แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาภาษาไทย รหสั ท๑๖๑๐๑
ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ติ (ภาษาพาท)ี
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรอื่ งกว่าแผน่ ดนิ จะกลบหนา้
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖
ของ
นายธัชพงศพ์ ัชร์ พนั ธแ์ุ ก้ว ตาแหนง่ ครชู านาญการ
โรงเรยี น บา้ นแมต่ ะละเหนอื
อาเภอ กัลยาณวิ ฒั นา จงั หวดั เชียงใหม่
สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต ๖
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๑
กลุมสาระการเรยี นรภู าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปท่ี ๖
หนวยการเรียนรูท ่ี ๗ เรอื่ ง กวา แผน ดนิ จะกลบหนา เวลา ๙ ชว่ั โมง
เร่อื ง อา น เขยี น คาํ ควรรูคูความหมาย เวลา ๑ ช่ัวโมง
.....................................................................................
สาระสาํ คญั
การอา น และการเขยี นคาํ ควรรูคูความหมาย จะชวยใหการอานเร่ืองราวในบทเรียนเขาใจไดงาย และ
สามารถพัฒนาทักษะทางภาษาไดด ี
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๑.๑ ใชก ระบวนการอานสรา งความรูและความคดิ เพอื่ นําไปตดั สินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ
มีนิสยั รกั การอา น
ตวั ชว้ี ดั
ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายของคํา ประโยคและขอความที่เปน โวหาร
จุดประสงค
๑. นกั เรยี นอา นคาํ ศพั ทยากไดถกู ตอ ง
๒. นกั เรยี นบอกความหมายของคําในบทเรียนได
๓. นักเรยี นใชคําไดถูกตอ งตามบรบิ ท
สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป ญหา
๔. ความสามารถในการใชทักษะชวี ิต
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค
๑. รกั ความเปนไทย
๒. ใฝเ รียนรู
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยอู ยา งพอเพยี ง
สาระการเรียนรู
- ความหมายของคาํ
- การใชค าํ
กระบวนการจัดการเรยี นรู
๑. ครใู ชบ ตั รคําชูใหนักเรียนดูและฝกอา นเพือ่ อธิบายความหมายของคําวา “ฉุกใจ ฉอฉล ชีวิน ตีวัว
กระทบคราด ผลนุ ผลนั พิพากษา พิสุทธ์ิ ยันต ลูกโซ ฯลฯ” ใหนกั เรียนแตละกลุมชวยกันอธิบายความหมาย
ของคําเหลา นี้
๒. นกั เรียนทาํ แบบฝกทักษะ เร่ือง เขียนความหมายของคําท่ีกําหนดให จากคําท่ีกําหนดให จากนั้น
นําสง ครู ครูเฉลยและตรวจสอบความถกู ตอ ง
๓. นักเรยี นทําแบบฝกหัด รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษา
ปที่ ๖ บอกความหมาย อธิบายและฝกใชคํา หนา ๖๑ ขอ ๓ จากนั้นนําสงครู ครูเฉลยและตรวจสอบความ
ถกู ตอง ครเู นนใหน กั เรยี นมีความขยันหมนั่ เพียร ซื่อสัตย และตรงตอ เวลา
๔. นักเรียนทาํ แบบฝกหดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษา
ปท ี่ ๖ เขยี นคาํ อา นและนาํ คาํ มาแตง ประโยค เสรจ็ แลว นําสงครูตรวจสอบความถูกตองและอา นประโยคท่ีตนเอง
แตง ใหเ พ่อื นฟง เพื่อนๆ ชว ยกนั วเิ คราะหค วามถกู ตอง
สอื่ / แหลงเรยี นรู
๑. บตั รคาํ
๒. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปที่ ๖
๓. แบบฝกหดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชีวติ ทกั ษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) วธิ ีประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝกหดั
๒) เครือ่ งมือประเมิน
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝก หัด
๓) เกณฑการประเมิน
- นกั เรียนผา นเกณฑการสังเกตพฤตกิ รรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา นเกณฑการทาํ แบบฝกหดั รอยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๒
กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปท ่ี ๖
หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๗ เรอ่ื ง กวาแผน ดนิ จะกลบหนา เวลา ๙ ชัว่ โมง
เรือ่ ง การอานออกเสยี ง เวลา ๑ ชวั่ โมง
.....................................................................................
