48
คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา 80 ชั่วโมง
ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิต การจำแนกพืชเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอก การ
จำแนกสัตว์มกี ระดูกสนั หลังและสัตวไ์ ม่มกี ระดูกสนั หลัง ลักษณะเฉพาะทสี่ งั เกตได้ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
หน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของพืช ผลของแรงโน้มถ่วงของโลก การใช้เครื่องชั่งสปริงวัดน้ำหนักของวัตถุ มวล
ของวัตถุที่มีผลต่อการเปล่ยี นแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ การจำแนกวัตถุเป็นตวั กลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่ง
แสง และวัตถุทึบแสง สมบัติทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยืดหยุน่ การนำความร้อน และการนำไฟฟ้า
ของวัสดุ การนำสมบตั ทิ างกายภาพของวัสดไุ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน สมบัตขิ องสสารทัง้ 3 สถานะ จากข้อมูล
ท่ไี ดจ้ ากการสังเกต มวล การต้องการท่อี ยู่ รูปรา่ งและปรมิ าตรของสสาร รวมท้ังการใชเ้ ครือ่ งมือเพื่อวัดมวล
และปริมาตรของสสารทงั้ 3 สถานะ สรา้ งแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสรุ ยิ ะ และคาบการโคจร
ของดาวเคราะห์ต่าง ๆ จากแบบจำลอง แบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของดวงจันทร์ สร้างแบบจำลองท่ี
อธิบายแบบรปู การเปลยี่ นแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจนั ทร์และพยากรณร์ ูปร่างปรากฏของดวงจนั ทร์ ใช้
เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา มาใช้พิจารณาในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน หรือการ
คาดการณ์ผลลพั ธ์ ศึกษาการออกแบบโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ storyboard หรอื การออกแบบอัลกอริทึม
การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์ Scratch หรือ logo ศึกษาการใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้
การใช้คำค้นที่ตรงประเด็น กระชับ การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล ศึกษาการรวบรวมข้อมูล การ
ประมวลผลอย่างง่าย วิเคราะห์ผลและสร้างทางเลือกที่เป็นไปได้ ตลอดจนประเมินทางเลือก พร้อมทั้งการ
นำเสนอข้อมูลในรูปแบบตามความเหมาะสม ศึกษาการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวนั การใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสิทธแิ ละหน้าทข่ี องตน เคารพในสทิ ธใิ นสทิ ธขิ องผอู้ ่นื
โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่สามารถนำไปใช้อธิบาย แก้ไขปัญหา หรือ
สร้างสรรค์พัฒนางานในชีวิตจริงได้ ซึ่งเน้นการเชื่อมโยงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ
เทคโนโลยี กับกระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ และให้มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้
โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้และการแกป้ ญั หาที่หลากหลาย โดยใช้การคดิ เชิงคำนวณและปัญหา
เป็นฐาน (Problem – based Learning) เพอ่ื เนน้ ใหผ้ เู้ รียนเกดิ การเรยี นรู้ จากการฝกึ แกป้ ญั หาตา่ ง ๆ ผ่าน
กระบวนการคิด การปฏิบัติอย่างมีระบบ และสร้างองค์ความรู้ใหม่จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงใน
ชวี ิตประจำวนั ได้
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิด และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุก
ขั้นตอน รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดจิตวิทยาศาสตร์และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ แก้ปัญหา
เป็นขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะในการตั้งคำถาม หรือกำหนดปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนรู้ตามท่ี
กำหนดให้ หรือตามความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สอดคล้องกับคำถาม
วางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการเก็บ
รวบรวมข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและประเมินความน่าเชื่อถือ
ตัดสินใจเลือกข้อมูล ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชา
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนา
กระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการสื่อสาร และ
49
ความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์
ตวั ช้ีวดั
ว 1.2 ป.4/1
ว 1.3 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4
ว 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4
ว 2.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3
ว 2.3 ป.4/1
ว 3.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3
ว. 4.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5
รวม 21 ตวั ช้ีวัด
50
คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา 80 ชั่วโมง
ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมในแต่ละแหล่งที่อยู่
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิ่งไม่มชี ีวิตกบั สิ่งมีชวี ิต และความสมั พันธ์กับส่งิ ไม่มีชวี ิต โซ่อาหารและบทบาทหน้าท่ี
ของสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคในโซ่อาหาร ตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อการดำรงชีวิต
ของสิ่งมีชีวิต ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สัตว์ และมนุษย์ ลักษณะท่ี
คลา้ ยคลึงกันของตนเองกับพ่อแม่ การหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกันทกี่ ระทำต่อวัตถุในกรณี
ท่วี ัตถอุ ยู่น่ิง การเขียนแผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในแนวเดยี วกันและแรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุ
การใช้เครื่องชั่งสปริงในการวัดแรงที่กระทำต่อวัตถุ ผลของแรงเสียดทานที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการ
เคลื่อนที่ของวัตถุ การเขียนแผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงทีอ่ ยู่ในแนวเดยี วกันที่กระทำต่อวัตถุ การ
ได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง การเกิดเสียงสูง เสียงต่ำ การเกิดเสียงดัง เสียงค่อย การวัดระดับเสีย งโดยใช้
เคร่อื งมือวัดระดบั เสียง และเสนอแนะแนวทางในการหลีกเล่ียงและลดมลพิษทางเสยี ง ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ
ในการแก้ปัญหา การทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธจ์ ากปญั หาอยา่ งงา่ ย การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ี
มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ตรวจหาขอผิดพลาดและแก้ไข การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล
ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การรวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูล
และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เน็ตท่ีหลากหลายเพ่ือแกป้ ัญหาใน
ชีวิตประจำวัน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเอง
เคารพในสทิ ธิของผอู้ น่ื และแจง้ ผเู้ กย่ี วขอ้ งเม่อื พบขอ้ มลู หรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม
โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่สามารถนำไปใช้อธิบาย แก้ไขปัญหา หรือสร้างสรรค์
พัฒนางานในชีวิตจริงได้ ซึ่งเน้นการเชื่อมโยงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี กับ
กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ และให้มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้และการแก้ปัญหาที่หลากหลาย ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การ
ทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปัญหาอย่างง่าย การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิง
ตรรกะอย่างง่าย ตรวจหาขอผิดพลาดและแก้ไข การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทำงาน
ร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การรวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูล และสารสนเทศตาม
วตั ถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่หี ลากหลายเพ่ือแกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวัน การ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธแิ ละหน้าที่ของตนเอง เคารพในสิทธิของผ้อู ่นื
และแจ้งผ้เู ก่ยี วขอ้ งเมอื่ พบขอ้ มูลหรือบคุ คลท่ีไมเ่ หมาะสม
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิด และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน
รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดจิตวิทยาศาสตร์และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ แก้ปัญหาเป็น
ขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะในการตั้งคำถาม หรือกำหนดปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนรู้ตามที่กำหนดให้
หรือตามความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สอดคล้องกับคำถาม วางแผนและ
สำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและประเมินความน่าเชื่อถือ ตัดสินใจเลือก
ข้อมูล ให้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและ
51
จินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการ
ตัดสินใจ และเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์
ตัวชว้ี ัด ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4
ว 1.1 ป.5/1 ป.5/2
ว 1.3 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4
ว 2.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5
ว 2.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5
ว 2.3 ป.5/1 ป.5/2
ว 3.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5
ว 3.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5
ว 4.2
รวม 32 ตวั ชวี้ ัด
52
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา 80 ช่ัวโมง
บรรยาย จำแนก เปรยี บเทียบ อภิปราย ระบุ อธิบาย สรา้ งแบบจำลอง ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการ
แกป้ ญั หา ออกแบบและเขยี นโปรแกรม ใช้อนิ เตอร์เนต็ รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูล เกีย่ วกับประโยชน์
ของสารอาหารทีต่ นเองได้รบั ในสดั สว่ นทีเ่ หมาะสมกับเพศและวัย หน้าท่ีและการดดู ซมึ ของอวัยวะในระบบ
ยอ่ ยอาหารให้ทำงานเปน็ ปกติ
การแยกสารผสม โดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหลก็ ดึงดดู การรินออก การกรองและการ
ตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ รวมถึงการแยกสารในชีวิตประจำวัน การเกิดแรงไฟฟ้าซึ่งเกิดจาก
วัตถผุ ่านการขดั ถู หนา้ ทขี่ องสว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย แผนภาพการต่อวงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย ผล
ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน รวมถึงการใช้ประโยชน์
ในชวี ิตประจำวัน การเกิดเงามืดเงามัว แผนภาพรงั สขี องแสงแสดงการเกดิ เงามดื เงามวั
การเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคา พัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ การนำ
เทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน การเกิดหินอัคนี หินตะกอนและหินแปร วัฏจักรหินจาก
แบบจำลอง การใช้ประโยชน์ของหินและแร่ในชีวิตประจำวนั การคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดีตจากซาก
ดึกดำบรรพ์ การเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุมที่มีผลต่อสิ่งมชี ีวิตและส่ิงแวดล้อม ผลของมรสุมตอ่ การเกดิ
ฤดูของประเทศไทย ผลกระทบจากน้ำท่วม การกัดเซาะของชายฝั่ง ดินถล่ม แผ่นดินไหว และสึนามิ การ
เฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัยที่อาจเกิดในท้องถิ่น การเกิด
ปรากฏการณเ์ รอื นกระจก การปฏบิ ัติตนเพื่อลดกจิ กรรมทีก่ อ่ ให้เกิดแก็สเรือนกระจก
โดยใช้กระบวนทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล
บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
ศึกษาขั้นตอนการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน
ชวี ิตประจำวัน ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแก้ปญั หาชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดและ
แก้ไขโปรแกรม การใช้อินเตอร์เน็ตค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทสทำงาน
ร่วมกันอย่างปลอดภยั
ใชก้ ระบวนการการทำงานอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ การใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธิบาย
และออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยการนำกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขโดยใช้แนวคิดการทำงานแบบวนซ้ำและ
เงื่อนไข การออกแบบโปรแกรมโดยเขียนเป็นข้อความหรือผังงาน การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มกี าร
ใช้ตัวแปรการวนซำ้ และการตรวจสอบเงื่อนไขทีค่ รอบคลุมทกุ กรณี ถ้าไม่เป็นไปตามที่ต้องการให้ตรวจสอบ
การทำงานทลี ะคำสั่ง ทำการแกไ้ ขจนกว่าจะไดผ้ ลลพั ธท์ ่ถี กู ต้อง และฝึกตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดจากโปรแกรม
ของผู้อนื่ ใช้ ซอฟต์แวร์เขียนโปรแกรม โดยใชโ้ ปรแกรม Scratch, logo
ตระหนักและเห็นคุณค่าของการใช้อินเตอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน ใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มีมารยาท เข้าใจสทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องตนเอง เคารพในสิทธขิ องผอู้ ่นื แจ้ง
53
ผเู้ กี่ยวขอ้ งเมอ่ื พบข้อมูลหรือบคุ คลที่ไม่เหมาะสม ทำงานดว้ ยความกระตอื รือรน้ และตรงเวลา มี เจตคติท่ี
ดีต่อการทำงาน มลี กั ษณะนิสัยการทำงานทีเ่ หมาะสม มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม
รหสั ตัวช้ีวดั
ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ว ๒.๑ ป.๖/๑
ว ๒.๒ ป.๖/๑
ว ๒.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘
ว ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒
ว ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ว ๔.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
รวมท้ังหมด ๓๐ ตวั ชีว้ ัด
54
โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 6
55
โครงสรา้ งรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1
ลำดบั ท่ี ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสำคญั เวลา
1 การเรียนรู้ ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง)
สงิ่ ต่าง ๆ
รอบตัว บทที่ 1 เรียนร้แู บบ - วิทยาศาสตร์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับสิ่ง 8
2 ตวั เรา นกั วทิ ยาศาสตร์ ต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา วิธีการและ
สตั ว์ และพชื
รอบตัวเรา ขั้นตอนที่ใช้เพื่อตอบปัญหาที่เราสงสัย
เรียกวา่ วิธกี ารทางวิทยาศาสตร์
ใ น ก า ร ส ื บ เ ส า ะ ค ว า ม รู้
อย่างเป็นระบบ ซึ่งเราควรฝึกฝน
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ให้
เกิดความชำนาญ เพื่อให้สามารถ
ค้นหาคำตอบ และแกไ้ ขปัญหาได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสม
เมื่อเราทำการศึกษาและแสวงหา
ความรู้ต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ จะเกิดจิตวิทยาศาสตร์
ซึ่งทำให้เราเป็นคนมีความสนใจใฝ่รู้
สิ่งต่าง ๆ มีความรับผิดชอบ เหตุมีผล
และมคี วามซือ่ สตั ย์
บทที่ 1 รา่ งกาย ว 1.2 ป.1/1 มนุษย์มีส่วนต่าง ๆ ที่มีลักษณะและ 9
ของเรา ว 1.2 ป.1/2 หน้าที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมใน
การดำรงชีวิต โดยส่วนต่าง ๆ ของ
ร่างกายจะทำหน้าที่ร่วมกันในการทำ
กิจกรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวนั
พืชและสัตว์มีส่วนต่าง ๆ ที่มี
ลักษณะและหน้าที่แตกต่างกัน เพื่อให้
เหมาะสมในการดำรงชีวิต
มนษุ ยใ์ ช้สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย
ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการ
ดำรงชีวติ ดังน้นั มนุษยจ์ ึงควรใชส้ ่วน
ตา่ ง ๆ ของร่างกายอย่างถูกต้อง
ปลอดภัย และต้องรกั ษาความสะอาด
ของร่างกายอยู่เสมอ
56
ลำดับท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสำคญั เวลา
ตัวชว้ี ัด (ช่ัวโมง)
2 ตัวเรา
สัตว์ และพชื บทท่ี 2 สัตวแ์ ละ ว 1.1 ป.1/1 สัตว์และพืชมีส่วนต่าง ๆ ที่มีลักษณะ 8
รอบตัวเรา
(ตอ่ ) พชื รอบตัวเรา ว 1.1 ป.1/2 และหน้าท่แี ตกตา่ งกัน เพอื่ ใหเ้ หมาะสม
ในการดำรงชีวิต บริเวณต่าง ๆ ใน
ทอ้ งถ่นิ เช่น สนามหญ้า ใตต้ น้ ไม้ แหลง่
น้ำ อาจพบพชื และสัตวห์ ลายชนิดอาศัย
อยู่
บริเวณที่แตกต่างกันอาจพบพืช
และสัตว์แตกต่างกัน เพราะ
สภาพแวดล้อมของแต่ละบริเวณจะมี
ความเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของ
พืชและสัตว์ท่ีอาศัยอยู่ในแต่ละบริเวณ
แตกต่างกันไป หากสภาพแวดล้อมใน
บริเวณที่พืชและสัตว์อาศัยอยู่เกิดการ
เปลี่ยนแปลง จะมีผลต่อการดำรงชีวิต
ของพชื และสตั ว์
3 ส่งิ ตา่ งๆ บทที่ 1 วสั ดุ ว 2.1 ป.1/1 วสั ดทุ ีน่ ำมาใชท้ ำวตั ถุที่เป็นของเล่น 8
รอบตวั เรา รอบตัวเรา ป.1/2 และของใช้มีหลายชนิด เช่น ผ้า
