The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สมุดบันทึก Practicum 2 นางสาวมัลลิกา เหลยชัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by malika02923, 2022-03-06 00:26:30

สมุดบันทึก Practicum 2 นางสาวมัลลิกา เหลยชัย

สมุดบันทึก Practicum 2 นางสาวมัลลิกา เหลยชัย

978

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละ

เทคโนโลยี

ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ ปฏิกิรยิ าเคมแี ละวัสดุในชีวติ ประจำวัน เรื่อง การเกิดปฏิกิริยาเคมี

ผู้สอน : นางสาวมลั ลกิ า เหลยชัย เวลา 50 นาที (1 คาบ)

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบตั ิ ของสสาร

กับโครงสรา้ งและแรงยดึ เหน่ยี วระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปล่ยี นแปลงสถานะของ สสาร การ

เกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี

2. ตัวชี้วัด

ตวั ช้วี ดั ว 2.3 ม.3/4 อธบิ ายกฎทรงมวล โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์

ตวั ชว้ี ดั ว 2.3 ม.3/5 วเิ คราะหป์ ฏิกริ ิยาดดู ความร้อน และปฏิกิริยา คายความร้อน จากการ

เปล่ียนแปลงพลงั งาน ความร้อนของปฏิกิรยิ า

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. นกั เรยี นสามารถเข้าใจและอธบิ ายกฎทรงมวล โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษได้ (K)

2. นกั เรยี นสามารถอธิบายปฏกิ ริ ยิ าดูดความร้อน และปฏิกิริยาคายความร้อน จากการเปลยี่ นแปลง

พลังงานความร้อนของปฏกิ ิริยาได้ (K)

3. นกั เรยี นมคี วามใฝ่เรียนรู้ (A)

4. นักเรยี นม่งุ ม่นั ในการทำงาน (A)

4. ทกั ษะ/กระบวนการ (P)

- ทักษะการส่ือสาร

- ทกั ษะการคดิ

979

5. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
กฎทรงมวล คือ เมื่อเกิดปฏิกริ ยิ า อะตอมของสารต้งั ต้นจะมีการจดั เรียนตวั ใหม่ไดเ้ ป็นผลติ ภัณฑ์ โดย

ไม่มีอะตอมใดสญู หายหรอื เกิดขึน้ ใหม่ ดงั น้ัน มวลรวมของสารก่อนเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีจะเท่ากบั มวลรวมของสาร
หลงั เกิดปฏิกิริยาเคมี
6. สาระการเรียนรู้

กฎทรงมวล (Law of mass conservation)กฎทรงมวลเป็นกฎทีใ่ ช้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมวลสาร
ก่อนเกิดปฏิกิริยา และมวลสารภายหลังเกิดปฏิกิริยา เมื่อปี ค.ศ. 1774 (พ.ศ. 2317) อองตวน - โลรอง ลาวัวซิ
เยร์ (Antoine - Lourent Lavoisier) นักเคมีชาวฝรั่งเศส ได้ทดลองเผาไหม้สารในหลอดปิด และพบว่ามวลของ
สารกอ่ นการเผาไหมเ้ ทา่ กบั มวลของสารภายหลงั การเผาไหม้ ซงึ่ ตอ่ มาไดน้ ำมาสรุปเปน็ “กฎทรงมวล” ดงั นี้

“ในปฏิกิริยาเคมีใด ๆ มวลของสารทั้งหมดก่อนทำปฏิกิริยา จะเท่ากับมวลของสารทั้งหมดหลังทำ
ปฏกิ ริ ิยา”

มวลของสารก่อนทำปฏิกิริยา หมายถึง มวลของสารทั้งหมดตอนเริ่มต้นของปฏิกิริยา มวลของสาร
เหล่านีอ้ าจจะทำปฏิกิริยาพอดีกัน หรืออาจจะมีสารใดเหลืออยกู่ ็ได้

