๑
แบบสรปุ องคค์ วามรกู้ ารศึกษาค้นคว้าเรยี นร้เู พอื่ พฒั นาตนเอง
ใบนำเสนองาน/ใบนำเสนอผังมโนทัน์ (Mind Map)
โครงการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแตง่ ตง้ั
ให้ดำรงตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
ระหว่างวันท่ี 18 – 23 เมษายน 2565
จัดทำโดย
นายวจิ ติ ร พลเศษ
กลมุ่ ท่ี 11 เลขท่ี 3
วทิ ยาลยั เทคนิคสว่างแดนดิน
วทิ ยากรพเี่ ล้ียง ผอ.อดุลชัย โคตะวรี ะ
สำนกั งานพฒั นาสมรรถนะครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
กระทรางศกึ ษาธิการ
๒
โครงการพฒั นาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาก่อนแต่งตั้ง
ใหด้ ำรงตำแหน่งรองผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ระหว่างวนั ที่ 18 – 23 เมษายน 2565
องค์ประกอบการรายงาน (หนา้ 4)
2. ศกึ ษาสารเพื่อการเรยี นรู้ (หน้า 10)
2.1 อ่านหนังสอื ฟังเพ่ือปรับกรอบความคดิ (Mindset) จากหนงั สอื แปล (หนา้ 21)
สรปุ องค์ความร้แู ละการนำไปประยุกตใ์ ช้ (หน้า 21)
2.2 การเตรียมความพร้อมก่อนศึกษาคน้ ควา้ เรียนรูเ้ พ่อื พัฒนาตนเอง
การศึกษาค้นควา้ เรยี นร้เู พือ่ พัฒนาตนเอง คำสำคัญและคำนิยามศัพท์
สมรรถนะหลกั ท่ี 1 การดำรงตนของรองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษาอาชีวศึกษา
ยุคชีวิตวิถีอนาคต (Next Normal)
สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1.1 เจตคตแิ ละกรอบความคดิ แบบเปิดกว้าง
(Growth Mindset) ในการบริหารสถานศึกษาให้
สอดคล้องกบั ชวี ิตวถิ ีอนาคต (Next Normal)
สมรรถนะยอ่ ยที่ 1.2 วนิ ัย การรกั ษาวนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรมและ (หน้า 21)
จรรยาบรรณวชิ าชพี (หนา้ 22)
สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1.3 การดำรงตนของรองผู้อำนวยการสถานศึกษา
อย่างราบรื่นและมีความสุข
สมรรถนะหลักที่ 2 ภาวะผู้นำทางวชิ าการและวชิ าชพี อาชีวศึกษา (หน้า 25)
สมรรถนะย่อยท่ี 2.1 การบริหารการเปล่ียนแปลงดา้ นวิชาการ (หน้า 25)
และวชิ าชีพอาชีวศกึ ษา (หน้า 26)
(หนา้ 29)
สมรรถนะย่อยที่ 2.3 การบรหิ ารงานด้านเทคโนโลยีดจิ ิทลั (หน้า 29)
สมรรถนะหลักท่ี 3 การบริหารและการจัดการในสถานศกึ ษา (หน้า 31)
(หน้า 31)
สมรรถนะย่อยที่ 3.1 การบริหารการจัดการสถานศกึ ษา (หน้า 31)
(หนา้ 32)
สมรรถนะยอ่ ยท่ี 3.2 การสรา้ งเครือข่ายความร่วมมือ
สมรรถนะย่อยที่ 3.3 การจัดระบบงาน และการส่ือสารองคก์ ร
สมรรถนะยอ่ ยท่ี 3.4 การทำงานเปน็ ทีม
ผงั มโนทศั น์ (Mind Map)
สมรรถนะหลกั ที่ 1 การดำรงตนของรองผู้อำนวยการสถานศกึ ษาอาชีวศกึ ษา (หนา้ 33)
ยุคชวี ิตวิถีอนาคต (Next Normal)
สมรรถนะหลกั ที่ 2 ภาวะผูน้ ำทางวิชาการและวิชาชีพอาชวี ศกึ ษา (หน้า 35)
สมรรถนะหลักท่ี 3 การบรหิ ารและการจัดการในสถานศกึ ษา (หน้า 38)
๓
2. ศึกษาสารเพือ่ การเรียนรู้
2.1 อา่ นหนังสอื ฟังเพ่ือปรบั กรอบความคดิ
(Mindset) จากหนังสือแปลสรปุ องคค์ วามร้แู ละการนำไป
ประยกุ ตใ์ ช้
๔
ใบนำเสนองาน
แบบสรปุ องค์ความรู้จากการศกึ ษาหรอื แปล จากหนังสอื อยา่ งน้อย 2 เลม่
องคค์ วามรูท้ ี่สามารถนำมาเป็นแนวทางการปรบั Mindset ของตนเอง
ช่ือวทิ ยากรพี่เลย้ี ง..........ผอ.อดุลชยั โคตะวีระ...........................................................................................
ชือ่ – สกลุ ..................นายวิจิตร พลเศษ...............กลุม่ ที่.........11..................เลขท่ี..................3..............
องคค์ วามรู้ท่ีได้จากการศึกษาคน้ ควา้ เรียนรู้เพ่ือพัฒนาตนเองและการนำไปประยุกต์ใช้จากหนังสอื
เลม่ ท่ี 1
คิดแบบยิว ทำแบบญ่ีปนุ่ ฮอนดะ เคน (Honda Ken) นักศกึ ษาจากญี่ป่นุ ผแู้ ต่ง เขียนถึงคำสอนของ
เกลเลอร์ ผ้ไู มม่ อี ะไรหนีภยั จากนาซี และมาอาศัยอย่สู หรัฐอเมรกิ าโดยได้คำแนะนำช่วยเหลอื จาก เคน ชาวญี่ปุ่น
เกลเลอรเ์ ป็นคนยิว ได้ประกอบอาชพี งานขาย และเปิดรา้ นขายเพชร และอนื่ ๆ จนรำ่ รวยเปน็ เศรษฐี และเขาได้
เจอกับ ฮอนดะ เคน นักศึกษาญี่ปุ่น ผู้แต่งในการพูดเกี่ยวกับสนั ติภาพและวัฒนธรรมญี่ปุ่น และได้เชญิ ฮอนดะ
เคน ไปรับประทานอาหารที่บ้าน ฮอนดะ เคน ก็ตอบตกลง และทำให้ฮอนดะ เคน ได้รู้และอยากได้ความรูจ้ าก
เกลเลอร์ จึงขอให้ เกลเลอร์ สอนในเรือ่ งการเปน็ นักธรุ กจิ ท่ปี ระสบผลสำเรจ็ และเกลเลอร์ได้เร่ิมแนะนำกอ่ นสอน
วา่ ฮอนดะ เคน โดยมีเงื่อนไข ดงั นี้ นักธุรกิจจะตอ้ งองค์ประกอบ 3 อยา่ ง 1. เม่ือตง้ั ใจจะทำอะไรแล้วต้องต้อง
วางแผนเพื่อทำให้สำเร็จ 2. การลงมอื ทำตามแผนทีว่ างไว้ 3. ตอ้ งมีใจสทู้ จ่ี ะทำมนั ให้สำเร็จอย่ามัวแต่กลัวว่าจะ
ทำดีหรือเปลา่ เงื่อนไขต่อมาคอื ตอ้ งรบั ผิดชอบตวั เอง และให้ลมื เรือ่ งเงินและความสำเร็จ หลงั จากนั้น เกลเลอร์
กไ็ ด้เรมิ่ สอน ฮอนดะ เคน สรปุ ได้ 17 ข้อ ดงั นี้
1. รจู้ กั กลไกของสังคม 11. ขอความช่วยเหลอื จากคนอ่ืน
2. รจู้ ักตวั เองและทำในสิง่ ท่ีชอบ 12. เข้าใจคุณคา่ ของการมีคู่ชวี ติ
3. ฝกึ การเพมิ่ พลังสญั ชาตญาณฝึกการมองคน 13. สร้างจิตสำนึกเศรษฐี
14. กล้าตดั สนิ ใจและลงมือทำ
และส่ิงตา่ ง ๆ ให้แตกฉาน 15. รูจ้ ักวิธีรับมอบกบั ความล้มเหลว
4. ตระหนกั ถงึ พลงั ของอารมณแ์ ละความคิด 16. มีความฝนั
5. จงเป็นยอดนกั ขาย 17. ยอมรับทกุ ส่งิ ทเ่ี กดิ ข้นึ ในชวี ิต
6. เปน็ อัจฉรยิ ะดา้ นการพูด
7. ใช้เครอื ขา่ ยคนร้จู ักให้เกิดประโยชน์
8. เรยี นรู้เรื่อง กฎของเงนิ
9. มธี ุรกจิ เป็นของตนเอง
10. ฝกึ ใชต้ ะเกียงวเิ ศษ ของอะลาดนิ ให้ชำนาญ
ในแตล่ ะเร่อื งท่สี อนมกี ารสอดแทรกความรใู้ ห้ ฮอนดะ เคน ได้เรยี นร้ใู นการเปน็ นกั ธรุ กิจท่จี ะประสบ
ผลสำเรจ็ ในชวี ิตทจ่ี ะเปน็ เศรษฐี
๕
องค์ความรูท้ ่ีสามารถนำมาเป็นแนวทางการปรบั และประยกุ ต์ใช้ในการปฏิบัตหิ น้าทรี่ องผอู้ ำนวยการ
สถานศกึ ษา สังกัดสำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน 13 ข้อดงั น้ี
1. รจู้ กั ตวั เองและทำในส่งิ ที่ชอบ 7. กลา้ ตดั สินใจและลงมอื ทำ
2. มีความฝัน 8. รจู้ ักวิธรี ับมือกบั ความล้มเหลว
3. ตระหนกั ถงึ พลงั ของอารมณ์และความคิด 9. รู้จกั กลไกของสังคม
4. ฝึกการเพมิ่ พลงั สญั ชาตญาณฝึกการมองคน 10. ใชเ้ ครือขา่ ยคนรู้จกั ให้เกิดประโยชน์
11. ขอความชว่ ยเหลอื จากคนอื่น
และสิง่ ตา่ ง ๆ ให้แตกฉาน 12. เข้าใจคุณคา่ ของการมคี ู่ชวี ิต
5. เป็นอจั ฉริยะด้านการพูด 13. ยอมรบั ทกุ สิง่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชวี ิต
6. จงเป็นยอดนักขาย
1. รู้จักตัวเองและทำในสิ่งที่ชอบ นำมาปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการสถานศึกษาหัวข้อ
แรกเพราะการที่ปฏิบัติหน้าท่นี ี้ตอ้ งรู้จักบทบาทของตนเองว่ามีความชอบหรือไม่ในการปฏิบตั ิงานในหน้าท่ีนี้ ถ้า
ปฏิบัติแล้วมีความสุข ผลงานจะออกมาในระดับดีหรือดมี าก เพราะมีความทุ่มเทการปฏบิ ัติหน้าที่ และสามารถ
ทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย แต่ถ้าตรงกันข้ามผู้ปฏิบัติหน้าที่ไม่มีความสุขก็จะทำให้งานไม่สำเร็จหรือมี
ความล้าชา้ คนรอบขา้ งก็จะไมม่ คี วามสขุ ไปดว้ ย
2. มีความฝัน เป็นสิง่ ท่ีจำเปน็ ในการปฏิบตั ิหน้าท่ีเพราะเม่ือมคี วามฝันก็จะให้ทุกคนในประเทศไทยหรือ
ในโลก ไล่ตามความฝันของตนเอง ทำใหก้ ารทำงานนน้ั ๆ ประสบผลสำเรจ็ บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ได้เป็นอย่างดีมาก
ถึงดเี ยีย่ ม เชน่ ผมฝันวา่ หลังจากได้ปฏิบัตหิ นา้ ทร่ี องแลว้ กฝ็ ันทจ่ี ะอยากปฏิบตั หิ น้าที่ผู้อำนวยการต่อไป 3 .
