The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

สิงโตนอกคอก

สิงโตนอกคอก

สิงโตนอกคอก

มีคำพูดท่ีพูดกันมานมนานว่าการอ่านหนังสือมีประโยชน์  มันถูกพูดบ่อย
เสียจนบางครั้งผู้เขียนก็ไม่อยากจะพูดอะไรแบบนั้น  และใจหน่ึงก็รู้สึกว่า
การละเล่นหรือการออกไปสมาคมกับเพอื่ นฝงู ก็อาจมีประโยชนไ์ ด้ไม่แพ้กนั  
แต่นานวันเข้า  ยิ่งพบเจอผู้คนหลากหลายประเภท  ก็ย่ิงรู้สึกว่าคนที่
อา่ นหนงั สอื จะมคี วามลกึ ในตวั เองมากกวา่ คนทไ่ี มอ่ า่ นหนงั สอื   กเ็ ลยจำเปน็
ตอ้ งเขา้ ข้างคำพูดเกา่ แก่ทวี่ า่   การอา่ นหนงั สือมันมดี อี ยมู่ ากทเี ดียว

— จิดานนั ท์  เหลืองเพียรสมุท



สิงโตนอกคอก

ร  ว  ม  เ  ร ่ื อ  ง  สั้  น 
ข  อ  ง  น ั ก  เ  ข ี ย  น  ร  า  ง  วั  ล  ย  อ  ด  เ  ย่ี  ย  ม

น  า  ย  อ ิ น  ท  ร ์ อ  ะ  ว  อ  ร ์ ด  แ  ล  ะ 
ร  า  ง  วั  ล  พ  ร  ะ  ย  า  อ  น ุ ม  า  น  ร  า  ช  ธ  น

จิดานันท์  เหลืองเพียรสมุท

เขียน

เรื่องสั้น  ลำดับที่  ๘๙
สิงโตนอกคอก

ในเครือบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง  จำกัด  (มหาชน)
๓๗๘  ถนนชัยพฤกษ์  (บรมราชชนนี)  เขตตลิ่งชัน  กรุงเทพฯ  ๑๐๑๗๐
โทรศัพท์  ๐-๒๔๒๒-๙๙๙๙  ต่อ  ๔๙๖๔,  ๔๙๖๙  โทรสาร  ๐-๒๔๓๔-๓๕๕๕,  ๐-๒๔๓๔-๓๗๗๗,  ๐-๒๔๓๕-๕๑๑๑

E-mail:  [email protected]
สงวนลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้ตามพระราชบัญญัติ  (ฉบับเพิ่มเติม)  พ.ศ. ๒๕๕๘
ห้ามคัดลอกเนื้อหา  ภาพประกอบ  รวมทั้งดัดแปลงเป็นแถบบันทึกเสียง  ตลับวีดิทัศน์

หรือเผยแพร่ด้วยรูปแบบและวิธีการอื่นใดก่อนได้รับอนุญาต
เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ  978-616-18-1910-1
พิมพ์ครั้งแรก  เมษายน  ๒๕๖๐

ขอ้ มูลทางบรรณานกุ รมของศนู ยข์ อ้ มูลอมรนิ ทร์

จดิ านนั ท์  เหลืองเพียรสมทุ .
สิงโตนอกคอก.—  กรุงเทพฯ:  แพรวสำนักพิมพ์  อมรินทร์พริ้นต้ิงแอนด์พับลิชชิ่ง, 
2560.
(12),  229  หนา้ .   (เร่ืองสัน้   ลำดบั ท่ี  89)

1.  เรือ่ งส้นั ไทย.   I.  ชอ่ื เร่ือง.   II.  ชื่อชดุ .

รส  จ6ส6 DDC  895.913
ISBN  978-616-18-1910-1

เจ้าของ  ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา  บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง  จำกัด  (มหาชน) 
กรรมการผู้จัดการใหญ่  ระริน  อุทกะพันธุ์  ปัญจรุ่งโรจน์  •  กรรมการผู้จัดการ  อุษณีย์  วิรัตกพันธ์

ที่ปรึกษาสายงานหนังสือเล่ม  องอาจ  จิระอร  •  รองบรรณาธิการอำนวยการ  จตุพล  บุญพรัด
ผู้ช่วยบรรณาธิการอำนวยการ  สิริกานต์  ผลงาม  •  ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารแบรนด์  ปนัดดา  สุทธิโก

บรรณาธิการบริหาร  ภูริชญา  อสุนี  ณ  อยุธยา
บรรณาธิการ  จตุพล  บุญพรัด  •  ผู้ช่วยบรรณาธิการ  อาทิตย์  ธรรมชาติ  •  เลขานุการ  สุกัญญา  จันทวงศ์

ผู้จัดการฝ่ายศิลปกรรม  พีระพงศ์  โพสินธุ์  •  ศิลปกรรม  กุศล  คงสวัสดิ์
ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการสำนักพิมพ์  ชัชฎา  พรหมเลิศ  •  ซับเอดิเตอร์  จินดารัตน์  ธรรมรงวุทย์,  สุภาวดี  สุขสมัย

พิสูจน์อักษร  พรทิพย์  รักษ์ทอง  •  คอมพิวเตอร์  ศุภิสรา  เล็กเลิศ
ผู้จัดการฝ่ายประสานงานสำนักพิมพ์  อมราลักษณ์  เชยกลิ่น

ประสานงานสำนักพิมพ์  อภิฌาณ์  ลีภัทรพณิชย์,  ขนิษฐา  ศรีอินทร์  •  ประสานงานการผลิต  บรม  คมเวช
เจ้าหน้าที่การตลาดและสื่อสารแบรนด์  กุลพัฒนี  บัวละออ  •  เว็บเอดิเตอร์  สุนันทา  แซ่เฮง
แยกสีและพิมพ์ที่ 
สายธุรกิจโรงพิมพ์  บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง  จำกัด  (มหาชน)
๓๗๖  ถนนชัยพฤกษ์  (บรมราชชนนี)  เขตตลิ่งชัน  กรุงเทพฯ  ๑๐๑๗๐
โทรศัพท์  ๐-๒๔๒๒-๙๐๐๐,  ๐-๒๘๘๒-๑๐๑๐  โทรสาร  ๐-๒๔๓๓-๒๗๔๒,  ๐-๒๔๓๔-๑๓๘๕
จัดจำหน่ายโดย 
บริษัทอมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์  จำกัด 

๑๐๘  หมู่ที่  ๒  ถนนบางกรวย - จงถนอม  ตำบลมหาสวัสดิ์  อำเภอบางกรวย  จังหวัดนนทบุรี  ๑๑๑๓๐
โทรศัพท์  ๐-๒๔๒๓-๙๙๙๙  โทรสาร  ๐-๒๔๔๙-๙๒๒๒,  ๐-๒๔๔๙-๙๕๐๐ - ๖
Homepage:  http://www.naiin.com
ราคา  ๒๕๕  บาท

คำอทุ ิศ
แด่  ทกุ คนท่เี จ็บปวด
แด่  ทุกคนท่ถี ูกไลล่ ่า
แด่  ทกุ คนที่ยน่ื มือเขา้ ชว่ ยเหลอื



ส า ร บั ญ

คำนำสำนักพมิ พ.์ ............................................... (๘)
คำนำผูเ้ ขียน...................................................... (๑๐)

จะขอรบั ผดิ ท้ังหมดแตเ่ พียงผเู้ ดยี ว.................................... ๓
ในโลกท่ีทุกคนอยากเป็นคนดี......................................... ๓๙
โอนถา่ ยความเปน็ มนษุ ย.์ ................................................ ๖๕
รถไฟเท่ียงคนื ................................................................ ๘๕
อดมั กับลิลิธ.................................................................๑ ๐๙
ซินเดอเรลล่าแห่งเมืองหุ่นยนต.์ .....................................๑ ๓๑
กุหลาบย้อมส.ี ..............................................................๑ ๕๑
สมาชิกในหลมุ หลบภยั .................................................๑ ๗๑
สงิ โตนอกคอก.............................................................๑ ๙๗

เกี่ยวกับผู้เขียน................................................. ๒๒๙

คํ า นํ า สํ า นั ก พิ ม พ์

จิดานันท์  เหลืองเพียรสมุท  นักเขียนหญิงรุ่นใหม่ 
มี ชื่ อ เ สี ย ง โ ด ด เ ด่ น ขึ้ น ม า ห ลั ง จ า ก ที่ เ รื่ อ ง สั้ น   “ ซิ น เ ด อ เ ร ล ล่ า
แห่งเมืองหุ่นยนต์”  ของเธอได้รับรางวัลเรื่องสั้นรางวัลดีเด่น 
Young  Thai  Artist  Award  2013  เร่ืองสั้น “สิงโตนอกคอก” 
คว้าเรื่องสั้นชนะเลิศรางวัลพระยาอนุมานราชธน  ในปี  ๒๕๕๗ 
และเร่ืองสั้น “จะขอรับผิดทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว” ก็ได้เร่ืองสั้น
ยอดเยยี่ มรางวลั นายอินทรอ์ ะวอรด์ ประจำปี  ๒๕๕๘
และด้วยความท่ีเป็นนักเขียนใหม่  จิดานันท์เขียนงาน
เร่ืองส้ันไว้ไม่มากนัก  แต่กระนั้น  ๙  เรื่องสั้นใน สิงโตนอกคอก 
เล่มน้ีก็มีรูปแบบเน้ือหาของความเป็นเรื่องส้ันแฟนตาซีที่ชัดเจน 
ทั้งยังเป็นแฟนตาซีที่ให้ภาพสังคมมนุษย์โลกในเชิงเปรียบเทียบ 
ชวนใหน้ กึ ยอ้ นถงึ ระบอบการปกครองของคนในสงั คมบางประเทศ
ท่ีมที ง้ั ความเหมือนและแตกต่าง
มีความเหมือนในแง่ที่ว่า  นักเขียนได้พูดถึงเร่ืองของ
อำนาจหนา้ ท ี่ เรอ่ื งของความรทู้ ไี่ ดจ้ ากหนงั สอื   เรอ่ื งของความเชอ่ื
เรื่องของความรัก  ความศรัทธา  ความกล้าหาญ  และเร่ืองของ
การตั้งคำถามต่อมาตรฐานคุณธรรม  ความดีความเลว  และ
ความรนุ แรงจากสงคราม  ซงึ่ ทง้ั หมดเหลา่ น ี้ นกั เขยี นมวี ธิ ใี นการ

สรา้ งฉาก  ตวั ละคร  สรา้ งสสี นั บรรยากาศเรอื่ งอนั แปลกแตกตา่ ง
ไปจากเรอื่ งสนั้ แนวสจั นยิ มของนกั เขยี นไทยทสี่ ำนกั พมิ พไ์ ดพ้ มิ พ์
ไว้กอ่ นหนา้ นี้ 
เพราะฉะนั้น สิงโตนอกคอก  เล่มน้ีจึงมิเพียงแต่ช่ือเล่ม
ว่า “นอกคอก”  แต่เป็นการนอกคอกออกจากขนบของนักเขียน
และสำนกั พิมพ ์ ดว้ ยหวงั ใหน้ กั อา่ นไดอ้ ่านเรอ่ื งที่แปลกแตกต่าง
ออกไปบ้าง

แพรวสำนกั พมิ พ์

เมษายน  ๒๕๖๐

คํ า นํ า ผู้ เ ขี ย น

ยินดีต้อนรับสู่การจ้องมองความมหัศจรรย์ในกระจกเงา
หนงั สอื เลม่ นจ้ี ะพาคณุ ไปเทย่ี วชมสง่ิ มหศั จรรยใ์ นกระจกเงา
คุณจะได้พบเมืองในดินแดนเหน็บหนาวห่างไกล  โลก
ในอนาคตท่ีคล้ายไม่มีทางมาถึง  อาณาจักรที่ไม่มีใครรู้จัก  และ
ดินแดนท่ีผคู้ นมีชวี ิตแปลกประหลาดตา่ งจากคุณโดยสนิ้ เชงิ
กอ่ นทค่ี ณุ จะฉกี หางตวั๋ เขา้ ชม  เราขอเตอื นวา่   คณุ จำเปน็
ทีจ่ ะต้องระลกึ อยเู่ สมอวา่ กำลังมองผา่ นกระจกเงา — ไม่ใช่ประตู
สิ่งที่คุณเห็นอาจดูพิสดารพันลึก  คล้ายชะโงกมองผ่าน
ประตมู ติ ิไปยังดินแดนพิศวง
แต่ความจริงแล้ว  คุณเพียงแต่ยืนอยู่ตรงหน้ากระจก 
และสิ่งอันพิสดาร  สวยงาม  คดโกง  หรือขมข่ืน  ท่ีคุณได้เห็น 
ทั้งหมดทั้งมวลน่ัน  ก็ไม่ใช่อะไรอื่น  มันเป็นเพียงภาพสะท้อน
ของโลกท่คี ณุ อยู่
มนั เปน็ ภาพสะทอ้ น — บดิ รา่ งไปจากภาพจรงิ เลก็ นอ้ ย  แต่
สาระสำคัญยังครบถ้วน
คุณจะเห็นสังคมและประเทศของคุณในกระจก  ดูคล้าย
บดิ เบี้ยวเหมือนมายาฝัน
แตค่ วามเปน็ จรงิ ก็คือ...

