The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือโรงเรียนมาตรฐานสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือโรงเรียนมาตรฐานสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

คู่มือโรงเรียนมาตรฐานสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ภาคผนวก

โครงการท่ีสนับสนุนเพ่ือการบูรณาการการดําเนินงานพัฒนาโรงเรียน
ส่ิงแวดลอมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ย่ังยืน (OBEC EESD School)

คําอธิบายตัวชี้วดั

ตัวอยา ง : ตัวช้วี ดั ท่ี 1.2(3) หมายถึง พันธกจิ ที่ 1 มติ ิท่ี 2 ตวั ชีว้ ดั ที่ 3

พนั ธกจิ ที่ 1 : นโยบายสง่ิ แวดลอ มศึกษาและโครงสรา งการบรหิ ารจดั การ(4 มติ ิ 16 ตวั ช้ีวดั )
ตวั ชวี้ ดั ท่ี 1 :1(1) โรงเรียนมีกําหนดวสิ ัยทศั น หรือ อตั ลกั ษณโ รงเรยี น หรอื นโยบาย หรอื

เปา หมาย ทใ่ี หความสําคัญกับงานดานสง่ิ แวดลอมศึกษา ไวอ ยา งชดั เจน เปน ลายลักษณอกั ษร
ตัวชว้ี ัดที่ 1 :1(2) ครู บุคลากร นกั เรียน ชมุ ชน มสี ว นรวมในการกําหนดนโยบาย โดยเปน การ

มีสวนรว มตัง้ แตขั้นตอน การคดิ การวางแผน การกาํ หนดนโยบายฯ และการกําหนดกิจกรรม/โครงการ/
โครงงานดา นสงิ่ แวดลอมศกึ ษา

ตัวชี้วดั ที่ 1 :1(3) มีการสอื่ สาร (แสดง) นโยบายใหทุกคนในโรงเรียน (ทั้งครู บุคลากร นักเรยี น
และชมุ ชน) ไดร บั ร-ู รบั ทราบและเขา ใจอยา งทวั่ ถงึ และทกุ คนรบั รวู า โรงเรยี นของตนเปน โรงเรยี นอโี คสคลู

ตัวชว้ี ัดที่ 1 :2(1) มกี ารส่อื สาร (แสดง) ผังโครงสรา งการบรหิ ารจดั การดานสงิ่ แวดลอมศกึ ษา
ของโรงเรียนไวอ ยางชดั เจน เปนลายลักษณอ กั ษร

ตวั ชว้ี ัด 1.2(2) โครงสรา งการบริหารจดั การดานสิง่ แวดลอ มศึกษาของโรงเรียน มกี ารกําหนด
คณะทาํ งานหรือบุคลากรท่ีรบั ผิดชอบไวอ ยา งเหมาะสม ชดั เจน เปน ลายลักษณอ ักษร

ตัวชี้วัด 1.2(3) โครงสรา งการบรหิ ารดานจดั การสง่ิ แวดลอ มศกึ ษาของโรงเรยี น มีการกาํ หนด
บทบาทและหนา ทขี่ องคณะทํางานหรอื บคุ ลากรไวอ ยา งเหมาะสม ชดั เจน เปนลายลกั ษณอักษร

ตวั ชวี้ ดั 1.2(4) ในการกาํ หนดโครงสรา งการบรหิ ารจดั การดา นสงิ่ แวดลอ มศกึ ษา ไดเ ปด โอกาส
ให ทง้ั ครู บคุ ลากร นกั เรียน และชมุ ชน เขามามสี วนรว มอยา งเตม็ ท่ี

ตวั ชี้วดั 1.3(1) โรงเรยี นมแี ผนปฏบิ ัตกิ ารประจําป และ ในแผนปฏิบัตกิ ารฯ กาํ หนดกจิ กรรม/
โครงการ/โครงงานดานสงิ่ แวดลอมศกึ ษาไวอยา งชดั เจน เปนลายลกั ษณอกั ษร

๕๑

ตัวช้ีวัด 1.3(2) พันธกิจท่ี 2 พัฒนากระบวนการเรียนรูดานสิ่งแวดลอมศึกษา หมายถึง การ
ดาํ เนนิ การหรอื ใชว ธิ กี ารตา งๆ ทชี่ ว ยใหผ เู รยี นเกดิ การเรยี นรเู กยี่ วกบั สงิ่ แวดลอ มในสง่ิ แวดลอ ม และ เพอ่ื
ส่ิงแวดลอม การจัดกระบวนการเรียนรูที่เก่ียวของโดยตรงกับหลักสูตรการเรียนการสอนและกิจกรรม
พฒั นาผูเ รยี น โดยใชขบวนการสงิ่ แวดลอ มศกึ ษาในการพฒั นาผเู รียนเกดิ ความตระหนัก ความรู ทักษะ
เจตคติ และการมีสวนรวมลงมือปฏิบัติเพ่ือส่ิงแวดลอมที่ดีขึ้น ซ่ึงสามารถทําไดหลายรูปแบบ เชน การ
บูรณาการแบบสหวิทยาการ การบูรณาการแบบคูขนาน การจัดเปนรายวิชาเพิ่มเติม การจัดกิจกรรม
พัฒนาผเู รียน เปนตน ทั้งน้ี ไมว าจะเปน การจัดขบวนการเรยี นในรปู แบบใด จะตองเปดโอกาสใหผเู รยี น
ไดเรียนรูผานประสบการณจริงในทองถิ่น/ชุมชน ใชกิจกรรมการเรียนรูที่หลากหลาย ตองมีการลงมือ
ปฏบิ ตั แิ ละเรียนรูถงึ ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการปฏบิ ตั ดิ ว ย

นอกจากนี้ในพันธกิจที่ 2 ยังครอบคลุมถึงการสงเสริมการพัฒนาครูในรูปแบบที่หลากหลาย
การพัฒนาทักษะตางๆ ท่ีจําเปนตอการพัฒนาหลักสูตรการจัดขบวนการเรียนรู ตลอดจนทักษะใน
การพัฒนาแหลง เรยี นรูท้งั ในและนอกโรงเรยี น

ตวั ชว้ี ดั ท่ี 1.3(3) พนั ธกจิ ท3่ี การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มในโรงเรยี น หมายถงึ
การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ มในโรงเรยี น ใหเ ออื้ ตอ การเรยี นและฝก ฝนการปรบั เปลย่ี น
พฤตกิ รรมในชวี ติ ประจาํ วนั อยา งตอ เนอ่ื ง เชน การจดั การขยะ การจดั การนาํ้ การใชพ ลงั งาน การบรโิ ภค
การใชว สั ดอุ ปุ กรณท เี่ ปน มติ รกบั สงิ่ แวดลอ ม การจดั การสภาพแวดลอ ม และการอนรุ กั ษค วามหลากหลาย
ทางชวี ภาพในโรงเรยี น เปนตน

ซงึ่ พันธกิจที่ 3 น้ี เปน เสมือนการเรียนรู ทางตรง ของทุกฝา ยในโรงเรยี น และเปนตวั อยางที่ดี
แกชมุ ชน โดยเฉพาะอยางยง่ิ เม่อื นักเรยี นไดมสี วนรวมในการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอม
ในโรงเรยี นดว ย

ตัวชี้วัดท่ี1.3(4) พันธกิจท่ี 4 การเสริมสรางการมีสวนรวมและเครือขายส่ิงแวดลอมศึกษา
หมายถงึ การสว นรว มทัง้ ภายในโรงเรียน และ ระหวา งโรงเรียนกบั ชมุ ชน (รวมถึงหนวยงาน องคก ร และ
กลมุ ตา งๆ ) ซงึ่ มีสว นสําคัญในการสนับสนุนการดําเนนิ งานโรงเรยี นอโี คสคลู ใหบ รรลุผลเปาหมาย ทัง้ น้ี
ความสัมพันธที่เก้ือกูลกัน และ การแลกเปล่ียนเรียนรูกันอยางตอเน่ืองจะพัฒนาสูการเปนเครือขาย
สง่ิ แวดลอ มศกึ ษาทเี่ ขมแข็งตอไป

ตัวชี้วัดที่ 1.3(5) ผูบริหารมีการจัดสรรทรัพยากร (งบประมาณ บุคลากร วัสดุ-อุปกรณ)
อยา งเหมาะสม รวมถึงการระดมทรัพยากรเพือ่ สนบั สนนุ การดาํ เนินงานโรงเรียนอโี คสคูล

ตวั ชว้ี ดั ที่ 1.3(6) ครู บคุ ลากร นกั เรยี น และชมุ ชน มสี ว นรว มในการดาํ เนนิ กจิ กรรม/โครงการ /
โครงงานดานสิ่งแวดลอมศึกษา ตลอดจนมีสวนรวมในการติดตาม-ประเมินผล-พัฒนางาน รวมท้ังรวม

๕๒

รับผลทเ่ี กิดขนึ้ จากการดาํ เนินกิจกรรม/โครงการ/โครงงาน

ตัวชี้วัดที่ 1.3 (7) มีสรุปผลงาน หรือรายงานผลการดําเนินงานท่ีเปนรูปธรรมชัดเจน และ
สอดคลอ งกับแผนปฏิบตั กิ ารประจาํ ป