ตระหนกั ถึงพลังของอารมณแ์ ละความคิด กระบวนดา้ นความคดิ ในการปฏบิ ตั ิงานต้องคำนงึ ถึงสว่ นรวมเป็นสำคัญ
ปฏบิ ตั อิ ยู่ในหลักการแนวทางการท่ีเหมาะสม และอย่าใชอ้ ารมณใ์ นการทำงานตอ้ งร้จู ักขม่ ใจตนเองไม่ว่าจะอยู่ใน
สถานการณ์แบบไหนก็ตาม ต้องคดิ และแกไ้ ขปัญหาให้สำเร็จ
4. ฝึกการเพิ่มพลังสัญชาตญาณฝึกการมองคนและสิ่งต่าง ๆ ให้แตกฉาน การเป็นผู้บริหารต้องรู้และ
เข้าใจผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของตนเอง ต้องอ่านใจและศึกษาข้อมูลของแต่ละคนว่ามีแนวคิดและการปฏิบัติงาน
อย่างไรแล้วคอ่ ยแนะนำส่งเสริมให้การปฏบิ ัติงาน การสร้างแรงจูงใจ การให้กำลังใจ การยกย่องชมเชย ผลก็จะ
ทำใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั ิงานมีความรกั และศรทั ธาในหน้าที่ งานทไ่ี ด้กจ็ ะประสบผลสำเร็จ
5. เป็นอัจฉริยะด้านการพูด ผู้บริหารจะต้องมีทักษะด้านการสื่อสารที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย
หรือภาษาสากลทว่ั โลกใช้ เพราะการสือ่ สาร การฟงั ที่ดีเกดิ ความเข้าใจ เพ่อื นำสู่การปฏิบัติให้บรรลุวัตถุประสงค์
นัน้
6. จงเป็นยอดนักขาย การเป็นผู้บริหารต้องเป็นนักประชาสัมพันธ์ เชิญชวน แนะนำกระบวนการจัด
การศึกษาที่เป็นเลิศของสถานศึกษา ถึงการจัดการศึกษาที่ดีต่อนักเรียน นักศึกษา ประชาชนผู้สนใจ สามารถ
แขง่ ขันกบั นานาประเทศได้ และได้รับการยอมรบั จากผูป้ กครองประชาชน ชมุ ชน สังคม หรอื หนว่ ยงานด้านการ
รบั รองคุณภาพมาตรฐานการศึกษา
7. กล้าตัดสินใจและลงมอื ทำ การปฏิบัติหน้าที่ต้องมีความหนักแน่น ศึกษาข้อมูลทางบวกและลบแล้ว
ตัดสนิ ใจลงมอื ปฏิบัติ
8. รู้จักวิธีรับมือกับ ความล้มเหลว เมื่อมีการลงมือปฏิบัติแล้ว ต้องรู้จักวิธีการรับมือกับความล้มเหลว
หรอื การไมส่ ำเรจ็ ของงานหรอื ไม่เปน็ ไปตามเป้าหมายท่ีกำหนด หาแนวทางปรับแกไ้ ข
๖
9. รู้จักกลไกของสงั คม สังคมไทยสังคมโลกในปัจจุบันมีการแข่งขนั ตลอดเวลาไม่ว่าในอาชีพไหนกต็ าม
หรือแม้แต่การรับราชการก็มีการแข่งขันกันเพราะมีตัวเร่งที่สำคัญคือ เงิน แต่ผู้บริหารต้องสร้างกลไกที่จะทำให้
ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดความรัก และศรัทธาในวิชาชีพของตนเอง และคิดค้นผลงานนวัตกรรมทางการ ศึกษา
นำมาใช้ให้เกิดผลดตี อ่ ผู้เรยี น อย่างยง่ั ยืนและตลอดไป
10. ใช้เครอื ขา่ ยคนรู้จกั ให้เกิดประโยชน์ การรจู้ กั คนจำนวนมากและในสาขาอาชีพต่าง ๆ ของการเป็น
ผู้บริหารจะเป็นผลดีต่อนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ชุมชน สังคม เพราะเครือข่ายที่รู้จักจะช่วยในการจัด
การศึกษาไดอ้ ยา่ งดี
11. ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ไม่มีงานใดหรืออาชีพใดที่จะสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว แต่หากต้อง
พึ่งพาหรือความช่วยเหลือจากคนอื่น หรือความร่วมมือจากคนอื่นในการดำเนินงาน การบริหารสถานศึกษาก็
เหมอื นกันตอ้ งอาศัยข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาในการขับเคลอ่ื นถงึ จะประสบผลสำเรจ็
12. เข้าใจคุณค่าของการมีคู่ชีวิต การทำหน้าที่ผู้บริหารต้องมีความเข้าใจในชีวิตคู่ทั้งของตนเองและ
ผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ต้องทำหน้าทีด่ ูแลและสร้างความเขา้ ใจร่วมกันในทุก ๆ ด้านในชีวิตคู่และครอบครัว ให้ก้าว
ต่อไปไดอ้ ยา่ งมง่ั คง ก็จะเกดิ ผลดตี อ่ การปฏบิ ตั งิ านทกุ หนา้ ที่
13. ยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต การยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานหรือการดำรงชีวิตใน
สังคม ผูบ้ ริหารหรอื ทุกคนทปี่ ระกอบอาชีพต้องพร้อมยอมรบั ไม่ว่าเรอื่ งนั้นจะดีหรอื ร้าย
การเป็นผู้นำ หรือผู้บริหารนั้นไม่ได้ประสบผลสำเร็จได้ด้วยตัวเอง แต่หากต้องอาศัยความร่วมมือจาก
บุคคลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกัน และผู้บริหารต้องมีความรัก ศรัทธา ในอาชีพและมีเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมท้ัง
ปฏบิ ัติตาม กฎระเบียบ ขอ้ บังคับ แนวทางการบรหิ ารแบบราชการท่ีเหมาะสมถึงจะบรรลุเป้าหมายและประสบ
ผลสำเร็จในการพัฒนาการศกึ ษาไทยให้ยัง่ ยนื
องค์ความร้ทู ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ เรียนรเู้ พื่อพัฒนาตนเองและการนำไปประยุกตใ์ ช้จากหนงั สือ
เล่มท่ี 2
การศกึ ษาคณุ ภาพสงู ระดับโลก ศ.นพ.วจิ ารณ์ พาณิช ปิยาภรณ์ มณั ฑะจติ ร ผแู้ ตง่ เขียนถึง
ประเทศสิงคโปร์ ประเทศทไี่ ร้ทรพั ยากร ผนู้ ำ ลี กวน ยู ผู้นำประเทศไดส้ ร้างสังคมท่ีสะอาดบริสทุ ธจิ์ าการ
คอร์รปั ช่นั และเรง่ ทรัพยากรมนุษย์ใหเ้ ปน็ พลเมืองคุณภาพสูง และสอดคล้องกับนโยบายการศึกษาตอ่ เนื่องกบั
ยุทธศาสตร์การพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศ โดยมกี ารพัฒนาการศกึ ษามาถึง 3 ยุค โดยเริม่ จากการศึกษาระดับ
ต่ำ พัฒนาในระดับทส่ี งู ขน้ึ จนถงึ ระดับปรบั ใหเ้ ขา้ กับยคุ แห่งการคน้ พบและประยุกตค์ วามรูใ้ หม่ ปรบั การศึกษา
ใหเ้ นน้ นวัตกรรม การสร้างสรรค์ และการวิจัย รฐั ออกทุนให้ และดงึ คนเก่ง มาเปน็ อาจารย์และดึงดูดบริษัทที่
เน้นพัฒนานวตั กรรมเข้ามาในประเทศ ประเทศสงิ คโปร์มีการยกระดบั คณุ ภาพและฐานะของครูผา่ น NIE
(National Institute of Education) โดยใหโ้ รงเรียนมกี ารรวมกลุ่มกนั มอี สิ ระในการบริหารจัดการ รวมถงึ มี
การส่งเสรมิ ยกย่องผุ้นำโรงเรียนทีม่ ผี ลงานดี ปัจจัยหลักทีส่ ง่ ผลตอ่ ความสำเร็จของสิงคโปร์
1. วิสัยทัศน์และภาวะผู้นำ 2.วัฒนธรรมใหค้ ุณคา่ ความสามารถและผลงาน 3. ตัง้ มาตรฐานไวส้ ูง
4. ระบบหลักสตู ร การเรียนการสอน และการประเมิน 5. ครูและครูใหญม่ คี ณุ ภาพสูง 6. ความเชื่อมโยง
7. ความรับผดิ ชอบ 8. เน้นโลกและอนาคต
๗
ประเทศแคนาดา
รัฐอลั เบอร์ตา มีการจดั ระบบการศึกษาทีม่ คี ุณภาพสงู ประกอบดว้ ย 5 ประการ
1. หลกั สตู รคุณภาพสูง พัฒนาโดยครเู อง และให้อิสระในการประยกุ ต์ใช้หลกั สตู ร ถงึ เกรด 12
2. ครูคุณภาพสูง เงินเดือนสูง ดึงดูดคนที่มีความสามารถสูงมาเป็นครู ครูต้องเสนอแผนพัฒนาตนเอง
ประจำปีโดยแผนนั้นต้องสอดคล้องกับหลักสูตรของโรงเรียนและของรัฐ โดยครูเป็นผู้เสนอวิธีการบรรลุ
แผนพัฒนาตนเอง
3. โปรแกรมการวิจัยชนั้ เรียน สง่ เสริมงานวจิ ัยและพัฒนาเพื่อให้ครใู นโรงเรยี นรวมตัวกนั สรา้ งนวัตกรรม
ในการเรียนการสอน
4. ระบบความรับผิดชอบ การทดสอบหลังเรียนจบ 3 6 9 และ 12 เพื่อรับใบประกาศนียบัตร และ
รายงานผลการทดสอบให้กระทรวงศกึ ษาธกิ ารรฐั
5. นโยบายสร้างการเปล่ียนแปลง ผนู้ ำสรา้ งแรงกระตนุ้ ด้านนโยบายการศกึ ษา
รัฐออนแทรีโอ ปรับการศึกษาจากการทดสอบครูมาเป็นการส่งเสริมพัฒนาและมีการปรับปรุงระบบ
การศกึ ษาให้ดขี ึ้นเปน็ ลำดบั ปัจจยั ท่สี ง่ ผลตอ่ ความสำเร็จ 4 ประการ
1. ยุทธศาสตร์ดำเนินการทั่วท้งั รฐั การจดั การศึกษาโดยรัฐไม่ใชร่ ฐั บาลกลาง จงึ ทำดำเนินการได้สะดวก
และมกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรู้ระหว่างรฐั ผ่าน Council of Ministers และผ่านกลไกทางวชิ าการ
2. ร่วมมือกับสหภาพครู และภาคีอื่น ๆ มีการร่วมมือของกลไก Ontario Education Partnership
Table จัดประชมุ รว่ มกันปลี ะ 2-4 ครงั้
3. เน้นการจัดการเรียนการสอน เป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ ระดับ รฐั เขต โรงเรียน ช้ันเรียน
4. เน้นประสทิ ธิผลของครู เน้นวชิ าชีพครู คนเกง่ มาเป็นครู เงินเดือนดี ทำให้มีความสำเร็จ
ประเทศฟนิ แลนด์
ฟินแลนด์ เป็นประเทศเกษตรกรรม การทำป่าไม้ ระบบการศึกษาเดิมเรียนจบมธั ยมศึกษาตอนปลาย
รอ้ ยละ 40 และระบบการศกึ ษาที่ล้าหลัง 30 ปกี ่อน เมื่อประเทศเจอกบั ระบบเศรษฐกิจทต่ี กต่ำทำให้ประชาชน
ตกงาน ผู้นำได้มกี ารวิเคราะห์และปรับปรงุ ระบบการศกึ ษาให้ดียง่ิ ขึ้น โดยมปี จั จยั หลักท่นี ำไปสู่ความสำเร็จมี 4
ประการ
1. มุง่ สรา้ งความเท่าเทียม สรา้ งความเทา่ เทยี มทางการศึกษา
2. ครคู ณุ ภาพสูงมาก ระบบเรยี นรแู้ ละการพฒั นาตอ่ เนื่องของครู จากการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีครูท่ีมีเป้าหมาย
No child left behind
3. หลกั สูตรเปดิ กล้างและยดื หยุ่น ให้เดก็ มคี วามรับผิดชอบการเรยี นของตนเองต้ังแต่เด็ก
4. ความรบั ผิดชอบดา้ นวิชาชพี ครูมีความรับผดิ ชอบต่อผลการเรยี นของศษิ ย์
ประเทศจีน
เซยี งไฮ้ จากเดิม จีนมกี ารเรียนการสอนแบบทอ่ งจำ ปรบั หลักสตู รการเรียนแบบใหม่ เพอ่ื เตรียมพลเมอื ง
เป็นพลเมอื งโลก และเซียงไฮ้ มกี ารปรับมาตรการกระจายครสู อนเกง่ ไปททั่วมณฑลใหค้ วามชว่ ยเหลือแนะนำการ
จัดกาเรียนการสอนแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันและปรับโรงเรียนที่มีอยู่ให้มีมาตรฐานเดียวกัน โดยโรงเรียนพ่ี
โรงเรียนน้องช่วยเหลือในการจัดการศึกษาให้ดีขึ้นและผลที่ได้ก็ขยายทั่วประเทศ ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อ
ความสำเร็จ 5 ประการ
1. วิสัยทัศนท์ ที่ า้ ทายและระยะยาว
2. มาตรฐานและหลักสูตรแกนที่ท้าทาย
๘
3. ระบบการพฒั นาครูท่ดี เนินการอย่างจรงิ จัง
4. วัฒนธรรมใหค้ ณุ ค่าสงู แก่การศึกษา
5. เน้นความเปน็ นานาชาติ
ประเทศออสเตรเลยี
ออสเตรเลีย มีการบริหารแบบรฐั เปน็ ประเทศทกี่ วา้ งใหญ่มาก มเี ดก็ ที่อยู่หา่ งไกล จึงมกี ารใชเ้ ทคโนโลยี
