The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความรู้ทั่วไปของกีฬาแบดมินตัน 15/5.9

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by apitchayamameaw, 2021-08-29 07:21:37

ความรู้ทั่วไปของกีฬาแบดมินตัน 15/5.9

ความรู้ทั่วไปของกีฬาแบดมินตัน 15/5.9

รายงาน
เรื่อง ความรทู้ ่วั ไปของกฬี าแบดมนิ ตัน

โดย
นางสาวอภิชญา ลาเอ็ด เลขที่ 15 ม.5.9

เสนอ
คณุ ครูกระจา่ ง หลักคำ

รายงานนี้เป็นส่วนหน่งึ ของรายวชิ าสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (พ32101)
โรงเรียนสามัคควี ทิ ยาคม

ภาคเรยี นที่ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5 ปีการศึกษา 2564

คำนำ
รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา (พ32101) ช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อศึกษาหาความรู้ในเรื่องประวัติความเป็นมากีฬาแบดมินตันในต่างประเทศ/
ประเทศไทย ประโยชนจ์ ากการเลน่ กีฬาแบดมนิ ตนั ในดา้ นร่างกาย/จิตใจ/สังคมมารยาทท่ดี ขี องผู้เล่น/
ผู้ชมกีฬาแบดมินตัน วิธีการเล่นกีฬาแบดมินตันด้วยความปลอดภัย วิธีเก็บรักษาอุปกรณ์กีฬา
แบดมินตัน การอบอุ่นร่างกายก่อนการเล่นแบดมินตัน ทักษะพื้นฐานกฬี าแบดมินตัน และกติกาการ
แขง่ ขันกีฬาแบดมินตนั ใหเ้ ขา้ ใจเพือ่ เปน็ ประโยชน์กบั การเรียน
ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหา
ข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรบั ไว้และขออภยั มา ณ
ท่ีนี้ดว้ ย

นางสาวอภชิ ญา ลาเอ็ด
ผูจ้ ดั ทำ

สารบญั หนา้
เร่ือง 1
ประวัตคิ วามเป็นมากฬี าแบดมินตันในต่างประเทศ 3
ประวตั ิความเป็นมากีฬาแบดมนิ ตนั ในประเทศไทย 4
ประโยชน์จากการเลน่ กฬี าแบดมินตันในด้านรา่ งกาย/จิตใจ/สังคม 5
มารยาททีด่ ขี องผูเ้ ล่นกฬี าแบดมนิ ตนั 6
มารยาททด่ี ีของผชู้ มกฬี าแบดมนิ ตัน 7
วิธีการเลน่ กีฬาแบดมินตนั ดว้ ยความปลอดภัย 13
วธิ ีเก็บรักษาอุปกรณ์กฬี าแบดมนิ ตนั 14
การอบอนุ่ รา่ งกายก่อนการเล่นแบดมนิ ตนั 14
ทกั ษะพืน้ ฐานกฬี าแบดมนิ ตนั 15
กตกิ าการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน

1

แบดมินตัน (Badminton)

ประวัตคิ วามเป็นมาของกฬี าแบดมนิ ตันในตา่ งประเทศ

แบดมินตัน (Badminton) เป็นกีฬาที่ได้รับการวิจารณ์เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดถึงที่มา
ของกีฬาประเภทนี้ คงมีแต่หลักฐานบางอย่างที่ทำให้ทราบว่า กีฬาแบดมินตันมีเล่นกันในยุโรป โดยเฉพาะใน
ประเทศอังกฤษ ตอนปลายศตวรรษที่ 17 และจากภาพสนี ำ้ มันหลายภาพได้ยนื ยันวา่ กีฬาแบดมนิ ตันเล่นกันอย่าง
แพร่หลายในพระราชวงศ์ของราชสำนักต่าง ๆ ในทวีปยุโรป แม้ว่าจะเรียกกันภายใต้ชื่ออื่นก็ตาม โดยกีฬา
แบดมินตันได้รับการบันทึกแบบเป็นลายลักษณ์อักษรในปี พ.ศ. 2413 ซึ่งพบว่า มีการเล่นกีฬาลูกขนไก่เกิดขึ้นท่ี
เมอื งปูนา (Poona) ในประเทศอนิ เดีย เป็นเมืองเลก็ ๆ หา่ งจากเมอื งบอมเบยป์ ระมาณ 50 ไมล์ โดยไดร้ วมการเล่น
สองอย่างเข้าด้วยกันคือ การเล่นปูนาของประเทศอินเดีย และการเล่นไม้ตีกับลูกขนไก่ (Battledore Shuttle
Cock) ของยุโรป

ในระยะแรก การเลน่ แบดมนิ ตันจะเลน่ กันเพยี งแต่ในหมูน่ ายทหารของกองทัพ และสมาชิกชนชั้นสูงของ
อินเดียเท่าน้ัน จนกระทั่งมีนายทหารอังกฤษที่ไปประจำการอยูท่ ี่เมอื งปูนา นำการเล่นตีลูกขนไก่น้ีกลับไปอังกฤษ
และเล่นกันอย่างกว้างขวาง ณ คฤหาสน์แบดมินตัน (Badminton House) ของดยุคแห่งบิวฟอร์ด ที่กลอสเตอร์
เชยี ร์ ดงั นน้ั ในปี พ.ศ. 2416 เกมกีฬาตีลูกขนไก่เลยถูกเรียกว่า แบดมินตนั ตามชอื่ คฤหาสน์ของดยุคแห่งบิวฟอร์ด
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้ กีฬาแบดมินตันก็เริ่มแพร่หลายในประเทศแถบภาคพ้ืนยุโรป เนื่องจากเป็นเกมที่คล้าย
เทนนิส แต่สามารถเล่นได้ภายในตัวตกึ โดยไม่ต้องกงั วลต่อลมหรือหมิ ะในฤดหู นาว นอกจากนี้ ชาวยุโรปท่อี พยพ
ไปสู่ทวีปอเมริกา ยังได้นำกีฬาแบดมินตันไปเผยแพร่ รวมทั้งประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชียและออสเตรเลียที่อยู่
ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ต่างนำเกมแบดมินตันไปเล่นยังประเทศของตนเองอย่างแพร่หลาย
เกมกฬี าแบดมนิ ตันจงึ กระจายไปส่สู ว่ นตา่ ง ๆ ของโลก รวมทง้ั ประเทศไทยดว้ ย

สำหรับการเล่นแบดมินตนั ในระยะแรกไม่ไดม้ ีกฎเกณฑต์ ายตวั เพียงแต่เปน็ การตโี ตล้ กู กันไปมาไม่ใหล้ กู ตก
พ้ืนเทา่ นั้น สว่ นเส้นแบง่ แดนก็ใช้ตาข่ายผูกโยงระหว่างต้นไม้สองตน้ ไมไ่ ด้คำนงึ ถงึ เรือ่ งต่ำสูง เล่นกันข้างละไม่น้อย
กว่า 4 คน ส่วนมาจะเล่นทีมละ 6 ถึง 9 คน ผู้เล่นสามารถแต่งตัวได้ตามสบาย จนกระทั่งปี พ.ศ.2436 ได้มีการ
จดั ต้งั สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศองั กฤษขึน้ ซึง่ นับเป็นสมาคมแบดมินตันแห่งแรกของโลก หลังจากที่มีการจัด
แขง่ ขันแบดมนิ ตนั ชงิ ชนะเลิศแหง่ ประเทศอังกฤษ หรือท่เี รียกกนั ว่า ออลอิงแลนด์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2432 ทางสมาคม
แบดมนิ ตันแหง่ ประเทศองั กฤษจึงได้ต้ังกฎเกณฑ์ของสนามมาตรฐานขน้ึ คือ ขนาดกวา้ ง 22 ฟตุ ยาว 45 ฟตุ (22 x
45) เป็นสนามขนาดมาตรฐานประเภทคู่ท่ีใชใ้ นปัจจุบัน จากนั้นจงึ มกี ารปรับปรุงดัดแปลงในเรือ่ งอุปกรณ์การเล่น

2

ให้ดีขึ้นเป็นลำดับ ต่อมาได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก โดยประเทศในเอเชียอาคเนย์ที่มีการเล่นกีฬา
แบดมินตันและไดร้ บั ความนยิ มสูงสดุ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย

ส่วนการแข่งขนั ระหว่างประเทศได้เรม่ิ จดั ให้มขี ึน้ ในปี พ.ศ. 2445 และตลอดเวลาหลายปที ี่ผ่านมา จำนวน
ประเทศทเ่ี ข้าร่วมแขง่ ขันกีฬาแบดมนิ ตนั ระหว่างประเทศมีมากว่า 31 ประเทศ แบดมนิ ตนั ไดก้ ลายเป็นเกมกีฬาที่
เล่นกนั ระหว่างชาติ โดยมีการยกทีมขา้ มประเทศเพ่ือแข่งขนั ระหวา่ งชาตใิ นทวีปยุโรป ในปี พ.ศ.2468 กลมุ่ นักกีฬา
ของประเทศอังกฤษได้แข่งขันกับกลุ่มนักกีฬาประเทศแคนาดา ห้าปีหลังจากนั้นพบว่าประเทศแคนาดามีสโมสร
สำหรับฝึกแบดมินตันมาตรฐานแทบทุกเมือง ในปี พ.ศ.2477 สมาคมแบดมินตันของประเทศอังกฤษเป็นผู้นำใน
การกอ่ ตง้ั สหพันธแ์ บดมินตันระหว่างประเทศ โดยมีชาตติ ่าง ๆ อกี 8 ชาติคอื แคนาดา เดนมารก์ องั กฤษ ฝร่ังเศส
ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สกอ๊ ตแลนดแ์ ละเวลส์ โดยมีศูนย์กลางอยู่ทีก่ รุงลอนดอน ปัจจุบันมีประเทศท่ี
อยู่ในเครอื สมาชิกกวา่ 60 ประเทศ ท่ขี ึ้นตอ่ สหพันธแ์ บดมนิ ตนั ระหวา่ งประเทศ (I.B.F.) สหพันธม์ บี ทบาทสำคัญใน
การกำหนด และควบคุมกติการะเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของการแข่งขันกีฬาแบดมินตันทั่วโลก ในปี พ.ศ.2482
เซอร์ จอร์จ โทมัส นักแบดมินตันอาวุโสชาวอังกฤษเป็นผู้มอบถ้วยทองราคา 5,000 ปอนด์ เพื่อมอบเป็นรางวัล
ให้แก่ผู้ชนะเลิศประเภทชาย ในการแข่งขันแบดมินตันระหว่างประเทศ ซึ่งสหพันธ์แบดมินตันได้รับไว้และ
ดำเนนิ การตามประสงคน์ ้ี แมว้ ่าตามทางการจะเรยี กว่า การแข่งขันชิงถ้วยชนะเลิศแบดมนิ ตนั ระหว่างประเทศ แต่
นิยมเรียกกันว่า โธมัสคัพ (Thomas Cup) การแข่งขันจะจัดขึ้นทุก ๆ 3 ปี โดยสหพันธ์ไดแ้ บง่ เขตการแข่งขันของ
ชาติสมาชิกออกเปน็ 4 โซน คือ

1. โซนยโุ รป

2. โซนอเมริกา

3. โซนเอเชยี

4. โซนออสเตรเลเซยี (เดมิ เรียกวา่ โซนออสเตรเลยี )

วิธีการแข่งขันจะแข่งขันชิงชนะเลิศภายในแต่ละโซนขึ้นก่อน แล้วให้ผู้ชนะเลิศแต่ละโซนไปแข่งขันรอบ
อินเตอร์โซนเพื่อให้ผู้ชนะเลิศทั้ง 4 โซน ไปแข่งขันชิงชนะเลิศกับทีมของชาติที่ครอบครองดถ้วยโธมัสคัพอยู่ ซ่ึง
ไดร้ บั เกียรติไมต่ ้องแข่งขนั ในรอบแรกและรอบอนิ เตอร์โซน ชุดทีเ่ ข้าแข่งขนั ประกอบด้วยผูเ้ ลน่ อย่างน้อย 4 คน การ
ที่จะชนะเลิศนัน้ จะตัดสินโดยการรวมผลการแข่งขนั ของประเภทชายเดีย่ ว 5 คู่ และประเภทชายคู่ 4 คู่ รวม 9 คู่
และใชเ้ วลาการแขง่ ขัน 2 วัน การแข่งขันชิงถ้วยโธมสั คพั ครัง้ แรกจัดใหม้ ีขึ้นระหวา่ งปี พ.ศ. 2491 - 2492 ตอ่ มาใน
การแขง่ ขันแบดมินตนั โธมสั คพั คร้งั ท่ี 8 ปี พ.ศ. 2512-2513 สหพนั ธ์ได้เปล่ียนแปลงวิธีการแขง่ ขนั เลก็ น้อย โดยให้

3

ชาติทค่ี รอบครองถว้ ยอยนู่ ้ันเข้ารว่ มแข่งขันในรอบอินเตอรโ์ ซนด้วย โดยวธิ ีการจับสลากแล้วแบง่ ออกเป็น 2 สาย ผู้
ชนะเลศิ แต่ละสายจะได้เขา้ แขง่ ขนั ชิงชนะเลิศโธมัสคพั รอบสุดทา้ ยต่อไป สาเหตุที่สหพนั ธเ์ ปลย่ี นแปลงการแข่งขัน
ใหม่นี้ เนื่องจากมีบางประเทศที่ชนะเลิศได้ครอบครองถ้วยโธมัสคัพไม่รักษาเกียรติที่ได้รับจากสหพันธ์ไว้ โดย
พยายามใช้ชั้นเชิงที่ไม่ขาวสะอาดรักษาถ้วยโธมัสคัพไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า สหพันธ์จึงต้องเปลี่ยนข้อบังคับให้ชาติที่
ครอบครองถ้วยอยูน่ ัน้ ลงแข่งขนั ในรอบอินเตอรโ์ ซนดงั กลา่ วด้วย

กีฬาแบดมินตันได้แพร่หลายขึ้น แม้กระทั่งในกลุ่มประเทศสังคมนิยมก็ได้มีการเล่นเบดมินตันอย่าง
กว้างขวาง มีการบรรจุแบดมินตันเข้าไว้ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ และซีเกมส์ การแข่งขันกีฬาของประเทศใน
เครือจักภพสหราชอาณาจักร รวมทั้งการพิจารณาแบดมินตันเข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ล้วนแต่เป็นเครื่อง
ยืนยันว่า แบดมนิ ตันได้กลายเป็นกฬี าสากลแลว้ อย่างแท้จรงิ

ประวตั คิ วามเป็นมาของกีฬาแบดมนิ ตันในประเทศไทย

การเล่นแบดมินตนั ได้เข้ามาสู่ประเทศไทยในราวปี พ.ศ. 2456 โดยเร่ิมเล่นกฬี าแบดมินตนั แบบมี ตาข่าย
โดยพระยานพิ ทั ยกุลพงษ์ ได้สรา้ งสนามขึ้นท่ีบ้าน ซึ่งต้งั อยรู่ มิ คลองสมเด็จเจ้าพระยาธนบุรี แล้วนิยมเล่นกันอย่าง
แพร่หลายออกไป ส่วนมากเล่นกันตามบ้านผู้ดมี ีตระกูล วังเจ้านาย และในราชสำนัก การเล่นแบดมินตันครั้งน้ัน
นยิ มเลน่ ขา้ งละ 3 คน ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2462 สโมสรกลาโหมได้เปน็ ผูจ้ ัดแขง่ ขนั แบดมินตนั ทัว่ ไปขึ้นเป็นคร้ัง
แรก โดยจัดการแข่งขัน 3 ประเภทได้แก่ ประเภทเดี่ยว ประเภทคู่ และประเภทสามคน ปรากฏว่าทีมแบดมนิ ตัน
บางขวางนนทบุรี (โรงเรียนราชวิทยาลัยบางขวางนนทบุรี) ชนะเลิศทุกประเภท นอกจากนี้ มีนักกีฬาแบดมินตัน
ฝีมอื ดีเดินทางไปแขง่ ขนั ยังประเทศใกล้เคียงอยบู่ อ่ ยๆ

ในปี พ.ศ. 2494 พระยาจินดารกั ษ์ไดก้ อ่ ต้งั สมาคมชอ่ื วา่ "สมาคมแบดมนิ ตนั แห่งประเทศไทย" เมื่อแรกตั้ง
มีอยู่ 7 สโมสร คอื สโมสรสมานมติ ร สโมสรบางกอก สโมสรนิวบอย สโมสรยูนติ ้ี สโมสร ส.ธรรมภักดี สโมสรสิงห์
อุดม และสโมสรศริ ิบำเพ็ญบุญ ซงึ่ ในปัจจุบนั น้เี หลือเป็นสโมสรสมาชกิ ของสมาคมอยเู่ พยี ง 2 สโมสร คอื สโมสรนิว
บอย และสโมสรยูนิตี้เท่านั้น และในปีเดียวกัน สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยก็ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของ
สหพันธ์แบดมนิ ตนั นานาชาติดว้ ย สมาคมแบดมินตนั แหง่ ประเทศไทยมีนักกีฬาแบดมินตนั ที่มฝี ีมือดีอยู่มาก ซ่ึงได้
สรา้ งชื่อเสยี งให้กับประเทศไทยจากการลงแข่งขันใน รายการตา่ ง ๆ ของโลกเปน็ อย่างมาก ทงั้ โธมสั คพั อูเบอร์คัพ
และการแข่งขนั ออลอิงแลนด์ โดยวงการแบดมนิ ตันของไทยยกย่อง นายประวัติ ปตั ตพงศ์ (หลวงธรรมนญู วฒุ ิกร)

4

ประโยชน์จากการเลน่ กีฬาแบดมินตันด้านร่างกาย/จิตใจ/สงั คม

1. ทำให้ร่างกายแขง็ แรงและอวัยวะทุกส่วนได้พัฒนาอยู่เสมอโดยเฉพาะข้อมอื แขน ขา และ สายตา

2. เป็นกีฬาที่ต้องใช้สมรรถภาพทางร่างกายที่ดี สมรรถภาพทางร่างกายดังกล่าว คือความแข็งแรง ความอดทน
การทำงานสัมพันธ์กันของระบบประสาทกับระบบกล้ามเนื้อ พลังความยืดหยุ่นของอวัยวะต่าง ๆ ความคล่องตัว
ความทนทานของกล้ามเน้ือ และระบบไหลเวียนเลือด ดังน้ัน จึงทำให้ผูเ้ ลน่ มีร่างกายแขง็ แรงอยเู่ สมอ