สาระสําคัญ
การอา นออกเสียง เปน การอานใหผ ูอ่นื ฟง ฉะนัน้ ผอู านจะตอ งแบง วรรคตอน เนน เสยี งหนักเบา และออก
เสียงใหถ กู ตองชดั เจน จึงจะสื่อความหมายไดอ ยางมปี ระสิทธิภาพ
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชก ระบวนการอา นสรา งความรแู ละความคดิ เพ่ือนาํ ไปตดั สินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ
มนี สิ ยั รกั การอาน
ตัวชี้วัด
ป.๖/๑ อานออกเสยี งบทรอ ยแกว และบทรอยกรองได
จุดประสงค
๑. นกั เรยี นอานออกเสียงเนอื้ หาในบทเรยี นได
๒. นักเรียนจับใจความเร่อื งท่ีอานได
๓. นกั เรียนตอบคาํ ถามเรอื่ งท่ีอานได
สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รียน
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกปญหา
๔. ความสามารถในการใชทักษะชีวติ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รกั ความเปนไทย
๒. ใฝเ รยี นรู
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อยูอยา งพอเพียง
สาระการเรยี นรู
- การอานออกเสียง
- การจบั ใจความสําคัญ
- การตอบคาํ ถาม
กระบวนการจัดการเรยี นรู
๑. ครูใหน ักเรียนชวยกันบอกหลักเกณฑการอานออกเสียงที่ดี เชน อานคลอง อานถูกตอง ชัดเจน
เวนวรรคตอนถกู ตอ ง ใชนาํ้ เสียงสอดคลองกบั อารมณของตวั ละคร เปน ตน
๒. ครสู าธิตการอา นทดี่ ใี หน ักเรยี นฟง หรอื ใหน กั เรียนฟง จากเครื่องบันทึกเสียงก็ได เพื่อเปนแนวทางใน
การอานของนักเรียน
๓. นักเรยี นอา นออกเสียงเรื่อง “กวาแผนดินจะกลบหนา” ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย
ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี ๖ หนา ๙๘ – ๑๐๕ โดยอานตอกันคนละ ๑ ยอหนา ครู
แนะนําแกไ ขวธิ กี ารอา นออกเสียงแลวรว มกนั สนทนาถงึ เนอ้ื หาใจความของเร่ือง ครูตงั้ คาํ ถามใหนักเรยี นแขงขันกัน
ตอบดงั นี้
จุดเริ่มตนของการลมละลายของครอบครวั ฟาง เกดิ จากสาเหตใุ ด
เฟยวเปด พบสิ่งใดในกลอ งภายในกระเชาผลไม
ตลาดสดใหมป ระสบปญหาใดบาง
เจา กรมกระจายขาวคือใคร
เหตผุ ลท่คี ณะกรรมการเลือกท่ดี ินทต่ี ้ังอยูน อกเมือง เพราะเหตุใด
ชีวิตของครอบครัวฟาง เหมอื นตกอยใู นเหวดาํ มืดเนื่องจากสาเหตใุ ด
นักเรียนไดข อคดิ ใดบางจากเรือ่ งน้ี
๔. นกั เรียนชว ยกันสรุปความรู เร่ืองการอา นออกเสียงและการตอบคําถาม และขอคิดทไ่ี ดจ ากบทอาน
๕. นักเรยี นทาํ แบบฝก หัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษา
ปท ี่ ๖ หนา ๖๐ เสร็จแลวนําสงครูเพ่อื ตรวจสอบความถูกตอ ง
ส่อื / แหลง เรียนรู
๑. หนังสือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖
๒. แบบฝกหัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปที่ ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) วิธีประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หัด
๒) เครอ่ื งมอื ประเมนิ
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
- ทาํ แบบฝกหัด
๓) เกณฑการประเมิน
- นกั เรียนผา นเกณฑก ารสงั เกตพฤติกรรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา นเกณฑการทาํ แบบฝก หัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรูที่ ๓
กลุมสาระการเรยี นรภู าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖
หนว ยการเรยี นรทู ี่ ๗ เร่ือง กวาแผนดนิ จะกลบหนา เวลา ๙ ช่วั โมง
เรอ่ื ง การอา น คิด วเิ คราะห เวลา ๑ ชว่ั โมง
.....................................................................................
