The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สสว 6 ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคมในระดับพื

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chonladamini999, 2022-09-28 22:44:41

สสว 6 ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคมในระดับพื

สสว 6 ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคมในระดับพื

1



คำนำ

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เป็นแผนแม่บทการพัฒนาประเทศ ที่กำหนดกรอบและ
แนวทางการพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องทำตาม เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่ว่า”ประเทศ
ไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
หรือเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” มียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ
จำนวน 2 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ
(2) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมายการพัฒนาที่ให้ความสำคัญ
การดึงเอาพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อนและ
การเตรียมความพร้อมของประชากรไทยทั้งในมติ สิ ุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เปน็ ประชากรที่มี
คุณภาพ สามารถพง่ึ ตนเองและทำประโยชน์แกค่ รอบครวั ชมุ ชน และสังคมให้นานทสี่ ุด

ตามแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2565) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2563
ซง่ึ เปน็ แผนยุทธศาสตรห์ ลักในการดำเนินงานด้านผ้สู ูงอายุในช่วง พ.ศ. 2545 – 2565 มีปรชั ญากล่าวคือ ผู้สูงอายุ
ไม่ใช่ผูด้ อ้ ยโอกาสหรือเปน็ ภาระต่อสังคม แต่สามารถมสี ว่ นร่วมเป็นพลังพฒั นาสังคม จึงควรได้รับการสง่ เสริมและ
เกื้อกูลจากครอบครัว ชุมชน และรัฐให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรีและคงไว้ซึ่งภาวะสุขภาพและ
ความเป็นอยู่ที่ดีให้นานที่สุด ดังนั้น การเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ครอบครัว ชุมชน สามารถเกื้อหนุนได้
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 (สสว.6) ซึ่งเป็นราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค
สังกัด สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำหน้าที่พัฒนางานด้านวิชาการ
เกี่ยวกับการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ จึงได้จัดทำข้อเสนอเชิง
นโยบายด้านสังคมในระดับพื้นที่ เรื่อง “แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียง ”โดยการศึกษาสถานการณ์ผูส้ ูงอายุ นโยบายดา้ นผสู้ งู อายแุ ละองค์ความร้จู ากงานวจิ ัยและงานวิชาการท่ี
เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และกรณีศึกษา One Home จังหวัด
นครพนมและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัด
นครพนม” ซง่ึ เป็นพน้ื ท่ีท่ไี ด้รบั การคดั เลือกเป็นพืน้ ทีต่ น้ แบบปฏิบตั ิการพฒั นาสงั คม (Social Lab: SL)

ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคมในระดับพื้นที่ และหวังเป็น
อย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับหนว่ ยงานและภาคีเครือข่ายในการนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนา
งานด้านผูส้ งู อายตุ อ่ ไป

สำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 6
สงิ หาคม 2565

สารบัญ ข

คำนำ หนา้
สารบัญ ก
สารบัญแผนภาพ ข
บทสรปุ ผู้บริหาร ค
บทท่ี 1 บทนำ ง
1
1.1 ความเปน็ มาและความสำคญั 2
1.2 วัตถุประสงค์ 2
1.3 ขอบเขตการศึกษา 3
1.4 ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ 3
1.5 นยิ ามศพั ท์ 3
บทท่ี 2 แนวคิดและทฤษฎที เ่ี ก่ยี วข้อง 4
2.1 สถานการณ์ผสู้ งู อายไุ ทย 4
2.2 สถานการณผ์ ้สู ูงอายุกลุม่ จงั หวัด 6
2.3 แนวคิด ทฤษฎที ่ีเก่ียวข้องกบั ผู้สงู อายุ 7
2.4 แนวคิดเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 10
2.5 ยุทธศาสตร์และแผนแมบ่ ทท่ีเกยี่ วข้อง 12
2.6 งานวจิ ัยที่เกีย่ วข้อง 19
2.7 กรอบแนวคิด 21
บทที่ 3 วิธดี ำเนินการ 22
3.1 ข้ันตอนการดำเนินงาน 22
3.2 วิธีการศกึ ษา 22
บทที่ 4 ผลการศกึ ษา 23
บทที่ 5 บทสรุปและข้อเสนอแนะ 27
บรรณานกุ รม 31
ภาคผนวก 32

- ภาพกจิ กรรมการถอดบทเรยี น

สารบัญแผนภาพ ค

แผนภาพท่ี 1 แสดงสถติ ิผ้สู ูงอายุ สัญชาตไิ ทย และมชี ื่ออยู่ในทะเบยี นบา้ น ปี 2565 หนา้
ภาพรวมทั้งประเทศ 7
9
แผนภาพท่ี 2 แสดงสถติ ิผสู้ ูงอายุ สัญชาตไิ ทย และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ปี 2565
ของกลุ่มจงั หวัดในเขตพื้นท่ีรบั ผดิ ชอบ สสว.6



บทสรุปผู้บรหิ าร

การจัดทำขอ้ เชงิ นโยบายด้านสังคมในระดบั พื้นที่ เร่ือง “แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ผู้สูงอายุ
ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีวัตถุประสงค์ ดังน้ี (1) เพื่อศึกษาสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย สถานการณ์
ผู้สูงอายุของกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 (2) เพื่อศึกษา
นโยบายดา้ นผสู้ งู อายุและองค์ความรู้จากงานวิจัย งานวชิ าการทีเ่ กย่ี วกับการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ผสู้ ูงอายุ ตามหลัก
ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง (3) เพอื่ ถอดบทเรยี น กรณศี กึ ษา One Home จังหวัดนครพนมและอาสาสมัครพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม (4) เพื่อจัดทำข้อเสนอ
เชิงนโยบายในระดับพื้นที่ จัดทำโดยการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมของกลุ่มจังหวัดตามรายงาน
สถานการณ์ทางสังคมในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชาการ 6 (สสว.6) ได้แก่ บึงกาฬ
นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี เพื่อกำหนดประเด็นการจัดทำร่างข้อเสนอ
เชิงนโยบายในระดับพื้นท่ี และการสืบค้นข้อมูลจากเอกสารและรายงานที่เกี่ยวข้องและ การถอดบทเรียน
กรณีศึกษา One Home จังหวัดนครพนมและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตำบลบ้านผึ้ง
อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม” เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ และปัญหา
อุปสรรคการพัฒนาคุณภาพชวี ิตผสู้ งู อายุในระดับพื้นที่ ซึ่งเปน็ พืน้ ทีท่ ่ีไดร้ ับการคดั เลือกเปน็ พ้ืนที่ต้นแบบปฏิบัติการ
พัฒนาสังคม (Social Lab: SL) สามารถสรปุ และขอ้ เสนอแนะ ดังนี้

จากการถอดบทเรียนการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ กรณีศึกษา
One Home จังหวัดนครพนมและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง
นครพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 15 คน สรุปได้ว่า การเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพต้องมีการเตรียมความพร้อม
ที่สำคัญใน 4 มิติ ได้แก่ 1) การเตรียมความพร้อมมิติสุขภาพ คือ มีความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
มีการออกกำลังกายที่เหมาะสม 2) การเตรียมความพร้อมมิติเศรษฐกิจ เป็นการเตรียมทรัพย์สินเงินทองของตน
สำหรบั ใช้ในวยั สูงอายุ ให้รสู้ ึกมั่นคงทางการเงินและมีอิสระและการพึ่งพาตนเองได้ ไดแ้ ก่ การวางแผนเร่อื งการเงิน
ร้จู กั ออม การจัดการหนี้การบรหิ ารค่าใช้จ่ายและต่อยอดให้ตนเอง 3) การเตรียมความพร้อมมิตสิ ภาพแวดล้อม คือ
การตระหนักรู้ให้ความสำคัญและมีแนวทางในการเตรียมการในด้านที่อยู่อาศัยที่มั่นคง แข็งแรง โดยสิ่งที่ควรรับรู้
ได้แก่ ลักษณะการอยู่อาศัย ที่ตั้งของที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมเป็นมิตรกับคนทุกวัย 4) การเตรียมความพร้อมมิติทาง
สงั คม คือ การได้รับการดูแลเอาใจใสด่ ว้ ยความรกั กำลงั ใจและแรงสนบั สนุนจากครอบครัว การให้ผู้สงู อายุมโี อกาส
ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและสังคมตามความถนัดและความสนใจและมีกิจกรรมงานอดิเรก และ
การสรา้ งความร้คู วามเข้าใจที่ถกู ตอ้ งตอ่ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน

การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุกลไกที่สำคัญในทุกระดับ ได้แก่ ครอบครัว ชุมชน จนถึงภาครัฐ
ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แบ่งระดับความพอเพียงออกเป็น 3 ระดับ คือ (1) เศรษฐกิจ
พอเพียงระดับท่ี 1 เป็นเศรษฐกจิ แบบพื้นฐานท่เี นน้ ความพอเพียงในระดับครอบครวั กลา่ วคือ เป็นระบบเศรษฐกิจ
ที่ครอบครัวสามารถพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงปัจจัยภายนอก
(2) เศรษฐกิจพอเพียงระดับที่ 2 เป็นเศรษฐกิจที่เน้นความพอเพียงในระดับองค์กรหรือกลุ่มของตนซึ่งเป็นการ
พฒั นามาจากขนั้ ทีห่ นงึ่ หลงั จากท่ใี นระดับครอบครวั มีความมัน่ คงแล้ว ในขนั้ นี้จะเป็นการรวมกล่มุ ขนาดเล็กเพ่ือทำ



กิจกรรม (3) เศรษฐกิจพอเพียงระดับที่ 3 เมื่อครอบครัวและกลุ่มมีรากฐานที่มั่นคงแล้ว เป้าหมายในขั้นนี้จึงเป็น
การสร้างเครือข่ายข้ึนมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการร่วมมือกับกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอื่น ๆ
ธนาคาร บริษทั เอกชนเพอื่ ร่วมมือกนั พัฒนาสนิ ค้าและการตลาด

จากบทสรุปดังกล่าวข้างต้น สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 จึงได้จัดทำข้อเสนอ
เชิงนโยบายด้านสังคมในระดับพ้ืนที่ เรื่อง “แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวคิดปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง” 3 ระดับ คือ 1) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่เน้นความพอเพียงในระดับ
ครอบครัว 2) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่เน้นความพอเพียงในระดับองค์กรหรือกลุ่ม
3) แนวทางการพฒั นาคุณภาพชีวติ ผสู้ งู อายทุ ีเ่ นน้ ความพอเพียงในระดบั เครอื ข่าย โดยสรุปไดด้ ังนี้

❖ ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย
1) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ผู้สงู อายุทเี่ นน้ ความพอเพียงในระดบั ครอบครวั
(1) ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุที่มี

สขุ ภาพดี อายยุ นื และผูด้ แู ลในครอบครวั ที่สามารถดูแลผ้สู งู อายไุ ดด้ ี
(2) ส่งเสริมการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุและความรู้คนในครอบครัวใน

การเป็นผู้ดแู ลผสู้ ูงอายุอยา่ งต่อเน่ือง
(3) ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสัมพันธ์ของคนในครอบครัวโดยนำหลักธรรมะและเศรษฐกิจ

พอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนนิ ชีวิต
(4) ส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารพิษไวบ้ ริโภคในครวั เรือน โดยนำนวัตกรรมด้านการเกษตร

ท่เี หมาะสมกบั วยั ผสู้ งู อายมุ าใช้
(5) สง่ เสริมกิจกรรมพฒั นาศกั ยภาพผสู้ ูงอายุใหเ้ ข้าถงึ เทคโนโลยีสารเทศอยา่ งถกู ต้อง

2) แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตผูส้ ูงอายุทเ่ี น้นความพอเพียงในระดับองค์กรหรือกลมุ่
(1) ควรมกี ารสง่ เสริมอาชีพพฒั นาผลติ ภัณฑ์ผูส้ งู อายทุ ม่ี ีตลาดรองรบั
(2) ควรส่งเสริมให้ชุมชนผลิตและมีตลาดอาหารปลอดภัย เพื่อเป็นแหล่งอาหารปลอดภัย

ให้กับผสู้ งู อายุและคนในชุมชน
(3) พัฒนาระบบ “บวร” หรอื บา้ น วัด โรงเรียน ในการทำกจิ กรรมดา้ นการเรียนรู้ ดา้ นการส่งเสริม

คุณธรรม จริยธรรมในสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากผู้สูงอายุ
(4) สง่ เสรมิ การรวมกลุม่ ประกอบอาชพี ตามความต้องการของตลาดแก่ผู้สงู อายใุ นชุมชน
(5) ส่งเสรมิ การเข้าถงึ กองทนุ สำหรบั ส่งเสริมอาชพี ให้ครอบคลุมกลุ่มผสู้ งู อายุ

3) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวติ ผสู้ ูงอายุทเ่ี นน้ ความพอเพยี งในระดับเครือขา่ ย
(1) พัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ที่สอดคล้องกับวัยและการเรียนรู้ของผู้สูงอายุ

โดยใหผ้ ู้สงู อายใุ นระดับพนื้ ท่ีมสี ่วนรว่ ม
(2) พัฒนาขยายกลุ่มจิตอาสาจากแกนนำเด็ก เยาวชน ผู้มีจิตอาสา ในการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มเติมใน

พน้ื ท่ี
(3 ) ส่งเสรมิ ใหม้ กี ารจัดต้งั ศูนย์สำหรบั ประสานงานและดำเนินกจิ กรรมด้านผ้สู ูงอายุอยา่ งต่อเน่ือง



1

บทที่ 1 บทนำ

1.1. ความเป็นมาและความสำคญั

จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของไทยที่เกิดข้ึนอย่างรวดเร็วในช่วง 3 - 4 ทศวรรษที่ผ่านมา
ทำให้ประเทศเขา้ สกู่ ารเปน็ สังคมผ้สู ูงอายุ จากรายงานสถานการณ์ผ้สู ูงอายุไทย พ.ศ.2559 (มูลนธิ ิสถาบันวิจัยและ
พัฒนาผู้สูงอายุไทย, 2559) ประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ” ตั้งแต่ปี 2548 จากการที่
ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนถึงร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด คาดว่า พ.ศ.2564 ประเทศไทยจะ
กลายเป็น “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) เมื่อประชากรสูงอายุสูงถึงร้อยละ 20 และ
ประมาณปี พ.ศ. 2574 จะเปน็ “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super - Aged Society) ” เม่อื ประชากรสูงอายุเพิ่ม
สงู ถงึ รอ้ ยละ 28 ของประชากรทง้ั หมด

เมื่อเข้าสู่วัยชราภาพ สภาพร่างกายและระบบการทำงานของระบบอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายจะเสื่อมถอย
ลงไปตามอายุที่มากขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุต้องพึ่งพาคนอื่นและต้องการได้รับความช่วยเหลือดูแลมากขึ้นแต่
ความก้าวหน้าทางการแพทย์ พยาบาลและสาธารณสุขก็พัฒนาไปมากทำให้อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อลด
น้อยลงมากขณะเดียวกันอัตราการรอดชีวิตก็เพิ่มมากขึ้นและผู้ปว่ ยก็มีชีวิตที่ยืนยาวต่อไปแต่ท้ังนี้ผู้ที่มีชีวิตยนื ยาว
มักจะมคี วามพิการตดิ ตัวมาด้วย นอกจากน้ี ผูส้ ูงอายุทีป่ ่วยด้วยโรคท่ีไม่ติดต่อแต่มเี ปน็ โรคเร้ือรัง เช่น โรคความดัน
โลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ฯลฯ มีจำนวนมากขึ้นที่สำคัญโรคเหล่านี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาดผู้ป่วยที่
ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุต้องอยู่กับโรคน้ีไปตลอดชีวิต สิ่งที่ทำได้ก็เพียงประคับประคองอาการและดูแลสุขภาพใหอ้ ยู่
กับโรคเหล่านี้ต่อไปได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดพี อสมควร ซึ่งผู้สูงอายุจำเป็นต้องอาศัยการดแู ลจากคนในครอบครวั
หรอื เปน็ ภาระพ่ึงพงิ จวบจนส้ินอายุขัย (ทีม่ า กรมกิจการผู้สงู อายุ บทความ : ปญั หาของผสู้ งู อายุมีอะไรบา้ ง)

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) เป็นแผนแม่บทการพัฒนาประเทศ ที่กำหนดกรอบและ
แนวทางการพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องทำตาม เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่ว่า “ประเทศ
ไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
หรือเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” มียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ
จำนวน 2 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
มีเป้าหมายการพัฒนาทีส่ ำคญั เพือ่ พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทย
มีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย (2) ยุทธศาสตร์ชาติ
ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญที่ให้ความสำคัญการดึงเอาพลัง
ของภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อนและการเตรียมความพร้อม
ของประชากรไทยทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคมและสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ สามารถ
พึ่งตนเองและทำประโยชน์แก่ครอบครัวชมุ ชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้หลักประกันการเข้าถึงบริการและ
สวสั ดกิ ารทม่ี ีคุณภาพอย่างเปน็ ธรรมและทวั่ ถงึ