3. ถ้าเล่นแบดมินตนั เพื่อความอดทน จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึน้ เพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารให้
สูงขึน้ เพมิ่ อัตราการเตน้ ของหวั ใจ และอตั ราการหายใจให้ลึกและดขี ้ึนด้วย

4. แบดมนิ ตันมวี ธิ ีการตีลูกหลายแบบ จึงมเี ทคนิคเลน่ มากมายที่ทำให้ได้ การฝกึ ฝนการใชส้ ตปิ ัญญาอยู่ตลอดเวลา

5. เปน็ กฬี าท่ีต้องใช้ความฉลาด ไหวพรบิ และการส่อหลอกประกอบกนั จึงกล่าวได้วา่ การเล่นแบดมินตันเป็นการ
ทำสงครามด้วยความฉลาด เพราะการเล่นมกี ารรุก – รบั ตลอดเวลา

6. ช่วยผอ่ นคลายความตรึงเครียดและสร้างความพอใจให้ผู้เล่นเพราะคนทั่ว ๆ ไปต้องการเล่นใหส้ นกุ สนานปล่อย
อารมณไ์ ปกบั การเคลื่อนไหวตามชนดิ ต่าง ๆ ของกจิ กรรม ตามหลักจิตวิทยาแลว้ แบดมินตนั ยังช่วยเสริมสร้างและ
รักษาจิตใจได้อีกด้วย จิตแพทย์คาร์ล เมนนินเยอร์ (Dr.Karl Menninger) หัวหน้าหน่วยงาน Topeka ซึ่งเป็น
หน่วยงานระดับโลก ได้แนะนำให้ใช้กีฬาแบดมินตันเป็นกิจกรรมนันทนาการสำหรับคนไข้ที่ผิดปกติทางอารมณ์
และไม่ใชแ่ ตจ่ ะทำให้สุขภาพจิตของคนป่วยดีขึ้นเท่านน้ั คนปกตกิ ด็ ขี ้นึ ดว้ ยเช่นกัน

7. เป็นกีฬาที่สร้างเสริมมนุษย์สัมพันธ์ มิตรภาพ และการแสดงออกที่แสดงถึงความมนี ้ำใจนักกีฬาอย่างแท้จรงิ
เพราะการเล่นต้องเล่นร่วมกับคนอื่น ๆ ได้มีการพบปะสังสรรค์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จะได้รับ
ประโยชนเ์ ท่า ๆ กนั

8. เปน็ กฬี าทม่ี คี นนิยมมาก มรี างวัลสงู มีการแขง่ ขันท้ังในประเทศและต่างประเทศ ทำใหไ้ ด้เห็นเกมส์แบดมินตัน
ดี ๆ อย่เู สมอ

5

มารยาทที่ดขี องผู้เลน่ กฬี าแบดมนิ ตนั

1. ผู้แข่งขันต้องตระหนักอยู่เสมอว่าผู้เข้าแข่งขันเป็นนักกีฬาสมัครเล่น ซึ่งต้องมีน้ำใจเป็นนักกีฬาอยู่เสมอ และ
พร้อมท่จี ะใหอ้ ภยั แกความผิดพลาดทกุ โอกาส โดยไม่คำนึงถงึ ผลแพ้ชนะเป็นสำคญั จนเกินไป

2. ผ้เู ข้าแขง่ ขนั แต่งกายดว้ ยชุดกีฬาสขี าว สะอาด เรียบรอ้ ย

3. ย้ิมแยม้ แจม่ ใสตอ่ คู่แขง่ ขันแสดงออกถงึ มติ รภาพความสุภาพ อ่อนโยนด้วยการสมั ผสั มือ หรือเปดิ โอกาสให้คู่แข่ง
ขนั ไดว้ อร์ม รวมทั้งไมเ่ อาเปรียบคตู่ อ่ สู้หรือค่แู ขง่ ขนั ในการเสยี่ ง ใหโ้ อกาสคตู่ ่อสู้เปน็ ผนู้ ำการเลอื กเสย่ี งก่อน

4. ไม่แสดงกรยิ าที่ไม่ดีเมอื่ ทำเสียเอง ด้วยทา่ ทางหรือคำพูด รวมท้งั การกล่าวตำหนผิ ู้เล่นฝ่ายเดียวกนั

5. ใชค้ ำพูดทส่ี ภุ าพในการแขง่ ขัน

6. การถามข้อสงสยั หรอื ถามคะแนนต่อผู้ตดั สนิ ในระหว่างการแข่งขันควรจะใช้ถอ้ ยคำทส่ี ุภาพ

7. การอทุ ธรณค์ ำวินจิ ฉัยของผ้ตู ดั สิน กเ็ ป็นอีกเรื่องหน่งึ ทผ่ี ู้แขง่ ขันควรจะใชถ้ อ้ ยคำท่รี ะมัดระวัง และเม่ือได้ทำการ
อุทธรณ์แล้ว ผู้อุทธรณ์ตอ้ งอยู่ในความสงบ และพร้อมท่ีจะทำการแข่งขนั ต่อไปได้ และเมื่อผู้ตัดสินช้ีขาดอยา่ งไรก็
ต้องปฏบิ ัตติ ามด้วยความเต็มใจ

8. เมื่อขณะดำเนินการแข่งขันอยู่หากจะหยุดพัก เช่น ขอเช็ดเหงื่อ ดื่มน้ำ เปลี่ยนแร็กเกต เปลี่ยนรองเท้าถุงเทา้
ฯลฯ ตอ้ งขออนญุ าตผู้ตดั สินทกุ ครง้ั เมอื่ ได้รบั อนุญาตแิ ล้วจึงปฏิบัตไิ ด้

9. ในการสง่ ลูกเสียไปให้คตู่ ่อสู้จะต้องส่งลูกข้ามตาขา่ ยไปให้เสมอ การส่งลกู ลอดใตต้ าขา่ ยไปใหค้ ู่ต่อสถู้ ือวา่ เป็นการ
เสยี มารยาทอยา่ งรุนแรง

10. ในระหวา่ งการแขง่ ขนั ถา้ ผู้ตัดสินทำหน้าทีผ่ ิดพลาดแต่เราอยู่ในฐานะได้เปรยี บไมค่ วรใช้ความได้เปรยี บนั้นเป็น
ประโยชน์

12. เมื่อการแขง่ ขันเสรจ็ สิน้ ลง ถ้าเราเป็นฝ่ายชนะจะต้องไม่แสดงความดีใจจนเกนิ ควร ต้องเข้าไปจับมือค่แู ข่งขนั
ทันทีพร้อมแสดงความเสียใจ ถ้าเป็นฝ่ายแพ้ไม่ควรจะแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวต้องควบคุมอารมณ์ และรีบไปแสดง
ความยนิ ดีกับคแู่ ขง่ โดยทนั ทเี หมอื นกัน

13. ยอมรับและเชอื่ ฟงั การตัดสินโดยไม่โตแ้ ยง้ และเมอื่ เสร็จสิ้นการแขง่ ขนั ควรแสดงความเคารพผตู้ ดั สนิ

6

มารยาทท่ดี ีของผู้ชมกีฬาแบดมนิ ตัน
1. แต่งกายใหส้ ุภาพ เรยี บรอ้ ย เป็นการให้เกยี รติแก่การแข่งขันน้นั ๆ
2. ให้เกยี รติแก่นักกีฬาทงั้ 2 ฝ่าย ดว้ ยการปรบมือเมอ่ื มกี ารแนะนำคแู่ ขง่ ขนั
3. ไม่กลา่ ววาจาไมส่ ุภาพ และไมเ่ ชยี ร์ฝา่ ยใดฝา่ ยหนง่ึ จนไม่น่าดู
4. ขณะการแขง่ ขนั ยังดำเนนิ อยู่ไม่ควรรบกวนสมาธิของผแู้ ขง่ หรือผ้ชู มดว้ ยกนั
5. การนิ่งเงยี บ ในขณะทน่ี กั กีฬากำลังเล่นถือวา่ เป็นมารยาทของผู้ชมทด่ี ี
6. ควรปรบมอื เมอื่ ผู้เล่นฝา่ ยใดฝา่ ยหน่ึงเล่นได้ดี สวยงาม และกระทำเม่ือลูกไม่ได้อยใู่ นการเลน่
7. ไมแ่ สดงออกด้วยกริ ยิ า หรือวพิ ากษ์วจิ ารณ์การตดั สินของกรรมการขณะทำการแข่งขนั
8. เมือ่ การแข่งขันสิน้ สดุ ลง ควรปรบมือเป็นเกียรตแิ กน่ กั กีฬาทัง้ สองฝ่าย

7

วิธีการเลน่ กฬี าแบดมินตนั ดว้ ยความปลอดภัย

- วิธีการจบั ไมแ้ บดมนิ ตนั

กอ่ นทีจ่ ะเรียนรูถ้ งึ ทกั ษะการเลน่ กีฬาแบดมินตนั ใด ๆ ผู้เรียนจะต้องจบั ไมแ้ บดมนิ ตันให้ถกู วิธเี สียก่อน วิธีการ
คือ ผู้ที่ถนัดมือขวาก็ใช้มือขวาจับโดยย่ืนมือขวาออกไปข้างหน้าเหมือนกับการจับมือกับบุคคลอื่นท่ีถูกแนะนำให้
รู้จักโดยให้นิว้ ทั้ง 4 กำรอบด้ามไม้แบดมนิ ตัน นิ้วหัวแม่มอื กับนิ้วชีจ้ ะอยูต่ รงด้านสันของด้ามไม้แบดมินตนั เปน็ รูป
ตัว วี โดยตำแหนง่ นว้ิ หวั แมม่ อื จะทาบอยูท่ างดา้ นแบนของด้ามไม้แบดมนิ ตนั

