The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการเขียนรายงานIS

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panuwat pongkhane, 2019-08-24 22:48:18

คู่มือการเขียนรายงานIS

คู่มือการเขียนรายงานIS

Keywords: คู่มือการเขียนรายงานIS

คู่มือสาหรับนักเรยี น

การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS)

รายวิชาการสือ่ สารและการนาเสนอ (IS2)
รหัสวชิ า I20202

โรงเรียนมหาชนะชัยวทิ ยาคม
อาเภอมหาชนะชยั จังหวัดยโสธร
สานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 28

การเข้ารูปเลม่ รายงาน

จดั เรยี งลาดับดังน้ี

การศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS)
เรือ่ ง.............................................................................................
.............................................................................................................

ชื่อ........................................................................ เลขท่ี……
ชื่อ........................................................................ เลขท่ี……
ชื่อ........................................................................ เลขที่……

นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่2/……

เสนอ
...........................................................................

ครทู ่ปี รกึ ษา

โรงเรียนมหาชนะชัยวทิ ยาคม
อาเภอมหาชนะชยั จงั หวดั ยโสธร
สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 28

ชอื่ เร่ือง .............................(ชอื่ การวิจัย).............................................................
ผูศ้ กึ ษา ...........................................................ชน้ั ม.2/............. เลขท.่ี ...............
...........................................................ช้ัน ม.2/............. เลขท.ี่ ...............
ครูที่ปรกึ ษา ...........................................................ชัน้ ม.2/............. เลขท.่ี ...............
ระดบั การศึกษา ..........................................................
นักเรียนระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 /…..
รายวชิ า โรงเรียนมหาชนะชัยวิทยาคม
ปีการศกึ ษา การส่อื สารและการนาเสนอ ( Independent Study : IS2 )
255…

บทคัดย่อ

การศึกษาครงั้ นี้มวี ตั ถปุ ระสงค์เพือ่ .............................................................................................
.......................................................................................................................... .......................................................

กลุ่มเป้าหมายเปน็ นักเรยี น................................(ระบุสถานภาพ) จานวน.................คนไดม้ าโดย
................................................(การสมุ่ หรอื เลอื ก) เครื่องมือท่ใี ช้ประกอบดว้ ย.......................................
..............................................................(ประเภทเครอ่ื งมือที่ใช้) วเิ คราะห์ข้อมลู โดยใชส้ ถิติ.....................(ประเภท
และช่อื สถิติ ) ผลการศึกษาพบว่า

ผลการศึกษา.................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................

กติ ตกิ รรมประกาศ

การศึกษาคร้ังนีส้ าเร็จลลุ ว่ งดว้ ยดี เพราะได้รับความกรุณา แนะนา ช่วยเหลือเป็นอยา่ งดยี ิ่งจาก ( ชอ่ื –
สกุล / ตาแหน่ง / ชอื่ หนว่ ยงาน / ทีใ่ ห้การช่วยเหลอื มาก ) ซึ่งผู้ศกึ ษาร้สู ึกซาบซึง้ และเป็นพระคุณอยา่ งย่งิ จึงขอ
กราบขอบพระคุณเปน็ อย่างสูงไว้ ณ โอกาสน้ี

ผูศ้ กึ ษาขอขอบพระคุณ ( ช่อื – สกุล / ตาแหน่ง / ชอ่ื หน่วยงาน / ท่ใี ห้ความช่วยเหลือในระดับรองลงมา)
ท่ีไดก้ รุณาให้แนวคดิ ขอ้ แนะนาหลายประการ ทาให้งานวิจัยฉบับนี้สมบรู ณม์ ากยงิ่ ขน้ึ

ขอขอบพระคณุ ( ช่ือ – สกลุ / ตาแหนง่ / ช่ือหนว่ ยงาน ) ท่ีได้กรุณา ( เร่อื งทใ่ี ห้ความชว่ ยเหลือ ) วจิ ัยใน
คร้งั น้ี

สุดท้ายขอขอบคณุ (นักเรียนที่ใช้เป็นกลุม่ ตวั อย่าง) ท่ีใหข้ ้อมูลอยา่ งเต็มทีท่ าให้การศกึ ษาครง้ั น้ีสาเร็จใน
เวลาอนั รวดเรว็ และขอขอบคุณผู้ใหค้ วามช่วยเหลืออีกหลายท่าน ซงึ่ ไมส่ ามารถกลา่ วนามในทีน่ ้ไี ดห้ มด

คณะผ้ศู ึกษา
เดือน พ.ศ.

(ตัวอย่าง) กติ ติกรรมประกาศ

การศึกษาครง้ั นส้ี าเรจ็ ลุล่วงดว้ ยดี เพราะได้รับความกรณุ าแนะนา ชว่ ยเหลอื เปน็ อยา่ งดียิ่งจาก
คณุ ครูณฐั วดี วงั สนิ ธ์ ครูที่ปรกึ ษารายวิชาการสื่อสารและการนาเสนอ ( is2 ) ซ่ึงผศู้ กึ ษารูส้ ึกซาบซ้ึงและเป็น
พระคุณอยา่ งยง่ิ จงึ ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้

ผศู้ กึ ษาขอขอบพระคุณ ............................................................................... ท่ีได้กรุณาให้แนวคิดต่างๆ
ขอ้ แนะนาหลายประการ ทาให้งานวจิ ัยฉบับนี้สมบรู ณ์มากยง่ิ ข้นึ

สุดทา้ ยขอขอบคณุ ............................................. ทีใ่ ห้ขอ้ มลู อยา่ งเต็มทีท่ าให้การศึกษาครั้งนีส้ าเร็จในเวลา
อันรวดเรว็ และขอขอบคุณผใู้ หค้ วามชว่ ยเหลืออีกหลายท่าน ซ่ึงไมส่ ามารถกล่าวนามในท่ีนีไ้ ด้หมด