หากกระจกกำลงั สะทอ้ นสง่ิ ดงี าม  ภาพทบี่ ดิ เบย้ี วนนั้ จะยงั
คงดำรงความบรสิ ทุ ธ์ิเอาไวเ้ ฉกเชน่ เดมิ
แตห่ ากกระจกกำลงั สะทอ้ นสงิ่ ชวั่ รา้ ย  ภาพทเ่ี ปน็ มายานนั้
จะยังรกั ษาความอบุ าทวไ์ วอ้ ยา่ งเหนยี วแนน่
และคณุ จงอยา่ ลืม
ว่าคณุ ยืนอยตู่ อ่ หน้ากระจก
และกระจก
กส็ ะทอ้ นภาพของคุณเอง...เสมอ
จงมองไปในภาพมายาฝนั   และมองหา...แววตาของตวั เอง
ท่สี บกลับมา
คณุ เปน็ ใครในเร่อื งเหล่าน้ี
ผูไ้ ลล่ า่   ผูถ้ ูกไล่ลา่   หรือผู้ชว่ ยเหลือ
ผู้เจ็บปวด  สับสน  หรือผู้เมตตา  ย่ืนมือปลอบประโลม
คณุ เลือกได.้ ..คณุ จะเป็นใคร

จดิ านันท์  เหลืองเพยี รสมทุ

เมษายน  ๒๕๖๐



สงิ โตนอกคอก

ร  ว  ม  เ  ร ่ื อ  ง  ส้ั  น 
ข  อ  ง  น ั ก  เ  ข ี ย  น  ร  า  ง  ว ั ล  ย  อ  ด  เ  ยี่  ย  ม

น  า  ย  อิ  น  ท  ร ์ อ  ะ  ว  อ  ร ์ ด
แ  ล  ะ  ร  า  ง  ว ั ล  พ  ร  ะ  ย  า  อ  น ุ ม  า  น  ร  า  ช  ธ  น

จดิ านันท์  เหลอื งเพยี รสมทุ



จะขอรับผิดท้งั หมดแต่เพยี งผ้เู ดยี ว
เรอ่ื งสน้ั ยอดเย่ียมรางวัลนายอินทรอ์ ะวอรด์   ประจำป ี ๒๕๕๘

หากมีส่ิงเดียว ท่ีเขาจะกล่าวโทษได้  เขาจะกล่าวโทษความ

เหนบ็ หนาว
แต่มอเดร็ดรู้ดีว่าเขาไม่อาจโทษความเหน็บหนาวได้  ความ

เหน็บหนาวเป็นเพียงธรรมชาติอันใสซื่อท่ีโลกมอบให้กับมนุษย์
เป็นของขวัญ  เธอแวะมาเยี่ยมเยียนปีละคร้ังด้วยความคิดถึง 
หวังจะได้รับการต้อนรับฉันมิตร  โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเธอได้พา
ความเจ็บปวดโหดร้ายทารุณมาสู่เจ้าบ้านมากมายเพียงใด  ความ
ใสซ่ือและสวยงามบริสุทธิ์ของหิมะแรกในฤดูหนาวเป็นส่ิงท่ีไม่อาจ
มีใครสาปส่ง  แม้ทุกคนจะรู้ดีว่าหลังจากน้ี  สิ่งที่ตามมาจะทารุณ
โหดรา้ ยเกนิ ทานรบั

ตอนน้ันเบธราฟา  ลูกชายของเขาอายุห้าขวบ  มันเป็นปีที่
ฤดหู นาวเหย้ี มโหดเลอื ดเยน็ ยง่ิ กวา่ ทกุ ป ี มนั ตามมาหลงั ฤดไู ถหวา่ น
ทแี่ หง้ แลง้ จนพชื ผลแทบไมอ่ อกดอกและฤดเู กบ็ เกยี่ วทแี่ มแ้ ตย่ งุ้ ฉาง
ยังว่างเปล่า  การมาของมันอาจเปรียบได้กับคนขับรถม้าอำมหิต
ที่มาพร้อมแส้ยาวตวัดฟาดลงบนหลังพวกเขา  ซ่ึงตามมาหลังการ

จิดานนั ท ์ เหลืองเพียรสมุท 3

ควบผ่านของอาชาสีดำทะมึนตัวใหญ่ที่เพ่ิงเหยียบผ่านไปและทำให้
กระดกู สนั หลงั ของพวกเขาแหลกเปน็ ชน้ิ  ๆ  ไมน่ านอาหารทสี่ ำรองไว้
กห็ มด  ฟนื ทส่ี ำรองสำหรบั ฤดหู นาวกไ็ มม่ เี หลอื   ชาวเมอื งเรม่ิ คดิ ถงึ
ป่าสนท่ีอยู่ห่างจากเมืองไปแค่สิบสองกิโลเมตรหรือน้อยกว่าน้ัน 
ในสายตาของพวกเขา  ท่ีนั่นไม่ใช่ป่า  แต่คือความอบอุ่นของคน
ท้ังเมืองตลอดฤดูหนาว  แต่กำแพงเมืองสูงหลายเมตรกั้นพวกเขา
ออกจากโลกภายนอก  และข้างนอกน่ัน  หิมะท่วมสูงเป็นเมตร 
ลมพัดแรงจนเพียงแค่สายลมเฉย ๆ ก็ฆ่าคนได้  ทุกคนต่างก็รับรู้
ความจริงข้อน้ีจากการได้ยินเสียงลมฟาดเข้าท่ีกำแพงหินตลอดเวลา 
มันเหมือนมังกรวายุที่กำลังพยายามกัดกร่อนกำแพง  หวังจะพัง
มันลงเพ่ือเข้ามาฆ่าพวกเขา  และความหวังของพวกเขาก็มีแค่ว่า 
กำแพงหินท่ีบรรพบุรุษสร้างขึ้นจะแข็งแรงพอที่จะปกป้องลูกหลาน
จากเจา้ มังกรคลง่ั ท่ีมองไม่เหน็ ตวั นน้ั

หมาป่าสีเงินเห่าหอนอยู่ในป่า  พวกมันบางตัวจำศีล  แต่
ความแห้งแล้งที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงทำให้หลายตัว
สะสมอาหารไว้ไม่มากพอท่ีจะจำศีลได้  ดังน้ันความหิวจึงบังคับมัน
ให้ต่ืน  ตระเวนไปมาในป่าและรอบกำแพงเมือง  รอโอกาสที่จะได้
ฆ่ามนษุ ย์ทีห่ ลงออกมาสักคนหนึ่ง

เมื่อการเดินทางออกไปนอกกำแพงสูงอาจหมายถึงความตาย 
พวกเขาจึงปิดประตูเมืองแน่น  ไม่ให้ใครเข้าและออกจากเมือง 
กลางฤดหู นาวแบบน ้ี พวกเขาไมต่ อ้ นรบั อาคนั ตกุ ะประเภทใดทง้ั สน้ิ  
เพราะการเพม่ิ ประชากรในเมอื งยอ่ มหมายถงึ จำนวนอาหารทนี่ อ้ ยลง

ทุกอย่างท่ีกินได้และกินไม่ได้ถูกนำมากิน  ทุกอย่างท่ีเป็นไม้
ถูกเผา  เราไม่ต้องใช้โต๊ะไม้ท่ีสืบทอดมาต้ังแต่สมัยยายทวดหรอก 

4 สงิ โตนอกคอก

ถ้าเราแขง็ ตายพรุง่ นี้  รา้ นอาหารไมต่ อ้ งมีปา้ ยชอ่ื รา้ นหรอก  อยา่ งไร
เสียก็ไม่มีอาหารเหลือให้ขายอีกแล้ว  พวกเขากัดกินเศษขนมปัง
เหลือ ๆ  พลางเสาะหาไมท้ ่ีจะนำมาเป็นฟืนไดอ้ กี

ถ้าเลาะคานบ้านออกมาเผาแล้วบ้านยังคงรูปทรงได ้ พวกเขา
คงทำไปแล้ว

ในที่สุดไม้ช้ินสุดท้ายในเมืองก็มอดไหม้ลง  ในวันเดียวกับ
ที่พวกเขาล้มม้าตัวสุดท้ายเพื่อแบ่งเนื้อกันอย่างกระเบียดกระเสียร
ที่สุด  ยังต้องผ่านอีกหน่ึงเดือนความหนาวจึงจะจบสิ้น  พวกเขา
ตกลงกันว่าจะกินหมาและแมว  แต่บางบ้านสารภาพออกมาว่าตน
กินหมาและแมวไปต้ังแต่เดอื นที่แลว้

“ด้วยม้า  เรายังอยู่ได้ไปอีกอาทิตย์หน่ึง  และหลังจากนั้น 
ถ้าทุกคนกินสัตว์เล้ียงของตัวเองไปแล้วจริง ๆ”  มอเดร็ดพูดกับ
ทุกคน  “ฉนั จะออกไปล่าหมาป่าขา้ งนอก”

ทุกคนมองหน้ากัน  จำนวนอาหารที่แต่ละคนได้รับในช่วง
สองสามเดือนท่ีผ่านมาน้ันน้อยจนแค่ยืนก็แข้งขาสั่น  แค่ยืนก็ยาก
แลว้   แคต่ อ่ สกู้ บั ความเหนบ็ หนาวภายในนกี้ จ็ ะตายแลว้   ไมต่ อ้ งพดู
ถึงการออกล่าและต่อสู้กับหมาป่าท่ามกลางความเหน็บหนาว
นอกกำแพง

“เราไม่มีทางเลือก  และเนื้อช้ินใหญ่ก็อยู่หน้าประตูเมืองนี่เอง 
กำลังตะกุยตะกายพยายามจะเข้ามา  ฉันก็หิว  มันก็หิว  ฉันยังพอ
ยิงธนูได้อยู่  ถ้าฉันยิงโดน  อย่างน้อยพวกเราก็มีอะไรกิน  และถ้า
ฉันพลาด  อย่างน้อยพวกมันก็มีอะไรกิน”  มอเดร็ดขยับรอยย้ิม
อย่างเศร้า ๆ  เขาเป็นเจ้าเมืองมาหลายปีแล้ว  ร่างเขาสูงแต่ไม่ใหญ่ 
แขนขายาว  กระดกู แขง็ และพอมกี ลา้ มเนอ้ื   ไมใ่ ชเ่ รอื นรา่ งของนกั รบ 

จิดานันท ์ เหลืองเพยี รสมทุ 5

แตเ่ ปน็ รา่ งกายของผทู้ ผี่ า่ นฤดหู นาวอนั โหดรา้ ยมาหลายปี  บาดแผล
หิมะกัดยังปรากฏอยู่บนแก้มซ้ายของเขา  ยืนยันว่าเขาเคยออก
นอกกำแพงเมืองในฤดพู ายหุ มิ ะมาแล้วอยา่ งน้อย ๆ ก็หนงึ่ ครง้ั

ชาวเมอื งตา่ งมองหนา้ กนั   ทกุ คนรวู้ า่ มอเดรด็ พดู ถกู   พวกเขา
เริ่มจากหมูและไก่  ต่อมาก็นกที่แข็งตาย  ม้า  และจากน้ันก็ต้อง
เปน็ หมา  ถา้ หากมนั ยงั มหี มาเหลอื อย ู่ แตพ่ วกเขาคดิ วา่ คงไมม่ หี มา
เหลืออยู่อีกแล้วละ  ใครจะไปทนไหวถ้าหิวขนาดน้ันแล้วมีเน้ือสด ๆ 
เดินอยู่ในบ้าน  ขนาดหนู  ทกุ คนยงั จับกนิ ไปหมดแล้วเลย

พวกเขาลม้ มา้ ตวั สดุ ทา้ ยแลว้   อาทติ ยห์ นา้   พวกเขาคงตอ้ งกนิ
เจ้าอสรู ร้ายทอ่ี ยนู่ อกกำแพงนัน่

เด็กชายผมสีน้ำผึ้งยืนอยู่ข้างมอเดร็ดขณะที่ทุกคนกำลัง
ถกเร่ืองน้ีกัน  ชาวเมืองยืนล้อมรอบศพม้าสีดำตัวโต  พ่อค้าหมู
ที่เช่ียวชาญท่ีสุดในเมืองถูกเลือกให้เป็นผู้ห่ันม้า  ทุกส่วนท่ีใช้ได้
จะถูกนำมากิน  และทุกส่วนท่ีปกติแล้วใช้ไม่ได้ก็จะถูกนำมากิน
เชน่ กนั   เดก็ ชายจอ้ งมองมา้ สดี ำตวั นนั้   และเงยหนา้ ขน้ึ มองมอเดรด็  
มีความคล้ายคลึงบางประการระหว่างม้าดำตัวน้ีและมอเดร็ด  หน่ึง 
มีขนสีดำ  สอง  มันไม่ได้มีเน้ือมากนัก  และ - สาม - ล้วนแต่เป็น
ผู้กรำศึก  ม้าตัวนี้เป็นม้าศึกท่ีว่ิงได้ไกลที่สุด  ตลอดหลายเดือน
ที่ผ่านมา  ทุกคนไม่ยอมล้มมันเพราะความเสียดาย  แต่ไม่มีใคร
เหลอื ความเสยี ดายอกี แลว้ เมอื่ มนั เปน็ สตั วต์ วั สดุ ทา้ ยทกี่ นิ ไดใ้ นเมอื ง
แหง่ น้ี

เด็กชายมองม้าและเจ้าเมืองสลับกันไปมา  ทันใดน้ันเขาก็
สงั เกตเหน็ ความคลา้ ยคลึงขอ้ ท่สี ่ี 

ท้ังสองต่างกก็ ำลงั จะตาย

6 สิงโตนอกคอก

“พ่อ”  เด็กชายกระตุกชายเส้ือโค้ตรุ่งริ่งสีดำของมอเดร็ด 
“ถ้าพอ่ ตายแล้วผมจะอยกู่ บั ใครล่ะ”

มอเดรด็ กม้ ลงมองเบธราฟา  ลกู ชายวยั หา้ ขวบของเขา  เดก็ ชาย
เพง่ิ เสยี มารดาใหก้ บั ฤดหู นาวปกี อ่ น  และยงั ไมพ่ รอ้ มเสยี ใครอกี ครงั้  
แต่เจ้าเมืองไม่อาจปลอบลูกว่าตนจะไม่ตาย  เขาช้ีไปในหมู่ชาวเมือง 
และบอกวา่   “อยูก่ ับทกุ คนไง”

เดก็ ชายกม้ หนา้   กำชายเสอื้ ของพอ่ แนน่   เขาไมช่ อบคำตอบน้ี
“เอาเถอะ  แบ่งม้าให้เท่ากันทุกคน”  มอเดร็ดพูด  “เราเหลือ
ก่ีคนตอนน”้ี
จำนวนประชากรในเมอื งลดลงเรอ่ื ย ๆ ตลอดฤดหู นาว  สาเหตุ
เป็นเพราะการตาย  และเม่ือฤดูหนาวจบลง  ประชากรก็จะลดลง
เพราะการย้ายออกจากเมือง  หลายคนท่ีรอดชีวิตมาได้จะอพยพ
ออกจากเมอื งกอ่ นทีจ่ ะไม่รอดอีกในปีหน้า
โดยปกติแล้วจำนวนประชากรต่ำสุดจะอยู่ท่ีราวสองร้อยคน 
หลายครอบครัวตั้งรกรากอยู่ท่ีน่ีมาตั้งแต่รุ่นปู่ทวด  อยู่มานาน
เกินกว่าจะย้ายหนีไปไหน  ฤดูหนาวเอาคนไป  และฤดูผสมพันธุ์
ก็พาผ้คู นกลบั มา  สองร้อยคือเลขต่ำสดุ   ปกตจิ ะไม่ต่ำลงไปกว่านน้ั
“แปดสิบส่ี”  นายทะเบียนประจำเมืองเอ่ยช้า ๆ  มอเดร็ด
พยักหน้า  ตอนท่ีล้มม้าตัวก่อนหน้าน้ี  ตัวเลขอยู่ที่ร้อยกว่า ๆ ถึง
เกา้ สิบกวา่  ๆ
“แปดสิบสาม”  สามีภรรยาคู่หนึ่งเอ่ยข้ึนช้า ๆ  “ทาเทียน่า
ลกู สาวเราตายเมอื่ เชา้ ”
มอเดร็ดพยักหน้าแสดงความเสียใจ  คำว่าเสียใจด้วยถูกเอ่ย
บ่อยเกนิ ไปจนทกุ คนเกลียดมันและเลิกใชม้ นั ไปแลว้  