กระดาษ ยาง เป็นต้น วัสดุแต่ละชนิด
มีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ความแข็ง
พื้นผิว เป็นต้น เราสามารถนำสมบัติ
ของวัสดุแต่ละชนิดมาใช้เป็นเกณฑ์ใน
การจัดกลุ่มวัสดุได้ วัสดุบางอย่าง
สามารถนำมาประกอบกันเพื่อทำเป็น
วัตถุต่าง ๆ ได้
บทท่ี 2 เสียงใน ว 2.3 ป.1/1 เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของว่า 6
ชีวิตประจำวนั วตั ถุทที่ ำให้เกดิ เสยี งเรียกวา่
แหล่งกำเนดิ เสียง ซง่ึ มที ัง้ แหล่งกำเนดิ
เสยี งตามธรรมชาตแิ ละแหลง่ กำเนิด
เสียงที่มนุษยส์ ร้างขึ้น เสยี งเคลื่อนท่ี
ออกจากแหลง่ กำเนดิ เสียงทกุ ทิศทาง
57
ลำดบั ที่ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคัญ เวลา
4 โลกและ ตัวช้วี ดั (ช่วั โมง)
ท้องฟ้าของ
เรา บทท่ี 1 หนิ ว 3.2 ป.1/1 หินเปน็ องคป์ ระกอบหน่ึงของโลก 6
5 และยังเปน็ วัตถุต้นกำเนิดดนิ อีกด้วย
6
7 ปจั จบุ นั เรานำหนิ ชนดิ ตา่ งๆ มาใช้
8
ประโยชนม์ ากมายแตกต่างกัน
เนอื่ งจากหินมีลกั ษณะภายนอกที่
ตา่ งกัน การเลือกใชห้ ินจึงขนึ้ อย่กู บั
ลักษณะเฉพาะตวั ของหนิ ชนดิ น้นั
บทท่ี 2 ท้องฟา้ ว 3.1 ป.1/1 บนท้องฟ้ามีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ 6
และดาว ว 3.1 ป.1/2 และดาว ซึ่งในเวลากลางวันจะ
มองเห็นดวงอาทิตย์และอาจมองเห็น
ดวงจันทร์บางเวลาในบางวัน แต่ไม่
สามารถมองเห็นดาวได้
ในเวลากลางวันไม่สามารถ
มองเห็นดาวเนือ่ งจากแสงอาทิตย์สว่าง
กว่าจึงกลบแสงของดาว ส่วนในเวลา
กลางคืนจะมองเห็นดาวและมองเห็น
ดวงจนั ทรเ์ กือบทกุ คนื
โป้ง ก้อย และอิ่ม ว 4.2 ป.1/1 แก้ปัญหาอย่างง่ายใหป้ ระสบ 3
ความสำเรจ็ ทำไดโ้ ดยใชข้ ้นั ตอนการ
แกป้ ัญหา
ครอบครวั ของเรา ว 4.2 ป.1/2 การแสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหา ทำได้ 3
โดยการเขียน บอกเล่า วาดภาพ หรอื
ใช้สญั ลกั ษณ์
เส้นทางกลับบ้าน ว 4.2 ป.1/1 แก้ปัญหาใหป้ ระสบความสำเร็จเชน่ 3
เกมเขาวงกต เกมหาจุดแตกต่างของ
ภาพ การจดั หนงั สอื ใส่กระเป๋า
โปรแกรมแก้หิว ว 4.2 ป.1/2 การแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาและ 6
ป.1/3 เขียนโปรแกรมเปน็ การสรา้ งลำดบั ของ
คำสัง่ ใหค้ อมพิวเตอรท์ ำงานเชน่ ใชบ้ ัตร
คำสัง่ แสดงการเขียนโปรแกรม,
Code.org
58
ลำดับท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลา
9 ตัวชว้ี ัด (ชั่วโมง)
10 หนนู ้อยบ้านนา ว 4.2 ป.1/3 เขียนโปรแกรมสงั่ ให้ตัวละครย้าย 4
11 ป.1/5 ตำแหนง่ ยอ่ ขยายขนาดเปล่ยี นรปู รา่ ง
12 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
13 ปลอดภยั เช่นรูจ้ ักขอ้ มลู สว่ นตวั
อันตรายจากการเผยแพรข่ ้อมูลสว่ นตวั
และไม่บอกข้อมลู ส่วนตัวกับบุคคลอน่ื
ยกเว้นผปู้ กครองหรอื ครแู จง้
ผูเ้ ก่ยี วขอ้ งเมอ่ื ต้องการความช่วยเหลือ
เกีย่ วกบั การใชง้ าน
งานบ้านงานเรา ว 4.2 ป.1/3 เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย สรา้ งลำดบั 3
ของคำสัง่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ทำงาน 2
วันงานโรงเรียน ว 4.2 ป.1/1 3
ฝนตกนำ้ ท่วม ว 4.2 ป.1/3 ปัญหาอยา่ งง่ายโดยการลองผิดลองถูก 2
ทุ่งข้าวรวงทอง ว 4.2 ป.1/4 ใช้ซอฟต์แวร์หรอื สอ่ื การเขียน 80
โปรแกรม เชน่ ใช้บตั รคำสั่งแสดงการ
เขยี นโปรแกรม, Code.org
ใช้งานอุปกรณเ์ ทคโนโลยีเบือ้ งต้น เชน่
การใชเ้ มาสค์ ยี บ์ อร์ด จอสมั ผัส การ
เปิด-ปดิ อุปกรณ์เทคโนโลยี การเข้า
และออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์
การจัดเก็บการเรยี กใช้ไฟล์ทำได้ใน
โปรแกรม เช่น โปรแกรมประมวลคำ
โปรแกรมกราฟกิ โปรแกรมนำเสนอ
สร้างและจัดเกบ็ ไฟล์อยา่ งเป็นระบบ
จะทำให้เรียกใช้ค้นหาข้อมูลได้งา่ ย
และรวดเร็ว
รวม
59
โครงสร้างรายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2
ลำดบั ที่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคัญ เวลา
ตวั ช้วี ดั (ชว่ั โมง)
1 การเรยี นรู้ บทท่ี 1 เรยี นรแู้ บบ
สง่ิ ต่าง ๆ นักวทิ ยาศาสตร์ - วทิ ยาศาสตร์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ 6
รอบตวั
สง่ิ ตา่ ง ๆ ท่ีอย่รู อบตวั เรา วิธกี ารและ
ขัน้ ตอนที่ใช้เพื่อตอบปญั หาท่ีเราสงสัย
เรยี กว่า วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์
ในการสืบเสาะความรู้
อย่างเปน็ ระบบ ซ่งึ เราควรฝึกฝน
ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ให้
เกดิ ความชำนาญ เพื่อใหส้ ามารถ
คน้ หาคำตอบ และแก้ไขปญั หาได้
อย่างถูกต้องเหมาะสม
เมือ่ เราทำการศึกษาและแสวงหา
ความรตู้ ่าง ๆ โดยใช้กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ จะเกิดจิตวิทยาศาสตร์
ซึง่ ทำให้เราเป็นคนมีความสนใจใฝ่รู้
สง่ิ ต่าง ๆ มีความรับผดิ ชอบ เหตมุ ีผล
และมคี วามซอื่ สัตย์
2. วสั ดุและ บทที่ 1 สมบตั กิ าร ว 2.1 ป.2/1 วัสดุแต่ละชนดิ มเี ฉพาะตวั ท่ี 18
การใช้ ดดู ซับนำ้ ของวสั ดุ ป.2/2 แตกต่างกัน ซ่ึงสมบัติการดดู ซับนำ้ เปน็
ประโยชน์ และการใช้ ป.2/3 สมบตั ิเฉพาะตวั อย่างหน่ึงท่ีมใี นวัสดุ
ประโยชน์จากวสั ดุ ป.2/4 บางชนดิ จงึ นำไปทำวัตถุเพื่อใช้
ประโยชนไ์ ดแ้ ตกตา่ งกนั เชน่ ใชผ้ า้ ท่ี
ดูดซับนำ้ ได้มากทำผา้ เช็ดตวั ใช้
พลาสติกซ่ึงไม่ดูดซับน้ำทำร่ม
60
ลำดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคัญ เวลา
2. วัสดแุ ละ ตัวชวี้ ัด (ช่ัวโมง)
การใช้
ประโยชน์ บทท่ี 1 สมบตั ิการ ว 2.1 ป.2/1 เม่อื นำวัสดุบางอยา่ งมาผสมเขา้
(ต่อ)
ดดู ซบั นำ้ ของวสั ดุ ป.2/2 ดว้ ยกัน แลว้ ทำให้ไดส้ มบัตทิ ่เี หมาะสม
3 แสงและ
ส่งิ มีชวี ิต และการใช้ ป.2/3 จะสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ตามท่ี
ประโยชนจ์ ากวสั ดุ ป.2/4 ตอ้ งการ เช่น แปง้ ผสมนำ้ ตาลและ
กะทิ ใชท้ ำขนมไทย ปนู ปลาสเตอร์
ผสมเยื่อกระดาษ ใชท้ ำกระปุกออมสิน
ปนู ผสมหิน ทราย น้ำ ใช้ทำคอนกรีต
วัสดุแต่ละชนดิ มีสมบตั ติ า่ งกนั เชน่
ความแข็ง สภาพยืดหย่นุ ดงั น้ัน การ
นำวสั ดมุ าทำเป็นวัตถเุ พ่อื ใช้งานตาม
วตั ถุประสงคจ์ ึงขึ้นอยู่กับสมบัติของ
วัสดุ วัสดุที่ใชแ้ ล้วอาจนำกลบั มาใช้
ใหมไ่ ด้ เช่น กระดาษใชแ้ ล้วอาจนำมา
ทำเป็นจรวดกระดาษ ดอกไม้ประดษิ ฐ์
ได้
บทที่ 1 แสง ว 2.3 ป.2/1 แสงเคล่อื นที่ออกจากแหลง่ กำเนิด 8
ป.2/2 แสงทุกทิศทางเปน็ แนวตรง เมอ่ื มีแสง
จากวัตถุมาเข้าตาจะทำใหเ้ รามองเห็น
วัตถนุ ั้นได้ การมองเหน็ วัตถุที่เปน็
แหล่งกำเนดิ แสง แสงจากวตั ถนุ นั้ จะ
เขา้ สู่ตาโดยตรง ส่วนการมองเหน็ วตั ถุ
ท่ีไม่ใช่แหล่งกำเนิดแสง ต้องมีแสงจาก
แหลง่ กำเนดิ แสงไปกระทบวัตถุแล้ว
สะท้อนเข้าตา จงึ จะทำใหเ้ รามองเห็น
วัตถุตา่ ง ๆ ได้ ถ้ามีแสงทีส่ ว่างมาก ๆ
เข้าสตู่ าอาจสง่ ผลเสียต่อดวงตาได้ เรา
จงึ ต้องหลกี เลยี่ งการมองหรือใชแ้ ผ่น
กรองแสงทีม่ ีคุณภาพเม่อื จำเป็น และ
ตอ้ งจดั ความสวา่ งให้เหมาะสมกับการ
ทำกิจกรรมต่าง ๆ เชน่ การอ่าน
หนงั สอื การดูจอโทรทศั น์ การใช้
โทรศพั ท์เคล่อื นท่ีและแท็บเล็ต
61
ลำดับท่ี ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู สาระสำคญั เวลา
ตัวชี้วัด (ชั่วโมง)
3 แสงและ บทที่ 2 สง่ิ มีชวี ติ ว 1.2 ป.2/1 สง่ิ แวดล้อมท่ีอยู่รอบตัวเราน้ัน 12
ส่ิงมีชวี ติ (ต่อ) ป.2/2 ประกอบด้วยสง่ิ มชี วี ติ และสิ่งไมม่ ชี ีวิต
ว 1.3 ป.2/1 ซึง่ สิง่ มีชีวติ มลี ักษณะท่ีแตกตา่ ง
จากสิ่งไม่มชี ีวติ คือ สิ่งมีชีวติ จะมีการ
เคลื่อนที่ กินอาหาร ขับถ่าย หายใจ
เจริญเติบโต สบื พนั ธ์ุ และตอบสนองต่อ
สง่ิ เร้า แต่สิ่งไมม่ ีชวี ติ จะไมม่ ีลักษณะ
ดงั กลา่ ว
พืชเป็นสง่ิ มชี วี ติ ทม่ี ีการเจริญเติบโต
และจะดำรงชีวิตอยู่ได้ต้องอาศัยน้ำ แสง
และนอกจากนี้ ยังต้องอาศัยอากาศ
และอาศัยธาตุอาหารอีกดว้ ย
4 ดนิ รอบตวั บทที่ 1 รูจ้ กั ดนิ ว 3.2 ป.2/1 ดินเป็นทรัพยากรทางธรรมชาตดิ ิน 8
เรา ป.2/2 ประกอบไปดว้ ยเศษหินตา่ งๆ
ซากพชื ซากสตั ว์ผสมอยู่ในเน้ือดนิ มี 3
5 ปดั กวาดเช็ดถู จดั ตู้ ว 4.2 ป.2/1 อากาศและน้ำแทรกอยู่ตามช่องวา่ งใน 3
จัดโตะ๊ เนอื้ ดนิ ซ่ึงสามารถจำแนกดิน
ได้เปน็ ดินร่วน ดินเหนยี ว และ
6 อะตอมอรา่ ม ยาม ว 4.2 ป.2/2 ดินทราย ตามลักษณะเนอื้ ดนิ และการ
รุ่งอรณุ จบั ตัวของดิน ซ่ึงมผี ลตอ่ การอุ้มนำ้ ท่ี
แตกตา่ งกัน เราจึงสามารถนำดนิ แตล่ ะ
ชนิดไปใชป้ ระโยชน์ไดแ้ ตกตา่ งกัน
ดนิ มหี ลายชนดิ ซึ่งเราสามารถนำดิน
แต่ละชนิดนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้
แตกตา่ งกนั ตามลักษณะและสมบัติ
ของดิน
ลำดับขั้นตอนมีความสำคัญต่อ
อัลกอรทิ ึมอย่างไร เรียนรู้ได้จาก
ชวี ิตประจำวนั
เขียนโปรแกรมดว้ ยบัตรคำสง่ั แบบมี
input ฝึก debug โปรแกรมท่ีคำสั่งไม่
ครบ หรือคำสั่งเกิน หัดทดสอบดว้ ย
อินพตุ หลายๆ แบบ
62
ลำดบั ท่ี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคัญ เวลา
