แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายวิชาภาษาไทย รหสั ท๑๖๑๐๑
ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ (ภาษาพาท)ี
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรอื่ งละครยอ้ นคดิ
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
ของ
นายธชั พงศ์พัชร์ พนั ธุ์แกว้ ตาแหนง่ ครูชานาญการ
โรงเรยี น บา้ นแม่ตะละเหนือ
อาเภอ กัลยาณิวฒั นา จงั หวดั เชยี งใหม่
สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต ๖
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แผนการจดั การเรียนรูที่ ๑
กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๖
หนวยการเรียนรทู ่ี ๕ เรอื่ ง ละครยอนคดิ เวลา ๘ ชั่วโมง
เรื่อง อา น เขียน คาํ ควรรคู คู วามหมาย เวลา ๑ ชวั่ โมง
.....................................................................................
สาระสาํ คญั
การอา น และการเขยี นคาํ ควรรูค ูความหมาย จะชวยใหการอานเรื่องราวในบทเรียนเขาใจไดงาย และ
สามารถพฒั นาทกั ษะทางภาษาไดด ี
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอา นสรางความรแู ละความคดิ เพื่อนําไปตัดสินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ
มนี ิสัยรักการอา น
ตวั ชวี้ ดั
ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายของคาํ ประโยคและขอ ความที่เปนโวหาร
จุดประสงค
๑. นักเรียนอา นคําศัพทยากไดถูกตอ ง
๒. นักเรยี นบอกความหมายของคําในบทเรยี นได
๓. นกั เรยี นใชค าํ ไดถ กู ตองตามบรบิ ท
สมรรถนะสาํ คญั ของผูเรยี น
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกปญ หา
๔. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รักความเปน ไทย
๒. ใฝเรียนรู
๓. มีจิตสาธารณะ
๔. มีวินยั
๕. อยูอยางพอเพียง
สาระการเรียนรู
- ความหมายของคํา
- การใชค ํา
กระบวนการจัดการเรียนรู
๑. ครูใชบัตรคําชูใหนักเรียนดูและฝกอานเพ่ืออธิบายความหมายของคําวา “กํามะหยี่ เทคนิค งาน
นกั ขตั ฤกษ งานมหรสพ ปพาทยเ คร่ืองใหญ พระพฆิ เนศ มโนราห ฯลฯ” ใหนกั เรียนแตละกลุมชวยกันอธิบาย
ความหมายของคําเหลา น้ี
๒. ใหนกั เรยี นแตล ะกลมุ ไปสบื คน ขอ มลู และหารูปภาพที่ตรงกับคําและคนหาความหมายของคําเหลาน้ี
เปนการบา น นํามาเฉลยกันในช่ัวโมงตอ ไป
๓. นักเรยี นทาํ แบบฝกทักษะ เร่ือง เขียนความหมายของคําที่กําหนดให จากคําที่กําหนดให จากน้ัน
นําสง ครู ครูเฉลยและตรวจสอบความถูกตอ ง
๔. นกั เรียนทาํ แบบฝกหดั รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี
๖ บอกความหมาย อธิบายและฝกใชค ํา หนา ๔๑ – ๔๓ จากนั้นนําสงครู ครูเฉลยและตรวจสอบความถูกตอง
ครูเนนใหนักเรียนมีความขยันหมั่นเพียร ซอื่ สตั ย และตรงตอ เวลา
สือ่ / แหลง เรยี นรู
๑. บตั รคํา
๒. หนงั สือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปที่ ๖
๓. แบบฝก หัด รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ิต ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปท่ี ๖
การวดั ผลและประเมินผล
๑) วธิ ปี ระเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหัด
๒) เครือ่ งมือประเมนิ
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝกหดั
๓) เกณฑการประเมิน
- นกั เรียนผา นเกณฑก ารสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผานเกณฑก ารทําแบบฝกหดั รอยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๒
กลุม สาระการเรยี นรภู าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖
หนว ยการเรียนรทู ่ี ๕ เรอื่ ง ละครยอนคดิ เวลา ๘ ชว่ั โมง
เรื่อง การอานออกเสยี ง เวลา ๑ ชัว่ โมง
.....................................................................................