จดิ านนั ท ์ เหลืองเพยี รสมุท 7

“ได้โปรดฝังเธอซะ”  เจ้าเมืองขอร้อง  และสามีภรรยาก็มอง
ตอบกลบั

“แน่นอน  เราจะทำ”  พวกเขาพูดอย่างโกรธเคือง  “เราไม่มี
ทางทำเรอื่ ง...ไรค้ วามเป็นมนุษย์แบบน้นั ”

มอเดรด็ พยกั หนา้ อกี   เขาไมม่ ที างรหู้ รอกวา่ ทาเทยี นา่ จะถกู ฝงั
จริงหรือไม่  มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการกินศพคนในครอบครัว
ของตัวเอง  เพื่อนบ้านบางคนถึงข้ันไปเคาะประตูขอแบ่งเน้ือเม่ือ
ได้ข่าวว่าบ้านข้าง ๆ มีใครบางคนตาย  บางคร้ังเน้ือก็ถูกหยิบย่ืนให้
ด้วยใจอารี  แต่บางคร้ังก็ถูกตวาดกลับพร้อมคำตอบว่าได้ฝัง
ลกู เดก็ เล็กแดงหรอื คนชรานัน้ ไปแลว้

ท้ังท่ีไม่มีใครเห็นร่างน้ันถูกหามออกไปจากบ้านเลยแม้แต่
คนเดียว

หลายคนก็ไม่ได้เอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่พอจะแบ่งเน้ือของยายเฒ่า
ในบา้ นตนใหค้ นอืน่ ในภาวะแรน้ แค้นเชน่ นี้ 

ทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องจริง  แต่ไม่นำขึ้นมาพูดกันในที่แจ้ง 
ทุกคนยังมีความเป็นมนุษย์พอที่ปากของพวกเขาจะละอายหาก
ต้องพูดเรื่องการกินเนื้อแม่ตัวเอง  แต่ปากเหล่าน้ันไม่ละอายท่ีกลืน
ช้ินเนื้อเข้าไป  ปากของมนุษย์กินได้ทุกอย่าง  แต่ไม่อาจพูดได้
ทกุ เรอ่ื ง

มอเดร็ดยินยอมให้เร่ืองเหล่าน้ีเกิดข้ึนในท่ีมืดต่อไป  เพราะ
เขารู้ว่าเขาไม่อาจห้ามความหิวโหยได้  ส่ิงเดียวที่เขาพอจะทำได้
เพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็นมนุษย์ของชาวเมืองคือ  ยังไม่ส่ังให้นำศพ
ออกมาหน่ั แบ่งกันเหมอื นทท่ี กุ คนกำลังหนั่ แบง่ มา้ อยู่ในขณะน้ี

ถา้ ทำอยา่ งน้นั   สุดท้ายทุกคนคงฆา่ กนั เพื่อหาอะไรกนิ

8 สงิ โตนอกคอก

“ปัญหาเรื่องเน้ือไม่หนักหนาเท่าเรื่องฟืน”  มอเดร็ดพูด 
ละประโยคหน่ึงไว้ในใจ  ตราบใดท่ีมันยังหนาวมากพอจะฆ่าคน
ให้ตาย  คนในเมอื งก็จะยงั มีเนือ้ มาเพม่ิ อยู่เสมอ

แต่ตอนนี้พวกเขาไม่เหลือไม้ท่ีจะนำมาใช้เป็นฟืนได้อีกแล้ว 
ยกเว้น...

หวั ใจของทกุ คนคดิ ถงึ สงิ่ เดยี ว  สงิ่ ทไ่ี มม่ ใี ครแตะตอ้ งมาตลอด
หลายสิบปีแม้ว่าพายุหิมะจะทารุณสักเพียงใด  แต่ปีนี้ความหนาว
โหดร้ายย่งิ กว่าปีไหน ๆ ในศตวรรษทผี่ ่านมา 

บาทหลวงตายไปต้ังแต่ต้นฤดูหนาว  และศาสนาก็เลือนหาย
ไปจากใจของผู้คนเรียบร้อยต้ังแต่ลมหนาวระลอกแรกปาดคอ
สมาชิกในครอบครัวของพวกเขาและพาดวงวิญญาณไปโดยไม่ลืม
กระซิบคำสญั ญาวา่   ปนี ้ีจะโหดรา้ ยยงิ่ กวา่ ทกุ ปีท่ีผา่ นมา

ไม้ทุกช้ินในโบสถ์ก็มอดไหม้ไปเรียบร้อยแล้ว  พวกเขาแสดง
ความเคารพครั้งสุดท้ายต่อกางเขนไม้ขนาดใหญ่ของโบสถ์  สัญญา
ว่าพอฤดูร้อนมาถึงจะไปตัดไม้ในป่ามาสร้างกางเขนใหม่ให้  จากนั้น
ก็ช่วยกันแบกมันออกไปในวันคริสต์มาส  ทุกคนล้อมวงกัน
รอบกองไฟทอี่ บอนุ่ นน้ั   บางคนทเ่ี ครง่ ศาสนาทสี่ ดุ ปฏเิ สธการปนั สว่ น
ไม้ช้ินนี้  แต่เม่ือปีใหม่ผ่านไปคนเหล่านั้นก็ต้องก้มหน้ายอมรับว่า
ชวี ิตของคนมีคา่ พอจะรบั เปลวไฟท่พี ระเจ้ามอบให้

ทุกคนรู้ดีว่าไม่มีไม้ใดเหลืออยู่ในโบสถ์อีกแล้ว  แต่พวกเขา
ไม่ได้กำลังคิดถึงช้ินไม้ในโบสถ์  ทุกคนกำลังคิดถึงหอสมุดของ
โบสถ์...

มันเป็นห้องสมุดที่รวบรวมตำราหายากเอาไว้จำนวนมาก 
แปดสิบปีก่อน  บาทหลวงคนหนึ่งเดินทางมาปักหลักอยู่ที่น่ี  งาน

จิดานันท ์ เหลอื งเพียรสมทุ 9

ตลอดชีวิตของเขาคือการศึกษาภูมิปัญญาแห่งมนุษย์  เขารวบรวม
เอกสารหายากหลายอย่างมาตลอดชีวิตและตัดสินใจจะมาใช้ชีวิต
บนั้ ปลายอยา่ งสงบทเี่ มอื งอนั หา่ งไกลและเหนบ็ หนาวแหง่ น ้ี ระหวา่ ง
ทเี่ ขาประจำอยทู่ นี่  ี่ เขายงั คงรวบรวมหนงั สอื ตอ่ ไป  จนกระทงั่ สนิ้ ลม
ในเมอื งแหง่ นแ้ี ละไดร้ บั การขนานนามเปน็ นกั บญุ   จากผลงานของเขา 
ห้องสมุดของโบสถ์กลายเป็นที่รวมหนังสือหายาก  แม้จำนวนของ
หนงั สอื จะไมม่ ากนกั   แตค่ วามรภู้ ายในนนั้ อยรู่ ะดบั เดยี วกบั หอสมดุ
แห่งอะเล็กซานเดรีย  หนังสือหลายเล่มมีความรู้ท่ีถูกสืบทอดมา
ต้ังแต่ครั้งบรรพชน  ตำราลึกลับ  ศาสตร์ท้ังมืดและสว่าง  และ
ภาพร่างวิทยาการอัจฉริยะของดา  วินชี  บางเล่มเป็นคำสอนฉบับที่
เขียนด้วยมือของนักบุญผู้เคยติดตามพระเยซู  และไม่อาจจะหา
เลม่ ใดมาทดแทนไดอ้ ีกแล้ว

ทุกคนในเมืองช่วยกันลากหนังสือเหล่าน้ันลงจากชั้นหนังสือ
เมื่อสองเดือนก่อนเพื่อเอาช้ันหนังสือท้ังหมดไปทำฟืน  ในตอนน้ัน
สิ่งท่ีลากลงจากชั้นมากองอยู่บนพ้ืนหินของโบสถ์มีฐานะเป็นตำรา
ล้ำค่าหายากที่ต้องระมัดระวังอย่างย่ิง  ตอนน้ันในหัวของพวกเขา
เตม็ ไปดว้ ยความคดิ ของผสู้ งู สง่   เชน่   ‘เราจะไมแ่ ตะตอ้ งมนั เดด็ ขาด
แมล้ มหนาวจะเชอื ดคอพวกเราจนหมดทกุ คนกต็ าม’  ‘มนั คอื สมบตั ิ
ของประชากรโลก’  ‘มันคือส่ิงท่ีบรรพชนของพวกเรายอมหนาวตาย
โดยไมแ่ ตะตอ้ ง  เพอ่ื สง่ ตอ่ มาจนถงึ ทกุ วนั นี้  เราจะไมท่ ำลายเกยี รติ
ของบรรพชน’

วนั เวลาผา่ นไปและไมท้ กุ ชน้ิ กม็ อดไหม ้ ตอนนหี้ นงั สอื พวกนน้ั
ยังกองอยู่บนพ้ืน  และส่งิ ท่ที กุ คนเห็นก็ไมใ่ ชห่ นงั สอื   แต่คอื ฟืน

อันท่ีจริงแล้วพวกเขาจะพยายามรักษามันไว้เพื่อมนุษยชาติ

10 สิงโตนอกคอก

ทำไม  คนในโลกภายนอกไม่ไดส้ นใจเสียหน่อย  คนส่วนใหญไ่ มไ่ ด้
ให้ความสำคัญกับหนังสือพวกน้ีหรอก  มองให้ดี ๆ แล้ว  มันคือ
ฟืนที่ปู่ย่าตายายของพวกเขายังไม่หนาวและจนตรอกพอท่ีจะเผาท้ิง 
เพราะฤดูหนาวในอดีตไม่ได้โหดร้ายเช่นนี้  มันคือไพ่ตายท่ีปู่ย่า
ทิ้งไว้ให้  เพื่อให้ใช้ในยามท่ีความหนาวราวนรกเช่นนี้คืบคลานมาถึง 
และวนั น้ีมันมาถึงแล้ว  นี่จงึ ไม่ใช่หนงั สอื   มันคือฟนื ...

คอื ฟืน  คอื ความอบอุ่น  คอื ชีวิตของแม่และลกู น้อย
ทุกคนคิดเช่นนั้นแต่ไม่มีใครกล้าพูด  พวกเขาไม่กล้าพอจะ
บอกว่า  เราต้องการเผาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษให้เห้ียนเพื่อจะได้
ใช้ชวี ิตของคนโงต่ ่อไปในวนั พรุ่งนี้
เขาทั้งหลายไม่กล้ากล่าวส่ิงท่ีอาจทำให้ถูกรุมประณาม  ความ
นับถือในความรู้ของพวกเขาสูงส่งยิ่งจนสามารถกินเนื้อแม่ตัวเองได้ 
แต่เผาหนงั สือพวกน้นั ไมไ่ ด้
พวกเขาจึงรอ...รอใหม้ อเดรด็ พูดออกมากอ่ น
พวกเขารวู้ า่ มอเดรด็ จะตอ้ งพดู   ไมม่ ที างอน่ื สำหรบั เมอื งแหง่ น้ี
อีกแล้ว  และในฐานะของเจ้าเมือง  มอเดร็ดย่อมไม่อาจแลกชีวิต
ของพลเมอื งกับ หนงั สือ
มอเดร็ดมองตาผู้ท่ีอยู่ใต้การปกครองทีละคน  และกล่าวช้า ๆ
“เราคงต้องเผาหนังสือของโบสถ”์
ทุกคนท่ีได้ยินถ้อยคำนั้นไชโยโห่ร้องในใจเมื่อสิ่งน้ีถูกอนุญาต
ในท่ีสุด  มันหมายถึงราตรีท่ีอบอุ่นเพ่ิมขึ้นอีกหลายคืน  แต่ใน
ฉากหนา้ นนั้   ทกุ คนนงิ่ เงยี บ  กม้ หนา้ ราวกบั วา่ นค่ี อื สงิ่ ทท่ี ม่ิ ตำจติ ใจ
ของพวกเขานัก  ในฐานะปัญญาชน  มันช่างเจ็บปวดที่เราจะเผา
สมุดบันทกึ ที่ไม่มใี ครอา่ นออกของดา  วนิ ชี

จดิ านนั ท ์ เหลืองเพียรสมุท 11

มอเดร็ดมองทุกคนท่ีก้มหน้า  เขาคิดว่าคนใต้การปกครอง
ของเขาทุกคนคงไม่อยากทำส่ิงน้ี  และคงกำลังนึกตำหนิมอเดร็ด
อยู่ในใจที่ออกคำส่ังน้ี  เจ้าเมืองหนุ่มรู้สึกราวกับเขาเป็นคนบาป 
คนไร้อารยธรรมจากป่าที่ไม่รู้คุณค่าของกระดาษที่สลักหมึกและ
สลกั ปญั ญาเหลา่ นนั้   แตล่ มหายใจมคี า่ มากกวา่ ความร ู้ เขาตอ้ งยอม
เป็นคนบาปเพ่ือความอยู่รอดของทุกคน  เขาคิดอย่างเจ้าเมืองท่ีดี 
แต่พลนั กระแสความคิดหนง่ึ กแ็ ลน่ เข้าปะทะ

ลมหายใจของมนษุ ยผ์ ตู้ ำ่ ตอ้ ยมคี า่ มากกวา่ ความรขู้ องบรรพชน
จริง ๆ นะ่ หรอื

แต่เขาก็สลัดความคิดนั้นท้ิงไป  จะเป็นอย่างไรหากเขาไม่เผา
หนังสือและปล่อยให้ทุกคนในเมืองตายด้วยความหนาวเหน็บ  แล้ว
พอฤดูร้อนมาถึง  พ่อค้าท่ีเดินทางมากับคาราวานก็พบว่าพวกเขา
ทกุ คนตายแลว้   ทง้ั ทม่ี ีเชอื้ เพลงิ อยา่ งดกี องเต็มห้องสมดุ

โลกใบนี้จะมองว่าพวกเขาเป็นผู้เสียสละสูงส่ง  หรือจะมองว่า
พวกเขาเปน็ คนโง่

มอเดร็ดถามตัวเอง
แลว้ หากเขาเผามนั   โลกใบนจี้ ะเขา้ ใจความจำเปน็ ของเขา  หรอื
คดิ วา่ เขาเปน็ คนโง่ทีเ่ ผาบันทกึ ฉบับแท้ของยูดาสผู้ทรยศทิ้ง
อยา่ งไรเสยี เขากท็ ำไดแ้ คอ่ ยอู่ ยา่ งคนโงห่ รอื ไมก่ ต็ ายอยา่ งคนโง่
เจ้าเมืองไม่อาจแลกชีวิตของคนในเมอื งกับสิ่งใด
“ฉนั รวู้ า่ ทกุ คนเสยี ใจ”  มอเดรด็ กลา่ ว  ดวงใจของเขาปวดรา้ ว 
หัวใจของชาวเมืองเริงระบำรอฟัง  “แต่เราต้องเผาหนังสือของโบสถ์
ภายในสัปดาห์น้ี”