7 ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง)
8
รตั ตกิ าล ว 4.2 ป.2/4 เคารพกติกาในการใช้คอมพิวเตอร์ 3
9
10 รว่ มกัน ตระหนักถึงอันตรายจากสงั คม
11 ก้มหน้า
12
13 นกั อา่ นจ๋วิ ว 4.2 ป.2/3 ปลดปล่อยจินตนาการดว้ ย word 4
processor จดั หมวดหมู่ไฟลด์ ้วย
folders กล้าก้าว กล้าผดิ พลาด ดว้ ย
คำสง่ั Undo และ Recycle Bin
บางกอกมีเสาชงิ ชา้ ว 4.2 ป.2/4 ปกป้องข้อมูลสว่ นตัวไมใ่ ห้รั่วไหล เรียนรู้ 3
บนทอ้ งฟา้ มีทาง วิธกี ารตดิ ตามอปุ กรณ์ทสี่ ูญหาย
ชา้ งเผือก
งานเล้ียงชมรม กบั ว 4.2 ป.2/1 การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ แบบท่ีไม่ 3
ขนมเจ้าปญั หา สามารถมองเหน็ ภาพทั้งหมดได้ในคราว
เดยี ว แนะนำแนวคิดพื้นฐานของ
binary search
เกมเส้นทางปริศนา ว 4.2 ป.2/2 เขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขด้วยบตั ร 3
คำส่งั และซองจดหมาย (คำส่งั if แบบ
unplug)
เชฟนา่ เลฟิ คน ว 4.2 ป.2/2 ฝกึ เขยี นโปรแกรมด้วย if (แบบ unplug) 3
เสิร์ฟน่ารัก หลายเง่ือนไขต่อเนื่องกัน มองเหน็ พลงั
ของคำส่ังแบบเงื่อนไข
งานประจำปี 4.0 ว 4.2 ป.2/4 เทคโนโลยีอนาคต เช่น sensors & IoT, 3
smart home, sharing economy,
autonomous vehicles, universal
design, machine translation, voice
recognition และทัศนคติของการนำ
เทคโนโลยีไปใชเ้ พื่อช่วยเหลือเพ่ือน
มนุษย์ การเลือกท่จี ะไม่ใช้เทคโนโล่ยใี น
บางสถานการณ์
รวม 80
63
โครงสรา้ งรายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
ลำดบั ท่ี ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลา
ตัวชว้ี ัด (ชัว่ โมง)
1 การเรียนรู้ บทที่ 1 เรียนรู้แบบ - วทิ ยาศาสตร์เปน็ การศึกษาเกยี่ วกบั 4
สิง่ ต่าง ๆ นักวิทยาศาสตร์ ส่งิ ตา่ ง ๆ ท่อี ยู่รอบตวั เรา วธิ ีการและ
รอบตัว ข้ันตอนที่ใชเ้ พื่อตอบปญั หาท่ีเราสงสัย
เรียกวา่ วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์
ในการสืบเสาะความรู้
อย่างเปน็ ระบบ ซ่ึงเราควรฝึกฝน
ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ ห้
เกิดความชำนาญ เพ่ือใหส้ ามารถ
ค้นหาคำตอบ และแก้ไขปัญหาได้
อย่างถูกต้องเหมาะสม
เมอ่ื เราทำการศกึ ษาและแสวงหา
ความร้ตู า่ ง ๆ โดยใช้กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ จะเกิดจิตวิทยาศาสตร์
ซ่ึงทำใหเ้ ราเป็นคนมีความสนใจใฝ่รู้
ส่ิงต่าง ๆ มีความรบั ผดิ ชอบ เหตุมผี ล
และมคี วามซอื่ สตั ย์
2 อวกาศและ บทท่ี 1 อากาศและ ว 3.2 ป.3/1 อากาศประกอบดว้ ยแกส๊ ไนโตรเจน 14
ชวี ิตของสัตว์ ความสำคญั ต่อ ป.3/2 แก๊สออกซเิ จน คาร์บอนไดออกไซด์
ส่ิงมีชีวติ ป.3/3 แก๊ส อ่ืน ๆ รวมทั้งไอน้ำ และฝุ่นละออง
ป.3/4 สิ่งมีชีวิตทุกชนิดใชอ้ ากาศในการหายใจ
และอากาศยังมีประโยชน์ในด้านตา่ ง ๆ
อีกมากมาย อากาศเคล่ือนท่ีจากบริเวณ
ท่ีมอี ุณหภูมติ ำ่ ไปยังบรเิ วณท่ีมี
อุณหภมู สิ ูงกว่า โดยอากาศท่เี คล่อื นท่ีใน
แนวราบทำให้เกิดลม
บทที่ 2 การ ว 1.2 ป.3/1 สัตวจ์ ะมีการแสดงพฤติกรรมการ 10
ดำรงชีวติ ของสัตว์ ป.3/2 ตอบสนองต่อส่ิงแวดล้อมต่างๆ เชน่ แสง
ป.3/3 อุณหภมู ิ การสัมผสั ซ่ึงสามารถนำ
ป.3/4 ความรู้ไปใชใ้ นการจดั สภาพแวดล้อมให้
เหมาะสมกับการดำรงชีวติ ของสตั ว์
64
ลำดบั ท่ี ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสำคัญ เวลา
ตวั ชีว้ ัด (ชวั่ โมง)
3 การ บทท่ี 1 การทำให้ ว 2.1 ป.3/1 การเปล่ยี นแปลงของวัสดุอาจเกิดจาก 6
เปลย่ี นแปลง วตั ถุและวสั ดุ ป.3/2 แรงมากระทำ หรือไดร้ ับความร้อน หรือ
ของวตั ถุและ เปลยี่ นแปลง ได้รับความเย็น ทำใหม้ สี มบตั ิแตกตา่ ง
วสั ดุ ไปจากเดิม ซง่ึ สามารถนำไปใช้ให้เกิด
ประโยชนห์ รืออาจก่อใหเ้ กดิ อันตรายได้
4 แรงใน บทที่ 1 แรงสมั ผัส ว 2.2 ป.3/1 วัตถทุ ุกชนิดจะต้องตกลงสพู่ ื้น ไมว่ ่า 8
ชีวิตประจำวัน และแรงไม่สมั ผสั ป.3/2 วัตถนุ ้ันจะอยู่สูงหรือไม่ เราจะโยนวตั ถุ
ป.3/3 ขึ้นไปสูงเท่าใด ผลที่ออกมาคือวัตถจุ ะ
ป.3/4 ตกลงสู่พื้นเสมอ เหตุเกดิ จากโลกของเรา
มแี รงโน้มถว่ ง หรือทีเ่ รียกอีกอย่างว่า
แรงดึงดูดของโลกและทำให้วัตถุมี
นำ้ หนัก น้ำหนักของวัตถุข้ึนกับมวลของ
วัตถุ โดยวัตถทุ ี่มมี วลมากจะมีนำ้ หนัก
มาก วัตถุทมี่ ีมวลน้อยจะมนี ้ำหนักน้อย
5 พลังงานกับ บทท่ี 1 ดวง ว 3.1 ป.3/1 คนบนโลกมองเหน็ ดวงอาทิตย์ 8
ชีวติ อาทิตยแ์ ละ ป.3/2 ปรากฏข้ึน ทางด้านหนึ่งและตกทางอีก
ปรากฏการณ์ของ ป.3/3 ด้านหนง่ึ ทุกวนั หมนุ เวียนเป็นแบบรูป
โลก ซำ้ ๆ
โลกกลมและหมนุ รอบตัวเองขณะ
โคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้บริเวณของ
โลกได้รับแสงอาทิตย์ไม่พร้อมกัน โลก
ดา้ นที่ได้รบั แสงจากดวงอาทิตยจ์ ะเป็น
กลางวนั สว่ นด้านตรงขา้ มที่ไม่ได้รับแสง
จะเป็นกลางคืน นอกจากนี้คนบนโลกจะ
มองเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏข้ึนทางด้าน
หนง่ึ ซึ่งกำหนดให้เปน็ ทิศตะวันออก
และมองเห็นดวงอาทิตย์ตกทางอีกดา้ น
หนงึ่ ซง่ึ กำหนดให้เป็นทิศตะวันตก และ
เม่ือให้ดา้ นขวามืออยู่ทางทิศตะวนั ออก
ด้านซ้ายมืออยู่ทางทิศตะวันตกด้านหนา้
จะเป็นทิศเหนือ และดา้ นหลังจะเปน็ ทิศ
ใต้
65
ลำดับท่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคัญ เวลา
6 ตวั ชีว้ ัด (ช่วั โมง)
7
8 บทที่ 2 พลงั งาน ว 2.3 ป.3/1 แหล่งพลังงานจากธรรมชาติและ 8
ไฟฟา้ ป.3/2 แหล่งพลงั งานหมนุ เวยี นท่ีใชผ้ ลติ ไฟฟ้า
9 ป.3/3 การใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งอยา่ ง
10 ถูกต้อง ปลอดภยั และประหยัด
11
สไลเดอรเส่ยี งทาย ว 4.2 ป.3/1 การแสดงอัลกอริทมึ ทำไดโ้ ดยการ 3
12 เขยี น บอกเล่าวาดภาพ หรือใช้
13 สญั ลกั ษณ์
เงอ่ื นไขใส่ซอง ปู ว 4.2 ป.3/2 การเขยี นโปรแกรมเปน็ การสร้าง 3
ลำดับของคำสง่ั ให้คอมพิวเตอร์
ดองใสค่ รก ทำงานใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เชน่
ใชบ้ ัตรคำสั่งแสดงการเขยี นโปรแกรม,
Code.org
ยนื งงในพงไพร ว 4.2 ป.3/5 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ ง 3
ปลอดภยั เช่นปกปอ้ งข้อมลู ส่วนตัว
ศกึ ษาข้อดแี ละข้อเสียในการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร
พับไดโนเสารใ์ หค้ ุณ ว 4.2 ป.3/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ รวบรวม 3
ป.3/4 ประมวลผล และนำเสนอขอ้ มูล โดยใช้
ป้า แลว้ พบั เสอื้ ผ้า ป.3/5 ซอฟตแ์ วร์ และใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
ใส่กระเปา๋
คนทใ่ี ช่ สไลด์ที่ ว 4.2 ป.3/4 รวบรวมข้อมลู ทำได้โดยกำหนด 2
ชอบ หัวข้อทีต่ ้องการ เตรียมอุปกรณ์ใน
การจดบันทกึ การนำเสนอข้อมูลทำได้
หลายลักษณะตามความเหมาะสม
เช่น การบอกเลา่ การทำ
เอกสารรายงาน การจัดทำป้าย
ประกาศ
ไตรกีฬา สมาคม ว 4.2 ป.3/1 แสดงอลั กอริทึมในการทำงานหรอื การ 2
แก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใชภ้ าพ
พ่อคา้ ไข่
ลม้ ลุกคลกุ ฝุ่น วิ่ง ว 4.2 ป.3/2 เขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ 2
ซอฟต์แวรห์ รอื สอ่ื ตรวจหา
วุ่นวนไป ขอ้ ผดิ พลาด ทำไดโ้ ดยตรวจสอบ
คำสั่งที่แจง้ ข้อผิดพลาด หรือหาก
ผลลพั ธ์ไมเ่ ปน็ ไปตามทีต่ ้องการให้
ตรวจสอบการทำงานทีละคำสั่ง
66
ลำดับท่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลา
14 ตัวชี้วัด (ช่ัวโมง)
15 ตลาดโบราณกับ ว 4.2 ป.3/3 เว็บเบราว์เซอร์เป็นโปรแกรมสำหรบั 2
แก๊งจักรยานโบว์ ป.3/5 อ่านเอกสารบนเว็บเพจ การสบื ค้น
แดง ข้อมูลบนอินเทอรเ์ นต็ ทำไดโ้ ดยใช้
เวบ็ ไซต์สำหรบั สืบค้น และต้อง
กำหนดคาํ ค้นที่เหมาะสมจึงจะได้
ข้อมูลตามตอ้ งการ
เอ...อารไ์ รนะ ว 4.2 ป.3/5 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ ง 2
ปลอดภยั ขอความช่วยเหลอื จากครู
หรือผ้ปู กครอง เม่ือเกิดปัญหาจาก
การใชง้ าน ปฏบิ ัติตามข้อตกลงในการ
ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ จะทำใหไ้ มเ่ กิดความ
เสยี หายต่อตนเองและผู้อน่ื เช่น ไม่ใช้
คำหยาบ ล้อเลยี น ดา่ ทอ ทำใหผ้ ู้อืน่
เสยี หายหรอื เสียใจ
รวม 80
67
โครงสร้างรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
ลำดบั ที่ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู สาระสำคัญ เวลา
1 การเรียนรู้ ตัวชีว้ ดั (ชว่ั โมง)
สงิ่ ต่างๆ บทท่ี 1 การเรยี นรู้ - วทิ ยาศาสตร์เป็นการศึกษาเกี่ยวกบั ส่ิง 2
รอบตัว
แบบนกั วทิ ยาศาสตร์ ตา่ ง ๆ ที่อยู่รอบตัววิธกี ารและข้ันตอนท่ี
2 สิง่ มีชีวติ
ใช้เพื่อตอบปัญหาท่ีสงสัย เรียกว่า
วิธกี ารทาง วิทยาศาสตร์ ในการสบื
เสาะหาความรู้อย่างเป็นระบบ ผู้เรียน
ควรฝกึ ฝน ทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ใหเ้ กดิ ความชำนาญ เพ่ือให้
สามารถค้นหาคำตอบได้อยา่ งถูกต้อง
เมื่อทำการศึกษาและแสวงหาความรู้
