38
ตารางที่ 27 แสดงจำนวนคนพิการตามประเภทความพิการ แยกรายจงั หวัด (หนว่ ย:คน)
ความพกิ าร
จังหวดั พิการ พิการทางการ พิการทางการ พิการทาง พิการทาง พิการ ออทิ พิการ ไมร่ ะบุ
ทางการ ไดย้ นิ หรือส่ือ เคล่ือนไหว จิตใจหรือ สติปัญญา ทางการ สติก มากกวา่ ๑
เห็น ความหมาย หรือทาง พฤติกรรม เรียนรู้ ประเภท
ร่างกาย
บงึ กาฬ 1,294 2,267 6,250 1,386 833 55 66 674 0
นครพนม 2,063 3,495 11,461 3,186 1,818 175 170 1,308 0
สกลนคร 4,180 7,278 19,196 3,813 2,436 125 135 1,902 36
มกุ ดาหาร 1,204 3,270 3,720 1,924 760 84 117 439 0
กาฬสนิ ธ์ุ 6,001 7,262 17,404 3,590 2,010 319 134 1,800 103
อำนาจเจรญิ 1788 4261 7158 1663 1302 34 82 141 0
อุบลราชธานี 8,374 15,743 29,538 6,249 5,391 182 295 2,285 18
43,576
รวม 24,904 94,727 21,811 14,550 974 999 8,549 157
ทมี่ า : ระบบงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ กรมส่งเสรมิ และพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนพกิ าร
https://ecard.dep.go.th/nep_all/stat.php ณ วนั ท่ี 31 มีนาคม 2565
แผนภมู ทิ ี่ 12 แสดงจำนวนคนพิการตามประเภทความพกิ าร ของกลมุ่ จังหวดั ในเขตพื้นท่รี บั ผิดชอบของ สสว.6
(หน่วย:คน)
ประเภทความพิการ ไม่ระบุ 157
พิการมากกว่า ๑ ประเภท 8549
94727
ออทิสตกิ 999
พิการทางการเรียนรู้ 974 43576
พิการทางสติปัญญา
พกิ ารทางจิตใจหรอื พฤติกรรม 14550
พิการทางการเคล่อื นไหวหรอื ทางร างกาย 21811
พกิ ารทางการไดย้ นิ หรอื สอ่ื ความหมาย
24904
พิการทางการเหน็
0 10000 20000 30000 40000 50000 60000 70000 80000 90000 100000
จำนวนคนพกิ ำร
ท่ี ม า : ร ะ บ บ ง า น อ อ ก บ ั ต ร ป ร ะ จ ำ ต ั ว ค น พ ิ ก า ร ก ร ม ส ่ ง เ ส ร ิ ม แ ล ะ พ ั ฒ น า ค ุ ณ ภ า พ ช ี ว ิ ต ค น พ ิ ก า ร
https://ecard.dep.go.th/nep_all/stat.php ณ วนั ท่ี 31 มีนาคม 2565
จากตารางท่ี 27 และแผนภมู ิที่ 12 แสดงจำนวนคนพิการตามประเภทความพิการ แยกรายจงั หวดั พบว่า
กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว.6 จำนวนคนพิการตามประเภทความพิการมากที่สุดคือ คนพิการ
ทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกาย จำนวน 94,727 คน รองลงมาคือ จำนวนคนพิการทางการได้ยินหรือส่ือ
ความหมาย จำนวน 94,727 คน จำนวนคนพิการทางการเห็น จำนวน 24,904 คน
รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพน้ื ท่ีรับผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจรญิ และอบุ ลราชธานี)
39
3.7 กลุ่มผู้ด้อยโอกาส
ตารางที่ 28 แสดงสถานการณ์กลมุ่ ผดู้ ้อยโอกส จำแนกตามจังหวัด
จังหวดั คน คนเร่ร่อน/ไร้ทอ่ี ยู่ ไม่มีสถานะทาง ผพู้ ้นโทษ ผ้ตู ดิ เชอื้ HIV
บึงกาฬ ยากจน อาศัย ทะเบยี นราษฎร N/A 1,305
25569 N/A
780
นครพนม 10,239 44 0 1,093 2,410
สกลนคร 404 23 N/A 2 55
มุกดาหาร 4,647 3 1,586 1,137 1,265
กาฬสินธ์ุ 8,804 20 913 809 4,384
อำนาจเจริญ 3,663 8 1 0 59
อบุ ลราชธานี 16,592 159 7,578 666 63
รวม 69,918 257 10,858 3,707 9,541
ท่ีมา : ข้อมูลจากรายงานสถานการณ์ทางสงั คม สำนกั งานพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนษุ ยจ์ งั หวัด ณ วันท่ี 31 มนี าคม 2565
แผนภมู ทิ ี่ 13 แสดงสถานการณก์ ล่มุ ผู้ดอ้ ยโอกส ของกลุ่มจังหวดั ในเขตพน้ื ท่รี บั ผิดชอบของ สสว.6 (หนว่ ย:คน)
ผู้พ้นโทษ ผตู้ ดิ เช้ือ HIV
4% 10%
ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร คนยากจน
12% 74%
คนเร่รอ่ น/ไรท้ ีอ่ ย่อู าศยั
0%
ท่มี า : ข้อมูลจากรายงานสถานการณ์ทางสงั คม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษยจ์ งั หวดั ณ วนั ท่ี
31 มนี าคม 2565
จากตารางที่ 28 และแผนภูมิที่ 13 แสดงสถานการณ์กลุ่มผู้ด้อยโอกาสของกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นท่ี
รับผิดชอบของ สสว.6 พบว่า อันดับ 1 ได้แก่ คนยากจน จำนวน 69,918 คน คิดเป็นร้อยละ 74 ของจำนวน
ผู้ด้อยโอกาสทั้งหมด รองลงมาคอื ผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร จำนวน 10,858 คน คิดเป็นร้อยละ 12 ของ
จำนวนผู้ด้อยโอกาสทั้งหมด ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 9,541 คน คิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ด้อยโอกาสทั้งหมด
และผพู้ น้ โทษ จำนวน 3,707 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4 ของจำนวนผ้ดู ้อยโอกาสท้งั หมด
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพื้นท่ีรบั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)
40
สว่ นที่ 4
สถานการณ์เชงิ ประเดน็ ทางสงั คมในระดบั กลมุ่ จังหวัด
4.1 สถานการณก์ ลุ่มเปราะบางรายครวั เรือน
ตารางท่ี 29 แสดงกลมุ่ คนจนเป้าหมายตามฐานข้อมูลระบบการพฒั นาคนแบบช้เี ป้า TP MAP แยกรายมติ ิ ราย
จงั หวัด (หนว่ ย:คน)
จังหวัด *จำนวนคน ด้านความ ดา้ น ดา้ น ดา้ นรายได้ ด้านการเขา้ ถึง
เปราะบาง เปน็ อยู่ การศึกษา สุขภาพ บรกิ ารภาครฐั
บึงกาฬ 92,361 2,565 6,198 13,514 3,115 11
นครพนม 55,141 1,731 3,823 1,731 4,380 35
มกุ ดาหาร 34,828 547 53 230 107 0
สกลนคร 85,141 484 1219 878 300 5
กาฬสนิ ธุ์ 153,823 165 898 356 505 23
อำนาจเจริญ 4,472 759 162 118 3,185 248
อุบลราชธานี 113,190 2,234 3,184 2,185 5,519 167
รวม 538,956 8,485 15,537 19,012 17,111 489
ที่มา ฐานข้อมูลระบบการพฒั นาคนแบบชเ้ี ปา้ TP MAP สำนักงานการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ณ 31 มีนาคม 2565
หมายเหตุ กลุ่มคนเปราะบาง หมายถึง บุคคลที่ต้องการได้รับการพึ่งพิงจากผู้อื่น ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระหรอื
ตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถแบ่งกลุ่มคนเปราะบางได้ดังน้ี 1)กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกว่าบุคคลทั่วไป อาทิ หญิงตั้งครรภ์
ผ้สู ูงอายุ 2) กลุ่มทุพพลภาพ อาทิ ผู้พิการ ผู้ป่วยจิตเวช ผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยสมองเสื่อม 3) กลุ่มที่ไม่มีอิสระพอในการตัดสินใจ อาทิ
นกั โทษ ทหารเกณฑ์
แผนภูมิที่ 14 แสดงกลุ่มคนจนเป้าหมายตามฐานข้อมูลระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า TP MAP แยกรายมิติ
รายจงั หวัด (หนว่ ย:คน)
ด้านรายได้ 489 8,485 15,53717,11119,012
ดา้ นความเป็นอยู่
ทมี่ า ฐานขอ้ มลู ระบบการพฒั นาคนแบบช้ีเป้า TP MAP สำนักงานการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ณ 31 มีนาคม 2565
