The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รูปเล่มวิจัยพลอยด๊ะน้อง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nanthakorn Nopsuwan, 2023-09-22 04:19:56

รูปเล่มวิจัยพลอยด๊ะน้อง

รูปเล่มวิจัยพลอยด๊ะน้อง

ปัจจัยการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษาในแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพ หลวงประธานราษฎร์นิกร อ าเภอหาดใหญ่ จังหวดสงขลา นางสาวรักษิณา ทองเพ็ชร นางสาวณิชกานต์ เส็นส๊ะ นางสาวนันธิฌา ชอบงาม วิจัยนี้ส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง แผนกการตลาดวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร พ.ศ ๒๕๖๖ ลิขสิทธิ์ของวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร


ปัจจัยการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษาในแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพ หลวงประธานราษฎร์นิกร อ าเภอหาดใหญ่ จังหวดสงขลา นางสาวรักษิณา ทองเพ็ชร นางสาวณิชกานต์ เส็นส๊ะ นางสาวนันธิฌา ชอบงาม วิจัยนี้ส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง แผนกการตลาดวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร พ.ศ ๒๕๖๖ ลิขสิทธิ์ของวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร


กิตติกรรมประกาศ งานวิจัยเรื่อง “ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษาในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร อ าเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา” ส าเร็จลุล่วงด้วยความกรุณาจาก อาจารย์ธัญญลักษณ์ แซ่ลิ่ม ที่ให้ความรู้และค าปรึกษา ตลอดจนชี้แนะ แนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อรายงานการวิจัยนี้จนท าให้รายงานการวิจัยนี้สมบูรณ์ ผู้วิจัยขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ขอขอบพระคุณบิดา มารดา และครอบครัวที่ให้การสนับสนุนและก าลังใจอันดี ท าให้วิจัยครั้งนี้ประสบ ผลส าเร็จ ขอขอบพระคุณผู้ที่ตอบแบบสอบถามทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการเก็บข้อมูล จนท าวิจัยครั้งนี้สมบูรณ์ และส าเร็จลุล่วงไปด้วยดี ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานวิจัยฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจออนไลน์ ตลอดจนผู้สนใจประกอบธุรกิจ นักศึกษา และบุคคลที่มีความสนใจ คณะผู้จัดท า


หัวข้อวิทยานิพนธ์ ปัจจัยการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น นักเรียน นักศึกษา ในแผนก ชื่อผู้เขียน นางสาวรักษิณา ทองเพ็ชร นางสาวณิชกานต์ เส็นส๊ะ นางสาวนันธิฌา ชอบงาม อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ธัญญลักษณ์ แซ่ลิ่ม สาขาวิชา การตลาด ปีการศึกษา ๒๕๖๕ บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อศึกษาลักษณะทางประชากรณ์ศาสตร์การตัดสินใจซื้อเสื้อผ้า แฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกการตลาดในวิทยาลัย 2.เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มี ความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกการตลาดในวิทยาลัยโดยใช้ แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากผู้ที่มีประสบการณ์ในการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของ นักเรียน นักศึกษา แผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก จ านวน 100 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมค านวณทางสถิติที่ใช้ในการทดสอบ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 21-25 ปี ศึกษาชั้นประกาศนียบัตรว วิชาชีพขั้นสูง ( ปวส. ) เป็นนักเรียน นักศึกษา ผลการศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ผู้บริโภคให้ความส าคัญมากที่สุดคือด้านผลิตภัณฑ์ รองลงมาด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาดและ ด้านการสื่อสารทางการตลาด ตามล าดับผลการทดสอบสมมุติฐานพบว่าปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์และด้านราคาส่งผลต่อ กระบวนการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ของ นักเรียน นักศึกษา แผนกการตลาดวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธาน ราษฎร์นิกร ส าคัญ : ปัจจัยการตลาด,เสื้อผ้าแฟชั่น,การตัดสินใจซื้อ


สารบัญ เรื่อง หน้า กิตติประกาศ ก บทคัดย่อ ข สารบัญตาราง จ บทที่ 1 บทน า 1.1 ที่มาและความส าคัญ 1-2 1.2 วัตถุประสงค์จองการวิจัย 2 1.3 ขอบเขตการวิจัย 2 1.4 นิยามศัพท์เฉพาะ 3 1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่น 4-5 2.2 แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับฟฤติกรรมการตัดสินใจซื้อ 6 2.3 แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับส่วนประสมทางการตลาด 6-10 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 10-11 2.5 กรอบแนวคิดในการวิจัย 12 บทที่ 3 วิธีการด าเนินวิจัย 3.1 ระเบียบการวิจัย 13-14 3.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล 14-15 3.3 การสร้างเครื่องมือในการวิจัย 15 3.4 สถิติการใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 16


สารบัญ(ต่อ) เรื่อง หน้า บทที่ 4 ผลการวิจัย 4.1 สัญญาลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 17 4.2 การเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล 17 บทที่ 5 สรุปอภิปลายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการศึกษา 29-30 5.2 อภิปลายผลการศึกษา 31-32 5.3 ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัย 33 บรรณานุกรม 34 ภาคผนวก 35 แบบสอบถาม 36-40 ประวัติผู้จัดท า 41-44


สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า ตารางที่ 1 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามเพศ 18 ตารางที่ 2 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามอายุ 18 ตารางที่ 3 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามระดับการศึกษา 18-19 ตารางที่ 4 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามระดับอาชีพ 19 ตารางที่ 5 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 19-20 ตารางที่ 6 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด วิทยาลัยการ อาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์ 20-21 ตารางที่ 7 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านราคา 21-22 ตารางที่ 8 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านการจัดจ าหน่าย 22-23 ตารางที่ 9 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านส่งเสริมการตลาด 23-24 ตารางที่ 10 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านการติดต่อสื่อสาร 24-25 ตารางที่ 11 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านบุคลากร 25-26 ส่วนที่ 3 การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ตารางที่ 1 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผู้บริโภค 27-28


บทที่ 1 บทน า 1.1 ที่มาและความส าคัญของปัญหา จากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วนี้เป็นสาเหตุท าให้ระบบการค้าในปัจจุบัน มีความ แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในอดีตการทาการค้าจะเป็นการขายผ่านทางหน้าร้านเท่านั้น จึงท าให้ ต้องใช้เงินลงทุนสูง นอกจากนี้การทาการค้าแบบเดิม ร้านค้านั้นๆจะเป็นที่รู้จักและสามารถเข้าถึงได้ เพียงลูกค้าในพื้นที่เท่านั้น แต่ใน ปัจจุบันได้มีการนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทาธุรกิจการค้า หรือ เรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) ในปีที่ผ่านมาการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) เริ่มเข้ามามีบทบาทมากในสังคมไทย อาจเรียกได้ว่าในปี ที่ผ่านมานั้นเป็นการเติบโต ของตลาดการพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Market) อย่างแท้จริงก็ว่าได้ โดยจะเห็นได้ว่า การท าการตลาดในลักษณะนี้นั้นได้เข้ามาช่วยในการด าเนินธุรกิจของผู้ให้บริการทั่วไปที่มีความ ต้องการที่จะขยายกลุ่มตลาดหรือลูกค้าให้เปิดกว้างมากขึ้น (บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พ.ศ 2560) ทั้งในปัจจุบันนี้ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นเป็นหนึ่งธุรกิจที่เป็นที่นิยมของผู้ให้บริการการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce Market) จากต่างประเทศมีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็น ส่วนให้ระบบการให้บริการด้านต่างๆ ปรับตัวให้ เข้ากับวิถีการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่มีความต้องการที่แตกต่างกันเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบการให้บริการการ ช าระค่าบริการออนไลน์ (Online Payment) หรือระบบการจัดการด้านขนส่งสินค้าจนถึงที่นัดรับสินค้าปลายทาง พร้อมเรียกช าระเงินปลายทาง(Warehouse&Fulfillment)เพราะเนื่องจากในปัจจุบันมีตัวเลขการใช้บริการด้าน อินเตอร์เน็ตที่ปรับตัวสูงขึ้นคนไทยใช้เวลาบนโลกอินเทอร์เน็ตวันละมากถึง8.44 ชั่วโมง ถือว่าสูงติดอันดับ Top10 ของโลกส่วนค่าเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 6.54 ชั่วโมงต่อวันเวลาบนอินเทอร์เน็ตของคนไทย แบ่งเป็น ใช้งานอินเทอร์เน็ต บนมือถือ 5.07 ชั่วโมง/วัน และใช้งานบนคอมพิวเตอร์ 3.38ชั่วโมง/วันโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเป็นอีกหนึ่งตัว ช่วยสาคัญที่ท าให้ประชากรในประเทศทั้งไทยมีแนวโน้มการเข้าใช้บริการด้านอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นสินค้าเสื้อผ้า แฟชั่นเป็นสินค้าที่หลากหลายมีตัวเลือกให้กับผู้บริโภคและเครื่องนุ่งห่มที่ผู้บริโภคจ าเป็นต้องใช้เมื่อมีตัวเลือกมาก ขึ้นท าให้เกิดการเลือกซื้อการเปรียบเทียบในเรื่องคุณภาพความสะดวกราคาต่างๆจึงให้ตลาดออนไลน์มีผลมาก ยิ่งขึ้น(บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พ.ศ2560) อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีทัศนคติด้านแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอย่างรวดเร็ว การ เคลื่อนไหว ของตลาดเกิดขึ้นตลอดเวลา เริ่มหันมาให้ความส าคัญ ถึงความต้องการและลักษณะพฤติกรรมของ ผู้บริโภคยิ่งมากขึ้นซึ่งต้องน าหลักการตลาดส่วนประสมทางการตลาดมาประยุกต์ใช้ โดยใช้หลัก(4ps)ด้าน


ผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) ช่องทางการจัดจ าหน่าย (Place) ส่งเสริมการตลาด (Promotion)เช่น การลด แลก แจก แถมเพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า เออ ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยมีความสนใจศึกษาการใช้ปัจจัยส่วนประสมการตลาดในการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น นักเรียน นักศึกษา ผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด ในวิทยาลัยหลวงประธานราษฎร์นิกร 1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย งานวิจัยเรื่อง ปัจจัยทางการตลาดออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาดังนี้ 1. เพื่อศึกษาลักษณะทางประชาการศาสตร์ ของผู้บริโภคที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของ นักเรียน นักศึกษา ผู้หญิงแผนกการตลาด ในวิทยาลัยหลวงประธานราษฎร์นิกร 2.เพื่อศึกษาปัจจัยทางการตลาดออนไลน์ที่มีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร 1.3 ขอบเขตการวิจัย 1.3.1 ขอบเขตด้านเนื้อหา ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้มีขอบเขตวิจัยคือ ศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเมื้อผ้าแฟชั่นของ นักเรียน นักศึกษา ผู้หญิงแผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร โดยมีรายละเอียดดังนี้ โดยศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด (4ps) ได้แก่ด้านผลิตภัณฑ์ (product) ราคา(price) ช่องทางการจัด จ าหน่าย(place) ส่งเสริมทางการตลาด(promotion) 1.3.2 ขอบเขตด้านประชากร นักเรียน นักศึกษา ผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด ในวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ที่มีความสนใจใน เรื่องการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นโดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 100 ชุด 1.3.3 ขอบเขตด้านพื้นที่ และระยะเวลา ในการศึกษาครั้งนี้ท าการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 - กรกฎาคม พ.ศ. 2566


1.4 นิยามศัพท์เฉพาะ เสื้อผ้าแฟชั่น หมายถึง เสื้อผ้าตามสมัยนิยมในช่วงเวลา หนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับการเมืองเศรษฐกิจภูมิอากาศเทคโนโลยี ในช่วงเวลานั้นซึ่งจะท าให้เกิดสภาพแฟชั่นต่างๆ ผู้บริโภค หมายถึง ผู้ซื้อหรือผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ซึ่งได้รับการเสนอหรือชักชวนจากผู้ ประกอบธุรกิจ เพื่อให้ ซื้อ สิน ค้าหรือรับบริการ และหมายความรวมถึงผู้ใช้สินค้าหรือผู้ได้รับบริการจากผู้ ประกอบธุรกิจโดยชอบ แม้มิได้เสียค่าตอบแทน ก็ตาม การตัดสินใจซื้อ หมายถึง กระบวนการเลือกทางใดทางเลือกหนึ่งจากหลาย ๆ ทางเลือกที่ ได้พิจารณาหรือประเมิน อย่างดีแล้วว่าเป็นทางให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของตนเองที่ ได้ก าหนดนึกคิดหรือตั้งใจเอาไว้ พฤติกรรมการเลือกซื้อเสื้อผ้า หมายถึง การกระท าของผู้บริโภคที่มีตัวน าในการตัดสินใจ เลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ประกอบด้วยประเภทของเสื้อผ้าแต่ละแบรนด์แต่ละยี่ห้อแต่ละเนื้อผ้าจะไม่เหมือนกัน จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่น ความถี่ในการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นช่วงราคาที่ซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่นและวัตถุประสงค์ที่เลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นหมายถึง ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ด้านราคาคุณภาพ ด้านการจัดจ าหน่ายและการ ส่งเสริมการขาย 5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.5.1เพื่อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในไทยที่มีการด าเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ที่ด าเนินการขาย สินค้าประเภทเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์รวมถึงผู้ที่สนใจในธุรกิจประเภทนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ เพื่อที่จะสามารถแข่งขันและพัฒนาธุรกิจต่อไป 1.5.2เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ผ่านสังคมออนไลน์ของ ผู้บริโภคกลุ่มวัยท างานและนักเรียนนักศึกษา


บทที่ 2 ทฤษฎี แนวคิด และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การวิจัยเรื่อง ปัจจัยทางการตลาดออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรผู้วิจัยได้ท าการศึกษารวบรวมทฤษฎีแนวคิดและ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางในการวิจัยตามล าดับดังนี้ 1. แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับ ลักษณะประชากร 2. แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับ พฤติกรรมของของผู้บริโภค 3. แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับ การตัดสินใจซื้อ 4. แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับ ส่วนผสมทางการตลาด 5. ประวัติของโฆษณา 6. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 7. กรอบแนวคิดในการวิจัย 2.1 แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับ ลักษณะประชากร ลักษณะด้านประชากรศาสตร์ถือเป็นความหลากหลายและความแตกต่างเกี่ยวกับบุคคล เช่น เพศ สถานภาพ อายุ ลักษณะโครงสร้างของร่างกาย และความอาวุโสในการท างาน เป็นต้น โดยจะแสดงถึงความ เป็นมาของบุคคลแต่ละบุคคลจากอดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งความแตกต่างและความหลากหลายของบุคคลนี้ สามารถ บ่งชี้ลักษณะพฤติกรรมการแสดงออกของบุคคลที่แตกต่างกัน การตัดสินใจที่แตกต่างกันนั้นมีสาเหตุมาจาก ความแตกต่างทางด้านลักษณะประชากรศาสตร์ หรือความเป็นมาของบุคคลนั่นเอง (วชิรวัชร งามละม่อน, 2558) ลักษณะทางประชากรศาสตร์นั้น จะประกอบไปด้วย อายุ เพศ ขนาดของสมาชิกในครอบครัว สถานภาพครอบครัว รายได้ อาชีพ การศึกษา จะเป็นเกณฑ์ที่นิยมใช้ในการแบ่งส่วนตลาด ลักษณะทาง ประชากรศาสตร์เป็นลักษณะส าคัญและสถิติที่วัดได้ของประชากรจะช่วยก าหนดตลาดเป้าหมายรวมทั้งง่ายต่อ การวัดมากกว่าตัวแปรอื่น ตัวแปรทางประชากรศาสตร์ที่ส าคัญ มีดังนี้ -อายุ (Age) เนื่องจาก ทุก ๆ ผลิตภัณฑ์จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มี อายุแตกต่างกันไป ดังนั้น นักการตลาดจึงจะใช้ประโยชน์จากอายุเป็นตัวแปรทางประชากรศาสตร์ที่แตกต่าง ของส่วนตลาด โดยนักการตลาดได้ค้นคว้าความต้องการของส่วนตลาดส่วนเล็ก (Niche Market) เพื่อมุ่ง ความส าคัญที่ตลาดในส่วนอายุนั้น


-เพศ (Sex) เป็นตัวแปรในการแบ่งส่วนตลาดที่ส าคัญเช่นกัน ดังนั้น นักการตลาดจึงต้องศึกษาตัวแปร ตัวนี้ เพราะในปัจจุบันนี้ ตัวแปรด้านเพศจะมีการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการบริโภคการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว อาจจะมีสาเหตุมาจากการที่ต้องท างานมากขึ้น -ลักษณะครอบครัว (Marital Status) ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ลักษณะครอบครัวเป็นเป้าหมายที่ ส าคัญของการใช้ความพยายามทางการตลาดมาโดยตลอด จะมีความส าคัญยิ่งขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับหน่วยของ ผู้บริโภค โดยนักการตลาดจะสนใจจ านวนและลักษณะของบุคคลในครัวเรือนที่ใช้สินค้าใดสินค้าหนึ่ง และยัง สนใจในการพิจารณาลักษณะทางประชากรศาสตร์ และโครงสร้างด้านสื่อที่เกี่ยวข้องกับผู้ตัดสินใจในครัวเรือน เพื่อช่วยในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสม -รายได้ การศึกษา และอาชีพ (Income Education and Occupation) เป็นตัวแปรส าคัญในการ ก าหนดส่วนของการตลาด โดยทั่วไปนักการตลาดจะสนใจผู้บริโภคที่มีความร่ ารวย แต่อย่างไรก็ตามครอบครัวที่ มีรายได้ต่ า จะเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ปัญหาส าคัญในการแบ่งส่วนตลาดโดยถือเกณฑ์รายได้อย่างเดียวก็คือ รายได้จะเป็นตัวชี้การมีหรือไม่มีความสามารถในการจ่ายสินค้า ในขณะเดียวกัน การเลือกซื้อสินค้าที่แท้จริง อาจถือเกณฑ์รูปแบบการด ารงชีวิต รสนิยม ค่านิยม อาชีพ การศึกษา ฯลฯ แม้ว่า รายได้จะเป็นตัวแปรที่ใช้บ่อย มาก นักการตลาดส่วนใหญ่จะโยงเกณฑ์รายได้รวมกับตัวแปรทางประชากรศาสตร์อื่น ๆ เพื่อก าหนดตลาด เป้าหมายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น กลุ่มรายได้อาจจะเกี่ยวข้องกับเกณฑ์อายุและอาชีพร่วมกัน (เหมชาติ สุวพิศ, 2564) 2.2. แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับ พฤติกรรมของของผู้บริโภค พฤติกรรมผู้บริโภคว่า หมายถึง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความคิดและความรู้สึกที่ผู้บริโภคมี 3 รูปแบบ -พฤติกรรมผู้บริโภคแปรเปลี่ยนได้ (Dynamic) เนื่องจากความเปลี่ยนแปลง ของสภาพแวดล้อม ภายนอก เช่น การสื่อสาร เทคโนโลยี สังคม ฯลฯ ท าให้มีผลกระทบต่อปัจจัยด้านความคิด ความรู้สึกของ ผู้บริโภคด้วย และพฤติกรรมผู้บริโภค ได้รับผลกระทบมาจากปัจจัยภายใน และภายนอก จึงท าให้พฤติกรรม ผู้บริโภคไม่หยุดนิ่งอยู่เหมือนเดิม แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา -พฤติกรรมผู้บริโภคเกี่ยวข้องกับปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ระหว่างความคิดความรู้สึกและการ กระท า กับสิ่งแวดล้อมภายนอก ดังนั้น ความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคจึงต้องศึกษาทั้งปัจจัยภายในและปัจจัย ภายนอกว่า ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการอะไร อย่างไร และท าไม -พฤติกรรมบริโภคเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยน (Exchanges) หมายความว่า ผู้บริโภคมีพฤติกรรม เพื่อแลกเปลี่ยนคุณค่าบางอย่างกับบางคน ในกรณีนี้คือการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ซื้อ(ผู้บริโภค) กับผู้ขาย (เจ้าของสินค้า) เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง(พรทิพย์ สัมปัตตะวนิช 2553)


