The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนบูรณาการสวนพฤกษศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนบูรณาการวิทย์64

แผนบูรณาการสวนพฤกษศาสตร์

Keywords: แผนบูรณาการ

แผนการจัดการเรยี นรู้
บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน โรงเรยี นบุญวาทยว์ ทิ ยาลัย

รายวชิ า ....................................... รหสั วชิ า .........................
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี .................................

โดย
..............................................................
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ........................

กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนบญุ วาทยว์ ทิ ยาลัย
อาเภอเมอื ง จงั หวดั ลาปาง

สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา ลาปาง ลาพูน
กระทรวงศึกษาธิการ

ลงช่ือ............................................หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ฯ
(............................................)

ลงช่ือ...........................................รองผู้อานวยการกลุม่ บริหารวิชาการ
(............................................)

ลงช่อื ...........................................ผู้อานวยการโรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลัย
(............................................)

คานา

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ………………..….. รหัสวิชา …………… บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยน้ี เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดทาข้ึนเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งโรงเรียน
บุญวาทย์วิทยาลัย เป็นสมาชิกงานสวนพฤกษศาตร์ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด
าริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) รหสั สมาชิก 7-52000-003

แผนการจัดการเรยี นรบู้ ูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นน้ี ผสู้ อนได้ดาเนินการ วิเคราะห์ความ
สอดคล้องของหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
คาอธิบายรายวิชา โครงสร้างหน่วยการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ ผังมโนทัศน์รวม ผังมโนทัศน์กลุ่ม
สาระการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ ตัวอย่างผลงานของนักเรียน คลิปประกอบการจัดการเรียนรู้ตาม
แผนการจดั การเรียนรู้

แผนการจดั การเรียนรู้บรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น เรือ่ ง ………………………… หน่วยการ
เรยี นรู้ …………………………..ฐานการเรียนร.ู้ ............................................น้ี ผู้สอนและผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรม
อย่างครบถ้วนตามใบความรู้ ใบงาน โดยใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย เป็นแหล่ง
เรียนรู้ ทาให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแก่ผู้เรียน สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มี
ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสงู ข้ึน เกิดจิตสานึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และทรัพยากร หวงแหนพืชพรรณไม้
รวมทั้งผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มึคุณธรรมจริยธรรม สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน มีทักษะใน
ศตวรรษท่ี 21 เปน็ พลโลกที่ดี ตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด และลาดับการเรียนรทู้ กี่ าหนดไวเ้ ป็นอย่างดี

( .............................................. )
ตาแหน่ง ครู

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

1
บันทึกสรุป
แผนการจัดการเรยี นรบู้ รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โรงเรยี นบุญวาทยว์ ิทยาลัย
1.รูปแบบการบรู ณาการ
1.1 บูรณาการแบบสอดแทรก (Infusion)

วธิ ีการ กิจกรรม การประเมนิ ผลทเี่ กดิ กบั ผเู้ รยี น

ครคู นเดียว ครคู นเดียว ครคู นเดียว ผู้เรียนไดค้ วามรจู้ ากครู
-วางแผน และกาหนดหัวเรือ่ ง โดย -มอบหมายงาน -ประเมิน คนเดยี ว และสามารถ
สอดแทรกงานสวนพฤกษศาสตร์ ตามที่วางแผนไว้ เหน็ ความสมั พันธ์ระหว่าง
โรงเรียนเข้าในวิชาของตน วชิ าได้

1.2 บูรณาการแบบคู่ขนาน (Parallel)

วิธกี าร กจิ กรรม การประเมิน ผลทเี่ กิดกบั ผเู้ รยี น

ครู 2 คนขน้ึ ไป งานทีม่ อบหมายให้ ครแู ยกกัน -ผู้เรยี นได้รับความรู้จาก
ประเมนิ ครูแตล่ ะคนในเร่ือง
-วางแผนการสอนรว่ มกนั และกาหนด นักเรยี นทาแตกต่าง เดียวกนั ทาให้มองเหน็
ความสมั พนั ธ์เชือ่ มโยงกนั
หัวเรือ่ ง (Theme),ความคิดรวบยอด, กันไปในแตล่ ะวชิ า และกนั นาความรูใ้ นวิชา
ตา่ ง ๆ มาใชแ้ ก้ปัญหา
ปญั หา ในลกั ษณะเดียวกนั รว่ มกัน

1.3 บูรณาการแบบสหวิทยาการ (Multidisciplinary)

วธิ ีการ กจิ กรรม การประเมิน ผลท่ีเกดิ กบั ผู้เรยี น

ครหู ลายคน (คณะผสู้ อน) มอบหมายงานหรือ ครปู ระเมนิ ผลงาน -ผูเ้ รยี นได้รับความรู้จาก

-วางแผนการสอนรว่ มกนั โดยกาหนด โครงงานใหน้ กั เรยี น แต่ละช้ินงานใน ครหู ลายคนในหัวเรอ่ื ง

หัวเรอื่ ง (Theme),ความคดิ รวบยอด, ทาร่วมกนั และ สว่ นทตี่ นเองสอน หรอื ปญั หาเดียวกันทาให้

ปัญหา ในลกั ษณะเดียวกัน กาหนดว่า จะแบ่ง โดยกาหนดเกณฑ์ สามารถเชอื่ มโยงความรู้

-สอนตา่ งวิชากัน โดยแยกกนั สอนใน โครงงานนั้นเป็น เอง จากสาขาวชิ าต่าง ๆ มา

หวั เรื่องเดยี วกัน โครงงานย่อยๆให้ สรา้ งสรรค์งานได้

-รว่ มกันกาหนดช้นิ งาน/โครงงานโดย นักเรยี นทาในแต่ละ

เช่อื มโยงวชิ าตา่ ง ๆ วิชา

1.4 บูรณาการแบบเช่ือมโยงขา้ มวชิ า (Transdisciplinary)

STEAM Education โครงงานฐานการเรียนร้.ู .........................................................................

2

2. การบรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น 5 องค์ประกอบ

องคป์ ระกอบที่ 1 การจดั ปา้ ยชอื่ พรรณไม้
องคป์ ระกอบท่ี 2 การรวบรวมพรรณไม้เข้าปลกู ในโรงเรียน
องคป์ ระกอบที่ 3 การศกึ ษาข้อมลู ด้านตา่ งๆ
องค์ประกอบที่ 4 การรายงานผลการเรียนรู้
องค์ประกอบท่ี 5 การนาไปใชป้ ระโยชนท์ างการศึกษา

3. การบรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น พชื ศกึ ษา (งาข้ีมอ้ น) 3 สาระ

พชื ศึกษา : งาข้มี อ้ น
ราก ลาต้น ใบ ดอก ผล เมลด็

สาระการเรียนร้ทู ่ี 1 ธรรมชาติแหง่ ชวี ิต
สาระการเรียนรู้ท่ี 2 สรรพสงิ่ ล้วนพนั เกยี่ ว
สาระการเรียนรู้ที่ 3 ประโยชน์แทแ้ ก่มหาชน

4. จานวนใบความรู้ ช้นิ งาน คลิปการสอน

จานวนนักเรียน.................คน จานวนใบความรู้................ใบ (ชุด)จานวนใบงาน..............ใบ (ชดุ )

ชน้ิ งาน รายบคุ คล จานวน.................ช้นิ

รายกลมุ่ จานวน.................ช้ิน

คลิปการสอน รายบคุ คล จานวน.................คลปิ

3

สรปุ ผลการจัดการเรยี นรู้บรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น

1. ผลการเรยี นรู้ตามตัวช้ีวดั แผนการจดั การเรยี นรู้

1.1 ผ้เู รยี นทีผ่ า่ นตัวช้วี ัด มจี านวน ............ คน คิดเปน็ ร้อยละ .....................
คิดเปน็ ร้อยละ .....................
1.2 ผู้เรียนทีไ่ ม่ผ่านตวั ชี้วัด มจี านวน ............. คน
คดิ เปน็ ร้อยละ .....................
2. ผลการเรยี นรู้ตามลาดับการเรยี นรู้งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน คดิ เป็นร้อยละ .....................

2.1 ผู้เรียนที่ผ่านลาดับการเรียนรู้ มจี านวน ............ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ .....................
คิดเป็นร้อยละ .....................
2.2 ผู้เรยี นท่ไี มผ่ ่านลาดับการเรียนรู้ มจี านวน ............. คน

3. ผลการประเมนิ คุณลักษณะ

3.1 ผู้เรียนท่ีผา่ นคุณลกั ษณะ มีจานวน ............ คน

3.2 ผู้เรยี นท่ไี ม่ผ่านคุณลักษณะ มีจานวน ............. คน

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ คุณลกั ษณะงานสวนพฤกษศาสตรฯ์ ร้อยละ

รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ มีความรับผิดชอบ

ซอื่ สัตยส์ จุ ริต มคี วามซอื่ ตรง

มวี นิ ยั มีความรอบคอบ

ใฝ่เรยี นรู้ มคี วามขยนั หมัน่ เพยี ร มคี วามอดทน

อยอู่ ย่างพอเพยี ง มคี วามสามคั คี เอ้ืออาทร

มุ่งม่นั ในการทางาน มีเหตผุ ล ยอมรบั ความคิดเหน็ ผู้อ่ืน

รักความเป็นไทย มคี วามเมตตา กรณุ า

มีจิตสาธารณะ มจี ิตสานกึ อนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

ลงชอ่ื ............................................. ผสู้ อน
(.............................................)

ตาแหนง่ ...............................................

4

คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน

รายวิชา .......................................... กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรฯ์

ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี........................... ภาคเรยี นท่ี ........................................

เวลา .......... ชัว่ โมง จานวน ............................... หน่วยกติ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................... .......................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................. .............................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

รหัสตวั ชีว้ ดั
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................... ..........
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

รวมทั้งหมด ..................... ตวั ชวี้ ดั

5

การวเิ คราะหค์ วามสอดคลอ้ งตวั ช้วี ดั และลาดบั การเรียนรู้
องคป์ ระกอบที่ 1 การจดั ทาป้ายชอื่ พรรณไม้

ลาดบั การเรียนรทู้ ่ี 2 สารวจพรรณไม้ในพน้ื ทศี่ กึ ษา

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสิ่งไม่มีชีวิต กับส่ิงมีชวี ติ และ

ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ
เปล่ียนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมาย ของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ
แกไ้ ขปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม รวมทัง้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ช้นั ตัวชวี้ ดั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

,ม.1 - องคป์ ระกอบที่ ลาดับการเรยี นรทู้ ่ี
ม.2 -
ม.3 1. อธบิ ายปฏสิ ัมพันธข์ ององค์ประกอบ --

ของ ระบบนเิ วศทีไ่ ดจ้ ากการสารวจ --
ม.4 1. สบื ค้นข้อมลู และอธบิ ายความสมั พันธ์
1 2.สารวจพรรณไมใ้ น
ของสภาพ ทางภูมิศาสตร์บนโลกกับความ
หลากหลายของ ไบโอม และยกตัวอย่าง พ้ืนท่ีศกึ ษา
ไบโอมชนิดตา่ ง ๆ
ม.5 - --
ม.6 - --

6

ลาดับการเรยี นรูท้ ี่ 6
ศกึ ษาและบันทึกลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ (ก.7-003 หน้า 2-7)

กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบตั ขิ องส่ิงมชี วี ิต หน่วยพน้ื ฐานของสิ่งมีชวี ติ การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์

ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์

กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธ์กัน

รวมท้งั นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ช้ัน ตวั ชว้ี ดั งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

องคป์ ระกอบที่ ลาดบั การเรียนร้ทู ่ี

ม.1 12. อธบิ ายลักษณะโครงสร้างของดอกที่มี 1 6 ลักษณะทางพฤกษศาตร์

สว่ น ทาใหเ้ กิดการถา่ ยเรณูรวมท้ังบรรยาย (ก.7-003 หน้า 2-7)

การปฏิสนธิของพืชดอก การเกิดผลและ

เมล็ด การกระจายเมล็ด และการงอกของ

เมล็ด

ม.2 - --

ม.3 - --

ม.4-ม.6 - --

7

ลาดบั การเรียนรทู้ ี่ 7 บันทกึ ภาพหรอื วาดภาพทางพฤกษศาสตร์

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพอ่ื การดารงชวี ติ ในสงั คมที่มีการเปลย่ี นแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใช้ความร้แู ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ศาสตร์อื่น ๆ เพ่ือ

แกป้ ญั หาหรอื พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม

ช้นั ตัวช้วี ัด งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

องคป์ ระกอบที่ ลาดบั การเรยี นรู้ที่

ม.1 3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา โดย 1 7 การจัดเก็บและสบื ค้น

วเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ และตดั สนิ ใจเลือก ภาพถ่ายพรรณไม้

