The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ทฤษฎีดนตรีสากล 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ri'ntorn Roongrueng, 2022-12-04 07:50:57

ทฤษฎีดนตรีสากล 2

ทฤษฎีดนตรีสากล 2

รายงาน
สรุปทฤษ
ฎีดนตรี

จัดทำโดย

นางสาว วรินทร รุ่งเรือง
เสนอ

ครู จารุณ พลเดช

คำนำ

รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา ทฤษฎีดนตรีสากล เพื่อที่จะได้ศึกษา
ค้นหาข้อมูลในเรื่องของประวัติความเป็นมาของดนตรีสากล โดยได้ศึกษาหาความรู้
ต่างๆ เช่น หนังสือ อินเตอร์เน็ต โดยรายงานเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การศึกษาเรื่อง

ดนตรีสากล



ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี้จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ
ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับดนตรีสากลเป็นอย่างดี


นางสาว วรินทร รุ่งเรือง

สารบัญ 1-3

ประวัติความเป็นมา 4
ยุคต่างๆของดนดนตรีสากล
5-6
ศัพท์สังคีตในดนตรีสากล 7-21
แบบฝึกหัด
บรรณานุกรม 22

1

ประวัติความเป็นมาของดนตรีสากล

การกำเนิดของเครื่องดนตรีเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมนุษย์รู้จักการ
สร้างเครื่องดนตรีง่ายๆ จากธรรมชาติรอบข้างคือ เริ่มจากการปรบมือผิวปาก
เคาะหิน หรือนำกิ่งไม้มาตีกันซึ่งต่อมาได้มีการสร้างเครื่องดนตรีที่มีรูป ทรง
ลักษณะต่างๆ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนชาติ โดยมีการแลกเปลี่ยนศิลป
วัฒนธรรมและลักษณะเครื่องดนตรีของชนชาติต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องดนตรี
สากลที่เป็นเครื่องดนตรีของชาวตะวันตกที่นำมาเล่นกัน แพร่หลายในปัจจุบัน
สำหรับการกำเนิดของดนตรีตะวันตกนั้นมาจากเครื่องดนตรีของชนชาติกรีก
โบราณที่ สร้างเครื่องดนตรีขึ้นมา 3 ชนิดคือ ไลรา คีธารา และออโรสจนต่อมามี
การพัฒนาสร้างเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ ทั้งประเภทเครื่องสายเครื่องเป่า
เครื่องทองเหลือง เครื่องตี และเครื่องดีดหรือเครื่องเคาะ เช่นไวโอลิน ฟลุต
ทรัมเป็ต กลองชุด กีตาร์ ฯลฯ โดยพบเครื่องดนตรีสากลได้ในวงดนตรีสากล
ประเภทต่างๆ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

2

การศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์หรือการมองย้อนกลับไปในอดีตนั้นนอกจาก เป็นไปเพื่อความ
สุขใจในการได้ศึกษาเรียนรู้และรับทราบเรื่องราวของอดีตโดยตรงแล้วยังเป็นการศึกษาเป็นแนวทาง
เพื่อทำความเข้าใจดนตรีที่เกิดขึ้นและการเปลี่ยนแปลงในแง่ของดนตรีในปัจจุบันและเพื่อนำมาใช้ใน
การทำนายหรือคาดเดาถึงแนวโน้มของดนตรีในอนาคตด้วยกล่าวถึงประวัติดนตรีตะวันตกซึ่งแบ่ง
ออกเป็นสมัยต่าง ๆ ได้ 9 สมัย ดังนี้ (ณรุทธ์ สุทธจิตต์,2534 : 133)

1. สมัยกรีก (Ancient Greek music)

2. สมัยโรมัน (Roman)

3. สมัยกลาง (The Middle Ages)

4. สมัยรีเนซองส์ (The Renaissance)

5. สมัยบาโรก (The Baroque Age)

6. สมัยคลาสสิก (The Classical Period)

7. สมัยโรแมนติก (The Romantic Period)

8. สมัยอิมเพรชชั่นนิสติค (The Impressionistic)

