หนงั สือพระราชนพิ นธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ จิ การิณพี ีรยพัฒน
รฐั สมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ทวั ร์นอ้ งโจ้ (ตอ่ )
พระราชกจิ ณ เมอื งซิดนียใ์ นวันตอ่ มา เสด็จ ฯ ไปยงั โรงโอเปรา่ ซิดนีย์ และ
สวนสัตว์ Taronga Zoological Park ทอดพระเนตรสัตวพ์ ื้นเมอื งนานาชนดิ ของ
ออสเตรเลยี อาทิ ตุน่ ปากเป็ด วอมแบต หมโี คอาลา เป็นตน้ ต่อจากนนั้ ประทับ
เครือ่ งบนิ พระทนี่ งั่ เสด็จ ฯ ไปยังเมอื ง Oakey รัฐควนี สแลนด์ เสดจ็ ฯ ไป
ทอดพระเนตรงานดา้ นการเกษตร ทฟี่ าร์มของนายฮาร์ททเี่ มือง Kingsthorpe
วิทยาลยั เกษตรกรรมควีนสแลนด์ทเี่ มือง Gatton จากนนั้ เสดจ็ ฯ ไปยังเมอื ง
บรสิ เบน ในช่วงค่า เสด็จ ฯ ไปทรงร่วมงานเลีย้ งรับรองทีน่ ายกรัฐมนตรรี ฐั ควนี ส
แลนด์จัดถวาย ณ Parliament House
พระราชกิจ ในวันตอ่ มา เสด็จ ฯ ไปทรงเยยี่ มกิจการของสถานวี จิ ัยพืชสวนมารู
ซที่ เี่ มือง Nambour ทอดพระเนตรโครงการทดลองปลกู พืชและปรับปรุงพันธ์ุพืช
ตา่ ง ๆ ต่อจากนนั้ ประทบั เครอื่ งบินพระทีน่ ัง่ เสด็จ ฯ ไปยงั เมอื งเมลเบอรน์ รฐั
วิกตอเรยี ณ เมอื งเมลเบอร์น เสด็จ ฯ ไปทรงเยยี่ มมหาวทิ ยาลยั เมลเบอรน์ หอ
ศิลปะแห่งชาติประจารัฐวิกตอเรยี ศนู ยศ์ ลิ ปะแห่งรฐั วกิ ตอเรยี ซงึ่ เป็นศูนย์ทาง
ศิลปะการแสดง ในช่วงบา่ ย ประทับเครือ่ งบินพระทีน่ ัง่ เสด็จ ฯ ไปยังเมอื งอเดเลด
รฐั ออสเตรเลยี ใต้ เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรศนู ยศ์ ลิ ปะแหง่ ออสเตรเลยี ใต้ ในชว่ งค่า
เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรโอเปร่า เรอื่ ง Il Travatore
วนั ต่อมา เสดจ็ ฯ ไปทรงเยยี่ มกจิ การของศูนย์รีโมตเซนซิง่ ของออสเตรเลียใต้
ที่ Institute of Technology, The Levels ทอดพระเนตรเครอื่ งพิมพ์แผนที่
การทาแผนทีจ่ ากภาพถา่ ยจากดาวเทยี ม ต่อจากนัน้ เสด็จ ฯ ไปทรงเยยี่ มกิจการทา
ไวนข์ องบรษิ ัท Saltram’s Winery และบริษทั Yalumba Winery เมอื ง
Angaston ทอดพระเนตรห้องเก็บไวน์ แปลงเพาะชาปลกู องนุ่ หอ้ งปฏิบตั ิการ
วิทยาศาสตร์ ในช่วงบ่าย เสด็จ ฯ ไปยงั เมืองยูลารา ดนิ แดนนอรเ์ ทิร์น เทร์ริทอรี
เสดจ็ ฯ ไปยังศูนย์ขอ้ มลู นกั ทอ่ งเทีย่ วยูลารา ทอดพระเนตรนิทรรศการเรอื่ งภูมิ
ประเทศ พืช สตั ว์ และชาวพื้นเมอื งแถบนี้ แลว้ เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตร Ayers
Rock เป็นก้อนหนิ ทรายสีแดงรวมตัวกนั แบบหนิ ทราย (Conglomerated Rock)
จากนนั้ ประทับเครอื่ งบนิ พระทีน่ งั่ เสด็จ ฯ ไปยังเมอื งอลซิ สปริงส์
จัดทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแก้ว
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จังหวดั นครพนม
หนังสือพระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สิรกิ จิ การิณพี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ทวั รน์ ้องโจ้ (ต่อ)
วันต่อมา เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรศูนย์ศลิ ปะอารเู ลียน หน่วยแพทยท์ าง
อากาศ ระหว่างทาง ทอดพระเนตรวถิ ีชวี ิตความเป็นอยู่ของชนพื้นเมืองอะบอริ
จนิ ส์ แลว้ เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรบอ่ น้าพลังแสงอาทิตย์ สถานโี ทรเลขอลิซ
สปรงิ ส์ โรงเรียนทางอากาศท่ีมกี ารสอนนกั เรยี นทางวิทยุ พิพิธภณั ฑ์อูฐ
ในชว่ งค่า เสด็จ ฯ ไปร่วมงานเล้ียงพระกระยาหารค่า รัฐบาลแหง่ ดนิ แดนนอร์
เทิรน์ เทร์รทิ อรี จดั ถวาย ณ โรงแรมคันทรคี ลับ
วันตอ่ มา ประทับเครอื่ งบินพระทน่ี ่ัง เสด็จ ฯ ไปยังรฐั ออสเตรเลียตะวันตก
ระหว่างทาง ทอดพระเนตรทศั นียภาพของ Ayers Rock และ Olgas Rock
จากเครอ่ื งบนิ ภูมิประเทศสว่ นใหญ่เกดิ จากการกดั เซาะโดยลม และการกัดเซาะ
โดยน้า เมื่อเครอื่ งบินแวะพักเตมิ น้ามัน ณ เมอื ง Kalgoorlie ประทบั รถยนตร์
พระที่น่งั ชมทวิ ทัศน์ตัวเมืองและเหมอื งทอง แล้วประทบั เคร่ืองบนิ พระทนี่ ่ัง
เสด็จ ฯ ตอ่ ไปยังเมืองเพอรธ์ เสด็จ ฯ ไปทรงเย่ยี มชมกจิ การไร่ “Seaton
Ross” ของนายแอนดรู แมกกรูว์ ในเมืองยอร์ก ทอดพระเนตร ฟารม์ เล้ยี ง
แกะ แปลงปลกู ธญั พืช มขี ้าวโอต๊ ขา้ วสาลีและขา้ วบาร์เลย์
เสด็จ ฯ ไปทรงเย่ยี มกิจการของ CSIRO แผนกน้าใตด้ นิ ซง่ึ เป็น
หนว่ ยงานทม่ี ีหนา้ ท่ีพัฒนาเทคโนโลยใี นการปรับปรงุ การใชแ้ ละจดั การน้าใตด้ ิน
ของออสเตรเลีย แลว้ เสด็จ ฯ ไปยงั มหาวทิ ยาลัยเพอรธ์ คณะเกษตรศาสตร์
ทอดพระเนตรโครงการศึกษาวจิ ัยตา่ ง ๆ ในช่วงบา่ ย เสดจ็ ฯ ไปยงั
Department of Lands and Survey ท่ี Remote Sensing
Applications Centre
จดั ทาโดย ห้องสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวัดนครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยอื นไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ ิจการณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ทัวร์นอ้ งโจ้ (ตอ่ )
เมอื่ ทรงเสรจ็ สนิ้ พระราชกิจในการเสดจ็ พระราชดาเนินเยอื นออสเตรเลยี ได้
ทรงมีพระราชทัศนะทไี่ ดท้ รงเล่าพระราชทานไว้ในบทส่งท้ายของ “ทวั ร์น้องโจ้” ความ
ตอนหนงึ่ วา่
“ ... เราได้เหน็ ออสเตรเลยี ครบทกุ รฐั เวน้ Tasmania ไดป้ ระสบการณ์แยะ
ออสเตรเลียเป็นประเทศใหญ่ทนี่ า่ สนใจ มภี ูมิประเทศแปลก ๆ มีพืชสัตว์ทไี่ ม่เหมือน
ใคร ผู้คนทตี่ ิดต่อดว้ ยล้วนแต่มบี ุคลิกเปิดเผย คบงา่ ย อัธยาศัยดี แต่ก่อนนนี้ กึ ไม่
ออกเลยว่าประเทศนจี้ ะมคี วามยากลาบากทางด้านธรรมชาติถงึ เชน่ นี้ ทาใหน้ ยิ ม ชืน่
ชมพวกทมี่ าตัง้ ถิน่ ฐานแรกๆ วา่ กล้าหาญ เดด็ เดีย่ ว และอดทนแคไ่ หน ส่วนความรูท้ ี่
ได้รบั จะต้องทบทวนดูก่อน เพราะดอู ะไรกร็ วดเร็ว ในบางเรือ่ งต้องไปค้นคว้าเพิ่มเตมิ
หรอื ถามผูเ้ ชยี่ วชาญ (ไทย) บางเรอื่ งดูเผนิ ๆ อาจจะไมเ่ ป็นประโยชน์ หรอื ยังเอา
เป็นประโยชนใ์ นขณะนไี้ มไ่ ด้ แต่ก็มาอยใู่ นคลงั ประสบการณข์ องเรา ทจี่ ะเป็นหลักใน
การตดั สนิ ใจ ออกความเหน็ และกระทาการตา่ ง ๆ ต่อไป.”
จัดทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสิงแกว้
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนังสอื พระราชนพิ นธ์
ชุดเสดจ็ เยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ทศั นะจากอนิ เดีย
เรือ่ งทศั นะจากอินเดยี เป็นบนั ทกึ เร่อื งราวการเสด็จฯ เยอื นสาธารณรัฐ
อนิ เดยี ระหว่างวนั ที่ 10-28 มนี าคม 2530 ของสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
ฯ สยามบรมราชกมุ ารซี ่ึงได้เสด็จเยอื นเมอื งสาคัญต่างๆ ของอนิ เดีย ตง้ั แต่
นครกัลกตั ตา เมืองโครกั ขปุระ ปัตนะ พาราณสี ศรนี าคาร์ และกรุง
เดลี ทรงทอดพระเนตรสถานทสี่ าคัญทางประวัตศิ าสตร์โบราณคดี ศาสนา
และศลิ ปวฒั นธรรมหลายแห่ง
จัดทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแกว้
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวัดนครพนม
หนังสอื พระราชนพิ นธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สิรกิ ิจการณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ไทยเทีย่ วพมา่
พระราชนิพนธใ์ นสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ เร่อื งไทยเทย่ี วพมา่ เลม่ น้ี
เป็นพระราชนิพนธท์ ่ีทรงบันทึกไว้เมอื่ ครัง้ เสด็จพระราชด าเนินเยอื นสาธารณรัฐ
สงั คมนิยมสหภาพพม่า หรอื สหภาพพม่าในปัจจบุ นั เมื่อวันท่ี 21-31 มนี าคม
2529 ตามคากราบทูลเชญิ ของทา่ น อู เนวนิ ประธานพรรคโครงการสงั คมนยิ ม
พม่าในขณะน้ัน โดยเป็นการเสด็จพระราชดาเนินเยือนประเทศพมา่ เป็น
ครง้ั แรกของพระองค์เน้ือหาส่วนใหญ่ทรงเล่าถงึ สภาพบา้ นเมือง ภมู ปิ ระเทศ
ความเป็นอยโู่ บราณวตั ถุ โบราณสถาน ซ่ึงงดงามและทรงคณุ คา่ ทาง
ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การพัฒนาประเทศ ฯลฯ แทรกด้วยสาระหน้ารูแ้ ละมี
ภาพประกอบจานวนมาก
จดั ทาโดย ห้องสมดุ แสงสงิ แกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนังสือพระราชนพิ นธ์
ชุดเสดจ็ เยอื นไปต่างประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
เบอรล์ ินสิน้ กาแพง
พระราชนิพนธล์ าดบั ที่ ๓๒ จากบนั ทึกการเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนสหพันธ์
สาธารณรัฐเยอรมนี ระหวา่ งวันที่ ๒๑-๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘
การเสด็จ ฯ เยอื นเยอรมนคี รงั้ นี้ นบั เป็นครัง้ ทสี่ อง ซึง่ หา่ งจากครัง้ แรกถงึ ๑๓
ปี (ครัง้ แรกเดือนมถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๒๕) โดยทรงปฏิบตั ิพระราชกรณยี กิจ ดงั นี้
เสดจ็ ฯ ไปยังเมืองบาด ฮอมบวรก์ ทรงเป็นประธานในพิธเี ปิดนิทรรศการฉลอง
สิรริ าชสมบัติ ครบ ๕๐ ปี ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ณ สวน Kurzentrum
และได้เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรสถานทที่ นี่ ่าสนใจตา่ ง ๆ อาทิ คฤหาสนส์ ่วนบคุ คลของ
นายเอรคิ เลโอนฮาร์ด ทจี่ ัดเป็นพิพิธภณั ฑร์ วบรวมสิง่ ของในสมยั ทีม่ ีความนยิ มมา
เทยี่ วสปาในเมืองนี้ ทอดพระเนตรพิพิธภณั ฑ์ศลิ ปะและหตั ถกรรมทเี่ ก็บงานหัตถกรรม
โบราณไว้มากทสี่ ดุ ในเยอรมนี ทอดพระเนตรนิทรรศการงานศลิ ปะของฟาแบรเ์ ช่
ศิลปินของราชสานกั รสั เซีย เป็นต้น
เสดจ็ ฯ ไปยังนครฮมั บูรก์ ทรงเขา้ ร่วมประชุมวิชาการแผนทเี่ ยอรมนั ณ
Kongresszentrum โดยได้ทรงกล่าวเปิดงานเป็นภาษาเยอรมัน และได้ทอดพระเนตร
นิทรรศการเกยี่ วกับแผนที่ จากนนั้ เสดจ็ ฯ ไปยงั ศาลาว่าการนครฮมั บูรก์ สถาบนั
