หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 วฒั นธรรมกบั ภาษา
ความรเู้ บ้ืองตน้ เกย่ี วกับภาษาถิน่
ภาษาไทยถนิ่
ภาษาถิ่นมีความสําคัญกับวัฒนธรรมท้องถิน่
ทง้ั ในแง่ของการบอกเลา่ แบบปากต่อปาก (มุขปาฐะ) และการบันทกึ เปน็ ลาย
ลักษณ์อกั ษร เพือ่ พฒั นาและสบื ทอดวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน เชน่ ค่านิยม ความเช่อื
ขนบธรรมเนยี มประเพณี บทเพลง สาํ นวน สภุ าษติ และคําพังเพย
ประเทศไทยแบง่ ตามภูมิศาสตรเ์ ป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. ภาษาไทยถน่ิ เหนอื
2. ภาษาถิ่นกลาง
3. ภาษาไทยถ่ินอีสาน
4. ภาษาไทยถ่ินใต้
ฃ๋ื
. สาเหตุทเี่ กิดภาษาถิน่
1. เน่อื งจากสภาพทางภมู ิศาสตร์ของบางท้องถิน่ ทุรกันดาร
2. ธรรมชาติของภาษาย่อมมกี ารเปล่ียนแปลง โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งเมื่อผ่าน
ชว่ งระยะเวลาหนึ่งภาษาทใ่ี ชส้ ่ือสารอาจตา่ งไปจากเดมิ ทําให้ในบางครัง้
ไม่อาจสันนิษฐานถึงทีม่ าของคาํ ศัพท์
3. การรับอทิ ธิพลของภาษาของกลมุ่ คนทอ่ี ยู่ใกล้เคียงกนั ซงึ่ มโี อกาสได้
ติดต่อสือ่ สารกันอยา่ งต่อเน่อื ง เป็นสาเหตุทที่ าํ ให้เกดิ ภาษาสํา
เนียงใหม่ของคนในทอ้ งถน่ิ นัน้ ข้ึน
ตวั อย่างภาษาถิน่
นักเรยี นรบั ชมวดิ โี อตัวอย่างการออกเสยี งภาษาถ่นิ 4 ภาค ^^
ตวั อยา่ งภาษาถนิ่ ทส่ี ะทอ้ นวัฒนธรรมในเพลงกล่อมเด็ก
นกั เรยี นรบั ชมวิดีโอตัวอย่างเพลงกล่อมเด็กภาษาถิ่น 4 ภาค
จากสํานักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาติ ^^
ภาษากบั การพัฒนาและสืบทอดวัฒนธรรม
ภาษาช่วยให้มนษุ ย์มปี จั จัยอนั เปน็ พืน้ ฐานการดาํ รงชีวิต คือ อาหาร เครื่องนงุ่ ห่ม
ที่อยู่ยารกั ษาโรค เรื่องบนั เทิงสขุ ะอํานวยความสะดวกสบายต่าง ๆ มสี ถาบนั สาํ คญั
หากมนุษยไ์ มม่ ภี าษาเพอ่ื พัฒนาความคดิ กจ็ ะไม่สามารถตดิ ตอ่ ส่อื สารความเข้าใจ
ระหวา่ งกนั ไดอ้ ยา่ งแจ่มแจง้ ชดั เจนไม่อาจสร้างสรรค์วัฒนธรรมอันซับซ้อนและละเอยี ดออ่ น
และสบื ทอดตอ่ มาจนทุกวนั นหี้ รอื หากมนษุ ยท์ าํ ได้เพียงเสียงเรียกเสียงพอใจเสียงไมพ่ อใจ
เช่นสัตวบ์ างชนิดมนุษยป์ ัจจบุ นั คงมสี ภาพใกลเ้ คยี งกบั สัตวท์ ่ัวไป
วรรณคดีกับวัฒนธรรม aเพaจmภาษmาไทmยไมa่จั๊กaเดaยี aม
วรรณคดีเปน็ ศิลปะทางภาษา ซึง่ เขา้ ถึงและชี้แนะใหเ้ ห็นคณุ คา่ ไดง้ า่ ยกวา่ ศลิ ปะชนดิ
อื่น คณุ สมบตั ิประการนข้ี องวรรณคดีจึงช่วยสืบทอดวฒั นธรรมไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
