ฆ้องวงใหญ่
ประวัติ • ประวัติที่มาของฆ้องวงใหญ่ • ฆ้อง ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๕ให้ความหมายไว้ว่า “ ฆ้อง ” คือ เครื่องตีให้เกิดเสียงอย่าง หนึ่ง ท าด้วยโลหะผสม รูปร่างเป็นแผ่นวงกลมงองุ้มลงมารอบตัว มีปุ่มกลมตรงกลางส าหรับตี เรียกต่าง ๆ กันว่า ฆ้องวง ฆ้องชัย ฆ้องกระแต • เครื่องดนตรีตระกูลฆ้อง เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นใหญ่ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยแรก ๆ เพราะเป็น เครื่องโลหะที่ต้องมีการใช้เทคนิคชั้นสูง เพื่อหลอมโลหะผสมระหว่างทองแดงและแร่ธาตุต่าง ๆ ซึ่งสามัญชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์ เป็นเจ้าของ ฆ้องจึงเป็นเครื่องดนตรีในราชส านักมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ดังปรากฏหลักฐานจารึกในหนังสือไตรภูมิพระร่วง ดังนี้ • “ บ้างเต้น บ้างร า บ้างฟ้อน ระบ า บันลือเพลงดุระดนตรี บางดีด บางสี บ้างตี บ้างเป่า บ้างขับสัพพส าเนียง เสียงหมู่ นักคุนจุนกันไปเดียรดาษ พื้นฆ้องกลอง แตรสังข์ ระฆังกังสดาล มโหระทึกกึกก้อง ท านุกดี” (ต่อ)...
ประวัติ • และอีกตอนหนึ่งที่กล่าวชื่นชมพระบารมีของสมเด็จพระมหาจักรพัตราธิราชความว่า “แล้วแลร้อง ก้องขับเสียงพาทย์ เสียงพิณ แตรสังข์ ฟังเสียงกลองใหญ่ และกลองราม กลองเล็กและฉิ่งแฉ่ง บัณเฑาะว์วังเวง ลางคนตีกลอง ตีพาทย์ฆ้อง ตี กรับสัพพทุกสิ่ง....” นอกจากนี้ยังมีหลักฐานปรากฏอยูในหลักศิลาจารึกภูเขาสุมนกุฎ ว่า ทั้งสองปลากหนทางย่อมเรียง ขันหมากขันพลู บูชาพิลม ระบ า เต้น เล่นทุกฉัน ด้วยเสียงอันสาธุการบูชา อีกด้วยดูรยพาทพิณ ฆ้องกลองเสียงดัง สีพดั่ง ดินจักหล่มอันใส้” • ฆ้องจึงเป็นเครื่องดนตรีเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้น ต่อมาในสมัยกรุง รัตนโกสินทร์ รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เปลี่ยนชื่อจาก “ฆ้องวง” เป็น “ฆ้องวงใหญ่” เพราะมีผู้ประดิษฐ์ ฆ้องวงขึ้นมาอีกชนิดหนึ่งมีขนาดเล็กและเสียงแหลมสูงกว่าฆ้องวงเก่า จึงใช้ชื่อเรียกฆ้องวงชนิดเก่าว่า ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวง ชนิดใหม่ว่า “ฆ้องวงเล็ก” และใช้บรรเลงผสมวงคู่กันจนมาถึงปัจจุบัน ฆ้องกระแต ที่มา : ที่ระลึกงานดนตรีไทยอุดมศึกษาคร้ังที่๒๔ วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๓๙