นาวิกศาสตรท์ างทะเลและอุทกศาสตร์
เสดจ็ ฯ ไปยงั รัฐชเลซวกิ – โฮลชไตน์ ซงึ่ ภูมิประเทศส่วนใหญเ่ ป็นทงุ่ กวา้ ง ทา
การเพาะปลกู และเลีย้ งสตั ว์ มกี ังหนั ลมมากกว่า ๑,๐๐๐ เครอื่ ง ซงึ่ เป็นเครอื่ งกาเนดิ
ไฟฟา้ พลงั ลม เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพิธภณั ฑ์ของเอมิล โนลเด ศิลปินท้องถนิ่ ซงึ่
มผี ลงานศลิ ปะหลากหลายประเภท เช่น ภาพเขยี นสีน้า ภาพพิมพ์หนิ ภาพพิมพ์ไม้
เสด็จ ฯ ไปยังเมอื ง Hamburger Hallig ทอดพระเนตรอุทยานแหง่ ชาติ
Wattenmeer หรือในภาษาองั กฤษวา่ Wadden Sea เป็นชายทะเลฝ่ งั ทะเลเหนอื ยาว
ตลอดเนเธอร์แลนด์ เยอรมนั และเดนมารค์ เป็นเขตทีม่ ชี ายฝ่ งั เป็นเลน (tidal mud
flats) ทยี่ าวทสี่ ดุ ในโลก
จดั ทาโดย ห้องสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนงั สอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิรกิ ิจการณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
เบอรล์ ินสนิ้ กาแพง (ตอ่ )
เสดจ็ ฯ ไปยังเมอื งฮซู ุม ซึง่ เป็นเมอื งศูนย์กลางวัฒนธรรมทางฝ่ งั ตะวนั ตก
ทอดพระเนตรสถานทที่ นี่ ่าสนใจตา่ ง ๆ เชน่ บ้านของเทโอดอร์ ชะตอร์ม กวเี ยอรมนั
สมัยเรียอาลิสมุส พิพิธภัณฑย์ าสบู และพิพิธภณั ฑข์ องเลน่ เป็นต้น
เสดจ็ ฯ ไปยังนครเบอรล์ นิ ทอดพระเนตรทัศนยี ภาพของนครเบอร์ลนิ ตะวันออก
ทอดพระเนตรรฐั สภา ซงึ่ กาลงั จัดทาโครงการห่อรัฐสภา เพื่อใหค้ นสานกึ ถงึ
ความสาคัญของสถานทแี่ ละประวัติศาสตรเ์ ยอรมัน เสด็จ ฯ ไปยังเมืองปอตสดัม
ทอดพระเนตรปราสาทซีซีเลียนฮอฟ เป็นปราสาทแหง่ สุดท้ายของราชวงศ์
Hohenzollern กอ่ นทจี่ ะถูกยึดโดยกองทัพรสั เซียในค.ศ. ๑๙๔๕ และไดใ้ ชเ้ ป็นที่
ประชมุ ของฝา่ ยพันธมติ รในชว่ งปลายสงครามโลกครงั้ ที่ ๒ จากนนั้ เสดจ็ ฯ ไปยัง
มหาวิทยาลยั เบอร์ลิน ทอดพระเนตรกจิ การของสถาบันภูมศิ าสตร์ และสถาบนั
อตุ ุนิยมวทิ ยา
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนงั สือพระราชนพิ นธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สิรกิ จิ การิณพี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
เบงิ่ บท่ นั เบิง่ บห่ มด
พระราชนพิ นธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็
พระราชดาเนินไปเยือนสาธารณะรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว โดยทรงเป็นแขก
ของรฐั บาล ระหว่างวนั ที่ ๑๕ - ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๓ ด้วยฉลองพระองคช์ ุดไทย
สีเหลืองทอง ปักชายด้านล่างดว้ ยไหมสีขาว พระเกศาบ๊อบสัน้ ทัดพระกรรณ
ติดคลบิ๊ ใหญ่สนี ้าตาลเขม้ มีลายทแยงเป็นแถว ๆ ประดับด้วยอญั มณสี ขี าว
เบ้ืองพระอุระซ้าย ติดเขม็ กลัดมีตรีศูลดา้ นบนพระบรมฉายาลกั ษณ์ทองคา
สมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชินนี าถทรงถือพระกระเปา๋ หูหิว้ ขาว ฉลองพระบาท
ขาว งามมาก เสดจ็ ฯ ทรงพบ ฯพณฯ พูมี วงวิจดิ ผู้รักษาการประธานประเทศ
เสดจ็ ฯ ทรงวางพวงมาลาที่อนสุ าวรยี ์พระเจา้ ไชยเชษฐาธิราช เสดจ็ ฯ วัด พระ
ธาตุ หอพระ พิพิธภณั ฑ์ ปราสาท สถานเอกอัครราชทูตไทยในนครเวียงจนั ทน์
โรงเรยี น มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ตลาดเชา้ โรงไฟฟา้ โครงการเกษตร
น้าตกหลี่ผี
จดั ทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนงั สือพระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สริ ิกิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ประพาสภาษา
พระราชนพิ นธใ์ นสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารเี มื่อ
เสดจ็ ฯ ไปทรงเรยี นภาษาเยอรมนั ที่เมืองเกิตติงเงน ระหวา่ งวนั ท่ี 19
กุมภาพันธ์- 20 มีนาคม 2545 ทรงเล่าว่า
"...การเรียนไมไ่ ดเ้ ป็นไปดังทีค่ ดิ ไว้ทุกประการ เน่ืองจากมีเวลาไปเขา้ เรยี น
เพียง 3สัปดาห์ แทนท่ีจะเป็น 3 เดอื น ในระหวา่ ง 3สัปดาห์ กม็ ีกิจกรรมตา่ งๆ
แทรกอยู่ ท าให้ขาดเวลา ทจ่ี ะใชท้ บทวนบทเรยี น กิจกรรมนอกหลักสูตรเหล่านั้น
บางสว่ นก็ช่วยใหม้ โี อกาสใช้ภาษาเยอรมันมากขน้ึ บางอย่างไมช่ ่วยการเรยี น
ภาษาเยอรมัน แต่ช่วยให้มีความรกู้ ว้างขวางข้ึน ทัง้ ในดา้ นความรู้เกยี่ วกบั
เยอรมนั นี และความรอู้ นื่ ๆ..."
จัดทาโดย ห้องสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนังสอื พระราชนพิ นธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สริ กิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รฐั สมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ประพาสราชสถาน
การเสดจ็ พระราชดาเนนิ เยือนกรงุ นิวเดลแี ละรฐั ราชสถาน ระหวา่ ง
วนั ที่ 2 ถงึ 12 เมษายน พ.ศ. 2544 รัฐราชสถาน (Rajasthan) เป็นรฐั
ทางตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ของอนิ เดีย และมขี นาดใหญ่เป็นอนั ดับสองของอินเดยี
รองจากรัฐมัธยประเทศ เมอื งหลวง คอื ชัยปู ร (Jaipur) ทรงบนั ทกึ เกร็ด
ประวตั ิศาสตร์อารยธรรมอันเกา่ แก่ ความงดงามทางสถาปัตยกรรม
ประตมิ ากรรม อาคารโบราณสถานท่สี าคญั ต่าง ๆ ทัง้ พิพิธภณั ฑเ์ มอื งและ
พิพิธภัณฑสถานแหง่ ชาติอินเดีย วดั วงั และอนุสรณส์ ถาน และโบราณสถานและ
โบราณ วตั ถุอนั งดงามของอินเดยี
จดั ทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแกว้
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนังสือพระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยือนไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ ิกจิ การิณพี ีรยพัฒน
รฐั สมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ประพาสอทุ ยาน
พระราชนิพนธช์ ุดเสด็จฯ เยือนตา่ งประเทศลาดับท่ี ๒๘ เป็นบันทกึ การ
เสดจ็ พระราชดาเนินเยอื นสหราชอาณาจกั ร ระหว่างวนั ที่ ๔-๑๔ กรกฎาคม
พุทธศักราช ๒๕๓๖ และยงั ไดเ้ สด็จ ฯ สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวนั ท่ี ๑๔-๑๗
กรกฎาคม ๒๕๓๖ ดว้ ย ซ่งึ ด้วยความสนพระทยั ในกิจการของสวนพฤกษศาสตร์
ตา่ งๆ โดยเฉพาะสวนคิว ซง่ึ เสด็จ ฯ เยือนหลายครง้ั และการโปรดทัศนียภาพอัน
เป็นธรรมชาตทิ ี่งดงามขององั กฤษ ซง่ึ เป็นประเทศทีม่ ชี อ่ื เสียงเกยี่ วกบั สวน
และพฤกษพันธ์ุ จงึ ทรงตัง้ ช่ือพระราชนิพนธเ์ ลม่ น้ี ว่า " ประพาสอุทยาน"
ในการเสด็จ ฯ เยอื นสหราชอาณาจกั รครั้งน้ี สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
ฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็ ฯ ไปทรงเปิดการประชมุ นานาขาตไิ ทยศึกษา ครั้งที่
๕ ณ School of Oriental and African Studies มหาวิทยาลยั ลอนดอน
และได้ทรงเข้าฟงั การบรรยาย ที่ SOAS ดว้ ย
หลังจากนน้ั เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรกิจการของหนว่ ยงานตา่ งๆ เชน่
สถานีวทิ ยบุ บี ีซี สภากาชาดอังกฤษ เป็นตน้ เสดจ็ ฯ โดยรถยนตรพ์ ระทน่ี ง่ั ไปยัง
เขตทะเลสาบ (Lake District) ในเขตคัมเบรยี (Cumbria) มณฑลแลงคาเชอร์
(Lancashire) และประทับแรมในท่ีพักแบบท้องถ่นิ ณ เมืองบัทเทอรเ์ มียร์
(Buttermere) จากน้นั เสดจ็ ฯ เยอื นเมืองอะเบอร์ดนี (Aberdeen) และ
เอดนิ บะระ (Edinburgh) ในสกอ็ ตแลนด์
ชว่ งทีเ่ สดจ็ ฯ เยือนสมาพันธรัฐสวสิ เสด็จ ฯ ไปทรงเยย่ี มสานกั งานกาชาด
สากล สานักงานสมาพันธร์ ะหว่างประเทศของกาชาดและซีกวงเดือนแดงในนคร
เจนวี า (Geneva) ทอดพระเนตรศูนย์วจิ ยั ของบรษิ ทั เนสท์เล่ ที่เมอื งแวร์เชเลบ
ลองค์ (Vers-chez les-Blanc) สหกรณ์เกษตรกรโคนมท่ีเมอื งเชนิ รดี
(Schonried) กอ่ นท่ีจะเสดจ็ นวิ ัตราชอาณาจกั รไทย
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสงิ แกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนงั สือพระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สริ กิ จิ การิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ปรศิ นาดวงดาว
พระราชนิพนธล์ าดับท่ี ๘ บนั ทึกประสบการณก์ ารเสด็จพระราชดาเนนิ เยือน
สาธารณรัฐฝรั่งเศส และราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ระหวา่ งวนั ที่ ๑๐-๒๖
มกราคม พุทธศกั ราช ๒๕๓๒ เก่ยี วกับท่ีมาของชือ่ หนงั สอื พระราชนพิ นธ์ ได้ทรง
เลา่ ไว้ในบทกล่าวนา ความตอนหนึง่ ว่า
“กล่าวนาเมือ่ เขยี นจบ........
กอ่ นจะพิมพ์หนังสอื เลม่ นอ้ี อกสู่สายตาของท่านผอู้ ่าน ปัญหาสดุ ท้ายที่
เกดิ ข้นึ คือ จะเรียกหนงั สอื เล่มนี้ว่าอยา่ งไรดี ขา้ พเจา้ ไดย้ ินแตข่ ้อวิจารณข์ องผู้
พิมพ์ดดี ผอู้ า่ นต้นฉบับและผตู้ รวจปร๊ฟู วา่ ออกจะหนกั ไปดา้ นดาวเทียม
จนกระทง่ั หลายตอนไม่อยใู่ นความสนใจของผ้ทู ไี่ มม่ ีความจาเป็นจะเกีย่ วข้องใน
เรื่องน้ี จรงิ ๆ แล้ว ข้าพเจา้ คิดวา่ ได้เขยี นถึงสิ่งท่ีประสบพบเห็นในการเดนิ ทาง
หลายแง่หลายมมุ ดาวเทยี มในท่นี ้ี เป็นดาวเทยี มที่ใชใ้ นการสารวจทรพั ยากร เรา
จะไม่พูดถงึ การสร้างดาวเทยี มหรือการสง่ ดาวเทยี มสู่อวกาศ จะกลา่ วถึงแตภ่ าพ
ทไี่ ด้จากดาวเทียม วธิ ีการในการศึกษาหาขอ้ มูลจากภาพน้นั นามาเป็นเครือ่ งมือ
ประกอบกับเครอ่ื งมอื อ่ืน ๆ เช่นตัวเลขท่ีได้จากการสารวจภาคพื้นดนิ แผนทีท่ ีม่ ี
อยู่แลว้ ภาพถา่ ยทางอากาศ เป็นต้น ช่วยให้เรารู้จกั โลก พรอ้ มทีจ่ ะอยู่ได้โดยมี
ความเข้าใจยิ่งข้ึน ขา้ พเจ้าต้องยอมรบั วา่ ไม่สามารถอธบิ ายเรอื่ งดาวเทียมได้
กระจา่ ง มีอย่หู ลายตอนที่ไม่ชดั เจน อ่านแล้วอาจงงได้ (ผเู้ ขียนอ่านซ้ายังงง) จึง
ขอตัง้ ชื่อหนงั สือว่า “ปรศิ นาดวงดาว” ดาวมักจะทาใหค้ นเราเกดิ ความฉงนได้
เสมอ แม้วา่ ดาวในเรื่องของขา้ พเจ้า จะเป็นดาวปลอมกต็ าม...”