สาระสําคญั
การอา นออกเสียง เปนการอา นใหผูอน่ื ฟง ฉะนัน้ ผูอา นจะตอ งแบง วรรคตอน เนนเสยี งหนกั เบา และออก
เสยี งใหถ ูกตองชดั เจน จงึ จะสอื่ ความหมายไดอ ยา งมปี ระสทิ ธิภาพ
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๑.๑ ใชก ระบวนการอานสรา งความรูและความคดิ เพอ่ื นําไปตดั สนิ ใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ
มีนิสยั รักการอา น
ตวั ชวี้ ัด
ป.๖/๑ อานออกเสยี งบทรอ ยแกวและบทรอ ยกรองได
จุดประสงค
๑. นกั เรียนอา นออกเสยี งเนอ้ื หาในบทเรยี นได
๒. นักเรียนจบั ใจความเรือ่ งท่ีอา นได
๓. นักเรยี นตอบคําถามเรอ่ื งทอ่ี า นได
สมรรถนะสําคัญของผเู รียน
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกปญ หา
๔. ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ติ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รกั ความเปน ไทย
๒. ใฝเรยี นรู
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยูอยา งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู
- การอา นออกเสียง
- การจบั ใจความสาํ คัญ
- การตอบคําถาม
กระบวนการจัดการเรยี นรู
๑. ครใู หนักเรียนชวยกันบอกหลักเกณฑการอานออกเสียงท่ีดี เชน อานคลอง อานถูกตอง ชัดเจน
เวน วรรคตอนถกู ตอ ง ใชน าํ้ เสยี งสอดคลองกับอารมณของตัวละคร เปน ตน
๒. ครสู าธิตการอานท่ดี ีใหนกั เรียนฟง หรือใหนักเรียนฟงจากเคร่ืองบันทึกเสียงก็ได เพ่ือเปนแนวทางใน
การอา นของนักเรยี น
๓. นักเรียนอานเนื้อหาในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ช้ัน
ประถมศึกษาปท่ี ๖ หนา ๖๘ – ๗๒ โดยอานตอกันคนละ ๑ ยอหนา แลวรวมกันสนทนาถึงเน้ือหาวา ใคร
ทําอะไร ทไ่ี หน ผลเปนอยางไร แลว ชวยกนั เลา เรื่องตอเน่อื งจนจบ โดยครชู วยเพ่มิ เตมิ สว นท่บี กพรอ ง
๔. นกั เรียนชวยกนั สรุปความรู เร่ืองการอา นออกเสยี งและการตอบคําถาม และขอ คดิ ท่ไี ดจ ากบทอาน
๕. นักเรียนทําแบบฝกหัด รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาป
ท่ี ๖ หนา ๔๐ – ๒๑ เสร็จแลวนาํ สงครเู พ่ือตรวจสอบความถูกตอง
สือ่ / แหลงเรียนรู
๑. หนงั สือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๖
๒. แบบฝกหัด รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖
การวัดผลและประเมนิ ผล
๑) วิธปี ระเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหัด
๒) เคร่ืองมือประเมนิ
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทาํ แบบฝก หดั
๓) เกณฑการประเมนิ
- นักเรยี นผา นเกณฑการสังเกตพฤติกรรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา นเกณฑก ารทาํ แบบฝก หดั รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี ๓
กลุมสาระการเรยี นรูภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ ๖
หนวยการเรียนรูที่ ๕ เรอื่ ง ละครยอนคดิ เวลา ๘ ชั่วโมง
เร่ือง การอา นคิด วเิ คราะห เวลา ๑ ช่ัวโมง
.....................................................................................
