The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

5. ต้นประดู่คู่บ้าน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Fah Suppalak, 2023-04-05 03:56:45

5. ต้นประดู่คู่บ้าน

5. ต้นประดู่คู่บ้าน

ศูนย์พัฒนาทักษะภาษาเพื่อการสื่อสาร กศน.ตำบลท่าม่วง ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา วรรณกรรมชุมชน “ตำนานบ้านท่าม่วง”


สารบัญ เรื่อง 1. ตำนานบ้านท่าม่วง 2. สีละ ศิลปะการต่อสู้จากครูอิสะแอ 3. เรื่องเล่าข้าวช่อขิง 4. กรุอานบ้านท่าม่วง 5. ต้นประดู่คู่บ้าน 6. หมอต่อกระดูกบ้านห้วยปลิง 7. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน ตำนานหลุมทวด 8. เครื่องจักรสานยายณี 9. หนมเจาะหูผักพื้นบ้าน 10. ตาไสวหมอไหว้เจ้าที่


ผู้เล่าเรื่อง นายสามารถ หวังสา ผู้เก็บข้อมูล นางสาวปิยะรัตน์ จันทร์เพชร , นางสาวธนวรพรรณ ทองจันทร์ ผู้ให้ข้อมูล นายสามารถ หวังสา ปีเกิด ๒๕๐๖ ปัจจุบันอายุ๖๐ ปี มีอาชีพ รับจ้าง จบการศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นผู้ที่มีความสามารถสมดังชื่อ ทำหน้าที่เป็น ประธานหมู่บ้าน พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนด้วยความภาคภูมิใจ ให้กับทุกคนที่แวะ มาสอบถาม คำขวัญหมู่บ้านกระอาน “สามประดู่คู่บ้าน อัรกุรอ่านล้ำค่า ยางพาราล้นหลาม ข้าวงามน้ำดี สามัคคี สองวัฒนธรรม” วรรณกรรมชุมชน “ตำนานบ้านท่าม่วง ต้นประดู่คู่บ้าน


ประดู่คู่บ้าน เป็นการเรียกขานต้นประดู่ จำนวน ๓ ต้น ที่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านกระอาน หมู่๔ ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา หากท่านใดได้มีโอกาส เข้าไปในบริเวณดังกล่าว จะเห็นต้นประดู่ ๓ ต้น ตั้งตระหง่าน สูงใหญ่ กลางทุ่งนา มองแล้วสวยงามยิ่งนัก โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคม จะเบ่งบาน ชูช่ออวดดอกเหลืองสะพรั่งไปทั่วทั้งต้น อีกทั้งความสวยงามของดอกประดู่ที่มีสีเหลืองสด ตัดกับใบสีเขียวเข้ม และตัดกับสีเขียวของทุ่งนา ทำให้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และยัง ส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งบริเวณนั้น ตำแหน่งของประดู่ทั้งสามต้น หากวัดจากโคนต้น แต่ละต้นจะอยู่ห่างกัน วัดได้เป็นมุม สามเหลี่ยม เมื่อขับรถไปถึง จะพบกับต้นประดู่ ต้นแรก อยู่ด้านขวามือของถนน ด้านซ้ายมือเป็นศาลาที่ พระอธิการสุข บุญยะสะโร ได้สร้างไว้ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันได้รับการบูรณะซ่อมแซมให้มีสภาพพร้อมใช้มาโดยตลอด ครั้งเมื่อพระพะยอม กัลป์ยาโณ ได้มาปฏิบัติศาสนกิจ ณ บ้านกระอาน ท่านได้แวะมายัง บริเวณนี้เช่นกัน ต้นที่สอง ห่างจากต้นแรกแรกประมาณ ๑๐ เมตร ด้านซ้ายมือของถนน และต้นที่สามตั้งอยู่ทางด้านขวามือของถนน วัดความกว้างรอบต้น แต่ละต้น มีขนาด รอบลำต้น ไม่ต่ำกว่า ๗ เมตร ความสูงแต่ละต้นไม่ต่ำกว่า ๑๕ เมตร


