อวงซเี มนต์
1) เตรยี มบ่อวงซเี มนตท์ ่ีเทพนื้ และต่อท่อระบายน้ำ� หมกั มูลไส้เดอื น
2) นำ� บ่อวงไปตัง้ ในบรเิ วณท่ไี ม่มแี สงแดด ไมโ่ ดนฝน และอากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก
3) ล้างบ่อวงซีเมนต์และแช่น้�ำทิ้งไว้ประมาณ 3-7 วัน เพื่อลดความเค็มของปูนซ่ึงเป็นอันตราย
ต่อไส้เดือนดนิ
4) ใสพ่ ้นื เล้ียงในบ่อหนา 3 นว้ิ ใสไ่ สเ้ ดอื นดิน 1 กโิ ลกรัม/พ้นื ท่ีบอ่ 1 ตารางเมตร
5) ทาสบรู่ อบๆปากบ่อปอ้ งกันไสเ้ ดือนดนิ หนี
6) ใสเ่ ศษอาหาร เศษผัก หรอื ผลไม้เหลือทิ้งในบ้านลงไปในบอ่ เพอื่ ให้ไสเ้ ดือนดนิ ยอ่ ยสลายต่อไป
7) พื้นเลี้ยง เตรียมจากดิน 4 ส่วน ผสมกับมูลวัว 1 ส่วน หมักไว้ท่ีความช้ืนร้อยละ 80-90
นาน 7 วัน หรอื ใชน้ ้ำ� หมักมลู ไส้เดอื นเข้มข้นรอ้ ยละ 10 รดทิ้งไว้ 1 วัน
วธิ กี ารเลี้ยงไส้เดือนดินกำ� จัดขยะอินทรยี ์ในโรงเรือน
1) สรา้ งโรงเรือนทีป่ อ้ งกนั น้ำ� ฝนได้และมีการพรางแสง มตี าขา่ ยปดิ โดยรอบ เพ่อื ป้องกนั ศัตรูไส้เดือน
2) สร้างบ่อเลี้ยงกว้างประมาณ 1-2 เมตร สูง 0.8-1 เมตร ความยาวแล้วแต่ขนาดของโรงเรือน
พืน้ บอ่ ลาดเอยี งร้อยละ 1-2 และตอ่ ทอ่ ระบายนำ้� หมกั ออกจากพื้นบอ่ ไปยังบอ่ เกบ็ น้ำ� หมกั ในจุดต�่ำสุดของพ้ืนที่
3) ใส่พื้นเลยี้ งในบอ่ หนา 3 นิว้ ใสไ่ ส้เดือนดนิ 1 กิโลกรัม/พ้ืนทบี่ ่อ 1 ตารางเมตร
4) ใสข่ ยะอินทรยี ์ใหไ้ สเ้ ดอื นดนิ ย่อยสลายหนา 3 นวิ้ (ชว่ งฤดูหนาวใหใ้ ส่หนา 6 น้วิ ) ปุ๋ยอนิ ทรยี ์
ท่ไี ดจ้ ากไส้เดอื นดินมอี ยู่ 2 ชนิด คอื ปุย๋ อนิ ทรียช์ นิดแห้งและปุ๋ยอินทรยี ์ชนิดน�้ำ ทัง้ นข้ี ึ้นอยู่กับชนดิ ของวตั ถดุ ิบ
หรืออาหารที่ใช้ โดยทั่วไปถ้าเป็นจากเศษพืชหรือผักจะได้ปุ๋ยอินทรีย์ท้ังชนิดน้�ำและแห้ง แต่มีปริมาณน้อย
ส่วนมูลสตั ว์จะใหป้ ริมาณปยุ๋ อินทรยี ์ทม่ี ากกว่าแต่ไมไ่ ด้ปุย๋ อนิ ทรยี ์ชนดิ น้ำ�

58 คู่มอื การจดั การอาหารกลางวันนกั เรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย ส�ำ หรับโรงเรยี นประถมศกึ ษา

3.4 การจดั การนำ้� เสีย

นำ้� เสยี ของโรงเรยี นเปน็ นำ�้ เสยี ทผี่ า่ นการใชง้ านจากกจิ กรรมตา่ งๆ แลว้ ทำ� ใหม้ คี ณุ สมบตั เิ ปลย่ี นแปลงไป
ทั้งทางกายภาพ เคมี และชีวภาพ ในนำ้� เสยี มักมสี ารอนิ ทรียป์ นเปอื้ นอยู่ หากปล่อยทง้ิ ไว้จะท�ำใหเ้ กิดกล่นิ เหม็น
กอ่ ใหเ้ กดิ ความรำ� คาญ และเปน็ แหลง่ เพาะพนั ธแ์ุ มลงวนั และสตั วพ์ าหะนำ� โรค ในการบำ� บดั และกำ� จดั นำ้� เสยี นนั้
จะเลือกใชว้ ิธกี ารใด ยอ่ มข้นึ อยู่กับความพรอ้ มของโรงเรียนและสภาพของพื้นที่ ซึ่งการดำ� เนนิ การอาจท�ำได้โดย
1. การรวบรวมน�้ำเสียลงสู่ระบบบ�ำบัดน�้ำเสียหรือท่อสาธารณะท่ีมีอยู่ โดยท�ำการบ�ำบัดข้ันต้น
ดว้ ยการก�ำจัดเศษอาหาร เศษผัก มลู ฝอย โดยการใชต้ ะแกรง สำ� หรับน�้ำเสียจากการลา้ งภาชนะ การประกอบอาหาร
ซ่งึ มกั มีไขมันปะปนมา ต้องทำ� การก�ำจดั ไขมันโดยผ่าน บ่อดกั ไขมัน เพ่อื แยกไขมันออกก่อน


การใช้ตะแกรงแยกเศษอาหาร

บ่อดกั ไขมันแบบสร้างเองและสำ� เร็จรูป

คมู่ ือการจดั การอาหารกลางวนั นกั เรยี น 59
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรับโรงเรียนประถมศกึ ษา

2. การสรา้ งระบบบำ� บัดน�้ำเสียเพอ่ื บ�ำบดั และก�ำจดั นำ้� เสีย
การสร้างระบบบ�ำบัดน้�ำเสียเพ่ือบ�ำบัดและก�ำจัดน้�ำเสีย อาจสร้างระบบบ�ำบัดน�้ำเสียชนิดติดกับที่
(on-site Treatment System) ระบบแบบงา่ ยทใ่ี หน้ ำ้� เสยี ไหลลงสถู่ งั เกบ็ กกั เพอ่ื ใหเ้ กดิ การยอ่ ยสลายแบบไมใ่ ช้
ออกซิเจนหรือท่ีเราเรียกว่า ถังเกรอะ แล้วก�ำจัดลงสู่ดินโดย บ่อซึม หรือ ร่องซึม ต่อไป ซ่ึงบ่อเกรอะอาจสร้างข้ึนเอง
หรือใช้แบบส�ำเร็จรูปก็ได้โดยให้น้�ำเสียมีระยะเวลาพักอยู่ในถังเกรอะไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง (ประสิทธิภาพท่ีดี
ควรเปน็ 72 ชวั่ โมง) นำ�้ เสยี ทอ่ี อกจากถงั เกรอะยงั ไมส่ ามารถปลอ่ ยลงสแู่ หลง่ นำ�้ ไดโ้ ดยตรง เนอื่ งจากยงั มสี งิ่ สกปรก
และเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ์ จงึ ตอ้ งทำ� การบำ� บดั โดยปลอ่ ยซมึ ลงดนิ โดยผา่ นบอ่ ซมึ หรอื รอ่ งซมึ สำ� หรบั ในบางสภาพของพน้ื ที่
ที่ไมส่ ามารถก�ำจดั น้ำ� เสียลงสูด่ นิ ได้ เช่น ดนิ มีสภาพการซึมน้�ำไดไ้ ม่ดี หรืออยู่ใกลแ้ หล่งนำ้� เกินไปอาจจ�ำเป็นต้อง
เปล่ียนไปใช้ระบบบ�ำบัดและก�ำจัดในรูปแบบอื่น เช่น บ่อเกรอะ-ถังกรองไร้อากาศ หรือ ถังส�ำเร็จรูปเอเอส
(Activated sludge) เปน็ ตน้



60 คมู่ ือการจดั การอาหารกลางวันนักเรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย ส�ำ หรบั โรงเรียนประถมศกึ ษา

บอ่ เกรอะชนดิ สรา้ งเองโดยใช้วงขอบซีเมนต ์ หล่อคอนกรีต และแบบส�ำเรจ็ รปู




การกำ� จัดน้�ำเสียโดยใช้หลมุ ซึมและร่องซมึ
3. การก�ำจัดโดยการปล่อยให้ซึมลงดินโดยอาศัยระบบหลุมซึมซึ่งต้องท�ำการก�ำจัดเศษขยะ
เศษอาหารออกกอ่ น วิธีนี้จะเหมาะสมส�ำหรับการใช้งานในกรณีท่มี ีพนื้ ทว่ี ่างเปล่ามาก
ส�ำหรับปัญหาการจัดการน�้ำเสียที่มักพบเสมอและอาจส่งผลต่อการแพร่กระจายโรค คือ น�้ำเสีย
ถกู ปลอ่ ยท้ิงท่วมขังเน่าเสยี จนกลายเปน็ แหลง่ เพาะพันธ์ุสัตว์และแมลงพาหะน�ำโรค

คู่มอื การจดั การอาหารกลางวนั นกั เรยี น 61
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรับโรงเรียนประถมศึกษา

3.5 การควบคุมและก�ำจดั สัตว์และแมลงพาหะนำ� โรค

แมลงและสัตว์พาหะน�ำโรค เช่น หนู แมลงวัน แมลงสาบ ซ่ึงอาศัยและหากินตามกองขยะ ถังใส่เศษ
อาหาร รางระบายน�ำ้ และส่ิงสกปรกต่างๆ เม่อื สตั วด์ งั กลา่ วมาไต่ตอม กนิ อาหารซึ่งมกี ารเก็บหรอื ปกปดิ ไมม่ ิดชดิ
จงึ นำ� เชอื้ โรคปนเปอ้ื นสอู่ าหารและตดิ ตอ่ มาสคู่ นทกี่ นิ อาหารนนั้ ทำ� ใหเ้ กดิ โรค เชน่ โรคบดิ อหวิ าตกโรค ไทฟอยด์
และโรคพยาธิตา่ งๆ จึงต้องควบคมุ และก�ำจัดสัตวพ์ าหะน�ำโรค