สาระสาํ คัญ
การวิเคราะหเ รื่อง เปนการพิจารณาสว นตางๆของเร่ือง เชน ขอเท็จจริงและขอคิดเห็น สวนดีและสวน
บกพรองของเนอื้ เร่ือง จุดประสงคของผูแ ตง ความเหมาะสมในการใชคํา ประโยค ขอความ ฯลฯ สรุปขอคิดท่ีได
จากเรอื่ ง สามารถนาํ ความรทู ไ่ี ดร ับไปใชประโยชนในชีวติ ประจําวัน
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคดิ เพือ่ นาํ ไปตดั สินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ
มีนสิ ัยรกั การอาน
ตัวชว้ี ดั
ป.๖/๔ แยกขอ เท็จจริงและขอคดิ เหน็ จากเร่อื งที่อา น
จดุ ประสงค
๑. นักเรียนตัง้ คาํ ถาม – ตอบคาํ ถามเรอื่ งทอ่ี า นได
๒. นักเรยี นแยกขอ เทจ็ จรงิ และขอ คดิ เหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี า นได
๓. นักเรียนสรุปขอ คิดท่ีไดจากการอา นได
สมรรถนะสําคัญของผูเรยี น
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกปญหา
๔. ความสามารถในการใชท กั ษะชีวิต
คุณลักษณะอันพึงประสงค
๑. รกั ความเปน ไทย
๒. ใฝเ รยี นรู
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยอู ยา งพอเพยี ง
สาระการเรียนรู
- การตงั้ คาํ ถามและตอบคําถาม
- การแยกขอ เท็จจรงิ และขอคิดเหน็
กระบวนการจัดการเรยี นรู
๑. ครตู ดิ แผนภูมเิ พลงและเปดซีดีเพลง “สรรเสริญพระบารมี” ใหนักเรียนฟงรวมกันสนทนาเก่ียวกับ
เน้อื หาและความสําคญั และโอกาสท่ีใชเพลงนีบ้ รรเลง
๒. ใหนกั เรียนแตล ะกลุมอา นในใจเนอ้ื หาบทเรยี น จากหนงั สอื ภาษาไทยชดุ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษา
ปท ี่ ๖ เรือ่ ง “ละครยอนคิด” จากหนา ๖๘ ถึงหนา ๗๒ อกี ครั้ง จากน้ันใหแตละกลุมตั้งคําถามใหกลุมอื่นตอบ
กลมุ ละ ๒ คาํ ถาม
๓. ครูต้งั คําถามตอไปนใี้ หนักเรยี นแตละกลมุ ตอบ
เสยี งเพลงทํานองไทยทเี่ ปด กอนการแสดงมีวัตถปุ ระสงคเพือ่ อะไร
เพราะเหตใุ ดจึงไมอนุญาตใหถ ายภาพในโรงละครแหงชาติ
ละครมีลกั ษณะแตกตางจากการแสดงอืน่ ๆอยา งไร
นกั เรียนควรมีวัฒนธรรมในการแตง กายอยา งไร เมือ่ ไปชมละคร
จากเรื่อง สิง่ ใดเปน การปฏบิ ัตทิ ี่ดบี า ง
๔. ใหแตล ะกลุมชว ยกันเขียนคําตอบลงในแผน กระดาษ จากน้ันสงตัวแทนออกมาอานคําตอบท่ีหนาช้ัน
เรียน ครูชมเชยกลุมทต่ี อบไดด ี และชวยเพ่ิมเติมคาํ ตอบท่บี กพรอ งใหส มบรู ณย่ิงขึ้น
๕. รวมกนั สนทนาถงึ เนอื้ หาของเร่อื ง “ละครยอนคิด” ครูซักถามนักเรียนวานักเรียนไดขอคิดอะไรบาง
จากการอานเร่อื งนี้
๖. นกั เรียนต้ังคาํ ถาม ตอบคาํ ถามจากเร่ือง เปนรายบคุ คล เสร็จแลว นําสง ครเู พอื่ ตรวจสอบความถกู ตอ ง
ส่ือ / แหลง เรยี นรู
๑. แผนภูมิเพลงสรรเสริญพระบารมี
๒. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๖
๓. แบบฝกหดั รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) วิธีประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหัด
๒) เครื่องมอื ประเมนิ
- แบบสงั เกตพฤติกรรม
- ทําแบบฝก หดั
๓) เกณฑก ารประเมนิ
- นกั เรยี นผานเกณฑการสังเกตพฤตกิ รรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผานเกณฑก ารทําแบบฝก หดั รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี ๔
กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี ๖
หนวยการเรยี นรทู ่ี ๕ เรื่อง ละครยอ นคิด เวลา ๘ ชวั่ โมง
เรื่อง การอานเสรมิ บทเรยี น เวลา ๑ ชั่วโมง
.....................................................................................