- การจบั ลูกแบดมินตัน

เมื่อรู้ถงึ วธิ ีการจับไม้แล้วตอ่ ไปก็ต้องรู้ถึงการจับลกู ขนไกซ่ ึ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบการเล่นกีฬาแบดมินตัน การ
จับลูกขนไกม่ คี วามสำคัญอย่างมากในการเสิรฟ์ ลูก

การจบั ลูกขนไก่ทน่ี ิยมกนั มี 3 วธิ ี คอื

1. จบั ทห่ี ัวไมค้ อรก์ ของลกู โดยใช้นิว้ หวั แมม่ ือ น้ิวช้ี และน้วิ กลางจบั ลูก
2. จับทีป่ ลายขนไกด่ ้านในของลูกโดยใชน้ วิ้ หัวแมม่ อื กับนิ้วช้ี
3. จับโดยการวางลูกอยบู่ นฝา่ มือ

- การส่งลูก

การส่งลูกเป็นวิธีการของการเริม่ เล่นในการเล่นหรือฝึกทักษะแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเริม่ ฝึกตีลูกแบบต่าง ๆ
ตลอดจนเรม่ิ การแข่งขนั การส่งลกู จะสง่ ไดท้ ั้งลกู หน้ามือและหลังมอื ซึ่งวธิ กี ารสง่ มีดังน้ี

การส่งลูกหน้ามอื

1. ผู้ที่จะส่งลูกจะยืนห่างจากเส้นกลางสนามและเส้นส่งลูกสั้นประมาณ 2 - 3 นิ้ว (ในกรณีเล่นประเภทคู่)
และยนื ห่างเสน้ สง่ ลกู สั้นประมาณ 2 - 3 ฟุต (ในกรณเี ล่นประเภทค)ู่

2. ยืนใหเ้ ทา้ ช้ายอยู่ขา้ งหนา้ สำหรับผ้ทู ถี่ นัดมอื ขวา เท้าทั้งสองขา้ งจะไม่ยกพน้ พน้ื สนามเวลาสง่ ลกู
3. ใชม้ อื ซ้ายจบั ลูกขนไก่ งอแขนพอประมาณ มอื ขวาเง้อื ไมร้ ะดบั เอวพร้อมท่จี ะส่งลูก
4. ตามองเป้าหมายที่จะส่งลูก ปล่อยลูก พร้อมกับตวัดแขนมาข้างหน้าเมื่อไม้สัมผัสกับลูกให้กระดกข้อมอื

ช่วยสง่ ลกู ไปยงั ทศิ ทางทตี่ อ้ งการ

8

การสง่ ลกู หลงั มือ

1. ผู้ท่ีจะสง่ ลูกจะยนื ห่างจากเส้นกลางสนามและเส้นส่งลูกสนั้ ประมาณ 2 - 3 นิว้
2. ยืนใหเ้ ท้าขวาอยู่ขา้ งหนา้ สำหรับผทู้ ถี่ นัดมือขวา เท้าทั้งสองขา้ งจะไมย่ กพ้นพืน้ สนามเวลาส่งลกู
3. ใช้มือซ้ายจับลูกขนไก่ บริเวณปลายขนไก่ทางด้านซ้ายของลำตัวหลังมือด้านขวาอยู่ด้าน หน้า งอแขน

พอประมาณ มือขวาเงื้อไม้ระดบั เอวพร้อมท่จี ะสง่ ลูก
4. ตามองเป้าหมายที่จะส่งลูก ปล่อยลูก พร้อมกับตวัดแขนมาข้างหน้าเมื่อไม้สัมผัสกับลูกให้กระดกข้อมอื

ช่วยสง่ ลกู ไปยงั ทศิ ทางทต่ี อ้ งการ

- รจู้ กั แหล่งท่มี าของแรงตลี กู

การตีลูกในกฬี าแบดมินตัน ไมเ่ หมือนการตลี กู เทนนิสหรือสควอชเพราะลกู ขนไก่มนี ้ำหนักเบาการตีลูกขนไก่ให้
พุง่ ไปขา้ งหน้าอย่างแรง จึงต้องอาศยั จงั หวะที่สมบูรณ์ผสมผสานกันของแรงเหวี่ยงที่มาจากแหลง่ ต่าง ๆ ของแรงตี
ลกู แหลง่ ที่มาของแรงตลี ูกจำแนกออกไดจ้ าก 3 แหล่งใหญ่ คือ

1. แรงทเี่ กดิ จากการถ่ายเปลย่ี นนำ้ หนกั ตวั จากเท้าหลังไปสูเ่ ท้าหนา้
2. แรงที่เกิดจากการเหวยี่ งของลำแขน
3. แรงท่ีเกิดจากการตวัดและการสะบัดอยา่ งแรงของข้อมือ

- ฟตุ เวริ ค์ กับจงั หวะของการตีลูก

กฬี าแบดมนิ ตันเป็นเกมส์ท่ีผู้เล่นท้งั สองฝ่ายต้องมีการเคล่ือนย้ายตวั ว่ิงไล่ตีลูกตลอดเวลาผู้เล่นจึงต้องรู้จักการ
ว่งิ เขา้ ออก การประชดิ ลกู ในจงั หวะทถ่ี กู ต้อง เคลือ่ นยา้ ยตัวเองไปอยู่ในจดุ ทถี่ ูกตอ้ ง ตลี ูกไดถ้ นัด ตดี ้วยความสะดวก
ตลี กู ดว้ ยความง่ายดาย และสนิ้ เปลืองพลังงานใหน้ อ้ ยทส่ี ดุ

ฟุตเวิร์คหรอื จังหวะเทา้ สำหรับการเล่นแบดมินตันมคี วามสำคัญมากทีส่ ุด ฟุตเวิร์คที่ดีจะทำให้การออกตวั สืบเทา้
พาตัวพุ่งไปสู่ทศิ ทางต่าง ๆ รอบสนามกระทำได้ด้วยความคลอ่ งแคลว่ และฉบั ไวเพราะหลักการสำคัญทีส่ ุดในกีฬา
แบดมนิ ตนั สำหรบั ผูเ้ ล่นทกุ คนท่เี ลน่ เพื่อความเปน็ เลิศในระดับแข่งขนั จะตอ้ งจำไวใ้ ห้แม่นก็คอื

– จะต้องวงิ่ เขา้ ไปหาลูกเสมอ อย่าท้งิ ชว่ งปล่อยให้ลูกวิง่ มาหา

– จะตอ้ งพุง่ ตวั เขา้ ตีลกู ให้เร็วทีส่ ดุ และตีลกู ขณะท่ีอยู่ในระดบั ที่สงู ท่ีสดุ

9

- ทักษะการตีลูก

ลกู หลักอนั เป็นแมบ่ ทของการเลน่ แบดมินตัน แตล่ ะจำพวกของการตีลกู ท่กี ล่าวมานี้ จะมวี ิธกี ารตี การวาง
เทา้ ฟุตเวิร์ค กบั จังหวะการตลี ูกท่ีแตกต่างกัน ผเู้ ล่นทีช่ ำนาญแล้ว จะสามารถตแี ละบงั คับลูก 4 จำพวกน้ีให้ข้ามตา
ข่ายไปด้วยความหลากหลาย อาจจะมีความแตกต่างกันในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น วิถี ความเร็ว ความยาว ความ
กว้าง ความสูง ความลึก การฉีกมุม ความหนักแรง เบา ความเฉียบคม ถ้าทำอย่างนี้ได้และสามารถนำเอาความ
หลากหลายไปใช้ในสถานการณ์ที่ถูกต้องน่นั คอื ศิลปะสุดยอดของการเล่นกีฬาแบดมนิ ตนั ทจ่ี ะยังผลให้ผลให้ผู้เล่นมี
สไตล์หลากหลายของการตีลกู ทำใหอ้ ีกฝา่ ยหน่งึ คดิ ไมถ่ งึ เดาไมอ่ อกว่าเราจะส่งลูกข้ามไปในลักษณะใด แต่ละลูกที่
ข้ามไปนั้น ล้วนแต่แฝงไปด้วยอตั ราส่วนแห่งการหลอล่อ แฝงอยู่ในตัวอย่างมีประสิทธิผล สร้างแบบฉบับเกมการ
เลน่ แบดมนิ ตันของตนเองใหเ้ ข้มแขง็ มีสไตลก์ ารเลน่ เชงิ รกุ ดดุ ัน ยากแกก่ ารพา่ ยแพ้

- ลูกโยน (Lob or Clear)