หากสอบถาม ว่าใครเป็นคนปลูก แต่ละท่านในหมู่บ้าน ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกัน ว่าไม่ทราบได้ เนื่องจากดูจากลักษณะของต้นประดู่แล้วนั้น น่าจะมีอายุร่วม๑๐๐ ปี ที่มั่นใจ ได้ถึงอายุของต้นประดู่ ก็ทราบมาจาก นายสามารถ หวังสา ที่ไปสอบถาม จากผู้เฒ่าผู้แก่ ในหมู่บ้าน ถึงความเป็นมาของต้นประดู่ทั้ง ๓ ต้น ผู้เฒ่าผู้แก่ก็ตอบว่า ตั้งแต่จำความได้นั้น ก็เห็นต้นประดู่ทั้งสามต้น อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเช่นกัน ถัดจาก ประดู่ทั้งสามต้น ประมาณ ๑๕ เมตร ปรากฎมหลุมฝังศพอยู่ ๑ หลุม ชาวบ้านเรียกกันว่า หลุมทวด ในอดีต หากมีขบวนการค้าใดเดินทางผ่านมา จะต้องแวะทำความเคารพต่อหลุมฝังศพท่านทวด หาก เป็นขบวนของมโนราห์หรือการแสดงใดๆ ก็จะต้องมีการแสดงถวายหน้าหลุมท่านทวดก่อน เดินทางผ่าน หรือนักดนตรีท่านใดจะต้องไปทำการแสดง ณ ที่ใด และต้องเดินทางผ่าน เส้นทางนี้ เชื่อกันว่าที่ตั้งของต้นประดู่ทั้งสามต้น และหลุมทวดนั้น อยู่บริเวณเส้นทางผ่านการค้า ที่สำคัญ เนื่องจากบริเวณบ้านกระอานเป็นพื้นที่รอยต่อจากจังหวัดปัตตานี ซึ่งจังหวัดปัตตานี ในอดีตก็เป็นเมืองท่าทางการค้าที่สำคัญ


ชื่อวิทยาศาสตร์-Pterocarpus indicus Wild. ชื่ออื่นๆ -ประดู่บ้าน,ดู่ป่า(เหนือ),ดู่ ชื่ออื่นๆ(อังกฤษ) Burma Padauk ลักษณะทั่วไป เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ ๑๐-๒๕ เมตร ผิวเปลือกลำต้นมีสีดำหรือเทา ลำต้นเป็นพูไม่กลม ตากิ่งก้านสาขากว้าง มีเรือนยอดทึบแตก เป็นสะเก็ดร่องตื้นๆ ใบ-เป็นช่อแตกออกจากปลายกิ่ง มีใบย่อยประกอบอยู่ประมาณ ๖-๑๒ ใบ ลักษณะ ของใบเป็นรูปมนรี ปลายใบแหลมโคนใบมน ขอบใบเรียบเป็นมันสีเขียว ใบมีขนาดยาว ประมาณ ๒-๓ นิ้ว กว้างประมาณ ๑-๒ นิ้ว ดอก-ออกเป็นช่อบริเวณโคนก้านใบหรือปลายกิ่ง ช่อดอกมีขนาดใหญ่ สีเหลืองแต่ดอก เล็ก ส่งกลิ่นหอมไกลออกดอกก่อนฤดูฝน ดอกจะบานพร้อมกันโรยพร้อมกัน ผล-มีขนเล็กๆปกคลุม ขนาดผลโตประมาณ ๔-๖ เซนติเมตร