ช่วยการศึกษามากในโรงเรียนมีเด็กที่ Teleconference จากห่างไกลเข้ามาเรียน ในลักษณะการเรียนทางไกล
ทำให้การศึกษาที่ถดถอย จึงได้มีการพัฒนาของหลักสูตร ที่จะทำให้เยาวชนของออสเตรเลีย มีทักษะ ความรู้
ความเขา้ ใจ สามารถอยู่รว่ มกันและมคี วามก้าวหนา้ ทางสงั คม แข่งขนั ในโลกแห่งโลกาภิวตั น์ ประสบผลสำเร็จใน
หน้าที่การงานในอนาคตที่ต้องใช้ข้อมูลที่ซับซ้อน และเยาวชนทุกคนต้องเข้าถึงไม่ว่าจะฐานะใดเน้นความเท่า
เทียมอย่างชัดเจน และออสเตรเลียมกี ารจดั ต้ัง ACARA มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ของระบบโรงเรียน
และ Australian Institute for Teaching and School Leadership เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศของอาชีพครู
และภาวะผนู้ ำทางการศึกษา
จากการศึกษาหนงั สือการศึกษาคณุ ภาพสูงระดับโลก ศ.นพ.วจิ ารณ์ พาณิช ปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร
ผูแ้ ตง่ พบว่า การจัดการศกึ ษาของประเทศท่ีมีความสำเร็จในการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพที่สูงที่ข้าพเจ้าได้อ่าน
และนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบวิชาชีพครูและรองอำนวยการสถานศึกษาผู้บริหารสถานศึกษา แบ่ง
ออกเป็นหัวข้อไดด้ ังน้ี
1. วิสัยทัศน์และภาวะผู้นำ นโยบายเกี่ยวกับระบบการจัดการศึกษาที่ตอ่ เนื่องและพัฒนาที่ต่อเนื่องอยู่
ตลอดเวลา และบรรลุเป้าหมายที่กำหนด ผู้บริหารสามารถนำนโยบายทีก่ ำหนด มาขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติและ
ประสบผลสำเรจ็
2. กำหนดมาตรฐานสงู หรือท้าทาย นำไปประยกุ ตเ์ กีย่ วกับตวั นกั เรยี นนักศึกษาวัดความสำเร็จ
3. สรา้ งความเท่าเทียมทางการศึกษาในประเทศไทย คือการปรบั ใหน้ ักเรยี นนักศกึ ษาได้รบั การศึกษาใน
ทุกสถานศกึ ษาให้มีความเท่าเทยี มกัน เดก็ ทกุ คนไดร้ ับการศึกษาไดท้ กุ ที่แม้จะอยู่ในฐานะใดกไ็ ด้รับการศึกษาท่ีมี
คณุ ภาพท่ดี ี
4. หลักสตู รการจัดการเรียนการสอน ผูบ้ ริหารตอ้ งมคี วามรู้ความเข้าใจในหลักสตู รและมีการส่งเสริมให้
ครูมีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่น เหมาะสมกบั นักเรียน นักศึกษา ท้องถิ่น และประยกุ ต์ใช้ใน
การนำไปประกอบอาชีพ และการพัฒนาประเทศ
5. สร้างครูคุณภาพสูง เงินเดือนสูง ดึงดูดคนที่มีความสามารถสูงมาเป็นครู ครูต้องเสนอแผนพัฒนา
ตนเองประจำปีโดยแผนนน้ั ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรของสถานศึกษาและของรัฐ โดยครเู ป็นผเู้ สนอวธิ ีการบรรลุ
แผนพัฒนาตนเอง และมสี ถานบันทีพ่ ัฒนาครูอยา่ งตอ่ เน่ืองทกุ ๆ ปี โดยการส่งเสริมของสถานศึกษาหรอื ภาครัฐ
6. สร้างวัฒนธรรมให้คุณค่าสูงแก่การศึกษา ส่งเสริมพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักคุณค่าการศึกษา และ
ผ้ปู กครอง เพื่อให้สูค่ วามสำเรจ็ ในการศึกษาและอาชีพการงานในอนาคต ทจ่ี ะแขง่ ขันกบั นานาประเทศได้
7. สรา้ งแรงจูงใจของนกั เรยี นนักศกึ ษา
8. มุ่งเรยี นเปน็ พลโลก และเพอ่ื อนาคต
๙
2. ศกึ ษาสารเพือ่ การเรยี นรู้
2.2 การเตรยี มความพรอ้ มก่อนศกึ ษาค้นคว้าเรยี นรู้
เพ่อื พัฒนาตนเอง การศกึ ษาค้นควา้ เรยี นรู้เพอื่ พฒั นาตนเอง
คำสำคัญและคำนยิ ามศัพท์
๑๐
ใบนำเสนองาน
การศกึ ษาคน้ ควา้ เรยี นรเู้ พ่ือพฒั นาตนเอง คำสำคัญและคำนิยามศัพท์
ชื่อวิทยากรพ่เี ลีย้ ง..........ผอ.อดลุ ชยั โคตะวีระ...........................................................................................
ช่อื – สกุล..................นายวจิ ติ ร พลเศษ...............กลุ่มท.่ี .........11.................เลขท่.ี ...........3....................
ลำดบั ท่ี คำสำคัญและนยิ ามศัพท์ คำอธบิ าย
(Keyword/Definition) (Description)
ทักษะหรือความสามารถที่ใช้ในการทำงานในแต่ละสายอาชีพ ซ่ึง
1 Hard Skills สามารถวัดประเมินผลได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การอ่าน การเขียน
การคำนวณ การทำบัญชี การเล่นกีฬา การเขียนโปรแกรม การวาด
ภาพ การวิจัย การทำอาหาร การใช้เครอ่ื งมือตา่ งๆ เปน็ ต้น
2 Soft ware ชดุ คำส่ังหรอื โปรแกรมทใี่ ช้สง่ั งานใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงาน
แนวคดิ การทำงานแบบผสานงานกับการใช้ชวี ติ เข้าดว้ ยกนั ชนดิ ท่ี
"ไร้รอยต่อ" เป็นการบริหารจัดการลำดับความสำคัญของเวลางาน
3 Work life integration และครอบครัวตามความเหมาะสม โดยนำใช้เทคโนโลยีในรูปแบบ
ตา่ ง ๆ ทง้ั โทรศพั ทส์ มารท์ โฟน อินเตอร์เนต็ และระบบคลาวด์
มาเปน็ ตวั ชว่ ยใหก้ ารทำงานแบบ Work-Life Integration
ลักษณะอปุ นิสัย และทกั ษะความสามารถเชิงสมรรถนะ ท่ีช่วยให้คุณ
4 Soft Skills สามารถทำงานและสื่อสารกับผู้อื่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะ
ส่วนใหญ่ จำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้ แต่บางประเภท ก็เป็นสิ่งที่มี
มาแต่กำเนิด
ความเช่ือว่าตวั เองสามารถพัฒนาได้ด้วยความพยายาม ถึงแม้คนเรา
5 Growth Mindset จะเกิดมาแตกตา่ งกันจากพรสวรรค์ ความถนัด ความสนใจ หรือนิสัย
ใจคอ แต่ทุกคนก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยความพยายามและ
ประสบการณ์
สว่ นกายภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ แบ่งเปน็ 3 สว่ นใหญ่ ๆ คอื
1. หน่วยรับข้อมูล เช่น แป้นพิมพ์ หน่วยบันทึก 2. หน่วยความจำ
6 Hardware เช่น ชิป (chip) หรือหน่วยความจำรอง เช่น จานบันทึก 3. หน่วย
แสดงผล เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ ฯลฯ นอกจากนั้นยังรวมถึง
อปุ กรณ์ ประกอบอ่ืน ๆ เชน่ โมเดม็ ดู software เปรยี บ เทยี บ
ความเชื่อว่าตัวเองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะ
7 Fixed Mindset หลีกเลี่ยงความท้าทาย ไม่ชอบความลำบาก ยอมแพ้ง่าย มองว่า
ความตั้งใจและความพยายามไม่มีค่า กระทั่งไม่ได้ใส่ใจคำแนะนำ
ตกั เตอื นท่ีมีประโยชน์จากคนอื่น
๑๑
ลำดับที่ คำสำคัญและนิยามศัพท์ คำอธิบาย
(Keyword/Definition) (Description)
การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปใหเ้ ป็น “สารสนเทศในลักษณะของ
8 Infographics ขอ้ มูล” (สญั ลักษณ์ กราฟ แผนภมู ิ ไดอะแกรม แผนท่ี) เพ่ือใหเ้ ข้าใจ
ได้งา่ ยและรวดเรว็
การเรียนรู้ที่จัดประสบการณ์ในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้เรียน
เหมือนกับการทำงานในชีวิตจริงอย่างมีระบบ เพื่อเปิดโอกาสให้
9 Project-Based Learning : PjBL ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา วิธีการหา
ความรู้ความจริงอยา่ งมีเหตุผล ได้ทำการทดลอง ได้พิสูจน์สิง่ ต่าง ๆ
ด้วยตนเอง
ทศั นคตแิ บบสากล เปน็ การมองภาพในมุมกวา้ ง ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะ
ความรู้ในประเทศ แต่ต้องรู้ให้เท่าทันโลกที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
10 Global Mindset โดยพิจารณาข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง แล้วนำไปคิดวิเคราะห์
เพื่อให้เข้าใจความเป็นไปของโลก ซึ่งทัศนคติแบบสากลนี้ ถือเป็น
หน่งึ ในทักษะท่สี ำคญั และจำเป็นอยา่ งย่ิงโดยเฉพาะคนทเ่ี ปน็ ผ้นู ำ
ทักษะในการนำเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีอยู่ใน
ปัจจุบัน อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แทปเลต โปรแกรม
11 Digital Literacy คอมพิวเตอร์ และสื่อออนไลน์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการ
สื่อสาร การปฏิบัติงาน และการทำงานร่วมกัน หรือใช้เพื่อพัฒนา
กระบวนการทำงาน
ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องทีเ่ ก่ียวข้องกับการเงิน รวมทั้งมีทักษะใน
การบริหารจัดการ เช่น การจัดงบประมาณการใช้เงินในหมวดหมู่
12 Financial Literacy ต่างๆ การลงทุน การกู้ยืม ภาษี และการบริหารจดั การเร่ืองการเงนิ
ส่วนตัวในภาพรวม การมีความรู้ทางด้านการเงินเบื้องต้นทำให้
สามารถเตรียมการ วางแผนเร่ืองการเงินในการดำเนนิ ชีวิตได้
13 Authentic Instruction การเรียนการสอนตามสภาพจรงิ
การจัดการศึกษาแบบ ผสมกลมกลืนระหว่างประสบการณ์ทำงาน
14 Work Integrated Learning ทางวิชาชีพนอกห้องเรียน กับการเรียนในห้องเรียน ทั้งในรูปแบบ
การศกึ ษาวิจัย การฝกึ งาน การทำงานเพือ่ สงั คม การทำงานในสถาน
ประกอบการหรือการฝึก ประสบการณ์วิชาชีพ
เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและมี
ปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลาย
15 Active Learning รูปแบบ เช่น การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การระดม สมอง การ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการทากรณีศึกษา เป็นต้น โดย
กิจกรรมทีน่ ามาใช้ควรช่วยพฒั นาทักษะการ คดิ วิเคราะห์
๑๒
ลำดับท่ี คำสำคญั และนยิ ามศัพท์ คำอธิบาย
(Keyword/Definition) (Description)
การสร้างระบบการศึกษายกกำลังสอง ก็เพื่อให้เกิด “การศึกษาที่มี
ความเป็นเลิศ (Education for Excellence)” ทก่ี ารศึกษาจะต้องมี
ความยดื หยุน่ เท่าทันกับบริบทภายนอก และกระแสโลกท่ีเปล่ียนไป
อย่างรวดเร็ว สามารถพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศ ที่ตอบโจทย์
