ระบบขับถ่าย (Excretion System)
01 คำ นำ หนังสือ (E-Bock) นี้ จัดทำ ขึ้นเพื่อให้ผู้อ่าน ได้ทราบเกี่ยวกับระบบขับถ่ายผู้จัดทำ หวัง เป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือ(E-book) เล่มนี้จะ เป็นประโยชน์สำ น์ สำหรับคนที่สนใจในเรื่อง ระบบขับถ่าย เนื้อหาจากหนังสือ(E-Book) เล่มนี้อาจไม่ได้มีเนื้อหาที่ครบถ้วน แต่ก็ สามารถเป็นแนวทางในการศึกษาเรื่องระบบ ขับถ่ายต่อไป หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำ ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย จัดทำ โดย เปรมชนก คงอินทร์
02 เรื่อง สารบัญ หน้า 1.ระบบขับถ่าย 2 .อวัยวะและหน้าน้ที่ของอวัยวะ ในระบบขับถ่ายของมนุษนุย์ -การกำ จัดของเสียทางไต -กลไกการผลิตน้ำ ปัสสาวะของหน่วยไต -การกำ จัดของเสียทางปอด -การกำ จัดของเสียทางผิวหนัง -การกำ จัดของเสียทางลำ ไส้ใหญ่ 3.การขับถ่ายของสัตว์ 1 2 11 8 9 9 10
ระบบกำ จัดของเสียและขับถ่าย ของเสียที่ร่างกายต้องกำ จัดออกไปมีอยู่ 2 ประเภท 1. สารที่เป็นพิษต่อร่างกาย 2. สารที่มีปริมาณมากเกินความต้องการ ระบบการขับถ่าย เป็นระบบที่ร่างกายขับถ่ายของเสียออกไป - ของเสียในรูปแก๊สคือลมหายใจ - ของเหลวคือเหงื่อและปัสสาวะ - ของเสียในรูปของแข็งคืออุจจา ระบบขัขั ขัขั บถ่ถ่ ถ่ถ่ าย (Excretion System) •ทำ หน้าน้ที่กำ จัดและขับถ่ายของเสียที่เหลือใช้จากการเผา ผลาญอาหารในร่างกายเพื่อให้เกิดพลังงาน และสะสมพลังงาน •นั่นก็คือการกำ จัดของเสียที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีภายใน เซลล์ซึ่งเรียกว่า เมแทบอลิซึม (Metabolism) 1
1.อวัยวะและหน้า น้ ที่ของอวัยวะใน ระบบขับถ่ายของมนุษ นุ ย์ 1.อวัยวะและหน้า น้ ที่ของอวัยวะใน ระบบขับถ่ายของมนุษ นุ ย์ 1. ไต เป็นอวัยวะที่มีลักษณะคล้ายถั่ว มีสีแดงแกมน้ำ ตาลมีเยื่อหุ้มบางๆ ไตมี 2 ข้าง ซ้ายและขวา อยู่บริเวณด้านหลังของช่องท้อง ใกล้กระดูกสันหลัง บริเวณเอว บริเวณส่วนที่เว้าเป็นกรวยไต มีหลอดไตต่อไปยังกระเพาะปัสสาวะ โครงสร้างไตประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชั้น หน่วยไตชั้นนอก เรียกว่า คอร์ดเทกซ์ ชั้นในเรียกว่า เมดัลลา ภายในไตประกอบด้วยหน่วยไต มีลักษณะเป็นท่อขดมี หลอดเลือดฝอยเป็นกระจุกอยู่เต็มไปหมด ไตเป็นอวัยวะที่ทำ งานหนัก ในแต่ละนาทีจะมีเลือดมายังไตราว 1,000 มิลลิลิตร ไตจะขับของเสียออกมาในรูปของน้ำ ปัสสาวะ แล้วส่งต่อไปยัง กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมีความจุประมาณ 500 ลูกบาศก์เซนติเมตร ร่างกายจะ รู้สึกปวดปัสสาวะเมื่อน้ำ ปัสสาวะไหลสู่กระเพาะปัสสาวะประมาณ 250 ลูกบาศก์ เซนติเมตร ใน 1 วัน คนเราจะขับน้ำ ปัสสาวะออกมาประมาณ 1-1.5 ลิตร 2