ลักษณะและ ส่วนประกอบของฆ้องวง ใหญ่ ฆอ ้ งวงใหญ่ม ี ลกัษณะเป็ นวงกลม วงฆอง ้ ใช้ต้นหวายโป่ งท าเป็ นร้านดัดให้โค้งเป็ น วงมีลูกฆ้องเรียงตามความโค้งของตัว เร ื อนฆอ ้ งอยรู่อบตวัคนนงั่ช่องดานหลัง ้ เปิ ดเป็ นทางเข้าของคนตี เว้นไว้ประมาณ ๒๐ - ๓๐ เซนติเมตร
ฆอ ้ งวงใหญ ่ ม ี ส ่ วนประกอบท ี่สา คญัดงัน ้ ี ๑. ร้านฆ้อง ประกอบขึ้น เพื่อวางลูกฆ้อง มีความสูงประมาณ ๒๔ เซนติเมตร ประกอบด้วย ๑.๑ หวายโป่ง มี ๔ เส้น ความยาวเส้นละ ๔ เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ ๑ นิ้ว ใช้ดัดเป็นโครงสร้างส่วนนอกของฆ้องวง โดยใช้เป็นช่วงบน ๒ เส้น ช่วงล่าง ๒ เส้น ระยะช่วงล่างและช่วงบนสูงประมาณ ๒๔ ซม. ระหว่างหวายเส้นนอกกับหวายเส้นใน ด้านขวาสุดของร้านฆ้องห่างกันประมาณ ๑๔ซม. ด้านซ้ายสุดห่างกันประมาณ ๑๗ซม. ดัดเป็นวงโค้งรอบตัวคนตี เปิดช่องว่างด้านหลังคนตีห่างกันประมาณ ๒๐ – ๓๐ซม. ใช้ เหล็กเส้น ลูกมะหวด และไม้ถ่างวงฆ้อง เป็นตัวยึด โครงให้ได้รูปโครงสร้างที่สมบูรณ์ ๑.๒ เหล็กเส้นกลม มีความยาวประมาณเส้นละ ๔ เมตร ใช้วางขนานประกบคู่กับโครง หวายระยะกึ่งกลางของลูกมะหวด เพื่อยึดโครงหวายให้ได้ตามรูปและร้อยหนังผูกลูกฆ้อง ๑.๓โขนฆ้อง เป็นแผ่นไม้หนาประมาณ ๒ นิ้ว แกะสลักเป็นรูปลายไทย ลงลักปิดทองให้ดู สวยงาม เชื่อมติดประกบกับส่วนบนของหวายทั้งซ้าย ขวา เพื่อยึดร้านฆ้องให้ได้ตาม รูปทรงที่ต้องการ
• ๑.๔ ลูกมะหวด ใชไ้ มเ ้ น้ื อแขง ็ เสน ้ ผา่ศูนยก ์ ลางประมาณ 2 ซม. กลึงหรือ แกะสลกัเป็ นรูปสวยงามใชส้ า หรับยด ึ ตวัหวายท้งัเสน ้ นอกและเสน ้ ในของร้าน ฆ้อง สูงประมาณ 24เซ็นติเมตร กลึงลวดลายให้สวยงาม เป็ นตัวยึดหวายด้านบน และดา ้ นล่างใหไ้ ดค ้ วามสูงตามที่กา หนด ลูกมะหวดแต่ละลูกจดัใหห ้ ่างกนัห่าง กนั ประมาณ ๘ เซ็นติเมตร ฆ้องร้านหนึ่งมีลูกมะหวดประมาณ ๕๐ ลูก • ๑.