คํานาํ
1. หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ E-Book เรอ่ื ง ประวตั ิและกติกา กีฬาแชรบ์ อล ปจั จบุ ันกฬี าแชร์บอลเป็นท่ี
แพรห่ ลาย และได้รบั ความสนใจเน่อื งจากกีฬาแชร์บอลนน้ั เลน่ ไดง้ า่ ยเหมาะกับการสร้างความ
สามัคคี ซง่ึ ในรายงานฉบับนีป้ ระกอบด้วย ประวัติ กตกิ า อุปกรณ์ และรายละเอียดอนื่ ๆ เกย่ี วกับ
กีฬาแชร์บอลทัง้ ส้นิ
2. ผ้จู ัดทาํ หวงั เปน็ อย่างยิ่งวา่ หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ เรอื่ ง ประวัตแิ ละกติกา กฬี าแชรบ์ อล จะเปน็
ประโยชน์ตอ่ ผ้ทู ศ่ี กึ ษาหรอื ผูท้ ส่ี นใจเปน็ อยา่ งมาก หากมขี อ้ ผิดพลาดประการใดขอ อภัย ณ ทีน่ ี้
ด้วย
ก
คํานาํ สารบญั ก
สารบญั ข
ประวตั ิกีฬาแชรบ์ อล ข 1
วธิ ีการเล่นแชรบ์ อล 3
กตกิ าแชรบ์ อล 5
อุปกรณ์การแขง่ ขนั 6
เวลาการแข่งขนั 7
ผู้เลน่ 8
ผู้ปอ้ งกันตะกร้า 9
เขตผ้ปู อ้ งกันตะกร้า 10
การเล่นลูกบอล 11
ผู้ตัดสิน 12
13
. ผทู้ ่ีคดิ ค้นกีฬาแชร์บอลช้ึนมา คอื พันเอกมงคล พรหมสาขา ณ สกลนคร และไดม้ กี ารพฒั นาข้นึ มา
ตามลําดับ กฬี าแชรบ์ อลเปน็ กฬี าพืน้ ฐานของกฬี าหลาย ๆ ชนิด เชน่ บาสเกตบอล แฮนด์บอล และเนตบอล
เป็นกีฬาท่เี ล่นง่าย ไม่จํากดั เพศ และสถานทเ่ี ล่น อกี ท้ังอุปกรณ์ในการเลน่ สามารถนาํ วสั ดตุ า่ ง ๆ รอบตัวมา
ดัดแปลงเพือ่ ความเหมาะสมได้
โดยจุดประสงคข์ องกีฬาแชรบ์ อล คือ ผูเ้ ลน่ แต่ละฝา่ ยช่วยกันรับสง่ ลกู บอลให้ผูเ้ ล่นฝา่ ยเดยี วกัน
นําลูกบอลผา่ นฝา่ ยตรงขา้ มโยนลงไปในตะกรา้ ของฝา่ ยตนเองท่ยี ืนรอรบั อยูข่ า้ งหน้า(ด้านหลังของฝา่ ยตรงขา้ ม)
โดยโยนให้เขา้ ตะกรา้ ให้มากทส่ี ุด และในทางตรงกนั ข้ามอีกฝ่ายกจ็ ะตอ้ งปอ้ งกนั ไม่ให้ลูกบอลส่งข้ามไปเข้าตะกรา้
เชน่ กนั
1
ปัจจุบนั กีฬาแชรบ์ อลเป็นกฬี าทนี่ ยิ มเล่นกนั อย่าง
แพรห่ ลาย ไม่เพียงแตเ่ ล่นหรือแขง่ ขันภายในโรงเรยี นประถมศกึ ษา
และมัธยมศกึ ษาเท่าน้ัน หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน
ตา่ งก็ให้ความสนใจนิยมเลน่ กัน และมกี ารแข่งขันทงั้ ภายใน
หน่วยงานหรอื ระหวา่ งหน่วยงาน เนือ่ งจากกีฬาแชร์บอลเป็นสื่อ
อยา่ งหนึง่ ทจ่ี ะช่วยให้เชือ่ มความสามัคครี ะหวา่ งกันไดเ้ ปน็ อย่างดี
2