ตัวชี้วัดที่ 1.4(1) โรงเรียนมีการวางระบบการกํากับดูแล และนิเทศติดตามการดําเนินงาน
โรงเรียน อีโคสคูล ประกอบดว ย แผนและปฏทิ นิ การนเิ ทศตดิ ตาม การกําหนดผทู ําหนา ท่กี ํากบั ดูแลและ
นิเทศติดตาม การเกบ็ ขอ มลู และรายงานผลการดาํ เนนิ งานโรงเรียนอีโคสคูล (ตาม 4 พันธกิจ)

ตวั ชว้ี ดั ท1่ี .4 (2) โรงเรยี นมกี ารวเิ คราะหแ ละนาํ ผลนเิ ทศตดิ ตาม ไปใชใ นการพฒั นางานโรงเรยี นอโี คสคลู

พนั ธกจิ ท2่ี การพฒั นาขบวนการเรยี นรดู านส่งิ แวดลอมศึกษา (4 มติ ิ 12 ตัวชว้ี ัด)

ตวั ชว้ี ดั ที่ 2.1 (1) จาํ นวนครทู ม่ี กี ารพฒั นาตวั เอง ในดา นการจดั ขบวนการเรยี นรทู หี่ ลากหลาย
เพอ่ื ใหผ ูเรียนบรรลวุ ัตถปุ ระสงคของสิ่งแวดลอมศกึ ษา ท้งั 5 ขอ ซง่ึ ไดแ ก

1 ความตระหนกั รับรแู ละไวตอปญหาของสิง่ แวดลอ ม ตระหนกั ถงึ ปญหาผลกระทบ
2. ความรู ความเขาใจ มคี วามรคู วามเขา ใจตอ ส่งิ แวดลอ มทางธรรมชาติ สงั คม

วัฒนธรรม เศรษฐกจิ และการเมอื ง
3. ทกั ษะ มีทักษะตางๆทีจ่ าํ เปน ตอการคาดการณ ปองกัน แกป ญหา

การสอ่ื ความหมาย การตัดสนิ ใจ ฯลฯ
4. เจตคติ มีความหวงใย รถู งึ บทบาทของตน และมีแรงบนั ดาลใจท่ลี งมอื กระทํา
5. การมีสวนรว ม มคี วามรบั ผดิ ชอบลงมือปฏบิ ัตเิ พอ่ื ส่ิงแวดลอ มท่ีดีขึ้น

ตวั ชวี้ ดั ที่ 2.1(2) ครมู กี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรู และแบง ปน ประสบการณใ นการจดั ขบวนการเรยี น
รสู งิ่ แวดลอมศึกษาระหวา งเพ่อื นครูดว ยกัน

ตวั ชว้ี ดั ที่ 2.2(1) โรงเรยี นใหค วามสาํ คญั กบั การจดั ทาํ หลกั สตู รการเรยี นการสอนทใ่ี ชข บวนการ
สงิ่ แวดลอ มศกึ ษา โดยอาจดาํ เนนิ การในรปู แบบใดรปู แบบหนงึ่ ไมว า จะเปน รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หรอื บรู ณา
การแบบสหวิทยาการ/คขู นานในรายวิชาพน้ื ฐาน หรือกิจกรรมพัฒนาผูเรยี น

ท้ังน้ี หลักสูตรดังกลาวจะตองมีองคประกอบครบถวน ไดแก แนวคิด โครงสรางเวลาเรียน
คาํ อธิบายรายวชิ า หนว ยการเรียนรู แผนการจดั การเรียนรู และ เกณฑก ารประเมนิ

ตวั ชีว้ ดั ที่ 2.2(2) หลักสตู รการเรยี นการสอนทใี่ ชกระบวนการส่ิงแวดลอ มศกึ ษา จะตองมุง เนน
เพ่อื ใหผเู รยี นบรรลวุ ตั ถุประสงคข องสิง่ แวดลอ มศึกษา ท้ัง 5 ขอ ไดแ ก

๕๓

1 ความตระหนัก รับรแู ละไวตอ ปญหาของสงิ่ แวดลอ ม ตระหนกั ถงึ ปญหาผลกระทบ
2. ความรู ความเขา ใจ มีความรคู วามเขาใจเกย่ี วกับสิ่งแวดลอ มทางธรรมชาติ สังคม

วัฒนธรรม เศรษฐกจิ และการเมอื ง
3. ทักษะ มที ักษะตา งๆทจี่ าํ เปนตอ การคาดการณ ปองกนั แกป ญหา

การส่อื ความหมาย การตดั สนิ ใจ ฯลฯ
4. เจตคติ มีความหว งใย รูถ งึ บทบาทของตน และมีแรงบนั ดาลใจท่จี ะลงมอื
5. การมีสวนรวม มีความรบั ผิดชอบลงมือปฏบิ ัตเิ พ่อื สิ่งแวดลอ มทดี่ ขี ึน้

ตัวช้ีวัดท่ี 2.2(3) หลักสูตรการเรียนการสอนที่ใชกระบวนการเรียนรูสิ่งแวดลอมศึกษา มีการ
ประเมินผลใชหลักสูตร ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรฯใหมีความสอดคลองกับผูเรียนและเหมาะสมกับ
บริบท/สถานการณส ่งิ แวดลอ มของทอ งถิ่นอยา งสม่าํ เสมอ

ตัวชี้วัดท่ี 2.3.(1) ครูจัดขบวนการเรียนรูโดยยึดหลักการผูเรียนเปนสําคัญ (Child Centre)
เปดโอกาสใหผูเรียนไดเรียนรูในสิ่งที่เขาสนใจหรือตองการจะเรียนรู โดยครูทําหนาท่ีกระตุนใหผูเรียน
หาวธิ กี ารเรยี นรดู ว ยตนเอง สง เสรมิ ใหเ กดิ ความคดิ สรา งกจิ กรรมใหผ เู รยี นไดเ รยี นรไู ปตามความตอ งการ
ของเขา สนบั สนนุ ขอมลู อุปกรณและพนื้ ทีก่ ารเรยี นรทู เ่ี หมาะสม

ตัวช้ีวัดท่ี 2.3.(2) ครูจัดกระบวนการเรียนรู “เก่ียวกับ” สิ่งแวดลอม (Learning ABOUT
Environment) เพอ่ื สง เสรมิ ใหผ เู รยี นเกดิ ความรู ความเขา ใจ ในเรอื่ งทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม
ในชุมชน

ตวั ชวี้ ัดท่ี 2.3.(3) ครจู ดั กระบวนการเรยี นรู “ใน” สงิ่ แวดลอม (Learning IN Environment)
เพื่อสงเสริมใหผูเรียนไดลงไปสํารวจการเรียนรูจากประสบการณตรง หรือ เรียนรูจาก “ของจริง”
ในบรเิ วณโรงเรียน/ชุมชน/ทองถน่ิ

ตวั ชว้ี ดั ที่ 2.3.(4) ครจู ดั กระบวนการเรยี นรู “เพอ่ื ”สงิ่ แวดลอ ม (Learning FOR Environment)
เพอื่ สง เสรมิ ใหผ เู รยี นนาํ สง่ิ ทเี่ ขาไดส าํ รวจหรอื คน พบ มาคดิ วเิ คราะห หาแนวทางในการปอ งกนั แกไ ขปญ หา
ไดอยา งเหมาะสม ตลอดจนลงมือปฏบิ ัตเิ พือ่ ปอ งกนั แกไขปญหาท่ีเกดิ ขน้ึ

ส่ิงสําคัญ คือ ครูจะตองเช่ือมโยงใหผูเรียนเห็นความสําคัญของทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอมในทองถ่ิน ท้งั ในมมุ มองดานระบบนเิ วศ ดานเศรษฐกิจ และ ดานสังคม วถิ ีชีวิต ความเปน
อยขู องคนในชุมชน

ตัวช้ีวัดที่ 2.4(1) มีแหลงเรียนรูในโรงเรียน (หรือในชุมชน) ท่ีเอื้อตอการจัดกระบวนการ
เรยี นรสู ง่ิ แวดลอ มศกึ ษา

๕๔

ตวั ช้ีวัดที่ 2.4(2) มกี ารใชแหลงเรยี นรใู นโรงเรียน (หรอื ในชุมชน) ที่เอือ้ ตอ การจดั กระบวนการ
เรียนรูส่ิงแวดลอ มศกึ ษา เพอ่ื เปด โอกาสใหใ หผูเรยี นไดเ รยี นรูจากประสบการณตรง

ตวั ชีว้ ดั ที่ 2.4(3) แหลง เรียนรใู นโรงเรยี น (หรอื ในชมุ ชน) เกดิ ข้ึนจากความรวมมอื รว มคดิ และ
รวมแรงรวมใจ ระหวางชุมชนกับโรงเรยี น

พนั ธกจิ ท่ี3 : การจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอมในโรงเรียน (3มิติ 11 ตวั ชว้ี ัด)

