แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาไทย รหสั ท๑๖๑๐๑
ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ิต (ภาษาพาท)ี
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื งจากผาแตม้ ..สอู่ ยี ปิ ต์
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖
ของ
นายธชั พงศ์พชั ร์ พันธุ์แกว้ ตาแหนง่ ครูชานาญการ
โรงเรยี น บา้ นแมต่ ะละเหนอื
อาเภอ กัลยาณิวฒั นา จงั หวดั เชยี งใหม่
สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต ๖
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี ๑
กลมุ สาระการเรยี นรูภ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ ๖
หนว ยการเรียนรูท ่ี ๑ เร่อื ง จากผาแตม ...สูอยี ิปต เวลา ๘ ช่ัวโมง
เรื่อง อาน เขียน คําควรรคู คู วามหมาย เวลา ๑ ชวั่ โมง
.....................................................................................
สาระสําคัญ
การอา น และการเขียนคําควรรคู คู วามหมาย เร่อื ง จากผาแตม...สูอยี ิปต จะชวยใหการอานเร่ืองราวใน
บทเรยี นเขาใจไดงาย และสามารถพฒั นาทักษะทางภาษาไดดี
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปตัดสินใจแกปญหาในการดําเนิน ชีวิต
และมนี ิสัยรักการอา น
ตวั ช้ีวดั
ป.๖/๒ อธิบายความหมายของคาํ ประโยคและขอ ความทเี่ ปน โวหาร
จุดประสงค
๑. นกั เรียนอา นคาํ ศพั ทย ากไดถกู ตอง
๒. นักเรียนบอกความหมายของคําในบทเรยี นได
๓. นักเรียนใชคําไดถูกตองตามบริบท
สมรรถนะสําคญั ของผูเรียน
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป ญหา
๔. ความสามารถในการใชท ักษะชีวติ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค
๑. รกั ความเปนไทย
๒. ใฝเ รยี นรู
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี นิ ยั
๕. อยูอยา งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู
- ความหมายของคาํ
- การใชค าํ
กระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. ครูนาํ ภาพมาใหนกั เรียนดู เพอ่ื กระตนุ ความสนใจของนักเรยี น เชน ภาพพรี ะมิด แมลงกุดจ่ี แมลงส
คารับ ศลิ าจารึก และเปนตน
๒. ครูใชบัตรคําชูใหนักเรียนดูและฝกอานเพื่ออธิบายความหมายของคําวา “กฐิน กระดาษสา โกฏิ
ปโกฎิ พีระมิด แมลงกุดจ่ี แมลงสคารับ ศิลาจารึก สังขยา ทะมึน เพิงผา ระลอก รูปลักษณ บวงสรวง
พีระมิด สนี ้าํ หมาก มคั คเุ ทศกฯลฯ ” ใหนักเรียนชวยกันอธบิ ายความหมายของคําเหลา น้ี
๓. แบงกลุม นักเรียนโดยคละความสามารถฝก อานคาํ และผลดั กันถามตอบ
๔. ครูสมุ นักเรียนใหออกมาอา นคําและบอกความหมายของคํา โดยใหเพ่ือนๆ ชวยกันประเมินการอาน
จนครบทกุ คํา ครชู ว ยแนะนํา
๕. นักเรียนรว มกนั สรุปผลการเรียนรู โดยถามตอบเก่ยี วกับคาํ ศพั ทเปนการประเมนิ ตนเองของนักเรียน
ครสู งั เกตพฤติกรรมการเรียนรูของนกั เรียน
๖. นักเรียนทาํ กจิ กรรมฝก ทักษะเขยี นคาํ ศัพทและความหมายของคาํ นาํ สง ครสู อบความถกู ตอง
๗. นักเรยี นทําแบบฝกหัดรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที่
๖ ขอ ๒ บอกความหมาย อธิบายและฝก ใชคํา หนา ๓
ส่ือ / แหลง เรยี นรู
๑. บัตรคาํ
๒. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปที่ ๖
๓. แบบฝก หดั รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
การวดั ผลและประเมินผล รอยละ ๗๕ – ๘๐
๑) วธิ ปี ระเมนิ รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหดั
๒) เครื่องมอื ประเมนิ
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
- ทาํ แบบฝกหัด
๓) เกณฑก ารประเมนิ
- นักเรียนผานเกณฑการสงั เกตพฤติกรรม
- นักเรียนผานเกณฑการทําแบบฝกหดั
แผนการจดั การเรียนรูท ่ี ๒
กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ ๖
หนว ยการเรียนรูท ่ี ๑ เร่ือง จากผาแตม...สอู ยี ิปต เวลา ๘ ชว่ั โมง
เร่ือง การอานออกเสยี ง เวลา ๑ ชวั่ โมง
.....................................................................................