ข้อมูลทจ่ี าเป็น นาเสนอแนวทางการ ภาพวาดในระบบโปรแกรม

แกป้ ัญหาใหผ้ ้อู น่ื เขา้ ใจ วางแผนและ สบื คน้

ดาเนินการแก้ปัญหา

5. ใชค้ วามร้แู ละทักษะเกยี่ วกับวสั ดุ

อุปกรณ์ เครือ่ งมอื กลไก ไฟฟา้ หรือ

อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เพอื่ แก้ปญั หาได้อยา่ ง

ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั

ม.2 3. ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา โดย

วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตดั สินใจเลือก

ขอ้ มูลทจ่ี าเป็น ภายใต้เงอ่ื นไขและ

ทรัพยากรที่มอี ยู่ นาเสนอ แนวทางการ

แก้ปญั หาใหผ้ ูอ้ ่ืนเข้าใจ วางแผน ขน้ั ตอน

การทางานและดาเนินการแก้ปัญหา อยา่ ง

เปน็ ข้นั ตอ

ม.3 3. ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา โดย

วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสนิ ใจเลือก

ข้อมลู ทจ่ี าเป็น ภายใตเ้ งอ่ื นไขและ

ทรัพยากรท่มี อี ยู่ นาเสนอ แนวทางการ

แก้ปญั หาให้ผ้อู ่นื เข้าใจด้วยเทคนคิ หรอื

วธิ ีการท่ีหลากหลาย วางแผนขนั้ ตอน การ

ทางานและดาเนนิ การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็น

ขนั้ ตอน

ม.4 5. ใช้ความรูแ้ ละทกั ษะเก่ยี วกบั วสั ดุ

อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้าและ

อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ซี ับซอ้ นใน

การแก้ปญั หา หรือพัฒนางาน ได้อย่าง

ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั

ม.5 - --

ม.6 - --

8

ลาดบั การเรียนรทู้ ่ี 8 ทาตัวอยา่ งพรรณไม้ (แหง้ ดอง และเฉพาะส่วน)

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของสิง่ มีชีวิต หนว่ ยพืน้ ฐานของส่ิงมีชวี ติ การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์

ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์

กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธ์กัน

รวมทัง้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ชั้น ตวั ชว้ี ดั งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

องค์ประกอบที่ ลาดบั การเรยี นรทู้ ่ี

ม.1 8. ตระหนักในคุณค่าของพชื ทมี่ ตี ่อ 1 8 ทาตวั อยา่ งพรรณไม้

สงิ่ มีชีวติ และ สิ่งแวดล้อม โดยการรว่ มกนั - (แหง้ ดอง และเฉพาะ

ปลูกและดแู ลรกั ษา ต้นไม้ในโรงเรียนและ ส่วน)

ชุมชน

17. อธิบายความสาคญั ของเทคโนโลยี

การเพาะเล้ยี งเน้อื เยือ่ พชื ในการใช้

ประโยชน์ ด้านต่าง ๆ

ม.2 -

ม.3 6. ตระหนักถงึ ความสมั พันธข์ องสิง่ มชี วี ิต

และ ส่งิ แวดลอ้ มในระบบนิเวศ โดยไม่

ทาลายสมดลุ ของระบบนเิ วศ

ม.4 4. สบื คน้ ข้อมลู และอภิปรายเกี่ยวกบั - -
ปัญหาและ ผลกระทบทมี่ ตี ่อ - -
ทรพั ยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม
พร้อมทงั้ นาเสนอแนวทางในการ อนรุ ักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปญั หา
สงิ่ แวดล้อม

ม.5 -

ม.6 -

9

ลาดบั การเรยี นรทู้ ี่ 9

เปรยี บเทยี บขอ้ มูลท่ีสรปุ (ก.7–003 หน้า 8) กับข้อมูลทีส่ บื คน้ จากเอกสาร

แลว้ บนั ทกึ ใน ก.7–003 หนา้ 9–10

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สาระที่ 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พ่ือการดารงชวี ิตในสังคมที่มีการเปลย่ี นแปลง

อยา่ งรวดเรว็ ใช้ความรแู้ ละทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ศาสตร์อ่ืน ๆ เพ่ือ

แก้ปัญหาหรอื พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

เลือกใช้เทคโนโลยี อยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สังคม และสงิ่ แวดล้อม

ชน้ั ตัวช้ีวดั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

องคป์ ระกอบท่ี ลาดบั การเรยี นรู้ท่ี

ม.1 3. ออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หา โดยวเิ คราะห์ 1 9 โปรแกรมสืบค้นข้อมลู

เปรยี บเทยี บ และตดั สนิ ใจเลือกขอ้ มลู ท่จี าเปน็ พรรณไม้

นาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผอู้ ื่นเข้าใจ

วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ญั หา

5. ใช้ความรู้และทกั ษะเก่ียวกับวสั ดุอปุ กรณ์

เครือ่ งมอื กลไก ไฟฟา้ หรอื อิเลก็ ทรอนิกส์ เพือ่

แก้ปัญหาได้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย

ม.2 3. ออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หา โดยวิเคราะห์

เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจเลอื กขอ้ มูลทีจ่ าเปน็

ภายใต้เงือ่ นไขและทรพั ยากรทมี่ ีอยู่ นาเสนอ แนว

ทางการแกป้ ญั หาให้ผ้อู ืน่ เข้าใจ วางแผน ขน้ั ตอน

การทางานและดาเนนิ การแก้ปัญหา อยา่ งเปน็

ขัน้ ตอน

ม.3 3. ออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หา โดยวเิ คราะห์

เปรียบเทียบ และตดั สนิ ใจเลอื กขอ้ มลู ทีจ่ าเป็น

ภายใตเ้ ง่อื นไขและทรัพยากรท่มี ีอยู่ นาเสนอ แนว

ทางการแก้ปัญหาใหผ้ ู้อ่นื เข้าใจด้วยเทคนิค หรือ

วธิ กี ารท่ีหลากหลาย วางแผนขน้ั ตอน การทางาน

และดาเนินการแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ขั้นตอน

ม.4 5. ใชค้ วามรแู้ ละทักษะเกีย่ วกับวสั ดอุ ปุ กรณ์

เครอ่ื งมอื กลไก ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ และ

เทคโนโลยีทีซ่ บั ซอ้ นในการแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน

ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั

ม.5 - --

ม.6 - --

10

ลาดบั การเรียนรทู้ ่ี 10 จดั ระบบข้อมูลทะเบยี นพรรณไม้ (ก.7-005)

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาระที่ 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พอ่ื การดารงชวี ิตในสงั คมท่ีมีการเปล่ียนแปลง

อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ศาสตร์อื่น ๆ

เพ่ือแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิง

วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ

สิ่งแวดล้อม

ช้นั ตวั ชว้ี ัด งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

องค์ประกอบที่ ลาดับการเรียนรู้ที่

ม.1 3. ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา โดยวเิ คราะห์ 1 10 จัดระบบข้อมลู ทะเบียน

เปรียบเทยี บ และตัดสินใจเลือกขอ้ มลู ท่ีจาเป็น พรรณไม้ (ก.7-005)

นาเสนอแนวทางการแก้ปญั หาใหผ้ ูอ้ ื่นเข้าใจ

วางแผนและดาเนินการแกป้ ญั หา

5. ใชค้ วามรู้และทกั ษะเก่ียวกบั วสั ดอุ ปุ กรณ์

เครอ่ื งมือ กลไก ไฟฟ้า หรอื อิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือ

แก้ปญั หาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั

ม.2 3. ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา โดยวเิ คราะห์

เปรียบเทยี บ และตัดสินใจเลอื กขอ้ มูลท่ีจาเป็น

ภายใต้เง่อื นไขและทรพั ยากรทมี่ อี ยู่ นาเสนอ แนว

ทางการแกป้ ัญหาให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจ วางแผน ขนั้ ตอน

การทางานและดาเนนิ การแก้ปัญหา อยา่ งเปน็

ข้นั ตอน

ม.3 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์

เปรยี บเทียบ และตัดสินใจเลือกขอ้ มูลที่จาเป็น

ภายใต้เงือ่ นไขและทรัพยากรทม่ี อี ยู่ นาเสนอ แนว

ทางการแก้ปญั หาให้ผูอ้ นื่ เขา้ ใจด้วยเทคนิค หรอื

วธิ กี ารที่หลากหลาย วางแผนขนั้ ตอน การทางาน

และดาเนนิ การแกป้ ญั หาอยา่ งเป็น ข้ันตอน

ม.4 5. ใช้ความรู้และทักษะเก่ียวกบั วสั ดอุ ปุ กรณ์

เคร่อื งมอื กลไก ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ และ

เทคโนโลยที ่ีซับซอ้ นในการแกป้ ญั หา หรอื พฒั นางาน

ได้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั

ม.5 - --

ม.6 - --

11

ลาดับการเรยี นรทู้ ี่ 12 ตรวจสอบความถูกตอ้ งทางวิชาการด้านพฤกษศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสงิ่ ไม่มชี ีวิต กบั ส่ิงมีชีวิต และ

ความสัมพนั ธ์ระหว่างสง่ิ มีชวี ิตกบั ส่ิงมีชวี ิตตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลังงาน การ
เปลยี่ นแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมาย ของประชากร ปัญหาและผลกระทบทีม่ ีตอ่
ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการ
แก้ไขปัญหาส่งิ แวดล้อม รวมทงั้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ช้ัน ตวั ชีว้ ัด งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

องคป์ ระกอบท/่ี 3 สาระ ลาดบั การเรียนรทู้ ี่

,ม.1 - --

ม.2 - --

ม.3 - --

ม.4 4. สบื คน้ ข้อมลู และอภปิ รายเกี่ยวกับ องคป์ ระกอบท่ี 1 12 ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ปญั หาและ ผลกระทบท่มี ีตอ่ ทางวชิ าการด้าน

ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดล้อม พฤกษศาสตร์

พรอ้ มท้ังนาเสนอแนวทางในการ อนุรักษ์

ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปัญหา

สิ่งแวดลอ้ ม

ม.5 - --

ม.6 - --

12

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลง อยา่ งรวดเร็ว

ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา
หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวติ สงั คม และสิง่ แวดลอ้ ม

ชัน้ ตัวชี้วัด งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น

ม.1 5. ใช้ความรแู้ ละทักษะเก่ยี วกับวสั ดุ องค์ประกอบท่ี ลาดบั การเรยี นรทู้ ี่
อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื กลไก ไฟฟา้ หรือ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เพื่อแก้ปญั หาได้อยา่ ง 1 12 ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย ทางวิชาการด้าน

ม.2 5. ใชค้ วามรู้และทกั ษะเกี่ยวกับวสั ดุ พฤกษศาสตร์
อุปกรณ์ เครื่องมอื กลไก ไฟฟา้ และ
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เพ่อื แกป้ ญั หาหรอื พัฒนา
งานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม และ
ปลอดภยั

ม.3 5. ใชค้ วามรแู้ ละทกั ษะเกยี่ วกับวสั ดุ
อปุ กรณ์ เครื่องมอื กลไก ไฟฟา้ และ
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ให้ถูกตอ้ งกับลักษณะของ
งาน และปลอดภัย เพ่ือแก้ปัญหาหรอื
พฒั นางาน

ม.4 5. ใชค้ วามรู้และทักษะเกี่ยวกบั วสั ดุ
อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื กลไก ไฟฟ้าและ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ และเทคโนโลยีที่ซบั ซอ้ นใน
การแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน ได้อยา่ ง
ถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั

ม.5 1. ประยุกต์ใช้ความรแู้ ละทักษะจาก
ศาสตร์ต่าง ๆ รวมทัง้ ทรพั ยากรในการทา
โครงงานเพ่ือแกป้ ญั หา หรือพัฒนางาน

ม.6 -

13

องคป์ ระกอบที่ 2 การรวบรวมพรรณไม้เขา้ ปลกู ในโรงเรียน

กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบตั ขิ องส่ิงมชี วี ิต หน่วยพ้นื ฐานของสิ่งมชี วี ิต การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์

ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์
กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ี ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธ์กัน
รวมท้ังนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์

ช้นั ตัวช้ีวดั งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

,ม.1 8. ตระหนักในคุณค่าของพืชที่มตี อ่ องค์ประกอบท่ี ลาดับการเรยี นรู้ท่ี
สิ่งมชี วี ติ และ สิ่งแวดล้อม โดยการรว่ มกัน
ปลูกและดูแลรักษา ตน้ ไมใ้ นโรงเรยี นและ 2 8.ปลูกพรรณไม้เพ่ิมเตมิ
ชุมชน - 9. ศึกษาพรรณไม้หลงั การ
14. อธบิ ายความสาคัญของธาตุอาหาร
บางชนดิ ทม่ี ีผลตอ่ การเจริญเติบโต และ - ปลูก
การดารงชวี ิตของพืช
15. เลือกใชป้ ยุ๋ ท่ีมีธาตุอาหารเหมาะสมกับ --
พืชใน สถานการณ์ทีก่ าหนด --

ม.2 -
ม.3 -
ม.4 8. ทดสอบ และบอกชนดิ ของสารอาหาร

ท่ีพชื สงั เคราะหไ์ ด้
10. ออกแบบการทดลอง ทดลอง และ
อธบิ าย เกย่ี วกบั ปัจจัยภายนอกทม่ี ีผลตอ่
การ เจรญิ เติบโตของพชื
11. สบื ค้นขอ้ มลู เกี่ยวกับสารควบคมุ การ
เจรญิ เติบโตของพืชทม่ี นุษยส์ ังเคราะห์ข้นึ
และยกตวั อย่างการนามาประยกุ ตใ์ ช้
ทางด้าน การเกษตรของพ
12. สงั เกต และอธิบายการตอบสนองของ
พืชตอ่ สง่ิ เร้าในรูปแบบตา่ ง ๆ ท่ีมีผลตอ่
การดารงชวี ติ
ม.5 -
ม.6 -

14

องคป์ ระกอบที่ 3 การศกึ ษาข้อมลู ดา้ นตา่ ง ๆ
ลาดบั การเรียนร้ทู ี่1

ศกึ ษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น (ก.7-003) ครบตามทะเบียนพรรณไม้
(กลุม่ ละ 1 ต้น ชอ่ื กลมุ่ ....(ตามรหัสพรรณไม้)...