ความต้องการของสังคมและตลาดได้ ซึ่งจะต้องมุ่งเน้นไปที่การ
พัฒนาศักยภาพบุคคล สู่ความเป็นเลิศในแบบฉบับของแต่ละคน
นั่นเอง รมว.ศธ.กล่าวถึง โมเดลการศึกษายกกำลังสอง (Thailand
Education Eco-System Model) ประกอบด้วย
HCEC (Human Capital Excellence Center) หรือ ศูนย์
16 Eco System College พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ ซึ่งเป็นหน่วยพัฒนาทุน
มนุษย์ (HR) ของประเทศ เพื่อตอบโจทย์อาชีพ อุตสาหกรรม และ
ธุรกิจ
DEEP (Digital Education Excellence Platform) ห รื อ
แพลตฟอร์มด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ เป็นหน่วยบริหาร
จัดการองค์ความรู้ (KM) ของประเทศ เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้
ตลอดชวี ิต
EIDP (Excellence Individual Development Plan) ห รือ
แผนพัฒนารายบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ ซึ่งเป็นต้นแบบการพัฒนา
ศักยภาพบุคคล (Human Potential : HP) เพื่อตอบโจทย์เส้นทาง
ความสำเร็จของชีวติ
การท่ีกลุ่มคนท่ีมีความสนใจในเรื่องใดเร่ืองหน่ึงร่วมกนั มารวมตัวกัน
17 Knowledge Sharing และแลกเปลีย่ นเรียนรู้ ดว้ ยความสมคั รใจ เพ่ือรว่ มสร้างความเข้าใจ
หรือพัฒนาแนวปฏิบัตใิ นเรื่องน้นั ๆ องคป์ ระกอบหลักท่สี าคัญๆ ของ
การแลกเปล่ยี นเรียนรู้ (Knowledge Sharing)
เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และใช้
18 Multimedia คอมพิวเตอร์แสดงผลในลักษณะผสมสื่อหลายชนิดเข้าด้วยกัน ทั้ง
ตัวอักษร รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว วิดีโอ โดยเน้นการโต้ตอบ
และมีปฏิสัมพันธ์กบั ผู้ใช้
19 App Google Sheet แอปสเปรดชีตออนไลน์สำหรับสร้างและจัดรูปแบบสเปรดชีตและ
ทำงานร่วมกับคนอน่ื ๆ ดาวนโ์ หลดข้อมูลสรุป
ช่วยให้คุณสร้างสเปรดชีตที่สวยงามบน Mac, iPad หรือ iPhone
20 Apple number รวมถึง PC ได้โดยใช้ iWork สำหรับ iCloud และยังสามารถใช้งาน
รว่ มกับ Apple Pencil ไดอ้ ีกดว้ ย
๑๓
ลำดับท่ี คำสำคญั และนิยามศพั ท์ คำอธิบาย
(Keyword/Definition) (Description)
หลักการสร้างความสำเร็จด้วยกฎแห่งความสำเร็จ The Law of
Success เป็นหนังสือที่ได้รับการยอมรับสูงสุดจนเรียกได้ว่า เป็น
หนังสือต้นแบบของหนังสือ Self-improvement ในปัจจุบัน ผู้แต่ง
คือ Dr. Napoleon Hills ทา่ นผูน้ ้มี คี วามสามารถและโด่งดงั จนไดร้ ับ
21 The Law of Success ความไว้วางใจ ให้เป็นที่ปรึกษาของ ประธานาธิบดี อเมริกา ถึงสาม
สมัย ผู้แต่งใช้เวลา รวบรวมข้อมูลนานกว่า 20 ปีในการสัมภาษณ์
บุคคล ที่ประสบความสำเร็จทั่วทั้ง สหรัฐอเมริกา เพื่อนำข้อมูล
ดังกลา่ วมาวิเคราะห์ว่า บคุ คลเหลา่ นีม้ ีมุมมองและแนวคิดอย่างไร ท่ี
นำพาไปสู่ความสำเร็จ ตัวอย่างบุคคลดังกล่าวคือ Henry Ford,
Firestone, Thomas Edison เปน็ ตน้
เปน็ ระบบทช่ี ่วยในการสร้างและเผยแพร่แฟม้ สะสมงาน (Portfolio)
ในระบบ Online ผ่านทางอินเทอร์เน็ต สำหรับบุคคลและองค์กร
22 e-Portfolio ต่างๆ ที่ต้องการสะสมผลงานเป็นการนำเสนอเอกลักษณ์ ปรัชญา
เป้าหมาย ทักษะ ความสามารถ ผลงานของเจ้าของผ่านส่ือ
อิเล็กทรอนิกส์ เปลี่ยนขอ้ มูลและเนื้อหาสาระจากแฟ้มผลงานที่เป็น
แผน่ กระดาษ
การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นวิธีการเรียนที่เริ่มต้นด้วย
ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงหรือสถานการณ์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง
เปน็ ตัวกระตุ้นใหผ้ ้เู รียนอยากรู้ สนใจ ซึง่ อยบู่ นพืน้ ฐานความต้องการ
23 Problem-Based Learning : PBL ของผู้เรียน และได้ทำการศึกษาค้นคว้าจนค้นพบคำตอบด้วยตนเอง
โดย ใช้กระบวนการกลุ่ม แล้วนำความรู้ที่ได้ค้นคว้ามาร่วมกัน
อภิปราย ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ผ่าน กระบวนการคิด การ
แก้ปัญหา โดยครูผู้สอนเป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำช่วยเหลือและ
สนับสนุนในการเรยี น
ศูนยค์ วามเปน็ เลิศทางการอาชวี ศึกษา (Excellent Center)
1.พฒั นากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (10+2+1) (10 +
2 อตุ สาหกรรมเปา้ หมาย + 1 โครงสร้างพน้ื ฐานของประเทศ)
2.จัดการศึกษารองรับการพัฒนากำลังคนในเขตพัฒนาพิเศษ
24 Excellent Center College (EEC/SEC/SEZ)
3.พฒั นาความรว่ มมอื กบั ภาครฐั และเอกชน
4.พัฒนาทักษะทางวิชาชีพและภาษา (อังกฤษ จีน และภาษาใน
อาเซยี น)
5.อาชวี ะฐานวิทย์ฯ/มาตรฐาน KOSEN
๑๔
ลำดบั ที่ คำสำคัญและนิยามศัพท์ คำอธิบาย
(Keyword/Definition) (Description)
การอาชีวศึกษาส่สู ากล (Global College)
วิสัยทศั น์ พันธกิจ ของสำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
วสิ ยั ทศั น์
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา เปน็ องคก์ รผลติ และพัฒนา
กำลังคนที่มีคณุ ภาพและได้มาตรฐานสากล ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประเทศตามเป้าหมาย
ยทุ ธศาสตร์ชาติ
พันธกิจ
1.จัดและส่งเสริมและพัฒนาการอาชีวศึกษา และการอบรมวิชาชพี
ให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน มุ่งตอบสนองต่อความต้องการของ
ประเทศ
2.ยกระดับคณุ ภาพและมาตรฐานกำลงั คนสายอาชีพสู่สากล
3.ขยายโอกาสทางการศกึ ษาสายอาชีพใหท้ ั่วถึง ต่อเนื่อง เสมอภาค
และเป็นธรรม
4.เป็นแกนกลางในการจัดอาชีวศึกษาและอบรมวิชาชีพ ระดับฝีมือ
25 Global College เทคนิค และเทคโนโลยขี องประเทศ
5.สร้างเครือข่ายความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการ
พฒั นาการจัดการอาชีวศึกษา และการฝึกอบรมวชิ าชพี
6.วิจยั สรา้ งนวตั กรรม จัดการองคค์ วามรู้เพือ่ การพฒั นาอาชพี และ
คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน
7.สง่ เสริมและพัฒนาครแู ละบุคลากรอาชีวศึกษาให้มศี ักยภาพสูงขึ้น
และมีความกา้ วหนา้ ในวชิ าชีพ
ยุทธศาสตร์ ของสำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
1.ยุทธศาสตร์ดา้ นความมน่ั คง
2.ยุทธศาสตรด์ ้านการสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั
3.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพย าก ร
มนษุ ย์
4.ยุทธศาสตร์ด้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม
5.ยทุ ธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรต่อ
สงิ่ แวดล้อม
6.ยุทธศาสตร์ด้านการปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบการบริหารจัดการ
ภาครฐั
๑๕
ลำดบั ที่ คำสำคัญและนิยามศพั ท์ คำอธิบาย
(Keyword/Definition) (Description)
การอาชวี ศกึ ษาเพอ่ื ส่ิงแวดลอ้ ม
1. บทบาทของผบู้ รหิ ารในการจดั การสงิ่ แวดลอ้ มโดยภาพรวมอยู่ใน
ระดับมากโดยเรยี งค่าเฉลย่ี จากมากไปน้อย คอื
- ด้านการจัดกิจกรรมรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อมของ
สถานศกึ ษา
- ดา้ นการบริหารงานสิ่งแวดล้อมของสถานศกึ ษา
- ด้านการจดั บรรยากาศและสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา และ
- ด้านการร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับชุมชนด้านสิ่งแวดล้อม
บทบาทของผู้บริหารในการจัดการสิ่งแวดล้อม จำแนกตาม
สถานภาพ โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก ซึ่งผู้บริหาร
สถานศึกษา เห็นว่าด้านที่มีการปฏิบัติสูงที่สุด คือ ด้านการ
บริหารงานสิ่งแวดล้อมของสถานศึกษา รองลงมาด้านการจัด
กิจกรรมรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อมของสถานศึกษา และด้านที่มี
การปฏบิ ัติตำ่ ท่สี ุด คอื ด้านการรว่ มมือระหว่างสถานศกึ ษากับชุมชน
ด้านสิง่ แวดลอ้ ม ส่วนครูผสู้ อน เห็นว่าด้านทมี่ ีการปฏิบัติสูงที่สุด คือ
26 Green College ด้านการจัดกิจกรรมรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อมของสถานศึกษา
รองลงมา ด้านการร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับชุมชนด้าน
สิ่งแวดล้อม และด้านที่มีการปฏิบัติต่ำที่สุด คือด้านการจัด
บรรยากาศและสภาพแวดลอ้ มของสถานศกึ ษา
2. ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน มคี วามคิดเห็นต่อบทบาทของ
ผู้บริหารในการจัดการสิ่งแวดล้อมของสถานศึกษา โดยภาพรวม
แตกตา่ งกนั อยา่ งมีนัยสำคัญทางสถิติท่ีระดับ .๐๕ และผ้บู รหิ ารและ
ครูผู้สอนที่ทำงานในสถานศึกษาที่มีขนาดต่างกัน มีระดับความ
คิดเห็นต่อบทบาทของผู้บริหารในการจัดการสิ่งแวดล้อมของ
สถานศึกษา โดยภาพรวมไมแ่ ตกต่างกัน
3. ข้อเสนอแนะในการจัดการสิ่งแวดล้อมของสถานศึกษา คือ
ผบู้ ริหารควรมีวิสยั ทัศน์ มกี ารวางแผนและกำหนดนโยบายที่ชัดเจน
ในการพัฒนาการจัดสิ่งแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกสถานศึกษา
ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างจริงจัง และควรส่งเสริม
สนบั สนุนให้นกั เรียน บุคลากร ผู้ปกครอง ชุมชน มีโอกาสแสดงความ
คดิ เห็นในการปรบั ปรุง การจดั สิง่ แวดล้อมดา้ นอาคารสถานท่ี เพือ่ ทำ
ใหส้ ถานศกึ ษาเปน็ สถานศกึ ษาทีน่ า่ อยู่ตอ่ ไป
๑๖
ลำดับที่ คำสำคัญและนยิ ามศัพท์ คำอธบิ าย
(Keyword/Definition) (Description)
1. จัดการศึกษาให้ผู้เรียนอาชีวศึกษามีทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่