2

ตามแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2565) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ.2563
ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุในช่วงพ.ศ.2545 – 2565 มีปรัชญากล่าวคือ ผู้สูงอายุ
ไม่ใช่ผู้ด้อยโอกาสหรือเป็นภาระตอ่ สังคม แต่สามารถมสี ว่ นร่วมเป็นพลังพฒั นาสังคม จึงควรได้รับการสง่ เสริมและ
เกื้อกูลจากครอบครัว ชุมชน และรัฐให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรีและคงไว้ซึ่งภาวะสุขภาพ
และความเปน็ อย่ทู ดี่ ีให้นานทีส่ ุด ดังนนั้ การเป็นผสู้ ูงอายทุ ม่ี ีคุณภาพชีวติ ที่ดี ครอบครวั ชุมชน สามารถเก้ือหนุนได้
อยา่ งมีประสิทธิภาพ และแนวทางนโยบายดา้ นการเตรยี มความพร้อมในการเข้าสูว่ ัยผู้สงู อายุ กระทรวงการพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีบทบาทการพัฒนาสังคมทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาสังคม
เพื่อใหป้ ระชาชนได้รับหลักประกนั ในชีวติ สามารถดำรงชวี ติ อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีรวมท้ังมีบทบาทในการผลักดันให้
เกิดการป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อมุ่งสู่สังคมคุณภาพ บนพื้นฐาน
ความรบั ผิดชอบรว่ มกนั

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 (สสว.6) ซึ่งเป็นราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค
สังกัด สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับผิดชอบ 7 จังหวัดในเขต ได้แก่ บึง
กาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี โดยทำหน้าทีพ่ ฒั นางานด้านวิชาการ
เกย่ี วกบั การพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษยใ์ หส้ อดคล้องกับบริบทของพ้ืนที่ และเช่อื มโยงประสานนโยบาย
ระหวา่ งหนว่ ยงานสว่ นกลางกบั สว่ นภูมิภาคในการแปลงนโยบาย ขอ้ มูลสารสนเทศ องคค์ วามรแู้ ละแผนต่าง ๆ ของ
กระทรวง ให้เกิดการบูรณาการการปฏิบัติงานของหน่วยงานในระดับพื้นที่ จึงได้จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้าน
สงั คมในระดับพื้นที่ เร่ือง “แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวติ ผู้สงู อายุตามแนวคดิ ระดับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ”
โดยการศึกษาสถานการณ์ผู้สูงอายุ นโยบายด้านผู้สูงอายุและองค์ความรู้จากงานวิจัย งานวิชาการที่เกี่ยวกับ
การพัฒนาคุณภาพชวี ิตผสู้ ูงอายุ ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และกรณศี ึกษา One Home จงั หวัดนครพนม
และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพม จังหวัดนครพนม” ที่มี
การดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ของจังหวัดนครพนม และเป็นพื้นที่ที่ได้รับการ
คัดเลือกเปน็ พืน้ ทีต่ ้นแบบปฏิบัติการพฒั นาสังคม (Social Lab: SL) เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการเขา้ สูว่ ัย
ผู้สงู อายแุ ละปญั หาอุปสรรคการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ผูส้ ูงอายใุ นระดบั พนื้ ที่

1.2 วัตถปุ ระสงค์

1) เพื่อศึกษาสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย สถานการณ์ผู้สูงอายุของกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ของสำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 6

2) เพื่อศึกษานโยบายด้านผู้สูงอายุและองค์ความรู้จากงานวิจัย งานวิชาการท่ีเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพ
ชวี ติ ผสู้ งู อายุ ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

3) เพื่อถอดบทเรียน กรณีศึกษา One Home จังหวัดนครพนมและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ตำบลบ้านผง้ึ อำเภอเมอื ง จงั หวัดนครพนม”

4) เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย เรื่อง “แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวคิดปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพยี ง”

3

1.3 ขอบเขตการศึกษา

❖ ขอบเขตด้านพ้ืนที่
การศึกษาการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ในพื้นที่ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม

จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นพื้นท่ีที่ได้รับการคัดเลือกเป็นพื้นที่ต้นแบบปฏิบัติการพัฒนาสังคม (Social Lab: SL)
เนอ่ื งจากมที ุนทางสงั คมท่เี ข้มแข็ง

❖ขอบเขตเนื้อหา
การศึกษาข้อเสนอเชิงนโยบาย เรื่อง “แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวคิดปรัชญา

เศรษฐกจิ พอเพียง” มีเนอ้ื หาการศกึ ษา ดังน้ี
1) แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตผสู้ งู อายุทเ่ี น้นความพอเพยี งในระดับครอบครัว
2) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ผู้สงู อายุทเี่ น้นความพอเพียงในระดับองคก์ รหรือกลุม่
3) แนวทางการพฒั นาคุณภาพชวี ิตผู้สูงอายุทเ่ี นน้ ความพอเพยี งในระดับเครือขา่ ย

❖ ขอบเขตประชากร
การสนทนากลุม่ (Focus Group Discussion) โดยผู้ปฏิบตั ิงานหรือผทู้ ี่มีส่วนเกยี่ วข้องกบั การดำเนินงาน

ด้านผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม ได้แก่ หน่วยงาน One Home พม.จังหวัดนครพนม คือ 1) สำนักงานพัฒนาสังคม
แลความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม 3) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่
พึ่งจังหวัดนครพนม 4) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม และอาสาสมัครพัฒนาสังคม
และความมัน่ คงของมนษุ ย์ (อพม.) ตำบลบา้ นผงึ้ อำเภอเมอื งนครพนม จังหวัดนครพนม รวมจำนวนทัง้ ส้นิ 15 คน

1.4 ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะไดร้ ับ

1) ทราบสถานการณ์ผู้สูงอายไุ ทย สถานการณ์ผู้สูงอายุของกลุ่มจังหวัดในเขตพืน้ ที่รับผิดชอบของ สสว.6
นโยบายดา้ นผู้สงู อายุ งานวจิ ัยที่เกยี่ วขอ้ งการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ผสู้ ูงอายุตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

2) ได้ข้อเสนอเชิงนโยบายในระดับพื้นท่ี เรื่อง “ แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวคิด
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง “

1.5 นิยามศพั ท์

❖ เศรษฐกจิ พอเพยี ง หมายถึง ระบบเศรษฐกจิ ทีเ่ น้นทางสายกลาง มีหลักการสำคญั ประกอบด้วย
3 หว่ ง คอื ความพอประมาณ มเี หตผุ ล มภี ูมิคมุ้ กนั และ 2 เงอื่ นไข คือ ความรู้และคุณค่า

❖ คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ หมายถึง การรับรู้และความพึงพอใจในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุท่ี
สามารถดำรงอยู่ ไดอ้ ย่างเหมาะสมท้ัง 4 ด้าน คอื ด้านสขุ ภาพ ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านสภาพแวดล้อม ดา้ นสังคม

❖ แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง
แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุใน 3 ระดับ คือ เศรษฐกิจพอเพียงระดับที่ 1 ได้แก่ ระดับครอบครัว
เศรษฐกจิ พอเพียงระดบั ท่ี 2 ได้แก่ ระดบั องคก์ รหรอื กลุม่ เศรษฐกจิ พอเพียงระดบั ที่ 3 ไดแ้ ก่ ระดับเครอื ขา่ ย

4

บทท่ี 2 แนวคิดและทฤษฎีที่เกยี่ วขอ้ ง

2.1 สถานการณ์ผู้สงู อายไุ ทย

จากข้อมูลกรมกิจการผู้สูงอายุ สถิติผู้สูงอายุไทยปี 2565 พบว่า ประชากรทั้งประเทศ ปี 2565 มีจำนวน
66,165,261 ล้านคน มีจำนวนผู้สูงอายุ ปี 2565 12,116,199 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 18.3 ของประชากรท้ัง
ประเทศ โดยผู้สูงอายุสามารถแบ่งตามช่วงอายุออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงอายุ 60-69 ปี มีจำนวนมากที่สุด จำนวน
6,843,300 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 56.5 ช่วงอายุ 70-79 ปี มีจำนวน 3,522,778 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 29.1
ช่วงอายุ 80 ปขี ้ึนไป มจี ำนวน 1,750,121 ล้านคน คิดเป็นรอ้ ยละ 14.4 ดังแผนภาพท่ี 1

แผนภาพท่ี 1 แสดงสถิติผสู้ ูงอายุ สญั ชาติไทย และมีช่ืออยู่ในทะเบยี นบ้าน ปี 2565

ทม่ี า กรมกิจการผ้สู งู อายุ สืบค้นข้อมูล ณ วนั ท่ี 15 มนี าคม 2565
https://www.dop.go.th/th/know/side/1/1/1159
ปัจจุบันประชากรไทยกำลังเพิ่มช้าลงอย่างต่อเนื่องและในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้าอัตราการเพิ่ม
ประชากรไทยจะยิ่งช้าลงจนถึงขั้นติดลบ แต่ในขณะเดียวกันประชากรสูงอายุกลับจะเพิ่มขึ้นด้วยอัตราที่สูงมาก
ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3.5 ต่อปี และประชากรสูงอายุวัยปลาย 80 ปี ขึ้นไปจะเพิ่มขึ้น
โดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 7.1 ต่อปี โดยอีก 20 ปีข้างหน้าคาดการณ์ว่าผู้สูงอายุวัยปลาย 80 ปีขึ้นไปจะมีจำนวน
มากถงึ 3.4 ล้านคน โดยคิดเปน็ รอ้ ยละ 5.2 ของประชากรท้ังหมด “ประชากรร่นุ เกดิ ลา้ นกำลงั จะเปน็ ผูส้ ูงอายุ” ใน
แต่ละปีจำนวนเกิดจะมากกว่าจำนวนตาย ในปี 2508 จำนวนเกิดมากกว่าจำนวนตายถึง 4 เท่า แต่ความแตกต่าง
ระหวา่ งจำนวนเกิดและตายเริม่ ลดนอ้ ยลงเร่ือย ๆ ในช่วง 30 ปที ี่ผ่านมา

5

ประชากรรุ่นเกิดล้าน ที่เกิดระหว่างปี 2506 -2526 กำลังจะกลายเป็นผู้สูงอายุ คนที่เกิดปี 2506 จำนวน
เกินล้านคนเป็นปีแรก กำลังจะกลายเป็นผู้สูงอายุในปี 2566 ภาพสะท้อนของประชากรสูงอายุไทยในอีก 20 ปี
ข้างหน้าหรือในปี 2583 ประชากรไทยจะมีจำนวนลดลงจาก 66.5 ล้านคน เหลือ 65.4 ล้านคน ประชากรเยาว์วยั
(0-14ปี) จะมีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 16.9 เหลือร้อยละ 12.8 ประชากรวัยแรงงาน ลดลงจากร้อยละ 65
เหลือร้อยละ 55.8 อัตราผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 18.1 ในปี 2563 เป็นร้อยละ 31.4 ในปี 2583 จำนวน
ผูส้ ูงอายุจะเพิ่มข้นึ เกอื บเท่าตวั จาก 12 ลา้ นคน เป็น 20.5 ล้านคน (ที่มา รายงานสถานการณ์ผู้สงู อายไุ ทย ชี้ตวั เลข
เกิด-ตายต่ำ วัยแรงงานลดแต่อัตราผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น : มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.)
https://thaitgri.org/?p=39784)

จากข้อมูลของ United Nations World Population Ageing กล่าวว่า ประชากรที่อยู่ในวัยพึ่งพิง
ที่ไม่สามารถใช้แรงงานตนเองเพื่อสร้างรายได้เลี้ยงตัว ซึ่งก็คือเด็กและผู้สูงอายุ มีจำนวนมากกว่าประชากรในวัย
แรงงานไปเรยี บรอ้ ยแลว้ ซึ่งแบ่งได้ 2 ลกั ษณะ คือ

สงั คมผสู้ งู อายุ (Aging Society) จะเปน็ สงั คมที่มีประชากรอายุ 60 ปี ข้นึ ไปที่อยู่จริงในพ้ืนท่ีต่อประชากร
ทุกช่วงอายุในพื้นที่เดียวกัน และมีอัตราเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 10 ขึ้นไป หรือมีประชากรอายุ 65 ปี ขึ้นไป
ท่ีอยู่จริงในพน้ื ท่ตี อ่ ประชากรทุกชว่ งอายุในพ้ืนที่เดียวกนั อตั ราเทา่ กบั หรือมากกว่ารอ้ ยละ 7 ขึน้ ไป

สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) จะเป็นสังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไปที่อยู่จริงในพื้นที่
ต่อประชากรทุกช่วงอายุในพื้นท่ีเดียวกัน และมีอัตราเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 20 ขึ้นไป หรือมีประชากรอายุ
65 ปี ขึ้นไปท่อี ยจู่ รงิ ในพน้ื ท่ตี อ่ ประชากรทุกช่วงอายุในพืน้ ท่เี ดยี วกนั มอี ัตราเท่ากับหรอื มากกว่ารอ้ ยละ 14 ขน้ึ ไป

จึงเป็นเหตุผลที่คนไทยจะต้องตระหนักและรับรู้เกี่ยวกับสภาพการณ์นี้ เนื่องจากสังคมไทยกำลังจะเข้า
สังคมผู้สูงอายุในปี 2568 หรืออีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้าแล้ว ตามสถิติต่าง ๆ จะเป็นไปได้ที่เราคนไทยจะต้อง
เตรียมการรบั มือในสถานการณ์ดังตอ่ ไปน้ีอย่างเรง่ ด่วน

สัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึน้ อย่างรวดเร็ว : ตอนนี้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศทีม่ ีผู้สงู อายุเพิ่มขึ้นอยา่ ง
รวดเรว็ เป็นอันดบั 3 ของโลก อันดบั 2 รองจากสงิ คโปร์ ใน ASEAN และอกี ไม่ถึง 15 ปขี ้างหน้าไทยจะแซงสงิ คโปร์
เกิดโรคสุดฮิตในผู้สูงอายุ : จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2554 ได้ระบุว่า ทุกๆ 4 นาที จะมี
คนไทยที่เสียชีวิตจากมะเร็ง อยู่ 1 คน , ทุกๆ 6 นาที จะมีคนไทยที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจ อยู่ 1 คน และทุก ๆ
6 นาที จะมีคนไทยที่เสียชีวิตจากโรคเส้นเลือดในสมองแตก อยู่ 1 คน และคนที่มีอายุมากกว่า 90 ปี จะมีโอกาส
การเกดิ อัลไซเมอร์ถึง 30% โดยโอกาสการเกิดอัลไซเมอร์ของผหู้ ญงิ จะมีมากกว่าผู้ชายถึง 2 เทา่ (ทม่ี า กรมกิจการ
ผสู้ ูงอายุ กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์, “สงั คมผสู้ ูงอายุในปจั จุบนั และเศรษฐกิจในประเทศ
ไทย,” แกไ้ ขครง้ั ล่าสดุ 2564, ,กรมกิจการผสู้ ูงอายุ) https://www.dop.go.th/th/know/15/926)

สรุป จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว การเตรียมความพร้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องเข้ามา
ทำงานร่วมกัน มีการวางแผนด้านการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งประชาชนในชุมชนและ
ครอบครัวก็มีความสำคัญในการเตรียมความพร้อม การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เพื่อให้ก้าวสู่วัยผู้สูงอายุ
ท่แี ขง็ แรง มคี ุณภาพชีวิตทด่ี ี

6

2.2 สถานการณผ์ ู้สูงอายุกลมุ่ จงั หวัด

แผนภาพท่ี 2 แสดงสถิตผิ สู้ งู อายุ สัญชาตไิ ทย
และมีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้าน ปี 2565 ของกลุ่มจังหวัดในเขตพน้ื ท่ีรบั ผดิ ชอบ สสว.6

จากแผนภาพท่ี 2 จากระบบสถติ ิทางทะเบียน กรมการปกครอง สถติ ิผู้สงู อายุของกลุ่มจังหวัดในเขตพ้ืนท่ี
รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ปี 2565 พบว่า ประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด
ปี 2565 มีจำนวน 5,857,244 คน แบ่งออกเป็นชายจำนวน 2,915,163 คน หญิง 2,942,081 คน มีจำนวน
ผู้สูงอายุ ปี 2565 มีจำนวน 954,776 คน คิดเป็นร้อยละ 16.30 ของประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด โดยจำนวน
ผู้สูงอายุแบ่งตามช่วงอายุ 3 ช่วง คือ ช่วงอายุ 60-69 ปี มีจำนวนมากที่สุด จำนวน 550,095 คน คิดเป็นร้อยละ
57.62 ช่วงอายุ 70-79 ปี มีจำนวน 286,989 คน คิดเป็นร้อยละ 30.06 ช่วงอายุ 80 ปี ขึ้นไป มีจำนวน 117,653 คน
คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.32