มวลของสารหลังทำปฏิกิริยา หมายถึง มวลของสารทั้งหมดหลังจากเกิดปฏิกิริยาแล้ว ท้ังมวลของ
ผลติ ภัณฑท์ งั้ หมด และมวลของสารตงั้ ต้นที่ยังเหลอื อยู่

ตัวอย่างเชน่
เมื่อผสมโพแทสเซียมไอโอไดด์ กับ เลด (II) ไนเตรต เข้าด้วยกัน จะพบว่ามีปฏิกิริยาเกิดขึ้น เกิด
ตะกอนของเลด (II) ไอโอไดด์ และอุณหภูมิของระบบเปลี่ยนแปลง เมื่อนำของผสมหลังปฏิกิริยาทั้งหมดไปช่ัง
พบว่ามวลเท่ากับมวลของโพแทสเซียมไอโอไดด์ กับ เลด(II) ไอโอไดด์ ก่อนผสมกัน แสดงว่ามวลของสารทั้งหมด
ก่อนและหลังทำปฏิกิริยาเท่ากัน เป็นไปตามกฎทรงมวล และเนื่องจากไม่มีการถ่ายเทมวล แต่มีการถ่ายเท
พลงั งานระหว่างระบบกบั สิ่งแวดลอ้ ม จงึ จดั ว่าเป็นระบบปิด

ปฏิกริ ิยาดดู ความร้อน ( Endothermic reaction) เปน็ ปฏกิ ริ ยิ าท่ีดดู พลังงานเขา้ ไปสลายพันธะ
มากกว่าทค่ี ายออกมาเพ่ือสร้างพันธะ โดยในปฏิกิรยิ าดูดความร้อนนส้ี ารตัง้ ต้นจะมีพลังงานต่ำกวา่ ผลติ ภณั ฑ์ จึง
ทำใหส้ ง่ิ แวดล้อมเย็นลง อุณหภูมลิ ดลง เม่อื เอามือสัมผัสภาชนะจะร้สู ึกเยน็

1070

2. ปฏกิ ริ ยิ าคายความร้อน ( Exothermic reaction) เป็นปฏิกริ ิยาทด่ี ูดพลังงานเข้าไปสลายพันธะนอ้ ยกว่า
ทีค่ ายออกมาเพ่อื สรา้ งพันธะ โดยในปฏกิ ิริยาคายความร้อนน้สี ารตง้ั ต้นจะมีพลังงานสงู กวา่ ผลติ ภณั ฑ์ จงึ ให้
พลงั งานความร้อนออกมาสสู่ ่งิ แวดลอ้ ม ทำให้อณุ หภมู ิสูงขนึ้ เมอ่ื เอามือสัมผสั ภาชนะจะรู้สกึ รอ้ น

1071

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ใชร้ ปู แบบการจัดการเรียนการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es)
(1 คาบ : 50นาที)