จากตารางที่ 29 และแผนภูมิที่ 14 แสดงกลุ่มคนจนเป้าหมายตามฐานข้อมูลระบบการพัฒนาคนแบบ
ชี้เป้า TP MAP แยกรายมิติ ตามค่า MPI 5 มิติ ในระบบ TPMAP logbook โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์จังหวัด พบว่า กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 มีจำนวนคนเปราะบางทั้งหมด
538,956 คน เมื่อพิจารณา 5 มิติ จำนวนคนจนเป้าหมายมิติด้านสุขภาพมากที่สุด จำนวน 19,012 คน รองลงมา
มิติด้ารายได้ 17,111 คน มิติด้านการศึกษา จำนวน 15,537 คน มิติด้านความเป็นอยู่ จำนวน 8,485 คน และมิติ
ดา้ นการเขา้ ถงึ บริการภาครัฐ จำนวน 489 คน ตามลำดบั
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพืน้ ทรี่ ับผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจรญิ และอบุ ลราชธานี)
41
ตารางท่ี 30 แสดงข้อมูลครัวเรือนเปราะบางจากฐานข้อมูลระบบการพัฒนาคนแบบช้เี ป้า TP MAP รายจงั หวดั
ในเขตพ้ืนท่ีรบั ผดิ ชอบ สสว.6 (หนว่ ย:ครวั เรือน)
จังหวดั *จานวนครัวเรือน ครัวเรือนทอี่ ยู่อาศัยไม่ **ระดบั ความเปราะบางของ
เปราะบาง มั่นคง ครัวเรือน
ระดับ 0 ระดับ 1 ระดบั 2 ระดบั 3
บงึ กาฬ 34,828 362 10,169 9,150 13,493 2,016
นครพนม 55,141 1995 51057 635 2832 617
มุกดาหาร 34,672 50 1065 91 235 27
สกลนคร 85,141 1646 82185 1140 1418 398
กาฬสนิ ธุ์ 58,041 2735 53652 846 3805 908
อำนาจเจรญิ 29,817 759 26552 429 1840 996
อุบลราชธานี 106,985 592 101,037 3,839 5,974 1,748
รวม 404,625 8,139 325,717 16,130 29,597 6,710
ท่มี า กองตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ ข้อมูล ณ 31 มนี าคม 2565
*นิยาม ครัวเรือน หมายถงึ บคุ คลหรือกลมุ่ คนทอี่ ยรู่ ่วมกนั และกินอยู่ร่วมกันในสถานทเ่ี ดียวกนั จำนวน 6 เดือน เปน็ อย่างนอ้ ย โดยจำแนกออกได้เปน็
2 ชนิด คอื
1. ครัวเรือนคนเดยี ว ได้แก่ ครัวเรือนซึ่งประกอบด้วยบุคคลคนเดียวโดยไม่เกี่ยวข้องเป็นสมาชิกของครัวเรือนอื่นใดที่อยู่ ในบ้านเดียวกันหรอื
บุคคลคนเดยี วอาศยั อยตู่ ามลำพงั ในบ้านหลังหนงึ่
2. ครัวเรอื นที่ไมม่ ีความสัมพนั ธท์ างเครอื ญาติ ได้แก่ ครัวเรือนทม่ี บี ุคคลตง้ั แต่ 2 คนขน้ึ ไป อยู่รวมกันในบ้านเดยี วกัน หรอื สว่ นหน่ึงของบา้ น และ
รว่ มกนั ในการจดั หาและใชส้ ิ่งอุปโภค บริโภคอนั จำเป็นแกก่ ารครองชีพของบุคคลกล่มุ นน้ั บุคคลเหล่าน้อี าจเปน็ ญาติกนั หรือไมเ่ ป็นญาติกนั เลย
ครัวเรอื นเปราะบาง หมายถึง ครวั เรอื นท่มี ีรายได้นอ้ ยและมบี คุ คลทีอ่ ยใู่ นภาวะพ่งึ พิงทต่ี อ้ งการไดร้ ับความช่วยเหลือ เชน่ ครอบครัวยากจนท่ีมี
เดก็ เล็ก แมเ่ ลี้ยงเด่ียว ผู้สงู อายุ คนพกิ าร สามารถแบง่ ระดับความเปราะบางได้ ดังน้ี
ครวั เรือนระดับ ๐ หมายถึง ครวั เรอื นทีไ่ มต่ กมติ ิเรอ่ื งรายได้และมีบคุ คลทมี่ ภี าวะพ่งึ พิง
ครวั เรอื นระดบั 1 หมายถึงครวั เรือนท่ีมีรายไดน้ ้อย ครัวเรือนท่ีมีรายไดน้ อ้ ยและมปี ญั หาทอ่ี ยอู่ าศัย
ครวั เรือนระดับ 2 หมายถึงครัวเรือนทม่ี รี ายได้น้อยและมีบคุ คลท่อี ย่ใู นภาวะพ่ึงพงิ 1 – 2 คน
ครวั เรอื นระดับ 3 หมายถงึ ครวั เรือนทม่ี รี ายไดน้ อ้ ยและมบี ุคคลทีอ่ ยู่ในภาวะพึ่งพงิ มากกวา่ 2 คน
ครวั เรอื นทม่ี รี ายไดน้ ้อย คอื ครวั เรือนท่มี รี ายได้เฉล่ยี ตอ่ ปีไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ ต่อคน ตอ่ ปี
ภาวะพง่ึ พิง หมายถึง คนท่ตี อ้ งไดร้ บั การดแู ล/ช่วยเหลือจากคนอนื่ (อาทิ เด็กเลก็ ผูส้ ูงอายุ คนพกิ าร และผูป้ ว่ ยตดิ เตยี ง เป็นตน้
จากตารางที่ 30 แสดงข้อมูลครัวเรือนเปราะบาง จากฐานข้อมูลระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า TP MAP
รายจังหวดั ในเขตพ้ืนทีร่ ับผดิ ชอบ สสว.6 พบว่า มจี ำนวนครัวเรือนเปราะบางท้งั หมด 404,625 ครวั เรือน แบ่งเป็น
4 ระดบั ตามคำนยิ ามขา้ งต้น ไดแ้ ก่ ระดบั 0 จำนวนทั้งสิ้น 325,717 ครวั เรอื น ระดบั 1 จำนวน 16,130 ครัวเรือน
ระดับ 2 จำนวน 29,597 ครวั เรอื น ระดับ 3 จำนวน 6,710 ครวั เรอื น
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพื้นท่รี บั ผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจรญิ และอุบลราชธานี)
42
4.2 ผลการขบั เคลือ่ นโครงการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ กลุ่มเปราะบางรายครวั เรือน
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหนึ่งในกระทรวงหลักในการพัฒนา
คุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม ได้ดำเนินงาน “โครงการพัฒนาคุณภาพ
ชวี ติ กล่มุ เปราะบางรายครัวเรือน” เพอื่ บรู ณาการความรว่ มมอื ชว่ ยเหลือกลุ่มเปราะบางให้ครอบคลุมในทุกมิติแบบ
องค์รวมและพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ
แนวทางการดำเนินงานของรัฐบาลท่ีมุ่งขจัดความยากจนและลดความเหล่ือมล้ำ พร้อมกับการพัฒนาคนในทกุ ชว่ ง
วัย โดยกำหนดใชข้ ้อมูลจากระบบบริหารจัดการขอ้ มลู กาพฒั นาคนแบบชเี้ ปา้ (Thai People Map and Analytics
Platform) :TPMAP) เป็นระบบฐานข้อมูลหลกั ในการดำเนินโครงการ
การวิเคราะห์ปัญหาครัวเรือนดำเนินการโดยระบบ TPMAP Log book สามารถวิเคราะห์ครัวเรือน
เปราะบางที่ตกมิติ (MPI) 5 มิติ คือ มิติความเป็นอยู่ มิติรายได้ มิติสุขภาพ มิติการศึกษา มิติการเขา้ ถึงบริการแห่ง
รัฐ เป็นฐานข้อมูลครัวเรือนเปราะบางที่ต้องช่วยเหลือ ในส่วนมิติด้านที่อยู่อาศัยและมิติการเข้าถึงบริการแห่งรัฐ
พม.จะเปน็ หนว่ ยดำเนินงานชว่ ยเหลือตามระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ส่วนมติ ิรายได้ มิติสุขภาพ มิติการศึกษา
จะบูรณาการช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่ MOU 12 กระทรวง 1 หน่วยงาน ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒานาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนินการจัดทำสมุดพกครอบครัวเพื่อจดั เก็บข้อมูลกลุ่มเปราะบางสำหรับการช่วยเหลอื
ซึ่งจากผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 1 กันยายน 2565 ของ 7 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริม
และสนับสนุนวิชาการ 6 ได้แก่ บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ,์ อำนาจเจรญิ ,อุบลราชธานีพบว่า มี
ครัวเรือนกลุ่มเปราะบางตาม TPMAP จำนวน 404,6025 ครัวเรือน ดำเนินการจัดเก็บสมุดพกครอบครัวแล้ว
จำนวน 145,898 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 3.6 ของจำนวนครวั เรอื นกลุ่มเปราะบางตาม TPMAP ทั้งหมด และได้
ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ความช่วยเหลือใน 5 มิติ กล่าวคือ มิติสุขภาพ ดำเนินการช่วยเหลือโดยพม.
