The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chonladamini999, 2022-09-30 03:36:28

Article-kalasinshelter

Article-kalasinshelter

การจดั การภาวะวกิ ฤต กรณผี ใู้ ชบ้ รกิ ารภายในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวดั กาฬสนิ ธุ์
ติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

CRISIS MANAGEMENT CASE STUDY: IN-CLIENT AT KALASIN SHETER
FOR CHILDREN AND FAMILIES COVID-19 VIRAL INFECTION

จิตติพฒั น์ จาเริญเจอื 1
วจิ ารย์ ชรู ตั น์2

บทคัดย่อ

บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งศึกษาการจัดการภาวะวิกฤตถึงกระบวนการช่วยเหลือ
ผู้ใช้บริการภายในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธ์ุที่ติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้มีความ
ปลอดภัย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการถอดบทเรียนผ่านกระบวนการสนทนา
กลุ่มกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว นักจิตวิทยาวิทยา นักสังคมสงเคราะห์
นักพัฒนาสังคม รวมถึงบุคลากรที่มีบทบาทสาคัญต่อการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้บริการให้มีความปลอดภัยและ
ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม รวมทั้งสิ้น 13 ราย วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการศึกษา
พบว่า การจัดการภาวะวิกฤตได้เลือกกลยุทธ์ตอบโต้ด้วยการประชุมออนไลน์ผ่านระบบ Googel Meet
อยา่ งเร่งดว่ นเพือ่ กาหนดแนวทางในการยับยัง้ วกิ ฤตการณ์ก่อนจะลุกลามและเสียหาย ปรับกระบวนการทางาน
การจัดการรายกรณีโดยจัดลาดับความสาคัญตามระดับความเสี่ยงของเด็กแต่ละคนเพ่ือยับย้ังการแพร่เช้ือ
เป็นวงกว้าง เป็นผลให้ผู้ใช้บริการ จานวน 2 ราย ไม่ติดเชื้อโควิด และบุคลากรในองค์กรซ่ึงมีบทบาทสาคัญ
ต่อการให้ความช่วยเหลือเด็กให้ปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จานวน 13 ราย ไม่ติดเช้ือโควิด
เกิดจากการจัดการและการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามมาตรการการป้องกันและการเว้นระยะห่างทางกายภาพ
และองคก์ รสามารถดาเนนิ งานไปได้ตามปกติโดยไม่หยุดชะงัก

คาสาคัญ: การจัดการภาวะวิกฤต, ผ้ใู ชบ้ ริการ, ไวรสั โคโรนา 2019

Abstract

The article of this objective aims to study: Crisis management the process helps
IN-Clients at Kalasin Shelter for Children and Families COVID-19 viral infection to safety.
It is a qualitative research methodology. Data were collected by lessons learned from
the focus group discussion process including Head of Kalasin shelter for children and families,
Psychologist, Social Worker, Social Development Worker and professionals play a vital role
in providing assistance total of 13 people. Analyze the data by content analysis. The results
showed that Crisis Management has urgently chosen a Google Meet online conferencing
response strategy to determine how to stop crises before they escalate and break. Adjusting
the case management workflow by prioritizing each child's risk level in order to stop

1 นักพัฒนาสงั คม ปฏิบัติหน้าทห่ี ัวหน้าฝ่ายส่งเสรมิ และพฒั นา บา้ นพักเดก็ และครอบครัวจังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ
2 หัวหน้าบา้ นพกั เดก็ และครอบครัว บา้ นพกั เด็กและครอบครัวจงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ

-2-

spreading the infection widely. As a result, 2 in-client not infected with the coronavirus.

and personnel in the organization who play an important role Continue to help children to

be safe and receive proper care, of 13 people who are not infected with the coronavirus.

caused by strict management and practice in accordance with preventive measures and

physical distancing and the organization can operate normally without interruption.

Keywords: crisis management, IN-Client, COVID-19 viral infection

1. บทนา
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019)