ข้ันที่ 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ ( Engagement) (5 นาที)
1. ครแู ละนักเรียนทบทวนความรู้เดิมเร่ือง การเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี โดยยกตวั อย่างสมการเคมี ดังน้ี
กรดไฮโดรคลอริก + แคลเซียมคารบ์ อเนต แคลเซยี มคลอร์ไรด์ + นำ้ + แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
2. ครูต้ังคำถามนกั เรียนดังนี้
- จากปฏิกริ ยิ าเคมีข้างต้นสารใดเปน็ สารตง้ั ตน้ และสารใดเปน็ ผลติ ภัณฑ์
(แนวคำตอบ กรดไฮโดรคลอริก และ แคลเซยี มคาร์บอเนต เป็นสารต้งั ต้น แคลเซียมคลอรไ์ รด์ ,น้ำ และแก๊ส
คารบ์ อนไดออกไซดเ์ ปน็ สารผลิตภัณฑ์)
- นักเรยี นคิดวา่ มวลรวมของสารกอ่ นเกิดปฏิกิริยาเคมจี ะเท่ากับมวลรวมของสารหลังเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมหี รือไม่
(แนวคำตอบ มวลรวมของสารกอ่ นเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมจี ะเทา่ กบั มวลรวมของสารหลงั เกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีหากทำ
ปฏิกิริยาในภาชนะปิด และมวลรวมของสารก่อนเกิดปฏิกิริยาเคมจี ะไมเ่ ทา่ กบั มวลรวมของสารหลงั เกิดปฏิกิริยา
เคมหี ากทำปฏิกริ ยิ าในภาชนะเปดิ )
ขน้ั ที่ 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา( Exploration) (5 นาท)ี
1. นักเรยี นตอบคำถามครจู ากสอ่ื Power point เร่ืองปฏิกริ ิยาเคมีระหวา่ งกรดไฮโดรคอลรกิ และแคลเซยี ม
คาร์บอเนตในภาชนะปิดและเปิด
2. ครูถามคำถามนักเรยี น ดงั ต่อไปน้ี
-จากภาพนักเรยี นสังเกตเหน็ ความแตกต่างอะไรบา้ ง
(แนวคำตอบ ปฏิกริ ยิ าแรกมีลูกโป่งปดิ ปากขวดและมีสารในลกู โป่ง ปฏกิ ริ ยิ าที่สองมบี กี เกอรท์ ีใ่ สส่ ารและไม่มี
อะไรปดิ )
-ปฏิกิริยาเคมใี นภาชนะปิดและภาชนะเปน็ มีความแตกตา่ งกันหรือไม่ อยา่ งไร
(แนวคำตอบ ปฏิกริ ยิ าที่อยใู่ นภาชนะปดิ กอ่ นและหลังเท่ากันมีมวลเท่ากัน ,ปฏกิ ริ ิยาท่ีอยู่ในภาชนะเปดิ ก่อน
และหลังเท่ากนั มมี วลไมเ่ ท่ากัน)
3.ขน้ั สร้างคำอธิบาย(Explanation) (20 นาที)
1.ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายสรุปใจความสำคญั รว่ มกันรว่ มกันโดยใชส้ ่อื Power point ในหวั ข้อดงั ต่อไปนี้

1.1 กฎทรงมวล
1.2 ปฏกิ ิรยิ าดดู ความร้อน
1.3 ปฏิกิรยิ าคายความร้อน
ขั้นท่4ี ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) (5 นาที)
1. ครูตัง้ คำถามดังนี้
-เม่อื ใชม้ ือสัมผัสภาชนะทีม่ ีแอมโมเนียมคอไรด์ผสมกับปูนขาวจะรูส้ กึ เยน็ นักเรยี นคดิ วา่ ปฏิกริ ยิ าที่เกดิ ขึ้นเป็น
ปฏิกิรยิ าดูดหรือคายความร้อนเพราะเหตุใด

1072

(แนวคำตอบ ปฏกิ ริ ิยาดูดความร้อน)
ข้นั ท่ี 5 ข้นั ประเมนิ (Evaluation) (5 นาที)
- นักเรยี นทำกิจกรรมเรื่องปฏิกิริยาเคมรี อบตัว ผ่านใบงานเรือ่ งกฎทรงมวล ปฏกิ ิริยาการดูดความรอ้ นและ
ปฏิกริ ยิ าการคายความรอ้ น
- ครูและนักเรยี นอภิปรายรว่ มกันในใบงาน เรื่องกฎทรงมวล ปฏกิ ิรยิ าการดูดความร้อนและปฏกิ ิริยาการคาย
ความร้อน
8. คณุ ลักษณะผู้เรียน

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
9. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการส่อื สาร
10. ภาระงาน
1. ใบงานเร่อื ง กฎทรงมวล ปฏกิ ริ ยิ าการดดู ความร้อนและปฏิกิริยาการคายความรอ้ น
11. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้
1. ส่ือ Power point วิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
2. หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 2