ตวั ชว้ี ดั ที่ 3.1 (1) โรงเรยี นมกี ารดาํ เนนิ งานดา นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม
ภายในโรงเรยี น อยา งนอ ย 3 ดา น อาทิ ดา นการจดั การขยะ การจดั การทรพั ยากรนาํ้ การอนรุ กั ษพ ลงั งาน
การอนุรักษความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการสารเคมี การจัดการพ้ืนท่ีสีเขียว การสงเสริมการ
ท่ีเปนมิตรกับสิ่งแวดลอมการจัดซื้อ/ใชวัสดุ อุปกรณท่ีเปนมิตรกับส่ิงแวดลอม และดานอื่นๆ เปนตน
ซึ่งการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในแตละดาน อาจประกอบดวยกิจกรรมตางๆ ท่ี
หลากหลาย (ตัวอยางเชน ดานการจัดการขยะ กิจกรรมที่โรงเรียนดําเนินงานประกอบดวย
การประชาสัมพันธ/รณรงคล ดขยะในรปู แบบตางๆ โครงการปุยหมกั จากเศษใบไม ธนาคารขยะรไี ซเคลิ
ขยะแลกเคร่อื งเขยี น หอ งเรียนปลอดถังขยะ ชมรมตาวิเศษ เปนตน )

ตัวช้ีวัดท่ี 3.1(2) โรงเรียนมีการเก็บและการรวบรวมขอมูลสถิติท้ังกอนและหลังการดําเนิน
กิจกรรมตางๆ เพื่อใชประโยชนในการประเมินความสําเร็จในการดําเนินกิจกรรม (เชน ปริมาณขยะ/
ปริมาณนํ้า/คาไฟฟา/ปริมาณกลองโฟมและถุงพลาสติกที่ลดลง จํานวนสิ่งมีชีวิตท่ีพบในสวนปาของ
โรงเรยี น บัญชีการสงั่ ซอื้ วัสดทุ เ่ี ปน มิตรกบั สง่ิ แวดลอม จาํ นวนนักเรียนที่รวมทํากิจกรรม เปน ตน)

ตวั ชวี้ ดั ท่ี 3.1(3) ครู บคุ ลากร และ นกั เรยี นมสี ว นรว มในกจิ กรรมการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ
และสิง่ แวดลอมของโรงเรยี น (พิจารณาจากเปอรเซ็นตข องคนทเ่ี ขา รวมกจิ กรรม)

ตวั ชว้ี ดั ที่ 3.1(4) ครู บคุ ลากร และนกั เรยี นมสี ว นรว มในกจิ กรรมการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอมของโรงเรียน ในทกุ ๆ ขน้ั ตอน ตั้งแตร วมคิด รว มวางแผน รว มปฏบิ ตั ิ รว มประเมินผล
รว มรบั ผล (พิจารณาระดับการมสี ว นรวมในกจิ กรรม)

ตัวช้ีวัดที่3.1(5) การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอมในแตละดาน มีการดําเนิน
กิจกรรมอยางตอ เนอ่ื งและสม่ําเสมอ อยา งนอ ยดานละ 1 กจิ กรรม (หรือ 1 ครง้ั ) ตอ ปก ารศึกษา

ตัวชี้วัดที่ 3.1(6) มีการสื่อสาร (รณรงค/ประชาสัมพันธ) ใหทุกคนในโรงเรียนรับทราบ รับรู
และเขามามีสวนรวมในกิจกรรมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอมของโรงเรียน (พิจารณา
จากเปอรเ ซ็นตของคนที่เขารว มกิจกรรม)

๕๕

ตวั ชวี้ ดั ที่ 3.2 (1) สภาพแวดลอ มของโรงเรยี น สามารถสอื่ หรอื สะทอ นใหเ หน็ ไดว า โรงเรยี นมกี าร
จดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มเปน อยา งดี (มองเหน็ เปน รปู ธรรม) ตวั อยา ง ตวั อาคารออกแบบ
ใหโ ลง โปรง ประหยดั พลงั งาน รา นคา ขายขนม/สนิ คา ทด่ี ตี อ สขุ ภาพและไมใ ชถ งุ พลาสตกิ รวั้ โรงเรยี นและ
โรงเรียนบริเวณปลูกพืชทองถิ่น/พืชสมุนไพร/ผักปลอดสารพิษ มีปายเชิญชวน/รณรงคดานสิ่งแวดลอม
มถี งั ขยะแยกประเภท มกี ารทาํ ปยุ หมกั จากเศษใบไม มที จี่ อดจกั รยานเปน ตน (สามารถดตู วั อยา งเพมิ่ เตมิ
ไดจ ากโปสเตอรโ ครงการโรงเรียนอโี คสคูล

ตัวช้ีวัดท่ี 3.1(1) บุคลิกลักษณะของครูและบุคลากร แสดงใหเห็นถึงความภาคภูมิใจในการ
ดาํ เนนิ กจิ กรรมหรือการเขา รว มกจิ กรรมดานสิง่ แวดลอมของโรงเรยี น

ตัวช้ีวัดท่ี 3.2(2) บุคลิกลักษณะของนักเรียน แสดงใหเห็นถึงความภาคภูมิใจในการดําเนิน
กิจกรรมหรือเขา รวมกจิ กรรมดานสงิ่ แวดลอ มของโรงเรียน

ตัวช้วี ัดท่ี 3.3(3) สภาพแวดลอ มและพฤตกิ รรมของครูและบคุ ลากร บงบอกหรอื แสดงออกให
เหน็ ถึงความรับผดิ ชอบทีม่ ีตอ ส่ิงแวดลอม

ตัวช้ีวัดที่ 3.3(4) สภาพแวดลอมและพฤติกรรมของนักเรียน บงบอกหรือแสดงออกใหเห็น
ถงึ ความรับผิดชอบทมี่ ีตอส่งิ แวดลอ ม

พนั ธกจิ ท่ี 4: การมีสวนรวมละเครือขายส่ิงแวดลอ ม (2 มติ ิ 4 ตัวชี้วดั )
ตวั ชว้ี ดั ท่ี 4.1(1) ความรว มมอื ของผปู กครอง ในการเขา รว มกจิ กรรมตา งๆดา นสง่ิ แวดลอ มของ

โรงเรียนอยา งสมา่ํ เสมอ
ตัวชี้วดั ที่ 4 2(1) ผูปกครองใหการสนบั สนุนการดาํ เนินงานของโรงเรยี น เพือ่ ใหบ รรลุพนั ธกจิ

ทง้ั 4 ดานของโรงเรยี นอีโคสคูล
ตวั ช้วี ดั ที่ 4.2(2) ชมุ ชนใหก ารสนับสนุนการดาํ เนินงานของโรงเรยี น เพ่อื ใหบรรลพุ ันธกจิ ทงั้

4 ดา นของโรงเรียนอีโคสคลู
ท้ังน้ี รปู แบบการสนับสนุนอาจเปนในดานงบประมาณหรือ แรงงาน หรอื แรงงานหรอื บุคลากร

หรอื วัสดุ-อปุ กรณ ตลอดจนความรวมมือตา งๆ

๕๖

เกณฑการพิจารณาตดั สินโครงการประกวดโรงเรยี นปลอดขยะ

กรมสงเสริมคณุ ภาพส่ิงแวดลอม
กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ ม

เกณฑการพจิ ารณาตัดสินโครงการประกวดโรงเรยี นปลอดขยะ
(กรมสงเสรมิ คณุ ภาพส่ิงแวดลอ ม)

กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม

สวนท่ี ๑ นโยบาย การสนับสนนุ และแผนการดาํ เนนิ งาน ๑๐ คะแนน
สวนท่ี ๒ การสง เสรมิ ความรคู วามเขา ใจและการสรา งวนิ ยั ในการจดั การขยะมลู ฝอย ๒๐ คะแนน
สว นที่ ๓ กระบวนการปลกู ฝง และสง เสรมิ การมสี ว นรว มในการจดั การขยะมลู ฝอย ๒๐ คะแนน
สว นที่ ๔ การดําเนนิ กิจกรรมโรงเรียนปลอดขยะ โดยใชหลัก 3Rs ๕๐ คะแนน
สว นท่ี ๕ การประยุกตใ ชห ลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง การสง เสรมิ ๑๐ คะแนน

คณุ ภาพสิ่งแวดลอ ม และการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ ๓๐ คะแนน
และสง่ิ แวดลอ มภายในโรงเรียน ๑๔๐ คะแนน
สว นท่ี ๖ ผลสาํ เร็จและความยง่ั ยนื ของโรงเรยี นปลอดขยะ

รวม

เกณฑก ารตัดสนิ ประเดน็ พจิ ารณาใหค ะแนน

๑. นโยบาย การสนบั สนุน และแผนการดําเนนิ งาน (๑๐ คะแนน)

