The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรภาษาไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wanlaya6934, 2022-09-27 11:14:51

หลักสูตรภาษาไทย

หลักสูตรภาษาไทย

๑๐๐

หนว่ ยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
๑๐ นกั คิดสมองใส ตัวช้ีวดั คะแนน
(ชวั่ โมง)
ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ ๘
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ ป.๒/๕ เรอ่ื ง นักคิดสมองใส เป็นการอ่าน ๑๑
ป. ๒/๖
ทม่ี ุ่งเนน้ ให้ผ้เู รยี นได้เรยี นรู้
ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒
ป. ๒/๓ ป.๒/๔ เรือ่ งราวตา่ งๆ ผ่านการฝกึ ฝน และ

ท ๓.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๗ ทดลองทำจึงจะเกดิ ความชำนาญ

ท ๔.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ และทำไดด้ ี และการอา่ นการฟัง
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔
เป็นทักษะอย่างหนง่ึ ในการการ
ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๓
สร้าง ประสบการณ์ ทีช่วยให้เขา้ ใจ

ความหมายของขอ้ เขยี น คำส่ัง

หรือ คำแนะนำไปสื่อสารและ

ปฏบิ ัติ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์

การฟงั อยา่ งต้งั ใจและมสี มาธิจะทำ

ให้ สามารถบอกสาระสำคัญของ

เรื่อง สาระสำคัญไดต้ รงตาม

วัตถปุ ระสงค์ การบอกและเขียน

พยัญชนะ สระ วรรณยกุ ตแ์ ละเลข

ไทยได้ถูกต้องจะ ต้องรู้จกั ลักษณะ

รปู แบบการเขียน สามารถ

เปรียบเทยี บรปู แบบและวธิ ี เขยี น

เรียบเรยี งให้ไดใ้ จความสมบรู ณ์ รู้

ความหมายของคำ ข้อความจึง

สามารถสือ่ สารไดต้ รงตามเจตนา

ให้ดขี ้นึ เปน็ พ้ืนฐานในการพดู

ส่ือสาร การอ่านคำและการอ่านบท

ร้อยกรอง คำคล้องจองและการ้อง

เพลง ประกอบบทเรยี นซงึ่ มีคุณคา่

และ สนุ ทรีทางภาษาควรคา่ แกก่ าร

ทอ่ งจำ

๑๐๑

หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
๑๑ โลกรอ้ น ตัวชว้ี ัด คะแนน
(ช่วั โมง)
ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ ๘
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ การอ่านเร่ืองโลกร้อน มุ่งเนน้ ให้ ๑๑
ป. ๒/๕ ป. ๒/๖
นักเรียนไดท้ ราบวา่ ภาวะการ
ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒
ป. ๒/๓ ท ๓.๑ ป. ๒/๑ เปลีย่ นของอากาศท่ี สง่ ผลตอ่
ป. ๒/๓ ป. ๒/๕
ป. ๒/๗ ส่ิงแวดลอ้ มในโลก และเราจะ

ท ๔.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ หาทางปอ้ งกัน และแก้ไขได้อยา่ งไร
ป. ๒/๓
การอา่ น และบอกความหมายของ
ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒
ป. ๒/๓ คำ การอ่านออกเสยี ง ตอบคำถาม

จากเรือ่ งสามารถคาดคะเน

เหตุการณ์จากเรื่องท่ีอ่านเขียนคำ

ในบทเรยี น คดั ลายมือ อ่านสะกด

คำ คำที่มีพยญั ชนะ ทีไ่ ม่ออกเสยี ง

คำอา่ นออกเสยี ง ประโยคใน

บทเรียนการ แสดงความคดิ การฟัง

เรือ่ ง ตอบคำถามจากเร่ืองที่ฟังและ

สรปุ เรื่องโดยใชท้ ักษะต่างๆ การ

อา่ นออกเสียงจะชว่ ยให้ ทราบ

ประโยคท่ีอ่านออกเสยี ง ถูกต้อง

หรือไม่ เปน็ พื้นฐานใน การพูด

สื่อสารการอ่านคำและ การอ่านบท

รอ้ งกรอง คำคล้องจองและการรอ้ ง

เพลง ประกอบบทเรยี น เปน็ การ

ฝกึ ประสบการณ์ทางภาษาเพ่ือให้

สนกุ สนานในการเรยี นนักเรยี นมี

ความรูแ้ ละสามารถนำความรู้ทไ่ี ด้

รบั ไปใช้ในชีวิตประจำวันและเกิด

นิสัยรกั การอ่านการเขียน

๑๐๒

หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรียนร้/ู สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
๑๒ รักพ่อ รักแม่ ตัวชี้วัด คะแนน
(ชั่วโมง)
ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ ๘
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ เรื่องรักพอ่ รักแม่มุง่ เนน้ ให้นักเรยี น ๑๑

ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๓ ได้เหน็ ความรักของ พ่อแม่ และ

ท ๓.๑ ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ สอดแทรกคณุ ธรรม เรื่องความมี
ป. ๒/๕ ป. ๒/๗
เมตตากรุณาธิคุณ ของ
ท ๔.๑ ป. ๒/๒ ป. ๒/๓
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั
ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒
สมเดจ็ พระนางเจา้ พระบรม ราชินี

นาถทมี่ ีต่อคนไทย แล้วนักเรียน

สามารถเลอื ก อ่านหนงั สือทีม่ ี

คุณค่า รูจ้ กั การตง้ั คำถาม/ตอบ

คำถาม สรปุ สาระสำคญั และแสดง

ความคดิ เหน็ จะชว่ ยใหไ้ ด้ข้อคิด

และสามารถนำไปเขยี นเรอ่ื งส้ันๆ

ไดต้ ามวัตถุประสงค์ การอ่านการ

ฟังช่วยให้เขา้ ใจและ สรปุ ใจความ

สำคัญของข้อเขียน คำสั่งหรือ

คำแนะนำสามารถ นำไปสอื่ สาร

และปฏบิ ัตติ รงตาม ความต้องการ

การบอกและ การเขียนพยญั ชนะ

สระ วรรณยกุ ตแ์ ละตวั เลขไทย ได้

ถูกต้อง ร้จู กั รปู แบบการเขียน เรียบ

เรยี งให้ไดป้ ระโยคท่ีสมบูรณ์ และรู้

ความหมายจึงจะชว่ ยให้ ส่ือสารได้

ตรงตามเจตนา การอ่านบทร้อง

กรอง คำคล้องจองและการร้อง

เพลง ประกอบบทเรียน เปน็ การ

ฝึก ประสบการณ์ทางภาษา เพือ่ ให้

สนุกสนานเหน็ คุณค่า และสุนทรี

ทางภาษาควร แกก่ ารท่องจำ

สามารถนำความรู้ ท่ีไดร้ ับไปใช้ใน

ชวี ิตประจำวนั และเกดิ นิสยั รักการ

อา่ นการเขียน

๑๐๓

หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
๑๓ เขด็ แล้ว ตวั ช้วี ดั คะแนน
(ชัว่ โมง)
ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ ๘
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ การอ่านเรื่องเข็ดแลว้ เปน็ การอ่าน ๑๑
ป. ๒/๕ ป. ๒/๖
ท่ีทำใหผ้ ู้เรียนได้ สรปุ ใจความ
ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒
เขยี นเปน็ แผนภาพ โครงเรื่องบอก
ท ๓.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๗
รายละเอยี ดของ เรื่องท่ีอา่ นรู้จกั
ท ๔.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ การเลอื กอ่าน หนงั สือท่ีมีคณุ ค่า

ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ รูจ้ ักการตัง้ คำถาม สรปุ สาระสำคัญ
ป. ๒/๓
และการแสดงความคิดเหน็ จะช่วย

ให้ไดข้ ้อคดิ และนำไป เขียนเร่ือง

สั้นๆ ตามวตั ถุประสงค์ การอ่าน

การฟังอย่างมสี มาธิ สามารถบอก

สาระสำคญั ของ เร่ืองท่ีฟงั และดูท้งั

ท่ีเป็นความรู้ ความบันเทงิ

สาระสำคัญและ แสดงความคิดเหน็

ได้ตรงตาม วตั ถุประสงค์การบอก

และ การเขยี นพยัญชนะสระ

วรรณยุกตแ์ ละตวั เลขได้ถูกต้อง

จะตอ้ งรูจ้ ักลักษณะรปู แบบและ วธิ ี

เขียนเรยี บเรียงให้ได้ประโยค ที่

สมบูรณแ์ ละรู้ความหมาย จงึ จะ

ชว่ ยใหก้ ารส่ือสารนน้ั ตรงตาม

เจตนา การใชค้ ำคล้องจองที่มี

คุณค่า และสุนทรที างภาษาควรคา่

แก่การท่องจำ

๑๐๔

หน่วยที่ ชอื่ หน่วย มาตรฐานการเรียนร้/ู สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
๑๔ เด็กดี ตัวชวี้ ดั (ช่วั โมง) คะแนน
การอา่ นเร่ืองเด็กดมี ุง่ เน้น ให้
ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ นกั เรยี นไดร้ ู้จกั หน้าที่ ของตนเอง ๑๑ ๗
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ ต่อครอบครวั และชมุ ชน การอ่าน
ป. ๒/๕ ป. ๒/๖ และบอกความหมายของ คำ การ
อ่านออกเสียง ตอบคำถาม จาก
ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ เรอ่ื งสามารถคาดคะเน เหตุการณ์
ป. ๒/๓ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ นเขยี นคำ ในบทเรยี น
คัดลายมือ อ่านคำ และการอ่าน
ท ๓.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ เครื่องหมายต่าง ในภาษาไทย การ
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ ผนั วรรณยุกต์ ได้ถูกต้อง อ่านออก
ป. ๒/๗ เสยี งประโยค ในบทเรยี นการ
แสดงความคิด การฟังเร่อื งตอบ
ท ๔.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ คำถามจากเร่ือง ที่ฟังและสรุปเรือ่ ง
ป. ๒/๓ ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ได้โดยใชท้ ักษะ ต่างๆ การอ่านออก
ป. ๒/๒ ป. ๒/๓ เสียงจะชว่ ยให้ ทราบประโยคที่
อ่านออกเสียง ถูกต้องหรือไม่เพือ่
จะได้ปรับปรงุ การอ่านให้ดีขึ้นเปน็
พืน้ ฐานใน การพดู สือ่ สารการอ่าน
คำและ การอ่านบทร้องกรอง คำ
คล้องจองและการร้องเพลง
ประกอบบทเรียน เป็นการฝกึ
ประสบการณ์ทางภาษาเพ่ือให้
สนุกสนานในการเรยี นนักเรียน มี
ความรูแ้ ละสามารถนำความรู้ ท่ี
ไดร้ ับไปใช้ในชวี ิตประจำวัน และ
เกดิ นิสยั รกั การอา่ นการเขียน