คือ ลูกที่ตีพุ่งโด่งข้ามไปในระดับสูง และย้อยตกลงมาในมุม 90 องศาในแดนตรงกันข้ามเป็นลูกที่ตีจาก
เหนือศีรษะ หรือ ลูกที่งัดจากล่างก็ได้ ตีได้ทั้งหน้ามือ โฟร์แฮนด์ และหลังมือ แบ็คแฮนด์ ลูกโยนเปน็ ลูกเบสิคพน้ื
ฐาน นักเลน่ หดั ใหมจ่ ะเร่มิ จากการหัดตีลูกโยน จงึ เปน็ ลกู เบสิคท่ีสดุ ในกีฬาแบดมนิ ตนั มองเผนิ ๆ แล้วส่านมากจะ
คิดว่า ลูกโยนท่ีเป็นลกู ที่ใชส้ ำหรบั การแก้สถานการณ์ โยนลูกข้ามไปสูงโด่งมากเท่าใด ก็จะมีเวลาสำหรบั การกลับ
ทรงตัวของผู้เล่นมากเท่าน้ัน แต่ในความเป็นจริงลูกโยนอาจจะใช้สำหรับเป็นการเล่นในเชิงรุกก็ได้ เช่น การตีลูก
โยนแบบพ่งุ เรว็ จ้ไี ปยงั มมุ หลงั ทง้ั สองด้าน จะทำให้ฝา่ ยตรงข้ามตกเปน็ ฝ่ายรับถ้าอยู่ในสถานการณ์เสียหลักจวนตัว
จะทำใหก้ ารแก้ไขกลับการทรงตัวได้ยากย่ิงข้นึ ลกู โยนมีจงั หวะการตีคล้ายคลงึ กับการตบ แต่ไมต่ ้องใช้แรงกดมาก
เทา่ แทนที่จะตีกดลูกตำ่ กลับเป็นการตเี สยลูกใหพ้ ุ่งโดง่ ขน้ึ ไปด้านบนสุด ความเรว็ ตามตอ้ งการลกู โยนที่ขา้ มไปอย่าง
สมบูรณแ์ บบ จะต้องมแี รงว่งิ ไกลถึงสุดสนามตรงขา้ ม และตอ้ งไมด่ าดจนคู่แข่งสามารถดักตะปบตลี ูกได้คร่งึ ทาง ลูก
โยนที่ไม่ถึงหลัง หรือตีเข้าสู่มือคู่ต่อสู้ จะทำให้ฝ่ายเราเสียเปรียบ การตีลูกโยน และจังหวะฟุตเวิร์คของการตีลูก
ต้องฝึกฝนใหด้ ีจนสามารถจบั จังหวะการเหวี่ยงตีลูกโยนไปถึงด้านหลังของฝั่งตรงขา้ มได้อย่างงา่ ย ๆ และสบาย ๆ
ในจังหวะ วถิ แี ละระดบั ที่เราสามารถบงั คบั ให้ลูกข้ามไปตามทตี่ อ้ งการ

ลกู โยนอาจจะแบง่ ออกมาได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คอื

1. ลูกโยนหนา้ มอื (Forehand Clear)
2. ลกู โยนหลงั มอื (Backhand Clear)
3. ลกู งัดโยน (Underhand Clear)

10

- ลูกโยนหนา้ มือ

แรงที่ตีเกิดจากการประสานงานของแรงที่เหวี่ยง แรงตวัด การสะบัดของลำแขนข้อมือจังหวะฟุตเวิร์คที่
ถูกต้อง บวกกับการเปลี่ยนน้ำหนักตัวจากเท้าหลังไปสู่เท้าหนา้ โดยที่แรงตีที่ผ่านแร็กเก็ตไปสัมผัสลูกในช่วง
วินาทที ถ่ี ูจังหวะจะโคน รวมแรงดดี ผลกั ดนั ใหล้ ูกพ่งุ สงู โด่งไปยงั สนามตรงขา้ มตามเป้าหมายที่ต้องการ

- ลกู โยนหลังมือ

แรงตีเกดิ จากการ ประสานงานเชน่ เดยี วกนั กับ การตลี กู หนา้ มอื แต่การวางฟตุ เวริ ค์ สลับกนั และไม่มีแรงท่ีโถม
ท่มี าจากการเปลยี่ นน้ำหนกั ตัวจากเทา้ หลังไปสเู่ ทา้ หน้า แรงตีลูกหลังมือเกอื บทง้ั หมดจึงมาจากแรงเหวี่ยง แรง
ตวัด และการสะบัดลำแขน กับข้อมือเท่านั้น โดยเหตุที่การตีลูกหลังมือ แหล่งที่มาของแรงตีลูกมีจำกัด แรง
เหวี่ยง แรงตวัดของลำแขนที่มาจากหัวไหล่ กับแรงที่เกิดจากการสะบัดข้อมือ จึงจำเป็นต้องประสานงาน
สอดคล้องกันอย่างกลมกลืนเป็นจังหวะเดียวโดยทฤษฎีแล้ว ลูกหลังมือน่าจะเป็นลูกรับสำหรับแก้ไข
สถานการณ์มากกว่าเป็นลูกบุกแต่ถ้าฝึกตลี ูกให้แรงและมคี วามคล่องแคล่วชำนาญ จะกลายเป็นการตีลูกที่ผู้
เล่นสามารถสร้างเขี้ยวเล็บให้แก่การตีลูกหลังมือของตนกลายเป็นการเล่นเชงิ รุก ได้จังหวะของการดดี สะบัด
ข้อมือที่กระทำไดใ้ นเสี้ยววินาทีกับแรงเหวี่ยงของแร็กเก็ตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้เล่นสามารถพลิกโฉมจากการ
เกมรบั เป็นเกมรกุ ได้ในบัดดล เพยี งแต่บดิ หนา้ แรก็ เกต็ เปล่ียนจุดเป้าหมายการตี ลูกกจ็ ะวิง่ ไปอีกทางหนึ่ง ทำ
ให้ผู้เล่นสามารถสร้างสัดสว่ นของการเล่นลูกหลอก ได้อยา่ งแพรวพราวด้วยลกู หลังมือ ไม่ว่าจะเปน็ ลกู โยนหลัง
มอื กระแทกไปมุมหน่งึ มุมใดของสองมมุ หลงั หรอื แตะหยอดดว้ ยหลังมอื ขนานเสน้ หรอื ทแยงมุม

- ลูกงดั โยน

คือการตีลกู โดยช้อนตวัดตลี ูกจาก ล่างสะบดั ขึ้นด้านบนเป็นการชอ้ นตลี ูกจากตำ่ ไปสู่สูงเป็นท่ีลูกท่ไี มต่ ้องใช้แรง
เหวี่ยงตมี ากเท่าไหร่ ใช้ข้อกระตุกหรือสะบัดลูกกจ็ ะปลิวออกจากแรก็ เก็ตอย่างง่ายดาย ส่วนมากจะเป็นลูกที่
เขา้ ประชดิ ดา้ นหนา้ ของสนาม เชน่ การเข้ารับลกู แตะหยอดหรอื ลูกหยอดที่ฝา่ ยตรงข้ามส่งข้ามมา หรอื การรับ
ลูกตบ เป็นต้น ลูกงัดใช้ตีได้ทั้งหน้ามือและหลังมือ เป็นลูกที่ได้แรงตีมาจากการตวัด กระตุกหรือสะบัดของ
ข้อมือมากกวา่ แรงตีจากแหล่งอน่ื การตลี กู งัดผู้เลน่ ต้องยืดแขนและตลี ูกสุดช่วงแขน ลูกงัดบริเวณหน้าตาข่าย
ถ้าเข้าประชิดลูกไดเ้ รว็ มีโอกาสตลี ูกในระดับสงู จะใช้เปน็ ลกู หลอกลอ่ คู่ตอ่ สู้ด้วยการเลน่ ลกู สองจงั หวะ เหยยี ด
แขนย่ืนแรก็ เก็ตออกไป จะทิง้ เปน็ ลูกหยอดกไ็ ด้ หรอื จะกระแทกลูกไปด้านหลังของสนามตรงข้ามก็ได้ จะเป็น
การเล่นลูกหลอกสองจังหวะท่ำคัญอกี ลูกหน่ึงในเกมการเล่นแบดมนิ ตันท่ีผู้เลน่ ทุกคนจะมองข้ามไมไ่ ด้

11

การงัดลกู แบง่ เปน็ สองวิถีใหญ่ ๆ คือ การงัดลูกใหพ้ ง่ ข้ามไปโดยไมโ่ ด่งมากนกั ใช้เปน็ การงดั ลูกแบบรุก อีก
วิถหี นง่ึ คือการงดั ลูกโด่งดงึ ใหค้ ู่ต่อสู้ไปดา้ นหลังสนาม จะต้องไม่ลมื หลักการตี ดังนี้

1. หนา้ แรก็ เก็ตตอ้ งตัง้ ให้ตรงขณะตีลูก
2. ขณะที่แรก็ เกต็ สัมผสั กระทบตีลูกน้นั แขนทั้งสองของผู้เลน่ จะตอ้ งเหยียดตรงอยใู่ นแนวตรงเสมอ
3. ว่ิงเขา้ ไปหาลกู อย่ารอใหล้ กู ว่ิงเขา้ มาหาเรา
4. เขา้ ประชิดลกู ในระดับสงู ที่สุดเทา่ ท่ีจะทำได้
5. ต้องร้จู กั ดักและเขา้ ปะทะลกู เสมอ

- ลูกตบ (Smash)

