The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bew.2544, 2022-02-10 06:50:41

ขนมลา

ขนมลา

ขนมลา
จังหวัดนครศรีธรรมราช

คำนำ

รายงานรูปเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่ วนหนึ่งของรายวิชา


เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยตระหนักให้นักศึกษาได้ค้นคว้า วิจัย และ

สร้างสรรค์ผลงาน ออกมาในรูปแบบ การสร้างสื่ อการเรียนรู้แบบ

สื่ ออิเล็กทรอนิกส์ ในรูปของ e-book โดยรายงานเล่มนี้มีเนื้อหา

เกี่ยวข้องกับ ประวัติขนมลา วัตถุดิ
บในการทำขนมลา อุปกรณ์ในการ


ทำขนมลา ขั้นตอนในการทำขนมลา ขั้นตอนการทอด
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดทำสื่ ออิเล็กทรอนิกส์ รูปแบบ e-

bookนี้ จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจเรื่องขนมลา หากมีข้อ

แนะนำหรือผิดผลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

คณะผู้จัดทำ
10/02/65

สารบัญ 4-6
7
-ประวัติขนมลา 8
-วัตถุดิบในการทำขนมลา 9
-อุปกรณ์ในการทำขนมลา 10
-ขั้นตอนการทำขนมลา 11
-ขั้นตอนการทอด
-การอ้างอิง

ประวัติขนมลา

จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน และได้มีการพัฒนาของ

เมืองเรื่อยมาหลายยุคหลายสมัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการดำรงชีวิตของชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึง

ปัจจุบันผ่านความเจริญรุ่งเรืองจนเกิดเป็นศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็น

เอกลักษณ์ของบ้านเมือง ทำให้ได้รับการเรียกขานจังหวัดนครศรีธรรมราชว่า “ นครศรีธรรมราช

เมืองแห่งธรรมะ ” กล่าวคือ เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาโดยมีพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระ

มหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ผู้คนให้ความสำคัญศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธ

ศาสนา เกิดเป็น พหุวัฒนธรรมและประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา เช่น ประเพณีบุญ

สาทรเดือนสิบ เป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราชนิยมจัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้

บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยใช้ขนมทั้ง 5 อย่าง คือ ขนมพองเป็นสัญลักษณ์แทนเรือแพที่

บรรพบุรุษใช้ห้ามห้วงมหรรณพ ขนมบ้า เป็นสัญลักษณ์แทนลูกสะบ้า (ของเล่นชนิดหนึ่งนิยมใช้

เล่นสำหรับต้อนรับวันสงกรานต์) ขนมดีซำ เป็นสัญลักษณ์แทนเงิน เบี้ย สำหรับใช้สอย ขนมกง

หรือขนมไข่ปลาเป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องประดับ และขนมหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้คือ ขนมลา เป็น

สัญลักษณ์แทนแพรพรรณเครื่องนุ่งห่ม (สืบพงศ์ ธรรมชาติ, เดือนสิบ '๔๒, 2542, น.85 - 87)

ขนมลา เป็นขนมอีกชนิดหนึ่งในหลายชนิดที่ทำกินต่อ ๆ กันมาใน
เทศกาลเดือนสิบ เพื่อกุศลให้ตายาย (บรรพบุรุษ) กิน ผู้ให้สัมภาษณ์
บางคนเล่าว่า ขนมลาเป็นแต่สมัยพุทธกาล และมีกล่าวไว้ในธรรมบท
เช่นกันโดยกล่าวว่า พระเจ้าพิมพิสาได้ยินเสียงร้องของพวกเปรต จึง
ได้ไปทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงบอกให้ทำอาหารหวานขึ้น
เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พวกเปรตที่อดอยากเหล่านั้นปัจจุบันนี้