๑.๑ นโยบายและการส่อื สารนโยบาย ๑. กําหนดนโยบายหรือวสิ ยั ทศั นท่ีรวมหารือกบั ผมู สี วนไดส วนเสีย ไดแก
ของผบู ริหารภายในโรงเรยี น กรรมการสถานศึกษา ผูปกครอง ชุมชน กรรมการนักเรียนและหรอื
(๓ คะแนน) หนวยงานที่เกยี่ วขอ ง เชน สํานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา องคก รปกครอง
สว นทองถน่ิ เปนตน
๒. ผบู รหิ ารมกี ารสอื่ สารนโยบายหรอื วสิ ยั ทศั นไ ปยงั ผเูรยี น และบคุ ลากรทง้ั ใน
๓. กําหนดโครงสรา งการบรหิ ารจดั การโรงเรียนปลอดขยะผูรบั ผดิ ชอบ
โครงการ และบทบาทหนา ทโ่ี ดยใชรูปแบบการบรหิ ารจัดการแบบ
มสี ว นรว ม

๕๗

เกณฑก ารตดั สนิ ประเดน็ พจิ ารณาใหคะแนน

๑.๒ การสนับสนุนของผูบรหิ ารโรงเรียน ๑. มกี ารสนับสนนุ ดานตางๆ อยา งเปนรูปธรรม
(๓ คะแนน) ๒. มีการประสานกับหนวยงานหรือบคุ ลากรท่เี กย่ี วขอ ง เพ่อื การ
สนบั สนุนโครงการจนประสบผลสาํ เร็จ
๓. มกี ารตดิ ตามกํากบั ดแู ลการดําเนินงานใหเ ปน ไปตามนโยบายท่ี
กําหนดไวและความคืบหนา ของการดาํ เนนิ งานโรงเรยี นปลอดขยะ

๑.๓ แผนและวิธกี ารดําเนนิ งานของ ๑. มกี ารจดั ทาํ แผนการดาํ เนนิ งานเปน ลายลกั ษณอ กั ษร ซงึ่ ประกอบดว ย
โรงเรียนปลอดขยะ รวมท้งั แผนการ - แผนงานหรอื โครงการที่ดาํ เนินการ
สรา งวินัยและจติ สาํ นกึ ใหกบั ผเู รียนและ - แผนการสรา งวนิ ยั และจติ สาํ นกึ ใหก บั ผเู รยี นและบคุ ลากรในโรงเรยี น
บุคลากรในโรงเรยี น (๔ คะแนน) ๒. แผนงาน/โครงการ/กจิ กรรมดงั กลา ว ควรมกี ารระบุ
- ขั้นตอนและกรอบเวลา
- งบประมาณที่ตอ งใช
- ผรู บั ผดิ ชอบและ/หรอื คณะทาํ งาน
- เปาหมายท่ชี ัดเจน
- ตวั ช้ีวัด

๒. การสง เสรมิ ความรูความเขาใจและการสรางวินัยในการจัดการขยะมลู ฝอย (๒๐ คะแนน)

๒.๑ กระบวนการสง เสริมและเผยแพร ๑. มีการเชญิ วิทยากรจากภายนอกมาใหความรแู กครูและผูเรยี น
ความรคู วามเขาใจในและนอกโรงเรียน ๒. มีการใหค วามรูทางเสียงตามสาย หรือจอมอนเิ ตอรภายในโรงเรยี น
(๔ คะแนน) ๓. มีการใหความรูห นาเสาธง หรอื ในหองเรียน
๔. มีการจดั ทาํ ปายนเิ ทศ โปสเตอร แผนพบั หรอื ส่ิงพมิ พอ นื่ ๆ
มีการจัดนทิ รรศการท่เี กี่ยวขอ งกบั การจัดการขยะมูลฝอยและ
ผลกระทบตา งๆ ภายในโรงเรยี น

๒.๒ การพัฒนาครู/บุคลากรเพอ่ื นาํ ไปสู ๑. มวี ิธีการพัฒนาครูและบคุ ลากร ใหมคี วามรูความเขา ใจในการดําเนนิ
กระบวนการสงเสรมิ และสนับสนุนการ งานโรงเรียนปลอดขยะตามนโยบายของผูบริหาร ไดแก
ดาํ เนนิ งานโรงเรียนปลอดขยะ - การอบรมช้ีแจง หรอื
(๓ คะแนน) - การศกึ ษาดงู าน
๒. บุคลากรและครูทไี่ ดร ับการพัฒนาไดแ กบุคคลดงั ตอ ไปน้ี
- ผูบ รหิ าร
- ครผู ูส อน
- นักการภารโรง
- ผปู ระกอบการคาในโรงเรียน
๓. มีการแลกเปลยี่ นเรยี นรรู ะหวางกัน เพื่อการปรับปรงุ แกไ ขและ
การพฒั นาท่ียั่งยนื ของโรงเรยี น

๕๘

เกณฑก ารตัดสิน ประเดน็ พิจารณาใหคะแนน

๒.๓ กระบวนการสง เสรมิ การสรา งวนิ ยั ๑. มีการจดั กระบวนการการเรยี นรเู ก่ียวกบั วินยั และความรบั ผดิ ชอบตอ
ในการจัดการขยะมูลฝอยใหแกผเู รียน ตนเองและตอสว นรวม
และบุคลากรในโรงเรียน (๕ คะแนน) ๒. มกี ารกําหนดกฎระเบียบหรือขอตกลงหรอื เง่ือนไขเก่ียวกับการจัดการ
ขยะมูลฝอยในโรงเรยี น
๓. มกี ารกําหนดบทบาทความรบั ผิดชอบของผูเกี่ยวของตอ การจัดการ
ขยะมูลฝอยในโรงเรียน
๔. มกี ารจัดกิจกรรม เพื่อสง เสรมิ การสรางวินัยการจัดการขยะมลู ฝอย
ภายในโรงเรยี น มกี ารนิเทศ ตดิ ตาม และประเมินผลเพอื่ ใหค าํ แนะนํา
ชวยเหลอื การดาํ เนินงานเพื่อเสรมิ สรางการมีวินัยตอตนเองและ
สว นรวม

๒.๔ การบรู ณาการหลักสตู รการเรียน ๑. โรงเรียนมีการสอดแทรกความรเู ร่อื งการจัดการขยะมูลฝอยไวในสาระ
การสอนและความเหมาะสมขององค การเรียนรูอยา งเหมาะสมและเกดิ ประโยชนแกผเู รียน
ความรู (๕ คะแนน) อยางแทจรงิ
๒. โรงเรียนมีการจดั ทําหลกั สตู รการจดั การขยะมูลฝอยภายในโรงเรียน
ปลอดขยะ หรอื หลักสตู รเพ่มิ เตมิ ทเ่ี กี่ยวขอ ง
๓. การประเมนิ ผลการเรียนรูข องผูเ รียนภายหลังจากการบรู ณาการ
เขา กบั กลุม สาระการเรยี นร/ู หลักสูตรเพ่ิมเตมิ
๔. ความรเู รือ่ งขยะมูลฝอยมคี วามเหมาะสมกบั ผูเรียนในแตละชวงช้นั
อยางแทจรงิ โรงเรยี นมีการมอบหมายครผู ูร ับผิดชอบในการสอน
อยา งชดั เจน

๒.๕ จดุ เรยี นรหู รอื แหลงเรยี นรูใน ๑. มีจุดหรือฐานการเรียนรใู นกิจกรรมโรงเรยี นปลอดขยะ
โรงเรียน (๓ คะแนน) ที่มปี ระสทิ ธิภาพ
๒. มอี งคค วามรทู เี่ หมาะสมและสอดคลอ งกบั จดุ เรยี นรหู รอื แหลง เรยี นรู
๓. มีศกั ยภาพของผูเ รียนในการนําเสนอ/ถา ยทอด
- เครอ่ื งมือ/แนวทาง/วิธกี ารนาํ เสนอ
- กระบวนการถา ยทอด
- ศักยภาพของผนู าํ เสนอ
การประยุกตใชภ ูมิปญ ญา ขนบธรรมเนยี มประเพณี วฒั นธรรมทอ งถน่ิ
ในการนําเสนอ

๓. กระบวนการปลูกฝง และสง เสริมการมสี ว นรวมในการจัดการขยะมูลฝอย (๒๐ คะแนน)

๓.๑ การปลกู ฝง ความรูความเขา ใจ ๑. มหี นวยการเรียนรเู รือ่ งการมสี วนรว มในการจดั การขยะมลู ฝอยหรือมี
ในกระบวนการการมสี วนรว มใหกับ การเชญิ วทิ ยากรมาใหค วามรูในเร่ืองดังกลา ว
นกั เรียนแลบุคลากรภายในโรงเรยี น ๒. มกี ารจัดกิจกรรมสง เสริมการมีสว นรว ม
(๖ คะแนน) มกี ารสรา งแรงจงู ใจเพือ่ สงเสรมิ การมีสว นรว ม

๕๙





































ประเด็นที่ ๒ หลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอน (ตอ)