สาระสําคัญ
การอานออกเสยี ง เปนการอา นใหผ อู ่นื ฟง ฉะนน้ั ผูอานจะตอ งแบง วรรคตอน เนน เสียงหนกั เบา และออก
เสียงใหถกู ตองชัดเจน จึงจะสือ่ ความหมายไดอยางมีประสิทธิภาพ
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจแกปญหาในการดําเนิน ชีวิต
และมนี สิ ยั รกั การอา น
ตวั ชีว้ ดั
ป.๖/๑ อา นออกเสยี งบทรอยแกว และบทรอยกรองได
จดุ ประสงค
๑. นักเรยี นอา นออกเสียงเนอื้ หาในบทเรียนได
๒. นกั เรยี นจับใจความเร่ืองที่อา นได
๓. นกั เรยี นตอบคาํ ถามเร่ืองท่อี า นได
สมรรถนะสําคัญของผูเรียน
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกปญ หา
๔. ความสามารถในการใชท ักษะชวี ติ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค
๑. รักความเปน ไทย
๒. ใฝเรยี นรู
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยูอยางพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู
- การอานออกเสียง
- การจบั ใจความสาํ คญั
- การตอบคาํ ถาม
กระบวนการจัดการเรยี นรู
๑. ครูนาํ ตวั อยา งบทรอยกรองประเภทกาพยยานี ๑๑ จํานวน ๒ บท มาติดบนกระดานดําใหนักเรียน
อา นออกเสียงพรอมๆ กัน ดังนี้
หัวใจนักปราชญ
การเรยี นตองรหู ลัก ตอ งรูจักจดและจํา
สุ จิ ปุ ลิ นํา ใหกา วหนา พามน่ั คง
หวั ใจของนกั ปราชญ อยากฉลาดอยาลมื หลง
ฟง คดิ ถาม เขียน จง จดจําไวจะไดดี
(ราณี สระบวั .....ประพนั ธ)
๒. ครูใหนกั เรียนชวยกนั บอกหลกั เกณฑการอา นออกเสียงท่ีดี เชน อานคลอง อานถูกตอง ชัดเจน เวน
วรรคตอนถูกตอง ใชนํา้ เสยี งสอดคลองกบั อารมณข องตวั ละคร เปน ตน
๓. ครูสาธิตการอา นทด่ี ใี หน กั เรยี นฟง หรือใหนกั เรยี นฟงจากเครอื่ งบันทึกเสียงก็ได เพื่อเปนแนวทางใน
การอา นของนักเรียน
๔. นักเรียนอานเน้ือหาในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้น
ประถมศึกษาปที่ ๖ หนา ๒ – ๘ “จากผาแตม...สูอียิปต” โดยอานตอกันคนละ ๑ ยอหนา แลวรวมกัน
สนทนาถงึ เนื้อหาวา ใคร ทําอะไร ทไี่ หน ผลเปน อยางไร แลว ชว ยกนั เลาเร่อื งตอเนื่องจนจบ โดยครูชวยเพ่ิมเติม
สวนท่ีบกพรอง
๕. นักเรยี นชวยกันสรปุ ความรู เรื่องการอา นออกเสยี งและการตอบคาํ ถาม
๖. นกั เรียนทาํ แบบฝก หัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี
๖ หนา ๑ – ๒
สื่อ / แหลง เรียนรู
๑. กาพยย านี ๑๑ “หวั ใจนักปราชญ”
๒. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปที่ ๖
๓. แบบฝกหัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
๑) วิธีประเมิน รอยละ ๗๕ – ๘๐
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หัด
๒) เคร่ืองมือประเมิน
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝกหดั
๓) เกณฑก ารประเมิน
- นกั เรียนผา นเกณฑก ารสังเกตพฤติกรรม
- นกั เรียนผา นเกณฑการทาํ แบบฝก หดั
แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๓
กลุมสาระการเรยี นรูภ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
หนวยการเรียนรทู ี่ ๑ เรอ่ื ง จากผาแตม...สอู ียิปต เวลา ๘ ชว่ั โมง
เร่ือง การอา น คดิ วเิ คราะห เวลา ๑ ช่ัวโมง
.....................................................................................