คณะผู้ศึกษา
ธันวาคม 2557

สารบัญ

บทคดั ย่อ ให้นักเรียนเปล่ียนข้อมลู หนา้
กิตตกิ รรมประกาศ ในสารบัญ สารบัญตาราง ก
สารบญั และสารบญั ภาพ เปน็ ข
สารบญั ตาราง ของนกั เรยี นเอง ค
สารบญั ภาพ โดยเฉพาะบทท่ี2 บทที่ 4 ฉ
บทท่ี 1 บทนา ช
1
ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา 1
วัตถุประสงค์ของการศึกษา 4
สมมตฐิ านของการศึกษา 4
ขอบเขตของการศึกษา 5
นิยามศพั ท์เฉพาะ 6
ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รบั 7

บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ยี วข้อง 8
17
เอกสารทเี่ ก่ยี วข้องกบั คอมพวิ เตอรม์ ลั ตมิ เี ดีย
ความหมายของคอมพวิ เตอร์มลั ติมเี ดีย 17
ทฤษฎแี ละหลักการท่ีใช้ในการสร้างบทเรียนคอมพวิ เตอรม์ ัลติมเี ดีย 19
รปู แบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบมัลติมีเดยี 23
องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอรม์ ัลตมิ ีเดีย 31
อปุ กรณ์และซอฟแวร์ท่ีใชใ้ นการผลติ งานคอมพวิ เตอรม์ ัลตมิ ีเดยี 32
การสร้างงานคอมพิวเตอร์มัลตมิ ีเดยี 33
34
ข้อดีข้อจากัดของบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลตมิ ีเดยี 38
แนวคิดและทฤษฎีทเี่ กีย่ วข้องกบั ความพึงพอใจ 41
งานวิจัยท่ีเกย่ี วข้องกับคอมพวิ เตอรม์ ลั ติมเี ดยี ในประเทศและต่างประเทศ

สารบญั (ตอ่ ) หนา้
46
บทท่ี 3 วธิ ดี าเนินการศึกษา 46
ประชากรทใี่ ชใ้ นการศึกษา 46
เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการศึกษา 47
การสรา้ งเครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการศึกษา 53
การเก็บรวบรวมข้อมูล 54
การวิเคราะห์ขอ้ มูล 54
สถิตทิ ีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูล
58
บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ตอนที่ 1 การหาประสิทธภิ าพของบทเรยี นคอมพิวเตอรม์ ัลติมีเดีย 58
เร่อื ง การเขยี นรายงานการค้นคว้า
ตอนที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ของคะแนนกอ่ นเรียน และหลงั เรียนทีเ่ รยี น 64
โดยใช้บทเรยี นคอมพวิ เตอรม์ ัลติมเี ดยี เรือ่ ง การเขยี นรายงานการคน้ ควา้
65
บทที่5 สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 65
วตั ถปุ ระสงค์ของการศึกษา 65
สมมติฐานของการศึกษา 66
ขอบเขตของการศกึ ษา 66
เคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นการศกึ ษา 66
การวิเคราะห์ขอ้ มูล 67
ผลการศึกษา 67
อภปิ รายผล 69
ข้อเสนอแนะ 70
79
บรรณานุกรม 80
ภาคผนวก 81
แบบสอบถาม
ประวตั ผิ ้เู ขยี น

ให้นักเรียนเปลี่ยนขอ้ มูล
ใน สารบญั ตารางและ
สารบญั ภาพ เปน็ ของ

สารบญั ตาราง นักเรยี นเอง

ตารางท่ี 1 แสดงผลการทดลองหาประสิทธภิ าพของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ตมิ ีเดีย หนา้
เรื่อง การเขียนรายงานการค้นคว้า ขั้นทดลอง แบบหนงึ่ ต่อหนึ่ง จานวน 3 คน 58
59
ตารางที่ 2 แสดงผลการทดลองหาประสิทธภิ าพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ตมิ เี ดีย 59
เร่อื ง การเขยี นรายงานการค้นคว้า ขนั้ ทดลอง แบบกลุม่ เลก็ 15 คน 60
61
ตารางท่ี 3 แสดงผลการทดลองหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมเี ดีย 62
เรอ่ื ง การเขียนรายงานการค้นควา้ ขัน้ ทดลอง แบบกลุ่มใหญ่ 50 คน
63
ตารางที่ 4 แสดงค่าประสทิ ธิภาพ E1/E2 และค่าดัชนปี ระสิทธิภาพของบทเรียน
คอมพิวเตอรม์ ลั ติมเี ดีย เรือ่ ง การเขียนรายงานการคน้ ควา้ จากการทดลองแบบงา่ ย 64

ตารางท่ี 5 แสดงผลการประเมินคณุ ภาพบทเรียนคอมพวิ เตอรม์ ัลตมิ เี ดียทางด้านเนื้อหา
ตารางที่ 6 แสดงผลการประเมนิ คุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลตมิ เี ดยี

ทางดา้ นส่ือมัลตมิ เี ดีย
ตารางที่ 7 แสดงผลการประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรยี นท่ีมตี อ่ การเรียน

โดยใชบ้ ทเรยี นคอมพวิ เตอร์มลั ติมเี ดีย เรื่อง การเขียนรายงานการค้นควา้
ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 วิชาหอ้ งสมุดเพ่ือการศกึ ษาและค้นคว้า
ตารางที่ 8 ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนของคะแนนก่อนเรยี นและคะแนนหลงั เรยี น
ของนักเรยี นที่เรยี นโดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอรม์ ัลตมิ ีเดีย เรื่อง การเขียนรายงาน
การคน้ คว้า ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2

สารบัญภาพ หน้า
24
ภาพที่ 2.1 โครงสรา้ งทั่วไปของบทเรยี นประเภทเสนอเนื้อหา 27
ภาพที่ 2.2 โครงสร้างทว่ั ไปของบทเรยี นประเภทแบบฝึกหัด 28
ภาพท่ี 2.3 โครงสร้างทั่วไปของบทเรยี นคอมพวิ เตอรป์ ระเภทจาลองสถานการณ์ 29
ภาพที่ 2.4 โครงสรา้ งทั่วไปของเกมเพ่อื การเรยี นการสอน 30
ภาพที่ 2.5 โครงสรา้ งท่ัวไปของบทเรียนประเภทแบบทดสอบ

ให้นกั เรยี นเปล่ียนข้อมลู
ใน สารบญั ภาพ (ถ้าม)ี เป็นของนักเรียนเอง
และเขยี นบรรยายใต้ภาพ ว่า “ภาพท่ี ..”