ลาํ ดบั ประเด็นยอย มี ไมม ี รายละเอียด

๓๑ โรงเรยี นมีอาคารที่มีการ ลกั ษณะและท่ีตัง้ ของอาคารในโรงเรยี น
ออกแบบและอปุ กรณท ีเ่ อื้อ  ออกแบบโครงสรา งหรอื อุปกรณช วย
ตามหลกั ของการประหยดั
พลังงาน (คาํ นึงถงึ การใช ถา ยเทระบายความรอนในอาคารอยา ง
ประโยชนจาก มปี ระสทิ ธภิ าพไดอยางเหมาะสม
ลม แสง ธรรมชาติ  มกี ารปอ งกันรงั สีความรอ นใหกับอาคาร
การปองกนั รังสคี วามรอ น เชน มีชายคายาว หรอื มีการใชอุปกรณ/
เขา ทางหลงั คา และผนัง) ปลกู ตน ไมบงั แดด
 หลงั คาของอาคารตา งๆ มคี วาม
เหมาะสมกับการประหยัดพลงั งาน เชน
รูปทรงลาดชัน
 พืน้ ทีโ่ ดยรอบอาคารเปน สนามหญา หรือ
พชื คลมุ ดนิ
 มกี ารใสฉ นวนบรเิ วณหลังคา/หรอื ผนงั
 มหี นา ตา งรับแสงสวางทเ่ี พยี งพอ
 อาคารมกี ารออกแบบใชสที เี่ อ้ือตอ การ
เพมิ่ แสงสวาง เชน สีขาว สีฟา

๓๒ โรงเรยี นจัดใหมกี ารบนั ทกึ  มกี ารบนั ทกึ คาไฟฟาอยา งตอ เนื่อง ๓ ป
หนวยการใชไฟฟา  มีการบันทึกหนว ยการใชไฟฟา อยางตอ
คาไฟฟา ในแตละเดือน โดย
มีการเปรยี บเทยี บหนว ยการ เนื่อง ๓ ป
ใชไ ฟฟา และ  มกี ารเปรยี บเทยี บหนว ยการใชไ ฟฟา /คา
คาไฟฟา
(ใชขอมูลยอนหลัง ๓ ป) ไฟฟา ในแตล ะเดอื น ของทกุ ป
 มีการรวบรวมขอ มลู หนวยการใชไฟฟา

และคาไฟฟา อยา งเปนระบบ

ประเด็นท่ี ๓ การจัดการดานการใชพลังงานในโรงเรียน

๓๓ มีการแสดงสถติ หิ นวยการ  มกี ารแสดงสถติ หิ นว ยการใชไ ฟฟา และ
ใชไ ฟฟา และคา ไฟฟาเพอื่ คาไฟฟา ของทงั้ โรงเรยี นเพอ่ื แสดงใน
กระตุนใหเกดิ ความตระหนกั อาคารเรยี นรอ ยละ ๑๐๐
ในพฤตกิ รรม
การประหยดั พลังงานไฟฟา  มกี ารแสดงสถติ หิ นว ยการใชไ ฟฟา และ
ในแตล ะอาคาร/หอ ง คา ไฟฟา ของทงั้ โรงเรยี นเพอ่ื แสดงใน
อาคารเรยี นรอ ยละ ๕๐-๙๙
๗๘
 มกี ารแสดงสถติ หิ นว ยการใชไ ฟฟา และ
คาไฟฟา ของทงั้ โรงเรยี นเพอื่ แสดงใน
อาคารเรยี นตา่ํ กวา รอ ยละ ๕๐

ประเด็นที่ ๓ การจัดการดานการใชพลังงานในโรงเรียน (ตอ)

ลาํ ดับ ประเด็นยอ ย มี ไมม ี รายละเอียด
๓๔ มีระบบตรวจสอบการ
 มคี าํ สงั่ แตง ตง้ั คณะกรรมการตรวจสอบ
ปด ไฟ ปดเครอ่ื งปรบั อากาศ  มกี ารกาํ หนดมาตรการ ปด -เปด อปุ กรณ
ปดพดั ลม และ
ปด อุปกรณไฟฟา ตา งๆ เครอื่ งใชไ ฟฟา ในหอ งเรยี น
ในหอ งเรยี น เมื่อไมม ี  มกี ารดาํ เนนิ การตรวจสอบการ ปด -เปด
ผใู ชงานหรือหลงั เลกิ เรยี น
อปุ กรณเ ครอ่ื งใชไ ฟฟา ตามมาตรการทกุ
๓๕ มีระบบตรวจสอบการปด ไฟ วนั
ปด เครื่องปรับอากาศ พดั ลม  สรปุ ผลการตรวจสอบ ตามมาตรการทก่ี าํ หนด
อุปกรณไ ฟฟาตางๆ ในหอ ง  มกี ารนาํ ผลการตรวจสอบไปใชแ ละ
อื่นๆ เชน หอ งสมดุ หอง ปรบั ปรงุ อยา งตอ เนอ่ื ง
พักครู หองปฏบิ ตั กิ ารตางๆ
หอ งปฐมพยาบาล ฯลฯ มีคาํ สงั่ แตง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
เมอื่ ไมมผี ใู ช  มกี ารกําหนดมาตรการ ปด-เปด

๓๖ มมี าตรการดแู ล บาํ รุง รกั ษา อปุ กรณเ ครื่องใชไ ฟฟาในหอ งอ่นื ๆ
เครอื่ งใชไฟฟา อ่นื ๆ ยกเวน  มีการดาํ เนนิ การตรวจสอบการ ปด-เปด
เครอ่ื งปรับอากาศ ใหอยู
ในสภาพท่ใี ชง านไดอยางมี อุปกรณเ ครือ่ งใชไ ฟฟาตามมาตรการ
ประสทิ ธิภาพ ทกุ วนั
 สรุปผลการตรวจสอบ ตามมาตรการที่
กําหนด
 มีการนําผลการตรวจสอบไปใชและ
ปรบั ปรงุ อยา งตอเน่ือง

 มมี าตรการในการสํารวจ ตรวจสอบ
เคร่อื งใชไ ฟฟาอ่ืนๆ ทกุ ๆ ๓ เดือนหรอื
ตามมาตรการทโ่ี รงเรียนกาํ หนด

 กําหนดผูรบั ผิดชอบบํารงุ รกั ษาอยา ง
ชัดเจน

 มกี ารบาํ รงุ รกั ษาอปุ กรณไฟฟา เชน
หลอดไฟปล ะ ๑ ครัง้ และพดั ลม
กระตกิ นํา้ รอนไฟฟา เครอ่ื งใชไฟฟา
อ่นื ๆ อยางนอยปล ะ ๒ ครัง้

 มีการบนั ทึกการบาํ รงุ รักษาอุปกรณ
เครือ่ งใชไ ฟฟา

 การซอมแซมและเปลี่ยนอปุ กรณให
พรอ มใชงาน

๗๙

ประเด็นที่ ๓ การจัดการดานการใชพลังงานในโรงเรียน (ตอ)

ลําดับ ประเดน็ ยอ ย มี ไมม ี รายละเอยี ด
๓๗ โรงเรียนมีมาตรการเพ่อื
 มมี าตรการการใชเคร่ืองปรับอากาศ
ควบคุมดแู ลใหม ีการตัง้ อยางมปี ระสิทธภิ าพโดยกาํ หนดใหตง้ั
อุณหภมู ิของเครือ่ งปรับ อณุ หภูมิท่ี ๒๕ องศาเซลเซียสขน้ึ ไป
อากาศ ใหอยูท่ี ๒๕ องศา ติดตามอาคารท่มี ีเคร่อื งปรบั อากาศ
เซลเซยี สขึ้นไป
 มมี าตรการการใชเ ครอ่ื งปรับอากาศ
๓๘ โรงเรยี นมีมาตรการในการ อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพโดยกาํ หนดใหต ั้ง
กําหนดเวลาเปด -ปดเครอ่ื ง อุณหภมู ิที่ ๒๕ องศาเซลเซียสข้ึนไป
ปรับอากาศ ติดตามหองท่มี เี คร่ืองปรับอากาศ

๓๙ โรงเรยี นมีมาตรการบาํ รงุ  มีสื่อประชาสัมพันธหรือสติ๊กเกอร
รกั ษาเคร่ืองปรบั อากาศทีต่ ิด รณรงคก ารตั้งอณุ หภูมเิ ครอื่ งปรบั
ต้ังในหอ ง/อาคารตางๆ ของ อากาศท่ี ๒๕ องศาเซลเซียสขึ้นไป
โรงเรยี น
 มมี าตรการในการกาํ หนดชวงเวลาเปด -
๔๐ โรงเรียนมกี ารใชเ คร่อื งปรบั ปด เครอื่ งปรับอากาศในโรงเรียน
อากาศทีม่ ปี ระสิทธภิ าพสูง
ทม่ี ฉี ลากประหยัดไฟเบอร ๕  มีการกาํ หนดผรู ับผดิ ชอบตรวจสอบการ
เปด-ปด เคร่ืองปรับอากาศ