2. ผิวหนัง ผิวหนังมีการกำ จัดของเสียในรูปของเหงื่อ เหงื่อประกอบไปด้วย น้ำ เป็นส่วนใหญ่ เหงื่อจะถูกขับออกจากร่างกายทางผิวหนัง โดยผ่านต่อม เหงื่อซึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง ต่อมเหงื่อมี 2 ชนิด คือ - ต่อมเหงื่อขนาดเล็ก มีอยู่ทั่วผิวหนังในร่างกาย ยกเว้นที่ริมฝีปากและ อวัยวะสืบพันธุ์ ต่อมเหงื่อขนาดเล็กมีการขับเหงื่อออกมาตลอดเวลา เหงื่อที่ ออกจากต่อมขนาดเล็กนี้ ประกอบด้วยน้ำ ร้อยละ 99 สารอื่นๆ ร้อยละ 1 ได้แก่ เกลือโซเดียม และยูเรีย - ต่อมเหงื่อขนาดใหญ่ จะอยู่ที่บริเวณ รักแร้ รอบหัวนม รอบสะดือ ช่องหู ส่วนนอก อวัยวะเพศบางส่วน ต่อมนี้มีท่อขับถ่ายใหญ่กว่าชนิดแรก ต่อมนี้ จะตอบสนองทางจิตใจ สารที่ขับถ่ายมักมีกลิ่น ซึ่งก็คือกลิ่นตัว เหงื่อจะถูก ลำ เลียงไปตามท่อที่เปิดอยู่ที่เรียกว่า รูเหงื่อ 3
3. ปอด แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊ส และน้ำ ซึ่งเกิดจากการเผา ผลาญอาหารภายในเซลล์ จะถูกส่งเข้าสู่เลือด จากนั้นหัวใจจะสูบฉีด เลือดที่มีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ไปที่ปอด ปอดจะทำ การกรองแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ แล้วขับออกจากร่างกายโดยการหายใจออก 4. ลำ ไส้ใหญ่ กากอาหารที่เหลือจากการย่อย จะถูกลำ เลียงผ่านไปยัง ลำ ไส้ใหญ่ โดยลำ ไส้ใหญ่จะทำ หน้าน้ที่สะสมกากอาหาร และจะดูดซึมสาร อาหารที่มีประโยชน์ต่น์ ต่อร่างกาย เช่น น้ำ แร่ธาตุ วิตามิน และกลูโคส ออกจากกากอาหาร ทำ ให้กากอาหารเหนียว และข้นจนเป็นก้อนแข็ง จากนั้น ลำ ไส้จะบีบตัวเพื่อให้กากอาหารเคลื่อนที่ไปรวมกันที่ลำ ไส้ตรง และขับถ่ายสู่ภายนอกร่างกายทางทวารหนักในรูปของอุจจาระ 4
1.1การกำกำกำกำจัจั จัจั ดของเสีสี สีสี ยทางไต ไต (Kidney) ทำ หน้าน้ที่ กำ จัดของเสีย ในรูปของ น้ำ ปัสสาวะ มี 1 คู่ รูปร่างคล้าย เม็ดถั่วดำ อยู่ในช่องท้องสองข้าง ของกระดูกสันหลัง ระดับ เอว ถ้าผ่าตามยาว จะพบว่าไตประกอบด้วย เนื้อเยื่อ 2 ชั้น คือ เปลือกไต ชั้นนอก กับเปลือกไตชั้นใน มีขนาดยาว ประมาณ 10 เซนติเมตร กว้าง ประมาณ 6 เซนติเมตร และหนา 3 เซนติเมตร บริเวณตรงกลางของไต มีส่วนเว้าเป็นกรวยไต มีท่อไตต่อไป ยังกระเพาะปัสสาวะ ไตแต่ละข้างประกอบด้วย หน่วยไตนับล้านหน่วย เป็นท่อที่ขดไปมา โดยมีปลาย ท่อข้างหนึ่งตัน เรียกปลายท่อที่ตันนี้ว่า “โบว์แมนส์แคปซูล(Bowman’s Capsule)” ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งคล้ายถ้วย ภายในแอ่ง จะมีกลุ่มหลอดเลือดฝอย พันกันเป็นกระจุก เรียกว่า “โกลเมอรูลัส (Glomerulus)” ซึ่งทำ หน้าน้ที่กรองของ เสีย ออกจากเลือดที่ไหลผ่าน 5
ที่บริเวณของหน่วยไต มีการดูดซึมสารที่เป็นประโยชน์ต่น์ ต่อร่างกาย เช่น แร่ธาตุ น้ำ ตาลกลูโคส กรดแอมิโน รวมทั้งน้ำ กลับคืนสู่หลอดเลือดฝอย และเข้าสู่หลอด เลือดดำ ส่วนของเสียอื่นๆ ที่เหลือก็คือ ปัสสาวะ จะถูกส่งมาตามท่อไต เข้าสู่กระเพาะ ปัสสาวะ ซึ่งมีความจุประมาณ 500 ลูกบาศก์เซนติเมตร แต่กระเพาะปัสสาวะสามารถ ที่จะหดตัว ขับปัสสาวะออกมาได้ เมื่อมีปัสสาวะมาขังอยู่ประมาณ 250 ลูกบาศก์ เซนติเมตร ในแต่ละวันร่างกายจะขับปัสสาวะออกมาประมาณ 1-1.5 ลิตร เมื่อไตผิดปกติจะทำ ให้ สารบางชนิดออกมาปนกับปัสสาวะ เช่น เม็ดเลือดแดง กรดแอมิโน น้ำ ตาลกลูโคส ปัจจุบันแพทย์มีการใช้ไตเทียม หรืออาจจะใช้การปลูก ถ่ายไตให้กับผู้ป่วป่ยที่ไต ไม่สามารถทำ งานปกติได้ 6