จำนวน 12,624 ครัวเรือน หน่วยงานภายนอก 7,957 ครัวเรือน มิติด้านความเป็นอยู่ ช่วยเหลือโดยพม. 27,054
ครัวเรือน หน่วยงานภายนอก 3,875 ครัวเรือน มิติการศึกษา ช่วยเหลือโดย พม.จำนวน 6,501 ครัวเรือน หน่วย
มิติรายได้ มิติการเข้าถึงบริการแห่งรัฐ ช่วยเหลือโดย พม.จำนวน 56,300 ครัวเรือน หน่วยงานภายนอก จำนวน
18,401 ครวั เรือน ดงั ตารางท่ี 31
รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพน้ื ท่รี ับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจรญิ และอบุ ลราชธานี)
43
ตารางที่ 31 แสดงผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครวั เรอื น ในพ้ืนทีร่ ับผดิ ชอบ
ของสสว. 6
ที่มา กองตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ ณ วันที่ 1 กันยายน 2565
https://datastudio.google.com/reporting/49102360-f335-4786-981d-8b2ca5c6a0f8/page/p_li5lpb6lvc
4.3 สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19
แผนภาพที่ 2 แสดงสถานการณ์ภายใตก้ ารแพรร่ ะบาดของเชอ้ื COVID-19
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณาสขุ ,worldometers ณ วันท่ี 31 พฤษภาคม 2565
รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพืน้ ท่ีรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจรญิ และอบุ ลราชธานี)
44
ตารางที่ 32 แสดงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของ COVID-19 พ้ืนที่กลมุ่ จังหวดั ในเขตรับผดิ ชอบของ สสว.6
( ระหวา่ งวนั ที่ 1 มกราคม 2564 - 31 พฤษภาคม 2565) (หนว่ ย:คน)
จงั หวัด ผปู้ ่วย (สะสม) กำลังรักษา รกั ษาหาย เสยี ชวี ิต
บึงกาฬ 13,322 82 13,198 42
นครพนม 63839 2646 61120 73
มกุ ดาหาร 44896 3763 41068 65
สกลนคร 28,533 58 28475 145
กาฬสนิ ธ์ุ 23,353 550 3,116 147
อำนาจเจรญิ 7651 297 7287 76
อุบลราชธานี 275,482 4,121 271,065 296
รวม 457,076 11,517 425,329 844
ที่มา รายงานสถานการณ์ COVID-19 สำนกั งานสาธารณสุขจงั หวัด ข้อมูล ณ วนั ท่ี 31 พฤษภาคม 2565
จากตารางที่ 32 แสดงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบ
ของ สสว.6 ( ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 - 31 พฤษภาคม 2565) พบว่า มีผู้ป่วย (สะสม) รวม 457,076 คน
คิดเป็นร้อยละ 7.8 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด (ประชากรทั้งหมด 5,857,244 คน ) กำลังรักษา
11,517 คน รกั ษาหาย 425,329 คน เสยี ชีวิต 844 คน
ตารางท่ี 33 แสดงข้อมลู การได้รบั วคั ซีนป้องกนั โรค โควดิ 19 ประชาชนในพน้ื ทีก่ ลุ่มจังหวัดในเขตรบั ผิดชอบ
ของ สสว. 6
จังหวัด เขม็ ท่ี ๑ เข็มที่ ๒ กระตนุ้ เข็มท่ี ๓ กระตนุ้ เข็มที่ ๔
บึงกาฬ 241293 217703 55238 3574
นครพนม 468,337 427,683 187,316 12,373
มุกดาหาร 241322 217424 78915 12493
สกลนคร 716978 649864 174993 N/A
กาฬสินธุ์ 600,937 545,932 196,139 N/A
อำนาจเจริญ 340576 318151 140864 N/A
อบุ ลราชธานี 1,276,332 1,186,023 490,718 N/A
รวม 3,885,775 3,562,780 1,324,183 28,440
ทมี่ า MOPH-Immunization Center (IC) กระทรวงสาธารณสุข ขอ้ มูล ณ ข้อมลู ณ วนั ท่ี 31 พฤษภาคม 2565
จากตารางที่ 33 แสดงข้อมูลการได้รับวัคซีนป้องกันโรค โควิด 19 ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขต
รับผิดชอบของ สสว. 6 พบว่า ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดในเขตรับผิดชอบของ สสว. 6 ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1
3,885,775 คน วคั ซีนเขม็ ท่ี 2 จำนวน 3,562,780 คน วนั ซนี กระตนุ้ เข็มที่ 3 จำนวน 1,324,183 คน
รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จังหวัดในเขตพืน้ ที่รบั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจรญิ และอุบลราชธานี)
45
ตารางท่ี 34 แสดงขอ้ มูลการใหค้ วามช่วยเหลือผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรค
COVID-19 พนื้ ที่กลุ่มจังหวดั ในเขตรับผิดชอบของ สสว 6 ( ระหว่างวันท่ี 1 มกราคม 2564 - 31 พฤษภาคม 2565)
จังหวัด ผ้ปู ่วย ครอบครวั ผเู้ สยี ชวี ติ ผไู้ ด้รบั ผลกระทบท่ี ครอบครวั ผ้ไู ดร้ บั ผลกระทบที่
COVID-19 จาก COVID-19 ได้รับการช่วยเหลอื ไดร้ บั การที่ชว่ ยเหลือ
(คน) (ครอบครัว) (คน) (ครอบครวั )
บงึ กาฬ 1,332 42 N/A N/A
นครพนม 63,839 73 4,520 4,520
มุกดาหาร 44,896 65 44,896 44,000
สกลนคร 28,533 145 13 9
กาฬสินธุ์ 23,353 147 23,353 147
อำนาจเจริญ 7,651 76 76 76
อุบลราชธานี 16,592 296 N/A N/A
รวม 186,196 844 72,858 48,752
ท่ีมา รายงานข้อมลู การใหค้ วามช่วยเหลอื ผ้ไู ด้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19
กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนษุ ย์ ณ วันท่ี 31 พฤษภาคม 2565
จากข้อมูลตารางที่ 34 แสดงข้อมูลการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรค COVID-19 พื้นที่กลุ่มจังหวัดในเขตรับผิดชอบของ สสว 6 พบว่า มีผู้ป่วยโควิด จำนวน 186,196
คน คิดเป็นร้อยละ 3.17 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด ครอบครัวผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 จำนวน
844ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 0.01 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์จังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ไดด้ ำเนินการชว่ ยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับการ
ช่วยเหลือ จำนวน 72,858 คน และครอบครวั ผู้ไดร้ บั ผลกระทบทีไ่ ดร้ ับการทชี่ ่วยเหลอื จำนวน 48,752 ครอบครวั
4.4 สถานการณเ์ ชงิ ประเดน็ สำคัญของกลุม่ จงั หวัดในเขตพืน้ ท่รี ับผิดชอบ สสว.6
❖สถานการณค์ วามรนุ แรง
นยิ ามศพั ท์ ตามพระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2560
ความรุนแรงในครอบครัว หมายความว่า การกระทำใดๆ โดยมุ่งประสงค์ให้เกิดอันตรายแกร่ ่างกาย จิตใจ
หรอื สุขภาพ หรอื กระทำโดยเจตนาในลักษณะทนี่ า่ จะก่อให้เกดิ อันตรายแกร่ ่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพของบคุ คลใน
ครอบครัว หรือบังคบั หรือใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมให้บคุ คลในครอบครัวต้องกระทำการ ไม่กระทำการ หรอื
ยอมรบั การกระทำอยา่ งหนงึ่ อย่างใดโดยมชิ อบ แตไ่ มร่ วมถึงการกระทำโดยประมาท
การถกู กระทำรุนแรง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ไดแ้ ก่
➢ การกระทำรุนแรงทางกาย หมายถึง การใช้กำลังและ/หรือ อุปกรณ์ใด ๆ เป็นอาวุธทำร้าย
ร่างกาย เกินกวา่ เหตมุ ผี ลทำให้ร่างกายไดร้ ับบาดเจ็บ
➢ การกระทำรุนแรงทางจิต หมายถึง การกระทำใด ๆ ที่มีผลให้ผู้ถูกกระทำได้รับ
ความกระทบกระเทือนด้านจิตใจหรือเสยี สทิ ธิเสรีภาพ ได้แก่ การทอดท้งิ การดูถกู เหยียดหยาม
หรือดุดา่ การกกั ขงั หนว่ งเหน่ียว
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพืน้ ที่รับผิดชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)
46
➢ การกระทำรุนแรงทางเพศ หมายถงึ การกระทำทมี่ ีผลใหผ้ ู้ถกู กระทำไดร้ ับความกระทบกระเทือน
หรือเสียหายเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ได้แก่ การถูกข่มขืน การถูกลวนลาม อนาจาร และ
การถูกบังคบั ค้าประเวณี
ตารางท่ี 35 แสดงจำนวนเหตกุ ารณ์ทงั้ หมดความรุนแรงต่อบุคคลทั่วไปและความรุนแรงในครอบครัวจำแนกตามปี
ท่ีเกิดเหตุ พ.ศ.2561-2564 (หนว่ ย:จำนวนเหตกุ ารณ์)
จังหวดั จำนวนเหตุการณ์
2561 2562 2563 2564
บงึ กาฬ 6 6 9 8
นครพนม 3 13 12 15
มุกดาหาร 16 13 19 28
สกลนคร 17 40 21 19
กาฬสินธุ์ 20 11 17 27
อำนาจเจริญ 17 29 12 19
อุบลราชธานี 31 37 38 53
รวม 110 149 128 169
ทม่ี า ระบบฐานขอ้ มลู www.violence.in.th กรมกิจการสตรแี ละสถาบนั ครอบครัว ข้อมลู ณ 31 มนี าคม 2565
แผนภูมิที่ 15 แสดงจำนวนเหตุการณ์ทั้งหมดความรุนแรงต่อบุคคลทั่วไปและความรุนแรงในครอบครัวจำแนก
ตามปที ี่เกิดเหตุ พ.ศ.2561-2564
ที่มา ระบบฐานขอ้ มูล www.violence.in.th กรมกจิ การสตรีและสถาบนั ครอบครวั ข้อมูล ณ วนั ท่ี 11 พฤษภาคม 2565
รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพน้ื ทร่ี บั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)
47
จากตารางที่ 35 และแผนภูมิท่ี 15 แสดงจำนวนเหตุการณ์ทั้งหมดความรุนแรงต่อบุคคลทั่วไปและ
ความรุนแรงในครอบครวั จำแนกตามปีทีเ่ กิดเหตุ พ.ศ.2561-2564 ของจงั หวัดในเขตพื้นท่ีรบั ผิดชอบ สสว.6 พบว่า
มีจำนวนแนวโน้มเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรายจังหวัดของ 7 จังหวัดในเขต
พื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 ปี พ.ศ.2563 จังหวัดอุบลราชธานี มีเหตุการณ์ความรุนแรงมากที่สุด จำนวน 38
เหตุการณ์ รองลงมา จังหวัดสกลนคร จำนวน 21 เหตุการณ์ จังหวัดมุกดาหาร 19 เหตุการณ์ และปี พ.ศ.2564
จังหวดั อุบลราชธานี มีเหตุการณ์ความรุนแรงมากท่สี ุด จำนวน 53 เหตุการณ์ รองลงมา จังหวดั มกุ ดาหาร จำนวน
28 เหตกุ ารณ์ จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ 27 เหตกุ ารณ์
ตารางที่ 36 แสดงจำนวนเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหมดต่อบุคคลทั่วไปและความรุนแรงต่อบุคคลในครอบครัว
จำแนกตามสาเหตุ/ปจั จัยของจงั หวดั ในเขตพืน้ ทร่ี บั ผดิ ชอบของ สสว.6 ประจำปี 2564 (หน่วย:คน)
สาเหตุ/ปัจจยั นอกใจ/ เมาสุรา/ เศรษฐกจิ / สาเหตุ ส่ือลามก สุขภาพ ไม่ระบุ
หึงหวง ยาเสพติด ตกงาน อน่ื ๆ กาย/จติ
จังหวดั
บึงกาฬ 17 1 001 0
นครพนม 19 3 001 0
มุกดาหาร 7 18 9 4 0 10 0
สกลนคร 7 13 1 010 0
กาฬสินธ์ุ 4 16 4 1 0 16 0
อำนาจเจรญิ 5 11 3 0 0 3 0
อุบลราชธานี 6 38 5 9 0 9 0
รวม 31 112 26 14 1 40 0
ท่มี า : www.violence.in.th ณ วนั ท่ี 11 พฤษภาคม 2565
แผนภมู ทิ ี่ 16 แสดงจำนวนสาเหตุ/ปจั จัยความรนุ แรงของ 7 จงั หวดั ในเขตพ้ืนทรี่ ับผดิ ชอบของ สสว.6(หนว่ ย:คน)
120 112
100
80
60 40
40 31
20 26
14
0 10
ทม่ี า : www.violence.in.th สบื คน้ ขอ้ มูล ณ ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2565
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพ้ืนท่ีรับผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)
48
จากตารางที่ 36 และแผนภูมิที่ 16 แสดงจำนวนเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหมดต่อบุคคลทั่วไปและ
ความรุนแรงต่อบุคคลในครอบครัวจำแนกตามสาเหตุ/ปัจจัยของกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6
ประจำปี 2564 พบว่า สาเหตุสำคัญอันดับ 1 คือ เมาสุรา/ยาเสพติด จำนวน 112 คน รองลงมาคือสาเหตุจาก
สุขภาพกาย/จิต จำนวน 40 คน นอกใจ/หึงหวง จำนวน 31 คน เศรษฐกิจ/ตกงาน จำนวน 26 คน และสาเหตุ
อ่นื ๆ จำนวน 14 คน ส่อื ลามก จำนวน 1 คน ตามลำดับ
4.5 การให้บริการของศนู ยช์ ่วยเหลอื สังคมสายดว่ น 1300
❖ สถิตกิ ารให้บรกิ ารศนู ยช์ ว่ ยเหลือสงั คม 1300
แผนภมู ทิ ี่ 17 แสดงสถิติการใหบ้ ริการศูนยช์ ว่ ยเหลือสงั คม 1300 ของกลุ่มจงั หวดั ในเขตพ้ืนท่ีรับผดิ ชอบของ สสว.