๕ รังผ้ง ึ เป็ นไมไ้ ผเ่หลาเป็ นกา ้ นคลา ้ ยตะเกียบความยาวประมาณ ๒๔ เซ็นติเมตร (วดัระยะห่างของหวายเสน ้ นอกและเสน ้ ใน) ใชถ ้่างร ้ านฆอ ้ งเพ ื่อยึด ไม่ใหร ้้ านฆอ ้ งเสียรูปใช ้ เช ื่อมต่อกบัลูกมะหวดวงนอกและวงใน โดยเจาะรูตรง กลางลูกมะหวด ลูกมะหวดด้านในจะเจาะรู ๑ รูเพ ื่อสอดรังผ้ง ึ๒ อัน และถ่าง ออกเป็ นรูปตวัวีสอดติดกบัลูกมะหวด ๒ ลูกดา ้ นนอกเรียงกนั (ดังภาพ) ๑.๖ ไม่ถ่างฆอ ้ งใชไ้ มแ ้ ผน่หนาจา นวน ๓ - ๔ แผน่ยาวประมาณ ๗ นิ้วใช้ สา หรับยด ึ ถ่างตวัเร ื อนฆอ ้ งใหม ้ นั่คง ฆ้องวงใหญ่มีส่วนประกอบที่ส าคัญดังนี้
๒. ฆ้อง ประกอบด้วย ๒.๑ ลูกฆ้องท าด้วยโลหะทองเหลือง ผสม เนื้อลงหิน ทองแดง สังกะสี มีลักษณะเป็นทรง กลมลักษณะเป็น ๒ ชั้น รูปร่างคล้ายฉัตร ฐาน ที่แผ่ออกไปโดยรอบเรียกว่า “ฉัตรนอน” และ ขอบของฆ้องจะงองุมลงโดยรอบ เรียกว่า “ ฉัตรตั้ง”และ เจาะรูที่ฉัตรตั้งทั้ง ๒ ข้าง ๆ ละ ๒ รู เพื่อร้อยเชือกหนังวัว ท าปุ่มนูนขึ้นตรงกลาง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒นิ้ว ใช้ส าหรับตี ฆ้องวงใหญ่มีส่วนประกอบที่ส าคัญดังนี้
๒.๒ ตะกั่วเทียบเสียง ม ี ส่วนผสมของตะกวั่และข ้ ี ผ ้ ง ึใชส้ า หรับติดไว้ใต้ ปุ่มฆอ ้ งเพ ื่อถ่วงใหไ้ ดเ ้ส ี ยงตามตอ ้ งการโดยวธิี การนา ตะกวั่ผสมข ้ ี ผ ้ ง ึ ท ี่ เตร ี ยมไวส้ า หรับติดติดใตปุ้่มฆอ ้ ง ใส่ภาชนะท ี่ทนไฟต ้ งับนเตาไฟ ใช้ช้อน หร ื อเหลก ็ ท ี่ทนความร ้ อน สา หรับคนใหต ้ ะกวั่ละลายใหไ้ ดค ้ วามเหนียว พอประมาณ ต ้ งัใหอ ุ้่น จากน ้ นัจ ึ งหงายลูกฆอ ้ งนา ตะกวั่หยอดลงไปตาม สมควรเม ื่อตะกวั่เยน ็ ลงควา่ ลูกฆอ ้ งและเคาะเท ี ยบเส ี ยงใหไ้ ดตามต้องการ ้ ๒.๓ หนังผูกฆ ้ อง ใช้หนังวัวตัดเป็ นเส้นยาวผึ่งลมให้แห้ง และน ามาควนั่ เป็ นเกร ี ยวเจาะรูท ี่ฉตัรของลูกฆอ ้ งท ้ งั๒ ข้าง ๆ ละ ๒ รู เพื่อร้อยเชือกหนัง ววัซ่ึ งม ี ความเหน ี ยว ทนทานไม่ขาดง่ายผกูลูกฆอ ้ งใหย ้ ด ึ กบร้านฆ้อง ั
ฆอ ้ งวงใหญ่เป็ นเคร ื่องดนตร ี ท ี่ผสมอยใู่นวงปี่พาทยป์ ระเภทต่าง ๆ ไดแ ้ กวงปี่ ่ พาทย์ไม้แข็ง วงปี่ พาทย์ไม้นวม วงปี่ พาทย์ดึกด าบรรพ์ วงปี่พาทยเ ์ สภาและวงมโหร ี ม ี หนา ้ ท ี่ดา เนินทา นองเน ้ ื อเพลงท ี่เป็ นหลกัของวง มีไมส้ า หรับต ี เป็ นคู่ไมท ้ี่ใชส้ า หรับต ี ฆอ ้ งวงใหญ่ม ี๒ แบบ คือ ๒. ไม้นวม ส่วนหวัของไมพ ้ นัดว ้ ยผา ้ ทากาวและพนัดว ้ ยดา ้ ย หลาย ๆ ช ้ นัจนหนาและแนน่ พอเหมาะข ้ นัสุดทา ้ ยจะพนัดว ้ ยดา ้ ยส ี สวยงามและปิดดว ้ ยผา ้ อ ี กช ้ นัหน่ึ ง น ้ า หนกพอเหมาะมือ ด้ามที่ ั จับยาวประมาณ ๒๐ เซ ็ นติเมตรไมน ้ วม เหมาะสา หรับบรรเลงกบัวงปี่พาทยด ์ึ กดา บรรพ ์วงปี่ พาทย์ ไมน ้ วม และวงมโหร ี เพราะทา ใหเ ้ส ี ยงนุ่มนวลตามลกัษณะของวง ๑. ไม้แข็ง ทา ดว ้ ยแผน่หนงัดิบ ซ่ึ งนิยมใชห ้ นงัควายแผน่เด ี ยว ทา ใหน ุ้่มแลวตัดเป็ นวงกลมหนา ้ ประมาณ ๑ เซนติเมตร เจาะตรงกลางสอดด้ามไม้ส าหรับจับตีพอเหมาะมือ ใช้ในการบรรเลงวงปี่ พาทย์เสภา ปี่ พาทย์นางหงส์ ปี่ พาทย์มอญและการบรรเลงเดี่ยว เนื่องจากต้องการใช้ความดังของ เสียง และความเหมาะสมของการบรรเลง
หน้าที่ของฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงใหญ่ ประสมอยู่ในวงดนตรีประเภทต่าง ๆ ได้แก่ วงปี่พาทย์ ไม้แข็ง วงปี่พาทย์ไม้นวม วงปี่พาทย์ดึกด าบรรพ์ วงปี่พาทย์เสภา และวงมโหรี เมื่อบรรเลงรวมกันเป็นวง ฆ้องวงใหญ่จะมีหน้าที่ บรรเลงเพลงซึ่งเป็นท านองหลัก ดังนั้นจึงเรียกได้ว่า ฆ้องวงใหญ่มี หน้าที่เป็นหลักของวง
๑. ท าความสะอาดโดยใช้ผ้าสะอาดที่ใช้เฉพาะท าความสะอาดเครื่องดนตรีเช็ดลูกฆ้องและร้านฆ้องห้ามใช้เครื่องขัด ขัด ลูกฆ้องให้เป็นเงางาม ๒. ใช้ผ้าตัดเย็บตามรูปแบบของร้านฆ้องวงใหญ่คลุมเมื่อใช้งานเสร็จ เพื่อรักษาความสะอาดป้องกันฝุ่น ๓. การวางฆ้อง วางร้านฆ้อง โดย ให้วางราบลงกับพื้นในลักษณะปกติโดยการวางเรียงกัน ไม่ควรวางตั้ง หรือพิงกับฝา ผนังห้ามวางฆ้องวงซ้อนกัน จะท าให้เครื่องล้ม เกิดการช ารุดได้ง่าย ๔. การเคลื่อนย้าย ไม่ควรจับที่ลูกมะหวด ๕. เมื่อตะกั่วหลุดควรปฏิบัติดังนี้ o ถอดลูกฆ้องหงายขึ้น ผูกไว้กับวงฆ้องพอแขวนได้ o เอาตะกั่วที่หลุดไว้ตรงต าแหน่งเดิม ใช้เทียนไข หรือตะเกียง(ปัจจุบันนิยมใช้ไดร์เป่าผม) ลนที่ปุ่มฆ้องพอละลาย ดับไฟ ทิ้งไว้จนหมาด แล้วค่อย ๆ กดรอบ ๆ ตะกั่วให้แน่น ปั้นเป็นรูปนูน o เช็ดปุ่มฆ้องให้สะอาด แล้วผูกลูกฆ้องไว้เหมือนเดิม รอจนกว่าตะกั่วเย็นสนิท จึงจะบรรเลงได้ ข้อควรระวัง หากใช้เทียนไข อย่าให้น้ าตาเทียนหยดลงไปผสมกับตะกั่ว จะท าให้ตะกั่วติดกับลูกฆ้องไม่สนิท การใช้และดูแลฆ้องวงใหญ่