๑๐๕

หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
๑๕ ชาติของเรา ตวั ชีว้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน
การอ่านเรื่องชาตขิ องเรามุ่งเน้น ให้
ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ นกั เรยี นได้ทราบความเป็นมา ของ ๑๑ ๗
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ ชาติไทย ต้องอาศยั เข้มแขง็ และ
ป. ๒/๕ ป. ๒/๖ ความสามคั คี ของคนในชาติ การ
อา่ นคำและบอกความหมาย ของ
ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ คำ การอ่านออกเสยี ง ตอบคำถาม
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ จากเรอ่ื ง สามารถคาดคะเน
เรยี งลำดบั เหตกุ ารณจ์ าก เรือ่ งที่
ท ๓.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ อา่ นเขียนคำในบทเรยี น คดั ลายมือ
ป. ๒/๗ อ่านสะกดคำทไี่ มม่ ี ตวั สะกดและมี
ตัวสะกด การอา่ น และการผัน
ท ๔.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ วรรณยุกตไ์ ด้ถูกต้อง อ่านออกเสยี ง
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ ประโยคในบทเรยี น การแสดง
ป. ๒/๕ ความคดิ การฟงั เรื่อง มีนำ้ ใจตอบ
คำถามจากเรื่องท่ีฟงั และสรุปเรอื่ ง
ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ โดยใชท้ ักษะต่างๆ การอา่ นออก
ป. ๒/๓ เสียงจะชว่ ยให้ ผเู้ รียนพฒั นาการ
อา่ น การพดู ให้ถูกต้อง และ
ปรับปรุง การอา่ นให้ดีข้นึ เปน็
พืน้ ฐานใน การพดู ส่ือสาร การอ่าน
คำและ การอ่านบทรอ้ งกรอง คำ
คลอ้ งจอง และการร้องเพลง
ประกอบบทเรียน เปน็ การฝึก
ประสบการณ์ทาภาษา เพ่อื ให้
สนกุ สนานในการเรยี น นกั เรยี นมี
ความร้แู ละสามารถ นำความร้ทู ี่
ไดร้ ับไปใชใ้ นชวี ิต ประจำวันและ
เกิดนิสัยรกั การอ่าน การเขยี น

๑๐๖

หน่วยที่ ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
๑๖ ไกแ่ จแ้ ซเ่ สียง ตวั ช้ีวัด (ชั่วโมง) คะแนน
การอ่านในใจเป็นการอ่าน
ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ เพือ่ สรปุ ความเข้าใจเร่ืองราว ๑๑ ๘
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ ผู้อา่ นตอ้ งใชส้ มาธิสตใิ นการอ่าน
ป. ๒/๕ ป. ๒/๖ ศึกษาคำยากตั้งจุดหมาย
ในการอ่าน
ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ อา่ นอยา่ งพนิ จิ พิจารณา
ท ๓.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๓ จะทำใหจ้ ับใจความสำคัญ
ป. ๒/๕ ป. ๒/๗ ของเร่ืองที่อ่านสามารถตอบ
คำถามลำดับเหตุการณ์ของเรื่อง
ท ๔.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ และนำไปเขียนเปน็ แผนภาพ
ป. ๒/๓ โครงเรอ่ื งเพอื่ เลา่ เร่ือง
ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ และเขียนเรื่องได้
ป. ๒/๓ การอา่ นเรื่องไกแ่ จ้แซ่เสียง
ความไพเราะของบทร้อยกรอง
อา่ น เขียนคำในบทเรยี น
การคดั ลายมือ การพดู สอ่ื สาร
การอ่านคำและการอา่ น
บทร้อยกรอง คำคลอ้ งจอง
และการร้องเพลงประกอบ
บทเรียน เป็นการฝกึ ประสบการณ์
ทางภาษาเพอ่ื ให้สนกุ สนานใน
การเรียนนักเรยี นมีความรู้และ
สามารถนำความรู้ทีไ่ ดร้ บั ไปใช้
ในชีวิตประจำวนั และเกดิ นิสัย
รกั การอ่านการเขยี น

๑๐๗

หน่วยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
๑๗ ตวั ชวี้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน
ภาพวาดของสี การอ่านจบั ใจความสำคัญ เรอื่ ง
เทยี น ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ ภาพวาดของสเี ทียน เปน็ การใช้ ๑๑ ๘
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ กระบวนการอ่าน สรา้ งความรูแ้ ละ
ความคดิ โดยการตอบ คำถามเพ่อื
ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ สรุปใจความสำคัญ เพ่อื นำไปใชใ้ น
ป. ๒/๔ การตดั สิน ในแก้ปญั หาใน
ชวี ิตประจำวันไดจ้ ำเปน็ จะต้องฝึก
ท ๓.๑ ป. ๒/๓ ป. ๒/๖ การอ่าน ออกเสยี ง และ มีมารยาท
ป. ๒/๗ ในการอ่านการเขียนเป็นการใช้
กระบวนการสือ่ สารในรูปแบบตา่ งๆ
ท ๔.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ - การคดั ลายมือตามรปู แบบการ
ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ ท ๕.๑ เขียนอักษรไทย เปน็ การ ฝึกให้
ป. ๒/๑ ป. ๒/๓ นักเรียนเขยี นได้ถูกตอ้ งมีสมาธิและ
ความมีระเบยี บ ในการทำงานท่ี
จะต้องฝึกฝนใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความ
ชำนาญ และนำไปใช้
- การเขยี นเร่อื งจากภาพ เปน็ การ
เขียนโดยใชป้ ระสบการณ์ รว่ มกับ
จินตนาการของผ้เู ขยี น โดย
รายละเอียดต่างๆ จากภาพเป็น
พ้นื ฐานในการสรา้ งจนิ ตนาการ
เพอ่ื สื่อสาร ให้ผู้อา่ นทราบเรื่องราว
จากการเขยี นซงึ่ จำเป็นต้องมี
มารยาทในการเขียน
- การฟัง การดูการพดู เล่าเรื่อง
หรอื ตอบคำถาม เปน็ การ นำ
ความรู้จากประสบการณ์ทไ่ี ด้รับสู่
ผู้ฟงั โดยมจี ุดประสงค์ เพ่ือสร้าง
ความร้คู วามเข้าใจ ความบนั เทิง
เปน็ การพดู ส่ือสารให้ชดั เจนตรง
ตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละมมี ารยาทใน
การพดู การฟัง การดู

๑๐๘

หนว่ ยที่ ชอื่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
ตวั ชี้วัด (ชัว่ โมง) คะแนน
- ภาษาไทยเปน็ เคร่ืองมอื ในการ
สอ่ื สารเพ่ือให้เกิดความ รคู้ วาม
เขา้ ใจ อักษรไทยประกอบดว้ ย
ประกอบด้วย พยญั ชนะ สระ
วรรณยุกต์ เลขไทย ซง่ึ หลกั เกณฑ์
ทาง ภาษาจำเป็นต้องฝึกฝนให้เกดิ
ความชำนาญนำไปใชไ้ ด้ ถูกต้อง
- ตัวสะกด หมายถงึ พยัญชนะที่
ประกอบอยู่ทา้ ยสระ และ มีเสียง
ประสมเขา้ กบั สระทำใหเ้ สียงของ
คำแตกต่างตาม ตวั พยัญชนะที่
นำมาประกอบ
- ประโยค คือการนำคำหลายๆ คำ
หรือวลที ่ีนำมาเรียง ต่อกนั ให้มี
ความสมั พนั ธแ์ ละได้ใจความ
สมบูรณ์ประโยค ประกอบด้วยภาค
ประธานและภาคแสดง
- การอ่านบทร้อยกรองสำหรับเดก็
ทำใหผ้ ู้เรยี นเห็นคุณค่า วรรณคดี

และวรรณกรรมและนำมา
ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน

๑๐๙

หน่วยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั

ตัวชี้วัด (ชว่ั โมง) คะแนน

๑๘ ยายกะตา ท ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ การอ่านเรื่องยายกะตา ๑๒ ๘

ป. ๒/๓ ป. ๒/๔ ซึ่งเป็นการนำนิทานพ้ืนบ้าน

ป. ๒/๕ ป. ๒/๖ ทีม่ ภี าพวาดไว้บนหน้าตา่ ง

ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ พระอโุ บสถวดั พระเชตุพนวมิ ล

ป. ๒/๓ มังคลารามเพื่อให้นักเรียนได้

ท ๓.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ เกิดความตระหนกั ถงึ การชว่ ยกนั

ป. ๒/๗ ดูแลรักษาสมบัตขิ องชาตทิ ีม่ ีอยู่

ท ๔.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ ตามสถานทต่ี ่างๆ

ป. ๒/๓ การอา่ น การเขียนและเรยี นรู้คำ

ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ คำยากไดจ้ ะชว่ ยให้การอา่ น
เรอ่ื งราว เน้อื หาในบทเรียนได้ดี
ป. ๒/๓
ถือเป็นการพัฒนาทกั ษะทางภาษา

ที่ผ้เู รยี นควรได้รับการฝึกฝน

เพอ่ื พัฒนาทักษะให้ถูกต้อง

จงึ จะทำให้การเรียนรูภ้ าษา

เป็นไปดว้ ยดีและเกิดการพัฒนา

ตามมาการอ่านและ

บอกความหมายของคำ

การอ่านออกเสยี งตอบคำถาม

จากเรือ่ งสามารถสรุปเหตุการณ์

จากเรอื่ งทีอ่ ่าน

นกั เรยี นสามารถเลือกอา่ นหนังสือ

ทมี่ คี ณุ ค่า สรปุ ข้อคิดเหน็

จากเรอ่ื งท่อี ่านไดต้ รงตาม

วตั ถุประสงค์ การฟังและการดู

อยา่ งตั้งใจท้ังเร่ืองทีเ่ ป็นความรู้

ความบนั เทิงสามารถบอกสาระ

สำคญั และแสดงความคิดเหน็

ไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์

รวมคะแนนระหวา่ งปี ๑๙๖ ๗๐

คะแนนสอบปลายปี ๔ ๓๐

รวม ๒๐๐ ๑๐๐

หมายเหตุกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้กำหนดนำ้ หนักคะแนนเพ่ือบ่งบอกถึงความสำคัญของแต่ละหน่วย

การเรียนรู้และเพือ่ นำไปใช้ในการวัดประเมินผลระหวา่ งเรยี นและวัดประเมินผลปลายปี คอื ๗๐ : ๓๐

๑๑๐

โครงสร้างรายวชิ า

ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย 3

รายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง

หน่วย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก

ที่ ตัวช้วี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน

๑ ปฏิบตั ิการสายลับ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ - การอ่านออกเสยี งคำ ข้อความ 10 ๖

จิว๋ ป. ๓/๓ ป. ๓/๔ และอธบิ ายความหมาย

ป. ๓/๕ ป. ๓/๙ ของคำและขอ้ ความท่ีอ่านจาก

เรือ่ ง ปฏิบัตกิ ารสายลบั

ท ๒.๑ ป. ๓/๒ ป. ๓/๕ จวิ๋ จะตอ้ งอาศยั การตง้ั คำถามและ

ป. ๓/๖ ตอบคำถามเชิงเหตผุ ล

แลว้ สรุปความรู้ ข้อคดิ เพื่อนำไป

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ ปรบั ใช้ให้เกดิ ประโยชน์

ในชีวิตประจำวนั การพดู แนะนำ

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ตนเองและพูดในโอกาส

ตา่ งๆ เป็นการพูดส่ือสารที่ต้อง

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๓ ระมัดระวงั พดู ให้ถกู

กาลเทศะ คำนึงถงึ มารยาทในการ

พูด สระใชป้ ระสมกบั

พยญั ชนะและวรรณยุกต์ให้เป็นคำ

ทมี่ คี วามหมายเพื่อ

ใช้ส่อื สารในชีวติ ประจำวนั

๒ แต่เดก็ ซื่อไว้ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ - การอ่าน เรอ่ื ง แตเ่ ด็กซ่ือไว้ ๙๖

ป. ๓/๒ จะต้องอา่ นออกเสียงให้ถูกต้อง

ป. ๓/๓ ป. ๓/๕ ชดั เจน สามารถแสดงความคิดเหน็

ป. ๓/๙ ตั้งคำถาม ตอบ

ท ๒.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ คำถามเชงิ เหตุผล และสรปุ ข้อคดิ