21 ได้แก่ 3R คือ Reading (การอ่าน), การเขียน(Writing) และ
คณิตศาสตร์ (Arithmetic) และ 4 C ได้แก่ Critical Thinking –
การคิดวิเคราะห์ Communication- การสื่อสาร Collaboration-
การร่วมมือ และ Creativityความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงทักษะชีวิต
และอาชีพ และทักษะด้านสารสนเทศสื่อและเทคโนโลยี และการ
บรหิ าร จดั การด้านการศึกษาแบบใหม่
2. การจัดการเรียนการสอนให้เน้นที่ทักษะการเรียนรู้และ
ความคดิ สร้างสรรคเ์ พ่อื สามารถสรา้ งนวตั กรรมน้นั โดยเน้นท่ี
กระบวนการเรียนรู้มากกว่าความรู้ การอาชีวศึกษาเพื่อความย่งั ยืน
27 Future Skill College (Sustainable College)
3. สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการบริหาร พัฒนาและจัดการ
กำลังคน การเรยี นการสอนและหลกั สูตรตา่ งๆ
4. เชือ่ มโยงข้อมูลศนู ย์ผลติ และพัฒนากำลังพลอาชีวศึกษา โดย
เปิดระบบ Big data ศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคน
อาชีวศึกษา เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของศูนย์ผลิตและพัฒนากำลังคน
อาชีวศึกษา
5. เป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนการพัฒนาอาชีวศึกษา ทั้งการ
สำรวจกำลังคนอาชีวะ เพื่อวางแผนผลิตและพัฒนาบุคลากรสาขา
วิชาชีพต่างๆ พัฒนาหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับความ
ต้องการของสถานประกอบการ แสวงหาความรว่ มมือ สนบั สนุนการ
มีงานทำ และสง่ เสริมให้ผเู้ รยี นเปน็ ผ้ปู ระกอบการ
เกณฑ์เปรียบเทียบสมรรถนะ ซึ่งสื่อไปในเรื่องการวัดเปรียบเทียบ
28 Benchmark ความสามารถ ความหมายที่เราสนใจที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุง
องค์กร หมายถึง ผู้ที่เก่งที่สุดหรือดีที่สุดระดับโลก เป็นต้นแบบของ
ผอู้ น่ื ท่ีจะใช้วดั เพื่อเปรียบเทียบความสามารถของตนเอง
เป็นการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ (Knowledge) จากแหล่งต่าง ๆ
29 Self-Learning ด้วยตัวเอง แล้วนำความรู้มาทดลองใช้ ฝึกฝน ปรับปรุง พัฒนา จน
เกิดความชำนาญ สามารถนำความรู้ที่ได้เรียนรู้นั้นไปใช้จนเกิด
ประโยชน์กับตวั เอง และส่วนรวม
๑๗
ลำดบั ท่ี คำสำคัญและนยิ ามศัพท์ คำอธบิ าย
(Keyword/Definition) (Description)
หลกั การสร้างพลงั คดิ เชิงบวก
(The Power Of Positive Thinking)
ความคิดเชิงบวก (Positive Thinking) หมายถึงความคิดที่เกิดจาก
การมองสิ่งตา่ งๆ อย่างเขา้ ใจยอมรบั ในสงิ่ ท่ีเกิดขนึ้ กับตัวเราทั้งในทุก
เรื่อง และหากเป็นเรื่องไม่ดีก็รู้จักคิดและพยายามหามุมมองที่เป็น
ประโยชน์ทางด้านบวกจากสิ่งนั้นๆ ให้เกิดประโยชน์กับตนเองและ
ผ้อู ื่น การคดิ เชิงบวกเป็นการหามุมมองท่ีเป็นบวก มมุ มองท่ีทําให้เรา
นั้นมีแง่คิดที่ดีมุมมองที่ทําให้เรามีกําลังใจ มุมมองที่ทําให้เรารู้สึกมี
ความทุกข์น้อยลง มุมมองทีท่ ําให้เรามีความสขุ มากข้ึน มีแรงจูงใจที่
จะต่อสู้กับชีวิต กล้าที่จะเผชิญชีวิต หรืออยู่ในสังคมได้อย่างมี
ความสุข เพราะฉะน้ันถา้ สามารถคิดในเชิงบวกไดต้ ลอดเวลา แปลว่า
เราสามารถมีชีวิตอยูใ่ นสังคมได้อย่างมีคุณภาพและความสุขหลักการ
สร้างพลังคิดเชงิ บวกมี 5 ขัน้ ดว้ ยกัน คือ
บนั ไดขน้ั ท่ี 1 : มองตวั เองในแง่ดี
การทค่ี นเราจะมองโลกหรอื มองคนอืน่ ในแง่ดไี ด้ ต้องมาจากพื้นฐาน
ที่มองและเช่ือว่าตัวเองดีเสียกอ่ น
30 The Power of Positive บนั ไดขน้ั ท่ี 2 : มองคนอ่ืนในแงด่ ี
Thinking
เมื่อผ่านบันไดขั้นแรกมาแล้ว จะทําให้เราเริ่มตระหนักว่าคนทุกคน
ลว้ นแตไ่ ม่สมบูรณ์ ย่อมมีขอ้ บกพร่องมากนอ้ ยแตกตา่ งกันออกไป
( แม้แต่ตัวเราก็ยังมีข้อเสยี ) ดังนน้ั การมีชีวิตท่มี คี วามสุขจึงหมายถึง
การอยู่ร่วมกันโดยเลือกมองและใชป้ ระโยชน์จากความดีทีผ่ ู้อื่นมีอยู่
โดยไมใ่ ชก่ ารเสแสรง้ แต่เหน็ ความดขี องเขาจรงิ ๆ
บันไดขัน้ ที่ 3 : มองวิกฤติใหเ้ ปน็ โอกาส
เมอื่ เกิดปญั หาหรืออปุ สรรคต่างๆ ขึ้น ลองมองความทกุ ข์หรือปัญหา
นน้ั เป็นเร่อื งธรรมดา เพราะส่ิงทเ่ี กดิ ขน้ึ ไปแลว้ ย่อมกลบั ไปแก้ไขไม่ได้
แต่เราสามารถนํามาพิจารณาได้ว่าในวิกฤติที่เราพบนั้นมีข้อดีอะไร
แฝงอยหู่ รอื จะใชป้ ระโยชนจ์ ากปัญหาน้ันไดอ้ ยา่ งไรบ้าง
บนั ไดข้นั ท่ี 4 : หมน่ั บอกกับตัวเองในเรือ่ งทด่ี ี
ขึ้นชื่อว่าเป็นความคดิ ก็มักจะอยู่กับเราไม่นาน แต่ความคิดก็มกั เป็น
ต้นทางและบ่อเกิดของการกระทําดังนั้น เราจึงจําเป็นต้องทําให้
ความคิดดีๆ อยู่กบั เราตลอดเวลา
๑๘
ลำดับท่ี คำสำคัญและนยิ ามศพั ท์ คำอธิบาย
(Keyword/Definition) (Description)
บันไดขน้ั ที่ 5 : ใช้ประโยชนจ์ ากคาํ ว่า “ขอบคณุ ”
เมอ่ื ต้องพบเจอเรอ่ื งร้าย จงยิ้มแลว้ กลา่ วคําว่า “ขอบคณุ ” เพราะนั่น
คือบททดสอบที่ดีของการมีชวี ิตท่ีเข้มแขง็ หากมคี นด่าวา่ คุณ แทนที่
จะโต้ตอบให้กลา่ วคําวา่ ขอบคุณ มันจะช่วยลดท่าทีความรนุ แรงลงได้
เกือบทงั้ หมดทงั้ ยังทําใหบ้ ุคคลนัน้ แปลกใจและอาจกลับไปพิจารณา
พฤติกรรมของตัวเองไดโ้ ดยที่คุณไมต่ ้องพูดอะไรเพิ่มเติมอกี หากเรา
ตั้งสติและพินิจพิเคราะห์อุปสรรคต่างๆ อย่างมากพอ เราจะรู้สึก
ขอบคุณต่อข้อขัดข้องเหล่านั้น อย่างน้อยมัน ก็ทําให้เราเรียนรู้ท่จี ะ
เขม้ แข็งมากยิง่ ข้ึน เขา้ ใจถึงความผดิ พลาดวา่ สิง่ ใดไมค่ วรทําและช่วย
ใหร้ ้จู กั มคี วามรอบคอบมากยิ่งข้นึ เพอื่ ไมใ่ หเ้ กดิ ความผิดพลาดน้ันซ้ำ
อกี การพัฒนาบุคลกิ ภาพเชิงบวก (Personality Plus)
1. พูดกับตนเองเชิงบวกเสมอ เช่น พูดว่าฉันเป็นคนดี ฉันมี
ความสามารถ ฉันรกั ตนเอง
2. จินตนาการเชิงบวก จินตนาการให้เห็นภาพเป้าหมายตนเอง
ความสําเร็จของตนเอง ให้เห็นเป้าหมาย ความสําเร็จของตนเองอยู่
ในจิตใจ
30 The Power of Positive 3. คบหาสมาคมกับคนที่คิดเชิงบวกด้วยกัน อย่าอยู่ใน
Thinking (ตอ่ ) สภาพแวดล้อมทีม่ แี ตพ่ วกคดิ เชงิ ลบเพราะเขาจะ
ครอบงําคุณ
4. หล่อเลี้ยงบํารุงด้วยอาหารสมองและปัญญา เช่น อ่านหนังสือ
บทความดีๆแถบเสียง วดี ีโอท่มี ปี ระโยชน์
ศกึ ษาธรรมะ เป็นต้น
5. ฝึกอบรมและพัฒนา การศึกษาในระบบยกระดับการดํารงชีวิต
การศึกษาด้วยตนเองเพม่ิ ความโชคดีใน
ชวี ติ
6. สร้างสุขนิสัยที่ดีรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมอาหาร
ออกกําลังกายนอนหลับใหเ้ พียงพอ
พักผอ่ นให้เพยี งพอ พฒั นาความฉลาดทางอารมณ์
7. สรา้ งความคาดหวงั สิง่ ทด่ี ที ่สี ดุ ความสําเร็จ ความทันสมัย
๑๙
ลำดับท่ี คำสำคญั และนิยามศัพท์ คำอธิบาย
(Keyword/Definition) (Description)
ความฉลาดทางอารมณ(์ Emotional Intelligence)
ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) คือ ความสามารถในการรับรู้ เข้าใจ
และควบคมุ อารมณข์ องตนเองและ
ผู้อ่นื แบ่งออกเปน็ 5 ด้าน
1. การตระหนักรูใ้ นตนเอง (Self-Awareness)
การตระหนักรู้ในตนเอง หมายถึง ความสามารถในการเข้าใจ และ
รับรู้อารมณข์ องตนเอง ข้อนี้เป็นข้อท่ีสาํ คัญมาก และเป็นจุดเร่มิ ต้น
ของการพัฒนา EQ เราต้องรู้จักตัวเราเองก่อนว่าเราเป็นคนอารมณ์
แบบไหน สง่ ผล กระทบอยา่ งไรตอ่ การแสดงออกหรอื พฤติกรรมของ
เรา และส่งผลต่อผู้อนื่ อย่างไร ดา้ นไหนเปน็ ขอ้ ดีของเรา และ
ด้านไหนเปน็ ข้อที่ควรพัฒนาของเรา
2. การควบคมุ ตัวเอง (Self-Regulation)
หลังจากที่เรารับรูอ้ ารมณ์ของตนเองและผลกระทบที่มีต่อผู้อื่นแลว้
สามารถควบคุมและจัดการกับอารมณ์ของตนได้ แล้วแสดงออก
อย่างเหมาะสม
3. ทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น (Social Skills) การมีความสัมพันธ์
30 The Power of Positive ทดี่ ีกบั ผู้อืน่ กเ็ ปน็ ส่งิ สําคญั ทําให้บรรยากาศในการทํางานดีและผู้อื่น
Thinking (ตอ่ ) อยากท่จี ะทํางานด้วย
4. การเข้าใจผู้อื่น (Empathy) การเข้าใจผู้อื่น หมายถึง
ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อ่ืน และแสดงความใส่ใจ
เปน็ พิเศษ
5. การจูงใจ (Motivation) เปน็ คนที่มแี รงจงู ใจจากภายใน (Intrinsic
motivation) เต็มไปด้วยพลังที่ขับเคลื่อนจากภายใน มากกว่า
แรงจูงใจจากภายนอก (External motivation) มีการตั้งเป้าหมาย
และลงมอื ทาํ จนบรรลุเป้าหมาย ไม่ยอมแพต้ ่อ
อปุ สรรค/ความยากลําบาก
๒๐
สมรรถนะหลกั ท่ี 1 การดำรงตนของรองผอู้ ำนวยการ
สถานศึกษาอาชีวศกึ ษายคุ ชวี ิตวถิ อี นาคต (Next
Normal)
สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1.1 เจตคติและกรอบความคดิ แบบเปดิ กวา้ ง
(Growth Mindset) ในการบริหารสถานศกึ ษาใหส้ อบคลอ้ งกับ
ชีวติ วถิ อี นาคต (Next Normal)
สมรรถนะย่อย 1.2 วินัย การรกั ษาวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรมและ
จรรยาบรรณวชิ าชีพ
สมรรถนะยอ่ ย 1.3 การดำรงตนของรองผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา
อยา่ งราบร่ืนและมคี วามสุข
๒๑
ใบนำเสนองาน
การศกึ ษาค้นคว้าเรยี นรู้ด้วยตนเอง
แบบสรปุ องค์ความรู้การศกึ ษาคน้ ควา้ เรยี นรู้เพื่อพัฒนาตนเอง
ชอ่ื วทิ ยากรพเ่ี ลยี้ ง..........ผอ.อดลุ ชัย โคตะวีระ...........................................................................................
ชอื่ – สกลุ ..................นายวิจิตร พลเศษ...............กลุ่มท่ี.........11..................เลขท.่ี .................3..............