บทที่ 1 ลองพยายามเขียนดูนะ ครูไม่อยาก
บทนา ให้นักเรียนมีความทุกข์ เหน็
นกั เรียนท้อแท้ ครูก็ไม่สบายใจ
ลองซักครงั้ สู้ ๆ ๆ

ความเป็นมา และความสาคญั ของปญั หา

เปน็ การเกร่นิ นาหรืออารมั ภบทแสดงใหเ้ หน็ ถึงความสาคัญและความจาเป็นท่ีจะต้องทาวิจัย หรือ
เหตุผลท่ีสมควรต้องมีการ ศึกษาปัญหาพิเศษเร่ืองน้ี โดยพยายามกาหนดปัญหาให้ชัดเจนท้ังในด้านการเกิดความ
รุนแรง การกระจายตัวของปัญหา หรือด้านอ่ืน ๆ ให้เข้าถึงข้อเท็จจริงของปัญหาอย่างแท้จริง ด้วยการทบทวน
เอกสารท่ีเกี่ยวข้อง ตรวจสอบสถิติ สอบถามความเห็นจากบุคคลที่เก่ียวข้อง และแสวงหาเหตุผลที่น่าเป็นไปได้
จากทฤษฎแี ละสาขาทเ่ี กยี่ วข้อง โดยเขยี นโนม้ นา้ ว จงู ใจให้ผู้อ่านคล้อยตามเห็นด้วยว่าทาไมต้องทาวิจัยเรื่องนี้ เช่น
ยังประสบปญั หาอย่แู ก้ไขไม่ได้ โดยใชค้ วามคดิ ตวั เองให้มากทสี่ ุด

 ยอ่ หนา้ แรก จะต้องอภิปรายถึงความเป็นมา ปญั หา ข้อดี ขอ้ เสยี หรือข้อโต้แย้งของการทดลองที่ได้ทา
การก่อนหนา้

 ยอ่ หน้าท่ีสอง จะต้องอภปิ รายถึงความสาคัญ ข้อดขี องปัญหา รวมถึงแนวทางแกไ้ ขปัญหาในเรื่องทเ่ี รา
สนใจจะดาเนินการทา ควรมเี อกสารหรอื ทีม่ าของปัญหาท่ีทอี่ ้างองิ เพ่ือสนับสนนุ หรือโตแ้ ย้งสง่ิ ที่ เราจะทา
การทดลองนัน้

 ยอ่ หน้าสดุ ทา้ ย ต้องอภิปรายสรปุ เปา้ หมายหรอื เหตผุ ลท่จี ะทา เพ่ือแก้ปัญหาท่ีงานที่เราจะทา และต้องทงิ้
ทา้ ยด้วยรูปแบบดงั น้ี คือ

ดังนน้ั รายงานการศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเองเร่ือง…………....................…ฉบบั นี้ จึงมุ่งศึกษา
.............................………………………….............................……….เพ่ือ............................ต่อไป

วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ ใหข้ ึน้ ตน้
ด้วยคาว่า “เพื่อ”
1. เพอื่ ศึกษา………………………………………….
2. เพื่อศึกษา……………………………………………

ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ บั จากการวิจยั ประโยชน์ใหบ้ อกสิ่งท่ีไดร้ ับ
จากการศึกษาเร่ืองนี้
1. ไดร้ ับความรู้เกี่ยวกับ……………………………………..
2. ได้แนวทางในการ………………………………………………

ขอบเขตของการศึกษา

1. กลมุ่ ตวั อยา่ งที่ใช้ในการศกึ ษา

กลุ่มตัวอยา่ งทใี่ ชใ้ นการศึกษาครั้งน้ีเปน็ นกั เรียน(ท.่ี ..)ระดับชน้ั ...................................... โรงเรยี น
.......................................ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา ……… จานวน.............คน

2. เน้อื หาทใ่ี ช้ในการศึกษา

เน้อื หาที่ใช้ในการศึกษาเป็นเน้ือหาทเี่ ลือกจากปัญหาทพี่ บในโรงเรียนคอื (ระบเุ ร่ือง.ท่ีนักเรียนต้ัง
ชือ่ เรอ่ื ง).........................

3. ระยะเวลา

ระยะเวลาที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังนี้ ดาเนนิ การในภาคเรยี นที่ 2 ตั้งแตว่ ันท่ี …….. เดือน.................
2557 ถงึ วนั ท่ี ……เดอื น............ พ.ศ. ...........