7

2.3 แนวคดิ ทฤษฎที ีเ่ กยี่ วขอ้ งกับผสู้ งู อายุ

❖ ความหมายผสู้ ูงอายุ
ตามพระราชบญั ญัติผสู้ งู อายุ พ.ศ.2546 และที่แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ฉบบั ที่ 2 พ.ศ.2553 มาตรา 3 ได้ให้

นยิ ามผู้สงู อายุ หมายถงึ บุคคลซ่ึงมีอายุเกินหกสิบปบี ริบรู ณ์ข้ึนไป และมีสัญชาติไทย
❖ การเปลย่ี นแปลงวัยผู้สูงอายุ
การเปลี่ยนแปลงวัยในผู้สงู อายุ ไดม้ ีผู้ศกึ ษาและอธิบายถงึ สภาพของการเปลี่ยนแปลงวัยผูส้ งู อายุท่ี

มีผลจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเสื่อมโทรม
ของร่างกายผู้สูงอายุ (ท่ีมา: http://trat.nfe.go.th/trat/topic5_Old.php?page=10) มผี ลจากการเปลี่ยนแปลง
3 ประการใหญ่ ได้แก่

1) การเปลีย่ นแปลงทางร่างกาย จำแนกออกตามระบบของร่างกายได้ ดงั น้ี
(1) ระบบผิวหนัง ผิวหนังบางลงเพราะเซลลผ์ ิวหนังมีจำนวนลดลง เซลล์ที่เหลอื เจรญิ ชา้

ลง อตั ราการสร้างเซลลใ์ หม่ลดลง
(2) ระบบประสาทและระบบสัมผัส เซลล์สมองและเซลล์ประสาทมีจำนวนลดลง

ระบบกลา้ มเนื้อและกระดกู จำนวนและขนาดเสน้ ใยของเซลลก์ ลา้ มเนื้อลดลง มีเนื้อเยื่อผงั ผดื เขา้ มาแทนที่มากข้ึน
(3) ระบบไหลเวยี นโลหิต หลอดลม ปอดมขี นาดใหญ่ขนึ้ ความยืดหยนุ่ ของเนื้อปอดลดลง
(4) ระบบทางเดินอาหาร ฟังของผ้สู ูงอายุไม่แข็งแรง เคลอื บฟันเริม่ บางลง เซลลส์ รา้ งฟัน

ลดลง ฟันผุง่ายขึ้น ผู้สูงอายุไม่ค่อยมีฟันเหลือต้องใส่ฟันปลอม ทำให้การเคี้ยวอาหารไม่สะดวกต้องรับประทาน
อาหารอ่อนและย่อยงา่ ย

(5) ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ ผสู้ ูงอายมุ ีขนาดของไตลดลง การไหลเวียน
โลหติ ไตลดลง ในเพศชายตอ่ มลกู หมากโตขึน้ ทำใหป้ สั สาวะลำบากตอ้ งถา่ ยบ่อย ลกู อัณฑะเห่ียวลดลงและผลิตเช้ือ
อสจุ ไิ ด้น้อยลง ส่วนในเพศหญิงรังไขจ่ ะฝ่อเล็กลง ปกี มดลกู เหี่ยว มดลูกมีขนาดเลก็ ลง

(6) ระบบตอ่ มไรท้ ่อ ตอ่ มใตส้ มองจะมีการเปลี่ยนแปลงรปู รา่ งและทำงานลดลง ผสู้ งู อายุ
จะเกดิ อาการออ่ นเพลยี เบ่อื อาหารและน้ำหนกั ลดลง

2) การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์จะมีความสัมพันธ์
กบั การเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย และการเปล่ยี นแปลงทางสงั คม เนือ่ งจากความเส่ือมของอวยั วะต่างๆ ของรา่ งกาย
การสูญเสยี บคุ คลใกล้ชิด การแยกไปของสมาชิกในครอบครวั และการหยุดจากงานที่ทำอยูเ่ ป็นประจำเป็นปัจจัยที่มี
อิทธพิ ลตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางจติ ใจ

3) การเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเปลี่ยนแปลงทางสังคมนั้นเป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุจะต้องประสบ
เพราะการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจและการเมือง แต่ภาระหน้าที่และบทบาทของผู้สูงอายุกลับ
ลดลงเนอ่ื งจากมขี ้อจำกดั ทางรา่ งกาย ทำให้ความคล่องตัวในการคิด การกระทำ การส่ือสาร สัมพันธภาพทางสงั คม
มีขอบเขตจำกัด ความห่างเหินจากสังคมมีมากขึ้น ความมีเหตุผลและการคิดเป็นไปในทางลบเพราะสังคมมักจะ
ประเมนิ ว่าความสามารถในการปฏิบตั ลิ ดลง ถงึ แม้จะมผี สู้ งู อายุบางคนแสดงให้เห็นว่าความมีอายุมิได้เป็นอุปสรรค
ตอ่ การดำเนินบทบาทและหนา้ ทีท่ างสงั คมก็ตาม

8

การเปล่ยี นแปลงในวยั ผ้สู ูงอายุขา้ งต้น สามารถสรปุ ไดว้ า่ การเปลย่ี นแปลงในวัยผ้สู งู อายุแบ่งเป็น
3 ด้าน คือ การเปลี่ยนแปลงทางด้านรา่ งกาย และการเปลี่ยนแปลงงทางด้านจิตใจและสังคม ซึ่งการเปลี่ยนแปลง
ทางด้านร่างกายเป็นสิ่งที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและสังคมเป็นการ
เปลยี่ นแปลงที่มีผลสบื เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านรา่ งกาย โดยการเปล่ียนแปลงทางด้านจิตใจและสังคม
ที่อย่ภู ายในรา่ งกายไม่สามารถมองเหน็ ได้จากภายนอก แตเ่ ก่ียวกับความรสู ึกนกึ คิด

❖ การจำแนกกล่มุ ผูส้ ูงอายุ
การแบ่งกลุ่มผู้สูงอายุนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะทางกายภาพ ทางสังคม

ทางเศรษฐกิจของผูส้ งู อายุ เช่น การแบ่งตามสภาพร่างกาย การประกอบอาชีพ การดำรงชวี ิต ความต้องการความ
ชว่ ยเหลือ และชว่ งอายุ ซึง่ สามารถอธิบายดงั รายละเอยี ดต่อไปน้ี

1) การแบ่งตามสภาพสุขภาพร่างกาย เกณฑ์ในการแบ่งกลุ่มผุส้ ูงอายุลักษณะนี้ คือ การแบ่งตาม
ลักษณะสุขภาพร่างกาย และความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน (เกรียงศักดิ์ ชื่อเลื่อม,2545 วิรัตน์ คำศรี
จันทร์ และคณะ,2550:110-111 สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ,2552, 4-5) สามารถ
จำแนกออกเปน็ 3 กลุ่มไดแ้ ก่

(1) ผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มาก (ติดสังคมหรือพึ่งตนเองได้) หมายถึง
ผู้สงู อายุทีส่ ุขภาพรา่ งกายสมบรู ณ์แข็งแรงดี แมม้ โี รคประจำตัวแต่กส็ ามารถควบคุมได้ เดนิ ไปเดินมาคลอ่ ง สามารถ
ประกอบกิจวัตรประจำวัน รับประทานอาหาร ขับถ่าย อาบน้ำ แต่งตัว และทำกิจกรรมในโอกาสต่างๆ ได้ด้วย
ตนเอง หรืออาจเรียกได้วา่ สามารถช่วยเหลอื ตนเอง ผอู้ ่นื สงั คม และชมุ ชนได้

(2) ผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ปานกลาง (ติดบ้านหรือพึ่งตนเองได้บ้าง)
หมายถึง ผู้สูงอายุที่ปัญหาสุขภาพร่างกาย มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง อาจพิการทุพพลภาพบางส่วน เช่น โรคหัวใจ
โรคความดันโลหิตสูง ปวดข้อ ปวดเข่า แต่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันและทำกิจกรรมในโอกาสต่าง ๆ ได้
ด้วยตนเองในบางครั้ง เช่น อาบน้ำ ขับถ่าย โดยอาจจะต้องอาศัยความชว่ ยเหลอื และดูแลจากสมาชิกในครอบครัว
บุตรหลาน ญาติพีน่ อ้ งหรอื บุคคลอืน่ บา้ ง

(3) ผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้น้อย (ติดเตียงหรือพึ่งตนเองไม่ได้) หมายถึง
ผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพร่างกาย มีอาการเจ็บป่วย โรคประจำตัว พิการ ทุพพลภาพ เดินไปมาไม่ได้ และไม่
สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันและทำกิจกรรมในโอกาสต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง เช่น รับประทานอาหาร ขับถ่าย
อาบน้ำและแต่งตัว เป็นต้น ต้องอาศัยความช่วยเหลือและดูแลสุขภาพอย่างตอ่ เนื่องจากสมาชิกในครอบครวั บุตร
หลาน ญาติพ่นี อ้ งหรอื บุคคลอืน่

2) การแบ่งตามสภาพทางเศรษฐกิจหรือการประกอบอาชีพสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม
คอื (รงุ่ โรจน์ พุ่มรวิ้ ,2545:24,31)

(1) กลุ่มผู้สูงอายุที่ร่างกายแข็งแรงและยังประกอบอาชีพอยู่ซึ่งอาจเป็นอาชีพเดิมหรือ
อาชพี ใหมท่ เี ปลีย่ นแปลงใหเ้ หมาะสมกบั สภาพของผู้สูงอายุ

(2) กลุ่มผู้สูงอายุที่ร่างกายแข็งแรง แต่ไม่ได้ประกอบอาชีพ เนื่องจากต้องการพักผ่อน
หรือไม่ก็มอบหมายให้บุคคลอื่นทำแทน อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุในกลุ่มนี้บางคนอาจช่วยทำงานบ้าน เพื่อช่วยแบ่ง
เบาภาระใหแ้ ก่บตุ รหลาน

9

(3) กลมุ่ ผ้สู งู อายทุ ม่ี ปี ัญหาสขุ ภาพ ไม่สามารถประกอบอาชพี ได้
หรือถ้าพิจารณาตามสภาพเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องรายได้และรายจ่ายของผู้สูงอายุอาจแบ่งออกได้
เป็น 3 กลมุ่ คอื

- กลุ่มท่ีมีรายไดเ้ พยี งพอสำหรบั ใชจ้ ่าย และเหลอื เกบ็
- กลุ่มท่ีมีรายได้เพียงพอกบั รายจา่ ย แต่ไมเ่ หลือเกบ็
- กลมุ่ ที่มรี ายได้ไม่เพยี งพอกับรายจ่ายและต้องเปน็ หนิส้ ิน
3) การแบ่งตามชว่ งวยั (วรชยั ทองไทย,2549; 89 ) แบง่ ผู้สงู อายุออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
(1) ผูส้ งู อายุวยั ตน้ (อายุ 60-69 ปี )
(2) ผู้สูงอายวุ ัยกลาง (อายุระหว่าง 70-79 ป)ี
(3) ผู้สงู อายวุ ัยปลาย (อายรุ ะหวา่ ง 80 ปีข้ึนไป)
❖ ความตอ้ งการของผู้สูงอายุ
ในภาพรวม จะพบว่าปัญหาของผู้สูงอายุนั้น มีความแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มผู้สูงอายุ
นอกจากนีย้ งั สะท้อนถึงการดำเนินงานด้านผสู้ ูงอายวุ ่ามีความตระหนักถึงความสำคัญของผสู้ ูงอายุมากน้อยเพียงใด
ดังน้นั จึงตอ้ งคำนงึ ถึงความต้องการของผสู้ ูงอายุเป็นพ้ืนฐานสำคัญ โดยความต้องการของผู้สงู อายุตามแนวคิดของ
สุพัตรา ศรีวณิชชากร และคณะ (2556) ได้อธิบายถึง “ความต้องการ” ว่าหมายถึง ความรู้สึกต้องการในส่ิง
ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตไม่ว่าจะเป็นการดูแลในชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจ ที่อยู่อาศัย ข้อมูลข่าวสารและสิ่งของ
จำเปน็ ในการดำรงชวี ิต ทั้งนี้ ผู้สงู อายุจะมคี วามตอ้ งการท่สี อดคล้องกับปัญหาต่างๆทีเ่ กิดข้นึ ได้แก่
(1) ความต้องการด้านร่างกาย คือมีสุขภาพแข็งแรง ทำกิจวัตรประจำวันต่างๆได้ด้วยตนเองและ
ได้รบั การชว่ ยเหลอื ยามเจบ็ ป่วย
(2) ความตอ้ งการด้านครอบครวั คอื ลกู หลานรกั ดแู ลเอาใจใส่ให้ความใกล้ชดิ ยกย่อง นับถอื
(3) ความต้องการด้านเศรษฐกจิ คือ มีเงินใชจ้ ่ายเพยี งพอ พง่ึ ตนเองได้
(4) ความต้องการดา้ นสงั คม คือ มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมด้านสงั คม พบปะพูดคยุ กับเพื่อน และ
ไดร้ บั การยอมรับจากสงั คม
(5) ความต้องการดา้ นจติ ใจ คือ มเี งนิ ใช้ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไดร้ ับความรักความเอาใจใส่
จากครอบครวั และสงั คม
(6) ความต้องการดา้ นสวสั ดิการตา่ งๆที่จำเปน็ เชน่ คา่ รกั ษาพยาบาล คา่ เดินทาง บ้านพกั ฉกุ เฉนิ เปน็ ตน้
❖ ทฤษฎที างสังคมวทิ ยา
(ภาณุ อดกลั้น ,2551 อ้างถึงในสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว, 2551: 47-49)
ทฤษฎีทางสังคมเป็นทฤษฎีที่กล่าวถึงแนวโน้มสัมพันธภาพและการปรับตัวในสังคมของผู้สูงอายุซึ่งพยายาม
วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุต้องมีการเปลี่ยนแปลงสถานภาพทางสังคมไป และพยายามที่จะช่วยให้ผู้สูงอายมุ ี
การดำรงชวี ิตอยู่ในสังคมได้อยา่ งมคี วามสุข มีแนวคิดที่นา่ สนใจ ไดแ้ ก่ ทฤษฎกี จิ กรรม (Activity Theory)
ทฤษฎกี ิจกรรมเป็นอีกทฤษฎีหนึ่งที่ทำให้มองเห็นภาพทางสังคมของผู้สูงอายุได้มากย่ิงขึ้น ทฤษฎี
กิจกรรมนี้พฒั นาขึ้นมาจากการวเิ คราะห์ของ Robert Havighurst (1963-1968) ผลสรุปของทฤษฎีกิจกรรมแสดง

10

ใหเ้ ห็นวา่ ผู้สูงอายทุ ีม่ ีกจิ กรรมปฏบิ ัติอยเู่ สมอ ๆ มบี ุคลิกท่ีกระฉับกระเฉง และการมีภารกจิ อยา่ งสม่ำเสมอจะทำให้
มีความพงึ พอใจในชวี ติ และปรับตัวไดด้ กี ว่าผู้สงู อายทุ ป่ี ราศจากกจิ กรรมหรือบทบาทภารกิจหนา้ ที่ใด ๆ

นอกจากนี้ Lemon, Bengton และ Peterson (1972) ศึกษารายงานว่า ทฤษฎีกิจกรรมยืนยัน
ว่าผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรมเป็นเพราะมีภาพพจน์เกี่ยวกับตนเอง (Self-image) ด้านบวกและชอบในการเข้า
ร่วมกิจกรรมและต้องการจะคงลักษณะนิสัยนี้ไว้เหมือนเมื่ออยู่วัยกลางคนให้มากที่สุด นอกจากนี้ การเข้าร่วม
กิจกรรมของผู้สูงอายุยังเป็นการทดแทนบทบาทที่เสียไปจากการที่ต้องเป็นหม้ายและการเกษียณอายุจากการ
ปฏิบัตงิ าน