ตัวอยา่ ง “อย่าลุม่ หลงจงอตุ สา่ หร์ กั ษาศลี ให้เพมิ่ ภญิ โญไปดังใจหมาย
อยา่ ฆ่าสัตว์ตดั ชีวิตคดิ อบุ าย จะจาํ ตายตกนรกอเวจี
พีแ่ บง่ บุญบรรพชาสถาผล ส่วนกุศลใหส้ ดุ ามารศรี
กลับไปอยคู่ หู าในวารี อยา่ ได้มหี ่วงใยอาลยั ลาญ”
บทประพันธ์นี้สะทอ้ นให้เหน็ ถึงวฒั นธรรมการปฏบิ ัตติ นทางดา้ นศาสนา
ความสัมพันธข์ องวัฒนธรรมกบั ภาษา
1) ภาษาสร้างธาํ รงและพัฒนาวัฒนธรรม
2) ภาษาสะทอ้ นวฒั นธรรม
2.1 มีคาํ แสดงความลดหลั่นชัน้ เชงิ เชน่ คาํ ใช้เรียกเครือญาติ แสดงให้เห็นถงึ ความ
แตกต่างดว้ ยวยั วฒุ ิ
2.2 มีการใชค้ ําแทนตวั เปน็ คําบอกเครอื ญาติ บอกอาชีพ บอกตาํ แหนง่ และยังใช้คาํ
เรยี กท่ียกยอ่ งผู้ทเี่ ราพดู ด้วย และถ่อมตัวเองอีกด้วย
2) ภาษาสะทอ้ นวัฒนธรรม
2.3 มีคําศัพทแ์ สดงรายละเอยี ดในการกล่าวถึงเรือ่ งใกลต้ วั เช่น คาํ ขยายรสอาหาร
คาํ เฉพาะดา้ นดนตรนี าฏศลิ ป์ เปน็ ตน้
2.4 มีการเลน่ กบั ภาษาในรปู แบบต่าง ๆ เชน่ การใชค้ าํ คลอ้ งจอง การผวนคํา
ปรศิ นาคําทาย ฯลฯ
2.5 มลี ักษณะนามช่วยจําแนกลกั ษณะของส่ิงต่าง ๆ เช่น เลม่ ดา้ ม อัน หลงั ฯลฯ
2.6 ภาษามีความหลากหลาย ภาษาไทยมที ้งั ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาไทย
ทอ้ งถนิ่
3) การใช้ภาษาสัมพันธ์กบั วฒั นธรรมภาษา
3.1 การใชค้ ําราชาศพั ท์ คอื ระเบียบที่วา่ ดว้ ยการใช้คาํ เพ่อื ให้เหมาะสมกบั
บุคคลอนั ประกอบดว้ ย พระมหากษัตรยิ ์ พระบรมวงศานวุ งศ์ พระสงฆ์ และ
สภุ าพชน เป็นต้น
3.2 การใชค้ าํ รน่ื หู เช่น ผูห้ ญิงจะไปปัสสาวะ กใ็ ชค้ าํ ว่า “ไปเก็บดอกไม้”
ผ้ชู ายจะไปปสั สาวะ ก็ใชค้ าํ ว่า “ไปยงิ กระตา่ ย”
3.3 ระดบั ภาษา คือ ภาษาระดบั พิธกี าร ภาษาระดับทางการ ภาษาระดบั
กงึ่ ทางการ ภาษาระดับไมเ่ ปน็ ทางการ ภาษาระดับกันเอง
4) ภาษาเป็นเครื่องอบรมจิตใจและความประพฤติของผู้ใช้ให้มีความละเอียดอ่อน
การใช้ภาษาสําหรับการปฏิบัติภารกิจแต่ละอย่างแตกต่างไปจากภาษาที่สามัญชนใช้
เชน่ พระสงฆ์จะใชค้ ําว่า ฉนั แทนคาํ วา่ กนิ ใชค้ ําวา่ จําวัด แทนคาํ วา่ นอน
พระราชาใชค้ าํ วา่ เสวย แทนคําวา่ กนิ ใชค้ ําวา่ บรรทม แทนคําว่า นอน เป็นต้น
5) ภาษาคอื วฒั นธรรม
ภาษาเป็นระบบสัญลักษณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อตอบสนองการดํารงชีวิตในสังคม คอื การ
สื่อสารความต้องการด้วยความคิด ความรู้สึก ความเชื่อ และมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับที่เรา
ตอ้ งการซ่งึ ผคู้ นที่อยู่ในสังคมเดยี วกนั น้ตี ้องเรียนร้รู ะบบภาษาร่วมกัน
จบ