ขนมลายังคงทำกันในเทศกาลเดือนสิบทุก ๆ ปี

บทความสัมภาษณ์จาก นางกฤตยา นาคสิงห์ กล่าวถึงขนมลาว่า ใน

ลุ่มแม่น้ำปากพนังสมัยก่อนมีการปลูกข้าวเป็นจำนวนมาก แต่ในยุคนั้นมี

การเกิดอุทกภัย ทำให้พื้ นที่นาบริเวณนั้นเกิดความเสียหาย ชาวบ้านใน

บริเวณนั้นจึงได้คิดค้นวิธีการแปรรูปของข้าว คือ นำข้าวไปตากแดดให้

แห้งแล้วนำมาตำให้ละเอียดจนกลายเป็นแป้ง และนำแป้งไปแช่น้ำ 2 คืน

เพื่ อที่จะนำแป้งนั้นมาทำเป็นขนมลา (กฤติยา นาคสิงค์, 2564)

วัตถุดิบในการทำขนมลา น้ำตาล


ข้าวสาร จาก น้ำเปล่า

ใบสมอ
น้ำมันพืช ไข่แดง
ทะเล

อุปกรณ์ในการทำลา

กระสอบ ครก/สากตำข้าว เชือก กระทะ



ตะเกียบ ผ้าขาวกรองแป้ ง
กระป๋ องร่อนแป้ ง

ขวดแก้ว

ขั้นตอนการทำแป้ง

1.หมักข้าวสาร แช่ข้าวสารในน้ำ 1 ช.ม.จากนั้นนำขึ้นจากน้ำและใช้ใบสมอทะเลหมักลงในกระสอบ

หมัก 2 – 3 วัน และต้องรดน้ำทุกวันระหว่างการหมัก
2.นำข้าวสารมาโดยบรรจุใส่เครื่องนวดแป้ง (ในอดีตใช้วิธีการตำ)
3.เมื่อตีข้าวสารเป็นแป้งแล้วใส่แป้งข้าวเหนียวผสมลงไปเล็กน้อย จากนั้นเติมน้ำแล้วขยำแป้ง
4. นำแป้งมากรอง และรอแป้งตกตะกอน
5.มัดห่อแล้วแขวนไว้ จากนั้นใช้ไม้ตีแป้ง และหนีบแป้ง
6.จากนั้นนำแป้งมานวดผสมกับน้ำตาลจาก (สูตรเฉพาะของปากพนัง)
ขั้นตอนการทอด
ต้องใช้คน 2 คน ช่วยกัน ทอด โดย คนหนึ่งจะเป็นคนทาน้ำมัน ซึ่งส่วนประกอบของน้ำมัน จะมี

น้ำมันพืชและไข่แดงของไข่เป็ดต้ม
คนทอดขนมจะตักแป้งภาชนะแล้วร่อนเป็นวงกลมให้บางพอสมควรลงบนกระทะ จากนั้นใช้ไม้

เขี่ยขึ้นมาพัก

ขั้นตอนการทอด



ต้องใช้คน 2 คน ช่วยกัน ทอด โดย คนหนึ่ งจะเป็นคนทาน้ำมัน ซึ่ง

ส่วนประกอบของน้ำมัน จะมีน้ำมันพืชและไข่แดงของไข่เป็ดต้ม
คนทอดขนมจะตักแป้งภาชนะแล้วร่อนเป็นวงกลมให้บางพอ

สมควรลงบนกระทะ จากนั้ นใช้ไม้เขี่ยขึ้นมาพัก

อ้างอิง




กฤตยา นาคสิงค์. (18 กันยายน 2564). ขนมลาหอยรากปากพนัง.
(คณากร ตะนาวศรี, ผู้สัมภาษณ์)

สืบพงศ์ ธรรมชาติ. (2542). เดือนสิบ '๔๒. กรุงเทพฯ: นาคร.
อำไพ โสรัจจะพันธ์. (2544). อาหารท้องถิ่นภาคใต้. สงขลา: สถาบันราชภัฎสงขลา.

สมาชิกในกลุ่ม

นายคณากร ตะนาวศรี นายพิพัฒน์ธนพงษ์ สมหวัง

นายขจรศักดิ์ สุวรรณภักดี


Click to View FlipBook Version