9. สมัยศตวรรษที่ 20 และปัจจุบัน (The Twentieth century)

3

การสืบสาวเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของดนตรีตั้งแต่สมัยโบราณมา นับว่าเป็นเรื่องยากที่
จะให้ได้เรื่องราว สมัยของการรู้จักใช้อักษรหรือสัญลักษณ์อื่นๆ เพึ่งจะมีปรากฏและเริ่มนิยมใช้
กันในสมัยเริ่มต้นของยุค Middle age คือระหว่างศตวรรษที่ 5-6 และการบันทึกมี
เพียงเครื่องหมายแสดงเพียงระดับของเสียง และจังหวะ ( Pitch and time )
ดนตรีเกิดขึ้นมาในโลกพร้อมๆกับมนุษย์เรานั่นเอง ในยุคแรกๆมนุษย์อาศัยอยู่ในป่าดง ในถ้ำ
ในโพรงไม้ แต่ก็รู้จักการร้องรำทำเพลงตามธรรมชาติ เช่นรู้จักปรบมือ เคาะหิน เคาะไม้
เป่าปาก เป่าเขา และเปล่งเสียงร้องตามเรื่อง การร้องรำทำเพลงไปเพื่ออ้อนวอนพระเจ้า
เพื่อช่วยให้ตนพ้นภัย บันดาลความสุขความอุดมสมบูรณ์ต่างๆให้แก่ตน หรือเป็นการบูชา
แสดงความขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลให้ตนมีความสุขความสบาย

โลกได้ผ่านหลายยุคหลายสมัย ดนตรีได้วิวัฒนาการไปตามความเจริญและความคิด
สร้างสรรค์ของมนุษย์ เครื่องดนตรีที่เคยใช้ในสมัยเริ่มแรกก็มีการวิวัฒนาการมาเป็นขั้นๆ
กลายเป็นเครื่องดนตรี ที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เพลงที่ร้องเพื่ออ้อนวอนพระเจ้า ก็กลายมาเป็น
เพลงสวดทางศาสนา และเพลงร้องโดยทั่วๆไป

ในระยะแรก ดนตรีมีเพียงเสียงเดียวและแนวเดียวเท่านั้นเรียกว่า Melody ไม่มี
การประสานเสียง จนถึงศตวรรษที่ 12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่างๆมาประสานกัน
อย่างง่ายๆ เกิดเป็นดนตรีหลายเสียงขึ้นมา

4

ยุคต่างๆของดนตรีสากล

นักปราชญ์ทางดนตรีได้แบ่งดนตรีสากลออกเป็นยุคต่างๆดังนี้

1. Polyphonic Perio (ค.ศ. 1200-1650) ยุคนี้เป็นยุคแรก วิวัฒนาการมา
เรื่อยๆ จนมีแบบฉบับและหลักวิชการดนตรีขึ้น วงดนตรีอาชีพตามโบสถ์ ตามบ้านเจ้า
นาย และมีโรงเรียนสอนดนตรี

2. Baroque Period (ค.ศ. 1650-1750) ยุคนี้วิชาดนตรีได้เป็นปึกแผ่น มี
แบบแผนการเจริญด้านนาฏดุริยางค์ มีมากขึ้น มีโรงเรียนสอนเกี่ยวกับอุปรากร (โอ
เปร่า) เกิดขึ้น มีนักดนตรีเอกของโลก 2 ท่านคือ J.S. Bach และ G.H. Handen

3.Classical Period ( ค.ศ. 1750-1820 ) ยุคนี้เป็นยุคที่ดนตรีเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่
มีความรุ่งเรืองมากขึ้น มีนักดนตรีเอก 3 ท่านคือ HaydnGluck และMozart

4. Romantic Period ( ค.ศ. 1820-1900 ) ยุคนี้มีการใช้เสียงดนตรีที่เน้นถึง
อารมณ์อย่างเด่นชัดเป็นยุคที่ดนตรีเจริญถึงขีดสุด เรียกว่ายุคทองของดนตรี นักดนตรี
เช่น Beetoven และคนอื่นอีกมากมาย