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ คุณค่าของเรื่องเพื่อ

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ เปน็ แนวทางนำไปปรับใชใ้ น

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ชีวติ ประจำวัน

การเขียนเรื่องจากจินตนาการ ถา้

จะเขยี นให้ไดด้ ีนั้น ต้องรู้จกั ฝึกฝน

ตนเองให้เปน็ คนช่างสงั เกตในสง่ิ

ตา่ งๆ เพ่ือใหม้ ีข้อมลู อนั จะเป็น

พนื้ ฐานทดี่ ีและทำใหเ้ กิด

จนิ ตนาการอนั กว้างไกลสระใช้

ประสมกบั พยัญชนะแลวรรณยุกต์

ให้เป็นคำที่มคี วามหมายเพื่อใช้

ส่อื สารในชวี ิตประจำวัน

๑๑๑

หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก

ที่ ตัวช้ีวัด (ช่ัวโมง) คะแนน

๓ ป่านี้มีคณุ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ - การอา่ นออกเสยี ง เรอื่ ง ปา่ น้มี ี 13 ๗

ป. ๓/๓ ป. ๓/๕ คณุ จะต้องสามารถสรุป

ป. ๓/๙ ความรู้ และข้อคิดเพ่ือนำข้อคิดที่

ไดม้ าประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ

ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ ประจำวันให้เกดิ ประโยชน์ การพดู

ป. ๓/๓ ป. ๓/๔ เชิญชวนเป็นการพดู

ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ เพอื่ เผยแพรค่ วามรู้ ชกั ชวนใหผ้ ฟู้ ัง

เหน็ ประโยชน์ ในสิง่ ที่

ท ๓.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๖ พูดและเกดิ ความร้สู ึกคล้อยตามมี

ความสำคัญและจำเป็น

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ อย่างยงิ่ ทจ่ี ะนำไปใชใ้ นการ

ตดิ ตอ่ สอ่ื สารเพ่ือให้เกิดความ

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๓ เข้าใจซ่งึ กันและกัน การเรียนรู้

มาตราตัวสะกดจะทำให้

สะกดคำและรู้ความหมายของคำ

อยา่ งถูกต้อง สามารถ

นำไปใช้ส่ือสารในชีวติ ประจำวันได้

๔ อาหารดชี วี ีมสี ขุ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ - การอา่ นออกเสยี งเรอื่ ง อาหารดี ๙ ๗

ป. ๓/๓ ป. ๓/๕ ชวี ีมสี ขุ ต้ังคำถาม

ป. ๓/๙ และตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจะชว่ ย

ให้ไดค้ วามรู้และ

ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ข้อคิดจากเรื่องที่อ่านไปปรบั ใช้ใน

ชวี ติ ประจำวนั ใหเ้ กิด

ท ๓.๑ ป. ๓/๒ ป. ๓/๓ ประโยชน์ การเข้าใจเร่ือง

ป. ๓/๖ วรรณยกุ ต์และการผันอักษร

ทำให้สามารถอ่าน เขียน และใชค้ ำ

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ในการสือ่ สารได้

ถูกต้อง คำที่ประวิสรรชนยี เ์ ปน็ คำที่

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ มีรูป -ะ และออก

เสียง อะ เตม็ เสียง คำท่ีไม่ประ

วสิ รรชนีย์ เป็นคำทไ่ี ม่มี

รูป -ะ และออกเสียง อะ ก่งึ เสยี ง

๑๑๒

หนว่ ย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก

ท่ี ตวั ช้วี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน

๕ ทำดีอย่าหว่นั ไหว ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ - การอ่านวรรณกรรมเร่อื ง ทำดี 8 ๗

ป. ๓/๔ ป. ๓/๙ อย่าหว่นั ไหว จะต้องอ่าน

ออกเสยี งให้ถูกต้องตามหลักการ

ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๕ อ่าน อธบิ ายความหมาย

ป. ๓/๖ ของคำ ข้อความ และสรุปความรู้

และข้อคดิ เพื่อนำไป

ท ๓.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ ปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อักษรนำ

ป. ๓/๔ ป. ๓/๖ เป็นคำทม่ี ีพยญั ชนะตน้

๒ ตวั ประสมสระเดียวกันมีอักษร

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๕ สูงหรืออักษรกลางนำ

หน้าอักษรตํา่ การอ่านนทิ านทำให้

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๓ เกดิ ความเพลดิ เพลิน

และได้รับข้อคดิ ในดา้ นตา่ งๆ

สามารถนำไปใช้ในการ

ดำเนินชวี ติ ประจำวันได้

๖ พลงั งานคือชวี ติ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ - การอ่านเร่ือง พลังงานคอื ชีวิต 13 ๗

ป. ๓/๓ ป. ๓/๕ จะต้องอา่ นออกเสียงให้

ป. ๓/๗ ป. ๓/๙ ชัดเจน เข้าใจความหมายของคำ

ขอ้ ความ ตัง้ คำถาม

ท ๒.๑ ป. ๓/๒ ป. ๓/๖ และตอบคำถามเชงิ เหตุผลเพื่อสรุป

ใจความสำคญั

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ พร้อมนำความรแู้ ละข้อคิดจากเรือ่ ง

ทอี่ า่ นเพือ่ นำไปปรบั

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน เขียนบรรยาย

เกี่ยวกบั ลักษณะของ

ท ๕.๑ ป. ๓/๔ ส่ิงของ ได้ตามขนั้ ตอนการเขยี น

บรรยาย คำควบกลา้ํ

เป็นคำท่ีมีพยัญชนะตน้ ๒ ตวั

ประสมสระเดียวกนั ซึ่ง

มที ้ังควบกลํา้ แทท้ ่ีออกเสียง

พยญั ชนะตน้ ทง้ั สองตัว

พรอ้ มกัน และควบกลาํ้ ไมแ่ ท้ทีอ่ อก

เสียงเฉพาะพยัญชนะ

ตน้ ตัวแรก และ ทร ออกเสยี งเปน็

ซ การอ่าน การเขยี น

และรคู้ วามหมายของคำท่ถี ูกต้อง

ทำใหส้ ามารถนำไป

ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้

๑๑๓

หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก

ที่ ตัวชวี้ ัด (ชั่วโมง) คะแนน

๗ ความฝันเปน็ จรงิ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ - การอ่านเรอื่ ง ความฝันเป็นจรงิ ได้ 10 ๖

ได้ ป. ๓/๓ ป. ๓/๔ จะต้องอา่ นออกเสยี ง

ป. ๓/๕ ป. ๓/๙ ใหถ้ กู ต้องตามหลักการอ่าน และ

ท ๒.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ สรุปความรู้ และข้อคิด

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ เพ่ือนำไปปรบั ใช้ในชีวิตประจำวนั

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ คำที่ใชบ้ นั บรร อ่าน

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ ออกเสยี ง บนั เหมือนกัน สว่ นคำท่ี

ป. ๓/๓ ป. ๓/๔ ใช้ รร ถ้าไม่มตี วั สะกด

-อ่านออกเสยี ง -น ถ้ามตี ัวสะกด

อ่านออกเสยี งเหมอื นมีไม้

หนั อากาศ ( - ) แลว้ สะกดดว้ ย

พยัญชนะสะกดของคำนัน้

ตวั ฤ ออกเสยี งได้ ๓เสียง คือ ริ รึ

หรอื เรอ ตวั ฤๅ ออก

เสยี งเป็น รอื คำขวัญ เป็นขอ้ ความ

สัน้ ๆ ทค่ี ลอ้ งจองกนั

เพือ่ ใหจ้ ดจำไดง้ ่าย และมีความ

ไพเราะ ชใี้ ห้เห็นส่ิงถกู

ต้องดงี าม และให้คติสอนใจ

๘ ภูมิใจภาษาไทย ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ - การอ่าน เร่ือง ภูมิใจภาษาไทย 9 ๖

ของเรา ป. ๓/๓ ป. ๓/๕ ของเรา ต้ังคำถามและ

ป. ๓/๙ ตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจะชว่ ยให้ได้

ความรแู้ ละข้อคดิ จาก

ท ๒.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ เรอื่ งที่อา่ นไปปรับใช้ใน

ชวี ติ ประจำวนั เห็นคณุ ค่าของ

ท ๓.๑ ป. ๓/๒ ป. ๓/๓ บทร้อยกรอง การจับใจความเร่อื งที่

ป. ๓/๔ ป. ๓/๖ ฟังและดูจะทำให้

ความสามารถพดู แสดงความ

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๖ คิดเหน็ ตอ่ เรื่องนนั้ ไดช้ ัดเจน

การเขยี นเรื่องจากจนิ ตนาการ ต้อง

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๓ รูจ้ ักฝกึ ฝนตนเอง

ให้เปน็ คนชา่ งสังเกตในสงิ่ ต่างๆ

เลือกใชภ้ าษาไทย

มาตรฐานและภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสม

กบั กาลเทศะ

๑๑๔

หนว่ ย ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก

ท่ี ตัวชี้วัด (ชั่วโมง) คะแนน

๙ กระตา่ ยไมต่ ่นื ตูม ท ๑.๑ ป. ๓/๑ - การอ่าน เรอ่ื ง กระต่ายไม่ต่ืนตมู 6 ๖

ป. ๓/๒ จะต้องอา่ นออกเสยี งให้ถกู ต้อง

ป. ๓/๓ ป. ๓/๕ ชดั เจน สามารถแสดงความคิดเห็น

ป. ๓/๙ ต้ังคำถาม ตอบคำถามเชงิ เหตุผล

และสรปุ ขอ้ คิด คุณค่าของเร่ืองเพ่ือ

ท ๒.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ เปน็ แนวทางนำไปปรบั ใชใ้ น

ชีวติ ประจำวนั การเขยี นเร่อื ง

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ จากจินตนาการ ถ้าจะเขียนให้ได้ดี

น้นั ตอ้ งรู้จกั ฝกึ ฝนตนเองให้เปน็ คน

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ชา่ งสงั เกตในสง่ิ ต่างๆ เพื่อให้มี

ขอ้ มลู อนั จะเป็นพนื้ ฐานทดี่ ีและทำ

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ใหเ้ กดิ จินตนาการอันกว้างไกล

สระใชป้ ระสมกับพยญั ชนะและ

วรรณยกุ ต์ให้เปน็ คำทมี่ ี

ความหมายเพอ่ื ใช้สื่อสารใน

ชวี ติ ประจำวัน

๑๐ แมไ่ ก่อยใู่ นตะกร้า ท ๑.๑ ป. ๓/๑ - การอา่ น เรอ่ื ง แมไ่ ก่อยู่ในตะกรา้ 6 ๖

ป. ๓/๒ จะต้องอา่ นออกเสยี งให้ถูกต้อง

ป. ๓/๓ ป. ๓/๕ ชัดเจน สามารถแสดงความคิดเหน็

ป. ๓/๙ ตั้งคำถาม ตอบคำถามเชิงเหตุผล

และสรปุ ขอ้ คดิ คุณค่าของเร่ืองเพ่ือ

ท ๒.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ เปน็ แนวทางนำไปปรบั ใชใ้ น

ชวี ิตประจำวนั การเขยี นเรอ่ื ง

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ จากจินตนาการ ถ้าจะเขยี นให้ได้ดี

นั้น ตอ้ งร้จู ักฝึกฝนตนเองให้เปน็ คน

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ช่างสังเกตในสิ่งต่างๆ เพ่ือให้มี

ข้อมลู อนั จะเป็นพ้นื ฐานทีด่ ีและทำ

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ให้เกดิ จนิ ตนาการอนั กว้างไกล

๑๑๕

หนว่ ย ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก

ท่ี ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน

๑๑ เด็กเอ๋ยเดก็ น้อย ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ - การอ่านเรอื่ งเดก็ เอย๋ เด็กนอ้ ย 7๖

ป. ๓/๓ ป. ๓/๕ และท่องบทอาขยาน

ป. ๓/๖ ป. ๓/๙ เด็กน้อย บทอาขยานวชิ าหนาเจา้

ทำให้เด็กได้เหน็ ความสำคญั ของ

ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๖ การเรยี นหนงั สือ ความสำคัญของ