สาระสําคญั
การวิเคราะหเ รอ่ื ง เปนการพิจารณาสวนตางๆของเร่ือง เชน ขอเท็จจริงและขอคิดเห็น สวนดีและสวน
บกพรอ งของเนอ้ื เรื่อง จดุ ประสงคของผูแ ตง ความเหมาะสมในการใชคํา ประโยค ขอความ ฯลฯ สรุปขอคิดท่ีได
จากเรือ่ ง สามารถนาํ ความรทู ่ไี ดรับไปใชป ระโยชนใ นชวี ติ ประจําวัน
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอา นสรา งความรแู ละความคดิ เพือ่ นาํ ไปตัดสนิ ใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ
มีนสิ ัยรักการอา น
ตัวชีว้ ดั
ป.๖/๔ แยกขอ เท็จจรงิ และขอ คดิ เห็นจากเรอ่ื งทอี่ าน
จดุ ประสงค
๑. นกั เรยี นตั้งคาํ ถาม – ตอบคาํ ถามเรือ่ งที่อา นได
๒. นกั เรียนแยกขอเท็จจริงและขอคดิ เหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี า นได
๓. นักเรยี นสรุปขอคดิ ที่ไดจ ากการอา นได
สมรรถนะสาํ คัญของผูเ รยี น
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกปญ หา
๔. ความสามารถในการใชท ักษะชวี ติ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค
๑. รักความเปนไทย
๒. ใฝเรียนรู
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยอู ยางพอเพยี ง
สาระการเรียนรู
- การตง้ั คาํ ถามและตอบคาํ ถาม
- การแยกขอเทจ็ จรงิ และขอ คิดเห็น
กระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. ทบทวนความรูเดิมที่เรียนในชั่วโมงที่แลวดวยการใหนักเรียนนําแบบฝกทักษะมารวมกันเฉลยและ
ตรวจสอบความถกู ตองอกี ครงั้
๒. แบง นกั เรยี นออกเปนกลมุ กลมุ ละ ๔ – ๕ คน ใหแ ตละกลมุ เลอื กประธานกลุม รองประธานกลุม
และเลขานุการกลุม ครูอธบิ ายบทบาทและหนาทข่ี องสมาชิกทุกคนในกลมุ ใหน กั เรียนทราบ
๓. ใหนักเรยี นแตละกลมุ อานในใจเนอ้ื หาบทเรียน จากหนังสือเรียน ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที่ ๖
บทที่ ๗ “กวา แผน ดนิ จะกลบหนา” จากหนา ๙๘ ถึงหนา ๑๐๕ อกี ครั้ง จากน้ันใหแตละกลุมตั้งคําถามใหกลุม
อ่ืนตอบ กลุม ละ ๒ คําถาม
๔. ครตู ง้ั คาํ ถามตอไปนใ้ี หนกั เรยี นแตละกลมุ ตอบ
คาํ วา “กวาแผน ดินจะกลบหนา” หมายความวา อยางไร
“เงินทองของแผน ดนิ ใครคดโกงไป ก็ตองกลับคืนสูแผนดินตามเดิม” ใหนักเรียนอธิบาย
ความหมายขอ ความนีม้ าตามเขาใจ
การกระทําใดที่แสดงวา เดือนไมเห็นดวยกบั พฤติกรรมของพสุ
ถา นกั เรยี นเปนฟางกบั เฟย ว จะมคี วามรูสกึ อยา งไรกบั เหตกุ ารณท ี่เกิดขนึ้
สํานวนใดนาจะสอดคลอ งกับเรือ่ ง
นกั เรยี นจะนาํ ขอคดิ ไปใชใ นชีวติ ประจาํ วนั อยา งไร
๕. ใหแตละกลมุ ชวยกนั เขียนคาํ ตอบลงในแผนกระดาษ จากนั้นสงตัวแทนออกมาอานคําตอบที่หนาชั้น
เรยี น ครชู มเชยกลุมทตี่ อบไดดี
๖. รวมกันสนทนาถึงเนื้อหาของเรื่อง “กวาแผนดินจะกลบหนา” ครูซักถามนักเรียนวานักเรียนได
อะไรบา งจากการอา นเร่อื งนี้
๗. นักเรยี นทําแบบฝก หัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวิต ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาป
ท่ี ๖ ตอบคําถามจากเรอ่ื งทอี่ า น เสรจ็ แลว ครูเฉลยและนาํ สงครตู รวจสอบความถูกตอง
สื่อ / แหลง เรยี นรู
๑. หนงั สือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖
๒. แบบฝก หัด รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชีวิต ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปท ี่ ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) วิธปี ระเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหดั
๒) เครื่องมอื ประเมนิ
- แบบสงั เกตพฤติกรรม
- ทําแบบฝกหัด
๓) เกณฑการประเมนิ
- นกั เรยี นผานเกณฑการสงั เกตพฤตกิ รรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผานเกณฑก ารทําแบบฝกหัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรูที่ ๔
กลุมสาระการเรียนรภู าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๖
หนว ยการเรียนรูท ่ี ๗ เร่อื ง กวา แผนดนิ จะกลบหนา เวลา ๙ ชั่วโมง
เรอ่ื ง การอา นเสรมิ บทเรยี น เวลา ๑ ชว่ั โมง
.....................................................................................