โดยใช้กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์
แล้ว ผเู้ รียนจะเกิดจติ วิทยาศาสตร์
บทท่ี 1 ส่ิงมีชีวติ ว 1.3 ป.4/1 สัตวแ์ ตล่ ะชนิดจะมลี กั ษณะ 10
รอบตวั ป.4/2 บางอย่างที่เหมือนกัน บางอย่างแตกต่าง
ป.4/3 กนั สตั ว์บางชนดิ มีปีก สัตวบ์ างชนิดมี
ป.4/4 ขา บางชนิดไมม่ ีขา สัตวบ์ างชนิดมีครีบ
บางชนิดไมม่ ีครีบเป็นต้น
เกณฑ์ในการจำแนกหมายถงึ สิ่งท่ี
นำมาพิจารณาเพ่ือใช้ในการจัดกลุ่ม
ส่ิงมีชีวิตออกเปน็ กลุ่มต่างๆ
สัตว์ตา่ งๆมีลักษณะภายนอก
บางอย่างทีเ่ หมือนกัน บางอย่างที่
แตกต่างกันออกไป สามารถจำแนก
ออกเปน็ กลุ่มๆ ได้หลายกลุ่ม โดยใช้
ลกั ษณะภายนอกเป็นเกณฑใ์ นการ
จำแนก สตั ว์ทีม่ ลี ักษณะภายนอก
เหมือนกัน จะอยู่กลมุ่ เดียวกัน สตั ว์ท่มี ี
ลกั ษณะภายนอกตา่ งกันจะอยู่คนละ
กลุ่มกัน
68
ลำดับที่ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคัญ เวลา
2 ส่งิ มชี วี ิต ตวั ช้ีวดั (ช่ัวโมง)
(ต่อ) บทที่ 2 ส่วนตา่ งๆ ว 1.2 ป.4/1 ดอกไม้แต่ละส่วนมีหนา้ ทแ่ี ตกตา่ งกัน 8
3 แรงและ ของพชื ดอก กลีบเล้ียงมีหนา้ ทหี่ ้มุ ดอกที่ตูมเพ่ือ
พลงั งาน
ป้องกันอันตราย กลีบดอกมหี น้าท่ีล่อ
4 วสั ดุและ
สสาร แมลงให้มาผสมเกสร เกสรเพศผู้มีหน้าที่
สร้างเซลล์สบื พนั ธุ์เพศผู้ เกสรเพศเมยี มี
หนา้ ที่สรา้ งเซลล์สบื พันธ์เุ พศเมีย
บทที่ 1 มวลและ ว 2.2 ป.4/1 มวลเป็นปริมาณของเน้ือของสสาร 8
น้ำหนัก ป.4/2 ทัง้ หมดที่รวมเป็นวัตถุ
ป.4/3 โลกมีแรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดดู
กระทำต่อมวลของวัตถุ ในทิศทางท่พี ุ่ง
เข้าสูศ่ ูนย์กลางของโลก ทำให้วตั ถุตกสู่
พ้ืน และทำใหว้ ัตถุมีนำ้ หนัก
บทท่ี 2 ตัวกลางของ ว 2.3 ป.4/1 การท่ีจะมองเห็นส่ิงตา่ งๆ ได้นนั้ ต้อง 4
แสง อาศัยแสง โดยแสงเคลื่อนทจี่ าก
แหล่งกำเนิดในลักษณะแนวเส้นตรงและ
ทกุ ทิศทาง ผา่ นตวั กลางไปกระทบวัตถุ
และแสงจะสะท้อนของเข้าตาทำให้
มองเห็นส่ิงต่างๆ ซ่ึงจะสามารถจำแนก
ตัวกลางได้จากลักษณะการมองเห็นส่ิง
ตา่ ง ๆ ผา่ นวตั ถุ โดยตัวกลางมี 3
ประเภท ได้แก่ ตวั กลางโปร่งใส ตวั กลาง
โปรง่ แสงและตัวกลางทบึ แสง
บทที่ 1 สมบตั ทิ าง ว 2.1 ป.4/1 วสั ดแุ ต่ละชนดิ มีสมบตั ิที่แตกต่างกัน 8
กายภาพของวัสดุ ป.4/2 มนุษย์จงึ นำวสั ดตุ ่างๆ มาประดิษฐ์เป็น
สง่ิ ของโดยเลือกจากสมบตั ิของวัสดใุ ห้
เหมาะสมกับประโยชน์ทีต่ ้องการใช้ เช่น
หากต้องการประดิษฐ์หม้อ กต็ ้องเลือก
วสั ดุทีน่ ำความร้อนไดด้ ี ทนทานแขง็ แรง
วสั ดปุ ระกอบข้ึนมาจากสสารหรอื สาร
ต่าง ๆซึ่งสสารจะมสี ถานะดว้ ยกันหลาย
อย่าง เชน่ ของแขง็ ของเหลว และ แก๊ส
ซงึ่ ทั้ง 3 สถานะน้ีก็มสี มบัตทิ เี่ หมือน
และแตกตา่ งกันโดยการสังเกตจากมวล
และต้องการท่ีอยู่ รูปร่างและปรมิ าตร
69
ลำดับที่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคญั เวลา
ตวั ชี้วดั (ชั่วโมง)
4 วสั ดแุ ละ
สสาร (ตอ่ ) บทที่ 2 สถานะของ ว 2.1 ป.4/3 วัสดุต่างๆ มสี ารเป็นองคป์ ระกอบ ใน 10
สาร ป.4/4 สถานะของแข็ง ของเหลว และแก๊สมี
สมบัติบางประการเหมือนและบาง
ประการแตกต่างกัน เนื่องจากการ
จดั เรียงตัวและการเคลื่อนท่ีของอนุภาค
ทเ่ี ป็นองค์ประกอบของสารในแตล่ ะ
สถานะแตกต่างกนั ของแข็งมีมวล
ตอ้ งการที่อยู่ มีรูปรา่ งและปรมิ าตรคงท่ี
ไม่เปลี่ยนแปลงตามภาชนะทีบ่ รรจุ
5 โลกและ บทที่ 1 ดวงจันทร์ ว 3.1 ป.4/1 ดวงจันทรจ์ ะปรากฏขึ้นในด้านทศิ 6
ตะวันออกและตกในทิศตะวนั ตก โดย
อวกาศ ของเรา ป.4/2 โดยตำแหนง่ ของดวงจนั ทร์ในแตล่ ะคนื ก็
จะปรากฏขน้ึ ในทิศตะวันออกและ
เคล่ือนที่ไปและตกในทิศตะวนั ตก
6 บทที่ 2 ระบบสรุ ิยะ ว 3.1 ป.4/3 ระบบสรุ ยิ ะ ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ 6
ของเรา เป็นศูนย์กลาง และมีบริวารโคจรอยู่
โดยรอบ สว่ นดาวตกหรือผีพุ่งใต้
อุกกาบาต อาจเกดิ มาจากดาวหาง ดาว
เคราะห์น้อย หรือวัตถุขนาดเล็กอืน่ ๆ
7 เท่ยี วบา้ นคณุ ยา่ ว 4.2 ป.4/1 ใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะเปน็ การนำ 2
กฎเกณฑห์ รือเง่ือนไขท่ีครอบคลุมทุก
กรณมี าใช้พจิ ารณาในการแก้ปญั หา
การอธิบายการทำงาน หรือการ
คาดการณผ์ ลลัพธ์
8 โปรแกรมแสนสนกุ ว 4.2 ป.4/2 การออกแบบโปรแกรมอย่างง่ายเชน่ 2
การออกแบบโดยใช้storyboard หรือ
การออกแบบอัลกอริทึม ซอฟต์แวร์ที่
ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม เชน่ Scratch,
logo
70
ลำดบั ที่ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา
9 ตัวชว้ี ดั (ช่วั โมง)
10 หนทางหมื่นลี้ เร่ิมตน้ ว 4.2 ป.4/2 เขยี นโปรแกรมเป็นการสร้างลำดบั 2
11
ที่ธงเขียว ของคำสัง่ ให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
12
13 เพื่อใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ตามความต้องการ
หากมขี ้อผิดพลาดให้ตรวจสอบการ
ทำงานทีละคำส่ัง เม่ือพบจุดที่ทำ
ให้ผลลพั ธ์ไมถ่ ูกตอ้ ง ให้ทำการแก้ไข
จนกวา่ จะไดผ้ ลลัพธท์ ี่ถูกต้อง ฝึก
ตรวจหาข้อผดิ พลาดจากโปรแกรม
ของผู้อ่ืนจะชว่ ยพัฒนาทักษะการหา
สาเหตุของปัญหาได้ดยี ่ิงขน้ึ
ลอยฟ้าตะลยุ สวน ว 4.2 ป.4/4 รวบรวมขอ้ มูล ทำได้โดยกำหนดหัวข้อ 2
ทต่ี อ้ งการ เตรียมอปุ กรณ์ในการจด 2
แสบต้องเสิร์ช ว 4.2 ป.4/3 บันทึก วเิ คราะหผ์ ลและสร้างทางเลอื ก
ป.4/5 ทีเ่ ปน็ ไปได้ประเมินทางเลือก 2
2
บางแสนแสนสนกุ ว 4.2 ป.4/4 เตรียมอุปกรณ์ในการจดบันทึก
วิเคราะหผ์ ลและสร้างทางเลอื กการใช้
ชารต์ ชารต์ ชาร์ต ว 4.2 ป.4/4 ซอฟต์แวรเ์ พื่อแก้ปัญหาใน
น้องเคยเห็นชาร์ต ชวี ติ ประจำวันเช่น การสำรวจ
หรอื เปล่า เมนอู าหารกลางวนั โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์
สร้างแบบสอบถามและเก็บข้อมลู ใช้
ซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงานเพื่อ
ประมวลผลขอ้ มูลรวบรวมข้อมลู
เก่ยี วกบั คุณค่าทางโภชนาการและ
สร้างรายการอาหารสำหรับ ๕ วนั ใช้
ซอฟต์แวรน์ ำเสนอผลการสำรวจ
รายการอาหารทเ่ี ปน็ ทางเลอื กและ
ข้อมูลดา้ นโภชนาการ
รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและ
สารสนเทศโดยใชซ้ อฟตแ์ วรท์ ี่
หลากหลาย เพือ่ แกป้ ญั หาใน
ชีวิตประจำวัน
นำเสนอข้อมลู ทำไดห้ ลายลักษณะตาม
ความเหมาะสม เช่น การบอกเลา่
เอกสารรายงานโปสเตอรโ์ ปรแกรม
นำเสนอ
71
ลำดบั ท่ี ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู สาระสำคญั เวลา
14 ตัวช้ีวดั (ช่ัวโมง)
15 อยา่ ไวใ้ จทาง อยา่ ว 4.2 ป.4/3 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู และ 2
วางใจขา่ ว ป.4/5 สารสนเทศ ทำได้โดยกำหนดหวั ขอ้ ท่ี 2
ตอ้ งการ เตรยี มอุปกรณ์ในการจด
บันทกึ
บั้งไฟบุปผชาติ ว 4.2 ป.4/1 ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา
ป.4/2 การคาดการณผ์ ลลัพธ์จากปัญหา
สถานะเรม่ิ ตน้ ของการทำงานที่
แตกตา่ งกันจะให้ผลลพั ธท์ ีแ่ ตกตา่ ง
กนั เขียนโปรแกรมเปน็ การสรา้ ง
ลำดบั ของคำส่งั ให้คอมพิวเตอร์
ทำงาน เพ่ือให้ได้ผลลัพธต์ ามความ
ต้องการ
รวม 80
72
โครงสรา้ งรายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5
ลำดับท่ี ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคญั เวลา
1 การเรยี นรู้ ตัวช้วี ัด (ชัว่ โมง)
ส่งิ ตา่ งๆ บทท่ี 1 ทักษะ วทิ ยาศาสตร์เป็นการศึกษาเก่ียวกับสิ่ง 3
รอบตวั
กระบวนการทาง ตา่ ง ๆ ที่อยู่รอบตัววิธกี ารและข้ันตอนท่ี
2 แรงและ
พลงั งาน วิทยาศาสตร์ ใชเ้ พ่ือตอบปัญหาที่สงสัย เรียกว่า
วิธกี ารทาง วทิ ยาศาสตร์ ในการสืบ
เสาะหาความรู้อย่างเป็นระบบ ผเู้ รยี น
ควรฝกึ ฝน ทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ให้เกดิ ความชำนาญ เพ่ือให้
สามารถค้นหาคำตอบได้อยา่ งถูกต้อง
เม่ือทำการศึกษาและแสวงหาความรู้
โดยใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์
แลว้ ผเู้ รียนจะเกิดจติ วิทยาศาสตร์
บทท่ี 1 แรงลพั ธ์ ว 2.2 ป.5/1 แรงลัพธค์ ือ ผลรวมของแรงหลาย 10
และแรงเสยี ดทาน ป.5/2 แรงที่กระทำต่อวัตถุ เดียวกันในทิศทาง
ป.5/3 เดยี วกนั หรือผลตา่ งของแรงสองแงที่
ป.5/4 กระทำต่อวัตถุในทศิ ทางตรงขา้ มกัน
ป.5/5 สำหรับวัตถทุ ี่อยู่นิ่งแรงลัพธจ์ ะมคี า่ เป็น
ศูนย์
แรงเสียดทาน คือ แรงท่ีเกิดขึ้น
ระหว่างผวิ สัมผัสของวัตถสุ อง ชนดิ เพื่อ
ตา้ นการเคลื่อนที่ของวัตถุนน้ั ๆ และมี
ทศิ ทางตรงข้ามกบั การเคล่ือนที่
ของวัตถนุ ้ันๆ
บทที่ 2 เสยี ง ว 2.3 ป.5/1 สียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวตั ถุที่ 9
ป.5/2 เป็นแหล่งกำเนิดเสียง เสยี งเคลื่อนที่ได้
ป.5/3 ทุกทิศทางโดยอาศัยตวั กลาง ไดแ้ ก่
ป.5/4 ของแข็ง ของเหลวและอากาศ มาถึงหู
ป.5/5 ของเรา เสียงจากแหลง่ กำเนิดเสียง
ตา่ ง ๆ จะมเี สียงสูง เสยี งต่ำ หรอื มี เสียง
ดงั เสียงค่อย แตกต่างกัน หากเสียงมี
ความดังมาก ๆ จะก่อให้เกิดอันตราย
ต่อการไดย้ ินเสยี งของเรา
73