การมวี ิชาความรู้ ซึง่ จะทำให้ชีวิตมี

ท ๓.๑ ป. ๓/๒ ป. ๓/๔ ความสขุ การเลือกอ่านหนงั สือ

ป. ๓/๕ ป. ๓/๖ ที่มีประโยชนท์ ำใหเ้ ราได้รับความรู้

สามารถตอบคำถาม

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๓ สง่ิ ท่ีสงสยั ได้ การเขยี นด้วยตัวตวั

บรรจงจะทำให้งานเขียนน่าอ่าน

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ สวยงามเปน็ ระเบยี บ การรูห้ ลัก

และวิธีการใช้พจนานุกรมจะทำให้

ค้นควา้ หาความหมายของ

คำไดร้ วดเร็วข้นึ

๑๒ คิดไปรู้ไป ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ๑. การอา่ นออกเสยี งคำ ข้อความ ๙ ๖

ป. ๓/๒ จากบทเรียนเร่ืองคดิ ไปรู้ไป

ป. ๓/๓ ๒. นทิ านอีสป พอ่ กบั ลกู

ป. ๓/๔ ๓. คำทีม่ ีไม้ทณั ฑาต

ป. ๓/๕ ๔. การจบั ใจความและพดู แสดง

ป. ๓/๙ ความคิดเห็น

ท ๒.๑ ป .๓/๕ ๕. การเขียนเร่อื งจินตนาการจาก

ป. ๓/๖ หวั ขอ้ ท่กี ำหนดให้

ท ๓.๑ ป. ๓/๔ ๖. มารยาทในการอ่าน

ป. ๓/๕ ๗. มารยาทในการเขียน

ป. ๓/๖ ๘. มารยาทในการฟงั ดู และพดู

ท ๔.๑ ป. ๓/๑

ท ๕.๑ ป. ๓/๑

ป. ๓/๓

๑๑๖

หนว่ ย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
ที่ ตัวชวี้ ดั คะแนน
(ชวั่ โมง)
๑๓ นอกเมือง…ในกรงุ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ๖
ป. ๓/๒ การอา่ นเรื่องนอกเมืองในกรุง ทำ 11
ป. ๓/๓
ป. ๓/๕ ให้เดก็ อ่านเขียนสะกดคำใน
ป. ๓/๖
ป. ๓/๙ บทเรยี นได้และเห็นความ
ท ๒.๑ ป. ๓/๒
ป. ๓/๖ สำคัญของการดำรงชวี ิตระหวา่ งใน
ท ๓.๑ ป. ๓/๔
ป. ๓/๕ เมอื งกับชนบท ทำให้ทราบวา่
ป. ๓/๖
ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ความสุขทแ่ี ท้จรงิ ไม่ได้อยทู่ ชี ุมชน
ป. ๓/๒
ท ๕.๑ ป. ๓/๔ ใดแตอ่ ยู่ท่ีใจของผู้อาศัยนั่นเอง

การอา่ นบทรอ้ ยกรองความสุขอย่ทู ่ี

ไหนทำให้ไดร้ ับความเพลนิ เพลิด

และได้ข้อคดิ นำไปปรบั ใชเ้ พ่ือ

กอ่ ให้เกิดความสุขในการดำรงชวี ิต

การพูดแนะนำสถานท่ี ทีส่ ำคัญเรา

ตอ้ งมีข้อมลู และรจู้ ักสถานท่นี ้ันๆ ดี

และตอ้ งมมี ารยาทในการพดู การ

เขียนบรรยายภาพเปน็ การเขียน

จนิ ตนาการจากความรู้สึกนึกคิด

ของตนเอง

โดยยึดภาพเป็นหลัก งานเขียนทดี ี

ตอ้ งมีมารยาทในการเขยี นเพ่ือ

สื่อสารใหผ้ ้อู ่านเข้าใจชัดเจน ชนิด

ของคำหนง่ึ ๆ สามารถทำหน้าท่ีใน

ประโยคนั้นๆไดห้ ลายหนา้ ทเ่ี ราจงึ

ตอ้ งเรยี นรชู้ นดิ ของคำและ

ส่วนประกอบของประโยค

เพอ่ื นำไปใช้ในการส่อื สารให้ถูกตอ้ ง

เหมาะสม

๑๑๗

หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั

ท่ี ตวั ช้ีวัด (ชั่วโมง) คะแนน

๑๔ สง่ ขา่ ว…เลา่ เรอื่ ง ท ๑.๑ ป. ๓/๑ การอ่าน เร่ือง ส่งขา่ วเลา่ เร่ือง 10 ๖

ป. ๓/๒ จะตอ้ งอา่ นออกเสียงให้ถูกต้อง

ป. ๓/๓ ชดั เจน สามารถแสดงความคิดเหน็

ป. ๓/๕ ต้งั คำถาม ตอบคำถามเชงิ เหตุผล

ป. ๓/๖ คาดคะเนเหตุการณ์ และสรปุ ขอ้ คิด

ป. ๓/๙ คณุ คา่ ของเรื่องเพ่ือเปน็ แนวทาง

ท ๒.๑ ป. ๓/๒ นำไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจำวัน การ

ป. ๓/๖ เขียนจดหมายลาครูเป็นการสื่อสาร

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ อีกวิธกี ารหนง่ึ ท่ีทำใหเ้ ข้าใจกัน

ป. ๓/๖ และจะต้องระมดั ระวังในการใช้

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ภาษาตอ้ งเขยี นตามรูปแบบที่

ป. ๓/๒ ถูกต้อง และเขยี นให้สวยงามเป็น

ระเบยี บ เพื่อแสดงถึงความเคารพ

ต่อครู ลายมือเป็นลักษณะการ

เขียนตัวหนังสอื ที่มีลักษณะเฉพาะ

บ่งบอกของแตล่ ะคนการปฏบิ ัติตน

ได้ถูกตอ้ งตามหลกั การคดั ลายมือ

จะทำให้คดั ลายมือไดด้ ีการคัด

ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั ควรฝึก

ปฏิบตั ิให้ถูกต้อง สวยงาม มี

ระเบียบ

เรียบรอ้ ยและสะอาด การอา่ น

โฆษณาสนิ ค้าป้ายประกาศ และคำ

ขวัญ ควรวิเคราะห์ข้อมลู ให้ถูกตอ้ ง

กอ่ นจะตดั สนิ ใจเชือ่ ตวั ฑ ออก

เสียงได้ ๒ เสยี ง คือ ด หรือ ท การ

ฝึกอา่ นและเขียนคำได้ถกู ต้อง ทำ

ให้การส่อื สารมปี ระสทิ ธภิ าพ

๑๑๘

หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก

ท่ี ตวั ช้วี ัด (ชั่วโมง) คะแนน

๑๕ ประชาธปิ ไตยใบ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ๑. การอา่ นออกเสยี งคำ ข้อความ ๑๐ ๗

เลก็ ป. ๓/๒ จากบทเรียนเรื่องคิดไปรไู้ ป

ป. ๓/๓ ๒. การอา่ นเรื่องประชาธปิ ไตยอะไร

ป. ๓/๕ หนอ

ป. ๓/๙ ๓. การใช้สระ ไอ ใอ ไอย อยั

ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ๔. บทร้อยกรองสักวา

ป. ๓/๒ ๕. การจบั ใจความแสดงความ

ป. ๓/๓ คิดเหน็

ป. ๓/๔ ๖. คำทใี่ ช้ รร

ป. ๓/๕ ๗. การคัดลายมอื ตัวบรรจงเต็ม

ป. ๓/๖ บรรทัด

ท ๓.๑ ป. ๓/๑ ๘. นิทานเรือ่ งตำนานสร้างโลก

ป. ๓/๖ ๙. มารยาทในการอ่าน

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ๑๐. มารยาทในการเขยี น

ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ๑๑. มารยาทในการฟัง ดู และพดู

ป. ๓/๓

๑๖ ของดีในตำบล ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ๑. การอ่านออกเสยี งคำ ข้อความ 11 ๗

ป. ๓/๒ จากบทเรียนเรื่องคิดไปรู้ไป

ป. ๓/๓ ๒. การอ่านเรือ่ งเมืองไทยใหญ่อุดม

ป. ๓/๕ ๓. นิทานการ์ตูนเรอ่ื งขบขัน

ป. ๓/๙ ๔. การอ่านข้อมลู จากแผนท่ี

ท ๒.๑ ป. ๓/๑ แผนภูมแิ ละแผนภาพ

ท ๓.๑ ป. ๓/๒ ๕. การพดู เชิญชวนแนะนำ

ป. ๓/๓ การเขียนบรรยาย

ป. ๓/๖ ๖. การเลา่ ประสบการณ์

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ๗. มารยาทในการอ่าน

๘. มารยาทในการเขียน

๙. มารยาทในการฟัง ดู และพูด

๑๑๙

หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก

ท่ี ตัวช้ีวดั (ชั่วโมง) คะแนน

๑๗ ธรรมชาตเิ จา้ เอย ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ๑. การอา่ นออกเสยี งคำ ข้อความ 8 ๗

ป. ๓/๒ จากบทเรียนเร่ืองธรรมชาติเจ้าเอย

ป. ๓/๓ ๒. การอ่านเสริมบทร้อยกรองเรอ่ื ง

ป. ๓/๕ โลกแสนสวย ชีวิตแสนสขุ

ป. ๓/๙ ๓. นิทานการ์ตูนเรือ่ งขบขนั

ท ๒.๑ ป. ๓/๕ ๔. การเขียนบรรยายภาพ

ป. ๓/๖ ๕. การแต่งประโยคเพ่ือการสื่อสาร

ท ๓.๑ ป. ๓/๒ ประโยคบอกเลา่ ประโยคปฏิเสธ

ป. ๓/๓ ประโยคคำถาม

ป. ๓/๔ ประโยคคำสงั่

ป. ๓/๖ ๖. มารยาทในการอ่าน

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ๗. มารยาทในการเขยี น

ป. ๓/๖ ๘. มารยาทในการฟัง ดู และพูด

ท ๕.๑ ป. ๓/๑

ป. ๓/๓

๑๘ เล่นคำทาย ๑. การอา่ นออกเสยี งคำ ข้อความ 10 ๗

จากบทเรยี นเร่ืองเลน่ คำทาย

๒. ปรศิ นาคำทาย

๓. สำนวนสภุ าษิต

๔. ขา่ วและเหตุการณป์ ระจำวนั

๕. คำคลอ้ งจองและการแตง่ คำ

คล้องจอง

๖. การเขยี นเรือ่ งตามจนิ ตนาการ

๗. มารยาทในการอา่ น

๘. มารยาทในการเขียน

๙. มารยาทในการฟัง ดู และพูด

๑๒๐

หนว่ ย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
(ชว่ั โมง) คะแนน
ที่ ตัวชว้ี ัด ๑. การอา่ นออกเสยี งคำ ข้อความ
จากบทเรยี นเรื่องบนั ทึกความหลงั 8 ๖
๑๙ บนั ทึกความหลงั ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ๒. การเขียนบนั ทกึ
๓. การเขยี นบนั ทึกประจำวนั ๖
ป. ๓/๒ ๔. การจบั ใจความและพดู แสดง
ความคิดเห็น
ป. ๓/๔ ๕. การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน
๖. ชนดิ ของคำ
ป. ๓/๙ ๗. มารยาทในการอ่าน
๘. มารยาทในการเขยี น
ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ๙. มารยาทในการฟงั ดู และพูด