การเล่นแชร์บอลประกอบด้วยผู้เล่น 2 ทีม ทีมละ 7 คน
ตวั สํารอง 5 คน การเล่นแชร์บอล ไม่ไดม้ ตี าํ แหนง่ ที่ชัดเจน
เหมือนฟุตบอล หรือบาสเกตบอล เนอ่ื งจากสนามแชร์
บอลคอ่ นข้างเล็ก ผู้เล่นในสนามจะต้องสามารถ
ปรบั เปลยี่ นตาํ แหนง่ กนั ได้ตลอดเวลา ยกเวน้ สองตาํ แหน่ง
ทีไ่ ม่เปล่ียนกันมาก คือ ผู้เลน่ ท่ีถอื ตะกร้า และผเู้ ล่นท่ี
ปอ้ งกนั ตะกรา้ โดยมีชื่อเรยี กตาํ แหน่งต่าง และการยืน
ตําแหนง่ ดังน้ี
3
1.ผปู้ อ้ งกนั ตะกรา้ มีหน้าท่ปี อ้ งกนั ไมใ่ หล้ ูกลงตะกร้า ผู้เล่นตําแหน่งนี้จะต้องรูปร่าง
สงู และมที ักษะการกระโดดท่ีดี กระโดดได้สูง เพอ่ื จะทํา ให้ได้เปรยี บในการปอ้ งกัน
2.กองหลังด้านซ้ายและขวา มีหน้าท่ีหลักในการป้องกันการทํา ประตูของฝ่ายตรง
ข้ามและเช่ือมเกมระหว่างผู้ป้องกันตะกร้ากับกองกลางหรือกองหน้า ผู้เล่นตําแหน่งนี้จะต้อง
รูปรา่ งสงู
3.กองกลาง มีหน้าท่ีเชื่อมเกมระหว่างกองหลังกับกองหน้าจะต้องเป็นผู้เล่นที่มี
ความคล่องตัวสงู รวดเรว็ ว่องไว มีทกั ษะการรับ-ส่งบอลท่ีดสี ามารถทาํ ประตรู ะยะไกลไดด้ ี
4.กองหน้าด้านซ้าย และขวา มีหน้าท่ีทํา ประตู รูปร่างได้ท้ังตัวเล็ก และตัวสูง แต่
ต้องเป็นผู้เล่นทมี่ ีทักษะการยิงประตทู ่ีดี แม่นยํา ยงิ ประตรู ะยะใกล้ และระยะไกลไดด้ ี
5.ผถู้ ือตะกร้า มีหน้าท่ีถือตะกร้าเพ่ือรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมโดยจะต้องยืนอยู่บน
เก้าอี้ตลอดเวลา
4
1. สนามแชร์บอล
1.1 สนามเป็นรูปสเี่ หลีย่ มผนื ผ้า กวา้ ง 16 เมตร (เส้นหลัง) ยาว 32 เมตร (เส้นขา้ ง) สนามแบง่ เปน็ สองสว่ นเทา่ ๆ กัน
ดว้ ยเส้นแบ่งแดน ขนาดสนามนี้จะเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยมีบริเวณเขตรอบสนามอย่างนอ้ ย 1
เมตร ถ้าเป็นสนามในรม่ ความสูงจากพืน้ สนามขนึ้ ไปไมค่ วรน้อยกว่า 6 เมตร
1.2 วงกลมกลางสนาม ทีจ่ ดุ กึง่ กลางของเส้นแบ่งแดน ให้เขียนวงกลมรศั มี 1.80 เมตร
1.3 เขตผูป้ อ้ งกนั ตะกรา้ ทจ่ี ุดก่ึงกลางของเส้นหลงั ทั้งสองด้าน เขยี นครง่ึ วงกลม รศั มี 3.00 เมตร ในสนามเล่น เขตน้ี
เรียกว่า เขตผู้ปอ้ งกันตะกร้า
1.4 เส้นโทษ ถดั จากจุดกงึ่ กลางเสน้ หลังเข้าไปในสนาม 8.00 เมตร ลากเสน้ ให้ขนานกับเส้นหลังยาว 50 เซนตเิ มตร
(โดยลากให้ก่งึ กลางของเส้นอย่ทู กี่ ึ่งกลางของความกว้าง)