6 (ระหวา่ ง 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2565)
ทีม่ า : ศนู ย์ช่วยเหลือสงั คม 1300 สำนกั งานพฒั นาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษยจ์ ังหวดั ณ วนั ท่ี 30 มิ.ย.65
จากแผนภูมิที่ 17 แสดงผลการดำเนินงานการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือสังคมสายด่วน 1300
ของกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 2565 พบว่า มีสถิติการให้บริการ
จำนวน 1,995 กรณี เฉลี่ย 9 กรณี/วัน โดยประเด็นที่น่าใจ 5 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1 ปัญหารายได้และความ
เป็นอยู่ จำนวน 610 กรณี อันดับ 2 ปัญหาเรื่องสิทธิ สวัสดิการและกฎหมาย จำนวน 327 กรณี อันดับ 3
ปัญหาความสัมพันธใ์ นครอบครวั จำนวน 66 กรณี อนั ดับ 4 ปัญหาความรนุ แรง จำนวน 61 กรณี อนั ดับ 5 ปัญหา
พฤตกิ รรม 52 กรณี
รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพืน้ ทีร่ บั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
49
4.6 ผลการดำเนินงานโครงการสำคญั ประจำปี 2565
❖ โครงการศูนยช์ ่วยเหลือสังคมตำบล
เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนเป็นรูปธรรมและมีการ
ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนิน โครงการศูนย์ช่วยเหลือ
สังคมตำบล เพือ่ เปน็ การต่อยอดและพฒั นาการให้บรกิ ารสวสั ดิการสงั คมอย่างเป็นรปู ธรรมและครอบคลุมในทุกมิติ
แบบองคร์ วม ผ่านกลไกการขับเคลื่อนเชิงพ้ืนท่ี มุ่งเนน้ การพฒั นาสังคมแบบองค์รวม การเสรมิ สร้างการมีส่วนร่วม
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และภาคีเครือข่าย รวมถึงการเสริมพลังแก่กลุ่มเป้าหมาย ชุมชนและ
ประชาชน เพื่อให้สามารถพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันและเกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ในรูปแบบการ
บริการสวัสดิการสังคมของทุกกรมในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และบริการ
ที่จำเป็น ในรูปแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยมีวัตถุประสงค์และขั้นตอนการดำเนินงาน
ดงั แผนภาพ
แผนภาพท่ี 3 แสดงวตั ถุประสงค์และขั้นตอนการดำเนินงานโครงการศูนย์ชว่ ยเหลือสังคมตำบล
ที่มา : คูม่ ือการให้บรกิ ารประชาชน สำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 6 http://tpso-6.-m-society.go.th
รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จังหวัดในเขตพืน้ ทีร่ ับผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
50
ตารางท่ี 37 แสดงผลการดำเนินงานของศูนยช์ ว่ ยเหลอื สงั คมตำบลรายจังหวดั ในเขตรบั ผิดชอบของ สสว.6
ประจำปี 2565
จังหวัด เปา้ หมาย (ศนู ย)์ จัดตง้ั แล้ว (ศนู ย์)
บงึ กาฬ 53 48
นครพนม 99 107
สกลนคร 125 134
มุกดาหาร 53 54
กาฬสินธุ์ 135 130
อำนาจเจรญิ 56 56
อุบลราชธานี 219 238
รวม 740 767
ทม่ี า: กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์ ณ วนั ที่ 29 สงิ หาคม 2565
จากตารางที่ 37 แสดงผลการดำเนินงานของศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลรายจังหวัดในเขตรับผิดชอบ
ของ สสว.6 พบวา่ มีเป้าหมายในการดำเนนิ การจัดตัง้ จำนวน 740 ศูนย์ มกี ารดำเนินการจดั ตงั้ ศูนย์ชว่ ยเหลอื สังคม
ตำบลแลว้ จำนวน 767 ศูนย์
❖ จังหวัดนครพนม
โครงการ “นครพนมโมเดล” จังหวัดนครพนม บรู ณาการความรว่ มมือ 21 หน่วยงาน 5 ความรว่ มมือ
พัฒนาระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในจังหวัดนครพนม (นครพนมโมเดล)
เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนวาระจังหวัดในด้านระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ และคุณภาพชีวิตเยาวชน
นอกระบบการศึกษา
โครงการการพัฒนาระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในจังหวัด
นครพนม (นครพนมโมเดล) เป็นการพัฒนาระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน
ในจงั หวัดนครพนม (นครพนมโมเดล) เพ่ือสง่ เสรมิ ให้เกดิ การขับเคลือ่ นวาระจังหวัดในดา้ นระบบสนบั สนุนคุณภาพ
การเรียนรู้ และคุณภาพชีวิตเยาวชนนอกระบบการศึกษา เชิงระบบกลไกการค้นหา พัฒนา ส่งต่อ เยาวชนนอก
ระบบการศึกษา ผ่านกระบวนการจดั การศึกษาทางเลอื กและการเรียนรู้สูอ่ าชีพ ศึกษารูปแบบการศึกษาทางเลือก
สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษา (การศึกษาจังหวัดต้นแบบนครพนมโมเดลเพื่อเยาวชนนอกระบบการศึกษา)
รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวัดในเขตพ้ืนท่รี บั ผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจรญิ และอบุ ลราชธานี)
51
ซึ่งจังหวัดนครพนมได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา
ทั้งเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาในชุมชนและเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม
เพื่อสนับสนุน ผลักดันให้เกิดกลไกการทำงานในระดับพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา ติดตามช่วยเหลือ
เด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาได้กลับมาสูระบบการศึกษาในรูปแบบในระบบ นอกระบบ หรือตาม
อัธยาศัยอีกครั้ง ทำให้เด็กและเยาวชนได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด
19 และมีโอกาสเข้ารับการเรียนรูต้ ามศักยภาพและความต้องการ ทั้งน้ี เมื่อวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เวลา
15.00 น. ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัด
นครพนม เปน็ ประธานในพิธลี งนามบนั ทึกข้อตกลงความรว่ มมือการพัฒนาระบบสนบั สนุนคณุ ภาพการเรียนรู้ และ
คุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในจังหวัดนครพนม (นครพนมโมเดล) ระหว่าง 21 หน่วยงาน โดยมีนางนุชรัตน์ ประ
สิทธศิ ลิ ป์ชัย รองศึกษาธิการจังหวัดนครพนม กล่าวรายงานวตั ถปุ ระสงคก์ ารลงนามขอ้ ตกลงความรว่ มมือในครง้ั นี้
ด้วยความร่วมมือของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.), สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
นครพนม, สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษานครพนม, สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครพนม
เขต 1, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2, สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดนครพนม, สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวันครพนม, สำนักงานพัฒนาสังคมและความ
มน่ั คงของมนุษย์จงั หวัดนครพนม, สำนกั งานส่งเสรมิ การปกครองท้องถ่ินจงั หวดั นครพนม, สำนักงานเทศบาลเมือง
นครพนม, สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม, ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนม, กองกำกับ
การตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23, คณะเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั นครพนม, คณะเกษตรและเทคโนโลยื
มหวิทยาลัยนครพนม, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม, เรือนจำกลางนครพนม, บ้านพัก
เด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม, สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานนครพนม, บริษัท เอสไอแอลซี จำกัด และศูนย์
การเรียนซี วาย เอฟ รวม 21 หน่วยงาน ซึ่งต่างเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนทั้งสิ้น โดยหวังเป็น
อย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกหน่วยงานภาคีเครือข่าย ในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเด็กและ
เยาวชนจังหวัดนครพนม พัฒนารูปแบบระบบสนบั สนุนคณุ ภาพชีวิตเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ร่วมกนั
จัดกระบวนการ สนับสนุน ส่งเสริม และติดตามเด็กและเยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่หลุดออกจากระบบการศึกษา และ
ร่วมกันวจิ ยั เพอื่ ศกึ ษารปู แบบการศึกษาทางเลือกสำหรับเยาวชนนอกระบบการศกึ ษาต่อไป
ท่ีมา : รายงานสถานการณท์ างสงั คมจงั หวัด สำนักงานพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวดั นครพนม
ประจำปี 2565