ป. ๓/๕

ป. ๓/๖

ท ๓.๑ ป. ๓/๑

ป. ๓/๒

ป. ๓/๔

ป. ๓/๖

ท ๔.๑ ป. ๓/๑

ป. ๓/๕

ท ๕.๑ ป. ๓/๑

ป. ๓/๓

๒๐ ลูกแกะของ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ การอ่านเร่ืองลูกแกะของซาฟียะห์ 8
จะต้องอ่านออกเสียงให้ชดั เจน
ซาฟยี ะห์ ป. ๓/๒ เข้าใจความหมายของคำ ขอ้ ความ
ต้งั คำถามและตอบคำถามเชงิ
ป. ๓/๓ เหตุผลเพือ่ สรปุ ใจความสำคญั
พร้อมนำความรูแ้ ละข้อคิดจากเรอ่ื ง
ป. ๓/๕ ที่อา่ นเพ่อื นำไปปรบั ใชใ้ น
ชีวิตประจำวัน นิทานพน้ื บ้านเป็น
ป. ๓/๗ เรอ่ื งราวท่เี ล่าขานกันสืบมา
เพลงพื้นบา้ นเปน็ ศลิ ปวัฒนธรรมที่
ป. ๓/๙ สะท้อนถงึ วิถีชวี ิตของคนในแตล่ ะ
ทอ้ งถิ่น การรจู้ ักเพลงพืน้ บ้านทำให้
ท ๒.๑ ป. ๓/๒ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้อง
ถิน่ เกิดความรักและช่ืนชม
ป. ๓/๖ วัฒนธรรมไทย

ท ๓.๑ ป. ๓/๕

ป. ๓/๖

ท ๔.๑ ป. ๓/๑

ท ๕.๑ ป. ๓/๔

๑๒๑

หน่วย ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั

ท่ี เรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน

๒๑ กาเหว่าท่ี ท ๑.๑ ป. ๓/๑ - การอ่านเรื่องกาเหวา่ ท่ีกลางกรงุ ตง้ั 7๖

กลางกรงุ ป. ๓/๒ ป. ๓/๓ คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตุผล จะช่วย

ป. ๓/๕ ป. ๓/๙ ใหไ้ ดค้ วามรู้ข้อคิดจากเร่อื งที่อ่านไปปรบั

ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ใช้ในชวี ติ ประจำวนั เพลงกลอ่ มเด็ก

ป. ๓/๒ป. ๓/๕ เปน็ วฒั นธรรมท้องถน่ิ อย่างหนึ่งที่สะท้อน

ป. ๓/๖ ให้เห็นถงึ ความ

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ เชอื่ และค่านยิ มของคนในท้องถิ่นต่างๆ

ป. ๓/๖ คำคล้องจองเปน็ คำท่ีมตี ัวสะกดอย่ใู น

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ มาตราเดียวกนั และใชเ้ สยี งสระ

ท ๕.๑ ป. ๓/๒ เหมือนกัน

๒๒ ธนดู อกไม้กับ ท ๑.๑ ป. ๓/๑ ๑. การอ่านออกเสียงคำ ข้อความจาก 8 ๖

เจ้าชายน้อย ป. ๓/๒ บทเรียนเรอื่ งธนดู อกไม้กับเจา้ ชายน้อย

ป. ๓/๓ ๒. นทิ านพ้ืนบ้าน

ป. ๓/๕ ๓. นทิ านเรอ่ื งแมโ่ คแม่เสือ

ป. ๓/๗ ๔. เพลงพน้ื บา้ น

ป. ๓/๙ ๕. ตวั การันต์

ท ๒.๑ ป. ๓/๒ ๖. คำทปี่ ระวิสรรชนยี ์และไม่ประ

ป. ๓/๖ วิสรรชนยี ์

ท ๓.๑ ป. ๓/๕ ๗. มารยาทในการอา่ น

ป. ๓/๖ ๘. มารยาทในการเขยี น

ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ๙. มารยาทในการฟงั ดู และพูด

ท ๕.๑ ป. ๓/๔

รวมคะแนนระหวา่ งปี ๗๐

คะแนนสอบปลายปี ๓๐

รวม ๒๐๐ ๑๐๐

หมายเหตุกลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ได้กำหนดน้ำหนักคะแนนเพื่อบ่งบอกถึงความสำคัญของแตล่ ะหน่วย

การเรียนรูแ้ ละเพือ่ นำไปใช้ในการวัดประเมินผลระหว่างเรียนและวัดประเมินผลปลายปี คอื ๗๐ : ๓๐

๑๓๐

หลักการจัดการเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า
ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด เช่ือว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ท่ีเกิดกับ
ผูเ้ รียน กระบวนการจัดการเรียนรตู้ ้องส่งเสรมิ ให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ
คำนงึ ถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลและพัฒนาการทางสมองเนน้ ให้ความสำคญั ท้ังความรู้ และคุณธรรม

กระบวนการเรียนรู้
การจดั การเรียนรทู้ เ่ี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรยี นจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรูท้ ี่หลากหลาย เป็น
เคร่ืองมือท่ีจะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อาทิ
กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม
กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรูจ้ ากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ
ลงมือทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง
กระบวนการพัฒนาลกั ษณะนิสัย
กระบวนการเหล่านีเ้ ป็นแนวทางในการจัดการเรยี นรทู้ ี่ผ้เู รียนควรไดร้ ับการฝกึ ฝน พฒั นา เพราะจะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังน้ัน ผู้สอน จึงจำเป็นต้องศึกษา
ทำความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ

การออกแบบการจดั การเรียนรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญ
ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณา
ออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ก ารวัดและ
ประเมินผล เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพและบรรลตุ ามเป้าหมายที่กำหนด

บทบาทของผ้สู อนและผเู้ รียน
การจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมี
บทบาท ดงั น้ี

๑. บทบาทของผสู้ อน
๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการ

เรยี นรู้ ที่ทา้ ทความสามารถของผ้เู รียน
๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ท่ี

เป็นความคิดรวบยอด หลกั การ และความสัมพนั ธ์ รวมท้ังคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ

พฒั นาการทางสมอง เพ่อื นำผู้เรียนไปสู่เปา้ หมาย
๔) จัดบรรยากาศท่ีเออื้ ตอ่ การเรยี นรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนใหเ้ กิดการเรยี นรู้

๑๓๑

๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีที่
เหมาะสมมาประยกุ ต์ใช้ในการจัดการเรยี นการสอน

๖) ประเมนิ ความกา้ วหน้าของผู้เรียนด้วยวธิ กี ารท่ีหลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาตขิ อง
วชิ าและระดบั พัฒนาการของผูเ้ รียน

๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการ
จัดการเรยี นการสอนของตนเอง

๒. บทบาทของผเู้ รียน
๑) กำหนดเป้าหมาย วางแผน และรับผดิ ชอบการเรียนรขู้ องตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ต้ังคำถาม คิด

หาคำตอบหรอื หาแนวทางแก้ปัญหาดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ
๓) ลงมอื ปฏบิ ตั ิจรงิ สรุปสิ่งที่ไดเ้ รียนรูด้ ้วยตนเอง และนำความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์

ตา่ ง ๆ
๔) มีปฏสิ มั พันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มและครู
๕) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ของตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง

สื่อการเรยี นรู้

สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึง
ความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการ
เรียนรู้มีหลากหลายประเภท ทั้งส่ือธรรมชาติ สอื่ ส่ิงพิมพ์ ส่ือเทคโนโลยี และเครอื ข่าย การเรียนร้ตู ่างๆ ที่มี
ในท้องถ่ิน การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู้ที่
หลากหลายของผู้เรียน

การจัดหาส่ือการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้
อย่างมีคุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสรมิ และ
ส่ือสารให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการ
เรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องและผู้มีหน้าท่ีจัดการศึกษาขั้น
พ้ืนฐาน ควรดำเนินการดงั น้ี

๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพท้ังในสถานศึกษาและในชุมชน เพ่ือการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยน
ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ระหว่างสถานศกึ ษา ทอ้ งถิน่ ชมุ ชน สังคมโลก

๒. จัดทำและจัดหาส่ือการเรียนรู้สำหรับการศึกษาคน้ คว้าของผูเ้ รียน เสรมิ ความรู้ใหผ้ ู้สอน รวมท้ัง
จดั หาสิ่งท่มี ีอยใู่ นท้องถ่นิ มาประยุกตใ์ ช้เปน็ สอื่ การเรียนรู้

๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับ
วิธกี ารเรียนรู้ ธรรมชาตขิ องสาระการเรียนรู้ และความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลของผเู้ รียน

๔. ประเมนิ คณุ ภาพของส่อื การเรียนร้ทู ี่เลือกใช้อย่างเป็นระบบ
๕. ศึกษาคน้ ควา้ วจิ ัย เพื่อพฒั นาสอื่ การเรียนร้ใู ห้สอดคลอ้ งกับกระบวนการเรยี นรู้ของผเู้ รียน
๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเก่ียวกับส่ือและการใช้ส่ือ
การเรยี นรูเ้ ป็นระยะๆ และสม่ำเสมอ
ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ท่ีใช้ในสถานศึกษา ควรคำนึงถึง
หลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ

๑๓๒

กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เน้ือหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความ
มน่ั คงของชาติ ไม่ขดั ตอ่ ศลี ธรรม มกี ารใช้ภาษาท่ีถกู ตอ้ ง รูปแบบการนำเสนอทเี่ ขา้ ใจงา่ ย และน่าสนใจ

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพ้ืนฐานสองประการ คือ การ
ประเมนิ เพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรยี น ในการพฒั นาคุณภาพการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น ให้ประสบ
ผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวช้ีวัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้
สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา
และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการ
ประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศท่ีแสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของ
ผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิด การพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มตาม
ศักยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา
ระดบั เขตพื้นทีก่ ารศึกษา และระดับชาติ มรี ายละเอยี ด ดังน้ี
๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลท่ีอยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้
ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่าง
หลากหลาย เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/
ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียน
ประเมินตนเอง เพอ่ื นประเมนิ เพอ่ื น ผูป้ กครองร่วมประเมิน ในกรณีทไ่ี ม่ผา่ นตัวช้วี ัดใหม้ กี ารสอนซ่อมเสริม

การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการ
เรียนรู้ อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีส่ิงท่ีจะต้องได้รับ
การพัฒนาปรับปรุงและสง่ เสริมในด้านใด นอกจากนย้ี ังเปน็ ขอ้ มูลใหผ้ สู้ อนใช้ปรบั ปรงุ การเรียนการสอนของ
ตนด้วย ทั้งนีโ้ ดยสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวช้วี ัด

๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินท่ีสถานศึกษาดำเนินการเพ่ือตัดสินผล การ
เรียนของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึง
ประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากน้ีเพ่ือให้ได้ข้อมูลเก่ียวกบั การจัดการศึกษา ของสถานศึกษา
ว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมท้ังสามารถนำผล
การเรียนของผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะ
เป็นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน
ตลอดจนเพ่ือการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพ
การศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ผูป้ กครองและชมุ ชน

๓. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพ้ืนที่
การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรตู้ ามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพือ่ ใช้เป็นขอ้ มลู พื้นฐานใน
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพ้ืนที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดย
ประเมินคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานท่ีจัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา
หรือด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบ
ทบทวนขอ้ มลู จากการประเมนิ ระดบั สถานศึกษาในเขตพืน้ ท่ีการศึกษา

๑๓๓

๔. การประเมนิ ระดบั ชาติ เปน็ การประเมนิ คุณภาพผู้เรยี นในระดบั ชาตติ ามมาตรฐานการเรียนรู้
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน ในชน้ั ประถมศึกษา
ปที ี่ ๓ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมนิ ใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการเทยี บเคียง
คณุ ภาพการศึกษาในระดบั ตา่ ง ๆ เพอ่ื นำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคณุ ภาพการจดั การศกึ ษา ตลอดจน
เป็นขอ้ มูลสนับสนุนการตัดสนิ ใจในระดบั นโยบายของประเทศ

ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวน
พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ
ปรับปรงุ แก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผูเ้ รยี นได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพน้ื ฐานความแตกต่างระหว่าง
บุคคลที่จำแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนท่ัวไป กลุ่มผู้เรียนท่ีมีความสามารถ
พิเศษ กลุ่มผู้เรียนท่ีมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนต่ำ กล่มุ ผู้เรียนท่ีมีปัญหาด้านวนิ ัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียน
ท่ปี ฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนทม่ี ีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็น
ต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิด
โอกาสให้ผเู้ รียนไดร้ บั การพฒั นาและประสบความสำเรจ็ ในการเรยี น

สถานศึกษาในฐานะผ้รู ับผิดชอบจัดการศึกษา ไดจ้ ดั ทำระเบียบว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผล
การเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติท่ีเป็นข้อกำหนดของ
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน เพอื่ ให้บคุ ลากรทเ่ี ก่ยี วข้องทุกฝา่ ยถือปฏบิ ัตริ ่วมกนั

เกณฑ์การวดั และประเมินผลการเรยี น
๑. การตดั สนิ การให้ระดบั และการรายงานผลการเรียน

๑.๑ การตดั สนิ ผลการเรียน
ในการตดั สินผลการเรยี นของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนนั้น ผูส้ อนตอ้ งคำนึงถึงการพฒั นาผู้เรยี นแตล่ ะคนเป็น
หลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อม
เสริมผเู้ รียนให้พัฒนาจนเตม็ ตามศกั ยภาพ

ระดับประถมศกึ ษา
(๑) ผเู้ รียนต้องมีเวลาเรยี นไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทงั้ หมด
(๒) ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมินทกุ ตวั ชวี้ ดั และผ่านตามเกณฑท์ สี่ ถานศึกษากำหนด
(๓) ผ้เู รียนตอ้ งได้รับการตัดสนิ ผลการเรยี นทุกรายวชิ า
(๔) ผู้เรยี นต้องไดร้ ับการประเมิน และมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑ์ทีส่ ถานศึกษา
กำหนด ในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
การพิจารณาเล่อื นชัน้ ถา้ ผู้เรยี นมขี ้อบกพร่องเพียงเล็กนอ้ ย และสถานศึกษาพิจารณาเห็น
วา่ สามารถพัฒนาและสอนซอ่ มเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผ่อนผันให้เล่ือนช้ันได้ แต่หาก
ผู้เรียนไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงข้ึน
สถานศึกษาอาจต้ังคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำช้ันได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและความรู้
ความสามารถของผู้เรยี นเปน็ สำคญั
๑.๒ การใหร้ ะดบั ผลการเรยี น
ระดับประถมศึกษา ในการตัดสินเพ่ือให้ระดับผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถให้
ระดับผลการเรยี นหรอื ระดบั คณุ ภาพการปฏบิ ัติของผ้เู รียน เป็นระบบตวั เลข ระบบตวั อักษร ระบบร้อยละ
และระบบที่ใชค้ ำสำคญั สะทอ้ นมาตรฐาน

๑๓๔

การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์น้ัน ให้ระดับผล
การประเมินเปน็ ดีเยี่ยม ดี และผ่าน

การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาท้ังเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นผ่าน
และไมผ่ ่าน

๑.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรียนเป็นการส่ือสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบความก้าวหน้าในการ

เรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็น
ระยะๆ หรอื อยา่ งน้อยภาคเรยี นละ ๑ ครง้ั

การรายงานผลการเรยี นสามารถรายงานเปน็ ระดับคณุ ภาพการปฏบิ ตั ิของผู้เรียนทีส่ ะท้อน
มาตรฐานการเรียนรูก้ ลุ่มสาระการเรียนรู้

๒. เกณฑ์การจบการศกึ ษา
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศกึ ษาเป็น ๑ ระดับ
คอื ระดบั ประถมศกึ ษา
๒.๑ เกณฑก์ ารจบระดับประถมศกึ ษา

(๑) ผูเ้ รียนเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพ่ิมเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนที่
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐานกำหนด

(๒) ผูเ้ รียนตอ้ งมีผลการประเมนิ รายวิชาพ้ืนฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามทส่ี ถานศึกษา
กำหนด

(๓) ผ้เู รียนมีผลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียนในระดับผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ ตามทส่ี ถานศึกษากำหนด

(๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามทส่ี ถานศึกษากำหนด

(๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามทีส่ ถานศกึ ษากำหนด

สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับ
ผู้มีความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย ให้
คณะกรรมการของสถานศึกษา เขตพ้ืนท่ีการศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผล การ
เรยี นรู้ตามหลักเกณฑ์ในแนวปฏิบัตกิ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐานสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

เอกสารหลักฐานการศกึ ษา
เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญท่ีบันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศท่ี
เกย่ี วข้องกบั พัฒนาการของผเู้ รียนในด้านต่าง ๆ แบ่งออกเปน็ ๒ ประเภท ดงั น้ี
๑. เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่ีกระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด

๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียน
ของผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและ
ออกเอกสารนี้ให้ผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล เมือ่ ผ้เู รียนจบการศกึ ษาระดับประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖)

๑๓๕

๑.๓ แบบรายงานผ้สู ำเร็จการศกึ ษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลกั สูตรโดยบนั ทึกรายชื่อ
และข้อมูลของผจู้ บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา (ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖)

๒. เอกสารหลกั ฐานการศึกษาที่สถานศึกษากำหนด
เป็นเอกสารท่ีสถานศึกษาจัดทำข้ึนเพ่ือบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับ
ผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา ระเบียนสะสม
ใบรบั รองผลการเรียน และ เอกสารอ่นื ๆ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการนำเอกสารไปใช้

การเทยี บโอนผลการเรียน
สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่างๆได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การ
เปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษา
จากต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ
ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรูอ้ ื่นๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบันการฝกึ อบรมอาชีพ
การจดั การศกึ ษาโดยครอบครัว
การเทยี บโอนผลการเรยี นควรดำเนินการในช่วงก่อนเปดิ ภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก ที่
สถานศกึ ษารับผขู้ อเทียบโอนเปน็ ผเู้ รยี น ทงั้ นี้ ผ้เู รยี นท่ไี ด้รบั การเทียบโอนผลการเรยี นต้องศกึ ษาตอ่ เน่ืองใน
สถานศกึ ษาทร่ี บั เทยี บโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาทร่ี ับผเู้ รียนจาก
การเทียบโอนควรกำหนดรายวชิ า/จำนวนหนว่ ยกติ ทจี่ ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม
การพิจารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนินการได้ ดงั น้ี
๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอื่นๆ ท่ีให้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถของ
ผ้เู รยี น
๒. พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรยี นโดยการทดสอบดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ ท้ังภาคความรู้
และภาคปฏบิ ัติ
๓. พจิ ารณาจากความสามารถและการปฏิบตั ิในสภาพจริง
การเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏิบัติ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

การบรหิ ารจดั การหลกั สตู ร
ในระบบการศึกษาท่ีมีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนา
หลักสูตรนั้น หน่วยงานต่างๆ ที่เก่ียวข้องในแต่ละระดับ ต้ังแต่ระดับชาติ ระดับท้องถ่ิน จนถึงระดับ
สถานศึกษา มีบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนา
หลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพ่ือให้การดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการ
เรียนการสอนของสถานศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตาม
มาตรฐานการเรียนรู้ทีก่ ำหนดไวใ้ นระดับชาติ
ระดับท้องถ่ิน ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ เป็นหน่วยงานที่มี
บทบาทในการขับเคล่ือนคณุ ภาพการจดั การศึกษา เป็นตัวกลางท่ีจะเชอื่ มโยงหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา
ข้ันพ้ืนฐานท่ีกำหนดในระดบั ชาติใหส้ อดคล้องกับสภาพและความตอ้ งการของท้องถนิ่ เพือ่ นำไปสู่การจัดทำ
หลักสูตรของสถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ
โดยมีภารกิจสำคัญ คือ กำหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในระดับท้องถิ่นโดย
พิจารณาให้สอดคล้องกับสิ่งท่ีเป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถ่ิน ประเมิน

๑๓๖

คุณภาพการศึกษาในระดับท้องถ่ิน รวมทั้งเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา
การพัฒนาบคุ ลากร สนบั สนุน สง่ เสรมิ ตดิ ตามผล ประเมินผล วเิ คราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผเู้ รยี น

สถานศึกษามีหน้าท่ีสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้
หลักสูตร การเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร
จัดทำระเบียบการวัดและประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และรายละเอียดที่เขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือหน่วยงาน สังกัดอ่ืนๆ
ในระดับท้องถิ่นได้จัดทำเพ่ิมเติม รวมทั้ง สถานศึกษาสามารถเพ่ิมเติมในส่วนท่ีเก่ียวกับสภาพปัญหาใน
ชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และความต้องการของผู้เรียน โดยทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการ
พัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา

๑๓๗

ภาคผนวก

๑๓๘

คำสัง่ สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต ๑
ท่ี ๓๒๓/ ๒๕๖๑

เรอื่ ง แต่งตงั้ คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรและงานวชิ าการสถานศึกษา
โรงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ

...............................................................................

จากคำสงั่ กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙ / ๒๕๖๐ เร่อื ง ใหใ้ ชม้ าตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ัด
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และ
วฒั นธรรม (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
สง่ั ณ วนั ท่ี ๗ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ และคำสง่ั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑
เร่ือง ใหเ้ ปลย่ี นแปลงมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ัดกลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์
(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เร่อื ง การบรหิ ารจัดการเวลาเรียนภาษาองั กฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๓ ในสถานศึกษา
ข้นั พ้นื ฐาน ลงวนั ท่ี ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เงอ่ื นไขและระยะเวลาในการใชม้ าตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวช้ีวัดกลมุ่ สาระ
การเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ในกลุม่ สาระสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ใหเ้ ป็นไป ดงั น้ี ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ ใหใ้ ช้ในระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔
และชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔ ในปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ให้ใช้ในระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๒ และ ๕
และชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ๒ ๔ และ ๕ ต้ังแตป่ ีการศกึ ษา ๒๕๖๓ เปน็ ตน้ ไปให้ใช้ทกุ ช้ันเรยี น

เพือ่ ให้การบริหารหลกั สตู รและงานวิชาการสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน เป็นไปอย่างมีประสทิ ธิภาพสอดคลอ้ ง
กับมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชีว้ ดั กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกลมุ่
สาระสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา
ขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเตมิ
(ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ หมวด ๔ มาตรา ๒๗ ทก่ี ำหนดให้สถานศึกษาข้ันพนื้ ฐาน มีหนา้ ที่จดั ทำสาระของ
หลกั สูตร เพื่อความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองท่ดี ีของชาติ การดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อ
การศึกษาต่อ ในสว่ นท่ีเก่ยี วกับสภาพของปัญหาในชมุ ชนและสงั คม ภูมิปัญญาท้องถ่นิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
เพือ่ เป็นสมาชกิ ทดี่ ีของครอบครัว ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาติ

ฉะนนั้ อาศยั อำนาจตามความในระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ว่าดว้ ยคณะกรรมการบริหารหลกั สตู ร
และงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๕ สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครพนม
เขต ๑ จึงแต่งต้ังคณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ
ดังน้ี

๑๓๙

๑. นายหงษา วงคจ์ ำปา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ ประธานกรรมการ

๒. นางสาวมาลาศรี เช้ือดวงผุย รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ รองประธานกรรมการ

๓. นางประเสริฐ บรโิ ปร หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ กรรมการ

๔. นางนภิ าภทั ร์ ธงยศ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรรมการ

๕. นางจรรยา วรรณศิริ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กรรมการ

๖. นายกานตพล สินพนู หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา กรรมการ