หรือโรคโควิด 19 เป็นการแพร่ระบาดคร้ังใหญ่ของโรคท่ีเกิดข้ึนใหม่และแพร่ไปท่ัวโลกอย่างรวดเร็ว
(Pandemic) องค์การอนามัยโลกได้ออกมาประกาศว่าการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนาเป็นภาวะฉุกเฉิน
ด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern: PHEIC)
จากรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก (กรมควบคุมโรค, 2564)
อ้างถึง Worldometer พบผู้ป่วยสะสมท้ังส้ิน 111,218,170 ราย เสียชีวิต 2,462,186 ราย และหายป่วย
86,086,551 ราย และประเทศที่มีผู้ป่วยติดเชื้อมากท่ีสุด 10 ประเทศ ได้แก่ สหัสรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล
รัฐเซีย สหราชอาณาจักรฝร่ังเศส สเปน อิตาลี ตุรกี และเยอรมนี ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโคโรนา
ไวรสั 2019 ในประเทศไทย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานพบผู้ป่วยรายแรกเป็นนักท่องเท่ียวจีน
ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มข้ึนอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับในระยะต่อมาพบการแพร่ระบาดใหญ่ในลักษณะการติดเช้ือเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) ในสนามมวย
และสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพมหานครซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีการรวมกลุ่ม คนจานวนมากและมีความแอดอัด
รวมถึงมีการประกาศปิดเมอื งในพ้นื ทก่ี รงุ เทพมหานครจึงเกิดการเคลื่อนย้ายของประชากรออกไปยังต่างจังหวัด
ทาให้ผู้สัมผัสเชื้อกระจายออกไปยังต่างจังหวัด ส่งผลให้มียอดผู้ติดเช้ือภายในประเทศไทยเพ่ิมขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งจากข้อมูลรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 พบผู้ติดเช้ือสะสมท้ังส้ิน
25,323 ราย เป็นการติดเชื้อระลอกใหม่ 21,676 ราย และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 82 ราย เป็นการติดเช้ือ
ในประเทศ 71 ราย คัดกรองผู้เดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ 4,235 ราย ผู้เดินทางที่เฝ้าระวังอาการ
ณ พน้ื ทก่ี กั กนั แห่งรฐั 81,676 ราย และยังคงพบผู้ติดเช้ือจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชนและผู้ป่วยท่ีเข้ามาตรวจ
ในสถานพยาบาลอย่างต่อเนื่อง

จากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ท่ีมีการแพร่กระจายเชื้อ
ออกไปอย่างกว้างขวางในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ส่งผลกระทบวงกว้างท้ังด้านสาธารณสุข
เศรษฐกิจ สงั คม ความม่นั คง ตลอดจนการดารงชีวิตของประชาชน นอกจากน้ีวิกฤตดังกล่าวยังได้ส่งผลกระทบ
ต่อเด็กและเยาวชนอย่างรุนแรง (ยูนิเซฟ ประเทศไทย, 2564) อ้างถึงรายงาน Preventing a lost decade:
Urgent action to reverse the devastating impact of COVID-19 on children and young people
พบว่า โควิด 19 เป็นอปุ สรรคฉุดรงั้ ความก้าวหน้าในหลายดา้ นไม่ว่าจะเป็นดา้ นความยากจน สขุ ภาพ การเข้าถึง
การศึกษา โภชนาการ การคุ้มครองเด็ก และสุขภาพจิตของเด็ก โดยผลกระทบแผ่ออกไปเป็นวงกว้างและ
ฝังรากลึกลงย่ิงทวีความยากจนและความเหล่ือมล้าและยังส่งผลกระทบต่อสิทธิเด็กอย่างที่ไม่ เคยมีมาก่อน
เพ่ือเป็นการจัดการกับภาวะวิกฤตและผลกระทบที่เกิดข้ึนภาครัฐโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ
ในราชกจิ จานุเบกษากาหนดให้โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ลาดับท่ี 14
ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย จัดต้ัง

-3-

ศูนยบ์ รหิ ารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อเป็นการยกระดับในการ
เฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออันตราย นอกจากนี้ภาครัฐยังได้ออกมาตรการเยียวยาประชาชน
เพอ่ื เป็นการลดภาระและผลกระทบจากการแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019

จังหวัดกาฬสินธ์ุ เป็นหนง่ึ จังหวดั ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากวกิ ฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) รวม 21 ราย
ซ่ึงนับเป็นคลัสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดนับต้ังแต่ประเทศไทยยืนยันการพบผู้ติดเช้ือสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)
ครงั้ แรก เมื่อวนั ท่ี 6 ธนั วาคม 2564 (สานักข่าวบีบีซีนิวส์ ประเทศไทย, 2564) ประกอบกับสายพันธุ์นี้สามารถ
แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มียอดผู้ติดเช้ือภายในจังหวัดกาฬสินธุ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากรายงาน
สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดกาฬสินธ์ุ ระลอกใหม่ต้ังแต่วันท่ี 1 มกราคม 2565 ถึงวันท่ี 13 เมษายน 2565
พบผู้ติดเชื้อสะสม 26,913 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ 348 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่ายกว่า 1,072 ราย
(ศูนย์อานวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดกาฬสินธุ์, 2565) ด้วยวิกฤตการณ์
ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนรวมถึงหน่วยงานท่ีทาหน้าท่ีในการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิ
ภาพเด็ก คอื บา้ นพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ หน่วยงานสังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีอานาจหน้าท่ีและภารกิจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา
ทางสังคมในภาวะวิกฤต ช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพและจัดบริการสวัสดิการสังคมสาหรับเด็ก เยาวชน
สตรี และกลุ่มเป้าหมายอื่นท่ีประสบปัญหาทางสังคม เป็นสถานแรกรับเด็กและเยาวชน ตามพระราชบัญญัติ
คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และเป็นสถานที่พักพิงช่ัวคราวตามกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติป้องกัน
และปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทาด้วยความรุนแรงในครอบครัว
พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 เมื่อวันท่ี 15 เมษายน 2565
พบผู้รับบริการภายในติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน (Cluster) จานวน 5 ราย และได้มีการแพร่กระจายเชื้อ
ไปยงั ผรู้ ับบริการเพิ่มอีก จานวน 5 ราย รวม 10 ราย จากผู้รับบริการภายในท้ังหมด 12 ราย ส่งผลกระทบต่อ
ผู้รับบริการและองค์กรท่ีต้องหยุดชะงักและเพื่อคานึงถึงความปลอดภัยและยึ ดประโยชน์สูงสุดของเด็ก
เป็นสาคัญ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา
และเจ้าหน้าท่ีเกี่ยวข้อง จาเป็นต้องจัดการกับภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสียหาย และ
จดั การรายกรณีเพ่ือคมุ้ ครองเด็กที่ติดเชือ้ โควดิ ให้ปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานการจัดสวัสดิการบ้านพักเด็ก
และครอบครวั