5.Modern Period ( ค.ศ. 1900-ปัจจุบัน ) เป็นยุคที่ดนตรีเปลี่ยนแปลงไป
มาก ดนตรีประเภทแจ๊ส (Jazz) กลับมามีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน

5

ศัพท์สังคีตในดนตรีสากล

ศัพท์สังคีตบอกความเร็ว


- Grave ช้ามากที่สุด ช้างอย่างโศกเศร้า Lento ช้ามาก

- Largo ช้าอย่างสง่างาม Largamente ช้าอย่างสง่างาม

- Larghetto ช้า (น้อยกว่า Largamente) Adagio ช้าตามสบาย

- Andante ช้าพอประมาณ เท่าจังหวะก้าวเดิน Andatino ช้าน้อยกว่า

Andante

- Moderato ปานกลาง Allegretto ค่อนข้างเร็ว

- Allegro เร็วมีชีวิต Vivo, Vivace เร็ว มีชีวิตชีวา

- Presto เร็วมาก Prestissimo เร็วเท่าที่จะเร็วได้

- Tempo di Marcia เร็วเท่าเดินแถว จังหวะตามสบาย Tempo comodo

เร็วปานกลาง

- Tempo ordinarioM.M. = 100 ใน 1 นาทีตั้งเมโทรนอมให้เคาะได้ 100

เคาะ

ศัพท์สังคีตบอกความเข้มเสียง
- Crescendo (cres.) ให้เร่งเสียงดังขึ้นเป็นลำดับ Decrescendo

(decres.) ให้ผ่อนเสียงเบาลงเป็นลำดับ
- Diminuendo (dim.) ให้ทำเสียงเบาลงกว่าเดิม Forte (f) ให้ทำเสียงดัง
- Fortissimmo (ff) ให้ทำเสียงดังมาก Mezzo forte (mf) ให้ทำเสียง

ดังพอปานกลาง
- Mezzo piano (mp) ให้ทำเสียงเบาพอปานกลาง Piano (p) ให้ทำเสียง

เบา
- Pianissimo (pp) ให้ทำเสียงเบามาก Forte - piano (fp) ให้ทำเสียง

เน้นและห้วน
- Canlando ให้ค่อยๆ ทำเสียงเบาและช้าลง Mancando ให้ทำเสียงแผ่ว

หาย
- Morendo ให้ทำเสียงแผ่วหาย Perdendosi ให้ทำเสียงแผ่วหาย
- Smorzando ให้ทำเสียงแผ่วหาย Sforzando ให้เน้นเสียงอย่างฉับพลัน
- Forzato ให้เน้นเสียงอย่างฉับพลัน

6

ศัพท์สังคีตบอกความเร็วจังหวะ
- Accelerado (accel.) ให้ค่อยๆ เร่งจังหวะ Ritardando (ritard.) บอก

ให้ค่อยๆ ผ่อนจังหวะ
- Rallentando (rall.) บอกให้ค่อยๆ ผ่อนจังหวะ Ritenuto (rit.) บอกให้

ค่อยๆ ผ่อนจังหวะ
- Ad libitum (ad lib.)ให้เล่นได้ตามความพอใจ (อยู่ใน key นั้นๆ ตาม

กำหนดห้อง)
- A tempo, Tempo ให้กลับไปใช้ความเร็วจังหวะอัตราเดิม Allargando

บอกให้เพิ่มความเร็วและดัง
- Calando บอกให้ค่อยๆ เพิ่มความเร็วและความดัง Stretto บอกให้เพิ่ม

ความเร็ว
- Stringendo ให้เพิ่มความเร็ว Tempo rubato อนุญาตให้ผู้บรรเลงยืดหด

อัตราของตัวโน้ตได้
- Tempo primo ให้กลับไปใช้อัตราจังหวะเดิม Tempo giusto ให้ควบคุม

อัตราจังหวะอย่างเคร่งครัด
- Doppio movimento บอกให้ทำความเร็วเป็น 2 เท่า

7

แบบฝึกหัด

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

บรรณานุกรม

นำมาจากแบบฝึกหัดม.6


Click to View FlipBook Version