สาระสาํ คญั
การอา นเสรมิ บทเรียน ทําใหผอู านไดรบั ความรู ความบนั เทงิ และขอ คดิ จากการอาน และสามารถเลือก
หนังสืออา นไดตรงตามความตองการ นอกจากน้ีท่ีสําคัญ คือสามารถนําความรูท่ีไดรับจากการอานมาปรับใชให
เปนประโยชนใ นชีวิตประจาํ วนั ได
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอา นสรา งความรูแ ละความคิดเพ่อื นาํ ไปตัดสินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ
มีนิสยั รกั การอาน
ตัวช้วี ดั
ป.๖/๑ อา นออกเสียงบทรอ ยแกวและบทรอ ยกรองไดถ ูกตอง
จดุ ประสงค
๑. นักเรียนอา นและจับใจความสาํ คญั ของบทรอ ยกรองได
๒. นกั เรยี นคดิ วิเคราะหส รุปบทรอยกรองทอี่ าน
สมรรถนะสําคัญของผูเรยี น
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกปญหา
๔. ความสามารถในการใชท กั ษะชีวิต
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค
๑. รักความเปนไทย
๒. ใฝเรียนรู
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ยั
๕. อยอู ยา งพอเพียง
สาระการเรยี นรู
- การอานเสริม “ซอื่ ไวใจเปนสขุ ”
กระบวนการจัดการเรียนรู
๑. ทบทวนเน้ือหาทเี่ รยี นในชั่วโมงทีแ่ ลว ดวยการใหนกั เรยี นมารวมกนั ตรวจสอบแบบฝกทักษะและเฉลย
อีกครั้ง
๒. ครูนําขาวจากหนาหนังสือพิมพ เรื่องตํารวจจับผูกระทําผิดคดโกงเงินแผนดิน ถูกสังคมประณาม
และขา วผูท ซี่ อ่ื สัตยพบขาวของเงินทองของผูอื่นแลวไมนํามาเปนของตนเอง ทําใหสังคมยกยองสรรเสริญมาให
นกั เรียนทอี่ า นคลอ งอานใหเพ่ือนฟง และรวมกันพิจารณา วิจารณข าวอยางเปน ธรรม
๓. นักเรยี นอานในใจบทอา นเสรมิ “ซือ่ ไวใ จเปน สขุ ” จากนั้นนักเรียนรวมกันอภิปราย ซักถามเน้ือหา
สาระการเรยี นรู ครูตง้ั คาํ ถามใหน กั เรียนแตละกลมุ ชว ยกนั คิดหาคาํ ตอบ ตัวอยา งเชน
ลักษณะคาํ ประพันธของบทรอยกรองนีเ้ ปน อะไร
ผแู ตง ตองการสือ่ เร่ืองใดแกผูอ าน
จากคาํ ประพนั ธพ อแมจะสอนใหเราเปนอยางไรเมือ่ วยั เด็ก
สิ่งใดชว ยกลอ มเกลาจติ ใจเยาวชน
เมือ่ เตบิ โตมามารที่เขา มาผจญ คอื สง่ิ ใด
จากคําประพนั ธใ หเราครองชีวิตดว ยสิ่งใด
“เมื่อยังเยาวซอ่ื พสิ ทุ ธด์ิ จุ ไมอ อน” หมายความวา อยางไร
สงิ่ ท่ีจะนําไปปฏิบตั ิในชีวิตประจาํ วนั แลว ทาํ ใหช ีวติ มีความสุขคืออะไร
๔. นักเรยี นทกุ คนเขียนคําถามและคาํ ตอบลงในสมุด นักเรียนและครูชวยกนั สรุปเนอื้ หาสาระการเรียนรู
ท้ังหมดอกี ครงั้ หนงึ่
สื่อ / แหลงเรียนรู
๑. ขาวจากหนา หนงั สือพมิ พ
๒. หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ ๖
๓. แบบฝก หัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปท ่ี ๖
การวัดผลและประเมินผล
๑) วธิ ีประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หดั
๒) เครอ่ื งมือประเมนิ
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝก หดั
๓) เกณฑการประเมิน
- นักเรียนผา นเกณฑการสงั เกตพฤตกิ รรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผานเกณฑการทําแบบฝก หดั รอยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๕
กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๖
หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๗ เร่อื ง กวา แผน ดนิ จะกลบหนา เวลา ๙ ช่วั โมง
เร่ือง การพูด เวลา ๑ ชวั่ โมง
.....................................................................................