๗. นายคณู สมบตั ิ นารินรกั ษ์ หวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ กรรมการ

๘. นางนิตยา ตั้งรัตน์ไพศาล หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี กรรมการ

๙. นางญาณี ไชยวงศา หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย กรรมการ

๑๐. นางจันทรเ์ พญ็ พอ่ ชมพู หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ กรรมการ

๑๑. นางศิราภรณ์ กาศลนุ หัวหนา้ งานแนะแนว กรรมการ

๑๒. นางจฑุ าพชั ร์ วงศ์ตาผา หัวหนา้ งานกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กรรมการ

๑๓. นางสาวพิญญารศั ม์ สงิ หะ หัวหน้างานวดั และประเมินผล กรรมการ

๑๔. นางญาณี ไชยวงศา หวั หน้างานวชิ าการ กรรมการและเลขานุการ

มีหนา้ ท่ี
๑. วางแผนการดำเนินงานวิชาการ กำหนดสาระรายละเอียดของหลักสตู รระดับสถานศกึ ษาและแนว

การจัดสดั ส่วนสาระการเรียนรู้ และกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนของสถานศึกษาใหส้ อดคล้องกับหลักสตู รการศึกษา
ขนั้ พน้ื ฐาน สภาพเศรษฐกจิ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น

๒. จัดทำคมู่ ือบรหิ ารหลักสูตรและงานวิชาการของสถานศกึ ษา นเิ ทศ กำกบั ติดตาม ใหค้ ำปรกึ ษา
เกยี่ วกบั การพฒั นาหลักสตู ร การจดั กระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล และการแนะแนวใหส้ อดคลอ้ งและ
เป็นไปตามมาตรฐานหลักสตู รการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน

๓. สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การพฒั นาบคุ ลากรเกย่ี วกบั การพัฒนาหลกั สตู ร การจัดกระบวนการเรียนรู้
การวดั และประเมนิ ผลและการแนะแนวใหเ้ ป็นไปตามจุดหมายและแนวทางการดำเนนิ การของหลักสูตร

๔. ประสานความร่วมมอื จากบคุ คล หน่วยงาน องค์กรตา่ งๆ และชุมชนเพื่อใหก้ ารใช้หลักสตู รเป็นไป
อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและคุณภาพ

๕. ประชาสัมพนั ธ์หลกั สตู รและการใชห้ ลักสูตรแกน่ กั เรยี น ผู้ปกครอง ชมุ ชนและผ้ทู ี่เกย่ี วขอ้ ง และนำ
ขอ้ มลู ป้อนกลับจากฝ่ายต่างๆ มาพิจารณาเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาหลักสตู รของสถานศึกษา

๖. สง่ เสริมและสนับสนุนการวิจยั เกี่ยวกับการพัฒนาหลกั สูตรและกระบวนการเรียนรู้
๗. ตดิ ตามผลการเรยี นของนักเรยี นรายบคุ คล ระดบั ชนั้ ระดับช่วงชั้นและระดับกล่มุ วชิ า
ในแต่ละปีการศึกษา เพื่อปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาการดำเนินงานดา้ นต่างๆ ของสถานศึกษา

๑๔๐

๘. ตรวจสอบ ทบทวน ประเมนิ มาตรฐานการปฏิบัติงานของครแู ละบรหิ ารหลักสตู รระดับสถานศกึ ษา
ในรอบปีท่ผี า่ นมา แลว้ ใชผ้ ลการประเมนิ เพ่ือวางแผนพฒั นาการปฏิบตั ิงานของครูและการบรหิ ารหลกั สตู ร
ปกี ารศกึ ษาต่อไป

๙. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบรหิ ารหลักสตู รของสถานศกึ ษา โดยเน้นผลการพฒั นาคุณภาพ
นักเรียนตอ่ คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู รระดับเหนอื สถานศึกษา
สาธารณชนและผู้ท่เี กี่ยวข้อง

ทง้ั นี้ ต้ังแตบ่ ัดน้ีเปน็ ตน้ ไป
สั่ง ณ วันท่ี ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑

วัชร์โรจน์ ไชยพิเดช
(นายวชั รโ์ รจน์ ไชยพเิ ดช)
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต ๑

๑๔๑

คำสง่ั โรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ
ท่ี ๗๓ /2561

เรอ่ื ง แต่งตงั้ คณะกรรมการปรบั ปรุงหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ
พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
------------------

จากคำสงั่ กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๑๒๓๙ / ๒๕๖๐ เร่ือง ให้ใชม้ าตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้ีวดั
กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตรใ์ นกลมุ่ สาระสังคมศึกษา ศาสนา และ
วฒั นธรรม (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
สัง่ ณ วนั ท่ี ๗ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ และคำสง่ั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑
เรือ่ ง ให้เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วดั กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ (ฉบับ
ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ และประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เรือ่ ง การบรหิ ารจัดการเวลาเรยี นภาษาองั กฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-๓ ในสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน ลงวันที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๙ เงือ่ นไขและระยะเวลาในการใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดกลุ่มสาระ
การเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตรใ์ นกลุ่มสาระสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ใหเ้ ปน็ ไป ดังน้ี ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ ใหใ้ ช้ในระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔
และชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔ ในปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ใหใ้ ช้ในระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑, ๒ และ ๕ และ
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒, ๔ และ ๕ ตง้ั แต่ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ เป็นตน้ ไปให้ใช้ทุกช้นั เรียน

เพ่อื ให้โรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ มีหลักสูตรสถานศกึ ษาท่ีมีสาระของหลักสตู ร
มุ่งพัฒนาผู้เรียนเพ่อื ความเปน็ ไทย ความเปน็ พลเมืองท่ีดีของชาติ การดำรงชวี ิตและการประกอบอาชีพ ตลอดจน
เพื่อการศึกษาต่อ ในสว่ นทเ่ี กีย่ วกบั สภาพของปัญหาในชุมชนและสังคม ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
เพ่อื เปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของครอบครวั ชุมชน สังคมและประเทศชาติและสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้และ
ตัวชว้ี ัดกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกลุ่มสาระสงั คมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
จึงแตง่ ต้ังคณะกรรมการปรบั ปรงุ หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญพทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ดงั นี้

1. คณะกรรมการอำนวยการ

1.1 นายหงษา วงค์จำปา ผู้อำนวยการโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ ประธานกรรมการ

1.2นางสาวมาลาศรี เช้อื ดวงผยุ รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ รองประธานกรรมการ

1.3 นางสาวพรจนั ทร์ วนั วฒั นส์ นั ติกลุ รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

1.4 นางจฑุ ามาศ ปุ้ยไชยสอน รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

1.5 นางนภิ าภทั ร์ ธงยศ ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจริญ กรรมการ

1.6 นางจันทร์เพ็ญ พอ่ ชมภู ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

๑๔๒

1.7 นายคณู สมบตั ิ นารินรักษ์ ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจริญ กรรมการ

1.8 นางประเสริฐ บริโปร ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

1.9 นางญาณี ไชยวงศา ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ/เลขานกุ าร

1.10 วา่ ที่ร้อยตรีเฉลมิ พลรอดแก้ว เจ้าหนา้ ท่ธี รุ การโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ/ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร

2. คณะกรรมการปรบั ปรงุ หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ

พทุ ธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

2.1นางสาวมาลาศรี เช้อื ดวงผยุ รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ ประธานกรรมการ

2.2 นางประเสริฐ บรโิ ปร ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ รองประธานกรรมการ

2.3 นางนติ ยา ตง้ั รตั นไพศาล ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

2.4 นางสาววรางคณา กัลยาแก้ว ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

2.5 นางสาวฤดสี รวง เช้ือวังคำ ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

2.6 นางสาวพญิ ญารัศม์ สงิ หะ ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

2.7 นางญาณี ไชยวงศา ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ/เลขานุการ

3. คณะกรรมการปรบั ปรงุ หลกั สตู รสถานศึกษา ฯ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

3.1 นางญาณี ไชยวงศา ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ ประธานกรรมการ

3.2 นางศิราภรณ์ กาศลนุ ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ รองประธานกรรมการ

3.3 นางสาวฤดีสรวง เชื้อวงั คำ ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

3.4 นางสีรุ้ง ศรชี าหลวง ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

3.5 นางพรรณนภา วงศต์ าผา ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

3.6 สาวนภาเพ็ญ แสนสามารถ ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

3.7 นางสาวทศั วรรณ เขจรรกั ษ์ ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ/เลขานุการ

4. คณะกรรมการปรบั ปรงุ หลักสตู รสถานศึกษา ฯ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

4.1 นางประเสรฐิ บรโิ ปร ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ ประธานกรรมการ

4.2 นางจนั ทรเ์ พ็ญ พอ่ ชมภู ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ รองประธานกรรมการ

4.3 นางเบญญพร อำนาจบุตรดี ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

4.4 นางพทุ ธมา ต่ายเนาว์ดง ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

4.5 นางสาวพญิ ญารัศม์ สิงหะ ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

4.6 นางจฑุ าพชั ร วงศต์ าผา ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

4.5 นางสาววรางคณา กัลยาแกว้ ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ/เลขานกุ าร

5. คณะกรรมการปรบั ปรุงหลกั สูตรสถานศกึ ษา ฯ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

5.1 นางนิภาภัทร์ ธงยศ ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ ประธานกรรมการ

5.2 นางกมลพรรณ ไชยขนั ธุ์ ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ รองประธานกรรมการ

5.3 นางวราลักษณ์ ทองนาค ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

5.4 นางจตุพร ท้าวฤทธิ์ ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ กรรมการ

5.5 นางศรีประนม ศรีสม ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ กรรมการ

๑๔๓

5.6 นางภคั รดาวจั น์ ตงั้ ศรีชนิ ภัทร์ ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

9.4 นางสาวชนิดา สีกาลงั ครูอตั ราจา้ งโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

9.5 นายอวิรตั น์ จนั ทมูล ครอู ัตราจ้างโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ

5.6 นางสาวพญิ ญารัศม์ สิงหะ ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ/เลขานุการ

6. คณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

6.1 นางจรรยา วรรณศิริ ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ ประธานกรรมการ

6.2 นางสาวรชั นวี รรณ ศริ ิพันธุ์ ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ รองประธานกรรมการ

6.3 นางนัยนา เชื้อดวงผุย ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

6.4 นางสาวพัชรมณฑ์ ศริ จฺ นั ทพนั ธ์ ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

6.5 นางสาวนภาเพ็ญ แสนสามารถ ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ/เลขานุการ

7. คณะกรรมการปรบั ปรงุ หลกั สตู รสถานศึกษา ฯ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ

7.1 นายคณู สมบตั ิ นารนิ รกั ษ์ ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ ประธานกรรมการ

7.2 นายวิทยา มีระหงษ์ ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ รองประธานกรรมการ

7.3 นางสาวทัศวรรณ เขจรรกั ษ์ ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

7.4 นายนเรศ เชอ้ื กลุ า ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ กรรมการ/เลขานุการ

8. คณะกรรมการปรบั ปรงุ หลกั สตู รสถานศึกษา ฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

8.1 นายกานตพล สนิ พูน ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ ประธานกรรมการ

8.2 นายเชษฐ์ เชื้อกลุ า ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ รองประธานกรรมการ

8.3 นางนลินทิพย์ พธิ าภัทรเดโช ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

8.4 นางวาริณี มีระหงษ์ ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

8.5 นายวัชรนิ ทร์ พันธรักษา ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ/เลขานุการ

9. คณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตรสถานศกึ ษา ฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี

9.1 นางนติ ยา ตั้งรัตนไ์ พศาล ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ ประธานกรรมการ

9.2 นางมาลรี ัตน์ นารนิ รักษ์ ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ รองประธานกรรมการ