ช้นั ตวั ช้วี ดั /ขนั้ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

ม.1 ว 1.2 ม.1/2,8 องค์ประกอบที่ ลาดบั การเรยี นรทู้ ่ี
ว 4.1 ม.1/3,5
3 1.ศึกษาพรรณไมใ้ น
ม.2 ว 4.1 ม.2/3
ม.3 ว 1.1 ม.3/1 สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

ว 4.1 ม.3/3 (ก 7-003) ครบตามทะเบยี น
ม.4 ว 1.1 ม. 4/4,8-12
พรรณไม้
ว 4.1 ม.4/5
ม.5 1.1.มีส่วนร่วมของผู้ศกึ ษา
ม.6
1.2 ศกึ ษาข้อมลู พนื้ บา้ น

1.3 ศึกษาขอ้ มลู พรรณไม้

(หน้าท่ี 2–7)

1.4 สรุปลักษณะและขอ้ มลู

พรรณไม้

1.5 สืบคน้ ขอ้ มลู พฤกษศาสตร์

(หนา้ ท่ี 9)
1.6 บนั ทกึ ข้อมลู เพ่มิ เตมิ

(หน้าท่ี 10)

1.7 ตรวจสอบผลงานเปน็ ระยะ

1.8 ความเปน็ ระเบยี บ

ความต้ังใจ

15

ลาดับการเรยี นรู้ท่ี 2 ศึกษาพรรณไมท้ ี่สนใจ

กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสงิ่ มีชีวติ หนว่ ยพ้ืนฐานของสิง่ มีชวี ติ การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์

ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าทีข่ องระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์

กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหนา้ ที่ ของอวยั วะต่าง ๆ ของพืชทีท่ างานสัมพนั ธ์กนั

รวมท้งั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ช้ัน ตวั ชี้วดั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น

องคป์ ระกอบที่ ลาดบั การเรยี นรู้ที่

ม.1 1. เปรียบเทียบรูปร่าง ลักษณะ และ 3 2 ศึกษาพรรณไม้ที่สนใจ

โครงสร้าง ของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ 2.1 ศึกษาลักษณะ

รวมทั้งบรรยายหน้าท่ี ของผนังเซลล์เย่ือ ภายนอก ภายในของพืชแต่

หุ้มเซลล์ไซโทพลาซึม นิวเคลียส แวคิว ละสว่ นโดยละเอยี ด

โอล ไมโทคอนเดรีย และคลอโรพลาสต 2.2 กาหนดเรอื่ งทีจ่ ะ

2. ใช้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงศึกษาเซลล์ เรียนร้ใู นแตล่ ะสว่ นของพชื

และโครงสร้างตา่ ง ๆ ภายในเซลล์ 2.3 เรียนร้แู ต่ละเรอ่ื ง แต่

3. อธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งรูปร่าง กับ ละส่วนขององค์ประกอบ

การทาหนา้ ท่ีของเซลล์ ย่อย

6. ระบุปัจจัยท่ีจาเป็นในการสังเคราะห์ 2.4 นาข้อมูลมา

ด้วยแสง และผลผลิตท่ีเกิดข้ึนจากการ เปรียบเทียบความตา่ งในแต่

สังเคราะห์ด้วยแสง โดยใช้หลักฐานเชิง ละเรอ่ื ง ในชนดิ เดยี วกัน

ประจักษ

ม.2 -

ม.3 -

ม.4 1. อธิบายโครงสรา้ งและสมบัตขิ องเยือ่ หุม้

เซลลท์ ่ี สมั พนั ธ์กบั การลาเลียงสาร และ

เปรียบเทียบ การลาเลียงสารผ่านเยอื่ หุ้ม

เซลลแ์ บบต่าง ๆ

ม.5 -

ม.6 -

16

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม สารพนั ธกุ รรม

การเปล่ยี นแปลงทางพันธุกรรมที่มผี ลตอ่ สิง่ มีชีวิต ความหลากหลาย ทางชวี ภาพและ
ววิ ัฒนาการของส่ิงมีชวี ิต รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ช้นั ตวั ชว้ี ดั งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

ม.1 - องค์ประกอบท่ี ลาดับการเรยี นรูท้ ี่
ม.2 -
ม.3 9. เปรียบเทียบความหลากหลายทาง --

ชวี ภาพ ในระดบั ชนิดสิง่ มชี ีวิตในระบบ --
นิเวศตา่ ง ๆ
10. อธบิ ายความสาคญั ของความ 3 2 ศึกษาพรรณไม้ทีส่ นใจ
หลากหลายทาง ชวี ภาพทมี่ ตี ่อการรกั ษา 2.1 ศกึ ษาลกั ษณะ
สมดุลของระบบนิเวศ และตอ่ มนษุ ย์
11. แสดงความตระหนักในคณุ ค่าและ ภายนอก ภายในของพชื แต่
ความสาคัญ ของความหลากหลายทาง ละสว่ นโดยละเอยี ด
ชีวภาพ โดยมีสว่ นรว่ ม ในการดแู ลรักษา 2.2 กาหนดเรอ่ื งที่จะ
ความหลากหลายทางชวี ภาพ เรยี นรู้ในแตล่ ะส่วนของพชื
ม.4 4. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย และยกตวั อยา่ ง
ความหลากหลายของส่งิ มชี ีวิต ซ่งึ เปน็ ผล 2.3 เรยี นรูแ้ ตล่ ะเร่อื ง แต่
มาจากวิวฒั นาการ ละส่วนขององค์ประกอบ
ม.5 - ยอ่ ย
ม.6 - 2.4 นาขอ้ มูลมา
เปรยี บเทียบความต่างในแต่
ละเรอ่ื ง ในชนิดเดียวกนั

--
--

17

องคป์ ระกอบที่ 4 การรายงานผลการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ัน ตัวชี้วัด งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

ม.1 องค์ประกอบที่ ลาดับการเรยี นรูท้ ี่
ม.2
ม.3 4 1.รวบรวมผลการเรยี นรู้
ม.4-ม.6 2. คดั แยกสาระสาคัญ และจดั ให้เปน็
หมวดหมู่
2.1 วเิ คราะห์เรยี บเรียงสาระ
2.2 จัดระเบียบขอ้ มูลสาระแตล่ ะ
ด้าน
2.3 จดั ลาดบั สาระหรอื กลุ่มสาระ
3. สรุปและเรียบเรียง
4. เรยี นรู้รปู แบบการเขยี นรายงาน

4.1 แบบวิชาการ
4.2 แบบบูรณาการ

4.2.1 บูรณาการกลุ่มสาระ
4.2.2 บูรณาการแหง่ ชีวติ

5. กาหนดรูปแบบการเขียนรายงาน
6. เรยี นรู้วธิ กี ารรายงานผล

6.1 เอกสาร
6.2 บรรยาย
6.3 ศิลปะ
6.4 นิทรรศการ
7. กาหนดวิธกี ารรายงานผล

18

องค์ประกอบที่ 5 การนาไปใชป้ ระโยชนท์ างการศกึ ษา
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ัน ตวั ชี้วดั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

ม.1 องค์ประกอบท่ี ลาดับการเรียนรูท้ ี่
ม.2
ม.3 5 1. นาสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ม.4-ม.6 บรู ณาการสู่การเรยี นการสอน

1.1 การเขยี นแผนการสอน ฯ
1.2 จดั เกบ็ ผลการเรยี นรู้
2. เผยแพร่องคค์ วามรู้

2.1 บรรยาย

2.1.1 สนทนา
2.1.2 เสวนา
2.1.3 สมั มนา/อภิปราย
2.2 จัดแสดง
3. จัดสรา้ งแหลง่ เรยี นรู้

3.1 จดั แสดงพิพิธภณั ฑ์
3.2 จัดแสดงพิพิธภัณฑ์เฉพาะเร่อื ง
3.3 จดั แสดงพิพิธภัณฑธ์ รรมชาติ

วิทยา
4. ใช้ ดูแลรกั ษา และพัฒนาแหลง่
เรียนรู้

19

สาระการเรียนรู้ ธรรมชาตแิ หง่ ชวี ติ

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิง่ มชี วี ิต หน่วยพืน้ ฐานของส่ิงมีชวี ติ การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์

ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าทข่ี องระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนษุ ย์ที่ทางานสัมพันธ์
กนั ความสัมพันธข์ องโครงสร้างและหนา้ ที่ของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพนั ธ์กนั
รวมทง้ั นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ช้ัน ตวั ชวี้ ดั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

สาระการเรยี นรู้ ลาดับการเรียนรทู้ ี่

ม.1 1. เปรียบเทยี บรูปรา่ ง ลักษณะ และ ธรรมชาตแิ ห่งชีวิต 1. สัมผสั เรยี นรูว้ งจรชีวติ
โครงสรา้ งของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ ของชีวภาพ
รวมท้ังบรรยายหนา้ ที่ของผนงั เซลล์เยื่อ 1.1 ศึกษาด้านรปู ลักษณ์

ห้มุ เซลล์ไซโทพลาซึมนิวเคลียส แวควิ โอล 1.2 ศึกษาดา้ นคณุ สมบตั ิ
ไมโทคอนเดรีย และคลอโรพลาสต์ 1.3 ศึกษาด้านพฤติกรรม
2. ใช้กลอ้ งจลุ ทรรศนใ์ ชแ้ สงศึกษาเซลล์ 2. เปรยี บเทยี บการ
และโครงสร้างต่าง ๆ ภายในเซลล์ เปลี่ยนแปลงและความ

17. อธบิ ายความสาคญั ของเทคโนโลยี แตกตา่ ง
การเพาะเล้ยี งเน้ือเย่อื พืชในการใช้ 2.1 รปู ลักษณ์กบั รูปกาย
ประโยชน์ ตน
ด้านตา่ ง ๆ 2.2 คุณสมบตั กิ ับ

ม.2 สมรรถภาพของตน
2.3 พฤตกิ รรมกับจติ
ม.3 อารมณ์และพฤติกรรมของ
ตน
ม.4 8. ทดสอบ และบอกชนิดของสารอาหาร 3. สรปุ องคค์ วามรูท้ ไี่ ดจ้ าก
ทพ่ี ืชสังเคราะห์ได้ การศกึ ษาธรรมชาติแห่ง
9. สบื คน้ ขอ้ มลู อภปิ ราย และยกตัวอยา่ ง ชีวติ
เกย่ี วกบั การใช้ประโยชนจ์ ากสารต่าง ๆ ท่ี 4. สรปุ แนวทางเพอ่ื นาไปสู่
พืชบางชนิดสรา้ งขน้ึ การประยุกตใ์ ช้ในการ

ดาเนินชีวติ

ม.5 - --

ม.6 - --

20

สาระการเรียนร้สู รรพสิง่ ล้วนพนั เก่ยี ว

กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชวี ิต หนว่ ยพ้นื ฐานของสง่ิ มีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์

ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องระบบต่าง ๆ ของสตั ว์และมนษุ ย์ท่ที างานสัมพันธ์

กัน ความสมั พันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ี ของอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ทที่ างานสัมพนั ธ์กนั

รวมทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชัน้ ตวั ช้ีวัด งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

สาระการเรยี นรู้ ลาดบั การเรียนรู้ท่ี

ม.1 13. ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของสัตว์ท่ี สรรพส่ิงล้วนพนั เก่ียว 1. รวบรวมองคค์ วามรทู้ ่ไี ดจ้ าก