บทท่ี 2
เอกสารทเี่ กย่ี วข้อง

การศึกษาในครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเนื้อหาของเอกสาร

งานวิจัยออกเป็นหัวข้อต่างๆดงั น้ี

1. หอ้ งสมุดโรงเรียน

1.1 ระเบียบการใชห้ ้องสมดุ

1.2 มารยาทในการใชห้ อ้ งสมุด ตัวอย่าง การเขยี นความรู้บทที่ 2
1.3 ระเบียบการยืม – คืน นักเรยี นศกึ ษาเร่ืองอะไรใหน้ าหัวขอ้
1.4 บริการสาหรับครู-อาจารย์
1.5 บริการต่างๆ ของห้องสมดุ ท่เี ก่ียวข้องเร่ืองน้ันๆมาเขียน
1.6 บริการอนิ เตอร์เน็ต ซา้ ยมือ คือ หวั ข้อ

2. คณุ สมบัติของบรรณารกั ษ์ห้องสมุดโรงเรียน ข้างลา่ งนคี้ ือรายละเอยี ด

1. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น

จัดต้ังข้ึนในสถาบันการศึกษาทุกระดับต้ังแต่ระดับอนุบาล ระดับประถม ระดับมัธยม มีวัตถุประสงค์เพ่ือ
ส่งเสริมการเรียนการสอนตามหลักสูตรของโรงเรียนและเป็นแหล่งค้นคว้าของครูและนักเรียน ปัจจุบันเพ่ือให้
นักเรียนได้มีโอกาสแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารกันได้กว้างขวางขึ้น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
แห่งชาติร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์บริการไทยสารอินเทอร์เน็ต และองค์การสื่อสารแห่งประเทศไทย
ร่วมกันดาเนินโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย หรือ School Net โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้
โรงเรยี นมธั ยมศึกษาทงั้ ในกรงุ เทพฯและต่างจังหวัดเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายข้อมูลกลุ่มรงเรียนทั่ว
โลก เพื่อเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนเอกสาร ส่ือการสอน ฐานข้อมูลของห้องสมุดระหว่างโรงเรียนและระหว่าง
โรงเรียนกบั สว่ นราชการทีเ่ ก่ียวข้องกับการศกึ ษา (ปราณี วงศ์จารสั , 2548:48)

1.1 ระเบยี บการใชห้ ้องสมุดโรงเรยี นมหาชนะชัยวิทยาคม

เวลาทาการ วนั จันทร์-วนั ศกุ ร์ เวลา 07.15 - 16.30 น
เวลาบรกิ าร กอ่ นเขา้ แถว (เชา้ ) พักกลางวัน – หลังเลิกเรียน

1.2 มารยาทในการใชห้ ้องสมดุ

1.แต่งกายใหเ้ รยี บร้อยก่อนเข้าใช้หอ้ งสมุด
2.ฝากกระเป๋า สิง่ ของตา่ งๆ ไวต้ รงท่ีบรกิ าร
3.นารองเท้าใส่ถงุ ถือตดิ ตวั เข้าหอ้ งสมดุ

4.หา้ มนาขนม น้า เข้ามารบั ประทาน
5.หา้ มนอนหลบั /วิ่งเล่น ในห้องสมุด
6.ห้ามตดั รปู ข้อความ หรอื ฉกี ขโมยหนงั สอื ใหถ้ ่ายเอกสารแทน
7.ห้ามนั่งระหว่างช้นั วา่ งหนังสือ ซงึ่ ทาให้กดี ขวางผู้อื่นท่ีจะค้นหาหนังสือไมไ่ ดร้ บั ความสะดวก
8.ไมส่ ่งเสยี งดังรบกวนผอู้ ื่น
9.ไม่ควรหยิบหนังสือพมิ พ์ วารสาร มาอา่ นคลั้งละหลายเลม่ จะทาให้ผู้อ่ืนไมม่ ีโอกาศได้อา่ น
10.เก็บเกา้ อท้ี ุกครัง้ เพอื่ ความเปน็ ระเบียบเรยี บร้อย
11.ถ้าต้องการยืมหนังสอื ใหต้ ิดต่อยมื ทบ่ี รรรารกั ษ์
12.ใหต้ รวจสิ่งของก่อนออกจากหอ้ งสมุดทุกคร้งั
13.ไม่เลน่ เคร่ืองนับจานวนที่บริเวณทางเข้าออก-ออก จะทาให้เครื่องชารดุ เสียหาย
14.หนงั สือ หรือวสั ดุใดๆ ทีย่ ืมออกจากห้องสมุด ควรดแู ลรักษาใหด้ ีเพ่ือยืดอายุการใชง้ าน
15ให้คนื หนงั สือตามกาหนดเวลา เพ่ือเปดิ โอกาสใหผ้ ูอ้ ่นื ได้ใชห้ นงั สือ

1.3 ระเบยี บการยมื - คืน

1.มบี ัตรสมาชิกหอ้ งสมุด
ขนั้ ตอนการทาบัตร

1.1 นารูปถา่ ยขนาด 1 นว้ิ หรือ 2 นวิ้ จานวน 1 รปู
1.2 เงนิ คา่ ทาบัคร 3 บาท
1.3 ตดิ ตอ่ บรรณารักษ์ (นักเรียนใหม่ ครบู รรณารักษจ์ ะบริการในหอ้ งเรียนเอง)
2.นาหนังสอื ทีต่ ้องการยืม สง่ ใหเ้ จ้าหน้าทีห่ ้องสมุดทยี่ นื อยู่ประจาเคาเตอร์
3.ใช้บตั รสมาชกิ ของผ้ยู ืมเทา่ นั้น
4.สิทธิการยมื คืน
4.1 ยมื หนงั สือ/วีดโี อ/เทป ได้คร้ังละไม่เกนิ 5 เล่ม ภายในกาหนด 7 วนั
4.2 หนงั สืออ้างองิ ไม่อนุญาตให้ยมื
4.3 การบรกิ ารให้ยืมเฉพาะช่วงเช้า-พกั กลางวันและหลังเรียนคาบสุดทา้ ย ไมบ่ รกิ าร
ใหย้ มื ระหวา่ งเวลาเรยี น
5.ถา้ ส่งหนังสอื ช้าเกนิ กาหนด ปรับวันละ 1 บาทตอ่ เล่ม(นบั รวมวนั หยุด)แตถ่ า้ เปน็ หนงั สือจอง
ปรบั วันละ 5 บาท
6.หากทาหนังสือหายหรือมปี ัญหาการใชห้ อ้ งสมดุ ใหต้ ิดต่อบรรณารกั ษ์