ประโยชน์ เนื้อไม้ ต้มกินแก้ไข้ เสมหะ เลือดกำเดาไหล ใบอ่อนใช้พอกแผลให้แห้งเร็ว แก้ผดผื่น คัน ยางไม้ แก้โรคท้องเสีย เนื้อไม้ประดู่นำไปใช้ในงานก่อสร้างทั้งภายในและภายนอกอาคาร เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานสูง เนื้อไม้มีสีสวยงาม สีแดงอมเหลืองถึงสีแดงอิฐเข้ม มีเส้นสี แก่กว่าสีพื้น เสี้ยนสนเป็นริ้วไสกบตบแต่งชักเงาได้ดี จากการเปรียบเทียมกับไม้สักที่ประเทศ พม่าพบว่าไม้ประดู่มีความแข็งมากกว่าไม้สัก 2 เท่า และหนักกว่าร้อยละ 24 ค่าความแข็ง 925 กก. และมีความทนทานตามธรรมชาติ (การทดลองฝังดิน) เฉลี่ย 14 ปี ดังนั้นการใช้ไม้ ประดู่ในการก่อสร้างจึงเป็นไปอย่างกว้างขวาง ตลอดจนการทำเฟอร์นิเจอร์เครื่องมือ เครื่องใช้ส่วนไม้ขนาดเล็กใช้ทำไม้ปาร์เก้ไม้ประสานแผ่นชิ้นไม้อัด แผ่นไม้ชุบซีเมนต์ได้ฟืน และถ่านไม้ประดู่ให้ความร้อน 5,022 และ 7,539 แคลอรี่ต่อกรัมตามลำดับ เปลือกไม้ ประดู่ใช้ย้อมผ้าได้และให้น้ำฝาดสำหรับฟอกหนังแก่นให้สีดำคล้ำใช้ย้อมผ้า ประโยชน์ในเชิงอนุรักษ์ ประดู่เป็นไม้เรือนยอดกลมโต แข็งแรงจะช่วยป้องกันลมและ คลุมดิน ให้ร่มเย็นชุ่มชื้นและรองรับน้ำฝนลดแรงปะทะหน้าดินน้อยลงประกอบกับระบบราก หยั่งลึกแผ่กว้าง เช่นเดียวกับเรือนยอด จะช่วยยึดดินไม้ให้พังทลายได้ง่ายและรากมีปมใหญ่ ช่วยตรึงไนโตรเจนในอากาศมาเก็บไว้ในรูปไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ได้อีกด้วย ใบหนาแน่น เมื่อร่วงหล่นผุพัง เพิ่มธาตุอาหารอินทรียวัตถุแก่ดินอย่างมาก


ความเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นประดู่ไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดพลังแห่งความ ยิ่งใหญ่เพราะ ประดู่คือ ความพร้อม ความร่วมมือ ร่วมใจสามัคคี มีพลังเป็นอันหนึ่งอัน เดียวกัน นอกจากนี้ดอกของประดู่ยังมีลักษณะที่ระดมกันบานเต็มต้นดูลานตา ดังนั้นคน โบราณจึงได้เลือกเอาต้นประดู่เป็นไม้ประจำกอง กองทัพเรือ และคนไทยโบราณยังเชื่ออีกว่า ส่วนของแก่นไม้ยังใช้เป็นศิลปะการดนตรีที่สำคัญของคนพื้นเมืองในสมัยโบราณอีกด้วย คือใช้ทำเป็นเครื่องเสียงพวกระนาด นั่นก็หมายถึง ความแข็งแกร่ง แข็งแรง สัญลักษณ์ • ดอกประดู่เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพเรือไทย • ดอกประดู่เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดชลบุรีจังหวัดระยอง และ จังหวัดอุตรดิตถ์ • ต้นประดู่เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต • ดอกประดู่เป็นดอกไม้ประจำชาติพม่า • ดอกประดู่เป็นสัญลักษณ์และต้นไม้ประจำโรงเรียนวัดป่าประดู่ • ประดู่เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน • ประดู่เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ • ประดู่เป็นต้นไม้ประจำวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้ • ประดู่เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนเซนต์ราฟาแอล • ประดู่เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนดรุณากาญจนบุรี • ประดู่เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น • ประดู่เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนสตรีประเสริฐศิลป์ ผู้บันทึก 1.นางสาวปิยะรัตน์ จันทร์เพชร ครู 2.นางสาวธนวรพรรณ ทองจันทร์ ครูอาสาสมัครฯ


ภาพประกอบ


นายสามารถ หวังสา ประธานชุมชน ซ้าย นางสาวนาถฤดี จิตภักดี ครูอาสาสมัคร กลาง นายสามารถ หวังสา ประธานชุมชน ซ้าย นางสาวนาถฤดี จิตภักดี ครูอาสาสมัคร ขวา นางสาวปิยะรัตน์ จันทร์เพชร ครู


วรรณกรรมชุมชน “ตำนานบ้านท่าม่วง”


Click to View FlipBook Version