สมรรถนะหลักท่ี 1 การดำรงตนของรองผอู้ ำนวยการสถานศึกษาอาชีวศึกษายคุ ชวี ิตวิถอี นาคต
(Next Normal)
สมรรถนะย่อยท่ี 1.1 เจตคติและกรอบความคิดแบบเปดิ กวา้ ง (Growth Mindset) ในการบรหิ าร
สถานศกึ ษาใหส้ อบคลอ้ งกบั ชีวิตวิถอี นาคต (Next Normal)
การปฏิบัติหน้าที่การบริหารต้องมีจิตวิญญาณ มีอุดมการณ์ มุ่งมั่นในการพัฒนาสถานศึกษา มีกรอบ
ความคิดแบบเปิดกว้าง(Growth Mindset) ในการบรหิ ารเชงิ สร้างสรรค์ การพัฒนากรอบความคิดสู่ความสำเร็จ
คือการมองสิ่งตา่ งๆ ด้วยความคดิ ใหมๆ่ คดิ แบบพฒั นาได้
ทิศทางเศรษฐกิจตามวิถี Next Normal ธรุ กจิ ต้องปรับตัวในยุคหลังการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัส
โคโรนา ๒๐๑๙ ๕ ดา้ น ไดแ้ ก่ ๑) การแก้ปัญหาเฉพาะหนา้ ๒) การปรบั ธุรกิจใหม้ ีความยืดหยุ่นทันต่อสถานการณ์
๓) การกลับไปดำเนินธุรกิจตามปกติอีกครั้ง ๔) การคิดใหม่ ๕) การปฏิรูปเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ดีกว่า การ
เปล่ียนแปลงทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับหลายมติ ิ เชน่ มติ ิด้านสังคม มิติด้านธุรกจิ มิติดา้ นเศรษฐกิจ มติ ิดา้ นการเมือง
สมรรถนะย่อย 1.2 วินัย การรกั ษาวินยั คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพ
การดำรงตนของรองผู้อำนวยการต้องดำรงตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี มีวินัย คุณธรรมจริยธรรมและ
จรรยาบรรณวิชาชพี นำไปสูก่ ารทำงานร่วมกนั อย่างมีประสิทธิผล การบริหารงานในหน้าที่จะตอ้ งยึดกฎระเบียบ
และนโยบายของหน่วยงานต้นสงั กดั เพราะการดำเนนิ งานของสถานศึกษาทุกแหง่ ต้องตอบสนองนโยบายของต้น
สังกดั และตอบสนองต่อยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาประเทศโดยยึดกฎระเบียบ ดงั นี้
๑. พรบ.ระเบียบข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๗
๒. พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่๔)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๓. พรบ.ขอ้ มูลขา่ วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
๔. พรบ.วา่ ดว้ ยการกระทำผดิ เกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐
๕. พรบ.มาตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ ๒๕๖๒
๖. พรบ.วิธปี ฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙
๗. ประมวลจริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตร ๖ แห่งมาตรฐานทาง
จรยิ ธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒
๘. ขอ้ บังคับคุรสุ ภาว่าด้วยจรรยาบรรณวชิ าชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖
๒๒
๙. กฎ ก.ค.ศ. วา่ ด้วยอำนาจการลงโทษ ภาคทณั ฑ์ ตัดเงนิ เดือน หรอื ลดเงินเดอื น พ.ศ. ๒๕๖๑
๑๐.ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยและการออกจากราชการของ
ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑
๑๑.ระเบยี บสำนักนายกรัฐมนตรวี ่าดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
๑๒.ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรวี า่ ด้วยการสง่ เสริมคณุ ธรรมแหง่ ชาต(ิ ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑
๑๓.ระเบยี บกระทรวงการคลังวา่ ด้วยลกู จา้ งประจำของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๓๗
๑๔.พรบ.วา่ ด้วยการกระทำผิดเกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
สมรรถนะยอ่ ย 1.3 การดำรงตนของรองผูอ้ ำนวยการสถานศกึ ษาอยา่ งราบรืน่ และมีความสุข
การพัฒนาภาวะความเป็นผูน้ ำ 360 องศา (Developing the 360 Degree Leader)
ผู้นำ 360 องศา (The 360 Degree Leader) คือบุคคลภายในองคก์ รมีความปรารถนาพัฒนาตนเอง
ให้ดีขึ้นอย่าต่อเนื่อง (Potential) โดยไม่ยึดติดวา่ ตนเองมีตำแหนง่ อะไร และอาศัยการเรยี นรู้พฤตกิ รรมที่ดีของ
ผู้นำพร้อมกับมีความตั้งใจเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่พฤติกรรมที่ดี โดยมีวัตถุประสงค์โน้มน้าวคนรอบข้างในทุก
ระดับ ให้มีความเชื่อมั่น ยอมรับ และให้ความร่วมมืออย่างเต็มใจ อันนำไปสู่การสร้างผลการปฏิบตั ิงานที่ดีขึ้น
ร่วมกัน (Team Performance) ผู้นำ 360 องศา (The 360 Degree Leader) คือการพัฒนาตนเองให้มี
ประสทิ ธภิ าพรอบด้านด้วยหลักการและวิธปี ฏิบัติของผนู้ ำ 360 องศา เพอื่ ใหต้ นเองมีความสอดคล้องกับความ
ต้องการของบุคคลแตล่ ะระดบั โดยท่วั ไปแล้วเราสามารถแบ่งระดับการเป็นผนู้ ำคนแต่ละรระดับของการพัฒนา
ผนู้ ำ 360 องศา ดังน้ี
1. หลกั การและวธิ ปี ฏิบตั ใิ นการเปน็ ผู้นำ นำคนระดบั บน (หวั หนา้ )
2. หลักการและวิธีปฏิบัตใิ นการเปน็ ผ้นู ำ นำคนระดับกลาง (เพ่อื นรว่ มงาน)
3. หลักการและวิธีปฏิบัตใิ นการเป็นผนู้ ำ นำคนระดบั ลา่ ง (ลกู น้อง)
หลกั การนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นการเป็นผู้นำหรอื ผ้บู ริหาร มีดงั นค้ี อื
1. มีความรเู้ ก่ียวกับแนวความคดิ ความเชอื่ เกยี่ วกับการพฒั นาผู้นำ เพื่อใช้ในการบริหาร
2. นำกระบวนการในการพัฒนามาใช้ในการบรหิ าร มคี วามสามารถนำตนเอง
3. การนำหลกั การเปน็ ผู้นำคนระดบั บน กลาง ล่าง มาปรับใชใ้ นการบริหาร
ขออัญเชิญ หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ซ่งึ นำเสนอ “หลักธรรม หลกั คิด หลักปฏบิ ัต”ิ ของการทำงานมาเป็นแนวในการดำเนนิ ชีวติ 27 ประการ และ
นอ้ มนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นการปฏบิ ัติหนา้ ท่ขี ้าราชการของแผ่นดิน ดงั นี้
1. ซื่อสัตย์ สจุ ริต จรงิ ใจตอ่ กัน มคี วามช่วยเหลอื จรงิ ใจกับทกุ คนชว่ ยกันปฏิบัตงิ านพฒั นาชาติ
2. อ่อนน้อม ถ่อมตน การอ่อนน้อมถอ่ มตนกับทกุ คนในการปฏบิ ัตงิ าน งานก็จะเรียบง่ายสำเรจ็
3. ความเพียร ทำงานด้วยความมุ่งมั้น เพ่อื ประโยชนส์ ว่ นรวม
4. รู้ รกั สามคั คี การปฏิบัตถิ า้ มีความรกั สามัคคี งานกจ็ ะสำเร็จและมีประสทิ ธภิ าพ
5. ทำเรอ่ื ย ๆ ทำแบบสังฆทาน ปฏิบัติงานเพือ่ แกไ้ ขปญั หาอยู่ตลอดเวลา กจ็ ะทำใหส้ ำเรจ็
6. มีความสขุ ในการทำประโยชน์ใหก้ บั คนผ้อู ื่น
7. ศึกษาขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบ มีการศึกษาขอ้ มูล เป็นผ้รู ู้จริงในเร่ืองนั้น ๆ
8. ระเบดิ จากข้างใน สร้างความเขม็ แข็งใหบ้ คุ ลากรภายในแล้วคอ่ ยพฒั นาสู่สังคมภายนอก
๒๓
9. ทำตามลำดับข้ัน ปฏิบัตงิ านจากง่ายไปหายาก ตามลำดบั แผนงานทก่ี ำหนดและพฒั นาตอ่ ยอด
10. ภมู สิ ังคม การปรบั ตวั ให้เข้ากบั สงั คม วฒั นธรรม ในองค์กร
11. องค์รวม การศกึ ษาขอ้ มูลครบถ้วนและการแก้ไขปัญหา การเชื่อมโยงในงานท่ปี ฏิบัติ
12. ประหยัด เรยี บงา่ ย ได้ประโยชนส์ งู สุด ต้องทำงานบนพ้นื ฐานความประหยดั และเกิดผลดที ่สี ดุ
13. ขาดทุนคอื กำไร ทมุ่ เททำงานด้วยความรับผดิ ชอบ
14. ปลูกปา่ ในใจคน ปลูกจิตสำนึกใหก้ บั บุคลากรในองคก์ รให้มคี วามรกั ศรทั ธาในองค์กร จะเกดิ ผลดี
15. ใชธ้ รรมชาติชว่ ยธรรมชาติ
16. อธรรมปราบอธรรม
17. ประโยชน์ส่วนรวม การทำงานเห็นแกป่ ระโยชนส์ ว่ นรวม นักเรียน นกั ศึกษา ประชาชน องค์กร
18. การพ่งึ ตนเอง ปฏิบัติหนา้ ทด่ี ้วยความรับผดิ ชอบมกี ารพฒั นาตนเองเพือ่ ใช้กับงานในหนา้ ท่ี
19. เศรษฐกิจพอเพยี ง นำหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งมาปรบั ใช้ในองค์กรและชวี ติ ไดอ้ ยา่ งสมดุล
20. เข้าใจ เขา้ ถงึ พฒั นา เขา้ ใจ เขา้ ใจปัญหาและปรับแก้ไข สรา้ งความเขา้ ใจกันในองค์กร
21. แก้ไขปญั หาทีจ่ ดุ เลก็ ๆ คดิ Macro เร่มิ Micro การมองปญั หาในภาพรวม แลว้ แกท้ ี่จดุ เลก็ ๆ
22. ไมต่ ดิ ตำรา ปรับรปู แบบการทำงานให้สอดคลอ้ งและปฏิบตั ิได้ไมแ่ ข็งไมอ่ ่อนเกนิ ไป
23. การมีสว่ นรว่ ม การใหท้ ุกคนมสี ่วนรว่ มในการปฏบิ ตั งิ าน ในการแสดงความคดิ เห็นในการทำงาน
24. พออยู่พอกนิ ปรับตวั ใหเ้ หมาะสม ประหยดั อดออม แบบอย่างท่ีดี กอ่ นแนะนำคนอนื่
25. บริการรวมท่ีจดุ เดยี ว ปรับกระบวนการทำงานให้เหมาะสมและใหเ้ สรจ็ ทจ่ี ดุ เดียว
26. รา่ เรงิ คึกคกั ครึกครนื่ กระฉบั กระเฉง มีพลงั การสรา้ งบรรยากาศในการทำงานในองค์กร
27. ชยั ชนะของการพฒั นา การปฏิบัติงานถ้าได้รบั การพัฒนาเรยี นรู้ ก็จะปฏบิ ัติงานได้ดี
พระบรมโชบายของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั รัชกาลท่ี 10
ขออญั เชิญนอ้ มนำ พระบรมโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั รัชกาลท่ี 10 ดา้ นการศึกษา มา
ปฏบิ ตั ใิ นอาชพี ข้าราชการครู ดังน้ี
1. มีทศั นคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมอื ง 1.1 ความรคู้ วามเขา้ ใจตอ่ ชาติบ้านเมือง 1.2 ยดึ มัน่ ในศาสนา
1.3 มั่นคงในสถาบันกษตั รยิ ์ 1.4 มีความอาทรต่อครอบครวั และชุมชน
2. มีพน้ื ฐานชวี ิตทีม่ ่นั คง – มีคุณธรรม 2.1 รู้จักแยกแยะสง่ิ ทผี่ ดิ - ชอบ / ชัว่ – ดี 2.2 ปฏิบตั แิ ตส่ ิ่งท่ี
ชอบ ส่งิ ที่ดงี าม 2.3 ปฏิเสธส่ิงทผ่ี ิด สง่ิ ท่ีชว่ั 2.4 ช่วยกนั สร้างคนดใี หแ้ กบ่ ้านเมือง
3. มงี านทำ มอี าชพี 3.1 การเล้ียงดูลกู หลานในครอบครวั หรือการฝึกฝนอบรมในสถานศึกษาต้องมุ่งให้
เดก็ และเยาวะชน รักงาน สงู้ าน ทำจนงานสำเร็จ 3.2 การฝึกฝนอบรมท้งั ในหลกั สูตรและนอกหลกั สูตรต้องมี
จุดมงุ่ หมายให้ผเู้ รียนทำงนเปน็ และมงี านทำในทสี่ ุด 3.3 ตอ้ งสนบั สนนุ ผ้สู ำเรจ็ หลักสตู รมอี าชีพ มงี านทำ จน
สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัว
4. เปน็ พลเมืองดี 4.1 การเปน็ พลเมอื งดี เป็นหน้าที่ของทกุ คน 4.2 ครอบครัวสถานศกึ ษา สถาน
ประกอบการ ตอ้ งสง่ เสริมให้ทุกคนมโี อกาสทำหน้าทเ่ี ปน็ พลเมืองดี 4.3 การเป็นพลเมืองดี คือ จิตอาสาสมคั ร
งานบำเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศลใหท้ ำด้วยความมนี ำ้ ใจ และความเออ้ื อาทร
๒๔
สมรรถนะหลักที่ 2 ภาวะผนู้ ำทางวชิ าการและวิชาชีพ
อาชีวศกึ ษา
สมรรถนะย่อยที่ 2.1 การบริหารการเปลี่ยนแปลงด้าน
วชิ าการและวิชาชีพอาชีวศึกษา
สมรรถนะย่อยที่ 2.3 การบริหารงานด้านเทคโนโลยี
ดจิ ทิ ัล
๒๕
ใบนำเสนองาน
การศกึ ษาคน้ ควา้ เรยี นร้ดู ้วยตนเอง
แบบสรุปองคค์ วามรกู้ ารศึกษาคน้ ควา้ เรยี นรู้เพอื่ พัฒนาตนเอง
ชื่อวทิ ยากรพเี่ ลย้ี ง..........ผอ.อดลุ ชยั โคตะวีระ...........................................................................................
ช่อื – สกลุ ..................นายวจิ ติ ร พลเศษ...............กลุ่มท่.ี ........11..................เลขท.ี่ .................3..............