1.4 บรกิ ารสาหรับครู-อาจารย์

1.ยืมหนังสอื ได้ไมเ่ กนิ 10 เล่ม
2.หากสง่ หนงั สือคนื เกินกาหนดปรับเล่มละ 2 บาท

1.5 บริการต่างๆ ของห้องสมดุ

1.บรกิ ารอินเตอรเ์ น็ต
2.บริการห้องสมุดเสียง
3.บรกิ ารยืม - คนื
4.บรกิ ารตอบคาถามเพื่อการคน้ ควา้
5.บริการจองหนังสือ
6.บรกิ ารโสตทศั นูปกรณห์ ้องสมุด
7.บรกิ ารห้องสมุดเคล่อื นท่ี
8.บริการการอ่าน

1,6 บริการอนิ เตอรเ์ นต็

1.เปดิ บริการระหว่างเวลา 07.30 -16.30
2.คดิ อตั ราคา่ บรกิ ารช่ัวโมงละ 10 บาท
3.ลงชื่อ - นามสกลุ ชน้ั หมายเลขเครื่องคอมพิวเตอรแ์ ละเวลาทีใ่ ชบ้ ริการ
4.บรกิ ารพิมพข์ ้อมลู แผน่ ละ 5 บาท
5.ใชเ้ ฉพาะสบื ค้นข้อมลู จากอินเตอร์เนต็ เท่านั้น ไมบ่ ริการพิมพ์ใดๆ
6.ห้ามเว็บไซด์ที่ไม่เหมาะกับสถานศกึ ษา
7.กอ่ นจะใชแ้ ผน่ ดสิ ท์แจง้ บรรณารักษ์ทราบทุกครง้ั
8.หากมีปญั หาในการใชอ้ นิ เตอร์เนต็ หรอื ต้องการความช่วยเหลือใหต้ ิดต่อบรรณารักษ์

2. คณุ สมบัตขิ องบรรณารกั ษห์ อ้ งสมุดโรงเรียน

2.1 มีวุฒิทางวิชาชีพบรรณารักษ์ศาสตร์ ต้องได้ผ่านการศึกษาหรืออบรมมาทาง สาขาวิชาน้ีโดยเฉพาะ
เพราะงานห้องสมุดเป็นงานวิชาชีพข้ันสูงอย่างหน่ึง จะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่มีคุณสมบัติมาปฏิบัติงานอาจทา
ให้งานไม่สัมฤทธ์ิผล และอาจเสียหายได้ ผู้ผ่านการศึกษาในทางสาขาวิชาชีพน้ีแล้ว จะมีความรู้ในเร่ืองการบริหาร
ดาเนินงานห้องสมุดการจัดโปรแกรมห้องสมุด การวิเคราะห์เลขหมู่การทาบัตรรายการ กรให้บริการอ้างอิงแก่ผู้ใช้
อันเป็นหลักประกันว่าในกิจการงานเทคนิคนั้นบรรณารกั ษ์สามารถดาเนินการได้

2.2 มีวุฒิทางการศึกษา ต้องได้ผ่านวิชาชีพทางการศึกษา และถ้ายิ่งมีประสบการณ์ในการสอนด้วยจะเป็น
การดีความรู้ทางวิชาชีพทางการศึกษาพ้ืนฐานที่ควรรู้ เช่น การบริหารและการนิเทศการศึกษา ทฤษฎีการเรียนรู้
การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร การให้คาปรึกษาและแนวแนว การสื่อสารมวลชน จิตวิทยาการศึกษา จิตวิทยา
พัฒนาการ จิตวิทยาวัยรุ่น ความรู้ทางด้านการศึกษาจะเป็นประโยชน์ต่อบรรณารักษ์ในแง่ที่ช่วยให้เข้าใจถึง
หลักการจัดการศึกษาว่าเป็นอย่างไร จะได้ดาเนินงานห้องสมุดให้สอดคล้องกับการจัดการศึกษาได้ ส่วนความรู้
ทางดา้ นจติ วิทยาจะชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจในตัวผใู้ ช้ไดด้ ยี ิง่ ขึ้น กจิ กรรมตา่ งๆทจ่ี ะจดั จะได้ตรงความสนใจของผูใ้ ช้

2.3 มีความรู้เก่ียวกับวัสดุการศึกษาทุกชนิด เนื่องจากความคิดปัจจุบันห้องสมุดมิใช่จะมีเพียงหนังสือ
วารสารเท่าน้ัน แต่ห้องสมุดจะพยายามรวบรวมวัสดุการศึกษาทุกชนิดเอาไว้บริการหรือใช้เป็นส่ือนาความรู้
ประสบการณไ์ ปยงั นักเรยี น ดงั นั้นบรรณารักษ์จงึ ต้องพยายามค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องวัสดุการศึกษาว่ามีอะไรบ้าง
แตล่ ะประเภทใช้ประโยชน์อย่างไร มีคุณค่าในด้านใด ควรใช้ในโอกาสใด คุณสมบัติข้อนี้จะช่วยให้ห้องสมุดก้าวไป
ถงึ สภาพสมบูรณ์ตามอดุ มคติ

2.4 มีความศรัทธาในอาชีพบรรณารักษ์ แม้ว่างานบรรณารักษ์หลายวงการจะยอมรับว่าเป็นวิชาชีพชั้นสูง
แต่ในด้านการสนับสนุนในด้านฐานะของวิชาชีพบรรณารักษ์ยังไม่ดีนักท้ังในต่างประเทศและในเมืองไทยเราเอง
จากหลกั การทกี่ ล่าวมาแลว้ ขา้ งตน้ จะเห็นวา่ หนา้ ท่ีบรรณารักษ์จริงๆนั้นมิใช่น้อยเลย ฉะน้ันในสภาวะปัจจุบันผู้ท่ีจะ
ประกอบอาชพี นี้ จาต้องมีความศรัทธา เสียสละพอสมควร