สาระสาํ คัญ
การพูดเปนการส่ือสารท่ีมีความสําคัญและเกี่ยวของกับชีวิตประจําวันของทุกคนแตละคนสามารถ
พัฒนาการพดู ใหด ีขึ้นไดถ าฝก ฝนตามหลักเกณฑ และวธิ กี ารท่ีถูกตอง การพูดที่ดีตองพูดใหเหมาะสมกับบุคคลที่
เราพดู และโอกาสทพ่ี ดู จงึ จะทําใหบรรลุจุดประสงคข องการสื่อสาร
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู ความคิด และความรูสึกใน
โอกาสตา งๆ อยางมวี ิจารณญาณและสรางสรรค
ตวั ช้ีวัด
ป.๖/๑ พูดแสดงความรู ความเขา ใจจุดประสงคข องเร่อื งทีฟ่ ง และดู
จดุ ประสงค
๑. นกั เรียนบอกประเภทของการพดู ได
๒. นกั เรยี นบอกหลกั การพดู ได
๓. นกั เรียนพดู ไดเหมาะสมกบั กาลเทศะ
สมรรถนะสําคัญของผูเรยี น
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการใชท กั ษะชีวิต
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รักความเปน ไทย
๒. ใฝเรยี นรู
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อยูอยา งพอเพียง
สาระการเรียนรู
- การพดู แสดงความรู ความเขา ใจในจุดประสงคข องเรอื่ งที่ฟง และดู
กระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. ทบทวนเนื้อหาที่เรยี นในช่ัวโมงที่แลว ดวยการใหนกั เรยี นมารวมกันตรวจสอบแบบฝก ทกั ษะและเฉลย
อกี ครงั้
๒. ครูนําซีดกี ารพูดในโอกาสตางๆมาเปด ใหน กั เรยี นฟง และรวมกันแสดงความคดิ เหน็
๓. นกั เรียนศกึ ษาเนอ้ื หาเก่ียวกับการพูด โดยศึกษาจากหนังสือเรียนภาษาไทย ชุดภาษาพาที ช้ัน ป.๖
หนา ๑๐๘ – ๑๑๑ โดยการอานในใจ จากน้ันครูกาํ หนดเรื่องใหนกั เรียนเตรยี มตัวพูดตามหลกั การท่ไี ดศ ึกษามา
ช่วั โมงละ ๓ – ๕ คน เรอื่ งทก่ี ําหนดใหพ ดู คอื
- การพดู อวยพรผอู าวุโส
- การพูดขอบคุณคณะวิทยากร
- การพุดเชิญชวน
- การพดู ใหก ําลังใจ
- การพูดแสดงความยนิ ดี
๔. นกั เรียนทาํ แบบฝกการใชภาษาใน แบบฝก หัด รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะ
ภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ หนา ๖๓ นําสงครเู พอื่ ตรวจสอบความถกู ตอ ง
สื่อ / แหลง เรียนรู
๑. แผน ซดี ีการพดู ในโอกาสตางๆ
๒. หนังสือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๖
๓. แบบฝกหดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชีวติ ทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี ๖
การวัดผลและประเมนิ ผล
๑) วธิ ีประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หดั
๒) เครอื่ งมอื ประเมิน
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม
- ทาํ แบบฝก หดั
๓) เกณฑก ารประเมนิ
- นกั เรียนผา นเกณฑการสงั เกตพฤติกรรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา นเกณฑการทําแบบฝกหัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรูท่ี ๖
กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖
หนว ยการเรียนรูท ่ี ๗ เรือ่ ง กวาแผน ดินจะกลบหนา เวลา ๙ ชวั่ โมง
เรื่อง การวิเคราะหส าํ นวนท่ีเปน คําพังเพย สุภาษติ เวลา ๒ ชว่ั โมง
.....................................................................................
สาระสําคญั
สาํ นวนที่เปน คําพงั เพยและสุภาษิต เปนคํากลาวที่มีมาชานาน มีความหมายไมตรงตามขอความหรือมี
ความหมายอน่ื แฝงอยูในเชิงเปรยี บเทยี บ เปน สํานวนทกี่ ลา วข้นึ เพอื่ เปน อทุ าหรณส อนใจ เปนส่ิงเตือนใจจากผูที่มี
ประสบการณมากใหคนรุนหลังไดน าํ ไปเปน แนวทางในการประพฤตปิ ฏิบัตติ นใหถ กู ตอ งและเหมาะสม
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ ปนสมบัติของชาติ
ตัวช้วี ัด
ป.๖/๖ วเิ คราะหแ ละเปรียบเทียบสาํ นวนที่เปนคําพังเพย และสภุ าษติ
จุดประสงค
๑. นักเรยี นบอกลักษณะของสํานวนที่เปน คาํ พงั เพยและสภุ าษติ ได
๒. นักเรียนบอกความหมายของคาํ พังเพยและสภุ าษิตได
๓. นักเรียนใชคําพังเพยและสุภาษิตได
สมรรถนะสาํ คัญของผเู รียน
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รกั ความเปนไทย
๒. ใฝเ รยี นรู
๓. มีจิตสาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยูอยา งพอเพยี ง
สาระการเรียนรู
- สํานวนทเ่ี ปนคําพังเพย และสุภาษติ
ระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. ครูนําภาพสํานวนไทยมาใหนักเรียนแขงขันกันทาย สมาชิกกลุมใดทายไดมากท่ีสุด เปนฝายชนะ
นักเรียนรวมกันชมเชยกลุมท่ชี นะ
๒. ใหนักเรียนศึกษาเรื่อง สํานวนที่เปนคําพังเพยและสุภาษิต จากหนังสือเรียน ภาษาพาที ช้ัน ป.๖
หนา ๑๑๒ ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ และใหน กั เรยี นรว มกันวิเคราะหหาความแตกตางระหวางคําพังเพย และสุภาษิต
เปดโอกาสใหน กั เรียนซักถามปญหาขอสงสยั
๓. ใหน ักเรยี นแตล ะกลุมรวบรวมสาํ นวนไทย พรอ มกับบอกความหมายและยกตวั อยา งการใชส าํ นวนไทย
ทีเ่ ปนคําพงั เพย สุภาษติ กลุมละ ๕ สํานวน จากนั้นใหตัวแทนกลุมออกมานําเสนอความรูท่ีหนาช้ัน และติด
แสดงผลงานทีป่ ายนิเทศ
๔. ครแู ละนักเรียนชวยกนั สรุปความรูเร่อื ง การใชสาํ นวนใหตรงตามความหมาย ดงั นี้
การใชส ํานวนใหตรงตามความหมาย ตองศึกษาและพิจารณาใหแจมแจง แลวนําไปใชให
ถกู ตองเหมาะสมใหเ ขา กบั เรอื่ ง
การนําสาํ นวนมาใชใ นขอความหรอื เร่อื งราว จะทําใหข อ ความหรือเรื่องราวนั้นมีคุณคามาก
ข้ึนเกดิ ความเขา ใจที่ลึกซึ้ง มคี วามไพเราะสละสลวย
๕. นักเรียนทาํ แบบฝก หดั รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษา
ปท่ี ๖ หนา ๖๔ – ๖๖ จากน้นั นําสง ครู ครูเฉลยและนกั เรยี นแลกเปลย่ี นกนั ตรวจสอบความถูกตอง
๖. นักเรยี นทําแบบฝก หัด ทกั ษะภาษา หาสํานวนตามหวั ขอท่กี ําหนดใหพรอมท้ังบอกความหมาย วาด
ภาพประกอบตกแตง ใหสวยงาม เสรจ็ แลวนําสงครูตรวจสอบความถูกตอง ครูอธิบายสรุปเร่ืองสํานวนท่ีเปนคํา
พงั เพยและสุภาษติ ในภาษาไทย
ส่ือ / แหลง เรยี นรู
๑. ภาพสํานวนไทย
๒. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ ๖
๓. แบบฝก หดั รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) วธิ ีประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หดั
๒) เคร่ืองมอื ประเมนิ
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
- ทําแบบฝก หัด
๓) เกณฑก ารประเมนิ
- นกั เรียนผานเกณฑก ารสงั เกตพฤตกิ รรม รอยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผานเกณฑก ารทาํ แบบฝกหดั รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๗
กลุม สาระการเรยี นรูภ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๖
หนวยการเรยี นรทู ่ี ๗ เรือ่ ง กวา แผน ดินจะกลบหนา เวลา ๙ ช่ัวโมง
เรื่อง การเขียนคําคม เวลา ๑ ชวั่ โมง