ทฤษฎีกิจกรรมเชื่อว่ากิจกรรมทางสังคมเป็นแก่นแท้ของชีวิตและจำเป็นสำหรับทุกวัย กิจกรรม
เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งนี้เนื่องจากการมีบทบาทที่ดีทางสังคม (Social Well-being) ของผู้สูงอายุขึ้นอยู่
กับความคล่องแคล่วที่ยังคงอยู่ ทัศนะเกี่ยวกับตนเอง (Self-Conception) และเกี่ยวกับโลกซึ่งจะเป็นทัศนะท่ี
ถูกต้องเพียงไรนั้น เป็นผลมาจากการสังสรรค์และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ทฤษฎียืนยันว่า ผู้สูงอายุท่ี
สามารถดำรงกิจกรรมทางสังคมไว้ได้จะเป็นผู้มีความพึงพอใจในชีวิตสูง มีภาพพจน์เกี่ยวกับตนเองในด้านบวก
กล่าวโดยสรุป ทฤษฎีกิจกรรมเป็นทฤษฎีที่เชื่อว่าผู้สูงอายุมีชีวิตที่เป็นสุขได้นั้น ควรมีบทบาทหรือกิจกรรมทาง
สังคมตามสมควร เช่น การมีงานอดิเรกทำหรอื การเปน็ สมาชิกกลุ่มกิจกรรม สมาคม ชมรม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี
ทฤษฎีกิจกรรมก็ไม่ได้อธิบายถึงเหตุผลที่แน่ชัดในการที่จะได้คำตอบว่า ถ้าผู้สูงอายุเหล่านั้นไม่ได้มีกิจกรรมแล้ว
อะไรจะเกดิ ข้ึน ท้ังน้ี เพราะบุคลกิ ภาพของผู้สงู อายุอาจปฏิบัตมิ ากแต่ไม่มีความสุข นอกจากน้นั ข้อจำกดั ของทฤษฎี
กิจกรรมที่ไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนไว้กล่าวคือ ผู้สูงอายุหลาย ๆ คนที่อายุในวัยกลางคนมีกิจกรรมภารกิจ
ปฏบิ ตั มิ าวางมือในสงั คมต่าง ๆ หันไปหาความสขุ อย่างเรยี บ ๆ งา่ ยๆ ปลีกตัวออกจากสงั คมต่าง ๆ หรือลดบทบาท
ทางสังคมลง นักทฤษฎีกิจกรรมเชื่อว่า ผู้สูงอายุทั่วไปพยายามรักษากิจกรรมและทัศนะของวัยกลางคนไว้ให้นาน
ที่สุด บทบาทหรือกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่บคุ คลถูกผลักดันให้เลกิ กระทำจะตอ้ งมากิจกรรมใหม่ข้ึนทดแทน ทฤษฎีนี้
ทำนายว่า บุคคลที่สามารถดำรงกิจกรรมทางสังคมไว้ได้ จะเป็นผู้ที่มีความพึงพอใจในชีวิตสูง มีภาพพจน์เกี่ยวกับ
ตนเองดี (Self-image) และมีการบูรณาการรวมหน่วยของสังคม (Social Integration) บุคคลเหล่านี้จะเป็นคน
สูงอายุที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และเชื่อว่าผู้สูงอายุจะมีความสุขทั้งทางร่างกายและจิตใจ ช่วงที่ได้จากการมี
กิจกรรมและการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่า งมีความสุขและมีความรู้สึก
วา่ ตนเป็นประโยชน์

2.4 แนวคดิ เกีย่ วกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง

“เศรษฐกิจพอเพียง” เปน็ ปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รชั กาลท่ี 9 พระราชทานพระราชดำริ
ชี้แนะแนวทาง การดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตการณ์
ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อใหร้ อดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง
และย่ังยืนภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั น์และความเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ

11

❖ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่

ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง
โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ
ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจาก
การเปล่ยี นแปลงทงั้ ภายในภายนอก ทง้ั น้ี จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวงั อย่างย่ิงใน
การนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้าง
พืน้ ฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจา้ หนา้ ท่ีของรัฐ นกั ทฤษฎี และนักธรุ กจิ ในทุกระดับ ให้มสี ำนึกในคุณธรรม
ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และ
ความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ
สังคม สิ่งแว ดล้อม และว ัฒนธ รรมจากโ ลกภ ายนอกได้เป็นอย่างดี (ที่มา :มูลนิธ ิช ัยพัฒน า
https://www.chaipat.or.th/)

บุษยา ฤกษ์มั่น (2556, น.9-14) ได้อธิบายว่า ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประกอบด้วยกรอบ
แนวคิด “3 ห่วง 2 เงื่อนไข” คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และเง่ื อนไข
ความรู้และเง่อื นไขคุณธรรม

(1) ความพอประมาณ คือความพอดี ไม่มากเกนิ ไป และไม่น้อยเกินไป และความพอประมาณ
ดงั กล่าวตอ้ งไม่เบียดเบยี นตนเองและผู้อน่ื ให้ไดร้ ับความเดอื ดร้อน

(2) ความมีเหตุผล คือการใช้เหตผุ ลในการตัดสนิ ใจกระทำการต่าง ๆ วา่ ควรทำหรือไมค่ วรทำการ
ตัดสินใจดงั กล่าวจะต้องพิจารณาถึงเหตุปจั จยั ท่ีเกีย่ วข้องและประเมินผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดข้ึนอย่างละเอียดและ
รอบคอบด้วย

(3) การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี เป็นการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะ
เกิดขึ้นในอนาคต และเตรยี มความพรอ้ มทจ่ี ะรับมอื กับการเปลย่ี นแปลงบนฐานของความไม่ประมาทอยู่ตลอดเวลา

(4) เง่ือนไขความรู้ เปน็ การศึกษาแสวงหาความรูด้ ว้ ยความรอบคอบระมัดระวังอยตู่ ลอดเวลาและ
สามารถนำความรูน้ นั้ มาประยุกตใ์ ชใ้ นการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม

(5) เงื่อนไขคณุ ธรรม เป็นการดำเนินชีวิตโดยตระหนักถึงคุณธรรม เช่น มีความซือ่ สตั ย์สุจรติ ไม่
เอารดั เอาเปรยี บคนอื่น มีความขยันอดทน มคี วามพากเพียร เปน็ ตน้

❖ คุณภาพชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง กระบวนการพัฒนาคนให้มีความ
พอประมาณ มีเหตุผลและมีภูมิคุ้มกันเพื่อให้สามารถจัดการทรัพยากรในการดำรงชีวิตได้ตามลำดับการพี่งพา
ตนเอง พี่งพากันในชุมชนและพึ่งพาเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่วิธีและเป้าหมายของความพอประมาณ
ความสมดุลและความยงั่ ยนื ของการใช้ทรัพยากรที่พอเพียงแก่การดำรงชีวติ อยู่อย่างมสี ุขภาพกาย สุขภาพจิตดีและ
มคี วามพงึ พอใจในชวี ิต (อจั ฉรา นวจินดา, 2549 หนา้ 388)

12

❖ ระดบั ของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
พพิ ัฒน์ ยอดพฤตกิ าร (2550. น. 83–91) ได้แบง่ ระดับของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งออกเปน็

3 ระดับ ดังนี้
(1) เศรษฐกจิ พอเพยี งระดับที่ 1 เปน็ เศรษฐกจิ แบบพื้นฐานที่เน้นความพอเพยี งในระดับครอบครัว

กล่าวคือเป็นระบบเศรษฐกิจที่ครอบครัวสามารถพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขโดยไม่
จำเปน็ ตอ้ งพึง่ พงิ ปัจจยั ภายนอก

(2) เศรษฐกิจพอเพียงระดับที่ 2 เป็นเศรษฐกิจที่เน้นความพอเพียงในระดับองค์กรหรือกลุ่ม
ของตนซึ่งเป็นการพัฒนามาจากขั้นที่หนึ่งหลังจากที่ในระดับครอบครัวมีความมั่นคงแล้ว ในขั้นนี้จะเป็นการ
รวมกลุ่มขนาดเล็กเพื่อทำกิจกรรมบางอยา่ ง เชน่ ผู้หญงิ ในหมู่บ้านรวมกลุ่มกันตง้ั กลุ่มสตรภี ายในหมู่บ้านเพ่ือทอผ้า
จำหนา่ ย เป็นต้น

(3) เศรษฐกิจพอเพียงระดับที่ 3 เมื่อครอบครัวและกลุ่มมีรากฐานที่มั่นคงแล้ว เป้าหมายในขั้นน้ี
จึงเป็นการสร้างเครือข่ายขึ้นมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการร่วมมือกับกลุม่ ตา่ ง ๆ เช่น กลุ่มวิสาหกจิ ชุมชนอื่น ๆ
ธนาคาร บริษัทเอกชนเพื่อร่วมมือกันพัฒนาสนิ ค้าและการตลาด

2.5 ยุทธศาสตร์และแผนแมบ่ ททเี่ ก่ียวข้อง

2.5.1 ยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี (พ.ศ.2561-พ.ศ.2580)

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 เป็นแผนการพัฒนาประเทศ ที่กำหนดกรอบและ
แนวทางการพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องทำตาม เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่ว่า
“ประเทศไทย มคี วามม่นั คง มง่ั คงั่ ย่ังยนื เปน็ ประเทศท่ีพัฒนาแลว้ ด้วยการพฒั นาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง” หรือเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อสนองตอบต่อผลประโยชน์แห่งชาติ
โดยที่รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 กำหนดให้รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมาย
การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่างๆให้สอดคล้องและ
บูรณาการกัน เพื่อให้เกิดพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)
เป็นยุทธศาสตร์ชาติฉบับแรกของประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะต้องนำไปสู่การปฏิบัติ
เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการ
พฒั นาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง” เพือ่ ความสขุ ของคนไทยทกุ คน

เพื่อให้ประเทศสามารถยกระดับการพัฒนาให้บรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมายการพัฒนาประเทศ
จึงจำเป็นต้องกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาวที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนา
ความม่นั คง เศรษฐกิจ สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม ประกอบดว้ ย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่

(1) ยุทธศาสตร์ชาตดิ า้ นความมนั่ คง
(2) ยุทธศาสตรช์ าติด้านการสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั
(3) ยุทธศาสตรช์ าติด้านการพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
(4) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม

13

(5) ยุทธศาสตรช์ าตดิ ้านการสรา้ งการเติบโตบนคณุ ภาพชวี ติ ทีเ่ ปน็ มิตรต่อส่งิ แวดลอ้ ม
(6) ยุทธศาสตร์ชาติดา้ นการปรับสมดุลและพฒั นาระบบการบริหารจดั การภาครัฐ
มียทุ ธศาสตร์ทเ่ี กี่ยวข้องกับการขบั เคลอ่ื นงานดา้ นผ้สู งู อายุ จำนวน 2 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนา
ที่สำคญั เพอ่ื พัฒนาคนในทุกมติ ิและในทุกช่วงวัยใหเ้ ป็นคนดี เก่ง และมคี ณุ ภาพ โดยคนไทยมีความพร้อมทั้งกาย ใจ
สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น
มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรมและเปน็ พลเมืองดขี องชาติ มหี ลกั คดิ ทถี่ กู ต้อง มีทกั ษะที่จำเปน็
ในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม และอนุรักษ์ภาษาท้องถิน่ มีนิสัยรักการเรยี นรูแ้ ละ
การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตสู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูง เป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ
เกษตรกรยคุ ใหมแ่ ละอื่นๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนดั ของตนเอง
2) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม มีเป้าหมายการพัฒนาทีส่ ำคัญที่
ให้ความสำคัญการดึงเอาพลังของ ภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน
โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่วมทำเพื่อส่วนรวม การกระจายอำนาจและความ
รับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการ
ตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากรไทยทั้งในมิติ สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคมและสภาพแวดล้อมให้เป็น
ประชากรที่มีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองและทำประโยชน์แก่ครอบครัวชุมชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้
หลกั ประกนั การเขา้ ถงึ บริการและสวัสดิการท่ีมคี ุณภาพอย่างเปน็ ธรรมและทว่ั ถึง
สรุปยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 เป็นแผนการพัฒนาประเทศ กำหนดวิสัยทัศน์ว่า
“ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง”หรือเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” มียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนงาน
ด้านผู้สูงอายุ จำนวน 2 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ
ทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และ
มีคุณภาพ (2) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคญั ท่ี
ใหค้ วามสำคัญการดึงเอาพลังของภาคสว่ นต่างๆ มารว่ มขบั เคล่ือนและการเตรียมความพร้อมของประชากรไทยท้ัง
ในมติ สิ ขุ ภาพ เศรษฐกจิ สงั คมและสภาพแวดล้อมให้ประชาชนมคี ณุ ภาพทีดี

2.5.2 รา่ งแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2566 - 2570)

❖ หลกั การและแนวคดิ
(ร่าง) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 มีจุดมุ่งหมายสูงสุดเพ่ือขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สามารถ

บรรลุผลตามเป้าหมายการพัฒนาระยะยาวที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ โดยมุ่งหวังให้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13
(พ.ศ. 2566 – 2570) ทำหน้าที่เป็นกลไกในการชี้ประเด็นที่มีลำดับความสำคัญสูงต่อการพัฒนาประเทศในระยะ
5 ปีและเพื่อผลักดันให้ประเทศสามารถก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนสู่ความเจริญเติบโตที่
ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน โดย (ร่าง) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ได้กำหนดทิศทางและเป้าหมาย
ของการพัฒนาบนพ้นื ฐานของหลกั การและแนวคิดที่สำคัญ 4 ประการ ไดแ้ ก่

14

(1) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยการสืบสาน รกั ษา ต่อยอดการพฒั นาตามหลกั ปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีควบคู่กับ
การใช้เงื่อนไข 2 ประการเพื่อกำกับการกำหนดทิศทางและประเด็นการพัฒนาในส่วนตา่ ง ๆ ได้แก่ เงื่อนไขความรู้
โดยการใช้องคค์ วามรทู้ างวชิ าการทร่ี อบด้าน และเงื่อนไขคุณธรรม โดยยึดถอื ผลประโยชน์ของประชาชนและความ
เป็นธรรมในทกุ มิติของสงั คม

(2) แนวคิด Resilience ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการลดความเปราะบางต่อความเปลี่ยนแปลง
อันประกอบด้วยการพัฒนาความสามารถใน 3 ระดับ ได้แก่ (1) การพร้อมรับ (Cope) หมายถึง ความสามารถ
ในการบริหารจัดการภายใต้สภาวะวิกฤติ ให้สามารถยืนหยัดและต้านทานความยากลำบาก รวมถึงฟื้นคืนกลับ
สสู่ ภาวะปกติได้อย่างรวดเรว็ (2) การปรับตัว (Adapt) หมายถึง การปรบั ทิศทาง รปู แบบ และแนวทางการพัฒนา
ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลง พร้อมกระจายความเสี่ยงและปรับตัวอย่างเทา่ ทันเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสิ่งที่
เกิดขึ้น และ (3) การเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน (Transform) หมายถึงการเปลี่ยนแปลง
เชงิ โครงสรา้ งและปจั จยั พน้ื ฐานให้สอดรับกับความเปล่ยี นแปลง

(3) เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติซึ่งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิด “ไม่ทิ้งใคร
ไว้ข้างหลัง” โดยมุ่งเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งในมิติของการมีปัจจัยที่จ ำเป็นสำหรับ
การดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานที่เพียงพอ การมีสภาพแวดล้อมที่ดี การมีปัจจัยสนับสนุนให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์
ทั้งทางร่างกายและจิตใจ การมีโอกาสที่จะใช้ศักยภาพของตนในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงการมุ่งส่งต่อ
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มที่ดไี ปยังคนรนุ่ ตอ่ ไป

(4) โมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจใน 3 รูปแบบควบคู่กัน ได้แก่
เศรษฐกจิ ชวี ภาพ เศรษฐกจิ หมุนเวียน และเศรษฐกจิ สีเขียว โดยอาศยั ฐานศักยภาพและความเข้มแข็งของประเทศ
อันประกอบด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมกับการใช้ประโยชน์
จากองคค์ วามรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการสรา้ งมลู ค่าเพมิ่ เพ่อื ผลักดนั ให้ประเทศมีการ
เจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ อย่างยัง่ ยนื และสามารถกระจายรายได้ โอกาส และความมงั่ คง่ั ได้อยา่ งท่ัวถงึ

นอกจากนี้ การจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ยังคำนึงถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดของการพัฒนา
ประเทศท่สี บื เน่ืองมาจากการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19 รวมท้ังปัจจัยต่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ งทง้ั ทางตรงและทางอ้อม
ซึง่ จะสง่ ผลให้บริบทของประเทศและของโลกเปลีย่ นแปลงไปในอนาคต

❖ วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายการพฒั นา
การวางกรอบการพัฒนาประเทศในระยะ 5 ปี ภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 มีความมุ่งหมาย