2.5 มมี นษุ ยสมั พันธ์ท่ีดี งานบรรณารกั ษ์ตามแนวคดิ ปัจจบุ นั ดงั ทก่ี ลา่ วแลว้ ตอ้ งเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่าย
ท้ังผู้บริหาร ท้ังครูผู้สอน ทั้งตัวนักเรียนเอง บรรณารักษ์จึงต้องเป็นบุคคลที่มีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีบุคคลที่มีมนุษย
สัมพันธ์ดีมักมีลักษณะดังน้ีคือ มีความเช่ือมั่นในตนเอง มีความสามารถในการพูดจา มีอารมณ์ขัน มีความเป็น
กันเองกบั ทกุ ๆคน มีความจรงิ ใจกับผมุ าติดต่ออยา่ งสมา่ เสมอ มคี วามใจกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นการมี
มนุษยสัมพันธ์ท่ีดีจะช่วยให้งานประสบผลสาเร็จเร็วขึ้น และในแง่ของบรรณารักษ์ การมีบุคลิกเช่นนี้จะเป็นการ
สรา้ งทัศนคตทิ ดี่ ตี อ่ ห้องสมดุ ให้แกน่ กั เรียน และผใู้ ช้ได้

บทท่ี 3 ให้นักเรียนเติมขอ้ มูลเป็นของ
วธิ ดี าเนินการ กล่มุ นักเรียนลงใน....ขา้ งลา้ งน้ี.

ในการศึกษาครั้งน้ี ผู้ศกึ ษาได้ทาการศึกษา.....(.ช่ือเร่อื ง)..............................................................
ซึง่ มีวธิ ีการดงั น้ี

ระเบยี บวิธที ี่ใช้ในการศกึ ษา

ในการศึกษาใชร้ ปู แบบการสารวจ สืบคน้ ข้อมลู จากหนงั สือ อนิ เตอร์เน็ต และตอบแบบสอบถาม

กลุ่มเปา้ หมายท่ีใชใ้ นการศกึ ษา ใหเ้ ขยี นว่ากลมุ่ ตวั อยา่ งไดม้ าโดยวิธีใด มขี น้ั ตอน
อย่างไรบ้าง

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาคร้ังน้ีได้แก่นักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่..(ตามกลุ่มตัวอย่าง
ของนักเรียน) โรงเรียนมหาชนะชัยวิทยาคม ภาคเรียนที่ ….. ปีการศึกษา …….. เป็นนักเรียนทั้งสิ้น........คน
ได้มาโดยส่มุ อยา่ งงา่ ย จานวน............ห้องเรียน เพื่อตอบแบบสอบถามทีส่ รา้ งข้ึน

ระยะเวลาที่ใช้ในการศกึ ษา

ระยะเวลาที่ใชใ้ นการศึกษา ในภาคเรยี นที่ ….. ปกี ารศึกษา………

วิธีดาเนินการศกึ ษา

ผศู้ ึกษาไดด้ าเนนิ การตามข้นั ตอนดังน้ี
1. กาหนดเร่ืองท่ีจะศกึ ษา โดยสมาชกิ ท้ัง 3 คน ประชมุ ร่วมกัน และรว่ มกันคิดและวางแผน วา่ จะศึกษา

เร่ืองใด ( สมาชิกกล่มุ ท้ัง 3 คน ได้มาโดยนาผลการเรียนวิชาภาษาไทยพื้นฐาน มาจัดแบง่ กลมุ่ เกง่
กลาง อ่อน)
2. สารวจปัญหาทพี่ บในโรงเรียน ซ่งึ มีท้งั ปญั หาด้านผูเ้ รยี น ครูผ้สู อน อาคาร สถานที่ สง่ิ แวดลอ้ มใน
โรงเรียน ฯลฯ
3. เลอื กเรื่องท่จี ะศึกษา โดยเลือกเรื่องท่สี มาชิกมีความสนใจมากทสี่ ุด เพ่ือเปน็ แรงจงู ใจในการคน้ หา
คาตอบ
4. ศึกษาแนวคิดในการแก้ปญั หา ( ในข้อนย้ี งั ไม่สามารถดาเนนิ การไดเ้ นื่องจาก การเรียนรายวชิ า IS 2
เวลามจี ากดั ผู้ศึกษาจงึ ทาได้เฉพาะการสารวจความคิดเหน็ และสรา้ งเคร่ืองมือ (แบบสอบถาม) ศึกษา
เพยี งเพ่อื ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ เรื่องกระบวนการวจิ ยั เท่าน้นั
5. ตง้ั ชือ่ เร่ือง
6. สมาชกิ ทงั้ 3 คนของกลมุ่ พบครผู สู้ อนเพื่อปรกึ ษา วางแผนและรับฟังความคิดเหน็ ปรับปรงุ แก้ไข

7. เขียนความสาคัญความเปน็ มาของปญั หา วัตถปุ ระสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขตการวิจัยและประโยชน์ที่
คาดว่าจะไดร้ ับ โดยศกึ ษาขอ้ มูลจากหนงั สอื วิทยานพิ นธ์และสบื ค้นข้อมลู จากอนิ เตอร์เนต็ และจด
บันทึกในโครงร่างรายงานเชิงวชิ าการ ( ตามใบงาน)

8. สร้างเคร่อื งมอื ที่เป็นแบบสอบถาม จานวน..............ขอ้
9. นาเคร่ืองมอื ทีป่ รบั ปรงุ แลว้ ไปใชก้ บั กลมุ่ ตวั อย่าง
10. รวบรวมขอ้ มลู
11. วเิ คราะห์ข้อมูล
12. สรปุ การศกึ ษา

ข้นั ตอนวธิ ดี าเนนิ การศกึ ษา

เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการศึกษา ใหน้ กั เรยี นเตมิ ข้อมลู เป็นของกลุ่มนกั เรยี น
ลงใน....ขา้ งล้างน้ี.