ชว่ ยในการ ถ่ายเรณูของพชื ดอก โดยการ การเรียนรู้ธรรมชาติแห่งชวี ิต

ไมท่ าลายชีวติ ของสตั ว์ท่ีช่วยในการถา่ ย 2. เรียนร้ธู รรมชาติของปจั จัย

เรณู ชวี ภาพอนื่ ที่เขา้ มาเก่ียวข้องกับ
ปัจจัยหลกั
ม.2 - 2.1 เรยี นร้ดู า้ นรูปลกั ษณ์
คุณสมบตั ิ พฤติกรรม
ม.3 2.2 สรุปผลการเรียนรู้
3. เรยี นรธู้ รรมชาตขิ องปจั จยั
ม.4 8. ทดสอบ และบอกชนิดของสารอาหาร กายภาพ (ดิน น้า แสง อากาศ)
ที่พชื สังเคราะหไ์ ด้
9. สบื คน้ ขอ้ มลู อภปิ ราย และยกตวั อย่าง 3.1 เรียนรู้ด้านรูปลกั ษณ์
เก่ียวกบั การใช้ประโยชนจ์ ากสารต่าง ๆ ที่ คณุ สมบัติ
พชื บางชนิด สรา้ งขึ้น 3.2 สรุปผลการเรียนรู้
10. ออกแบบการทดลอง ทดลอง และ 4. เรียนรธู้ รรมชาตขิ องปัจจยั อนื่
อธิบาย เก่ียวกับปจั จยั ภายนอกทม่ี ผี ลตอ่ ๆ (ปจั จยั ประกอบ เช่น วัสดุ
การ เจริญเติบโตของพืช อุปกรณ์ อาคารสถานท่ี)
11. สบื คน้ ขอ้ มลู เก่ียวกับสารควบคมุ การ 5. เรียนรู้ธรรมชาติของความพัน
เจรญิ เติบโตของพชื ท่มี นุษย์สังเคราะห์ขึ้น เก่ียวระหว่างปัจจยั
และยกตวั อย่างการนามาประยกุ ต์ใช้ 5.1 วิเคราะห์ให้เหน็
ทางด้าน การเกษตรของพืช ความสมั พันธแ์ ละสมั พนั ธภาพ
๑๒. สงั เกต และอธิบายการตอบสนองของ 5.2 ิเคราะหใ์ หเ้ หน็ ความผูกพนั
พชื ตอ่ สิ่งเรา้ ในรูปแบบตา่ ง ๆ ท่ีมผี ลตอ่ 6. สรุปผลการเรียนรู้ ดลุ ยภาพ
การดารงชีวิต ของความพันเก่ยี ว

ม.5 -

ม.6 -

21

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม สารพนั ธุกรรม

การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธุกรรมทม่ี ผี ลตอ่ สิ่งมชี ีวิต ความหลากหลาย ทางชวี ภาพและ

วิวฒั นาการของสิง่ มีชวี ิต รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชนั้ ตวั ช้วี ัด งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

สาระการเรียนรู้ ลาดบั การเรียนรทู้ ่ี

ม.1 สรรพสิง่ ลว้ นพันเกยี่ ว 1. รวบรวมองคค์ วามรู้ทไ่ี ด้

ม.2 - จากการเรียนรู้ธรรมชาติ
แห่งชวี ิต
ม.3 9. เปรยี บเทยี บความหลากหลายทาง 2. เรียนรู้ธรรมชาตขิ อง
ชีวภาพ ในระดับชนดิ ส่ิงมชี วี ติ ในระบบ ปัจจยั ชวี ภาพอื่นท่ีเขา้ มา
นิเวศต่าง ๆ เกย่ี วข้องกบั ปัจจัยหลกั
10. อธิบายความสาคญั ของความ 2.1 เรยี นร้ดู า้ นรปู ลักษณ์
หลากหลายทาง ชีวภาพทีม่ ตี อ่ การรกั ษา คุณสมบตั ิ พฤตกิ รรม
สมดุลของระบบนเิ วศ และต่อมนษุ ย์ 2.2 สรปุ ผลการเรียนรู้
11. แสดงความตระหนักในคณุ ค่าและ 3. เรยี นรู้ธรรมชาตขิ อง
ความสาคญั ของความหลากหลายทาง ปัจจยั กายภาพ (ดิน น้า
ชีวภาพ โดยมสี ่วนรว่ ม ในการดแู ลรักษา แสง อากาศ)
ความหลากหลายทางชีวภาพ
3.1 เรยี นรดู้ ้านรูปลักษณ์
ม.4 4. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ าย และยกตวั อย่าง คณุ สมบตั ิ
ความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ติ ซ่งึ เป็น ผล 3.2 สรปุ ผลการเรียนรู้
มาจากวิวฒั นาการ 4. เรียนรธู้ รรมชาตขิ อง

ปัจจยั อนื่ ๆ (ปัจจยั

ประกอบ เช่น วัสดอุ ปุ กรณ์

อาคารสถานท่ี)

5. เรยี นรธู้ รรมชาติของ

ความพนั เกยี่ วระหวา่ ง

ปจั จยั

5.1 วิเคราะห์ให้เห็น

ความสมั พนั ธ์และ

สัมพนั ธภาพ

5.2 ิเคราะหใ์ ห้เหน็ ความ

ผกู พนั

6. สรปุ ผลการเรยี นรู้ ดุลย

ภาพของความพนั เกี่ยว

ม.5 -

ม.6 -

22

สาระการเรยี นรู้ ประโยชนแ์ ท้แก่มหาชน

กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่งิ มีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิง่ มชี ีวติ การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์

ความสัมพนั ธ์ของโครงสรา้ งและหน้าทขี่ องระบบตา่ ง ๆ ของสัตว์และมนษุ ย์ทที่ างานสัมพันธ์
กัน ความสมั พันธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ที่ทางานสัมพนั ธ์กัน
รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ชั้น ตวั ช้ีวดั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

สาระการเรียนรู้ ลาดับการเรียนรูท้ ี่

ม.1 2. ใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศนใ์ ช้แสงศึกษาเซลล์ ประโยชน์แท้แกม่ หาชน 1. เรียนรกู้ ารวิเคราะห์

และโครงสรา้ งต่าง ๆ ภายในเซลล์ ศกั ยภาพของปจั จัยศกึ ษา

17.อธบิ ายความสาคัญของเทคโนโลยี 1.1 เรียนรกู้ ารวิเคราะห์
การเพาะเล้ยี งเน้ือเยื่อพืชในการใช้ ดา้ นรูปลกั ษณ์

ประโยชนด์ ้านตา่ ง ๆ 1.2 เรยี นรกู้ ารวิเคราะห์
ดา้ นคุณสมบตั ิ
ม.2 - 1.3 เรียนรกู้ ารวิเคราะห์
ดา้ นพฤติกรรม
ม.3 - 2 เรยี นรู้ จินตนาการเหน็
คุณของศักยภาพ ของ
ม.4 9. สืบค้นข้อมลู อภปิ ราย และยกตวั อยา่ ง ปจั จัยศกึ ษา
เกี่ยวกับการใชป้ ระโยชนจ์ ากสารต่าง ๆ ท่ี
พชื บางชนิดสร้างขน้ึ 2.1 วเิ คราะหศ์ ักยภาพ
11. สบื ค้นขอ้ มลู เกย่ี วกบั สารควบคุมการ ด้านรปู ลกั ษณ์
เจรญิ เติบโตของพชื ทีม่ นษุ ยส์ ังเคราะห์ขึน้
และยกตวั อย่างการนามาประยกุ ตใ์ ช้ 2.2 เหน็ คณุ ดา้ น
ทางด้านการเกษตรของพืช คณุ สมบตั ิ

2.3 เห็นคณุ ดา้ น
พฤติกรรม

3 สรรคส์ ร้างวธิ ีการ
4 สรุปผลการเรยี นรู้

ประโยชน์แท้แก่มหาชน

ม.5 -
ม.6 -

23

ผงั มโนทัศน์รวม
5 องค์ประกอบ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น โรงเรียนบุญวาทยว์ ิทยาลัย

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ภาษาไทย คณติ ศาสตร์
ฐาน กิจกรรมเพือ่ สังคมและาธารณประโยชน์ ฐาน วรรณกรรมต้นไม้ พรรณไมว้ รรณคดี ฐาน พฤกษศาสตร์คานวณ
หนว่ ย คณติ คัดรักษพ์ รรณไม้
หน่วย การอนุรักษ์สง่ิ แวดลอ้ ม หน่วย วรรณกรรมพรรณไม้
ท 2.1,ท 3.1, ท 4.1 ค 2.1,ค 2.2,ค 3.1
กิจกรรมนักเรียน :ลกู เสือ เนตรนารีฯ ชุมนมุ องค์ประกอบที่ 1,3,4,5 องคป์ ระกอบที่ 1,3,4,5
กิจกรรมเพ่อื สังคม :ก 33930 เพื่อสังคม

องคป์ ระกอบ 1-5

โรงเรียนมาตรฐานสากล 5 องค์ประกอบ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ฐาน การจัดการเรยี นรู้แบบ B.B.L งานสวนพฤกษศาสตร์ ฐาน พืชศาสตรช์ ีววิทยาของพืช
หน่วย มหัศจรรย์พรรณพฤกษา หนว่ ย อนุรกั ษพ์ นั ธุกรรมพืช
โรงเรยี น
IS 1, IS 2 ว1.1,1.2,1.3, ว 4.1
องคป์ ระกอบท่ี 3,4,5 องคป์ ระกอบท่ี 1,2,3,4,5

ภาษาตา่ งประเทศ ก ว1.1,1.2,1.3, ว 4.1
ต 1.1,1.2,1.3,ต 3.1 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ฐาน Botanical Literature
หน่วย Botany in my school ฐาน ทรพั ยากรทอ้ งถิน่
องคป์ ระกอบท่ี 1,3,4,5 หน่วย สืบสานฮตี ฮอยพรรณไม้

ส 2.1,ส 4.3, ส 5.1,
องค์ประกอบที่ 1,3,4,5

การงานอาชีพ ศิลปะ สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ฐาน สวนสมุนไพร พรรณไมพ้ นื้ บา้ น ฐาน ศลิ ปะเพือ่ ชีวติ ฐาน สวนสุขภาพ
หนว่ ย คณุ ค่าพรรณไม้ สายใยชีวติ
หน่วย ประโยชน์หลากหลาย ศ 1.1,ศ 2.1, ศ 3.1 หนว่ ย พรรณไม้ให้ชีวติ
พรรณไม้ท้องถน่ิ พ 3.1,3.2, พ 4.1
ง 1.1,ง 2.1, องคป์ ระกอบท่ี 1,3,4,5
องคป์ ระกอบท่ี 3,4,5
องค์ประกอบที่ 1,2,3,4,5

องคป์ ระกอบท่ี 1 การจัดทาป้ายชื่อพรรณไม้

องค์ประกอบที่ 2 การรวบรวมพรรณไม้เข้าปลูกในโรงเรยี น
องค์ประกอบท่ี 3 การศกึ ษาข้อมูลด้านตา่ ง ๆ
องคป์ ระกอบที่ 4 การรายงานผลการเรียนรู้
องคป์ ระกอบท่ี 5 การนาไปใชป้ ระโยชน์ทางการศกึ ษา

24

ผงั มโนทศั น์รวม
พืชศกึ ษา งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลัย

พชื ศึกษา “งาขมี้ ้อน”

กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ภาษาไทย คณิตศาสตร์
ฐาน กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและาธารณประโยชน์ ฐาน วรรณกรรมต้นไม้ ฐาน พฤกษศาสตรค์ านวณ
หน่วย คณิตคดิ รักษ์พรรณไม้
หน่วย การอนุรักษส์ ิ่งแวดล้อม พรรณไม้วรรณคดี
กจิ กรรมนกั เรยี น :ลกู เสือ เนตรนารฯี ชุมนุม หนว่ ย เรียงรอ้ ยถ้อยความ : งาขีม้ ้อน ค 3.1
กจิ กรรมเพือ่ สังคม :ก 33930 เพ่อื สงั คม
ท 2.1 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โรงเรยี นมาตรฐานสากล ฐาน พชื ศาสตร์ชีววิทยาของพืช
ฐาน การจัดการเรียนรู้แบบ B.B.L ท 2.1 หนว่ ย อนุรักษ์พนั ธกุ รรมพืช
หน่วย มหัศจรรยพ์ รรณพฤกษา
พืชศึกษา ว 1.2,ว 1.3
IS 1, IS 2 “งาขมี้ อ้ น”
สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ภาษาตา่ งประเทศ ก ฐาน ทรัพยากรท้องถิ่น
ฐาน Botanical Literature
หน่วย Botany in my school หนว่ ย สืบสานฮตี ฮอยพรรณไม้
ส 2.1
ต 4.2

การงานอาชพี ศลิ ปะ สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ฐาน สวนสมุนไพร พรรณไม้พื้นบ้าน ฐาน สวนสุขภาพ
ฐาน ศิลปะเพอ่ื ชีวติ
หน่วย ประโยชนห์ ลากหลาย หนว่ ย คณุ ค่าพรรณไม้ สายใยชวี ิต หน่วย พรรณไมใ้ หช้ ีวติ
พรรณไม้ท้องถน่ิ พ 4.1
ง 1.1 ศ 3.1

พืชศึกษา ลาดบั การเรียนรู้
งาขีม้ อ้ น
1. การศึกษาลักษณะภายนอก ภายในของพชื แต่ละส่วนโดยละเอยี ด

คือ การพิจารณา จาแนกรปู ลกั ษณภ์ ายนอกของพืชแตล่ ะชนดิ แตล่ ะส่วนโดยละเอยี ด และพจิ ารณาแบง่
ส่วนทีจ่ ะเรียนรู้ ขององค์ประกอบยอ่ ย และกาหนดคาทีใ่ ช้เรยี กกากับ เชน่ ด้านนอก ด้านใน ดา้ นบน
ดา้ นล่าง ตอนโคนตอนกลาง ตอนปลาย สว่ นริมซ้าย สว่ นกลาง ส่วนริมขวา เปน็ ต้น