ในเกมแบดมินตัน ลูกตบเป็นลูกที่เด็ดขาดที่ตีจากเบื้องสูงกดลงสู่เปา้ หมายให้พุ่งสู่พื้นในวถิ ีตรงที่รุนแรง
และเร็วที่สุดเป็นลกู ท่พี ่งุ ไปสู่เป้าหมายดว้ ยความเร็วท่ีสุดสงู กว่าเกมเล่นอ่นื ๆ ที่ใช้แรก็ เกต็ เปน็ ลูกที่ใช้บีบบังคับให้
คู่ตอ่ สูต้ ้องตกเป็นฝา่ ยรบั มเี วลาจำกดั สำหรบั การเตรยี มตัวตอบโต้ ลกู ตบเป็นลกู ฆา่ เป็นลกู ทำแตม้ ที่ได้ผลถา้ รจู้ ักใช้
อย่างถกู ตอ้ ง

1. เมือ่ คูต่ อ่ สโู้ ยนลกู ข้ามตาขา่ ยเพยี งครึง่ สนามหรือส่งลกู มาไม่ถึงหลัง
2. เมอ่ื ตอ้ งการบบี ใหค้ ตู่ อ่ สู้เสียหลัก ผละออกจากจดุ ศนู ย์กลาง
3. เมอ่ื ตอ้ งการให้คตู่ ่อสู้กงั วลใจ พะวงอยู่กับการตัง้ รับ
4. เพ่อื ผลของการหลอกลอ่ เม่ือคตู่ อ่ ส้เู กิดความกังวลใจ ทำให้ประสทิ ธผิ ลของการใช้ลูกหลกั อน่ื ๆ เพิม่ มากข้ึน
5. เมื่อต้องการเผด็จศึกยุติการตอบโต้ หรือใช้เมื่อคู่ต่อสู้เผลอตัว หรือเสียหลักการทรงตัวบุกทำคะแนนดว้ ยลกู

เดด็ ขาด

- ลูกดาด (Drive)

คือลูกทพี่ ่งุ เฉียดข้ามตาข่าย มวี ิถีพงุ่ ขา้ มขนานไปกับพน้ื สนาม ผูเ้ ลน่ ตลี ูกดาดสงู ในระดับอก ตไี ด้ท้งั หน้ามือ
โฟร์แฮนด์ และหลังมือแบ็คแฮนด์ท้ังจากดา้ นซ้าย ขวาของลำตัวลูกดาดท่ีตีจากระดับต่ำ ลูกที่ข้ามไปจะลอยสงู ไม่
ขนานกับพืน้ สนาม มีแนวโนม้ ที่จะข้ามตาข่ายไปในลักษณะของลูกงัดโด่ง ลูกดาดใช้สำหรับสร้างสถานการณ์เป็น
ฝา่ ยรุกโจมตี ไมเ่ ปิดโอกาสใหอ้ กี ฝ่ายหนึง่ ตอบโตก้ ลบั มาไดด้ ้วยลกู ตบเป็นลูกทพี่ ุ่งขา้ มตาขา่ ยด้วยความเรว็ ในวิถีตรง
โดยที่ผู้เล่นสามารถวางเปา้ หมายให้ลกู พุ่งไปสู่ทุกจุดของสนามตรงข้าม อาจเป็นลูกดาดสุดสนาม, ดาดครึ่งสนาม,
หรือตีเบา ๆ ให้กลายเป็นลูกแตะหยอด ลูกดาดใช้กันมากในประเภทคู่ เพราะลูกดาดรักษาความเป็นฝ่ายรุก

12

หลีกเลี่ยงการส่งลูกโด่งเปิดโอกาสให้คู่แข่งใช้ตบได้อีกทั้งยังบีบบังคับให้คู่แข่งมีเวลาสำหรับการตีโต้กลับมาด้วย
ช่วงเวลาสั้นยิ่งถ้าคู่แข่งขันเสียหลักถลำไปอีกซีกหน่ึงของสนาม ลูกดาดที่พุ่งไปอีกด้านหน่ึงของสนาม จะทำให้อีก
ฝา่ ยหน่ึงไมส่ ามารถจะกลับตวั มาตีลูกได้ ในการเล่นประเภทคู่ ลูกดาดแทงครึ่งสนามยงั ใช้สำหรับหลบผ่านผู้เล่นที่
อยู่ด้านหน้าของอีกฝา่ ยหนงึ่ ในขณะเดียวกันวิถีดาดของลกู ทีข่ ้ามไป ผเู้ ลน่ มือหลังก็ไม่อาจตอบโต้กลับมาด้วยลูกตบ
ได้ ถา้ ใชล้ ูกดาดพุ่งไปยงั มมุ ที่สามของฝ่ายตรงข้ามในหลาย ๆ ครั้งจะพลกิ สถานการณ์จากฝ่ายรับให้กลายเป็นฝ่าย
รกุ ได้ทันที

ลูกดาดเป็นลูกที่แรงตีมาจากแรงเหวี่ยงของแขน ผสมผสานกับแรงตวัดของข้อมือ อาจจะมีแรงโถมของ
นำ้ หนกั ตวั หรือไมม่ ีเลยก็ได้ การกำหนดแรงตี จะทำให้ลกู ดาดข้ามไปยงั เป้าหมายที่แตกตา่ งกัน ถ้าเปน็ ลูกดาดคร่ึง
สนามก็ตอ้ งลดความแรงลงบางสว่ น แตก่ ็ยังตอ้ งใช้การดดี ตวดั ของข้อมือชว่ ยเพ่อื ให้ลกู ดาดท่ีขา้ มตาขา่ ยไปน้ัน มีวิถี
วิ่งที่ฉวัดเฉวียนรวดเร็ว คู่ต่อสู้ไม่อาจจะมาดกั ตะปบลกู ไดห้ รือบางครัง้ จะใช้เป็นลูกหลอก แทนที่จะเป็นลูกพ่งุ เรว็
อาจจะตเี ปน็ ลูกแตะหยอดทิง้ ไว้หนา้ ตาข่ายของอกี ฝ่ายหน่ึงกไ็ ด้ แตต่ ้องเปน็ การตีลกู วิถีที่เร็ว ไม่อ้อยอ่ิงจนอีกฝ่าย
หนึง่ เข้าไปแย้บได้ ลกู ดาดท่สี มบูรณต์ อ้ งขา้ มตาข่ายไปในวิถตี รง ลกู พงุ่ ขา้ มไปด้วยความเรว็ ในขณะเดียวกนั ตอ้ งขา้ ม
ไปในวิถีวิ่งเลียดตาข่าย ลูกดาดที่พุ่งสู่เป้าหมายห่างตัวคู่ต่อสู้มากเท่าใด จะเป็นการวางลูกที่สร้างความปลอดภัย
ให้แก่ผตู้ ี และบบี ใหอ้ กี ฝา่ ยหนึ่งตกอย่ใู นสภาพเสียเปรยี บเปน็ ฝา่ ยรับ

- ลูกหยอด (Drop)

คอื ลูกท่ีตีจากส่วนต่าง ๆ ของสนามให้พ่งุ ย้อยขา้ มตาขา่ ย และตกลงส่พู นื้ สนามดา้ นตรงข้ามดดยไมเ่ กินเสน้
สง่ ลกู ส้ัน จะหยอดด้วยดว้ ยลูกหน้ามือกไ็ ด้ หรือหลังมือก็ได้ หรือจะตีตัดหยอดจากลกู โดง่ เหนอื ศีรษะก็ได้ ลกู หยอด
เปน็ การทำใหค้ ตู่ อ่ ส้ตู ้องว่งิ เข้ามาเล่นลูกหน้าตาขา่ ยทำให้พืน้ ท่ีสว่ นหลงั ของสนามมพี นื้ ทม่ี ากขึ้น การหยอดมีหลาย
แบบ เช่น ลูกหยอดหน้าตาข่าย ลูกตัดหยอด แต่ลูกหยอดที่ดีจะต้องเลียดตาข่ายและพยายามใหล้ ูกตกชิดตาข่าย
มากทีส่ ุด การตลี กู หยอดมวี ิธกี ารดงั น้ี

1. เวลาตีลูกหยอดต้องใหแ้ ขนตงึ ตามองลูกที่จะหยอด
2. เมื่อหน้าไมจ้ ะสมั ผัสลูกขนไกใ่ ห้เอยี งหน้าไมไ้ ปในทิศทางทีต่ อ้ งการให้ลูกไปตกพร้อมทั้งกระดกข้อมือเมื่อไม้

สมั ผัสกบั ลูกขนไก่
3. ลกู ทหี่ ยอดจะเปน็ การหยอดจากหนา้ มือหรือหลังมือกไ็ ด้

13

วิธีเก็บรกั ษาอุปกรณ์กีฬาแบดมินตัน
- ไม้แรก็ เกต

1. ควรมีถุงเก็บและหม่ันทำความสะอาดโดยเฉพาะบริเวณด้ามจับอย่าให้เปยี กชื้น ถ้าใช้ผ้าพันด้ามควร
เปล่ยี นเมอ่ื เสื่อมคณุ ภาพแลว้

2. เก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ควรเก็บไว้ในที่มีอุณหภูมิสูงหรือวางตากแดดตากฝนจะทำให้ไม้
แร็กเกตเสียรปู ทรง บดิ เบ้ียวซ่งึ เกิดจากแรงดึงของเอ็น และโครงสรา้ งของวสั ดุใชท้ ำไมแ้ ร็กเกตได้

3. ในฤดูร้อนควรใช้น้ำมันมะกอก วาสลีน หรือเทียนไขทาถูที่เอ็นทั้งด้านหน้า และด้านหลัง จะช่วยให้
เอน็ มีความคงทนย่งิ ขึน้