 มกี ารประชาสมั พนั ธม าตรการการเปด -
ปดเคร่ืองปรบั อากาศ

 มกี ารแตงต้งั คณะทาํ งานดูแลบาํ รุงรกั ษา
และกําหนดมาตรการ

 ทาํ ความสะอาดเครอ่ื งปรบั อากาศ (ลาง
เครอื่ งปรบั อากาศ) ปละ ๒ ครงั้

 มีการตรวจสอบและทาํ ความสะอาด
แผนกรองเดอื นละ ๑ คร้งั

 โรงเรยี นมกี ารใชเ ครอื่ งปรบั อากาศทมี่ ี
ฉลากประหยดั ไฟเบอร ๕ รอ ยละ ๕๐
ขน้ึ ไป

 โรงเรียนมีการใชเครอื่ งปรบั อากาศทมี่ ี
ฉลากประหยดั ไฟเบอร ๕ รอยละ ๔๐-
๔๙

 โรงเรยี นมีการใชเครื่องปรบั อากาศท่ีมี
ฉลากประหยดั ไฟเบอร ๕ รอยละ ๓๐-
๓๙

๘๐

ประเด็นท่ี ๓ การจัดการดานการใชพลังงานในโรงเรียน (ตอ)

ลําดับ ประเด็นยอ ย มี ไมม ี รายละเอียด
๔๑ มกี ารตดิ ตง้ั เครอื่ งปรบั
 ระยะทางจาก Fan coil unit
อากาศในตําแหนง ท่ี (คอยลเย็น) ถงึ Condensing unit
เหมาะสม (คอยลรอน) ไมเกนิ ๕ เมตร

๔๒ ลกั ษณะของหองที่  ตดิ ตั้ง Condensing unit (คอยล
เหมาะสมในการติดตัง้ เครือ่ ง รอ น) อยูในตําแหนงที่ไมโ ดนแสงแดด
ปรบั อากาศ สองเตม็ ที่ หรือมีการบงั แดดใหเครือ่ ง
Condensing unit (คอยลรอ น)
๔๓ มีรม เงาของพรรณไม หรือมี
วัสดปุ องกันความรอน เชน  มีหลงั คาปองกนั ความรอนสาํ หรบั
มา น ระเบียง ชายคา ฯลฯ Condensing unit (คอยลรอน)
เพื่อชวยลดการถายเทความ
รอนเขาสตู วั อาคาร/หอ งทีม่ ี  ไมน าํ สิ่งของไปวางกีดขวางบรเิ วณ
การปรบั อากาศ Condensing unit (คอยลร อน)

๔๔ หอ งทีม่ ีเครือ่ งปรบั อากาศ  ไมม รี อยร่ัวขอบประตูและหนา ตา ง (ไมม ี
ไมมี ตน ไม ตูป ลา อา ง รอยรั่ว ท่ผี นัง ฝา เพดาน ประตู)
ลอยดอกไม ทก่ี อ ใหเ กดิ
ความชน้ื (ยกเวนหอ งปฏบิ ตั ิ  พัดลมดูดอากาศปดมิดชดิ
การวทิ ยาศาสตร)  หอ งทไ่ี ดม ีการแกไขไมใหความรอ น

๔๕ มกี ารเก็บกองกระดาษ ลัง เขามาภายในหองได
เอกสาร ในหองท่มี เี ครอ่ื ง
ปรับอากาศ ยกเวนหอง  มมี า นหรอื อปุ กรณท ก่ี นั แดดหรอื ลดความ
ธุรการและหอ งถายเอกสาร รอ น กอ นเขา สหู อ งทม่ี เี ครอื่ งปรบั อากาศ

 มชี ายคากนั แสงแดด
 มีตน ไมป องกันความรอ น

 ไมมีแหลง กาํ เนิดความช้ืนเลย
 มกี ารนําตนไมมาไวในหอง
 มกี ารนาํ อางนา้ํ ตูป ลามาไวใ นหอ ง

 ไมมกี ารเก็บกองกระดาษ ลังเอกสาร ใน
หอ งที่มกี ารปรบั อากาศ

 จํานวนหอ งปรับอากาศทมี่ ีการเก็บ กอง
กระดาษ ลงั เอกสารจํานวน ๑ หอ ง

 จํานวนหองปรบั อากาศทมี่ กี ารเกบ็ กอง
กระดาษ ลัง เอกสารจํานวนมากกวา
๒ หอง

๘๑

ประเด็นที่ ๓ การจัดการดานการใชพลังงานในโรงเรียน (ตอ)

ลาํ ดับ ประเดน็ ยอ ย มี ไมม ี รายละเอยี ด
๔๖ มีการใชเครอื่ งใชไฟฟาทใี่ ห
 ไมมีการใชเ คร่ืองใชไฟฟาที่ใหค วามรอน
ความรอ นในหองทมี่ ีเครอื่ ง ในหอ งทม่ี ีเคร่ืองปรบั อากาศ
ปรบั อากาศ (เชน เคร่อื งถาย
เอกสาร กระตกิ ตมน้าํ รอ น  มีการใชเครื่องใชไ ฟฟา ทีใ่ หค วามรอน
เตาไฟฟา หมอ หงุ ขาวไฟฟา ในหอ งท่มี เี ครื่องปรบั อากาศจํานวน ๑
เคร่ืองปงขนมปง ฯลฯ) หอง

๔๗ มีการต้ังอณุ หภมู ิเคร่ืองปรบั  มีการใชเครือ่ งใชไ ฟฟา ที่ใหค วามรอน
อากาศทีต่ ้ังแต ๒๕ องศา ในหอ งทมี่ เี คร่อื งปรบั อากาศจาํ นวน
เซลเซียสขึ้นไป มากกวา ๒ หอง
ในขณะใชงาน
 มีการต้งั อุณหภูมิเครอ่ื งปรบั อากาศที่
๔๘ มีการเปด-ปดเครอ่ื งปรับ ๒๕องศาเซลเซยี สขึ้นไป รอ ยละ ๑๐๐
อากาศเปนเวลาหรือ
ตามเวลาที่โรงเรยี นได  มกี ารตง้ั อุณหภูมิเคร่อื งปรับอากาศ
กําหนดไว ที่ ๒๕ องศาเซลเซียสขึ้นไป รอยละ
๙๐-๙๙
๔๙ มีการเปดเครือ่ งปรบั อากาศ
ทง้ิ ไวโดยไมม คี นอยใู นหอง  การต้งั อณุ หภมู เิ คร่อื งปรบั อากาศที่ ๒๕
องศาเซลเซียสขนึ้ ไป รอ ยละ ๘๐-๘๙
๕๐ มีการดูแล บํารุงรกั ษา
เครอ่ื งปรบั อากาศใหอยูใน  มีการเปด-ปดเคร่ืองปรบั อากาศเปน
สภาพท่ใี ชง านไดอยา งมี เวลาหรอื ตามเวลาที่โรงเรยี นกาํ หนด คิด
ประสทิ ธภิ าพ เปนรอ ยละ ๑๐๐

๘๒  มีการเปด-ปด เครือ่ งปรบั อากาศเปน
เวลาหรือตามเวลาท่ีโรงเรียนกาํ หนด
รอยละ ๙๐-๙๙

 มกี ารเปด -ปด เครอ่ื งปรับอากาศเปน
เวลาหรือตามเวลาท่โี รงเรยี นกาํ หนด
รอ ยละ ๘๐-๘๙

 ไมมีหอ งทีเ่ ปด เครอื่ งปรบั อากาศทง้ิ ไว
 มีหองทีเ่ ปด เครื่องปรับอากาศท้ิงไว

จาํ นวน ๑ หอ ง
 มหี องทเ่ี ปดเคร่อื งปรับอากาศทิ้งไว

ตง้ั แตจาํ นวน ๒ หองขึน้ ไป

 มกี ารลางเครอ่ื งปรับอากาศปล ะ ๒ คร้ัง
 มีการทําความสะอาดแผน กรองฝุน

(filter) เครอื่ งปรบั อากาศ ๑ เดอื นตอ ครงั้
 มกี าํ หนดเวลาการบาํ รงุ รกั ษา

เครอื่ งปรับอากาศ

ประเด็นที่ ๓ การจัดการดานการใชพลังงานในโรงเรียน (ตอ)