2. การกาหนดเรอื่ งท่ีจะเรียนรูใ้ นแตล่ ะส่วนของพชื

คอื พจิ ารณาพ้นื ทศ่ี ึกษาจากการวเิ คราะห์ และกาหนดเรือ่ งทจ่ี ะเรยี นรใู้ นแต่ละสว่ นของพืชศึกษา เช่น สี
ขนาด รปู ร่าง รปู ทรง ผวิ เนื้อ ฯลฯ ตวั อย่างหวั ข้อศกึ ษา

- สีของแผน่ ใบตอนโคนสว่ นรมิ ซ้าย สขี องแผ่นใบตอนโคนส่วนรมิ ขวา
- ความยาวของกา้ นชูอบั เรณู

3. การเรยี นรแู้ ต่ละเรอ่ื ง แต่ละส่วนขององคป์ ระกอบยอ่ ย

คอื การศกึ ษา สังเกต บนั ทกึ ข้อมูลดา้ นรปู ลกั ษณ์ ในแต่ละเร่อื ง แตล่ ะส่วน ของแต่ละองค์ประกอบย่อย

4. การนา่ ข้อมลู มาเปรยี บเทยี บความต่างในแต่ละเรือ่ ง ในชนิดเดียวกนั

คือ การน าผลการศกึ ษา มาวเิ คราะห์จดั กลุ่ม และเปรียบเทยี บความตา่ งในแต่ละเรอื่ ง ในชนดิ เดยี วกัน
จัดลาดบั ของผลการ ศกึ ษาจากน้อยไปมาก หรือจากมากไปนอ้ ย เพ่ือความเปน็ ระเบียบ

25

ผังมโนทัศน์ 5 องค์ประกอบ
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ฐาน พืชศาสตร์ชีววิทยาของพืช
หนว่ ย อนุรักษ์พันธกุ รรมพชื

ม.6 ม.1
องค์ประกอบ 3 องคป์ ระกอบ 1,2,3,4,5

ว 4.1 ว 1.1,1.2
ว 4.1

ม.5 5 องคป์ ระกอบ ม.2
องค์ประกอบ 3 องคป์ ระกอบ 1,2,3,4,5
งานสวนพฤกษศาสตร์
ว 4.1 โรงเรียน ว 4.1

ม.4 ลาดับการเรียนรู้ท่ี ม.3
องคป์ ระกอบ 1,2,3,4,5 องคป์ ระกอบ 1,2,3,4,5
2.สารวจพรรณไม้
ว 1.1,1.2,1.3 6.ศกึ ษาและบันทกึ ฯ ว 1.1,1.2
ว 4.1 7.บนั ทกึ ภาพและวาดภาพ ว 4.1
8.พรรณไม้แห้ง
องค์ประกอบท่ี 9.เปรียบเทยี บข้อมลู ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่
10.จัดระบบข้อมูล
1.การจดั ทาปา้ ยช่อื พรรณไม้ 12.ความถกู ตอ้ งทางวชิ าการ 1-3,4

2.การรวบรวมพรรณไม้ 1-9 1-2
3.การศึกษาขอ้ มลู ดา้ นตา่ ง ๆ 1-3,4
4.การรายงานผลการเรียนรู้ 1-2 1-6
5.การนาไปใชป้ ระโยชนท์ างการศึกษา 1-6
1-6

1-4

26

ผังมโนทศั น์ พืชศึกษา “งาขี้ม้อน”
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ฐาน พชื ศาสตร์ชีววิทยาของพชื
หน่วย อนุรักษพ์ นั ธุกรรมพชื

ม.6 ม.1
ลาดบั การเรยี นรู้ที่ 1-4 ลาดบั การเรียนรูท้ ่ี 1-4

ว 4.1 ว 1.1,1.2
ว 4.1

ม.5 พืชศึกษา ม.2
ลาดบั การเรียนรูท้ ่ี 1-4 “งาขี้มอ้ น” ลาดับการเรยี นรทู้ ี่ 1-4

ว 4.1 ว 4.1

ม.4 ม.3
ลาดับการเรียนรู้ที่ 1-4 ลาดบั การเรียนร้ทู ี่ 1-4

ว 1.1,1.2,1.3 ว 1.1,1.2
ว 4.1 ว 4.1

พชื ศกึ ษา ลาดับการเรียนรู้
งาข้ีม้อน
1. การศึกษาลักษณะภายนอก ภายในของพชื แตล่ ะสว่ นโดยละเอยี ด

คอื การพจิ ารณา จาแนกรูปลกั ษณ์ภายนอกของพชื แต่ละชนดิ แต่ละส่วนโดยละเอยี ด และพจิ ารณาแบ่ง
ส่วนทจี่ ะเรียนรู้ ขององคป์ ระกอบย่อย และกาหนดคาท่ใี ชเ้ รียกกากับ เช่น ด้านนอก ดา้ นใน ด้านบน
ดา้ นล่าง ตอนโคนตอนกลาง ตอนปลาย ส่วนรมิ ซ้าย สว่ นกลาง ส่วนรมิ ขวา เปน็ ต้น

2. การกาหนดเรอื่ งท่ีจะเรยี นร้ใู นแตล่ ะส่วนของพชื

คอื พจิ ารณาพ้ืนที่ศึกษาจากการวเิ คราะห์ และกาหนดเรื่องทีจ่ ะเรยี นรใู้ นแต่ละส่วนของพชื ศึกษา เชน่ สี
ขนาด รูปรา่ ง รูปทรง ผิว เนอ้ื ฯลฯ ตวั อยา่ งหวั ข้อศกึ ษา

- สีของแผ่นใบตอนโคนสว่ นรมิ ซา้ ย สขี องแผ่นใบตอนโคนส่วนริมขวา
- ความยาวของกา้ นชอู บั เรณู

3. การเรียนร้แู ต่ละเรอ่ื ง แตล่ ะสว่ นขององคป์ ระกอบย่อย

คือการศึกษา สงั เกต บันทกึ ข้อมูลดา้ นรูปลกั ษณ์ ในแต่ละเรอ่ื ง แต่ละสว่ น ของแต่ละองคป์ ระกอบยอ่ ย

4. การนา่ ขอ้ มลู มาเปรียบเทยี บความต่างในแตล่ ะเร่ือง ในชนดิ เดยี วกัน

คือ การนาผลการศกึ ษา มาวิเคราะห์จัดกลมุ่ และเปรยี บเทียบความตา่ งในแตล่ ะเร่ือง ในชนิดเดยี วกัน
จัดลาดับของผลการ ศกึ ษาจากนอ้ ยไปมาก หรือจากมากไปน้อย เพือ่ ความเป็นระเบียบ

27

แผนการจัดการเรยี นร้บู รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า ………รหสั ..........ชัน้ ..........ปีการศึกษา ............
หน่ายการเรยี นรู้ที่.........................เรื่อง .......................................................เวลา .......................ช่วั โมง

ชื่อหน่วยการเรยี นรู้บูรณาการ.....................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด (ผลการเรยี นรู้)

มาตรฐาน .................................................................................................................................
ตัวช้ีวดั
1. .................................................................................................................................
2. .................................................................................................................................

2. ความคดิ รวบยอด/สาระสาคัญ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. สาระการเรียนรู้

............................................................................................................................. .................................................

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

4.1 ดา้ นความรู้ (K)

4.1.1...………………………………………………………………………………………………………………….

4.1.2 ........... ………………………………………………………………………………………………………

4.2 ดา้ นทกั ษะ (P)

4.2.1 ........... ………………………………………………………………………………………………………

4.3 ด้านคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ (A)

4.3.1 ........... ………………………………………………………………………………………………………

5. มาตรฐานด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attributes )

5.1 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551

รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซือ่ สตั ย์สุจรติ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้

อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ

5.2 คุณลักษณะของผู้เรียน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

แบง่ ปนั รอบคอบ ยดึ ทางสายกลาง

5.3 คณุ ลกั ษณะของผู้เรยี น งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

อดทน ขยัน รับผดิ ชอบ เมตตากรุณา อยูร่ ว่ มกันอย่างเอื้ออาทร ซอื่ ตรง

รับฟงั ความเห็นผู้อนื่ สามคั คี มีมนุษยสมั พันธ์ เห็นคณุ ค่าตนเองและผอู้ นื่ มีสมาธิ

5.4 คณุ ลักษณะของผูเ้ รียน ตามหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

เปน็ เลศิ วิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้าหนา้ ทางความคดิ

ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลก

28

5.5 คณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี นด้านความเป็นประชาธิปไตย
รจู้ กั หนา้ ท่ี มีความรบั ผิดชอบ มีความยตุ ธิ รรม มีความเป็นส่วนตวั
อดทน อดกลั้น เสยี สละ มีจติ สาธารณะ มองโลกในแงด่ ี
5.6 คณุ ลกั ษณะของผูเ้ รยี น โครงการเพาะพันธุ์ปัญญา
คดิ อย่างมเี หตผุ ล มีการวเิ คราะห์สังเคราะห์ และคิดเป็นระบบ
มุ่งมัน่ ศึกษาค้นคว้า เรียนรูแ้ บบวิจัยทั้งในหอ้ งเรียนและนอกห้องเรียน/ชมุ ชน
มีความรบั ผิดชอบและร่วมกันรับผดิ ชอบต่อชุมชน ประเทศชาติและสังคมโลก
สามารถนาเสนอผลงานด้วยความม่นั ใจและมีเหตุผล
มคี วามเป็นนกั เรยี นรู้อย่างเข้าใจตามความเป็นจริง มคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม
6.มาตรฐานด้านการ อ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน

การอ่าน
- สามารถอา่ นเพ่ือศึกษาค้นคว้า เพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ และการประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน
- สามารถจับประเด็นสาคัญ ลาดับเหตุการณ์ จากการอ่านสอื่ ทมี่ ีความซับซ้อน

การคิดวิเคราะห์
- สามารถวิเคราะห์สงิ่ ท่ผี ู้เขียนตอ้ งการส่อื สารกบั ผู้อ่าน และสามารถวิพากษ์ ใหข้ ้อเสนอแนะ
ในแง่มมุ ตา่ ง ๆ
- สามารถประเมนิ ความน่าเชื่อถอื คุณค่า แนวคดิ ที่ได้จากส่งิ ทอ่ี ่านอย่างหลากหลาย

การเขยี น
- สามารถเขยี นแสดงความคิดเหน็ โต้แยง้ สรุป โดยมีข้อมูลอธบิ ายสนบั สนนุ อยา่ งเพยี งพอและ

สมเหตสุ มผล
7. มาตรฐานดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

ความสามารถในการสื่อสาร
- การรับและส่งสาร
- วัฒนธรรมในการใช้ภาษา
- การเลือกใช้และบรู ณาการส่ือ หรือเครื่องมือท่ีหลากหลายเพ่อื การถ่ายทอด
แลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สกึ และทัศนะของตนเอง

ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดอย่างสรา้ งสรรค์ คิดอย่างมวี ิจารณญาณ
และคดิ เป็นระบบ
- การวางแผนในการทางานอย่างเปน็ ระบบ
- การสร้างองค์ความรู้ หรอื สารสนเทศเพื่อการตดั สนิ ใจเกย่ี วกับตนเองและสงั คม

ความสามารถในการแกป้ ญั หา
- การเขา้ ใจความสัมพันธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในสงั คม
- การแสวงหาความรู้ ประยุกต์ความร้มู าใช้ในการป้องกนั และแก้ไขปัญหาได้
- การใชเ้ หตุผล คณุ ธรรม และข้อมูลสารสนเทศ ประกอบการตดั สินใจ

29

ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
- การตดิ ตอ่ สอื่ สารและสร้างความสัมพนั ธก์ ับบุคคลอ่ืนในเชิงบวกและทางาน
- ความรบั ผิดชอบในหนา้ ทใี่ นฐานะเปน็ สมาชิกในสงั คม
- การปรบั ตัวให้ทนั กับความเปลยี่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม
- ความสามารถในการเผชิญหน้ากบั สถานการณท์ ่ีเปน็ ปญั หา
- การหลกี เลยี่ งพฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์

ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- การใชเ้ ทคโนโลยใี นการศึกษาค้นควา้ เพื่อการพัฒนาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรยี นรู้
- การสอื่ สาร การทางาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์
- การเลือกใชเ้ ทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆ ในการสร้างสรรคช์ ิ้นงาน
- การอ้างอิงแหล่งข้อมลู ทไ่ี ด้จากการสบื คน้ ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
- การวิเคราะห์ และเลือกใชส้ ่ือได้เหมาะสมกับวัย

8. การบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน อยู่ในกรอบที่ 3 กรอบการสร้างจิตสานึก กิจกรรมที่ 7 กิจกรรมสร้าง

จิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร ของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริ สมเด็จ
พระเทพรัตนราชสดุ าฯสยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) โดยมีวัตถุประสงค์ คือ “เพื่อสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์
พันธุกรรมพืชและทรัพยากร” การดาเนินงานด้านการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ พืชศึกษา
และ 3 สาระการเรยี นรู้