ดังน้ัน เพ่ือให้เกิดการพัฒนากระบวนงานเม่ือเกิดภาวะวิกฤตและเตรียมความพร้อมรับมือกับ
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระยะต่อไปหรือรับมือกับโรคอุบัติใหม่ท่ีอาจเกิดข้ึนได้
ในอนาคต จึงเป็นเหตุผลสาคัญทาให้ผู้วิจัยสนใจศึกษาเรื่อง “การจัดการภาวะวิกฤต กรณีผู้รับบริการภายใน
บ้านพักเดก็ และครอบครวั จังหวดั กาฬสินธตุ์ ดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)”

2. วตั ถุประสงคก์ ารวิจัย
การวิจัยคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งศึกษาการจัดการภาวะวิกฤตถึงกระบวนการช่วยเหลือ

ผู้ใช้บริการภายในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธ์ุท่ีติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ให้มีความปลอดภัย

3. ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั จากการวจิ ัย
ประโยชน์ท่ีจะได้รับจากการวิจัยคร้ังนี้ คือ ได้ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับการจัดการภาวะวิกฤต

ถึงกระบวนการช่วยเหลือผู้ใช้บริการภายในบ้านพักเด็กและครอบครัวเพื่อเป็นแนวปฏิบัติท่ีดี (Best Practice)

-4-

ใหก้ บั บคุ ลากรในการเตรยี มความพรอ้ มรบั มอื กับการแพร่ระบาดในระยะต่อไปหรือรับมือกับโรคอุบัติใหม่ท่ีอาจ
เกิดข้ึนได้ในอนาคต และเป็นแนวทางการทางานการจัดการภาวะวิกฤตให้กับหน่วยงานบ้านพักเด็กและ
ครอบครัวจังหวดั อ่นื ๆ นาไปศึกษาและพฒั นาต่อยอดงานได้

4. กรอบแนวคิดในการวิจยั
แนวคดิ เกย่ี วกับการจัดการภาวะวิกฤต (Crisis Management)
ผู้วจิ ยั ใชแ้ นวคิดท่อี ธบิ ายการจัดการภาวะวิกฤต (Crisis Management) ของ ปรีดี นุกูลสมปรารถนา

(2565, เว็บไซต์) ท่ีเสนอว่า ภาวะวิกฤตหรือ Crisis Management คือ สภาวะเหตุการณ์หรือสถานการณ์
ชั่วคราวทีไ่ ม่ได้คาดคดิ มีความสับสน เกิดข้ึนอย่างกะทันหัน สร้างให้เกิดความตื่นตระหนก ซ่ึงโดยส่วนใหญ่น้ัน
จะไม่ได้มีการเตรียมการเพ่ือรับมือ โดยภาวะวิกฤตน้ันจะส่งให้เกิดผลเสียกับหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ซ่ึงจะ
สร้างให้เกิดความกดดัน ภัยคุกคาม และผลกระทบทางลบต่อคนท่ีเกี่ยวข้อง เช่น บุคคล องค์กร ตั้งแต่จานวน
เล็กน้อยไปจนถึงคนหมู่มาก และเพ่ือเตรียมความพร้อมรับมือ วางแผน ตัดสินใจในการยับยั้งวิกฤตการณ์ก่อน
จะลกุ ลามและเสยี หาย ดังนน้ั องค์กรควรเลือกกลยุทธ์ในการตอบโต้วิกฤตให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

อย่างไรก็ดี ไทเกอร์ (2565, เว็บไซต์) ได้อธิบายถึง Crisis Management ว่า การจัดการภาวะ
วิกฤตเป็นกระบวนการท่ีองค์กรใช้เม่ือประสบเหตุการณ์คาดคิดที่ก่อกวนหรืออาจเป็นภัยให้กับองค์กรและผู้มี
ผลประโยชน์ นอกจากนี้ บริษัท เด็มโก้ จากดั (มหาชยั ) (2563) ยังไดเ้ สนอว่า การจัดการภาวะวิกฤตว่าเป็นการ
จัดการโครงสร้าง บุคลากร และกระบวนการ ตลอดจนศิลปะในการวางแผนและการตัดสินใจในการยับยั้ง
วกิ ฤตการณก์ อ่ นจะลุกลามเสยี หายมากขน้ึ