2.3 แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับ การตัดสินใจซื้อ การตัดสินใจ (Decision Making)หมายถึง กระบวนการในการเลือกที่จะกระท าสิ่งใดสิ่งหนึ่งจาก ทางเลือกต่างๆที่มีอยู่ ซึ่งผู้บริโภคมักจะต้องตัดสินใจในทางเลือกต่างๆของสินค้าและบริการอยู่เสมอ โดยที่เขา จะเลือกสินค้าหรือบริการตามข้อมูลและข้อจ ากัดของสถานการณ์ การตัดสินใจจึงเป็นกระบวนการที่ส าคัญและ อยู่ภายในจิตใจของผู้บริโภค (ฉัตยาพร เสมอใจ, 2550) ขั้นตอนการตัดสินใจ (Buying Decision Process) เป็นล าดับขั้นตอนในการตัดสินใจของผู้บริโภคโดยมี ล าดับกระบวนการ 5 ขั้นตอน ดังกระบวนการตัดสินใจซื้อ 5 ขั้นตอนของบริโภคดังนี้ (ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และ คณะ, 2541) กระบวนการการตัดสินใจซื้อ 5 ขั้นตอนของผู้บริโภค คอทเลอร์ (Kotler, 1997) 2.4 แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับ ส่วนผสมทางการตลาด ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix) หมายถึง ตัวแปรหรือเครื่องมือทางการตลาดที่สามารถ ควบคุมได้ บริษัทมักจะน ามาใช้ร่วมกันเพื่อตอบสนองความพึงพอใจ และความต้องการของลูกค้าที่เป็น กลุ่มเป้าหมาย แต่เดิมส่วนประสมทางตลาดจะมีเพียง 4 ตัวแปรเท่านั้น (4P’s) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) สถานที่ ช่องทางการจัดจ าหน่ายผลิตภัณฑ์ (Place) การส่งเสริมการตลาด (Promotion) ต่อมามี การคิดตัวแปรเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 3 ตัวแปร ได้แก่ บุคคล (People) ลักษณะทางกายภาพ (Physical Evidence) และกระบวนการ (Process) เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดที่ส าคัญทางการตลาดสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ธุรกิจทางด้านการบริการ ดังนั้น จึงรวมเรียกได้ว่า เป็นส่วนประสมทางการตลาดแบบ 7P’s (Kotler, (1997) กลยุทธ์การตลาดส าหรับธุรกิจบริการ (Service Marketing Mix) ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของ ผู้บริโภค จะประกอบด้วย ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการจัดจ าหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้าน


กระบวนการให้บริการ และด้านลักษณะทางกายภาพ โดยทุกปัจจัยจะมีความเกี่ยวพันกัน และเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับผู้บริหารจะวางกลยุทธ์โดยเน้นน้ าหนักที่ปัจจัยใดมากกว่า เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของ ตลาดเป้าหมาย 1.ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ (Product) หมายถึง สิ่งที่ได้ถูกน าเสนอไปยังตลาดเพื่อตอบสนองความ ต้องการของผู้บริโภค และเป็นการท าให้เกิดคุณค่า (Value) เพื่อให้เกิดความพึงพอใจโดยผลิตภัณฑ์ที่เสนอแก่ ผู้บริโภคจะต้องมีคุณประโยชน์หลัก (Core Benefit) และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคต้องการและเกินความ คาดหวัง หรือคาดหวัง และยังรวมถึงการน าเสนอสินค้าที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันใน อนาคต สินค้าที่น าเสนอให้แก่ผู้บริโภคอาจจับต้องได้ หรือจับต้องไม่ได้ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จึงประกอบไป ด้วย สินค้า บริการ ความคิด สถานที่องค์กร หรือบุคคล เป็นต้น 2.ปัจจัยด้านราคา (Price) หมายถึง ต้นทุนของสินค้า และก าไรของสินค้าที่ผู้บริโภคจะต้องช าระ ให้กับธุรกิจ ซึ่งการก าหนดราคาสินค้าเกิดจากการตั้งเป้าหมายทางการค้าไว้ว่า บริษัทต้องการก าไร ต้องการ ต่อสู้กับคู่แข่งขัน ต้องการขยายส่วนครองตลาด หรือเป้าหมายอื่น การตั้งราคาต้องได้รับการยอมรับจากกลุ่ม ตลาดเป้าหมาย ราคาสินค้าสอดคล้องกับคุณภาพของสินค้า และสามารถสู้กับคู่แข่งได้ รวมถึงเวลาความ พยายามในการใช้ความคิด และการก่อนพฤติกรรมซึ่งจะต้องจ่ายพร้อมราคาสินค้าที่เป็นตัวเงิน 3.ปัจจัยด้านการจัดจ าหน่าย (Place) หมายถึง กระบวนการท างานที่จะท าให้สินค้า หรือบริการไปสู่ ตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้า หรือบริการตามที่ต้องการ โดยจะต้องค านึงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ โดยเฉพาะ ท าเลที่ตั้ง เพื่อให้อยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด 4.ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด (Promotion) หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนให้เกิด กระบวนการสื่อสารทางการตลาด เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ตลาด และผู้บริโภคเข้าใจถึงคุณค่าในสิ่งที่ผู้ขายเสนอโดยมี เครื่องมือที่ส าคัญ 4 ชนิด คือ -การขายโดยใช้พนักงาน Personal Selling: เป็นการส่งเสริมการตลาดที่มีประสิทธิภาพที่สุด และ สามารถกระตุ้นยอดขายได้มากแต่มีค่าใช้จ่ายสูง -การโฆษณา Advertising: เป็นการสื่อโฆษณาประเภทต่าง ๆ ให้เข้าถึงผู้บริโภค กลุ่มใหญ่เหมาะกับ สินค้าที่ต้องการตลาดกว้าง และเป็นการขยายกลุ่มลูกค้า -การส่งเสริมการขาย Sales Promotion: เป็นการใช้สื่อโฆษณาประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่ม ลูกค้าเป้าหมาย และเกิดความต้องการในตัวสินค้า -การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ Publicity and Public Relation: เป็นกิจกรรมเพื่อเสริม ภาพพจน์หรือชดเชยเบี่ยงเบนความรู้สึกของผู้บริโภคต่อตัวผลิตภัณฑ์


5.ปัจจัยด้านกระบวนการให้บริการ (Process) หมายถึง ขั้นตอนในการจัดจ าหน่ายสินค้า และ บริการ ซึ่งต้องมีความถูกต้องรวดเร็ว เพื่อสร้างความประทับใจ และส่งผลให้เกิดความพอใจ ซึ่งเป็นการอาศัย กระบวนการขั้นตอนบางอย่าง โดยเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ 6.ปัจจัยด้านบุคคลผู้ให้บริการ (People) หมายถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้า และการบริการ ซึ่ง ต้องมีความถูกต้อง และรวดเร็ว เพื่อสร้างความประทับใจc]tส่งผลให้เกิดความพอใจ เป็นการอาศัยกระบวนการ ขั้นตอนบางอย่าง โดยเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า และบริการ 7.ปัจจัยด้านทางกายภาพ (Physical Evidence) หมายถึง การแสดงให้เห็นคุณภาพของการบริการ โดยผ่านภาพลักษณ์ที่สามารถมองเห็นได้ เช่น การออกแบบตกแต่ง การแบ่งส่วน แผนกของพื้นที่ รวมทั้ง อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ใช้ในการให้บริการที่สามารถดึงดูดใจลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นภาพลักษณ์ หรือคุณค่าของบริการที่ส่งมอบ และที่เหนือกว่าคู่แข่งได้อย่างชัดเจน(Kotler, 2004) 2.5 ประวัติของโฆษณา ในศตวรรษที่ 19 เศรษฐกิจที่ก าลังขยายตัวอย่างรวดเร็วส่งผลให้ธุรกิจโฆษณาเติบโตเป็นอย่างมาก ใน สหรัฐอเมริกา ความส าเร็จของการโฆษณาน าไปสู่การส่งแคตตาล็อกไปตามบ้านแล้วให้ผู้รับสามารถสั่งของทาง จดหมายได้ ค.ศ. 1841 บริษัทตัวแทนโฆษณาแรกของโลกได้ถือก าเนิดขึ้นโดยการก่อตั้งของ Volney Palmer ในเมืองบอสตัน ในระยะแรกบริษัทนี้เป็นนายหน้าขายพื้นที่โฆษณาในหนังสือพิมพ์ ค.ศ. 1875 N.W. Ayer เปิด บริษัท N. W. Ayer & Son ในฟิลาเดลเฟีย เป็นบริษัทแรกที่ให้บริการโฆษณาอย่างครบวงจร กล่าวคือ เป็น นายหน้าโฆษณาและรับจัดท าโฆษณาให้ด้วย โฆษณาเป็นหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่ผู้หญิงสามารถท าได้ในยุคนี้ โฆษณาและนายหน้าทั้งหลายต่างพุ่งเป้าหมายไปที่ผู้หญิงเพราะผู้หญิงเป็นผู้จัดหาซื้อของเข้าบ้าน โฆษณาชิ้น แรกที่มีการใช้การปลุกเร้าทางเพศจัดท าโดยผู้หญิง เป็นโฆษณาเกี่ยวกับสบู่ที่ใช้สามีภรรยาคู่หนึ่งและขึ้น ข้อความว่า "ผิวที่คุณรักที่จะสัมผัส" แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องธรรมดาในสมัยนี้แล้วก็ตาม เมื่อสถานีวิทยุเริ่มกระจายเสียงเป็นครั้งแรกในต้นทศวรรษที่ 1920 รายการวิทยุต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นราวกับ ดอกเห็ด ทั้งนี้เป็นเพราะสถานีวิทยุในยุคแรก ๆ ก่อตั้งโดยผู้ผลิตวิทยุที่ต้องการให้มีรายการมาก ๆ เพื่อจะได้ ขายวิทยุได้เยอะ ๆ เมื่อเวลาผ่านไป องค์กรไม่หวังผลก าไรต่าง ๆ ได้ตั้งสถานีวิทยุของตนขึ้นมา รายการวิทยุ ส่วนมากจะมีสปอนเซอร์สนับสนุนรายการซึ่งมักจะเป็นสปอนเซอร์เจ้าเดียวโดยผู้จัดรายการจะต้องกล่าวถึง สปอนเซอร์ก่อนและหลังรายการเป็นเวลาสั้น ๆ ต่อมา เจ้าของสถานีวิทยุเห็นว่าหากขายช่วงเวลาโฆษณาให้กับ หลาย ๆ บริษัทจะท าเงินได้มากกว่ามีสปอนเซอร์เจ้าเดียว วิธีนี้ถูกน าไปใช้กับการโฆษณาในโทรทัศน์ในช่วง ปลายทศวรรษ 1940 และต้นทศวรรษ 1950 ด้วย มีการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างผู้ที่ต้องการให้วิทยุเป็นธุรกิจ กับผู้ที่ต้องการให้คลื่นวิทยุเป็นสาธารณสมบัติและต้องใช้โดยไม่หวังผลก าไร