12 สิงโตนอกคอก

เปลวไฟเต้นสลับไปมาบนหนังสือท่ีกองสุมกัน  มันผลัดกัน
แลบลิ้นเลียคำสารภาพก่อนถูกประหารของโสกราตีส  หัวเราะเยาะ
บทกวที บ่ี รรยายความกลา้ หาญของเฮกเตอรแ์ ละอะคลิ ลสิ   มนั กลนื กนิ
บทวเิ คราะหท์ ฤษฎที างคณติ ศาสตรข์ องพที าโกรสั   และไหมม้ ติ รภาพ
ของอารสิ โตเตลิ ใหแ้ หลกเปน็ ผยุ ผง  มอเดรด็ มองสสี ม้   นำ้ เงนิ   และ
แดงของไฟโดยไม่จ้องไปทางอื่นมาหน่ึงช่ัวโมงแล้ว  เขารู้สึกว่ามัน
แผดเผาจิตใจของเขา  มันเป็นเพียงกองไฟท่ีไม่ใหญ่  แต่ในสายตา
ของเขา  มนั สูงเสียดฟา้ และกำลงั เผาวิหารแหง่ พาร์เธนอน

ทกุ คนลอ้ มวงกนั แนน่ รอบกองไฟนน้ั   มนั เปน็ กองไฟกองใหญ่
กว่าคร้ังใดท่ีเคยมีมาในรอบหนึ่งเดือนน้ี  พวกเขาผิงมือ  สูด
ลมหายใจเอาความอบอุ่นเข้าไปในตัว  ความเสียดายหนังสือเกิดขึ้น
ผสมผสานกับความยินดีที่ตนจะมีชีวิตในความอบอุ่นเช่นน้ีไปได้
อีกนาน  มีหนังสือมากพอให้เผาจนถึงสิ้นฤดูหนาว  ทุกคนรู้สึก
ปลอดภัย

ช่างอบอุ่นอะไรเช่นนี้  มอเดร็ดคิด  อบอุ่นจนน่าจะไม่มีใคร
ตายในยามกลางคืนอีก

น่ันหมายความว่าเน้ือจะลดลง  เจ้าเมืองจ้องมองแสงไฟ 
เบธราฟาน้อยนัง่ อยู่บนตักเขา  น่ิงคล้ายหลับไป

มอเดร็ดกำมือของตัวเอง  พลางถามมันโดยยังไม่ละสายตา
จากเปลวไฟ

นี่มือเอ๋ย  เจ้ายังมีแรงมากพอจะล่าหมาป่าได้ไหม  มีท้อง
มากมายที่นายของเจ้าต้องหาเลี้ยงนะ  คนในเมืองทุกคนต้องการ
เน้ือหมาป่า  และหนังของมันก็จะช่วยให้พวกคนแก่อุ่นในยาม
ค่ำคืน

จดิ านนั ท ์ เหลืองเพียรสมทุ 13

เบธราฟาเงยหน้าข้ึนมองบิดาของตน  ก่อนจะเอ่ยข้ึนอย่าง
ไร้เดยี งสา

“พ่อร้องไหท้ ำไม”
มอเดร็ดยังไม่ละสายตาจากซากท่ีเผาไหม้ของกรุงโรมทั้งเมือง 
เขารู้สึกถึงน้ำตาท่ีไหลอาบแก้มของตน  เขาเอ่ยกับเบธราฟาโดยยัง
ไมล่ ะสายตาจากปกทไ่ี หมข้ องบทละครเรอื่ ง เมฆ ซง่ึ เปน็ เครอ่ื งยนื ยนั
วา่ โสกราตีสไม่ไดเ้ ป็นเพียงตวั ละครของเพลโต
“พอ่ คงแคจ่ อ้ งมองไฟนานเกินไปนะ่ ลูกรกั ”

แล้วฤดูหนาวก็ผ่านพ้นไปพร้อมข้อพิสูจน์ว่าไม่มีอะไรที่มนุษย์
ผู้หิวและหนาวจะทำไม่ได้  มอเดร็ดกับคนหนุ่มอีกส่ีห้าคนในเมือง
ล่าหมาป่าไปสามตัวหลังจากเน้ือม้าหมด  แล้วในท่ีสุดฤดูหนาวก็
เสร็จสิ้นการมาเยือนอันโหดร้าย  พระอาทิตย์ละลายหิมะ  กระรอก
ตัวแรกออกจากโพรงไม้มายังคาคบ  มอเดร็ดมองมันพลางสงสัย
วา่ มนั เป็นตวั สุดท้ายทเ่ี หลอื รอดหรือเปลา่

ความหนาวเหน็บนั้นตราอยู่ในใจของผู้คน  ทุกคนเปล่ียนไป 
ต่างถูกสลักด้วยบาดแผลลึกกว่าฤดูหนาวครั้งใดที่เคยผ่านมา 
พวกเขายังระลึกถึงคนที่ตายจากไป  ถึงเน้ือที่พวกเขาล้ิมรส  ความ
หิวโหย  หนาวเหน็บ  และสูญเสียยังคงไล่หลอกหลอนพวกเขา
ในยามราตรี  มอเดร็ดเองก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน  เขากินน้อย
เหมือนนก  เตรียมร่างกายให้เคยชินกับความอดอยากท่ีอาจมาถึง
อกี ครัง้ ในปหี น้า 

ผา่ นไปเดอื นกว่า ๆ  หลงั ฤดูหนาวจบสิ้นลง  คณะนกั บวชของ
ศาสนจักรเดนิ ทางออกจากวาติกันอีกคร้ัง  พวกเขามาถึงประตเู มอื ง

14 สงิ โตนอกคอก

และตรงไปยังโบสถ์เพื่อจะพบว่า  ชาวเมืองที่ไว้ใจให้ดูแลรักษา
หนังสอื หายากได้เผาทกุ อย่างเป็นจุณไปหมดแล้ว

“พวกแกมันคนป่าโง่งม  ไม่เข้าใจความสำคัญของหนังสือ
พวกน้ีสินะ”  หัวหน้าคณะนักบวชตะโกนใส่หน้ามอเดร็ดจนน้ำลาย
กระเด็นเต็มหน้าเขา  ชุดสีแดงเลือดหมูของพระคาร์ดินัลสะบัดอยู่
ด้านหลัง  “ต้นฉบับของแท้จากสมัยเดียวกับพระเยซู  ไม่สามารถ
เรียกคืนได้อีก  เราไว้ใจให้พวกแกดูแลมันเพราะท่านนักบุญ
มรณภาพท่ีน่ี  และท่านไม่อยากให้ย้ายหนังสือของท่านไปไหน 
แล้วพวกแกก็เผามัน  พวกโง่  มีแต่คนโง่กับเผด็จการเท่าน้ันที่เผา
หนังสือ  พวกแกทำลายขุมปญั ญาของมนุษยชาติ”

มอเดรด็ นงิ่ เงยี บ  รสู้ กึ เหมอื นกอ้ นหนิ ถว่ งหนกั อยใู่ นหวั ใจ  เขา
ไม่สามารถโต้ตอบไดแ้ มแ้ ตค่ ำเดียว

ในสายตาของคนจากโบสถท์ ม่ี คี วามรมู้ าก  เขาคงเหมอื นคนโง่
ท่ีใช้ชีวิตเป็นพรานป่าล่าสัตว์  คิดด้วยกล้ามเน้ือต้นแขนไม่ใช่สมอง 
แต่ความจริงชายหนุ่มอ่านหนังสือพวกนั้นมากกว่านักบวชเหล่าน้ี
เสยี อกี   นกั บวชจากวาตกิ นั ออกเดนิ ทางสง่ั สอนตามเมอื งตา่ ง ๆ ทกุ ปี
หลังจากจบฤดูหนาว  พวกเขาแวะมาเทศนาชาวเมืองและมาศึกษา
ตำราท่ีน่ีปีละครั้ง  แต่มอเดร็ดโตในเมืองนี้  โตมากับห้องสมุดนั้น 
เขาว่ิงเล่นในโบสถ์  พลิกอ่านหนังสือบนช้ันมาตั้งแต่ยังเด็ก  ทุกคน
ในเมืองก็เช่นกัน  คนในเมืองน้ีรู้คุณค่าของส่ิงที่พวกเขาเคย
ปกปกั รกั ษาดียิง่ กว่าพระคาร์ดินลั ท่ีกำลงั ตะโกนใสห่ น้าเขาอยตู่ อนนี้
มากนัก  พวกเขารู้อย่างดีจนคิดว่าการเผาหนังสือเลวร้ายกว่า
การกนิ เนือ้ แมข่ องตัวเอง

แต่พวกเขาก็รู้จักฤดูหนาวดีเช่นกัน  กล้าพูดได้เลยว่าพวกเขา

จิดานนั ท ์ เหลืองเพยี รสมุท 15

รู้จักแม่สาวน้อยผู้โหดเห้ียมคนน้ันดีกว่าคณะนักบวชที่อยู่อย่าง
อนุ่ สบายในวาตกิ ันอยา่ งแนน่ อน

ถ้าตาแก่พวกน้ีอยู่ท่ีน่ี  ก็คงจะเผาห้องสมุดต้ังแต่อาทิตย์แรก 
ต่อให้น่ันคือหอสมุดอะเล็กซานเดรียก็ตามทีเถอะ  ตาแก่หมูตอนนี่
มหี น้าอะไรมาดา่ ว่าเขา

มอเดร็ดคิดเช่นน้ันแล้วจ้องหน้าพระคาร์ดินัลด้วยแววตา
กา้ วรา้ ว  แตช่ าวเมอื งรสู้ กึ อบั อาย  ตอ่ หนา้ คนใหญค่ นโตจากตา่ งแดน 
พวกเขารู้สึกอับอายท่ีได้ทำตัวราวกับบาวาเรียนป่าเถื่อน  เมืองนี้
อาจหา่ งไกลและเหนบ็ หนาว  แตท่ กุ คนกไ็ ดร้ บั การสอนมาอยา่ งดแี ละ
เปน็ ผมู้ กี ารศกึ ษา  เหตทุ เ่ี ปน็ เชน่ นเี้ พราะชาวเมอื งภมู ใิ จกบั หอ้ งสมดุ
แห่งน้ัน  —  ห้องสมุดที่มีความสำคัญจนผู้สร้างได้รับการยกย่องให้
เป็นนักบุญ  ความภูมิใจของคนในเมืองจะกำหนดวิถีชีวิตของเมือง 
ยกตัวอย่างเช่น  หากสัญลักษณ์ของเมืองคือเหล้าองุ่น  เด็กทุกคน
ในเมืองจะเติบโตข้ึนในไร่องุ่นและมีคอแข็งราวกับทองแดง  สำหรับ
ท่ีน่ี  สัญลักษณ์ของเมืองคือความเหน็บหนาวและหนังสือหายาก 
ทุกคนจึงสั่งสอนลูกของตนให้ทนทายาดต่อหิมะร้ายและเห็นค่าของ
หมึกบนกระดาษ  ในฐานะผู้มีการศึกษา  ความอับอายที่เผาหนังสือ
อาจเปน็ ความอบั อายสูงสุด 

เพื่อจะลดทอนความอับอายน้ัน  พวกเขาช้ีมือมาที่มอเดร็ด 
แล้วบอกว่า  “เป็นคำสัง่ ของเขา”

มอเดร็ดรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกหอกแหลมยาวทิ่มแทงทะลุ
ร่างกายจากทุกทาง  สายตาของผู้มาเยือนและการชี้มือราวชี้ตัว
คนร้ายโดยเพื่อนพ้องของเขาเองแปรสภาพเป็นด่ังอาวุธ  เจ้าเมือง
แทบจะลม้ ทงั้ ยนื   เขาเหน็ เบธราฟาในฝงู ชน  ชายหนมุ่ รวู้ า่ เหตกุ ารณ์

16 สิงโตนอกคอก

นี้จะทำให้ลูกชายเกิดความสงสัยในตัวเขา  ทำลายความเช่ือม่ัน
ทลี่ ูกมีต่อเขา  แต่เขาจะทำอยา่ งไรไดเ้ ล่า

มอเดร็ดเงยหน้ารับความขมข่ืน  เขาเอ่ยว่า  “เราต้องแลก
หนังสือกับชีวิตคน  หรือพระเจ้าของท่านจะให้เราตายกันหมดเพ่ือ
รกั ษาหนงั สือพวกน้ันไว”้

“พระเจ้าทรงมีเมตตา  ท่านจะรักษาท้ังหนังสือและชีวิตคน” 
นกั บวชตอบ

“มาอยู่ที่น่ีในฤดูหนาวสิ  อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าพวกท่านได้
สัมผัสลมหนาวของที่นี่  พวกท่านจะยังพูดเรื่องพระเจ้ามีเมตตา
อยู่ไหม”  มอเดร็ดตะโกนกลับ  และนั่นคือการมาเยือนครั้งสุดท้าย
ของศาสนจกั รสเู่ มอื งเลก็  ๆ แหง่ น ี้ พวกนกั บวชประกาศวา่   ในปหี นา้
พวกเขาจะตัดเมอื งนี้ออกจากเส้นทางแสวงบุญ 

มอเดร็ดไม่คิดว่านั่นจะเป็นปัญหา  เขารู้ว่าตัวเองจะสามารถ
ปกครองเมืองต่อไปได้แม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากศาสนจักร 
เพราะท่ีผ่านมา  ทางวาติกันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากอยู่แล้ว  คำสอน
กินไม่ได้ไม่ช่วยอะไรกลางพายุหิมะ  และตอนท่ีพวกเขาต้องการ
ความช่วยเหลือจากพระเจ้ามากที่สุดอย่างเช่นเมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมา 
พระองค์และลุงแก่พวกนั้นต่างก็สุขสบายอยู่ในวาติกันท่ีหรูหรา
ราวกบั วงั

แม้เจ้าเมืองจะคิดเช่นน้ัน  แต่การมาเยือนของศาสนจักร
ได้สร้างรอยแผลเล็ก ๆ ขึ้นในเมือง  มันเป็นรอยแผลเล็ก ๆ ท่ีไม่นาน
กล็ กุ ลามกินลกึ ถึงกระดกู   เหวอะหวะไปทัง้ แขน

หากมีส่ิงเดียวที่เขาจะกล่าวโทษได้  เขาจะกล่าวโทษความ
เหน็บหนาว  แต่มอเดร็ดรู้ดีว่าเขาไม่อาจโทษความเหน็บหนาวได้ 