จัดทาโดย ห้องสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จังหวดั นครพนม
หนงั สือพระราชนิพนธ์
ชดุ เสดจ็ เยือนไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ ิกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ปริศนาดวงดาว (ตอ่ )
“ภาค ๑ ฝรั่งเศส”
เสดจ็ พระราชดาเนนิ โดยเครอื่ งบนิ พระทน่ี ั่งจากกรงุ เทพ ฯ ไปยังกรงุ ปารสี
สาธารณรัฐฝรั่งเศส เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรปองเตออง (Panthéon) เป็นศา
สนสถานสรา้ งข้ึนในสมัยพระเจา้ หลยุ ส์ที่ ๑๕ เพื่อเป็นวหิ ารอุทศิ แด่นกั บญุ เจเน
เวยี ฟ มภี าพเขียนทางศาสนาจานวนมาก มีห้องใต้ดิน (Crypte) เป็นท่ีเก็บศพ
และสิง่ อันเป็นทร่ี ะลกึ ถงึ บคุ คลสาคัญในชว่ งการปฏิวตั ฝิ รงั่ เศส จากนั้น เสดจ็ ฯ
ไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ดอร์เซ (Musée d’Orsay) เดิมเป็นสถานรี ถไฟ
ตอ่ มาจึงทาเป็นพิพิธภณั ฑ์เฉพาะศลิ ปะฝรง่ั เศสสมัยครสิ ต์ศตวรรษที่ ๑๙ และ ๒๐
ทอดพระเนตรหอ้ งจัดแสดงภาพเขยี นยุคอิมเพรสชันนิสต์ แล้วเสด็จ ฯ ไปยัง
วิหารโนตเตรอดาม (Notre Dame) ซงึ่ บรเิ วณลานหนา้ วิหาร มกี ารขุดค้นพบ
รอ่ งรอยการกอ่ สรา้ งเกา่ ตั้งแต่สมยั โรมันและยคุ กลาง จึงจัดทาเป็นพิพิธภัณฑใ์ ต้
ดนิ ซึ่งต้องใช้เทคนคิ ทางวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรมใหส้ ามารถรบั น้าหนกั ถนน
ได้
เสดจ็ ฯ ไปยงั สานักงานเพื่อการพัฒนาการผลติ ทางการเกษตร (Bureau
pour le Développement de la production agricole) เป็นหนว่ ยงานท่ี
เชี่ยวชาญด้านงานวิศวกรรมเพ่ือการพัฒนาชนบท ภมู ศิ าสตร์
ทรพั ยากรธรรมชาติ โดยการทาแผนท่ี ศกึ ษาส่งิ แวดลอ้ ม การใช้ภาพถา่ ยทาง
อากาศ การทาระบบฐานข้อมูลภมู ิศาสตร์ มโี ครงการตา่ ง ๆ อาทิ โครงการศึกษา
ขอ้ มูลเกีย่ วกบั ผลผลติ ทางการเกษตร การใช้รโี มทเซนซง่ิ ในท่ีราบลมุ่ แม่น้าโขง
ตอนล่าง
เสดจ็ ฯ ไปยงั หน่วยผังเมือง กระทรวงสาธารณูปการและการเคหะ
(Service Technique de l’Urbanisme, Ministère de l’Equipement et
du Logement) ดาเนนิ งานพัฒนาความรดู้ ้านเทคนคิ ในสว่ นท่เี กี่ยวกบั เมอื ง มี
โครงการต่าง ๆ ทีใ่ ชเ้ ทคนคิ การสารวจด้วยภาพถา่ ยและการแปลภาพถ่าย
เทคนิคการทาแผนท่ี การศึกษาการขยายตวั ของเมือง เป็นต้น จากนน้ั เสด็จ ฯ
ไปยังทาเนียบประธานาธบิ ดี (Palais de l’ Elysée) ทรงพบมาดามมิตแตรองด์
(Madame Danielle MITTERANDE) ภริยาประธานาธบิ ดี และเสวยพระสธุ ารส
มาดามมติ แตรองดจ์ ดั ถวาย
จดั ทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวัดนครพนม
หนังสือพระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สิริกิจการณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ปริศนาดวงดาว (ต่อ)
วันตอ่ มา ประทับเครือ่ งบนิ พระทนี่ งั่ เสด็จ ฯ ไปยงั เมืองตูลสู (Toulouse)
ทอดพระเนตรกจิ การของศนู ยก์ ารศึกษาอวกาศแหง่ ชาติ (Centre National
d’Etudes Spatiales) ทรงดูงานดา้ นภาพถ่ายจากดาวเทยี มสารวจ
ทรพั ยากรธรรมชาติ ทอดพระเนตรภาพโปสเตอรภ์ าพถ่ายดาวเทียม SPOT บริเวณ
ตา่ ง ๆ
เสด็จ ฯ ไปยงั เมอื งแซง ลารี ซลู ัง (Saint Lary Soulan) อยู่ในเทอื กเขาปิเรเนส์
(Pyrénées หรอื เทือกเขาพีเรนสี ในภาษาอังกฤษ) ชายแดนสเปน เขตปิเรเนสเ์ ป็นเขต
เศรษฐกิจและมชี ือ่ เสยี งด้านการท่องเทยี่ ว มลี าน้าสาคัญคือ La Neste ไหลมาจาก
ภเู ขา สามารถกนั้ น้าส่งไปเลยี้ งพื้นทีเ่ กษตรกรรมไดห้ ลายอาเภอ มีสถานีการเล่นสกี
การสง่ เสรมิ เอกลักษณต์ า่ ง ๆ ของเขตปิเรเนส์ เชน่ ผ้าขนสตั ว์ของปิเรเนส์ เสด็จ ฯ ไป
ทรงสกี ณ สถานีสกีบนภูเขา วนั ต่อมา เสด็จพระราชดาเนนิ กลบั ไปยงั เมอื งตลู สู
ทอดพระเนตรการแสดงบัลเลต์ เรอื่ ง Don Quichotte ณ โรงละครบัลเลต์ แลว้ ทรง
พระดาเนนิ ไปทอดพระเนตรโบสถจ์ าโคแบงส์ สรา้ งขนึ้ ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓-๑๔
ในนิกายโดมนิ ิแกง (l’Ordre des Dominicains)
เสดจ็ ฯ ไปยงั สถานีรบั สญั ญาณดาวเทยี ม Aussaquel ซงึ่ มกี จิ การและบทบาท
ในโครงการดาวเทียมทัง้ ดาวเทียมประเภทสารวจทรัพยากร และดาวเทียมประเภทสอื่ สาร
ทอดพระเนตรการรบั ภาพจากดาวเทียมในจอคอมพิวเตอร์และจากเรดาร์รบั สญั ญาณที่
หมุนตามดาวเทียม เสดจ็ ฯ เยยี่ มโรงเรยี นอนุบาลและประถมศกึ ษา ทเี่ มอื ง
Ramonville St. Agne ทอดพระเนตรการเรยี นการสอนในชนั้ เรียน หอ้ งสมดุ และ
นิทรรศการการแต่งนทิ านจากจนิ ตนาการของเดก็ เสด็จ ฯ ไปยงั มหาวทิ ยาลัยปอล ซา
บาติเยร์ (Paul SABATIER) เป็นมหาวทิ ยาลยั ด้านวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ทตี่ ัง้ ชอื่
ตามนกั วทิ ยาศาสตร์ชาวตูลสู ผไู้ ดร้ ับรางวลั โนเบลในทางอนิ ทรียเ์ คมี เสด็จ ฯ ไปยัง
อาคาร Zodiac ทรงฟงั การบรรยายเกีย่ วกับสถาบนั Institut de la Carte
Internationale de Tapis Végétal ซงึ่ ดาเนินงานด้านการศกึ ษาปัญหาพิเศษ
รว่ มกับหน่วยงานและประเทศต่าง ๆ เช่น การศึกษาพื้นทปี่ า่ ชายเลนในประเทศตา่ ง ๆ
การใช้ภาพดาวเทยี มจาแนกสภาพพื้นทแี่ ละภูมอิ ากาศ จาแนกออกมาเป็นแผนที่ การใช้
รีโมทเซนซิง่ ในการศกึ ษาพืชธรรมชาตแิ ละพืชทปี่ ลูกในเขตรอ้ น เป็นตน้
จดั ทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสงิ แกว้
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนังสอื พระราชนพิ นธ์
ชดุ เสดจ็ เยอื นไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สิริกิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ปรศิ นาดวงดาว (ตอ่ )
เสดจ็ ฯ ไปยังวทิ ยาลยั เกษตรกรรม Purpan อย่ทู างตะวันตกของตูลสู เป็น
สถาบนั เอกชนทรี่ ่วมกันกอ่ ตงั้ โดยเจา้ ของฟารม์ ในเขตตูลูส มกี ารเรยี นการสอนเน้นใน
เรอื่ งเกษตรและวชิ าการทเี่ กยี่ วขอ้ ง และทางานประสานกับหน่วยงานตา่ ง ๆ ดาเนนิ
โครงการของสถาบนั เช่น โครงการสหกรณ์ พัฒนาโปรแกรม GIS ใช้ภาพดาวเทยี มใน
การศึกษาพื้นทีเ่ กษตร ผลกระทบของน้าท่วม เสด็จ ฯ ไปยังสถาบนั วิจัยเกษตร INRA
(Institut Nationale de la Recherche Agronomique) ทอดพระเนตรสถานีปศุ
สตั ว์ ซงึ่ มีโครงการเพิ่มผลผลิตลูกแกะทดี่ ี ศนู ย์วจิ ยั ห้องปฏบิ ตั ิการจลุ ชวี วิทยา ทาการ
วิจัยในเรอื่ งผลผลติ การเกษตร
เสดจ็ ฯ ไปยงั โบสถ์แซงต์แซร์แนง (La Basilique Saint Sernin) สรา้ งขนึ้ เมอื่
ประมาณคริสตศ์ ตวรรษที่ ๑๑-๑๒ และมีการบรู ณปฏสิ งั ขรณ์หลายครงั้ เสดจ็ ฯ ไปทรง
เยยี่ มโรงเรียนมธั ยมสหศกึ ษา Lycée Saint Sernin เป็นโรงเรยี นทสี่ อนในดา้ นรีโมท
เซนซิง่ ระดบั มธั ยมศึกษา อาทิ วธิ กี ารใชภ้ าพถ่ายจากดาวเทียม การใชค้ อมพิวเตอร์ชว่ ย
ในการวิเคราะหข์ ้อมลู การศึกษาพื้นทจี่ รงิ เพื่อใหร้ จู้ กั สภาพธรรมชาติ เช่น ปา่ ไม้ พืช
เกษตร การตดิ ตามการเพาะปลูก เป็นต้น ตอ่ จากนนั้ เสด็จ ฯ ไปยังวทิ ยาลยั ครู (Ecole
Normale) ทที่ าการสอนวชิ าครสู าหรับเด็กปกตริ ะดบั อนบุ าลถึงประถม และยังสอนวชิ า
ครสู าหรับเดก็ พิการ จากนนั้ เสดจ็ พระราชดาเนินกลับกรุงปารสี
เสดจ็ ฯ ไปยังหา้ ง SELMER เป็นร้านของบรษิ ัทผลิตเครอื่ งดนตรที เี่ ก่าแกแ่ ละมี
ชอื่ เสยี ง เสด็จ ฯ ไปยงั สานักงานสานกั ข่าวฝรงั่ เศส (Agence France Presse –
AFP) ทอดพระเนตรกจิ การของสานักพิมพ์ทสี่ ่งขา่ วสารทนี่ า่ สนใจไปถงึ คนทวั่ โลกใน
เวลารวดเรว็ ตอ่ มา เสดจ็ ฯ ไปยงั พิพิธภณั ฑ์ลฟู ร์ ซึง่ ทีต่ ัง้ ของพระราชวงั ลูฟร์ เดิมเป็น
วงั ของพระเจ้าฟลิ ิปป์ ออกุสต์ ตอ่ มาไดม้ กี ารเปลีย่ นแปลงการใชส้ อยหลายอย่าง ตงั้ แต่
เป็นวัง เป็นคา่ ยทหาร คุก โรงเรยี น สถาบันวชิ าการ ทที่ าการรฐั บาล จนเป็นพิพิธภัณฑ์
ในปัจจบุ นั ทอดพระเนตรอาคารใหม่ส่วนขยายเป็นปิรามดิ แก้ว ในบริเวณลานนโปเลออง
ทรงฟงั การบรรยายเรอื่ งการขดุ ค้นรากฐานของลูฟร์อันเป็นสว่ นทสี่ ร้างในสมัย
คริสตศ์ ตวรรษที่ ๑๓ จากนัน้ ทรงพระดาเนนิ ทอดพระเนตรร้านหนงั สอื เล็ก ๆ ริมแม่น้า
แซน
จดั ทาโดย หอ้ งสมุดแสงสงิ แกว้
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จังหวัดนครพนม
หนังสือพระราชนพิ นธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สิริกจิ การิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ปริศนาดวงดาว (ต่อ)
เสดจ็ ฯ ไปยงั สถาบัน IGN (Institut Géographique National) ทเี่ มอื ง
แซงต์ มองเด (Saint Mandé) นอกกรุงปารสี เป็นหนว่ ยงานทดี่ าเนนิ งานด้านการทา
แผนที่ ในชว่ งบ่าย เสด็จ ฯ ไปยังกระทรวงการตา่ งประเทศ ทรงรบั การทลู เกล้า ฯ
ถวายเครือ่ งอสิ ริยาภรณ์ Palmes Académiques เพื่อเทิดพระเกยี รตทิ ที่ รงเป็นผูท้ มี่ ี
สว่ นในการสร้างความเขา้ ใจและเชือ่ มสมั พันธร์ ะหว่างประเทศฝรัง่ เศสและไทยในด้าน
วิชาการ จากนัน้ เสด็จ ฯ ไปยงั Bureau Central des Etudes d’ Outre-Mer -
BCEOM เป็นหน่วยงานวศิ วกรรมจัดตัง้ ขึน้ เมือ่ ค.ศ. ๑๙๔๙ เชยี่ วชาญในดา้ นการ
พัฒนาเศรษฐกจิ และสังคม เช่น การจัดการทดี่ นิ การวางแผนคมนาคมขนสง่ เป็นตน้
เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตร La De fense โครงการเมืองธรุ กจิ ใหญแ่ หง่ ใหม่นอกปารสี
ไปทางเขตเนยยี (Neuilly) ซงึ่ เป็นชานเมอื งของปารีส และอนญุ าตให้มกี ารปลูกสรา้ ง
อาคารสงู ได้ เสดจ็ ฯ ไปยงั กระทรวงวจิ ยั และเทคโนโลยี ทรี่ บั ผิดชอบงานวิจัยดา้ น
เกษตร พลังงาน วิทยาศาสตรส์ ุขภาพ การสารวจ และอนื่ ๆ
“ภาค ๒ เนเธอรแ์ ลนด์”
เสดจ็ พระราชดาเนนิ โดยเครอื่ งบนิ พระทนี่ ัง่ จากกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรงั่ เศส ไป
ยงั นครอมั สเตอร์ดมั ราชอาณาจักรเนเธอรแ์ ลนด์ เสดจ็ ฯ ไปยังพระราชวังนอทเอน
(Noordeinde) กรงุ เฮก ซงึ่ เป็นทปี่ ระทบั
เสดจ็ ฯ ไปยงั เมืองเดลฟท์ (Delft) ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ Hui Lambert
van Meerten พิพิธภัณฑ์ Het Prinsenhof โบสถ์ New Church ซงึ่ เป็นสุสาน
หลวง เป็นทฝี่ ังพระบรมศพและพระศพของกษัตรยิ แ์ ละพระราชวงศห์ ลายพระองค์
จากนัน้ เสด็จ ฯ ไปยังเมอื งเลเดน (Leiden) ทอดพระเนตรพิพิธภณั ฑ์ Rijksmuseum
van Oudhedon จดั แสดงประวัตศิ าสตร์ของประเทศตงั้ แต่ยุคโบราณ ในชว่ งค่า
เสด็จ ฯ ไปเฝา้ สมเด็จพระบรมราชนิ ีนาถ ณ พระราชวังนอทเอน และทรงรบั พระราชทาน
เลีย้ งพระกระยาหารค่า
เสด็จ ฯ ไปยงั บรเิ วณ Delta Region ทอดพระเนตรโครงการควบคุมน้าทะเล
ชายฝ่ งั โดยการกัน้ เขือ่ น เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรตลาดประมลู ดอกไมท้ ีอ่ ลั สเ์ มยี ร์
(Aalsmeer) ซงึ่ เป็นสถานทปี่ ระมลู ดอกไมท้ ใี่ หญท่ สี่ ุดในโลก เนอื่ งจากเนเธอรแ์ ลนด์เป็น
ประเทศทไี่ ดช้ ือ่ ว่าเป็นผู้นาในด้านการผลติ ไมด้ อกและไมป้ ระดับของโลก และในดา้ นการ
จาหน่ายดอกไม้ทงั้ ทผี่ ลิตในประเทศและทีซ่ ือ้ จากต่างประเทศมาขายต่อ
จดั ทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวดั นครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยือนไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิรกิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ปริศนาดวงดาว (ตอ่ )
เสดจ็ ฯ ไปยังเมือง Enschede เพื่อทรงเขา้ รว่ มการการอบรมเป็นระยะเวลา ๓
วัน ณ สถาบันไอทีซี (International Institute for Aerospace Survey and
Earth Science - ITC) ซงึ่ มีชอื่ เสียงทางดา้ นการจดั หลกั สตู รด้านสารวจ การจดั การ
และอนรุ ักษท์ รัพยากรและสงิ่ แวดล้อม
เสดจ็ ฯ ไปยังเมอื ง Wageningen ซงึ่ เป็นแหล่งการศกึ ษาเกยี่ วกบั ชนบท มี
ศูนย์วิจัยการเกษตรหลายแห่ง เสดจ็ ฯ ไปยังสถาบัน International Soil
Reference and Information Centre – ISRIC ทอดพระเนตรงานดา้ นการศกึ ษา
สภาพดนิ ทัว่ โลก ต่อจากนนั้ เสดจ็ ฯ ไปยงั Staring Building ทรงฟงั การบรรยาย
ทางวชิ าการ อาทิ เรอื่ งการจาแนกข้อมลู ทดี่ นิ ในเนเธอรแ์ ลนด์ เรือ่ งการใช้รโี มทเซนซิง่
ในการจดั การน้าและการวางแผนการใชท้ ดี่ นิ เป็นต้น จากนัน้ ประทับรถไฟพระทนี่ งั่
ขบวนพิเศษ สมเดจ็ พระบรมราชนิ ีนาถแหง่ เนเธอรแ์ ลนด์พระราชทาน เสด็จพระราช
ดาเนนิ จากสถานีรถไฟ Wolfheze ไปยังสถานรี ถไฟ Gare du Nord กรงุ บรัสเซลส์
ราชอาณาจักรเบลเยียม
จดั ทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนงั สือพระราชนพิ นธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ ิกิจการณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ปา่ สูงน้าใส
พระราชนพิ นธล์ าดับที่ ๑๖ จากบนั ทกึ การเสดจ็ พระราชดาเนินเยอื น เนกา
ราบรูไนดารสุ ซาลาม ระหว่างวันท่ี ๗-๑๔ กันยายน พุทธศกั ราช ๒๕๓๔ ทรงพระ
ราชนิพนธ์ไวใ้ น “ความนา” มีใจความตอนหนึง่ ว่า
“เรื่องน้ีอาจถอื ได้ว่าเป็นภาค 2 ของเรอ่ื ง ‘ลดั ฟา้ ลา่ วชิ าหาอาจารย์’
เพราะว่าเม่อื วันที่ 24 มกราคมปีนี้ (2534) ขา้ พเจ้าไดไ้ ปทร่ี าชสมาคมภมู ศิ าสตร์
(The Royal Geographical Society) ตอนน้นั ไดท้ ราบเรอื่ งโครงการศึกษา
ปา่ ดบิ เมืองรอ้ นท่บี รูไน พอได้ยินเข้าข้าพเจา้ ก็เกดิ ความสนใจข้ึนมาทนั ที เพราะเขา
ศึกษาปา่ ในหลายแง่หลายมุม นักวิชาการหลายสาขามาศึกษาและแลกเปล่ียน
ความคิดเห็นและประสบการณ์ ทางสมาคมมี Dr. John Hemming
ผอู้ านวยการของสมาคม เขาบอกว่าถ้าไทยจะสง่ นักศึกษามาร่วมโครงการก็ได้
ข้าพเจา้ เลยถามว่าถา้ ขา้ พเจ้าจะไปดูเองก่อนจะเป็นไปได้ไหม เขาบอกว่า ‘ไม่มี
ปัญหา’ ขา้ พเจา้ ก็เลยตกลงใจจะไป...