1703

12. การวัดและการประเมนิ

สง่ิ ที่ต้องการวัด วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื วดั ผล เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K) - ตรวจใบงานเรอ่ื ง กฎทรงมวล -เฉลยใบงาน เรื่อง ใบ ร้อยละ 70 ผา่ น

1. นกั เรยี นสามารถเข้าใจและ ปฏกิ ิริยาการดูดความรอ้ นและ งานเรอ่ื งกฎทรงมวล เกณฑ์

อธบิ ายกฎทรงมวล โดยใช้หลกั ฐาน ปฏกิ ริ ยิ าการคายความรอ้ น ปฏิกิรยิ าการดูดความ

เชิงประจกั ษได้ (K) รอ้ นและปฏิกิรยิ าการ

2. นกั เรยี นสามารถอธบิ าย คายความร้อน

ปฏิกริ ิยาดดู ความร้อน และ

ปฏกิ ิรยิ าคายความร้อน จากการ

เปลี่ยนแปลงพลงั งานความรอ้ นของ

ปฏิกริ ิยาได้ (K)

ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตจากพฤติกรรมในชั้นเรียน - แบบประเมินทักษะ/ ร้อยละ 70 ผา่ น
ด้านคุณลกั ษณะ (A) -สังเกตจากพฤตกิ รรมในชั้นเรียน กระบวนการ เกณฑ์
-แบบประเมนิ รอ้ ยละ 70 ผ่าน
คุณลักษณะอนั พงึ เกณฑ์
ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน - สงั เกตพฤตกิ รรมในช้นั เรียน -แบบประเมิน รอ้ ยละ 70 ผา่ น
สมรรถนะสำคัญ เกณฑ์
รายบุคคล

1074

บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้

ผลการจดั การเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หา/อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนวทางแก้ไข /แนวทางการพฒั นา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ครูผู้สอน
ลงช่อื ..................................................

(................................................)
ครูผู้สอน

วันท.ี่ .................................

1075

ช่ือ-นามสกุล………………………………………………………………………ช้นั ……………เลขท…ี่ ……

ใบงานเรื่อง กฎทรงมวล ปฏกิ ริ ิยาการดูดความร้อน
และปฏิกริ ิยาการคายความร้อน

คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนตอบคถถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ต้อง

นักเรยี นคนหนง่ึ ตง้ั น้ำปูนใสไว้ในภาชนะเปดิ พบว่าเกิดตะกอนสีขาว เนื่องจากแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ใน
อากาศลงไปทำปฏิกริ ยิ ากับน้ำปูนใส ได้ผลติ ภณั ฑ์เป็นแคลเซยี มคารบ์ อเนตซ่ึงไมล่ ะลายในน้ำ เมอ่ื นำไปช่งั
พบวา่ มวลรวมที่ไดห้ ลังจากนำ้ ปูนใสเกดิ ตะกอนสขี าวจะเพ่มิ ขึน้ นักเรียนคนน้ีกลา่ วว่าปฏกิ ริ ิยาดงั กลา่ วไม่
เป็นไปตาม กฎทรงมวล ข้อสรุปดงั กล่าวถูกต้องหรอื ไม่ อยา่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
..…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ระบบ (system) หมายถึง
……………………………………………………………………………………………………………………….

สงิ่ แวดลอ้ ม (environment)
หมายถึง……………………………………………………………………………………………………….