จดิ านนั ท ์ เหลืองเพยี รสมทุ 17

เขาคงโทษไดเ้ พยี งแคต่ ัวเขาเองเท่านน้ั

ความรสู้ กึ เจบ็ ปวดของชาวเมอื งทพ่ี วกเขาเผาหนงั สอื ในหอ้ งสมดุ
ทำใหพ้ วกเขาตงั้ คำถามตอ่ เจา้ เมอื ง  ‘ทำไมมอเดรด็ ถงึ ออกคำสง่ั นนั้ ’ 
พวกเขากระซิบถามกันราวกับลืมไปแล้วว่า  หากวันน้ันมอเดร็ด
ยืนยันที่จะไม่เผาหนังสือ  วันนี้ก็จะไม่มีใครยังมีลมหายใจเลย
แมแ้ ตค่ นเดยี ว

“จะทำยังไงให้เร่ืองนี้จบลง”  แอชเชอร์  สหายสนิทผู้ร่วมล่า
หมาปา่ กบั มอเดรด็ ถามเขา 

“ไม่ต้องทำอะไร  ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าวันน้ันถ้าเราไม่เผา
หนังสือเราก็คงตายไปแล้ว  ทุกคนรู้ว่าลมหายใจของพวกเขาใน
วันน้ีแลกมาด้วยความรู้ส่วนหนึ่งของมนุษยชาติ  ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า 
เท่าน้ันก็พอ”  เจ้าเมืองตอบ  แววตาดำด้านนิ่งเฉยราวไม่รู้สึกอะไร 
ทงั้ ท่ใี นหัวใจคนั จนกลายเปน็ ความเจบ็ ปวด 

“แกไม่ทำอะไรไม่ได้หรอก  ชาวเมืองรู้ดี  ใช่  แต่พวกเขา
ไม่ต้องการคำตอบนั้น  พวกเขาไม่ต้องการคำตอบว่าเราทุกคน
เป็นคนเลวเพื่อรักษาชีวิต”  แอชเชอร์จับไหล่มอเดร็ด  “สังคม
ต้องการโทษใครสักคน  เพื่อนเอ๋ย  แกกำลังจะกลายเป็นเหย่ือ
ของพวกเขา”

“ระวังนะมอเดร็ด”  แอชเชอร์เตือนอีกคร้ัง  “แกเป็นคนเดียว
ในเมอื งท่ไี ม่ไดเ้ สียใครในครอบครวั ไประหว่างฤดูหนาวของปนี ี”้

“ฉันเพิ่งเสยี เมียไปปีกอ่ น  ฉันไมเ่ หลือใครใหเ้ สยี แลว้   นัน่ คอื
เหตุผลท่ฉี นั ไม่เสยี ใคร”  มอเดร็ดประทว้ ง

แอชเชอร์เข้าใจเรื่องนี้ดี  แต่เขาไม่ได้หมายถึงสิ่งนั้น  เพ่ือน

18 สงิ โตนอกคอก

บีบไหลม่ อเดรด็   เอย่ เสียงหนัก  “มนั หมายความว่าแกเปน็ คนเดยี ว
ท่ยี งั ไมเ่ คยกินศพ”

มอเดร็ดรู้สึกว่าลูกตาของเขาเต้นตุบ  น่ีเป็นคร้ังแรกที่มีคน
เอาเรื่องน้ีมาพูดกับเขาทั้งที่ยังสว่าง  อาจเพราะเขาเป็นคนขอให้ฝัง
ทุกศพท่ีตายไป  ทุกคนจึงคิดว่าเขาต่อต้านเรื่องน้ี  และหลีกเล่ียง
ท่ีจะเอ่ยถงึ มนั ตอ่ หนา้ เขา

แต่ความจริงก็คือ  ดูเหมือนจะไม่มีใครถูกฝังโดยยังไม่ถูก
ชำแหละเลย

ส่ิงที่เขาเห็นว่าอยู่ในความมืด  มันสว่างสำหรับทุกคน  ทุกคน
แค่ปกปิดมนั จากเขา

“ทุกคนรู้สึกแย่กับเร่ืองน้ี  และความผิดบาปในใจจะทำให้
พวกเขาโกรธแกท่ียังไม่เคยทำ  ความโกรธและความเกลียดชัง
จะผลกั แกใหก้ ลายเปน็ คนนอก”

มอเดรด็ กลืนนำ้ ลาย
“ฉันสงสัยอย่างหนึ่งมานานแล้วมอเดร็ด”  ดวงตาสีฟ้าสดของ
แอชเชอร์สบดวงตาเขา  “ถา้ เบธราฟาตาย  แกจะกินเขาไหม”
“ไม”่   มอเดร็ดเอย่ ในทันที
แอชเชอร์ยิ้ม  “น่ันอาจเป็นคำพูดแบบเดียวกับคำพูดของ
พระคารด์ ินัลท่ไี ม่เผาหนังสือก็ได้นะ”
สิ่งท่ีแอชเชอร์เตือนเป็นจริงในเวลาต่อมา  ทุกคนมารวมตัว
กันท่ีอาคารใหญ่กลางหมู่บ้านในอีกไม่ก่ีวันถัดมา  มันเป็นอาคาร
เดียวกับท่ีพวกเขาเคยรวมตัวกันเพ่ือเชือดเน้ือม้า  คราวน้ีพวกเขา
มารวมกันเพื่อให้มอเดร็ดแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งท่ีเกิดขึ้น
กบั หอ้ งสมุดของโบสถ์

จดิ านันท ์ เหลอื งเพยี รสมทุ 19

เพราะนนั่ คอื การตัดสนิ ใจของมอเดรด็   ทุกคนอา้ ง
“แล้วถ้าวันน้ันฉันตัดสินใจอย่างอื่น  จะมีใครหน้าไหนยังยืน
อยู่ที่นบ่ี า้ ง”  เจา้ เมอื งถาม  อุม้ เบธราฟาไว้แนบอก
ทกุ คนเขา้ ใจเรอื่ งนน้ั ด ี แตบ่ างอยา่ งสะกดิ อยใู่ นใจของพวกเขา 
มนั คอื รอยแผล  มอเดรด็ เองกร็  ู้ เขากม็ รี อยแผลแบบนน้ั เชน่ เดยี วกนั  
พวกเขาไม่มีวันลืมหรอกว่าพวกเขาได้แลกปัญญาทรงคุณค่าเพ่ือ
ต่อลมหายใจอนั โง่เซอะของตนเอง
จะทำอย่างไรจึงจะกลบเรื่องน้ีให้หายลงไปในดินได้เหมือนกับ
ศพท่ีถูกชำแหละเล่า  ในเมื่อห้องสมุดเป็นส่ิงที่ย่ิงใหญ่กว่าชีวิตผู้คน
หลายเท่านัก
“เราจะลืมทุกอย่างเสีย”  มอเดร็ดตัดสินใจ  “เดิมชาวเมือง
ของเราสอนลูกหลานสองส่ิง  ส่ิงแรกคือการเอาตัวรอดในฤดูหนาว 
และสิ่งที่สองคือความสำคัญของหนังสือ  ต่อจากน้ีจะเหลือเพียง
อย่างเดียว  ในเมื่อตอนนี้ไม่มีหนังสือเหลืออยู่ในเมืองน้ีอีกต่อไป 
เราก็จงลืมเร่ืองหนังสือเสีย  จะไม่มีลูกหลานของเราคนใดสนใจ
หนงั สอื   จงสอนเดก็  ๆ ของพวกเราใหเ้ ปน็ เชน่ นนั้   ชาวเมอื งรนุ่ ตอ่ ไป
จะไมเ่ สียใจกับความสญู เสีย  พวกเรากไ็ มเ่ สียใจ”
“โลกภายนอกไมค่ ดิ อย่างเราแน่”  ชาวเมืองคนหน่ึงตอบ
“เราเคยตดิ ตอ่ กบั โลกภายนอกดว้ ยหรอื ”  มอเดรด็ เงยหนา้ ขน้ึ
สบตาทุกคน  “โลกภายนอกอยู่ท่ีไหนในยามท่ีหิมะเข่นฆ่าพวกเรา
ทีละคนอย่างโหดเหี้ยม  เราไม่เคยได้รับอะไรจากโลกภายนอกและ
ไม่เคยให้อะไรกับพวกเขา  เราไม่ต้องสนใจพวกเขา  คนในเมือง
ของเราไม่เสียดายหนังสือพวกนั้น  โลกภายนอกจะคิดยังไงก็ช่าง”
“คนรุ่นเรารู้ว่าหนังสือพวกน้ันมีค่าแค่ไหน  เราหลอกตัวเอง

20 สิงโตนอกคอก

ไม่ไดห้ รอก  ท่านเจา้ เมอื ง”  อีกคนเถยี ง
“เราหลอกตัวเองไม่ได้  แต่เราหลอกลูกหลานของเราได้  เรา

สง่ั สอนพวกเขาให้เป็นอยา่ งทีเ่ ราตอ้ งการได ้ และเมื่อคนรุ่นตอ่  ๆ ไป
ไม่เห็นค่าของหนังสือ  พวกเขาก็จะไม่ต้องเจ็บปวดกับการสูญเสีย
ห้องสมุด  และพวกเขาจะไม่ตำหนิพวกเราที่เผาหนังสือในห้องสมุด
น้ันทิ้งไป  เพราะเขาไม่เหน็ คณุ คา่ ของมนั ”

“น่ีกะจะวางยาลูกหลานของตัวเองเลยหรือ”  ชายชราคนหน่ึง
ถามผู้นำหน่มุ

มอเดรด็ มองตาชายคนนนั้   “จะทำแบบนนั้   หรอื พวกเราทกุ คน
จะปลอ่ ยมนั ไวแ้ บบน ี้ ใหต้ วั เองรสู้ กึ ผดิ กบั สงิ่ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในฤดหู นาวนี้
ตลอดกาล”

มอเดร็ดมองหน้าทุกคน  ยามท่ีเขาพูดถึง ‘ส่ิงท่ีเกิดข้ึนใน
ฤดูหนาวนี้’  เขาไม่ได้หมายถึงเพียงแค่หนังสือ  แต่เขาหมายถึง 
‘เนอ้ื ’ ดว้ ย  และทุกคนก็รเู้ รื่องนน้ั ดี

“กลบมันลงดินไปซะ  เหมือนกับศพท่ีถูกหั่น”  มอเดร็ดพูด
และทำให้ทุกคนสะดุ้ง  สะดุ้งเพราะในท่ีสุดคนท่ีอยู่ห่างจากเร่ืองน้ี
ท่ีสุดก็พูดคำน้ีขึ้นมากลางแสงตะวัน  “เพ่ือเราจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด
แบบน ี้ เราจะลมื ทุกอย่าง”

“ฉันรู้  ทุกคนคิดว่าฉันเป็นคนนอก  แต่ไม่ใช่  ฉันคือเพื่อน
ร่วมมาตุภูมิของทุกคนในที่น้ี”  มอเดร็ดตัดสินใจไม่ลำเลิกบุญคุณ
เรื่องท่ีเขาเป็นคนทำให้ทุกคนยังมีชีวิตรอดมาได้  “และฉันจะพิสูจน์
ให้ได้เห็น  ขอให้ยอมรับฉัน  และขออย่าให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดข้ึน
อกี ”

พูดจบเขาก็วางเบธราฟาลงบนโตะ๊   ดงึ มีดออกมาจากฝัก  เขา

จดิ านนั ท ์ เหลอื งเพยี รสมุท 21

ถอดกางเกงของเดก็ ชายออก  กลนั้ หายใจ  แลว้ ลงมดี หน่ั เนอ้ื สะโพก
ลูกชายตวั เอง

ศพนั้นเงียบงันเสมอเม่ือถูกมีด  แต่เบธราฟาร้องโหยหวน
ดังสะท้อนไปทั่วกำแพงเมืองทง้ั สี่ทศิ

การหั่นศพเป็นความลับเสมอ  แต่เบธราฟาถูกเชือดต่อหน้า
ธารกำนัล

ทุกคนเจ็บปวดท่ีหั่นเนื้อครอบครัว  แต่ไม่มีใครห่ันเนื้อนั้น
ทัง้ ทยี่ งั เปน็  ๆ 

ผู้เป็นพ่อมือสั่น  แต่ได้เนื้อช้ินขนาดพอดีคำช้ินหน่ึงมาอยู่
ในมือในท่ีสุด  มอเดร็ดเอาเนื้อชุ่มเลือดของลูกใส่ปาก  เคี้ยวกิน 
นำ้ ตาไหลลงมาอาบหนา้   เขากลนื มนั   เบธราฟามองเขาอยา่ งไมเ่ ขา้ ใจ

“พ่อขอโทษ”  มอเดร็ดเอ่ย  น้ำตาไหลเป็นทางอยู่บนแก้ม 
หวั ใจเหมอื นถูกบีบจนแหลกสลาย

เขาตอ้ งทำ  ไมเ่ ช่นน้ันในท่ีสุดเขากับลูกคงถูกไล่ออกจากเมือง
ต้ังแต่วันนั้น  ผู้คนในเมืองไม่มีปัญหากับมอเดร็ดอีกเลย 
อย่างไรเสียเขาก็เป็นเจ้าเมืองที่ดี  หากคนอื่นเป็นผู้ดูแลเมือง  คง
ไม่มีใครเหลือรอดในเมืองนี้หลังฤดูหนาวที่โหดร้ายน่ัน  ทุกคน
ยอมรับความคิดของมอเดร็ดที่จะกลบฝังเร่ืองห้องสมุดให้หายไป
เสยี   แลว้ ตนเองจะไดไ้ มต่ อ้ งเจบ็ ปวดอกี ตอ่ ไป  เพอื่ ลบความรสู้ กึ นน้ั  
ทกุ คนพรอ้ มใจกันลมื ...
แต่ต้ังแต่วันน้นั เบธราฟาก็ไม่เคยเปดิ ใจใหม้ อเดรด็ อีกเลย

สิบห้าปีต่อมา  มอเดร็ดกลายเป็นชายวัยกลางคนที่ภูมิฐาน 
ผมสีขาวแซมดำบางหย่อมก่อนเวลา  แต่ไม่แปลก  เมื่อเทียบกับ

22 สิงโตนอกคอก

ทุกส่ิงท่ีเขาผ่านมา  เขายังคงเป็นเจ้าเมืองผู้พาทุกคนในเมือง
ฝ่าฤดูหนาวครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ไม่เคยมีฤดูหนาวคร้ังใดท่ีโหดร้าย
เทา่ กบั ฤดหู นาวปีนน้ั ...