1.5 เสน้ ทกุ เสน้ กวา้ ง 5 เซนติเมตร (สีขาว) และเปน็ ส่วนหน่ึงของเขตน้ัน
5
2.1 เกา้ อ้ี เป็นเกา้ อี้ชนดิ 4 ขา มคี วามแข็งแรงม่นั คง ไม่มีพนักพงิ สูง 35-40
เซนติเมตร ขนาดของทน่ี ัง่ กว้าง 30-35 เซนติเมตร หรือเป็นเกา้ อีท้ มี่ ีขนาด
ใกล้เคียงและเปน็ ชนดิ เดยี วกันทั้งสองตวั เก้าอี้นี้วางไว้ท่ีจดุ กึ่งกลางของเส้นหลงั
โดยให้ขาหน้าของเก้าอที้ งั้ สองขาวางอยบู่ นเสน้ สนาม
2.2 ตะกรา้ ขนาดสูง 30-35 เซนตเิ มตร ปากตะกรา้ เป็นรปู ทรงกลม มี
เสน้ ผ่าศูนย์กลาง 30-35 เซนติเมตร ทาํ ด้วยหวายท่ีไม่กอ่ ให้เกดิ อนั ตรายตอ่
ผเู้ ลน่ หรอื วัสดุอื่น ๆ ที่ไม่เกดิ อันตราย มนี ํ้าหนกั เบาเทา่ กนั
2.3 ลูกบอล ใช้ลูกแชร์บอล หรอื ลกู ฟุตบอลขนาดเบอร์ 4-5 หรือลกู ท่ีฝ่ายจัดการแขง่ ขนั รบั รอง
ซ่งึ ฝ่ายจัดการแขง่ ขนั จะต้องแจง้ ให้ผแู้ ข่งขันทราบก่อนในระเบยี บการแขง่ ขนั
2.4 นาฬกิ าจบั เวลา 2 เรอื น ใชส้ าํ หรบั จบั เวลานอก และเวลาแข่งขัน
2.5 ใบบันทึกการเขง่ ขัน
2.6 ป้ายคะแนน
2.7 สัญญาณหมดเวลาการแข่งขนั (นกหวีด ระฆงั กริง่ ฯลฯ)
2.8 ปา้ ยบอกจาํ นวนครง้ั ของการฟาวล์ (ถา้ ม)ี
6
3.1 เวลาการแข่งขัน 3.2 เวลาการ 3.3 เมือ่ เร่มิ แขง่ ขัน 3.4 เวลานอก ให้ 3.5 การต่อเวลาการ
แบง่ ออกเป็น 2 ครึ่ง แข่งขันเรม่ิ ขน้ึ เมือ่ ครึ่งเวลาหลงั และ แต่ละทีมขอเวลา แข่งขัน เม่ือผลการ
คร่ึงละ 20 นาที พัก ผู้ตดั สินได้โยนลูก เวลาเพิ่มพิเศษแต่ นอกไดค้ รึ่งเวลาละ แขง่ ขนั เสมอกัน ให้
ระหวา่ งครึง่ 5 นาที บอลขน้ึ ระหว่างผู้ ละช่วงให้เปลย่ี น 2 ครัง้ ครั้งละ 1 ตอ่ เวลาเพมิ่ พเิ ศษอีก
(เวลาการแข่งขนั น้ี เลน่ สองคนของแต่
อาจเปลย่ี นแปลงได้ ละฝา่ ยทีอ่ ยใู่ น แดนกัน นาที ชว่ งละ 5 นาที
ตามความเหมาะสม วงกลม และลูกบอล จนกว่าจะมผี ลแพ้
กับนกั กฬี า โดยตอ้ ง ได้ถูกผู้เล่นฝ่ายใด 7 ชนะกันหรือจะมี
แจง้ ไวใ้ นระเบียบการ ข้อตกลงเปน็ อยา่ ง
ฝา่ ยหนึ่งแล้ว
แข่งขันก่อน) อื่น
4.1 ชดุ หนึ่งประกอบไปด้วยผ้เู ลน่ 12 คน เป็นผู้เล่นในสนาม 7 คน ผเู้ ล่นสาํ รอง 5 คน ผู้เลน่
สาํ รองและเจ้าหน้าท่ปี ระจาํ ทีม ตอ้ งน่ังทท่ี ่คี ณะกรรมการจัดไว้ให้
4.2 เม่อื เร่ิมทาํ การแขง่ ขัน ต้องมผี ู้เล่นในสนามฝา่ ยละ 7 คนและในระหวา่ งการแขง่ ขนั ฝ่าย