สาระสําคญั
การวิเคราะหเรื่อง เปนการพิจารณาสว นตา งๆ ของเรื่อง เชน ขอเท็จจริงและขอคิดเห็น สวนดีและสวน
บกพรอ งของเนือ้ เรือ่ ง จุดประสงคข องผูแตง ความเหมาะสมในการใชคํา ประโยค ขอความ ฯลฯ สรุปขอคิดที่ได
จากเรอื่ ง สามารถนาํ ความรทู ่ไี ดรบั ไปใชป ระโยชนในชีวิตประจําวัน
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจแกปญหาในการดําเนิน ชีวิต
และมีนิสัยรักการอาน
ตัวชวี้ ัด
ป.๖/๔ แยกขอเทจ็ จรงิ และขอคิดเหน็ จากเรอื่ งที่อาน
จดุ ประสงค
๑. นกั เรยี นตงั้ คาํ ถาม – ตอบคําถามเรอื่ งท่อี านได
๒. นกั เรียนแยกขอเทจ็ จริงและขอคดิ เหน็ จากเรือ่ งท่อี า นได
๓. นักเรยี นสรุปขอ คดิ ท่ีไดจ ากการอานได
สมรรถนะสําคญั ของผูเรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกปญหา
๔. ความสามารถในการใชทักษะชีวติ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค
๑. รกั ความเปนไทย
๒. ใฝเ รียนรู
๓. มีจิตสาธารณะ
๔. มีวินยั
๕. อยูอยา งพอเพยี ง
สาระการเรียนรู
- การตั้งคาํ ถามและตอบคําถาม
- การแยกขอ เทจ็ จรงิ และขอคิดเห็น
กระบวนการจดั การเรียนรู
๑. ครูนําภาพเขียนสีที่ผาแตม และพีระมิดท่ีอียิปตมาใหนักเรียนดูอีกครั้งหนึ่ง พรอมทั้งสนทนา
ซักถาม
๒. แบงนกั เรยี นออกเปน กลุมโดยคละความสามารถ กลุมละ ๔ – ๕ คน ใหแตละกลุมเลือกประธาน
กลุม รองประธานกลุม และเลขานุการกลุม ครูอธิบายบทบาทและหนาท่ีของสมาชิกทุกคนในกลุมใหนักเรียน
ทราบ
๓. ใหนักเรียนแตละกลุมอานในใจเน้ือหาบทเรียน จากหนังสือภาษาไทย ชุด ภาษาพาที ชั้น
ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ บทท่ี ๑ “จากผาแตม...สูอียิปต” จากหนา ๒ ถึงหนา ๘ อีกคร้ัง จากน้ันใหแตละกลุมตั้ง
คําถามใหกลมุ อ่ืนตอบ กลุมละ ๒ คาํ ถาม
๔. ครตู ้งั คําถามตอไปนใ้ี หน กั เรยี นแตล ะกลุมตอบ
คาํ วา “ผาแตม” ในเรือ่ งน้ี หมายถึงสถานที่ใด อยูท่ไี หน
เหตุใดจึงเรยี กวา ผาแตม
เอ้ืองและอินตน่ื เตน เรอื่ งอะไร
นกั เรยี นคิดวา ภาพวาดท่ผี าแตม นาจะวาดไวใ นสมัยใด
ผาแตมและพีระมดิ มีความเหมือนหรือแตกตางกนั ในเร่อื งใดบาง
ในจงั หวัดของนักเรียนมีสถานที่ทองเทีย่ วใดบา ง
นกั เรียนเคยไปเทย่ี วท่ใี ดมาบา ง นอกจากในทองถน่ิ ตนเอง
ใหแ ตละกลุม ชว ยกันเขยี นคาํ ตอบลงในแผน กระดาษ จากนั้นสงตัวแทนออกมาอานคําตอบท่ีหนาช้ัน
เรยี น ครชู มเชยกลมุ ท่ีตอบไดด ี
๕. รว มกนั สนทนาถึงเน้ือหาของเรื่อง “จากผาแตม...สูอียิปต” ครูซักถามนักเรียนวานักเรียนไดเรียนรู
อะไรบางจากการอานเร่อื งนี้
๖. นกั เรียนทําแบบฝก หดั รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที่
๖ หนา ๔
ส่ือ / แหลง เรียนรู
๑. ภาพเขียนสีที่ผาแตม ภาพพรี ะมดิ ทีอ่ ียิปต
๒. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชวี ติ ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ ๖
๓. แบบฝก หัด รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
๑) วิธีประเมิน รอยละ ๗๕ – ๘๐
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หัด
๒) เคร่ืองมือประเมิน
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝกหดั
๓) เกณฑก ารประเมนิ
- นกั เรียนผา นเกณฑก ารสังเกตพฤติกรรม
- นักเรียนผานเกณฑการทาํ แบบฝก หดั
แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี ๔
กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
หนวยการเรยี นรูท ี่ ๑ เร่อื ง จากผาแตม...สูอียปิ ต เวลา ๘ ช่วั โมง
เรือ่ ง การอานเสริมบทเรียน เวลา ๑ ช่ัวโมง
.....................................................................................
สาระสําคญั
การอา นเสริมบทเรยี น ทาํ ใหผูอา นไดรบั ความรู ความบนั เทงิ และขอ คิดจากการอาน และสามารถเลือก
หนังสืออา นไดต รงตามความตองการ นอกจากน้ีที่สําคัญ คือสามารถนําความรูท่ีไดรับจากการอานมาปรับใชให
เปน ประโยชนใ นชีวิตประจาํ วันได
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปตัดสินใจแกปญหาในการดําเนิน ชีวิต
และมนี สิ ยั รกั การอาน
ตวั ชวี้ ัด
ป.๖/๑ อา นออกเสียงบทรอ ยแกว และบทรอ ยกรองไดถกู ตอง
จดุ ประสงค
๑. นักเรียนอา นและจบั ใจความสําคัญของบทรอยกรองได
๒. นักเรยี นคดิ วเิ คราะหสรปุ บทรอยกรองทอ่ี าน
๓. นกั เรยี นตั้งคําถาม – ตอบคําถามเกีย่ วกับบทรอ ยกรองได
สมรรถนะสาํ คัญของผเู รียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป ญหา
๔. ความสามารถในการใชท กั ษะชีวิต
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รักความเปนไทย
๒. ใฝเ รยี นรู
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี นิ ัย
๕. อยูอ ยางพอเพียง
สาระการเรยี นรู
การอา นบทรอ ยกรอง “ตวั เลขไทย”
กระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. ทบทวนเน้อื หาท่เี รยี นในช่ัวโมงท่แี ลวดว ยการสนทนารว มกนั
๒. นักเรยี นอานในใจบทรอยกรอง “ตัวเลขไทย” จากนั้นนกั เรียนรวมกันอภปิ ราย ซกั ถามเน้อื หาสาระ
การเรยี นรู ครตู ้ังคาํ ถามใหน กั เรียนแตล ะกลุมชวยกันคิดหาคาํ ตอบ ตวั อยา ง เชน
บทรอ ยกรอง “ตวั เลขไทย” เปนคําประพนั ธลกั ษณะใด
การนับสงั ขยา หมายความวา อะไร
ตัวเลขไทยมีมาตง้ั แตสมยั ใด
ผแู ตง มจี ดุ ประสงคใ ดในการแตงเรือ่ งน้ี
“ปโกฏิ” หมายความวา อยา งไร
ใครเปน ผูท ่ปี ระดษิ ฐอ ักษรไทย
๓. นกั เรียนทกุ คนเขียนคําถามและคําตอบลงในสมุด นักเรียนและครูชวยกันสรุปเน้ือหาสาระ การ
เรยี นรู
๔. นกั เรียนทําแบบฝกหดั รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที่
๖ เร่ืองบอกความหมาย อธิบายและฝกใชค าํ ขอ ๑
สื่อ / แหลงเรียนรู
๑. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชีวติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ ๖
๒. แบบฝกหดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖
การวัดผลและประเมินผล รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
๑) วธิ ปี ระเมิน รอยละ ๗๕ – ๘๐
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝก หดั
๒) เครื่องมอื ประเมนิ
- แบบสงั เกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝก หัด
๓) เกณฑการประเมนิ
- นักเรยี นผา นเกณฑการสังเกตพฤตกิ รรม
- นกั เรียนผา นเกณฑก ารทําแบบฝกหัด
แผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๕
กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖
หนว ยการเรียนรทู ี่ ๑ เร่ือง จากผาแตม ...สอู ยี ิปต เวลา ๘ ช่วั โมง
เรื่อง การอานตัวเลขไทย เวลา ๑ ช่วั โมง
.....................................................................................