1. ยงุ

ยุงเป็นพาหะนำ� โรคทส่ี ำ� คัญมาสคู่ น แบง่ ได้เปน็ 4 ชนิด คือ ยุงก้นปลอ่ ง ยุงรำ� คาญ ยุงลาย และยุงเสอื
แตล่ ะชนดิ กอ่ ให้เกดิ โรคทแี่ ตกต่างกนั ดงั นี้
- ยุงกน้ ปลอ่ ง เปน็ ยุงทีน่ �ำเช้อื มาลาเรยี มาสู่คน
- ยงุ ร�ำคาญ หรอื ยุงบา้ น เปน็ พาหะน�ำโรคเยอื่ หุ้มสมองอกั เสบ
- ยุงลาย เปน็ พาหะนำ� โรคไขเ้ ลอื ดออก
- ยงุ เสอื หรือยงุ ปา่ เปน็ พาหะน�ำโรคเท้าช้าง
วธิ กี ารควบคุมยุง
1) ปอ้ งกันมใิ หม้ แี หล่งเพาะพันธ์ุยุง ตอ้ งค�ำนึงถงึ ภาชนะอปุ กรณต์ ่างๆ ในอาคาร
- ภาชนะเกบ็ กักน�้ำดื่ม-น�ำ้ ใช้ ต้องมฝี าปดิ มดิ ชิด เช่น ถงั เกบ็ นำ�้ โอง่ น้ำ� ขวดน้�ำ
- ภาชนะหรอื วสั ดทุ มี่ นี �้ำขงั ตอ้ งถกู ก�ำจดั หรอื ควำ่� ไมใ่ หม้ ีน้ำ� ขังอยภู่ ายใน เชน่ กระปอ๋ ง ถว้ ยชาม
- ทำ� ความสะอาดรางระบายนำ้� ฝนใหส้ ะอาดอยูเ่ สมอ
- เปลีย่ นนำ�้ ในภาชนะทีใ่ ส่นำ้� เปน็ ประจ�ำ สปั ดาห์ละครงั้ เช่น ภาชนะใสน่ ้ำ� สำ� หรับสัตว์เล้ียง แจกนั
ใส่ดอกไม้ ถาดรองกระถางตน้ ไม้
2) การป้องกันไม่ใหม้ ีปริมาณยงุ มากเกินไป โดยการควบคมุ ไมใ่ หม้ ีแหลง่ เพาะพันธยุ์ ุงภายในอาคาร
- การใชต้ าขา่ ยดกั ยงุ
- การใช้ยาฆา่ แมลง
- การใช้ตะแกรงหรือมงุ้ ลวดกัน้ ประตู หน้าตา่ ง ช่องระบายอากาศ
3) กำ� จัดขยะที่อาจเปน็ ทีข่ ังน้ำ� เชน่ เศษพลาสติก กะลา
4) ต้องให้มีการถ่ายเทน�้ำในแหล่งน�้ำขังต่างๆ เช่น หนอง บึง ต้องจัดการให้น้�ำมีการหมุนเวียน
เพอื่ ป้องกนั มิให้ยุงมาวางไข่ อาจท�ำน้�ำพุ นำ้� ตก หรือให้น้�ำไมห่ ยุดน่ิง หรือเลีย้ งปลาทีก่ ินลูกน�้ำเปน็ อาหาร

2. แมลงวัน

แมลงวันที่มีความสำ� คญั กับการสาธารณสขุ คือ แมลงวันบา้ นและแมลงวันหวั เขยี ว
การควบคุมแมลงวัน
1) การก�ำจัดขยะและสิ่งปฏิกูลให้เหมาะสม เช่น ขยะอินทรีย์ต้องเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
ไม่รัว่ ซมึ และมีถุงพลาสตกิ รองดา้ นในถัง เม่อื จะขนย้ายต้องมดั ปากถุงใหแ้ น่นและควรทิง้ ทุกวนั
2) การใช้วธิ กี ลและวธิ ที างกายภาพ ต้องใชห้ ลายวิธรี ่วมกัน เพ่อื ป้องกันแมลงวันเขา้ ไปภายในหอ้ งโดย
- ตดิ ตะแกรงหรือมุ้งลวดตามประตู หนา้ ตา่ ง ชอ่ งระบายอากาศ
- ติดม่านกนั แมลงวันตรงประตู เช่น ม่านมลู ่ี มา่ นพลาสตกิ ที่ท�ำเป็นเสน้ ๆ
- ใชต้ าขา่ ยคลมุ กรง หรอื ลงั ทใ่ี ชเ้ ลยี้ งสตั ว์ เพราะภายในกรงจะมอี าหารสตั วแ์ ละมลู สตั ว์ เปน็ ทด่ี งึ ดแู มลงวนั
- ใชก้ าวดักจบั แมลงวัน
- เก็บอาหารโดยมอี ปุ กรณ์ปกปดิ มดิ ชิด เชน่ ฝาชีครอบหรอื เกบ็ ในตูก้ บั ขา้ ว

62 คู่มอื การจัดการอาหารกลางวนั นกั เรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย ส�ำ หรับโรงเรียนประถมศึกษา

3) การใชว้ ธิ ที างเคมี เชน่ การใชส้ ารฆา่ แมลงตวั ออ่ นหรอื ตวั แก่ วธิ นี ตี้ อ้ งทำ� ดว้ ยความระมดั ระวงั เพราะ
อาจเป็นอนั ตรายตอ่ คนและสัตว์เล้ยี งได้
4) ก�ำจัดน้�ำเสยี ใหถ้ กู ต้อง เหมาะสม คือ ตอ้ งมีการรวบรวมนำ้� เสียนำ� ไปบำ� บัด และกำ� จดั โดยไมป่ ลอ่ ย
ใหน้ ำ�้ ไหลนองตามพน้ื อนั จะเปน็ แหลง่ เพาะพนั ธแ์ุ มลงวนั นอกจากนย้ี งั ตอ้ งกำ� จดั วชั พชื ไมใ่ หร้ กรงุ รงั แตก่ ารกำ� จดั
ควรใชว้ ิธีทางกายภาพ จึงจะเปน็ วธิ ีทีป่ ลอดภยั ต่อระบบนเิ วศน์

3. แมลงสาบ

แมลงสาบเมอ่ื กนิ อาหารจะสำ� รอกของเหลวสนี ำ้� ตาลออกมาปนเปอ้ื นกบั อาหารหรอื วตั ถสุ ง่ิ ของทำ� ใหเ้ กดิ
กลน่ิ เหมน็ นา่ รังเกียจ
การควบคมุ แมลงสาบ
1) ป้องกันไม่ให้แมลงสาบเข้าสู่ตัวอาคาร โดยใช้ตะแกรงหรือมุ้งลวดติดประตู หน้าต่าง ช่องระบายอากาศ
อุดรอยแตกโดยใชป้ นู ปลาสเตอร์
2) ควบคมุ แมลงสาบในอาคาร โดย
- ใชเ้ หยอ่ื ลอ่ เชน่ การดกั ใชก้ รดบอรคิ ผสมแปง้ ฯลฯ หรอื ใชส้ ารฆา่ แมลง เชน่ 2% ไดอะซนิ อน (สเปรย)์
- ซอ่ มแซม อุดรอยแตก รอยรว่ั ของอาคาร ท่อประปา
- เกบ็ อาหารในตู้ หรือท่มี ิดชดิ ไม่ให้เปน็ อาหารส�ำหรบั แมลงสาบได้
- เกบ็ สง่ิ ของต่างๆ ภายในอาคารให้เป็นระเบียบ สะอาด ไม่ใหเ้ ป็นทห่ี ลบซ่อนของแมลงสาบ
- เกบ็ ขยะในภาชนะท่ีมิดชิด
4. หนู
หนทู ี่มคี วามสำ� คญั ต่อสุขภาพอนามยั ของคนมี 3 ชนดิ คอื หนูนอรเ์ วย์ หนหู ลังคาและหนูหร่ิง
การควบคุมหนู
1) เกบ็ รักษาอาหารในภาชนะ/ ตู้ทีป่ ดิ มิดชดิ
2) เกบ็ ขยะอนิ ทรยี ใ์ นภาชนะทที่ ำ� ดว้ ยวสั ดคุ งทนตอ่ การกดั แทะ พรอ้ มฝาปดิ มดิ ชดิ และควรวางสงู จาก
พนื้ อย่างน้อย 45 เซนติเมตร
3) เก็บผา้ กระดาษ สบู่ หรอื สง่ิ อนื่ ใดท่หี นูสามารถกินเป็นอาหาร ให้เก็บในที่ทห่ี นไู มส่ ามารถเขา้ ไปได้
4) ไมใ่ ห้มีนำ�้ ขงั ภายในตวั อาคารและรางระบายน�ำ้
5) การเกบ็ รกั ษาถงุ ใสเ่ มลด็ พชื เชน่ ขา้ ว ขา้ วโพด ตอ้ งเกบ็ ใหม้ ดิ ชดิ และไมค่ วรเกบ็ ไวท้ เี่ ดมิ นานเกนิ 2 เดอื น
6) ต้องอุดช่องว่าง รูรั่วตามฝาผนังบ้าน หรือท่อน้�ำ ช่องว่างต้องมีความกว้างน้อยกว่า 6 มิลลิเมตร
จะสามารถป้องกันหนูเข้าภายในอาคารได้ และต้องท�ำด้วยวัสดุที่สามารถป้องกันการกัดแทะของหนู เช่น
คอนกรีต เหล็ก สังกะสี อะลูมิเนียม และด้านนอกอาคาร บริเวณฝาผนังใต้หน้าต่าง ควรติดวัสดุแผ่นเรียบ
ความกว้างประมาณ 10 เซนตเิ มตร เพอื่ ป้องกนั หนไู ตเ่ ข้าภายในอาคาร
7) สร้างเครื่องกีดขวางทางเดินของหนู ตามท่อและสายไฟ โดยท�ำเป็นแผ่นก้ันผิวเรียบ ความกว้าง
10 เซนตเิ มตร พันรอบเสาไฟ
8) กำ� จัดโดยการใชก้ บั ดกั และยาเบื่อ
9) หากมีต้นไม้ใหญ่ใกล้อาคารเรียน ควรตัดแต่งกิ่งไม้ไม่ให้ย่ืนเข้าไปในอาคาร เพราะหนูจะเดินตาม
กง่ิ ไม้เข้าสู่อาคารได้