ดังน้ัน จึงสรุปได้ว่า การจัดการภาวะวิกฤต เป็นการจัดการกับสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นอย่าง
กระทนั หนั เพ่อื เตรยี มพร้อมการรับมือ วางแผน ตดั สินใจในการยบั ยง้ั วิกฤตการณก์ ่อนจะลกุ ลามและเสียหาย

ขั้นตอนการจดั การภาวะวกิ ฤต
สาหรับข้ันตอนการจัดการภาวะวิกฤตนั้น ปรีดี นุกูลสมปรารถนา (2565, เว็บไซต์) ได้อธิบายถึง
ขัน้ ตอนของการจดั การภาวะวิกฤตไว้ 4 ข้ันตอน ดังน้ี
1. กาหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการสื่อสารให้ชัดเจน เม่ือใดก็ตามที่เกิดภาวะวิกฤตขึ้น
องค์กรจาเป็นต้องกาหนดแนวทางในการสื่อสารทั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนและมีความเหมาะสม
กับเหตกุ ารณ์น้นั ๆ เพื่อเปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั ิ
2. เลือกกลยทุ ธ์ในการตอบโต้วกิ ฤตใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ข้ึน
3. วางแผนสือ่ สารกบั ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกๆ การเกิดเหตุการณ์วิกฤตน้ันองค์กรจาเป็นต้องมีการ
ตดิ ต่อส่ือสารกับทงั้ คนภายในองค์กร และผู้ที่มีส่วนท่ีเกี่ยวขอ้ งทั้งหมด
4. ตง้ั หน่วยงานเฉพาะกิจและผู้แถลงการณ์ การต้ังทีมงานที่เกี่ยวข้องกับการรับมือในภาวะวิกฤต
นัน้ เป็นส่งิ สาคัญที่จะเปน็ ศูนย์กลางในการปฏบิ ตั ิการต่างๆ รวมถงึ การประสานงานกบั ผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี ท่ีเกยี่ วขอ้ ง

แนวคิดเก่ียวกับการจัดการรายกรณีเพื่อคุ้มครองเด็กในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
ติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

ผู้วิจัยใช้กรอบแนวคิดเร่ือง การจัดการรายกรณีเพ่ือคุ้มครองเด็กในสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ของ กรมกจิ การเดก็ และเยาวชน (2563) ที่อธิบายว่า พนักงาน
เจ้าหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา และเจ้าหน้าที่
ที่ปฏิบัติงานด้านคุ้มครองเด็กถือเป็นบุคลากรท่ีมีบทบาทสาคัญต่อการให้ความคุ้มครองเด็กช่วยเหลือเด็ก

-5-

ใหป้ ลอดภัยและไดร้ บั การดแู ลอย่างเหมาะสม การกล่าวถึงบทบาทสาคัญต่อการให้ความคุ้มครองเด็กนี้ จึงต้อง
มีแนวทางปฏิบัติงานเพ่ือคุ้มครองเด็กภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
โดยคานึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ได้แก่ การจัดการรายกรณี การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่จาเป็น
การเตรียมความพร้อมและการดูแลเจ้าหน้าท่ี การจัดกระบวนการทางาน และการประสานงานระหว่างภาค
ส่วนตา่ งๆ และภาครฐั เพือ่ ใหเ้ ด็กได้รบั การดแู ลอย่างเหมาะสม ปลอดภัย

5. ระเบียบวธิ ีวิจัย
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) มุ่งเน้นศึกษากลุ่มเป้าหมายที่มี

บทบาทสาคัญต่อการให้ความคุ้มครองเด็ก ช่วยเหลือเด็กให้ปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
จานวน 13 คน โดยเลือกเก็บข้อมูลกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นบุคลากรปฏิบัติงานท่ีบ้านพักเด็กและครอบครัว
จังหวัดกาฬสินธุ์ ประกอบด้วย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา นักพัฒนาสังคม
เจ้าหน้าท่ีการเงินและบัญชี เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม พนักงานบริการ เจ้าหน้าท่ีช่วยปฏิบัติงานด้านพัฒนาสังคม
และเจา้ หน้าทช่ี ่วยธรุ การ-การเงิน-บญั ชี

เคร่ืองมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการถอดบทเรียน
การทางานผ่านกระบวนการสนทนากลุ่ม (Focus group discussion) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์
เชิงเนอื้ หาโดยการนาเอาข้อมูลท่ีได้จากการถอดบทเรียนมาจาแนกเป็นหมวดหมู่ตามประเด็นวัตถุประสงค์ของ
การวิจัยและกรอบแนวคิดของการวิจัย

6. ผลการวิจยั
จากการถอดบทเรียนผ่านกระบวนการสนทนากลุ่ม พบว่า ข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 13 คน

แบ่งเป็น หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว 1 คน นักสังคมสงเคราะห์ 1 คน นักจิตวิทยา 1 คน นักพัฒนาสังคม
3 คน เจ้าหน้าท่ีการเงินและบัญชี 1 คน เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม 1 คน พนักงานบริการ 3 คน เจ้าหน้าที่ช่วย
ปฏิบัติงานด้านพัฒนาสังคม 1 คน และเจ้าหน้าท่ีช่วยธุรการ-การเงิน-บัญชี 1 คน ซ่ึงท้ังหมดเป็นบุคลากร
ทมี่ บี ทบาทสาคญั ตอ่ การให้ความคมุ้ ครองเดก็ ชว่ ยเหลอื เดก็ ให้ปลอดภัยและไดร้ ับการดแู ลอยา่ งเหมาะสม

ผลการศึกษานาเสนอเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 สภาพการจัดบริการสวัสดิการภายในบ้านพักเด็ก
และครอบครัว และส่วนที่ 2 การจัดการภาวะวิกฤตถึงกระบวนการช่วยเหลือผู้ใช้บริการภายในที่ติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID-19) ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี

6.1 การจัดบรกิ ารสวสั ดกิ ารสาหรับผู้ใช้บริการภายใน
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธ์ุ มีภารกิจให้ความ

ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นเด็กอายุต่ากว่า 18 ปี ท่ีประสบปัญหาทางสังคมในภาวะวิกฤต และเป็นสถาน
แรกรับเด็กและเยาวชนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มีผู้ใช้บริการภายในห้วงเดือนเมษายน 2565
จานวน 12 คน แบ่งเปน็ เพศชาย 3 คน และเพศหญงิ 9 คน

ส่วนการจัดบริการสวัสดิการสาหรับผู้ใช้บริการภายใน พบว่า แรกรับและตลอดการอยู่
ในความคุ้มครองภายในบ้านพักเด็กและครอบครัว ผู้ใช้บริการจะได้รับบริการด้านท่ีพักอาศัยและปัจจัยส่ี
พ้ืนฐานตามมาตรฐานการจัดบริการสวัสดิการขององค์กรสวัสดิการสังคม ได้รับการตรวจสุขภาพด้านร่างกาย
กรณีเจ็บป่วยจะมีการส่งต่อเข้ารับรักษา และได้รับการเสริมพลังผ่านกระบวนการให้คาปรึกษา ให้คุณค่าและ
ศักด์ิศรี ตลอดจนให้กาลังใจในการดาเนินชีวิต เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมพัฒนาการ
ด้านอารมณ์ ด้านคุณธรรม จริยธรรม เสริมสร้างทักษะการพ่ึงพาตนเองในชีวิตประจาวัน ทักษะด้านอาชีพ

-6-

รวมไปถึงการให้ความรู้เร่ืองสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงจะได้รับ และการประสานส่งต่อไปยังหน่วยงานอ่ืนหรือนาส่ง
กลบั ภมู ิลาเนา ครอบครวั และชุมชนตอ่ ไป

6.2 การจัดการภาวะวิกฤตถึงกระบวนการช่วยเหลือผู้ใช้บริการภายในที่ติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID-19)

ผลการศึกษาประเด็นน้ี พบว่า กลยุทธ์ท่ีบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธ์ุ
เลือกตอบโต้กับวิกฤตที่ผู้ใช้บริการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แบ่งเป็น 2 แนวทางในการยับย้ัง
วิกฤตการณ์ก่อนจะลุกลามและเสียหาย ได้แก่ 1) การดาเนินการเมื่อพบผู้ใช้บริการภายในเข้าเกณฑ์สอบสวน
โรค และ 2) การจดั การและช่วยเหลอื ผ้ใู ช้บริการหลงั ตรวจพบเช้อื โควิด ดังนี้

6.2.1 การดาเนินการเม่อื พบผใู้ ช้บริการภายในเขา้ เกณฑ์สอบสวนโรค
ผลการวิจัยพบว่า วันท่ี 15 เมษายน 2565 พบผู้ใช้บริการ จานวน 2 ราย เป็นเพศหญิง

1 ราย และเพศชาย 1 ราย มีอาการไข้ ปวดหัว และอาเจียน เจ้าหน้าที่เวรประจาวันจึงได้พิจารณาตรวจ
คัดกรองหาเชื้อโควิดด้วย ATK ผลออกมาผู้ใช้บริการทั้ง 2 ราย พบเช้ือโควิด เจ้าหน้าท่ีเวรประจาวันจึงได้
ทาการคัดกรองผู้ใช้บริการที่เหลืออีก 10 ราย ผลออกมาพบผู้ใช้บริการติดเช้ือโควิดเพ่ิมอีก 3 ราย รวมเป็น 5 ราย
และส่วนท่ีเหลืออีก 7 ราย ผลออกมายังไม่พบเช้ือ เจ้าหน้าที่เวรจึงได้ทาการแยกกักตัวผู้ป่วยยืนยันออกจาก
กลุม่ ผูใ้ ช้บรกิ ารสมั ผสั เสีย่ งสูง และผ้ใู ช้บริการสัมผสั เสีย่ งต่า เพ่ือยบั ย้งั การแพรเ่ ชื้อเปน็ วงกว้าง

6.2.2 การจัดการและช่วยเหลอื ผใู้ ช้บรกิ ารหลงั ตรวจพบเช้ือ
การดาเนินการจัดการ พบว่า การเกิดวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการเกิดข้ึน