4. เมอ่ื เลิกใช้ควรแขวนไมแ้ รก็ เกตจะดีทีส่ ุด แต่ถา้ จำเปน็ ต้องวางควรวางดา้ นแบนเท่านัน้
5. เมอ่ื เอ็นท่ใี ช้ขาดไปส่วนหนงึ่ สว่ นใด ไม่ควรตอ่ เอน็ แล้วนำกลับไปใช้อกี เพราะแรงดึงในการตอ่ เอน็ จะไม่

เทา่ กัน ขาดความสมดลุ จะทำให้โครงสร้างไมแ้ ร็กเกตเสียรปู การปฎบิ ตั ิเม่ือเอน็ ขาดควรใช้กรรไกรตัด
เอ็นท่ีเหลอื อยู่ทำใหข้ าดออกจากกนั ท้ังหมด เปน็ การปอ้ งกันแรงดึงจากเอ็นทไ่ี มส่ มดลุ กนั
6. อย่านำไมแ้ รก็ เกตไปใชต้ สี ิ่งอนื่ ๆ ทมี่ ิใชล่ กู ขนไก่และระวงั การตีไม่ใหก้ ระทบถกู พน้ื หรอื วัสดทุ ่ีแข็ง
7. ควรฝึกฝนการตลี กู ในทักษะต่าง ๆ ให้ถกู ตอ้ งแมน่ ยำ มุมและทิศทางของการตที ี่ถูกต้องจะช่วยให้เอ็น
และไม้แร็กเกตมีความคงทนและใช้ไดน้ านย่ิงขึ้น
- ลกู ขนไก่
1. ควรเกบ็ ลูกขนไก่ไว้ในกลอ่ งทีจ่ ดั ข้นึ โดยเฉพาะเพ่อื ปอ้ งกนั การโดนทับซงึ่ ทำให้เสยี รปู ทรง
2. ไมค่ วรเกบ็ ลกู ขนไกไ่ วใ้ นท่รี ้อนหรือตากแดด เพราะจะทำให้หกั ง่ายและไมค่ วรเก็บไวใ้ นทีช่ ื้นหรือเปียก
ซ่ึงจะทำใหข้ นึ้ ราและใชไ้ ม่ได้
3. ควรเลือกใชล้ ูกขนไก่ใหเ้ หมาะสม เนื่องจากวิถวี ่ิงของลูกขนไก่มีความตา่ งกันตามอณุ หภมู ิ และความ
กดดันอากาศในอุณหภูมิต่ำต้องใช้ลูกขนไก่ที่มีน้ำหนักมากกว่าในที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งข้างกล่องจะมี
เบอร์ของน้ำหนักลูกขนไก่กำกับอยู่เสมอ
4. ลูกขนไกท่ ่ีทำดว้ ยพลาสตกิ ควรเอาไว้ใช้สำหรับฝกึ ซอ้ มไม่ควรนำมาใชใ้ นการแขง่ ขัน
5. ควรฝึกฝนการตลี กู ในทักษะต่าง ๆ ใหถ้ ูกต้องแม่นยำ การตีลกู ขนไก่ทถี่ ูกเฉพาะหัวของลูกจะชว่ ยให้
ลกู ขนไก่มีความคงทนกว่ากรณีที่ผิดทกั ษะและขาดความแมน่ ยำจะทำให้ตไี ปโดนบริเวณขนไก่จึงทำให้ขน
ไก่เสียรูปทรงและหักได้ง่ายและต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ ซึ่งสิ้นเปลืองมาก อนึ่งถ้าเป็นลูกขนไก่ที่ผลิตจาก
ประเทศที่มีอากาศชื้นมาก แต่นำไปใช้ในประเทศที่มีอากาศร้อนอบอ้าว ก่อนนำไปใช้ให้เปิดฝาหลอดทงั้

14

สองข้างแล้วนำไปตั้งให้ไอน้ำจากกาต้มน้ำผ่านเข้าไปในหลอดจะช่วยให้ขนไก่ คืนสู่สภาพเดิมใช้งานได้มี
ประสิทธภิ าพมากขนึ้ แต่ไม่ควรทำนานเกินไปจะทำให้ลูกขนไกไ่ ดร้ บั ความชืน้ มากจนใชก้ ารไมไ่ ด้

การอบอ่นุ รา่ งกายก่อนการเลน่ แบดมนิ ตัน

ทา่ กายบรหิ ารก่อนการตแี บดมนิ ตัน นนั้ ถอื วา่ มคี วามสำคัญอย่างมาก เพราะกฬี าแบดมินตนั จะต้องใช้
ทักษะความเคลอื่ นไหวรา่ งกายแทบทุกส่วน โดยเฉพาะในส่วนของข้อมือ แขนและขา ดังน้นั จงึ ต้องมีการวอรม์ อัพ
เพือ่ ทำใหเ้ กิดการยืดหยุน่ ของรา่ งกาย ลดอาการบาดเจ็บและทำให้การเคลอ่ื นไหวเป็นไปอย่างคลอ่ งตัวมากย่ิงขึน้
โดยท่ายดื เส้นและวอร์มร่างกายที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาแบดมินตันจะมีดงั ตอ่ ไปนี้

1. ทา่ บรหิ ารแขนและขอ้ มอื เริม่ ต้นด้วยการยกแขนแล้วยื่นไปด้านหนา้ ขนานกับพ้นื และทำให้แขนตึง จากนนั้
ใชม้ อื อีกข้างหมนุ ข้อมอื ขนึ้ – ลงอยา่ งช้า ๆ เปน็ จำนวน 10 ครงั้ โดยทำแบ่งออกเป็น 3 เซต

2. บรหิ ารข้อศอกดว้ ยการยืนหลงั ตรงแล้วทำแขนด้านหน้าใหเ้ ปน็ ลักษณะของตวั L จากน้นั ให้เลอื่ นแขนไป
ดา้ นข้างจนกระทั่งศอกชดิ กับลำตัวและเลอื่ นมาอยกู่ ลางลำตวั ส่วนแขนด้านหลังใหท้ ำเปน็ ตวั L ขนานไป
กับด้านหลงั แล้วใช้มอื ดา้ นหน้าจับศอกของแขนดา้ นหลงั โดยทำในลกั ษณะน้ีสลับกนั รอบละ 3 นาที

3. ทา่ บริหารขาให้คุณยืนตัวตรง จากน้ันใหก้ ้าวเทา้ ไปด้านหนา้ เลก็ นอ้ ยแล้วยอ่ เข่าลง โดยให้เข่าดา้ นหนา้ เปน็
แนวขนาน พรอ้ มทำสลับทัง้ ยอ่ เข่าลงและขาหลงั ตึงข้างละ 10 ครัง้ แบ่งออกเป็น 3 เซต็ เชน่ กนั

ทักษะพนื้ ฐานกฬี าแบดมนิ ตนั

- วิธีการจับไมแ้ บดมินตัน

กอ่ นที่จะเรียนรู้ถึงทักษะการเลน่ กีฬาแบดมินตนั ใด ๆ ผู้เรียนจะตอ้ งจับไมแ้ บดมินตนั ให้ถูกวิธเี สียก่อน วิธีการ
คือ ผู้ที่ถนัดมือขวาก็ใช้มอื ขวาจับโดยยื่นมือขวาออกไปข้างหน้าเหมือนกับการจับมอื กับบคุ คลอื่นที่ถูกแนะนำให้
รู้จักโดยให้นิ้วทั้ง 4 กำรอบด้ามไม้แบดมินตัน น้ิวหัวแม่มือกบั นิ้วช้ีจะอยู่ตรงดา้ นสันของด้ามไม้แบดมินตนั เปน็ รปู
ตัว วี โดยตำแหนง่ น้ิวหวั แมม่ อื จะทาบอยู่ทางดา้ นแบนของดา้ มไมแ้ บดมินตนั

- การจับลกู แบดมินตัน

เมื่อรู้ถงึ วธิ ีการจับไมแ้ ล้วต่อไปกต็ อ้ งรูถ้ งึ การจบั ลูกขนไก่ซึ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบการเลน่ กีฬาแบดมินตัน การ
จบั ลกู ขนไกม่ คี วามสำคัญอยา่ งมากในการเสริ ฟ์ ลูก

การจับลูกขนไกท่ ี่นยิ มกนั มี 3 วิธี คือ

15

4. จบั ทหี่ ัวไมค้ อร์กของลูก โดยใชน้ ้วิ หวั แมม่ ือ น้ิวช้ี และนวิ้ กลางจับลูก
5. จบั ท่ีปลายขนไกด่ า้ นในของลกู โดยใชน้ ้ิวหัวแมม่ อื กบั นิ้วชี้
6. จับโดยการวางลูกอยบู่ นฝ่ามอื