เมืองเปล่ียนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด  พลเมืองรุ่นต่อมาไม่ได้
ถูกเลี้ยงให้มีความรู้ท่ีซับซ้อน  เด็ก ๆ ว่ิงเล่นตามท้องทุ่งนอกกำแพง
เมอื งอยา่ งอสิ ระในหนา้ รอ้ น  และเมอ่ื พอ่ คา้ คาราวานผา่ นมา  พวกเขา
กว็ ิง่ ตาม

“มขี องเล่นกับหนังสอื นทิ าน”  พอ่ ค้าเสนอกบั เด็ก
“เอาของเลน่ ”
“ของเลน่ ”
“ขอตุก๊ ตา”
เดก็  ๆ ส่งเสียงรอ้ งกันเซ็งแซ่
“เฮ้  นีไ่ ม่มใี ครชอบอ่านหนังสือเลยรึ”  พ่อค้าถาม
“พอ่ บอกวา่ อา่ นหนงั สอื เสยี เวลา  ทำไรด่ กี วา่   หรอื ไมก่ อ็ อกไป
ว่งิ ให้รา่ งกายแขง็ แรง”  เด็กชายผิวคลำ้ แดดตอบ
“คนท่ีแข็งแรงท่ีสุดในเมืองจะออกไปสู้กับหมาป่าในฤดูหนาว 
ชว่ ยใหท้ กุ คนมเี น้อื กนิ   มชี วี ติ รอด”
“เทม่ ากเลยละ”  พวกเด็ก ๆ แยง่ กันเลา่
“อืม  ในท่ีที่ลำบากแบบนี้  อะไรก็คงสำคัญกว่าการอ่านออก
เขียนได้ท้ังน้ันละนะ”  พ่อค้าเข้าใจสภาพของเมือง  เขาลูบหัวเด็ก ๆ 
แล้วบอกวา่   “พวกเธอก็อยากออกไปลา่ หมาปา่ สนิ ะ”
“ใช ่ เหมอื นคณุ ลงุ เจ้าเมอื ง”  เด็กชายตอบ
“คุณลุงเจ้าเมืองฆ่าหมาป่าแปดตัวด้วยตัวคนเดียวได้นะ” 
เดก็ หญงิ คนหนง่ึ เล่า

จดิ านนั ท ์ เหลอื งเพยี รสมุท 23

“พ่อบอกว่าคุณลุงเจ้าเมืองเกลียดหนังสือ  เลยให้เผาหมด
ตง้ั แตส่ มยั ก่อนแล้ว”

“เอ”๋   พอ่ คา้ คาราวานรอ้ งอยา่ งแปลกใจ  แตเ่ ดก็  ๆ ไมไ่ ดอ้ ธบิ าย
อะไรมากไปกวา่ นั้น  พวกเขารแู้ ค่เทา่ ทไี่ ดร้ ับการบอกเลา่ ใหร้ ู้

ใช ่ ความคิดของคนในเมอื งเปน็ เชน่ นน้ั ไปหมดแลว้   พวกเขา
เลือกจะลืมตามท่ีมอเดร็ดขอร้อง  แต่พวกเขาไม่ได้ลืมมันไป
จนหมดสิ้น  พวกเขายังจดจำได้ว่าสมบัติของเมืองถูกทำลาย  ทว่า
พวกเขาหลงลมื เหตุผลทแ่ี ทจ้ รงิ และสร้างเหตผุ ลใหมข่ ึน้ มาแทน

มนั งา่ ยเหลอื เกนิ ทจ่ี ะลมื เรอ่ื งทบี่ อกวา่ ตวั เองเปน็ คนบาป  แลว้
จำเรอ่ื งทมี่ ใี ครสกั คนรบั ผดิ แทนตนเอง  สง่ิ ทที่ กุ คนในเมอื งเลอื กจำไว้
และบอกต่อกับลูกหลานคือ  มอเดร็ดเป็นคนเกลียดหนังสือ  เขา
จึงส่ังทำลายห้องสมุดประจำเมือง  และทุกคนก็ต้องทำตามคำส่ัง
ของเขา  การเผาหนังสือหายากทั้งหมดเป็นความผิดของมอเดร็ด
แตเ่ พยี งผเู้ ดยี ว  และในวนั น ้ี ทค่ี นในเมอื งโงแ่ ละงา่ ยตอ่ การปกครอง 
ก็เปน็ ผลประโยชน์ของเจา้ เมอื ง  เป็นสง่ิ ทเ่ี จ้าเมืองตั้งใจใหเ้ กดิ

ทกุ สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทน่ี ต่ี ง้ั แตฤ่ ดหู นาวเมอ่ื สบิ หา้ ปที ผ่ี า่ นมา  มอเดรด็
เปน็ ผรู้ บั ผดิ แตเ่ พยี งผเู้ ดยี วทงั้ หมด  ชายหนมุ่ ไมโ่ ตเ้ ถยี งตอ่ ความผดิ
ที่ถูกผลักลงมา  ในฐานะเจ้าเมือง  เขาคิดว่าเขาต้องเงยหน้ารับส่ิงนี้ 
ตราบใดที่ทุกคนในเมืองยังรอดชีวิตมาได้  ไม่ว่าเขาจะถูกมองว่า
เป็นอะไร  เขาก็ตัดสินใจจะไม่ได้ยิน  ทุกฤดูหนาวท่ีหมาป่าถูกล่า
เนื้อ  รอยแผลหิมะกัดบนใบหน้าของเขาย่ิงเพิ่มจำนวน  ลุกลามไป
ทั่วใบหน้าคร่ึงซ้าย  เหมือนตราบาปที่ถูกประทับลง  บางทีคนที่
ประทบั ตราบาปใหม้ อเดรด็ อาจไมใ่ ชฤ่ ดหู นาว  แตค่ อื บรรดาชาวเมอื ง
ตา่ งหาก  บรรดาพอ่ แมท่ เ่ี ลา่ ใหล้ กู  ๆ ฟงั ถงึ เจา้ เมอื งในฐานะผปู้ กครอง

24 สิงโตนอกคอก

ทชี่ วั่ รา้ ยและผทู้ ำลายสมบตั ติ กทอดของเมอื ง  ไดต้ รารอยบาปลงบน
ชอื่ ของมอเดร็ด  คืนแลว้ คนื เลา่ ผ่านนิทานก่อนนอน...

ชายสองคนวงิ่ ออกมาจากประตเู มอื งเมอื่ คาราวานผา่ นมา  เขา
ทักทายพ่อค้าและถามว่า  “มขี องมามั้ย”

“มี”  พ่อค้าตอบ  จูงม้าของตนเดินห่างออกจากกลุ่มเด็ก ๆ มา 
ทง้ิ เดก็  ๆ ในเมอื งใหร้ มุ อยกู่ บั พอ่ คา้ คนอนื่  ๆ ในคาราวาน  พากนั คยุ้ หา
ของเล่นในเกวียน

เม่ือออกมาห่างมากพอ  พ่อค้าก็ล้วงเข้าไปในย่ามข้างตัวม้า 
หยบิ หอ่ กระดาษสนี ำ้ ตาลอมเทาสง่ ให ้ ชายสองคนนน้ั ยน่ื เหรยี ญทอง
เป็นคา่ ตอบแทน

“มันเป็นของต้องห้ามเหรอ  ท่ีน่ีน่ะ  เด็ก ๆ เพิ่งบอกฉันว่า
เขาเผาทิ้งหมด”  พอ่ คา้ ถาม

ชายสองคนนั้นพยักหน้า  “ไม่ขนาดนั้นหรอก  แต่ไม่มีใคร
เหน็ มนั ในเมอื งมาสบิ หา้ ปแี ลว้   ดงั นนั้ เราจงึ ไมแ่ นใ่ จในสถานะของมนั
และตอ้ งแอบซ่อน”

“เจา้ เมืองที่นีเ่ ปน็ ยังไง”  พอ่ ค้าช้ีหัวน้ิวโป้งเขา้ ไปในเมือง
“ถ้าไม่มีเขาเมืองน้ีก็ล่มไปหลายปีแล้ว  แต่ว่า...”  ชายคนหนึ่ง
ยักไหล่  เขาไมพ่ ดู อะไรตอ่
พ่อคา้ พยักหนา้
ชายสองคนน้ันเดินกลับเข้าไปในเมือง  พวกเขาซุกห่อหนังสือ
ไวใ้ นเสอ้ื คลมุ   และเดินอย่างระแวดระวงั
ไมม่ กี ารประกาศวา่ หนงั สอื เปน็ ของตอ้ งหา้ ม  มนั แคเ่ ปน็ ของที่
ไมม่ ใี นเมอื งมานานแลว้   จนพวกเขาไมแ่ นใ่ จทจี่ ะอา่ นมนั แบบเปดิ เผย
ในช่วงสี่ห้าปีหลังมานี้  คนในเมืองทั้งหนุ่มและแก่จำนวนหนึ่ง

จดิ านันท ์ เหลืองเพยี รสมุท 25

รวมตัวกันอย่างลับ ๆ  พวกเขารวมตัวกันหลังจากมีชายชราคนหนึ่ง
ซอื้ หนงั สอื มาจากพอ่ คา้ คาราวาน  ชายคนนนั้ นำหนงั สอื มาใหล้ กู ชายดู
และลูกชายท่ีไม่เคยเห็นหนังสือมาก่อนก็รู้สึกแปลกใจ  ชายหนุ่ม
ผู้เป็นลูกตื่นเต้นกับ “หนังสือ”  เขาหลงใหลวิธีการท่ีมันบอกเล่า
เรื่องราวต่าง ๆ  และสามารถกระทบใจมนุษย ์ พ่อลูกคู่น้ีซ้ือหนังสือ
เพ่ิมข้ึนทลี ะนอ้ ยโดยฝากให้พวกพอ่ ค้าคาราวานหาของมาให ้ พ่อคา้
พวกนี้เดินทางเร่ร่อนจากเมืองสู่เมืองและจะผ่านมาที่เมืองน้ีทุก  ๆ 
สห่ี า้ เดอื น

สองพ่อลูกรวบรวมหนังสือจากพ่อค้าและแอบทำห้องสมุด
เล็ก ๆ ไว้ในบ้าน  เวลาผ่านไปไม่นานก็เร่ิมมีคนมาขอดูหนังสือ  เม่ือ
มีคนมาท่ีห้องสมุดน้ีมากข้ึน ๆ  มันก็กลายเป็นสมาคมลับท่ีผู้คน
มาพบปะพดู คยุ กนั

ระหว่างการพบปะในห้องสมุด  มีการถกกันถึงการปกครอง
ของมอเดร็ด  พวกเขาเห็นว่ามอเดร็ดเริ่มแก่ตัวลงแล้ว  เขาขึ้นเป็น
เจ้าเมืองต้ังแต่อายุยี่สิบสอง  นั่นเป็นเรื่องปกติของเมืองน้ี  ที่นี่
ต้องการเจ้าเมืองท่ีหนุ่มแน่นเพื่อต่อสู้กับสงครามซึ่งวนมาถึงอย่าง
แน่นอนในทุกปี — สงครามกบั ความหนาวเย็น

ด้วยวัยสี่สิบห้า  พวกเขาถกเถียงกันว่ามอเดร็ดแก่เกินไป
สำหรบั ตำแหนง่ นหี้ รอื ยงั   ถงึ เวลาหรอื ยงั ทเ่ี มอื งจะเปลย่ี นผปู้ กครอง
คนใหม่  พวกเขายังพูดกันถึงบาดแผลท่ีติดตัวมอเดร็ดเร่ืองการ
ทำลายหอ้ งสมดุ ของโบสถ ์ บาดแผลทไี่ มม่ ใี ครพดู ถงึ ในทแี่ จง้ มานาน
แลว้   แตท่ กุ คนก็รู้ดอี ยูแ่ ก่ใจ  เลา่ ทวนซ้ำในท่ีลบั ...

“เปน็ ไปไดไ้ หมทเ่ี ราจะสรา้ งหอ้ งสมดุ ขน้ึ มาในเมอื งอกี ครง้ั หนง่ึ ” 
พวกเขาหารอื กัน

26 สิงโตนอกคอก

“ไม่รู้ส ิ หลายคนพดู กันวา่ มอเดรด็ เกลียดหนังสือ  เราไม่ควร
ขัดใจเขาด้วย  เพราะถา้ ไมม่ เี ขา  ใครจะล่าหมาป่าในฤดหู นาว”

“พดู ตามตรง  การปกครองของมอเดรด็ เกา่ ไปแลว้ สำหรบั ยคุ น ี้
เมอื งควรจะถกู ปกครองดว้ ยคนรนุ่ ใหม่  ปญั ญาชน  มนั ตอ้ งมวี ธิ อี น่ื
ท่ีจะเอาชนะความหนาวเย็นได้”  เด็กหนุ่มคนหน่ึงพูดขึ้น  เขาเพ่ิง
เคยอ่านหนังสือไปสิบกว่าเล่ม  และตื่นเต้นกับสิ่งที่ตนค้นพบ  เขา
คิดว่าคนในเมืองไม่มีใครเคยอ่านหนังสือมาก่อนเลย  เพราะเขา
ไมเ่ คยเหน็ หอ้ งสมดุ ของโบสถ์  ไมเ่ คยเขา้ ใจความหมายทแี่ ทจ้ รงิ ของ
คำวา่  “หอ้ งสมดุ ” เสยี ดว้ ยซำ้   บวกกบั เลอื ดของวยั หนมุ่ อนั ไรเ้ ดยี งสา 
เขาจึงคดิ ว่าตวั เองฉลาดท่สี ุดในเมอื ง

คนชราในท่ีประชุมนั้นส่ายหน้า  “ปัญญาชน  แกน่ะหรือ
ปัญญาชน  แกคงไม่รู้สินะว่าความหนาวคือศัตรูโบราณ  ภูมิปัญญา
ที่เก่าแก่ของบรรพบุรุษเท่าน้ันที่จะเอาชนะมันได้  น่ันคือสาเหตุท่ี
เราควรทำตามประเพณีที่สืบทอดกันมา  และแกจะบอกว่ามอเดร็ด
โง่ง้ันรึ  แกไม่รู้สินะว่าเขาเคยอ่านงานเขียนของเพลโตทุกเล่ม  เขา
ฉลาด...กว่าแก”

เด็กหนุ่มกัดริมฝีปาก  “แต่ทุกคนบอกว่ามอเดร็ดเป็นคนเลว”
“คนในเมืองบอกว่ามอเดร็ดเป็นคนเลว  น่ันเพราะพวกเขา
พยายามปกปดิ ความจริงบางอย่าง”  ชายชราเอย่
“ความจริงอะไรล่ะ”  เดก็ น้อยต้งั คำถามตอ่ ผูช้ รา
คราวนี้ผู้ตอบเงียบและอึกอัก  คนชราในท่ีนั้นมองหน้ากัน
ก่อนจะบอกวา่   “มันเป็นเรอ่ื งทไ่ี มม่ ีใครอยากพดู ถึง”
“และคงเป็นเพราะไม่พูดถึง  ทุกอย่างจึงกลายเป็นแบบนี้ 
พวกเราพยายามสร้างอย่างอื่นมาปิดทับมัน  พยายามลืม  แล้ว