สมรรถนะหลักที่ 2 ภาวะผูน้ ำทางวชิ าการและวิชาชีพอาชวี ศึกษา
องค์ความร้ทู ไี่ ด้จากการศกึ ษาคน้ คว้าเรียนรู้เพอ่ื พัฒนาตนเองและการนำไปประยุกต์ใช้ สมรรถนะหลักท่ี
๒ ภาวะผ้นู ำทางวชิ าการและวิชาชีพอาชวี ศกึ ษา
สมรรถนะย่อยที่ 2.1 การบริหารการเปล่ยี นแปลงดา้ นวิชาการและวชิ าชีพอาชีวศึกษา
ผนู้ ำหรือผู้บริหารต้องเรียนรเู้ ก่ยี วกบั การเปลยี่ นแปลงทกุ ดา้ นเพือ่ ให้สอดคล้องกบั การบรหิ ารและจัดการ
อาชวี ศึกษาในภาวะปกติหรอื การเข้าส่ยู ุคชีวิตวถิ ีอนาคตเป็นนักคิด นักประสานงาน นกั พัฒนาทท่ี นั โลกมีกลยุทธ์
และเทคนคิ วิธีการในการสร้างกระบวนการบริหารสามารถขับเคลอื่ นภารกจิ ใหเ้ ป็นองคก์ ร การเปลย่ี นแปลงท่มี ี
คณุ ภาพ สามารถขับเคลอื่ นสถานศึกษาเป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรูด้ ้วยระบบเทคโนโลยีดจิ ิทัล
การพฒั นาคุณภาพการบรหิ ารจัดการภาครัฐ (Public Sector Management Quality Award :
PMQA) เปน็ กรอบการบรหิ ารจัดการองค์การท่ี สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ สง่ เสรมิ และสนบั สนุนให้ส่วนราชการ
นำไปใชใ้ นการประเมนิ องคก์ ารด้วยตนเองทค่ี รอบคลมุ ภาพรวมในทกุ มิติ เพอ่ื ยกระดับคณุ ภาพการบรหิ าร
จัดการใหเ้ ทยี บเทา่ มาตรฐานสากล โดยม่งุ เนน้ ใหห้ น่วยงานราชการปรับปรงุ องค์การอยา่ งรอบดา้ นและ อย่าง
ต่อเนอ่ื งครอบคลุมทง้ั ๗ ด้าน คือ
1. การนำองค์การ เปน็ การประเมินการดำเนินการของผู้บรหิ ารในเรือ่ งวิสัยทศั น์ เป้าประสงค์ ค่านยิ ม
ความคาดหวงั ในผลการดำเนินการ การให้ความสำคัญกบั ผูร้ บั บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การกระจายอำนาจ
การตดั สินใจ การสร้างนวัตกรรมและการเรียนรู้ ในสว่ นราชการ การกำกบั ดูแลตนเองทด่ี ี และดำเนนิ การ
เกย่ี วกับความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมและชมุ ชน
2. การวางแผนเชงิ ยุทธศาสตร์ เป็นการประเมนิ วิธกี ารกำหนดและ ถ่ายทอดประเด็นยทุ ธศาสตร์
เปา้ ประสงค์เชิงยทุ ธศาสตร์ กลยทุ ธ์หลัก และแผนปฏิบัตริ าชการเพอ่ื นำไปปฏิบัติและวดั ผลความกา้ วหนา้ ของ
การดำเนินการ
3. การให้ความสำคัญกับผรู้ บั บรกิ ารและผ้มู ีส่วนได้ส่วนเสยี เป็นการประเมนิ การกำหนด ความ
ต้องการ ความคาดหวงั และความนิยมชมชอบ การสรา้ งความสัมพนั ธ์ และการกำหนดปัจจัยสำคญั ท่ีทำให้
ผู้รบั บริการและ ผูม้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี มคี วามพึงพอใจ
4. การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ เป็นการประเมินการเลอื ก รวบรวม วิเคราะห์ จัดการ
และปรบั ปรงุ ขอ้ มูลและสารสนเทศ และการจัดการความรู้ เพ่อื ใหเ้ กิดประโยชนใ์ นการปรบั ปรงุ ผลการดำเนนิ การ
ขององค์การ
5. การมุ่งเนน้ ทรพั ยากรบคุ คลเปน็ การประเมินระบบงาน ระบบการเรยี นรู้ การสร้าง ความผาสกุ และ
แรงจงู ใจของบุคลากร เพอ่ื ให้บคุ ลากรพฒั นาตนเองและใชศ้ ักยภาพอยา่ งเตม็ ท่ีตามทิศทางองค์การ
๒๖
6. การจัดการกระบวนการ เป็นการประเมนิ การจดั การกระบวนการ การใหบ้ รกิ ารและกระบวนการอน่ื
ท่ชี ว่ ยสรา้ งคุณค่าแก่ผรู้ ับบริการและผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสยี และกระบวนการสนบั สนนุ เพอ่ื ให้บรรลพุ นั ธกิจของ
องคก์ าร
7. ผลลพั ธ์การดำเนนิ การ เป็นการประเมนิ ผลการดำเนนิ การและแนวโนม้ ของสว่ นราชการ ในมติ ิด้าน
ประสิทธผิ ล มิตดิ ้านคุณภาพการให้บริการ มติ ดิ า้ นประสิทธภิ าพ และมิติด้านการพัฒนาองค์การ
สมรรถนะยอ่ ยที่ 2.3 การบริหารงานดา้ นเทคโนโลยดี ิจทิ ัล
การรดู้ จิ ทิ ัล หรือ Digital literacy หมายถงึ ทักษะในการนำเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยดี จิ ิทัลท่ีมี
อยู่ในปัจจุบัน อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แทปเลต โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และสื่อออนไลน์ มาใช้ให้เกิด
ประโยชน์สูงสุด ในการสอ่ื สาร การปฏบิ ตั ิงาน และการทำงานร่วมกนั หรือใชเ้ พ่อื พัฒนากระบวนการทำงาน หรอื
ระบบงานในองคก์ รใหม้ ีความทนั สมัยและมีประสิทธิภาพ
ทักษะครอบคลุมความสามารถ 4 มติ ิ
1. การใช้ (Use) ใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละอินเทอรเ์ นต็ การใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์
2. เขา้ ใจ (Understand) ชดุ ของทกั ษะทจี่ ะชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจบริบทและประเมินสอ่ื ดจิ ทิ ลั
3. การสร้าง (create) การรูว้ ิธีการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคาหรือการเขยี นอเี มล
4. เข้าถึง (Access) การเขา้ ถึงและใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยีดิจทิ ลั และขอ้ มลู ข่าวสาร เป็นฐาน
รากในการพฒั นา การสรา้ งความเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจ
๒๗
ทกั ษะความเขา้ ใจและใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทัล ๙ ด้าน
1. การใช้งานคอมพวิ เตอร์ 2.การใช้งานอินเตอร์เนต็
3. การใชง้ านเพือ่ ความมนั่ คงปลอดภัย 4. การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ
5. การใชโ้ ปรแกรมตารางคำนวณ
7. การใช้โปรแกรมสร้างส่อื ดจิ ิทลั 6. การใชโ้ ปรแกรมนำเสนองาน
8. การทำงานรว่ มกนั แบบออนไลน์
9.การใช้ดิจิทัลเพอ่ื ความม่ันคงปลอดภยั
Digital Literacy
International Telecommunication Union (ITU) ได้มีการกำหนดทักษะด้านดิจิทัล (Digital Skills)
ออกเปน็ 3 ระดบั ดงั ต่อไปน้ี
ทักษะขั้นพื้นฐาน (Basic skills) เป็นการใช้งานเทคโนโลยีดิจทิ ัลได้อยา่ งง่ายๆ การใช้คีย์บอร์ด การใช้
touch-screen รู้จักซอฟต์แวร์ เช่น การประมวลผลคำอีเมล การค้นหา (Search) หรือ การกรอกแบบฟอร์ม
ออนไลน์ ซึ่งการมีทกั ษะดิจทิ ลั
ทกั ษะขน้ั กลาง (Intermediate skills)ใชง้ าน เทคโนโลยีดิจิทัลไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพใชซ้ อฟตแ์ วรใ์ น
การออกแบบสง่ิ พิมพต์ ่างๆ การทาการตลาดผ่านสอ่ื ดิจิตอล
ทกั ษะขนั้ สงู (Advanced skills) เป็นทกั ษะทีอ่ ยใู่ นระดบั ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นเทคโนโลยี สารสนเทศ เชน่
โปรแกรมเมอร์ และผดู้ แู ลระบบ การเขยี นโคด้ การดแู ลความปลอดภยั บนโลกอินเทอรเ์ น็ต
ประโยชน์ของการพัฒนา Digital Literacy
1. ทำงานได้รวดเรว็ ลดข้อผดิ พลาดและมคี วามม่ันใจในการทำงานมากขน้ึ
2. มีความภาคภมู ิใจในผลงานท่สี ามารถสร้างสรรค์ได้เอง
3. สามารถแก้ไขปัญหาที่เกดิ ขึ้นในการทำงานได้มปี ระสิทธิภาพมากขนึ้
4. สามารถระบทุ างเลือกและตัดสินใจได้อย่างมปี ระสิทธิภาพมากขน้ึ
5. สามารถบรหิ ารจัดการงานและเวลาไดด้ ีมากขนึ้ และช่วยสร้างสมดุลในชวี ิตและการทำงาน
6. มเี คร่อื งมือช่วยในการเรยี นร้แู ละเตบิ โตอยา่ งเหมาะสม
ประโยชนส์ ำหรบั ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
1. หน่วยงานได้รับการยอมรับว่ามีความทันสมัย เปิดกว้าง และเป็นที่ยอมรับ ซึ่งจะช่วยดึงดูด
และรักษาคนรนุ่ ใหม่ที่มศี ักยภาพสงู มาทำงานกับองคก์ รด้วย
2. หน่วยงานไดร้ บั ความเชอ่ื ม่นั และไว้วางใจจากประชาชนและผรู้ ับบริการมากขึ้น
3. คนในองคก์ รสามารถใช้ศกั ยภาพในการทำงานทีม่ ีมูลคา่ สูง (High Value Job) มากข้ึน
4. กระบวนการทำงานและการสือ่ สารขององคก์ ร กระชับข้นึ คลอ่ งตวั มากขึ้น และมีประสิทธิภาพมาก
ขนึ้
5. หน่วยงานสามารถประหยดั ทรัพยากร (งบประมาณและกำลงั คน) ในการดำเนินงานได้มากข้นึ
ชีวิตวถิ ีใหม่ (New Normal) การ Work From Home การอยู่ในบ้าน พร้อมทำงาน การดำเนินการทาง
ธรุ กรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ การแพทยแ์ ละสาธารณสขุ (ทีป่ รกึ ษา) Online Medical Consulting การ
deglobalization และอกี มากมาย สงิ่ เหล่าน้ผี ู้นำผบุ้ ริหารจะต้องพัฒนานาตนเองและนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้
เหมาะสมกับงาน และหน้าทแี่ ตล่ ะหนา้ ทอี่ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
๒๘
สมรรถนะหลกั ท่ี 3 การบรหิ ารและการจดั การในสถานศึกษา
สมรรถนะย่อยท่ี 3.1 การบรหิ ารการจดั การสถานศึกษา
สมรรถนะยอ่ ยท่ี 3.2 การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
สมรรถนะย่อยที่ 3.3 การจดั ระบบงาน และการส่ือสาร
องคก์ ร
สมรรถนะยอ่ ยที่ 3.4 การทำงานเปน็ ทีม
๒๙
ใบนำเสนองาน
การศกึ ษาค้นคว้าเรียนรู้ด้วยตนเอง
แบบสรปุ องคค์ วามรู้การศึกษาคน้ คว้าเรยี นรเู้ พื่อพัฒนาตนเอง
ชื่อวทิ ยากรพีเ่ ลีย้ ง..........ผอ.อดุลชยั โคตะวีระ...........................................................................................
ชื่อ – สกลุ ..................นายวจิ ิตร พลเศษ...............กล่มุ ท.ี่ ........11..................เลขท่.ี .................3..............