8.1 5 องค์ประกอบ
การดาเนนิ งานตาม 5 องค์ประกอบ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
1. การจดั ทาปา้ ยช่อื พรรณไม้
2. การรวบรวมพรรณไม้เข้าปลกู ในโรงเรยี น
3 การศึกษาข้อมลู ด้านต่างๆ
4 การรายงานผลการเรียนรู้
5 การนาไปใชป้ ระโยชนท์ างการศึกษา

30

8.2 พชื ศึกษา : งาขี้ม้อน
8.2.1 ศึกษาลักษณะภายนอก
1. ราก
2. ลาตน้
3 ใบ
4. ดอก
5. ผล
6 เมลด็
8.2.2 การศกึ ษาลกั ษณะภายใน
1.การจัดเรียงตวั ของท่อลาเลียงน้าของราก
2.การจดั เรยี งตัวของท่อลาเลยี งอาหารของราก
3. การจดั เรยี งตวั ของเซลลภ์ ายในใบ

8.3 3 สาระการเรยี นรู้ (ธรรมชาตแิ หง่ ชีวิต สรรพสง่ิ ลว้ นพนั เกีย่ ว ประโยชนแ์ ทแ้ ก่มหาชน)
3 สำระกำรเรยี นรู้ของพืชศกึ ษำ
1. ธรรมชาตแิ หง่ ชวี ติ
2. สรรพส่ิงล้วนพนั เกยี่ ว
3 ประโยชน์แท้แก่มหาชน

9. ชิน้ งานหรือภาระงาน
9.1
9.2

10. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ช้นิ งานหรอื ภาระงาน

ประเด็นการ ความสามารถและทกั ษะ วิธีการวัดและประเมินผล เกณฑ์การประเมิน
ประเมนิ ผล (จดุ เน้น) วธิ ีการประเมิน เครือ่ งมือ

11. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ขน้ั จัดกิจกรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ขน้ั สรุป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12. สื่อการเรยี นรู/้ แหล่งการเรยี นรู้ 31
12.1 สื่อการเรียนรู้
1. ควรปรับปรงุ
2. (1 คะแนน)
12.2 แหลง่ เรยี นรู้
1.สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลัย

13. เกณฑ์การประเมนิ ความร/ู้ ทักษะกระบวนการ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์

คำอธบิ ำยคุณภำพ (Rubric)

รายการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้
ความรู้ (K) ( 4คะแนน)
(3 คะแนน) (2คะแนน)

ทกั ษะ /กระบวนการ(P)

คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์
(A)

แบบประเมินกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์ และเขียน 32

ทักษะ การอา่ น การคดิ วิเคราะห์ การเขยี น
คะแนน
แสดงความรูข้ องเร่อื งที่อ่าน จบั วิเคราะห์ วิพากษ์ ให้ขอ้ เสนอแนะ เขียนได้ถกู ต้อง แสดงความ
4 ประเดน็ สาคญั ลาดับเหตุการณ์ ในแงม่ ุมต่าง ๆ ของเรอื่ งที่อ่านได้ คดิ เห็น โตแ้ ยง้ อธบิ าย
จากเรอ่ื งทอ่ี ่านได้ชดั เจนสมบูรณ์ ชดั เจนสมบรู ณ์ สนบั สนุน เพียงพอและ
3 สมเหตุสมผล
แสดงความร้ขู องเรอ่ื งทอ่ี า่ น จับ วิเคราะห์ วิพากษ์ ให้ข้อเสนอแนะ
2 ประเด็นสาคญั ลาดับเหตกุ ารณ์ ในแง่มุมต่าง ๆ ของเรอ่ื งทอี่ า่ นไม่ เขยี นไดถ้ ูกต้อง แสดงความ
จากเรอ่ื งทอี า่ นไม่ชดั เจนสมบูรณ์ ชัดเจน ไมส่ มบรู ณเ์ ล็กน้อย คิดเห็น โต้แยง้ อธิบาย
1 เลก็ นอ้ ย สนบั สนุน ไม่เพยี งพอและไม่
แสดงความรขู้ องเรือ่ งทอี่ ่าน จับ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ ใหข้ อ้ เสนอแนะ สมเหตสุ มผลเลก็ น้อย
ประเด็นสาคญั ลาดับเหตุการณ์ ในแง่มมุ ต่าง ๆ ของเรอ่ื งที่อา่ นไม่
จากเรือ่ งท่อี ่านไมช่ ัดเจน ไม่ ชดั เจน ไมส่ มบรู ณ์ เขยี นได้ถูกตอ้ ง แสดงความ
สมบรู ณ์ แตม่ ีแนวโนม้ ทีด่ ี แต่มแี นวโนม้ ท่ีดี คดิ เห็น โตแ้ ยง้ อธบิ าย
สนบั สนนุ ไม่เพยี งพอและ
แสดงความรู้ของเรอ่ื งทอ่ี า่ น จับ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ ใหข้ ้อเสนอแนะ และไมส่ มเหตสุ มผล แต่มี
ประเด็นสาคญั ลาดบั เหตกุ ารณ์ ในแง่มมุ ตา่ ง ๆ ของเร่อื งท่ีอ่านไม่ แนวโน้มทีด่ ี
จากเร่อื งท่อี า่ น ไม่ชดั เจน และ ชดั เจนและไมส่ มบรู ณ์
ไมส่ มบูรณ์ เขยี นไดถ้ ูกต้อง แสดงความ
คดิ เห็น โตแ้ ยง้ อธบิ าย
สนับสนุน ไม่เพียงพอและ
และไม่สมเหตสุ มผล

33

แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน (ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร)

ตวั ชวี้ ดั 1.การใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ 2.พูดเจรจาตอ่ รอง 3.การรับหรอื ไม่รบั 4.การเลือกใชว้ ิธกี าร
คะแนน ขอ้ มลู ข่าวสาร สอ่ื สาร

3 พูดถ่ายทอดความ ความเขา้ ใจ พูดเจรจา โน้มน้าวตอ่ รอง รบั ขอ้ มลู ขา่ วสาร โดย เลอื กวธิ กี ารสอื่ สารท่ี
ดีเย่ยี ม จากสารทอ่ี ่าน ฟัง หรอื ดู ดว้ ย เพือ่ ใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อตนเอง ใช้วิจารณญาณ เหมาะสมกบั ลักษณะ
ภาษาของตนเอง พร้อม และสังคมโดยใชภ้ าษาหรอื ไตร่ตรองถึงความ ของข้อมลู ขา่ วสาร
2 ยกตัวอย่างประกอบสอดคลอ้ ง ถ้อยคาท่ีสภุ าพถูกต้อง ทาให้ นา่ เช่อื ถือ โดยคาถงึ โดยคานึงถงึ คุณภาพ
ดี กับเรอ่ื งทถ่ี ่ายทอด ผอู้ ืน่ คล้อยตามหรือปฏบิ ตั ิ ประโยชน์ต่อตนเอง และความสาเร็จของ
ตามไดท้ กุ สถานการณ์ และสังคม และ การส่ือสารทมี่ ตี ่อ
1 สามารถแนะนา ตนเอง สงั คม และ
ผ่านเกณฑ์ แหล่งข้อมลู ข่าวสารแก่ ประเทศชาติ
ผ้อู ่นื ได้
0
ปรับปรงุ พดู ถา่ ยทอดความ ความเขา้ ใจ พดู เจรา โนม้ น้าวต่อรอง รับขอ้ มลู ข่าวสาร โดย เลือกวิธกี ารส่ือสารท่ี
จากสารทอ่ี ่าน ฟงั หรือ ดู ด้วย เพ่ือให้เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเอง ใชว้ จิ ารณญาณ เหมาะสมกบั ลักษณะ
ภาษาของตนเอง พร้อม และสังคมโดยใชภ้ าษาหรือ ไตร่ตรองถงึ ความ ของข้อมูลขา่ วสาร
ยกตวั อย่างประกอบแตไ่ ม่ ถอ้ ยคาที่สภุ าพถกู ต้อง ทาให้ ถกู ต้องและน่าเชอ่ื ถือ โดยคานงึ ความสาเร็จ
สอดคลอ้ งกบั เร่อื งท่ถี า่ ยทอด ผอู้ นื่ คล้อยตามหรอื ปฏิบตั ิ และประโยชนต์ อ่ ของการส่ือสารท่มี ตี อ่
ตามไดบ้ างสถานการณ์ ตนเองและสังคม ตนเอง สังคม
ประเทศชาติ

พูดถ่ายทอดความ ความเขา้ ใจ พูดเจรา โน้มนา้ วตอ่ รอง รบั ขอ้ มูลข่าวสาร โดย เลอื กวธิ ีการส่ือสารท่ี
จากสารทอ่ี ่าน ฟัง หรอื ดู ดว้ ย เพ่อื ให้เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเอง ใช้วจิ ารณญาณ เหมาะสมกบั ลกั ษณะ
ภาษาของตนเอง โดยใชภ้ าษาหรอื ถอ้ ยคาทที่ า ไตรต่ รองถงึ ความ ของข้อมูลขา่ วสาร
ให้ผอู้ น่ื คล้อยตามหรือปฏบิ ัติ ถูกต้องและน่าเชอ่ื ถอื
ตาม

พดู ถ่ายทอดความ ความเขา้ ใจ พดู เจรา โน้มน้าวต่อรอง รับข้อมลู ข่าวสาร โดย ไม่สามารถเลือกใช้
จากสารทอี่ า่ น ฟัง หรือ ดู ตาม เพอ่ื ให้ผู้อ่ืนคลอ้ ยตาม ไม่ใชว้ จิ ารณญาณ วธิ ีการสื่อสารให้
แบบ หรือปฏบิ ตั ิตามไม่ได้ หรือพดู ไตร่ตรองความถูกต้อง เหมาะสมกบั ลกั ษณะ
เจรจาต่อรองด้วยภาษาท่ีไม่ และน่าเชือ่ ถือ ของข้อมลู ขา่ วสาร
สุภาพ

34

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ประการ
ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ งทีต่ รง
คาชแี้ จง :

กับระดบั คะแนน

คุณลกั ษณะ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั คะแนน 0
อันพงึ ประสงคด์ ้าน 321 0
0
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ พฤตกิ รรมบ่งชต้ี าม ข้อ 1.1 – 1.4 0

1.1 เปน็ พลเมืองดีของชาติ ดเี ยีย่ ม (3)
1.2 ธารงไวซ้ ึง่ ความเป็นชาติไทย เข้าร่วมกิจกรรมหน้าเสาธงร้อยละ 80 ขึน้ ไป
1.3 ศรทั ธา ยึดม่ัน และปฏิบัติ ดี (2)
ตนตามหลกั ของศาสนา
1.4 เคารพเทิดทูนสถาบัน เข้ารว่ มกิจกรรมหน้าเสาธงรอ้ ยละ 60 -- 79
พระมหากษตั ริย์ ผา่ น (1)
เข้ารว่ มกิจกรรมหน้าเสาธงรอ้ ยละ 50 - 59

ไมผ่ า่ น (0)
ไม่เขา้ ร่วมกิจกรรมหน้า เสาธง หรอื เข้าร่วมกิจกรรมต่ากว่ารอ้ ยละ 50

2. ซือ่ สัตย์ สุจริต พฤตกิ รรมบง่ ชี้ตามข้อ 2.1 – 2.2 321

2.1 ประพฤตติ รงตามความเปน็ ดีเยย่ี ม (3)
จริงตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใหข้ ้อมลู ทีถ่ ูกตอ้ งและเปน็ จรงิ ไมน่ าสิง่ ของและผลงานของผู้อนื่ มาเป็นของตนเอง ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผู้อ่ืน
ใจ ด้วยความซือ่ ตรง เป็นแบบอยา่ งทดี่ ีด้านความซ่ือสตั ย์
2.2 ประพฤตติ รงตามความเปน็ ดี (2)
จรงิ ตอ่ ผูอ้ ่นื ทัง้ ทางกาย วาจา ใจ
ให้ข้อมลู ทีถ่ ูกตอ้ งและเปน็ จรงิ ไมน่ าสิ่งของและผลงานของผอู้ น่ื มาเปน็ ของตนเอง ปฏิบัติตนต่อ

ผู้อนื่ ดว้ ยความซ่อื ตรง
ผ่าน (1)
ให้ข้อมูลทีถ่ กู ตอ้ งและเป็นจริง ไมน่ าส่งิ ของและผลงานของผ้อู น่ื มาเปน็ ของตนเอง

ไม่ผา่ น (0)
ไม่ให้ข้อมลู ทถ่ี กู ต้องและเปน็ จรงิ มพี ฤติกรรมนาสิง่ ของและผลงานของผู้อน่ื มาเปน็ ของตนเอง

3. มีวินัย พฤตกิ รรมบ่งชตี้ ามข้อ 3.1 321

3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง ดเี ยีย่ ม (3)
กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของ ปฏิบตั ติ นตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของโรงเรยี น และ ไม่ละเมิดสทิ ธิของผอู้ นื่ ตรง
ครอบครวั โรงเรยี น และสังคม ต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมและรบั ผิดชอบในการทางาน
ดี (2)

ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและ
รบั ผิดชอบในการทางาน

ผา่ น (1)
ปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของโรงเรียน ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติ
กิจกรรม

ไมผ่ า่ น (0)
ไมป่ ฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของโรงเรยี น และไม่ตรงต่อเวลาในการ
ปฏบิ ตั ิกิจกรรม

4. ใฝเ่ รียนรู้ พฤติกรรมบง่ ชี้ตามขอ้ 4.1-4.2 321

4.1 ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการ ดีเยีย่ ม (3)
เรียน และเข้าร่วมกิจกรรมการ เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรยี น เอาใจใสใ่ นการเรยี น และมีส่วนรว่ มในการเรียนรู้ และเข้าร่วม
เรยี นรู้
กจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียนเป็นประจา
4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ ดี (2)
เรยี นรูต้ ่างๆ ทง้ั ภายในและ เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ในการเรียน และมสี ว่ นร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วม
ภายนอกโรงเรยี น ด้วยการ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ บ่อยครั้ง
เลอื กใช้สอื่ อย่างเหมาะสม ผา่ น (1)
บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเปน็ เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรยี น เอาใจใสใ่ นการเรียน และมีส่วนรว่ มในการเรียนรู้ และเขา้ ร่วม
องค์ความรู้ แลกเปล่ยี นเรียนรู้
กจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ เป็นบางครงั้
และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ ไมผ่ า่ น (0)
ไมต่ ้ังใจเรียนไม่ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้

35

5. อยู่อย่างพอเพยี ง พฤติกรรมบ่งชตี้ ามข้อ 5.1-5.2 3210

5.1 ดาเนินชวี ิตอย่าง ดีเยยี่ ม (3)

พอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเองและทรัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ เก็บรกั ษาดแู ลอย่างดี ไม่
มคี ณุ ธรรม
เอาเปรยี บผอู้ ืน่ และไม่ทาใหผ้ อู้ นื่ เดือดรอ้ นใชค้ วามรูข้ ้อมลู ข่าวสารในการ วางแผนการเรียน การ
5.2 มีภูมคิ ุม้ กันในตวั ที่ดี ปรับตวั ทางาน และใช้ในชีวิตประจาวัน
เพอื่ อยู่ในสังคมได้อย่างมี
ดี (2)
ความสขุ
ใช้ทรัพย์สนิ ของตนเองและทรพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า เกบ็ รักษาดแู ลอย่างดี ไม่

เอาเปรียบผู้อน่ื ใชค้ วามรู้ข้อมลู ข่าวสารในการ วางแผนการเรยี น และการทางาน

ผ่าน (1)

ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเองและทรพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า เกบ็ รกั ษาดูแลอย่างดี

ไมผ่ า่ น (0)

ใชเ้ งินและของใช้ส่วนตวั และสว่ นรวมอย่างไม่ประหยดั ไมม่ กี ารวางแผนการเรยี นและการใช้

ชีวิตประจาวัน

6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน พฤตกิ รรมบง่ ช้ีตามข้อ 6.1- 6.2 3210

6.1 ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในการ ดีเยย่ี ม (3)
ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมายใหส้ าเรจ็ มีการปรับปรุงและพัฒนาการ
ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีการงาน
ทางานให้ดีขน้ึ ภายในเวลาทีก่ าหนด
6.2 ทางานดว้ ยความเพียร
พยายาม และอดทนเพอื่ ให้งาน ดี (2)
ต้ังใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ทีท่ ไ่ี ดร้ ับมอบหมายใหส้ าเรจ็ มกี ารปรับปรงุ และพฒั นาการ
สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย
ทางานใหด้ ีข้ึน

ผ่าน (1)

ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ัติหน้าทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมายให้สาเรจ็

ไมผ่ า่ น (0)

ไมต่ ้ังใจปฏิบตั หิ น้าท่กี ารงาน

7. รักความเปน็ ไทย พฤติกรรมบ่งชตี้ ามขอ้ 7.1-7.3 3210

7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี ม ดเี ยี่ยม (3)
ประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย มสี ัมมาคารวะ ต่อครอู าจารย์ ปฏบิ ัติตนเป็น ผู้มมี ารยาทแบบไทย
และมีความกตัญญูกตเวที
ใช้ภาษาไทย เลขไทยในการสอ่ื สารได้ถูกตอ้ งเข้าร่วมกจิ กรรมท่เี กีย่ วข้องกบั ภมู ิปญั ญาไทยและมี
7.2 เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทย ส่วนรว่ มในการสบื ทอดภมู ิปญั ญาไทย
ในการสือ่ สารได้อย่างถูกตอ้ ง ดี (2)
เหมาะสม
มสี มั มาคารวะต่อครอู าจารย์ ปฏิบัติตนเป็นผูม้ มี ารยาทแบบไทยใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการ
7.3 อนุรกั ษ์และสบื ทอดภมู ิ
สื่อสารได้ถูกต้องเข้ารว่ มกิจกรรมทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับภูมิปญั ญาไทย
ปญั ญาไทย
ผา่ น (1)

มีสัมมาคารวะต่อครอู าจารย์ ใช้ภาษาไทย เลขไทยในการสือ่ สารได้ถกู ต้อง

ไม่ผ่าน

(0) ไม่มีสมั มาคารวะต่อครอู าจารย์

8. มจี ติ สาธารณะ พฤติกรรมบง่ ชี้ตามขอ้ 8.1-8.2 3210

8.1 ช่วยเหลือผูอ้ ่ืนด้วยความเต็ม ดเี ย่ียม (3)
เขา้ ร่วมกิจกรรมการดูแลรักษาเขตพนื้ ทที่ ีต่ นรบั ผิดชอบ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป
ใจและพึงพอใจโดยไม่หวัง ดี (2)
ผลตอบแทน เข้าร่วมกิจกรรมการดูแลรักษา เขตพ้นื ท่ที ี่ตนรับผิดชอบ ร้อยละ 60 – 79
8.2 เข้ารว่ มกิจกรรมที่เปน็
ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชน ผ่าน (1)
และสงั คม เขา้ รว่ มกิจกรรมการดูแลรกั ษาเขตพ้นื ทท่ี ีต่ นรบั ผิดชอบ ร้อยละ 50 - 59
ไม่ผ่าน (0)

เข้ารว่ มกิจกรรม การดูแลรกั ษาเขตพน้ื ที่ ท่ตี นรับผิดชอบ ต่ากวา่

ร้อยละ 50

ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน
............./.................../................

36

บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1.ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.1 การประเมนิ ดา้ นความรู้ ( Knowledge) พบวา่
นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ…………………………………….……….
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ……………………….……………..…….
1.2 การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process) พบวา่
นกั เรียนผ่านเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เป็นร้อยละ ……………………….………….……….
นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ ……………………………………..…….
1.3 การประเมนิ ด้านคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ( Attribute) พบวา่
นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ ………………………..……….……….
นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ …………………………….……..…….
1.4 การประเมนิ ดา้ นการ อา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน พบว่า
-การอ่าน
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ……………………….……….……….
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ …………………………………..…….
-การคดิ วิเคราะห์
นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ …………………….………….……….
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ …………………..……………..…….
-การเขยี น
นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ……………………………….……….
นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ……………………….………..…….
1.5 การประเมินดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน พบว่า
- ความสามารถในการสอื่ สาร
นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ …………………………..….……….
นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คิดเป็นร้อยละ ………………………….……..…….
- ความสามารถในการคิด
นักเรียนผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….……………….…….
นักเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ ………………………………..…….
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ……………………………..……….
นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คิดเป็นร้อยละ ………………………………..…….
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ …………………………….……….
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ……………………………....…….

37

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ……………….………………………..
นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ …………………………………..…….
1.6 การประเมินบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน พบว่า
นกั เรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ……………………………….……….
นักเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ …………………………..……..…….
2. ปัญหาที่พบ
2.1 มาตรฐาน/ตวั ชี้วัดทีก่ าหนด

2.1.1นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินดา้ นความรู้ ( Knowledge) เป็นเพราะ
............................................................................................................................. ................................

2.1.2 นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินดา้ นทักษะกระบวนการ ( Process) เปน็ เพราะ
............................................................................................................................. ................................

2.1.3 นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมนิ ด้านการ อา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน เปน็ เพราะ
............................................................................................................................. ................................

2.1.4 นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น เปน็ เพราะ
............................................................................................................................. ...............................
2.2 การบรู ณาการ
-นกั เรียนไมผ่ า่ นผลการประเมินลาดับการเรยี นรู้พฤกษศาสตร์โรงเรยี น เปน็ เพราะ
............................................................................................................................. ...........................................
-นักเรยี นไม่ผา่ นผลการประเมินคุณลกั ษณะสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น เป็นเพราะ
............................................................................................................................. ...........................................
3.ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
3.1 มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัดที่กาหนด
-นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมินดา้ นความรู้ ( Knowledge)
............................................................................................................................. ......................................
-นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินด้านทักษะกระบวนการ ( Process)
............................................................................................................................. ......................................
-นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมินดา้ นการ อ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น
............................................................................................................................. .....................................
-นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมินด้านสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
...................................................................................................................................................... ...........
3.2 การบูรณาการ

-นกั เรยี นไม่ผา่ นผลการประเมนิ ลาดบั การเรยี นรู้พฤกษศาสตรโ์ รงเรียน เป็นเพราะ
....................................................................................................................................... .................................

-นกั เรียนไมผ่ ่านผลการประเมินคณุ ลกั ษณะสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เป็นเพราะ
..................................................................................................................................................... ...................

38

ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ตอ่ แผนการจัดการเรียนรู้และผลการจดั
กจิ กรรมการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้
O เป็นแผนการสอนฯท่ีมีองคป์ ระกอบของแผนครบถว้ น นาไปใชจ้ ัดการเรยี นการสอนเพ่อื พฒั นา
คุณภาพนักเรียนต่อไปได้
O เปน็ แผนการสอนฯที่มุ่งเน้นมาตรฐานการคิด วเิ คราะห์และเขยี น มีกจิ กรรมท่ีเน้นให้นักเรยี นใช้
ทกั ษะการคิด วเิ คราะห์และเขียน
O เป็นแผนการสอนทมี่ ีกจิ กรรมสอดคล้องกับภาระงานและการวัดประเมนิ ผล สง่ เสริมการเรยี นรู้
ของผู้เรยี นตามตวั ชี้วัด /ผลการเรียนรู้ นาไปสู่การวจิ ยั ในช้นั เรยี น
O เป็นแผนการสอนทมี่ ุ่งเนน้ ให้นักเรียนได้ใชท้ ักษะกระบวนการเรยี นรู้ จากการปฏบิ ตั ิจรงิ
O เป็นแผนการสอนที่ใหน้ กั เรยี นมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นการสอน และการวดั ประเมนิ ผล
ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................ ......

ลงชอื่
( ............................................. )

หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

39

การประกันคุณภาพการจัดการเรียนรู้

สรปุ ผล กำรจดั กำรเรยี นรู้ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ...... เร่อื ง .....................................................................

รำยวชิ ำ ............................................ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ .....................................

ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี........... ภำคเรยี นท่ี ............ ปกี ำรศกึ ษำ .................... เวลำเรยี น ............ชั่วโมง

*******************************

ด้ำนผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น

รำยบคุ คล ผู้เรยี นมผี ลการเรยี นรู้ อยู่ในระดบั คุณภาพ พอใชข้ นึ้ ไปถือวำ่ ผ่ำน

รำยกลุ่ม ร้อยละ ๘๐ ของจานวนผเู้ รยี น มผี ลการเรียนรรู้ ะดับ ดีขึ้นไปถือว่ำกำรจดั กำรเรียนรปู้ ระสบผลสำเรจ็

เกณฑ์ระดับคณุ ภำพรำยผลกำรเรียนรู้

คุณภำพ ระดับคณุ ภำพ ชว่ งคะแนน
9-10
ดีมาก 4 7-8
6-5
ดี 3
ตากวา่ 5
พอใช้ 2
ผำ่ น/ไม่ผำ่ น กำรประกัน
ปรับปรงุ 1

ตารางสรปุ ผลการประเมิน

ระดบั คณุ ภำพ จำนวนนกั เรียน คิดเปน็ ร้อยละ

ดมี าก 4

ดี 3

พอใช้ 2

ปรบั ปรุง 1

สรุปผลการประกันการจัดการเรยี นรู้
รายบคุ คล ผู้เรยี นมผี ลการเรียนรู้ ในระดับคุณภาพ พอใช้ข้ึนไป มาก/นอ้ ยกวา่ เกณฑ์ ......... คน
รายกลุ่ม ผ้เู รยี นมีผลการเรียนรู้ ในระดับคณุ ภาพ ดีข้นึ ไป มาก/นอ้ ยกว่าเกณฑ์ ร้อยละ ..........
แนวทางการพัฒนา นกั เรยี นทีย่ ังไมผ่ า่ นการประเมนิ และการประกัน
แนวทางแกป้ ัญหา ปกติ วิจัยในชนั้ เรียน สอนซอ่ มเสริม อื่น ๆ ....................

ผลการพฒั นา............................................................................................................................. .....................
.................................................................................................................................................... ........................