จิดานันท ์ เหลืองเพยี รสมทุ 27

สุดท้ายมันเป็นยังไง  มอเดร็ดกลายเป็นคนร้าย  กลายเป็นคนนอก
ท่ีปกครองพวกเราทุกคนในเมือง”  แอชเชอร์พูดขึ้นจากมุมห้อง 
พลางยกถ้วยชาแก่ ๆ ขึน้ จบิ   “ไม่ตอ้ งสงสัยวา่ เขารู้สึกขมขนื่ ”

สหายสนิทของมอเดร็ดลุกขึ้น  มองทุกแววตาทั้งหนุ่มและแก่ 
เด็กน้อยและผู้ชรา  ท่ีมารวมตัวกันอยู่ในท่ีน้ัน  เขาอยู่ในสมาคมนี้
มาตง้ั แตแ่ รก ๆ  เพราะเขาเปน็ คนมองการณไ์ กลพอทจ่ี ะเหน็ หลายสง่ิ
หลายอยา่ งทค่ี นอน่ื ไมเ่ หน็   เขารวู้ า่ เราไมส่ ามารถปลอ่ ยใหค้ นในเมอื ง
ไม่รู้หนังสือเช่นนี้ต่อไป  เพราะทำถ้าอย่างนั้น  อีกร้อยปีเมืองจะ
ล่มสลาย  วันน้ันมอเดร็ดเลือกเดินทางผิด  แต่ในวันนั้น  ก็ไม่มี
ทางเลอื กอ่นื สำหรับมอเดร็ด 

ทว่าวันนี้  แอชเชอร์คิดว่าสังคมน่าจะพร้อมแล้วที่จะยอมรับ
ความผิดของตน  นำเรื่องเก่า ๆ ท่ีซ่อนไว้หลังตู้เสื้อผ้าออกมาสะสาง 
สารภาพใต้แสงอาทิตย์  และเร่ิมต้นใหม่  พาเมืองกลับไปสู่ทิศทาง
ทีถ่ ูกตอ้ งอีกครั้ง

“เราต้องพูดเรื่องนี้ให้ลูกหลานของเราฟัง  ยอมรับต่อบาป
ของเรา  ไม่ใช่หันหน้าหนีและแกล้งทำเป็นลืม  ผลักความผิดให้กับ
คนคนหน่ึงแต่เพียงผู้เดียว”  แอชเชอร์กล่าวต่อหน้าทุกคน  แล้ว
หันไปมองเด็กหนุ่มคนน้ัน  “เอาละเด็ก ๆ  วันนี้ฉันจะเล่าเร่ืองหน่ึง
ให้ฟัง  มันเป็นเร่ืองที่พวกเธอไม่เคยได้ยินมาก่อน  ความลับ
ของเมืองน้ี  ความจรงิ ที่เกิดขนึ้ เมอ่ื สิบหา้ ปีก่อน”

“อย่าเล่าเลยแอชเชอร์”  ชายวัยกลางคนคนหนึ่งลุกข้ึน 
พูดโพล่งข้ึนมากลางคัน  เขาหวาดกลัวที่เรื่องน้ีจะถูกขุดข้ึนมาพูด
อีกครงั้ หน่งึ

“ถ้าเรายังปกปิดมันอยู่อย่างน ี้ ทุกอย่างก็จะเป็นเช่นน ้ี เด็ก ๆ 

28 สงิ โตนอกคอก

ของเราโง่เขลา  และพวกเราก็จมอยู่กับความอับอายที่หลอกหลอน
ในเงามืด  ถึงเวลาแล้วที่เราจะเผชิญหน้ากับมัน  เอาส่ิงท่ีกลบฝังมา
สารภาพ  อย่างน้อยก็เพ่ือให้พระเจ้าอภัยให้เรา”  แอชเชอร์บอก 
ใช้สายตากดชายคนน้นั ให้นง่ั ลง

“ถ้าในเมืองน้ีไม่มีคนพูดความจริง  ฉันก็จะเป็นคนพูดเอง 
ก่อนท่ีเด็กรุ่นต่อไปจะล้มอำนาจของมอเดร็ด  ป้ายประวัติศาสตร์
ที่ผิดลงบนชื่อของเขา  และพาเมืองของเราไปสู่หายนะด้วยความ
โง่งมของความเยาวว์ ยั ”

เขาจอ้ งตาคนชราแตล่ ะคนในหอ้ ง  “นคี่ อื เรอ่ื งราวในปที พี่ อ่ แม่
ของพวกเธอทุกคนกินคนในครอบครัวตัวเอง  ปีท่ีพวกเราเผา
ห้องสมุดของโบสถ์เพ่ือต่อลมหายใจอันโง่เขลา  ปีที่มอเดร็ดเร่ิมต้น
ล่าหมาป่า  และปีท่ีเขาเร่ิมแบกความเจ็บปวดทั้งหมดไว้”

แอชเชอรเ์ อ่ยชา้  ๆ หนักแนน่  
“ฉันไม่ได้บอกว่ามอเดร็ดทำถูกต้อง  แต่ในขณะเดียวกันเขา
กไ็ มไ่ ด้ผิดอยู่คนเดยี ว”
แอชเชอร์เล่าทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา  โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า 
ในหมู่เด็กท่นี ั่งอย่ตู รงนนั้   มใี ครบางคนนั่งรวมอย่ดู ว้ ย...
เด็กคนนั้นคลุมผ้าปิดหน้า  เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ 
การปกปดิ หนา้ ตาเปน็ เรอ่ื งทย่ี อมรบั ไดส้ ำหรบั สมาคมแหง่ น ี้ ตราบใด
ที่คนท่ีปิดหน้ามากบั เพอ่ื นสักคนทเ่ี ปดิ หน้า  และเพ่ือนคนนัน้ ยืนยัน
ไดว้ า่ ชายปดิ หนา้ คนน ี้“ปลอดภยั ”  ชายปดิ หนา้ กจ็ ะไดร้ บั การตอ้ นรบั  
สมาคมรู้ดีว่าพวกเขาอาจจะกำลังทำอะไรผิดกฎหมาย  และเป็น
ธรรมดาที่หลายคนจะไม่อยากแสดงตัว  แม้ว่าพวกเขาจะแค่มายืม
หนังสือนยิ ายประโลมโลกสกั เล่มหน่งึ กเ็ ทา่ นั้น

จิดานนั ท ์ เหลอื งเพียรสมุท 29

คืนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเด็กชายอยู่ท่ีน่ันด้วย  นอกจากเพื่อนสนิท
คนหน่ึงของเขาซ่ึงเป็นคนยืนยันตัวให้เขา  และน่ันเป็นครั้งแรกที่
เบธราฟาเข้าใจว่าทำไมพ่อจึงทำแบบน้ันกับเขา  เด็กหนุ่มใช้มือจิก
รอยแผลเป็นทส่ี ะโพก  นำ้ ตาไหลอาบแกม้

คนในเมืองเร่ิมรู้ว่ามีการนำความจริงเม่ือสิบห้าปีก่อนกลับมา
พูดอีกคร้ัง  เพราะลูกหลานของพวกเขาต่างก็ตั้งคำถามถึงส่ิงเหล่านี้ 
พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัย  และต้องการให้ทุกอย่างกลับไปอยู่ใน
ที่มืด  เขาไม่รู้จะทำอย่างไร  จึงหันไปหามอเดร็ด  คนท่ีพวกเขา
ทำรา้ ยมาโดยตลอด  พวกเขาไปพบมอเดรด็   พยายามพดู ใหม้ อเดรด็
เ ชื่ อ ว่ า ส ม า ค ม เ ล็ ก   ๆ   น้ี จ ะ แ ย่ ง อ ำ น า จ เ จ้ า เ มื อ ง ไ ป เ ป็ น ข อ ง ตั ว เ อ ง 
ชาวเมอื งตอ้ งการใหม้ อเดรด็ จดั การสมาคมนเี้ สยี   และทำใหเ้ รอ่ื งราว
เงียบสนิทอกี ครง้ั

“พวกเขาคงเกลียดฉัน”  มอเดร็ดพูดกับแอชเชอร์ถึงสมาคม
ห้องสมุดน้ีในเย็นวันที่เพื่อนเชิญเขาไปที่บ้าน  เจ้าเมืองยิ้มอย่าง
รวดรา้ วเมอื่ นกึ ถงึ เรอ่ื งน ้ี เขาเอย่ ตอ่ ไป  “ฉนั ไมแ่ ปลกใจเลยวา่ ทำไม”

แอชเชอรไ์ มต่ อบอะไร  เขาไมส่ ามารถพดู อะไรได้  เขาพยายาม
ทำแบบนี้เพ่ือมอเดร็ด  แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะทำอะไร  มอเดร็ด
ก็ยังถูกทำร้ายซำ้ แลว้ ซำ้ เล่า

“แกจะทำยงั ไง  กวาดล้างไหม”  แอชเชอร์ลองใจมอเดรด็
มอเดรด็ สา่ ยหนา้   และมองหนา้ แอชเชอร ์ “พวกเขาควรฆา่ ฉนั
เสีย  ฉันเป็นคนเผาห้องสมุดของเมือง  ถ้าฉันตาย  บาปของเมืองน้ี
ก็จะจบลง  แลว้ ทกุ คนกจ็ ะใช้ชีวติ ต่อไปไดโ้ ดยไมต่ ้องเจบ็ ปวดอกี ”
“มันไม่ใช่ความผิดของแก  มันเป็นของทุกคนร่วมกัน  แก

30 สิงโตนอกคอก

จะยอมตายโดยช่ือแกแปดเป้ือนไม่ได้”  แอชเชอร์พยายามปลอบ 
เขากลวั แววตาของมอเดรด็ ตอนน ี้ มนั เปน็ แววตาทดี่ า้ นเหมอื นหวั ธน ู
แววตาของคนท่ีพร้อมจะตาย  แอชเชอร์เห็นมันตั้งแต่วันท่ีมอเดร็ด
คิดจะออกไปล่าหมาป่าเป็นครั้งแรก  ตั้งแต่วินาทีน้ันเป็นต้นมา 
มอเดรด็ กพ็ รอ้ มจะถกู ฆา่ มาตลอด  เขาไมเ่ สยี ดายชวี ติ อกี ตอ่ ไปแลว้

“มันต้องมีชื่อของใครสักคนเป้ือน  และถ้าต้องเลือกระหว่าง
ฉนั กบั คนทง้ั เมอื ง  ฉนั ขอเลอื กรบั มนั ไวเ้ อง”  มอเดรด็ จบั ดาบของเขา
ท่ีซุกอยู่ในฝัก  พลางหันมามองเพื่อน  “บอกฉันสิแอช  เบธราฟา
อย่ใู นสมาคมของแกไหม”

แอชเชอรส์ ะดงุ้   เขาน่าจะรอู้ ยแู่ ลว้   ว่ามอเดรด็ จะร้อู ย่แู ล้ว
“ไม”่   แอชเชอร์พึมพำ  ริมฝีปากแห้งผาก 
“นา่ เสยี ดาย  ฉนั อยากใหล้ กู ชายของฉนั ฉลาดกวา่ น”ี้   มอเดรด็
สา่ ยหนา้   เดนิ ออกจากประตหู อ้ งไป  กอ่ นหนั กลบั มาเอย่ วา่   “ถา้ หาก
แกพรอ้ มจะตดั หวั ฉนั เม่อื ไหร่  กบ็ อกให้ฉันรไู้ ดเ้ ลยนะ”
ประตปู ดิ ลง  แอชเชอรม์ องตาม  ในหวั ใจของเขานง่ิ งนั พอ ๆ กบั
ความเงียบภายในหอ้ งหลังเสยี งประตูดบั ลง

เบธราฟาไม่แน่ใจว่าเขาควรเลิกไปสมาคมแห่งนั้นดีหรือไม่ 
ช่วงแรก ๆ เขาแค่ไปเพราะอยากเห็นหนังสือ  และต่อมาเมื่อเขา
ได้รู้จักเสน่ห์ของน้ำหมึกบนกระดาษ  เขาก็ไปที่นั่นบ่อยข้ึนเรื่อย ๆ 

จนกระทงั่ เมอื่ เขาไดข้ า่ วจากในเมอื งวา่ สมาคมคดิ จะยดึ อำนาจ 
เขากล็ ังเลใจ

มันเป็นข่าวท่ีแปลกมาก  เพราะไม่เคยมีคนในสมาคมพูด
เร่ืองการยึดอำนาจ  แต่คนนอกทุกคนเช่ือว่าสมาคมจะยึดอำนาจ 

จิดานนั ท ์ เหลืองเพียรสมุท 31

จนแม้แต่คนในสมาคมก็เร่ิมงงแล้วว่าตกลงคนอื่น  ๆ  ในสมาคม
จะยึดอำนาจใช่ไหม  เบธราฟาก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้จุดประสงค์ของ
ห้องสมุดเล็ก ๆ แห่งนั้นคืออะไรกันแน่  เขาก็เลยไม่รู้ว่าเขาควรไป
ทนี่ น่ั อกี ไหม  ในเม่อื ทีน่ ่นั กำลังจะกลายเป็นปฏปิ กั ษ์กบั พอ่ ของเขา

ความจริงเบธราฟาไมไ่ ด้ชอบพ่อมากนัก  เดก็ หน่มุ หา่ งเหนิ กับ
พ่อมาตลอดชีวิต  แม้เขาจะได้รู้ความจริงเร่ืองพ่อแล้ว  แต่ความ
เหนิ ห่างสบิ หา้ ปที ผ่ี า่ นมากท็ ำใหเ้ ข้าหน้ากนั ไม่ตดิ

มีคนอยากให้เขาเคล่ือนไหว  เบธราฟาได้ยินข่าวนี้แล้ว  ผู้คน
เชอ่ื กนั วา่ ถา้ เบธราฟาเขา้ กบั สมาคม  การลม้ อำนาจมอเดรด็ จะงา่ ยเขา้  
แตย่ งั ไมม่ ใี ครรวู้ า่ เขาเคยไปทน่ี นั่   และเบธราฟาคดิ วา่ เขาคงตอ้ งเลกิ
ไปเสยี ที  เขาไม่อยากให้พ่อเสียใจอีก

ลุงแอชเชอรพ์ ดู ถูก  พอ่ เสยี ใจมามากพอแล้ว

มอเดร็ดเดินกลับบ้าน  ระหว่างทาง  เขาคิดถึงเรื่องทั้งหมดท่ี
ผา่ นมา  เขาคดิ ถงึ ฤดหู นาวทโี่ หดรา้ ยเมอ่ื สบิ หา้ ปกี อ่ น  วนั ทท่ี กุ อยา่ ง
เร่ิมข้ึน  วันท่ีเขาต้องทำทุกส่ิงที่ทำลงไป  เพ่ือให้ลมหายใจของผู้คน
ยังคงเคล่ือนตอ่

เขาไม่คิดว่าเหตุการณ์จะดำเนินมาจนถึงจุดนี้  จุดท่ีประชาชน
ในเมืองโง่เขลา  ผู้คนเกลียดเขา  และเขากลายเป็นตัวร้ายของ
ทกุ  ๆ คน

วันน้ีแม้แต่แอชเชอร์ก็ยังอยู่ตรงข้ามกันกับเขา  แต่มอเดร็ด
ไม่เสยี ใจ  แอชเชอร์ฉลาดเสมอและพดู ถกู ทกุ อยา่ ง  ทางท่แี อชเชอร์
เลอื กคงถกู แลว้

ชายหนุ่มละมือออกจากดาบที่เหน็บอยู่ข้างเอวซ่ึงเขาเผลอตัว

32 สิงโตนอกคอก

ลบู คลำเลน่ มาตง้ั แตเ่ มอ่ื ครู่  บางทเี ขาตายไปคงดที ส่ี ดุ   เรอื่ งทงั้ หมด
จะได้จบลงเสียที  ทุกคนคงมีความสุข  เขายังนึกไม่ออกว่าจะฝาก
เมืองไว้กับใครได้  เขาไว้ใจแอชเชอร์ท่ีสุด  แต่เขาคิดว่าเพ่ือนคง
ไม่ยอมขึ้นสอู่ ำนาจ  แอชเชอรท์ ี่เขารจู้ ักไมใ่ ช่คนเช่นนนั้

หรอื ความจรงิ แลว้ เขาไมร่ จู้ กั แอชเชอร์  เพอ่ื นอาจจะทำทกุ อยา่ ง
ตลอดมาเพื่อหวังอำนาจของมอเดร็ด  น่ีเป็นครั้งแรกท่ีชายหนุ่มเร่ิม
ระแวงคนสนิทของตัวเอง  ในตอนนี้เขาสับสนจนไม่อาจไว้ใจใคร
ได้อกี   เขาเหนอ่ื ย  เหนอ่ื ยมากเหลือเกิน...