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพน้ื ที่รับผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจรญิ และอบุ ลราชธานี)
52
สว่ นท่ี 5
การวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จงั หวดั
การจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและ
สนับสนุนวิชาการ 6 ครอบคลุม 7 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ
และอุบลราชธานี โดยเปน็ การรวบรวมข้อมูลทุติยภูมจิ ากแหล่งข้อมลู หนว่ ยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง อาทิ กรมการปกครอง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องในระดับพน้ื ท่ี ซง่ึ มีสถานการณท์ ีส่ ำคญั ดังนี้
1.ข้อมลู พื้นฐานของกลุ่มจังหวดั
❖ ด้านเขตการปกครอง ประกอบด้วย 95 อำเภอ 739 ตำบล 8,802 หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น จำนวน 832 แห่ง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด 7 แห่ง เทศบาลนคร 2 แห่ง เทศบาลเมือง 10 แห่ง
เทศบาลตำบล 278 แหง่ และองค์การบรหิ ารสว่ นตำบล 535 แหง่
❖ ด้านประชากร มีจำนวนประชากรรวมทั้งสิ้น 5,857,244 คน แบ่งเป็นเพศชาย 2,915,163 คน
เพศหญิง 2,942,081 คน ประชากรส่วนใหญ่ มอี ายุอยใู่ นระหว่าง 26-59 ปี จำนวน 3,065,210 คน คิดเปน็ ร้อยละ
52.3 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด และประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว โดยมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุ
(60 ปีขน้ึ ไป) จำนวน 954,776 คน คิดเปน็ ร้อยละ 16.3 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด
❖ ด้านสาธารณสุข จำนวนประชากรต่อแพทย์ คิดสัดส่วนจำนวนประชากร 579 คน ต่อแพทย์
1 คน สาเหตุการตายของกลุ่มจังหวัด ได้แก่ อันดับ 1 โรควัยชรา จำนวน 1,964 คน อันดับ 2 โรคหัวใจล้มเหลว
จำนวน 1,193 คน อันดบั 3 โรคความดนั โลหติ สงู ไมท่ ราบสาเหตุ จำนวน 1,146 คน ตามลำดบั
❖ ด้านการศึกษา เมื่อเปรียบจำนวนผู้เรียนนอกระบบโรงเรียน ปี พ.ศ.2563 และ ปี พ.ศ. 2564
พบว่ามีทิศทางแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ในปี พ.ศ.2563 มีจำนวน 110,344 คน และปี พ.ศ.2564 จำนวน 114,075 คน
จำนวนนักเรียนออกกลางคันในเขตพืน้ ท่ีรับผิดชอบของ สสว.6 เมื่อเปรยี บ ปี พ.ศ.2563 และปี พ.ศ. 2564 พบว่า
มีทศิ ทางแนวโน้มทีเ่ พม่ิ ข้นึ
❖ ด้านแรงงาน มีกำลังแรงงานในระดับกลุ่มจังหวัดทั้งสิ้น 2,426,981 คน แบ่งเป็น ผู้มีงานทำ
จำนวน 2,396,399 คน คิดเป็นร้อยละ 98.74 ของกำลังแรงงานทั้งหมด ผู้ว่างงานจำนวน 30,582 คน คิดเป็น
ร้อยละ 1.26 ของกำลังแรงงานทั้งหมด กำลังแรงงานที่รอฤดูกาลจำนวน 63,883 คน ผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน
(ทำงานบ้าน,เรียนหนงั สอื ,อ่ืนๆ) จำนวน 1,630,156 คน และจำนวนคนต่างดา้ วท่ไี ดร้ ับอนญุ าตทำงานคงเหลอื 2 ปี
พ.ศ.2563 - 2564 ทั้ง 7 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว.6 มีจำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงาน
คงเหลอื เพ่มิ ขน้ึ
❖ ด้านที่อยู่อาศัย จังหวัดที่มีชุมชนผู้มีรายได้น้อยมากที่สุด ได้แก่จังหวัดอุบลราชธานี มีจำนวน
8 แหง่ จำนวน 420 ครวั เรือน
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพื้นทร่ี ับผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจรญิ และอบุ ลราชธานี)
53
❖ ด้านเศรษฐกิจและรายได้ ปี พ.ศ.2562 และ ปี พ.ศ.2563 มี 5 จังหวัดอัตราการขยายตัว GPP
ลดลง ได้แก่ บึงกาฬ,มุกดาหาร,กาฬสินธุ์,อำนาจเจริญและอุบลราชธานี สำหรับอีก 2 จังหวัดมีอัตราการขยายตัว
GPP เพิม่ ขน้ึ ได้แก่ นครพนมและสกลนคร และรายได้โดยเฉลีย่ ต่อเดือนต่อครัวเรือนของกลุ่มจงั หวัด พ.ศ. 2560-
2564 พบว่า มที ิศทางแนวโนม้ เพิ่มข้นึ เล็กน้อย เม่อื พิจารณาในปี 2564 จงั หวัดบึงกาฬ มรี ายไดโ้ ดยเฉลี่ยต่อเดือน
ต่อครัวเรือนสูงที่สุดในกลุ่มจังหวัด จังหวัดนครพนม มีรายได้โดยเฉลี่ยตอ่ เดือนต่อครัวเรือนต่ำท่ีสุดในกลุ่มจังหวัด
และหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนของกลุ่มจังหวัดจำแนกตามวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม พ.ศ.2560-2564 ภาพรวม
ของกลุ่มจังหวดั พ.ศ.2560-2564 หน้ีสินรวมมแี นวโนม้ ท่สี งู ขน้ึ ในทกุ ๆปี
❖ ดา้ นภาคีเครอื ข่าย ศนู ยพ์ ัฒนาครอบครวั ในชมุ ชน (ศพค.) มีจำนวนมากท่ีสุด 805 แหง่ รองลงมา
ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล (ศชส.ต.) จำนวน 768 แห่ง มีอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มจี ำนวนท้ังสิ้น 30,609 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.52 ของประชากรท้ังหมดในกลุ่มจังหวดั
2. สถานการณ์กลุ่มเปา้ หมายทางสังคมระดับกลุ่มจงั หวดั
❖สถานการณ์เด็ก หรือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ของกลุ่มจังหวัด มีจำนวนรวม
1,208,77 คน คดิ เป็นร้อยละ 2.06 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวดั สถานการณ์สำคญั อันดับ 1 ได้แก่
จำนวนเด็กท่ีไดร้ บั เงินอุดหนนุ เพอ่ื การเลยี้ งดูเด็กแรกเกิด จำนวน 265,512 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 21.97 เมื่อเทยี บกับ
ประชากรเดก็ ทัง้ หมดในกลุม่ จังหวัด อนั ดับ 2 ได้แก่ เด็กท่ีอยใู่ นครอบครัวเลย้ี งเดี่ยว มจี ำนวนทั้งสิ้น 6,129 คน คิด
เป็นร้อยละ 0.51 เมอ่ื เทยี บกบั ประชากรเด็กท้ังหมดในกลุ่มจังหวดั อันดบั 3 เดก็ นอกระบบ จำนวน 1,143 คน คิด
เปน็ ร้อยละ 0.09 เมื่อเทียบกับประชากรเดก็ ทัง้ หมดในกลมุ่ จังหวดั
❖สถานการณ์เยาวชน หรือบุคคลที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ถึง 25 ปีบริบูรณ์ ของกลุ่มจังหวัด
มีจำนวนรวม 626,367 คน คิดเป็นร้อยละ 10.69 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด สถานการ์สำคัญ
อันดับ 1 ได้แก่ เยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีจำนวนทั้งสิ้น 582 คน คิดเป็นร้อยละ 0.09เมื่อเทียบกับ
จำนวนเยาวชนทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด อันดับ 2 ได้แก่ เยาวชนที่ถูกทารุณกรรมทางร่างกาย จิตใจและทางเพศ
มจี ำนวนทงั้ ส้นิ 49 ราย คิดเปน็ ร้อยละ 0.01 เม่อื เทยี บกับจำนวนเยาวชนทงั้ หมดในกลมุ่ จังหวัด
❖สถานการณ์สตรี (เพศหญิงทุกช่วงวัย) ของกลุ่มจังหวัด มีจำนวนรวม 2,700,404 คน คิดเป็น
ร้อยละ 46.1 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด สถานการณ์สำคัญ อันดับ 1 ได้แก่ สตีที่ถูกเลิกจ้าง/
ตกงาน มจี ำนวนทง้ั สน้ิ 16,754 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.62 ของจำนวนประชากรสตรีทั้งหมดในกลมุ่ จังหวัด แม่เลี้ยง
เดยี่ วฐานะยากจน มจี ำนวนทัง้ ส้นิ 5,136 คน คดิ เป็นร้อยละ 0.19 ของจำนวนประชากรสตรที ัง้ หมดในกลมุ่ จังหวัด
❖สถานการณ์ครอบครัว ของกลุ่มจังหวัด มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 1,943,090 ครัวเรือน
สถานการณส์ ำคัญ อนั ดบั 1 สถานการณค์ รอบครวั ยากจน มจี ำนวน 60,645 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.12 ของจำนวน
ครวั เรือนทั้งหมดในกลุม่ จงั หวดั อนั ดับ 2 คือ ครอบครวั ท่จี ดทะเบยี นสมรส 18,786 ครัวเรือน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.97
ของจำนวนครัวเรือนท้ังหมดในกลุ่มจังหวดั อนั ดบั 3 ครอบครวั หยา่ งรา้ ง มจี ำนวนท้งั ส้นิ 7,992 ครอบครวั คิดเป็น
ร้อยละ 0.41 ของจำนวนครวั เรอื นทง้ั หมดในกลุ่มจงั หวัด
❖ สถานการณ์ผู้สูงอายุ ของกลุ่มจังหวัดมีจำนวนทั้งสิ้น 956,611 คน ได้รับเบี้ยยังชีพจำนวน
861,793 คน คิดเป็นร้อยละ 90 ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด สถานการณ์สำคัญ จำแนกตาม
ความสามารถในการทำกิจวตั รประจำวัน (ADL) พบวา่ อันดับ 1 เป็นกลมุ่ ผสู้ งู อายุ ตดิ สงั คม จำนวน 300,114 คน
คิดเป็นร้อยละ 31.37 ของจำนวนผูส้ ูงอายทุ ั้งหมดในกลุ่มจังหวัด อันดับ 2 ผู้สูงอายุติดบ้าน จำนวน 223,175 คน
รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จังหวัดในเขตพืน้ ทร่ี ับผิดชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
54
คิดเป็นร้อยละ 23.32 ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด อันดับ 3 ผู้สูงอายุติดเตียง จำนวน 5,128 คน