เมอื่ ใช้มือสัมผัสภาชนะที่มีแอมโมเนียมคลอไรด์ผสมกับปูนขาวจะรู้สกึ เย็น นกั เรียนคดิ วา่ ปฏิกิริยาท่เี กิดขน้ึ เป็น
ปฏกิ ิริยาดดู หรือคายความร้อน เพราะเหตุใด

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
..…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1076

ใบงานเรื่อง กฎทรงมวล ปฏกิ ริ ิยาการดดู ความร้อน
และปฏกิ ริ ิยาการคายความร้อน

คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนตอบคถถามตอ่ ไปน้ใี หถ้ กู ต้อง

นกั เรียนคนหน่งึ ตัง้ น้ำปูนใสไว้ในภาชนะเปดิ พบว่าเกิดตะกอนสขี าว เนอ่ื งจากแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ใน
อากาศลงไปทำปฏกิ ริ ิยากบั น้ำปนู ใส ไดผ้ ลิตภัณฑ์เป็นแคลเซยี มคาร์บอเนตซึง่ ไมล่ ะลายในนำ้ เม่ือนำไปชง่ั
พบว่ามวลรวมที่ได้หลังจากนำ้ ปนู ใสเกดิ ตะกอนสขี าวจะเพ่มิ ขนึ้ นกั เรยี นคนนี้กลา่ ววา่ ปฏิกิริยาดังกล่าวไม่
เป็นไปตาม กฎทรงมวล ข้อสรุปดงั กล่าวถูกต้องหรอื ไม่ อยา่ งไร

ข้อสรปุ ถูกตอ้ ง ปฏกิ ริ ยิ าดังกล่าวไมเ่ ป็นไปตามกฎทรงมวล เนื่องจากปฏิกริ ิยาเกิดขึ้นในภาชนะเปิด และมีมวล
รวมก่อนและหลงั ทำปฏิกริ ิยาไมเ่ ท่ากนั
ระบบ (system) หมายถึง สงิ่ ทอ่ี ยภู่ ายในขอบเขตทีต่ ้องการศกึ ษา เช่น สารตัง้ ต้น และผลติ ภณั ฑ์ในปฏกิ ิรยิ า
สงิ่ แวดลอ้ ม (environment) หมายถงึ ส่วนที่อยนู่ อกระบบ เช่นภาชนะ เทอร์มอมิเตอร์ อปุ กรณ์อน่ื ๆ

เมอื่ ใชม้ ือสัมผัสภาชนะทีม่ ีแอมโมเนยี มคลอไรดผ์ สมกบั ปูนขาวจะรูส้ กึ เย็น นกั เรยี นคดิ ว่าปฏิกริ ิยาที่เกดิ ขึ้นเป็น
ปฏกิ ริ ิยาดูดหรอื คายความร้อน เพราะเหตุใด

ปฏิกิริยาดูดความร้อน เนือ่ งจากเกดิ การถ่ายโอนความร้อนจากมอื เข้าสูส่ ารจำให้ให้รูส้ ึกเย็นเมอื จับภาชนะ

1077

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เรอื่ ง สว่ นประกอบของทรงกลมฟ้า
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เวลา 100 นาที (2คาบ)
ผ้สู อน : นางสาวมัลลิกา เหลยชัย

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 7.3 เขา้ องค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี

ดาวฤกษ์ และระบบสรุ ยิ ะ ความสัมพันธข์ องดาราศาสตร์กับมนษุ ย์จากการศึกษาตำแหน่งดาว บนทรงกลม
ฟา้ และปฏสิ ัมพันธ์ภายในระบบสรุ ิยะ รวมทง้ั การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ

มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตร์ใน การสบื เสาะหาความรู้ การ
แกป้ ัญหารู้ว่าปรากฏการณท์ างธรรมชาติที่เกดิ ข้นึ ส่วนใหญ่มรี ปู แบบที่แนน่ อนสามารถอธิบายและตรวจสอบได้
ภายใตข้ อ้ มลู และเคร่อื งมือท่ีมีอยู่ในช่วงเวลานน้ั ๆเข้าใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสงิ่ แวดล้อม มี
ความเกย่ี วข้องสมั พันธ์กนั

ผลการเรียนรู้
ผร. 1 สร้างแบบจำลองทรงกลมฟา้ สงั เกต และ เชื่อมโยงจดุ และเส้นสำคัญของแบบจำลอง ทรงกลม