เครือ่ งมือที่ใช้ในการศกึ ษาครัง้ นี้ คอื แบบสอบถาม ( หรอื แบบประเมนิ ความพึงพอใจ) 1 ฉบับ ซง่ึ
มีรายละเอียดดังนี้

1. ออกแบบสอบถาม เร่ือง ............................................................................โดยขอ
คาแนะนาจากคุณครู……………………………….. โดยเตรียมร่างข้อคาถาม มลี กั ษณะเปน็ ข้อคาถามจานวน...............
ข้อ เป็นแบบมาตราสว่ นประมาณ 5 ระดบั คือ

5 หมายถึง เหน็ ด้วยมากทสี่ ดุ
4 หมายถึง เห็นด้วยมาก
3 หมายถึง เห็นดว้ ยปานกลาง
2 หมายถึง เหน็ ด้วยนอ้ ย
1 หมายถงึ เห็นด้วยนอ้ ยทีส่ ดุ

การพิจารณาค่าเฉลยี่ จะใชเ้ กณฑ์ดงั นี้

คา่ เฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถงึ เหน็ ด้วยมากทส่ี ุด
เหน็ ดว้ ยมาก
คา่ เฉลย่ี 3.51 – 4.50 หมายถงึ เห็นด้วยปานกลาง
เหน็ ดว้ ยนอ้ ย
ค่าเฉล่ีย 2.51 – 3.50 หมายถึง เหน็ ดว้ ยน้อยท่ีสุด

คา่ เฉล่ยี 1.51 – 2.50 หมายถงึ

คา่ เฉลยี่ 1.00 – 1.50 หมายถึง

2. สรา้ งแบบสอบถาม เร่อื ง..............................................................................โดยขอคาแนะนา
จากคณุ ครู…………………………………….. จากน้ันนามาปรบั ปรงุ แก้ไข แลว้ นาไปตรวจสอบความเหมาะสม

3. นาแบบสอบถามเรื่อง................................................................ท่แี ก้ไข ปรับปรงุ แลว้ ให้กลุ่ม
ตวั อย่างประเมนิ หลังจากน้ันนาผลท่ีได้มาหาคา่ เฉลยี่

การเก็บรวบรวมข้อมลู

การศกึ ษาครั้งนี้ไดด้ าเนินการโดยนาแบบสอบถามท่สี รา้ งขึน้ ใหน้ กั เรียนกลุ่มตัวอย่างตอบ จานวน..........คน
และเก็บรวบรวมข้อมลู จากนักเรยี น ท่เี ปน็ กลมุ่ ตวั อยา่ ง โดยผศู้ กึ ษาท้ัง 3 คน ดาเนนิ การเก็บรวบรวมข้อมลู ด้วย
ตนเอง

การวิเคราะหข์ อ้ มลู

ในการวิเคราะหข์ ้อมลู ผศู้ กึ ษาไดว้ เิ คราะห์ข้อมลู ดงั นี้
1. นาแบบสอบถามทง้ั หมดท่ตี อบโดยนักเรียนกลุ่มตวั อย่าง มาหาค่าคะแนนรวม
2. นาผลรวมมาคดิ คา่ ร้อยละ

สถิติท่ีใช้ในการศึกษา

สถิติที่ใช้ในการศกึ ษาคร้ังน้ี คือ การหาค่าเฉลี่ยคิดเป็น ร้อยละ

หน้านีไ้ ม่ตอ้ งพิมพ์

กรณขี อ้ มลู ตวั อย่าง

Pct = x 100

เมอื่ pct แทน ร้อยละของสิ่งท่ีศกึ ษา
แทน จานวนส่วนยอ่ ยทศี่ กึ ษา
แทน จานวนส่วนใหญ่ทง้ั หมด

Pct = x 100

Pct ผู้บรหิ าร = x 100

Pct ครู = x 100

รวม Pct ผบู้ รหิ าร = x 20 + 80 100

การเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลดว้ ยคา่ รอ้ ยละ ควรบอกให้ชัดเจนวา่ เป็นร้อยละของอะไร จากฐานอะไร

บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล

การวิเคราะห์ขอ้ มลู . ....................................................................................................................
ระดบั ช้นั ..................................... โรงเรียนมหาชนะชยั วทิ ยาคม ได้ผลดงั นี้

ตารางท่ี 1 แสดงผลระดบั คะแนนการประเมนิ ..............................................................................

รายการประเมิน ระดบั คะแนน
5 4 321
1. นกั เรยี นเขา้ ใชห้ ้องสมดุ เพื่อทางานกลมุ่
2. 52.94% 24.70% 12.94% 8.23% 1.17%
3.
4. 45 เป็ นผลรวมของจานวนนกั เรียนท่ตี อบในชอ่ ง
5. ใหเ้ อาคาถามจากแบบสอบถาม
6. มาเติมทกุ ขอ้ ท่ีมี ระดบั 5แล้วคดิ เป็น% ดงั น้ี
7.
ระดบั 5 มีนร.ตอบ 45 คน มีกลุม่ ตวั อยา่ ง 85 คน
8.
9. 52.94

จากตารางที่ 1 พบวา่ นักเรียนเขา้ ใช้ห้องสมุดเพื่อทางานกลมุ่ อยู่ในระดับ 5 คิดเปน็ ร้อยละ 52.94 (
ให้เลือกคาถามทต่ี อบในระดบั ท่ีมีเปอร์เซ็นสงู มาเขยี นบรรยายเปน็ บางข้อ และเขียนว่าอยใู่ นระดบั 5 คิดเป็นร้อย
ละ..... นาคาถามประมาณ 3 – 4 ขอ้ มาเขยี น)