คิดเปน็ ร้อยละ 0.54 ของจำนวนผสู้ งู อายุทัง้ หมดในกลุม่ จงั หวดั
❖ สถานการณ์คนพกิ าร ของกลุ่มจังหวัดมจี ำนวนคนพกิ ารท่มี บี ัตรประจำตัวคนพกิ าร ณ วนั ที่ 31
มีนาคม 2564 จำนวน 210,131 คน สถานการณ์สำคัญ สาเหตุความพิการมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ อันดับ 1
ไม่ทราบสาเหตุจำนวน 121,717 คน อันดับ 2 คือ โรคอื่น ๆ จำนวน 22,799 คน อันดับ 3 คือ อุบัติเหตุ จำนวน
15,426 คน และ จำนวนคนพิการตามประเภทความพิการ อันดับ 1 คือ คนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกาย
จำนวน 94,727 คิดเป็น 45.08 ของจำนวนคนพิการทั้งหมด อันดับ 2 คือ จำนวนคนพิการทางการได้ยินหรือ
สื่อความหมาย จำนวน 94,727 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 20.74 ของจำนวนคนพิการทงั้ หมด อนั ดบั 3 จำนวนคนพิการ
ทางการเห็น จำนวน 24,904 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 11.85 ของจำนวนคนพิการทั้งหมด
❖ สถานการณ์กลุ่มผู้ด้อยโอกาส สถานการณ์สำคัญ อันดับ 1 ได้แก่ คนยากจน จำนวน 69,918
คน คิดเป็นร้อยละ 74 ของจำนวนผู้ด้อยโอกาสทั้งหมด รองลงมาคือ ผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร จำนวน
10,858 คน คิดเป็นร้อยละ 12 ของจำนวนผู้ด้อยโอกาสทั้งหมด ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 9,541 คน คิดเป็น
ร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ด้อยโอกาสทั้งหมดและผู้พ้นโทษ จำนวน 3,707 คน คิดเป็นร้อยละ 4 ของจำนวน
ผูด้ อ้ ยโอกาสทั้งหมด
3. สถานการณเ์ ชิงประเดน็ ทางสังคมในระดับกล่มุ จังหวัด
❖ สถานการณ์กลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ของกลุ่มจังหวัดมีจำนวนคนเปราะบางในระบบ
TPMAP logbook ทั้งหมด 538,956 คน เมื่อพิจารณา 5 มิติ สถานการณ์สำคัญ อันดับ 1 มิติด้านสุขภาพมาก
ที่สุด จำนวน 19,012 คน คิดเป็นร้อยละ 3.53 ของจำนวนคนเปราะบางทั้งหมดในกลุ่มจังหวดั อันดับ 2 มิติด้าน
รายได้ 17,111 คน คิดเป็นร้อยละ 3.17 ของจำนวนคนเปราะบางทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด อันดับ 3 มิติด้าน
การศึกษา จำนวน 15,537 คน คิดเป็นร้อยละ 2.88 ของจำนวนคนเปราะบางทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด อันดับ 4
มิติด้านความเป็นอยู่ จำนวน 8,485 คน คดิ เป็นร้อยละ 1.57 ของจำนวนคนเปราะบางทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด และ
อันดับ 5 มิตดิ ้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ จำนวน 489 คน คิดเปน็ ร้อยละ 0.09 ของจำนวนคนเปราะบางท้ังหมด
ในกลุ่มจังหวัด
❖ สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ของกลุ่มจังหวัด ( ระหว่างวันท่ี 1 มกราคม 2564
- 31 พฤษภาคม 2565) พบว่า มีผู้ป่วย (สะสม) รวม 457,076 คน คิดเป็นร้อยละ 7.8 ของประชากรทั้งหมด
ในกลุ่มจังหวัด กำลังรักษา 11,517 คน รักษาหาย 425,329 คน เสียชีวิต 844 คน ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวดั
ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 3,885,775 คน คิดเป็นร้อยละ 66.34 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด วัคซีนเข็มที่ 2
จำนวน 3,562,780 คน คิดเป็นร้อยละ 60.82 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวดั วันซีนกระตุ้นเข็มท่ี 3 จำนวน
1,324,183 คน คิดเป็นร้อยละ 22.60 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจงั หวัด (ประชากรทงั้ หมด 5,857,244 คน )
❖ สถานการณ์ความรนุ แรง จำนวนเหตุการณ์ทั้งหมดความรุนแรงต่อบุคคลทั่วไปและความรุนแรง
ในครอบครัวจำแนกตามปีที่เกิดเหตุ พ.ศ.2561-2564 พบว่า มีจำนวนแนวโน้มเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มมากขึน้
ปี พ.ศ.2564 จังหวัดอุบลราชธานี มีเหตุการณ์ความรุนแรงมากที่สุด จำนวน 53 เหตุการณ์ รองลงมา จังหวัด
มุกดาหาร จำนวน 28 เหตุการณ์ จังหวัดกาฬสนิ ธุ์ 27 เหตุการณ์ ตามลำดับ สาเหตุสำคัญ อันดับ 1 คือ เมาสุรา/
ยาเสพติด จำนวน 112 คน อันดับ 2 คือสาเหตุจากสุขภาพกาย/จิต จำนวน 40 คน อันดับ 3 นอกใจ/หึงหวง
จำนวน 31 คน
รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพืน้ ทรี่ ับผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจรญิ และอบุ ลราชธานี)
55
❖ สถิติการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 มีสถิติการให้บริการจำนวน 1,995 กรณี เฉล่ีย
9 กรณี/วัน โดยประเด็นที่น่าใจ อันดับ 1 ปัญหารายไดแ้ ละความเป็นอยู่ จำนวน 610 กรณี อันดับ 2 ปัญหาเรื่อง
สทิ ธิ สวัสดิการและกฎหมาย จำนวน 327 กรณี อันดบั 3 ปญั หาความสัมพนั ธใ์ นครอบครัว จำนวน 66 กรณี
❖ มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล เป็นศูนย์กลางการพัฒนาและการบริหารคนทุกช่วงวัย
และ บูรณาการบริการสวัสดิการสังคมของทุกกรมของกรทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดสวัสดิการ ณ จุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ลดความ
ซ้ำซ้อนและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการสังคมอย่างทั่วถึงและเป็ นธรรม มีการดำเนินการ
จัดต้งั ศนู ยช์ ่วยเหลือสังคมตำบลแลว้ จำนวน 767 ศูนย์
รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จังหวัดในเขตพน้ื ท่รี บั ผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
56
ส่วนท่ี 6
บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ
การจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2565 ประกอบดว้ ย 6 สว่ น ได้แก่ สว่ นที่ 1
บทนำ ส่วนที่ 2 ข้อมูลพื้นฐาน ส่วนที่ 3 สถานการณ์กลุ่มเป้าหมายทางสังคม ส่วนที่ 4 สถานการณ์เชิงประเด็น
ทางสังคมในระดับกลุ่มจังหวัด ส่วนที่ 5 การวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด ส่วนที่ 6 บทสรุปและ
ข้อเสนอแนะ จัดทำโดยการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิจากแหล่งข้อมูล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการปกครอง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ ครอบคลุม 7 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธ์ุ
อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี มีวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคม
ที่เกิดขึ้นในพื้นที่กลุ่มจังหวัด เพื่อคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคม รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะแนวทางในการ
แก้ไขปัญหาทางสังคมในพ้นื ที่กลุ่มจงั หวดั ซ่ึงสามารถสรปุ และข้อเสนอแนะ ดังน้ี
6.1 บทสรปุ สถานการณป์ ระเดน็ สำคญั ของกลุ่มจังหวดั ดังนี้
1) สถานการณ์ด้านประชากร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 พบว่า มีจำนวนประชากรกลุ่ม
จังหวัดรวมทั้งสิ้น 5,857,244 คน คิดเป็นร้อยละ 8.85 ของประชากรทั้งหมดของประเทศไทย (ประชากรท้ัง
ประเทศ ปี 65 จำนวน 66,165,261 คน ) ประชากรกลุ่มจังหวัดแบ่งเป็นเพศชาย 2,915,163 คน คิดเป็นร้อยละ
49.8 ของประชากรท้ังหมดในกลุ่มจังหวัด เพศหญงิ 2,942,081 คน คดิ เป็นร้อยละ 50.2 ของประชากรทั้งหมดใน
กลุ่มจังหวดั ประชากรส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงานซึง่ มอี ายอุ ยู่ระหว่าง 26-59 ปี จำนวน 3,065,210 คน คิดเป็นรอ้ ย
ละ 52.3 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด และประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว โดยมีจำนวนประชากร
ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) จำนวน 954,776 คน คิดเป็นร้อยละ 16.3 ของประชากรทั้งหมดในกลุม่ จงั หวดั การมีงาน
ทำของประชากร พบว่า อัตราการมีงานทำร้อยละ 98.74 อัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.26 มีจำนวนคนต่างด้าวที่
ไดร้ ับอนญุ าตทำงานคงเหลือมจี ำนวนเพ่ิมมากขน้ึ ด้านสาธารณสุข สาเหตกุ ารตายของกลมุ่ จงั หวดั อันดับ 1 ได้แก่
โรควัยชรา จำนวน 1,964 คน
2) สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ รายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนของกลุ่มจังหวัด พ.ศ.