ที่จะเร่งเพิ่มศักยภาพของประเทศในการรับมือกับความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงและเสริมสร้าง
ความสามารถในการสร้างสรรค์ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงทีการก ำหนด
ทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพลิ กโฉมประเทศไทย
สู่ “สงั คมก้าวหนา้ เศรษฐกิจสรา้ งมูลค่าอย่างยั่งยนื ” ซึ่งหมายถงึ การสร้างการเปล่ียนแปลงท่ีครอบคลุมต้ังแต่ระดับ
โครงสรา้ ง นโยบาย และกลไก เพือ่ มุ่งเสรมิ สร้างสังคมท่ีกา้ วทนั พลวตั ของโลก และเกอ้ื หนนุ ให้คนไทยมีโอกาสที่จะ
พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์มีความสามารถในการสร้างมูลค่าเพิ่มที่สูง และค ำนึงถึงความยั่งยืน

15

ด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ข้างต้น แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ได้กำหนดเป้าหมายหลักจำนวน
5 ประการ ประกอบดว้ ย

(1) การปรับโครงสร้างการผลิตสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม โดยยกระดับขีดความสามารถในการ
แข่งขันของภาคการผลิตและบริการสำคัญให้สูงข้ึน และสามารถตอบโจทย์พัฒนาการของเทคโนโลยแี ละสังคมยุค
ใหม่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อยกับห่วงโซ่มูลค่าของภาค
การผลติ และบรกิ ารเปา้ หมาย รวมถึงพัฒนาระบบนเิ วศท่สี ่งเสรมิ การคา้ การลงทนุ และนวัตกรรม

(2) การพฒั นาคนสำหรับโลกยุคใหม่ โดยพฒั นาใหค้ นไทยมที ักษะและคุณลักษณะทีเ่ หมาะสมกับ
โลกยุคใหม่ ทั้งทักษะในด้านความรู้ทักษะทางพฤติกรรม และคุณลักษณะตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม
เตรียมพร้อมกำลังคนท่ีมีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน เออื้ ต่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
ไปสู่ภาคการผลิตและบริการเป้าหมายที่มีศักยภาพและผลิตภาพสูงขึ้น รวมทั้งพัฒนาหลักประกันและความ
คมุ้ ครองทางสงั คมเพื่อสง่ เสรมิ ความมนั่ คงในชีวติ

(3) การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม โดยลดความเหลื่อมล้ำทั้งในเชิงรายได้
ความม่ังค่ัง และโอกาสในการแข่งขันของภาคธุรกจิ สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื กลมุ่ เปราะบางและผู้ด้อยโอกาสให้มีโอกาส
ในการเล่ือนชั้นทางเศรษฐกจิ และสังคม รวมถึงจดั ให้มีบริการสาธารณะท่มี คี ุณภาพอย่างท่ัวถึงและเท่าเทียม

(4) การเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน โดยปรับปรุงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตและ
บริโภคใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพและสอดคล้องกบั ขีดความสามารถในการรองรับของระบบนิเวศ แกไ้ ขปัญหามลพิษสำคัญ
ด้วยวิธีการที่ยั่งยืน โดยเฉพาะมลพิษทางอากาศ ขยะ และมลพิษทางน้ำ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เพอ่ื มงุ่ สคู่ วามเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในครง่ึ แรกของศตวรรษน้ี

(5) การเสริมสร้างความสามารถของประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยง
ภายใต้บริบทโลกใหม่ โดยการสร้างความพร้อมในการรับมือและแสวงหาโอกาสจากการเป็นสังคมสูงวัย
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยโรคระบาด และภัยคุกคามทางไซเบอร์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกลไก
ทางสถาบันที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างและระบบการบริหารงานของภาครัฐ
ให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีได้อย่างทันเวลา
มีประสทิ ธภิ าพ และมีธรรมาภิบาล

❖ หมุดหมายการพฒั นา
เพื่อถ่ายทอดเป้าหมายหลักไปสู่ภาพของการขับเคลื่อนที่ชัดเจนในลักษณะของวาระการพัฒนา

(Agenda) ที่เอื้อให้เกิดการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานและหลายภาคส่วนในการผลักดันการพัฒนา
ในเรื่องใดเรื่องหนี่งให้เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 จึงได้กำหนดหมุดหมายการพัฒนา
จำนวน 13 ประการ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสิ่งที่ประเทศไทยปรารถนาจะ ‘เป็น’ มุ่งหวังจะ ‘มี’ หรือต้องการจะ
‘ขจัด’ เพื่อสะท้อนประเด็นการพัฒนาที่มีลำดับความสำคัญสูงต่อการพลิกโฉมประเทศไทยสู่ “สังคมก้าวหน้า
เศรษฐกิจสร้างมลู ค่าอย่างย่ังยนื ” และการบรรลุเป้าหมายหลักในช่วงระยะเวลา 5 ปี ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13
โดยหมุดหมายการพัฒนาทั้ง 13 ประการมีที่มาจากการประเมินโอกาสและความเสี่ยงของไทยในการพัฒนา
ประเทศภายใต้กรอบของยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งได้มีการพิจารณาถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับโลกสถานการณ์

16

การแพร่ระบาดของโรคโควดิ -19 รวมถึงผลการพัฒนาในประเทศในระยะเวลาทีผ่ ่านมา ทงั้ นี้ หมุดหมายการพัฒนา
ที่กำหนดขึ้นเป็นประเด็นที่มีลักษณะเชิงบูรณาการ ซึ่งสามารถนำไปสู่การพัฒนาทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม
ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ทำใหห้ มุดหมายแตล่ ะประการสามารถสนับสนุนเปา้ หมายหลัก
ได้มากกว่าหนึ่งข้อ โดยหมุดหมายทั้ง 13 ประการ แบ่งออกได้เป็น 4 มิติ คือ (1) มิติภาคการผลิตและบริการ
เป้าหมาย (2) มิติโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม (3) มิติความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ
และสิง่ แวดลอ้ ม (4) มิตปิ จั จัยผลักดันการพลกิ โฉมประเทศ

ทั้งนี้มิติที่เกี่ยวขอ้ งภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้แก่ มิติโอกาส
และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลงและคนไทยทุกคน
มีความคุ้มครองทางสังคม ความเชื่อมโยงของหมุดหมายกับเป้าหมายหลักของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 และ
ยุทธศาสตร์ชาติ หมุดหมายที่ 9 มุ่งตอบสนองต่อเป้าหมายหลักของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 จำนวน 2 เป้าหมาย
ได้แก่ การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเปน็ ธรรม โดยการสนับสนุนให้กลุม่ เปราะบางและผู้ด้อยโอกาส มีโอกาส
ในการเลื่อนช้นั ทางเศรษฐกิจและสงั คมสูงขึ้น รวมท้ังการพฒั นาคนสำหรับโลกยุคใหม่ ในดา้ นการสร้างหลักประกัน
และความคมุ้ ครองทางสังคมเพ่ือให้คนไทยมีความมัน่ คงในชีวติ นอกจากน้ี หมุดหมายที่ 9 ยงั มคี วามสอดคล้องกับ
เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติใน 2 ด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ
ทรัพยากรมนุษย์ ในประเด็นเป้าหมาย สังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อและสนับสนุนต่อการพัฒนาคน
ตลอดชว่ งชีวติ และ ยุทธศาสตร์ชาติดา้ นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมใน 2 ประเดน็ เป้าหมาย คือ
สร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม
เพมิ่ โอกาสใหท้ กุ ภาคสว่ นเข้ามาเป็นกำลังของการพฒั นาประเทศในทุกระดบั

❖ กลยุทธ์การพัฒนาเกยี่ วข้องกบั ประเด็นผ้สู งู อายุ คือ
กลยทุ ธ์ที่ 3 การยกระดบั ความคมุ้ ครองทางสงั คมสำหรบั คนทกุ ชว่ งวยั
กลยุทธ์ย่อยที่ 3.3 ยกระดับความคุ้มครองทางสังคมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

มุ่งสนับสนุนระบบสวัสดิการทางเลือกที่จัดโดย อปท. และภาคีการพัฒนาต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการบูรณาการข้อมูล
ด้านสวัสดิการและเงินช่วยเหลือทั้งหมดของผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและเอื้อต่อการให้ความช่วยเหลือ
ผู้สูงอายุที่ยากจนแบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มการเข้าถึงบริการดูแลระยะยาวส ำหรับผู้สูงอายุ
ที่มีภาวะพึ่งพิง โดยการเพิ่มศักยภาพของบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติ และสนับสนุนบทบาทของ อปท. สถานบริการเอกชน ผู้ดูแลอิสระ และสมาชิกในครอบครัวที่ผ่าน
การฝึกอบรมทักษะที่จำเป็นและได้รับการรับรองมาตรฐานแล้ว ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่อาศัย
ในบา้ นตนเอง ด้วยการสนับสนนุ การปรบั ปรุงท่ีอย่อู าศยั ใหเ้ หมาะสม โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ยากจน ควบคู่กับการ
สนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีทางเลือกของที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ทั้งบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแล
เปน็ พิเศษ และท่อี ยู่อาศยั ทีอ่ อกแบบเพื่อผสู้ งู อายุ อย่างเพียงพอต่อความตอ้ งการ

17

สรุปร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ได้กำหนด
ทิศทางและเปา้ หมายของการพฒั นาบนพ้นื ฐานของหลักการและแนวคดิ ท่สี ำคญั ประการหน่ึงในการให้ความสำคัญ
ต่อหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง คอื ต้งั อยูบ่ นพนื้ ฐานของความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การสร้างภูมิคุ้มกันที่
ดีควบคู่กับการใช้เงื่อนไข 2 ประการเพื่อกำกับการกำหนดทิศทางและประเด็นการพัฒนาในส่วนต่าง ๆ ได้แก่
เงื่อนไขความรู้โดยการใช้องค์ความรู้ทางวิชาการที่รอบด้าน และเงื่อนไขคุณธรรม โดยยึดถือผลประโยชน์
ของประชาชนและความเป็นธรรมในทุกมิติของสังคม ซึ่งแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ได้กำหนดหมุดหมายการพัฒนา
จำนวน 13 ประการ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสิ่งที่ประเทศไทยปรารถนาจะ ‘เป็น’ มุ่งหวังจะ ‘มี’ หรือต้องการจะ
‘ขจัด’ โดยมิติที่เกี่ยวข้องภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้แก่ มิติโอกาสและความ
เสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลง และคนไทยทุกคนมีความ
คุ้มครองทางสังคม กลยุทธ์การพัฒนาเกี่ยวข้องกับประเด็นผู้สูงอายุ คือ กลยุทธ์ที่ 3 การยกระดับความคุ้มครอง
ทางสังคมสำหรับคนทุกช่วงวัย กลยุทธ์ย่อยที่ 3.3 ยกระดับความคุ้มครองทางสังคมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
ของผู้สูงอายุ

2.5.3 แผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2565) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2

พ.ศ.2563
แผนปฏิบตั ิการดา้ นผู้สงู อายุระยะท่ี 2 ( พ.ศ.2545 – 2566 ) เปน็ แผนยุทธศาสตรห์ ลักในการ

ดำเนนิ งานดา้ นผู้สูงอายุในช่วง พ.ศ.2545 – 2565 สรปุ สาระสำคญั ดงั น้ี
❖ วิสัยทศั น์ “ ผู้สงู วัยเป็นหลักชัยของสังคม”
❖ ปรัชญา ผู้สูงอายไุ ม่ใช่ผู้ดอ้ ยโอกาสหรอื เปน็ ภาระต่อสังคม แต่สามารถมีส่วนร่วมเป็นพลังพฒั นา

สงั คม จงึ ควรไดร้ บั การส่งเสรมิ และเก้ือกลู จากครอบครัว ชุมชน และรฐั ใหด้ ำรงชวี ติ อยู่อยา่ งมคี ุณค่า มีศักดิ์ศรีและ
คงไว้ ซึ่งภาวะสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้นานที่สุด ผู้สูงอายุท่ีประสบปัญหาทุกข์ยากต้องได้รับการเกื้อกูล
จากครอบครัว ชุมชน สังคม และรัฐ อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม การสร้างหลักประกันในวัยสงู อายุเป็นกระบวนการ
สรา้ งความมัน่ คงให้แกส่ งั คม โดยการมสี ่วนร่วมจากผู้มสี ว่ นเก่ียวข้องทุกาภพส่วน ไดแ้ ก่ (1) ประชากรพ่ึงพาตนเอง
(2) ครอบครัวดูแล (3) ชุมชนช่วยเกื้อกูล (4) สังคม รัฐสนับสนุนโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ควรมีการ
บูรณาการใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์อยา่ งต่อเน่ือง

❖ ประเดน็ สำคัญ
(1) ผู้สูงอายุที่ดีมีคุณภาพชีวิตที่ดี คือ (1) มีสุขภาพที่ดีทั้งกายและจิต (2) ครอบครัวมีสุข สังคม

เอื้ออาทรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมปลอดภัย (3) มีหลักประกันที่มั่นคง ได้รับสวัสดิการและการบริการ
ที่เหมาะสม (4) อยู่อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี พึ่งพาตนเองได้ เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจและมีส่วนร่วมในครอบครัว
ชมุ ชน และสงั คม และ (5) มโี อกาสเข้าถงึ ข้อมูลและข่าวสารอยา่ งตอ่ เน่ือง

(2) ครอบครวั และชุมชนเปน็ สถาบนั หลักท่ีมีเข้มแข็ง สามารถให้การเกื้อหนุนแก่ผู้สูงอายุได้อย่าง
มีประสิทธภิ าพ

(3) ระบบสวัสดิการและบริการ จะต้องสามารถรองรับผู้สูงอายุให้ดำรงอยู่กับครอบครัว และ
ชมุ ชนได้อย่างมคี ุณภาพและมาตรฐาน

18

(4) ทุกภาคส่วนจะต้องมีสว่ นร่วมในระบบสวสั ดิการและบริการให้แกผ่ สู้ ูงอายุ โดยการกำกับดูแล
เพอื่ การคมุ้ ครองผูส้ งู อายุในฐานะผบู้ รโิ ภค

(5) ต้องมีการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ทุกข์ยากและต้องการการเกื้อกูล
ใหด้ ำรงชีวิตอย่ใู นชุมชนไดอ้ ย่างดแี ละต่อเนื่อง

สรุปแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2565) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ.2563
กำหนดวิสยั ทศั น์ไว้ว่า “ผู้สูงวัยเปน็ หลักชัยของสังคม ” และมีปรัชญากล่าวคือ ผสู้ งู อายุไมใ่ ช่ผู้ด้อยโอกาสหรือเป็น
ภาระต่อสังคม แต่สามารถมีส่วนร่วมเป็นพลังพัฒนาสังคม จึงควรได้รับการส่งเสริมและเกื้อกูลจากครอบครัว
ชุมชน และรัฐให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรีและคงไว้ซึ่งภาวะสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้นานที่สุด
ดงั นน้ั การเป็นผสู้ ูงอายุท่ีมคี ณุ ภาพชีวติ ทีด่ ี ครอบครวั ชมุ ชน สามารถเกอื้ หนนุ ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ

2.2.4 แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ของกรมกจิ การผู้สงู อายุ ปี พ.ศ.2561-2580

❖ วิสัยทัศน์ “ผู้สูงอายุมีหลักประกันในการดำรงชีวิตที่มั่นคงในทุกมิติและเป็นพลังในการ
ขับเคลื่อนสงั คมไทย”

❖ ประเด็นยุทธศาสตร์
(1) เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการขับเคลื่อนนโยบาย มาตรการ กลไก นวัตกรรม

งานด้านผู้สงู อายไุ ปสู่การปฏบิ ัติ
(2) พัฒนาศกั ยภาพผสู้ งู อายุและเตรียมความพร้อมคนทุกชว่ งวยั เพื่อรองรับสังคมผ้สู ูงอายุร่วมกับ

ภาคีเครอื ขา่ ย
(3) พฒั นาระบบการคมุ้ ครองและพิทักษ์สทิ ธผิ ูส้ ูงอายุ
(4) เป็นองคก์ รแหง่ นวัตกรรมดา้ นผสู้ งู อายุ
เป้าประสงค์
(1) การบูรณาการทง้ั ระดับนโยบาย กลไก สูก่ ารปฏบิ ตั ิ
(2) พฒั นาศักยภาพผสู้ ูงอายุและเตรยี มความพร้อมคนทุกวัย
(3) ผู้สูงอายไุ ด้รบั การคุ้มครองและพิทกั ษส์ ทิ ธอิ ยา่ งทว่ั ถงึ
(4) พฒั นาระบบการบริหารจัดการเพื่อยกระดับการใหบ้ ริการ

ในอีก 20 ปี ข้างหน้าผสู้ ูงอายใุ นประเทศไทยจะมีสุขภาพท่ีดี (Healthy) มหี ลักประกันและความปลอดภัย
ในชีวิต (Security) และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม และยังเป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อน
ประเทศ

สรุปแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ของกรมกิจการผู้สูงอายุ ปี พ.ศ.2561-2580 มีวิสัยทัศน์ว่า “ผู้สูงอายุ
มหี ลกั ประกนั ในการดำรงชีวติ ที่มั่นคงในทุกมิตแิ ละเป็นพลังในการขับเคล่ือนสังคมไทย”และมีเป้าประสงค์ (Goal)
ที่สำคัญ คือการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุและเตรียมความพร้อมคนทุกวัย และผู้สูงอายุได้รับการคุ้มครองและ
พทิ กั ษ์สิทธอิ ยา่ งทัว่ ถงึ

19

2.6 งานวจิ ยั ท่ีเก่ยี วข้อง

สุทธิพงศ์ บุญผดุง (2554) ได้ศึกษาวิจัย “การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในท้องถิ่นโดยใช้
โรงเรียนเป็นฐานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง (ระยะที่ 1)” ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
ในภาพรวมอยู่ในระดับค่อนข้างมาก โดยด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นอันดับแรก รองลงมาคือด้านการ
รวมกลมุ่ ทางสังคม ด้านสภาพอารมณ์ท่ดี ี และดา้ นสภาพร่างกายทด่ี ี ตามลำดับ ในขณะทีด่ า้ นสภาพความเป็นอยู่ที่
ดี และด้านการตัดสินใจด้วยตนเองมีระดับคุณภาพชีวิตในระดับปานกลาง 2) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต
พบว่าด้านสภาพอารมณ์ที่ดี มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่ปัจจัยด้านความว้าเหว่ อ้างว้าง และปัจจัยด้านความสุขกาย
สบายใจ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่ ปัจจัยด้านปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว มิตรสหาย
และเพื่อนบ้าน ด้านการรวมกลุ่มทางสังคมมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่ ปัจจัยด้านการอุทิศและการได้รับการยอมรับ
จากชุมชน ด้านสภาพความเป็นอยูท่ ี่ดี มีปัจจยั ที่เก่ียวข้องได้แก่ ปัจจยั ดา้ นการดำรงชีพ และปัจจัยด้านรายรับและ
รายจ่าย คุณภาพชีวิตด้านสภาพร่างกายที่ดีมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่ ปัจจัยด้านการใส่ใจเรื่องสุขภาพ และปัจจัย
ด้านการบริโภคที่ดี และสดุ ท้าย ด้านการตดั สินใจดว้ ยตนเอง มีปจั จยั ท่ีเกย่ี วข้องได้แก่ ปัจจยั ดา้ นความเป็นอิสระ
ทางความคดิ และปัจจัยการเลือกทำในสิ่งท่ีต้องการ 3) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผสู้ งู อายโุ ดยใช้โรงเรียน
เป็นฐานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านความเห็นชอบจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งสามารถนำไปทดลองใช้ และศึกษาผล
การใช้กับผสู้ ูงอายุในทอ้ งถ่ินในงานวจิ ัยระยะท่ี 2 ตอ่ ไป

ชญานน์ นั ท์ ศริ กิ จิ เสถียร และคณะ (2560) ได้ศกึ ษาวจิ ัย “แนวทางส่งเสริมคณุ ภาพชีวิตผู้สูงอายุ
ในหมู่บ้านโพธิ์พัฒนา ตำบลคณฑี อำเภอเมือ จังหวัดแพงเพชร โดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน
” ผลการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี มีโรคประจำตัวบ้าง อาทิ โรคเบาหวาน
โรคความดัน และโรคหัวใจ ทางด้านเศรษฐกิจนั้น ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีรายได้หลักมาจากลูกหลานและเบี้ยยังชีพ
ผู้สูงอายุ มีที่อยู่อาศัย อาหารและยารักษาโรคเพียงพอ ผู้สูงอายุจะมีลูกหลาน/ญาติพี่น้องคอยดูแลเอาใจใส่ยาม
เจ็บป่วยทำให้ผู้สูงอายุเหล่านี้เกิดความรู้สึกมั่นคงในบั้นปลายชีวิต สุดท้ายคือ กิจกรรมทางด้านสังคม
จากการศกึ ษาทำให้ทราบว่าผู้สงู อายสุ ว่ นใหญม่ ีกจิ กรรมประจำวนั แบ่งออกเปน็ 2 ประเภทคือ กจิ กรรมที่ก่อให้เกิด
รายได้ (ร้อยละ 31.10) และกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ร้อยละ 68.90) จากสภาพคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ
ดังกล่าวผู้วิจัยจึงได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้เป็นกรอบในการสนทนากลุ่มเพื่อให้ได้
กิจกรรมที่สอดคล้องกับบริบทชุมชนและสามารถดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุทั้งทางด้านร่างกายและ
ด้านจิตใจให้ผู้สูงอายุมีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลตนเอง ลดการพึ่งพิงคนในครอบครัว และมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมชุมชนตามความสามารถและศักยภาพของบุคคลตามหลักความพอประมาณ ความมีเหตุผ ลและมี
ภูมิคุ้มกัน จากการสังเคราะห์ผลการสัมภาษณ์และสนทนากลุ่มทำให้ได้กิจกรรมที่ผู้สูงอายุต้องการจำนวน
4 กิจกรรม คือ กิจกรรมการทำลูกประคบสมุนไพร กิจกรรมทำน้ำมันไพล กิจกรรมนวด ตัวอย่างง่ายสำหรับ
ผู้สูงอายุและกิจกรรมทำสบู่จากสมุนไพรในท้องถิ่น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดรายได้และไม่
ก่อให้เกดิ รายได้ แตเ่ ปน็ กจิ กรรมที่ผู้สงู อายุในชุมชนมีความสนใจท่จี ะทำเพือ่ พฒั นาคุณภาพชีวติ ของตนเอง

20

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6, 2564 ได้ศึกษาวิจัย “ โครงการวิจัยการส่งเสริมการ
ใชน้ วตั กรรมเศรษฐกจิ พอเพียงในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผสู้ ูงอายุไทย” ใช้รูปแบบการวจิ ัยโดยระเบียบวิธีวิจัยแบบ
ประยุกต์ (Applied Research) เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคณุ ภาพ ผลการศกึ ษาพบวา่

(1) สภาพการใช้นวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในภาพรวม
พบว่า ด้านสังคม ผู้สูงอายุสามารถนำนวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้พัฒนากลุ่มอาชีพ รองลงมา คือ
ด้านสิ่งแวดล้อม ผู้สูงอายุสามารถนำนวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงมาส่งเสริมความรู้ด้านการจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ และด้านเศรษฐกิจ ผู้สูงอายุสามารถ
นำนวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใชใ้ นการพฒั นาอาชีพของตนเองและครอบครวั

(2) ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้นวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ พบว่า
ปัจจัยด้านทุนทางกายภาพและสิ่งแวดล้อม คือ ชุมชนมีสภาพแวดล้อมที่ดี เหมาะแก่การอยู่อาศัย และมีการ
ประกอบอาชีพ รองลงมา ทุนทางมนุษย์ คือ ผู้สูงอายุสามารถนำความรู้และหลักวิชาการนวัตกรรมเศรษฐกิจ
พอเพียง มาประยุกต์ใช้ในการทำงานหรือการแก้ไขปญั หาที่เกิดขึ้น ทุนทางสังคม คือ ชุมชนใหค้ วามสำคัญกับการ
ยอมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคนอื่นๆ ทุนทางเศรษฐกิจ คือ อาชีพของผู้สูงอายุและครอบครัว
เอ้อื ตอ่ การใชน้ วัตกรรมเศรษฐกจิ พอเพยี ง

(3) แนวทางการส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไทย
พบว่ามี 3 ระดบั ดงั น้ี

1) ระดับเป้าหมาย คือ มี “ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยตัวผู้สูงอายุครอบครัว ชุมชนท้องถ่ิน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าถึง เข้าใจ และนำนวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียง ที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่
มาประยุกตใ์ ช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สงู อายแุ บบองคร์ วม”

2) ระดับกลยุทธ์ คือ มีกลยุทธ์ ในส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนา
คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ มี 4 ข้อ ได้แก่ (1) การพัฒนาทุนมนุษย์ (2)การพัฒนาทุนทางเศรษฐกิจ (3) การพัฒนาทุน
ทางสังคม (4) การพัฒนาทุนทางกายภาพและสิ่งแวดล้อมในส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในการ
พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ผสู้ ูงอายุ

3) ระดับแนวทาง แนวทางในส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาคุณภาพ
ชีวติ ผู้สงู อายุ มี 4 แนวทาง ได้แก่

(1) การพัฒนาทุนมนุษย์ เป็นการส่งเสริมการเตรียมความพร้อมของคนทุกช่วงวัย แบ่ง
ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ในเรื่ององค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพกายและใจ โดยนำหลักธรรมและหลัก
เศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เข้ากับบริบทของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
กลมุ่ คนทั่วไป ในเรอื่ งองค์ความรู้การดแู ลผู้สงู อายุในครอบครัว

(2) การพัฒนาทนุ ทางเศรษฐกิจ เปน็ การสง่ เสริมให้การมีงานทำบนฐานเศรษฐกิจพอเพียงและ
กองทนุ ส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มผู้สูงอายแุ ละคนทตี่ กงานจากโควดิ -19 เพอื่ ให้เกิดการสร้างงานและอาชีพในชุมชน
เพือ่ ลดการละทิ้งถนิ่ ฐาน และสรา้ งความอบอนุ่ ในครอบครัว

21

(3) การพัฒนาทุนทางสังคม พัฒนาโรงเรียนผู้สูงอายุและศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสรมิ
อาชีพผสู้ งู อายุ เป็นพน้ื ที่ทางสังคมเพ่ือช่วยเหลือดูแลผสู้ ูงอายุในดา้ นต่างๆ

(4) การพัฒนาทุนทางกายภาพและสิ่งแวดล้อม เป็นการส่งเสริมการปรับปรุงที่อยู่อาศัยและ
สิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมตามหลักอารยะสถาปัตย์ โดยใช้ทรัพยากรท่ีมีในทอ้ งถิ่น และส่งเสริมใหม้ ีพ้นื ท่ี
ผลติ และจำหนา่ ยอาหารที่ปลอดภยั และการจดั การขยะครบวงจรในชมุ ชน

2.7. กรอบแนวคิด

จากการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมของกลุ่มจังหวัดตามรายงานสถานการณ์ทางสังคมในเขต
พื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 (สสว.6) ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร
สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อบุ ลราชธานี แนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ัยที่เก่ียวข้อง ประมวลเป็นกรอบแนวคิด
ในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคมในระดับพื้นที่ เรื่อง “แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตาม
แนวคดิ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง” ดงั แผนภาพต่อไปนี้

1. คุณลกั ษณะทัว่ ไปของผู้สูงอายุ ขอ้ เสนอเชิงนโยบายดา้ นสังคมในระดบั พ้นื ที่
2. ปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ “แนวทางการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ผู้สงู อายตุ าม
3. คุณภาพชีวิตผสู้ ูงอายุตามหลกั ปรัชญา
แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”
เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ความพอเพียงในระดับครอบครัว
2. ความพอเพยี งในระดบั องค์กรหรอื กลุ่ม
• ด้านสุขภาพ 3. ความพอเพยี งในระดบั เครือขา่ ย

• ดา้ นเศรษฐกิจ

• ดา้ นสภาพแวดลอ้ ม

• ด้านสังคม

22

บทที่ 3 วธิ ดี ำเนินการ

3.1 ขนั้ ตอนการดำเนินงาน

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 กำหนดประเด็นในการจัดทำร่างข้อเสนอเชิงนโยบาย
ด้านสังคมในระดับพื้นที่ เรื่อง “แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ”
โดยมกี ระบวนการดงั นี้

(1) ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมในพื้นที่ เพื่อระบุประเด็นการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย
ดา้ นสังคมในระดับพ้นื ที่ และการศกึ ษาข้อมลู งานวจิ ยั ท่ีเกย่ี วข้อง

(2) ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี นโยบาย แผนแมบ่ ทท่เี กยี่ วขอ้ ง
(3) การสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) โดยผู้ปฏิบตั ิงานและผู้ทเ่ี ก่ียวข้องกับการดำเนินงาน
ด้านผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม ได้แก่ หน่วยงาน One Home พม.จังหวัดนครพนม คือ 1) สำนักงานพัฒนาสังคม
แลความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม 3) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ท่ี
พึ่งจังหวัดนครพนม 4) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม และอาสาสมัครพัฒนาสังคม
และความมนั่ คงของมนษุ ย์ (อพม.) ตำบลบา้ นผงึ้ อำเภอเมอื ง จงั หวดั นครพนม จำนวน 15 คน
(4) จัดทำร่างข้อเสนอเชิงนโยบายฯ
(5) คืนร่างข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อขอความคิดเห็นเพิ่มเติมจากกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัด
สกลนคร จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ จังหวัดอำนาจเจรญิ และจังหวัดอุบลราชธานี และปรบั ปรุงแกไ้ ขตามข้อคิดเห็น
(6) จดั ทำเล่มข้อเสนอเชิงนโยบายฯ และประชาสมั พันธเ์ พ่ือการนำไปใช้ประโยชน์

3.2 วธิ กี ารศึกษา

โดยการรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยงานวิชาการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ข้อมูลสถานการณ์
ยุทธศาสตร์ แผน นโยบาย บทสรุปจากการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) วิเคราะห์จัดทำข้อเสนอ
เชงิ นโยบายในระดับพ้ืนที่ เรื่อง “ แนวทางการพัฒนาคุณภาพชวี ิตผ้สู ูงอายตุ ามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”
ในระดับ 3 ระดบั ได้แก่ ระดับครอบครัว ระดับองคก์ รหรือกลมุ่ และระดบั เครือขา่ ย

23

บทท่ี 4 ผลการศึกษา

กรณีศึกษา One Home จังหวัดนครพนมและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม” เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการเขา้ สู่วัยผู้สงู อายุและ
ปญั หาอปุ สรรคการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตผู้สูงอายุในระดับพื้นที่

จากการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ
จงั หวดั นครพนม ได้แก่ หน่วยงาน One Home พม.จงั หวดั นครพนม คอื 1) สำนักงานพัฒนาสังคมแลความม่ันคง
ของมนุษย์จังหวัดนครพนม 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม 3) ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัด
นครพนม ,4) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 15 คน และมี
นายอนันตศักดิ์ พันธ์พุฒ อาจารย์สังกัดกลุ่มวิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี
นครพนม เปน็ วทิ ยากรบรรยายให้ความรูเ้ รื่อง“การเรียนรู้เพื่อเข้าสู่วยั ผู้อายุและการเตรยี มความพร้อมในการเข้าสู่
วยั ผู้สงู อายุ ” สรปุ แนวทางการเตรยี มความพร้อมในการเข้าสู่วยั ผ้สู ูงอายุอยา่ งมคี ุณภาพใน 4 มติ ิ ไดแ้ ก่ มิติสุขภาพ
มิตเิ ศรษฐกจิ มติ สิ ภาพแวดล้อม และมิตทิ างสังคม ดงั น้ี

❖ การเตรยี มความพรอ้ มมิตสิ ุขภาพ คอื มคี วามเขา้ ใจการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
(1) การเปลี่ยนแปลงของระบบกล้ามเนื้อ ชาย 19 ปี หญิง 22 ปีกล้ามเนื้อจะหยุดเจริญ

แข็งแรงสุดช่วงอายุ 25 ปี 40 ปีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเริ่มลดลง และลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อ 60 ปี
จงึ ควรออกกำลงั กายใหพ้ อเหมาะกับเพศ วัย และสภาพของรา่ งกาย

(2) การเปลี่ยนแปลงของระบบหายใจ เซลล์ปอดและถุงลมในปอดมีจำนวนลดลง
ประสิทธิภาพการจับออกซิเจนน้อยลง ทำให้เหนื่อยง่าย การป้องกัน ได้แก่ (1) การดูแลร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ
ยามมีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรืออุณหภูมิอย่างกระทันหัน (2) งดบุหรี่ ยานัตถุ์ หรือสิ่งเสพติด
(3) อยใู่ นบริเวณที่มอี ากาศบริสทุ ธ์ิ (4) ตรวจร่างกายทกุ ปีและฉายรังสีปีละครั้ง

(3) การเปลย่ี นแปลงของระบบย่อยอาหาร ระบบบดเคย้ี วในปากที่ขาดความสมบูรณ์ การรับ
รสหวานจะสูญเสียก่อนรสเค็ม เปรี้ยว ขม ปัญหาฟันปลอมที่ไม่มีประสิทธิภาพ การเคลื่อนไหวของลำไส้เล็ก และ
ลำไส้ใหญ่ลดลง ทำให้เกิดอาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก การป้องกันไดแก่การป้องกันโรคเหงือกและฟัน
(1) นวดเหงือกทุกวัน เช้า และค่ำก่อนนอน อมน้ำเกลืออุ่นๆผสมสารส้มป่นเล็กน้อย (2) ทำความสะอาดซอกฟัน
หลงั อาหาร (3) ปรึกษาทันตแพทยเ์ มื่อพบว่ามีกลิน่ ปาก (4) กนิ ผัก ผลไมส้ ดให้มาก งดลูกอม ขนมหวาน