สาระสําคญั
ตัวเลขไทยมใี ชม าตงั้ แตก ําเนดิ ตัวอักษรไทยสมัยพอ ขุนรามคาํ แหงมหาราช ใชแทนจํานวน ใชแทนวันแต
ละวันในสัปดาห แทนเดือนในแตล ะเดือนในรอบป เราควรภาคภูมิใจท่ีชาติไทยเรามีตัวเลขใชเปนของตัวเอง ซึ่ง
แสดงถงึ เอกลกั ษณความเปนไทยและภมู ิปญ ญาไทยในอดีต
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปตัดสินใจแกปญหาในการดําเนิน ชีวิต
และมีนิสัยรักการอา น
ตัวช้ีวดั
ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายของคํา ประโยคและขอความท่ีเปน โวหาร
จุดประสงค
๑. นกั เรยี นอา นตวั เลขไทยได
๒. นกั เรียนบอกคา ของจาํ นวนตา งๆในเลขไทยได
๓. นกั เรยี นใชตัวเลขไทยไดถูกตอง
สมรรถนะสาํ คญั ของผูเรียน
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกปญ หา
๔. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รกั ความเปนไทย
๒. ใฝเรียนรู
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยูอ ยา งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู
การอา น เขียนตวั เลขไทย
กระบวนการจดั การเรียนรู
๑. ทบทวนเน้อื หาทเ่ี รยี นในช่ัวโมงท่ีแลว ดวยการใหน กั เรยี นรวมกนั ตรวจสอบและเฉลยแบบฝกทกั ษะอีก
ครง้ั
๒. นกั เรยี นแบง กลมุ ออกเปนกลุมละ ๔ – ๕ คน โดยคละความสามารถ ใหแตละกลุมเลือกหัวหนา
กลุม รองหัวหนากลุม และเลขานุการกลุม ศึกษาความรูจากเร่ืองการอาน การใชตัวเลขไทย หนังสือเรียน
รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที่ ๖ หนา ๙ – ๑๑ อภปิ รายรวมกัน
๓. ครูอธิบายเก่ียวกับการใชตัวเลขไทย สรางจิตสํานึกใหนักเรียนชวยกันอนุรักษความเปนไทย การ
เขยี นตวั เลขในการเรยี นวชิ าภาษาไทยและวชิ าอนื่ ๆควรเขยี นตวั เลขไทย
๔. นกั เรียนศกึ ษาเนื้อหาเกี่ยวกับ ตัวเลขไทยในหนังสือเรียนหนา ๑๐ – ๑๑ และใบความรู จากน้ันให
นักเรียน ๓ – ๕ คนตง้ั คําถามใหเ พ่ือนตอบ
๕. นกั เรียนทาํ แบบฝกทักษะการเขียนคําอานของสัญลักษณวันท่ี และเดือนทางจันทรคติ ที่กําหนดให
จากน้ันนาํ สง ครู ครูเฉลยและตรวจสอบความถกู ตอง
๖. นักเรียนทําแบบฝกทักษะบอกความหมายจากคําที่กําหนดให เสร็จแลวนําสงครูตรวจสอบความ
ถูกตอ ง
สอื่ / แหลง เรียนรู
๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ ๖
๒. แบบฝกหดั รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
การวดั ผลและประเมินผล รอยละ ๗๕ – ๘๐
๑) วธิ ปี ระเมิน รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หัด
๒) เครอื่ งมอื ประเมิน
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝก หัด
๓) เกณฑก ารประเมิน
- นกั เรยี นผา นเกณฑการสงั เกตพฤตกิ รรม
- นกั เรยี นผา นเกณฑก ารทาํ แบบฝกหัด
แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี ๖
กลุมสาระการเรยี นรูภ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปท ี่ ๖
หนวยการเรียนรูที่ ๑ เรื่อง จากผาแตม ...สูอยี ปิ ต เวลา ๘ ชัว่ โมง
เร่ือง พยางคแ ละคํา เวลา ๑ ชั่วโมง
.....................................................................................