หน่วยไต เป็นโครงสร้างพื้นฐานและหน่วยทำ งานพื้นฐานของไต มีหน้าน้ที่หลักคือควบคุมสมดุลของสารน้ำ และสารต่างๆ ในร่างกาย เช่นโซเดียมผ่านการกรองเลือดที่ผ่านหน่วยไต ดูดกลับสารที่ ต้องการ และขับสารที่ไม่ต้องการทิ้งผ่านทางปัสสาวะหน้าน้ที่ของ หน่วยไตนี้มีความสำ คัญอย่างยิ่งต่อการทำ งานของร่างกาย ซึ่งจะ ถูกควบคุมโดยระบบต่อมไร้ท่อผ่านทางฮอร์โมนต่างๆ เช่น ฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะ อัลโดสเตอโรน และพาราไทรอยด์ เป็นต้น 7
1. การกรองสารที่โกลเมอรูลัส (Glomerulus Filtration) - ยอมให้สารโมเลกุลเล็กที่อยู่ในเลือดผ่านได้ ได้แก่ น้ำ แร่ ธาตุ วิตามิน ยูเรีย กรดยูริก และสารชีวโมเลกุลอื่นๆ - สารโมเลกุลใหญ่โดยปกติจะผ่านไปไม่ได้ เช่น เม็ดเลือด แดง โปรตีนขนาดใหญ่ และไขมัน -การกรองสารบริเวณนี้จะอาศัยแรงดันเลือดเป็นสำ คัญ โดย วันหนึ่ง 2. การดูดสารกลับคืนที่ท่อของหน่วยไต (Reabsorption) - ใช้วิธี Active Transport , Passive Transport - สารที่เกิดการดูดกลับที่ท่อหน่วยไต เช่น กรดแอมิโน กลูโคส น้ำ และไอออนต่าง ๆ เช่น โซเดียมไอออน โพแทสเซียม ไอออน ไฮโดรเจนคาร์บอเนตไอออน - วันหนึ่งๆ ร่างกายจะขับน้ำ ปัสสาวะออกมาประมาณ 1.5 ลิตร กลไกการผลิลิ ลิลิ ตน้ำน้ำ น้ำน้ำ น้ำน้ำ น้ำน้ำปัปัปัปั สสาวะของหน่น่ น่น่ วยไต 3. การหลั่งสาร (secretion) - สารที่มีการหลั่งที่ท่อหน่วยไต เช่น ไฮโดรเจนไอออน แอมโมเนียมไอออน รวมทั้งสารพิษอื่น ๆ หรือยาบางชนิด 8
1.2 การกำกำกำกำจัจั จัจั ดของเสีสี สีสี ยทางปอด CO2 และน้ำ ซึ่งเกิดจากการเผาผลาญอาหารภายในเซลล์จะ ถูกส่งเข้าสู่เลือด จากนั้นหัวใจจะสูบเลือดที่มี CO2 ไปไว้ที่ปอด จากนั้นปอดจะทำ การกรองCO2 เก็บไว้ แล้วขับออกจากร่างกาย โดยการหายใจออก 1.3 การกำกำกำกำจัจั จัจั ดของเสีสี สีสี ยทางผิผิ ผิผิ วหนันั นันั ง ผิวหนังของคนเราสามารถขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ทางรูขุมขน ซึ่งสิ่งที่ถูกขับออกมา คือ เหงื่อ เหงื่อจะถูกขับออกจากร่างกายทางผิวหนัง โดยผ่านต่อมเหงื่อ ซึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง ต่อมเหงื่อมี 2 ชนิด คือ มีอยู่ทั่วผิวหนังในร่างกาย ยกเว้นที่ริมฝีปากและอวัยวะสืบพันธุ์ - มีการขับเหงื่อออกมาตลอดเวลา - เหงื่อที่ออกจากต่อมขนาดเล็กนี้ประกอบด้วยน้ำ ร้อยละ 99 สา รอื่นๆ ร้อยละ 1 ได้แก่ เกลือโซเดียม และยูเรีย 1.ต่อมเหงื่อขนาดเล็ก 2. ต่อมเหงื่อขนาดใหญ่ -จะอยู่ที่บริเวณ รักแร้ รอบหัวนม รอบสะดือ ช่องหูส่วนนอก อวัยวะเพศบางส่วน -มีท่อขับถ่ายใหญ่กว่าชนิดแรก -จะตอบสนองทางจิตใจ 9
1.4 การกำกำกำกำจัจั จัจั ดของเสีสี สีสี ยทางลำลำลำลำไส้ส้ ส้ส้ใหญ่ญ่ ญ่ญ่ -กากอาหารที่เหลือกจากการย่อย จะถูกลำ เลียงผ่านมาที่ ลำ ไส้ใหญ่ -ลำ ไส้ใหญ่จะทำ หน้าน้ที่สะสมกากอาหารและจะดูดซึม สารอาหาร ที่มีประโยชน์ ต่อร่างกายได้แก่ น้ำ แร่ธาตุ วิตามิน และกลูโคส ออกจากกากอาหาร ทำ ให้กากอาหารเหนียวและข้นจนเป็นก้อน แข็ง -จากนั้นลำ ไส้จะบีบตัวเพื่อให้กากอาหารเคลื่อนที่ไปรวมกันที่ ลำ ไส้ตรง -ขับถ่ายสู่ภายนอกร่างกายทางทวารหนัก ที่เรียกว่า อุจจาระ 10
โครงสร้างและอวัยวะในระบบขับถ่ายของสัตว์ ฟองน้ำ และไฮดรา อาศัยอยู่ในน้ำ เซลล์ทุกเซลล์สัมผัสกับน้ำ ตลอดเวลา ไม่มีโครงสร้างในการ ขับถ่าย ของเสียพวก แอมโมเนียจึงขับออกโดยการแพร่สู่สิ่งแวดล้อมผ่านเยื่อหุ้ม เซลล์ได้โดยตรง หนอนตัวแบนที่อาศัยอยู่ในน้ำ เช่น พลานาเรีย มีโครงสร้างที่ใช้ขับถ่าย เรียกว่า โพรโทเนฟริเดียม (protonephridium) ซึ่งประกอบด้วยท่อปลายตันสานเป็น ร่างแหกระจายอยู่ทั้งสองข้างตลอดความยาวของลำ ตัว ตรง ปลายของท่อปลายตันมีเซลล์ซึ่งมีซิเลียเรียกว่า เฟลมเซลล์ (flame cell) โดยซิเลียของแต่ละเฟลมเซลล์จะโบกพัด ของเหลวไปยังท่อรับของเหลวซึ่งเชื่อมต่อกับช่องเปิดที่ผนังลำ ตัวทำ ให้สามารถขับถ่ายแอมโมเนียออกได้ทั้งทางช่องเปิดที่ ผนังลำ ตัวและทางผิวหนัง 2.การขัขั ขัขั บถ่ถ่ ถ่ถ่ ายของสัสั สัสั ตว์ว์ ว์ว์ 11
แมลง ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนบก มีอวัยวะขับถ่ายของเสียเรียกว่า มัลพิ เกียนทิวบูล (Malpighian tubule) ซึ่งประกอบด้วยท่อเล็ก ๆ จำ นวน มาก ท่อเหล่านี้มีลักษณะคล้ายถุงยื่นออกมาจากทางเดินอาหารตรง บริเวณรอยต่อของทางเดินอาหารส่วนกลางกับส่วนท้าย ปลายขอ งมัลพิเกียนทิวบูลจะลอยเป็นอิสระอยู่ในของเหลวภายในช่องลำ ตัว ดังรูป 17.5 ของเสีย น้ำ และสารต่าง ๆ จะถูกลำ เลียงเข้าสู่มัลพิเกีย นทิวบูลไปยังทางเดินอาหารส่วนกลาง โดยจะมีการดูดกลับสารที่มี ประโยชน์เน์ข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือด ส่วนของเสียที่มีไนโตรเจนเป็น องค์ประกอบจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริกและขับออกมาพร้อมกากอาหาร ทางทวารหนัก 12 ไส้เดือนดิน อาศัยอยู่บนบก มีอวัยวะขับถ่าย ของเสีย คือ เมทาเนฟริเดียม (metanephridium) พบปล้องละ 1 คู่ มีลักษณะเป็นท่อขดไปขดมา มีปลายเปิดสองข้าง ปลายข้างหนึ่งอยู่ในช่องลำ ตัวมี ลักษณะเหมือนปากแตรเรียกว่า เนโฟรสโตม (nephrostome) ทำ หน้าน้ที่รับของเหลวจากช่องลำ ตัว ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งเป็นช่องเปิด ออกสู่ภายนอกทางผิวหนัง เมทาเนฟริเดียมจะขับของเสียพวก แอมโมเนีย ยูเรีย และมีการดูดกลับน้ำ และแร่ธาตุบางชนิดที่มี ประโยชน์เน์ข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือด
Thank you! ขอขอบคุณ