ในช่วงวันหยุดเทศกาลวันสงกรานต์ จากการประชุมออนไลน์เพ่ือกาหนดแนวทางในการยับย้ังวิกฤตการณ์ก่อนจะ
ลุกลามและเสียหาย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวและผู้จัดการรายกรณี (Case Manager: CM) ได้มีการ
ปรับกระบวนการทางานการจัดการรายกรณีโดยจัดลาดับความสาคัญตามระดับความเสี่ยงของเด็กแต่ละคน
เพื่อยับยั้งการแพร่เชอื้ เปน็ วงกว้าง ดงั นี้

1. แยกกกั ตวั ผูป้ ว่ ยยนื ยัน จานวน 5 ราย แยกห้อง ชาย หญงิ
2. ประสานศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองโรงพยาบาลกาฬสินธ์ุ เพ่ือลงทะเบียนรับยา อาหาร
และเอกซเรย์ปอด เข้าสู่ระบบการรกั ษาแบบ Home isolation สาหรับผู้ปว่ ยยนื ยนั (รอบท่ี 1)
3. แยกกักตัวผู้ใช้บริการสัมผัสเส่ียงสูงและผู้ใช้บริการสัมผัสเส่ียงต่า เพื่อสังเกตอาการ
โดยให้ผู้สัมผัสวัดไข้ตนเองทุกวันนับจากวันท่ีสัมผัสผู้ป่วย หากพบว่ามีไข้ให้แจ้งเจ้าหน้าท่ีทันที รวมถึงให้ป้องกัน
ตนเองโดยหม่ันล้างมืออย่างสม่าเสมอและใช้หน้ากากอนามัย และจากการเฝ้าสังเกตอาการผู้ใช้บริการท่ีสัมผัส
เสี่ยงสูงโดยการตรวจคัดกรองด้วย ATK รอบที่ 2 พบผู้ใช้บริการติดเช้ือเพิ่มอีก จานวน 5 ราย รวมเป็น 10 ราย
จากผใู้ ชบ้ รกิ ารท้ังหมด 12 ราย (ขอ้ มูลผใู้ ชบ้ ริการ วันที่ 18 เมษายน 2565)
4. ประสานศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองโรงพยาบาลกาฬสินธ์ุ เพื่อลงทะเบียนรับยา อาหาร
และเอกซเรยป์ อด เข้าสู่ระบบการรักษาแบบ Home isolation สาหรับผู้ป่วยยนื ยัน (รอบท่ี 2)
5. แยกกักตัวเจ้าหน้าท่ีที่สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน จานวน 2 ราย เพ่ือสังเกตอาการ และ
กาหนดใหเ้ ปน็ ผู้สอ่ื สารหลกั กบั บคุ ลากรภายในรวมถึงบุคคลภายนอกในช่วงวิกฤตการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค
6. ประสานทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เข้ามาดูแลผู้ใช้บริการ
เพ่ือประเมินความเส่ียงท่ีอาจเกิดขึ้นได้กับเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน รวมถึงให้คาแนะนาเกี่ยวกับการป้องกันและ
รบั มือการแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ในลกั ษณะเปน็ กลุ่มกอ้ น (Cluster) ไม่ใหแ้ พรก่ ระจายเชือ้ เปน็ วงกวา้ ง
7. ประเมินความเส่ียงและจัดลาดับความสาคัญของเด็ก เช่น กลุ่มเด็กที่ได้รับวัคซีน
แล้ว และกลมุ่ เด็กท่ียังไม่ได้รับวัคซีน รวมไปถึงเด็กเล็กท่ีอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ท่ีต้องรับวัคซีนป้องกัน เพื่อประเมิน
อาการและให้การชว่ ยเหลือได้อย่างเหมาะสมและปลอดภยั

-7-

8. จัดทารายงานเป็นประจาทกุ วัน เช่น การตรวจวัดไข้ และวัดค่าออกซิเจนปลายน้ิว
เพ่อื ประเมนิ อาการและเปน็ ข้อมูลในการวางแผนการรักษาของแพทย์

9. อานวยความสะดวกผู้ใช้บริการในการจัดยา อาหาร 3 มื้อ และจัดเตรียมอุปกรณ์
ท่ีจาเป็นให้กับผู้ใช้บริการ เช่น เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และหน้ากากอนามัย ให้คาแนะนาในการปฏิบัติตน
อย่างเคร่งครัดตามข้ันตอนการรักษาสุขอนามัยและการรักษาระยะห่าง ตลอดจนจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพ่ือทา
กิจกรรมผอ่ นคลายความเครยี ด ได้แก่ คอมพิวเตอร์ Laptop เพ่ือใช้เปน็ สอื่ ดูหนงั ฟงั เพลงคลายความเครยี ดได้

10. หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว กาหนดให้ปิดอาคารสานักงานเพื่อทาความ
สะอาดฆ่าเซื้อ และไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาบริเวณอาคารสานักงานและสถานที่กักตัวผู้ ป่วย
เป็นระยะเวลา 10 วัน รวมถึงใหเ้ จ้าหนา้ ที่มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเป็น
การป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรค

11. ปรับกระบวนการทางานใหม่เพื่อไม่ให้มีการสัมผัสทางกายภาพกับผู้ใช้บริการ
เช่น การเว้นระยะห่าง การใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร (Video Call) รวมไปถึงการปรับสภาพแวดล้อม
การทางานให้เปิดโล่ง มีอากาศถ่ายเท และงดกิจกรรมกลุ่มประจาวันกับผู้ใช้บริการเพ่ือป้องกันความเสี่ยงจาก
การติดเช้ือโรค รวมถึงกระบวนการทางานที่เน้นการทางานร่วมหน่วยงานสาธารณสุขเพ่ิมมากขึ้นเพ่ือส่งต่อ
การรักษาผใู้ ช้บริการท่ีมีความเสีย่ งได้อย่างปลอดภยั รวมถึงการกาจัดขยะตดิ เช้อื เพอื่ ปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรค

12. จัดการวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโดยยึดคู่มือการป้องกันและควบคุมโรค
ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สาหรับประชาชน (2563) และคู่มือการกักตัวท่ีบ้านสาหรับประชาชาชนสาหรับ
ผู้สมั ผสั ใกล้ชิดผู้ตดิ เชอื้ โควดิ 19 (2564) เป็นแนวทางการดาเนินการช่วยเหลอื ผู้ใชบ้ ริการและเจา้ หน้าท่ใี ห้ปลอดภยั

7. อภิปรายผล
การจัดการภาวะวิกฤตของเจ้าหน้าที่เวรเมื่อตรวจพบผู้ใช้บริการติดเชื้อโควิด ผลการศึกษาพบว่า

มีการแจ้งรายงานอย่างเร่งด่วนทางโทรศัพท์ให้กับหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวทราบ และแจ้งรายงาน
ในกลุ่มไลน์หน่วยงานให้กับเจ้าหน้าท่ีทุกคนทราบ ตอบโต้กับวิกฤตอย่างเร่งด่วนด้วยการประชุมออนไลน์
ผ่านระบบ Google Meet เพ่ือจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดข้ึนอย่างกระทันหัน สอดคล้องกับการศึกษาของ
ฉัฐวัฒน์ ชัชณาภัฏฐ์ (2563) ท่ีพบว่า การเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ถือเป็นวิกฤต
ประเภทหนงึ่ ทต่ี ้องไดร้ ับการจัดการองค์การเพื่อไม่ให้สง่ ผลกระทบท่เี กิดขนึ้ ในแตล่ ะด้านอย่างเร่งด่วน เหมาะสม
และมีประสิทธิภาพ เพราะการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัส COVID-19 คือ ภาวะท่ีองค์การประสบ
เหตุการณ์ท่ีไม่คาดคิดมาก่อนหรืออาจเป็นภัยให้กับองค์การและผู้มีผลประโยชน์ เป็นปัจจัยภายนอกองค์การ
ยากต่อการควบคุมและจดั การสง่ ผลทาให้การดาเนนิ งานอาจหยุดชะงัก

ส่วนประเด็นการศึกษาถึงกระบวนการช่วยเหลือผู้ใช้บริการที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบว่า
มกี ารจดั การวิกฤตการแพรร่ ะบาดของโรคโดยยดึ แนวปฏบิ ัติการจัดการรายกรณีเพื่อคุ้มครองเด็กในสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโควิด-19 มาเป็นแนวทางในการช่วยเหลือผู้ใช้บริการโดยจัดลาดับความสาคัญตามระดับ
ความเส่ียงของเด็กแต่ละคนเพ่ือยับย้ังการแพร่เช้ือเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ผู้ใช้บริการ จานวน 2 ราย ไม่ติดเชื้อโควิด
และบุคลากรในองค์กรซึ่งมีบทบาทสาคัญต่อการให้ความช่วยเหลือเด็กให้ปลอดภัยและได้รับ การดูแลอย่าง
เหมาะสม จานวน 13 ราย ไม่ติดเชื้อโควิด อันเกิดจากการจัดการและการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามมาตรการ
การป้องกันและการเว้นระยะหา่ งทางกายภาพ และองค์กรสามารถดาเนนิ งานไปได้ตามปกติโดยไมห่ ยุดชะงัก

-8-

8. ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย
1. จากผลการศึกษาพบว่า การเลือกกลยุทธ์ตอบโต้วิกฤตอย่างเร่งด่วนจะช่วยให้องค์กรสามารถ

ดาเนินงานไปได้โดยไม่หยุดชะงัก แต่ความเร่งด่วนมักมาพร้อมกับความเสี่ยงท่ีเพ่ิมข้ึน ดังน้ัน กรมกิจการเด็ก
และเยาวชนในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดควรส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการบริหารความเสี่ยงองค์กร
(Enterprise Risk Management) และแผนบริหารความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP) ให้กับ
บคุ ลากรบ้านพักเดก็ และครอบครวั ในการบริหารจัดการภาวะวกิ ฤตไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ

2. เม่ือเหตุการณ์วิกฤตผ่านพ้นไปและสามารถจัดการกับปัญหาได้สาเร็จ องค์กรควรมีการสรุป
บทเรียนถึงประเด็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้น การควบคุมและข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ประกอบกับการสนับสนุน
ให้บุคลากรทุกระดับมีความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในเร่ืองการจัดการภาวะวิกฤตอันจะนาไปสู่
การปฏิบัติงานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ

ข้อเสนอแนะสาหรับการวจิ ัยคร้งั ต่อไป
1. การศึกษาคร้ังน้ีเป็นเพียงการศึกษาการตอบโต้กับภาวะวิกฤตในการยับย้ังวิกฤตการณ์ก่อนจะ
ลุกลามและเสียหาย เพ่ือป้องกันการเกิดภาวะวิกฤตใดๆ ท่ีจะเกิดข้ึนได้กับหน่วยงานในอนาคตควรมีการศึกษา
ถึงแนวทางการบรหิ ารจดั การภาวะวิกฤตเพ่ือรบั มอื กับจัดการกบั ความเสย่ี งไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและทนั ท่วงที
2. ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเมื่อเกิดภาวะวิกฤต
เพือ่ เป็นองค์ความรูใ้ ช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพฒั นากระบวนงานการใหค้ วามช่วยเหลือผู้ใชบ้ ริการต่อไป

9. บรรณานกุ รรม

กรมควบคุมโรค. (ออนไลน์). (2564). สถานการณ์โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาตรการ
สาธารณสุข และปัญหาอปุ สรรคการป้องกนั ควบคมุ โรคในผเู้ ดินทาง. สบื คน้ เม่ือวนั ที่
4 กรกฎาคม 2565, จาก ddc.moph.go.th/uploads/files/2017420210820025238.pdf

กองคมุ้ ครองเด็กและเยาวชน. (2563). แนวปฏบิ ัตกิ ารจดั การรายกรณีเพอ่ื คุ้มครองเด็กในสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโควดิ -19. กรมกิจการเด็กและเยาวชน.

ฉัฐวฒั น์ ชัชณาภฏั ฐ์. (2563). การจัดการองค์การสภาวะวิกฤต กรณีโรคติดเชอื้ ไวรัส COVID-19.
(วารสารวิชาการธรรมทรรศน์). วิทยาลยั เนอร์ทเทรนิ ์.

ไทเกอร์. (ออนไลน์). (2565). Crisis Management คอื อะไร.สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 4 กรกฎาคม 2565,
จาก https://thaiwinner.com/crisis-management/

(ออนไลน์). (2565). ข้นั ตอนการจดั การภาวะวิกฤต.สืบคน้ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565,
จาก https://thaiwinner.com/crisis-management/

ปรดี ี นุกลู สมปรารถนา. (ออนไลน์). (2565) การจัดการภาวะวกิ ฤต Crisis Management. สืบคน้ เม่อื วันที่
4 กรกฎาคม 2565, จาก https://www.popticles.com/business/crisis-management/

บริษัท เด็มโก้ จากัด (มหาชน). (ออนไลน์). (2563). คู่มือการจัดการในภาวะวกิ ฤต Crisis Management
Manual. สบื ค้นเมอื่ วนั ที่ 4 กรกฎาคม 2565, จาก https://www.demco.co.th/storage/
downloads/corporate-policies/20210113-demco-crisis-management-manual-th.pdf

ยูนเิ ซฟ ประเทศไทย. (ออนไลน์). (2565). โควิด-19 คือวิกฤตที่หนกั หนาสาหัสทสี่ ุดสาหรับเด็กในประวตั ิศาสตร์
75 ปีของยูนิเซฟ. สบื ค้นเม่ือวนั ท่ี 4 กรกฎาคม 2565, จาก https://www.unicef.org/thailand/

ศูนย์อานวยการตา้ นโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์. (ออนไลน์). (2565).

-9-

สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ. สืบค้นเม่ือวนั ท่ี 4 กรกฎาคม 2565,
จาก http://www.kalasin.go.th/t/index.php/th/covid19-daily-all.html
สานกั ข่าวบบี ซี ีนิวส์ ประเทศไทย. (ออนไลน์). (2565). โควิด-19: กาฬสนิ ธพ์ุ บ “คลสั เตอร์โอมคิ รอน” 21 ราย.
สบื คน้ เมอื่ วันที่ 4 กรกฎาคม 2565, จาก https://www.bbc.com/thai/thailand-59777858
สานกั สื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ. (ออนไลน)์ . (2563). คู่มอื การป้องกันและควบคุมโรค
ติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื โควดิ -19 สาหรบั ประชาชน. กรมควบคุมโรค กระทรวง
สาธารณสุข. สืบค้นเมอื่ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 จาก https://www tosh.or.th/covid-
19/index.php/manual.
สถาบนั พฒั นาสุขภาพเขตเมือง. (ออนไลน)์ . (2564). คู่มอื การกกั ตัวสาหรบั ผู้สัมผัสใกล้ชดิ ผ้ตู ดิ เชอื้ โควดิ -19
สาหรบั ประชาชน. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นเมอื่ วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2564.
จาก https://www tosh.or.th/covid-19/index.php/manual.


Click to View FlipBook Version