สาระสาํ คญั
เสยี งทเ่ี ปลงออกมาแตล ะครัง้ จะมีความหมายหรือไมม คี วามหมายกต็ าม เรียกวา “พยางค” ถา พยางคมี
ความหมายจะเรยี กวา “คํา”
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๔.๑ เขา ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมปิ ญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเปน สมบตั ิของชาติ
ตวั ชวี้ ดั
ป.๖/๔ ระบุลกั ษณะของประโยค
จุดประสงค
๑. นักเรยี นบอกลกั ษณะของพยางคไ ด
๒. นกั เรยี นบอกลกั ษณะของคาํ ได
๓. นักเรยี นประสมอักษร สระ วรรณยุกตเ ปน คาํ ได
สมรรถนะสําคัญของผเู รียน
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป ญ หา
๔. ความสามารถในการใชท กั ษะชีวติ
คุณลักษณะอนั พึงประสงค
๑. รักความเปน ไทย
๒. ใฝเรียนรู
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวินยั
๕. อยอู ยา งพอเพียง
สาระการเรยี นรู
- พยางคแ ละคําในภาษาไทย
- การประสมอกั ษร
กระบวนการจัดการเรยี นรู
๑. ครนู าํ แผนภูมเิ พลง “ภมู ใิ จคาํ ไทยของเรา” มาตดิ บนกระดานดาํ ใหน กั เรยี นอา นออกเสียงพรอมกัน
รองตามครู ๑ เทย่ี ว และรอ งเอง ๒ เทย่ี วพรอมทั้งปรบมอื ประกอบจังหวะ ดงั น้ี
เพลงภูมิใจคําไทยของเรา
ทํานอง เพลงแมส ะเรยี ง คาํ รอ ง ราณี สระบวั
คําไทยน่หี รอื เปน เครอ่ื งมือของเรา
อกั ษรมีมานานเนา พูดบอกเลาเขา ใจ
ส่อื สารกนั ไดท นั ใด
อา นเขยี นตองถูกหลักการ เอกลักษณเ ดนของไทย
เราจงภมู ิใจและนาํ ไปใชใหเ ปน ใชค าํ ไทยนนั่ ดวยความสุขใจ
ใชคําไทยนนั่ ดว ยความภูมใิ จ
โปรดจงมาชวยกนั
พดู ใหเขา ใจพลนั
๒. ใหน กั เรยี นศึกษาเรื่อง พยางคแ ละคาํ จากหนงั สือเรียนภาษาพาที ชั้น ป.๖ หนา ๑๓ ครูอธิบาย
เพิม่ เติมใหนักเรียนศกึ ษาความรปู ระกอบ เปดโอกาสใหน ักเรียนซักถามปญหาขอสงสัย
๓. ครอู ธบิ ายเก่ยี วกับความหมายของพยางคและคําในภาษาไทย ยกตัวอยางประกอบ สอบถามความ
เขาใจนกั เรียน พรอมท้งั ตั้งคําถามใหนกั เรียนแขงขันกนั ตอบ
๔. นักเรยี นทําแบบฝกทกั ษะ บอกจาํ นวนพยางคและคาํ อา นของคําท่ีกําหนดให ครูเฉลยและนักเรียน
แลกเปล่ียนกนั ตรวจสอบความถูกตอง
๕. นักเรียนทําแบบฝกทักษะ บอกสวนประกอบของคําที่กําหนดให เสร็จแลวครูเฉลยและอธิบาย
เพม่ิ เติม นักเรียนตรวจสอบและแกไขใหถ ูกตอ ง
สอ่ื / แหลง เรียนรู
๑. เพลงภูมิใจคําไทยของเรา
๒. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
๓. แบบฝก หัด รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวติ ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปท่ี ๖
การวดั ผลและประเมินผล
๑) วธิ ปี ระเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝกหดั
๒) เคร่อื งมือประเมิน
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝกหดั
๓) เกณฑก ารประเมิน
- นักเรียนผา นเกณฑการสงั เกตพฤติกรรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา นเกณฑการทําแบบฝก หดั รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรูที่ ๗
กลุมสาระการเรียนรภู าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที่ ๖
หนวยการเรยี นรทู ่ี ๑ เรอื่ ง จากผาแตม...สอู ียิปต เวลา ๘ ชั่วโมง
เร่ือง การหาขอ คิดจากเรือ่ ง เวลา ๑ ชวั่ โมง
.....................................................................................