ตารางที่ 2 แสดงผลการประเมนิ ....( ช่อื เร่ืองท่ีศกึ ษา....เชน่ การศึกษาปัจจัยการส่งเสยี งดังในห้องสมดุ
ของนักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม )

รายการประเมนิ คา่ เฉลีย่ ร้อยละ ระดับคุณภาพ
มากทสี่ ดุ
1.นกั เรยี นเข้าใช้หอ้ งสมดุ เพ่ือทางานกลุ่ม 5 85.50 ปานกลาง

2.นักเรยี นเขา้ ใชห้ ้องสมุดเพ่อื พกั ผ่อน 3 ผลรวมของคา่ เฉลยี่ ทกุ ข้อ

3. หารด้วยจานวนข้อ
เชน่ 59÷ 12 =4.916
4. 1.ให้เอาคาถามจากตารางท่ี1 มาใส่ทุกข้อ
5.
6. 2.ให้นาค่าเฉล่ีย จากขอ้ ท่ีมี %สงู ของทกุ ข้อจากตารางที่1มาใส่
7. 3.เขียนระดับคณุ ภาพดว้ ย

8.

9.

10.

11.

12.

คือ ผลรวมของค่าเฉลี่ยทุกขอ้ (ถา้ มี 10 ขอ้ ให้

นามาบวกกนั เช่น 5+3+

รวม 59
รวมท้ังฉบบั 4.92

จากตารางที่ 2 พบวา่ นกั เรยี นระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มปี ัจจัยสาเหตสุ ่งเสยี งดังในห้องสมดุ
โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม อย่ใู นระดับคณุ ภาพ ...มากท่ีสุด.....คา่ เฉล่ีย..4.92

บทที่ 5
สรปุ ผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ

จากการศึกษาคร้ังน้ี ........ เพือ่ (วัตถุประสงค์ )....... ..............................โรงเรียนมหาชนะชยั วทิ ยาคม
ในภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2557 ซ่ึงสามารถสรปุ ผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะได้ดังน้ี

1. วตั ถุประสงค์ของการศึกษา
2. สมมุตติฐานของการศกึ ษา
3. ขอบเขตของการศึกษา
4. เครื่องมือท่ีใชใ้ นการศกึ ษา
5. วเิ คราะหข์ ้อมูล
6. สรุปผลการศึกษา
7. ขอ้ เสนอแนะ

วตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษาเพ่ือ.....................(คัดลอกมาจากบทที1)...................................

............................................................................................................................. ...................................................
สมมตุ ติฐานของการศกึ ษา.....................(คดั ลอกมาจากบทที 1)...............................................................
ขอบเขตของการศึกษา กลมุ่ เป้าหมายที่ใชใ้ นการศึกษา (คัดลอกมาจากบทที 1).............................

........................................................ระยะเวลาท่ใี ชใ้ นการศึกษา (คัดลอกมาจากบทที 1).............................
เคร่ืองมอื ท่ีใช้ในการศกึ ษาครงั้ นี้ ประกอบดว้ ยแบบสอบถาม จานวน1ฉบบั เรื่อง..............

................................................................................................................................. ..................จานวน................ข้อ
ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ผศู้ ึกษาได้วเิ คราะห์ข้อมลู ของนักเรยี นทมี่ ีตอ่ .......ชื่อเรื่องท่ีศึกษา..................

.....................................เช่น การสง่ เสยี งดังในการใชห้ อ้ งสมดุ หรือคา่ นยิ มการแต่งกายเคร่ืองแบบชุดนกั เรียน
โดยการคิดคะแนนเฉลยี่ เปน็ ค่าร้อยละ

สรปุ ผลการศึกษา

ผลการศกึ ษาท่ีมีตอ่ การศึกษาเรื่อง.... .......ชอื่ เร่อื งที่ศกึ ษา.......................อยู่ในระดับคุณภาพ..............
( นาคาตอบจากบทท่ี 4 ตารางท่ี 2 มาตอบ เช่น มากท่สี ุด มาก ปานกลาง )

การอภิปรายผล

จากการศึกษา.....ช่ือเรอ่ื งที่ศึกษา.......................ของนกั เรยี นระดบั ช้นั ...................โรงเรยี นมหาชนะชยั
วิทยาคม พบวา่ นกั เรยี นทุกคนมี ...(ความพงึ พอใจหรือ ทศั นคติ ) ...............................................
อยใู่ นระดบั ................คิดเป็นรอ้ ยละ..............................

ขอ้ เสนอแนะ

ขอ้ เสนอแนะในการศกึ ษาครง้ั น้ี
1. สามารถนาไปศกึ ษาปัญหาต่างๆที่พบในโรงเรียนได้ แต่ควรมตี วั แปรรว่ มดว้ ย เพือ่ ให้การศึกษา

มคี ุณภาพ
2. สามารถนาไปศกึ ษากบั กลมุ่ ตัวอย่างอน่ื
3. ควรมเี วลาศกึ ษามากขึ้น

บรรณานกุ รม

รูปแบบบรรณานุกรมเอกสารอเิ ล็กทรอนิกสร์ ะบบออนไลน์ (Online) หรอื อนิ เทอรเ์ นต็
1. เวบ็ เพจ มีผู้เขยี น หรือมหี น่วยงานรบั ผิดชอบ

2. เวบ็ เพจไม่ปรากฏผู้เขยี น และปที ี่จดั ทา ใส่ ม.ป.ป. (ไมป่ รากฏปีทพี่ มิ พ์)

ชอ่ื – นามสกุล ประวัตผิ ศู้ กึ ษา
วัน เดือน ปี สถานทเ่ี กดิ
ประวัติการศกึ ษา .................................................................
................................................................
................................................................
................................................................
...............................................................


Click to View FlipBook Version