ใดฝ่ายหนง่ึ มีผู้เล่นนอ้ ยกวา่ 5 คน ให้ปรบั แพ้
4.3 ผู้เลน่ สาํ รองจะเขา้ เล่นได้ เมือ่ ได้รับอนญุ าตจากผู้ตดั สนิ และตอ้ งทาํ การเปล่ยี นตวั ที่
บรเิ วณเส้นแบง่ แดนด้านเดียวกบั โตะ๊ เจ้าทจี่ ัดการแขง่ ขัน (เขตเปล่ียนตวั )
4.4 ผ้เู ลน่ แตล่ ะชุดตอ้ งสวมเส้อื ที่ม่สี ีเดยี วกัน และตดิ หมายเลขทีด่ า้ นหน้า ขนาดสูงไมน่ อ้ ย
กว่า 10 เซนตเิ มตร ท่ดี า้ นหลงั ขนาดสูงไมน่ ้อยกว่า 20 เซนติเมตร ใชห้ มายเลข 1 - 12
สีของหมายเลขต้องแตกตา่ งจากสีเสอ้ื อย่างชดั เจน
4.5 หา้ มผู้เล่นสวมเคร่ืองประดบั ที่อาจกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายตอ่ ผอู้ ่ืน
8
5.1 ผปู้ อ้ งกนั ตะกร้าเพียงคนเดยี วเท่านนั้ ที่มีสิทธ์เิ ขา้ ไปในเขตปอ้ งกนั ตะกร้าได้
5.2 ผู้ปอ้ งกันตะกร้าสามารถเคลอื่ นท่ีไปในเขตปอ้ งกนั ตะกรา้ พรอ้ มกับลูกบอลได้ โดยปราศจาก
ขอ้ จาํ กัด ภายในเวลา 3 วินาที
5.3 ผู้ปอ้ งกนั ตะกร้าสามารคออกมารว่ มเล่นในสนามเล่นได้แต่ต้องปฏบิ ตั ติ นเหมอื นผูเ้ ล่นในสนามท่วั
ๆ ไป
5.4 การเปลีย่ นแปลงตาํ แหนง่ ผูป้ อ้ งกันตะกรา้ โดยไม่แจ้งและละเมิดกตกิ าอยา่ งรา้ ยแรง ผ้ตู ดั สนิ จะให้
ออกจากการแขง่ ขัน (ไลอ่ อก)
9
6.1 ตอ้ งอยบู่ นเกา้ อ้พี รอ้ มกบั ตะกร้า
6.2 ไม่มสี ทิ ธเ์ิ ขา้ รว่ มเล่นกบั ผู้เลน่ ในสนามขณะกําลงั แขง่ ขัน (ส่งขา้ ง)
6.3 ห้ามใชต้ ะกรา้ หรอื สว่ นหนงึ่ ส่วนใดของรา่ งกาย กดี กันการป้องกนั ของผูป้ อ้ งกันตะกรา้ (ส่งขา้ ง)
6.4 สามารถเคล่อื นไหวตะกรา้ ไดท้ ุกลกั ษณะ
6.5 ผู้ถอื ตะกร้า ตอ้ งใช้ตะกร้ารบั ลูกบอลจากการยงิ ประตูทุกลกั ษณะทิศทาง และตอ้ งทรงตวั อยู่บนเกา้ อี้ไดอ้ ย่างมนั่ คง
7.1 เขตปอ้ งกันตะกร้าเป็นพืน้ ทีข่ องปอ้ งกันตะกร้าเพยี งคนเดยี วเทา่ นน้ั
7.2 ผู้เลน่ ในสนามเข้าไปในเขตปอ้ งกนั ตะกรา้ จะถูกลงโทษดงั นี้
7.2.1 ฝ่ายปอ้ งกัน เขา้ ไปในขณะท่ีมีการยงิ ประตู ถ้าลกู บอลลงตะกร้าให้ไดค้ ะแนน ถ้าลกู บอลไมล่ งตะกรา้ ให้ยิงลกู โทษ
7.2.2 ฝ่ายปอ้ งกันเขา้ ไปในขณะท่ีไมม่ ีการยิงประตู (ส่งขา้ ง)
7.2.3 ฝ่ายรกุ เข้าไปในเขตป้องกนั ตะกร้าของฝ่ายตรงข้าม (สง่ ข้าง)