ฟ้ากบั ทอ้ งฟ้าจริง และอธิบายการระบุ พิกดั ของดาวในระบบขอบฟ้า และระบบ ศูนยส์ ตู ร

2. สาระสำคัญ
ทรงกลมฟา้ เปน็ ทรงกลมสมมตขิ นาดใหญ่ท่มี จี ดุ ศนู ย์กลางของโลกเปน็ จดุ ศูนย์กลางของวงกลมและมี

ดาวอยู่บนผวิ ในของทรงกลม โดยมเี สน้ แบง่ ครึง่ ทรงกลมเป็นวงกลมใหญ่ท่ีแบ่งครึง่ ทรงกลมออกเปน็ 2 ซกี โดย
ทรงกลมฟา้ มี 2 แบบ คอื ทรงกลมฟ้าแบบไมม่ ีเสน้ ขอบฟ้าและทรงกลมฟ้าแบบมเี สน้ ขอบฟ้า การหมุนของทรง
กลมฟา้ จะทำให้เราเหน็ การเคลอ่ื นท่ีของดวงดาวแตกตา่ งกันเมื่อเราสังเกตทต่ี ำแหน่งแตกตา่ งกันของโลก

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายลักษณะของทรงกลมฟ้าได้ (K)
2. อธิบายปรากฏการณ์ทีส่ งั เกตไดเ้ ม่อื ผู้สังเกตอยูบ่ รเิ วณต่าง ๆ ของโลกได้ (K)
3. สรา้ งแบบจำลองของทรงกลมฟา้ ได้ (P)

1078

4. สามารถนำความรเู้ ร่ืองทรงกลมฟ้ามาใชใ้ นการประมาณละติจดู ที่เราอย่ไู ด้ (A)
5. ซื่อสัตย์ สจุ รติ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้

- ทรงกลมฟา้ เปน็ ทรงกลมสมมตขิ นาดใหญท่ มี่ ีรัศมีอนันต์ มจี ุดศนู ย์กลางของโลกเปน็ จดุ ศูนย์กลางของ

ทรงกลมฟ้า มีดวงดาวและเทห์ฟา้ ต่าง ๆ ปรากฏอยู่บนผวิ ของทรงกลมฟ้านี้ การระบุพิกัดของดวงดาวและเทห์

ฟ้าต่าง ๆ บนทรงกลมฟ้าตามระบบท่สี ำคัญ ได้แก่

- ระบบขอบฟ้า เป็นระบบท่ีอา้ งองิ จากตำแหนง่ ผ้สู ังเกตบนโลก โดยระบพุ กิ ัดเป็นมุมทิศและ มุมเงย

อ้างองิ กับทิศเหนือและเสน้ ขอบฟา้ ของผู้สังเกต

- ระบบศนู ยส์ ตู ร เปน็ ระบบทอี่ ้างอิงกบั เสน้ ศูนย์สูตรฟ้าและจดุ วิษุวัตระบุพิกดั เป็นไรต์แอสเซนชันและ

เดคลเิ นชัน

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ความสามารถในการแสวงหาความรู้

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. . ซือ่ สัตยส์ จุ รติ 3. มีวินยั 4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 6. มงุ่ มั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ

7. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ในการสอนครัง้ นีใ้ ชร้ ปู แบบการสอนแบบวัฏจักรกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Cycle (5Es)
โดยมีขนั้ ตอนการจัดกิจกรรมดงั น้ี

1.ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement)
(คาบที่ 1)
1.1 ครใู ห้นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพอ่ื วดั ความรู้เดิมของนกั เรียนกอ่ นเข้าสู่บทเรยี น
1.2 ครูกระตุน้ ความสนใจเรยี นโดยใชค้ ำถาม โดยครูอาจใช้คำถาม Big Question จากหนังสือเรยี น