.....................................................................................
สาระสาํ คัญ
สํานวน และคําคม เปนศิลปะการส่ือสารดวยภาษาอีกอยางหน่ึงที่ทําใหผูรับสารเกิดความประทับใจ
ซาบซง้ึ ในความงดงามของภาษา สรา งทัศนคตทิ ่ดี ตี อผรู ับสาร
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๒.๑ ใชก ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ยอ ความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบตางๆ
เขียนรายงานขอมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน ควาอยางมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชว้ี ัด
ป.๖/๒ เขียนสื่อสารโดยใชค าํ ไดถ ูกตอ งชดั เจน และเหมาะสม
จุดประสงค
๑. นักเรยี นตคี วามหมายของสาํ นวน คําคมได
๒. นักเรียนเขียนคาํ คมได
สมรรถนะสําคัญของผูเรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการใชทกั ษะชีวิต
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค
๑. รักความเปนไทย
๒. ใฝเรยี นรู
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยอู ยางพอเพียง
สาระการเรยี นรู
- การเขียนคาํ คม
กระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. ทบทวนเนอื้ หาที่เรียนในชัว่ โมงท่แี ลวดวยการใหนักเรียนนาํ แบบฝก ทักษะ มารวมกันตรวจสอบและ
เฉลยอีกครั้ง จากน้ันครูสุมใหนักเรียน ๒ – ๓ คนออกมาพูดตามหัวขอท่ีครูกําหนดใหในชั่วโมงกอน รวมกัน
ชมเชยผทู ี่พูดไดดี
๒. ครเู ขยี นประโยค
ความดงี ามไมมีในคนพาล
คนที่ไมม จี ดุ หมายในชวี ติ เปรียบเสมือนเรือไมมีหางเสอื
มหาสมทุ รท่วี าลกึ ยงั ลึกไมเทาจิตใจคน
ความรกั เปรียบเหมือนยาขม
งานหนกั คือดอกไมแหงชวี ติ
ความดคี นดที าํ ไดง า ย
ใหแตละกลุมชวยกนั ตีความของ ๖ ประโยคน้ี แลวสงตัวแทนพูดอธิบายความหมาย จากนั้นครู
รวมสรปุ ความหมายของทัง้ ๕ ประโยค
๓. ใหนกั เรียนแบง กลุมแตล ะกลุมชวยกันเขยี นคาํ คม กลุม ละ ๕ คําคม แลวสงตัวแทนนําเสนอหนาชั้น
เรยี น พรอมท้ังอธบิ ายความหมายประกอบ
๔. นักเรียนทําใบแบบฝก หัด ทักษะภาษา เขยี นคาํ คมตามหวั ขอที่กาํ หนดให เชน
คําคมเกย่ี วกบั ความกตญั ตู อ ผูม พี ระคุณ
คําคมเกยี่ วกับการดาํ เนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
คาํ คมเกี่ยวกบั ความซอื่ สัตยสจุ ริต
คาํ คมเกย่ี วกบั ความสามัคคี
คาํ คมเกย่ี วกับความรู
เสรจ็ แลว รวมกนั เฉลยและตรวจสอบความถกู ตอ งเหมาะสม
สือ่ / แหลงเรียนรู
๑. ตวั อยา งคาํ คม
๒. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี ๖
๓. แบบฝกหัด รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวิต ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปท ่ี ๖
การวัดผลและประเมินผล
๑) วิธปี ระเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝก หัด
๒) เคร่ืองมือประเมนิ
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
- ทําแบบฝกหัด
๓) เกณฑการประเมิน
- นักเรยี นผานเกณฑก ารสงั เกตพฤติกรรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา นเกณฑการทาํ แบบฝกหัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรูท่ี ๘
กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๖
หนว ยการเรยี นรทู ี่ ๗ เร่อื ง กวา แผน ดนิ จะกลบหนา เวลา ๙ ช่ัวโมง
เร่ือง การพูด เวลา ๑ ช่ัวโมง
.....................................................................................
