40 บทที่5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการรายงานผลการสร้างและพัฒนาวิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้วิจัยนำเสนอการสรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ดังนี้ วัตถุประสงค์ของการวิจัย ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1. วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่าร้อยละ 75/75 2. วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าดัชนีประสิทธิผลไม่น้อยกว่า 0.50 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน สมมุติฐานของการวิจัย ในการวิจัยครั้งนี้มีสมมติฐานของการวิจัย ดังนี้ 1. วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่าร้อยละ 75/75 2. วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าดัชนีประสิทธิผลไม่น้อยกว่า 0.50 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน วิธีดำเนินการวิจัย 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากร เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 จำนวน 4 ห้องเรียน จำนวน 128 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี 1.2 กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 28 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานีที่ได้มาจากการ วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 2.1 แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนโดยใช้วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 11 แผน รวม 13 ชั่วโมง
41 2.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 2.3 วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย 2.3.1 คลิปที่ 1 โอกาสของเหตุการณ์ 2.3.2 คลิปที่ 2 การทดลองสุ่ม และเหตุการณ์ 2.3.3 คลิปที่ 3 ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล การดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งดำเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างตามลำดับ ดังนี้ 3.1 ทำการทดสอบก่อนเรียน (Pre - test) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.2 ผู้วิจัยดำเนินการสอนกลุ่มตัวอย่างด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นจำนวน 11 แผน โดยให้นักเรียนเรียนและปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามขั้นตอนในแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.3 เมื่อสิ้นสุดการทดลองแล้ว ให้นักเรียนทำการทดสอบหลังเรียน (Post - test) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชุดเดิมกับการทำการทดสอบก่อนเรียน ไปทดสอบนักเรียนอีกครั้ง จากนั้นนำผลที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติต่อไป 4. การวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิเคราะห์ข้อมูลการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้วิจัยดำเนินการ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติสำหรับข้อมูลทางสังคมศาสตร์ (SPSS for Window) ตามขั้นตอน ดังนี้ 4.1 วิเคราะห์วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อหาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) จากคะแนนปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ ในวิดีโอช่วยสอนแต่ละคลิป หาประสิทธิของผลลัพธ์ (E2) จากคะแนนการทำแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยคำนวณหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ แล้วนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึก ทักษะตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้75/75 โดยใช้สูตร E1/E2 4.2 วิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้วิธีของ กูดแมน เฟรทเชอร์และสไนเดอร์ 4.3 ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการหา คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละ 4.4 วิเคราะห์แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยนำข้อมูล จากคะแนนสอบวัดผลฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบ คำนวณหาค่า
42 ความแตกต่างของคะแนน วิเคราะห์โดยการทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t – test for Dependent Sample) สรุปผลการวิจัย การศึกษาวิจัยครั้งนี้สามารถสรุปผลได้ดังนี้ 1. วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 91.57 /87.85 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ร้อยละ 75/75 2. วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มี ค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.74 คิดเป็นร้อยละ 74 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ที่เรียนโดยใช้ วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ได้คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 10.65 คิด เป็นร้อยละ 53.25 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 17.57 คิดเป็นร้อยละ 87.85 พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน อภิปรายผลการวิจัย การสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้ 1. วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 91.57 /87.85 หมายความว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยจากการปฏิบัติกิจกรรมฝึก ทักษะและทดสอบย่อยของวิดีโอช่วยสอน ทั้ง 3 คลิป คิดเป็นร้อยละ 91.57 และคะแนนเฉลี่ยจากการ ทำแบบทดสอบหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 87.85 ตามลำดับ ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ร้อย ละ 75/75 ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้ 1.1 วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ทั้ง 3 คลิป ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นได้ผ่านกระบวนการสร้าง ตามลำดับขั้นตอนอย่างเป็นระบบและวิธีการที่เหมาะสม กล่าวคือ ผู้วิจัยได้ศึกษาวิเคราะห์ เรียบเรียง เนื้อหา ศึกษาเทคนิควิธีการในการสร้างวิดีโอช่วยสอน การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้การกำหนด จุดประสงค์หรือผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง และดำเนินการสร้างวิดีโอช่วยสอนที่มีความเหมาะสม กับวัย และความสามารถของนักเรียน คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล มีกิจกรรมที่เริ่มจากง่าย ไปหายากโดยผ่านกระบวนการตรวจสอบ แก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้วิดีโอช่วยสอน ที่มีความเหมาะสมจนสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดจากบทความ ของสำนักพิมพ์ Pearson plc (Pearson) ได้กล่าวว่า เมื่อเราใช้วิดีโอในการสอนนั้น วิดีโอมักจะมี ความน่าสนใจมากกว่าการสอนโดยให้นักเรียนฝึกอ่าน ฝึกเขียน ฝึกฟังค่ะ ดังนั้นเมื่อนักเรียนให้ความ สนใจกับวิดีโอแล้ว นั่นก็แปลได้ว่าพวกเขาพร้อมที่จะเปิดรับความรู้ใหม่ ๆจากคุณครู และพร้อมที่จะ เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆด้วย 1.2 วิดีโอช่วยสอนแต่ละคลิปมีสีสันสวยงาม น่าสนใจ ในแต่ละกิจกรรมมีการถามและหยุด เพื่อให้นักเรียนมีการตอบโต้ มีตัวอย่างประกอบ โดยใช้ภาษาง่ายๆ ช่วยให้นักเรียนเข้าใจได้ง่าย เนื้อ เรื่องมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และเมื่อจบการใช้วิดีโอช่วยสอนนักให้รักเรียนทำแบบฝึกหัด
43 เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ นอกจากนี้ครูในวิดีโอช่วยสอนอัปโหลดผ่านช่องทางออนล์เพื่อให้นักเรียน รับชมซ้ำด้วยตนเองได้ 2. ผลการศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.74 คิดเป็นร้อยละ 74 ซึ่งมีค่าไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก แบบฝึกทักษะที่สร้างขึ้นมีเนื้อหาที่เหมาะสม มีการฝึกให้ ปฏิบัติตามกระบวนการ ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เพราะมีขั้นตอนกระบวนการสร้างที่ดี เหมาะสม กับวัยและความสามารถของผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง สอดคล้องกับผลการวิจัย ของ จุฑาทิพย์ จิตต์เจริญ (2558) ได้ศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการค้าปลีก ของ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3/1 สาขาวิชาการตลาด วิทยาลัยเทคโนโลยีอักษร บริหารธุรกิจ โดยการใช้วิดีโอช่วยสอน “รายการ SME ตีแตก ผลการศึกษาพบว่า วิดีโอช่วยสอน “รายการ SME ตีแตก” มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.31/80.22 แสดงว่า คุณภาพของเครื่องมือมี ประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยวิดีโอช่วยสอน “รายการ SME ตีแตก” ของมีผล ผลสัมฤทธิ์สูงกว่าก่อนเรียนความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อวิดีโอช่วยสอน “รายการ SME ตีแตก” สำหรับนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3/1 สาขาการตลาด อยู่ ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด คือ ระดับ 5 ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าวิดีโอช่วยสอน “รายการ SME ตี แตก” มีประสิทธิภาพท าให้นักเรียนมีคะแนนสูงขึ้น 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้วิดีโอช่วยสอน วิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้แสดงให้เห็นว่าการใช้วิดีโอช่วยสอน วิชาคณิตศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้ช่วยให้นักเรียนเกิดการพัฒนาการเรียนรู้ในเนื้อหาวิชาได้ดีขึ้น ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก วิดีโอช่วยสอนเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง แก่นักเรียนได้ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของ ทรงสุดา น้ำจันทร์(2563) ได้ศึกษาผลการใช้วีดิทัศน์ ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณจํานวนเต็ม สําหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1ผล การศึกษาวีดิทัศน์ช่วยสอนคณิตศาสตร์เรื่อง การคูณจํานวนเต็ม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ผลสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ60 เรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการวิจัยไปใช้ จากการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิดีโอช่วย สอนวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะในการนำไปใช้ดังนี้ 1.1 ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครูต้องพยายามให้นักเรียนมีสมาธิและความสนใจต่อ การรับชมรับฟัง เพื่อให้นักเรียนได้เกิดความรู้ความเข้าใจในบทเรียนด้วยตนเอง เกิดความใฝ่เรียนรู้ รู้จักค้นคว้า กระตือรือร้นในการค้นคว้าหาความรู้ใหม่ให้ตนเองอยู่เสมอ ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนมีทักษะ การเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้น นำไปสู่การเรียนรู้ด้วยตนเอง
44 1.2 ครูควรแจ้งผลการปฏิบัติกิจกรรม เช่น ตรวจแบบฝึกหัด พร้อมเฉลยและอธิบาย เพิ่มเติมในโจทย์ที่มีความยุ่งยากเพื่อให้นักเรียนได้ตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเองและเกิดการเรียนรู้ มากยิ่งขึ้น 1.3 ในการทำวิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ไม่ควรกำหนดเวลาใหรือจำนวนครั้งในการ รับชมของนักเรียน 1.4 ครูควรเตรียมแผนการจัดการเรียนรู้และคำถามนำหลาย ๆ รูปแบบที่กระตุ้น ให้นักเรียนได้เกิดความสนใจในการเรียนรู้ และอยากรู้อยากเห็น เพื่อให้นักเรียนเกิดความตั้งใจในการ รับชมเพื่อหาคำตอบหรือแนวทางการหาคำตอบ 2. ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป ในการวิจัยครั้งต่อไป ผู้วิจัยขอเสนอแนะประเด็นที่ควรนำมาศึกษาดังนี้ 2.1 ควรเปรียบเทียบวิธีการสอนโดยใช้วิดีโอช่วยสอนกับวิธีการสอนแบบอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง 2.2 ควรเปรียบเทียบวิธีการสอนโดยใช้วิดีโอช่วยสอนในรายวิชาอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบ ความแตกต่าง 2.3 ควรมีการศึกษาตัวแปร หรือปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ด้วยวิดีโอช่วยสอน เช่น เจตคติความพร้อมด้านอุปกรณ์ ความคงทนในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
61 เอกสารอ้างอิง กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. ________. (2551). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สกสค. ลาดพร้าว. ________. (2560). คู่มือการใช้หลักสูตร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2561). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้น พื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา. (เอกสารออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/Login.aspx (27 ตุลาคม 2562). สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2555). ครูคณิตศาสตร์มืออาชีพ เส้นทางสู่ ความสำเร็จ. กรุงเทพฯ: 3–คิว มีเดีย. สลาย ปลั่งกลาง. (2552). ผลการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่ม ร่วมมือเทคนิค TAI เรื่องการบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตร และการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. สุคนธ์ สินธพานนท์. (2553). นวัตกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพของเยาวชน (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: 9119 เทคนิคพริ้นติ้ง. สมนึก ภัททิยธนี. (2546). พื้นฐานการวิจัยการศึกษา. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์. สมบัติ ท้ายเรือคำ. (2551). ระเบียบวิธีวิจัยสาหรับมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์. สมพร เชื้อพันธ์. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง กับการจัดการเรียนการสอนตามปกติ. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต (หลักสูตรและ การสอน). สถาบันราชภัฏพระนครศรีอยุธยา. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. สำลีรักสุทธี(2553). คู่มือการจัดทำสื่อนวัตกรรมและแผนฯ ประกอบสื่อนวัตกรรม. นนทบุรี : เพิ่มทรัพย์การพิมพ์. กาญจนา ตุ่นคําแดง. (2554). การพัฒนาสื่อวีดิทัศน์การสร้างงานสามมิติสําหรับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษา ปีที่ 5. โรงเรียนแม่ปะวิทยาคม จังหวัดตาก บุรินทร์ รุจจนพันธุ์. (2563). การทําคลิปชวยสอนออนไลน์หรือ วีดีโอช่วยสอน. สืบค้น 10 ธันวาคม 2565, จาก http://www.thaiall.com/vdoteach/
62 ทรงสุดา น้ำจันทร์. (2563). การศึกษาผลการใช้วีดิทัศน์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ จํานวนเต็มสําหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 .โรงเรียนชุมชนบ้านเขาหลาง จังหวัดชุมพร เพชรรัตน์ สุริยา. (2550). นวัตกรรมชุดฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ (ออนไลน์). ครูบ้านนอก ดอทคอม. สืบค้นเมื่อ 15 ธันวาคม 2565 จากเว็ปไซด์ http://www.kroobannok.com อัศวพร แสงอรุณ. (2551). การใช้ภาพยนตร์เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษและการคิด อย่างมีวิจารญาณของนักเรียนระดับก้าวหน้า. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการ สอน ภาษาอังกฤษ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุธาทิพย์ จิตต์เจริญ. (2558). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการค้าปลีก ของนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3/1 สาขาวิชาการตลาด โดยใช้วิดีโอช่วยสอน “รายการ SME ตีแตก”. วิทยาลัยเทคโนโลยีอักษรบริหารธุรกิจ จังหวัดระยอง Good. (1973). Dictionary of Education. New York: McGraw-Hill Book. Griffin, C. (1983). Curriculum Theory in Adult Lifelong Education. London: Croon Helm.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก รายชื่อผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย
48 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ที่ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีรายนามดังต่อไปนี้ ๑. นายนิติกร พุทธรักษา ครู สาขาวิขาคณิตศาสตร์ โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล ๒. นางสาวสุนีย์ ดอกดวง ครูชำนาญการพิศษ สาขาวิขาคณิตศาสตร์ โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล ๓. นายอนุชิต บุญมาก ครูชำนาญการ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล
ภาคผนวก ข แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์(Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การประเมินความเหมาะสมของวิดีโอช่วยสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น
50 แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 คำชี้แจง : ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยใส่เครื่องหมาย () ลงในช่องความ คิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป จุดประสงค์ ข้อสอบ ความคิดเห็นความเชี่ยวชาญ + 1 0 - 1 ข้อเสนอแนะ นักเรียนสามารถบอก อธิบาย หรือเปรียบเทียบ โอกาสการเกิดขึ้นของ เหตุการณ์ที่กำหนดให้ 1. ข้อใดไม่ใช่โอกาสของเหตุการณ์ ก.เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ข.อาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ ค.ไม่เกิดขึ้นแน่นอน ง.ไม่สามารถทราบได้ 2. นักเรียนสุ่มหยิบลูกแก้ว 1 ลูก จากกล่อง ทึบที่มีลูกแก้วสีแดง 5 ลูก สีเหลือง 2 ลูก สี เขียว 2 ลูก และสีน้ำเงิน 1 ลูกข้อใดไม่ใช่ โอกาสของเหตุการณ์นี้ ก.หยิบได้ลูกแก้วสีแดง ข.หยิบได้ลูกแก้วน้ำเงิน ค.หยิบได้ลูกแก้วที่ไม่มีสี ง.หยิบได้ลูกแก้วสีเขียว 3. จากสถานการณ์ในข้อ1 ข้อใดไม่ถูกต้อง ก.ไม่มีโอกาสที่จะหยิบได้ลูกบอล ข.มีโอกาสที่จะหยิบได้ลูกแก้ว ค.อาจจะหยิบได้ลูกแก้วสีเหลือง ง.หยิบได้ลูกแก้วสีแดงอย่างแน่นอน นักเรียนสามารถบอก อธิบายวิธีการการหา ผลลัพธ์จากการทดลองสุ่ม ได้ 4. การทดลองสุ่มไม่สามรถใช้วิธีการใดในการ หาผลลัพธ์ได้ ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. เข้าฌาน ง. แจงนับ
51 จุดประสงค์ ข้อสอบ ความคิดเห็นความเชี่ยวชาญ + 1 0 - 1 ข้อเสนอแนะ 5. จากภาพเป็นวิธีการหาผลลัพธ์โดยวิธีใด ถ้าเหตุการณ์ คือ การสุ่มหยิบลูกบอลหมาย เลย 1 และ 2 อย่างละ 1 ลูก 2 ครั้ง โดยใส่ ลูกบอลคืนทุกครั้ง ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. แผนภาพ ง. การแจงนับ 6. จากภาพเป็นวิธีการหาผลลัพธ์โดยวิธีใด ถ้าเหตุการณ์ คือ การสุ่มหยิบลูกบอลหมาย เลย 1 และ 2 อย่างละ 1 ลูก 2 ครั้ง โดยใส่ ลูกบอลคืนทุกครั้ง ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. แผนภาพ ง. การแจงนับ 7. จากภาพเป็นวิธีการหาผลลัพธ์โดยวิธีใด ถ้าเหตุการณ์ คือ การสุ่มหยิบลูกบอลหมาย เลย 1 และ 2 อย่างละ 1 ลูก 2 ครั้ง โดยใส่ ลูกบอลคืนทุกครั้ง
52 จุดประสงค์ ข้อสอบ ความคิดเห็นความเชี่ยวชาญ + 1 0 - 1 ข้อเสนอแนะ ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. แผนภาพ ง. การแจงนับ 8. จากภาพเป็นวิธีการหาผลลัพธ์โดยวิธีใด ถ้าเหตุการณ์ คือ การสุ่มหยิบลูกบอลหมาย เลย 1 และ 2 อย่างละ 1 ลูก 2 ครั้ง โดยใส่ ลูกบอลคืนทุกครั้ง ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. แผนภาพ ง. การแจงนับ ระบุผลลัพธ์ทั้งหมดที่ เกิดขึ้นจากการทดลองสุ่ม และผลลัพธ์ของเหตุการณ์ ได้ 9. ในการโยนเหรียญบาท 1 เหรียญ 1 ครั้ง ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ทั้งหมด เท่ากับข้อใด ก. 2 ข. 1 ค. 1 2 ง. 1 4 10. ในการโยนเหรียญบาท 1 เหรียญ 1 ครั้ง เหตุการณ์ที่เหรียญจะออกหัว ผลลัพธ์ ของเหตุการณ์ เท่ากับเท่าใด ก. 0 ข. 1 ค. 2 ง. ไม่สามารถหาผลลัพธ์ได้
53 จุดประสงค์ ข้อสอบ ความคิดเห็นความเชี่ยวชาญ + 1 0 - 1 ข้อเสนอแนะ 11. ในการทอดลูกเต๋า 2 ครั้ง เหตุการณ์ที่แต้มจะเป็นเลขซ้ำกัน เท่ากับข้อใด ก. 2 ข. 6 ค. 10 ง. 12 12. ในการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน จะต้อง ผ่านวัด และตลาด ถ้าจากบ้านไปวัดมี 3 เส้นทาง จากวัดไปตลาดมี 2 เส้นทาง และจากตลาดไปโรงเรียนมี 3 เส้นทาง จำนวนวิธีในการเดินทางจากบ้านไป โรงเรียนเป็นเท่าไร ก. 14 วิธี ข. 16 วิธี ค. 18 วิธี ง. 20 วิธี สามารถหาความน่าจะเป็น ของเหตุการณ์ได้ 13. ในการโยนเหรียญบาท 1 เหรียญ 2 ครั้ง ความน่าจะเป็นที่เหรียญออกหัว 2 ครั้ง เท่ากับข้อใด ก. 2 ข. 3 4 ค. 1 2 ง. 1 4 14. ในการโยนเหรียญ 1 เหรียญ 3 ครั้ง ความ น่าจะเป็นที่เหรียญจะออกก้อยไม่เกิน 2 ครั้ง เท่ากับข้อใด ก. 7 8 ข. 3 4 ค. 1 2 ง. 3 8
54 จุดประสงค์ ข้อสอบ ความคิดเห็นความเชี่ยวชาญ + 1 0 - 1 ข้อเสนอแนะ 15.กล่องทึบใบหนึ่งมีลูกแก้วขนาดเท่ากันอยู่ 12 ลูก เป็นสีส้ม 4 ลูก สีฟ้า 4 ลูก และสี แดง 4 ลูก สุ่มหยิบลูกแก้วออกมาจาก กล่องครั้งละ 1 ลูก โดยไม่ใส่คืน ถ้าลูกแก้ว ที่สุ่มหยิบได้ในครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เป็นสี แดงทั้งสองลูก แล้วการสุ่มหยิบลูกแก้วจาก กล่องในครั้งที่ 3 มีความน่าจะเป็นที่จะ หยิบได้ลูกแก้วสีแดงเท่ากับเท่าใด ก. 1 10 ข. 1 5 ค. 1 3 ง. 1 2 16. นักเรียนห้องหนึ่งมี 45 คน และในห้อ นี้มีฝาแฝด 3 คู่ ถ้าสุ่มเลือกนักเรียน 1 คน ข้อใดเป็นความน่าจะเป็นที่จะได้นักเรียนที่ มีคู่แฝดเท่ากับเท่าไร ก. 2 15 ข. 3 15 ค. 4 15 ง. 6 15
55 จุดประสงค์ ข้อสอบ ความคิดเห็นความเชี่ยวชาญ + 1 0 - 1 ข้อเสนอแนะ 17. แอนนามีถุงมือสีแดง สีเหลือง และสีเขียว สีละ 1 คู่ และแยกข้างคละกัน สุ่มหยิบมา 2 ข้างพร้อมกัน ความน่าจะเป็นที่จะได้ถุง มือสีต่างกันเป็นเท่าไร ก. 2 3 ข. 2 5 ค. 3 5 ง. 4 5 18. ในการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ใบ ความ น่าจะเป็นที่สลากจะถูกรางวัลที่ 2 ซึ่งมี 5 รางวัล เป็นเท่าไร ก. 1 200,000 ข. 1 2,000,000 ค. 1 100,000 ง. 1 1,000,000 ใช้ความรู้เกี่ยวกับความ น่าจะเป็นในการคาดการณ์ หาข้อสรุป และประยุกต์ใช้ ในการตัดสินใจ 19.หากมีการรายงานสภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ ว่าในจังหวัดที่นักเรียนอาศัยอยู่จะมีโอกาส เกิดร้อยละ 80 ของพื้นที่ กิจกรรมใดเหมาะที่จะทำในวันพรุ่งนี้ ก. ตกปลา ข. อยู่บ้าน ค. ไปวิ่งที่สวนสาธารณะ ง. ตั้งแคมป์
56 จุดประสงค์ ข้อสอบ ความคิดเห็นความเชี่ยวชาญ + 1 0 - 1 ข้อเสนอแนะ 20.หากนักเรียนวางแผนไปเที่ยวต่างจังหวัด นักเรียนต้องการจองที่พักแห่งหนึ่งจึง ค้นหารีวิว 5 รีวิว ปรากฏว่า การรีวิวมีการ ให้คะแนนดังนี้ 5/10 8/10 4/10 1/10 4/10 นักเรียนควรพักที่พักแห่งนี้หรือไม่ เพราะ เหตุใด ก.ควร เพราะมีรีวิวที่ให้ 8/10 ข.ควร เพราะที่พักมีการลงรูปที่สวยงาม ค.ไม่ควร เพราะคะแนนจากรีวิวส่วนมาก ต่ำกว่า50% ง.ไม่ควร เพราะมี1รีวิวบอกว่าเจอสิ่งลี้ลับ เกณฑ์ในการประเมินคะแนนมีเกณฑ์พิจารณาดังนี้ + 1 สำหรับรายการประเมินที่เหมาะสมและสอดคล้อง 0 สำหรับรายการประเมินที่ไม่แน่ใจว่าเหมาะสมและสอดคล้อง - 1 สำหรับรายการประเมินที่ไม่เหมาะสมและสอดคล้อง ลงชื่อ ........................................................ผู้ประเมิน ( ………………………………………………) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ……………………… โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล ………./…….…/.………
57 แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น โดยใส่เครื่องหมาย () ลงในช่องความคิดเห็นของท่าน พร้อมเขียนข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ เหมาะสม +1 ไม่แน่ใจ 0 ไม่เหมาะสม -1 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วนและสัมพันธ์กัน 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและสอดคล้องกับ ความสามารถผู้เรียน 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับระดับชั้น 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและจุดประสงค์ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถ ผู้เรียน 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และกิจกรรม 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ และ เจตคติ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (ลงชื่อ)................................................................ผู้ประเมิน (.......................................................................)
58 แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของวิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยใส่เครื่องหมาย () ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่เป็น ประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ข้อเสนอ 5 4 3 2 1 แนะ 1. เนื้อหาวิดีโอช่วยสอนมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับจุดประสงค์ การเรียนรู้ 2. วิดีโอช่วยสอนมีการฝึกกระบวนการคิดและการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ 3. เนื้อหาในวิดีโอช่วยสอนมีความสอดคล้องกันทุกขั้นตอน 4. เนื้อหาวิดีโอช่วยสอนเป็นไปตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้จากง่าย ไปหายาก 5. วิดีโอช่วยสอนมีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน 6. ภาษาที่ใช้ในการทำแบบฝึกมีการใช้สำนวนภาษาได้ถูกต้อง ชัดเจน และเข้าใจง่าย 7. การนำเสนอวิดีโอช่วยสอนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ มีภาพประกอบ สวยงามเหมาะกับการนำไปใช้ 8. วิดีโอช่วยสอนสามารถนำไปใช้ได้อย่างสะดวก ประหยัด และคุ้มค่า 9. ความรู้หลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถ ผู้เรียน 10. วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และกิจกรรม หมายเหตุ 5 หมายถึง เหมาะสมมากที่สุด 4 หมายถึง เหมาะสมมาก 3 หมายถึง เหมาะสมปานกลาง 2 หมายถึง เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง เหมาะสมน้อยที่สุด ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (ลงชื่อ).............................................................ผู้ประเมิน (.......................................................................)
ภาคผนวก ค ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนี ความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การประเมินความเหมาะสมของวิดีโอช่วยสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น
60 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อที่ ผลการประเมินผู้เชี่ยวชาญ รวม IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 2 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 4 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 5 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 6 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 8 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 9 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 10 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 11 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 12 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 13 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 14 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 15 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 16 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 17 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 18 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 19 +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 20 +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ หมายเหตุการแปลผลค่า IOC ใช้เกณฑ์ ดังนี้ IOC < 0.5 หมายถึง ข้อสอบไม่สอดคล้องกับเนื้อหา ควรตัดข้อสอบข้อนั้นทิ้งไป IOC > 0.5 หมายถึง ข้อสอบข้อนั้นสอดคล้องกับเนื้อหา สามารถใช้ข้อสอบข้อนั้นได้
61 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
62 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
63 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
64 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
65 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
66 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
67 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
68 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
69 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
70 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
71 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ + 1 + 1 + 1 1.00 นำไปใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ + 1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจนครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 นำไปใช้ได้
72 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การประเมินความเหมาะสมของวิดีโอช่วยสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชุดที่1 ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า เฉลี่ย แปลผล 1 2 3 1 เนื้อหาวิดีโอช่วยสอนมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4 4 5 4.33 เหมาะสมมาก 2 วิดีโอช่วยสอนมีการฝึกกระบวนการคิด และการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 3 เนื้อหาในวิดีโอช่วยสอนมีความสอดคล้องกัน ทุกขั้นตอน 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 4 เนื้อหาวิดีโอช่วยสอนเป็นไปตามลำดับขั้นตอน การเรียนรู้จากง่ายไปหายาก 4 4 5 4.33 เหมาะสมมาก 5 วิดีโอช่วยสอนมีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน 5 4 5 4.67 เหมาะสมมาก ที่สุด 6 ภาษาที่ใช้ในการทำวิดีโอช่วยสอนมีการใช้สำนวน ภาษาได้ถูกต้อง ชัดเจน และเข้าใจง่าย 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 7 การนำเสนอวิดีโอช่วยสอนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ มีภาพประกอบ สวยงามเหมาะกับ การนำไปใช้ 5 4 5 4.67 เหมาะสมมาก ที่สุด 8 วิดีโอช่วยสอนสามารถนำไปใช้ได้อย่างสะดวก ประหยัด และคุ้มค่า 4 4 5 4.33 เหมาะสมมาก 9 ความรู้หลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 10 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก เฉลี่ยรวม 4.23 เหมาะสมมาก
73 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การประเมินความเหมาะสมของวิดีโอช่วยสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชุดที่ 2 ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า เฉลี่ย แปลผล 1 2 3 1 เนื้อหาวิดีโอช่วยสอนมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 2 วิดีโอช่วยสอนมีการฝึกกระบวนการคิด และการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 3 เนื้อหาในวิดีโอช่วยสอนมีความสอดคล้องกัน ทุกขั้นตอน 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 4 เนื้อหาวิดีโอช่วยสอนเป็นไปตามลำดับขั้นตอน การเรียนรู้จากง่ายไปหายาก 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 5 วิดีโอช่วยสอนมีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 6 ภาษาที่ใช้ในการทำวิดีโอช่วยสอนมีการใช้สำนวน ภาษาได้ถูกต้อง ชัดเจน และเข้าใจง่าย 4 4 5 4.33 เหมาะสมมาก 7 การนำเสนอวิดีโอช่วยสอนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ มีภาพประกอบ สวยงามเหมาะกับ การนำไปใช้ 4 4 5 4.33 เหมาะสมมาก 8 วิดีโอช่วยสอนสามารถนำไปใช้ได้อย่างสะดวก ประหยัด และคุ้มค่า 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 9 ความรู้หลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน 5 4 4 4.33 เหมาะสมมาก 10 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก เฉลี่ยรวม 4.10 เหมาะสมมาก
74 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การประเมินความเหมาะสมของวิดีโอช่วยสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชุดที่3 ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า เฉลี่ย แปลผล 1 2 3 1 เนื้อหาวิดีโอช่วยสอนมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4 4 5 4.33 เหมาะสมมาก 2 วิดีโอช่วยสอนมีการฝึกกระบวนการคิด และการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 3 เนื้อหาในวิดีโอช่วยสอนมีความสอดคล้องกัน ทุกขั้นตอน 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 4 เนื้อหาวิดีโอช่วยสอนเป็นไปตามลำดับขั้นตอน การเรียนรู้จากง่ายไปหายาก 4 4 5 4.33 เหมาะสมมาก 5 วิดีโอช่วยสอนมีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน 5 4 5 4.67 เหมาะสมมาก ที่สุด 6 ภาษาที่ใช้ในการทำวิดีโอช่วยสอนมีการใช้สำนวน ภาษาได้ถูกต้อง ชัดเจน และเข้าใจง่าย 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 7 การนำเสนอวิดีโอช่วยสอนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ มีภาพประกอบ สวยงามเหมาะกับ การนำไปใช้ 5 4 5 4.67 เหมาะสมมาก ที่สุด 8 วิดีโอช่วยสอนสามารถนำไปใช้ได้อย่างสะดวก ประหยัด และคุ้มค่า 4 4 5 4.33 เหมาะสมมาก 9 ความรู้หลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถผู้เรียน 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก 10 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม 4 4 4 4.00 เหมาะสมมาก เฉลี่ยรวม 4.23 เหมาะสมมาก
ภาคผนวก ง ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น (rtt) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ผลการทดสอบค่าเฉลี่ยของสมมติฐานทางสถิติ (t – test for One Sample and t-test for DependentSample)
76 ผลการหาค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น (rtt) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ข้อที่ ประสิทธิภาพของแบบทดสอบ ผลการวิเคราะห์ ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) 1 0.73 0.41 ใช้ได้ 2 0.73 0.25 ใช้ได้ 3 0.69 0.44 ใช้ได้ 4 0.73 0.41 ใช้ได้ 5 0.77 0.50 ใช้ได้ 6 0.73 0.53 ใช้ได้ 7 0.69 0.32 ใช้ได้ 8 0.73 0.63 ใช้ได้ 9 0.69 0.41 ใช้ได้ 10 0.77 0.38 ใช้ได้ 11 0.69 0.44 ใช้ได้ 12 0.73 0.53 ใช้ได้ 13 0.77 0.50 ใช้ได้ 14 0.77 0.41 ใช้ได้ 15 0.77 0.28 ใช้ได้ 16 0.77 0.50 ใช้ได้ 17 0.77 0.28 ใช้ได้ 18 0.69 0.41 ใช้ได้ 19 0.77 0.28 ใช้ได้ 20 0.77 0.63 ใช้ได้ ค่าความเชื่อมั่น (rtt) 0.78 หมายเหตุ การพิจารณาค่าความยาก (p) ที่พอเหมาะ ควรมีค่าตั้งแต่ 0.20 – 0.80 การพิจารณาค่าอำนาจจำแนก (r) ที่พอเหมาะ ควรมีค่าตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป การพิจารณาค่าความเชื่อมั่น (rtt) ที่พอเหมาะ ควรมีค่าตั้งแต่ 0.70 ขึ้นไป
77 ผลการทดสอบค่าเฉลี่ยของสมมติฐานทางสถิติ(t-test for Dependent Sample) ระหว่างคะแนนก่อนเรียนกับคะแนนหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ โปรแกรมสำเร็จรูป Stat 14 T-Test
ภาคผนวก จ ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยใช้วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ ตัวอย่างการใช้วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น
79 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 40 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค23102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ความน่าจะเป็น จำนวน 11 ชั่วโมง เรื่อง โอกาสของเหตุการณ์ จำนวน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวพิงนภา มีภูเวียง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐาน มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลักการนับเบื้องต้น ความน่าจะเป็น และนำไปใช้ 1.2 ตัวชี้วัด ค 3.2 ม.3/1 เข้าใจเกี่ยวกับการทดลองสุ่มและนำผลที่ได้ไปหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอก อธิบาย หรือเปรียบเทียบโอกาสการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ที่กำหนดให้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ความน่าจะเป็น พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด โอกาสที่เหตุการณ์หนึ่ง ๆ จะเกิดขึ้นนั้น เป็นไปได้ 3 ลักษณะ คือ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน หรือ อาจจะ เกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ หรือ ไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว การกระทำที่ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้แน่นอนว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำจะเป็นอะไร แต่สามารถ บอกได้ว่ามีผลลัพธ์อะไรบ้างที่เกิดขึ้นได้เรียกว่า การทดลองสุ่ม เหตุการณ์ คือ สิ่งที่สนใจจะพิจารณาจากการทดลองสุ่ม และผลลัพธ์ทั้งหมดของสิ่งที่สนใจที่เกิดขึ้นจากการ ทดลองสุ่ม เรียกว่า ผลลัพธ์ของเหตุการณ์
80 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการระบุ 3) ทักษะการวิเคราะห์ 4) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 5) ทักษะการคิดละเอียด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. มีวินัย รับผิดชอบ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยการเชื่อมโยงสถานการณ์รอบตัวเข้ากับโอกาสของเหตุการณ์ 2. ครูนำเสนอวิดีโอช่วยสอนที่ครูได้จัดทำขึ้น 3. ครูเปิดวิดีโอช่วยสอนให้นักเรียนชมร่วมกัน โดยในระหว่างการรับชมครูมีการหยุดวิดีโอเพื่อให้นักเรียนตอบ คำถามในวิดีโอช่วยสอน 4. เมื่อรับชมวิดีโอช่วยสอนจบ ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดจากหนังสือเรียนคณิตศาสตร์พื้นฐานเล่ม 2 หน้า 168 5. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบ 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ในคาบนี้ และครูเปิดดอกาสให้นักเรียนซักถามสิ่งที่ยังสงสัย หรือไม่เข้าใจ ปฎิบัติและ/หรือแสดงผลงาน 1. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดจากหนังสือเรียนคณิตศาสตร์พื้นฐานเล่ม 2 หน้า 168 2. ครูให้นักเรียนชมวิดีโอช่วยสอน ขั้นนำ ขั้นสอน ขั้นสรุป
81 7.การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ประเมินระหว่างการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ความน่าจะเป็น - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพผ่านเกณฑ์ 3. คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ม.3เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความน่าจะเป็น 2) วิดีโอช่วยสอน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียน - วิดีโอช่วยสอน ผ่านสื่อออนไลน์
82 แบบบันทึกผลหลังการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 40 รหัสวิชา ค23102 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ . หน่วยที่ 4 .ชื่อหน่วย ความน่าจะเป็น . ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ปัญหา / อุปสรรค .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................................ .................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ...........................................................ผู้สอน ( นางสาวพิงนภา มีภูเวียง ) นักศึกษาฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน วันที่.............เดือน............................พ.ศ. ............. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ............................................................ ( นายนิติกร พุทธรักษา ) ครูพี่เลี้ยง วันที่.............เดือน............................พ.ศ. .............
83 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ............................................................ (นายอนุชิต บุญมาก) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วันที่...........เดือน...........................พ.ศ. .............. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ................................................................ (นายศุภฤกษ์ รัตนพลที) รองผู้อำนวยการโรงเรียนฝ่ายวิชาการ วันที่........เดือน................................พ.ศ........... ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรียน ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ......................................................... ( นายอรรถชัย นันทวิจิตร ) ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล วันที่........เดือน................................พ.ศ...........