สมรรถนะหลกั ที่ 3 การบรหิ ารและการจดั การในสถานศึกษา
องคค์ วามร้ทู ีไ่ ดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ เรยี นรเู้ พื่อพัฒนาตนเองและการนำไปประยุกต์ใช้ สมรรถนะหลักท่ี
๓ การบริหารและการจัดการในสถานศึกษา
สมรรถนะย่อยท่ี 3.1 การบรหิ ารการจดั การสถานศึกษา
การบริหารจดั การศึกษาผบู้ ริหารตอ้ งศึกษากฎระเบียบ นโยบาย หลักเกณฑ์และแนวปฏบิ ตั ิ
ท่ีเกย่ี วข้องในการบรหิ ารสถานศึกษาให้เข้าใจและนำไปใช้ในการปฏบิ ตั งิ านราชการ ดงั นี้
๑. ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษาวา่ ดว้ ยการบริหารสถานศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๒
๒. นโยบายรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร
๓. นโยบายสำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
๔. มาตรฐานตำแหนง่ รองผู้อำนวยการสถานศกึ ษาตามพระราชบญั ญัตริ ะเบียบข้าราชการครแู ละ
บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๗ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ และ
มาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงาน
บรหิ ารสถานศกึ ษา
๕. ขอ้ บงั คบั ครุ ุสภาวา่ ดว้ ยมาตรฐานวิชาชพี พ.ศ. ๒๕๕๒
๖. ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าดว้ ยการจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรยี นตามหลักสตู ร
ประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศักราช ๒๕๖๒
๗. ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการว่าด้วยการจัดการศกึ ษาและการประเมินผลการเรียนตามหลกั สตู ร
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศกั ราช ๒๕๕๗
๘. ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการว่าดว้ ยการจดั การศึกษาและการประเมนิ ผลการศึกษาระดบั ปริญญา
ตรีสายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบัติการของสถาบันการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๖
๙. ระเบยี บสำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษาวา่ ดว้ ยการจดั การศึกษาและการประเมินผลการ
เรียนตามหลักสตู รวชิ าชีพระยะสนั่ พ.ศ. ๒๕๕๘
๑๐.ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เร่ือง กรอบคณุ วฒุ อิ าชีวศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๑.ประกาศคณะกรรมการการอาชวี ศึกษาเรอ่ื งเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒอิ าชีวศกึ ษาระดับ
ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชพี พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๒.ประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเรอ่ื งเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชวี ศึกษาระดบั
ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชีพชนั้ สูง พ.ศ. ๒๕๖๒
๓๐
๑๓.ประกาศคณะกรรมการการอาชวี ศึกษาเรอ่ื งเกณฑ์มาตรฐานคุณวฒุ ิอาชวี ศึกษาระดับปรญิ ญาตรี
สายเทคโนโลยีหรือสายปฏบิ ัตกิ าร พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๔.ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่ือง กรอบมาตรฐานหลกั สูตรวิชาชพี ระยะสัน่ พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๕.พระราชบญั ญตั ิระเบยี บข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และท่แี กไ้ ขเพ่ิมเตมิ
(ฉบับท่ี ๒)พ.ศ.๒๕๕๑ (ฉบับท่๓ี )พ.ศ. ๒๕๕๓(ฉบับท๔่ี )พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๖.ระเบียบสำนักนายกรฐั มนตรวี ่าดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗และแก้ไขเพ่มิ เตมิ
(ฉบับท๒่ี )พ.ศ. ๒๕๖๐
๑๗.มาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวทิ ยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาสายงาน
การสอน
๑๘.ระเบยี บกระทรวงการคลังว่าดว้ ยลกู จ้างประจำของส่วนราชการพ.ศ. ๒๕๓๗
๑๙.หลักเกณฑ์และวธิ ีปฏิบัติเร่ืองการบรหิ ารงานบคุ คลลกู จ้างชว่ั คราว(ว.๓๑/๒๕๕๒ กระทรวงการคลงั )
๒๐.พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซือ้ จดั จา้ งและการบรหิ ารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐
๒๑.พระราชบัญญตั ิวิธกี ารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
๒๒.ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยการเบกิ เงินจากคลงั การรับเงนิ การจา่ ยเงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ
และการนำเงินสง่ คลัง พ.ศ. ๒๕๖๒
๒๓.พระราชบัญญัตคิ วามรบั ผิดทางละเมดิ ของเจ้าหนา้ ท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙
๒๔.ระเบยี บสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่าดว้ ยการส่งเสรมิ ผลิตผลในสถานศึกษา พ.ศ.
๒๕๔๙
๒๕.ระเบยี บสำนักนายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ และท่แี กไ้ ขเพ่มิ เตมิ
(ฉบับที่๒) พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับท่๓ี ) พ.ศ. ๒๕๖๐ และ(ฉบับท๔ี่ ) พ.ศ. ๒๕๖๔
๒๖.พระราชบัญญตั ิค้มุ ครองเดก็ พ.ศ. ๒๕๔๖
๒๗.ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาวา่ ด้วยองคก์ ารนักวิชาชีพในอนาคต
แหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๗(แก้ไขปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) แนวปฏิบตั ขิ ององค์การนักวิชาชพี ใน
อนาคตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๗ (ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๕๘) และแก้ไขเพิม่ เตมิ พ.ศ. ๒๕๖๐ และ
แนวปฏบิ ัติขององคก์ ารเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพ
รตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
๒๘.คมู่ ือการขับเคล่อื นการดำเนินงานศูนยบ์ รหิ ารเครอื ข่ายการผลิตและพฒั นากำลังคนอาชีวศึกษา
๒๙.คมู่ ือการขบั เคลือ่ นการดำเนินงานศนู ยพ์ ัฒนาอาชีพและการเปน็ ผู้ประกอบการกระทรวงศึกษาธิการ
ระดบั จังหวดั
๓๐.แนวทางการพัฒนาสถานศึกษาสู่ความเป็นเลศิ (Excellent Center)
๓๑
สมรรถนะย่อยท่ี 3.2 การสร้างเครือขา่ ยความร่วมมอื
1. พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในหลวง รฐั กาลที่ 10 มี 4 ด้านทกุ ด้านนำมาปรบั ใช้ดา้ นที่เก่ียวกับ
การสรา้ งเครอื ข่ายความรว่ มมอื ด้านท่ี 3 มงี านทำ มอี าชพี การเลยี้ งดู ฝึกฝน อบรม เรยี นจบจนมีอาชพี ด้านที่
4. เปน็ พลเมอื งท่ีดี ทกุ คนสอนใหเ้ ปน็ คน ครอบครวั สถานศกึ ษา สถานประกอบการ จติ อาสา
2. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) การส่งเสรมิ และ
สนบั สนนุ การวิจัยและพัฒนา วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี และนวตั กรรม การเตรยี มพรอ้ มดา้ นก าลงั คนและการ
เสริมสร้างศักยภาพของประชากร ในทกุ ชว่ งวัย และความรว่ มมอื ระหว่างประเทศและความเช่อื มโยงเพือ่ การ
พัฒนา
3. แผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579 การพฒั นาประสิทธิภาพของระบบบรหิ ารจัดการศึกษา
ทุกภาคสว่ นของสังคมมีสว่ นรว่ มในการจดั การศึกษาทีต่ อบสนองความตอ้ งการ ของประชาชนและพน้ื ท่ี
4. แผนพัฒนาการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2560 – 2579 ยุทธศาสตรท์ ี่ 6 การเพิม่ ประสทิ ธิภาพระบบการ
บริหารจดั การอาชวี ศึกษา เพอื่ สร้างเครอื ข่ายความรว่ มมอื ในการบรหิ ารจัดการอาชวี ศกึ ษา
สมรรถนะย่อยที่ 3.3 การจัดระบบงาน และการสอื่ สารองค์กร
การปฏบิ ตั ิงานสำนกั งานจะดำเนนิ ไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพตอ้ งมกี ารวางแผนและจัดระบบงานอย่างดีโดย
กำหนดสงิ่ ทปี่ ้อนเข้าไปในระบบ ได้แก่ บุคคล เครือ่ งมอื เครือ่ งใช้ วัสดุและข้อมลู ที่จำเป็น ต่อการปฏิบัติงานให้
สำเร็จลลุ ว่ งได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพจดั ระบบงาน ระบบงานที่ดปี ระกอบด้วยลกั ษณะต่อไปน้ี
1. มปี ระสทิ ธิผล หมายถงึ การทงี่ านบรรลุเป้าหมายที่กำหนดภายในเวลา 2. มีประสิทธิภาพหมายถึง
การงานทีสำเรจ็ ตามเป้าหมาย 3. ความเชื่อถอื ได้ระบบทีอ่ อกแบบไว้ย่อมเชอ่ื ถือได้ว่าจะเกดิ ผลดแี น่นอน 4.
ความยืดหยุ่นสามารถปรับเปล่ียนแปลงไดต้ ลอดเวลาและขยายได้ 5. ความงา่ ยระบบที่ดีควรไมย่ ่งุ ยากซบั ซ้อน
ควรออกแบบใหเ้ ข้าใจงา่ ยปฏิบตั งิ า่ ย 6.การยอมรับต้องไดร้ บั การยอมรบั จากผรู้ ับผดิ ชอบในการปฏิบตั ติ ามระบบ
การสื่อสารในองคก์ ร คอื เครอ่ื งสรา้ งความเข้าใจ และสรา้ งวฒั นธรรมตลอดจนสามารถสร้างความมั่นคง
ให้กบั องคก์ ร การทำงานรว่ มกนั ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิผล บุคคลจะต้องเข้าใจและเข้าถงึ กระบวนการส่ือสารเป็น
อยา่ งดี เปน็ การตดิ ต่อระหวา่ งบุคคลในองค์การมีลักษณะเปน็ เครือขา่ ย (Network) ซึ่งอาจกระทำได้โดยใช้
เครอ่ื งมือในการสอ่ื ความหมายด้วยการพูด การเขียน การใช้สัญลักษณ์ เพ่ือให้ผู้อน่ื รบั ทราบได้ องค์กรจะประสบ
ผลสำเร็จและประสทิ ธิภาพได้นนั้ จะตอ้ งอย่กู บั การมีสว่ นรว่ มของผู้บริหารและบคุ ลากรในทกุ ระดับ
การจูงใจ หมายถึง การนำเอาปัจจยั ต่าง ๆ มาเป็นแรงผลกั ดนั ให้บุคคลแสดง พฤติกรรมออกมาอย่างมี
ทศิ ทาง เพ่อื บรรลุจุดมุ่งหมาย หรือเป้าหมายทตี่ อ้ งการ ดังนนั้ ผู้ทที่ ำหน้าท่จี งู ใจ จะตอ้ งค้นหาวา่ บุคคลท่ีเขา
ต้องการจูงใจ มีความตอ้ งการหรอื มคี วามคาดหวังอยา่ งไร มีประสบการณ์ ความรู้ และทัศนคติในเร่ืองน้ัน ๆ
อย่างไร แล้วพยายามดงึ เอาสิง่ เหล่าน้นั มาเปน็ แรงจงู ใจ (Motive) กระบวนการจงู ใจมีองคป์ ระกอบ ๓ ประการ
คือ 1. ความต้องการ (Needs) 2. แรงขบั (Drive) สู่ความสำเร็จ 3. สงิ่ ลอ่ ใจ (Incentive) หรือ เปา้ หมาย
(Goal)
สมรรถนะย่อยที่ 3.4 การทำงานเปน็ ทีม
1. การบริหารแบบมีส่วนร่วม ทำงานเปน็ ทีม 2. การแบง่ แยกบทบาทหนา้ ทีอ่ ย่างชดั เจน 3. ความ
ไวว้ างใจในการปฏิบัตงิ าน 4. การมอบหมายงานตรงกบั ความถนัดแต่ละบุคคล 5. ปฏบิ ัตงิ านอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน
๓๒
ผังมโนทศั น์ (Mind Map)
สมรรถนะที่ 1
๓๓
ใบนำเสนอผงั มโนทศั น์ (Mind Map)
การศกึ ษาคน้ คว้าเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง
ชื่อวทิ ยากรพเี่ ล้ยี ง..........ผอ.อดุลชัย โคตะวีระ...........................................................................................
ช่ือ – สกลุ ..................นายวจิ ติ ร พลเศษ...............กล่มุ ท่ี.........11..................เลขท.ี่ .................3..............
สมรรถนะหลักท่ี 1 การดำรงตนของรองผอู้ ำนวยการสถานศึกษาอาชีวศกึ ษายุคชวี ิตวถิ อี นาคต
(Next Normal)
สมรรถนะย่อยท่ี 1.1 เจตคตแิ ละกรอบความคดิ แบบเปดิ กวา้ ง (Growth Mindset) ในการ
บริหารสถานศึกษาใหส้ อบคลอ้ งกับชวี ติ วถิ ีอนาคต (Next Normal)
สมรรถนะย่อยท่ี 1.2 วินยั การรักษาวนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพ
สมรรถนะย่อยท่ี 1.3 การดำรงตนของรองผู้อำนวยการสถานศึกษาอย่างราบรนื่ และมี
ความสุข
๓๔
ผังมโนทศั น์ (Mind Map)
สมรรถนะที่ 2
๓๕
ใบนำเสนอผังมโนทัศน์ (Mind Map)
การศกึ ษาคน้ ควา้ เรียนรู้ดว้ ยตนเอง
ชอื่ วิทยากรพีเ่ ลี้ยง..........ผอ.อดลุ ชยั โคตะวีระ...........................................................................................
ชอ่ื – สกุล..................นายวจิ ิตร พลเศษ...............กลุม่ ที่.........11..................เลขที.่ .................3..............
สมรรถนะหลกั ท่ี 2 ภาวะผู้นำทางวชิ าการและวิชาชพี อาชวี ศึกษา
สมรรถนะย่อยท่ี 2.1 การบริหารการเปลย่ี นแปลงดา้ นวิชาการและวชิ าชีพอาชีวศกึ ษา
สมรรถนะยอ่ ยที่ 2.2 การบรหิ ารงานด้านเทคโนโลยีดิจทิ ลั
๓๖
ผังมโนทศั น์ (Mind Map)
สมรรถนะที่ 3
๓๗
ใบนำเสนอผังมโนทศั น์ (Mind Map)
การศึกษาคน้ คว้าเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง
ชื่อวทิ ยากรพเ่ี ลี้ยง..........ผอ.อดุลชยั โคตะวีระ...........................................................................................
ชอื่ – สกลุ ..................นายวิจติ ร พลเศษ...............กลุ่มที่.........11..................เลขท.่ี .................3..............
สมรรถนะหลกั ท่ี 3 การบรหิ ารและการจัดการในสถานศึกษา
สมรรถนะย่อยท่ี 3.1 การบรหิ ารการจัดการสถานศึกษา
สมรรถนะยอ่ ยที่ 3.2 การสร้างเครอื ข่ายความร่วมมอื
สมรรถนะย่อยที่ 3.3 การจดั ระบบงาน และการสอื่ สารองค์กร
สมรรถนะยอ่ ยท่ี 3.4 การทำงานเปน็ ทมี