ในทศวรรษ 196 วงการโฆษณาได้ก้าวเข้าสู่การโฆษณายุคใหม่ที่เริ่มใช้ข้อความที่แปลกตาเพื่อดึงดูด ความสนใจของผู้คน บริษัท Volkswagen สร้างโฆษณาที่ใช้หัวข้อว่า "คิดเล็ก ๆ" และ "มะนาว" (สัญลักษณ์ อธิบายรูปร่างของรถในสมัยนั้น) นับเป็นผู้บุกเบิกการโฆษณาโดยใช้จุดเด่นของผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความ ประทับตราตรึงแก่ผู้อ่าน วงการโฆษณาของอเมริกายุคนี้ถูกเรียกว่าเป็นยุคปฏิวัติความคิดสร้างสรรค์ นักโฆษณา ที่โดดเด่นได้แก่ Bill Bernbach ผู้ที่ช่วยสร้างโฆษณาของ Volkswagen และอื่น ๆ อีกมากมาย อินเทอร์เน็ตได้เปิดพรมแดนใหม่แห่งการโฆษณาและท าให้เกิดยุค "ดอตคอม" เฟื่องฟูในทศวรรษที่ 1990 บริษัทต่าง ๆ อาศัยเงินจากการโฆษณาเพียงอย่างเดียวโดยเสนอทุกอย่างตั้งแต่คูปองไปจนถึงบริการ อินเทอร์เน็ต ในช่วงก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 กูเกิลและบริษัทอีกจ านวนหนึ่งได้น าเสนอกลยุทธ์การโฆษณาที่มี ความเกี่ยวข้องกับเนื้อหา แทนที่จะโฆษณาทุกอย่างโดยไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ท าให้เกิดกระแสการสร้าง โฆษณาแบบอินเทอร์แอคทีฟอย่างมากมาย นวัตกรรมโฆษณาเมื่อไม่นานมานี้ได้แก่การโฆษณาแบบกระจายไปทั่ว กล่าวคือ การโฆษณาตามที่ สาธารณะ เช่นการโฆษณาตามรถ หรือการโฆษณาแบบอินเทอร์แอฟทีฟที่อนุญาตให้ผู้ชมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ การโฆษณาได้ รูปแบบการโฆษณา -สื่อ สถานที่ใดก็ตามที่มีสปอนเซอร์จ่ายเงินเพื่อจะได้แสดงโฆษณาของตนถือได้ว่าเป็นสื่อโฆษณาอย่าง หนึ่ง สื่อโฆษณาอาจรวมถึง การเขียนก าแพง, ป้ายโฆษณา, ใบปลิว, แผ่นพับ, วิทยุ, โฆษณาในโทรทัศน์และโรง ภาพยนตร์, ป้ายโฆษณาบนเว็บ, การโฆษณาบนท้องฟ้า, ที่นั่งตามป้ายรถเมล์, คนถือป้าย, นิตยสาร, หนังสือพิมพ์, ด้านข้างของรถหรือเครื่องบิน, ประตูรถแท็กซี่, เวทีคอนเสิร์ต, สถานีรถไฟใต้ดิน, สติกเกอร์บน แอปเปิล, โปสเตอร์, ด้านหลังของตั๋วการแสดง, ด้านหลังของใบเสร็จ และอื่น ๆ อีกมากมาย -การโฆษณาย่อย คือการโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ตอบสนองต่อสิ่งที่ กลุ่มเป้าหมายต้องการ กลุ่มเป้าหมายต้องมีลักษณะเฉพาะที่รวมกลุ่มกันได้ เช่น กลุ่มผู้รักรถยนต์, กลุ่มชมรม พระเครื่อง ข้อความที่โฆษณาเป็นสิ่งที่กลุ่มผู้เป้าหมาย ค้นหาหรือสนใจอยู่ในปัจจุบัน ในลักษณะของการเอื้อ หรือสอดคล้องเป็นท านองเดียวกันกับเนื้อหา ไม่เป็นการขัดจังหวะผู้รับข่าวสาร และตรงข้ามกับ การโฆษณา แบบมหาชน โดยใช้สื่อมวลชนกระแสหลัก -การวางผลิตภัณฑ์ประกอบฉาก หรือการโฆษณาแบบแอบแฝง คือ การที่สื่อบันเทิงหรือสื่อใด ๆ ก็ ตามกล่าวถึงหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งโดยไม่ได้บอกชัดแจ้งว่าเป็นการโฆษณา ที่พบได้บ่อยคือการที่ตัว ละครส าคัญในสื่อบันเทิงใช้สินค้าโดยปรากฏให้เห็นตราสินค้าชัดเจน ตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์เรื่อง หน่วยสกัดอาชญากรรมล่าอนาคต (Minority Report) ทอม ครูซ ผู้รับบทเป็น จอห์น แอนเดอร์สัน ใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียที่แสดงยี่ห้อไว้ชัดเจน ใช้รถยนต์เล็กซัส (รถยนต์ต้นแบบที่เข้า กับฉากยุคอนาคต ซึ่งไม่ได้มีจ าหน่ายจริง แต่มีตราเล็กซัสปรากฏชัดเจน) และใช้นาฬิกายี่ห้อ Bulgari หรือใน


ภาพยนตร์เรื่อง ไอ โรบอท พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก พระเอกของเรื่องกล่าวถึงรองเท้ายี่ห้อคอนเวิร์สของ เขาอยู่หลายครั้ง และใช้รถยนต์เอาดี้ (รถยนต์ต้นแบบที่เข้ากับฉากยุคอนาคต ซึ่งไม่ได้มีจ าหน่ายจริง แต่มีตรา เอาดี้ปรากฏชัดเจน), บริษัทผู้ผลิตรถยี่ห้อคาดิลแลคได้เลือกโฆษณากับภาพยนตร์เรื่อง เดอะ เมทริกซ์ รีโหลด เดด ท าให้ในหนังเรื่องนี้มีรถคาดิลแลค (เป็นรถรุ่นที่มีจ าหน่ายอยู่จริง) ปรากฏอยู่ในฉากแอ็กชันส าคัญ -การโฆษณาทางโทรทัศน์เป็นวิธีโฆษณาแบบ broadcast ที่มีผู้รับชมเป็นจ านวนมาก สังเกตได้จาก ค่าโฆษณาตามทีวีในช่วงรายการดัง ๆ ที่มีราคาสูงมาก ในสหรัฐอเมริกา ค่าโฆษณาในช่วงซูเปอร์โบวล์มีราคาสูง ถึง 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อสามสิบวินาที และเคยเชื่อว่ามีประสิทธิภาพที่สุดจนกระทั่งเกิดสื่อใหม่ที่เรียกว่า new media ซึ่ง new media สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในวงกว้างได้ เช่นเดียวกับการ โฆษณาทางโทรทัศน์ แต่สามารถตรวจนับได้ เป็นการสื่อสารสองทาง และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับผู้ชมแต่ละ รายได้ การโฆษณาและการเข้าถึงผู้ชมรูปแบบใหม่ สื่อต่าง ๆ เริ่มเข้ามามีอิทธิพลเหนือโทรทัศน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน เป็นเพราะผู้บริโภคเริ่มมีเวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มากกว่าการอยู่หน้าจอโทรทัศน์ หรือฟังวิทยุ การโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตถือเป็นปรากฏการณ์เมื่อไม่นานมานี้ ราคาค่าโฆษณาบนเว็บขึ้นอยู่กับ จ านวนผู้เข้าชมเว็บนั้น การโฆษณาทางอีเมลก็เป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่ง อีเมลที่ผู้รับไม่พึงประสงค์จะรับถูกเรียกว่าสแปม บริษัทบางบริษัทติดโลโก้ของตนไว้ที่ข้างจรวดและสถานีอวกาศนานาชาติ มีข้อถกเถียงกันถึง ประสิทธิภาพอันรุนแรงของการโฆษณาในระดับฝังใต้จิตใต้ส านึก (การควบคุมจิตใจ) และการโฆษณาชวนเชื่อ การโฆษณาชวนเชื่อคือการสื่อสารกับบุคคลหนึ่งเพื่อต้องการมีอิทธิพลเหนือบุคคลอื่น โน้มน้าวให้เห็นด้วยกับ ทางเลือกที่เราเสนอ จนเกิดการตัดสินใจตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ซึ่งอาจไม่สนใจในความถูกต้องหรือข้อเท็จจริง น าเสนอเพียงด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้การโน้มน้าวประสบผลส าเร็จ -การโฆษณาผ่าน SMS เป็นที่นิยมมากในยุโรปและอเมริกา ข้อดีของการโฆษณาด้วยวิธีนี้ก็คือผู้รับ ข้อความสามารถตอบโต้ได้ทันทีไม่ว่าจะติดอยู่ในการจราจรที่ติดขัดหรือจะนั่งอยู่ในรถไฟฟ้า การใช้ SMS ยังท า ให้เกิดการโฆษณาแบบปากต่อปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ -การโฆษณาออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบันนั่นคือ สื่อดิจิทัล มัลติมีเดียที่อยู่บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Facebook Ads หรือ Google Ads ด้วยเหตุผลที่ว่าทุกวันนี้คนทั้งโลกแทบจะอยู่กันบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ซึ่ง รูปแบบการท าโฆษณาบนสื่อออนไลน์นั้นมีหลากหลาย ไร้ขีดจ ากัด แน่นอนว่าปัจจุบันนี้มีธุรกิจมากมายที่โลดแล่นอยู่ในวงการการตลาดดิจิทัลและด้วยการแข่งขันอย่างสูง นี้เองท าให้นักธุรกิจรุ่นใหม่เล็งเห็นโอกาสที่จะเติบโตในการท าธุรกิจซึ่งก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือให้พวกเขาได้เรียนรู้ (วิถีพีเดีย,2565)