คมู่ อื การจัดการอาหารกลางวันนกั เรยี น 63
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั ส�ำ หรบั โรงเรียนประถมศึกษา

3.6 การจดั การคุณภาพน้ำ� ดม่ื สะอาดในโรงเรียน

3.6.1 ความส�ำคญั ของน�ำ้ ดมื่ ตอ่ สขุ ภาพ
น้�ำสะอาดเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ส�ำคัญอย่างย่ิงต่อชีวิตมนุษย์ คนเราอาจมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ได้กิน
อาหารหลายๆ วัน แตห่ ากเราไม่ไดด้ ่ืมนำ้� เพียง 3 - 4 วนั อาจท�ำให้ถึงแกช่ วี ติ ได้ แตเ่ นอ่ื งจากคณุ สมบตั ิของนำ�้
ท่ีเป็นตัวท�ำละลายท่ีดีจึงอาจละลายเอาแร่ธาตุและส่ิงปนเปื้อนอ่ืนๆ ได้เกือบทุกชนิดทั้งของเหลวและของแข็ง
ซงึ่ อาจกอ่ ใหเ้ กดิ โทษตอ่ สขุ ภาพไดเ้ ชน่ กนั ดงั นนั้ การจดั บรกิ ารนำ�้ ดมื่ จงึ ตอ้ งสะอาดปราศจากการปนเปอ้ื นเชอื้ โรค
และสารพิษตามมาตรฐานคณุ ภาพน�ำ้ บรโิ ภคของกรมอนามัย ท้งั นีเ้ พ่ือปอ้ งกนั การเจบ็ ป่วยทเี่ กิดจากนำ้� เป็นสื่อ
โรงเรียนเป็นสถานท่ีส�ำคัญต่อการพัฒนานักเรียน เป็นบ้านหลังท่ีสองที่พ่อแม่หรือผู้ปกครอง
ไวว้ างใจมอบเด็กใหโ้ รงเรยี นเปน็ ผดู้ ูแล นกั เรียนต้องใชช้ วี ติ ในโรงเรยี นปลี ะไมน่ อ้ ยกวา่ 200 วนั ๆ ละ ไมน่ อ้ ยกวา่
8 -10 ชวั่ โมง นกั เรยี นไดศ้ กึ ษาเลา่ เรยี น และไดร้ บั การเสรมิ สรา้ งและพฒั นาในดา้ นตา่ งๆ รวมทงั้ ไดร้ บั การเรยี นรู้
และปลูกฝังพฤติกรรมด้านสุขภาพอย่างต่อเน่ือง การจัดการให้น�้ำสะอาดภายในโรงเรียนจึงจ�ำเป็นซ่ึงก่อให้เกิด
ผลดีในการส่งเสริมสขุ ภาพอนามยั นกั เรียนใหส้ ุขภาพดี
ในทกุ ๆ ปพี บเดก็ ปว่ ยจากโรคทเี่ กดิ จากนำ�้ เปน็ สอ่ื จำ� นวนมาก
ได้แก่ อหิวาตกโรค อุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ และตับอักเสบเอ
รวมทั้งพบว่าเด็กนักเรียนในภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้บางจังหวัด
ได้รับปริมาณสารฟลูออไรด์สูง ท�ำให้ฟันตกกระและได้รับสารหนูที่ปนเปื้อน
ในแหล่งน้�ำใต้ดินส่งผลให้มีผลตกค้างในเส้นผม ส�ำหรับน�้ำด่ืมในโรงเรียน
ที่ไม่สะอาดมีสาเหตุมาจากคุณภาพน้�ำโดยตรง การปนเปื้อนจากภาชนะ
เกบ็ นำ�้ ทไี่ มส่ ะอาดและการใชภ้ าชนะดม่ื นำ้� รว่ มกนั ดงั นนั้ การจดั บรกิ ารนำ้� ดม่ื
ในโรงเรยี น ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความเพยี งพอตามปรมิ าณทกี่ ำ� หนด คอื 5 ลติ รตอ่ คน
ต่อวัน (ใช้ส�ำหรับดื่ม 2 ลิตร อีก 3 ลิตร ใช้ปรุงประกอบอาหารรวมถึง
น�้ำที่ใช้ล้างหน้าและแปรงฟัน) โดยนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนต้องเข้าถึงจุดบริการอย่างเพียงพอ
และตลอดเวลาและตอ้ งคำ� นงึ ถึงความสะอาดปลอดภยั ดว้ ย

3.6.2 ผลกระทบของน�ำ้ ดืม่ ตอ่ สขุ ภาพ
ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจากการดม่ื นำ้� ทไ่ี มส่ ะอาดหมายถงึ การเจบ็ ปว่ ยทม่ี สี าเหตมุ าจากนำ้� เปน็ สอื่
ในการแพรก่ ระจาย เกดิ จากการดมื่ นำ้� ทไ่ี ม่สะอาดปนเปื้อนจุลินทรยี ์ สารละลายและสารเคมี
1. การปนเป้ือนจลุ ินทรยี ์
จลุ ินทรยี ์ ทเ่ี ปน็ สาเหตุของการเกดิ โรคมีหลายชนดิ ประกอบด้วย
1.1 แบคทเี รยี เปน็ จลุ นิ ทรยี ข์ นาดเลก็ มองไมเ่ หน็ ดว้ ยตาเปลา่ พบไดใ้ นนำ้� ทวั่ ไปมหี ลายชนดิ
แต่ละชนิดจะท�ำให้เกิดโรคและความรุนแรงของโรคที่แตกต่างกันต้ังแต่ท้องร่วงเล็กน้อยจนถึงเสียชีวิต โรคที่เกิด
จากแบคทีเรยี ทสี่ ำ� คัญและเปน็ ท่ีรจู้ ักโดยทั่วไป ได้แก่ อุจจาระรว่ งเฉียบพลัน บดิ ไทฟอยด์
1.2 ไวรัส เป็นจุลินทรีย์ท่ีมีขนาดเล็กที่สุด โรคจากไวรัสเน่ืองจากน�้ำบริโภคท่ีส�ำคัญ คือ
ตบั อักเสบและอจุ จาระรว่ ง

64 คู่มอื การจัดการอาหารกลางวนั นักเรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหารและอาหารปลอดภยั สำ�หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา

1.3 โปรโตซวั เปน็ จลุ นิ ทรยี ท์ มี่ ขี นาดใหญก่ วา่ แบคทเี รยี แตก่ ไ็ มใ่ หญพ่ อทจ่ี ะมองเหน็ ไดด้ ว้ ย
ตาเปลา่ โรคทเี่ กดิ จากโปรโตซวั ทส่ี ำ� คญั ไดแ้ ก่ บดิ จากเชอื้ อมบี า มอี าการทอ้ งเสยี ตดิ ตอ่ กนั เปน็ เวลานาน ปวดทอ้ ง
เกร็งท้อง ปวดเม่อื ยเนอื้ ตัว คลนื่ ไส้ มไี ข้ และน้�ำหนักลด
1.4 หนอนพยาธิ เปน็ จลุ นิ ทรยี ข์ นาดใหญม่ องเหน็ ไดด้ ว้ ยตาเปลา่ หนอนพยาธจิ ะแยง่ อาหาร
ของร่างกาย ท�ำให้น้ำ� หนกั ลด ร่างกายซบู ซดี บางชนิดทำ� ใหป้ วดท้องหรอื อาจไปอุดอวยั วะที่ส�ำคญั เชน่ ท่อนำ�้ ดี
ท�ำใหเ้ กดิ โรคดีซา่ น
2. การปนเปอื้ นสารละลายและสารเคมี
การปนเปื้อนสารละลายและสารเคมีในน้�ำบริโภค เน่ืองจากมีอยู่ในธรรมชาติและปนเปื้อน
จากการปลอ่ ยมลพิษสแู่ หล่งน้�ำทีต่ รวจพบบอ่ ยๆ ไดแ้ ก่
2.1 สี สขี องนำ�้ เกดิ จากสารละลายของสารอนิ ทรยี ว์ ตั ถุ เชน่ ตน้ หญา้ พชื นำ้� หรอื ใบไมท้ เ่ี นา่ เปอ่ื ย
ท�ำใหน้ ้�ำมีสเี หมอื นสชี าหรือสนี �ำ้ ตาลปนแดง ท�ำใหน้ ้ำ� ไม่ชวนดื่ม และกระบวนการผลติ นำ�้ ประปาย่งุ ยาก
2.2 ความขุ่น เกิดจากสารท่ีไม่ละลายน�้ำขนาดเล็กแขวนลอยในน�้ำท�ำให้น้�ำไม่ชวนด่ืม
สารแขวนลอยจะหอ่ หมุ้ จุลนิ ทรียไ์ ว้ทำ� ให้คลอรีนไมส่ ามารถทำ� ลายจุลนิ ทรยี ์ได้และทำ� ใหเ้ ครื่องกรองอดุ ตันและเสยี เร็ว
2.3 เหล็ก เกิดจากสารประกอบของเหล็กในดิน เหล็กอาจไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากนัก
แตจ่ ะท�ำใหน้ �้ำมสี ีแดง กลน่ิ และรสไม่นา่ ด่มื
2.4 ทองแดง ท�ำให้น้�ำมีรสฝาดและขุ่นมัวมีประโยชน์ต่อร่างกาย หากได้รับในปริมาณ
ทีเ่ หมาะสม แต่ถ้ามีมากเกินไปอาจท�ำใหร้ สไมช่ วนดื่ม ไม่มีโทษต่อร่างกาย
2.5 คลอไรด์ คลอไรดใ์ นนำ�้ ธรรมชาติ เกดิ จากการละลายคลอไรดจ์ ากผวิ ดนิ และละอองของ
คลอไรด์ ท่ีพัดจากมหาสมุทรหรือไหลปะปนมากับน�้ำจืดตอนน้�ำทะเลหนุน และคลอไรด์อาจมาจากสิ่งขับถ่าย
ปัสสาวะหรือเหงื่อ และน้�ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม อาคารบ้านเรือนจะท�ำให้รสไม่ชวนดื่ม น�้ำมีรสกร่อย
เปน็ อนั ตรายต่อคนที่เปน็ โรคหัวใจ ไตอักเสบ มือเทา้ บวม
2.6 ไนเตรท ปนเปอ้ื นจากปยุ๋ หรอื สารอนิ ทรยี ท์ เี่ นา่ เปอ่ื ย การดม่ื นำ�้ ทม่ี ไี นเตรทสงู จะทำ� ใหร้ า่ งกาย
ขาดออกซิเจน มอี าการตัวเขียวคลำ�้ และในสตั ว์ทดลองพบวา่ สารน้จี ะทำ� ลายตับ ปอด และอาจทำ� ใหเ้ ป็นมะเรง็ ได้
2.7 ฟลูออไรด์ ฟลูออไรด์ในน้�ำโดยทั่วไปมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมากเกินไป
จะเกดิ โทษทงั้ แบบเฉยี บพลันและเรื้อรงั ถ้าไดร้ ับฟลอู อไรดส์ งู มากๆ จะมีอาการ ปวดทอ้ ง ทอ้ งเสยี และถา้ ไดร้ บั
ฟลูออไรด์สูงอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ฟันตกกระและฟลูออไรด์เป็นพิษต่อกระดูก แหล่งน�้ำใต้ดินหลายพ้ืนท่ีของ
ประเทศไทย เชน่ ในแถบจงั หวัดภาคเหนือ บางจังหวัดในภาคกลาง และภาคใตป้ นเปื้อนฟลอู อไรด์สูง
2.8 ตะกว่ั ตะกว่ั ในนำ�้ อาจมาจากยาฆา่ แมลง นำ้� ทงิ้ จากอตุ สาหกรรม ทอ่ สง่ นำ้� สง่ ผลกระทบ
ต่อร่างกายหลายระบบ ท่สี �ำคญั คอื ทำ� ให้เกิดโรคในระบบประสาทมีผลตอ่ การพฒั นาสมอง ทำ� ใหก้ ล้ามเน้ือออ่ น
แรงและเป็นอมั พาต อาจทำ� ใหท้ อ้ งผูกและปวดทอ้ งรุนแรง
2.9 สารหนู สว่ นใหญม่ าจากการทำ� เหมอื งแร่ การใชถ้ า่ นหนิ และการใชส้ ารกำ� จดั ศตั รพู ชื ทำ� ให้
เกดิ มะเรง็ ผวิ หนงั ปอด ตบั ไตและกระเพาะปสั สาวะ นอกจากนย้ี งั มผี ลตอ่ การพฒั นาดา้ นสตปิ ญั ญาของเดก็
2.10 แคดเมียม อาจมาจากปุ๋ยฟอสเฟสและน�้ำเสีย จากโรงงานท�ำสี โรงงานแบตเตอร่ี
โรงงานพลาสติก โรงงานผลิตโลหะและเหมืองแร่ แคดเมียมจะมีอันตรายต่อตับ ตับอ่อน ท�ำให้เกิดโรคอิไต-อิไต
และอาจทำ� ใหเ้ ปน็ มะเรง็

คมู่ ือการจัดการอาหารกลางวนั นักเรียน 65
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรบั โรงเรียนประถมศึกษา

2.11 แมงกานสี ปนเปอ้ื นจากเหมอื งแร่ โรงงานผลติ โลหะ โรงงานเชอ่ื มโลหะดว้ ยไฟฟา้ และ
โรงงานท�ำถ่านไฟฉาย ถ้าร่างกายได้รับสะสมนานๆอาจท�ำให้สมองฝ่อ มีอาการปวดหัว ซึมเซา การโต้ตอบทาง
ประสาทชา้ ถ้ารุนแรงท�ำให้พดู ไมช่ ดั ชักกระตกุ และเป็นอมั พาต
การเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากจุลินทรีย์และส่ิงปนเปื้อนต่างๆ ในน�้ำ จะส่งผลต่อสุขภาพ
มากหรือนอ้ ยข้ึนอยู่กบั ชนิด จ�ำนวน ความรุนแรงและความไวตอ่ เช้ือโรคของผู้บรโิ ภคและเชอ้ื โรค

3.6.3 แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพน้�ำด่ืมเพ่ือสุขภาพ
แนวทางการพัฒนาคุณภาพน้�ำดื่มในโรงเรียนให้สะอาดมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ
น้�ำบริโภคเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสุขภาพที่ดี โรงเรียนต้องส�ำรวจและปรับปรุงส่วนต่างๆ ของระบบน�้ำดื่ม
ในโรงเรยี นใหอ้ ย่ใู นสภาพดี ไมช่ �ำรดุ สะอาด และตอ้ งดแู ลบำ� รุงรกั ษาตามระยะเวลา ดังน้ี
1. แหล่งน้�ำดืม่
น้�ำที่จดั บริการในโรงเรยี นส่วนใหญ่ใชน้ ้ำ� ประปา นำ้� ฝน น้�ำบ่อบาดาล และบอ่ ต้ืน
1.1 น�้ำประปา เป็นน�้ำที่ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน�้ำ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
คณุ ภาพนำ้� บรโิ ภคกอ่ นจา่ ยใหผ้ ใู้ ชน้ ำ�้ หากพบวา่ คณุ ภาพนำ้� เปลย่ี นแปลง หรอื ปนเปอ้ื นตอ้ งแจง้ ผรู้ บั ผดิ ชอบทนั ที
1.2 น้�ำฝน เป็นน�้ำธรรมชาติที่สะอาดเหมาะสมกับวถิ ีชีวิตในชนบท แตค่ วรคำ� นงึ ถงึ วิธกี าร
เก็บกักและการน�ำน้�ำออกใช้เพื่อความปลอดภัย คือ ไม่ควรรองรับน้�ำฝนท่ีตกในช่วงแรกๆ ควรปล่อยให้น้�ำฝน
ชะลา้ งฝนุ่ ละอองในอากาศ หลงั คาและรางนำ้� ใหส้ ะอาดระยะหนงึ่ กอ่ น ควรรองรบั ในชว่ งฝนตกหนกั ๆ ในภาชนะ
เกบ็ กกั นำ�้ ทสี่ ะอาด มฝี าปดิ ปอ้ งกนั สงิ่ สกปรกตกลงในนำ�้ และมกี อ๊ กสำ� หรบั เปดิ นำ้� ออกใชไ้ มใ่ ชภ้ าชนะตกั นำ้� โดยตรง
1.3 นำ้� บอ่ บาดาล เปน็ นำ้� ใตด้ นิ ซงึ่ ชน้ั ดนิ จะทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ ตวั กรองเชอื้ จลุ นิ ทรยี แ์ ละความขนุ่
แต่คุณสมบัติด้านเคมีมักจะมแี รธ่ าตุและสารเคมตี ่างๆเจือปนมากกว่าน�้ำผิวดิน หากพบว่ามกี ารปนเปื้อนสงู กวา่
เกณฑม์ าตรฐานก�ำหนดจะต้องท�ำการปรับปรุงแก้ไขก่อนทจี่ ะนำ� มาบรกิ าร
1.4 น้�ำบ่อต้ืน น้�ำจากแม่น้�ำล�ำคลอง สระ หนอง บึง ท�ำให้น�้ำท่ีขุ่นตกตะกอนก่อน
หรือใช้ระบบกรอง และฆา่ เช้ือโรคกอ่ นที่จะน�ำมาบริการ
2. ระบบจา่ ยน�ำ้
2.1 ระบบท่อ ระบบท่อจ่ายน้�ำต้องอยูในสภาพดี ไม่เป็นสนิม ไม่ร่ัวซึม หากช�ำรุดต้อง
ซอ่ มแซมให้ใช้งานได้โดยเร็ว
2.2 เครื่องกรองนำ้� การดูแลรกั ษาเครอ่ื งกรองน�ำ้ มีดังน้ี
- จะตอ้ งลา้ งและเปลย่ี นไสก้ รองหรอื ทำ� การลา้ งยอ้ น (Back Wash) สำ� หรบั เครอื่ งกรอง
ท่ีมีระบบล้างย้อนตามระยะเวลาหรือตามค�ำแนะน�ำของผลิตภัณฑ์ท่ีระบุไว้ เช่น ทุก 3 เดือน 6 เดือน หรือ
เมื่อน�้ำที่ผ่านเคร่ืองกรองมีสี กลิ่น รส เปล่ียนไป น้�ำที่ไหลผ่านเคร่ืองกรองความเร็วผิดไปจากเดิมหรือ
มตี ะกอนเพราะสารอนิ ทรีย์ท่สี ะสมมาก
- ควรท�ำความสะอาดภายนอกเครอ่ื งกรองน้�ำโดยเชด็ ทำ� ความสะอาดทุกวัน
- ควรเชด็ กอ๊ กนำ้� ของเครอ่ื งกรองนำ้� ใหส้ ะอาดทงั้ ภายนอกและภายในตลอดทงั้ เปดิ นำ�้
ท้ิงไว้ระยะหนึ่งทกุ คร้ังก่อนใช้

66 คมู่ อื การจดั การอาหารกลางวันนกั เรียน
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั ส�ำ หรับโรงเรยี นประถมศึกษา