❖ การเตรียมความพรอ้ มมติ เิ ศรษฐกิจ
เป็นการเตรียมทรัพย์สินเงินทองของตนสำหรับใช้ในวัยสูงอายุ ให้รู้สึกมั่นคงทางการเงินและ

มีอิสระและการพึ่งพาตนเองได้ ได้แก่ การวางแผนเรื่องการเงิน รู้จักออม การจัดการหนี้การบริหารค่าใช้จ่ายและ
ต่อยอดใหต้ นเอง

24

การวางแผนการเงินแต่ละช่วงวยั

ชว่ งวยั ประเด็นการเตรียมความพร้อม

วัยก่อนทำงาน • เน้นการสร้างวินยั การออมเพือ่ อนาคตท่ีมน่ั คง
(0-20 ป)ี • การฝากเงินไวก้ บั ธนาคารทั้งในรูปแบบออมทรัพย์หรือฝากประจำ
• หาความรเู้ ก่ียวกับการบรหิ ารการเงินและการลงทนุ
วยั เร่มิ ทำงาน • การบรหิ ารค่าใชจ้ า่ ยและรายได้ให้เพียงพอ
(21-30 ปี)

• นำเงินออมส่วนหนง่ึ ไปลงทนุ เพอื่ สร้างมูลค่าเพ่มิ

วยั เรม่ิ สร้างครอบครวั • การบริหารความเสี่ยงด้านการเงินและภาระหน้ีสนิ เช่น ค่าใช้จ่ายครอบครัว
(31-40 ป)ี การผอ่ นบ้าน รถยนต์

• ประกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ปัญหาสุขภาพอุบัติเหตุ โดยการซื้อ
กรมธรรม์

• การวางแผนภาษี

• มีแผนการออมและการลงทนุ เพื่อวัยเกษียณ

วยั การงานมนั่ คง • วางแผนเพอ่ื ความมั่นคงทางการเงนิ (การกอ่ หนี้ ปญั หาสุขภาพและอุบัติเหตุ)
(41-55 ปี) • การวางแผนภาษีและการวางแผนเกษียณ

วยั เกษียณอายุ • การมองหารายรับเพื่อนำมาใชจ้ ่ายประจำวนั การทอ่ งเท่ยี วพักผ่อน และเก็บ
(55 ปขี ึ้นไป) ออมไวใ้ หล้ กู หลาน

• การวางแผนเพือ่ สง่ มอบทรัพย์สนิ ไปใหล้ ูกหลาน

• ลงทุนทมี่ คี วามเสีย่ งต่ำ เพ่ือรักษาเงินต้น

❖ การเตรียมความพร้อมมติ ิสภาพแวดล้อม
การตระหนักรู้ให้ความสำคัญและมีแนวทางในการเตรียมการในด้านที่อยู่อาศัยที่มั่นคง

แข็งแรง เพื่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสมสามารถเข้าถึงบริการสังคมได้อย่างสะดวกสบาย
โดยสง่ิ ที่ควรรบั รูไ้ ดแ้ ก่ ลกั ษณะการอยอู่ าศัย ทต่ี ั้งของท่ีอยูอ่ าศยั ที่เหมาะสม การจัดบา้ นและสภาพแวดล้อมในบ้าน
การออกแบบสภาพแวดลอ้ มที่เปน็ มติ รกบั คนทุกวัย

❖ การเตรียมความพร้อมมติ ทิ างสังคม
(1) การให้กำลังใจและแรงสนับสนุนจากครอบครัว ได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรัก

การยกย่อง นับถือจากบุตรหลาน การยอมรับนับถือจากบุคคลในสังคม หรือ สังคมที่เคยเกี่ยวข้องหรือ
เป็นสมาชิกอยู่

(2) การใหผ้ ้สู งู อายุมีโอกาสได้ทำสิ่งทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ ่อครอบครัวและสังคมตามความถนัดและ
ความสนใจของตนเอง

25

(3) มีกจิ กรรมงานอดเิ รกนำมาสคู่ วามเพลิดเพลิน ผอ่ นคลายความเครยี ด เหงาวา้ เหว่
(4) การมสี มาคมกบั คนวยั เดียวกัน เพ่อื พบปะสงั สรรค์และแลกเปลย่ี นความคิดเห็น
(5) มีการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์
ในชีวิตประจำวัน และการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างรู้เท่าทัน ปกป้องการตกเป็นเหยื่อของเทคโนโลยีและ
ผู้ใช้เทคโนโลยีทางมิจฉาชีพ- สิ่งที่ควรรับรู้ในการเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยี คือ การใช้เทคโนโลยีและ
นวัตกรรมให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองในปัจจุบนั และเมือ่ เข้าสูว่ ัยสูงอายุ และการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่าง
รูเ้ ท่าทัน ปกปอ้ งการตกเปน็ เหยื่อจากมจิ ฉาชพี
❖ ขอ้ เสนอแนะสำหรับผ้ดู ูแลต่อการปฏิบัตติ ่อผู้สูงอายุ
(1) เอาใจใสด่ แู ลความเป็นอย่อู ย่างเพยี งพอและเหมาะสม
(2) ใหค้ วามสำคัญและความเปน็ ใหญ่ในบ้านแก่ผสู้ งู อายุ
(3) เคารพยกย่องและนับถือผู้สงู อายอุ ยา่ งสม่ำเสมอ
(4) ระมัดระวังคำพดู การกระทำไมใ่ หก้ ระทบกระเทอื นตอ่ จิตใจผ้สู ูงอายุ
(5) ส่งเสรมิ อำนวยความสะดวกให้ผู้สงู อายทุ ำกจิ กรรมท่ีสนใจ
(6) ส่งเสริมอำนวยความสะดวกใหผ้ สู้ งู อายุทำกิจกรรมที่สนใจ
(7) อภยั ในความผิดพลาด หลงลมื ให้เข้าใจและเหน็ อกเห็นใจท่าน
(8) พาไปตรวจรกั ษาทันทเี มือ่ วติ กกังวล ซึมเศร้า เบ่อื ชวี ติ
(9) จดั ทพ่ี กั อาศยั ตามต้องการ ใหม้ ีบรรยากาศท่ีเป็นกันเอง มสี ถานท่ที ่ใี ช้รว่ มกันได้
(10) รบั ฟงั และเปิดโอกาสใหผ้ สู้ ูงอายไุ ด้บอกถงึ ความตอ้ งการของตนเอง
(11) ให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ผู้สูงอายุต้องการ หากเป็นวิถีชีวิตที่ไม่
สอดคล้องกับสิ่งที่ครอบครัวจะเอื้ออำนวยให้ได้ไม่ว่าจะด้วยข้อจำกัดใด ๆ อย่างน้อยให้ผู้สูงอายุได้มีช่วงเวลา
ดังกล่าวบ้างตามอตั ภาพ
(12) หน่วยงานที่มีบทบาทในการดูแลจัดกิจกรรมให้กับผู้สูงอายุ ควรมีคู่มือกิจกรรมที่
หลากหลายสำหรบั แนะนำให้คนในครอบครวั ของผู้สงู อายเุ ลอื กมาใชใ้ ห้เหมาะสมกับผ้สู งู อายุในบ้าน
(13) ให้ความสำคัญกบั การดูแลและการสื่อสารกับผูส้ ูงอายุทเ่ี ป็นผู้ปว่ ยติดเตียง ผู้สูงอายุท่ีมี
อายุมากแล้ว และผสู้ ูงอายทุ ่ีไมส่ ามารถเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มนอกบ้านได้ ให้ไดม้ ปี ฏิสัมพนั ธ์กับคนในครอบครัวและ
คนอน่ื ๆ ด้วย
❖ ปจั จัยความสำเร็จการดำเนนิ งานดา้ นผูส้ งู อายุ
(1) หน่วยงานภาครฐั ในพ้นื ท่ีใหค้ วามรว่ มมอื ในการดำเนนิ งาน
(2) อาสาสมัครเปน็ ผมู้ จี ิตอาสา มคี วามสขุ ในการให้ความชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบปญั หาทางสังคม
(3) การประสานงานระหว่างอาสาสมัครกบั ผนู้ ำในท้องถิ่น
(4) การประยุกต์ใชอ้ ปุ กรณใ์ นทอ้ งถิ่นในการดูแลผสู้ ูงอายุ
(5) ผูบ้ ริหารจังหวัด หนว่ ยงาน และภาคเี ครอื ขา่ ย ให้ความสำคัญกับงานดา้ นผู้สูงอายุ

26

(6) มีการจัดตั้งศูนย์ ที่เป็นรูปธรรม สำหรับประสานงานและจัดกิจกรรมให้กับผู้สูงอายุ
สร้างความนา่ เช่ือถอื ใหก้ ับหนว่ ยงานร่วมและทำใหผ้ ้สู ูงอายุเกิดความเชอ่ื มันในการดูแลของภาครฐั

(7) ความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต
ของผสู้ งู อายุ

❖ ปัญหาอปุ สรรค
(1) หนว่ ยงานทอ่ี ยู่ในพ้นื ท่ี ซึง่ มคี วามใกล้ชิดกับกลมุ่ ผูส้ ูงอายุ ไม่มีงบประมาณในการดำเนิน

โครงการ/กจิ กรรมเพื่อสง่ เสรมิ ศักยภาพและพฒั นาคุณภาพชีวติ ผู้สูงอายุ
(2) ผู้สูงอายุและกลุ่มผู้สูงอายุ เข้าถึงกองทุนสำหรับส่งเสริมอาชีพได้ยาก เนื่องจากขาด

ทกั ษะในการเขียนโครงการ แลผูส้ ูงอายโุ ดยสว่ นใหญ่ยงั พง่ึ พาบุตรหลานหรอื คนอนื่ ๆ ชว่ ยในดา้ นการเดินทาง
(3) การปรับเปลี่ยนบุคลากร ทำให้ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง ได้แก่ เรียนรู้งานใหม่

สรา้ งสัมพนั ธภาพใหม่กบั เครือขา่ ย
(4) การจัดฝึกอาชีพให้กับผู้สูงอายุ โดยส่วนใหญ่เป็นการฝึกอบรมการทำขนม ซึ่งเป็น

อาหารที่มีทั่วไปในท้องถิ่นอยู่แล้ว ไม่สามารถเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตีตลาดได้ อาจไม่สร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุได้อย่าง
ต่อเนือ่ ง เนอ่ื งจากผลติ ภณั ฑ์ล้นตลาด

(5) สถานการณส์ ภาวะวกิ ฤติ เชน่ โรคระบาด ภัยธรรมชาติ สง่ ผลกระทบตอ่ การดำเนนิ งาน
❖ ข้อเสนอแนะ

(1) ขอให้มีการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องและ
การสรา้ งกล่มุ อาชพี ผู้สงู อายุพรอ้ มตลาดเพ่ือรองรบั สินคา้ ของผู้สงู อายุ

(2) พฒั นาอาชพี ใหก้ บั ผ้สู ูงอายุในอาชีพท่ีมีตลาดรองรับอยู่แลว้ โดยฝึกอาชพี ท่เี หมาะสมกับ
การเรยี นรู้ของผสู้ งู อายุ ในงานทีม่ ีตลาดรองรบั สามารถรับงานไปทำที่บา้ นตามออเดอร์ไดเ้ ลย เช่น งานฝีมือง่าย ๆ
แต่ไดง้ านทำอยา่ งต่อเน่อื งและเหมาะสมกบั สภาพรา่ งกายของผู้สงู อายุ ไดแ้ ก่ ของชำร่วยตา่ ง ๆ ทีเ่ ปน็ เคร่ืองประดับ
ประเภทตา่ งหู กำไล เปน็ ต้น

27

บทท่ี 5 บทสรปุ และข้อเสนอแนะ

การจัดทำขอ้ เชงิ นโยบายด้านสงั คมในระดับพืน้ ท่ี เรอ่ื ง “แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตผู้สูงอายุ
ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ” จัดทำโดยการศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมของกลุ่มจังหวัด
ตามรายงานสถานการณ์ทางสังคมในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 (สสว.6)
ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี เพื่อกำหนดประเด็นการจัดทำ
ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายในระดับพื้นท่ีและการสืบค้นข้อมูลจากเอกสารและรายงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาในเรื่อง
สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย สถานการณ์ผู้สูงอายุของกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 ยุทธศาสตร์ชาติ
20 ปี (2560-2580) ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) แผนปฏิบัติการ
ด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2565) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2563 แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ของกรม
กิจการผู้สูงอายุ ปี พ.ศ. 2561-2580 องค์ความรู้จากงานวิจัย งานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการพัฒนา
คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการถอดบทเรียน กรณีศึกษา One Home จังหวัด
นครพนมและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัด
นครพนม” เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุและปัญหาอุปสรรคการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ผู้สูงอายุในระดับพื้นท่ี ซึ่งเป็นพืน้ ท่ีทีไ่ ด้รับการคัดเลือกเป็นพืน้ ท่ีต้นแบบปฏิบัติการพัฒนาสงั คม (Social Lab: SL)
สามารถสรุปและข้อเสนอแนะ ดังนี้

❖ บทสรุป
ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว กล่าวคือผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป มีแนวโน้มเพิ่มมากข้ึน

ซึ่งสวนทางกลับประชากรในวัยแรกเกิดที่เพิ่มช้าลง จากข้อมูลสถิติกรมกิจการผู้สูงอายุประจำปี 2565 มีจำนวน
ผู้สูงอายุคิดเป็นร้อยละ 18.3 ของจำนวนประชากรทั้งหมด มีช่วงวัย 60-69 ปี จำนวนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ
56.5 รองลงมาช่วงวัย70-79 ปี คิดเป็นร้อยละ 29.1 และช่วงวัย 80 ปีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 14.4 และรายงาน
สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย ชี้ตัวเลขเกิด-ตายต่ำ วัยแรงงานลดแต่อัตราผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น : มูลนิธิสถาบันวิจัยและ
พัฒนาผสู้ ูงอายไุ ทย (มส.ผส.) ช้ีให้เหน็ วา่ ปจั จบุ ันประชากรไทยกำลังเพิ่มช้าลงอยา่ งต่อเน่ืองและในอนาคตอีก 20 ปี
ข้างหนา้ อตั ราการเพิ่มประชากรไทยจะย่ิงช้าลงจนถึงขั้นติดลบ แต่ในขณะเดียวกนั ประชากรสูงอายุกลับจะเพิ่มขึ้น
ดว้ ยอตั ราท่สี ูงมาก โดยอกี 20 ปีข้างหนา้ คาดการณ์ว่าจำนวนผสู้ ูงอายวุ ัยปลาย 80 ปขี ้นึ ไปจะมมี ากถงึ 3.4 ลา้ นคน
โดยคดิ เปน็ ร้อยละ 5.2 ของประชากรทง้ั หมด “ประชากรรุน่ เกดิ ลา้ นกำลังจะเปน็ ผ้สู งู อาย”ุ

สำหรับสถานการณ์ผู้สูงอายุของกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและ
สนับสนุนวิชาการ 6 (สสว.6) ได้แก่ (บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี)
พบว่า 7 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว.6 ก้าวสู่สังคมสูงอายุแล้วเช่นกัน โดยปี 2565 มีจำนวนผู้สูงอายุ
ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 16.3 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด มีผู้สูงอายุช่วงวัย 60-69 ปี
จำนวนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 57.62 รองลงมาช่วงวัย 70-79 ปี คิดเป็นร้อยละ 30.06 และช่วงวัย 80 ปีขึ้นไป
คิดเปน็ รอ้ ยละ 12.32

28

เมอ่ื เข้าสวู่ ยั ผสู้ ูงอายุจะมีการเปล่ียนแปลง 3 ดา้ น คอื การเปล่ยี นแปลงทางด้านร่างกาย และการ
เปลี่ยนแปลงงทางด้านจิตใจและสังคม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายเป็นสิ่งที่มีผลต่อการดำเนิน
ชีวิตประจำวัน ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและสังคมเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีผลสืบเนื่องมาจากการ
เปลย่ี นแปลงทางดา้ นร่างกาย โดยการเปล่ยี นแปลงทางดา้ นจติ ใจและสังคมที่อยู่ภายในร่างกายไม่สามารถมองเห็น
ได้จากภายนอก แต่เกี่ยวกับความรูสึกนึกคิด และการเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุจะทำให้เกิดความ
ต้องการของวัยผู้สูงอายุที่มีความแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มผู้สูงอายุ ได้แก่ (1) ความต้องการด้านร่างกาย
คอื มีสขุ ภาพแข็งแรง ทำกจิ วตั รประจำวนั ตา่ งๆได้ดว้ ยตนเองและได้รับการชว่ ยเหลอื ยามเจ็บปว่ ย (2) ความตอ้ งการ
ด้านครอบครัว คือลูกหลานรัก ดูแลเอาใจใส่ให้ความใกล้ชิดยกย่องนับถือ (3) ความต้องการด้านเศรษฐกิจ
คือ มีเงินใช้จ่ายเพียงพอ พึ่งตนเองได้ (4) ความต้องการด้านสังคม คือ มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านสังคม พบปะ
พูดคุยกับเพื่อน และได้รับการยอมรับจากสังคม (5) ความต้องการด้านจติ ใจ คือ มีเงินใช้ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
ได้รับความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวและสังคม (6) ความต้องการด้านสวัสดิการต่างๆที่จำเป็น เช่น
ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง บา้ นพกั ฉุกเฉิน เป็นตน้