สาระสําคัญ
การหาขอคดิ จากเรื่องท่อี าน จะชว ยใหผ อู านเขา ใจเร่ืองที่อานไดล ึกซ้ึง และเขาใจความคิดของผูเขียนท่ี
แฝงไวในเรือ่ ง เชนคตธิ รรม คาํ สอน มุมมองตา งๆ อันเปน ประโยชนต อ การนาํ ไปประยกุ ตใ ชใ นการดาํ เนินชีวติ
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอา นสรางความรแู ละความคดิ เพอื่ นาํ ไปใชต ดั สินใจ แกปญหาในการดําเนินชีวิต
และมนี ิสยั รกั การอาน
ตวั ชี้วัด
ป.๖/๕ อธบิ ายการนําความรแู ละความคดิ จากเร่อื งทีอ่ า น ไปตัดสนิ ใจแกป ญ หาในการดาํ เนนิ ชีวิต
จดุ ประสงค
๑. นักเรียนหาขอ คิดจากเรอ่ื งทอ่ี า นได
๒. นกั เรยี นเขียนแผนภาพโครงเร่อื งได
สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกปญ หา
๔. ความสามารถในการใชทักษะชีวติ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค
๑. รักความเปน ไทย
๒. ใฝเรียนรู
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ยั
๕. อยอู ยา งพอเพียง
สาระการเรยี นรู
- การหาขอคิดจากเร่ืองท่ีอา น
- การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง
กระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. ทบทวนเนอ้ื หาท่ีเรียนในช่ัวโมงที่แลวดวยการใหนักเรียนนําคําตอบจากแบบฝกทักษะ มารวมกัน
ตรวจสอบและเฉลยอกี ครงั้
๒. ใหนกั เรียนแบงกลมุ กลมุ ละ ๔ – ๕ คน ใหแตล ะกลมุ อา นเร่ือง จากผาแตม...สอู ียิปต โดยอานอยา ง
ละเอียดอีกคร้ัง รวมกันพิจารณาวาผูเขียนเรื่องน้ีตองการส่ือเนื้อหาใดแกผูอาน โดยใหแตละกลุมชวยกันตอบ
คาํ ถามตอ ไปนี้
เรอ่ื งนีม้ ุงเนนใหผ อู า นไดม จี ิตสาํ นึกในเร่ืองใด
มีคุณธรรมทแี่ ฝงอยูหรือไม เปนคณุ ธรรมดานใด
นักเรยี นเกดิ ขอคิดอยางไร
ผอู า นสามารถสาระที่ไดประประยุกตใ นชวี ติ ประจาํ วันอยางไร
นักเรียนเกิดมุมมองในการทองเทยี่ วในไทยและตางประเทศอยางไร
๓. ใหนักเรยี นแตละกลมุ ตอบคาํ ถามลงในแผน กระดาษ แลว สง ตัวแทนอานคาํ ตอบน้นั ทห่ี นาช้นั เรยี น
๔. ใหนักเรียนศึกษาเนื้อหา “การหาขอคิดจากเรื่องท่ีอาน” จากหนังสือเรียนชุดภาษาพาที ช้ัน
ประถมศกึ ษาปที่ ๖ หนา ๑๓ – ๑๔ รวมทงั้ การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง ครูอธิบายหลักการเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง
๕. นักเรียนทาํ แบบฝก ทกั ษะ เขียนขอคดิ ทไ่ี ดจ ากการอานเรือ่ ง “จากผาแตม ...สอู ยี ิปต” เสรจ็ แลว นาํ สง
ครูตรวจสอบความถกู ตอ ง ครูอธิบายสรุป
สื่อ / แหลงเรียนรู
๑. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๖
๒. แบบฝก หัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๖
การวัดผลและประเมนิ ผล
๑) วิธีประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหัด
๒) เคร่ืองมือประเมิน
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
- ทําแบบฝกหัด
๓) เกณฑก ารประเมนิ
- นักเรียนผา นเกณฑการสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา นเกณฑการทําแบบฝกหดั รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๘
กลมุ สาระการเรยี นรูภ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที่ ๖
หนวยการเรียนรูท ี่ ๑ เร่อื ง จากผาแตม ...สอู ยี ปิ ต เวลา ๘ ช่ัวโมง
เรื่อง หลักการคดิ วิเคราะห เวลา ๑ ชั่วโมง
.....................................................................................