ลําดับ ประเด็นยอ ย มี ไมม ี รายละเอียด
๕๑ มีการดูแล รักษาหลอดไฟ  มีการทาํ ความสะอาดหลอดไฟ และโคม
ไฟ อยา งนอยปล ะ ๑ คร้งั
ใหอยูในสภาพทใี่ ชง านได
อยางมปี ระสิทธิภาพ  มกี ารทาํ ความสะอาดใบพดั ลม และ
๕๒ มีการดแู ล รกั ษาพดั ลม ให หลอลน่ื แกนหมนุ อยางนอ ยปละ
อยูในสภาพที่ใชง านไดอ ยา ง ๒ ครงั้
มปี ระสทิ ธภิ าพ
๕๓ มีการดูแล รกั ษาตเู ย็น  มกี ารทําความสะอาดตูเย็น อยา งนอ ย
ใหอ ยใู นสภาพท่ใี ชงานได เดือนละ ๑ ครง้ั
อยางมปี ระสิทธภิ าพ
๕๔ มีการดูแล รกั ษาเครอื่ งใช  มีการทําความสะอาดเครอื่ งใชไฟฟา
ไฟฟาอน่ื ๆ เชน โทรทศั น อื่นๆ เชน โทรทศั น กระติกนาํ้ รอ น
กระตกิ นํ้ารอ น ใหอยใู น อยางนอยเดือนละ ๑ ครง้ั
สภาพทีใ่ ชง านไดอยางมี
ประสทิ ธภิ าพ  มีหอ งท่ใี ชแ สงสวางจากธรรมชาติ
๕๕ มกี ารใชแ สงสวางจาก รอยละ ๖๐ ข้ึนไป
ธรรมชาติ เพอ่ื ลดการใช
ไฟฟา  มีหองที่ใชแ สงสวางจากธรรมชาติ
รอยละ ๔๐ - ๕๙
๕๖ มีการใชห ลอดไฟประเภท
หลอดไส (Incandescent)  มหี องทีใ่ ชแ สงสวา งจากธรรมชาติ
ในพน้ื ท่ตี างๆ ของโรงเรียน รอยละ ๒๐ - ๓๙

๕๗ มีการใชห ลอดไฟ LED คดิ เปน รอยละของหลอดไฟท้งั โรงเรยี น
ภายในโรงเรยี น  ไมม ีการใชห ลอดไฟประเภทหลอดไส
 มกี ารใชห ลอดไสไมเ กนิ รอ ยละ ๓
 มกี ารใชหลอดไสไ มเกินรอ ยละ ๕
 มกี ารใชหลอดไฟ LED รอ ยละ ๙ ขนึ้ ไป
 มกี ารใชห ลอดไฟ LED รอยละ ๖ - ๘
 มีการใชห ลอดไฟ LED รอ ยละ ๓ - ๕

๘๓

ประเด็นท่ี ๓ การจัดการดานการใชพลังงานในโรงเรียน (ตอ)

ลําดับ ประเดน็ ยอย มี ไมมี รายละเอียด
๕๙ มกี ารใชส วิตชแ ยกหรอื สวิตช  มีการใชสวิตชแยกภายในหองธรุ การ
 มกี ารใชส วติ ชแ ยกและสวิตชกระตุกใน
กระตุกในพืน้ ท่อี ่ืนนอกเหนือ พนื้ ท่หี องพักครู
จากหองเรยี น เชน หอง  มกี ารใชสวติ ชแยกในหอ งสมุด
ธรุ การ หอ งสมุด หอ งพกั
ครู หรอื ระเบยี งทางเดิน  มกี ารทําสญั ลักษณเพอ่ื บง บอกตาํ แหนง
(การใชส วติ ชแยกเหมาะกบั ของหลอดไฟท่แี ผงสวติ ซไฟและโคมไฟ
พ้ืนทบี่ างสวน การใชส วิตช สมั พนั ธก ัน รอยละ ๖๐ ขึ้นไป
กระตกุ เหมาะกบั พื้นที่ทใี ช
พื้นทีน่ อ ยหรือพืน้ ที่จาํ กัด  มีการทาํ สัญลกั ษณเ พือ่ บง บอกตําแหนง
เฉพาะเทาน้นั ) ของหลอดไฟที่แผงสวติ ซไ ฟและโคมไฟ
๖๐ มีการทําสญั ลกั ษณเพอื่ สมั พันธก นั รอยละ
บง บอกตําแหนง ของ ๔๐-๕๙
หลอดไฟท่ีแผงสวติ ชไ ฟ และ
โคมไฟสัมพนั ธก นั  มกี ารทําสญั ลกั ษณเพ่ือบง บอกตาํ แหนง
ในกรณที ม่ี ีหลอดไฟมากกวา ของหลอดไฟท่ีแผงสวติ ซไฟและโคมไฟ
๑ ตาํ แหนง สัมพนั ธกัน รอยละ
ในหอ งเรยี น ๒๐-๓๙

๖๑ มีการทําสญั ลกั ษณเ พอ่ื  มีการทาํ สัญลกั ษณเ พอ่ื บงบอกตาํ แหนง
บง บอกตําแหนงของ ของหลอดไฟทแ่ี ผงสวติ ซไฟและโคมไฟ
หลอดไฟทแ่ี ผงสวติ ชไ ฟ และ สมั พนั ธกัน รอยละ ๖๐ ข้นึ ไป
โคมไฟสมั พันธก นั
ในกรณที ี่มหี ลอดไฟมากกวา  มีการทาํ สัญลกั ษณเ พอ่ื บง บอกตาํ แหนง
๑ ตําแหนง ของหลอดไฟทแี่ ผงสวิตซไ ฟและโคมไฟ
ในหอ งอื่น ยกเวน หอ งเรยี น สัมพันธก นั รอยละ
เชน หองพักครู หอ งธุรการ ๔๐-๕๙
เปนตน
 มกี ารทาํ สญั ลกั ษณเ พื่อบง บอกตาํ แหนง
ของหลอดไฟท่แี ผงสวิตซไ ฟและโคมไฟ
สัมพนั ธกนั รอยละ
๒๐-๓๙

๘๔

ประเด็นท่ี ๓ การจัดการดานการใชพลังงานในโรงเรียน (ตอ)

ลาํ ดับ ประเดน็ ยอ ย มี ไมม ี รายละเอียด

๖๒ มกี ารเปด ไฟทิง้ ไวเม่ือไมม ีคน  ไมมีหอ งท่ีเปด ไฟทงิ้ ไว
อยูในหอง  มีหอ งท่เี ปด ไฟทงิ้ ไว จํานวน ๑ หอง
 มหี องทเ่ี ปด ไฟทิ้งไวต ง้ั แตจ าํ นวน

๒ หองข้ึนไป

ประเด็นที่ ๔ การจัดการดานการใชน้ําและน้ําทิ้งในโรงเรียน

๖๓ มกี ารถอดปลกั๊ เครอ่ื งใช  มีการถอดปล๊ักเครื่องใชไฟฟาท้ังหมด
ไฟฟาออกหลงั เลกิ ใชง าน  มีการถอดปลั๊กเคร่ืองใชไฟฟา
หรือหลงั เลิกเรียนหรอื ในวัน
หยดุ (ยกเวน ตูเยน็ รอยละ ๙๕ ข้ึนไป
ตแู ชไ อศกรีม หรอื อุปกรณ  มีการถอดปลั๊กเครื่องใชไฟฟา
เครอ่ื งใชไ ฟฟาทจี่ ําเปน )
รอยละ ๙๐ ข้ึนไป
๖๔ มีการเก็บบันทกึ ขอ มูลหนว ย
การใชนํ้า เพ่ือนํามาใชเปน  มีการบนั ทึกคา นาํ้ อยา งตอ เน่อื ง ๓ ป
ฐานขอมลู  มกี ารบันทึกหนว ยการใชน ํ้าอยา ง
ในการจัดการเร่อื งน้าํ ใช
ในโรงเรียน ตอ เน่ือง ๓ ป
 มกี ารเปรยี บเทยี บหนว ยการใชน า้ํ /คา นา้ํ
๖๕ มีการแสดงสถติ ิหรือปริมาณ
การใชน ้าํ ในแตล ะเดอื น ของทกุ ป
รายเดอื น/ปเ พ่ือสรางความ  มกี ารรวบรวมขอ มลู หนวยการใชนํา้ และ
ต่นื ตัวในการประหยดั น้าํ
คานํา้ อยา งเปนระบบ

 มกี ารแสดงสถติ หิ นว ยการใชน า้ํ และคา นาํ้
ของทัง้ โรงเรยี นเพ่อื แสดงในอาคารเรียน
และหอ งเรยี นรอยละ ๘๐ ขึ้นไป

 มกี ารแสดงสถติ หิ นว ยการใชน าํ้ และคา นา้ํ
ของทัง้ โรงเรียนเพอ่ื แสดงในอาคารเรียน
และหองเรียนรอ ยละ ๖๐-๗๙

 มกี ารแสดงสถติ หิ นว ยการใชน า้ํ และคา นาํ้
ของทั้งโรงเรยี นเพ่ือแสดงในอาคารเรียน
และหอ งเรียนรอยละ ๔๐-๕๙

๘๕

ประเด็นที่ ๔ การจัดการดานการใชน้ําและนํ้าท้ิงในโรงเรียน (ตอ)

ลาํ ดับ ประเด็นยอย มี ไมมี รายละเอยี ด
๖๖ โรงเรียนมรี ะบบตรวจสอบ
 มีคําสัง่ แตง ต้งั คณะกรรมการ
การร่ัวไหลของนาํ้ ตรวจสอบการรวั่ ไหลของนํ้า