ผู้สูงอายุถือเป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อ ครอบครัว ชุมชนและประเทศ เพราะเป็นบุคคลที่มีความรู้
ความสามารและสามารถมสี ่วนร่วมเปน็ พลังพัฒนาสงั คม จึงควรไดร้ บั การสง่ เสริมและเกื้อกูลจากครอบครวั ชุมชน
และรัฐให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรีและคงไว้ซึ่งภาวะสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การเป็นผู้สูงอายุที่มี
คุณภาพชีวิตที่ดี ครอบครัว ชุมชน สามารถเกื้อหนุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ยุทธศาสตร์ท่ี 1 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ที่มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญ
เพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ และตามแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ
ระยะที่ 2 (พ.ศ.2545-2565) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2563 กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของ
สังคมซึ่งให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันในวัยผู้สูงอายุเป็นกระบวนการสร้างความมั่นคงให้แก่สังคม โดย
การมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้แก่ (1) ประชากรพึ่งพาตนเอง (2) ครอบครัวดูแล (3) ชุมชน
ช่วยเกื้อกูล (4) สังคม รัฐสนับสนุนโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ควรมีการบูรณาการให้เหมาะสมกับ
สถานการณอ์ ยา่ งต่อเนื่อง

และจากการถอดบทเรียนการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ
กรณีศึกษา One Home จังหวัดนครพนมและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตำบลบ้านผึ้ง
อำเภอเมอื งนครพนม จงั หวัดนครพนม สรุปไดว้ ่า การเป็นผู้สงู อายุทม่ี คี ุณภาพต้องมีการเตรียมความพร้อมที่สำคัญ
ใน 4 มติ ิ ไดแ้ ก่ 1) การเตรยี มความพร้อมมติ ิสขุ ภาพ คือ มคี วามเข้าใจการเปลยี่ นแปลงทางด้านร่างกาย มกี ารออก
กำลังกายที่เหมาะสม 2) การเตรียมความพร้อมมิติเศรษฐกิจ เป็นการเตรียมทรัพย์สินเงินทองของตนสำหรับใช้
ในวัยสูงอายุ ใหร้ สู้ ึกมน่ั คงทางการเงนิ และมีอสิ ระและการพึ่งพาตนเองได้ ไดแ้ ก่ การวางแผนเรือ่ งการเงิน รู้จักออม
การจัดการหนี้การบริหารค่าใช้จ่ายและต่อยอดให้ตนเอง 3) การเตรียมความพร้อมมิติสภาพแวดล้อม คือ
การตระหนักรู้ให้ความสำคัญและมีแนวทางในการเตรียมการในด้านที่อยู่อาศัยที่มั่นคง แข็งแรง โดยสิ่งที่ควรรับรู้
ได้แก่ ลักษณะการอยู่อาศัย ที่ตั้งของที่อยู่อาศัยท่ีเหมาะสมเปน็ มติ รกับคนทุกวัย 4) การเตรียมความพร้อมมติ ิทาง
สังคม คอื การได้รบั การดูแลเอาใจใสด่ ว้ ยความรัก กำลังใจและแรงสนบั สนนุ จากครอบครัว การใหผ้ ้สู ูงอายุมโี อกาส

29

ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและสังคมตามความถนัดและความสนใ จและมีกิจกรรมงานอดิเรก
และการสร้างความรู้ความเขา้ ใจที่ถูกต้องต่อการนำเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน

แนวคิดที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพชวี ิตของผูส้ งู อายุประการหน่ึง คือแนวคิดปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว
ระดับชมุ ชน จนถึงระดับรฐั ท้งั ในการพัฒนาและบรหิ ารประเทศใหด้ ำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนา
เศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึง
ความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้ง
ภายในภายนอก (ทม่ี า:มลู นธิ ิชยั พัฒนา https://www.chaipat.or.th/) ซ่งึ สอดคล้องกบั รา่ งแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ได้กำหนดทิศทางและเป้าหมายของการพัฒนาบนพื้นฐาน
ของหลกั การและแนวคิดที่สำคัญประการหนึ่งในการให้ความสำคญั ต่อหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ ต้ังอยู่บน
พื้นฐานของความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุม้ กันที่ดคี วบคู่กับการใช้เงื่อนไข 2 ประการเพื่อกำกับ
การกำหนดทิศทางและประเด็นการพัฒนาในส่วนต่าง ๆ ได้แก่ เงื่อนไขความรู้โดยการใช้องค์ความรู้ทางวิชาการ
ที่รอบด้าน และเงื่อนไขคุณธรรม โดยยึดถือผลประโยชน์ ของประชาชนและความเป็นธรรมในทกุ มิติของสังคม ซ่ึง
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ได้กำหนดหมุดหมายการพัฒนาจำนวน 13 ประการ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสิ่งที่ประเทศ
ไทยปรารถนาจะ ‘เป็น’ มงุ่ หวังจะ ‘ม’ี หรือต้องการจะ‘ขจัด’ โดยมติ ิที่เก่ยี วข้องภารกจิ กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมน่ั คงของมนุษย์ได้แก่ มติ โิ อกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความ
ยากจนข้ามรุ่นลดลง และคนไทยทุกคนมีความคุ้มครองทางสังคม กลยุทธ์การพัฒนาเกี่ยวข้องกับประเด็นผู้สงู อายุ
คือ กลยุทธ์ที่ 3 การยกระดับความคุ้มครองทางสังคมสำหรับคนทุกช่วงวัย กลยุทธ์ย่อยที่ 3.3 ยกระดับความ
คมุ้ ครองทางสังคมเพือ่ พัฒนาคณุ ภาพชวี ิตของผ้สู งู อายุ

การพฒั นาคุณภาพชวี ิตผู้สูงอายุกลไกที่สำคัญไดแ้ ก่ ระดบั ครอบครวั ระดับชุมชน จนถงึ ระดับรัฐ
ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดระดับของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แบ่งความพอเพียงออกเป็น 3 ระดับ คือ
(1) เศรษฐกิจพอเพียงระดับที่ 1 เป็นเศรษฐกิจแบบพื้นฐานที่เน้นความพอเพียงในระดับครอบครัว กล่าวคือเป็น
ระบบเศรษฐกิจที่ครอบครัวสามารถพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพิง
ปัจจัยภายนอก (2) เศรษฐกิจพอเพียงระดับที่ 2 เป็นเศรษฐกิจที่เน้นความพอเพียงในระดับองค์กรหรือกลุ่ม
ของตนซึ่งเป็นการพัฒนามาจากขั้นที่หนึ่งหลังจากที่ในระดับครอบครัวมีความมั่นคงแล้ว ในขั้นนี้จะเป็นการ
รวมกลุ่มขนาดเล็กเพื่อทำกิจกรรม (3) เศรษฐกิจพอเพียงระดับที่ 3 เมื่อครอบครัวและกลุ่มมีรากฐานที่มั่นคงแล้ว
เป้าหมายในขั้นน้ีจึงเป็นการสร้างเครือข่ายขึ้นมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการร่วมมือกับกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่ม
วสิ าหกิจชมุ ชนอนื่ ๆ ธนาคาร บริษทั เอกชนเพื่อร่วมมือกนั พฒั นาสินค้าและการตลาด

จากบทสรุปดังกล่าวข้างต้น สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 จึงได้จัดทำข้อเสนอ
เชิงนโยบายด้านสังคมในระดับพื้นที่ เรื่อง “แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวคิดระดับปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง ” 3 ระดับ คือ 1) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่เน้นความพอเพียงในระดับ
ครอบครัว 2) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่เน้นความพอเพียงในระดับองค์กรหรือกลุ่ม
3) แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ผสู้ งู อายุที่เน้นความพอเพียงในระดับเครอื ขา่ ย โดยสรุปได้ดังนี้

30

❖ ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย
1) แนวทางการพฒั นาคุณภาพชีวติ ผู้สงู อายุทเี่ นน้ ความพอเพยี งในระดบั ครอบครวั
(1) สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้สูงอายไุ ดร้ บั การตรวจสขุ ภาพประจำปี และยกย่องเชดิ ชผู ู้สูงอายุทีม่ ีสุขภาพดี

อายุยืน และผูด้ ูแลในครอบครวั ทีส่ ามารถดูแลผู้สงู อายุได้ดี
(2) ส่งเสริมการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุและความรู้คนในครอบครัวในการ

เป็นผ้ดู แู ลผู้สงู อายุอยา่ งต่อเนอื่ ง
(3) ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสัมพันธ์ของคนในครอบครัวโดยนำหลักธรรมะและเศรษฐกิจ

พอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ
(4) ส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารพิษไวบ้ ริโภคในครวั เรือน โดยนำนวัตกรรมด้านการเกษตร

ท่เี หมาะสมกบั วยั ผู้สงู อายุมาใช้
(5) ส่งเสรมิ กิจกรรมพฒั นาศกั ยภาพผู้สงู อายุให้เข้าถงึ เทคโนโลยสี ารเทศอย่างถูกต้อง

2) แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตผูส้ ูงอายุทเ่ี นน้ ความพอเพียงในระดับองค์กรหรือกลมุ่
(1) ควรมีการส่งเสริมอาชีพพัฒนาผลติ ภัณฑ์ผูส้ ูงอายทุ ีม่ ีตลาดรองรับ
(2) ควรส่งเสริมให้ชุมชนผลิตและมีตลาดอาหารปลอดภัย เพื่อเป็นแหล่งอาหารปลอดภัย

ให้กบั ผสู้ งู อายแุ ละคนในชมุ ชน
(3) พัฒนาระบบ “บวร” หรือ บ้าน วัด โรงเรียน ในการทำกิจกรรมด้านการเรียนรู้ ด้านการ

ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมในสงั คม ภูมิปัญญาท้องถ่ินจากผู้สงู อายุ
(4) ส่งเสริมการรวมกลุ่มประกอบอาชีพตามความต้องการของตลาดแกผ่ ้สู ูงอายุในชุมชน
(5) ส่งเสรมิ การเข้าถงึ กองทนุ สำหรบั ส่งเสริมอาชพี ใหค้ รอบคลมุ กลุ่มผสู้ งู อายุ

3) แนวทางการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ผสู้ งู อายุทเี่ น้นความพอเพียงในระดับเครือขา่ ย
(1) พัฒนาแหลง่ เรียนร้ดู ้านเศรษฐกิจพอเพยี ง ทสี่ อดคล้องกบั วัยและการเรยี นรู้ของผสู้ ูงอายุโดย
ให้ผสู้ งู อายุในระดบั พ้ืนทมี่ สี ่วนรว่ ม
(2) พัฒนาขยายกลุ่มจิตอาสาจากแกนนำเด็ก เยาวชน ผู้มีจิตอาสา ในการดูแลผู้สูงอายุเพิม่ เตมิ
ในพื้นที่
(3 ) ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์สำหรับประสานงานและดำเนินกิจกรรมด้านผู้สูงอายุอย่าง
ตอ่ เนอ่ื ง

31

บรรณานุกรม

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย.ระบบสถิติทางทะเบยี น (Online)
http://www.bora.dopa.go.th/index.php/th/,สืบค้นข้อมลู ณ 15 กุมภาพนั ธ์ 2565

กรมกิจการผสู้ ูงอายุ กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่นั คงของมนุษย์.นโยบายดา้ นผสู้ งู อายุ (Online).
http://www.dop.go.th/th/laws/1/29 สืบค้นข้อมูล ณ 15 กมุ ภาพันธ์ 2565

กรมกิจการผู้สูงอายุ.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. ผู้สูงอายุและสิทธิสวัสดิการสำหรับ
ผสู้ งู อายุ (Online). http://www.dop.go.th/th/laws/1/29 สบื ค้นข้อมูล ณ 15 กุมภาพนั ธ์ 2565

กรมกจิ การผูส้ งู อายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย.์ (2563).ยุทธศาสตร์กรมกจิ การผู้สูงอายุ
พ.ศ.2560-2565 ฉบบั ปรับปรุง ครงั้ ที่ 2 พ.ศ.2563.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์เทพเพ็ญวานิสย์.

กรมกิจการผสู้ ูงอายุ.กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย.์ แผนปฏิบัติการดา้ นผู้สงู อายุ ระยะที่ 2
(พ.ศ. 2545 – 2565) ฉบบั ปรับปรงุ ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2563 (Online).
http://www.dop.go.th/th/laws/1/29 สืบค้นขอ้ มลู ณ 15 กมุ ภาพันธ์ 2565

กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (2564).สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบันและ
เศรษฐกจิ ในประเทศไทย. สืบค้นเมอ่ื 20 มถิ ุนายน 2565. https://www.dop.go.th/th/know/15/926.

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 (2564).รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่
รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,
กาฬสินธ,์ุ อำนาจเจรญิ ,อุบลราชธานี

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 (2564) .โครงการวิจัยการส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเศรษฐกิจ
พอเพยี งในการพัฒนาคณุ ภาพชีวิตผู้สงู อายุไทย”

สำนักงานส่งเสริมและสนบั สนุนวิชาการ 1-12 (2558).รายงานวิจยั การจัดสวัสดิการทีเ่ หมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ
ในแต่ละชว่ งวัย.สงขลา:โรงพิมพ์ไอควิ มีเดีย.

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.)รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย ชี้ตัวเลขเกิด-ตายต่ำ
วัยแรงงานลดแตอ่ ตั ราผู้สงู อายุเพ่ิมขนึ้ สืบค้นขอ้ มูลเม่อื 20 มถิ ุนายน 2565 https://thaitgri.org/?p=39784)

สุทธิพงศ์ บุญผดุง (2554) .การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในท้องถิ่นโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานตามหลักเศรษฐกิจ
พอเพียง (ระยะที่ 1)

ชญาน์นันท์ ศิริกิจเสถยี ร และคณะ (2560) .แนวทางส่งเสริมคุณภาพชวี ิตผู้สูงอายุในหมู่บา้ นโพธิ์พฒั นา ตำบลคณฑี
อำเภอเมอื ง จังหวัดแพงเพชร โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ ฐาน.

พพิ ฒั น์ ยอดพฤติการ. 2550. เศรษฐกิจพอเพยี งหมายถึงอะไร. กรงุ เทพมหานคร: สถาบนั ไทยพัฒน์
ภาณุ อดกลัน้ .(2551).ทฤษฎกี ารสูงอายุ:วทิ ยาลัยบรมราชชนนี อุดรธานี
บุษยา ฤกษ์มั่น. (2556). การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการของ

ผ้บู รหิ ารองค์การบรหิ ารส่วนตำบล จังหวดั นครปฐม.กรุงเทพมหานคร.สถาบันบัณฑิตพฒั นาบรหิ ารศาสตร์
นายอนันตศักดิ์ พันธ์พุฒ ,เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง“การเรียนรู้เพื่อเข้าสู่วัยผู้อายุและ

การเตรียมความพรอ้ มในการเข้าสู่วัยผสู้ ูงอายุ ”

32

ภาคผนวก

กิจกรรมโครงการถอดบทเรียนอาสาสมคั รกับการเตรยี มความพร้อมในการเขา้ สู่วยั ผูส้ งู อายุ
อย่างมีส่วนรว่ มในระดบั พนื้ ที่

33

คณะผจู้ ัดทำ

ที่ปรึกษา ผูอ้ ำนวยการสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6
นางสาววรรณา อรญั กุล
หวั หน้ากลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์
กลุม่ นโยบายและยุทธศาสตร์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ
นกั พัฒนาสงั คมชำนาญการ
1. นางสาวศรวี รรณ์ สระแก้ว เจ้าพนกั งานพัฒนาสงั คมชำนาญงาน
2. นายมงคล ดาศรี นกั พฒั นาสงั คมปฏิบตั กิ าร
3. นางสาวป่ินแก้ว นาใจคง
4. นายเทพกร บญุ เทยี บ นักพฒั นาสังคม
5. นายนนธิชยั สาระมยั

ผู้ออกแบบปก

นางสาวชลดา ภูเต้า

34


Click to View FlipBook Version