Plant growth regulator
(สารควบคมุ การเจรญิ เติบโตของพืช)
ท่ีพืชสรา้ งขน้ึ เรียกว่าฮอร์โมนพืช เพื่อใหพ้ ืชสามารถ
เจริญเติบโตไปเป็ นธรรมชาติของพืชน้ัน ๆ
Callus (แคลลัส)
เป็ นกลุ่มพาเลงคิมาท่ียังไม่มกี ารเปลี่ยนแปลงสภาพหรอื
พัฒนาไปเป็ นเน้ือเยื่อหรืออวัยวะของพืช
Tropism (การเบนหรือทรอพิซึม)
เป็ นการตอบสนองของพืชต่อส่ิงแวดล้อม ที่มที ิศทางสัมพันธ์
กับส่ิงเรา้ ภายนอก เพ่ือสรา้ งการเจริญเติบโตท่ีเหมาะสม
มี2แบบคือการเบนเขา้ หาส่ิงเร้าและการเบนออกจากส่ิงเรา้
Phototropism (การเบนเน่ืองจากแสง)
เป็ นการตอบสนองที่มีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของแสง เช่น
การเจรญิ ของปลายยอดพืชจากการเบนเขา้ หาแสง
Gravitropism (การเบนเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก)
เป็ นการตอบสนองที่มที ิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของแรงโน้ม
ถ่วงของโลก
Chemotropism (การตอบสนองต่อสารเคมี)
เช่น การงอกของหลอดเรณไู ปยังออวลุ ของพืชดอก ซึ่งมีสาร
กลุ่มโปรตนี ท่ีออวุลสร้างขน้ึ เพ่ือกาหนดทิศทางการงอกของ
หลอดเรณไู ปออวุล
Hydrotropism (การตอบสนองต่อน้า)
เช่น รากพืชเจริญเขา้ หาน้าหรอื ความช้ืน
Thigmotropism (การตอบสนองต่อการสัมผัส)
เช่น การเกีย่ วพันของมือเกาะตาลึงิแตงกวา กระทกรก องุ่น
Nastic movement (แนสติกมฟู เมนต์)
เป็ นการตอบสนองของพืชต่อส่ิงแวดล้อมโดยมที ิศทางไม่
สัมพันธ์กับทิศทางของส่ิงเร้าภายนอก โดยการตอบสนองนี้
อาจเป็ นการเจรญิ เติบโตไม่เทา่ กันของส่วนต่างๆ
Turgor pressure (แรงดันเต่ง)
การเปลี่ยนแปลงปรมิ าณน้าภายในเซลล์ทาให้เกิดแรงดันเต่ง
Nutation (นเู ทชัน)
การตอบสนองท่ีเกิดจากการเจริญเติบโตของโครงสรา้ งที่ไม่
เท่ากัน2 ด้าน เช่น ลาตน้ ใบ เรียกวา่ การเคล่ือนไหวแบบส่าย
Pulvinus (พัลไวนัส)
ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ที่มีขนาดใหญ่ ผนังบาง มีความไวสูง
ต่อสิ่งเรา้ ที่มากระต้นุ เช่น การสัมผสั การกระต้นุ ดังกล่าวจะ
มีผลทาให้แรงดันเต่งของเซลล์กลุ่มน้ีเปล่ียนแปลงอยา่ ง
รวดเรว็ หรือนเู ทชนั
Stress (ภาวะเครยี ด)
สิ่งเรา้ ภายนอกที่พืชได้รับมีมากหรอื น้อยเกินไป จนส่งผล
กระทบทาให้ ไม่สามารถเติบโตเต็มที่ตามศักยภาพทาง
พันธุกรรม นั่นแสดงวา่ พืชอยู่ในภาวะเครียด
Heat-shock protein (ฮีทช็อคโปรตีน)
จะถกู กระต้นุ เมื่อพืชได้รับความรอ้ น โดยจะช่วยรกั ษา
โครงสร้างของโปรตีนชนิดอ่ืนใหส้ ามารถทางานได้
Antifreeze protein (แอนทิฟรีซโปรตีน)
ทาหน้าที่เพื่อช่วยป้ องกันและลดการเกิดผลึกภายในเซลล์
Halophyte (พืชดินเค็ม)
เช่น แสม ชะคราม ผักบ้งุ ทะเล สามารถเจริญเติบโตเป็ นปกติ
ในดินเค็มจัดได้เพราะมีความสามารถในการรับโซเดียม
ไอออนได้สูงกวา่ พืชท่ัวไป