"...ข้าพเจา้ ตง้ั ใจทจี่ ะบันทกึ ความร้แู ละประสบการณต์ า่ ง ๆ ที่ไดร้ ับจากการ
เดินทางเอาไว้ เพื่อเป็นประโยชนใ์ นการศกึ ษาสบื ต่อไป การบันทึกคราวน้ีก็คง
จะตอ้ งมขี อ้ ขาดตกบกพรอ่ งไปบา้ ง เพราะข้าพเจ้ามไิ ด้เป็นนักวิทยาศาสตร์ หรอื
นกั อะไรเลยแม้แต่อย่างเดยี ว จงึ ขอบนั ทึกในฐานะทเ่ี ป็นเพียงคนธรรมดา ๆ คน
หนึง่ ท่ีได้มโี อกาสไปสมั ผสั ชวี ติ ในแวดวงของนักวิทยาศาสตรใ์ นปา่ ลึก”
เสด็จพระราชดาเนนิ โดยเครือ่ งบนิ พระท่ีนัง่ จากกรงุ เทพ ฯ ไปยงั กรุงบัน
ดาร์เสรีเบกาวนั เนการาบรูไนดารสุ ซาลาม เสด็จ ฯ ไปเฝา้ สมเด็จพระราชาธิบดี
แห่งบรไู น ณ พระราชวังอสิ ตานา นูรุลอมิ าน
จัดทาโดย ห้องสมุดแสงสิงแกว้
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ปา่ สงู น้าใส (ต่อ)
เสด็จ ฯ ไปยงั พิพิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติบรไู น ทอดพระเนตรแผนกธรรมชาติ
วิทยา ซงึ่ จาลองชวี ติ สัตวแ์ ละสภาพระบบนเิ วศทีส่ ตั ว์เหลา่ นัน้ อยู่ดว้ ย แผนก
วัฒนธรรมอิสลาม แสดงชีวติ ความเป็นอยแู่ ละพิธีการในศาสนาอสิ ลาม จากนนั้ เสดจ็
ฯ ไปทอดพระเนตรพิพิธภณั ฑเ์ ทคโนโลยีมาเลย์ ซงึ่ มีการจัดแสดงเทคโนโลยีพื้นบา้ นที่
ใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ ในดา้ นต่าง ๆ เชน่ การปลกู สร้างบา้ นดว้ ยจาก บา้ นชา่ งตเี หลก็
ชา่ งเงิน ชา่ งหลอ่ เป็นตน้ แลว้ เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรศนู ย์ศิลปหัตถกรรม ซงึ่
จดั ตัง้ ขึน้ เพื่อฟ้ นื ฟูบูรณะศิลปะบรไู นโบราณ มกี ารสอนฝกึ อาชพี อาทิ การสานกระเปา๋
ด้วยปาหนนั และไม้ไผ่ การทอผ้า จากนนั้ เสด็จ ฯ ทอดพระเนตรกาปงไอร์ (หมบู่ า้ นน้า)
เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ทีช่ าวบ้านปลูกสรา้ งบ้านเรอื นอยเู่ หนือผนื น้า มีการสญั จรไปมาโดย
เรือ
ประทบั เครือ่ งเฮลิคอปเตอรพ์ ระทนี่ ัง่ เสดจ็ ฯ ไปยังเมืองซีเรยี เพื่อทอดพระเนตร
แท่นขุดเจาะน้ามันของบริษทั เชลลบ์ รไู นปิโตรเลียม จากนนั้ เสดจ็ ฯ กลับนครหลวง
และเสด็จ ฯ ไปเฝา้ สมเด็จพระราชินีแห่งบรูไน ณ พระราชวังนรู ุล อิมาน และไปเฝา้ พระ
ชายา ณ พระราชวงั นรู ลุ อซิ ซา
เสดจ็ ฯ มหาวทิ ยาลยั บรไู นดารสุ ซาลาม ทรงฟงั คาบรรยายเกยี่ วกับมหาวทิ ยาลยั
และโครงการศกึ ษาปา่ ฝนเมืองรอ้ น ทอดพระเนตรระบบขอ้ สนเทศภูมศิ าสตร์ และ
หอ้ งสมดุ ของมหาวิทยาลยั
เสด็จพระราชดาเนนิ โดยเครอื่ งเฮลคิ อปเตอร์พระทนี่ ัง่ เพื่อไปยงั ศนู ยว์ จิ ัยภาคสนาม
แมน่ ้าเบลาลอง (Kuala Belalong Field Centre) เพื่อทรงสารวจปา่ เขตรอ้ น รวม
๔ วนั โดยประทบั ณ เรอื นพักของศนู ย์ ฯ ในปา่ ในวันแรก ทรงฟงั การบรรยายสรปุ
เรอื่ งกจิ การของราชสมาคมภมู ศิ าสตร์ ซงึ่ ไดร้ ว่ มมือกับมหาวทิ ยาลยั บรไู น ตงั้ ศูนย์ ฯ
ดังกล่าวขนึ้ ทจี่ ังหวัดเทมบรุ ง เพื่อให้นกั วิทยาศาสตรเ์ ข้ามาทาโครงการวิจยั ต่าง ๆ
อาทิ โครงการดา้ นอุทกวิทยา โครงสรา้ งของปา่ ในระดับความสูงต่าง ๆ กนั เป็นตน้
แล้วเสดจ็ ฯ ทรงสารวจปา่ พืชพันธ์ไุ มใ้ นปา่ เชน่ หวาย เถาวัลย์ เฟริ น์ ทอดพระเนตร
พื้นทที่ ดลองของนกั วิจยั เชน่ การศกึ ษาเรอื่ งหนชู นิดตา่ ง ๆ การศึกษาเรอื่ งแมลง
จดั ทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแก้ว
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จังหวดั นครพนม
หนังสือพระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สริ ิกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ปา่ สงู น้าใส (ต่อ)
ในการทรงสารวจปา่ ทรงพระดาเนินลึกเข้าไปในปา่ เพื่อทอดพระเนตรบริเวณที่
ศึกษาพันธ์ุไม้พันธ์ุสตั ว์ อาทิ ตาขา่ ยดักแมลง การศึกษาการกัดกรอ่ นของดิน
การศึกษาตาแหน่งและขนาดของตน้ ไม้ใหญ่ การศกึ ษาการทารงั ของมดในกงิ่ ไม้ เสวย
พระกระยาหารกลางวนั ในปา่ ทอดพระเนตรแปลงศึกษาหวายชนิดต่าง ๆ กบั ดักเมล็ด
พันธไุ์ ม้ ทรงพระดาเนินขนึ้ ไปยงั ลานบนสันเขา ทอดพระเนตรลานทมี่ ีนกไกฟ่ า้ มาชุมนุม
กนั ตามธรรมชาติ ทรงปีนขนึ้ ไปตามปา่ เขาทลี่ าดชัน ทอดพระเนตรแปลงศกึ ษา
โครงสรา้ งของปา่ ทเี่ ปลยี่ นแปลงตามระดบั ความสงู การศกึ ษาการดดู อาหารของไม้ปา่
ทรงทดลองจบั งพู ื้นเมอื งทไี่ ม่มีพิษ เสวยพระกระยาหารกลางวันบนยอดเขา ทรงพระ
ดาเนนิ ไปตามสนั เขา ทอดพระเนตรเครือ่ งหมายบอกทกี่ าหนดเริม่ ทาวจิ ยั ซึง่ เป็นจุด
ควบคมุ ทกุ ๕๐ เมตร มีเครือ่ งหมายบอกให้หยุดเพื่อศกึ ษาร่องรอยของสตั วป์ ระเภท
ลงิ หรอื นกเงือก เมอื่ พบทใี่ ดต้องวัดมมุ ความสงู ระยะ บันทึก baring ทา
triangulation โดยตอ้ งทาการสารวจในเวลากลางคืนซงึ่ เห็นสตั วเ์ หลา่ นไี้ ดไ้ ม่ยาก
เนอื่ งจากตาของสตั ว์สะทอ้ นแสงไฟ แล้วทรงพระดาเนนิ กลับศูนย์วิจัยภาคสนาม
แม่น้าเบลาลอง นกั วจิ ยั บรรยายเรอื่ งทที่ ดลองถวาย
วนั ตอ่ มา ทรงพระดาเนนิ ตามลาน้า ทอดพระเนตรเฟริ น์ และพืชทขี่ นึ้ ริมน้าซึง่ ต้อง
มีความแข็งแรงจึงทนกระแสน้าได้ เสด็จ ฯ เขา้ ไปในลาธาร Sungai Esu ซงึ่ เป็น
สาขาของแมน่ ้าเบลาลอง ทอดพระเนตรแนวศึกษาอยู่บริเวณฝ่ ังแมน่ ้าทัง้ สองด้าน
เป็นการศึกษาการแพรก่ ระจายของพันธุ์ไม้เบกิ นาทีพ่ บมากตามรมิ น้า ทรงพระดาเนิน
ขา้ มฝ่ งั แม่น้าไปทอดพระเนตรแปลงทดลองการวดั แสงทตี่ น้ ไม้เพื่อดคู วามสามารถ
สงั เคราะห์แสง ทรงฝกึ หดั วัดแสง (water stress) เสดจ็ ฯ กลบั ทปี่ ระทบั โดยเรอื
พระทนี่ ัง่ ทอดพระเนตรหอ้ งแลบซึง่ เป็นทีท่ างานของนักวิจัย ทรงฟงั การบรรยายของ
นักวิจยั
เสดจ็ พระราชดาเนินออกจากศนู ยว์ ิจยั ภาคสนามแม่น้าเบลาลอง โดยเรอื ยนต์พระ
ทีน่ ัง่ ไปยงั จงั หวัดเทมบรุ ง เสด็จ ฯ หมู่บ้านชาวอบี าน ทอดพระเนตรการแสดงระบา
พื้นเมือง
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแกว้
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จังหวดั นครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สิรกิ จิ การณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
เปิดสะพานมิตรภาพไทย – ลาว
ทรงเล่าถึงเหตกุ ารณ์เมอ่ื คร้งั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั พร้อมด้วย
สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ และองค์ผู้ทรงพระราชนพิ นธเ์ สดจ็
พระราชดาเนนิ ไปประกอบพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย – ลาว และเสด็จพระ
ราชดาเนินเยอื นประเทศลาว เมือ่ วันที่ ๘ - ๙ เมษายน ๒๕๓๗
จดั ทาโดย หอ้ งสมุดแสงสงิ แกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนงั สือพระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ฟ้ นื ภาษา ได้อาหาร
การเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนประเทศฝรงั่ เศส เพื่อเพิ่มพูนความรู้
ดา้ นภาษาฝรัง่ เศส ณ สถาบันภาษาตูแรน ท่เี มืองตูร์ ประเทศฝรั่งเศส
ระหวา่ งวันท่ี ๑๔ ถึง ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๐ หลงั จากทรงสาเรจ็ การศกึ ษา
ระดบั มหาวิทยาลัยแลว้ โอกาสทจี่ ะได้ใช้ภาษาฝร่ังเศสนน้ั น้อยลง จึงทรง
ศกึ ษาภาษาฝรง่ั เศสเพิ่มเติม และไดเ้ สดจ็ พระราชดาเนนิ เยอื นสถานที่
สาคัญตา่ ง ๆ ของประเทศฝรง่ั เศส อาทโิ รงพยาบาลเด็กท่ีเมืองตูร์
บ้านรบั รองพิเศษส าหรับคนพิการทางสมอง เล แอะส์ วิฟส์และ
ปราสาทหลวงแห่งเมืองอองบวซ ฯลฯ
จดั ทาโดย ห้องสมุดแสงสงิ แก้ว
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนงั สือพระราชนพิ นธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สริ ิกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
มณีพลอยร้อยแสง : รวมพระราชนิพนธใ์ นสมเด็จพระเทพ
รัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี
เป็นหนังสอื รวมพระราชนิพนธ์ทงั้ ร้อยแก้วและร้อยกรอง จดั ทาขน้ึ โดย
อักษรศาสตรบ์ ัณฑติ รุ่น ๔๑ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพ่ือทลู เกล้า ฯ ถวาย
เป็นของขวญั แด่ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เน่อื งใน
วโรกาสท่ที รงเจรญิ พระชนมพรรษา ๓ รอบใน พ.ศ. ๒๕๓๔
คณะผูจ้ ัดทาได้แบง่ งานพระราชนพิ นธ์ออกเป็น ๑๑ หมวดหมู่ ดงั น้ี
- “กล่นั แสงกลอนกานท"์ งานพระราชนพิ นธท์ นี่ ามารวบรวมในหมวดนี้
สว่ นใหญ่จะเป็นงานพระราชนพิ นธบ์ ทกวี อาจจะมงี านพระราชนิพนธร์ ้อยแก้ว
ขนาดสน้ั อยูบ่ ้าง ในหมวดนจ้ี ะประกอบไปดว้ ยหมวดย่อย ๆ คอื ร้อยกรอง
อวยพรวันเกิด อวยพรวนั วสิ าขบชู า อวยพรวันปีใหม่ และสกั วากลอนสด
- “เสยี งพิณเสียงเลอ่ื น เสยี งเออื้ นเสยี งขับ" รวมบทเพลงพระราชนิพนธ์
บทเพลงพระราชนพิ นธเ์ หล่านี้ไดม้ ีผูข้ อพระราชทานนาไปใส่ทงั้ ทานองดนตรีไทย
ได้แก่ เต่าเห่ ชน่ื ชมุ นมุ กลุม่ ดนตรี และทานองดนตรสี ากล ได้แก่ แลจนั ทร์
ชายทะเลพัทยา เป็นต้น
- “เรียงร้อยถ้อยดนตร"ี รวมงานพระราชนพิ นธ์ทีเ่ กี่ยวกบั ดนตรไี ทย
บทความท่ไี ดร้ วบรวมไว้ ไดแ้ ก่ เหตใุ ดข้าพเจา้ จึงชอบดนตรไี ทย พิพิธภณั ฑ์
เครื่องดนตรไี ทย และลูกทงุ่ กบั เพลงไทย เป็นตน้
- “ชวนคดิ พิจติ รภาษา" รวมบทความพระราชนพิ นธท์ ่ีเกย่ี วข้องกับภาษา
ไดแ้ ก่ ภาษาไทยกบั คนไทย ทกุ ข์ของชาวนาในบทกวี เป็นตน้
- “นานาโวหาร" รวมพระราชนิพนธ์เรียงความภาษาไทย ไดแ้ ก่ อยา่ ปลอ่ ย
เวลาให้ล่วงไปโดยเปลา่ ประโยชน์ ถ้าแมน้ ไม่ทาดใี นแดนดนิ จะถวลิ ถึงสวรรค์
นัน้ อยา่ หา เป็นต้น
จดั ทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสงิ แก้ว
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวัดนครพนม
หนงั สือพระราชนพิ นธ์
ชุดเสด็จเยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สิรกิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
มณพี ลอยรอ้ ยแสง : รวมพระราชนพิ นธใ์ นสมเดจ็ พระเทพ
รัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี
- “คาขานไพรชั " รวมพระราชนพิ นธ์เรียงความภาษาอังกฤษ ไดแ้ ก่
Advertisement of slimming pills My Friend … “Fish"
และ Pra Ruang เป็นต้น
- “สมบัติภมู ิปัญญา" รวมปาฐกถาและพระราชดารสั ได้แก่ Keynote
Speech The Food Conference ’88, 24th October 1988
การศกึ ษากับการพัฒนาประเทศ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑ เป็นตน้
- “ธาราความคิด" รวมพระราชนิพนธ์สารคดี ได้แก่ เร่ืองจากเมอื ง
อิสราเอล จากทาสสูค่ วามสาเรจ็ และพิพิธภัณฑญ์ ่ีปุน่ เป็นตน้
- “นทิ ิศบรรณา" รวมพระราชนพิ นธค์ านาทพ่ี ระราชทานเพื่อใช้ประกอบ
หนงั สอื ตามทีม่ ผี ู้ขอพระราชทานมา ไดแ้ ก่ หนงั สอื สภาพแวดล้อมสาหรับเด็ก
แกว้ จอมแกน่ (ฉบับแปลภาษาจนี ) และ Village in Thailand เป็นตน้
- “สาราจากใจ" รวมภาพการ์ตนู ฝีพระหัตถ์ ไดแ้ ก่ ภาพชา้ ง ภาพสนุ ขั
และภาพกมุ ารทอง เป็นตน้
- “มาลยั ปกิณกะ" รวมพระราชนิพนธ์ปกิณกคดี ไดแ้ ก่ สายไปเสยี แลว้
๑๐ ปีในร้ัวแดงกาแพงเหลอื ง บทวทิ ยเุ รอ่ื งวันสงกรานตแ์ ละพระราชพิธีจรด
พระนังคัลแรกนาขวัญ
จัดทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนงั สือพระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกจิ การิณพี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
มนตร์ ักทะเลใต้
พระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๓๗ จากบันทึกการเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนหมเู่ กาะ
ทะเลใต้ เริม่ จากสาธารณรฐั สิงคโปร์ สปู่ าปัวนิวกินี ราชอาณาจักรตองกา หมู่
เกาะคุก สาธารณรัฐหมู่เกาะฟจิ ิ และหมเู่ กาะโซโลมอน ระหว่างวันที่ ๑๕-๒๕
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๙
“สาธารณรฐั สิงคโปร์”
เสด็จพระราชดาเนินโดยเครื่องบินพระท่นี ่งั จากกรงุ เทพ ฯ ไปยัง
สาธารณรัฐสิงคโปร์ เสด็จ ฯ ไปทรงพบประธานาธิบดีอองเต็งชองและภรยิ า
จากน้นั เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรสวนสตั ว์ไนท์ ซาฟารี (Night Safari) โลก
ใตท้ ะเล (Underwater World) เสดจ็ ฯ ไปยงั สานกั งานคณะกรรมการ
สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วสงิ คโปร์ โรงเรยี นมัธยมจนี ทอดพระเนตรการเรยี นการ
สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ต่อจากน้นั เสด็จ ฯ ไปยังโรงแรมแรฟเฟลิ ส์ ทรงฟงั การ
บรรยายเก่ียวกับกิจการของมูลนธิ สิ งิ คโปร์ (Singapore International
Foundation) แล้วเสด็จ ฯ ไปยงั สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา อยู่ท่ี
Heng Mui Keng Terrace ภายในมหาวิทยาลยั แห่งชาตสิ งิ คโปร์ เป็นแหลง่
ศึกษาวจิ ยั ของนักวิชาการท่ศี กึ ษาเกย่ี วกับเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้สมยั ใหม่
ทางดา้ นยุทธศาสตร์ ความม่นั คง และเศรษฐกจิ
เสด็จ ฯ ไปยังสวนพฤกษศาสตรส์ งิ คโปร์ (Singapore Botanic
Gardens) มีลักษณะผสมผสานระหวา่ งปา่ ดงดิบกับสวนตกแตง่ เป็นท่รี วบรวม
เพาะเล้ียง และวิจยั พันธ์พุ ืชตา่ ง ๆ อาทิ สมนุ ไพร ไม้พันธ์ุพ้ืนเมือง และพันธไุ์ ม้หา
ยากตา่ ง ๆ รวมทง้ั พืชเขตรอ้ นท่ีเป็นประโยชนเ์ ชิงการคา้ เป็นท่ีตั้งสวนกล้วยไม้ที่
ใหญท่ ส่ี ดุ แหง่ หน่งึ ของโลก เสดจ็ ฯ ไปทรงพบนายกรฐั มนตรีโกจก๊ ตง และ
รัฐมนตรอี าวโุ สลกี วนยู ณ Istana Office Wing
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสงิ แกว้
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จังหวดั นครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ จิ การิณพี ีรยพัฒน
รฐั สมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
มนตร์ กั ทะเลใต้ (ต่อ)
“ปาปัวนิวกนิ ี”
ที่มาของความสนพระทยั ในประเทศปาปัวนวิ กินี ไดท้ รงเลา่ พระราชทานไว้ใน
พระราชนิพนธ์ ความตอนหน่ึงว่า
“...เหตทุ อี่ ยากไปปาปัวนิวกินีเพราะว่าข้าพเจ้าสนใจศกึ ษาเรอื่ งเอเชยี ตะวันออก
เฉียงใต้ เมอื่ ดแู ผนทขี่ องประเทศตา่ ง ๆ ในภูมภิ าคแลว้ ประเทศอนิ โดนเี ซยี มเี กาะ
นิวกินตี ะวันตกเป็นของอินโดนเี ซยี เรียกวา่ อิเรยี นจายา สว่ นดา้ นตะวันออกเป็นประเทศ
อสิ ระเรียกวา่ ปาปัวนิวกนิ ี ข้าพเจา้ สงสัยว่าเหตุใดอยู่บนเกาะเดยี วกนั เช่นนปี้ าปัวนิวกนิ ี
จึงไมอ่ ยู่ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ไดร้ บั คาตอบว่าเขาถอื ว่าเป็นประเทศ
แปซฟิ กิ มีความใกลช้ ดิ กับออสเตรเลยี มากกวา่ ยังมีเรอื่ งทนี่ า่ สนใจเกยี่ วกบั ดินแดนนี้
หลายอยา่ ง ข้าพเจา้ ได้ยนิ ว่าแต่ครงั้ โบราณมสี ัตว์ซงึ่ มีกระเปา๋ ทหี่ น้าท้องซงึ่ เรยี กว่า
marsupial หลายชนิดในโลก เรียกว่า mammal มอี ะไรกม็ ี marsupial ดว้ ย ตอ่ มา
marsupial สูญพันธ์ไุ ปเกอื บหมด เหลอื แตบ่ างชนดิ อยทู่ อี่ อสเตรเลยี และบางชนิดอยู่
ทีเ่ กาะนิวกนิ ีเท่านนั้ นก bird of paradise ทหี่ ายากกอ็ ยทู่ ปี่ าปัวนิวกินี ขา้ พเจา้ ไดเ้ ห็น
เอกสารเรอื่ งธารน้าแข็งในอิเรียนจายา เป็นธารน้าแขง็ ถาวรแหง่ เดยี วในเอเชยี
ตะวันออกเฉียงใต้ ขา้ พเจา้ อยากเหน็ มาก แต่ว่าขณะนมี้ ปี ัญหาไม่สะดวกทจี่ ะไปอิเรียน
จายา เวลากไ็ ม่พอ ขา้ พเจ้าพยายามไปค้นคว้าดูว่าธารน้าแขง็ แบบนใี้ นปาปัวนิวกินมี ไี หม
ก็ไมป่ รากฏวา่ มี มแี ตร่ อ่ งรอยธารน้าแข็งโบราณ จะดูอะไรจรงิ จัง เช่นไปสารวจปา่ ก็
ต้องมเี วลานานกวา่ นี้ สรปุ แล้วเดนิ ทางคราวนเี้ ป็นแค่ “หนงั ตวั อย่าง” หรือ “สปอต
โฆษณา” เท่านัน้ คงไมไ่ ด้ขอ้ มูลจริงจงั มาเล่าสูก่ นั ฟงั ...”