สาระสาํ คัญ
การพูดเปนการส่ือสารท่ีมีความสําคัญและเก่ียวของกับชีวิตประจําวันของทุกคนแตละคนสามารถ
พัฒนาการพูดใหด ขี ้นึ ไดถ าฝก ฝนตามหลักเกณฑ และวิธกี ารทีถ่ กู ตอ ง การพูดที่ดีตอ งพูดใหเหมาะสมกับบุคคลท่ี
เราพดู และโอกาสท่พี ดู จงึ จะทําใหบรรลุจุดประสงคของการสอื่ สาร
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู ความคิด และความรูสึกใน
โอกาสตา งๆ อยางมวี ิจารณญาณและสรางสรรค
ตวั ช้ีวัด
ป.๖/๑ พูดแสดงความรู ความเขาใจจุดประสงคของเร่ืองท่ีฟงและดู
จดุ ประสงค
๑. นกั เรียนบอกประเภทของการพดู ได
๒. นกั เรยี นบอกหลกั การพดู ได
๓. นกั เรียนพดู ไดเหมาะสมกบั กาลเทศะ
สมรรถนะสําคัญของผูเรยี น
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการใชท กั ษะชีวติ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รักความเปน ไทย
๒. ใฝเรียนรู
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อยูอยา งพอเพียง
สาระการเรยี นรู
- การพดู แสดงความรู ความเขา ใจในจดุ ประสงคของเร่อื งท่ีฟง และดู
กระบวนการจดั การเรียนรู
๑. ทบทวนเนื้อหาที่เรยี นในช่วั โมงทีแ่ ลวดว ยการใหน กั เรียนมารวมกนั ตรวจสอบแบบฝก ทกั ษะและเฉลย
อกี ครงั้
๒. ครนู ําซดี ีการพดู ในโอกาสตางๆ มาเปด ใหน กั เรยี นฟง และรวมกนั แสดงความคดิ เหน็
๓. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับการพูด โดยศึกษาจากหนังสือเรียน ภาษาพาที ชั้น ป.๖ หนา
๑๐๘ – ๑๑๑ โดยการอานในใจ จากนั้นครูกําหนดเร่ืองใหนักเรียนเตรียมตัวพูดตามหลักการท่ีไดศึกษามา
ช่ัวโมงละ ๓ – ๕ คน เรือ่ งทก่ี าํ หนดใหพูด คือ
- การพูดอวยพรผูอาวโุ ส
- การพดู ขอบคุณคณะวิทยากร
- การพูดเชิญชวน
- การพดู ใหก ําลังใจ
- การพดู แสดงความยินดี
๔. นักเรียนทาํ แบบฝกการใชภ าษาใน แบบฝก หัด รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะ
ภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ ๖ หนา ๖๓ นําสงครเู พือ่ ตรวจสอบความถูกตอง
ส่อื / แหลง เรียนรู
๑. แผน ซีดกี ารพูดในโอกาสตา งๆ
๒. หนังสือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี ๖
๓. แบบฝก หดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) วธิ ีประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหดั
๒) เครอื่ งมอื ประเมนิ
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทําแบบฝก หดั
๓) เกณฑการประเมนิ
- นักเรยี นผานเกณฑการสังเกตพฤติกรรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผานเกณฑการทาํ แบบฝก หดั รอยละ ๗๕ – ๘๐