รายวิชาเพิ่มเตมิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เลม่ 2 หรือใช้
คำถามดงั ตอ่ ไปนี้
- เมือ่ นกั เรียนสังเกตดวงดาวบนท้องฟ้าจะเห็นว่า ดาวเคล่ือนที่ เพราะเหตุใดจึงเปน็ เชน่ น้ัน
(แนวตอบ: เพราะโลกหมุนรอบตัวเอง)
- เพราะเหตุใดในเวลาเดยี วกันของแต่ละฤดจู งึ เหน็ ดาวตา่ งกัน
(แนวตอบ: โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์)

1079

- ดาวบนท้องฟา้ อยหู่ ่างจากโลกเท่ากนั ทกุ ดวงหรือไม่
(แนวตอบ: ไม่เท่ากัน)
2. ขั้นสำรวจและค้นหาข้อมูล (Exploration)
2.1 ครแู จง้ ให้นกั เรยี นทราบว่าจะได้ศกึ ษา เร่อื ง ทรงกลมฟ้า
2.2 ครถู ามคำถามกระตุ้นความคิดนักเรียนวา่ “นักเรียนรจู้ ักทรงกลมฟา้ หรือไม่ และคดิ วา่ ทรงกลมฟ้า
จะมีลกั ษณะอยา่ งไร” โดยครูยังไมเ่ ฉลยคำตอบแต่แจง้ นักเรยี นใหท้ ราบว่าจะร้คู ำตอบเม่ือจบชั่วโมง
2.3 ครูแบง่ กลมุ่ นักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน คละกันตามความสามารถ คอื เกง่ ปานกลาง
ค่อนข้างเกง่ ปานกลางคอ่ นข้างอ่อน และอ่อน แลว้ ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ศึกษา ทรงกลมฟา้ จากแหล่งการเรียนรู้
ต่าง ๆ เช่น หนงั สือเรยี น อนิ เทอร์เนต็ โดยครูเนน้ ยำ้ ใหน้ ักเรยี นเลอื กศึกษาจากแหล่งข้อมูลท่ีนา่ เชอ่ื ถือ
2.4 ครูแจกกระดาษฟลปิ ชาร์ทใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ กล่มุ ละ 1 แผ่น แลว้ ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกันสรปุ
ความรู้ทศ่ี ึกษาไดโ้ ดยจัดทำเป็นอนิ โฟกราฟิก เร่ือง ทรงกลมฟา้ โดยครูคอยให้คำแนะนำและตรวจสอบความ
ถูกต้องของชิ้นงาน (หมายเหตุ: ครเู ริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ )
3. ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
3.1 นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นำแผนทค่ี วามคดิ ของกลมุ่ ตนเองมาติดรอบห้องเรียน แล้วเดินชมผลงานของ
เพื่อน
รว่ มชั้นเรียน โดยในระหวา่ งทน่ี กั เรียนเดนิ ชมผลงาน ครูคอยกระตุ้นให้นักเรยี นแลกเปล่ียนความคิดเห็นเกีย่ วกบั
ผลงานทแ่ี ต่ละกลุม่ ได้ทำ
(หมายเหตุ: ครูเร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด)
3.2 ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกนั โหวตใหค้ ะแนนแผนท่คี วามคดิ ที่กลุ่มทีต่ นเองช่ืนชอบ กล่มุ ไหนมคี ะแนนมาก
สุดครูให้ออกมานำเสนอแผนท่ีความคิดของกลุ่มตนเองหน้าชนั้ เรยี น
(หมายเหต:ุ ครูเร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
4. ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration)
4.1 ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่าจะได้สร้างแบบจำลองทรงฟ้า แล้วแจกใบกิจกรรมที่ 1 กิจกรรมการ
สร้างแบบจำลองทรงกลมฟ้า ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่
4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันออกแบบและเลอื กวัสดุอุปกรณท์ ีม่ าใชใ้ นการสรา้ งแบบจำลองทรงกลม
ฟา้ แลว้ รว่ มกนั สรา้ งแบบจำลองทรงกลมฟ้าตามทไี่ ด้ออกแบบไว้
4.3 ครแู จ้งให้นักเรียนทราบว่าทุกกลุ่มจะได้ออกมานำเสนอแบบจำลองของกลุ่มตนเองในช่ัวโมงถัดไป
โดยแบบจำลองท่ีจะออกมานำเสนอได้ต้องผ่านการตรวจสอบและการใหค้ ำแนะนำจากครูก่อน
(หมายเหต:ุ ครเู ริ่มประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมนิ แบบจำลอง)