ลำดบั ที่ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา
ตัวชว้ี ัด (ชั่วโมง)
3 การ
เปลย่ี นแปลง บทที่ 1 การเปลี่ยน ว 2.1 ป.5/1 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ หมายถึง 5
ของสสาร
ทางกายภาพ ป.5/2 การเปลย่ี นแปลงทเ่ี กย่ี วข้องกับสมบัติ
ทางการภาพของสาร เช่น การเปล่ียน
สถานะ การละลาย การมรี ูปร่าง
เปล่ียนแปลง หลังจากการเปลี่ยนแปลง
สมบตั ิทางเคมียังคงเหมือนเดิม
ตัวอย่างการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ
การระเหิดของลูกเหมน็ (ของแข็ง แกส๊ )
การระเหิดของน้ำ ( ของเหลว แก๊ส )
บทท่ี 2 การ ว 2.1 ป.5/3 การเปล่ียนแปลงทางเคมี หมายถึง การ 4
เปลี่ยนแปลงทาง เปลีย่ นแปลงทเ่ี กี่ยวข้องกับการ
เคมี เกิดปฏิกิริยาเคมี
มสี ารใหม่เกิดข้ึน โดยสารใหม่ทเี่ กิดขึ้น
จะมีองค์ประกอบและสมบตั ิทางเคมี
แตกตา่ งไปจากเดิมตวั อย่างการ
เปล่ียนแปลงทางเคมโี ลหะโซเดียม ทำ
ปฏิกิริยากับนำ้ ไดส้ ารใหมค่ ือโซเดียมไฮ
ดรอกไซด์ และแกส๊ ไฮโดรเจนการเผา
ไหม้ของลกู เหมน็ ได้สารใหม่เกิดขึ้นคือ
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์การเกิดสนิท
เหล็ก ได้สารใหม่เกิดข้ึนคือ ออกไซด์
ของเหล็ก
บทท่ี 3 การ ว 2.1 ป.5/4 สารบางชนิดเกิดการเปลยี่ นแปลงแล้ว 4
สามารถเปลย่ี นกลบั เป็นสารเดิมได้เป็น
เปลย่ี นแปลงที่ผัน การเปล่ยี นแปลงท่ีผันกลบั ได้ ซึ่งเป็น
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเช่น การ
กลับได้และผันกลับ หลอมเหลว การกลายเป็นไอ การละลาย
แต่สารบางอย่างเกดิ การเปลี่ยนแปลง
ไม่ได้ แลว้ ไม่สามารถเปลี่ยนกลบั เป็นสารเดิม
ได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้
ซึง่ เป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมี เชน่
การเผาไหม้ การเกิดสนิม
74
ลำดับที่ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลา
4 วัฏจกั ร ตวั ชี้วัด (ชว่ั โมง)
บทที่ 1 วัฏจักรนำ้ ว 3.2 ป.5/1 วัฏจักรน้ำเกิดจากการหมนุ เวียนของ 10
ป.5/2 อนภุ าคน้ำอย่างต่อเน่ืองระหว่างแหล่ง
ป.5/3 ตา่ ง ๆ ทง้ั น้ำในสัตว์ พชื เมฆ ธารน้ำแขง็
ป.5/4 นำ้ ใตด้ ิน ทะเลสาบ มหาสมทุ ร แมน่ ำ้ และ
ป.5/5 ดิน ในการหมุนเวียนของอนุภาคน้ำไป
ตามแหลง่ ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนที่อยขู่ องน้ำ
ซงึ่ อาจมกี ารเปล่ียนสถานะหรือไมม่ กี าร
เปลี่ยนสถานะก็ได้ ในการเปล่ียนแปลงที่
อยู่ของอนุภาคน้ำจากแหล่งหนงึ่ ไปยังอีก
แหล่งหน่ีง จะมแี บบรูปกระบวนการ
เปลี่ยนแปลงคงที่การหมุนเวียนของ
อนุภาคนำ้ ไปตามแหล่งตา่ ง ๆ อาจเกิดขน้ึ
พรอ้ มกนั หรือไม่พร้อมกันก็ได้ ดังนน้ั
แมว้ ่าน้ำจะหมุนเวียนเป็นวัฏจักร แต่
อนภุ าคน้ำอาจจะหมุนเวียนกลับมาที่เดมิ
โดยใช้เวลาไม่เท่ากนั
บทท่ี 2 วฏั จักรการ ว 3.1 ป.5/1 ดาวทีม่ องเหน็ บนท้องฟ้า ในอวกาศมีท้ัง 6
ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์เป็น
ปรากฏของกลมุ่ ดาว ป.5/2 แหล่งกำเนิดแสงจึงสามารถมองเหน็ ได้
สว่ นดาวเคราะห์ไม่ใชแ่ หล่งกำเนิดแสง
แตเ่ ราสามารถมองเห็นได้ เน่ืองจาก
แสงจากดวงอาทิตย์ตกกระทบดาว
เคราะห์แลว้ สะท้อนเขา้ สู่ตา ในการ
มองเห็นกลุ่มดาวฤกษ์มีรปู รา่ งต่าง ๆ เกิด
จาก จินตนาการของผสู้ ังเกต กลุ่มดาว
ฤกษต์ ่าง ๆ ท่ีปรากฏในทอ้ งฟ้า แต่ละ
กลมุ่ มีดาวฤกษ์แต่ละดวงเรียงกันท่ี
ตำแหน่งคงที่ และมี เส้นทางการขึน้ และ
ตกตามเส้นทางเดิมทุกคืน ซ่งึ จะปรากฏ
ตำแหน่งเดิม การสังเกตตำแหน่งการข้ึน
และตกของดาวฤกษ์ และกลมุ่ ดาวฤกษ์
สามารถทำได้โดยใชแ้ ผนที่ดาว ซึง่ ระบุมมุ
ทิศ และมุมเงยท่ีกลมุ่ ดาวน้ันปรากฏ โดย
ผสู้ งั เกตสามารถใช้มอื ใน การประมาณคา่
ของมมุ เงยเมอ่ื สังเกตดาวในท้องฟ้าได้
75
ลำดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคญั เวลา
5 ส่ิงมชี วี ิต ตวั ชี้วดั (ชว่ั โมง)
6 บทท่ี 1 ลกั ษณะ ว 1.3 ป.5/1 ลกั ษณะทางพันธุกรรม เป็นลักษณะของ 8
7
8 ทางพนั ธุกรรมของ ป.5/2 สิง่ มีชีวิต ซ่ึงถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสลู่ ูก
9
10 สง่ิ มีชีวติ ได้ และถ่ายทอดจากรุน่ หนึ่งไปยังอีกรุ่น
11
หนง่ึ โดยจะถูกควบคุมโดยหนว่ ยควบคุม
12
ลักษณะท่ีเรยี กวา่ ยนี (Gene)
บทท่ี 2 สิ่งมีชีวิต ว 1.1 ป.5/1 การดำรงชวี ติ ของสิ่งมีชวี ิตกับ 8
กบั ส่ิงแวดล้อม ป.5/2 สภาพแวดล้อมในท้องถ่ิน มี
ป.5/3 ความสัมพันธ์กันทั้งทางกายภาพและ
ป.5/4 ชีวภาพในรูปของโซ่อาหารและสายใย
อาหาร
ตุ๊กตาแม่ลูกดก ว 4.2 ป.5/1 เขยี น algorithm ดว้ ย pseudocode 2
(รหสั ลำลอง) และ flow chart (ผงั
งาน)
ชมิ ชอป แชะ ว 4.2 ป.5/3 เรยี นร้มู ารยาทการส่ือสารด้วยอีเมล การ 2
ป.5/5 ใชโ้ ทรศัพท์
เสน้ ทางเดิน เหนือ ว 4.2 ป.5/4 เรียนรู้ spreadsheet สูตร COUNT 2
เรือนยอดไม้ COUNTA COUNTIF การล็อกเซลด้วย
$ และการเรยี งข้อมูล
ดาวกระจาย ที่ค่าย ว 4.2 ป.5/2 ฝกึ เคล่ือนท่ีใน Scratch ดว้ ย move, 2
ลกู เสือ turn และการวนซ้ำดว้ ย repeat,
forever
ไลฟ์สาระ ว 4.2 ป.5/3 เรียนรู้ประโยชน์และข้อควรระวังของ 2
ป.5/5 การ Live หัดแยกแยะข้อเทจ็ จรงิ กบั
ข้อคิดเห็น
โรบอทเอ็กซโ์ ป ว 4.2 ป.5/2 เรียนรกู้ ารใชเ้ งื่อนไขบน Scratch เชน่ 2
คำส่ัง if on edge, bounce คำสงั่ if
(touching …) then ทดลองรับอินพุต
ผา่ นคำสั่ง ask … and wait และใช้
ประโยชนจ์ าก answer
แฟนตะกร้อ ว 4.2 ป.5/5 เรยี นร้มู ารยาทการส่ือสารออนไลน์ การ 2
แก้แฮงก์ด้วย end task รจู้ ักภัย
ออนไลน์เช่น spam, phishing, การ
หลอกลวงให้เล่นเกมเสียสตางค์ และ
cyberbullying
76
ลำดบั ท่ี ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคัญ เวลา
13 ตวั ชี้วัด (ช่ัวโมง)
14 กีฬาฮาเฮ ว 4.2 ป.5/1 แก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะช่วย 2
2
ลดความซบั ซ้อน
80
ดาวหาง ณ กลาง ว 4.2 ป.5/3 ตรวจสอบต้นตอของข้อมูล (primary
หาว source) พจิ ารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน
ใช้ search engine ค้นหาข้อมูลเฉพาะ
ด้าน เช่น แปลภาษา แปลงสกุลเงิน
เปลี่ยนหน่วย พยากรณ์อากาศ และ
ทดลองใช้เคร่ืองมือพิเศษเช่น
wolframalpha
รวม
77
โครงสร้างรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6
ลำดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสำคัญ เวลา
ตัวชีว้ ัด (ชว่ั โมง)
1 อาหารและ บทท่ี 1 สารอาหาร ว 1.2 ป.6/1 ระบบยอ่ ยอาหารประกอบดว้ ยอวัยวะตา่ ง 9
ๆ ที่ทำหน้าท่รี ่วมกนั ในการยอ่ ยอาหาร
การย่อย และระบบย่อย ป.6/2 และการดูดซมึ สารอาหารเขา้ สูร่ ะบบ
หมนุ เวียนเลือด แล้วถูกลำเลียงต่อไปยัง
อาหาร อาหาร ป.6/3 สว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย ให้สว่ นต่าง ๆ
ของรา่ งกายได้นำไปใชป้ ระโยชน์ในการ
ป.6/4
ป.6/5
เจรญิ เติบโตของรา่ งกาย สรา้ งพลงั งาน
และกจิ กรรมอ่ืน ๆ เพื่อการดำรงชวี ิตของ
มนษุ ย์
การแยกสารผสมท่มี ีของแข็งผสมกับ
บทที่ 2 การแยก ว 2.1 ป.6/1 ของแข็งแยกออกจากกัน ทำได้โดยวธิ ีการ 9
รอ่ น การหยิบออก หรือการใชแ้ มเ่ หล็ก
สารเนือ้ ผสม
ดึงดูด ส่วนสารผสมท่ีมีของแข็งผสมกับ
ของเหลวแยกออกจากกันไดโ้ ดยวิธีการ
กรองและตกตะกอน สำหรับสารผสมทม่ี ี
ของแข็งละลายในของเหลวเป็นเน้ือเดียว
แยกออกจากกันโดยวิธีระเหยแหง้ และตก
ผลึก
กระบวนการเปล่ียนแปลงและ
3 หนิ และซาก บทท่ี 1 หิน วัฏจกั ร ว 3.2 ป.6/1 กระบวนการหมุนเวียนของหินอัคนี หิน 12
ตะกอนและหินแปร สามารถเปล่ียนจาก
ดกึ ดำบรรพ์ หิน และซากดึกดำ ป.6/2 หนิ ชนิดหน่ึงไปเป็นหินอีกชนิดหนึ่งได้โดย
บรรพ์ ป.6/3
ความร้อนแรงกดดัน การพพุ งุ่ การพัด
พา และการทับถม
การเกิดหินในปัจจุบัน มหี ินใหม่
เกิดข้นึ ตลอดเวลา ทัง้ บริเวณผิวโลกหรอื
ลกึ ลงไปใต้เปลอื กโลก เช่น บริเวณปาก
แมน่ ำ้ ไนล์ ในอียิปต์ที่ไหลไปบรรจบทะเล
เมดิเตอร์เรเนียน ตะกอนทพี ับมาทับถม
เมื่อเวลาผา่ นไปชน้ั ตะกอนเหล่านี้
กลายเป็นชั้นหิน ทีเหลือร่องรอยบอกถึง
สภาวะ แวดล้อมในช่วงศตวรรษท่ี 20
หรือซากฟอสซิลปะการังที่พบแถบจังหวัด
สระบุรี มีองค์ประกอบของหนิ ปูน มี
ส่ิงมชี วี ิต ซึ่งในอดีตอาศัยอยู่ในทะเลมา
ก่อน
78
ลำดบั ที่ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคญั เวลา
ตัวช้วี ัด (ชว่ั โมง)
4
ปรากฏการณ์ บทท่ี 1 ลมบก ลม ว 3.2 ป.6/4 ลมบก คือลมท่ีพัดจากบกออกสู่ทะเล 5
ของโลกและ
ภัยธรรมชาติ ทะเล และมรสุม ป.6/5 และเกิดในตอนเช้า โดยปกติพ้ืนดินจะ
ดดู ความร้อนได้มากกว่าพ้ืนนำ้ ดังนน้ั ใน
ตอนเชา้ อากาศจะร้อนทำให้พื้นดินมี
อุณหภูมิสงู สว่ นพืน้ น้ำจะมีอุณหภมู ิต่ำ
กวา่ พน้ื ดิน จึงทำให้เกิดลมท่ีพัดจากจาก
บกเขา้ สู่ทะเล (โดยปกตลิ มเคล่ือนทจ่ี าก
อุณหภูมสิ งู ไปอุณหภูมิต่ำ) หรือจะ
อธบิ ายอีกนัยหนึ่งวา่ อากาศร้อนจาก
พนื้ ดินลอยตัวสูงขน้ึ แลว้ อากาศเย็นจาก
ทะเลจะไหลเข้าแทนที่ทำให้เกิดลมพัด.