สาระสําคัญ
การวเิ คราะหเปนการพิจารณาสวนตางๆของเรื่อง องคประกอบตางๆ ของสิ่งใดส่ิงหน่ึง ซ่ึงอาจจะเปน
วตั ถุ ส่งิ ของ เร่อื งราว หรอื เหตกุ ารณและหาความสัมพันธเชิงเหตุผลระหวางองคประกอบเหลาน้ัน เพื่อคนหา
สภาพความเปน จรงิ หรอื สงิ่ สาํ คญั ของสิ่งท่กี าํ หนดให และการนาํ ไปใชป ระโยชนในชวี ิตประจําวัน
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรแู ละความคิดเพื่อนําไปใชตัดสินใจ แกปญหาในการดําเนินชีวิต
และมนี สิ ยั รักการอาน
ตวั ชี้วัด
ป.๖/๔ แยกขอเทจ็ จริงและขอคดิ เห็นจากเรือ่ งที่
จุดประสงค
๑. นกั เรียนบอกหลกั การคดิ วิเคราะหได
๒. คดิ วิเคราะหเ ร่ืองทอ่ี า นหรอื ฟง ได
สมรรถนะสาํ คญั ของผูเรียน
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกปญ หา
๔. ความสามารถในการใชท ักษะชีวติ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค
๑. รักความเปน ไทย
๒. ใฝเรยี นรู
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี นิ ัย
๕. อยอู ยางพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู
- ลกั ษณะของการคดิ วิเคราะห
- ประโยชนของการคดิ วเิ คราะห
กระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. นักเรียนแบง กลมุ ออกเปน กลมุ ละ ๔ – ๕ คน โดยคละความสามารถ (อาจใชกลุมถาวรก็ได)
๒. ใหนักเรยี นอา นบทเรียนเรอื่ ง “จากผาแตม ...สูอยี ิปต” อีกคร้ัง แลวใหแตละกลุมชวยกันหาคําตอบท่ี
ครใู ชถามดังน้ี
บทเรียนน้กี ลา วถงึ สถานทใ่ี ดบาง
มีตัวละครท่ีกลา วถึงกคี่ น
ภาพเขยี นทีผ่ าแตมเปนรูปอะไรบา ง
ภาพเขยี นสมยั โบราณมอี ยูท่ีใดอกี บา งนอกเหนอื จากผาแตม
ลักษณะของภาพเขยี นโบราณสว นมากเปน อยางไร
นกั เรียนไดข อ คิดใดจากเรอ่ื งนี้
๓. นักเรยี นทําใบงานเร่ืองการวเิ คราะหตอ เตมิ เร่อื งทีก่ าํ หนดให เสรจ็ แลว นําสง ครู ใหแ ตล ะคนอานเรื่อง
ทต่ี นเองตอ เติมใหเ พ่ือนๆ ฟง
สื่อ / แหลง เรียนรู
๑. หนงั สือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปที่ ๖
๒. แบบฝกหัด รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
การวัดผลและประเมนิ ผล
๑) วธิ ปี ระเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝก หดั
๒) เคร่อื งมือประเมนิ
- แบบสงั เกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝกหดั
๓) เกณฑก ารประเมิน
- นักเรยี นผา นเกณฑก ารสังเกตพฤติกรรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา นเกณฑการทําแบบฝก หัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