สาระสาํ คัญ
การอานเสรมิ บทเรยี น ทําใหผอู า นไดร ับความรู ความบันเทิงและขอคดิ จากการอาน และสามารถเลือก
หนังสืออา นไดต รงตามความตอ งการ นอกจากนที้ ส่ี ําคัญ คอื สามารถนําความรทู ่ไี ดรบั จากการอา นมาปรับใชให
เปนประโยชนในชีวติ ประจําวนั ได
มาตรฐานการเรยี นรู
ท ๑.๑ ใชก ระบวนการอานสรา งความรูและความคดิ เพื่อนาํ ไปตัดสนิ ใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ
มนี สิ ัยรกั การอา น
ตวั ชวี้ ัด
ป.๖/๑ อานออกเสียงบทรอยแกวและบทรอ ยกรองไดถ ูกตอ ง
จุดประสงค
๑. นักเรียนอา นและจับใจความสาํ คัญของบทรอยกรองได
๒. นักเรียนคดิ วเิ คราะหส รปุ บทรอยกรองที่อาน
สมรรถนะสําคญั ของผูเ รยี น
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป ญ หา
๔. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ิต
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค
๑. รกั ความเปน ไทย
๒. ใฝเ รยี นรู
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยูอยา งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู
- การอานเสรมิ “ละครนอก”
กระบวนการจัดการเรยี นรู
๑. ทบทวนเนือ้ หาทเี่ รยี นในชวั่ โมงท่แี ลวดว ยการใหนักเรียนมารว มกันตรวจสอบแบบฝกทกั ษะและเฉลย
อกี คร้งั
๒. ครูนาํ ภาพตัวละครจากวรรณคดไี ทยมาใหนักเรียนดู และบอกถึงเร่ืองชื่อตัวละครใหนักเรียนทราบ
เชน นางมโนราห พระสธุ น พระสงั ข นางรจนา นางสีดา พระราม ฯลฯ
๓. นักเรียนอา นในใจบทอา นเสรมิ “ละครนอก” จากนั้นนักเรียนรวมกันอภิปรายซักถามเน้ือหาสาระ
การเรียนรู ครตู ง้ั คําถามใหนักเรียนแตล ะกลุมชวยกนั คิดหาคาํ ตอบ ตัวอยา ง เชน
ละครนอกเปนละครพืน้ บานท่ีมมี าตง้ั แตส มัยใด
ละครใดที่มรี ะเบยี บแบบแผนเครง ครดั
เรอื่ งอิเหนาเปน ละครนอกหรอื ละครใน
ละครที่มลี ีลาการแสดงมงุ ใหด าํ เนินเร่ืองเร็วและตลกขบขนั คือละครใด
ละครนอกและละครในตางกนั อยา งไร
เรอื่ งใดบางท่ีใชแสดงละครนอก
นกั เรียนมคี ดิ เหน็ อยา งไรบางเก่ียวกับการแสดงละคร
๔. นักเรียนทุกคนเขียนคําถามและคําตอบลงในสมุด นักเรียนและครูชวยกันสรุปเน้ือหาสาระการ
เรียนรูทั้งหมดอกี คร้ังหนึง่
ส่ือ / แหลง เรยี นรู
๑. ภาพตวั ละครในวรรณคดไี ทย
๒. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๖
๓. แบบฝกหดั รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี ๖
การวดั ผลและประเมินผล
๑) วิธีประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝก หัด
๒) เครือ่ งมอื ประเมิน
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทําแบบฝกหดั
๓) เกณฑการประเมนิ
- นักเรยี นผานเกณฑก ารสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา นเกณฑการทําแบบฝกหดั รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๕
กลุมสาระการเรยี นรูภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี ๖
หนว ยการเรียนรูที่ ๕ เรื่อง ละครยอนคิด เวลา ๘ ชวั่ โมง
เร่อื ง คําวเิ ศษณ เวลา ๑ ชวั่ โมง
.....................................................................................
สาระสาํ คัญ
คาํ วิเศษณ คอื คําที่ทาํ หนาทีข่ ยายคาํ กริยาใหมคี วามชดั เจนมากขึ้น มกั ปรากฏหลังคํากริยา ถาคํากริยา
เปน กริยาสกรรม คําวิเศษณมักปรากฏหลังคาํ นามทท่ี ําหนาทีเ่ ปน กรรมของคํากรยิ านนั้
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักการใชภาษา การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภมู ิปญ ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ ปน สมบตั ิของชาติ
ตัวช้วี ัด
ป.๖/๑ วเิ คราะหชนดิ และหนาท่ีของคาํ ในประโยค
จุดประสงค
๑. นกั เรียนบอกความหมายและชนดิ ของคาํ วเิ ศษณได
๒. นกั เรยี นใชคาํ วิเศษณในการสอื่ สารไดถกู ตอง
สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป ญหา
๔. ความสามารถในการใชทกั ษะชีวติ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค
๑. รักความเปนไทย
๒. ใฝเ รียนรู
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยอู ยา งพอเพียง
สาระการเรียนรู
- ความหมายและชนดิ ของคําวิเศษณ
กระบวนการจัดการเรียนรู
๑. นักเรียนเลนเกมเรียงตัวอักษร โดยครูแจกบัตรคําพยัญชนะไทย ๔๔ ตัวใหกลุมละ ๑ ชุด ให
สมาชกิ ในกลุมชวยกันเรยี งลําดับตามพจนานุกรม กลมุ ท่เี รียงไดเสรจ็ กอ นคือผูช นะ
๒. นกั เรียนศกึ ษาเนอื้ หาเก่ยี วกับ คาํ วเิ ศษณ ในหนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อ
ชีวิต ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี ๖ หนา ๗๖ จากนน้ั ใหน ักเรียน ๓ – ๕ คน ต้ังคําถามใหเพื่อนตอบ ใหแต
ละกลมุ ชว ยกันแตงประโยคทม่ี ีคําวิเศษณต ามหัวขอ ตอไปนี้ อยางละ ๓ ประโยค คอื
คาํ วเิ ศษณบอกลักษณะ
คาํ วเิ ศษณบอกอาการ
คําวิเศษณบอกจาํ นวน
คําวเิ ศษณบ อกเวลา
คําวิเศษณบอกสถานที่
๓. ครูและนกั เรยี นชวยกันสรปุ ความรูเ ร่อื ง คําวิเศษณ ดังนี้
๓.๑ คาํ วเิ ศษณ คอื คาํ ทใ่ี ชประกอบคําอืน่ ใหมีความหมายชัดเจนยิ่งข้ึน
๓.๒ คําวเิ ศษณ แบง ออกเปน ๕ ชนดิ คือ
คําวิเศษณบอกลักษณะ
คําวิเศษณบอกอาการ
คาํ วเิ ศษณบอกจาํ นวน
คาํ วิเศษณบอกเวลา
คาํ วิเศษณบอกสถานที่
๔. นกั เรียนทําแบบฝกทกั ษะบอกชนิดของคําวิเศษณในประโยคที่กําหนดให จากนั้นนําสงครู ครูเฉลย
และตรวจสอบความถกู ตอ ง
๕. นักเรยี นทําแบบฝกทกั ษะ เรอ่ื ง การจดั กลุมคาํ วเิ ศษณ เสร็จแลว นําสงครตู รวจสอบความถกู ตอ ง
ส่ือ / แหลงเรียนรู
๑. บตั รตัวอกั ษร
๒. หนังสือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปท ่ี ๖
๓. แบบฝก หัด รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
การวดั ผลและประเมินผล
๑) วิธีประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หดั
๒) เคร่ืองมือประเมิน
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
- ทําแบบฝกหดั
๓) เกณฑการประเมิน
- นักเรียนผานเกณฑก ารสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผานเกณฑก ารทําแบบฝก หดั รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๖
กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๖
หนวยการเรียนรทู ่ี ๕ เร่อื ง ละครยอ นคิด เวลา ๘ ชั่วโมง
เร่ือง คาํ บพุ บท เวลา ๑ ชั่วโมง
.....................................................................................
สาระสําคญั
คําบพุ บท คอื คาํ ท่ีอยูหนา คาํ นามหรือคาํ สรรพนาม มีความหมายเพ่อื บอกตําแหนง หนา ท่ี ความเกีย่ วของ
ความเปนเจา ของ ฯลฯ ของคาํ นามที่สมั พนั ธก บั คาํ กรยิ าในประโยคเดยี วกัน
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักการใชภ าษา การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภมู ปิ ญ ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ ปน สมบัติของชาติ
ตัวชว้ี ัด
ป.๖/๑ วเิ คราะหช นิดและหนา ท่ีของคาํ ในประโยค
จดุ ประสงค
๑. นักเรยี นบอกความหมายและชนดิ ของคําบพุ บทได
๒. นกั เรยี นใชคําบพุ บทในการสือ่ สารไดถูกตอ ง
สมรรถนะสําคญั ของผูเรียน
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป ญ หา
๔. ความสามารถในการใชทักษะชวี ิต
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รักความเปนไทย
๒. ใฝเ รยี นรู
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยูอยา งพอเพียง
สาระการเรียนรู
- ความหมายและชนิดของคาํ บพุ บท
กระบวนการจัดการเรียนรู
๑. ทบทวนเนอื้ หาทเ่ี รยี นในช่วั โมงที่แลวดวยการใหนักเรียนนําแบบฝกทักษะมารวมกันตรวจสอบและ
เฉลยอีกคร้ัง
๒. ใหน กั เรียนศึกษาเร่อื ง คาํ บพุ บท จากหนงั สือเรียนภาษาพาที ชั้น ป.๖ หนา ๗๗ ครอู ธิบายเพิ่มเติม
เปด โอกาสใหน กั เรยี นซกั ถามปญหาขอ สงสัย
๓. ใหนักเรยี นอานแถบประโยคท่มี ีคาํ บพุ บท เชน ฟา ยืนริมหนาตาง จากนั้น ถามนักเรียนวา ฟา เปน
คาํ อะไร (คาํ นามทาํ หนา ท่ปี ระธานของประโยค) ยนื เปน คาํ อะไร (คาํ กริยา) รมิ เปน คําอะไร
๔. (คาํ บพุ บท) ครูอธบิ ายคาํ จาํ กดั ความของคําบุพบท และยกตวั อยางคํา และรปู ประโยคทม่ี คี าํ บุพบท
จากนน้ั ใหน ักเรยี นชว ยกันยกตวั อยา งคาํ บุพบท และตวั อยางประโยคท่ีมีคําบุพบท เชน
- เดก็ ๆ เลนกันอยูใ นสนามเดก็ เลน
- ครูมาโรงเรียนต้ังแตเชา
- นองวาดรปู ดวยดนิ สอ
๕. นักเรียนทําแบบฝกทักษะ เติมคําบุพบทในประโยคที่กําหนดให จากนั้นนําสงครู ครูเฉลยและ
นกั เรียนแลกเปล่ยี นกันตรวจสอบความถกู ตอ ง
๖. นักเรยี นทําแบบฝก หดั รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษา
ปท่ี ๖ หนา ๔๔ ขอ ๒ เสร็จแลว นาํ สงครูตรวจสอบความถกู ตอ ง ครูอธิบายสรุปเรอ่ื งคําบุพบท
ส่อื / แหลงเรยี นรู
๑. ตวั อยางประโยค
๒. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ ๖
๓. แบบฝกหัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ติ ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) วธิ ปี ระเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหดั
๒) เครือ่ งมือประเมนิ
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม
- ทาํ แบบฝกหดั
๓) เกณฑการประเมิน
- นักเรียนผา นเกณฑก ารสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา นเกณฑการทําแบบฝก หัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี ๗
กลมุ สาระการเรียนรภู าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี ๖
หนวยการเรียนรทู ี่ ๕ เร่อื ง ละครยอ นคิด เวลา ๘ ชว่ั โมง
เรอ่ื ง การแบง ประโยคเพอื่ การส่อื สาร เวลา ๑ ช่ัวโมง
.....................................................................................
สาระสาํ คัญ
ประโยคที่ใชในการสื่อสารมีหลายชนิด ตองพิจารณาเลือกใชใหตรงตามจุดประสงค ทั้งภาษาพูดและ
ภาษาเขยี น
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักการใชภาษา การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมปิ ญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเปน สมบัตขิ องชาติ
ตวั ช้วี ัด
ป.๖/๑ วิเคราะหชนิดและหนา ทข่ี องคําในประโยค
จุดประสงค
๑. นกั เรยี นบอกเน้ือความของประโยคได
๒. นักเรยี นใชประโยคในการส่ือสารได
สมรรถนะสําคัญของผเู รียน
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป ญหา
๔. ความสามารถในการใชทกั ษะชีวติ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
๑. รกั ความเปนไทย
๒. ใฝเ รยี นรู
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยูอยา งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู
- ประโยคเพื่อการสื่อสาร
กระบวนการจัดการเรียนรู
๑. ทบทวนเนื้อหาท่ีเรียนในชัว่ โมงท่ีแลวดวยการใหนักเรียนนําแบบฝกทักษะมารวมกันตรวจสอบและ
เฉลยอีกคร้งั
๒. นักเรียนแบงกลุมออกเปนกลุมละ ๔ – ๕ คน จากนั้นครูใชรูปภาพ ชูข้ึนใหนักเรียนแตละกลุม
ชวยกนั เขยี นประโยคใหสอดคลอ งกับรูปภาพ ตามเน้อื ความของประโยคตอ ไปน้ี
ประโยคบอกเลา
ประโยคปฏเิ สธ
ประโยคคําถาม
ประโยคขอรอง
ประโยคแสดงความตอ งการ
๓. ใหแ ตล ะกลมุ อานใหกลุม อน่ื ฟง รว มกันตัดสินกลมุ ทแ่ี ตงประโยคไดด ี ส่ือสารไดอ ยางชดั เจน
๔. นกั เรียนศกึ ษาความรูเร่อื ง “การใชป ระโยคในการส่ือสาร” ในหนังสือหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน
ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที่ ๖ หนา ๗๘ – ๗๙ รวมกันสนทนาเกี่ยวกับ
เน้อื ความของประโยคตางๆ ครอู ธิบายสรปุ อกี ครง้ั
๕. นกั เรยี นทําแบบฝก หัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวิต ทกั ษะภาษา ชั้นประถมศึกษาป
ท่ี ๖ หนา ๔๔ ขอ ๓ เสร็จแลว นําสงครูตรวจสอบความถูกตอง ครอู ธิบายสรุปเรอ่ื งประโยคเพ่ือการสือ่ สาร
สื่อ / แหลงเรยี นรู
๑. ภาพประกอบ
๒. หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๖
๓. แบบฝก หัด รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
การวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) วธิ ปี ระเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกหดั
๒) เครือ่ งมอื ประเมิน
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม
- ทําแบบฝก หัด
๓) เกณฑก ารประเมิน
- นกั เรยี นผา นเกณฑก ารสังเกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผานเกณฑการทาํ แบบฝกหัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรูที่ ๘
กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี ๖
หนวยการเรียนรทู ่ี ๕ เรื่อง ละครยอ นคิด เวลา ๘ ช่ัวโมง
เรอ่ื ง การเขยี นเรียงความ เวลา ๑ ช่วั โมง
.....................................................................................
สาระสาํ คัญ
การเขียนเรียงความ เปนการเรียบเรียงความรู ความคิด ความรูสึก โดยใชคํา สํานวนภาษาท่ีถูกตอง
เหมาะสมกบั เรื่อง
สว นประกอบของเรียงความ มีรูปแบบฉบับ ประกอบดว ยสวนสาํ คัญ ๓ สวน คอื คํานาํ เนื้อเร่อื ง และ
สรปุ
มาตรฐานการเรียนรู
ท ๒.๑ ใชก ระบวนการเขยี นเขยี นสอื่ สาร เขยี นเรียงความ ยอความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบตางๆ
เขียนรายงานขอ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคนควาอยา งมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชีว้ ดั
ป.๖/๔ เขียนเรียงความ
จดุ ประสงค
๑. นักเรยี นบอกหลักการเขยี นเรียงความ
๒. นักเรียนเขียนเรียงความได
สมรรถนะสาํ คัญของผเู รยี น
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกปญ หา
๔. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค
๑. รักความเปนไทย
๒. ใฝเรียนรู
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยอู ยา งพอเพียง
สาระการเรยี นรู
- การเขียนเรยี งความ
กระบวนการจดั การเรยี นรู
๑. ทบทวนเนื้อหาท่เี รียนในชวั่ โมงที่แลวดวยการใหนักเรียนนําแบบฝกทักษะมารวมกันตรวจสอบและ
เฉลยอีกครัง้
๒. ครูนําเรียงความเร่ืองนกั เรยี นรนุ พม่ี าใหน กั เรยี นท่อี านคลอ ง อานใหเ พื่อนฟง ครแู ละนักเรยี นรวมกัน
แสดงความคดิ เห็น
๓. นักเรียนศึกษาความรูเร่ือง “การเขียนเรียงความ” ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด
ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖ หนา ๗๙ – ๘๐
๔. นักเรียนทําแบบฝก หดั รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษา
ปท ี่ ๖ หนา ๔๕ ขอ ๔ เสร็จแลวนําสงครูตรวจสอบความถูกตอง ครอู ธบิ ายสรุปเร่ืองการเขยี นเรียงความ
ส่อื / แหลงเรียนรู
๑. ตวั อยางเรียงความของนกั เรยี นรนุ พี่
๒. หนังสือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๖
๓. แบบฝกหดั รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวติ ทักษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖
การวัดผลและประเมนิ ผล
๑) วธิ ปี ระเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝก หัด
๒) เคร่อื งมือประเมนิ
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทําแบบฝกหดั
๓) เกณฑการประเมิน
- นกั เรียนผานเกณฑการสังเกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา นเกณฑการทาํ แบบฝก หดั รอ ยละ ๗๕ – ๘๐