2560-2564 พบว่า มีทิศทางแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อพิจารณาในปี 2564 จังหวัดบึงกาฬ มีรายได้โดยเฉล่ีย
ต่อเดอื นตอ่ ครวั เรือนสงู ทสี่ ุดในกลุ่มจังหวัด จงั หวัดนครพนม มีรายไดโ้ ดยเฉล่ียต่อเดือนต่อครัวเรือนต่ำท่ีสุดในกลุ่ม
จังหวัดและหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนของกลุ่มจังหวัดจำแนกตามวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม พ.ศ.2560-2564
ภาพรวมของกลุ่มจังหวดั พ.ศ.2560-2564 หน้สี นิ รวมมีแนวโน้มท่สี ูงขึ้นในทุกๆปี อันดบั 1 เพ่อื ใช้จ่ายในครัวเรือน
จำนวน 795,464.97 บาท อนั ดบั 2 เพอื่ ใช้ทำการเกษตร จำนวน 324,972.00 บาท อันดับ 3 เพื่อใช้ในการศึกษา
จำนวน 27,246.92 บาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าสาเหตุของการเป็นหนี้ส่วนใหญ่นํามาใช้ในครัวเรือน ซึ่งเป็นการก่อหนี้ท่ี
ไมไ่ ดก้ อ่ ใหเ้ กดิ รายได้มากกวา่ การก่อหนเ้ี พ่อื ก่อให้เกิดรายได้
รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพน้ื ที่รับผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจรญิ และอุบลราชธานี)
57
3) สถานการณท์ างสงั คมเชงิ กลุม่ เปา้ หมาย
❖ สถานการณ์เด็ก อันดับ 1 ได้แก่ จำนวนเด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเด็กแรกเกิดในครัวเรือนยากจนหรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน ได้รับสวัสดิการสำหรับ
การดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี จำนวน 265,512 คน คิดเป็นร้อยละ 21.97 เมื่อเทียบกับประชากรเด็กทั้งหมด
ในกลุ่มจังหวัด ซึ่งเป็นการสร้างระบบคุ้มครองทางสังคมให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย
อันดับ 2 ได้แก่ เด็กที่อยู่ในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว คือครอบครัวที่พ่อหรือแม่เลี้ยงลูกคนเดียว กลายเป็นอีกรูปแบบ
ของครอบครัว ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ซึ่งกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 พบว่า
มีจำนวนทัง้ สนิ้ 6,129 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 0.51 เมื่อเทยี บกบั ประชากรเดก็ ทง้ั หมดในกล่มุ จงั หวดั
❖สถานการณ์สตรี พบว่า แม่เลี้ยงเดี่ยวฐานะยากจน มีจำนวนทั้งสิ้น 5,136 คน คิดเป็นร้อยละ
0.19 ของจำนวนประชากรสตรีทง้ั หมดในกลุ่มจังหวัด
❖สถานการณ์ครอบครัว สถานการณ์สำคัญ ได้แก่ สถานการณ์ครอบครัวยากจน ซึ่งจากการ
คัดกรองในระบบ TPMAP มีจำนวนทั้งสิ้น 60,645 คน คิดเป็นร้อยละ 3.12 ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด
ในกลุ่มจังหวัด ครอบครัวหย่างร้าง มีจำนวนทั้งสิ้น 7,992 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 0.41 ของจำนวนครัวเรือน
ท้ังหมดในกลมุ่ จงั หวดั
❖ สถานการณ์ผู้สูงอายุ อันดับ 1 เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ติดสังคม ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเอง
ได้ดี ดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างอิสระ สามารถทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐานและกิจวัตรประจำวันต่อเนื่องได้
จำนวน 300,114 คน คิดเป็นร้อยละ 31.37 ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดในกลุ่มจงั หวดั อันดับ 2 ผู้สูงอายุติดบ้าน
เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้หรือต้องการความช่วยเหลือบางส่วน จำนวน 223,175 คน คิดเป็นร้อยละ
23.32 ของจำนวนผสู้ ูงอายุทั้งหมดในกลมุ่ จงั หวดั
❖ สถานการณ์คนพิการ ประเภทความพิการ อันดับ 1 คือ คนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือ
รา่ งกาย จำนวน 94,727 คดิ เปน็ 45.08 ของจำนวนคนพิการทัง้ หมด
❖ สถานการณ์กลุ่มผู้ด้อยโอกาส อันดับ 1 ได้แก่ คนยากจน จำนวน 69,918 คน คิดเป็นร้อยละ
1.19 ของจำนวนประชากรท้ังหมดในกลุม่ จังหวดั
4) สถานการณท์ างสังคมเชิงประเดน็ ทางสังคม
❖ สถานการณ์ความรุนแรง จำนวนเหตุการณ์ทัง้ หมดความรุนแรงตอ่ บุคคลท่ัวไปและความรุนแรง
ในครอบครัวจำแนกตามปีที่เกิดเหตุ พ.ศ.2561-2564 พบว่า มีจำนวนแนวโน้มเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
โดยสาเหตสุ ำคัญอันดับ 1 ได้แก่ เมาสุรายาเสพตดิ
❖สถิติการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 อันดับ 1 ปัญหารายได้และความเป็นอยู่ อันดับ 2
ปัญหาเรอื่ งสิทธิ สวสั ดกิ ารและกฎหมาย อนั ดบั 3 ปญั หาความสมั พันธใ์ นครอบครวั
❖มีการดำเนินโครงการสำคัญ ไดแ้ ก่
1. การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน เพื่อบูรณาการความ
ร่วมมือช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางให้ครอบคลุมในทุกมิติแบบองค์รวมและพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง
รายครวั เรอื นให้สามารถดำรงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งย่ังยืนซึ่งจากผลการดำเนนิ งาน ณ วนั ท่ี 1 กันยายน 2565 ของ 7 จังหวัด
ในเขตพน้ื ท่ีรบั ผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนุนวิชาการ 6 ได้แก่ บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,
กาฬสินธุ์,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี พบว่า มีครัวเรือนกลุ่มเปราะบางตาม TPMAP จำนวน 404,6025 ครัวเรือน
รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพื้นทร่ี บั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
58
ดำเนินการจัดเก็บสมุดพกครอบครัวแล้ว จำนวน 145,898 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 3.6 ของจำนวนครัวเรือน
กลุ่มเปราะบางตาม TPMAP ทั้งหมด และได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ความช่วยเหลือใน 5 มิติ กล่าวคือ
มิติสุขภาพ ดำเนินการช่วยเหลือโดยพม.จำนวน 12,624 ครัวเรือน หน่วยงานภายนอก 7,957 ครัวเรือน มิติด้าน
ความเป็นอยู่ ช่วยเหลือโดยพม. 27,054 ครัวเรือน หน่วยงานภายนอก 3,875 ครัวเรือน มิติการศึกษา ช่วยเหลือ
โดย พม.จำนวน 6,501 ครัวเรือน หน่วยมิติรายได้ มิติการเข้าถึงบริการแห่งรัฐ ช่วยเหลอื โดย พม.จำนวน 56,300
ครัวเรอื น หนว่ ยงานภายนอก จำนวน 18,401 ครัวเรอื น
2. โครงการศูนย์ชว่ ยเหลือสังคมตำบล ม่งุ เนน้ การพัฒนาสงั คมแบบองคร์ วม การเสริมสร้างการมี
ส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และภาคีเครือข่าย รวมถึงการเสริมพลังแก่กลุ่มเป้าหมาย ชุมชน
และประชาชน เพอื่ ใหส้ ามารถพ่ึงพาอาศยั ซ่ึงกันและกนั และเกิดการพัฒนาคุณภาพชีวติ อย่างยั่งยืน ในรูปแบบการ
บริการสวัสดิการสังคมของทุกกรมในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และบริการ
ที่จำเป็น ในรูปแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยมีการดำเนินการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม
ตำบลแลว้ จำนวน 767 ศูนย์
3. โครงการ “นครพนมโมเดล” จังหวัดนครพนม บูรณาการความร่วมมือ 21 หน่วยงาน 5
ความร่วมมือ พัฒนาระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในจังหวัดนครพนม
(นครพนมโมเดล) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนวาระจังหวัดในด้านระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ และ
คุณภาพชีวิตเยาวชนนอกระบบการศึกษา โดยผลการดำเนินงานพาเด็กนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแล้ว
จำนวน 88 คน ซึ่งมีข้อค้นพบมากกว่าร้อยละ 70 ของเยาวชนที่รับวุฒิกลับไปเรียนต่อในระบบส่วนใหญ่
เป็นสายอาชีพ
6.2 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
1) เพื่อให้สอดคล้องกับยุค 4.0 ควรเร่งพัฒนาระบบ Big Data ให้เป็นระบบเดียวกัน บนแพลตฟอร์ม
เดียวกัน ตามกลุ่มเป้าหมาย เพื่อแสดงความสัมพันธ์ของชุดข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลแสดงผลได้อย่างชัดเจน
มคี วามนา่ เช่ือเถอื อย่างมนี ัยสำคัญทางสถิติ
2) ควรส่งเสริมกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวในการดูแลผู้สูงอายุ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น
ค่ายครอบครัว กิจกรรมจิตอาสา เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีพลัง ทั้งนี้สอดคล้องกับ
สถานการณ์ในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว และประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ติดสังคม คิดเป็นร้อยละ
31.37 ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้ดี ดำเนินชีวิตในสังคมได้
อย่างอิสระ สามารถทำกิจวตั รประจำวันพ้ืนฐานและกิจวัตรประจำวันตอ่ เนือ่ งได้
3) ควรส่งเสริมกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพการดูแลเด็กในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จาก
สถานการณ์ด้านเด็กที่พบว่าครอบครัวที่พ่อหรือแม่เลี้ยงลูกคนเดียว กลายเป็นอีกรูปแบบของครอบครัว และ
จำนวนเด็กท่ีอยู่ในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว มีจำนวนทั้งสิ้น 6,129 คน คิดเป็นร้อยละ 0.51 เมื่อเทียบกับประชากร
เด็กทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด
4) ควรส่งเสริมภาคเี ครือข่ายให้มีความเข้มแข็งเพื่อการเฝ้าระวังปัญหาสังคมและการช่วยเหลือประชาชน
กลุ่มเปราะบางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์สำคัญอันดับ 1 ท่ีมีจำนวนคนยากจน
ทั้งส้ิน 60,645 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 3.12 ของจำนวนครัวเรือนท้งั หมดในกลุ่มจังหวัด
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพ้ืนท่ีรบั ผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
59
5) ควรมีการส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพอิสระที่หลากหลายให้แก่ประชากรเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการ
สร้างรายได้ ทั้งนี้ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาอันดับ 1 จากการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
ปัญหารายได้และความเปน็ อยู่
6) ควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการพฒั นาครอบครัวใหเ้ ข้มแข็ง การตระหนกั ถึงความสำคัญของการ
อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวที่สามารถพึ่งพาอาศัย ดูแลซึ่งกันและกันได้ ทั้งนี้ สอดคล้องกับสถานการณ์ความรุนแรง
ท่ีมีจำนวนแนวโน้มเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และจากสถิติการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
ปัญหาอันดับ 3 ไดแ้ ก่ ปัญหาความสมั พันธใ์ นครอบครวั
7) ควรมีการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก เรื่องสิทธิ สวัสดิการและกฎหมาย สำหรับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ท้ังนี้ สอดคลอ้ งกับการใหบ้ ริการศูนยช์ ว่ ยเหลอื สังคม 1300 อนั ดับ 2 ปญั หาเร่อื งสิทธิ สวัสดกิ ารและกฎหมาย
8) ควรสรา้ งความตระหนักในการป้องกันอบุ ัติเหตุอย่างตอ่ เนื่อง ซึ่งสอดคล้องกบั สถานการณ์ด้านคนพิการ
อนั ดบั 1 ประเภทความพิการทางการเคล่อื นไหวหรือรา่ งกาย และสาเหตอุ ันดบั 3 เกดิ จากอุบตั เิ หตุ
6.3 ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบตั ใิ นระดับกล่มุ จังหวัด
1) การแก้ไขปัญหาความยากจน
1.1 มีการบูรณาการฐานข้อมูลครัวเรือนยากจนระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นท่ี
เพื่อการชว่ ยเหลอื กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
1.2 การสนับสนุนงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ ตามประเด็นสำคัญของแต่ละ
กลุ่มเปา้ หมาย
1.3 เปลี่ยนระบบเอกสารเป็นระบบดิจิทัลเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่ต้องการกับหน่วยงานที่เป็น
เจ้าของฐานข้อมูลตงั้ แต่ เกิด แก่ เจบ็ ปว่ ยและเสียชีวิต
2) การสง่ เสรมิ และการพฒั นาคุณภาพชวี ิตผู้สูงอายุ
2.1 สนับสนุนให้เกิดการจ้างงานผู้สูงอายุ ที่ยังมีสุขภาพแข็งแรงเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมีรายได้
ลดการพึ่งพิง
2.2 การอบรมเตรียมความพร้อมกลุ่มประชากรที่จะเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิด
การตระหนกั ดา้ นการออมและการดูแลสุขภาพ
3) การสง่ เสริมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
3.1 สง่ เสรมิ ความร่วมมือระหว่างหนว่ ยงานที่เกยี่ วขอ้ งเพื่อสรา้ งกล่มุ อาชีพของคนพกิ ารให้มีความ
เข้มแขง็ สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนพกิ ารและผดู้ แู ลคนพิการอยา่ งเปน็ รปู ธรรม
3.2 การส่งเสริมให้มีการออกแบบสถานที่ให้เหมาะสมสำหรับคนพิการตามอารยสถาปัตย์
เพ่ือการพฒั นาคุณภาพชีวิตคนพิการ
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพื้นทร่ี ับผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชาการ 6
(บงึ กาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)
60
บรรณานกุ รม
กรมการปกครอง.ระบบสถิติทางทะเบียน (Online)
http://www.bora.dopa.go.th/index.php/th/,สบื ค้นข้อมลู ณ วนั ที่ 30 มิถุนายน2564
กรมกิจการสตรแี ละสถาบันครอบครัว,(2562) (online) ข้อมลู ตามระบบฐานข้อมลู ความรนุ แรง ในครอบครัว
http://www.violence.in.th สืบค้นข้อมลู ณ วันท่ี 30 มิถนุ ายน2565
กรมควบคุมโรค.รายงานสถานการณ์ โควดิ -19. (Online) https://covid19.ddc.moph.go.th สบื ค้นขอ้ มูล
ณ วันท่ี 31 พฤษภาคม 2565
กรมส่งเสริมและพฒั นาคุณภาพชวี ิตคนพิการ .(online) จำนวนคนพิการทมี่ บี ตั รประจำตัวคนพกิ าร.
สืบค้นขอ้ มลู ณ วันที่ 31 มนี าคม 2565
กระทรวงสาธารณสขุ . หนว่ ยบรกิ ารสาธารณสุข ภาครฐั และภาคเอกชน. (Online) HDC REPORT
สืบคน้ ขอ้ มูล ณ วันที่ 31 มนี าคม 2565
กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนษุ ย.์ โครงการพฒั นาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน
กลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 .แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาค
ตะวันออกเฉยี งเหนือตอนบน2.(online).http://www.osmnortheast-n2.moi.go.th สบื คน้ ขอ้ มูล
ณ วนั ท่ี 30 มิถนุ ายน 2565
กลมุ่ งานบริหารยุทธศาสตร์กล่มุ จังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 .แผนพฒั นากลุ่มจังหวัดภาค
ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนลา่ ง 2.(online). http://www.osmnortheast-s2.moi.go.th
สบื คน้ ข้อมลู ณ วันที่ 30 มถิ ุนายน 2565
กองยุทธศาสตร์และสารสนเทศท่ีอยู่อาศัย ฝา่ ยวิชาการพัฒนาทอ่ี ยู่อาศัย การเคหะแหง่ ชาติ.(2562)
ชุมชนผู้มีรายได้นอ้ ย ปี 2562
สำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร.ศูนยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร.(online) สบื ค้นข้อมลู
ณ วันที่ 31 มนี าคม 2565
สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ.ผลติ ภณั ฑ์ภาคและจังหวัด แบบปรมิ าณ
ลูกโซ่ ฉบับ พ.ศ. 2563 (online) (https://www.nesdc.go.th/) สืบคน้ ข้อมลู
ณ วนั ที่ 31 มีนาคม 2565
สำนกั งานจงั หวดั 7 จงั หวัด. (online) (บึงกาฬ ,นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ
อุบลราชธานี),สืบค้นขอ้ มลู ณ วนั ที่ 30 มถิ นุ ายน 2565
สบื ค้นส่อื ออนไลน์ เร่ือง ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม และชาตพิ ันธ์ รายจงั หวดั .
http://th.wikipedia.org/wiki ณ วันท่ี 31 มนี าคม 2565
สำนักงานสถิตแิ ห่งชาติ กระทรวงดิจทิ ลั เพ่ือเศรษฐกจิ และสังคม.รายได้โดยเฉลีย่ ตอ่ เดือนตอ่
ครัวเรือนรายจงั หวดั (online). http://www.nso.go.th/) ,สบื ค้นข้อมูล วนั ท่ี 31 มนี าคม 2565
สำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6 . ค่มู อื การใหบ้ รกิ ารประชาชน
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวัดในเขตพืน้ ที่รบั ผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
61
บรรณานกุ รม (ตอ่ )
สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดจิ ิทัลเพือ่ เศรษฐกิจและสังคม.หนสี้ ินเฉลี่ยต่อเดอื นรายจังหวัด
จำแนกตามวตั ถุประสงค์ของการกู้ยืม (online). http://www.nso.go.th/) ,สืบค้นขอ้ มลู
ณ วันท่ี 31 มีนาคม 2565
สำนกั งานพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ 7 จังหวัด.รายงานสถานการณ์ทางสงั คมจงั หวดั
ประจำปี 2565 (บงึ กาฬ ,นครพนม,มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจรญิ อุบลราชธาน)ี
ขอ้ มลู ณ 25 สิงหาคม 2565
สืบคน้ ออนไลน์ .รายงานสถานการณ์จากทวั่ โลก จำนวนผตู้ ดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนาสายพันธใุ์ หม่ 2019
https://travel.trueid.net/detail/EpwDxDy0Jd17 ประจำวนั ท่ี 31 พฤษภาคม 2565
รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพน้ื ทีร่ บั ผิดชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
62
ที่ปรกึ ษา คณะผูจ้ ัดทำ
นางสาววรรณา อรัญกลุ
ผอู้ ำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวชิ าการ 6
กลุ่มนโยบายและยทุ ธศาสตร์
1. นางสาวศรวี รรณ์ สระแก้ว หวั หน้ากลมุ่ นโยบายและยทุ ธศาสตร์
2. นางสาวป่นิ แกว้ นาใจคง นกั พัฒนาสังคมชำนาญการ
3. นายมงคล ดาศรี นกั พฒั นาสงั คมชำนาญการ
4. นายเทพกร บญุ เทียบ เจา้ พนกั งานพฒั นาสงั คมชำนาญงาน
5. นายนนธชิ ยั สาระมัย นกั พัฒนาสงั คมปฏิบตั ิการ
ผู้ออกแบบปก นักพัฒนาสังคม
นางสาวชลดา ภเู ตา้
รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จงั หวัดในเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี)
63
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพืน้ ทีร่ บั ผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)
64
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพืน้ ทีร่ บั ผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)
65
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพืน้ ทีร่ บั ผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)
66
รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพืน้ ทีร่ บั ผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6
(บึงกาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธ์ุ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี)