เซลล์
ระดับชั้นมัธยมศึ กษาปีที่ 4
หนั งสื ออิเล็กทรอนิ กส์
เรื่องเซลล์
จัดทำโดย
นางสาวฟาตีฮะ หะยีเต๊ะ
6413101106 กลุ่ม 4
คำนำ
เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เซลล์ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 4 จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนการสอน
วิทยาศาสตร์ โดยได้รวบรวมเนื้ อหาสาระที่เป็นความรู้ให้
มีความกระชับเหมาะสมและเข้าใจง่าย พร้อมทั้งมีรูปภาพ
ประกอบรวมถึงคำอธิบายต่างๆ โดยเอกสารจะประกอบ
ไปด้วย เนื้ อหา แบบฝึกหัด และแบบทดสอบ
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการเรียน
นี้ เป็นประโยชน์ ต่อผู้ศึกษาและสามารถนำองค์ความรู้ที่
ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
ฟาตีฮะ หะยีเต๊ะ
ผู้จัดทำ
สารบัญ หน้ า
เรื่อง ก
ข
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 1
สาระสำคัญ 2-11
ความหมายของเซลล์ 12-13
โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ 14
การลำเลียงสารผ่านเซลล์ 15
แบบฝึกหัด
บรรณานุกรม
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ
ตัวชี้วัด ม.4/1 อธิบายโครงสร้างและสมบัติของ
เยื่อหุ้มเซลล์ที่สัมพันธ์กับการลำเลียงสาร และเปรียบ
เทียบการลำเลียงสารผ่านเยื่อหุ้มเซลล์แบบต่าง ๆ
ก
สาระสำคัญ
สิ่งมีชีวิตจะดำรงชีวิตอยู่ได้ต้องประกอบด้วยหน่ วย
ย่อยเล็กๆที่เรียกว่า "เซลล์" เซลล์ของสิ่งมีชีวิตต่างชนิ ด
กันจะมีลักษณะเเละรูปร่างที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย
สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น อะมีบา พารามีเซียม และสิ่งมี
ชีวิตหลายเซลล์ เช่น พืช สัตว์ ซึ่งเซลล์พืชจะมีองค์
ประกอบหลักคือ ผนั งเซลล์ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาซึม
นิ วเคลียส คลอโรพลาสต์ เซลล์สัตว์จะไม่มีคลอโร
พลาสต์ และผนั งเซลล์ ซึ่งเซลล์พืชและเซลล์สัตว์มีส่วน
ประกอบที่เหมือนกันและแตกต่างกัน
ข
ความหมายของเซลล์
เซลล์เป็นหน่ วยพื้นฐานที่เล็กที่สุด
ของสิ่ งมีชีวิตทำหน้าที่หรือกระบวนการ
ต่าง ๆ ในการดำรงชีวิต ซึ่งรูปร่างของ
เซลล์แต่ละอย่างจะแตกต่างกันมากแต่
จะมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน
Cell
หน้ า 1
โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์
สิ่งต่างๆ บนโลก ทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์ประกอบ
ขึ้นจากหน่ วยพื้นฐานที่เหมือนกัน คือ เซลล์ (cell)
พืช สั ตว์
มนุษย์
หน้ า 2
เซลล์ส่ วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก
เซลล์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้อง
อาศั ยอุปกรณ์ ในการศึ กษารูปร่าง และ
ลักษณะ ได้แก่
หน้ า 3
โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์
ประกอบด้วย นิ วเคลียส ไซโทพลาซึม
และส่ วนที่หุ้มเซลล์
1.นิวเคลียส ลักษณะเป็นทรงกลมอยู่กลาง
เซลล์ ทำหน้ าที่ควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ของ
เซลล์
2.ไซโทพลาซึม ลักษณะเป็นของเหลว
ประกอบด้วยออร์แกเนลล์ต่างๆ ที่มีหน้ า
ที่แตกต่างกัน
3.ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ โครงสร้างที่ห่อ