ลมทะเล คือลมท่ีพัดจากทะเลเข้าสู่
บกและเกดิ ในตอนกลางคืน โดยปกติ
พน้ื ดินจะคายความร้อนได้มากกวา่ พ้ืน
น้ำดังน้ันพื้นดินจะอุณหภมู สิ ูงกวา่ พ้ืน
น้ำทำใหเ้ กดิ ลมที่พดั จากบกเข้าส่ทู ะเล
(โดยปกติลมเคลื่อนที่จาก อุณหภูมิสูงไป
อุณหภมู ติ ่ำ) หรือจะอธิบายอีกนัยหน่ึง
วา่ อากาศร้อนจากทะเลลอยตัวสูงข้ึน
อากาศเย็นจากพืน้ ดินไหลเข้าแทนท่ีทำ
ให้เกิดลมพัด.
มรสุม เป็นการหมุนเวียนส่วนหนึ่ง
ของลมท่ีพัดตามฤดูกาล คือ ลมประจำ
ฤดู สาเหตุใหญ่ ๆ เกิดจากความ
แตกต่างระหวา่ งอุณหภูมิของพื้นดิน
และพื้นน้ำในฤดูหนาวอุณหภมู ิของ
พืน้ ดินเย็นกวา่ อุณหภมู ิของน้ำใน
มหาสมทุ ร อากาศเหนือพื้นน้ำจงึ มี
อุณหภูมิสงู กว่า และลอยตัวขึน้ สู่เบ้ือง
บน อากาศเหนือทวีปซึ่งเย็นกวา่ ไหลไป
แทนที่ ทำให้เกิดเป็นลมพัดออกจาก
ทวปี พอถึงฤดรู ้อนอุณหภูมิของดิน
ภาคพ้ืนทวีปร้อนกว่าน้ำในมหาสมุทร
เป็นเหตุให้เกิดลมพัดในทิศทางตรงข้าม
79
ลำดับที่ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสำคญั เวลา
ตวั ชีว้ ดั (ช่วั โมง)
5 เงา อปุ
ราคา และ บทท่ี 2 ว 3.2 ป.6/8 ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ 4
เทคโนโลยี
อวกาศ ปรากฏการณ์เรือน ป.6/9 ภาวะภมู ิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate
กระจก Change) คือ การทอี่ ุณหภมู ิเฉล่ยี ของ
โลกเพิ่มข้นึ จากผลของภาวะเรือนกระจก
หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า
Greenhouse Effect โดยภาวะโลกร้อน
ซง่ึ มตี ้นเหตุจากการที่มนุษย์ได้เพ่มิ
ปรมิ าณก๊าซคาร์บอนไดออกไซดจ์ ากการ
เผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ การขนส่ง และ
การผลิตในโรงงานอตุ สาหกรรม
นอกจากน้ันมนุษยเ์ รายังได้เพิ่มกา๊ ซกลุม่
ไนตรสั ออกไซด์ และคลอโรฟลูออโร
คารบ์ อน (CFC) เข้าไปอีกด้วยพร้อมๆ
กับการท่ีเราตัดและทำลายป่าไม้จำนวน
มหาศาลเพื่อสร้างสิง่ อำนวยความ
สะดวกให้แก่มนุษย์ ทำให้กลไกในการ
ดงึ เอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป
จากระบบบรรยากาศถูกลดทอน
ประสิทธภิ าพลง และในทีส่ ุดสิง่ ต่างๆ ที่
เราได้กระทำต่อโลกไดห้ วนกลบั มาสู่เรา
ในลักษณะของ ภาวะโลกร้อน
บทที่ 3 ภัย ว 3.2 ป.6/6 ภยั พบิ ัติทางธรรมชาตสิ ่งผลกระทบต่อ 2
ธรรมชาติ ป.6/7 มนุษย์และสภาพแวดล้อมในท้องถ่ิน แต่
ละท้องถนิ่ มโี อกาสเกิด ภัยพิบัติทาง
ธรรมชาติแตกต่างกันไป น้ำท่วม พายุ
หมุนเขตร้อน ดินโคลนถลม่ สึนามิ
แผ่นดินไหว ภัยแล้ง เป็นภยั พิบตั ทิ าง
ธรรมชาติทม่ี ีความรุนแรง มนษุ ย์ควร
เรยี นรวู้ ธิ ปี ฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั
บทที่ 1 เงาและอปุ ว 2.3 ป.6/7 อปุ ราคา เป็นปรากฏการณ์ของดวงดาว 6
ราคา ป.6/8 ทโ่ี คจรเข้าไปในเงาของดาวดวงอืน่ ทำให้
ว 3.1 ป.6/1
ถกู บดบงั มืดช่วั คราว อุปราคาที่สามารถ
มองเห็นได้ คือ สรุ ยิ ปุ ราคา และ
จนั ทรุปราคา
80
ลำดับที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคัญ เวลา
5 เงา อปุ ตัวช้วี ัด (ชว่ั โมง)
ราคา และ
เทคโนโลยี บทท่ี 2 เทคโนโลยี ว 3.1 ป.6/2 ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศได้ 3
อวกาศ (ตอ่ )
อวกาศ นำมาใช้ในการสำรวจข้อมลู ของวตั ถุ
6 แรงไฟฟ้า
และพลังงาน ท้องฟา้ ทำให้ได้เรียนรูเ้ ก่ียวกับระบบ
ไฟฟ้า สุริยะทัง้ ในและนอกระบบสุริยะเพิ่มข้ึน
7 อีกมากมาย และยังมปี ระโยชน์ในการ
8 พัฒนาเทคโนโลยีในด้านการสำรวจ
ทรัพยากรธรรมชาติ การสอ่ื สาร การ
สำรวจสภาพอากาศ ด้านการแพทย์
และด้านอ่ืน ๆอีกมากมาย
บทที่ 1 แรงไฟฟ้า ว 2.2 ป.6/1 วตั ถุบางชนิดเมื่อถูกถดู ้วยวัสดุ วตั ถนุ นั้ 3
สามารถดึงดดู วัตถทุ ี่ไม่ได้ผ่านการถูได้
และเมื่อนำวัตถุ 2 ช้นิ ท่ีผ่านการถูมา
ใกลก้ ัน จะเกิดแรงดึงดูดหรือผลักกัน
แรงนเี้ รียกวา่ แรงไฟฟ้า
บทท่ี 2 วงจรไฟฟ้า ว 2.3 ป.6/1 วารต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายส่วนประกอบ 9
อย่างง่าย ป.6/2 คือ ถ่านไฟฉาย สายไฟฟ้าและอุปกรณ์
ป.6/3 ไฟฟา้ และการต่อวงจรปิดทำใหอ้ ปุ กรณ์
ป.6/4 ไฟฟา้ ทำงานได้ และการต่อวงจรเปิดจะ
ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ทำงาน
รับน้องใหม่ หวั ใจ ว 4.2 ป.6/1 ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะเปน็ การนำ 2
ปง้ิ ๆ กฎเกณฑห์ รอื เง่ือนไขท่ีครอบคลุมทกุ
กรณีมาใชพ้ ิจารณาในการแก้ปัญหา
9 คลิปซ้อน ซ่อน ว 4.2 ป.6/4 กำหนดรหสั ผา่ น กำหนดสิทธก์ิ ารใช้ 2
งาน 2
เง่อื น
แก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอนพิจารณา
10 เดนิ ตามเสน้ เลน่ ว 4.2 ป.6/1 กระบวนการทำงานที่มีการทำงานแบบ
วนซ้ำหรือเง่ือนไขเปน็ วิธีการท่ีจะช่วยให้
ตามสครปิ ต์ ป.6/2 การออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาเปน็ ไป
อย่างมีประสิทธภิ าพ ออกแบบ
โปรแกรมสามารถทำได้โดยเขยี นเป็น
ข้อความหรือผังงาน ฝึกตรวจหา
ข้อผดิ พลาดจากโปรแกรมของผอู้ ื่นจะ
ช่วยพัฒนาทักษะการหาสาเหตุของ
ปญั หา
81
ลำดบั ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคัญ เวลา
11 ตัวชว้ี ดั (ชั่วโมง)
12
สงิ สยอง สำรองอ่มิ ว 4.2 ป.6/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานร่วมกนั 2
13
อยา่ งปลอดภัย
14
15 คา้ งคาวกินกล้วย ว 4.2 ป.6/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและ 2
16 ป.6/2 ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหาออกแบบและ
เขยี นโปรแกรมที่มีการใช้ตวั แปรการวน
ซำ้ การตรวจสอบเงื่อนไข •หากมี
ข้อผดิ พลาดให้ตรวจสอบการทำงานทลี ะ
คำสัง่ เมื่อพบจุดท่ีทำใหผ้ ลลัพธไ์ ม่
ถกู ต้องให้ทำการแก้ไขจนกว่าจะได้
ผลลัพธท์ ่ีถูกต้อง
เร่อื งวุ่นๆ หนังสือ ว 4.2 ป.6/4 ตดิ ต้งั ซอฟตแ์ วรท์ ่ีอยู่บนอนิ เทอรเ์ น็ต 2
รุ่นออนไลน์ ป้องกันการใชง้ านและอาชญากรรม
ทางอินเทอรเ์ นต็ แนวทางในการ
ปอ้ งกัน
รวบรวมรว่ มแรง ว 4.2 ป.6/4 เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ทข่ี องตน เคารพใน 2
จดแจงขอ้ มลู สทิ ธขิ องผู้อืน่ แจ้งผ้เู ก่ียวข้องเมื่อพบ 2
ขอ้ มูลหรือบคุ คลทไี่ มเ่ หมาะสม
นำ้ นองเตม็ ตล่งิ คน้ ว 4.2 ป.6/3 2
ความจริงให้ ใช้อินเทอร์เน็ตในการคน้ หาอย่างมี
กระจา่ ง ประสิทธภิ าพ ใชเ้ ทคนิคการค้นหาขน้ั
สงู จดั ลำดับผลลัพธ์จากการค้นหาของ
ลงเรือลำใหญ่ ท่อง ว 4.2 ป.6/4 โปรแกรมคน้ หาเรียบเรียง สรุป
ไปในโลกกว้าง สาระสำคัญ
กำหนดสทิ ธ์ิการใช้งาน (สิทธ์ิในการ
เข้าถงึ ) อนั ตรายจากการใชง้ านและ
อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต
แนวทางในการป้องกนั
รวม 80
82
อภธิ านศพั ท์
ศัพท์ที่เกีย่ วข้องกับตัวชี้วัดกล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
ที่ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ความหมาย
1. กำหนดปัญหา define problem
ระบุคำถาม ประเด็นหรือ
2. แกป้ ญั หา solve problem สถานการณ์ที่เป็นข้อสงสัย
เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา
3. เขยี นแผนผงั /วาดภาพ construct diagram/ หรืออภปิ รายร่วมกัน
4. คาดคะเน illustrate
predict หาคำตอบของปัญหาที่ยังไม่
5. คำนวณ รู้วิธีการมาก่อน ทั้งปัญหา
6. จำแนก calculate ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์
7. ตั้งคำถาม classify โดยตรงและปัญหาใน