- ทักษะการตลี ูก

ลูกหลักอนั เปน็ แมบ่ ทของการเล่นแบดมินตัน แตล่ ะจำพวกของการตลี ูกทีก่ ล่าวมาน้ี จะมีวธิ ีการตี การวาง
เท้าฟุตเวริ ์ค กบั จงั หวะการตลี กู ท่ีแตกตา่ งกัน ผเู้ ลน่ ท่ชี ำนาญแล้ว จะสามารถตแี ละบงั คับลกู 4 จำพวกน้ีให้ข้ามตา
ข่ายไปด้วยความหลากหลาย อาจจะมีความแตกต่างกนั ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น วิถี ความเร็ว ความยาว ความ
กว้าง ความสูง ความลึก การฉีกมุม ความหนักแรง เบา ความเฉียบคม ถ้าทำอย่างนี้ได้และสามารถนำเอาความ
หลากหลายไปใช้ในสถานการณ์ท่ีถกู ต้องน่นั คือศลิ ปะสุดยอดของการเล่นกีฬาแบดมนิ ตันที่จะยังผลให้ผลให้ผู้เล่นมี
สไตลห์ ลากหลายของการตีลูก ทำให้อีกฝา่ ยหนึ่งคดิ ไมถ่ ึง เดาไม่ออกว่าเราจะสง่ ลูกขา้ มไปในลกั ษณะใด แต่ละลูกที่
ข้ามไปนั้น ล้วนแต่แฝงไปด้วยอัตราส่วนแห่งการหลอล่อ แฝงอยู่ในตัวอย่างมีประสิทธิผล สร้างแบบฉบับเกมการ
เล่นแบดมนิ ตนั ของตนเองใหเ้ ขม้ แข็ง มสี ไตล์การเลน่ เชงิ รกุ ดุดนั ยากแกก่ ารพา่ ยแพ้

- ฟุตเวิร์คกับจังหวะของการตลี กู

กีฬาแบดมินตันเป็นเกมส์ท่ีผู้เลน่ ทัง้ สองฝา่ ยต้องมีการเคลื่อนยา้ ยตัววิ่งไล่ตีลูกตลอดเวลาผู้เล่นจึงต้องรู้จักการ
ว่ิงเข้าออก การประชดิ ลกู ในจังหวะท่ถี กู ต้อง เคลื่อนยา้ ยตัวเองไปอยใู่ นจุดทีถ่ กู ตอ้ ง ตีลูกไดถ้ นัด ตดี ว้ ยความสะดวก
ตีลกู ด้วยความงา่ ยดาย และส้ินเปลืองพลังงานใหน้ ้อยทส่ี ดุ

ฟุตเวิร์คหรือจังหวะเท้าสำหรับการเล่นแบดมินตันมีความสำคัญมากที่สุด ฟุตเวิร์คที่ดีจะทำให้การออกตัวสืบเทา้
พาตัวพุ่งไปสู่ทศิ ทางต่าง ๆ รอบสนามกระทำได้ด้วยความคลอ่ งแคล่วและฉับไวเพราะหลักการสำคัญที่สุดในกีฬา
แบดมนิ ตนั สำหรบั ผเู้ ลน่ ทุกคนทเ่ี ล่นเพ่ือความเป็นเลิศในระดับแข่งขัน จะตอ้ งจำไวใ้ ห้แมน่ กค็ อื

- จะต้องวงิ่ เข้าไปหาลกู เสมอ อยา่ ทิ้งช่วงปล่อยใหล้ ูกวิง่ มาหา
- จะตอ้ งพงุ่ ตัวเขา้ ตลี กู ให้เร็วทสี่ ุด และตีลูกขณะที่อยใู่ นระดับทส่ี ูงท่สี ดุ

กติกาการแขง่ ขนั กฬี าแบดมนิ ตนั เบอ้ื งตน้

1. การออกนอกเส้น มีการกำหนดเสน้ ออกแต่งต่างกนั ในกรณีเล่นเด่ียวและเล่นคู่
2. การเสิร์ฟลูกตามกตกิ าทถี่ ูกตอ้ ง คือ

- หัวไม้ขณะสมั ผัสลูกตอ้ งต่ำกวา่ ขอ้ มอื อย่างเหน็ ได้ชดั

16

- หวั ไมข้ ณะสมั ผสั ลกู ตอ้ งตำ่ กว่าเอวอย่างเห็นไดช้ ัด

- ผูเ้ ลน่ ตอ้ งไมถ่ ่วงเวลา หรอื เสิร์ฟช้า หรือเสิรฟ์ 2 จงั หวะ การเสิรฟ์ ตอ้ งเสิร์ฟไปด้วยจังหวะเดียว

- ขณะเสริ ฟ์ สว่ นใดสว่ นหนง่ึ ของเทา้ ท้ัง 2 ขา้ งต้องสมั ผัสพน้ื ตลอดเวลา

- การเสิร์ฟลกู ที่ถกู ต้อง ตอ้ งใหแ้ รก็ เกต็ สัมผัสกบั หัวลกู ก่อน หากโดนขนกอ่ นถอื ว่าผดิ กติกา

3. ขณะตลี กู โตก้ ัน หา้ มนำส่วนหนึง่ สว่ นใดของร่างกายหรอื ไม้แบดไปสมั ผสั กบั เน็ต
4. หา้ มตีลกู ทฝี่ ัง่ ตรงข้ามโตก้ ลับมาในขณะทล่ี กู ยังไม่ขา้ มเน็ตมายงั แดนเรา (Over net)

รายละเอยี ดของกตกิ าการนบั คะแนนมีดังน้ี

1. แมตชห์ นึ่งต้องชนะใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ ใน 3 เกม
2. ทุกประเภทของการแข่งขัน ฝ่ายที่ได้ 21 คะแนนก่อนเป็นฝ่ายชนะในเกมนั้น ยกเว้นเมื่อได้ 20 คะแนน

เท่ากนั ตอ้ งนบั ต่อให้มีคะแนนห่างกนั 2 คะแนน ฝ่ายใดได้คะแนนนำ 2 คะแนนกอ่ นเป็นผู้ชนะ แต่ไม่เกิน
30 คะแนน หมายความวา่ หากดำเนนิ มาจนถึง 29 คะแนนเท่ากนั ฝา่ ยใดได้ 30 คะแนนก่อนเป็นผู้ชนะ
3. ฝ่ายชนะเปน็ ฝ่ายสง่ ลกู ต่อในเกมตอ่ ไป
4. ฝา่ ยชนะการเสยี่ งสิทธ์ิเปน็ ฝ่ายส่งลกู ไดก้ ่อน หากฝ่ายตรงข้ามทำลูก “เสยี ” หรือลูกไม่ไดอ้ ยู่ในการเล่น ผู้
เลอื กส่งลูกกอ่ นจะได้คะแนนนำ 1 – 0 และไดส้ ่งลกู ตอ่ แตห่ ากผสู้ ่งลกู ทำลกู “เสีย” หรือลูกไม่อยู่ในการ
เลน่ ฝา่ ยตรงขา้ มจะได้คะแนนตามมาทันทีเป็น 1 – 1 และฝา่ ยตรงขา้ มจะได้สิทธ์ิสง่ ลูกแทน ดำเนินเช่นน้ี
ตอ่ ไปจนจบเกม
5. ประเภทคู่ให้ส่งลูกฝ่ายละ 1 ครั้ง ตามคะแนนทีไ่ ด้ ขณะที่เปลี่ยนฝ่ายส่งลูก หากคะแนนเป็นจำนวนค่ี ผู้
อยูค่ อรด์ ด้านซา้ ยเป็นผู้ส่งลกู หากคะแนนเป็นจำนวนคู่ผอู้ ย่คู อรด์ ดา้ นขวาเป็นฝา่ ยส่งลูก

การดิวซ์

หากผู้เล่นทั้งสองฝ่ายทำคะแนนไดเ้ ท่ากันในคะแนนที่ 20 จะมีการเลน่ ต่อ จนกว่าว่าจะมีคะแนนมากกว่าฝ่ายตรง
ข้าม 2 คะแนน แต่ถ้ายังไม่สามารถทำคะแนนห่างกัน 2 แต้มได้ จะเล่นต่อไปเรื่อย ๆ แต่ เมื่อแต้มได้ 29 เท่ากนั
ใครทที่ ำไดแ้ ต้ม 30 ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ

17

บรรณานุกรม

(2557). แบดมินตนั ในตา่ งประเทศและไทย. สบื คน้ เมือ่ 28 สิงหาคม 2564, จาก
http://myspot0736.blogspot.com/2014/11/blog-post.html

อนรุ ักษ์ วินทะไชย. (2558). ประโยชน์ของการเลน่ แบดมนิ ตัน. สบื ค้นเม่อื 28 สิงหาคม 2564,
จาก https://sites.google.com/site/wwwbaetmintancom/prawati-bae-tmin-tan/ktika-
khxng-baedmintan/maryath-kar-len-baedmintan/xupkrn/prayochn-kar-len-baedmintan

(2564). กตกิ าและมารยาทการเล่นแบดมินตัน. สืบค้นเมอ่ื 28 สิงหาคม 2564, จาก
https://sites.google.com/site/kilabaedmintan01/ktika-laea-maryath-kar-len-
baedmintan-1

(2558). วิธแี ละทักษะการเล่นแบดมนิ ตัน. สบื คน้ เมอื่ 28 สงิ หาคม 2564, จาก
https://itecsoftbox.wordpress.com/2014/10/27/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9
8%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%
B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80
%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%94/

โรงเรียนดอยสะเก็ดวทิ ยาคม. กฬี าแบดมนิ ตนั . สบื คน้ เมื่อ 28 สิงหาคม 2564, จาก
https://sites.google.com/site/doisaketwittayakomsports/klu-sm-sara-sukh-suksa-elea-
phlsuksa/kila-baedmintan

(2556). การยดื เส้น(กอ่ นตี+หลังตี)แบดมินตัน. สบื ค้นเมือ่ 28 สงิ หาคม 2564, จาก
http://bgatkbadminton.blogspot.com/2013/02/warm-up.html


Click to View FlipBook Version