84 ตัวอย่างการใช้วิดีโอช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
85 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์ (ค23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 เวลา 30 นาทีคะแนน 20 คะแนน คำชี้แจง แบบทดสอบก่อนเรียน เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ (20 คะแนน) คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว เท่านั้น 1.ข้อใดไม่ใช่โอกาสของเหตุการณ์ ก.เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ข.อาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ ค.ไม่เกิดขึ้นแน่นอน ง.ไม่สามารถทราบได้ 2.นักเรียนสุ่มหยิบลูกแก้ว 1 ลูก จากกล่องทึบที่มีลูกแก้วสี แดง 5 ลูก สีเหลือง 2 ลูก สีเขียว 2 ลูก และสีน้ำเงิน 1 ลูก ข้อใดไม่ใช่โอกาสของเหตุการณ์นี้ ก.หยิบได้ลูกแก้วสีแดง ข.หยิบได้ลูกแก้วน้ำเงิน ค.หยิบได้ลูกแก้วที่ไม่มีสี ง.หยิบได้ลูกแก้วสีเขียว 3.จากสถานการณ์ในข้อ1 ข้อใดไม่ถูกต้อง ก.ไม่มีโอกาสที่จะหยิบได้ลูกบอล ข.มีโอกาสที่จะหยิบได้ลูกแก้ว ค.อาจจะหยิบได้ลูกแก้วสีเหลือง ง.หยิบได้ลูกแก้วสีแดงอย่างแน่นอน 4.การทดลองสุ่มไม่สามรถใช้วิธีการใดในการหาผลลัพธ์ได้ ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. เข้าฌาน ง. แจงนับ 5. จากภาพเป็นวิธีการหาผลลัพธ์โดยวิธีใด ถ้าเหตุการณ์ คือ การสุ่มหยิบลูกบอลหมายเลย 1 และ 2 อย่างละ 1 ลูก 2 ครั้ง โดยใส่ลูกบอลคืนทุกครั้ง ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. แผนภาพ ง. การแจงนับ 6. จากภาพเป็นวิธีการหาผลลัพธ์โดยวิธีใด ถ้าเหตุการณ์ คือ การสุ่มหยิบลูกบอลหมายเลย 1 และ 2 อย่างละ 1 ลูก 2 ครั้ง โดยใส่ลูกบอลคืนทุกครั้ง ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. แผนภาพ ง. การแจงนับ
86 7.จากภาพเป็นวิธีการหาผลลัพธ์โดยวิธีใด ถ้าเหตุการณ์ คือ การสุ่มหยิบลูกบอลหมายเลย 1 และ 2 อย่างละ 1 ลูก 2 ครั้ง โดยใส่ลูกบอลคืนทุกครั้ง ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. แผนภาพ ง. การแจงนับ 8.จากภาพเป็นวิธีการหาผลลัพธ์โดยวิธีใด ถ้าเหตุการณ์ คือ การสุ่มหยิบลูกบอลหมายเลย 1 และ 2 อย่างละ 1 ลูก 2 ครั้ง โดยใส่ลูกบอลคืนทุกครั้ง ก. แผนภาพต้นไม้ ข. ตาราง ค. แผนภาพ ง. การแจงนับ 9.ในการโยนเหรียญบาท 1 เหรียญ 1 ครั้ง ผลลัพธ์ของ เหตุการณ์ทั้งหมด เท่ากับข้อใด ก. 2 ข. 1 ค. 1 2 ง. 1 4 10.ในการโยนเหรียญบาท 1 เหรียญ 1 ครั้งเหตุการณ์ที่ เหรียญจะออกหัว ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ เท่ากับเท่าใด ก. 0 ข. 1 ค. 2 ง. ไม่สามารถหาผลลัพธ์ได้ 11.ในการทอดลูกเต๋า 2 ครั้ง เหตุการณ์ที่แต้มจะเป็นเลขซ้ำกัน เท่ากับข้อใด ก. 2 ข. 6 ค. 10 ง. 12 12.ในการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน จะต้องผ่านวัด และ ตลาด ถ้าจากบ้านไปวัดมี 3 เส้นทาง จากวัดไปตลาดมี 2 เส้นทาง และจากตลาดไปโรงเรียนมี 3 เส้นทาง จำนวนวิธี ในการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนเป็นเท่าไร ก. 14 วิธี ข. 16 วิธี ค. 18 วิธี ง. 20 วิธี 13.ในการโยนเหรียญบาท 1 เหรียญ 2 ครั้ง ความน่าจะเป็น ที่เหรียญออกหัว 2 ครั้ง เท่ากับข้อใด ก. 2 ข. 3 4 ค. 1 2 ง. 1 4 14.ในการโยนเหรียญ 1 เหรียญ 3 ครั้ง ความน่าจะเป็นที่ เหรียญจะออกก้อยไม่เกิน 2 ครั้ง เท่ากับข้อใด ก. 7 8 ข. 3 4 ค. 1 2 ง. 3 8
87 15.กล่องทึบใบหนึ่งมีลูกแก้วขนาดเท่ากันอยู่ 12 ลูก เป็น สีส้ม 4 ลูก สีฟ้า 4 ลูก และสีแดง 4 ลูก สุ่มหยิบลูกแก้ว ออกมาจากกล่องครั้งละ 1 ลูก โดยไม่ใส่คืน ถ้าลูกแก้วที่ สุ่มหยิบได้ในครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เป็นสีแดงทั้งสองลูก แล้วการสุ่มหยิบลูกแก้วจากกล่องในครั้งที่ 3 มีความน่าจะ เป็นที่จะหยิบได้ลูกแก้วสีแดงเท่ากับเท่าใด ก. 1 10 ข. 1 5 ค. 1 3 ง. 1 2 16.นักเรียนห้องหนึ่งมี 45 คน และในห้อ นี้มีฝาแฝด 3 คู่ ถ้าสุ่มเลือกนักเรียน 1 คน ข้อใดเป็น ความน่าจะเป็นที่จะได้นักเรียนที่มีคู่แฝดเท่ากับเท่าไร ก. 2 15 ข. 3 15 ค. 4 15 ง. 6 15 17.แอนนามีถุงมือสีแดง สีเหลือง และสีเขียว สีละ 1 คู่ และแยกข้างคละกัน สุ่มหยิบมา 2 ข้างพร้อมกัน ความ น่าจะเป็นที่จะได้ถุงมือสีต่างกันเป็นเท่าไร ก. 2 3 ข. 2 5 ค. 3 5 ง. 4 5 18.ในการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ใบ ความน่าจะเป็นที่ สลากจะถูกรางวัลที่ 2 ซึ่งมี 5 รางวัล เป็นเท่าไร ก. 1 200,000 ข. 1 2,000,000 ค. 1 100,000 ง. 1 1,000,000 19.หากมีการรายงานสภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ว่าในจังหวัดที่ นักเรียนอาศัยอยู่จะมีโอกาสเกิดร้อยละ 80 ของพื้นที่ กิจกรรมใดเหมาะที่จะทำในวันพรุ่งนี้ ก. ตกปลา ข. อยู่บ้าน ค. ไปวิ่งที่สวนสาธารณะ ง. ตั้งแคมป์ 20.หากนักเรียนวางแผนไปเที่ยวต่างจังหวัด นักเรียน ต้องการจองที่พักแห่งหนึ่งจึงค้นหารีวิว 5 รีวิว ปรากฏว่า การรีวิวมีการให้คะแนนดังนี้ 5/10 8/10 4/10 1/10 4/10 นักเรียนควรพักที่พักแห่งนี้หรือไม่ เพราะเหตุใด ก.ควร เพราะมีรีวิวที่ให้ 8/10 ข.ควร เพราะที่พักมีการลงรูปที่สวยงาม ค.ไม่ควร เพราะคะแนนจากรีวิวส่วนมากต่ำกว่า50% ง.ไม่ควร เพราะมีรีวิวบอกว่าเจอสิ่งลี้ลับ
88 เฉลยแบบทดสอบ เรื่อง ความน่าจะเป็น คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบที่กำหนดให้ ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1 X 11 X 2 X 12 X 3 X 13 X 4 X 14 X 5 X 15 X 6 X 16 X 7 X 17 X 8 X 18 X 9 X 19 X 10 X 20 X