8. ทดลอง ask question ชีวิตประจำวันโดยใช้เทคนิค
conduct/experiment และวิธกี ารต่าง ๆ
นำเสนอข้อมูล หรือผลการ
สำรวจตรวจสอบดว้ ยแผนผัง
กราฟ หรือภาพวาด
คาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้น
ในอนาคตโดยอาศัยข้อมูล
ท่ีสังเกตได้และประสบการณ์
ท่มี ี
หาผลลัพธ์จากข้อมูล โดยใช้
หลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการ
ทางคณิตศาสตร์
จัดกลุ่มของสิ่งต่างๆ โดย
อาศัยลักษณะที่เหมือนกัน
เป็นเกณฑ์
พูดหรือเขียนประโยค หรือ
วลีเพื่อให้ได้มาซึ่งการค้นหา
คำตอบทต่ี อ้ งการ
ปฏิบัติการเพื่อหาคำตอบ
ของคำถาม หรือปัญหาใน
การทดลองโดยตั้งสมมติฐาน
เพื่อเป็นแนวทางในการ
กำหนดตัวแปรและวางแผน
ดำเนินการเพื่อตรวจสอบ
สมมตฐิ าน
ที่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ 83
9. นำเสนอ present
10. บรรยาย describe ความหมาย
แสดงข้อมูล เรื่องราว
11. บอก tell หรือความคิด เพื่อให้ผู้อ่ืน
12. บนั ทกึ record รับรู้หรือพจิ ารณา
13. เปรยี บเทยี บ compare ให้รายละเอียดของ
14. แปลความหมาย interpret เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์
15. ยกตัวอย่าง give examples ที่เกิดขึ้น ให้ผู้อื่นได้รับรู้ด้วย
16. ระบุ identify การบอกหรือเขียน
17. เลอื กใช้ select ให้ขอ้ มูล ขอ้ เท็จจรงิ แกผ่ ู้อ่ืน
ดว้ ยการพดู หรอื เขียน
18. วดั measure เขียนข้อมูลที่ได้จากการ
19. วิเคราะห์ analyze สังเกตเพื่อช่วยจำ หรือเพื่อ
เป็นหลกั ฐาน
ท่ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ บอกความเหมือน และ/หรือ
ความแตกตา่ ง ของสง่ิ ท่ี
เทียบเคียงกัน
แสดงความหมายของข้อมูล
จากหลักฐานที่ปรากฏ
เพ่ือลงข้อสรุป
ใ ห ้ ข ้ อ ม ู ล เ ห ต ุ ก า ร ณ์
หรือสถานการณ์ เพอื่ แสดง
ความเข้าใจในสิง่ ท่ีได้เรยี นรู้
ชี้บอกสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูล
ประกอบอย่างเพียงพอ
พิจารณาและตัดสนิ ใจนำ
วสั ดุส่งิ ของอุปกรณ์หรือ
วธิ ีการมาใช้ได้อยา่ ง
เหมาะสม
หาขนาด หรือปริมาณ
ข อ ง ส ิ ่ ง ต ่ า ง ๆ โ ด ย ใ ช้
เคร่อื งมอื ท่เี หมาะสม
แยกแยะ จัดระบ
เปรยี บเทยี บ จดั ลำดบั จัด
จำแนก หรอื เชอื่ มโยงข้อมลู
ความหมาย
20. สรา้ งแบบจำลอง construct model 84
21. สงั เกต observe น ำ เ ส น อ แ น ว ค ิ ด ห รื อ
22. สำรวจ explore เหตุการณ์ในรูปของ
23. สืบค้นขอ้ มลู search แผนภาพ ชิ้นงานสมการ
24. สอ่ื สาร communicate ข้อความ คำพูดและ/หรือใช้
25. อธบิ าย explain แบบจำลองเพื่ออธิบาย
26. อภปิ ราย discuss ความคดิ วตั ถุ หรอื เหตกุ ารณ์
27. ออกแบบการทดลอง design experiment ตา่ ง ๆ
หาข้อมูลด้วยการใช้ประสาท
สัมผัสทั้งห้า ที่เหมาะสมตาม
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ โดยไม่
ใช้ประสบการณ์เดิมของผู้
สงั เกต
หาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ
โดยใช้วิธีการและเทคนิค
ที่เหมาะสม เพื่อนำข้อมูลมา
ใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด
ไว้
หาข้อมูล หรือข้อสนเทศ
ที่มีผู้รวบรวมไว้แล้วจาก
แหลง่ ตา่ ง ๆ มาใชป้ ระโยชน์
นำเสนอ และแลกเปลี่ยน
ความคิด ข้อมูล หรือผลจาก
การสำรวจตรวจสอบ ด้วยวิธี
ท่เี หมาะสม
กล่าวถึงเรื่องราวต่าง ๆ
อย่างมีเหตุผล และมีข้อมูล
หรอื ประจักษพ์ ยานอ้างอิง
แ ส ด ง ค ว า ม ค ิ ด เ ห ็ น ต่ อ
ประเด็นหรือคำถามอย่างมี
เหตผุ ล โดยอาศัยความรู้และ
ประสบการณ์ของผู้อภิปราย
และข้อมูลประกอบ
กำหนด และวางแผนวิธีการ
ท ด ล อ ง ใ ห ้ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ
สมมติฐานและตัวแปรต่าง ๆ
รวมทง้ั การบันทกึ ข้อมูล
85
ศัพทท์ ี่เก่ยี วข้องกบั ตัวชี้วดั สาระเทคโนโลยี
ท่ี ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความหมาย
1. การใชล้ ขิ สิทธขิ์ องผ้อู ่นื fair use
การนำสื่อ หรือข้อมูลที่เป็นลิขสิทธิ์
โดยชอบธรรม debugging ของผู้อื่นไปใช้โดยชอบด้วย
data processing กฎหมาย ภายใต้เงื่อนไขบาง
2. การตรวจและแก้ไข data collection ประการ เชน่
ข้อผิดพลาด primary data 1) น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ก า ร ศ ึ ก ษ า
technology หรือการคา้
3. การประมวลผลข้อมลู 2) งานนั้นเป็นงานวิชาการ หรือ
บนั เทงิ
4. การรวบรวมข้อมลู 3) ค ั ด ล อ ก เ พ ี ย ง ส ่ ว น น ้ อ ย
5. ขอ้ มูลปฐมภมู ิ หรือคัดลอกจำนวนมาก
4) ทำให้เจ้าของเสียผลประโยชน์
6. เทคโนโลยี ทางการเงิน มากน้อยเพยี งใด
กระบวนการในการค้นหา
ข้อผิดพลาดของโปรแกรม
เพ่ือแกไ้ ขใหท้ ำงานได้ถูกตอ้ ง
การดำเนินการต่างๆ กบั ขอ้ มลู
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความหมาย
และมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้งาน
มากยง่ิ ขนึ้
กระบวนการในการรวบรวมข้อมูล
ทเี่ ก่ยี วข้องจากแหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ
ข้อมูลที่รวบรวมโดยตรงจาก
แหล่งข้อมูลขั้นต้น โดยอาจใช้
วิธีการสังเกต การทดลอง การ
สำรวจ การสมั ภาษณ์
สิ่งที่มนุษย์สร้างหรือพัฒนาขึ้นซึ่ง
อาจเป็นได้ทั้งชิ้นงาน หรือวิธีการ
เพื่อใช้แก้ปัญหาสนองความ
ต้องการ หรือเพิ่มความสามารถใน
การทำงานของมนุษย์
86
ที่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความหมาย
7. แนวคดิ เชงิ คำนวณ
8. แนวคิดเชิงนามธรรม computational กระบวนการในการแก้ปัญหาการ
9. ระบบทางเทคโนโลยี
thinking คิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลเป็น
10. เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ
11. เหตผุ ลวิบัติ ขั้นตอน เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาใน
12. อตั ลักษณ์
13. อลั กอริทมึ รปู แบบทส่ี ามารถนำไปประมวลผล
ได้
abstraction การพิจารณารายละเอียด
ที่สำคัญของปัญหา แยกแยะ
สาระสำคัญออกจากส่วน ที่ไม่
สำคญั
technological system กลุ่มของส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ สอง
ส่วนขึ้นไป ประกอบเข้าด้วยกัน
และทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ โดยในการทำงาน
ของระบบทางเทคโนโลยีจะ
ประกอบ ไปด้วย ตัวป้อน(input)
ก ร ะ บ ว น ก า ร (process) แ ล ะ
ผลผลิต (output) ที่สัมพันธ์กัน
นอกจากนี้ ระบบทางเทคโนโลยี
อาจมีข้อมูลย้อนกลับ (feedback)
เพื่อใช้ปรับปรุงการทำงานได้ตาม
วัตถปุ ระสงค์
logical reasoning การใช้เหตุผล กฎ กฎเกณฑ์หรือ
เงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหา
ได้ครอบคลมุ ทกุ กรณี
logical fallacy การใช้เหตุผลที่ผิดพลาด ไม่อยู่บน
พื้นฐานของความจริง ไม่มีน้ำหนัก
สมเหตสุ มผลมาสนับสนนุ หรอื ช้ีนำ
ข้อสรปุ ทผี่ ิดให้ดนู า่ เชือ่ ถือ
Identity ลักษณะเฉพาะหรือข้อมูลสำคัญที่
บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของ
บุคคลหรือสิ่งใด สิ่งหนึ่ง เช่น ชื่อ
บญั ชผี ู้ใช้ ใบหนา้ ลายนว้ิ มือ
algorithm ข้นั ตอนในการแก้ปัญหาหรือการ
ทำงาน โดยมลี ำดับของคำสงั่ หรอื
วธิ กี ารทช่ี ัดเจนทีค่ อมพวิ เตอร์
สามารถปฏบิ ตั ิตามได้
87
ท่ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ความหมาย
14. แอปพลิเคชัน software application
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ที่ทำงานบน
คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟนแท็บเล็ต
หรอื อุปกรณเ์ ทคโนโลยีอน่ื ๆ