7.3 ลกู บอลที่วาง หรือกลิง้ อยใู่ นเขตปอ้ กนั ตะกรา้ เป็นผปู้ อ้ งกนั ตะกรา้ และจะต้องเล่นอย่างทนั ที
10
อนญุ าตใหผ้ ้เู ลน่ กระทํา ดังน้ี
8.1 จบั ตี ปดั กลงิ้ ส่ง หรอื ขว้างลูกบอลด้วยมอื แขน ศีรษะ หรือลําตวั บรเิ วณเหนือ
สะเอวขนึ้ ไป
8.2 ครอบครองลูกบอลดว้ ยมอื เดียวหรอื สองมือ หรอื กดลกู บอลทอ่ี ย่บู นพื้นสนาม
หรอื โยนลูกบอลขนึ้ ในอากาศไดภ้ ายในเวลาไม่เกิน 3 วนิ าที
8.3 ถือลกู บอลและเคล่ือนไหวไปมาไดด้ ้วยการหมุนตวั โดยมเี ทา้ หลัก
8.4 กระโดดรับ ส่ง หรอื ยงิ ประตู
8.5 ใชล้ าํ ตวั บงั คตู่ ่อสู้ ในขณะท่ีกาํ ลังครอบครองลกู บอลอยู่
11
9.1 จะนับคะแนนเมื่อลูกบอลไดล้ งตะกร้าจากการยงิ ประตโู ดยตรง โดยผ้ถู อื ตะกรา้ ต้องทรงตัวอยู่บนเก้าอี้อยา่ งม่ันคง และผู้
ตัดสินในสนามได้ให้สญั ญาณนกหวดี แล้ว
9.2 ผูเ้ ลน่ ฝ่ายป้องกนั พยายามป้องกนั โดยผิดกติกา ถา้ ลูกบอลลงตะกรา้ ใหน้ บั ว่าได้คะแนน
9.3 ถ้าผู้จบั เวลาให้สญั ญาณหมดเวลาการแขง่ ขันกอ่ นท่ลี กู บอลจะหลุดจากมอื ผยู้ ิงประตถู ือว่าไมไ่ ดค้ ะแนน
9.4 หลังจากลกู บอลลงตะกรา้ จาการยงิ ประตูธรรมดาหรือหลังจากการยิงโทษไดผ้ ล ผปู้ ้องกนั ตะกร้าต้องนําลกู บอลสง่ เขา้ เลน่
จากเขตปอ้ งกันตะกร้า
9.5 คะแนนท่ไี ดจ้ ากการยงิ ประตู มีค่า 2 คะแนน คะแนนทไี่ ด้จากการยิงโทษมคี า่ ครงั้ ละ 1 คะแนน
9.6 ฝา่ ยท่ีทาํ คะแนนไดม้ ากกว่าเป็นฝา่ ยชนะในการแข่งขัน
12
14.1 การแข่งขันครง้ั หนง่ึ ประกอบดว้ ยผตู้ ดั สนิ 2 คน
14.2 ผูต้ ดั สินมีหนา้ ท่ีควบคุมการแข่งขัน ตง้ั แตเ่ ร่ิมเลน่ จนถงึ สน้ิ สุดการแขง่ ขนั
14.3 ผตู้ ัดสนิ ต้องทาํ การเสย่ี งเพือ่ เลือกแดนตอ่ หน้า หวั หน้าชดุ ทัง้ สองทมี
14.4 ขณะทําการแขง่ ขนั ถ้าผู้ตัดสนิ ไมส่ ามารถทําการตดั สนิ ไดต้ ลอดการแขง่ ขัน คณะกรรมการจดั การแขง่ ขันสามารถจดั หา
ผตู้ ดั สินสาํ รองเขา้ ทําหน้าที่แทนได้ หรืออาจปฏบิ ัตหิ น้าท่เี พยี งคนเดียวถ้าไม่สามารถหาผูอ้ ่ืนแทนได้
14.5 ผู้ตัดสินเปา่ นกหวีดเมอื่
14.4.1 ลูกออก
14.4.2 มีการทําผดิ กตกิ าทุกชนิด
14.4.3 มกี ารยิงประตโู ทษไดผ้ ล
14.4.4 มีการใหเ้ วลานอก
14.4.5 หมดเวลานอก
14.4.6 เกดิ การบาดเจ็บ
14.4.7 เกิดลกู ยึด
14.4.8 ผูต้ ดั สนิ ขอเวลานอก
14.4.9 หมดเวลาการแขง่ ขัน
14.4.10 การเตอื นและอ่ืน 13