2.3 ภาชนะเก็บน�้ำด่ืม หมายถึง ภาชนะขนาดเล็กท่ีใส่น้�ำส�ำหรับใช้ดื่ม ได้แก่ คูลเลอร์
แทง็ ก์ ถงั โอง่ ตอ้ งทำ� จากวสั ดทุ ไี่ มเ่ ปน็ อนั ตราย รปู แบบทำ� ความสะอาดไดง้ า่ ย สะอาด ไมร่ ว่ั ซมึ มฝี าปดิ มกี อ๊ ก
ส�ำหรับเปิด-ปดิ เพ่อื ปอ้ งกันการปนเปือ้ นจากการใช้ภาชนะตกั
- ควรล้างท�ำความสะอาดเป็นประจ�ำทุกวันโดยใช้ฟองน�้ำชุบน้�ำผสมน�้ำยาล้างจาน
ถูลา้ งภาชนะทง้ั ดา้ นนอกและดา้ นใน และล้างด้วยน้�ำสะอาดอกี 2 ครงั้ จากน้ันผ่งึ ใหแ้ หง้
2.4 ภาชนะสำ� หรบั นำ้� ดม่ื ควรทำ� ความสะอาดไดง้ า่ ย ตอ้ งมปี ระจำ� ตวั ไมค่ วรใชร้ ว่ มกบั ผอู้ นื่
เพ่ือป้องกันการแพร่ของเช้ือโรค ล้างท�ำความสะอาดทุกวัน และเก็บรักษาไว้มิดชิดเพ่ือป้องกันการปนเปื้อนจาก
ฝนุ่ ละออง สิ่งสกปรก และพาหะน�ำโรค

3. จุดบริการน�้ำดม่ื
การจัดบริการน�้ำดืม่ ในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ การจดั บริการแบบน้�ำพุ เปิดจากกอ๊ ก หรอื จดั ใส่
ภาชนะขนาดเลก็ เชน่ คลู เลอร ์ กระตกิ เพ่อื ใหบ้ ริการนำ้� ด่มื ตอ้ งมจี ุดบรกิ าร 1 ทต่ี อ่ ผู้ใช้ 75 คน โดยจัดให้อยู่
ในต�ำแหน่งที่สามารถใช้ได้ง่าย นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนต้องเข้าถึงจุดบริการอย่างเพียงและตลอดเวลา
ซึ่งมักพบคราบสกปรกซ่ึงอาจเกิดจากฝุ่นละออง เศษดิน หรือจากมือท่ีไม่สะอาด จึงต้องดูแลรักษาความสะอาด
ทกุ วนั และรณรงคใ์ หม้ กี ารล้างมือบ่อยๆ
กรณีโรงเรยี นใช้ น้�ำบรรจขุ วด-ถงั ควรเป็นนำ�้ ดมื่ ทางเลือก ในกรณเี กดิ ภาวะฉุกเฉนิ สาธารณภัย
หรอื เมอ่ื ไดร้ บั จากญาติโยม โดยพจิ ารณาคณุ ลกั ษณะและการจัดเก็บใหป้ ลอดภัยจากการปนเปื้อน ดงั นี้
- มเี คร่อื งหมายรบั รองคุณภาพจาก อย.
- ภาชนะบรรจตุ อ้ งสะอาด ไมร่ วั่ ซมึ สกปรก ฝาปดิ ผนกึ สนทิ ไมม่ รี อยฉกี ขาดหรอื รอยเปดิ ใช้
- น�ำ้ ต้องใส ไมม่ ีตะกอน ไมม่ สี ี กล่นิ และรสทีผ่ ดิ ปกติ
- เก็บวางสูงจากพื้นอย่างน้อย 30 เซนติเมตร และห่างจากแหล่งปฏิกูล ได้แก่ ส้วม ขยะ
และน�ำ้ เสยี
- จัดเกบ็ ไมถ่ กู แสงแดดและไมว่ างปะปนกบั ผลิตภัณฑว์ ตั ถุมีพษิ


การดมื่ น้�ำเพื่อสขุ ภาพ

ควรดม่ื นำ้� ที่สะอาดปราศจากเชอื้ โรค สารพษิ และแรธ่ าตุ หากมีสารบางอย่างปนเปอื้ นตอ้ งไมเ่ กนิ เกณฑ์
มาตรฐานก�ำหนดให้เพียงพอต่อร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว (1 แก้วเท่ากับ 240 ซีซี) ควรดื่มน�้ำธรรมดา
ไมค่ วรใสน่ ำ้� แขง็ เพราะนำ้� แขง็ อาจปนเปื้อนเชื้อโรคและอน่ื ๆ โดยแบง่ เปน็ ชว่ งๆ ดงั นี้
- ตน่ื นอนเช้า 1 แกว้
- ตอนสาย 2 แก้ว
- ตอนบ่าย 2 แกว้
- ตอนเย็น 2 แกว้
- กอ่ นเข้านอน 1 แกว้

ทง้ั นใี้ นการเดินทางควรมีน�ำ้ สะอาดบรรจขุ วดพกตดิ ตวั ไปด้วย

ค่มู อื การจัดการอาหารกลางวันนกั เรียน 67
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรบั โรงเรียนประถมศกึ ษา

3.6.4 การปรบั ปรุงคุณภาพน้�ำดื่มเพือ่ สุขภาพ
การปรับปรงุ คุณภาพนำ้� มหี ลายวธิ ี แตล่ ะวธิ เี หมาะสมต่างกนั ตามความต้องการ ในเชงิ ปริมาณ
คณุ ภาพนำ�้ ท่ตี อ้ งปรับปรงุ และประหยัด ดังนี้
1. การตม้
การต้ม เป็นวิธีการฆ่าเช้ือโรคในน้�ำ โดยต้มให้เดือดจัดหรือที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
นาน 1 นาที ซึ่งสามารถฆ่าเช้ือโรคได้ และคุณสมบัติทางฟิสิกส์และเคมี อาจเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ช่วยลด
ความข่นุ กลิ่น และลดความกระด้างของนำ�้
2. การตกตะกอน
การตกตะกอน เปน็ กระบวนการทที่ ำ� ใหน้ ำ�้ ใสขน้ึ สว่ นใหญใ่ ชส้ ารสม้ ทำ� ใหต้ ะกอนจบั ตวั เปน็
ก้อนเร็วขึ้น การแกว่งสารส้มในตุ่มหรือโอ่งน�้ำเป็นการท�ำให้น�้ำใส หายขุ่นเร็วขึ้น โดยแกว่งสารส้มให้แรงๆ
และเรว็ ๆ เพอ่ื ใหส้ ารสม้ กระจายทว่ั ทง้ิ ไวใ้ หต้ ะกอนทม่ี อี ยใู่ นนำ้� นอนกน้ นำ� นำ้� สว่ นทใ่ี สไปเปน็ นำ้� ดมื่ โดยการนำ� ไป
ตม้ หรือเตมิ คลอรีนฆา่ เช้ือโรคก่อน
3. การกรอง
การกรอง โดยให้น้�ำผ่านชั้นของวัสดุท่ีใช้เป็นตัวกรองที่จะก้ันส่ิงสกปรกที่ติดมากับน้�ำ
ใหต้ ดิ ค้างอยบู่ นผิวหนา้ ของตัวกรอง
3.1 การกรอง โดยติดตั้งผลิตภัณฑ์เครื่องกรองส�ำเร็จรูปด้วยวัสดุต่างๆ เช่น เรซินเมมเบรน
คารบ์ อน เปน็ ตน้ เลอื กวสั ดตุ ามคณุ ภาพนำ้� ใหเ้ หมาะสมกบั ประสทิ ธภิ าพเครอื่ งกรอง ความสะดวกและดแู ลรกั ษางา่ ย
3.2 เคร่ืองกรองอย่างง่าย โดยให้น�้ำไหลผ่านช้ันกรวดและทรายท่ีท�ำเป็นชั้นๆ ในโอ่ง
ทีใ่ ส่วสั ดุกรอง ดังนี้
ช้นั ที่ 1 ช้นั ล่างของโอ่ง ใสก่ รวดหยาบปนถา่ น หนา 10 เซนตเิ มตร
ชน้ั ท่ี 2 ใส่กรวดละเอยี ด หนา 5 เซนตเิ มตร
ช้ันที่ 3 ใส่ทราย หนา 30 เซนตเิ มตร
ช้ันที่ 4 ชน้ั บนของโอ่ง ใส่กรวดหยาบ หนา 5 เซนตเิ มตร
ชั้นที่ 5 เป็นชว่ งว่างไว้ใสน่ �ำ้ ทตี่ อ้ งการกรอง

ชั้นท่ี 1 ชั้นล่างของโอ่ง ท�ำก๊อกปิด-เปิดน้�ำ น�้ำท่ีกรองแล้ว ควรเติมคลอรีนตามวิธีการ
เพื่อฆา่ เช้ือโรค

68 ค่มู อื การจดั การอาหารกลางวนั นกั เรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหารและอาหารปลอดภยั ส�ำ หรับโรงเรยี นประถมศึกษา