2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง Yang Ying (2563) ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค (Facebook) ของผู้บริโภควัยท างานในเขตกรุงเทพมหานครผลการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็น เพศหญิง มีอายุ21-30 ปีมีการศึกษา ระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,000 – 25,000 บาท ส่วนใหญ่เลือกซื้อเสื้อ มีความถี่ในการซื้อเดือนละ 1 ครั้ง และมีราคาเสื้อผ้าที่ซื้อ 501 – 1,000 บาท ผลการทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ พบว่า คุณภาพข้อมูล และความ เชื่อถือใน แบรนด์ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เฟสบุ๊ค (Facebook) ของผู้บริโภคระดับวัยท างานในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยส าคัญ ทางสถิติที่ 0.05 ส่วน คุณภาพ การให้บริการไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ผ่าน สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เฟสบุ๊ค (Facebook) ของผู้บริโภคระดับวัยท างานในเขต กรุงเทพมหานคร นางสาวนิราภร ค าจันทร์(2564) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงของกลุ่ม เจเนอเรชั่น วาย ผ่านแอปพลิเคชั่นอินสตาแกรมในประเทศไทยผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้หญิงเจเนอเรชั่นวาย ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษา ปริญญาตรีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ย10,001-20,000 บาท ต่อเดือน และมีสถานะภาพ โสด เสื้อผ้าแฟชั่นที่ผู้ตอบแบบสอบถามนิยมซื้อคือประเภทเสื้อ จ านวนเงินที่ใช้ซื้อในแต่ ละครั้ง 101-300 บาท สถานที่ใช้ซื้อคือที่บ้าน/ที่พักอาศัย มักซื้อในช่วงเวลา ช่วงค่ า/ก่อนนอน ง (20.01น.-00.00น.) มี ความถี่ในการซื้อเดือนละ 2-3 ครั้ง โดยสาเหตุที่เลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่าน แอปพลิเคชั่นอินสตาแกรม คือ มีความ สะดวกสบายในการซื้อ ส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง และ ปัญหาที่เกิดจากการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น คือ สินค้าหมด สต็อก ปาจรีย์ ยังชู(2563) พฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ของประชากรในจังหวัดกรุงเทพมหานครผล การทดสอบสมมุติฐานพบว่า ประชากรในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่มีเพศ รายได้ ต่างกัน ท าให้พฤติกรรมการซื้อ เสื้อผ้าของประชากรในจังหวัดกรุงเทพมหานครต่างกัน และประชากรในจังหวัด กรุงเทพมหานคร ที่มี อายุ อาชีพ สถานภาพ ระดับการศึกษาต่างกัน ท าให้พฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าของ ประชากรในจังหวัดกรุงเทพมหานครไม่ ต่างกัน นอกจากนี้ปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ด้านราคา ด้านการส่งเสริมการตลาด มีผล ต่อพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ ส่วนด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย ไม่มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้า แฟชั่นออนไลน์ ของประชากรในจังหวัดกรุงเทพมหานคร นางรัตนา โพธิวรรณ์ (2562) การใช้ปัจจัยส่วนประสมการตลาดในการตดัสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ของ ผู้บริโภคในเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ผลการวิจัย พบว่า ผู้บริโภคใช้ปัจจัยส่วนประสมการตลาดในการตัดสินใจ ซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณารายได้ พบว่า ปัจจัยส่วนประสมการตลาดในการ ตัดสินใจซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่นของผู้บริโภค อันดับแรกคือ ด้านผลิตภัณฑ์รองลงมาคือ ด้านราคา ด้านช่องทางการ จัด


จ าหน่ายและอันดับสุดท้าคือ ด้านการส่งเสริมการตลาด ตามล าดับผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ผู้บริโภคที่มี อายุสถานภาพ อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ต่างกันใช้ปัจจัยส่วนประสมการตลาดในการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้า แฟชั่น แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนผู้บริโภคที่มีเพศและระดับการศึกษา ต่างกัน ใช้ ปัจจัยส่วนประสมการตลาดในการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนด้านพฤติกรรม พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นจากห้างสรรพสินค้า ประเภทเสื้อ เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ช่วงเวลาที่ซื้อ 18.01 น. เป็นต้นไป ครั้งละ 1-2 ชิ้นจ านวนเงินที่ซื้อแต่ละครั้ง250-500 บาท สาเหตุการซื้อเพื่อ สวมใส่ไปเที่ยวและเพื่อใส่ไปท างาน ยศสรัล ทวีพัฒนะพงศ (2560) พฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าออนไลน์และทัศนคติที่มีต่อส่วนประสมทาง การตลาด ที่ส่งผลต่อความตั้งใจในการซื้อซ้ าของผู้ริโภคในเขตกรุงเทพมหานครผลการทดสอบความสัมพันธ์ ระหว่างพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ที่ส่งผลต่อความ ตั้งใจในการซื้อซ้ าของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่า การให้ความส าคัญกับความ สนุกสนาน/การเลือกซื้อสินค้า มีอิทธิพลต่อความตั้งใจในการซื้อซ้ าของผู้บริโภค ในเขต กรุงเทพมหานครมากที่สุด รองลงมาคือการให้ความส าคัญกับเรื่องราคา/คุ้มค่ากับเงิน ความ แปลกใหม่/ การให้ความส าคัญกับแฟชั่น และความเคยชิน/ความภักดีในแบรนด์ความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติที่มีต่อส่วน ประสมทางการตลาดของร้านเสื้อผ้าออนไลน์ที่ ส่งผลต่อความตั้งใจในการซื้อซ้ าของกลุ่มตัวอย่างของผู้บริโภคใน เขตกรุงเทพมหานคร พบว่า ทัศนคติที่มีต่อราคาเสื้อผ้าและช่องทางการจัดจ าหน่ายออนไลน์มีอิทธิพลต่อความ ตั้งใจในการซื้อซ้ าของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครมากที่สุด


2.5 กรอบแนวคิดในการวิจัย เรื่องปัจจัยทางการตลาดออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดในการวิจัย ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ - เพศ -อายุ -ระดับการศึกษา -อาชีพ -รายได้ ปัจจยัทางการตลาดออนไลน์ที่มีผลต่อการตดัสินใจซ้ือ เส้ือผา้แฟชนั่ของนกัเรียนนกัศึกษาผหู้ญิงแผนก วิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์ นิกร ปัจจยัส่วนผสมทางการตลาด - ด้านผลิตภัณฑ์(Product) - ด้านราคา (Price) - ดา้นช่องทางจดัจา หน่าย(PIace) -ดา้นการส่งเสริมการตลาด (Promotion)


บทที่ 3 วิธีการด าเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยทางการตลาดออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของ นักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงส ารวจและวิธีการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ซึ่งผู้ศึกษาได้ก าหนดแนวทางในการ ด าเนินการวิจัย ดังนี้ 1. การก าหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3. การสร้างและการตรวจสอบเครื่องมือ 4. การเก็บรวบรวมข้อมูล 5. วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง การศึกษาในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ก าหนดประชากรและตัวอย่างไว้ ดังนี้ ประชากร ประชากรที่ใช้ คือ เสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวง ประธานราษฎร์นิกร การก าหนดกลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยก าหนดขนาดตัวอย่างตามแนวทางของ Taro (1973:727-728) ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 และ ค่าความคลาดเคลื่อนร้อยละ 5 และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ เสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการ ตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร จ านวน 100 คน สูตร n = N 1+Ne² เมื่อ n= ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง N= จ านวนประชากรทั้งหมด e= ความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้(α = 0.05) แทนสูตร n= 172,752 1+(172,752)(0.50)² = 399.08 ดังนั้นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาในการวิจัยนี้ คือ 399 คนตัวอย่าง


การเก็บข้อมูลโดยใช้การสุ่มแบบสะดวก (Convenience Sampling) โดยกลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้บริโภคที่ ตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎ์ นิกร 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ก าหนดเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม (Questionnaire) ซึ่ง แบ่งเป็น 4 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่1 แบบสอบถามที่เกี่ยวกับลักษณะทางประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่เพศ อายุ ระดับ การศึกษา ลักษณะแบบสอบถามเป็นปลายปิด (Close-ended response questions) ส่วนที่2 แบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนก วิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร เหตุผลในการเลือกซื้อ ประเภทยี่ห้อเสื้อผ้าแฟชั่น ความถี่ ในการซื้อต่อเดือน ค่าใช้จ่ายในการซื้อต่อครั้งสื่อที่มีอิทธิพลต่อการซื้อ และช่องทางในการช าระเงิน ลักษณะแบบสอบถามเป็นประกอบด้วยค าถามที่มีค าตอบให้เลือก (Multiple Choices) จ านวน 7 ข้อ ส่วนที่3 แบบสอบถามเกี่ยวกับระดับการให้ความส าคัญด้านส่วนประสมทางการตลาด 4P’s Marketing ที่มี อิทธิพลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการ อาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร แบบสอบถามค าถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale Method) ใน รูปแบบของลิเคิร์ท (Likert’s Scale) เกณฑ์การให้คะแนนมี5 ระดับ ดังนี้ ระดับที่ 5 หมายถึงระดับความส าคัญในการตัดสินใจมากที่สุด ระดับที่ 4 หมายถึงระดับความส าคัญในการตัดสินใจมาก ระดับที่ 3 หมายถึงระดับความส าคัญในการตัดสินใจปานกลาง ระดับที่ 2 หมายถึงระดับความส าคัญในการตัดสินใจน้อย ระดับที่ 1 หมายถึงระดับความส าคัญในการตัดสินใจน้อยที่สุด โดยคะแนนทั้งหมดจะถูกก าหนดไว้ล่วงหน้าตามเกณฑ์ที่ได้ตั้งไว้ซึ่งผู้วิจัยใช้สูตรการ ค านวนระดับการให้คะแนน ค่าเฉลี่ยตามความกว้างของอันตรภาคชั้น ดังนี้ (กัลยา วานิชย์บัญชา, 2546, หน้า 27) การแปลค่าคะแนนเฉลี่ยหาได้จากสูตร =ค่าสูงสุด–ค่าต่ าสุด จ านวนขั้น = 5-1 5 =0.80


ดังนั้นค่าที่อยู่ระหว่าง 4.21 – 5.00 แปลค่าว่าระดับความส าคัญในการตัดสินใจมากที่สุด 3.41 – 4.20 แปลค่าว่า ระดับความส าคัญในการตัดสินใจมาก 2.61 – 3.40 แปลค่าว่าระดับความส าคัญในการตัดสินใจปานกลาง 1.81 – 2.60 แปลค่าว่าระดับความส าคัญใน การตัดสินใจน้อย 1.00 – 1.80 แปลค่าว่าระดับความส าคัญในการตัดสินใจน้อยที่สุด ส่วนที่4 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเป็นลักษณะในการแสดงความคิดเห็น 3.3 วิธีการรวบรวมข้อมูล การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบวิจัยเชิงส ารวจ (Survey Research) เพื่อศึกษากลยุทธ์เสื้อผ้าแฟชั่น ของนักเรียนนักศึกษาผู้หญิง แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร มีการเก็บ รวบรวมข้อมูลเพื่อการวิจัยในครั้งนี้จาก 2 แหล่งดังนี้ 1. ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) เป็นข้อมูลที่ได้จากการใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจาก กลุ่ม ตัวอย่าง 100 คน 2. ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารทางวิชาการ รายงาน การวิจัย วิทยานิพนธ์ รวมถึงการค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางอินเตอร์เน็ตเพื่อน าประกอบ ในการสร้าง แบบสอบถาม 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้ท าการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์แบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้ ส่วนที่1 วิเคราะห์โดยใช้สถิติพรรณนา (Descriptive statistics) ดังนี้ 1.1ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ได้แก่ เพศ อายุ รายได้ อาชีพ และข้อมูลพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้า แฟชั่นท าการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) 1.2 ข้อมูลส่วนประสมทางการตลาด 4P’s และข้อมูลกระบวนการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นท าการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D.)