เสด็จพระราชดาเนินถึงท่าอากาศยานแจ๊กสัน กรุงพอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัว
นวิ กินี เสดจ็ ฯ ไปยงั โรงแรมทปี่ ระทับ Travelodge Port Moresby ทรงฟงั การ
บรรยายเรอื่ งธรณวี ทิ ยาของประเทศปาปัวนิวกินี โดยอาจารย์จากภาควชิ าธรณีวทิ ยา
มหาวิทยาลยั ปาปัวนวิ กนิ ี เขตทเี่ ป็นประเทศปาปัวนวิ กนิ ีนเี้ ป็นเขตทมี่ กั เกิดแผ่นดินไหว
บ่อย ๆ มีภูเขาไฟหลายลกู plates ของเปลือกโลก โดยปกตจิ ะเคลอื่ นทรี่ าวปีละไม่
ถึง ๑ เซนติเมตร แต่ plates ทปี่ าปัวนวิ กนิ เี คลอื่ นทเี่ ร็วมาก บางปีเกิน ๑๑
เซนตเิ มตร แผน่ ดนิ ปาปัวนวิ กนิ เี กิดจาก Australian Plate กับ Pacific Plate
มาชนกนั
จัดทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวดั นครพนม
หนงั สือพระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ ิจการณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
มนต์รกั ทะเลใต้ (ต่อ)
เสดจ็ ฯ ไปทรงพบ Sir Wiwa Korowi ผสู้ าเรจ็ ราชการแทนพระองคส์ มเด็จ
พระบรมราชินนี าถแห่งสหราชอาณาจกั ร และ Lady Nancy Korowi ณ ทาเนียบ
ผู้สาเรจ็ ราชการ ฯ ทรงพบ Sir Julius Chan นายกรฐั มนตรี ณ รัฐสภาแห่งชาติ
เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ ทจี่ ัดแสดงนทิ รรศการเกยี่ วกับ
ภูมิศาสตร์ ธรณวี ทิ ยา วฒั นธรรมและประวตั ศิ าสตรข์ องปาปัวนวิ กนิ ี และเป็นแหลง่
รวบรวมศิลปวัตถุและวัฒนธรรมพื้นบ้าน
เสดจ็ ฯ ไปยงั สวนพฤกษศาสตร์ (National Capital Botanical Gardens)
เป็นทรี่ วบรวมพืชพันธ์ไุ ม้และสตั วต์ ่าง ๆ ทหี่ ายาก บางชนิดมีเฉพาะในปาปัวนิวกนิ ี เชน่
นก bird of paradise นกแกว้ ชนิดตา่ ง ๆ นกคาสโซวารี ทรงพระดาเนนิ สู่
“forest walk” ในปา่ สน ทอดพระเนตรพรรณไม้ต่าง ๆ สวนปา่ ทปี่ ลูกใหม่และมีการ
ขยายพันธุไ์ มป้ า่ หายากและมีประโยชนท์ างเศรษฐกจิ เพื่อให้เป็นอาชีพของชาวบา้ น และ
เพื่อการอนรุ ักษ์ เชน่ ไม้ประดู่ ไมห้ อม kwila ซงึ่ เป็นไม้เนอื้ แขง็ ใช้ในการสรา้ งบา้ น
green ebony เนอื้ ไมส้ ีน้าตาล เป็นต้น ทอดพระเนตร "Wedding Garden” เป็น
สวนทีม่ ตี ้นไม้ใหญ่ทีป่ ลกู ไวต้ ัง้ แต่สมัยกอ่ น บริเวณสนามหญา้ ใหค้ นมาทาพิธีแตง่ งาน
ได้ ทอดพระเนตรสวนกลว้ ยไม้ (Orchid Collection) มีกลว้ ยไม้ประมาณ ๔,๐๐๐
ชนดิ เรือนเพาะชากล้วยไม้ ทีร่ วบรวมกลว้ ยไม้จากทัว่ โลก ทงั้ ของพื้นเมืองและจากที่
อนื่ ทงั้ พันธุ์แท้และพันธ์ผุ สม (hybrid) เป็นแปลงกลว้ ยไม้และสวนกลว้ ยไม้ทใี่ หญ่
ทสี่ ดุ ในซกี โลกใต้
เสด็จ ฯ ไปยงั หมู่บา้ นบาราเกา เป็นหมบู่ ้านหนงึ่ ใน ๑๐๙ หมู่บา้ น ทรี่ วมประชาชน
ถึง ๑๕๐,๐๐๐ คน รวมเรยี กว่า Central Provinces หมูบ่ ้านเหลา่ นแี้ บง่ เป็น ๒๙
เผ่า ปกครองดว้ ยระบอบประชาธปิ ไตย ทอดพระเนตรความเป็นอยู่และประเพณี
พื้นเมืองของชาวบ้าน เช่น วธิ ีการปรงุ อาหารแบบพื้นเมืองทเี่ รียกว่า มู มู โดยการขุด
หลุม ใสห่ นิ เผา สุมไฟ เอากลว้ ย มัน เผือก หมู สมุ รวมกนั คลมุ ด้วยใบตอง การห่อ
เครือกล้วย การขดุ มนั การแสดงศาลประจาหมู่บา้ น การเต้นราเผา่ ทรงเต้นรากบั ผนู้ า
หมู่บา้ น และทรงฟงั เพลงทีค่ นรอ้ งแตง่ ถวายใหเ้ ป็นพิเศษ จากนัน้ เสด็จ ฯ ไปทรง
ร่วมงานเลีย้ งพระกระยาหารค่า ผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ ฯ จัดถวาย ณ รัฐสภา
แห่งชาติ
จดั ทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสงิ แกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนงั สอื พระราชนพิ นธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สริ ิกิจการณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
มนตร์ กั ทะเลใต้ (ต่อ)
ประทบั เครอื่ งบินพระทนี่ งั่ สายการบิน Air Niugini เสดจ็ ฯ ไปยังเมือง
Madang เสด็จ ฯ ไปยังสถาบนั วิจยั คริสเต็นเซน (Christensen Research
Institute) เป็นสถาบนั วจิ ยั ทางชีววิทยาทัง้ ทางบกและทางทะเล ตงั้ อยบู่ นแหลม
เหนอื เมือง Madang บริเวณฝ่ งั ทะเลมอี ่าว (lagoon) มเี กาะซงึ่ ส่วนมากเป็นเกาะ
ภูเขาไฟและเกาะปะการัง แนวปะการังเหลา่ นเี้ ป็นทอี่ ย่ขู องสัตวท์ ะเลมากชนดิ กวา่ ทุก
แห่งในโลก มีโครงการศกึ ษาต่าง ๆ อาทิ โครงการ parataxonomists การศกึ ษา
เรอื่ งธรรมชาตทิ เี่ ปิดโอกาสใหช้ าวบา้ นมีสว่ นรว่ มดว้ ย เพื่อใหเ้ กิดความรักความผกู พัน
ในแผน่ ดนิ ของตนเอง โครงการเกบ็ ตวั อย่างผเี สอื้ Moth โครงการศึกษาตน้ มะเดอื่
และแมลงทกี่ นิ ใบหรอื ผลมะเดอื่ โครงการเลยี้ งปลาเพื่อชว่ ยชาวบา้ นให้ไดโ้ ปรตีน
ประทับเครอื่ งบินพระทีน่ ัง่ ต่อไปยังเมือง Goroka อยทู่ ี่ Eastern Highlands
Province เป็นเขตทมี่ ภี ูมปิ ระเทศเข้าถึงไดย้ าก เป็นทอี่ ยู่ของกลุม่ ชาตพิ ันธุ์ตา่ ง ๆ
๔๐ กลุ่ม มีภาษาพูดถึง ๖๐ ภาษา หนงึ่ ในกลุม่ ชาตพิ ันธ์ทุ มี่ ารบั เสด็จ ฯ คอื
mudman ทาตวั ดว้ ยโคลนดนิ เหนียว ใชด้ นิ เหนยี วป้ ันเป็นหน้ากากคลา้ ยหัวโขนสวม
ศรี ษะ เลา่ กนั วา่ แต่กอ่ นกลุม่ ชาตพิ ันธ์ุนรี้ บแพ้กลมุ่ อนื่ จงึ ตอ้ งบุกตอบโตแ้ ละเอาโคลน
ทาเพื่อให้ดนู า่ กลัว จากนัน้ เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรตลาดชาวบ้าน และ National
Day Park มกี ลุ่มชาติพันธม์ุ าเฝา้ ฯ รับเสด็จ ฯ จานวนมาก อาทิ Firigano เป็น
ผ้เู ชีย่ วชาญการยิงธนู Windoka ต้อนรบั โดยใช้ใบตองโบกพัดใหเ้ ยน็ เสดจ็ ฯ ทรง
เยีย่ มกลุ่มชาตพิ ันธุ์ตา่ ง ๆ จากนนั้ เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑเ์ จ เค แมค
คาร์ธี (JK McCarthy Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ใหญ่เป็นทสี่ องรองจากพิพิธภณั ฑท์ ี่
พอร์ตมอรส์ บี มกี ารจดั แสดงสิง่ ของเครอื่ งใช้ทีเ่ ป็นวถิ วี ัฒนธรรมชาวปาปัวนิวกนิ ี
แลว้ เสดจ็ ฯ กลบั เมืองพอร์ตมอรส์ บี ระหว่างทาง เครอื่ งบินพระทนี่ ัง่ ผ่านเข้าเขตภเู ขา
ทศิ ตะวันตกเฉยี งเหนือ มยี อดเขาวลิ เฮลม์ (Mt. Wilhelm) ซงึ่ เป็นภเู ขาทสี่ งู ทสี่ ดุ ใน
เกาะนิวกินี คอื สงู ถึง ๑๔,๗๘๓ ฟุต
“ราชอาณาจักรตองกา”
เสด็จพระราชดาเนนิ โดยเครอื่ งบินพระทีน่ งั่ ไปยังท่าอากาศยาน Fua’amotu
ราชอาณาจักรตองกา ใช้เวลาเดินทาง ๖ ชัว่ โมงเศษ เสดจ็ ฯ ถึงกรุงนูกูอะโลฟา
(Nuku’alofa มีความหมายว่า เป็นทอี่ ยขู่ องความรกั ) เสดจ็ ฯ ไปยงั พระตาหนักที่
ประทบั The Villa มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจกั รตองกา ประทานเลยี้ งพระกระยา
หารค่า ณ เดอะวิลลา (The Villa)
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแกว้
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จังหวดั นครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
มนต์รักทะเลใต้ (ต่อ)
เสดจ็ ฯ ไปทรงพบนายกรฐั มนตรี Baron Vaea of Houma ณ ทาเนยี บ
รัฐบาล เสดจ็ ฯ ไปเฝา้ สมเด็จพระราชาธบิ ดีแห่งตองกา ณ พระราชวงั หลวง
ต่อจากนนั้ เสด็จ ฯ ไปยังสภากาชาดตองกา ณ ศูนย์อาลองกา (Aalonga Centre)
ทรงเฝา้ ฯ สมเด็จพระราชนิ ีแห่งตองกา องค์สภานายิกากาชาดตองกา ทศี่ ูนยช์ ว่ ยคน
พิการของสภากาชาด ทอดพระเนตรการแสดงของเด็กพิการ สมเดจ็ พระราชินี
พระราชทานเลีย้ งพระกระยาหารกลางวนั ณ Queen Salote Memorial Hall และ
ไดท้ อดพระเนตรการแสดงงานหัตถกรรมของกล่มุ สตรี Langafonua มกี ารรอ้ ย
ดอกไมท้ าพวงมาลยั การจักสานก้านมะพรา้ ว การประดิษฐ์ของจากเปลือกหอย
ปะการังสีดา เป็นต้น
เสด็จ ฯ ไปยัง ตองกา เนชนั แนล เซ็นเตอร์ (Tonga National Centre) เป็น
ศูนย์วัฒนธรรมและประวัตศิ าสตรต์ องกา มกี ารแสดงศลิ ปะพื้นเมอื ง เช่น การสลักไม้
กระดูก และปะการังสีดา เสด็จ ฯ ไปยังสถานที ดลอง Experimental Farm ของ
Vaini Research Station ขนึ้ กบั กระทรวงเกษตรและปา่ ไม้ มกี ารสง่ เสรมิ เรอื่ งการ
ปลกู ไรน่ าสวนผสม ปลูกพืชหมุนเวียน การฝึกอบรมเกษตรกรและแม่บา้ นเกษตรกร
ทอดพระเนตรสวนพรกิ ไทย แปลงเผอื ก แปลงกาแฟ การปลูกพืชระหว่างต้นมะพรา้ ว
เสด็จ ฯ หมบู่ ้าน Houma อยูบ่ ริเวณริมทะเล ทอดพระเนตรการแสดงพื้นเมือง
เสดจ็ ฯ ไปทรงรว่ มพิธที างศาสนาทโี่ บสถ์เว็นเทนนารี (Centenary) สมเด็จ
พระราชาธบิ ดแี ละสมเดจ็ พระราชนิ แี ห่งตองกา พระราชทานเลยี้ งพระกระยาหารกลาง
วันทหี่ าดฟฟี โี ฮโลโต (Fee Fee Ho Loto) แล้วเสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรเกาะ
Pangaimotu
“เกาะคุก”
เสด็จพระราชดาเนนิ โดยเครือ่ งบนิ พระทนี่ ัง่ ไปยงั ทา่ อากาศยานโรราตองกา
(Roratonga) เกาะคกุ (Cook Islands) ใชเ้ วลาเดนิ ทาง ๒ ชัว่ โมง ๓๕ นาที ทรง
เลา่ พระราชทานเป็นความรูเ้ กีย่ วกับเกาะคุกว่า
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จงั หวัดนครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สิริกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
มนตร์ ักทะเลใต้ (ตอ่ )
“...หมเู่ กาะคกุ มพี ื้นทรี่ าว ๒๓๖ ตารางกโิ ลเมตร ประกอบด้วยเกาะ ๑๘ เกาะ
แบ่งเป็นกลุม่ เหนือ กลุ่มใต้ เกาะRarotonga ซงึ่ อยู่ในกล่มุ ใต้ เป็นทตี่ งั้ ของเมอื ง
หลวง Avarua ประชากรไม่ถงึ สองหมนื่ คน เป็นโพลินีเซยี นและโพลนิ ีเซียนผสม
ยุโรป พูดภาษาเมารีและภาษาองั กฤษ นบั ถอื ศาสนาครสิ ตเ์ คร่งครดั เป็น Christian
Church, Roman Catholic, Seventh Day Adventist และ Latter Day
Saints ฯลฯ การปกครองเป็นแบบประชาธปิ ไตยแบบรฐั สภา มสี มาชิก ๒๔ คน มี
ขอ้ ตกลง Free Association กับนิวซแี ลนด์ ถอื วา่ สมเดจ็ พระราชินนี าถอลิซาเบธที่
๒ ทรงเป็นประมุข มี Mr. Apenera Short เป็นผ้แู ทนพระองค์ (รฐั บาลเป็นคนเลอื ก
และสมเด็จพระบรมราชนิ ีนาถทรงเหน็ ชอบ) Sir Geoffrey Henry เป็น
นายกรฐั มนตรี มาจากการเลือกตงั้ ของสภา
"หมู่เกาะคกุ ถูกผนวกเป็นของอังกฤษตงั้ แต่ ค.ศ. ๑๙๐๑ องั กฤษมอบให้
นิวซแี ลนด์เป็นผดู้ แู ล ค.ศ. ๑๙๖๕ จงึ ใหป้ กครองตนเอง แตย่ งั ถือวา่ เป็นประชากร
นวิ ซีแลนด์ นอกจากมีรัฐสภาแลว้ ยังมี House of Ariki เป็นตัวแทนเกาะตา่ ง ๆ ๑๕
คนมหี นา้ ทแี่ นะนาในเรอื่ งวัฒนธรรมประเพณี...”
เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์แห่งชาตเิ กาะคุก (The Cook Islands
National Museum) เป็นทเี่ ก็บของโบราณและของพื้นเมือง และเป็นแหล่งให้
การศกึ ษานกั เรยี นและคนทวั่ ๆ ไป แลว้ เสดจ็ ฯ ไปยงั ทา่ เรือของหมู่บ้านวากา (Vaka
Village) ประทับเรือแคนูพระทีน่ งั่ ชอื่ วา่ Vaka Te Au o Tonga ซงึ่ แปลว่า หมอก
ใต้ (The Mist of the South) ทอดพระเนตรทัศนยี ภาพเกาะคกุ และในช่วงเยน็
นายกรัฐมนตรีจดั พระกระยาหารค่าถวาย โดยมีผู้สาเรจ็ ราชการแทนพระองคส์ มเดจ็
พระบรมราชนิ ีนาถรว่ มรบั เสด็จ ฯ
จดั ทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสงิ แก้ว
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จังหวัดนครพนม
หนงั สือพระราชนพิ นธ์
ชดุ เสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สริ ิกิจการณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
มนต์รกั ทะเลใต้ (ต่อ)
“หมเู่ กาะฟจิ ิ”
เสด็จพระราชดาเนินโดยเครอื่ งบินพระทีน่ งั่ ไปยังท่าอากาศยาน Nausori กรุง
ซูวา สาธารณรฐั ฟจิ ิ ใช้เวลาบินราว ๓ ชัว่ โมง ๓๐ นาที เสด็จ ฯ ไปทรงร่วมพิธี
ต้อนรบั แบบพื้นเมืองทอี่ ลั เบิร์ต พาร์ค ทอดพระเนตรการแสดงของนกั รบฟจิ เิ ตน้ ระบา
ทเี่ กยี่ วกับการรบ แล้วเสด็จ ฯ ไปทรงพบประธานาธิบดมี ารา ณ ทาเนียบประธานาธิบดี
ตอ่ จากนัน้ เสดจ็ ฯ ไปยงั ศนู ย์วฒั นธรรมทอี่ า่ วแปซฟิ กิ (Pacific Harbour)
ทอดพระเนตรวัฒนธรรมประเพณีตา่ ง ๆ ของชาวฟจิ ิ และทรงพบนายกรัฐมนตรีราบู
กา ณ ทาเนยี บนายกรัฐมนตรี หลงั จากนัน้ เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑฟ์ จิ ิ
(The Fiji Museum) จดั แสดงประวัตศิ าสตร์ของประเทศสมยั ต่าง ๆ เสด็จ ฯ ไปยัง
สถาบันเทคโนโลยีฟจิ ิ ทอดพระเนตรการศึกษาแผนกตา่ ง ๆ ต่อมา เสด็จ ฯ ไปยงั
มหาวิทยาลยั แปซิฟกิ ใต้ ทกี่ อ่ ตงั้ ขนึ้ เมอื่ ค.ศ. ๑๙๖๘ ประเทศตา่ ง ๆ ในแปซฟิ กิ ใต้ ๑๒
ประเทศเป็นเจา้ ของร่วมกัน มวี ัตถปุ ระสงค์ทจี่ ะเสริมสรา้ งวิชาการและทกั ษะทจี่ าเป็นใน
การพัฒนาประเทศในแถบภมู ภิ าคนใี้ หแ้ ก่ชาวพื้นเมอื ง ทรงฟงั การอภิปรายเรอื่ ง
Islands of Oceania : Today and Tomorrow จากนนั้ เสด็จ ฯ ไปทรงรว่ มงาน
เลีย้ งพระกระยาหารค่า ประธานาธบิ ดีจัดถวาย ณ ทาเนยี บประธานาธิบดี
“หมูเ่ กาะโซโลมอน”
เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรปอ้ มทาวานิ (Tavani) หมู่บ้านโบราณทไี่ ด้รับการ
พัฒนาใหเ้ ป็นแหล่งทอ่ งเทีย่ ว แล้วเสด็จพระราชดาเนนิ โดยเครอื่ งบินพระทีน่ ัง่ ตอ่ ไปยงั
ทา่ อากาศยานเฮนเดอร์สัน กรงุ ฮอเนียรา หมเู่ กาะโซโลมอน ใช้เวลาบินประมาณ ๓
ชัว่ โมง ทรงพบผสู้ าเร็จราชการหมู่เกาะโซโลมอน ณ ทาเนยี บผู้สาเรจ็ ราชการ แลว้
ทรงพบนายกรัฐมนตรี ณ ทาเนยี บนายกรัฐมนตรี จากนัน้ เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตร
พิพิธภัณฑส์ งครามวิลู ซงึ่ เป็นพิพิธภณั ฑ์กลางแจ้ง ทอดพระเนตรเครอื่ งบนิ และอาวุธ
สมัยสงครามโลกครัง้ ที่ ๒ เสดจ็ ฯ ไปยงั หาดโบเนเก้ ทอดพระเนตรซากเรือรบสมัย
สงครามโลกครงั้ ที่ ๒ แล้วเสดจ็ ฯ ไปยังพิพิธภัณฑ์และศูนยว์ ฒั นธรรม (National
Museum and Cultural Centre) ทอดพระเนตรนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมของ
โซโลมอนและการแสดงแบบพื้นเมือง
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสงิ แกว้
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวัดนครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สริ ิกิจการิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
มว่ นซืน่ เมอื งลาว
การเสด็จพระราชดาเนนิ เยอื นสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว
๔ ครง้ั ครั้งแรกเพ่ือทอดพระเนตรเมอื งปากเซ เมอ่ื ๑๑ เมษายน
พ.ศ. ๒๕๓๕ คร้งั ที่ ๒ ทรงประกอบพิธีถวายผา้ พระกฐินทีเ่ วยี งจันทรแ์ ละ
ทอดพระเนตรกิจการและสถานท่ีต่าง ๆ ที่แขวงเชยี งขวาง แขวงหลวงพระบาง
แขวงพงสาลี ระหว่าง ๑๖ ถึง ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ครง้ั ที่ ๓ ตามเสดจ็
สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ในขณะนน้ั ) ไปทรงร่วมพิธี
ฌาปนกจิ ศพทา่ นไกสอน พรมวิหาน อดตี ประธานประเทศ เม่ือ ๒๗ พฤศจกิ ายน
พ.ศ. ๒๕๓๕ และครัง้ ที่ ๔ ระหว่างวนั ท่ี ๙ ถงึ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๖
เพ่ือทรงประกอบพิธถี วายผา้ พระกฐนิ และทอดพระเนตรกจิ การและสถานที่ตา่ ง ๆ
ในแขวงเวียงจันทร์ หลวงพระบาง บอลิคาไซ และคาม่วน
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแกว้
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวดั นครพนม
หนงั สือพระราชนพิ นธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ จิ การิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
มหัศจรรยท์ กุ วัน
การเสดจ็ พระราชดาเนินเยอื นหมูเ่ กาะอันดามนั และนิโคบาร์ของประเทศ
อนิ เดยี ระหว่างวันท่ี ๑๙ ถึง ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๓๙ โดยเรอื หลวงสิมลิ นั จาก
ทา่ เรือจงั หวดั ภูเก็ตไปยงั หมเู่ กาะอันดามนั และนิโคบาร์ ประเทศอินเดยี
เสด็จพระราชดาเนินไปทอดเพระเนตรสถานท่ีตา่ ง ๆ อาทิ อนุสรณส์ ถานแหง่ ชาติ
Cellular Jail, Sippighat Farm, เกาะRoss, Mayabunder, เกาะอันดามัน
เหนอื , ปา่ ชายเลนตามเกาะตา่ ง ๆ, พิพิธภัณฑ์Samudrika, พิพิธภณั ฑ์
มานษุ ยวทิ ยา, เกาะ Great Nicobar, Indira Point ซึ่งเป็นจุดใต้สุดของเกาะ
อันดามันและนิโคบาร์ ฯลฯ ทา้ ยเล่มมีภาคผนวก คาอธิบายเกยี่ วกบั หมูเ่ กาะอนั ดา
มนั และนโิ คบาร์จากพิพิธภณั ฑ์Samudrika เมือง Port Blair
จดั ทาโดย ห้องสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชดุ เสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สิริกิจการณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
มุ่งไกลในรอยทราย
การเสด็จพระราชดาเนินเยอื นสาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนจนี อยา่ ง
เป็นทางการ ครง้ั ท่ี ๒ ตามเส้นทางสายแพรไหมหรือทางภาคตะวนั ตกของจนี
ระหว่างวนั ที่ ๗ ถงึ ๒๑ เมษายน ๒๕๓๓ เส้นทางสายแพรไหม (Silk Road)
เป็นเส้นทางการคา้ ระหวา่ งประเทศยคุ กอ่ นซึ่งดาเนนิ การโดยกองคาราวานตดิ ต่อ
การค้าระหวา่ งจีนกบั แคว้นต่าง ๆ ในเอเชยี และยโุ รป รวมทงั้ แลกเปลย่ี น
วัฒนธรรมทน่ี ่าสนใจตอ่ การศึกษา คน้ ควา้ และการทอ่ งเท่ียว มภี าพประกอบสีส่ ี
สวยงาม ภาพวาดฝพี ระหัตถ์ และภาพการ์ตูนทาให้หนงั สือนา่ อา่ นยงิ่ ข้ึน
จดั ทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแก้ว
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จังหวดั นครพนม
หนงั สอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สริ ิกิจการณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
เมือ่ ขา้ พเจา้ เป็นนกั เรียนนอก
การเสด็จพระราชดาเนนิ ทรงศกึ ษาภาษาจีน ณ มหาวทิ ยาลัยปักกิ่ง
กรุงปักกงิ่ ประเทศสาธารณ รัฐประชาชนจีน ระหวา่ งวันท่ี ๑๔ กุมภาพันธ์ ถงึ
๑๕ มนี าคม ๒๕๔๔ ในคานาทรงเลา่ ถงึ การเสด็จพระราชดาเนินไปทรงศึกษาใน
ครงั้ น้ีว่า “ข้าพเจา้ เรยี นภาษาจีนมา 20 ปีแลว้ แต่ความรูย้ งั ไม่ก้าวหน้าเท่าทีค่ วร
ท้ัง ๆ ที่สถานทูตจนี จัดครู มาสอนเป็นประจา จึงเกดิ ความคดิ วา่ ถ้าขา้ พเจา้ ได้มา
อยใู่ นแวดวงคนจนี เรียนภาษาจีนอย่างเดียวไม่ตอ้ งทางานอื่นสกั พักหนึ่งนา่ จะดี
ข้นึ ปัญหาอยทู่ ี่ว่าระยะหลัง ๆ นีก้ ารงานที่เมอื งไทยค่อนข้างมาก จะปลกี ตวั มาได้
นานสักเทา่ ไร เมื่อ 3 ปีกอ่ นเคยไปสหรัฐอเมรกิ าเดือนหน่ึง จึงคิดว่าน่าจะอยู่จนี
ได้เหมอื นกัน ไดไ้ ปลองปรึกษากับใคร ๆ ที่เมืองจนี ท้ังทางมหาวิทยาลยั และ
คนอ่ืน ทุกคนต่างเห็นดีดว้ ย...”
จัดทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแกว้
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จงั หวัดนครพนม
หนงั สอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปตา่ งประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกจิ การิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ยามลมหนาว
ยามลมหนาว พระราชนพิ นธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช
กุมารี ทเ่ี สด็จพระราชดาเนนิ เยอื นประเทศโปแลนด์ ตามคากราบบงั คมทลู เชิญ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ของนายเลกวาเวนซา ประธานาธิบดีสมยั นั้น
และสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ ฯ แทนพระองค์
ในโอกาสตอ่ มา รวมถึงเสดจ็ ฯ ไป เชก็ อติ าลี สโลวัก และฝร่งั เศส ระหว่าง
๑๓ – ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๙
ทรงเล่าพระราชทานวา่ "...พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รับสั่งถามขา้ พเจ้าวา่
อยากไปโปแลนด์ไหม ประธานาธบิ ดีโปแลนด์ขณะน้นั คอื นายเลกวาเวนซา กราบ
บงั คมทูลเชิญเสด็จฯ เยือนโปแลนด์ ถา้ ไมส่ ามารถเสด็จฯ ด้วยพระองค์เองได้
ก็ขอใหส้ ง่ ผูแ้ ทนพระองค์
ข้าพเจา้ กราบบังคมทูลว่า ขอพระราชทานสนองพระเดชพระคณุ ในงานนี้
เนอื่ งจากสนใจประเทศโปแลนด์ ....“ ยามลมหนาวมี ๒ เล่มบรรจอุ ยใู่ นกลอ่ งสวยงาม
และแข็งแรงมาก เล่ม ๑ เป็นเรอื่ งของโปแลนด์ เลม่ ๒ ทรงเลา่ พระราชทานวา่
"สาธารณรัฐเช็ก
จดั ทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวัดนครพนม
หนงั สือพระราชนพิ นธ์
ชุดเสดจ็ เยอื นไปต่างประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สริ ิกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ย่าแดนมงั กร
การเสด็จพระราชดาเนนิ เยอื นสาธารณรฐั ประชาชนจีน อยา่ งเป็น
ทางการครงั้ แรก ระหว่างวันที่ 12 ถงึ 19 พฤษภาคม 2524
ตามคากราบบงั คมทูลเชญิ ของนายกรัฐมนตรีจ้าวจอ่ื หยาง ทรงเสด็จพระราช
ดาเนินทอดพระเนตรกิจการต่าง ๆ และทรงมีพระราชดารวิ า่
สิง่ ทไี่ ด้ทอดพระเนตรนั้น ถ้าได้ถา่ ยทอดให้ชาวไทยได้รับรู้จะเป็นประโยชนอ์ ย่างยง่ิ
ต่อการพัฒนาประเทศ จงึ ไดท้ รงพระวิรยิ ะอตุ สาหะ บนั ทกึ การเสดจ็ พระราชดาเนนิ
คร้ังน้ี ท้ายเลม่ มหี มายกาหนดการโดยละเอยี ด พระราชดารัส ๓ องค์คดั สาเนา
พร้อมดว้ ยสุนทรพจน์ ฯพณฯ จา้ วจือ่ หยาง, ฯพณฯ หยหู่ มิงเทา,
ฯพณฯ หลิวหมงิ ฮยุ ตพี ิมพ์ในหนงั สือ
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสงิ แก้ว
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จังหวดั นครพนม
หนงั สอื พระราชนพิ นธ์
ชุดเสด็จเยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สิริกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
เยน็ สบายชายน้า
การเสดจ็ พระราชดาเนินเยอื นสาธารณรัฐประชาชนจนี ระหว่างวนั ท่ี
14 ถึง 27 สิงหาคม 2539 เริ่มจากคุณหมิง ถึงฉงชิ่ง แล้วประทับเรือ
พระทนี่ ง่ั ลอ่ งไปตามแม่น้าแยงซที อดพระเนตรโครงการสรา้ งเขอ่ื น
ทใ่ี หญ่ท่ีสุดในโลก และทรงเยือนสถานท่ีสาคัญตา่ ง ๆ อาทิ ศูนยแ์ สดง
สนิ คา้ นานาชาตนิ ครคนุ หมงิ สะพานข้ามแม่น้าแงเจียง นครฉงช่ิง
พิพิธภัณฑศ์ ลิ ปะถ้าอนสุ รณส์ ถาน หม่บู ้านจิตรกร สวนเอ๋อหลงิ่ หยวน
โครงการเขือ่ นซานเสีย ชมพิพิธภัณฑ์ปักธงสามสีหอนกกระเรยี นเหลอื ง
พิพิธภณั ฑแ์ หง่ ชาติหูเปย่ มหาวิทยาลยั ภาษาและวัฒนธรรมปักก่งิ มหานคร
เซีย่ งไฮพ้ ิพิธภัณฑ์หลซู่ นุ ฯลฯ
จัดทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสิงแกว้
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวัดนครพนม
หนงั สอื พระราชนพิ นธ์
ชุดเสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สริ ิกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
เยือนถนิ่ อินเดยี นแดง
การเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนประเทศสหรัฐอเมรกิ า ระหว่างวนั ท่ี
๖ ถึง ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ ทรงบันทึกการเสดจ็ พระราชดาเนนิ ทอด
พระเนตรกจิ การและสถานทีต่ ่างๆ ในกรงุ วอชิงตัน ดี.ซ.ี มลรัฐตา่ ง ๆ อาทิ แมรี่