4. การเตมิ คลอรีนเพือ่ ฆา่ เชอ้ื โรค
เปน็ วธิ กี ารทม่ี ีประสทิ ธภิ าพสูง ประหยดั และปฏบิ ัตงิ ่าย การเติมคลอรนี ตอ้ งมคี วามเข้มข้น
ทเี่ หมาะสมและระยะเวลาเพยี งพอใหค้ ลอรนี ฆา่ เชอ้ื โรคและละลายนำ�้ เปน็ คลอรนี อสิ ระคงเหลอื ในนำ�้ ในครวั เรอื น
ใชค้ ลอรนี 2 ประเภท ได้แก่
4.1 คลอรนี ผง ถา้ นำ้� ขนุ่ ใหก้ วนสารสม้ จนใส นำ� นำ้� ใสใสโ่ อง่ ใหม่
ใช้คลอรีนผงเข้มข้น 60% ครึ่งช้อนชาละลายในน�้ำ 1 ขัน ท้ิงให้ตกตะกอนเทน�้ำ
ส่วนใสผสมกับน�้ำ 10 ปี๊บ คนให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ 30 นาที ตรวจสอบคลอรีนอิสระ
คงเหลือในน้ำ� ใหค้ ่าอย่รู ะหวา่ ง 0.2–0.5 มลิ ลิกรัมตอ่ ลติ ร ก่อนนำ� ไปใช้
4.2 คลอรนี ชนดิ นำ�้ หรอื หยดทพิ ย์ ถา้ นำ้� ขนุ่ กวนสารสม้ จนใส
น�ำน�้ำใสใส่โอ่งใหม่ แล้วเติมคลอรีนชนิดน้�ำหรือหยดทิพย์ (อ.32*) เป็นสารละลาย
คลอรนี ชนิดนำ้� ท่มี คี วามเข้มขน้ 2 % หรอื 7%
การฆ่าเชือ้ โรคในนำ�้ ดืม่ ในแหลง่ น้ำ� ขนาดเล็ก
อุปกรณ ์ : หยดทิพยเ์ ข้มขน้ 2% ขนาดบรรจุ 100 มิลลลิ ติ รต่อขวด
วิธใี ช ้ : ใช้หลอดดูดหยดทิพย์ 1 หยด หยดใส่น�้ำท่ีจะฆ่าเชื้อโรค 1 หยดน�้ำ 1 ลิตร

(หรอื 1 มลิ ลลิ ติ ร ตอ่ นำ้� 1 ปบ๊ี เทา่ กบั 20 ลติ ร) กวนใหเ้ ขา้ กนั ดว้ ยภาชนะทส่ี ะอาด
ท้ิงไว้ 30 นาที ตรวจสอบคลอรีนอิสระคงเหลือในน�้ำ ให้ค่าอยู่ระหว่าง
0.2–0.5 มลิ ลกิ รัมต่อลติ ร กอ่ นนำ� ไปใช้
การฆ่าเชื้อโรคในน้�ำด่ืมในแหล่งนำ้� ขนาดใหญ่
อปุ กรณ ์ : หยดทพิ ย์เขม้ ข้น 7% ขนาดบรรจุ 500 มลิ ลิลิตรต่อขวด
วิธีใช้ : ใช้หยดทิพย์ 1 ขวด ใส่น้�ำท่ีจะฆ่าเช้ือโรค 10 ลูกบาศก์เมตร (10,000 ลิตร
หรือ 500 ปีบ๊ ) ทิ้งไว้ 30 นาที ตรวจสอบคลอรีนอิสระคงเหลอื ในนำ้� ใหค้ า่ อยู่
ระหว่าง 0.2–0.5 มลิ ลกิ รัมตอ่ ลิตร กอ่ นนำ� ไปใช้
ข้อควรระวงั การใชห้ ยดทิพย์
1) เก็บใหพ้ ้นมอื เดก็
2) อยา่ ให้เขา้ ตา
3) อย่าใหห้ กถกู เสอ้ื ผ้า
4) ห้ามรับประทาน
5) หากถกู มือหรือเขา้ ตาให้ล้างดว้ ยน�้ำสะอาด หากรบั ประทานรบี ปรกึ ษาแพทย์
6) หลอดทใี่ ช้หยด หลังใชง้ านแล้วต้องล้างให้สะอาดก่อนเก็บใส่ถงุ

คู่มอื การจดั การอาหารกลางวนั นกั เรยี น 69
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรบั โรงเรียนประถมศกึ ษา

3.6.5 การตรวจสอบคณุ ภาพน�้ำด่มื เพ่อื สุขภาพ
การตรวจสอบคุณภาพน้�ำดื่มเพื่อสุขภาพ โดยการเก็บตัวอย่างน�้ำเพ่ือน�ำมาตรวจสอบคุณภาพ
นำ�้ ดม่ื เพอ่ื หาสาเหตกุ ารปนเปอ้ื นและหาแนวทางแกไ้ ข สามารถดำ� เนนิ การไดก้ ารตรวจสอบอยา่ งงา่ ยในภาคสนาม
และการตรวจสอบทางห้องปฏบิ ัตกิ าร ดงั น้ี
1. การตรวจสอบในภาคสนาม
เป็นการตรวจสอบเบ้ืองต้น สามารถใช้ชุดทดสอบอย่างง่าย เช่น การตรวจสอบโคลิฟอร์ม
แบคทีเรีย (อ 11) การตรวจสอบคลอรนี อสิ ระคงเหลอื ในน�้ำ (อ 31)
2. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
2.1 การตรวจสอบคณุ ภาพนำ�้ ทางด้านกายภาพ ซ่งึ สามารถรับร้ไู ด้ดว้ ยประสาทสมั ผสั ของ
คนเรา เชน่ สี ความขนุ่ กลนิ่ รส และอณุ หภมู ิ โดยการดดู ว้ ยสายตา หรอื การดมกลน่ิ ชมิ รส ลกั ษณะสำ� คญั คอื
ตอ้ งใส ไม่มีสี ไม่มกี ลน่ิ ไม่มรี สท่ีน่ารังเกยี จ
2.2 การตรวจคุณภาพน�้ำทางแบคทีเรีย เป็นการตรวจปริมาณจุลินทรีย์ท่ีเป็นดัชนี
บอกใหท้ ราบวา่ นำ้� เหมาะสมทจ่ี ะใชด้ มื่ หรอื ไม่ ไดแ้ ก่ โคลฟิ อรม์ แบคทเี รยี และฟคี ลั โคลฟิ อรม์ แบคทเี รยี ซง่ึ สามารถ
ตรวจสอบเบ้ืองต้นทางภาคสนามได้โดยเก็บตัวอย่างน�้ำตรวจโดยใช้ชุดทดสอบอย่างง่ายด้วยอาหารตรวจเช้ือ
อ 11 เปน็ วธิ ที งี่ า่ ยและสะดวกในการปฏบิ ตั โิ ดยสงั เกตจากการเปลยี่ นสขี องอาหารตรวจเชอื้ อ 11 จากสแี ดงเปน็
สตี า่ งๆ เชน่ สสี ม้ สนี ำ�้ ตาล สเี หลอื ง มคี วามขนุ่ และฟองแกส๊ ปดุ ขน้ึ เมอื่ เขยา่ เบาๆ ผลการตรวจตอ้ งไมพ่ บแบคทเี รยี
ตามเกณฑค์ ุณภาพน�้ำประปากรมอนามยั (พ.ศ. 2553)

วธิ ีตรวจสอบโคลฟิ อร์มแบคทีเรีย
อปุ กรณ์
1) อาหารตรวจเชอ้ื อ11 เป็นสารเคมีสำ� เร็จรปู (สารละลายใสสแี ดง) ใช้ตรวจโคลฟิ อรม์
2) แบคทีเรยี ในน้�ำ บรรจุไว้ 10 มิลลิลติ ร (2 ขีด) ในขวดแกว้ ขนาด 25 มิลลิลติ ร
3) แอลกอฮอล์ 70 %
4) สำ� ลี
5) ใบมดี

วธิ ตี รวจสอบ
1) อาหารตรวจเชอื้ โคลฟิ อรม์ แบคทเี รีย อ11

70 คู่มอื การจดั การอาหารกลางวนั นักเรียน
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรับโรงเรยี นประถมศึกษา

2) ท�ำความสะอาดมอื ทัง้ 2 ขา้ งและอปุ กรณ์ ดว้ ยสำ� ลชี บุ แอลกอฮอล์ 70%

3) ทำ� ความสะอาดบรเิ วณรอบฝาขวดและคอขวดหลงั ตดั แถบรดั ปากขวดใหส้ ะอาดอกี ครงั้ หนง่ึ
ด้วยสำ� ลชี บุ แอลกอฮอล์ 70%

4) ใช้นว้ิ หวั แม่มือและนิ้วช้หี มนุ ฝาขวด โดยไม่ให้นว้ิ มือโดนปากขวด และใชน้ ิว้ นางและนิ้วก้อย
หนบี ฝาขวดไว้ โดยไม่วางฝาขวดบนพืน้

5) เติมน้�ำตัวอย่างที่ต้องการตรวจ 10 มิลลิลิตร (2 ขีด) ใช้นิ้วช้ีรับน้�ำหนักของภาชนะส�ำหรับ
รนิ น้�ำอยา่ ใหภ้ าชนะโดนปากขวด ใหอ้ ยหู่ ่างจากปากขวดประมาณ 1 เซนตเิ มตร ในขณะเทตวั อย่างนำ�้ ลงในขวด

6) ปิดฝาขวด หมุนขวดเบาๆ ใหอ้ าหารตรวจเชือ้ ผสมกบั ตวั อย่างน้�ำ

คมู่ อื การจัดการอาหารกลางวันนกั เรียน 71
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย ส�ำ หรับโรงเรียนประถมศึกษา

7) ตั้งไวใ้ นอุณหภูมิหอ้ ง (25-40oC) เปน็ เวลา 24-48 ชว่ั โมง

8) ดูผลจากสีของอาหารตรวจเช้ือหลังจากตั้งไว้ 24 ชั่วโมง ถ้าสีเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีส้ม
หรอื สสี ม้ แกมเหลอื ง หรอื สเี หลอื ง มคี วามขนุ่ และฟองแกส๊ ปดุ ขนึ้ เมอ่ื เขยา่ เบาๆ แสดงวา่ นำ�้ มกี ารปนเปอ้ื นของโคลฟิ อรม์
แบคทเี รีย ไมค่ วรใช้บรโิ ภค (ถ้าต้งั ไว้ 24 ชัว่ โมง ไมเ่ ปลี่ยนสใี หต้ ้ังไว้ตอ่ อกี 24 ชว่ั โมง รวมเป็น 48 ช่วั โมง)

หมายเหตุ
1) ควรเก็บอาหารตรวจเช้ือแบคทเี รยี ในตู้เยน็
2) มีอายกุ ารใชง้ านประมาณ 1 ปี หลงั การผลติ
3) เมื่อตรวจสอบแบคทเี รยี เสร็จแล้ว ควรเทอาหารตรวจเชอ้ื ในโถสขุ ภณั ฑ์ และล้างขวดใหส้ ะอาดก่อนทิง้
วธิ ีตรวจสอบคลอรนี อสิ ระคงเหลอื ในนำ�้
การตรวจสอบปรมิ าณคลอรนี อสิ ระคงเหลอื ในนำ้� สามารถใชช้ ดุ ตรวจสอบคลอรนี อสิ ระคงเหลอื
ในนำ้� อ 31 ซง่ึ คดิ คน้ โดยกรมอนามยั เปน็ วธิ ที ต่ี รวจสอบไดง้ า่ ย สะดวก โดยการอา่ นคา่ ของคลอรนี อสิ ระคงเหลอื
จากการเปรียบเทยี บกับสีมาตรฐานของชุดตรวจสอบ มี 3 ระดับแตกตา่ งกนั

อุปกรณ์
ชุดทดสอบคลอรนี อสิ ระคงเหลอื ในน�ำ้ อ 31 ประกอบดว้ ย กล่องพลาสตกิ ใสทรงสีเ่ หล่ียมผนื ผา้
1 กลอ่ ง ขวดเทยี บสบี อกระดบั ของคลอรนี อสิ ระคงเหลอื จำ� นวน 3 ขวด เพอื่ เปรยี บเทยี บระดบั ความเขม้ ขน้ ของ
คลอรีนอิสระคงเหลือ ที่ระดับ 0.2 0.5 และ 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร หลอดเปล่ามีขีดบอกระดับท่ีใส่ตัวอย่างน�้ำ
มฝี าปิด และขวดบรรจนุ ำ�้ ยาออโธโทลิดีน จำ� นวน 10 มิลลิลิตร 1 ขวด

72 ค่มู อื การจดั การอาหารกลางวนั นักเรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั สำ�หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา

วิธีทดสอบ
(1) เติมตวั อย่างนำ�้ ท่ตี อ้ งการทดสอบลงในหลอดเปล่าจนถงึ ขดี บอกระดับท่กี ำ� หนดไว้
(2) หยดน้ำ� ยาออโธโทลดิ นี จำ� นวน 4 หยดลงในน้ำ� ตวั อยา่ ง
(3) ผสมให้เข้ากันโดยกลับขวดตัวอย่างไป-มา ประมาณ 20 คร้ัง สังเกตการณ์เกิดสีในขวด
ตวั อยา่ งทดสอบ
(4) อา่ นผลโดยการเทยี บสที เี่ กดิ ขน้ึ กบั สมี าตรฐานคลอรนี 3 ระดบั คอื ระดบั 0.2 0.5 และ 1.0
มลิ ลิกรมั ตอ่ ลติ ร

ขอ้ ควรระวงั ในการใช้ อ 31
1) อย่าใหป้ นเปอื้ นในนำ�้ ดม่ื
2) เกบ็ ใหพ้ ้นมือเด็ก

คูม่ ือการจัดการอาหารกลางวันนกั เรยี น 73
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรับโรงเรียนประถมศกึ ษา

3. การตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ เป็นการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้�ำทางกายภาพ เคมี
และชวี วทิ ยา เปรยี บเทยี บกบั มาตรฐานคณุ ภาพนำ้� บรโิ ภคกรมอนามยั หากพบวา่ รายการใดไมผ่ า่ นเกณฑม์ าตรฐาน
ในที่น้จี ะแนะนำ� แนวทางแกไ้ ขปรบั ปรุงเบอ้ื งต้นทโ่ี รงเรียนซ่ึงปฏิบตั ิไดท้ งั้ การจัดการและเทคนิควิชาการ ดงั น้ี

ลำ�ดับ การทดสอบทีม่ คี ่าเกินเกณฑ์ ขอ้ แกไ้ ข/ปรบั ปรุง
มาตรฐาน
- ตรวจสอบความสะอาดกอ๊ กนำ�้ ทงั้ ภายนอกและภายในหากพบวา่ มรี อยรวั่
1 ทางด้านแบคทีเรยี ซมึ ควรซ่อมแซมหรือเปล่ียนใหม่
- โคลฟิ อร์มแบคทเี รีย
(Coliform bacteria) - ตรวจสอบแนวทอ่ ขอ้ ต่อต่างๆ หากพบวา่ รว่ั ซึม ควรซอ่ มแซม
- ฟีคัลโคลฟิ อรม์ แบคทีเรีย - ลา้ งระบบการกรองนำ�้ ใหส้ ะอาดเปน็ ประจำ� (ตามคำ� แนะนำ� ผลติ ภณั ฑ)์
(Faecal coliform bacteria) - ล้างภาชนะเก็บน้�ำให้สะอาด เช่น ถังน้�ำ แท็งก์ คูลเลอร์ กระติก

2 ทางดา้ นกายภาพ และภาชนะที่ใช้ดมื่ นำ้� เชน่ แก้ว ขัน เปน็ ตน้ เป็นประจำ�
- ความเปน็ กรด-ด่าง (pH) - ตรวจสอบค่าคลอรีนอิสระคงเหลือ ในกรณีไม่พบคลอรีนอิสระคงเหลือ
- ความขนุ่ (Turbidity)
- สี (Color) ในน้ำ� ประปา ใหแ้ จง้ สำ� นกั งานประปา หรอื เตมิ คลอรีนในน�้ำด่มื โรงเรยี น
- การเปลี่ยนแหลง่ นำ้� ดบิ
3 ทางด้านเคมี - ถา้ พบวา่ คณุ ภาพนำ้� ดบิ ไมส่ ะอาด ควรเปลยี่ นแหลง่ นำ�้ จากบอ่ บาดาลเปน็
- สารละลายทงั้ หมดท่เี หลือจาก
การระเหย (TDS) น้ำ� ประปา เป็นตน้
- ความกระด้าง (Hardness) - การผสมแหลง่ น�้ำดิบ
- ซลั เฟต (SO-4) - ถา้ พบวา่ คณุ ภาพนำ้� ดบิ ไมส่ ะอาด และมแี หลง่ นำ้� ทไ่ี ดม้ าตรฐานอยใู่ กลเ้ คยี ง
- คลอไรด์ (Cl- )
- ไนเตรท (NO-3 as NO-3) ให้สูบน้�ำผสมกัน แล้วตรวจคุณภาพน�้ำ ถ้าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- ฟลอู อไรด์ (F- ) น�ำมาใช้ได้
- เหล็ก (Fe) - ท�ำให้น�้ำใสด้วยการตกตะกอน เช่น แกว่งด้วยสารส้มหรือพักน�้ำในระยะ
- แมงกานสี (Mn) เวลาทเ่ี หมาะสม เป็นต้น
- ทองแดง (Cu) - การกรองน�้ำ ควรเลือกเครื่องกรองน้�ำที่เหมาะสมกับคุณภาพน้�ำท่ีบริโภค
- สงั กะสี (Zn) ไดแ้ ก่
- ตะก่วั (Pb) 1) สารกรองทราย ใชก้ รองสารแขวนลอย เช่น ตะกอนดนิ ซากพชื ซากสตั ว์
- โครเมียม (Cr) 2) สารกรองแมงกานีส ใช้กรองสารแขวนลอยที่เจือปนธาตุเหล็ก แมงกานีส
- แคคเมียม (Cd)
- สารหนู (As) ตะก่ัว กำ� มะถนั สังกะสี
- ปรอท (Hg) 3) สารกรองแอนทราไซต์ ใชก้ รองสารแขวนลอยทเี่ จอื ปนธาตเุ หลก็ แมงกานสี
4) สารกรองถา่ น ใชก้ รองกลิ่น สี รส คลอรีน แกส๊
5) สารกรองเรซนิ ใชก้ รองความกระด้าง จากแคลเซยี ม และแมกนีเซยี ม
6) ไส้กรองใยสังเคราะห์ ใช้กรองสารแขวนลอย และสง่ิ เจือปนขนาดเลก็
7) ไส้กรองเซรามิค ใช้กรองส่งิ เจอื ปนขนาดเลก็ มาก และเช้อื จลุ นิ ทรยี ์
8) ไส้กรองท่ีใช้ระบบแรงดัน ดันน�้ำผ่านเย่ือกรองเมมเบรน ใช้กรอง

สารละลาย จุลินทรีย์และสารอนิ ทรยี ์ทกุ ชนดิ

* อ 32 : คลอรีนชนดิ น�ำ้ (น้�ำยาหยดทิพย)์ ผลิตโดยกรมอนามัย
** อ 11 : ชดุ ตรวจเชือ้ โคลิฟอรม์ แบคทีเรยี ผลิตโดยกรมอนามัย
*** อ 31 : ชดุ ตรวจสอบคลอรนี อสิ ระคงเหลอื ในน�้ำ ผลิตโดยกรมอนามยั

74 คู่มือการจัดการอาหารกลางวนั นกั เรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภิบาลอาหารและอาหารปลอดภยั สำ�หรับโรงเรียนประถมศกึ ษา

3.6.6 บทบาทการพัฒนาคณุ ภาพน�ำ้ ด่ืมเพ่ือสขุ ภาพในโรงเรียน
การด�ำเนินงานการพัฒนาคุณภาพน้�ำดื่มในโรงเรียนจะประสบความส�ำเร็จได้ต้องอาศัย
ความรว่ มมอื จากหลายฝา่ ยทง้ั ผบู้ รหิ าร ครปู ระจำ� ชน้ั ครผู สู้ อน ครอู นามยั นกั เรยี น และผเู้ กยี่ วขอ้ งซงึ่ บคุ คลเหลา่ น้ี
มีความสำ� คญั เป็นอยา่ งย่ิง ดังนั้น ผูม้ สี ่วนเก่ยี วข้องควรมบี ทบาทรว่ มกนั ดงั น้ี

1. ผบู้ ริหารโรงเรียน
- สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานพฒั นาคณุ ภาพนำ�้ ดม่ื ในโครงการตา่ งๆของนกั เรยี นกระตนุ้
บคุ ลากรฝ่ายตา่ งๆให้ความสำ� คัญและมสี ่วนร่วมในการดำ� เนินการร่วมกบั นักเรยี น
- พฒั นาและปรับปรงุ ระบบนำ้� ดม่ื ในโรงเรียน