ส่วนที่ 2 วิเคราะห์โดยใช้สถิติอนุมาน (Inferential statistics) ดังนี้ใช้ในการทดสอบสมมุติฐาน มี รายละเอียดดังนี้ 2.1 เพื่ อ ศึ กษ าปั จ จั ยป ร ะ ช า ก ร ศ า ส ต ร์ที่ ต่ า ง กัน ให้ค ว าม ส า คั ญ กับปั จ จั ย ส่ วนป ร ะ ส ม การตลาด 4P’s แตกต่างกัน โดยทดสอบสมมติฐานด้วย Independent Sample t-test ส าหรับปัจจัย ประชากรศาสตร์ที่จ าแนกเป็น 2 กลุ่ม และทดสอบสมมติฐานด้วย One-Way ANOVA (F-test) ด้วย การ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ส าหรับปัจจัยส่วนบุคคลที่มีการจ าแนก 2 กลุ่ม ขึ้นไป และ เมื่อพบความแตกต่างท าการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีFisher’s Least Significant Difference (LSD) 2.2 เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น กับปัจจัยส่วนประสมทาง การตลาด 4P’s โดยทดสอบสมมติฐานด้วยการใช้สถิติไคสแควร์ โดยตัวแปรทั้งสองตัวเป็นอิสระต่อกันและอยู่ ในมาตราอันตรภาคหรืออัตราส่วนเดียวกัน


บทที่ 4 ผลการวิจัย การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวง ประธานราษฎร์นิกรโดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้บริโภคในเขตวิทยาลัยการ อาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรจ านวน 100 คน น ามาสรุปผลข้อมูลโดยก าหนดสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ดังต่อไปนี้ สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล n แทน จ านวนของกลุ่มตัวอย่าง X แทน ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง S.D. แทน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มตัวอย่าง t แทน ค่าสถิติทดสอบ t-test F แทน ค่าสถิติทดสอบ F-test H0 แทน สมมติฐานหลกั (Null hypothesis) H1 แทน สมมติฐานรอง (Alternative hypothesis) Sig. แทน ความน่าจะเป็นส าหรับบอกค่านัยส าคัญทางสถิติ * แทน ระดับนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ขอมูลผู้วิจัยได้น าเสนอผลตามจุดประสงค์ของการวิจัยโดยน าเสนอออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้ 1. ผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 2. ผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น 3. ผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น 4. ผลการวิเคราะห์สมมติฐานการวิจัย


ตารางที่1 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามเพศ เพศ จ านวน ร้อยละ หญิง 85 83.3 ชาย 17 16.7 รวม 102 102 จากตารางที่ 1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามในเขตวิทยาลัยการอาชพหลวงประธานราษฏร์นิกรครั้งนี้ จ านวน102 คนพบว่าส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิงจ านวน 85 คน คิดเป็นร้อยละ 83.3 และเป็นเพศชายจ านวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 16.7 ตารางที่2 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามด้านอายุ อายุ จ านวน ร้อยละ 16 – 20 ปี 47 46.1 21- 25 ปี 50 49 26ปีขึ้นไป 5 4.9 รวม 102 102 จากตารางที่ 2 พบผู้ตอบแบบสอบถามที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ จ านวน 102 คนพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 16-20 ปี มีจ านวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 46.1 ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 21-25 ปี มีจ านวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 49 ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 26 ปีขึ้นไป มีจ านวน 5คน คิดเป็นร้อยละ 4.9 ตารางที่3 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามระดับการศึกษา ระดับการศึกษา จ านวน ร้อยละ มัธยมศึกษาตอนต้น 3 2.9 มัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. 25 24.5 อนุปริญญา/ปวส. 66 64.7 ปริญญาตรี 8 7.8 สูงกว่าปริญญาตรี 0 0 รวม 102 102


จากตารางที่ 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช) จ านวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 29 รองลงมาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส) จ านวน 59 คน คิดเป็น ร้อยละ 59 และอื่นๆ จ านวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 12 ตารางที่4 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามอาชีพ อาชีพ จ านวน ร้อยละ นักเรียน/นักศึกษา 84 82.4 ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว 12 11.8 ข้าราชการ 2 2 เกษตรกร/รับจ้าง 4 3.9 รวม 102 102 จากตารางที่ 4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอาชีพนักเรียน/นักศึกษา จ านวน 84คน คิดเป็น ร้อยละ 82.4 ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว จ านวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 11.8 ข้าราชการจ านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 2 อาชีพเกษตรกร/รับจ้าง จ านวน 4คน คิดเป็นร้อยละ 3.9 ตารางที่5 จ านวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปจ าแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน จ านวน ร้อยละ ต่ ากว่า 5,000 บาท 75 75 5,001 – 10,000 บาท 8 8 10,001 – 15,000บาท 13 13 15,001-20,000บาท 2 2 20,001 บาทขึ้นไป 2 2 รวม 100 100 จากตารางที่ 5 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ ากว่า 5,000 บาท จ านวน 75คน คิดเป็นร้อยละ 75รองลงมามีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001 - 10,000 บาทจ านวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 8มี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 15,,000 บาทจ านวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 13 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001- 20,000 บาท จ านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 2มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 บาทขึ้นไป จ านวน 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 2


ส่วนที่ 2 ผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาดวิทยาลัยการ อาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นวิทยาลัยการอาชีพ หลวงประธานราษฎร์นิกร ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย ด้านการส่งเสริมทาง การตลาด ด้านการสื่อสารทางการตลาด มีดังนี้ ตารางที่ 6 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์ ด้านผลิตภัณฑ์ ระดับความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย ส่ ว น เบี่ย งเบน มาตรฐาน ก า ร แ ป ล ค่า พอใจมาก พอใจ ป า น กลาง ไ ม่ พอใจ ไ ม่ พ อ ใ จ มาก คุณภาพของเนื้อผ้า 53 40 9 0 0 5 0.00 มาก ค ว ามห ากหล าย ของเสื้อผห้าแฟชั่น 60 33 8 1 0 4.59 1.01 มาก ตรายี่ห้อ 48 46 0 3 0 4.59 1.02 มาก เ ป็ น ยี่ ห้ อ ที่ รู้ จั ก แพร่หลาย 60 31 5 4 0 4.33 0.96 มาก ค่าเฉลี่ยรวม 3.70 จากตารางที่ 6 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นวิทยาลัยการอาชีพ หลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์พบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ที่ผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้ตอบ แบบสอบถามส่วนใหญ่ในระดับมากทุกด้าน ดังนี้ คุณภาพเสื้อผ้าแฟชั่นมีค่าเฉลี่ย5อยู่ในระดับมาก ความ หลากหลายของเสื้อผ้าแฟชั่นมีค่าเฉลี่ย4.59อยู่ในระดับมาก ตรายี่ห้อมีค่าเฉลี่ย4.59 อยู่ในระดับมาก เป็นยี่ห้อที่ รู้จักแพร่หลายมีค่าเฉลี่ย4.33อยู่ในระดับมาก


ตารางที่ 7 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านราคา ด้านราคา ระดับความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย ส่ ว น เบี่ย งเบน มาตรฐาน ก า ร แ ป ล ค่า พ อ ใ จ มาก พอใจ ป า น กลาง ไ ม่ พอใจ ไ ม่ พ อ ใ จ มาก ร า ค า เ ห ม า ะ ส ม กั บ คุณภาพสินค้า 45 52 4 0 1 4.61 1.06 มาก มีหลายราคาให้เลือก 63 31 8 0 0 4.36 0.95 มาก ค่าเฉลี่ยรวม 3.33 จากตารางที่ 7 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์พบว่า ปัจจัยด้านราคาที่ผลต่อการตัดสินใจซื้อของ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ในระดับมากทุกด้าน ดังนี้ ราคาเหมาะสมกับคุณภาพสินค้ามีค่าเฉลี่ย4.16อยู่ในระดับ มาก มีหลายราคาให้เลือกมีค่าเฉลี่ย4.36อยู่ในระดับมาก


ตารางที่8 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านการจัดจ าหน่าย ด้านช่องทางการจัด จ าหน่าย ระดับความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย ส่ ว น เบี่ย งเบน มาตรฐาน ก า ร แป ล ค่า พ อ ใ จ มาก พอใจ ป า น กลาง ไ ม่ พอใจ ไ ม่ พ อใ จ มาก มีการวางจ าหน่ายตาม ห้างสรรพสินค้า 41 55 4 1 1 3.95 1.20 มาก มีการวางจ าหน่ายตาม แหล่งท่องเที่ยว 69 27 5 1 0 3.08 0.95 มาก ค่าเฉลี่ยรวม 3.33 จากตารางที่ 8 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์พบว่า ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจ าหน่ายที่ผลต่อการ ตัดสินใจซื้อของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ในระดับมากทุกด้าน ดังนี้ มีการวางจัดจ าหน่ายตามห้างสรรพสินค้ามี ค่าเฉลี่ย3.95อยู่ในระดัยมาก มีการวางจ าหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยวมีค่าเฉลี่ย3.08อยู่ในระดับมา


ตารางที่9 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องส าอางในวิทยาลัย การอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านส่งเสริมการตลาด ด้านส่งเสริม การตลาด ระดับความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบน มาตรฐาน การแปล ค่า พอใจ มาก พอใจ ปาน กลาง ไม่ พอใจ ไม่ พอใจ มาก การโฆษณาผ่านสื่อ ต่าง ๆ อาทิเช่น Facebook TikTok Instagram 46 51 3 1 1 4.05 0.85 มาก ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ส่งเสริมการขายอยู่ ตลอดเวลาอาทิเช่น การจัดโปรโมชั่น การ ซื้อ1แถม1 เป็นต้น 65 30 5 2 0 4.50 1.06 มาก ค่าเฉลี่ยรวม 3.40 จากตารางที่ 9 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์พบว่า ปัจจัยด้านส่งเสริมการตลาดที่ผลต่อการ ตัดสินใจซื้อของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ในระดับมากทุกด้าน ดังนี้ การโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ อาทิเช่น Facebook TikTok Instagramมีค่าเฉลี่ย4.05อยู่ ในระดับมาก การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอยู่ตลอดเวลาอาทิ เช่น การจัดโปรโมชั่น การซื้อ1แถม1 เป็นต้นค่าเฉลี่ย4.50 อยู่ในระดับมาก