เอาเถอะ  ถ้าเมืองจะตกเป็นของแอชเชอร์  ก็คงดีกว่าเป็น
คนอื่น  มอเดร็ดไม่เสียใจหากคนที่ทรยศเขาจะเป็นสหายร่วมรบ
ร่วมเป็นร่วมตาย

แต่สิ่งที่เขาเสียใจที่สุด  คือเขาได้สูญเสียเบธราฟา  ตั้งแต่
วันท่ีมอเดร็ดกินเน้ือลูกตัวเอง  มันเหมือนเขาสูญเสียลูกชาย
ไปตลอดกาล  และเขาก็ไม่มีโอกาสท่ีจะส่ังสอนส่ิงใด ๆ ให้กับลูก 
ไมส่ ามารถพาลูกไปในทางท่ถี ูกได้

หากเบธราฟาอยู่ในสมาคมนั้น  มอเดร็ดจะดีใจมากกว่านี้ 
ถ้าหากเบธราฟาอ่านหนังสือ  เขาคงวางใจได้  มอเดร็ดขยับย้ิม 
น่าขัน  เขาเองท่ีเป็นคนทำให้ทุกคนไม่อ่านหนังสือ  แล้วตอนน้ีเขา
กน็ ึกหวังให้ลกู ชายตัวเองอ่านหนงั สือ

เจ้าเมืองกลับมาถึงบ้าน  เขาวางดาบลงบนโต๊ะ  ถอนหายใจ
อย่างเหนื่อยหนัก  เขาคิดถึงลูก  มอเดร็ดเดินไปท่ีประตูห้องของ
เบธราฟา  แง้มออกอย่างแผ่วเบาที่สุด  เพ่ือจะได้แอบมองดูลูกชาย
โดยไม่รบกวน  เขาไม่กล้าเปิดประตูไปพูดคุยกับเบธราฟา  เขากับ
ลูกชายหา่ งเหินกนั มานานปนี กั ...

จิดานันท ์ เหลอื งเพียรสมทุ 33

เขาเห็นลูกน่ังอยู่บนเตียง  ก้มตัวดูอะไรบางอย่างที่อยู่บนตัก 
มอเดร็ดเหน็ ไมช่ ัดนกั เพราะเบธราฟานัง่ หันหลงั   แต่พอเห็นขอบมุม
ของสง่ิ นนั้ โผลม่ าเลก็ นอ้ ย  สงิ่ ทเ่ี หน็ ทำใหม้ อเดรด็ ไมแ่ นใ่ จในสายตา
ของตัวเอง  เขาผลักประตูแล้วก้าวเข้าไปข้างใน  จู่โจมลูกชายด้วย
ความเร็วของคนท่ีเคยพิฆาตหมาป่า  เขาดึงสิ่งน้ันข้ึนมาจากตัก
ของลูก  ยืนตระหง่านอยู่ต่อหน้าลูกที่น่ังอยู่บนเตียง  เบธราฟา
เงยหน้ามองเขาด้วยความตระหนก

ลูกชายมองพ่อ  เขารู้ตัวว่าถูกพ่อจับได้  ส่ิงน้ันอยู่ในมือพ่อ 
และพอ่ กก็ ำลงั กม้ ลงมามองหนา้ เขาดว้ ยสายตาราวกบั ไมอ่ ยากจะเชอื่

เบธราฟามองพอ่   ตงั้ แตเ่ ดก็   เขาเคยคดิ วา่ พอ่ ไรห้ วั ใจมาตลอด 
จนไม่นานมาน้ีเอง  เขาเพิ่งได้รู้ว่าพ่อทำทุกส่ิงเพราะอะไร  เขาเห็น
บาดแผลท่ีโลกใบนี้ฟาดใส่หน้าพ่อคร้ังแล้วครั้งเล่า  และแล้วเขา
ก็ทำใหพ้ ่อมแี ผลเพิม่ อีก...

ดว้ ยการเป็นพรรคพวกของศตั รูพอ่
น้ำตาเอ่อออกมาเต็มตาเบธราฟา  มันเป็นน้ำตาแห่งความรู้สึก
ผดิ
“พอ่ ฮะ  ผมขอโทษ...ผม...”  เขาตะกกุ ตะกกั   ไมอ่ าจสบสายตา
มอเดรด็  
“อย่าเข้าใจผิดนะครับ  ผมไม่ได้คิดเร่ืองน้ัน!  ผมแค่ชอบ
อ่านหนังสือเท่านั้น  ผมไม่ได้คิดว่าเมืองนี้ควรเป็นของใครนอกจาก
พอ่ !”  เบธราฟาสารภาพสง่ิ ทอ่ี ยใู่ นใจของตวั เองออกไปจนหมด  เขา
พยายามคดิ ถอ้ ยคำทจี่ ะเอย่ กบั พอ่ อกี   แตก่ ห็ าถอ้ ยคำเหลา่ นนั้ ไมพ่ บ 
ในท่ีสุดก็ได้แต่ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด  น้ำตาท่ีอยู่ในตาไหลลงมา
ทแ่ี กม้ และหยดลงบนตกั   เขารวู้ า่ เขากำลงั ทำใหพ้ อ่ ปวดรา้ ว  และพอ่

34 สิงโตนอกคอก

คงไมม่ วี นั เชอ่ื สง่ิ ทเ่ี ขาพดู   แมม้ นั จะเปน็ ความจรงิ กต็ าม  เขาแคช่ อบ
อ่านหนังสอื   ไมไ่ ดค้ ิดการใหญ่อะไรเลย

มอเดร็ดถือหนังสือไว้ด้วยมือขวา  เขามองดูมัน  ในหัวคิด
ไมอ่ อกวา่ จะพดู อะไรด ี อะไรถงึ จะทำใหล้ กู เขา้ ใจในตวั เขา  เขา้ ใจวา่
เขาไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย  ต่อให้ลูกชายจะกำลังวางแผนบ่ันคอ
เขาก็ตาม

เจ้าเมืองท่ีตัดสินใจผิดพลาดจนทุกอย่างกลายเป็นแบบน้ี
สมควรตายแล้ว  มอเดร็ดคิดในใจ  หากลูกชายฉลาดพอจะคิด
เรือ่ งน้นั ออกก็นับวา่ นา่ ยินดดี ้วยซ้ำ

เขาก้มลงกอดลูกชายด้วยแขนซ้าย  สิ่งที่อยู่ในหัวพร่ังพรู
ออกมาโดยปราศจากการกลัน่ กรอง

“ถ้าลูกอ่านหนังสือแล้วเป็นความผิด  คนท่ีเคยอ่านหนังสือ
ทกุ เลม่ ในหอ้ งสมดุ แหง่ นนั้ อยา่ งพอ่   ตายพนั หนกค็ งไมพ่ อชำระบาป” 
มอเดรด็ ถอยออกมาจับไหลเ่ บธราฟาไว้  จอ้ งตาลกู ชาย

“ถ้าจะอ่านก็อ่านเถอะ  พ่อดใี จทล่ี กู อ่าน”
เขาพดู ตอ่ ไป
“และถ้าจะฆ่าพ่อ  ก็ฆ่าเถอะ  แล้วทำให้เรื่องท้ังหมดจบลงใน
นามของพ่อ  ทำให้เร่อื งท้งั หมดจบลงเสียท”ี
“ฆ่าพ่อแล้วเชือดเน้ือพ่อไปกิน  เหมือนที่พ่อเคยทำกับลูก” 
มอเดร็ดจับตรงสะโพกของลูก  ตรงที่เขารู้ดีว่าเขาได้ประทับรอย
แผลเปน็ ไว ้ ตาทแ่ี หง้ ผากของเขาจอ้ งลกึ ลงไปในดวงตาทเ่ี ตม็ ไปดว้ ย
น้ำตาของเบธราฟา
“ถ้ามนั จะทำใหท้ ุกคนในเมืองมคี วามสุขได ้ กใ็ ห้พ่อตายไปใน
ฐานะคนชว่ั ชา้   ทำใหท้ กุ อยา่ งจบลงเสยี ท ี พอ่ ทนมานานเกนิ พอแลว้ ”

จิดานันท ์ เหลืองเพียรสมุท 35

“ทำไม”  เบธราฟาถาม  น้ำตาอาบหน้า  แต่มอเดร็ดไม่ได้
รอ้ งไหเ้ ลย  แววตาของเขาวา่ งเปลา่ ไปเสยี แลว้   “ทำไมพอ่ ตอ้ งเปน็ คน
รับผิดทุกเรื่องอยู่เพียงผู้เดียว  ทำไมต้องเป็นคนบาปอยู่คนเดียว 
ทำไมไมโ่ ต้เถยี งอะไรเลย”

คำถามของลูกชายทำใหม้ อเดร็ดขยับยิ้ม
“ทำไมพ่อถึงปล่อยให้ทุกคนทำกับพ่ออย่างน้ี”  เบธราฟาเขย่า
ไหลม่ อเดรด็   ทนั ใดนนั้ เสยี งในหวั ของเขาพลนั ถาม  ‘แลว้ พอ่ ควรทำ
ยงั ไงละ่   พอ่ ทำอยา่ งอ่ืนได้ด้วยหรือไง’
เบธราฟาจอ้ งตามอเดรด็   วนิ าทนี น้ั   เขาตอ้ งการคำตอบจากปาก
พอ่ มากกว่าส่งิ ใดในชีวติ
เพราะพ่อรักทุกคนมากพอ  เพราะนั่นคือการเป็นเจ้าเมืองท่ีดี 
เพราะพ่อไม่มีทางเลือกอื่น  เพราะพ่ออยากชดใช้บาปท่ีทำลงไป 
เบธราฟารอให้พ่อพูดอะไรสักอย่างทำนองน้ี  เขาจิกน้ิวลงไปในเนื้อ
ของมอเดรด็   พลางภาวนา  อะไรกไ็ ด ้ ขอร้องละพอ่   ตอบเสียที
เขารู้ดีว่าคำตอบท้ังหมดที่เขาคิดไม่ใช่คำตอบของพ่อ  เขารู้ว่า
เขาไมอ่ าจคาดเดาจติ ใจของพอ่ ได้  เขาจอ้ งลกึ ลงไปในดวงตาของพอ่  
นำ้ ตายงั คงไหลไมห่ ยดุ   มอเดรด็ ยมิ้   เขาชไี้ ปนอกหนา้ ตา่ ง  ดา้ นหลงั
ของเบธราฟา
“คนผดิ ในเรอื่ งน ้ี ถา้ ไมใ่ ชน่ น่ั   กค็ งเปน็ ตวั พอ่ เอง  ถา้ จะใหพ้ อ่
โทษสิ่งนั้นละก ็ พ่อขอรับผดิ ท้ังหมดไว้เองดกี วา่ ”
วินาทีแรก  เบธราฟาคิดว่าพ่อกำลังพูดถึงผู้คนในเมืองน ี้ แต่
เมอ่ื เขาหนั ไปมองทห่ี นา้ ตา่ ง  เขากไ็ ดร้ วู้ า่ พอ่ หมายถงึ อะไร  หมิ ะแรก
ของปีนี้ได้ปรายโปรยลงมาแล้ว  มันช่างสวยงาม  เงียบงัน  และ
บริสุทธิ์ราวกับเด็กทารกน้อย  แต่ภาพของมันกลับเยือกขั้วหัวใจ

36 สงิ โตนอกคอก

ของเขา  มันบอกเขาว่า...ความลำบากยากเข็ญกำลังจะย้อนคืนมา
อกี ครงั้ ...เชน่ เดยี วกบั ทกุ ปี

“ถึงเธอจะโหดร้ายแค่ไหน  แต่ลูกจะกล่าวโทษฤดูหนาวท่ี
บรสิ ทุ ธไิ์ รเ้ ดยี งสาไดจ้ รงิ  ๆ หรอื ”  มอเดรด็ ยม้ิ   มองหนา้ ลกู ชายตวั เอง 
ขยับเสื้อคลุมบนไหล่ของตน  เขาหมุนหนังสือของเบธราฟาไปมา
พลางพูดว่า  “ได้เวลาต่อสู้อีกแล้ว  เราคงได้แต่ภาวนาว่าปีน้ีเธอ
จะเมตตาเรา  และเราจะไม่ตอ้ งเผาหนังสือพวกนอ้ี กี คร้ัง”

เบธราฟามองหน้าพ่อ  เขารู้แล้วว่าคำตอบของพ่อคืออะไร 
ไมว่ า่ ใครจะพดู ถงึ พอ่ ยงั ไงกต็ าม  ขอแคพ่ วกเราผา่ นฤดหู นาวไปได.้ ..

จะบาปหนักหนาแคไ่ หน  พอ่ กจ็ ะรับเอาไวท้ ้ังหมดเอง

พิมพ์ครั้งแรก:  จะขอรับผิดทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว  รวมเร่ืองสั้นยอดเย่ียมรางวัล
นายอินทร์อะวอร์ด  ประจำป ี ๒๕๕๘

จดิ านันท ์ เหลืองเพียรสมุท 37


Click to View FlipBook Version