1170

5. ข้นั ประเมนิ (Evaluation)

5.1 ในการประเมินผลงานของนักเรยี น ครูพิจารณาจากส่งิ ตอ่ ไปนี้

1. พฤตกิ รรมนักเรียน

2. การทำกจิ กรรมที่ 1 เร่ือง กจิ กรรมการสร้างแบบจำลองทรงกลมฟ้า

8. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้

1. โปรแกรม Power Point เรือ่ ง ส่วนประกอบของทรงกลมฟา้

2. หนังสือเรียน รายวชิ าเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม

2

9. การวัดและประเมนิ ผล

รายการประเมนิ วิธีการวดั ผล เคร่อื งมอื วัดผล เกณฑ์การประเมนิ

1.ความรู้ (K) -การตอบคำถามใน - แบบบนั ทกึ คะแนน 5 คะแนน ขน้ึ ไป ผ่าน

1. อธิบายลกั ษณะของทรงกลมฟ้าได้ กิจกรรม - ผลการปฏิบัติ

2. อธิบายปรากฏการณ์ทส่ี ังเกตได้เมอื่ -ใบกจิ กรรม กิจกรรม

ผู้สงั เกตอยูบ่ รเิ วณต่าง ๆ ของโลกได้

2.ทักษะ / กระบวนการ (P) - การสงั เกต - แบบประเมนิ ทักษะ 1 ปรับปรงุ

3. สรา้ งแบบจำลองของทรงกลมฟา้ ได้ กระบวนการ 2 พอใช้

3 ดี

4 ดีเย่ียม

3.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) - การสังเกต - แบบประเมิน 1 ปรับปรุง

4. สามารถนำความร้เู รื่องทรงกลมฟ้า คณุ ลกั ษณะอันพงึ 2 พอใช้

มาใช้ในการประมาณละตจิ ดู ที่เราอยู่ ประสงค์ 3 ดี

ได้ 4 ดเี ยี่ยม

5. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่

ในการทำงาน

1171

บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้

ผลการจดั การเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หา/อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนวทางแก้ไข /แนวทางการพฒั นา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ครูผู้สอน
ลงช่อื ..................................................

(................................................)
ครูผู้สอน

วันท.ี่ .................................

1172

ใบกิจกรรมท่ี 1

กิจกรรม การสร้างแบบจำลองทรงกลมฟ้า

คำชี้แจง : เลอื กวัสดอุ ปุ กรณ์ ออกแบบ และสรา้ งแบบจำลองทรงกลมฟา้ แบบมีเส้นขอบฟ้า

1. เลือกวัสดุอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการสรา้ งแบบจำลองทรงกลมฟ้าจากรายการทก่ี ำหนดให้

1) ฝาพลาสติกปิดแกว้ ทรงโดมขนาดตา่ ง ๆ 2) กระดาษแขง็ สขี าว

3) ชามโฟมขนาดต่าง ๆ 4) ถงุ พลาสติกใส

5) ปากกาเมจิก 6) ตุ๊กตาขนาดเลก็

7) เทปใส หรอื กาว 8) กรรไกรหรือคัตเตอร์

ระบอุ ปุ กรณท์ ี่เลือกใช้

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

.. ............................... ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

2. ออกแบบและวาดภาพแบบจำลองทรงกลมฟ้าแบบมีเส้นขอบฟ้า โดยระบวุ สั ดอุ ุปกรณท์ ี่ไดเ้ ลือกใช้ลงในแบบ


Click to View FlipBook Version