ขอ้ สงั เกต / ข้อค้นพบ
........................................................................................................ ......................................................................

ลงช่อื ..........................................
(...........................................)

40

ภาคผนวก 1

1.ใบความรู้ 5 องค์ประกอบ
2.ใบความรู้ 3 สาระ

ภาคผนวก 2

1.พน้ื ที่ศกึ ษา
2.พชื ศกึ ษา “งาขีม้ อ้ น”
3.พรรณไม้ในพน้ื ที่ศกึ ษา

ภาคผนวก 3

ใบงาน 5 องคป์ ระกอบ

(1)

องค์ประกอบที่ 1 การจัดทาป้ายชอ่ื พรรณไม้

หลกั การ รู้ช่อื รู้ลักษณ์ ร้จู ัก
สาระสาคญั

การจัดทาป้ายช่ือพรรณไม้โดยการเรยี นรู้การกาหนดพืน้ ที่ศึกษา สารวจและจัดทาผงั พรรณไม้ แล้ว
ศกึ ษา พรรณไม้ ทาตัวอย่างพรรณไม้ นาข้อมลู มาทาทะเบยี นพรรณไม้ ทาและตดิ แสดงป้ายชื่อพรรณไม้
สมบรู ณ์ นาไปสู่การรู้ชือ่ รู้ลักษณะต่าง ๆ รวมถึงรู้จักการใช้ประโยชน์ของพชื
ลาดับการเรียนรู้

1. กาหนดพนื้ ที่ศึกษา
2. สารวจพรรณไมใ้ นพื้นท่ีศกึ ษา
3. ทาและตดิ ปา้ ยรหสั ประจาตน้
4. ตัง้ ชือ่ หรือสอบถามชื่อ และศึกษาข้อมลู พนื้ บ้าน (ก.7-003 หนา้ ปก - 1)
5. ทาผังแสดงตาแหน่งพรรณไม้
6. ศึกษาและบันทึกลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ (ก.7-003 หน้า 2-7)
7. บันทกึ ภาพหรอื วาดภาพทางพฤกษศาสตร์
8. ทาตัวอย่างพรรณไม้ (ตัวอยา่ งพรรณไมแ้ ห้ง ตวั อย่างพรรณไม้ดอง ตวั อย่างพรรณไม้ เฉพาะส่วน)
9. เปรียบเทยี บขอ้ มลู ทสี่ รุป (ก.7-003 หนา้ 8) กบั ข้อมลู ท่ีสบื ค้นจากเอกสาร แล้วบันทึก ใน ก.7-003
10. จัดระบบข้อมลู ทะเบียนพรรณไม้ (ก.7-005)
11. ทารา่ งป้ายช่ือพรรณไม้สมบรู ณ์
12. ตรวจสอบความถูกต้องทางวชิ าการด้านพฤกษศาสตร์
13. ทาป้ายชือ่ พรรณไม้สมบูรณ์

อธิบายลาดับการเรียนรู้
ลาดับการเรียนรูท้ ี่ 1 กาหนดพืน้ ทศ่ี กึ ษา
วตั ถุประสงค์
1. เพ่ือรู้ขอบเขต ขนาดพนื้ ท่ีทงั้ หมดของโรงเรยี น
2. เพือ่ รู้ลักษณะทางกายภาพในโรงเรียน
3. เพอ่ื รู้การแบ่งพื้นทีเ่ ป็นส่วนย่อยและการจดั การพนื้ ท่ีศกึ ษาในการเข้าไปเรยี นรู้ที่เหมาะสม
กระบวนการเรยี นรู้
1. เรียนรู้พ้นื ทท่ี ง้ั หมดของโรงเรียนตามกรรมสทิ ธแิ์ ละบริเวณรอบ ๆ โรงเรยี นอยู่ใกล้กบั สถานทีต่ ่าง ๆ
และตัง้ อยู่ในทิศทางใดของโรงเรยี น โดยระบขุ นาดพื้นทีท่ ั้งหมดของโรงเรียนได้ และจดั ทาเป็นผงั พนื้ ทีท่ ั้งหมด
ของโรงเรยี น

(2)

2. เรยี นรู้ถงึ ขอบเขตบรเิ วณของโรงเรียนและเรียนรู้ลักษณะทางกายภาพองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น
ตาแหน่งอาคาร สง่ิ ปลูกสร้าง บรเิ วณพ้ืนท่สี ภาพแวดล้อมต่าง ๆ ภายในโรงเรียน และจดั ทาผงั บรเิ วณ

3. เรยี นรู้ถึงการกาหนดและแบ่งขอบเขตพืน้ ท่ภี ายในโรงเรียนเป็นพ้นื ทีย่ ่อย ๆ ตามขอ้ พิจารณาในการ
แบง่ พ้นื ท่ีศึกษา จัดทาผังกาหนดขอบเขตพื้นท่ี โดยพจิ ารณาดังน้ี

3.1 แบง่ ตามลกั ษณะทางภูมิศาสตร์
3.2 แบง่ ตามการใช้ประโยชนข์ องพ้นื ท่ี
3.3 แบง่ ตามขนาดของพื้นท่ีให้เหมาะสมกบั การเรียนรู้
โดยระบขุ นาดพ้ืนทีศ่ ึกษาย่อยในแต่ละพื้นที่ได้ และขนาดพื้นท่ีเมอ่ื รวมกันแล้วเทา่ กับพน้ื ที่ท้ังหมด
ของโรงเรยี น

(3)

ลาดบั การเรยี นรทู้ ่ี 2 สารวจพรรณไม้ในพืน้ ท่ีศึกษา
วัตถปุ ระสงค์

1. เพื่อรู้ชนิด จานวนต้นในแต่ละชนิด และจาแนกลกั ษณะวิสยั ที่สารวจในพนื้ ท่ีศึกษา
กระบวนการเรียนรู้

1. การสารวจพรรณไม้
1.1 เลอื กพ้นื ท่ีศึกษาในการสารวจพรรณไม้
1.2 เรยี นรู้รูปแบบการสารวจ (ควรเลือกพืชท่มี ีส่วนประกอบครบสมบูรณ์มากที่สุด)
1.3 สารวจพรรณไม้ในพน้ื ที่ศึกษา
1.4 สรปุ จานวนชนิดและจานวนต้นท่พี บ

2. การจาแนกชนิดตามลักษณะวิสัย
2.1 เรยี นรู้ลกั ษณะวสิ ยั พืช
2.2 จาแนกลกั ษณะวสิ ยั พชื ที่สารวจ
2.3 สรุปจานวนลักษณะวสิ ยั ทพี่ บ

(4)

(5)

ลาดบั การเรยี นรูท้ ่ี 3 ทาและตดิ ป้ายรหสั ประจาตน้
วตั ถุประสงค์

1. เพื่อรู้รูปแบบป้ายรหสั ประจาต้นตามแบบ อพ.สธ.
2. เลอื กวสั ดทุ าป้ายรหัสประจาตน้ ทเ่ี หมาะสม
3. ตดิ ปา้ ยรหัสประจาต้นให้ถูกตอ้ ง
กระบวนการเรยี นรู้
1. รปู แบบป้ายรหัสประจาต้น

1.1 เรยี นรู้รูปแบบรหสั ประจาตน้ ประกอบไปด้วยตวั เลข 2 ชุด
ชุดที่ 1 เป็นรหสั ลาดบั ชนดิ พรรณไม้ ประกอบไปด้วยตวั เลข 3 หลัก เช่น 001 คือ รหัส
ลาดบั ชนดิ พรรณไม้ชนดิ ท่ี 1
ชุดท่ี 2 เป็นรหัสลาดบั ต้น ประกอบไปดว้ ย ตวั เลข 1 หลกั เปน็ ต้นไป เช่น /2
ระหว่างชดุ ท่ี 1 และ ชดุ ท่ี 2 ให้คนั่ ดว้ ยเครอื่ งหมาย / ยกตวั อยา่ งเช่น 001/2 คือ รหสั
ลาดับชนิดพรรณไม้ชนิดท่ี 1 / รหัสลาดบั ต้น ต้นที่ 2

หมายเหตุ
- ในกรณที ช่ี นิดนัน้ มตี ้นเดยี ว ไม่ต้องใส่เครื่องหมาย / - ในกรณีท่ตี น้ ไมป้ ลกู เป็นแปลงหรอื กอ ให้รหัส

ลาดบั ประจาต้นนบั เปน็ แปลงหรือกอ

(6)
2. วสั ดทุ าป้ายรหัสประจาต้น

2.1. วัสดุท่ี มีความคงทนและหาได้งา่ ยตามท้องถ่นิ เช่น ปา้ ยฯ พลาสตกิ กระป๋องอะลมู เิ นยี ม
แผ่นโลหะ ฯลฯ

2.2 ตัวเลขในป้ายรหสั ประจาต้น ใช้การตอกรหัส หรือเขยี นด้วยสีทม่ี ีความคงทน เพ่ือ
ปอ้ งกันการ หลุดลอกของตวั เลข

(7)
3. เรยี นรู้วิธีการติดปา้ ยรหัสประจาต้น

3.1 วธิ ีที่ 1 แบบผกู เช่น คล้องหรือแขวน กบั กงิ่ หรือลาตน้ ของต้นไมใ้ นตาแหน่งที่
เหมาะสมและ มองเห็นได้อย่างชัดเจน ซ่ึงวิธีนีเ้ หมาะสาหรบั ไมต้ ้น ไม้พุ่ม ฯลฯ

3.2 วธิ ที ่ี 2 แบบปัก ให้ปกั ตรงบริเวณโคนต้น ของต้นไมใ้ นตาแหน่งทเี่ หมาะสมและมองเหน็
ไดอ้ ย่างชัดเจนซึง่ วธิ นี ้ีเหมาะสาหรับไมล้ ้มลุกและไม้ตน้ ขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถทาการผกู ป้ายรหสั ประจาต้นได้
หมายเหตุ

- ไมค่ วรตดิ รดั จนแน่นเกนิ ไป ควรแขวน หรอื ใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ทมี่ คี วามยืดหยุ่นในการติดแบบง่าย ๆ

(8)

ลาดบั การเรยี นรทู้ ี่ 4
ตั้งชื่อหรือสอบถามช่ือ และศึกษาข้อมลู พื้นบ้าน (ก.7-003 หนา้ ปก - 1)
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพือ่ รู้ช่ือพ้ืนเมืองของพรรณไม้
2. เพือ่ รู้ข้อมูลพ้นื บ้านของพรรณไม้
กระบวนการเรยี นรู้
1. เรยี นรู้การตัง้ ชือ่ และสอบถามชอ่ื ของพรรณไม้
1.1 เรยี นรู้การตัง้ ช่อื พืน้ เมือง กรณีท่ีไม้ทราบช่ือพรรณไม่อาจตั้งช่ือตามรปู ลกั ษณ์ คณุ สมบตั ิ
พฤติกรรม หรอื ถ่ินอาศยั ของพืชน้ันๆ ได้แก่
- สี เช่น แคแสด
- รูปร่าง เช่น พลบั พลงึ ตีนเป็ด
- รปู ทรง เช่น ไผ่น้าเตา้
- ผวิ เช่น ส้มเกลยี้ ง
- กล่นิ เช่น เครือตดหมูตดหมา (พงั โหม)
- รส เช่น ไผ่จืด
- พฤตกิ รรม เช่น บานเช้า
1.2 เรยี นรู้การสอบถามชือ่ พื้นเมอื ง กรณที ี่ไม่ทราบชื่อพรรณไม่อาจสอบถามชื่อจากผู้รู้ เช่น
ครบู ุคลากรในสถานศึกษา ผู้เช่ียวชาญ ปราชญ์ชาวบ้าน ดังน้ี

1.2.1 เชญิ ผู้รู้ในทอ้ งถ่ิน มาร่วมสารวจพรรณไม้ในสถานศึกษา
1.2.2 นาข้อมูลไปสอบถามผู้รู้ในทอ้ งถิน่ เช่น ถา่ ยภาพพรรณไม้ ชน้ิ ตัวอย่าง
พรรณไมพ้ ร้อมคาอธิบายลักษณะทางพฤกษศาสตร์
2. เรียนรู้แบบศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน (ก.7-003 หนา้ ปก)
2.1 เรียนรู้ช่ือพนั ธุไ์ ม้ และรหสั พรรณไม้
- ช่อื พันธ์ไุ ม้เขยี นช่ือท้องถิน่ หรือชื่อพนื้ บ้าน ของแตล่ ะภมู ิภาค
- รหัสพรรณไม้ประกอบด้วย ตวั เลข 5 ชุด เช่น 7-10150-009-001/2
2.2 เรยี นรู้การวาดภาพทางพฤกษศาสตร์(ลักษณะวิสยั )
1. วัดความสงู และความกว้างทรงพุ่ม ตามลกั ษณะวิสยั ของพรรณไม้นัน้ เช่น
ไม้ต้น
วัดความสงู จากโคนต้นจนถึงปลายยอด ส่วนความกว้างทรงพุ่ม ให้วดั ส่วนทก่ี ว้างทสี่ ุดของทรงพุ่ม


Click to View FlipBook Version