9.3 นางภคั รดาวจั น์ ต้ังศรชี นิ ภทั ร์ ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ

9.4 นางสาวชนดิ า สกี าลัง ครอู ัตราจา้ งโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ

9.5 นางสาวรชั นวี รรณ ศิรพิ ันธุ์ ครูอัตราจา้ งโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ

9.6 นายอวิรตั น์ จนั ทมลู ครูอัตราจ้างโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ กรรมการ/เลขานุการ

10. คณะกรรมการปรบั ปรุงหลกั สตู รสถานศึกษา ฯ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

10.1 นางจนั ทร์เพญ็ พ่อชมภู ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ ประธานกรรมการ

10.2 นางพรรณวดี ศกั ดิ์ศรบี ุญดี ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ รองประธานกรรมการ

10.3 นางภัทตยิ า อ่อนสี ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

10.4 นางสาวศิรพิ ร ชาวคนดง ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

10.5 นางสาวอมรรัตน์ วงษศ์ รลี า ครูอตั ราจา้ งโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ กรรมการ

10.5 นางสาววาสนิ ี ปยิ ะโคตร ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ ๑๔๔
กรรมการ/เลขานกุ าร

11. คณะกรรมการปรับปรงุ หลกั สูตรสถานศกึ ษา ฯ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน

11.1 นางจุฑาพัชร วงศ์ตาผา ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ ประธานกรรมการ

11.2 นายนเรศ เชอ้ื กุลา ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจริญ รองประธานกรรมการ

11.3 นายกานตพล สินพูน ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

11.4 นายวชั รินทร์ พันธรักษา ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ กรรมการ

11.5 นางสาวกติ ตวิ รรณ พรมดี ครพู ีเ่ ล้ยี งโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

11.6 นางประเสรฐิ บริโปร ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ กรรมการ/เลขานุการ

ให้คณะกรรมการท่ีได้รับการแตง่ ตัง้ ในแต่ละกลุ่มสาระร่วมกันศึกษา วเิ คราะห์ หลักสตู รแกนกลาง
การศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 กรอบหลักสตู รระดบั ท้องถิน่ และเอกสารประกอบหลกั สูตรต่างๆ
รวมทัง้ ขอ้ มลู สารสนเทศเก่ียวกับสภาพปัญหา จดุ เน้นของสถานศึกษา ผูเ้ รียน ชุมชน และจัดทำเอกสารหลกั สูตร
สถานศกึ ษาและเอกสารประกอบหลักสตู รสูตรสถานศึกษาตามองค์ประกอบทีก่ ระทรวงศึกษาเสนอแนะไว้และ
สอดคลอ้ งกับคำส่ังและประกาศของกระทรวงศึกษาธกิ าร เร่อื ง การให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ดั กล่มุ
สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ให้แล้วเสรจ็ ทนั กับการประกาศใชห้ ลักสูตรตามท่ีกระทรวงศกึ ษาธิการกำหนดไวใ้ หจ้ งได้ ท้งั นเี้ พื่อใหค้ รแู ละ
ผู้เกี่ยวข้องสามารถนำหลักสตู รไปกำหนดโครงสร้างรายวชิ าและออกแบบหน่วยการเรียนเพ่ือพฒั นาผู้เรียนใหม้ ี
คณุ ภาพตามเป้ามายต่อไป

ทง้ั นตี้ ้งั แต่ วนั ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สงั่ ณ วนั ท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ลงชื่อ
(นายหงษา วงคจ์ ำปา)

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ

๑๔๕

คำส่ังโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ
ที่ ๗๔ /2561

เรอื่ ง แต่งตง้ั คณะกรรมการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
และการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ปกี ารศึกษา 2561
------------------

ดว้ ยโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ ไดป้ ระกาศให้ใช้หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาล
นาแกผดุงราชกิจเจรญิ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
ต้งั แต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยเริม่ ใชใ้ นปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ ในชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ปกี ารศกึ ษา
๒๕๖๒ ใชใ้ นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑, ๒ และ ๔, ๕ และปีการศึกษา ๒๕๖๓ เปน็ ตน้ ไปใช้ทุกช้นั ปีทง้ั นีเ้ ปน็ ไปตาม
คำสั่งกระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ สพฐ. ๑๒๓๙ / ๒๕๖๐ เรอ่ื ง ใหใ้ ชม้ าตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั กลุ่มสาระ
การเรยี นรู้คณติ ศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ในกลุ่มสาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ สัง่ ณ วันที่ ๗
สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ และคำส่งั สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ เรอ่ื ง ให้
เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง
พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

เพือ่ เป็นไปตามระเบียบโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ วา่ ด้วยการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ทีก่ ำหนดให้ผู้เรียนจะตอ้ งมผี ลการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์และ
เขียน การประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์และการประเมินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ตามเกณฑท์ ีส่ ถานศึกษา
กำหนดไวจ้ ึงจะไดร้ บั การตัดสินเล่ือนชน้ั และจบการศกึ ษาตามหลักสตู ร จงึ แต่งตงั้ คณะกรรมการการประเมิน
การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน การประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์และการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
ปกี ารศึกษา 2561 ดงั นี้

1. คณะกรรมการอำนวยการ

1.1 นายหงษา วงคจ์ ำปา ผู้อำนวยการโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ ประธานกรรมการ

1.2นางสาวมาลาศรี เชื้อดวงผยุ รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ รองประธานกรรมการ

1.3 นางสาวพรจันทร์ วนั วฒั นส์ นั ติกลุ รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

1.4 นางจุฑามาศ ปุ้ยไชยสอน รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

1.5 นางจุฑาพชั ร์ วงศต์ าผา ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

1.6 นางเบญญพร อำนาจบุตรดี ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ กรรมการ

1.7 นางวารณิ ี มรี ะหงษ์ ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

1.8 นางศิราภรณ์ กาศลนุ ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

1.9 นางนิภาภัทร์ ธงยศ ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจริญ กรรมการ

1.10 นางนติ ยา ตั้งรตั นไพศาล ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

1.11 นางสาววรางคณา กัลยาแก้ว ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

๑๔๖

1.12 นางสาวฤดีสรวง เชื้อวังคำ ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ
1.13 นางสาวพญิ ญารัศม์ สงิ หะ
1.14 นางญาณี ไชยวงศา ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ
1.15 นางประเสริฐ บรโิ ปร
ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ/เลขานุการ

ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ/ผูช้ ่วยเลขานุการ

2. คณะกรรมการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์และประเมนิ

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1

2.1 นางญาณี ไชยวงศา ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ ประธานกรรมการ

2.2 นางสรี ุ้ง ศรชี าหลวง ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ รองประธานกรรมการ

2.3 นางสาวชนดิ า สีกาลงั ครูอัตราจา้ งโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ กรรมการ

2.4 นางสาวศริ ิพร ชาวคนดง ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

2.5 นางสาวอมรรัตน์ วงษ์ศรลี า ครอู ตั ราจ้างโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

2.5 นางสาวนภาเพ็ญ แสนสามารถ ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ

2.6 นางสาววรางคณา กัลยาแก้ว ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ/เลขานุการ

3. คณะกรรมการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละประเมนิ

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2

3.1 นางจุฑาพัชร วงศ์ตาผา ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ ประธานกรรมการ

3.2 นางนติ ยา ต้ังรตั นไพศาล ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ รองประธานกรรมการ

3.3 นางสาวฤดีสรวง เชอื้ วังคำ ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจริญ กรรมการ

3.4 นางกมลพรรณ ไชยขนั ธุ์ ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

3.5 นางภทั ตยิ า อ่อนสี ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

3.6 นางนยั นา เชอื้ ดวงผยุ ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

3.7 นางจตุพร ทา้ วฤทธ์ิ ครโู รงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ/เลขนุการ

4. คณะกรรมการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี น ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละประเมนิ

กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

4.1 นางเบญญพร อำนาจบุดดี ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจรญิ ประธานกรรมการ

4.2 นางนลนิ ทิพย์ พธิ าภัทร์เดโช ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ รองประธานกรรมการ

4.3 นางวราลกั ษณ์ ทองนาค ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

4.4 นายวิทยา มีระหงษ์ ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ

4.5 นางสาววาสินี ปิยะโคตร ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ

4.6 น.ส.ทัศวรรณ เขจรรักษ์ ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ/เลขานกุ าร

5. คณะกรรมการประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์และประเมิน

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4

5.1 นางวารณิ ี มีระหงษ์ ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ ประธานกรรมการ

5.2 นางมาลรี ัตน์ นารินรักษ์ ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจริญ รองประธานกรรมการ

5.3 นายกานตพล สนิ พูน ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

5.4 นางศรีประนม ศรีสม ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

๑๔๗

5.5 นางภคั รดาวจั น์ ตง้ั ศรีชนิ ภัทร์ ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ
5.6 นางสาวพญิ ญารัศม์ สงิ หะ ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจรญิ กรรมการ/เลขานุการ

6. คณะกรรมการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคแ์ ละประเมิน

กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5

6.1 นางศิราภรณ์ กาศลุน ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ ประธานกรรมการ

6.2 น.ส.รชั นวี รรณ ศริ พิ ันธ์ ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ รองประธานกรรมการ

6.3 นายวชั รินทร์ พนั ธรักษา ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

6.4 นางพรรณวดี ศกั ดศ์ิ รีบุญดี ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

6.5 นายเชษฐ์ เช้อื กลุ า ครูโรงเรยี นอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

6.6 นายนเรศ เชื้อกลุ า ครูโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ กรรมการ

6.7 นายอวิรตั น์ จันทมูล ครอู ตั ราจ้างโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

6.8 นางพรรณนภา วงศ์ตาผา ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ/เลขานกุ าร

7. คณะกรรมการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี น ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคแ์ ละประเมนิ

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6

7.1 นางนภิ าภัทร์ ธงยศ ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ ประธานกรรมการ

7.2 นางจันทรเ์ พญ็ พ่อชมภู ครโู รงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกจิ เจรญิ รองประธานกรรมการ

7.3 นางจรรยา วรรณศิริ ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกจิ เจริญ กรรมการ

7.4 นางพทุ ธมา ต่ายเนาว์ดง ครโู รงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

7.5 นายคณู สมบตั ิ นารนิ รักษ์ ครโู รงเรยี นอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ กรรมการ

7.6 นางสาวพัชรมณฑ์ ศริ จิ ันทพันธ์ ครูโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกจิ เจริญ กรรมการ

7.7 นางประเสริฐ บรโิ ปร ครูโรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจรญิ กรรมการ/เลขานกุ าร

ให้คณะกรรมการท่ีได้รับการแต่งตง้ั ในแตล่ ะระดับชน้ั ศึกษาทำความเข้าใจและปฏิบตั ติ ามแนวทาง
การประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน
ในระเบยี บโรงเรียนอนุบาลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ ว่าด้วยการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรสถานศึกษา
โรงเรยี นอนบุ าลนาแกผดงุ ราชกิจเจริญ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ รวมทัง้ ดำเนนิ การใสอดคล้องและเป็นไปตามเอกสารความรเู้ กีย่ วกับการประเมินการอา่ น
คดิ วเิ คราะห์และเขียน การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทีส่ ำนกั งาน
คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐานได้เสนอแนะไว้ ทัง้ น้ีเพ่ือสะท้อนผลการพัฒนาคุณภาพผ้เู รียนและความรู้
ความสามารถของผเู้ รยี นอย่างแทจ้ รงิ

ทั้งนีต้ งั้ แต่ วันท่ี 1๕ พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สั่ง ณ วนั ท่ี 1๕ พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ลงช่อื
(นายหงษา วงคจ์ ำปา)

ผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลนาแกผดุงราชกิจเจริญ

๑๔๘


Click to View FlipBook Version