2. คณะครูผู้สอน ครูประจ�ำชน้ั และครูอนามยั
- เป็นทีป่ รกึ ษา ใหค้ �ำแนะน�ำ และสนบั สนุนการด�ำเนินงานโครงการตา่ งๆของนกั เรยี น
- ดแู ลการจัดบริการน�้ำดมื่ ใหถ้ กู สขุ ลกั ษณะและอยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน
- เสรมิ สรา้ งความรู้ ทักษะ และทศั นคติแกบ่ ุคลากรทกุ ฝา่ ยภายในโรงเรียน

3. นักการภารโรง
- ดแู ลรักษาและซอ่ มแซมอปุ กรณต์ า่ งๆให้อยใู่ นสภาพทใี่ ช้งานได้

4. ผู้ประกอบอาหาร/ร้านค้า
- รกั ษามาตรฐานรวมทัง้ คุณค่าและการบริการ
- ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน และมีสุขอนามัยท่ีดี อีกทั้งเป็นผู้ประสาน
ระหว่างสมาชิกผปู้ ระกอบการค้าด้วยกันเอง

5. คณะกรรมการสถานศกึ ษาและอาสาสมคั รชมุ ชน
- ประสานงานกับหน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ งเพื่อสนับสนุนดา้ นวิชาการและงบประมาณ
- ติดตามและประเมนิ ผลการด�ำเนินงานอย่างเป็นระบบ
- สนับสนนุ การดำ� เนนิ งานโครงการต่างๆของโรงเรียนใหม้ ีการพฒั นาอย่างตอ่ เนื่อง
- รว่ มปฏิบตั งิ านพัฒนา

6. นักเรียนแกนนำ�
การแกไ้ ขปัญหาน้ำ� ดม่ื ในโรงเรียนให้สะอาดปลอดภัย ต้องอาศยั ความร่วมมอื จากหลายฝ่าย
โดยเฉพาะนกั เรยี นและการทีจ่ ะให้นักเรียนซงึ่ เปน็ บุคคลสว่ นใหญข่ องโรงเรยี นมกี ารเฝา้ ระวังคุณภาพนำ้� ดมื่ อย่าง
มีประสิทธิภาพ จ�ำเป็นท่ีจะต้องมีอาสาสมัครนักเรียนแกนน�ำเข้ามาเป็นส่ือกลางเพ่ือน�ำความรู้ท่ีได้รับไปเผยแพร่
ใหแ้ กน่ กั เรียนดว้ ยกัน และประสานการเฝ้าระวงั คุณภาพน้ำ� ดมื่ ในโรงเรยี น
นักเรยี นแกนน�ำ หมายถงึ นักเรยี นทไี่ ด้รบั การฝึกอบรมการเฝ้าระวังคณุ ภาพน้�ำดมื่ เกีย่ วกับ
องค์ความร้ทู เี่ กี่ยวขอ้ งทง้ั ภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติ ไดแ้ ก่
1) น�้ำดม่ื กบั ผลกระทบต่อสุขภาพ
2) การตรวจสอบและการปรับปรุงคุณภาพน้�ำด่มื อยา่ งงา่ ยในภาคสนาม
3) การฝึกปฏบิ ัติการใช้ชดุ ทดสอบอยา่ งง่ายในภาคสนาม
4) การรายงานและการบนั ทึกขอ้ มลู
5) การมีสว่ นร่วมของนกั เรยี นและบทบาทของนักเรยี นแกนนำ�

คมู่ อื การจัดการอาหารกลางวันนักเรยี น 75
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย ส�ำ หรบั โรงเรยี นประถมศึกษา

นกั เรยี นแกนนำ� จะตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการเฝา้ ระวงั คณุ ภาพนำ�้ ดม่ื สามารถใหค้ ำ� แนะนำ�
และการกระตุ้นสร้างบรรยากาศและให้ความส�ำคัญกับการเฝ้าระวังคุณภาพน้�ำด่ืม ดังนั้น นักเรียนแกนน�ำจึงมี
บทบาทส�ำคัญในการสร้างกิจกรรมชักชวนให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังคุณภาพน้�ำดื่ม ในโรงเรียน
ซงึ่ นกั เรยี นแกนนำ� ควรมบี ทบาท ดังน้ี
1) เปน็ แบบอย่างที่ดีในการมีพฤตกิ รรมอนามยั ทถี่ กู ตอ้ ง
2) เปน็ ผเู้ ผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ขา่ วสาร ใหค้ ำ� แนะนำ� และองคค์ วามรทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั
การเฝ้าระวงั คณุ ภาพน้�ำด่มื ให้กบั เพ่ือนนักเรยี น
3) จดั กจิ กรรมรณรงค์ในโอกาสตา่ งๆทีเ่ หมาะสมกบั สถานการณ์
4) สอดส่อง ดูแล บ�ำรุงรักษาระบบน้�ำ ภาชนะอุปกรณ์ท่ีเก็บกักน้�ำ เคร่ืองกรองน�้ำ และ
พฤติกรรมสขุ อนามัยทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั การด่มื น้ำ� ของนกั เรยี น
5) ตรวจสอบคณุ ภาพน�ำ้ ดม่ื อยา่ งสม�่ำเสมอ
6) ประสานงานกบั นกั เรยี น ผบู้ รหิ าร และชมุ ชน เพอ่ื แจง้ เหตแุ ละขา่ วสาร รวมทงั้ ขอความ
ร่วมมือในการแกไ้ ขปญั หาคุณภาพนำ�้ ด่ืมในโรงเรยี น
7) จัดทำ� บันทึกการปฏิบัตงิ านและการรายงานต่างๆ อย่างสม�่ำเสมอ
จากข้อเสนอแนะเบื้องตน้ ดังกล่าว จะเป็นองคค์ วามรูใ้ นการพจิ ารณาการแกไ้ ขปญั หาน้ำ� ดืม่
โดยโรงเรียนเอง แต่ทั้งนี้หากไม่ม่ันใจหรือเป็นกรณีที่เป็นปัญหาทางเทคนิคท่ียุ่งยาก โรงเรียนควรประสานหน่วย
งานในเขตพื้นที่ที่มีบทบาทหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านการออกแบบ เทคนิควิศวกรรมระบบน้�ำ เช่น
สำ� นักงานทรัพยากรนำ้� ภาค ส�ำนกั งานการประปาส่วนภูมิภาค เปน็ ตน้
รวมทงั้ สามารถสอบถามข้อมูลความรูเ้ พิ่มเตมิ ได้ท่ี
ส�ำนักสุขาภิบาลอาหารและน�้ำ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข อาคาร 3 ช้ัน 3
ตกึ กรมอนามัย ถ.ติวานนท์ อ.เมอื ง จ.นนทบรุ ี 11000 โทร 025904606 โทรสาร 025904188
• ศูนยอ์ นามยั ที่ 1-12 หรอื สำ� นักงานสาธารณสุขจังหวดั
หน่วยงานให้บริการตรวจวิเคราะห์คณุ ภาพนำ�้ ไดแ้ ก่
1. ศนู ยห์ ้องปฏบิ ัติการกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
อาคารศนู ย์หอ้ งปฏบิ ตั ิการ กรมอนามยั ถ.ตวิ านนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทร 029687600 โทรสาร 029687604
2. ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ่ี 1-14 ตรงั อดุ รธานี ชลบรุ ี สมทุ รสงคราม นครราชสมี า

ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา
เชยี งราย ภูเกต็ และกรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
88/7 ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบรุ ี 11000
โทร 029510000 , 025899850-8 โทรสาร 029515974 , 025915449
3. กองวเิ คราะห์นำ้� บาดาล กรมทรพั ยากรนำ�้ บาดาล
75/10 ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400
โทร 026602579 โทรสาร 026602586

76 คู่มอื การจัดการอาหารกลางวันนักเรยี น
ตามมาตรฐานโภชนาการ สขุ าภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย ส�ำ หรับโรงเรียนประถมศึกษา

เอกสารอา้ งองิ

1. องคก์ ารยนู เิ ซฟประเทศไทยและกรมอนามยั 2550 การจดั การนำ้� บรโิ ภคในโรงเรยี น โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย 31 หน้า

2. ชณัญณิศา เลิศสุโภชวณิชย์, ข้อปฏิบัติตามมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหารส�ำหรับโรงอาหาร, โรงพิมพ์
องค์การสงเคราะหท์ หารผา่ นศึก, 2552

3. ส�ำนักสุขาภิบาลอาหารและน้�ำ 2552 คู่มือการเฝ้าระวังคุณภาพน�้ำด่ืมในโรงเรียน กระทรวงสาธารณสุข
36 หนา้

4. สำ� นกั สง่ เสรมิ สขุ ภาพ สำ� นกั สขุ าภบิ าลอาหารและนำ�้ 2556 คมู่ อื การเฝา้ ระวงั คณุ ภาพนำ�้ ดม่ื ในโรงเรยี นสำ� หรบั
นกั เรียนแกนนำ� 19 หน้า

5. ส�ำนักส่งเสริมสุขภาพ 2554 คู่มือพฒั นาสขุ ภาพอนามยั สามเณรในโรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม หนา้ 3-17
6. ส�ำนักสง่ เสริมสุขภาพ 2556 คมู่ ืออนามัยสามเณร หน้า 36-38
7. สุวรรณา ธรรมร่มดี, คู่มือส�ำหรับเจ้าหน้าที่ในการใช้แบบส�ำรวจร้านอาหารและโรงอาหารในสถาบัน และ

แบบตรวจสถานท่ปี ระกอบอาหารผปู้ ว่ ยในโรงพยาบาล, โรงพมิ พ์องค์การสงเคราะหท์ หารผา่ นศึก, 2536

คมู่ อื การจดั การอาหารกลางวันนักเรียน 77
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภัย สำ�หรับโรงเรียนประถมศกึ ษา

78 คูม่ อื การจดั การอาหารกลางวันนกั เรียน
ตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภบิ าลอาหารและอาหารปลอดภยั ส�ำ หรบั โรงเรยี นประถมศกึ ษา


Click to View FlipBook Version