ตารางที่10 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านสื่อสารการตลาด ด้านสื่อสารการตลาด ระดับความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบน มาตรฐาน การแปล ค่า พอใจ มาก พอใจ ปาน กลาง ไม่ พอใจ ไม่ พอใจ มาก มีโฆษณาผ่านช่องทาง สื่อออนไลน์ที่คนรู้จัก อย่างทั่วถึง 52 48 0 1 0 3.94 0.98 มาก มีการประชาสัมพันธ์ โดยนักเรียน นักศึกษา ข อง วิ ท ย า ลั ย ก า ร อาชีพหลวงประธาน ราษฎร์นิกร 56 39 5 1 0 3.98 1.05 มาก ค่าเฉลี่ยรวม 3.19 จากตารางที่ 10 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์พบว่า ปัจจัยด้านการสื่อสารทางการตลาดที่ผลต่อ การตัดสินใจซื้อของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ในระดับมากทุกด้าน ดังนี้ มีโฆษณาผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ที่คน รู้จักอย่างทั่วถึงมีค่าเฉลี่ย3.94อยู่ในระดับมาก มีการประชาสัมพันธ์โดยนักเรียน นักศึกษาของวิทยาลัยการอาชีพ หลวงประธานราษฎร์นิกรมีค่าเฉลี่ย3.98อยู่ในระดับมาก


ตารางที่ 11 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านบุคากร ระดับความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบน มาตรฐาน การแปลค่า พอใจ มาก พอใจ ปาน กลาง ไม่ พอใจ ไม่ พอใจ มาก ตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว เพราะสินค้าหาซื้อได้ง่าย 40 56 5 0 1 4.22 1.06 มาก ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นอยู่ ใกล้กับวิทยาลัยการอาชีพ หวงประธานราษฎร์นิกร อาทิเช่น ตลาดอาเซียน กรีนเวย์ 62 33 7 0 0 3.56 0.96 มาก ห้างสรรพสินค้า ตลาด มี ช่องทางกาช าระเงินที่ สะดวกหากหลายช่องทาง อาทิเช่น สแกนคิวอาร์โค้ด โอนจ่าย เงินสด บัตร เครดิต 51 48 3 0 0 3.85 1.01 มาก ค่าเฉลี่ยรวม 3.13 จากตารางที่ 11 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์พบว่า ปัจจัยทางด้านบุคลากรตัดสินใจซื้อได้อย่าง รวดเร็วเพราะสินค้าหาซื้อได้ง่ายมีค่าเฉลี่ย4.22อยู่ในระดับมาก ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นอยู่ใกล้กับวิทยาลัยการอาชีพ หวงประธานราษฎร์นิกรอาทิเช่น ตลาดอาเซียน กรีนเวย์มีค่าเฉลี่ย3.56อยู่ในระดับมาก ห้างสรรพสินค้า ตลาด มี ช่องทางกาช าระเงินที่สะดวกหากหลายช่องทางอาทิเช่น สแกนคิวอาร์โค้ด โอนจ่าย เงินสด บัตรเครดิตมีค่าเฉลี่ย 3.85อยู่ในระดับมาก


ส่วนที่ 3 การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ตารางที่ 1 ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผู้บริโภค ระดับความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบน มาตรฐาน การแปล ค่า พอใจมาก พอใจ ปาน กลาง ไม่ พอใจ ไม่ พอใจ มาก วิถีชีวิตของท่าน มีผต่อการ ตัดสินใจซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่น หรือไม่ 58 41 3 0 0 4.09 0.58 มาก ท่านได้ค้นหา เปรียบเทียบ คุณภาพเสื้อผ้า แฟชั่นด้วยตัวเอง ในการสอบถาม นักเรียน นักศึกษาแผนก การตาด วิทยาลัย การอาชีพหลวง ประธานราษฎร์ นิกร 66 34 1 1 0 3.04 1.16 มาก การ ประชาสัมพันธ์ ช่องทางการจัด จ าหน่ายเสื้อผ้า แฟชั่น 49 49 3 1 0 3.06 0.73 มาก


มีการช าระผ่าน ระบบให้ความ สะดวกในการ เสื้อผ้าแฟชั่น 59 38 5 0 0 4.21 0.98 มาก รูปลักษณ์การจัด วางสินค้าการจัด จ าหน่ายเสื้อผ้า แฟชั่นที่มีผลต่อ การตัดสินใจซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่นของ นักเรียน นักศึกษา 62 38 2 0 0 4.05 0.89 มาก ค่าเฉลี่ยรวม 3.37 จากตารางที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในแผนกการตลาด ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรในด้านผลิตภัณฑ์พบว่า ปัจจัยทางด้านการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค วิถีชีวิตของท่านมีผต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นหรือไม่มีค่าเฉลี่ย4.09อยู่ในระดับมาก ท่านได้ค้นหาเปรียบเทียบ คุณภาพเสื้อผ้าแฟชั่นด้วยตัวเองในการสอบถามนักเรียน นักศึกษาแผนกการตลาดวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธาน ราษฎร์นิกรมีค่าเฉลี่ย3.04อยู่ในระดับมาก การประชาสัมพันธ์ช่องทางการจัดจ าหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นมีค่าเฉลี่ย3.06 อยู่ในระดับมาก มีการช าระผ่านระบบให้ความสะดวกในการเสื้อผ้าแฟชั่นมีค่าเฉลี่ย4.21อยู่ในระดับมาก รูปลักษณ์ การจัดวางสินค้าการจัดจ าหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษามี ค่าเฉลี่ย4.05อยู่ในระดับมาก


บทที่ 5 สรุปผล อภิปลายและข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่องปัจจัยทางการตลาดที่มีผลจ่อการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นนักเรียน นักศึกษาแผนก การตลาด ในวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยทางประชากรศาสตร์ที่มี ผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นและเพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้า แฟชั่น ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียน นักศึกษาในนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์ นิกร จ านวน 102 คน เครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถามโดยเป็นแบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วน ค่าประมาณค่า (Rating Scale) 5 มาตราส่วน ให้ผลตอบแสดงความคิดเห็นเรื่อง ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการ ตัดสินใจเล่นเกมROVออนไลน์บนมือถือ ของนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร สถิติ ที่ ใช้วิเคราะห์ข้อมูล 1.ค่าร้อยละ (Percentage) 2.ค่าเฉลี่ย (Mean) 3.ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 4. ค่าที(t-test แบบ Indent) 5. ค่าเอฟ (F-test) 5.1 สรุปผลการศึกษา 1.ข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์ด้านบุคคล พบว่า ในด้านเพศส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 83.3 อายุ ผู้ตอบแบบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุ49 ร้อยละ 46.6 ระดับการศึกษาตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระดับการศึกษา อยู่ในระดับศึกษา อนุปริญญา/ป.ว.ส ร้อยละ 64.7 ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอาชีพ ร้อยละ ผู้ตอบ แบบสอบถามส่วนใหญ่มีรายได้ ร้อยละ 2.ข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับวิจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นและ วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยการอาชีพหลวง ประธานราษฎร์นิกร สรุปผลได้ดังนี้ 2.1 ด้านผลิตภัณฑ์ ผลการสึกษาพบว่า ผลการศึกษาพบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากพิจารณาข้อมูล พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมากในข้อ เสื้อผ้าแฟชั่นเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย 2.2 ด้านราคา ผลการศึกษาพบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากพิจารณาข้อมูลพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ มากในห้อข้อ มีหายราคาให้เรื่อง


2.3 ด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย ผลการศึกษาพบว่า ในภาพรวมอยู่ระดับมากพิจารณาข้อมูลพบว่า ส่วน ใหญ่อยู่ในระดับมากในข้อ มีการจัดจ าหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยว 2.4 ด้านการส่งเสริมการตลาด ผลการศึกษาพบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากพิจารณาข้อมูลพบว่า ส่วน ใหญ่อยู่ในระดับมากในข้อ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอยู่ตลอดเวลาอาทิเช่น การจัดโปรโมชั่น การซื้อ1แถม1 เป็นต้น 2.5 ด้านการสื่อสารการตลาด ผลการศึกษาพบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากพิจารณาข้อมูลพบว่า ส่วน ใหญ่อยู่ในระดับมากในข้อ มีการประชาสัมพันธ์โดยนักเรียน นักศึกษาของวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์ นิกร 2.6 ด้านบุคลากร ผลการศึกษาพบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากพิจารณาข้อมูลพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ใน ระดับมากในข้อ ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นอยู่ใกล้กับวิทยาลัยการอาชีพหวงประธานราษฎร์นิกรอาทิเช่น ตลาดอาเซียน กรีนเวย์ การวิจัยเรื่อง ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ของนักเรียน นักศึกษา ในแผนก การตาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ในภาพรวมและรายได้แต่ละด้านพบว่าอยู่ในระดับมาก ผล วิจัยดังกล่าวเป็นเป็นการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ในปัจจัยด้านส่วนประกอบทางการตลาดและกระบวนการการ ตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น อยู่ในระดับมากทั้ง 8 ด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมาก ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ 5.2 อภิปรายผล จากการศึกษา ปัจจัยททางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ของนักเรียน นักศึกษา ในแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการศึกษาที่ตั้งไว้ซึ่ง สามารถอภิปลายผผลได้ดังนี้ 1.ปัจจัยส่วนบุคคลที่ต่างกันมีการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษาแผนกการตลาด ในวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรที่แตกต่างกันอย่าวมีระดับนัยส าคัญ 0.05 1.1 ปัจจัยด้านเพศที่ต่างกันมีการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ของนักเรียน นักศึกษา ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรไม่แตกต่างงกันอย่างน้อยมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่ง สอดคล้องกับงานวิจัยของ ภัทรานิษฐ์ ฉายสุวรรณคีรี (2559) ได้ศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ผลการวิจัย


พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการ อาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ในส่วนลักษณะ ทางประชากรศาสตร์ ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านเพศ ด้านอายุ ด้านระดับการศึกษา ด้านอาชีพ ที่ แตกต่างกัน ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกวการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ไม่ แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องในด้านรายได้ และด้านสถานภาพ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการ อาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรไม่แตกต่างกัน 1.2 ปัจจัยด้านอายุที่ต่างกันมีการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ของนักเรียน นักศึกษา ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรไม่แตกต่างงกันอย่างน้อยมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่ง สอดคล้องกับงานวิจัย ของ ชลธิชาคงสุวรรณ (2560) ได้ศึกษา เรื่องปัจจัยที่ส่งต่อการตัดสินใจซื้อแฟชั่นของ นักเรียน นักศึกษาแผนกการตลาด ในวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร พบว่า ปัจจัยบุคคลคือ เพศและ อายุส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษาแผนกการตลาด ในวิทยาลัยการอาชีพหลวง ประธานราษฎร์นิกรไม่แตกต่างกัน 1.3 ปัจจัยด้านระดับการศึกษาที่ต่างกันมีการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ของนักเรียน นักศึกษา ในวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรไม่แตกต่างงกันอย่างน้อยมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ภัทรานิษฐ์ ฉายสุวรรณคีรี (2559) ได้ศึกษาเรื่อง “ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการ ตัดสินใจซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์ นิกร” ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ระดับการศึกษา ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ไม่แตกต่าง 1.4 ปัจจัยด้านอาชีพที่ต่างกันมีการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น ของนักเรียน นักศึกษา ใน วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกรไม่แตกต่างงกันอย่างน้อยมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่ง สอดคล้องกับงานวิจัยของ ชมพูนุช น้อยหลี(2562) ได้ศึกษาเรื่อง “ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้า แฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร” ผลการวิจัย พบว่า ประชากรศาสตร์ที่มีอาชีพ ที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าจากร้านค้าออนไลน์ที่ ไม่แตกต่างกัน 1.5 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย ด้านส่งเสริม การตลาด ด้านสื่อสารการตลาดส่งผลต่อการตัดสินใจเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธนราษฎร์นิกร ไม่แตกต่างกันอย่างน้อยมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสอดคล้อง


กับงานวิจัยของ ภัทรานิษฐ์ ฉายสุวรรณคีรี (2559) ได้ศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของ นักเรียน นักศึกษาแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ว่าปัจจัยทางการตลาดของธุรกิจ มีผลต่อการตัดสินใจ ซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียน นักศึกษาแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธาน ราษฎร์นิกร ประกอบด้วย 4 ปัจจัย โดยเรียงล าดับจากมากไปน้อย คือ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ และราคาที่เหมาะสม กับผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด และสอดคล้องกับแนวคิดของ Kotler(2015:25) ได้กล่าวว่า ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix) หมายถึง เครื่องมือทางการตลาดซึ่ง ธุรกิจจะมีการผสมผสานเครื่องมือ หลากหลายรูปแบบเพื่อให้สามารถสร้างความพึงพอใจและตอบสนองต่อความ ต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุม เป้าหมายได้โดยส่วนประสมการตลาดมีทั้งหมด 7 ส่วนประกอบเรียก 7Ps ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจัดจ าหน่าย การส่งเสริมการตลาด บุคลากรลักษณะทางกายภาพและกระบวนการ ข้อเสนอแนะ การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ อีกทั้งยังพบข้อจ ากัดในการศึกษาอาจท าให้ได้ข้อมูล มาในระดับที่ไม่ลึกมากพอ ดังนั้นเพื่อให้สามารถเป็นแนวทางส าหรับผู้ที่สนใจผู้วิจัยจึงมีข้อเสนอ ในการวิจัยครั้ง ต่อไปดังนี้ 1. ควรมีการศึกษาพฤติกรรมการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นในกลุ่มคนเจเนอเรชั่นอื่น หรือกลุ่มคน ช่วง อายุอื่นๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลศึกษาที่สามารถน ามาวางแผนการตลาดหรือปรับปรุงกลยุทธ์ให้เข้าถึงและขยายฐานลูกค้า กลุ่มอื่นๆ ได้มากขึ้น 2. การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงประมาณจึงได้ข้อมูลในฝั่งของผู้บริโภคเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก จึงสามารถที่จะศึกษาวิจัยจากการสัมภาษณ์ทั้งในส่วนของผู้บริโภคและผู้ขาย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาดหรือปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น 3. ในการวิจัยครั้งต่อไปสามารถศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า อื่นๆ ใน สื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ในการ หาช่องทางท าธุรกิจใหม่ๆ และใช้ในการ พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดได้ บรรณานุกรม


กติก า ส ายเสนีย์ . 2553. ส านสัมพัน ธ์กับ Influencer. [ระบบออนไลน์] . แหล่งที่ม า http://ir.mju.ac.th/dspace/bitstream/123456789/757/1/6106401025.pdf กฤตินา จันทร์หวร. 2559. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้ากิ๊ฟช็อปผ่านทางแอปพลิเค ชัน อินสตาแกรมของผู้บริโภคระดับชั้นมัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร. การค้นคว้า อิสระปริญญาโท. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์. ขวัญชนก มลศุภจินดา. 2557. พฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์และการแสดงตัวตนของเจเนอ เรชั่น: กรณีศึกษาความแตกต่าง ระหว่างเจเนอเรชั่นเบบี้บูมเมอร์และเจเนอเรชั่นวาย. การค้นคว้าอิสระปริญญาโท. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ. จุฑารัตน์ เกียรติรัศมี. 2558. ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อสินค้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นออนไลน์ของ ผู้บริโภค ในเขตกรุงเทพมหานครและปรมิณฑล. การค้นคว้าอิสระปริญญาโท. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ชนกพร ไพศาลพานิช. 2554. อิทธิพลของวัตถุนิยมและการตระหนักรู้ตนเองต่อพฤติกรรมการซื้อ แบบไม่ได้ไตร่ตรองของกลุ่มผู้บริโภคเจเนอเรชั่นวาย. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ชมพูนุช น้อยหลี. 2562. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าจาก ร้านค้าออนไลน์. การ ค้นคว้าอิสระปริญญาโท. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย. ดวงใจ ธรรมนิภานนท์. 2557. กลยุทธ์การตลาดผลิตภัณฑ์ความงามผ่านช่องทางการค้าแบบ ดิจิทัล. การค้นคว้าอิสระปริญญาโท. มหาวิทยาลัยเนชั่น. ธัญนันท์ วีรภัทรรุ่งโรจน์. 2559. ลักษณะความแตกต่างระหว่าง Generation X,Y และ Z ใน กรุงเทพมหานครฯ และพฤติกรรมในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์. การค้นคว้าอิสระปริญญาโท. มหาวิทยาลัยเนชั่น. พรรณดา โต. 2560. พฤติกรรมของกลุ่มคนดิจิทัลเนทีฟ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ต่อการ ตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านอินตาแกรม. การค้นคว้าอิสระปริญญาโท. มหาวิทยาลัยแม่โจ้


ภาคผนวก


ค าชี้แจง: โปรดท าเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องว่าง ที่ตรงหน้าข้อความที่ตรงกับข้อมูลของท่านมากที่สุด ส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่น ระดับการตัดสินใจ 5 4 3 2 1 ด้านผลิตภัณฑ์ 1.คุณภาพของเนื้อผ้า 2.ความหลากหลายของเสื้อผ้าแฟชั่น 3.ตรายี่ห้อ 4.เป็นยี่ห้อที่รู้จักแพร่หลาย ด้านราคา 1.ราคาหมาะสมกับคุณภาพสินค้า 2.มีหลายราคาให้เลือก ด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย(สถานที่) 1.มีการว่างจ าหนายตามห้างสรรพสินค้า 2.มีการวางจ าหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยว ด้านการส่งเสริมด้านการตลาด 1.การโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ อาทิเช่น โทรศัพท์ผ่านทาง Facebook lnstagram line TikTok เป็นต้น 2.การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอยู่ตลอดเวลาอาทิเช่น การ ลดราคา แถม การจัดแสดงสินค้า ส่วนลด % เป็นต้น


ส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ เสื้อผ้าแฟชั่น ระดับการตัดสินใจ 5 4 3 2 1 ด้านการสื่อสารทางการตลาด 1.มีโฆษณาผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ที่คนรู้จักอย่างทั่วถึง 2.มีการประชาสัมพันธ์โดยการแจกใบปลิวในแผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร ด้านบุคลากร 1.ตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว เพราะสินค้าหาซื้อได้ง่าย 2 ร้ายขายเสื้อผ้าแฟชั่นอยู่ใกล้กับวิทยาลัยการอาชีพหลวง ประธานราษฎร์นิกรอาทิเช่น ตลาดอาเซียน ตลาดกรีนเวย์ 3 ห้างสรรพสินค้า ตลาด มีช่องทางการช าระที่สะดวก หลากหลายช่องท างอาทิเช่น สแกนคิวอาร์โค้ด โอนจ่าย เงิน สด บัตรเครดิต


ตอนที่ 3 แบบสอบถามเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกเสื้อผ้าแฟชั่น ข้อ รายการ ระดับความคิดเห็น 5 4 3 2 1 1. วิถีชีวิตของท่านมีผลต่อการตัดสินใจ เลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นหรือไม่ 2. ท่านได้ค้นหาได้เปรียบเทียบคุณภาพ เสื้อผ้าแฟชั่นด้วยตัวเองและในการ สอบถามนักเรียน นักศึกษา แผนก การตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวง ประธานราษฎร์นิกร 3. การประชาสัมพันธ์ช่องทางการจัด จ าหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น 4. มีการช าระเงินผ่านระบบให้ความ สะดวก ในการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น 5. รูปลักษณ์การจัดวางสินค้าและการจัด จ าหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีผลต่อการ ตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของนักเรียนนักศึกษาหรือ ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................... *** ขอบพระคุณส าหรับความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม *


ประวัติผู้จัดท า ประวัติผู้ท าวิจัย ชื่อ-นามสกุล : นางสาวรักษิณา ทองเพ็ชร ชื่อเล่น : น้อง วันเดือนปีเกิด : 02 เมษายน 2546 อายุ20 ปี ที่อยู่ปัจจุบัน : 56/1 หมู่5 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา 90170 เบอร์โทร : 0612177372 การศึกษา : ก าลังศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) วิชาการตลาด แผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร


ชื่อ-นามสกุล : นางสาวณิชกานต์ เส็นส๊ะ ชื่อเล่น : พลอย วันเดือนปีเกิด :31 มีนาคม 2545 อายุ21 ปี ที่อยู่ปัจจุบัน : 108 หมู่12 ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา 90220 เบอร์โทร : 0973500151 การศึกษา : ก าลังศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) วิชาการตลาด แผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร


ชื่อ-นามสกุล : นางสาวนันธิฌา ชอบงาม ชื่อเล่น : ด๊ะ วันเดือนปีเกิด : 23 กุมภาพันธ์ 2546 อายุ20 ปี ที่อยู่ปัจจุบัน : 36 ซ.10 ถ.รัตนอุทิศต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110 เบอร์โทร : 0956380824 การศึกษา : ก าลังศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) วิชาการตลาด แผนกการตลาด วิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร


Click to View FlipBook Version