๖๗ โรงเรยี นมีมาตรการหรอื  มีการกาํ หนดมาตรการตรวจสอบ
กาํ หนดเวลาในการบาํ รุง การร่วั ไหลของน้ํา
รกั ษาอุปกรณท่ีเกยี่ วกับการ
ใชน ํา้ อยางสมํ่าเสมอ  มกี ารดําเนนิ การตรวจสอบการร่ัวไหล
ของน้ําตามมาตรการทกุ วัน
๖๘ โรงเรยี นมกี ารใชก ็อกน้ํารุน
ประหยดั นาํ้ (มี Aerator)  สรุปผลการตรวจสอบ ตามมาตรการที่
หรอื รุน กานโยก กําหนด

๖๙ โรงเรียนมกี ารใชส ุขภัณฑรุน  มีการนาํ ผลการตรวจสอบไปใชแ ละ
ประหยดั น้ํา ในหองนํ้าท่ีมี ปรบั ปรงุ อยา งตอเนือ่ ง
การใชสขุ ภัณฑแ บบชกั โครก
 มีมาตรการในการกําหนดชว งเวลา
ในการบาํ รุงรกั ษาอุปกรณท ีเ่ กย่ี วกับการ
ใชใ นโรงเรียน

 มกี ารกําหนดผรู บั ผดิ ชอบตรวจสอบการ
ในการบาํ รงุ รกั ษาอปุ กรณที่
เกย่ี วกบั การใชในโรงเรยี น

 มีการประชาสัมพันธมาตรการการใน
การบํารุงรกั ษาอุปกรณท่ีเกี่ยวกับ
การใชในโรงเรียน

 มกี ารใชกอกนา้ํ รุนประหยดั นาํ้ /
รนุ กานโยก รอ ยละ ๙ ข้นึ ไป

 มีการใชก อกนาํ้ รุนประหยัดนํ้า/
รนุ กานโยก รอ ยละ ๖ – ๘

 มีการใชกอ กน้าํ รุน ประหยดั นํา้ /
รุนกา น รอ ยละ ๓-๕

 มีการใชสขุ ภัณฑรุนประหยดั นาํ้
รอ ยละ ๙ ขึ้นไป

 มกี ารใชส ุขภณั ฑร นุ ประหยดั นํ้า
รอยละ ๖ – ๘

 มกี ารใชสุขภณั ฑรุนประหยดั นํา้
รอ ยละ ๓-๕

๘๖

ประเด็นที่ ๔ การจัดการดานการใชนํ้าและน้ําท้ิงในโรงเรียน (ตอ)

ลาํ ดับ ประเดน็ ยอย มี ไมม ี รายละเอียด

๗๐ อปุ กรณจ า ยนา้ํ ในโรงเรยี น (ทอ  ไมพ บการรัว่ ไหลของนา้ํ
และวาวล กอ็ กนาํ้ สขุ ภณั ฑ  พบการรว่ั ไหลของนาํ้ จาํ นวน ๑ จดุ
ฯลฯ) มกี ารรว่ั ไหลของนาํ้  พบการร่ัวไหลของน้ําจํานวน ๒ จุด
หรอื ไม

***๗๑ โรงเรยี นไดกาํ หนดและสราง  มกี ารคดั แยกขยะออกจากภาชนะ
ระบบการคดั แยก  มกี ารคดั แยกเศษอาหารออกจากภาชนะ
เศษอาหารออกจากภาชนะ  มกี ารนาํ เศษอาหารไปทาํ ประโยชนอ ่ืนๆ
ทจ่ี ะลา งทกุ ครั้ง
เชน ทาํ ปยุ หมัก

๗๒ มกี ารตดิ ตัง้ ถงั ดกั ไขมัน เพ่ือ  มีบอ พกั
ดักไขมนั ของน้ําทง้ิ  มีบอ พกั และตะแกรงดักไขมัน
จากโรงครวั /โรงอาหาร  มถี ังดกั ไขมัน พรอ มตะแกรง

***๗๓ มีการรวบรวมไขมนั  ทกุ อาทิตย
ออกจากถังดกั ไขมนั อยา ง  ทกุ ๒ อาทติ ย
สมาํ่ เสมอ  ทกุ เดอื น

๗๔ มีการจดั การกับไขมนั ที่  นําไขมันไปทําประโยชนอ ่นื ๆ
ดักไดอยา งเหมาะสม  ตักไขมนั ใสกระสอบพกั ใหแหงกอ นนาํ

ไปทิง้
 ตกั ไขมนั ไปทง้ิ ขยะโดยไมรอใหแ หง

๗๕ โรงเรยี นจดั ใหมีการบาํ บัด  มเี คร่อื งตนี ้ําหรอื บาํ บดั นํา้ กอนปลอยสู
นํา้ เสียดวยวิธกี ารอื่นๆ สาธารณะ
กอนปลอ ยลงสูแหลงนาํ้ ใน
โรงเรียนหรอื ชุมชน (ถา มี)  มีพชื ทีส่ ามารถใชบ ําบดั นา้ํ ได เชน
ผกั ตบชวา และธปู ฤาษี

 มกี ารใช EM ในการปรบั สภาพนํ้า
 อน่ื ๆ

ประเด็นที่ ๕ การจัดซ้ือ/ การใชผลิตภัณฑและการจัดการขยะในโรงเรียน

๗๖ โรงเรียนมีมาตรการหรอื  แผนการงบประมาณในการจัดซอื้
ระเบียบการเกย่ี วกับ  ระบบตรวจสอบพัสดุคงเหลือเพ่ือเตรียม
การตรวจสอบและทบทวน
ความตอ งการวัสดุ ครุภณั ฑ การจัดซอ้ื
ตา งๆ เพ่อื ใหม ี  การเขยี นโครงการเพ่ือขออนุมัติจดั ซอื้
การจดั ซื้อเทาทจ่ี าํ เปน
๘๗

ประเด็นท่ี ๕ การจัดซ้ือ/ การใชผลิตภัณฑและการจัดการขยะในโรงเรียน (ตอ)

ลําดบั ประเด็นยอย มี ไมม ี รายละเอียด

๗๗ โรงเรียนมมี าตรการหรอื  มวี สั ดุ ครภุ ณั ฑท เี่ ปน มติ รกบั สง่ิ แวดลอ ม
ระเบียบการเกี่ยวกบั การ เชน มาตรฐาน มอก. เบอร ๕ คณุ สมบตั ิ
เลือกซอ้ื วสั ดุ ครุภัณฑ และ กอ กนาํ้ ประหยดั พลงั งาน
ผลิตภณั ฑท ่ีเปน มิตรกับส่ิง
แวดลอม เชน  มกี ารกาํ หนดมาตรฐานอายกุ ารใชง านของ
เคร่ืองใชทมี่ ฉี ลากประหยดั อปุ กรณท จ่ี ะซอ้ื
ไฟเบอร ๕ ก็อกน้าํ รุน
ประหยัดน้าํ ผลิตภณั ฑท มี่ ี  มกี ารกาํ หนดคณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพ
บรรจุภัณฑทีไ่ มสน้ิ เปลือง ของอปุ กรณท จ่ี ะซอื้
และสามารถ Recycle ได

๗๘ โรงเรยี นมมี าตรการหรอื  ติดปา ยประกาศการจําหนา ยสนิ คา
ระเบยี บการในการคดั เลอื ก  ระเบยี บและขอ ปฏบิ ตั ใิ นการจาํ หนา ยสนิ คา
สนิ คา หรอื อาหารที่  มีขอ ตกลงรวมกนั ระหวา งโรงเรียนและ
ไมก อ ใหเ กิดขยะ เขามาวาง
จําหนายในโรงเรยี น ผูข าย

๗๙ มกี ารแสดงสถิติปรมิ าณขยะ  มีการแสดงสถติ ิปรมิ าณขยะ ทกุ สัปดาห
รายเดอื น/ปเพ่อื สรางความ  มีการแสดงสถติ ปิ ริมาณขยะ ทุกเดือน
ตน่ื ตัวในการลด/แยกขยะ  มกี ารแสดงสถติ ปิ รมิ าณขยะ ทกุ ๒ เดอื น

๘๐ มกี ารจดั ใหบ ุคลากร/  มีการจัดวางถงั ขยะโดยแยกประเภท
นกั เรียนแยกขยะทั้งหมด ใน ของขยะ
โรงเรียน (ทุกประเภทของ
ขยะและทุกพ้นื ที่) อยาง  มีการติดสติก๊ เกอรบ อกประเภทของ
เหมาะสมและเปน รปู ธรรม ถงั ขยะ

 ใหค วามรูค วามเขาใจแกน ักเรียนในการ
แยกขยะและทง้ิ ลงถังไดถูกตอ ง

ประเด็นท่ี ๖ การดูแลคุณภาพอากาศในโรงเรียน

๘๑ โรงเรียนไดม กี ารประสานกบั  มีการแสดงสถานทร่ี ับซ้ือหรอื รับวัสดุ
ผูรับซือ้ หรือรับวัสดุจากการ จากการคดั แยก
คดั แยกมูลฝอย เพื่อนาํ กลบั
มาใชใหม (Recycle)  รายละเอยี ดของการรับซ้ือ
 การมีสว นรวมของการนาํ วสั ดุอุปกรณท ่ี

Recycle นํามาใชใ หม

๘๘
















Click to View FlipBook Version