แลนด์ เวอรจ์ ิเนีย แมสซาชเู สตส์ แอรโิ ซนา แคลฟิ อรเ์ นีย ฮาวาย เป็นตน้
จากการทท่ี รงพระวิรยิ ะอตุ สาหะรวบรวมสาระและเกร็ดความรดู้ า้ นต่าง ๆ เกย่ี วกบั
ประเทศน้ี ซ่ึงเป็นดินแดนแห่งประวตั ศิ าสตรท์ เี่ ป็นแหล่งรวมสรรพวทิ ยาและ
เทคโนโลยอี นั ทนั สมัยจนได้ชื่อวา่ เป็นประเทศมหาอานาจท่สี าคญั ของโลก
ทรงพระราชนพิ นธ์เรือ่ งราวมากมายไว้ในหนงั สือเล่มน้ีเพื่อสารประโยชนแ์ ละ
ความร้ตู า่ ง ๆ ทน่ี ่าสนใจและทรงคุณคา่
จดั ทาโดย ห้องสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จังหวัดนครพนม
หนงั สือพระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สิริกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
รอยยิม้ หมขี าว
การเสดจ็ พระราชดาเนนิ เยอื นสหพันธรัฐรัสเซีย ระหวา่ ง วันที่
๑๓ ถึง ๒๔ มีนาคม ๒๕๓๖ ตามค าเชิญของรัฐสภารสั เซียในนามของ
สหพันธรฐั รสั เซีย ประเทศนีเ้ คยไดร้ ับสมญานามวา่ เป็น “ดินแดนหลัง
ม่านเหลก็ ” และเป็นประเทศมหาอานาจท่ีสาคัญของโลกประเทศหน่ึง
ทมี่ พี ื้นทก่ี วา้ งใหญไ่ พศาลครอบคลุมดินแดนท้ังด้านตะวนั ตกและ
ตะวนั ออกของโลก จึงทาให้สหพันธรฐั รัสเซยี กลายเป็นศูนย์รวมของ
วัฒนธรรมทง้ั ของตะวันตกและตะวันออกทเี่ ต็มไปดว้ ยความหลากหลาย
ทางด้านศลิ ปวัฒนธรรม
จัดทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวัดนครพนม
หนังสอื พระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สริ ิกิจการิณพี ีรยพัฒน
รฐั สมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
โรมันสัญจร
การเสด็จพระราชดาเนินเยอื นประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 3 ถงึ 16
เมษายน พ.ศ. 2531 ทรงร่วมเป็นคณะกรรมการหนังสือสาหรบั เยาวชน
ระหวา่ งประเทศหรอื IBBY ณ ประเทศอติ าลี เพ่ือคัดเลอื กผทู้ ี่สมควร
ไดร้ บั รางวลั ฮนั ส์ ครสิ เตียน แอนเดอรส์ นั ซง่ึ เป็นรางวลั ระดบั นานาชาติ
สาหรบั ผู้แต่งและผูเ้ ขยี นภาพประกอบหนังสือสาหรบั เด็กและเยาวชน
ยอดเยีย่ ม นอกจากทรงเขา้ รว่ มการประชมุ ตัดสินหนังสอื เด็กของ IBBY
ไดเ้ สดจ็ พระราชดาเนนิ ไปในเมอื งตา่ ง ๆ เช่น โบโลญญา เวนสิ ปีซ่า
ฟลอเรนซ์ เนเปิล เป็นตน้ และเสด็จพระราชดาเนนิ ไปเฝา้ พระสนั ตะปาปา
ที่นครวาติกัน
จัดทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสงิ แก้ว
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมือง จังหวัดนครพนม
หนงั สอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สริ กิ จิ การิณพี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ลัดฟา้ ลา่ วิชาหาอาจารย์
การเสด็จพระราชดาเนนิ เยือนประเทศองั กฤษ ฝรั่งเศส เบลเยย่ี ม
และสวติ เซอรแ์ ลนด์ ระหว่าง ๘ ถึง ๓๐ มกราคม ๒๕๓๔ เนอ้ื หากล่าวถึง
การเดนิ ทางไปทรงศกึ ษาประวตั ิศาสตรห์ ลักสตู รส้นั ๆ ไดเ้ สดจ็ พระราช
ดาเนินไปยังสถานท่ีต่าง ๆ อาทริ ้านหนังสือ พิพิธภัณฑ์สถาบันการศกึ ษา
ห้องสมุดทจ่ี ดั เกบ็ หนงั สือเกา่ ห้องสมดุ วิทยาศาสตร์ แหล่งประวัติศาสตร์
และโบราณคดี ฯลฯ
จดั ทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสิงแกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวัดนครพนม
หนังสอื พระราชนพิ นธ์
ชดุ เสดจ็ เยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สิริกิจการณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ลาวใกลบ้ า้ น
ทรงพระราชนิพนธไ์ ว้เมอื่ คร้ังเสด็จ ฯ เยือนสาธารณรัฐประชาธปิ ไตย
ประชาชนลาว ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ ตุลาคม ถงึ ๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๗ สถานที่
แห่งแรกทเี่ สดจ็ ทอดพระเนตรคอื หอสมุดแหง่ ชาติ ซง่ึ ทีน่ ม่ี ีการเกบ็ รวบรวม
เอกสารใบลานและหนงั สอื หายากเอาไวไ้ ด้อยา่ งมากมาย ทเ่ี ป็นเชน่ นเ้ี พราะ
เจา้ เพดชะราดทา่ นรวบรวมไวต้ ้งั แตป่ ี ค.ศ. ๑๙๕๗ จากนัน้ กม็ อบใหห้ อสมุด
ทาต่อ และก็มหี น่วยงานตา่ ง ๆ เขา้ ไปช่วยเหลอื นอกจากนี้กย็ งั ทรงเลา่ ถงึ
การเสด็จไปยังเมืองตา่ ง ๆ ทาใหไ้ ดร้ บั ความรู้เกย่ี วกบั ประเทศลาว
ตลอดจนความบนั เทงิ อกี ดว้ ย
จัดทาโดย ห้องสมดุ แสงสงิ แกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จังหวดั นครพนม
หนงั สอื พระราชนิพนธ์
ชุดเสดจ็ เยอื นไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิรกิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ลาวตอนใต้
พระราชนิพนธล์ าดับที่ ๓๖ บนั ทึกเรื่องราวและความรู้ท่นี า่ สนใจ
เมอ่ื ครั้งเสด็จพระราชดาเนินเยอื นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ระหว่างวันท่ี ๘-๑๑ เมษายน พุทธศกั ราช ๒๕๓๙ ในการนี้ เสดจ็ ฯ ไป
ทอดพระเนตรกิจการและสถานทีต่ ่างๆในกาแพงนครเวยี งจนั ทน์ เมอื งไซ
เสตถา แขวงอัตตะปือ เมืองดกั จึง แขวงเซกอง เมืองปากเซ แขวงจาปาสกั
จัดทาโดย หอ้ งสมดุ แสงสงิ แกว้
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวดั นครพนม
หนงั สือพระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สิริกจิ การณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
ลาวเหนือเมอื่ ปลายหนาว
พระราชนพิ นธล์ าดับที่ ๔๐ บันทึกการเสด็จพระราชดาเนินเยือนสาธารณรัฐ
ประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหวา่ งวนั ที่ ๒๑-๒๔ มกราคม พุทธศกั ราช ๒๕๔๐ ในการ
นี้ เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรโครงการตามพระราชดาริ สถานศกึ ษาและสถานทสี่ าคัญต่าง
ๆ ในกาแพงนครเวยี งจันทน์ เมืองหลา้ แขวงอุดมไซ และแขวงหลวงน้าทา ดงั นี้
ในกาแพงนครเวยี งจนั ทน์ เสด็จ ฯ ไปยงั ศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วย
ซอน-ห้วยซวั้ ตามพระราชดาริฯ โครงการสร้างอ่างเก็บน้าห้วยซอน-ห้วยซัว้ โรงเรียน
วฒั นธรรมเด็กกาพร้าหลัก ๖๗ ซงึ่ เป็นโครงการความร่วมมอื และความสัมพันธ์ระหวา่ ง
คนสองฝ่ งั โขง
ในแขวงอดุ มไซ เสด็จ ฯ ไปยงั พระธาตุหลกั เมือง วดั แซกคา เสดจ็ ฯ ไป
ทอดพระเนตรชาวบ้านผลติ เกลือสินเธาว์ บอ่ น้ารอ้ นธรรมชาติ จากนนั้ เสดจ็ ฯ ไปยัง
โรงเรียนอุดมของแขวงอุดมไซ โรงเรยี นมัธยมตอนต้นพูไซ และโรงเรยี นประถมสมบูรณ์
บ้านก่อเดอื่ โรงพยาบาลประจาแขวงอดุ มไซ
และในแขวงหลวงน้าทา เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรด่านบ่อเตน็ -บ่อหาน ซงึ่ เป็นด่าน
สากลเขตแดนจีน-ลาว วัดหลวงเชียงไจ ซงึ่ เป็นวดั ไทลอื้ พิพิธภณั ฑเ์ รือนพระยาเซกอง
นอกจากนี้ เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรตลาดเชา้ โรงเรยี นประถมสมบนู อุดมสิน-โพนไซ
และโรงพยาบาลหลวงน้าทา ซงึ่ ไดร้ บั ความช่วยเหลือจากแขวงเดียนเบียนฟู ประเทศ
เวียดนาม
จัดทาโดย ห้องสมุดแสงสงิ แกว้
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนงั สอื พระราชนิพนธ์
ชดุ เสดจ็ เยือนไปต่างประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สิริกิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
ลยุ ปา่ ฝา่ ฝน
การเสดจ็ พระราชดาเนนิ เยือนกรงุ กวั ลาลัมเปอร์ และรฐั ซาราวกั
ประเทศมาเลเซยี ระหวา่ งวันท่ี ๑๑ ถงึ ๑๕ เมษายน ๒๕๓๗ ทรงเข้าเฝา้
สมเด็จพระราชาธบิ ดี และพระราชินีแห่งมาเลเซยี และทรงพบผู้นา
รฐั บาลมาเลเซีย และเสดจ็ พระราชดาเนินไปยังเมอื งคชู งิ และเมอื งมิริ
ในรัฐซาราวัก เพ่ือทอดพระเนตรและทรงทัศนศึกษาสถานที่สาคญั ทาง
ธรรมชาติและพฤกษศาสตร์ เชน่ สวนเกษตรทีใ่ หญ่ที่สดุ พิพิธภัณฑ์
ของปา่ ไม้ ชนดิ ของปา่ ไม้ เช่น ปา่ ชายเลน ปา่ พรุ ปา่ หินปูน ปา่ ดิบเขา
ปา่ ไมย้ าง ปา่ ริมแม่น้ า ฯลฯ ถา้ หินงอกหินยอ้ ย เป็นตน้
จดั ทาโดย ห้องสมุดแสงสิงแกว้
โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนังสือพระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยือนไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา
เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สริ กิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
เล่าเรือ่ งเมอื งฝรัง่
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเล่าถึง
การเสดจ็ พระราชดาเนินเยอื นสาธารณรฐั ฝร่ังเศสคร้ังแรก ระหวา่ ง
พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๒๓ ตามคากราบบังคมทูลอันเชญิ ของ
รฐั บาลฝรง่ั เศส เสด็จพระราชดาเนนิ พรอ้ มด้วยสมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟา้ จฬุ าภรณวลัยลักษณ์ อคั รราชกุมารไี ด้ทอดพระเนตรสถานที่
สาคัญต่าง ๆ อาทิ โมบลิ ิเย นาซิอองนาล สภากาชาดของฝรงั่ เศส
พิพิธภณั ฑ์ลูฟวร์ ซองตร์ ซีอองตฟิ กิ โรงงานผลติ รถยนต์เรอโนลต์
และพระราชวังแวร์ซายส์ ฯลฯ
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแกว้
โรงเรียนนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวดั นครพนม
หนังสือพระราชนิพนธ์
ชุดเสด็จเยอื นไปต่างประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สิรกิ ิจการณิ พี ีรยพัฒน
รฐั สมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
สวนสมทุ ร
การเสดจ็ พระราชดาเนนิ เยอื นประเทศฝร่งั เศส ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘
มถิ นุ ายน ถงึ ๔ กรกฎาคม ๒๕๓๘ ครั้งนพ้ี ระองคไ์ ดเ้ สดจ็ พระราชดาเนิน
ไปยังสถานทีท่ ย่ี งั ไมเ่ คยทอดพระเนตร เชน่ ศูนยอ์ นรุ กั ษ์พรรณพืช
แห่งชาติปอร์เกอรอลส์ พิพิธภัณฑ์ประวัตศิ าสตรธ์ รรมชาติ สานกั กาชาด
ฝรั่งเศส เป็นตน้ ทรงเยือนเขตอุตสาหกรรม เขตธรุ กจิ และแหล่งทอ่ งเทยี่ ว
ในเมอื งอองเฟลอร์ เมืองกองในแควน้ นอรม์ งั ดที ่ีมคี วามสาคญั ทาง
ประวัตศิ าสตรศ์ ลิ ปวัฒนธรรม และการเสดจ็ พระราชดาเนนิ เยือน
ประเทศฝร่งั เศสไดเ้ สร็จส้นิ ลงดว้ ยการลอดอโุ มงค์ใตท้ ้องทะเล อนั เป็น
ที่มาของคาวา่ สวนสมทุ ร
จัดทาโดย หอ้ งสมุดแสงสิงแก้ว
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม
หนงั สอื พระราชนพิ นธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจ้าฟา้ มหาจักรสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ ิจการิณพี ีรยพัฒน
รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี
สิงคโปรส์ ัญจร
การเสดจ็ พระราชดาเนินเยอื นสาธารณรฐั สงิ คโปร์ ระหว่างวนั ท่ี
๒๓ ถงึ ๒๘ มถิ ุนายน ๒๕๒๘ ตามคากราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลสิงคโปร์
ทรงเข้ารว่ มประชมุ สภากาชาดและสภาซีกวงเดอื นแดงของกลมุ่ ประเทศ
อาเซยี นในฐานะผแู้ ทนฝา่ ยไทย ทรงบันทกึ การเสด็จพระราชดาเนนิ เยือน
สถานท่สี าคัญต่าง ๆ มีภาพลายเส้นฝพี ระหัตถแ์ ละภาพพรอ้ มคาบรรยายเป็น
ภาษาไทยและภาษาองั กฤษกว่า 300 ภาพ ให้สาระความรูเ้ กี่ยวกับชีวิตความ
เป็นอยู่ ศลิ ปะ ภาวะเศรษฐกจิ และสถานทที่ ี่น่าสนใจ
จัดทาโดย ห้องสมุดแสงสงิ แกว้
โรงเรยี นนครพนมวทิ ยาคม อาเภอเมอื ง จังหวัดนครพนม
หนงั สอื พระราชนิพนธ์
ชดุ เสด็จเยอื นไปตา่ งประเทศ
สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า
เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการณิ พี ีรยพัฒน
รัฐสมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
หวงเหอออู่ ารยธรรม
การเสดจ็ พระราชดาเนินเยอื นสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหวา่ ง
วันท่ี ๗ ถึง ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๓ ไดท้ อดพระเนตรสถานที่ต่าง ๆ อาทิ
ถา้ ทางพุทธศาสนา พิพิธภัณฑ์ขงจ่ือ เรอื นจาโบราณ สสุ านกวนอู
วัดเซา่ หลิน ศาลเจา้ เปาบุ้นจิ้น ปา่ จารึก ฯลฯ ทรงบันทึกเป็นจดหมาย
14 ฉบบั ตามจานวนวนั ของการเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนสาธารณรฐั
ประชาชนจีนในคราวน้ี และเสด็จพระราชดาเนินไปทอดพระเนตร
สถานที่ต่าง ๆ ทีน่ ่าสนใจ ในมณฑลสา่ นซี มณฑลซานตง มณฑลเหอหนาน
ท่ีแมน่ ้าหวงเหอไหลผา่ นและเป็นออู่ ารยธรรมท่ีสาคญั ของจีน
จดั ทาโดย ห้องสมดุ แสงสิงแกว้
โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม อาเภอเมอื ง จงั หวดั นครพนม