หุ้มไซโทพลาซึม และแสดงขอบเขตของ
เซลล์
หน้ า 4
เซลล์สั ตว์
กอลจิคอมเพล็กซ์
ไมโทคอนเดรีย
ไลโซโซม
เซนทริโอล ไรโบโซม
เอนโดพลาสมิกเรติคูลัม
เยื่อหุ้มเซลล์
หน้ า 5
เซลล์พืช
กอลจิคอมเพล็กซ์
ไมโทคอนเดรีย
ไรโบโซม แวคิวโอล
ผนั งเซลล์ เยื่อหุ้มเซลล์
คลอโรพลาสต์
เอนโดพลาสมิกเรติคูลัม
หน้ า 6
1. ส่วนที่หุ้มเซลล์
1.1 เยื่อหุ้มเซลล์
เยื่อที่มีลักษณะบาง ประกอบด้วยสารประเภทฟอสโฟลิพิด
(phospholipid) เรียงตัวกัน 2 ชั้น เรียกว่า ลิพิดไบเลเยอร์ (lipid
bilayer) และมีโปรตีนจะแทรกในชั้นของฟอสโฟลิพิด มีคุณสมบัติ
เป็นเยื่อเลือกผ่าน (semipermeable membrane) ที่ยอมให้สารบาง
ชนิ ดผ่านเข้า-ออกได้ จึงสามารถควบคุมแรงดันและปริมาณสารต่าง ๆ
ภายในเซลล์
ไกลโคลิพิด
ไกลโคโปรตีน
คอเลสเตอรอล
เยื่อหุ้มเซลล์ ฟอสโฟลิพิด
ผนั งเซลล์
โปรตีน
หน้ า 7
1.2 ผนั งเซลล์
โครงสร้างที่อยู่ด้านนอกของเซลล์พืชทุกชนิ ด โดยห่อ
หุ้มเยื่อหุ้มเซลล์อีกชั้นหนึ่ ง ทำหน้ าที่เพิ่มความแข็งแรงให้แก่
เซลล์พืช และทำให้เซลล์สามารถคงรูปร่างอยู่ได้ ผนั งเซลล์
ประกอบด้วยสารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนใหญ่ เช่น
เซลลูโลส (cellulose)
2. ไซโทพลาซึม
ส่วนประกอบทั้งหมดที่อยู่ภายในเซลล์ ยกเว้น
นิ วเคลียส มีลักษณะเป็นของเหลว ภายในมีโครงสร้าง
ที่เรียกว่า ออร์แกเนลล์ (organelle) กระจายอยู่ ซึ่ง
มีหน้ าที่แตกต่างกัน ดังนี้
1.ร่างแหเอนโดพลาซึม (endoplasmic reticulum : ER)
ร่างแหเอนโดพลา ร่างแหเอนโดพลาซึม
ซึมแบบขรุ ขระ แบบเรียบ
(rough endoplasmic (smooth endoplasmic
reticulum : RER) reticulum: SER)
ชนิ ดที่มีไรโบโซม ชนิ ดที่ไม่มีไรโบโซม
เกาะอยู่ ทำหน้ าที่ เกาะอยู่ ทำหน้ าที่
สั งเคราะห์โปรตีน สังเคราะห์ไขมัน และ
กำจัดสารพิษ
หน้ า 8
2. กอจจิคอมเพล็กซ์ (Golgi complex)
มีลักษณะเป็นถุงกลมแบนที่บริเวณขอบโป่งพองออก
เป็นถุง เรียกว่า เวสิเคิล (vesicle) ทำหน้ าเติมกลุ่ม
คาร์โบไฮเดรตให้กับโปรตีนกลายเป็นไกลโคโปรตีน
(glycoprotein) และเติมกลุ่มคาร์โบไฮเดรตให้กับลิพิดก
ลายเป็นไกลโคลิพิด (glycolipid)
3. ไมโทคอนเดรีย (mitochondria)
มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น ชั้นนอกมีผิวเรียบทำหน้ าที่
ควบคุมการผ่านเข้า-ออกของสาร ส่วนชั้นในพับ
ทบไปมาเข้าไปด้านใน ภายในมีของเหลว
ที่ประกอบด้วยสารหลายชนิ ดบรรจุอยู่ ทำหน้ าที่
เป็นแหล่งสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ (power
house of cell)
หน้ า 8
4. แวคิวโอล (vacuole)
แซบแวคิวโอล (sap vacuole)
พบในเซลล์พืช ทำหน้ าที่สะสมสารต่าง
ๆ เช่น สารสี ไอออน นํ้ าตาล สารพิษ
ฟูดแวคิวโอล (food vacuole) คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล
พบในโพรโทซัว เช่น อะมีบา และ (contractile vacuole)
พารามีเซียม ทำหน้ าที่บรรจุอาหารที่ พบในโพรโทซัวนํ้ าจืดหลายชนิ ด
เกิดจากการนำอาหารเข้าสู่ เซลล์ เช่น อะมีบา พารามีเซียม ทำหน้ าที่
รักษาสมดุลนํ้ าในเซลล์ และกำจัด
ของเสียที่ละลายนํ้ าออกจากเซลล์
5. คลอโรพลาสต์ (chloroplast)
มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น พบเฉพาะในเซลล์พืชและ
สาหร่ายบางชนิ ด ทำหน้ าที่สร้างอาหารให้แก่
เซลล์ผ่านกระบวนการสั งเคราะห์ด้วยแสง
ภายในมีสารสี ที่เกี่ยวข้องกับการสั งเคราะห์
ด้วยแสง เรียกว่า คลอโรฟิลล์ (chlorophyll)
6.ไรโบโซม (ribosome) หน้ า 9
เป็นองค์ประกอบของเซลล์ แต่ไม่ใช่
ออร์แกเนลล์ พบกระจายในไซโทพลาซึม
ทำหน้ าที่สร้างโปรตีนสำหรับใช้ภายใน
เซลล์ และเกาะอยู่บนร่างแหเอนโดพลาซึม
ทำหน้ าที่สร้างโปรตีนและเอนไซม์
7. ไลโซโซม (lysosome)
เวสิเคิลที่ทำหน้ าที่ย่อยสลายอนุภาคและโมเลกุล
ของสารอาหารภายในเซลล์ ทำลายเชื้อโรคและสิ่ง
แปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่เซลล์ พบเฉพาะในเซลล์
สัตว์เท่านั้ น
8. เซนทริโอล (centriole)
ท่อทรงกระบอก 2 อันวางตั้งฉากกัน ทำ
หน้ าแยกโครมาทิดออกจากกันในระหว่างการ
แบ่งเซลล์ โดยพบเฉพาะในเซลล์สัตว์และเซลล์
โพรทิสต์บางชนิ ดเท่านั้ น
หน้ า 10
3. นิวเคลียส
มีลักษณะเป็นทรงกลม อยู่บริเวณกลางเซลล์ มี
โครงสร้างสำคัญ 3 ส่วน ดังนี้
เยื่อหุ้มนิวเคลียส (nuclear membrane)
เยื่อบาง ๆ ทำหน้ าที่เป็นทางผ่านของ
สารต่าง ๆ ระหว่างไซโทพลาซึมกับ
นิ วเคลียส
นิ วคลีโอลัส(nucleolus)
ก้อนหนาทึบอยู่กลาง
นิ วเคลียส
ทำหน้ าที่สังเคราะห์สารบางชนิ ด
โครมาทิน(chromatin)
เส้นใยเล็กๆ พันกันเป็นร่างแห แต่ในขณะที่
แบ่งเซลล์จะหดสั้น เป็นแท่งโครโมโซม ทำ
หน้ าที่ควบคุมกิจกรรมต่างๆ ภายในเซลล์ และ
กำหนดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่ งมีชีวิต
หน้ า 11
ตารางแสดงความแตกต่างของเซลล์สั ตว์และเซลล์พืช
เซลล์สัตว์ (Animal เซลล์พืช
(Plant Cell)
Cell)
1.ไม่มีผนั งเซลล์ 1. มีผนั งเซลล์
2.ไม่มีคลอโรพลาสต์ 2. มีคลอโรพลาสต์
3.มีแวคิวโอลขนาด 3. มีแวคิวโอลขนาด
เล็กหรือไม่มีแวคิว
ใหญ่
โอล
4.มีนิ วเคลียสอยู่ตรง 4. มีนิ วเคลียสอยู่ข้าง
กลางเซลล์ เซลล์
หน้ า 11
การลำเลียงสารผ่านเซลล์
การแพร่ (diffusion)
การเคลื่อนที่ของอนุภาคสารจากบริเวณที่มีความเข้มข้นสูงไปสู่ บริเวณที่
มีความเข้มข้นต่ำ
ตัวอย่างเช่น การแพร่ของแก๊สออกซิเจนจากถุงลมปอดเข้าสู่เซลล์เม็ด
เลือดแดง การแพร่ของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์
เม็ดเลือดแดงออกสู่ ถุงลมปอด
การแพร่แบบฟาซิลิเทต (facilitated diffusion)
การเคลื่อนที่ของสารจากบริเวณที่มีความเข้มข้นสูงไปสู่ บริเวณที่มีความ
เข้มข้นต่ำ ผ่านช่องโปรตีนตัวพาที่อยู่ภายในเยื่อหุ้มเซลล์ และไม่ต้อง อาศัย
พลังงาน
ตัวอย่างเช่น การลำเลียงน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง
หน้ า 12
การลำเลียงโดยใช้พลังงาน หรือ แอกทีฟทรานสปอร์ต
(active transport)
การเคลื่อนที่สารจากบริเวณที่มีความเข้มข้นต่ำไปสู่
บริเวณที่มีความเข้มข้นสูง โดยผ่านช่องโปรตีนตัวพาภายใน
เยื่อหุ้มเซลล์ และอาศัยพลังงาน
ตัวอย่างเช่น การดูดซึมสารอาหารของรากพืช การ
ลำเลียงโซเดียมโพแทสเซียมของเซลล์
หน้ า 13
แบบฝึกหัด
หน้ า 14
บรรณานุกรม
วรรณทิพา รอดแรงค้า. 2554. การสอนวิทยาศาสตร์ที่เน้นกระบวนการ. พิมพ์ครั้งที่ 5
กรุงเทพมหานคร: สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ
หน้ า 15